ผลการปฏิบัติธรรม............ของโยคี 4 ก.ย.53 มาใหม่ล่าสุด

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย นาคเสน55, 8 พฤศจิกายน 2010.

  1. นาคเสน55

    นาคเสน55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +682
    4 กันยายน 2553 <O:p</O:p


    วันนี้มีโยคีมาปฏิบัติ 5 คน ความตั้งใจเกินร้อยทุกคนเพราะตั้งแต่เที่ยง ถึงหนึ่งทุ่ม ปฏิบัติได้ 5 - 6 ชุดทุกคน



    โยคีเง็ก: เวลาเดินมีอาการตัวหมุน เวลานั่งเหมือนมีแมลงมาไต่ตามตัว หลายครั้งมีอาการเงียบไป ต่อมาสะดุ้ง คิดว่าเอ๊ะ ที่ผ่านมาเมื่อครู่ไม่ได้กำหนดอะไรเลย ต่อมาเงียบไปอีก สะดุ้งอีก สลับกันหลายครั้ง สะดุ้งแล้วจึงจะหลุดออกจากอาการ เงียบไปทุกครั้ง หลุดออกมาแล้วจึงสามารถกำหนดพองยุบนั่งถูกได้ แป็บเดียวก็นิ่งไปอีก คิดว่าเอ๊ะทำไมเงียบไป หลับหรือเปล่า บางชุดเวลานั่ง ปวดขาจนน้ำตาแทบไหล คันที่ตา ยิบ ๆ ๆ ๆ เหมือนมีมด ต้องลืมตา กลัวมดเข้าตา

    "ถามว่าทำไมเวลาปวดไม่เลิก?"


    โยคีเง็กตอบว่า: มันออกไม่ได้ มีอยู่ชุดนึง นั่งสมาธิเห็นพระอาจารย์เดินเล่นในป่า มือจูงเณรอายุเท่าแน็ก แต่เณรมีเนื้อไม่ผอมเหมือนแน็ก จีวรที่พระอาจารย์ใส่สีเหลือง แต่ก็ไม่ใช่เหลืองสว่าง เณรก็ใส่จีวรสีเดียวกัน บางครั้งถูกผลักไปข้างหลังอย่างแรง เท้าหนัก กำลังกำหนดจุดอื่น แต่เหมือนมีเข็มแทงจุดที่ผ่านมาแล้ว


    โยคีน้อง: เวลานั่งกำหนดได้ประมาณ 4 จุด มันไปไม่ได้ ต้องมาเริ่มที่สะโพกขวา เป็นอย่างนี้จนหมดเวลา มีอาการเหมือนมีแมลงมาไต่ตามตัว มีอาการเพลินไม่อยากออกจากการนั่ง มือหนัก เวลากำหนดถูกเหมือนมีเข็มแทงจุดที่กำหนดถูก
    <O:p</O:p

    ........................
    <O:p</O:p

    <O:p</O:p



    5 กันยายน 2553
    <O:p</O:p


    โยคีทั้ง 5 คน ขยันปฏิบัติเหลือเกิน พระอาจารย์ต้องบอกว่าอย่าหักโหม โยคีเง็กและโยคีน้องบอกว่าเหนื่อย

    โยคีเง็ก: นั่งสมาธิ เห็นนาฬิกาเข็มยาวชี้เลข 3 พอลืมตา นาฬิกาเข็มยาวชี้เลข 3 จริง ๆ อย่างที่เห็นในสมาธิ เลยไปนิดหน่อย เพราะตอนจะลืมตา ลืมตาไม่ได้ทันที ลืมตาทันทีไม่ขึ้น <O:p</O:p



    .........................




    <O:p</O:p




    เวลา 10.15 น. ของวันที่ 6 กันยายน 2553

    <O:p</O:p


    <O:p</O:p

    โยคีน้อง: ปกตินั่งสมาธิตัวโน้มไปข้างหน้า (นั่งอยู่ด้านขวาตามภาพ) ถูกดึงให้ตัวตรงเป็นจังหวะ เหมือนเติมลมตุ๊กตา มือใหญ่เหมือนอุ้มอะไรกลม ๆ ไว้แต่ไม่หนัก ในความรู้สึกเหมือนแบมือสองมือขนานกัน จริง ๆ มือขวายังทับมือซ้ายอยู่ มีอาการตึ๊ก พละยังไม่ชัด อาการเหมือนเติมลมตุ๊กตา น่าจะเป็นพละ กลับกรุงเทพ ฯ กันเวลาเที่ยงทุกคน<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    "เรื่อง น้ำลาย น้ำลาย" โยคีน้องบ่อย ๆ เวลานั่งน้ำลายเต็มปาก พระอาจารย์ว่า ไหลปล่อยให้ไหล อย่าไปกังวล สมาธิจะไม่ก้าวหน้า หลาย ๆ คน เวลานั่งสมาธิก็น้ำลายไหล ไม่ผิดปกติอะไร กลับไปดูภาพทีงยืนเข้าพละจะเห็นเป็นดวง ๆ ตรงเสื้อ นั่นล่ะน้ำลาย <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    แม่แน๊กเล่าให้ฟังว่า: คืนนั้นที่แน๊กเข้าฌาน 8 นาที ตอนเดินกลับบ้านแน๊กเล่าให้ฟังว่า นั่งสมาธิเห็นแสงสีทอง สีเขียว สีเหลือง<O:p</O:p

    <O:p</O:p



    หลวงตาประเสริฐ: เล่าให้ฟังว่าตอนโยคีไปลากลับเกิดอาการตื้นตันใจ น้ำตาจะไหล มันจุกอยู่ที่คอ หลวงตาประเสริฐพูดว่า อำลา(ต่อมา)อาลัย จากไป(ต่อมา)ใจคิดถึง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ......................

    <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    11 กันยายน 2553 <O:p</O:p


    วันนี้โยคีเอื้อง: โทรมาหาข้าพเจ้า(วิชัย) เล่าว่านั่งสมาธิทุกครั้งที่หาย จะหายไปตอนยุบหนอทุกครั้ง มันจะยุบแล้ววื๊บหายไป
    <O:p</O:p

    ..........................

    <O:p</O:p

    โยคีหนึ่งเล่าว่า: ง่วงมากนั่งสมาธิไปคอพับไปคำนับพระพุทธเจ้าไป 7 ครั้ง ก็ตลกดีว่าขนาดหลับก็มีสติรู้ได้ไงว่าคำนับไปกี่ครั้ง ออกจากสมาธิก็สดชื่น

    การบรรลือสีหนาทของโยคีหนึ่ง "ขำๆ"<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    1. การได้ทำความรู้จักกับ ทุกข์ มากขึ้น เมื่อหนึ่งเริ่มช่วยเหลือคนโดยเริ่มจากน้องตัวเองก่อน จึงได้เห็นว่าทุกคนมีความทุกข์ไม่เว้นแม้แต่ตัวเราเอง เริ่มแรกเมื่อเราเห็นทุกข์ของคนอื่นแล้ว หนึ่งคิดว่าเขาทุกข์มากกว่าเราอีก ทำให้ช่วงแรกดูว่าความทุกข์ของเราหายไปชั่วขณะ เพราะจิตใจเราไปจดจ่อกับการช่วยเหลือคนอื่น พอช่วยมาก ๆ เข้า เอ ทำไมมันไม่หมดซักทีช่วยเรื่องนี้เรื่องโน้นมาอีกแล้ว ต่อคิวกันมาเลย เรางี้หมดแรงเลย เหนื่อยสุดๆ ที่นี้เราก็ทุกข์ พอนั่งพิจารณาดูอีกทีปรากฏว่า กัมมุนา วัตตตีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม หนึ่งจึงเห็นว่าหนึ่งมองด้านเดียว


    กรรมมีทั้ง 2 แบบ กรรมดี กรรมชั่ว ทำกรรมดีเป็นเหตุของกุศลย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทน กรรมชั่วเป็นเหตุของอกุศลย่อมได้รับความทุกข์เป็นของตอบแทน แล้วเช่นนั้นเราเองก็บอกว่าฉันอยากจะรับแต่ความดีนะ ความชั่วไม่เอา จึงดิ้นรนออกจากทุกข์ สิ่งเหล่านี้ทำให้หนึ่งสามารถวางใจเป็นกลางได้มากขึ้น ว่าเราไม่สามารถช่วยเขาได้ทุกอย่าง ที่สุดแล้ว เขาต้องช่วยตัวเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    2. เข้าใจเรื่องของศีลว่าทำงานอย่างไร คือ เป็นเครื่องมือสำหรับควบคุมกายไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่นเป็นหลัก และถ้าไม่เบียดเบียนตัวเองด้วยยิ่งดี<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3. การปล่อยวาง หนึ่งเห็นว่าหนึ่งขวางตัวเองอย่างไร หนึ่งใช้มุมมองของตัวเองตัดสินคนอื่น หนึ่งจะปล่อยวางความเป็นตัวตน หรือมุมมองที่หนึ่งมี ปล่อยวางความคิดว่าเราถูก และมองสิ่งต่างๆ ตามเหตุตามปัจจัยที่เกิดขึ้น ซึ่งตัวนี้ต้องใช้สติมากในการตามดูให้ทัน แต่ก็จะทำให้ได้ และจะทำตามที่พระอาจารย์ชี้แนะค่ะ จะไม่บังคับคนอื่นค่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    หนึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจิตของหนึ่งจะพัฒนาได้อีกมากแค่ไหน หนึ่งจะพยายามต่อไปค่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    การคิดถึงสิ่งที่เป็นไปตามความเป็นจริงนี้เพื่อฝึกกล้ามเนื้อของตัวปัญญาตัวรู้ตัวพิจารณาให้แข็งแกร่งแตกฉาน และทำให้เราชัดเจนกับสิ่งที่เรามองเราเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันมีเหตุอย่างไร มีผลอย่างไร และประยุกต์ใช้กับการแก้ปัญหาต่างๆ ทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต และนำความรู้อันนี้ไปช่วยผู้อื่นได้ด้วย

    อืม ..อันนี้ก็เป็นเหตุผลที่น่าสนใจ เห็นถึงประโยชน์เราประโยชน์ท่าน พอคิดแบบนี้ก็มีเป้าหมายในการเขียนและพิจารณาที่ชัดเจนขึ้นมา มีแรงจูงใจในการเขียน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอบพระคุณพระอาจารย์ที่ได้ตอบคำถามที่หนึ่งสงสัยค่ะ ทำให้หนึ่งมั่นใจมากขึ้น เหมือนว่ามันหนักแน่นมากขึ้น ทั้งความรู้และความเข้าใจ

    <O:p</O:pพระอาจารย์สอนหนึ่งว่า: ขั้นต่อไปหนึ่งต้องรู้และเข้าถึงความจริงให้มากขึ้น หนึ่งจะประหลาดใจ ว่ามันอยู่รอบตัวเราแต่ทำไมเราไม่เข้าใจ การเข้าถึงความจริงได้มากเท่าไหร่ ความล้ำลึกของสมาธิจะไปคู่กันกับการเข้าถึงความจริงของเรา

    <O:p</O:p</O:p
    หนึ่งฟังแล้วรู้สึกได้ว่าเบื้องหน้าที่เรากำลังจะเดินไปมันชัดเจนเพียงใด กำลังของภาวะความสว่างอยู่เบื้องหน้าแล้ว มีอยู่แล้ว อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว เต็มอยู่แล้ว เพียงให้เราก้าวเข้าไปอย่างมีสติ ไม่ประมาท

    มีบางเสียงบอกว่า ความเป็นไปได้ในทุกสิ่งคือความว่างเรียกให้เรากระทำ

    เรียกให้เราเป็นอย่างมีพลัง ....เสียงนั้นดังกังวาลและสงบเย็นเปี่ยมไปด้วยพลัง ... หนึ่งกำลังนั่งขำตัวเอง.....กำลังคิดว่าเราแปลกๆ ความคิดที่ปรากฏนี้มันเหลือเชื่อ หนึ่งเข้าถึงสภาวะนั้นได้จริงเหรอ แล้วมันเรียกว่าอะไรนะ มันมีแบบนี้ด้วยเหรอบนโลกใบนี้

    ทำไมไม่มีใครเคยเห็นหรือบันทึกไว้ หรือบันทึกไว้แต่หนึ่งไม่เคยเห็น ...สักพักจิตมันมีการขยายความด้วย ...ความเป็นไปได้ทุกสิ่งคือความว่าง คือว่างจากทุกสิ่งทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ทั้งความรัก ความโกรธ ความหลง ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข ไม่มีอะไรไปไม่มีอะไรมา มีแต่ปัจจุบันเป็นขณะๆๆ ที่เชื่อมต่อกันด้วยความถี่ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสิ่งที่มากระทบ ไม่มีอนุภาค ไม่มีตัวตน ไม่เหลือสิ่งใดติดค้าง คือความว่างนั่นเอง .... <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    มันพิจารณาต่อได้อีกเรื่อยๆ แตกเป็นเรื่องย่อยได้มากมาย เออ..คิดได้ยังไง จากประโยคสั้นๆของพระอาจารย์คิดได้ 108 หนึ่งคิดมากไปหรือเปล่าค่ะ ไม่ได้ฟุ้งซ่านอยู่นะเนี้ยเรา เอาเป็นว่าหนึ่งคิดง่ายๆดีกว่า ถ้ามันถึงมันก็ถึง เมื่อไรก็ชั่ง แค่เดินไม่หยุดก็พอ มีอะไรก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามกฏพระไตรลักษณ์ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา สรุปย่อๆ มันไหลไปเรื่อยเลยค่ะพระอาจารย์ ไอ้ตัวพิจารณาเนี้ย หนึ่งจะพิมพ์ก็พิมพ์ไปไอ้ตัวพิจารณามันไม่หยุดนะ เหมือนว่ากำลังรำพึงรำพันพร่ำบ่นถึงสิ่งที่ได้รับอยู่ เหมือนมี 2 คนเลยในตัวหนึ่ง










    ผลการปฏิบัติธรรม…………..ของโยคี21 ต.ค.53 มาใหม่ล่าสุด jaah
    <O:p</O:p
    http://dhamma-free.blogspot.com/2010/10/blog-post.html<O:p</O:p
    <O:p


    <O:p</O:p
    <O:p

    ผลการปฏิบัติธรรม ………………………ของโยคี 8 กรกฎา 53 กับพระวิปัสสนาจารย์
    <O:p</O:p
    Dhammaonline..free......cd..ธรรมะ: ผลปฏิบัติรรม..ของโยคี 8 กรกฏาคม 53<O:p</O:p
    <O:p
    <O:p


    พระวิปัสสนาจารย์พูดเรื่องสภาวะธรรมให้ฟัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    Dhammaonline..free......cd..ธรรมะ: พระอาจารย์พูดเรื่องสภาวะให้ฟัง<O:p</O:p



    ผลการปฏิบัติของโยคี 26 กรกฎา 53 เเละเรื่องสร้างเจดีย์เผาบาตรพระพุทธเจ้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    Dhammaonline..free......cd..ธรรมะ: ผลการปฏิบัติของโยคีและเรื่องสร้าง เจดีย์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    <O:p</O:p</O:p</O:p</O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2010
  2. นาคเสน55

    นาคเสน55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +682
    อนุโมทนา......ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน :boo:<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...