แผ่เมตตาให้ศัตรู โดย ท่าน ปิยโสภณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ขอบคุณค่ะ มีหลายอย่างที่ทำได้ และ สิ่งที่ยังทำไม่ได้จะพยายามให้มากขึ้นค่ะ ขอบคุณนะค่ะ

 

คาถา นะจังงัง ไม่ทราบว่าสวดอย่างไรคับ ผมอยากจะลองทำดูอะคับ แล้วถ้าผมจะแผ่เมตตา จำเป็นต้องถึง 108 จบมั้ยคับ ใครรู้ช่วยบอกผมเปนธรรมทานด้วยนะคับ ขอบคุณมากคับ

อนุโมทนา กับทุกๆความเห็นคับ

 

ขอบคุณ คุณ Speacialized มากคับ
ไว้จะมารายงานผลนะคับ ^-^
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ขอบคุณมากๆนะครับในข้อเขียนกระทู้นี้
ผมมีความแค้นส่วนตัวที่ผมพยายามไม่หยิบขึ้นมาใส่ใจให้มัวหมอง
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันยังคงอยู่ ไม่ได้หนีไปใหน
อยากจะหาหนทางที่ทำให้เราหยุดและชำระมันออกไปจากใจได้
มาเจอตรรกะวิธีคิดนี้ทำให้ผมสว่างมากขึ้น
อาจจะไม่ใช่วินาทีนี้ที่ผมจะล้างมันออกไปได้หมด
แต่ผมก็จะขอเริ่มต้นล้างมันออกจากใจผมซะที
ปล่อยให้มันนอนหลับอยู่ในซอกใจมานานแล้วครับ
ขอบคุณมากๆนะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ อยากให้คนทั้งโลกเป็นแบบนี้บ้าง โลกใบนี้คงสงบและน่าอยู่กว่านี้มากครับ

 

<pre>
ความเมตตาทำให้โลกแต่มีความร่มเย็นเป็นสุขครับ
ขอแผ่เมตตาให้ทุกท่านทุกคนด้วยเทอญ













</pre>

 

ขอถามหน่อยนะคับ
ถ้าสมมติว่าจิตเราเศร้าหมองแต่เราตั้งใจรักษาศีล 5 ทำบุญทำทาน ถ้ามีใครมาทำร้ายร่างกายหรือจิตใจเรา ผลจะเป็นอย่างไรคับ

 

ขอบคุณมากคะสำหรับบทความดีๆ

ความแค้นที่มีอยู่ในใจหรือความริษยา
ทำให้คนเราไม่มีความสุข ถ้าปลดปล่อย
หรือละว่างบาง ให้อภัย จิตใจก็จะสบายขึ้น
ก็ทราบนะคะว่ามันทำยาก แต่ถ้าพยายามทำ
ก็ต้องทำได้คะ เป็นการทดสอบจิตใจของเราด้วยคะ
การแผ่เมตตาเป็นสิ่งที่ดี

 

การแผ่เมตตา

เห็นด้วยทุกอย่างค่ะ และจะพยายามทำและทำต่อไป ถึงแม้ว่าจะทำลำบาก
เหลือเกินค่ะ ขอบคุณธรรมชาติทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้เราได้เจอสิ่งที่เราคิดว่า
ดีสำหรับเรา

 

การแผ่เมตตาเป็นสิ่งที่ดี ยิ่งการแผ่เมตตาให้ศัตรูแล้วก็ยิ่งดีมาก เพราะเมื่อมองในทางธรรม ก็คือการให้อภัยแก่ศัตรู เพื่อจะได้ไม่เป็นการต่อกรรมต่อเวรต่อไปในชาติต่อๆไป สรุปการแผ่เมตตาเป็นการกระทำที่ดีไม่ว่าจะให้แก่ศัตรู หรือเจ้ากรรมนายเวรก็ตาม เพราะอย่างน้อยก็ยังทำให้เราสบายใจขึ้นได้นะครับ ไม่รู้ความเห็นของผมเป็นอย่างไรบ้างช่วยผมวิจารณ์หน่อยนะครับ
ธรรมรักษา(อุดร)......

 

เห็นบทความที่อยากให้ทปฏิบัติ ตามให้ได้

เพราะความโกรธ ความแค้น ก็นำมาซึ่งภพชาติไม่มีวันจบ

และนำมา ซึ่ง วิบากร้าย อีกจำนวนมาก....


อนุโมทนาแก่เจ้าของกระทู้ด้วยครับ

 

ได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้เผยแพร่ที่อังกฤษคะ ตอนนี้มีเหลืออยู่ประมาณ20เล่ม หากท่านผู้ใดที่อยู่ที่อังกฤษหรือประเทศทางยุโรปต้องการหนังสือเล่มนี้ ก็ติดต่อได้นะคะ จะอีเมล์มาก็ได้คะ

 

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานครับ
สาธุ...สาธุ...สาธุ...อนุโมทามิ

 

อนุโมทนา สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอให้มีความสุขกันทั่วหน้า...........

 

อนุโมทนา สาธุ ด้วยค่ะ
เคยเจอเหมือนกัน พอโดนเค้าทำที ก็ถามตัวเองว่า ทำไมเค้าถึงเป็นยังงี้ ทำยังไงเค้าถึงจะเลิกราจากเราเสียที
และก็มาค้นพบจากคำสอนของพระหลายๆท่าน เช่น หลวงพ่อจรัญ จะสอนให้เราสวดมนต์ แผ่เมตตาทุกวัน เราก็สวดมนต์ไป ท่องคาถา เมตตา คุณณัง อะระหัง เมตตา ทุกวัน
คำสอนของ หลวงพ่อเกษม ก็จะให้เราโอนบุญให้กับเทพ เทวดาประจำตัวคู่อริเรา ให้ดลใจให้เค้าอโหสิกรรม เลิกจองเวรซึ่งกันและกัน
ก็สวดมนต์ แผ่เมตตา โอนบุญให้ทุกวัน ก็ได้ผลค่ะ
พอเวลาเค้าเจอเราก็จะเฉยๆ ไม่มีปฎิกิริยาเหมือนก่อน

การสวดมนต์หรือการทำสมาธิ ทำให้เรามีพลังเย็นอยู่รอบๆตัว เมื่อพลังร้อนของเค้ามาเจอพลังเย็นของเรา ก็จะทำให้เค้าเย็นลงได้บ้าง

สิ่งที่ให้ยากในชีวิตของคน คือ การให้อภัย
เราอาจจะอโหสิกรรม ให้อภัย และ ไม่จองเวรกับผู้ที่มากระทำไม่ดีต่อเรา
แต่อีกฝ่ายกลับไม่หยุดการกระทำอันนั้น ซึ่งทำให้เราเป็นทุกข์ และอาจคิดร้ายต่อเค้า ทำให้เราจิตตก

แต่ถ้าเรามาคิดในแง่กลับกัน คนที่ทำให้เราเป็นทุกข์ พวกเค้าก็เป็นทุกข์ยิ่งกว่า เพราะไม่รู้ถึงผลกรรมของการกระทำของตัวเอง ต้องพบต้องเจอสิ่งที่ไม่ดีที่ตัวเองก่อไว้ อีกไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ ถ้าเราคิดยังได้ยังงี้ เราก็จะสงสารเค้า ให้อภัยเค้า แผ่เมตตาให้ เพื่อให้เค้าคิดได้ และกลับตัวกลับใจได้

เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

 

โมทนากับทุกคนและเจ้าของกระทู้นี้ด้วยจ้ะ การอโหสิกรรมให้กับคนที่ทำร้ายเราทั้งกายวาจาโดยการแผ่เมตตาด้วยใจบริสุทธิ์มีผลจริงๆ (เพราะคนที่เคยทำร้ายท่าข้ามให้ทุกข์ใจเขาก็กลับมาขอโทษท่าข้ามเหมือนกันแถมบอกอีกว่าอย่าโกรธเขาอีกเลย เขาขอโทษจริงๆ) ท่าข้ามก็บอกไปว่า ยกโทษให้ตั้งนานแล้ว(แผ่เมตตาเมตตาให้ทุกวันด้วย) ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราสุขใจ และมั่นใจว่า คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นปฎิบัติแล้วมีผลดีประเสริฐสุด อภัยทานนั้นคือสุดยอด ท่าข้ามอยากให้ทุกคนบนโลกนี้คิดดี ทำดีต่อกันไม่สร้างเวรต่อกัน อยากให้ทุกคนมีความสุข สาธุ

 

ขออนุโมทนากับบทความนี้ ดีมากๆ ครับ
โดยส่วนตัวผมได้ใช้อยู่ประจำแม้จะไม่ลึกซึ้งแต่ก็รู้สึกดีขึ้น คือนั่งสมาธิแล้วท่องบทสวดและแผ่เมตตาให้ด้วยจริงใจ ผลออกมาดีมากๆ ครับผม
สุขิโนวา เขมิโนโหนตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัดตา

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

ถาม – ปกติผมจะไม่มีศัตรู เป็นคนแบบเรื่อยๆสบายๆ ไม่ค่อยเอาอะไรกับใคร ไม่ชอบถกเถียง ที่สำคัญแน่ใจว่าไม่ใช่พวกชอบหาเรื่อง แต่ต้องเผชิญหน้ากับคนเลวๆคนหนึ่ง ไม่ทราบว่าทำเวรทำกรรมอะไรกันมา ชอบแขวะหาเรื่อง พูดรวนและถากถางต่างๆ ทั้งเปรยในอากาศแบบแกล้งกระทบ ทั้งด่าว่าผมตรงๆ ซึ่งจริงๆแค่เคยพูดผิดหูกันหน่อยเดียว เหมือนอย่างคนพูดขัดคอกันธรรมดา แต่เขาจะตามจิกผมด้วยคำพูดแรงๆ ท่าทางโกรธแค้นแน่นอกเกินจริง สังเกตดูเขาก็ไม่ได้ทำกับคนอื่นขนาดนี้ นี่แปลว่าต้องเป็นการผูกเวรกันมาแต่ปางก่อนชัดเจนเลยใช่ไหม? เคยข่มใจ พยายามคิดให้อภัย ทำเงียบไม่โต้ตอบก็ยิ่งเอาใหญ่ เหมือนเห็นเราหงอแล้วได้ใจ ผมไม่ทราบจะทำอย่างไรดี ไม่อยากเป็นคนอ่อนแอ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากสร้างศัตรูถาวร บางทีอยู่ในสภาพกดดันเหมือนจะระเบิด เข้าใจเลยว่าคนเราอยากทำร้ายกันถึงเลือดถึงเนื้อเพราะอารมณ์ชั่ววูบแบบไหน ขอคำแนะนำที่เอาไปทำได้จริงด้วยครับ ตอนอยู่ในอารมณ์นั้นคิดถึงธรรมะข้อไหนไม่ออกเอาเลย ยอมรับว่ามีแต่ความเกลียดความชิงชังเป็นที่สุด

ก่อนอื่นต้องถามว่าคุณอยากแก้เวรแก้กรรมกับเขาด้วยใจจริงๆไหม ถ้าตอบว่าใช่ คุณต้องออกแรงสักนิดนะครับ ฟังแล้วเขาไม่ถึงกับเป็นคนพาลสันดานร้ายเกินเยียวยาอะไรหรอก

ประการแรก ตัดคำว่า ‘คนเลวๆ’ ทิ้งจากหัวไปเสีย เขาไม่เลว คุณก็ไม่เลว ในที่นี้มีแต่ ‘คู่กรณี’ ซึ่งจำต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงในอดีตชาติไม่ได้ เหตุการณ์ปัจจุบันอนุญาตให้จำได้แค่การขัดคอเพียงเล็กๆน้อยๆ ดูไม่สมเหตุสมผลเอาเลยกับการต้องจองล้างจองผลาญกันอย่างไร้ที่สิ้นสุด ท่องไว้ให้ขึ้นใจว่าคุณนี่แหละ จะทำให้เป็นชาติสุดท้ายของการจองเวร โดยทำลายความเกลียดทิ้งไปจากใจ มาเริ่มนับหนึ่งทำลายความเกลียดกันโดยเลิกแปะป้าย ‘คนเลว’ ไว้ที่หน้าผากเขานี่แหละ เปลี่ยนป้ายให้เขาใหม่เป็น ‘แบบฝึกหัด’ แทน มุมมองและความรู้สึกด้านดีเท่านั้น ที่จะเป็นกรรไกรตัดสายใยภัยเวรระหว่างกันได้จริง

ประการที่สอง เวลาถูกรุกราน อย่าสวนกลับด้วยอาการเลือดขึ้นหน้า แล้วก็อย่าเงียบแบบจ๋อยเหมือนยอมให้ข่มเหงเล่น เพราะทั้งสองลักษณาการล้วนแล้วแต่ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ให้ทำไว้ในใจว่าเขามาแบบไฟ เราจะไปแบบน้ำ หาแง่ดีที่คุณเห็นในตัวเขาจริงๆให้ได้สักข้อ หรือสองสามข้อยิ่งดี พอเขาพูดอะไรเลวร้ายอย่างไร้เหตุผลใส่คุณ คุณก็ตอบกลับไปด้วยเรื่องดีที่มีอยู่จริงๆของเขา

ยกตัวอย่างเช่น เขาด่ามาแบบไม่มีมูลความจริงว่าคุณนี่โง่มาก คุณก็ตอบไปเย็นๆว่าคุณรู้สึกว่าเขาใจดีนะ วันก่อนเห็นให้คำแนะนำกับรุ่นน้อง ดูบริสุทธิ์ใจดี และเป็นคำแนะนำที่ฉลาดมากด้วย

พูดให้เขานึกถึงเรื่องดีๆของเขาเองอย่างนี้ รับรองว่าโทสะหรือความเข่นเขี้ยวกระเหี้ยนกระหือรืออยากเล่นงานคุณจะลดฮวบฮาบหรือหายต๋อมไปเลย เพราะธรรมชาติของภัยเวรจะสืบสายได้ก็ด้วยการเอาโทสะมาต่อโทสะเท่านั้น เหมือนไฟต่อไฟ แต่จะถูกตัดตอนทันทีที่เจอกับบ่อน้ำ คำร้ายที่ถูกหักลบหักล้างด้วยคำดี ก็เหมือนไฟโหมมาน้ำสาดไปด้วยกำลังที่คานกันได้

ธรรมชาติคนเรานั้น เมื่อร้ายอย่างไร้เหตุผลแล้วเจอสวนกลับด้วยความดีงาม เป็นใครก็ต้องชะงัก หน้าม้าน หรือคิดเลวร้ายต่อไม่ถูก แม้ใจอาจยังคิดขุ่น นึกว่าคุณแกล้งทำดีเป็นพ่อพระ จึงยังเก็บความหมั่นไส้ไว้ แล้วคราวหลังก็เอาอีก ลองทองด้วยไฟร้อนอีก เพียงคุณใช้วิธีโต้ตอบแบบเดิม เขาจะยิ่งขยาดคุณมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ใจคุณจะเข้าสู่ภาวะเย็นสนิทเป็นจริงเป็นจังยิ่งๆขึ้นทุกที คุณจะรู้ซึ้งเลยว่าเย็นออกมาจากใจทั้งที่ไฟกำลังล้อมตัวนั้น เป็นสุขได้ขนาดไหน และดับไฟแห่งภัยเวรได้เด็ดขาดภายในเวลาไม่นานเกินรอ ยิ่งใจคุณจริงเท่าไร ไฟก็ยิ่งดับลงเร็วขึ้นเท่านั้นครับ

เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว โดย ดังตฤณ(คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมได้ครับ)

 

ขอบคุณนะคะ ที่นำมาชี้แนะให้ ดิฉันไม่เคยทรายมาก่อนเลย หรือไม่ก็เป็นสิ่งที่ดิฉันมองข้ามไป ต่อไปนี้ ดิฉันจะปรับตัวเสียใหม่ค่ะ

ขออนุโมทนาด้วยคนค่ะ