ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. LuckyFriday

    LuckyFriday เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,153
    *เกิดมาเพิ่งจะเคยพบเจอนี่แหละแดดเปรี้ยงๆน้ำท่วมเอ่อล้นจากทะเลขึ้นบก*

    วันนี้ก็น้ำท่วมสูงอีกตามเคย
    แต่ได้กระจายข่าวสารข้อมูลให้ชาวบ้านไปแล้ว
    จึงได้มีการเตรียมการย้ายข้าวของ ลูกเล็กเด็กคนชรา
    พรุ่งนี้อีก1วัน..ที่จะมีปรากฏการแบบนี้

    และวันที่13กันยา53
    ตรงกับวันเกิดพอดี ระดับน้ำ 4.33เมตร


    ***รูปที่ให้ดูเป็นเขตเทศบาลปากน้ำสะพานปลา
    **ส่วโซนเกาะต้องรอสักพักไม่ทราบสมาชิกเก็บภาพทันหรือป่าว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เวลากรรมมา มันจะรวดเร็ว
    ใครประมาท ก็ไม่ทันตั้งตัว ****

    จะว่าไปแล้ว คนระนองก็ยังโชคดี
    น้ำทะเล เขามาเตือนก่อน
    มาเตือนให้เตรียมตัว เตรียมพร้อมตลอดเวลา
    ถึงเวลา ก็ถอยหนีทัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    [​IMG]

    ลิงหนีน้ำท่วม ไปติดเกาะ ?

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ยูเอ็นควักเงิน หมื่นล้าน บรรเทาทุกข์ในปากีสถาน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    องค์การสหประชาชาติ รวบรวมเงินบริจาค ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในปากีสถาน กว่า 14,600 ล้านบาท โดยความช่วยเหลือนี้จะส่งผ่านไปยังผู้เดือดร้อนอย่างทั่วถึงใน 90 วันข้างหน้า...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่า องค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น รวบรวมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งรุนแรงในปากีสถาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อพลเรือนมากถึง 14 ล้านคน เสียชีวิต 1,600 คน เป็นจำนวน 459 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( กว่า 14,600 ล้านบาท )

    ด้าน จอห์น โฮล์มส์ ผู้อำนวยการด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น แถลงจากสำนักงานใหญ่ในมหานครนิวยอร์กว่า ความช่วยเหลือนี้จะส่งผ่านไปยังผู้เดือดร้อนอย่างทั่วถึงใน 90 วันข้างหน้า ซึ่งเงินบริจาคจำนวนดังกล่าว จะแปลงเป็นรูปของอาหาร น้ำสะอาด ที่พักอาศัยชั่วคราว รวมไปถึงปัจจัยทางการแพทย์

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2553

    พบเชื้อดื้อยาใหม่ในเอเชียใต้

    [​IMG]

    พบเชื้อดื้อยาใหม่ในเอเชียใต้ เชื้อใหม่นี้สามารถกระโดดข้ามต่างสายพันธุ์กันเอง ทำให้ทนทานยาปฏิชีวนะแทบทุกชนิด แม้แต่กลุ่มยาคาร์บาพิเนม...

    กลุ่มนักวิจัยค้นคว้าจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ ในอังกฤษ กับมหาวิทยาลัยมัดราสในอินเดีย ซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต พบว่า คนไข้ที่เดินทางไปผ่าตัดศัลยกรรมในเอเชียใต้ ทั้งอินเดียและปากีสถานแล้วกลับเข้าประเทศมีสิทธิรับเชื้อดื้อยาพันธุ์ใหม่ หลังค้นพบครั้งแรกเมื่อปีกลายเรียกว่า เอ็นดีเอ็ม-1 เชื้อใหม่นี้สามารถกระโดดข้ามต่างสายพันธุ์กันเอง

    ทำให้ทนทานยาปฏิชีวนะแทบทุกชนิด แม้แต่กลุ่มยาคาร์บาพิเนม ที่มักเป็นทางออกสุดท้ายในการรักษาฉุกเฉิน จึงเสี่ยงที่แบคทีเรียอันตรายตัวใหม่นี้ อาจแพร่ระบาดลุกลามไปทั่วโลก ขณะที่ ดร.โจฮานน์ พิตเอาต์ จากมหาวิทยาลัยคัลการีในแคนาดา แนะนำให้คนไข้ที่ไปทำศัลยกรรมในอินเดีย ควรตรวจหาเชื้อแบคทีเรียดื้อยาก่อนเข้ารับการผ่าตัด

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2553

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    จีน-ดินถล่มตายพุ่งกว่าพันคน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหตุดินถล่มในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นไปถึง 1,117 คนแล้ว สูญหาย 627 คน ขณะที่ทางการจีนเตือนอาจเกิดดินถล่มอีก หลังพยากรณ์อากาศคาดว่าจะเกิดฝนตกหนัก วันพรุ่งนี้

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตมีน้อยมาก ซึ่งขณะนี้เปลี่ยนจากปฏิบัติการกู้ภัยเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นค้นหาศพและป้องกันโรคระบาดที่จะเกิดขึ้นตามมา อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้พบผู้รอดชีวิต 2 คน ติดอยู่ในซากโคลนมานาน 4 วัน

    ด้านนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน เร่งเร้าให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ตอนนี้ระดมเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยหลายพันคนให้เร่งทำงาน ก่อนที่สภาพอากาศจะเลวร้ายลงไปอีก ซึ่งเมื่อวานนี้เกิดฝนตกในเขตโจฉู มณทลกานซู คาดว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดฝนตกหนักลงมาอีก ทำให้ทางการต้องประกาศเตือนภัยดินถล่ม

    รายงานระบุว่า เหตุดินถล่มที่มณทลกานซูทำให้หมู่บ้าน 3 แห่งถูกฝังทั้งหมู่บ้าน บ้านเรือน 200 หลังจมอยู่ใต้โคลน ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้ระเบิดและรถตักดินเปิดทางน้ำในทะเลสาบแห่งหนึ่งเนื่องจากเกรงว่า หากเกิดฝนตกหนักลงมาอีกน้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมเมืองทั้งเมืองได้ นอกจากนี้อีกปัญหาหนึ่งที่กำลังหวั่นวิตกกันคือ โรคที่เกิดจากน้ำ โดยเฉพาะโรคบิดที่พบเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงโรคติดเชื้อและปัญหาน้ำดื่มที่ไม่สะอาด

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    รัสเซีย-ไฟป่าลุกลามเข้าเขตเชอร์โนบิล

    [​IMG]

    [​IMG]

    รัสเซียระดมเจ้าหน้าที่พิเศษเพื่อรับมือไฟป่าที่กำลังลุกลามเข้าไปในเขตป่าที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์เชอร์โนบิล หวั่นเกรงว่า จะเกิดการแพร่กระจายของกัมมันตรังสีขึ้นมาอีก

    กระทรวงฉุกเฉินรัสเซีย เผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถควบคุมไฟป่าไปได้หลายจุดแล้วในเมือง Bryansk โดยตอนนี้ยังมีไฟป่าที่ปะทุอยู่กว่า 600 จุดรวมไปถึงรอบกรุงมอสโกด้วย แต่สิ่งที่กำลังวิตกกังวลขณะนี้ก็คือ ไฟป่าได้ลุกลามเข้าไปในเขตป่าที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากภัยพิบัติโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลในยูเครนเมื่อ 24 ปีก่อน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อนุภาคของกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนอยู่ในดินในเขตป่าไม้ Bryansk อาจฟุ้งกระจายและอาจเป็นอันตรายได้เมื่อกระแสลมพัดพาเข้ามาในเขตชุมชน อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่พบสัญญานอันตรายใดๆ

    ทั้งนี้รัสเซียเป็นประเทศที่มีป่าไม้มากที่สุดในโลก โดยพื้นที่ที่เป็นป่าไม้มีขนาดใหญ่กว่าประเทศแคนาดา ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและนักสิ่งแวดล้อมต่างก็ตำหนิ รัฐบาลที่ขาดความเตรียมพร้อมและรับมือกับภัยธรรมชาติครั้งนี้ช้ามาก ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เกิดจากกฏหมายป่าไม้ที่วลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามรับรองเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2006 ที่มีเนื้อหาให้ล้มเลิกระบบรวมอำนาจจากศูนย์กลางในการคุ้มครองป่าไม้และควบคุมความปลอดภัยของป่าไม้ในยุคโซเวียด

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    สเปน-แมงกะพรุนบุกชายหาดต่อยคนเล่นน้ำ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เกิดปรากฏการณ์ประหลาด เมื่อแมงกะพรุนฝูงใหญ่ไปรวมตัวกันตามชายหาดต่างๆ ทางตอนใต้ของประเทศสเปน และแมงกะพรุนที่มีพิษก็ต่อยผู้คนที่ลงไปเล่นน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    ฮวน การ์ลอส กัสเตลโน เจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองเอลเช่บนชายฝั่งกอสตาบลังก้า เปิดเผยว่า ประขาชนประมาณ 700 คน ถูกแมงกะพรุนต่อยตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ ตามชายหาด 4 แห่งของเมือง ที่ปกติจะมีคนถูกแมงกะพรุนต่อยเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ ทำให้น้ำทะเลร้อน พวกมันจึงหลบร้อนเข้าฝั่ง มีการปักป้ายเตือนแมงกะพรุนสีแดงตลอดแนวชายหาด 4 แห่ง และห่ามประชาชนลงเล่นน้ำเด็ดขาด เมื่อบ่ายวันอังคารในเขตเอลเช่

    ปกติแล้วในช่วงหน้าร้อน จะมีแมงกะพรุน ซึ่งส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและไม่มีพิษบุกชายหาด แต่ปีนี้มีแมงกะพรุนมากเป็นพิเศษ และมีแมงกะพรุนที่มีพิษเป็นจำนวนมากด้วย ทำให้หลายคนถูกต่อย-ในเมืองซานเซบัสเตียน บนชายฝั่งทางตอนเหนือของสเปน ชาวประมงจับแมงกะพรุน PORTUGESE MEN OF WAR ได้ถึงประมาณ 300 ตัวในเพียงวันเดียว แมงกะพรุนชนิดนี้ถือได้ว่ามีพิษร้ายที่สุด โดยลำตัวมีสีแดงเข้ม และหนวดที่มีพิษ มีความยาวถึง 22 เมตร หากถูกต่อย ผู้ถูกต่อยจะเจ็บปวดทรมานอย่างที่สุด ทำให้ผิวหนังไหม้และบวมเป่ง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 630.jpg
      630.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.7 KB
      เปิดดู:
      1,224
    • 631.jpg
      631.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.5 KB
      เปิดดู:
      1,169
    • 632.jpg
      632.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31 KB
      เปิดดู:
      1,161
    • 633.jpg
      633.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.6 KB
      เปิดดู:
      1,161
    • 420.jpg
      420.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.5 KB
      เปิดดู:
      1,015
    • imgr_1281409659.jpg
      imgr_1281409659.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.8 KB
      เปิดดู:
      1,069
    • imgr_1281409672.jpg
      imgr_1281409672.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.9 KB
      เปิดดู:
      1,000
    • imgr_1281409680.jpg
      imgr_1281409680.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.3 KB
      เปิดดู:
      1,009
    • imgr_1281583768.jpg
      imgr_1281583768.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.8 KB
      เปิดดู:
      1,003
    • imgr_1281583774.jpg
      imgr_1281583774.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      55
    • imgr_1281583739.jpg
      imgr_1281583739.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.1 KB
      เปิดดู:
      1,003
    • imgr_1281584969.jpg
      imgr_1281584969.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.3 KB
      เปิดดู:
      993
    • imgr_1281584974.jpg
      imgr_1281584974.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.4 KB
      เปิดดู:
      969
    • imgr_1281585008.jpg
      imgr_1281585008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.5 KB
      เปิดดู:
      979
    • imgr_1281585014.jpg
      imgr_1281585014.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32 KB
      เปิดดู:
      1,079
  5. ผ่อนคลาย

    ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    [​IMG]

    เห็นภาพนี้รู้สึกสงสารจัง
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ไม่รู้ว่า ใครได้ข่าว อจ.ตาที่สาม (อจ.อาชวิน) บ้าง
    เห็นเพื่อนโทรมาบอกเมื่อเช้าว่า เห็นอจ.เป็นลมล้มไป
    แล้วรถของศูนย์อะเไรซักอย่างมาช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล?
     
  7. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ได้ข่าวว่าท่านเสียแล้วน่ะค่ะ
    ยังไม่ทราบรายละเอียดนะคะ
    ขอไว้อาลัยกับการจากไปของท่านด้วยค่ะ
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ขอแสดงความเสียใจด้วย

    เมื่อเช้าเพื่อนโทรมา บอกว่า เห็นอจ.เป็นลมที่จตุจักร
    แล้วคนขายของข้างๆ มาช่วยๆ กันพัดให้มีสติ
    แล้วก็มีรถของศูนย์อะไร นเรนทร (ไม่แน่ใจ) มาช่วยไว้
    แล้วเค้าดูเบอร์จากมือถือ พยายามติดต่อกับญาติ
    หลังจากนั้นเพื่อนก็ไม่รู้เรื่อง เพราะรถพาไปโรงพยาบาล
    (คำบอกกล่าวจากเพื่อนเมื่อเช้านี้)
     
  9. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    <TABLE id=post3651796 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead></TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #4493 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->MOUNTAIN<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3651796", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 14,412
    Groans: 4
    Groaned at 38 Times in 33 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 29,324
    ได้รับอนุโมทนา 213,866 ครั้ง ใน 16,330 โพส
    พลังการให้คะแนน: 13218 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3651796 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของอาจารย์อาชวิน ด้วยครับ

    อาจารย์สิ้นลม เมื่อเวลา ประมาณ 17.30 น.
    ขอให้ดวงวิญญาณของอาจารย์สู่สุคติภูมิ

    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->รวมบทความ ที่เป็นประโยชน์กับชีวิต ของกลุ่มประสานงานฯ(เขากะลา)เพื่อออกจากทุกข์ ทำทันทีได้ทันทีhttp://palungjit.org/threads/รวมบทค...กะลา-เพื่อออกจากทุกข์-ทำทันทีได้ทันที.162475/<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย MOUNTAIN : วันนี้ เมื่อ 06:04 PM
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2>[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("3651796")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG] GRB ที่ปะทุรังสีเอกซ์สว่างที่สุด

    หอสังเกตการณ์อวกาศสวิฟท์(Swift) ของนาซ่าได้ตรวจพบการปะทุรังสีเอกซ์ที่สว่างที่สุดครั้งหนึ่งจากละแวกใกล้ เคียงของทางช้างเผือก ได้ทำให้กล้องช่วงรังสีเอกซ์ของสวิฟท์ตาบอดไปชั่วคราว รังสีเอกซ์เดินทางผ่านอวกาศมา 5 พันล้านปีก่อนที่จะชนและสาดแสงแรงกล้าให้กับกล้องโทรทรรศน์รังสีเอกซ์ของ สวิฟท์เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน

    [​IMG]

    ภาพการปะทุรังสีแกม ม่าซึ่งสว่างที่สุดเท่าที่เคยพบมาในช่วงรังสีเอกซ์ได้ทำให้กล้องโทรทรรศน์ รังสีเอกซ์ของสวิฟท์ตาบอดไปชั่วคราวเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2010 ภาพนี้เป็นภาพรวมจากรังสีเอกซ์(สีแดงจนเหลือง) กับภาพเดียวกันที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์ยูวี/ช่วงตาเห็น ของสวิฟท์ ซึ่งไม่แสดงถึงความผิดปกติเลย :

    การระเบิดที่จ้าจนพร่าบอดมาจากการปะทุรังสีแกม ม่า ซึ่งเป็นการระเบิดพลังงานครั้งรุนแรงจากการระเบิดของดาวมวลสูงดวงหนึ่งที่ ยุบตัวกลายเป็นหลุมดำ David Burrows จากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตท กล่าวว่า การปะทุรังสีแกมม่านี้เป็นแหล่งแสงที่สว่างที่สุดเท่าที่เคยเห็นในช่วงความ ยาวคลื่นรังสีเอกซ์


    แม้ว่าดาวเทียมสวิฟท์จะถูกออกแบบมาให้ศึกษาการปะทุรังสีแกมม่า แต่เครื่องมือก็ไม่ได้ออกแบบมาให้รับมือกับการระเบิดพลังรังสีเอกซ์ที่สว่าง ขนาดนี้ Neil Gehrels จากศูนย์การบินอวกาศกอดดาร์ด ของนาซ่า กล่าวว่า ความเข้มของรังสีเอกซ์นั้นคาดไม่ถึงและสูงมาก เขาบอกว่าการปะทุซึ่งมีชื่อว่า GRB 100621A เป็นแหล่งรังสีเอกซ์ที่สว่างที่สุดที่สวิฟท์เคยตรวจจับมาตั้งแต่หอสังเกต การณ์เริ่มทำการสำรวจรังสีเอกซ์ในช่วงต้นปี 2005 เขากล่าวว่า เพียงเมื่อเรากำลังเริ่มคิดว่าเราได้เห็นทุกสิ่งที่การปะทุรังสีแกมม่าจะบอก เราได้ การปะทุนี้ก็มาท้าทายความคาดเดาของเราเกี่ยวกับว่าการเปล่งคลื่นรรังสีเอกซ์ จะสามารถรุนแรงได้แค่ไหน


    Phil Evans จากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การปะทุนั้นสว่างมากๆ จนเมื่อมันปะทุออกมา ซอฟท์แวร์ที่วิเคราะห์ข้อมูลของเราถึงกับปิดตัวลง มีโฟตอนมากมายที่ระดมยิงใส่ตัวตรวจจับในแต่ละวินาทีจนมันไม่สามารถนับได้ เร็วมากพอ มันก็เหมือนกับการพยายามที่จะใช้มาตรวัดน้ำฝนเพื่อตรวจสอบอัตราการไหลของสึ นามิ ซอฟท์แวร์นั้นสามารถตรวจจับวิวัฒนาการของการปะทุเมื่อเวลาผ่านไปได้ในไม่ช้า และ Evans ก็กู้ข้อมูลที่สวิฟท์ได้ตรวจจับในระหว่างที่ซอฟท์แวร์ปิดตัวลงชั่วคราว นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถตรวจสอบความสว่างรังสีเอกซ์ของการระเบิดได้ที่ 143,000 โฟตอนรังสีเอกซ์ต่อวินาที ในช่วงที่จ้าที่สุด(fleeting period) ซึ่งสว่างกว่าแหล่งรังสีเอกซ์ที่สว่างที่สุดที่ลุกอย่างต่อเนื่องบนท้อง ฟ้า(เป็นดาวนิวตรอนดวงหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้โลกมากกว่าการปะทุรังสีแกมม่านี้ 5 แสนเท่า) ถึง 140 เท่า มันส่งโฟตอนมาเพียง 1 หมื่นโฟตอนต่อวินาทีมุ่งหน้าเข้าหากล้องของสวิฟท์


    การปะทุรังสีแกมม่าโดยปกติจะเริ่มด้วยแสงวาบสว่างที่เป็นรังสีแกมม่าและ รังสีเอกซ์พลังงานสูง และจากนั้นก็สลัวลงคล้ายกับดอกไม้ไฟ บางครั้งมันก็เหลือร่องรอยอาฟเตอร์โกลว์จางๆ ในช่วงความยาวคลื่นที่มีพลังงานน้อยกว่า ซึ่งรวมถึงช่วงตาเห็นได้และอุลตราไวโอเลต น่าแปลกใจที่ แม้ว่าพลังงานจากการปะทุนี้จะสว่างที่สุดเท่าที่เคยพบมาในช่วงรังสีเอกซ์ แต่ปกติในช่วงตาเห็นได้และยูวี


    นักวิทยาศาสตร์สวิฟท์ยังสามารถประเมินความสว่างโดยรวมของ GRB 100621A โดยการสุ่มจับโฟตอนจากระยะทางหนึ่งจากแหล่งที่สว่างจ้าเกินไป ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างผลที่ถูกต้องแบบมาตรฐาน นักวิทยาศาสตร์ซึ่งศึกษาดวงอาทิตย์ได้ใช้เทคนิคคล้ายกันเพื่อสำรวจโคโรน่า ของดวงอาทิตย์โดยการกันแสงที่สว่างกว่าที่ใจกลางไว้ Burrows กล่าวว่า จากการประทุ เราต้องสุ่มตรวจโฟตอนไกลจากใจกลางถึงสองเท่าของที่เราเคยทำมา ปัจจัยความถูกต้องสำหรับรังสีเอกซ์จาก GRB 100621A อยู่ที่ 168 เท่าของการปะทุรังสีแกมม่าปกติ และ 5 เท่าของการปะทุที่สว่างที่สุดที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้ เราไม่เคยคิดว่าเราจะได้เห็นอะไรที่สว่างขนาดนี้




    rook :รายงาน

    แหล่งที่มา:

    astronomy.com : record-breaking x-ray blast briefly blinds space observatory
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำพยากรณ์ชะตาของโลก
    (ดร.เอ็ดการ์ เคย์ซี)

    [​IMG]

    1. การวิวัฒนาการของมนุษย์ จะมีพาหนะชนิดใหม่เกิดขึ้น

    2. พื้นดินภาพตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกา จะถูกดูดลงในโพรงของโลก หลังจากเกิดการผิดพลาดในการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ที่ นาวาโฮและพิวโบล เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

    3. มียาชนิดใหม่ที่มีแคลอรี่สูง ทำให้ผู้หญิงสามารถคลอดลูกได้ภายใน 9 สัปดาห์

    4. นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น สร้างอุปกรณ์ย้อนอดีตและไปสู่อนาคตได้สำเร็จ ขณะเดียวกันก็ส่งกองกำลัีงไปในอดีตสงครามโลกครั่งที่ 2 เพื่อแก้ประวัติศาสตร์เสียใหม่

    5. คนต่างชาติที่ชั่วช้า ผู้ชั่วร้ายจากแผ่นดินกลาง ลงมือฆ่ามนุษย์ สองล้านคน และทำลายปราสาทที่นิวยอร์ค ชิคาโก และเมืองเล็กๆ อีกหลายแห่ง ทันใดทูตสวรรค์ก็ปรากฎบนท้องฟ้าแล้วคนก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

    6. มีพระนักบวชรูปหนึ่ง สามารถเดินทะลุกำแพงได้และสอนให้คนนับล้านได้รับรู้

    7. พบมนุษย์ประหลาดที่ป่าเขตร้อนของอเมริกา มีหัวเหมือนหลอดไฟ มีสมองและวิวัฒนาการมากกว่าคนหลายเท่า มีไอคิวถึง 190

    8. นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้รับสัญญาณวิทยุทางไกลจากมนุษย์ต่างดาว ถอดคำสั่งออกมาแล้ว เป็นคำสั่งให้ปลาโลมาทำร้ายมนุษย์

    9. ประธานาธิปดีคนแรกที่มาจากพรรคคอมมิวนิสต์ ถูกฆ่าตายให้ห้องทำงานรูปไข่ หลังจากได้รับตำแหน่งเพียงสัปดาห์เดียว

    10. สิ่งก่อสร้างเป็นรูปหน้าคนขนาดใหญ่ ส่งสัญญาณคลื่นไมโครเวฟ จากดาวอังคาร มาเตือนชาวโลก(ภาพโทรทัศน์) ให้ระวังโลกจะถูกบุกจากกองกำลังต่างดาว

    11. ค้นพบเวทย์มนต์ที่ทำให้คนสวดเป็นหนุ่มเป็นสาวได้ แต่ต่อมาพบว่าเป็นบทสวดของลัทธิซาตาน คำสวดจึงถูกหวงห้าม

    12. อาณาจักรแอตแลนติสที่หายไป จะโผล่ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมสิ่งก่อสร้างที่มีหลังคาเป็นรูปโดม ครึ่งวงกลมและวิทยาการล้ำยุค ผู้อยู่ในนครใต้บาดาลนั้น คือ มนุษย์จากต่างดาว

    13. พบภาพถ่ายสำคัญ บอกถึงหลักฐานการจมของเรือไททานิคเมื่อ 88 ปีก่อน ไม่ได้จมเพราะชนกับภูเขาน้ำแข็ง แต่เป็นเพราะตอปิโดที่ยิงมาจากอากาศ

    14. มนุษย์พันธ์ผสมแมลงถูกสร้างขึ้น โดยการตัดต่อพันธุกรรมระหว่างคนกับแมลง ทำให้มีชีวิตยาว และกระโดดได้ไกล และบินได้

    15. อากาศวิปริตแปรปรวนทำลายล้างสหรัฐอเมริกาอย่างหนัก จะเกิดภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้งและรุนแรงกว่าครั้งแรก

    16. แกนโลกเอียงกระทันหันจากแรงดึงดูดของดาวหาง ที่มีขนาดโตกว่าโลกถึง 2 เท่า โคจรเฉียดโลก ทำให้ขั้วโลกเหนือและใต้กลับทิศทางกัน ทำให้คนตายไปกว่าครึ่งโลก

    17. อิสราเอลใช้ขีปนาวุธนิวเคลียร์ยิงถล่มอิรัก และถูกตอบโต้กลับมาด้วยหัวรบก๊าซพิษสองหัว มีคนตายถึงสองแสนคน

    18. มีผู้อ้างตนว่าเป็นนักบุญและผู้วิเศษ เดินทางออกโปรดสัตว์ทั่วโลก รวมทั้งปรากฎตัวทางโทรทัศน์เพื่อเผยแพร่คำสอน แต่ถูกฉีกหน้ากาก แท้จริงเป็นนักลวงโลก

    19. เชื้อไวรัสชนิดใหม่ถึง 120 สายพันธ์ แพร่มาจากป่าลึกในทวีปแอฟริกาและกระจายไปทั่วโลก

    20. ก๊าซโอโซนที่ขั้วโลกใต้ แตกออกเป็นโพรงใหญ่กว่าเดิมถึง 3 เท่า ทำให้มีคนอพยพมาอยู่ขั่วโลกเหนือจำนวนมาก

    21. องค์การสหประชาติ รณรงค์ให้เลือกตั้งรัฐบาลโลกเดียว

    22. ซากศพนับล้านลุกขึ้นมาจากหลุมศพ ขณะที่ประตูนรกเปิดเพื่อรับวิญญาณบาปลงนรก

    ที่มา http://www.mysteriousclub.com/discuz/viewthread.php?tid=83&extra=page%3D1

    เอ็ดการ์ เคย์ซี คือใคร?
    http://www.mysteriousclub.com/discuz/viewthread.php?tid=59&extra=page%3D1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การเดินทางย้อนเวลาไปในอดีต?

    [​IMG]

    พบนาฬิกาสวิสอายุ 100 ปีในสุสานราชวงศ์หมิงที่ถูกปิดตายมากว่า 400 ปี

    ราชวงศ์หมิงปกครองประเทศจีนระหว่างปี ค.ศ.1368 ถึง ค.ศ.1644 กินเวลาประมาณ 275 ปี พวกเราที่เคยชมภาพยนตร์จีนหรือเป็นคอนิยายกำลังภายในจะคุ้นเคยกับชื่อราชวงศ์นี้ดี เพราะช่วงเเวลานี้ถูกนำมาเป็นโครงเรื่องของนิยายดังๆ หลายเรื่อง เช่นมังกรหยกภาค 3 ที่มีเตียบ่อกี้เป็นตัวพระเอกของเรื่อง ก็เป็นเหตุการณ์ในช่วงแรกเริ่มของการเกิดราชวงศ์หมิง

    นักธรณีวิทยาต่างก็สนใจที่จะศึกษาความเป็นไปในยุครุ่งเรืองของราชวงศ์หมิงว่าเป็นเช่นไร ล่าสุดก็มีการค้นพบสุสานในสมัยราชวงศ์หมิงในมณฑล Shangsi ทางต้อนใต้ของประเทศจีน เป็นสุสานที่ถูกปิดตายมากว่า 400 ปีแล้ว นักธรณีวิทยากลุ่มนี้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นกลุมแรกที่ค้นพบสุสานแห่งนี้ แต่ในระหว่างที่มีการขุดคุ้ยเศษหินและดินที่ปกคลุมโลงศพใบหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงหินที่ตกกระทบพื้นที่มีเสียงกังวาลคล้ายกับเสียงของโลหะ หลังจากที่แกะเศษหินและดิน ออกก็พบว่าโลหะนั้นกลายเป็นนาฬิกาที่ทำเป็นรูปแหวนผลิตที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นาฬิกาเรือนนี้บอกเวลาสุดท้ายที่มันหยุดทำงานตอน 10.06 นาฬิกา

    ผู้สื่อข่าวที่ติดตามไปบันทึกเหตุการณ์เพื่อทำเป็นสารคดี รีบเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน และนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะในทันที

    ที่มา http://www.siamjurist.com/forums/1056.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • watch.jpg
      watch.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.9 KB
      เปิดดู:
      1,988
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ดาวเนบิรุ ?

    [​IMG]

    ดาวนิบิรูที่จะชนโลก ปี 2012 เรื่องจริงหรือตำนาน
    ***อ่านแล้ว อย่าเพิ่งตัดสินใจเชื่อ ควรใช้พิจารณญาณในการอ่าน***

    เนื่องด้วยเรื่องราวของดาวปริศนา(Planet X)ยังคงเป็นที่ถกเถียงและหาทางพิสูจน์กันอยู่ว่า ไอ้ดาวลึกลับในตำนานบทนี้มันมีอยู่จริงหนือไม่? และถ้ามี ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน? และเนื่องด้วยมันยาวมากๆ ผมจึงต้องแบ่งหัวข้อย่อยออกเป็นสองส่วนคือ ภาคตำนานในอดีต และภาคข้อเท็จจริงในปัจจุบัน เอาล่ะ..พล่ามมาซะยืดยาว ผมจะนำเสนอภาคข้อมูลเท็จจริง ณ ปัจจุบันก่อนละกันนะครับ...(ปล.ก็อปเค้ามาอีกทีและแก้ไขใหม่ ให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น)

    เนื่องด้วยความสงสัยของตัวผมและใครอีกหลายๆคน ว่าทำไมปี 2012 จึงมีข่าวลือเกี่ยวกับวันสิ้นโลกมากมายเหลือเกิน บางแหล่งก็อ้างน้ำท่วมจากเหตุโลกร้อน บางแหล่งก็อ้างไบเบิ้ลเพราะพระเจ้ากำหนดมา แต่มีสิ่งที่นึงที่มีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พร้อมเกี่ยวปรากฎการณ์ที่อาจ หลีกเลี่ยงไม่ได้

    เรื่องนี้คือเรื่อง ดาวปริศานาดวงที่ 12 ของ ระบบสุริยะจักรวาล (นับตามแบบของชาวสุเมเรียน) ถ้า ใครได้พอดูความปี 2002 จะได้ทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ดาวดวงที่ 12 ขึ้นมาอยู่ในระบบกาแล็คซี่เราดื้อๆ แต่ความเป็นจริงนักดาราศาสตร์รู้จักดาวนี้มาตั้งแต่ปี 1982 แล้วซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตมากช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะผมก็ได้ดูเหมือนกัน มันคือดาวที่มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru)

    และด้วยหลักฐานโบราณวัตถุและนักโบราณคดีได้กล่าวไว้เนืองๆ ว่า... สิ่งของที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้เกิดจากดาวดวงนี้ แต่สิ่งที่เรารับรู้คือเจอดาวเคราะห์ดวงใหม่ ที่อาจสำคัญมากๆๆ ทำไมผมถึงกล่าวอ้างเช่นนั้น?

    สิ่งที่เราไม่รู้มันคือสิ่งนี้ครับ....

    <!--MsgIDBody=1-->ดาวดวงนี้ทุนเดิมไม่ได้อยู่ในระบบกาแล็คซี่ทางช้างเผือกมาแต่เนิ่นๆ อยู่แล้ว
    แต่... มีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่นี้ แปลว่า... ที่นักวิทยาศาสตร์เห็นเพิ่มมาดวงก็แปลว่ามันโคจรเข้ามาใกล้กาแล็คซี่เราสินะ

    ถูกครึ่งเดียวครับ ความจริงมันเเข้ามาทับวงโคจรทั้งแถบเลย เส้น ทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ มีความเป็นไปได้ที่มันจะโคจรมาทับเส้นเดียวกับวงโคจรของโลกเลยล่ะครับ ซึ่งนั่นก็แปลว่า... มันมีสิทธิชนโลกใด้!!

    [​IMG]
    วงโคจรของ Planet X ที่แหกคอกจากดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ

    มันเข้าใกล้มาจริงหรือ?

    เส้นทางวงโคจร ทำให้เรารู้ได้ว่าถ้าเมื่อก่อนเราส่องดูดาวบริเวณทิศใต้สุดของดาวโลกเราจะเห็นมัน แต่ต้องใช้กล้องส่องทางไกลช่วย แต่ปัจจุบันนี้ ปีนี้สามารถเห็นได้ด้วยเปล่าแล้ว!!

    [​IMG]
    (เส้นขาวๆ คือลูกศรชี้ตำแหน่งดาวนิบิรุครับ)

    และสำหรับคนที่อยากเห็นแต่ไม่มีตังไปออสเตรเลียหรือประเทศอะไรที่อยู่ทางใต้ของโลกนะครับ แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม googleSky ดู ท่านจะเห็นเป็นวงแดงๆ อยู่วงเดียวทั้งท้องฟ้า นั่นหละครับ นิบิรุ...แล้วทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับโบราณสถานและวัตถุในอดีตหละ นักโบราณฯ สันนิษฐานว่า นิบิรุเคยโคจรเข้ามาใกล้ทีนึงแล้วในเมื่อหลายแสนปีก่อน หลายหมื่นปีก่อน และหลายพันปีก่อน (ในช่วงพระคริสต์นั่นเอง)

    หากดาวดวงนี้โคจรมาที่ ระบบสุริยะของดวงอาทิตย์อีกครั้ง ซึ่งกำลังจะเกิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ มันจะทำให้เกิดมหันตภัยชนิดโหดสุดยอด เพราะแกนของดาวมีสนามแม่เหล็กอยู่ ซึ่งมันจะทำปฎิกิริยากับสนามแม่เหล็กโลก อาจจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนครั้งใหญ่ เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ เกิดภาวะน้ำขึ้นกระทันหัน ซุปเปอร์สึนามิ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เกิดพายุต่างๆ นาๆ และอื่นๆนับไม่ถ้วน!! และเค้าคาดการณ์ไว้แล้วว่าในปี 2012 เราสามารจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ได้เลย เพราะมันเข้าใกล้เรามากแล้ว

    ข้อมูล อาจจะยังไม่แน่นพอ เพราะ NASA ยังปิดข่าวอยู่ แต่นักดาราศาสตร์ชั้นนำของประเทศต่างๆออกมาอธิบายเรื่องทฤษฎีความเป็นไปได้ กันอย่างจ้าละหวั่น

    [​IMG]

    ข้อมูลที่ยังขัดแย้งกันอยู่คือ บางแหล่งบอก ดาวฤกษ์ และบางแห่งบอกว่าเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ประมาณดาวพฤหัส!!! (ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบนี้)

    Data of Nibiru คาดหมายว่าเป็นสมาชิกของระบบสุริยะ ตามการคาดหมายเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9(นับตามแบบสากล โดยได้ตัดดาวเคราะห์แคระพลูโตออกไป) เนื่องจากนักดาราศาสตร์ได้ศึกษาการโคจรของดาวยูเรนัสและพบว่าวงโคจรของ ยูเรนัสมีลักษณะที่ผิดปกติอยู่พอสมควรจึงคาดว่าน่าจะมีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ ที่สามารถส่งแรงโน้มถ่วงรบกวนการโคจรของยูเรนัส จึงได้มีการพยายามค้นหา และได้พบดาวเนปจูนแต่การค้นพบนี้ก็ยังไม่สามารถอธิบายความผิดปกติทั้งของ ยูเรนัสและเนปจูนจึงได้มีการพยายามค้นหาเพิ่มเติมและได้พบพลูโต

    แต่พลูโตเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็กมากทำให้ยังไม่สามารถอธิบายความผิดปกติ ของการโคจรของยูเรนัสและเนปจูนได้จึงได้มีความพยายามที่จะค้นหาดาวเคราะห์ ดวงที่ 9ของระบบสุริยะอีกครั้ง ความพยายามครั้งนี้ไม่เพียงแต่แค่ค้นหาโดยการสังเกตเทหวัตถุในท้องฟ้าเท่า นั้น ยังมีความพยายามในการค้นหาโดยการศึกษาบันทึกโบราณที่อาจจะบันทึกถึง ปรากฏการณ์ที่อาจจะสรุปได้ว่ามีการเคยพบเห็นดาวเคราะห์ลึกลับดวงนี้อีกด้วย (Planet X นี้เป็นชื่อที่ผู้คนหลงใหลเพราะนัยหนึ่งหมายถึงดาวเคราะห์ดวงที่ 9 อีกนัยหนึ่งหมายถึงดาวเคราะห์ลึกลับที่ไม่เคยมีใครพบเห็น)

    ขนาด: ใหญ่กว่าโลก 5 เท่า = ประมาณดาวพฤหัสบดี <<<(อันนี้ผมไม่รู้ว่าข้อมูลมันถูกมั้ยเพราะได้ยินมาว่าพายุบนดาว พฤหัสยังใหญ่กว่าโลกตั้ง 3 เท่า จขกท.)

    มวล: ไม่ทราบ

    บริวาร: ไม่ทราบ

    คาบการโคจร: ประมาณ 3,600 ปี วงโคจรคล้ายดาวหาง จุดที่ห่างจากดวงอาทิตย์ที่สุดอยู่ในแถบกลุ่มเฆมออร์ด จุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์น่าจะเป็นบริเวณแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวพฤหัสบดี และดาวอังคาร

    จุดกำเนิด: ไม่ใช่สมาชิกดั้งเดิมของระบบสุริยะ แต่ถูกดวงอาทิตย์จับไว้เป็นบริวารเมื่อ 500,000 ปีก่อน คาดว่าน่าจะหลุดมาจากระบบสุริยะของดาวซีรีอุสA

    ลักษณะพิเศษ: เป็นดาวเคราะห์ที่อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เช่นเดียวกับโลก

    ผลกระทบที่มีต่อโลก: ในอดีตมีความเป็นไปได้สูงเคยโคจรเฉียดใกล้โลกทำให้ดวงจันทร์น้อยที่เป็นดาว บริวารชนโลกทำให้เกิดเป็นมหาสมุทรแปซิฟิค ปัจจุบันน่าจะมีวีถีโคจรที่แน่นอนแล้ว คาดว่าไม่ถึงกับชนโลกแค่เฉียดๆ แต่จะสร้างหายนะให้โลกอย่างมหาศาล

    ที่มา http://www.gracezone.org/index.php/-2012/536-planet-x-2012
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วิเคราะห์เรื่องภัยพิบัติในปี ค.ศ.2012

    [​IMG]

    เรื่องวันพิพากษาโลก ที่ได้ถูกเลื่อนจากปี ค.ศ.2012 ไปเป็นปี ค.ศ.2017 นั้น ไม่ได้หมายความว่าปี ค.ศ.2012 จะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเลยนะครับ ผมคิดว่ามันยังจะต้องมีเรื่องร้ายแรงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพียงแต่ยังไม่ใช่ปีที่สิ้นสุดของการชำระโลกเท่านั้นเองครับ

    ในพุทธทำนายจากศิลาจารึกก็ได้บอกเอาไว้ว่า:-

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน

    ปี ค.ศ.2012 ตรงกับปีพุทธศักราช 2555 ถ้าเราลดจำนวนปีลง 48 ปีให้ตรงกับความเป็นจริงในพุทธทำนาย ก็จะตรงกับปี พ.ศ.2507 (ปีมะโรง) ซึ่งมีคำทำนายเอาไว้ว่า "คนจะเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน" ซึ่งแปลความหมายออกมาได้เป็นหลายอย่าง

    เช่นในปี ค.ศ.2012 ขั้วแม่เหล็กโลกอาจจะเกิดการพลิกกลับขั้วอย่างรุนแรง ทำให้พลังงานไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกสบายทุกอย่างบนโลกนี้ใช้การไม่ได้ เครื่องจักรกลทุกอย่างหยุดทำงาน เพราะความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ผู้คนบนโลกนี้จะเกิดความโกลาหล ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งโลก ฯลฯ

    คำพยากรณ์โลกของ อ.เลือง มินห์ ด๋าง ได้บอกเอาไว้ว่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อสิ้นศตวรรษที่ 20 นี้ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง สลับสับสนกันอย่างยุ่งเหยิงไฟฟ้าบนโลกจะขัดข้อง การติดต่อสื่อสารรับรู้กันทั่วโลกโดยอิเลคทรอนิค จะใช้การไม่ได้ภัยพิบัติหลายๆ อย่างจะเกิดขึ้น คนที่เคยสนุกสุขสบายจะทนต่อสภาวะนั้นไม่ได้ เดือดร้อนเรื่องที่พัก อาหาร เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ผู้คนจะเกิดความเครียด คลุ้มคลั่ง ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งโลก <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในวันนั้นน้ำ 1 ลิตรจะมีค่ามากกว่าทองคำ 1 กิโลกรัม และอาจจะไม่สามารถแลกซื้อได้ อาหารขาดแคลนมาก นับเป็นภัยอันตรายยิ่งกว่าสงครามใดๆ ภัยนี้จะคุกคามไปทั่วโลก ผู้คนที่ทนต่อสภาวะการณ์ดังกล่าวไม่ได้จะต้องตายไป และประมาณว่าอาจตายกว่า 70 เปอร์เซนต์ทั้งโลก

    จากคำทำนายนี้จะเห็นได้ว่าตรงกับเรื่อง แกนแม่เหล็กโลกกำลังพลิกกลับขั้ว
    ทำให้กระแสไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก เครื่องมืออีเลคทรอนิคต่างๆ ใช้การไม่ได้โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมกระบวนการผลิตสิ่งอุปโภค บริโภคทุกอย่างในปัจจุบันนี้ก็จะใช้การไม่ได้ไปด้วย เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้นั่นเอง

    การเตรียมตัวเพื่อรับกับเหตุการณ์นี้ เราควรจะเริ่มคิดตั้งแต่บัดนี้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรเมื่อต้องพบเจอกับสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปา ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าไว้คอยอำนวยความสะดวกสบายแบบในปัจจุบันนี้

    ที่มา คัดลอกข้อความบางส่วนมาจากหนังสือ"พลังจักรวาลรักษาโรค"<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    กลียุค 7 ปี ช่วงระยะเวลาซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก (ค.ศ.2011-2017)

    [​IMG]

    พระคัมภีร์ไบเบิ้ลทำนายไว้ว่า ในอนาตคโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่า "กลียุค 7 ปี"

    ในครั้งนั้น มีคาเอล เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)

    พระคัมภีร์กล่าวว่า ในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฎโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่อย่างมีความหวัง เขาอาจจะมีส่วนในการนำชาติอิสราเอล และอาหรับเข้าหากัน และอนุญาติให้ยิวสร้างวิหารขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราเอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า

    ใน 7 ปี แห่งกลียุคนี้ จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยดสยอง พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วงใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ที่จะน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนทุกวันนี้และเบื้องหน้า จะไม่มีอีกต่อไป... ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24:20-22)

    จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้

    ความหมายของตราทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 6-8)

    ตราที่ 1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบันดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
    ตราที่ 2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
    ตราที่ 3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
    ตราที่ 4 วิวรณ์ 6:7 มนุษย์ชาติตาย 1ใน 4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
    ตราที่ 5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
    ตราที่ 6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน บางคน เชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน
    ตราที่ 7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตรอีก 7 อันข้างหน้า​

    ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)

    แตรที่ 1 ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1 ใน 3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
    แตรที่ 2 ทะเลถูกทำลายลง 1 ใน 3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1 ใน 3
    แตรที่ 3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
    แตรที่ 4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1 ใน 3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
    แตรที่ 5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมัน ทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
    แตรที่ 6 มนุษย์ชาติ 1 ใน 3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
    แตรที่ 7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครองเป็นนิจนิรันดร์​

    ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวาร เป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก ​

    [​IMG]

    ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)

    ขันที่ 1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
    ขันที่ 2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
    ขันที่ 3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
    ขันที่ 4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
    ขันที่ 5 มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัวแต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
    ขันที่ 6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
    ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัมตกลงมา คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหาย.​


    ตาชั่งแห่งดุลยภาพ และวันชำระบาปของโลก
    โดย Dr.G.G.Junior

    [​IMG]

    ความเชื่อมโยงของมนุษย์กับจักรวาล เป็นธรรมชาติที่ถูกผูกเชื่อมกันมาตั้งแต่ปฐมกาล แห่งการกำเนิดโลกและจักรวาล มิใช่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น ยังรวมสิ่งที่มีชีวิตทั้งหมด และต้องถือว่าเป็นสรรพชีวิต และยังรวมสิ่งที่ไม่มีชีวิต คือสรรพสิ่งทั้งมวลล้วนเชื่อมโยงกัน เป็นธรรมชาติที่สมดุล ตั้งแต่ครั้งนั้นมา ด้วยพลังงานธรรมชาติที่สร้างขึ้น ก่อให้เกิดพลัง แห่งความเคลื่อนไหวหมุนไปพร้อมๆ กับการหมุนของกระแสคลื่นจิต ในสิ่งที่มีชีวิต คลื่นความคิด ซึ่งเป็นพลังงานของคลื่นสมอง
    ไม่ว่าสรรพชีวิตจะกระทำสิ่งใด แม้เพียงหายใจเข้าและออก ก็ส่งผลกระทบถึงตนเอง สรรพชีวิตด้วยกัน และสรรพสิ่งอื่นๆ ซึ่งในขณะนั้น ก็ส่งผลการสั่นสะเทือนกระทบไปทุกอณูของโลกและจักรวาลทั้งนั้น มากหรือน้อยตามความรุนแรงของกระแสคลื่นนั้นๆ ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสรรพชีวิต หรือแม้อณูที่เล็กที่สุดของธาตุใดใด ก็ล้วนส่งผลการกระทำ หรือปฏิกิริยาของตน ต่อเชื่อมกันไปทั้งจักรวาลทั้งสิ้น ทุกขณะเวลา ดังคำกล่าวที่ว่า “เด็ดใบไม้หนึ่งใบสะเทือนถึงจักรวาล” นั่นเอง ​

    มนุษย์พึงตระหนักถึงความสำคัญของตนว่าส่งผลยิ่งใหญ่ต่อจักรวาลเพียงใด อย่าคิดเพียงง่ายๆ ว่าลำพังกำลังการกระทำของตนจะทำอะไรได้ นั่นเป็นความคิดที่ผิด และเป็นโทษภัยอย่างมหันต์ทีเดียว เพราะมนุษย์กระทำสิ่งใดก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ มนุษย์อื่นก็กำลังกระทำสิ่งอื่น ที่ก่อให้เกิดพลังงานด้านมืด (พลังงานลบ) หรือสว่าง (พลังงานด้านบวก) อยู่ด้วยกันพร้อมๆ กันอีกมากมาย การกระทำใดใดก็ตาม ย่อมแสดงผลเป็นพลังงาน ซึ่งแบ่งแยกได้เป็นสองด้าน ​

    ดังนั้นมนุษย์พึงเข้าใจเสียใหม่ว่า เราเป็นส่วนหนึ่งที่กำลังร่วมสร้างพลังงานด้านใดด้านหนึ่ง ตลอดทุกลมหายใจเข้าออก ของเราทีเดียว พลังงานทั้งสองด้านนั้นหล่อเลี้ยงห่อหุ้มจิตของเราทุกคน และโลกธาตุ ทั้งมวลไว้ แล้วส่งผลสะท้อนย้อนกลับมาหาเรา ด้วยแรงของกรรมคือ กฎแห่งธรรมชาติ ที่มนุษย์ และสรรพชีวิตทุกตัวตน มิอาจหลีกพ้นกรรมของตนได้ ธรรมชาติมีการปรับตัว ดังนั้นธรรมชาติแห่งจักรวาลจึงมีนาฬิกาของการรักษาสมดุล แห่งจักรวาลที่เรียกว่า “ตาชั่งแห่งดุลยภาพ”

    ตาชั่งแห่งดุลยภาพ คือ สิ่งที่แสดงความเป็นจริง เป็นเครื่องวัดการสะสมของพลังงาน ทั้งสองด้านว่า ด้านใดจะมากกว่าน้อยกว่าหรือสมดุลกันแล้ว และส่งรหัสสัญญาณไปยัง ธรรมชาติของจักรวาลให้แสดงผลต่างๆ ตอบสนองไปตามที่ตาชั่งวัดได้ ช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่ตาชั่งแห่งดุลยภาพจะทำงานแล้วส่งรหัสไปยังธรรมชาติทั้งปวงนั้น เรียกว่า หนึ่งช่วง พีริออดิค (Periodic) เปรียบเทียบเวลากับมนุษย์นั้น เท่ากับ 60 ปี 4 เดือน 12 วัน คือ 1 รอบพีริออดิค เท่ากับ 22,047 วัน

    เมื่อถึงรอบเวลาพีรีออดิคท้ายสุดที่ผ่านมาคือ ทางจันทรคติ ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ 2550 แรม 6 ค่ำ เดือน 2 ซึ่งตรงกับทางดาราคติ วันพฤหัสที่ 22 ทุติยฤกษ์เดือน พ.ศ. 2550 แรม 5 ค่ำเดือน 2 การกระทำที่แล้วมา ในอดีตของมนุษย์ ส่งผลให้ช่วงพีริออดิคนี้ ธรรมชาติขาดความสมดุล อย่างรุนแรง จึงนำพาให้ เกิดเหตุสำคัญทางจักรวาล ที่เวียนมาบรรจบ ครบรอบขึ้น 3 ปรากฎการณ์ด้วยกัน แต่ถ้าตาชั่งแห่งดุลยภาพมีผลลัพธ์ว่า จักรวาลยังคงสมดุลอยู่ ปรากฎการณ์ทั้ง 3 นี้ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะกรรมฝ่ายสว่างจะนำพาให้ดวงดวงในจักรวาล หมุนด้วยความสมดุล และไม่หมุนทำมุมดั่ง 3 ปรากฎการณ์ดังต่อไปนี้

    1. ในรอบปีนี้เป็นปีครบรอบ 7,749 ปี พอดีที่ดาวพฤหัส ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดวงอาทิตย์ มาเรียงตัวทำมุมกันเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า ทำให้แรงดึงดูด และสนามแม่เหล็กของดาวทั้งหมดปรวนแปร เกิดพายุใหญ่ขึ้นทั้งบนบกและมหาสมุทร กระแสไฟฟ้าในบรรยากาศผิดปกติ มนุษย์และสรรพชีวิตประสบภัยพิบัติยิ่งใหญ่ อย่างฉับพลันอยู่เนืองๆ

    2. รอบ 12,000 ปี ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ทุกดวงของระบบสุริยะจักรวาล เรียงตัวกันเป็นเส้นตรง ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 5,600 แรงดึงดูดและสนามแม่เหล็ก ปรวนแปร อย่างหนักในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 3 นาที แต่ก็จะทำให้น้ำท่วมสูงในซีกโลกที่ตรงกับ แนวการเรียงตัวของดวงดาวดังกล่าว และเกิดน้ำเหือดหายในซีกโลกด้านตรงข้าม (แนวตั้งฉาก)

    3. รอบ 70,000 ปี แกนกลางดาราจักร HALO ดวงอาทิตย์ และโลกเรียงตัวกัน เป็นแนวตรง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันชำระบาปโลก” พลังงานรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ทุกสิ่งที่ประกอบไปด้วยพลังมืดต้องถูกชำระล้างไป คงเหลือแต่พลังงานฝ่ายสว่าง สร้างโลกใหม่ขึ้นเรียกว่า “ยุคพลังงานใหม่” นั่นเอง ซึ่งจะครบรอบปีที่ 70,000 ใน ค.ศ.2017 มนุษย์ที่มีดวงจิตอันสว่างใสด้วยโพธิจิตก็จะรอดชีวิต เพื่อดำเนินภารกิจการอบรม สั่งสอนให้มนุษย์ที่เกิดขึ้นใหม่ ให้มีการพัฒนาจิตให้สว่างมากกว่าการหลงในวัตถุเหมือน มนุษย์ในปัจจุบันนี้ ที่มีดวงจิตอันขุ่นมัวมืดบอดอับแสงเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถปรับฟื้นจิตได้แล้ว จึงจำเป็นต้องล้างโลกกันเสียทีในปี ๒๕๖๐ นี้

    นี่คือเหตุแห่งมหันตภัยของโลกครั้งที่จะถึงนี้ โดยที่มนุษย์เป็นส่วนใหญ่ และสรรพชีวิต ได้ร่วมกันสร้างพลังงานฝ่ายมืด คือความเลวร้ายมืดดำทั้งปวง จนหลุมดำไม่สามารถ รับขึ้นไปเก็บไว้ได้อีกแล้ว สุดท้ายมนุษย์นำพาโลก และจักรวาลขึ้นสู่ตาชั่งแห่งดุลยภาพแล้ว มีผลลัพธ์สุดท้ายคือ การเกิดมหันตภัยล้างโลกในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ นี่เอง ตั้งแต่ลมหายใจนี้ ไม่คิดพยายามสร้างกรรมฝ่ายสว่างกันบ้างเลยหรือ มนุษย์ทั้งหลาย จงตื่น เพื่อร่วมกันสร้าง พลังงานฝ่ายสว่างบนข้อเท็จจริงแห่งธรรมชาติกับข้า "ข้าคือสัญญาธาตุรู้ที่อยู่คู่กับทุกอณูในสรรพสิ่ง"


    หมายเหตุ

    จุดมุ่งหมายที่ผมได้นำบทความนี้ มาโพสต์ให้ทุกๆท่านได้อ่าน ก็เพื่ออยากจะชี้ให้เห็นว่าในปี ค.ศ.2012 อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์วันชำระโลก ตามที่ได้มีการทำนายกันก่อนหน้านี้ เพราะผมได้รับข้อมูลมาจากหลายแหล่ง ก็บ่งชึ้ว่าเหตุการณ์วันชำระโลกได้ถูกเลื่อนออกไป เป็นปี ค.ศ.2017 หรือ พ.ศ.2560

    ถ้าเราจะถือเอาพุทธทำนายจากศิลาจารึกเป็นหลัก ก็จะจับใจความสำคัญได้ว่า ปีระกาเมืองมนุษย์จะมืด 7 วัน 7 คืน ดังนี้จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่เหตุการณ์วันชำระโลกนั้นจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2560 ซึ่งก็ตรงกับปีระกาพอดี

    ถ้าเรามาลองพิจารณาดูจากข้อมูลในคำภีร์ใบเบิ้ล ก็บอกเอาไว้ว่าก่อนจะเกิดเหตุการณ์วันพิพากษาโลกนั้น มนุษย์จะต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากครั้งยิ่งใหญ่เป็นเวลาถึง 7 ปี เสียก่อน จึงจะเกิดเหตุการณ์วันพิพากษาโลก หลังจากนั้น โลกนี้จะเข้าสู่ยุคใหม่ที่ไม่มีสงครามและความทุกข์ยากใดๆ อีกต่อไป​

    เมื่อมาลองเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้แล้ว ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก 7 ปีนั้น ก็หมายถึงช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาด ความอดอยากหิวโหย และ สงครามนิวเคลียร์นั่นเอง ในปีนี้โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้เริ่มแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว แต่ยังไม่มีความรุนแรงมากนักเพราะเชื้อไวรัสยังมีฤทธิ์อ่อน แต่ถ้ามันกลายพันธ์จนมีฤทธิ์รุนแรงได้เมื่อไหร่ ก็จะเป็นหายนะครั้งยิ่งใหญ่กับมวลมนุษยชาติอย่างแน่นอน​

    เมื่อเราสามารถกำหนดรู้ปี ที่จะเกิดเหตุการณ์วันพิพากษาโลกได้แล้ว ว่าน่าจะเป็นปี พ.ศ.2560 เมื่อนับถอยหลังมา 7 ปี ก็จะได้ปีที่เริ่มต้นของเหตุการณ์ "7 ปีกลียุค"ในคัมภีร์ใบเบิ้ลได้โดยไม่ยาก นั่นก็คือจะเริ่มต้นในปี พ.ศ.2553 นั่นเอง และจากข้อมูลของอาจารย์อาชวิน จีรจินดา ที่สามารถติดต่อพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาวได้ ก็ได้ข้อมูลสำคัญมาว่า จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินของประเทศต่างๆ ยุบตัวจมลงทะเลในปี พ.ศ.2556 ที่จะทยอยๆ ยุบตัวลงไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี จนกว่ากระบวนการชำระโลกนี้จะสิ้นสุดลงในปี พ.ศ.2560 -เกษม-​
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  17. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866

    สงสัยมานานแล้วว่า ทำไมเวลาโฆษณาขายนาฬิกา เวลาจะอยู่ที่ตรงนี้ตลอด

    [​IMG]
     
  18. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    [​IMG]

    ตัวนี้เป็นแมงกะพรุนที่เรียกว่า Man of War

    มีพิษร้ายที่สุดในบรรดาแมงกะพรุนทั่วโลก พิษถึงตายได้ทีเดียว
    แต่ทำไมขึ้นมามากผิดปกติ ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในทะเล
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ไขปริศนานาฬิกาตั้งเวลาที่ 10.10 น.

    เชื่อว่าทุกท่านต้องเดินผ่านร้านที่ขายนาฬิกา
    แต่ลองสังเกตดูว่าจะเห็นว่า หน้าปัดนาฬิกาในโฆษณาและหน้าร้าน
    ได้ตั้งเข็มสั้นไว้ที่เลข 10 และเข็มยาวไว้ที่เลข 2 หรือ 10 นาฬิกา 10 นาที


    [​IMG]
    เรื่องนี้ต้องเฉลย
    เป็นเพราะ เข็มไม่ซ้อนกัน เข็มไม่บังตรานาฬิกากลางหน้าปัดไม่บังช่องวันที่ หรือ รายละเอียดอื่นที่มักอยู่ใกล้เลข 3 6 และ 9
    อีกทั้งแนวเข็มได้สมดุลทำให้นาฬิกาดูดีและที่สำคัญเหมือนหน้าปัดกำลังยิ้ม
    เพราะก่อนหน้านี้ นาฬิกาจะตั้งเข็มสั้นไว้ที่ เลข 8 และเข็มยาวไว้ที่เลข 4 ทำให้ดูเหมือนหน้าปัดกำลังบึ้งตึง

    [​IMG]
    แล้วคุณละ.... อยากให้นาฬิกายิ้มให้คุณหรือเปล่า..... อย่าลืม + ยิ้มกันทุกวันนะค่ะ

    ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 12 สิงหาคม 2552 หน้า 11

    http://share.psu.ac.th/blog/soda/16824
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  20. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394

แชร์หน้านี้

Loading...