ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    คลื่นความร้อนทำระบบปรับอากาศรถไฟเยอรมนีเจ๊ง หามผู้โดยสารนับสิบส่ง รพ. <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">12 กรกฎาคม 2553 12:41 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="Right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table width="335" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="335" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หน่วยกู้ภัยช่วยเหลือผู้โดยสารหลายสิบคนเกือบเป็นลมหมดสติ หลังติดอยู่ภายในรถไฟที่มีอุณหภูมิกว่า 50 องศาเซลเซียส</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเจนซี - คลื่นความร้อนทำเครื่องปรับอากาศบนรถไฟไฮเทค 3 ขบวนในเยอรมนีเสีย ส่งผลให้ผู้โดยสารหลายสิบคนเกือบเป็นลมหมดสติ หลังติดอยู่ในอุณหภูมิกว่า 50 องศาเซลเซียส

    ดอยท์เชอบาห์น ระบบรถไฟแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่ามีผู้โดยสารอย่างน้อย 52 คนที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลและอีกราว 1,000 คน ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ

    เจอร์เกน คอร์นมันน์ โฆษกของดอยท์เชอบาห์นเปิดเผยวานนี้ (11) ว่า รถไฟทั้ง 3 ขบวนเป็นรถไฟสมัยใหม่ ICE ซึ่งไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้ กำลังมุ่งหน้าจากเมืองกรุงเบอร์ลินสู่ภาคตะวันตกของประเทศ โดย 2 ขบวนแรกเครื่องปรับอากาศขัดข้องใกล้กับสถานีแห่งหนึ่ง แต่สามารถเคลื่อนย้ายผู้โดยสารออกมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ขบวนที่ 3 ประสบภาวะอากาศภายในร้อนเกินไปขณะยังแล่นอยู่ไกลจากเมืองบีเลเฟลด์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางต่อไป

    คอร์นมันน์ เปิดเผยว่า ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้ผู้โดยสาร 8 คนอาการอ่อนเพลียจากความร้อนและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองบีเลเฟลด์ ส่วนอีก 44 คนต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์

    หน่วยกู้ภัย 91 คนถูกเรียกตัวไปยังสถานีรถไฟบีเลเฟลด์ เพื่อรักษาผู้โดยสารที่มีอาการหายใจลึกและถี่ผิดปกติ อาการหน้ามืดวิงเวียน ร้อนเกินไป ปวดศีรษะและอื่นๆ ทั้งนี้ในหมู่ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลนั้น มี 27 คนที่เป็นกลุ่มเยาวชนซึ่งกำลังเดินทางกลับจากทัศนศึกษา ส่วนเยาวชนที่เหลือต้องเปลี่ยนไปเดินทางด้วยการอาศัยรถบัสปรับอากาศแทน

    ฮันส์-ดีเทอร์ มือห์เลนเบิร์ก หัวหน้าหน่วยกู้ภัยท้องถิ่น เปิดเผยกับสำนักข่าว DAPP ของเยอรมนีว่า อุณหภูมิภายในรถไฟสูงถึง 50 องศาเซลเซียส พร้อมระบุว่า ปัญหาของขบวนรถไฟทั้งสามมีสาเหตุมาจากความร้อนจากภายนอก

    เยอรมนีต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวเป็นประวัติการณ์จากคลื่นความ ร้อนรุนแรงที่พาดผ่าน ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส
     
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เมื่อวาน อยู่แถว โลตัส เตาปูน นั่งกินข้าวอยู่

    ผมได้รับ sms จาก เพื่อนสมาชิกในบอร์ดภัยพิบัตินี่ล่ะครับ ว่าแถวๆ ช่วง ราชวัตร-สะพานแดง มีหลุมยุบ เนื่องจากท่อประปาแตก ทำให้รถประจำทางตกลงไป เกิดจราจร ติดขัด ปิดถนนครับ

    โชคดีมากที่ได้รับ sms เพราะว่า กำลังจะกลับบ้านแถวๆ นั้นครับ ก็เลยช่วยเลี่ยงการจราจร ได้เยอะเลยครับ

    อนุโมทนา พี่ที่ส่ง sms มาให้ (ไม่ขอเอ่ยนาม) ครับ
     
  3. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    เขื่อนจีน ..น้ำมากจะถึงภาคเหนือของไทยไหมนิ

    <object id="sIFR_replacement_0" class="sIFR-flash" classid="clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000" width="930" height="34">


    </object>

    หวั่นเขื่อนแตก ฝนตกหนัก จีนอพยพคนหนี


    [​IMG]
    วิกฤติฝนตกน้ำท่วมจีน ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนมณฑลชิงไห่เพิ่มสูงขึ้นเกินระดับปลอดภัย ทำให้เกิดรอยร้าว 5 แห่ง ทางการจีนเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเกือบแสนคน...

    สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ว่า ทางการจีนเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยในหลายพื้นที่ หลังฝนตกหนักต่อเนื่องกันหลายวัน รวมถึงหิมะที่ละลายส่งผลให้น้ำท่วมขัง ด้านภาคตะวันออก ที่มณฑลอันฮุย ต้องอพยพประชาชนกว่า 4,200 คน เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเบยเหนียน ซึ่งไหลผ่านเมืองอานชิง และถงเชง เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้เขื่อนเวินฉวนมีรอยร้าว จำนวน 5 แห่ง และเกรงว่าอาจแตกได้
    [​IMG]


    ทางการจีนรายงานว่า เขื่อนเวินฉวน มณฑลชิงไห มีปริมาณน้ำ 230 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าระดับปลอดภัยถึง 3 เท่า ซึ่งหากเขื่อนแตก เมืองใกล้เคียงซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 200,000 คน อาจได้รับอันตราย พื้นที่บางแห่งอาจจมอยู่ใต้น้ำสูงถึง 4 เมตร ทางการจึงเร่งอพยพประชาชนกว่า 9,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย


    [​IMG]


    ขณะที่ทางภาคใต้ของจีน ฝนตกหนักและน้ำท่วม ส่งผลให้ถนน สะพานพังเสียหาย การคมนาคมในบางพื้นที่ถูกตัดขาด คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 50 ชีวิตตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. ประชาชนกว่า 15 ล้านคนได้รับผลกระทบ ขณะที่อีก 597,000 คนต้องย้ายที่อยู่อาศัย บ้านเรือพังเสียหายราว 42,000 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายและพังทลายราว 946,500 เฮกเตอร์ กระทบต่อระบบเศรษฐกิจมากถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหตุอุกทกภัยครั้งนี้ ยังทำให้ประชาชนในเมืองฉงชิงเสียชีวิต 10 คน สูญหายอีก 2 ราย ต้องอพยพหนีอีก 109,000 คน

    กรมอุตุนิยมวิทยาของจีน ประกาศเตือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ( 11 ก.ค.) ว่า พายุอาจก่อตัว และทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ทางภาคตะวันออกและภาคกลางของจีนอีกครั้งตั้งแต่วันจันทร์-พุธ ที่มณฑลกุยโจว หูหนาน หูเบย และอันฮุย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2010
  4. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ

    น้ำน้อยมากครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    ภาพจากเว็บอื่นครับ ขณะน้ำเต็ม ตอนสร้างเขื่อนเสร็จใหม่ๆ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5670.gif
      IMG_5670.gif
      ขนาดไฟล์:
      131.5 KB
      เปิดดู:
      1,433
    • IMG_5668.jpg
      IMG_5668.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.3 KB
      เปิดดู:
      1,432
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2010
  5. tianhui

    tianhui Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +59
    ขำข้างบนคิดได้ไง:cool:
     
  6. Heroofch

    Heroofch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    น่ากลัวจังเลย

    ผมอยู่ อ.ร้องกวางด้วย
    เมืองแพร่มีภูเขาล้อมรอบด้วยนะ
     
  7. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    อิหร่านร้อนจัด อุณหภูมิพุ่ง40องศา รบ.ต้องประกาศวันหยุด

    <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลอิหร่านประกาศให้วันที่12-13 ก.ค. นี้ เป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง

    หลัง เผชิญสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ สำนักงานและอาคารหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาล รวมถึงโรงพยาบาลของรัฐและธนาคาร จะยังคงปิดบริการต่อไป ส่งผลให้ตามท้องถนนในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา แทบไม่มีผู้คน แท็กซี่หลายคันจอดตายเพราะรถดับ เนื่องจากอากาศร้อนจัด ขณะที่ผู้คนที่เดินตามท้องถนนต้องรีบเดินเข้าหาร่มไม้หรือใต้อาคาร ด้วยเสื้อผ้าที่ชุ่มเหงื่อ

    รายงานระบุว่า หลายฝ่ายเชื่อว่า รัฐบาลไม่ได้ประกาศให้เป็นวันหยุดราชการต่อเนื่องเพราะอากาศร้อน แต่น่าจะมาจากการผละงานของบรรดาผู้ประกอบการและเจ้าของร้านค้าในย่านการค้า กลางกรุงเตหะราน ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงที่รัฐบาลเตรียมขึ้นภาษี


    ที่มา อิหร่านร้อนจัด อุณหภูมิพุ่ง40องศา รบ.ต้องประกาศวันหยุด : ข่าวอื่นๆ
     
  8. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    "ยูเอฟโอ"ป่วนสนามบินจีน

    <table class="A14" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center">
    </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table width="95%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table width="95%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td valign="top"> เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เดลี่เมล์รายงานว่า วานนี้สนามบินนานาชาติเซียวชาน เมืองหัง โจว มณฑลเจ้อเจียง ของประเทศจีน

    ต้อง ปิดทำการลงชั่วคราว ส่งผลให้เที่ยวบินขาเข้าหลายสิบเที่ยวถูกเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบิน อื่น และเที่ยวบินขาออกต้องเลื่อนออกไปราว 3-4 ชั่วโมง ภายหลังจากตรวจพบยูเอฟโอเหนือน่านฟ้า จนเกิดกระแสข่าวฮือฮาว่าจานผีของมนุษย์ต่างดาวมาเยือนจีน

    วัตถุบินได้ไม่ทราบชนิด หรือ "ยูเอฟโอ" ดังกล่าว ปรากฏบนน่านฟ้าเหนือสนามบินเซียวซาน เมื่อเวลาราว 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีลักษณะเป็นลูกทรงกลมมีแสงสีขาวอยู่รอบตัวและทิ้งรอยเป็นแสงสีขาวไว้ตามทางที่เคลื่อนที่ไป ท่ามกลางความตกตะลึงของประชาชนผู้พบเห็นที่ต่างพากันรีบถ่ายรูปเก็บภาพไว้

    นายหยู พนักงานขับรถขนส่งผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ยูเอฟโอเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกอย่างรวดเร็วเหมือนกำลังหนีอะไรบางอย่าง

    ด้านทางการจีนระบุว่า เป็นชิ้นส่วนจากขีปนาวุธข้ามทวีปของสหรัฐ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดก่อนหน้านี้ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของทางกองทัพ

    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>[​IMG]
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สวนครัว "ทรีอินวัน" ปลูกผักแบบ พอ-พึ่ง-ผัน

    [​IMG]

    ความเคลื่อนไหวของการเปลี่ยนแปลงวิถีการผลิต สู่ความยั่งยืนของเกษตรกร "ผู้ผลิต" ที่มีจิตสำนึกเพื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาก็ไม่น้อย คราวนี้อยากชวนท่านผู้อ่านที่เป็น "ผู้บริโภค" ลองเปลื่ยนมาเป็น "ผู้ผลิต" ปลูกผักกินเองให้สบายใจว่าไร้สารพิษ ลดรายจ่าย และกำจัดขยะในบ้านได้ด้วย มือใหม่หัดปลูกบางท่านสงสัยว่า จะประยุกต์หลักการเกษตรธรรมชาติมาใช้ทำสวนครัวในบ้านได้อย่างไร ก็ขอประมวลออกมาเป็นหลักง่าย ๆ ว่า พอ-พึ่ง-ผัน

    พอ ก่อนจะมีสวนครัวข้างนอก ต้องเริ่มปลูกจากด้านใน คือ เกิดสติรู้จักพอในการดำรงชีวิต รวมไปถึงเรื่องอาหารการกิน เคยบริโภคฟุ้งเฟ้อตามใจปาก ก็หันมาเลือกสรรในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สนใจที่มาของอาหารว่าเป็นคุณเป็นโทษต่อสุขภาพอย่างไร เคยออกไปกินนอกบ้านไม่เว้นแต่ละวัน ก็เปลี่ยนมาทำกินเองบ้าง คนส่วนใหญ่กว่าจะได้สติ ก็ต้องสติแตกเสียก่อนด้วยเงื่อนไขเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่สายเกินไป

    พึ่ง รู้แล้วลงมือทำถึงจะเป็นการพึ่งตนเอง ปัจจุบันคนตื่นตัวหันมากินผักผลไม้ ธัญพืช ด้วยรู้ว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็งได้ แต่ผักที่ขายทั่วไปมักปนเปื้อนสารพิษอันตราย จะขวนขวายหาซื้อผักปลอดสารพิษก็ไม่ค่อยมีขาย หรือขายกันตามซูเปอร์มาร์เก็ตติดตรารับรอง ก็ยังเชื่อไม่ได้ว่าปลอดจริง ฉะนั้นหากในบ้านพอมีบริเวณบ้าง ปลูกไว้กินเองสบายใจที่สุด มีที่แค่ไหนก็ทำให้เหมาะสมเท่าที่ทำได้

    ผัน คือรู้จักนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้หมุนเวียนให้เป็นประโยชน์ในการปลูกสวนครัว บำรุงดินให้อุดมสมบูรณ์แบบธรรมชาติ ไม่เอาสิ่งแปลกปลอมเป็นพิษ ยาฆ่าแมลง หรือปุ๋ยเคมีมาใช้ แอบไปเห็นเพื่อนพ้องกลุ่มหนึ่งปลูกผัก อยู่แถวชานเมืองกรุงเทพ ก็ปิ๊งในไอเดีย "สวนครัวกระดาษ" ที่เขาทำกันดังนี้

    เตรียมวัสดุ ได้แก่

    1. หนังสือพิมพ์เก่า ที่กองไว้เป็นตั้ง ๆ รกบ้าน คราวนี้ไม่ต้องขายไปถูกๆ จนน่าเจ็บใจ ขนมาใช้งานนี้ได้เลย รวมทั้งกล่องหรือลังกระดาษที่เก็บไว้เปล่า ๆ

    2. ปุ๋ยคอก ที่ขายตามร้านขายต้นไม้มีราคาค่อนข้างแพง ถ้าเลือกได้ไม่อยากแนะนำให้ซื้อ คนที่อยู่แถวชานเมืองรอบกรุงเทพ เช่น ปทุมธานี นครปฐม หนองจอก มีนบุรี จะพบแหล่งซื้อปุ๋ยคอก เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ไนราคาถูก ปุ๋ยขี้วัว ใส่กระสอบข้าว หนัก 40-50 กก. ถุงละแค่ 40 บาท

    3. แกลบ ซื้อได้จากโรงสีแถวชานเมือง ถ้าไม่รู้ว่าอยู่แถวไหนบ้างก็ลองถามจากร้านขายต้นไม้ ใช้รถปิกอัพไปขน ถ้าพื้นที่ใช้ไม่มาก ซื้อมาเป็นกระสอบก็ได้ กะว่าใช้ประมาณ 1 กระสอบต่อ 1 ตร.ม. ถ้าไม่มีก็ต้องออกแรงไปรวบรวมเศษหญ้าที่ตัดจากสนามหญ้า ใบไม้แห้ง ตัดหญ้าที่ขึ้นอยู่ขอบทางหรือที่ว่างเปล่า มาให้ได้มากที่สุด

    4. อิฐแดงสวย ๆ ก้อนโต หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุก่อสร้าง

    เลือกที่เหมาะ ๆ ทำแปลง ใกล้ครัวเท่าไหร่ยิ่งดี เวลาทำกับข้าวขาดเหลืออะไร จะไปเก็บจากแปลงก็เดินนิดเดียว กำหนดขนาดให้เหมาะสม ทำได้ตั้งแต่ 2-3 ตร.ม. ไปจนถึง 25 ตร.ม. หรือใหญ่กว่านั้น รูปทรงไม่จำกัดว่าต้องเป็นแปลงยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะใช้จินตนาการออกแบบเป็นตัวหนอน ดอกไม้ หรืออื่น ๆ ก็ได้ ขอแต่ให้มีพื้นที่รอบ ๆ สำหรับเดินเข้าไปปลูกหรือเก็บผักในแปลงได้สะดวก จากนั้นก็ลงมือเตรียมแปลง

    1. ถ้ามีหญ้าหรือวัชพืชอื่น ๆ ให้ถางออก ตัดหญ้าให้สั้นติดดิน ไม่ต้องขุดรากถอนโคนหรือสับดินให้เมื่อย ถ้าที่ไม่เรียบก็ใช้จอบปรับให้เสมอกัน พอให้น้ำระบายออกได้เท่านั้นพอ

    2. เอาปุ๋ยคอกมาโรยให้ ทั่วแปลง หนาประมาณ 1 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

    3. เอากระดาษหนังสือพิมพ์มาปูทับบนปุ๋ยคอก ใช้หนังสือพิมพ์ทั้งเล่มกางออก แล้วคว่ำปิดทับลงไปให้ทั่วแปลง ให้กระดาษหนังสือพิมพ์ซ้อนกันอย่าให้มีช่องว่าง ถ้าใช้กระดาษกล่องหนา ๆ แผ่ออก ปูชั้นเดียวก็พอ แต่กระดาษหนังสือพิมพ์อยู่ทนกว่า นำอิฐมาเรียงตามขอบแปลงทับอยู่บนกระดาษ ให้ชายกระดาษล้ำออกมาจากขอบแปลงประมาณ 20 ซม. เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่ม

    4. บนชั้นกระดาษ เอาแกลบมาโรยหนาประมาณ 1 คืบ แล้วรดน้ำอีกที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ได้แปลงสวนครัวสีสันสะดุดตา จะทำแปลงไว้ที่สนามหญ้าก็ไม่ทำลายทัศนยีภาพของบ้าน

    ทำแปลงเสร็จจะลงมือปลูกก็ทำได้ทันที จะย้ายกล้ามาปลูกหรือหยอดเมล็ด ก็ทำคล้ายกัน แหวกแกลบลงไปเป็นหลุมจนถึงชั้นกระดาษ ใช้มีดกรีดกระดาษเปิดออก แล้วขุดลงไปถึงชั้นดินให้เป็นหลุมเล็ก ๆ พอปลูก หยอดเมล็ด หรือปลูกกล้าลงไป ถ้าดินยังไม่ดี เป็นดินเหนียวจัด หรือดินทราย หาดินร่วนมากรอกในหลุม ช่วยให้กล้ามีดินสำหรับยึดรากในระยะตั้งตัว อย่าคลุกปุ๋ยคอกหรือแกลบลงไปในดิน มันจะไปแย่งธาตุไนโตรเจนกับพืช

    วัสดุแต่ละชั้นมีหน้าที่ของมัน ปุ๋ยคอกเป็นตัวให้ธาตุอาหาร และมีจุลินทรีย์ทำงานอยู่แข็งขัน กระดาษเป็นตัวสกัดไม่ให้หญ้าเกิด ต้องปูให้หนาเพื่อไม่ให้หญ้าข้างใต้ได้รับแสง ลำพังใช้แกลบหรือเศษหญ้าคลุมข้างบนแสงก็ยังลอดลงมาได้ อิฐเป็นตัวสกัดหญ้าไม่ให้ลุกลามเข้ามาจากนอกแปลง แกลบและกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นตัวเก็บความชื้นในดินและป้องกันผิวดินจากแสงแดด หน้าฝนแทบไม่จำเป็นต้องรดน้ำ จะรดบ้างก็ในหน้าร้อน 5-7 วันครั้งก็ยังได้ ทั้งปุ๋ยคอก แกลบและกระดาษจะย่อยสลายกลายเป็นชั้นหน้าดินหน้าภายในปีเดียว

    ที่ว่างในแปลงที่ยังไม่ปลูกอะไร หรือเก็บผักไปหมดแล้ว ใช้เป็นที่หมักเศษอาหารได้อย่างมหัศจรรย์ ไม่ต้องใส่ถุงทิ้งให้เป็นภาระรถขยะกทม. เศษอาหารเหลือทิ้งจากครัว แยกเอาถุงพลาสติค ยาง กระป๋อง และวัสดุอื่น ๆ ที่ไม่ย่อยสลายออกก่อน โดยคุ้ยแกลบลงไปถึงชั้นกระดาษแล้วเทเศษอาหารลงไปเอาแกลบกลบตามเดิม เศษอาหารจะแห้งและย่อยสลายอย่างรวดเร็วเป็นปุ๋ยให้ดิน ถ้ามีเศษเนื้อติดไป แมลงวันจะมาตอมบ้าง แต่ไม่มีกลิ่นเหม็น ระวังแต่หมาแมวจะมาคุ้ยเขี่ยเท่านั้น

    เขียนโดย admin เมื่อ 12/23/2008 - 16:44

    ที่มา http://www.thaihof.org/content
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ปลูกผักกินบนยอดตึกได้ไหม...คุณเกษม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    พระปรีชาสามารถในการเห็นอนาคตการณ์ ของในหลวงของพวกเรา

    ขออนุญาตผู้ดูแลบอร์ด ส่งข้อความนี้ซ้ำกัน เพราะเพื่อนๆ จะได้เห็นถึงพระปรีชาสามารถที่ในหลวงท่านมองการณ์ไกล ทำนายได้แม่นมาก บอกทั้งวันที่ พิกัด ความเร็วลม ลองดูนะ

    [​IMG]
     
  12. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7166 ข่าวสดรายวัน


    แม่ค้าส้มตำโอด"มะละกอ-พริก"แพง



    สกลนคร - นางนิด (ขอสงวนนามสกุล) แม่ค้าขายส้มตำและขนมหวานรายหนึ่งในตลาดสดเทศบาลเมืองสกลนคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาสินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำตาลทรายที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ในขณะนี้ต้องหยุดทำขนมหวานหันมาขายส้มตำอย่างเดียวเพราะทนต่อการขาดทุนไม่ไหว ตอนนี้ราคามะเขือเทศ มะละกอ ตลอดจนพริก ก็มีราคาสูงผิดปกติ ซึ่งแต่ก่อนขายส้มตำได้ครกละ 20-25 บาท แต่ตอนนี้ขายไม่ได้แล้ว เพราะมะนาวก็ราคาสูง ทำให้ปรับราคา ลดปริมาณลงทำให้ลูกค้าเลิกกิน ตอนนี้กำลังมองหาลู่ทางค้าขายอย่างอื่นเพราะทนต่อการขาดทุนไม่ไหว ลูกค้าก็หายไปด้วยแต่ยังไม่รู้จะไปทำอะไรเพราะขายส้มตำมากว่า 20 ปี แล้ว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตระเวนสำรวจตลาดสดเทศบาลตำบลพังโคน ในอำเภอพังโคน พบว่ามะละกอถุงละ 10 กิโลกรัม ปกติราคาอยู่ที่ 40-50 บาท แต่ปรับราคาขึ้นเป็น 120-150 บาท มะเขือเทศราคาก.ก.ละ 70 บาท จากเดิมก.ก.ละ 25-30 บาท พริกสุกก.ก.ละ 120-150 บาท จากเดิม ก.ก.ละ 60-70 บาท ส่วนมะนาวก่อนหน้านั้นลูกละ 10-12 บาท ลดลงเหลือลูกละ 4-5 บาท ซึ่งมีเพียงมะนาวเท่านั้นที่ราคายังไม่เพิ่มขึ้น และพบว่าก่อนหน้านั้นมีแม่ค้าขายส้มตำอยู่กว่า 20 ราย ปัจจุบันเหลือเพียง 3-4 รายเท่านั้น ซึ่งสอบถามแม่ค้าส้มตำรายหนึ่งกล่าวว่าเลิกขายไปทำอาชีพอื่น เพราะเครื่องปรุงส้มตำขึ้นราคาทุกชนิด ถ้าเป็นอย่างนี้ประชาชนตายแน่ๆ

    เสือเขาใหญ่เหลือแค่9ตัว



    ปราจีนบุรี - เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก กล่าวถึงกรณีฝูงหมาไนรุมกัดหมูป่าเพศเมีย น้ำหนักตัวประมาณ 30 ก.ก. อายุ 1-2 ปี ตายบนน้ำตกธารทิพย์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่า เป็นวงจรธรรมชาติห่วงโซ่อาหารที่สัตว์กินเนื้อไล่ล่าอาหาร แต่ทั้งนี้ที่น่าเป็นห่วงคือผู้ล่าในวงจรธรรมชาติ เสือโคร่งลดปริมาณลงคาดมีเหลือบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพียง 8-9 ตัว ทำให้ขาดผู้ล่าหมาไนที่ทำให้ประชากรในธรรมชาติหมาไนสูง สำหรับหมาไนโดยปกติในธรรมชาติจะมีอันตรายน้อย สำหรับผู้คน ออกหากินเป็นฝูงในกลางคืน หากพบมนุษย์มักเกรงกลัวหลบหนี

    นายมาโนชกล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวนายพรานต่างถิ่นเข้าพื้นที่ด้านน้ำตกฟองสบู่-ตาขนดำ เพื่อล่าช้างป่าเอางานั้น หลังได้รับแจ้งได้รายงานตามสายบังคับบัญชา และทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จัดชุดลาดตระเวนออกตรวจสอบเมื่อ 2 วันก่อนนี้ ซึ่งไม่พบแต่อย่างใด ในเบื้องต้นนี้ไม่นิ่งนอนใจ ยังติดตามข่าวข้อมูลต่อเนื่องและจะได้มีการลาดตระเวนทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศระวังป้องกันปราบปรามต่อไป

    ยุโรปร้อนๆ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>เข้าฤดูร้อนตอนนี้ อากาศในยุโรปร้อนสุดๆ ขนาดประเทศที่แสนจะเหน็บหนาวอย่างรัสเซียก็ร้อนไปด้ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>วย สวนสัตว์โรเยฟ รูชีย์ ในเมืองคราสโนยาสก์ แคว้นไซบีเรีย ต้องพ่นน้ำคลายร้อนให้เจ้าหมีไซบีเรีย ส่วนที่เมืองฮัมบูร์ก ทางเหนือของเยอรมนี กิจกรรมยอดฮิตในช่วงฝรั่งเห่อแสงแดด ก็คือการเดินเล่นในลูกบอลใสๆ หรือ "วอล์ก วอเตอร์ บอล" แบบนี้ ที่ทะเลสาบเลก อัลสเตอร์ (ภาพ-เอพี)

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]




    พายุฝนถล่มบ้านเรือนชาวบ้านวังหิน

    เทศบาลเร่งสำรวจความเสียหาย

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิยม วรรณา รองนายกเทศบาล ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ได้นำคณะออกตรวจสอบสภาพบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากลมพายุฝนพัดถล่มที่บ้านโพนดวน หมู่ 4 ต.บุสูง หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักและมีพายุลมแรงชพัดถล่มบ้านเรือนของชาวบ้านพังเสียหาย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จำนวน 13 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีบ้าน 1 หลัง ที่เสียหายทั้งหลัง ค่าเสียหายเบื้องต้นอยู่ระหว่างการสำรวจ

    นายนิยม กล่าวว่า ทางเทศบาลต.บุสูง จะช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายในด้านอุปกรณ์วัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนในเบื้องต้นก่อน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 70,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านในหมู่บ้านต่าง ๆ ของ ต.บุสูง ได้รับผลกระทบจากพายุฝนพัดถล่มในครั้งนี้อีกด้วย ทางเทศบาลจะให้เจ้าหน้าที่สำรวจประเมินความเสียหายของบ้านเรือนทั้งหมด เพื่อจะได้แจ้งให้ทางอำเภอและจังหวัดดำเนินการช่วยเหลือในลำดับต่อไป


    น้ำในเขื่อน

    ถุงแดง



    ฝนตกถล่มกรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่ได้ทำให้วิกฤตน้ำในเขื่อนลดลง

    สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) รายงานปริมาณน้ำในเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ล่าสุดวันที่ 10 ก.ค.พบว่า น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ อาทิ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีน้ำเหลืออยู่เพียง 30.20% ของความจุอ่าง เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีน้ำเหลือ 33.80% เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีน้ำเหลือ 26.45%

    ด้านศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน ประเมินน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางพบว่า มีรวมกันประมาณ 33,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 45% ของความจุอ่าง

    แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาและมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในภาคกลางหลายแห่งอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณยังน้อยมาก

    ทำให้ไม่สามารถประกาศปล่อยน้ำเพื่อทำนาปีอย่างชัดเจน ชาวนาในหลายพื้นที่จึงยังไม่กล้าเสี่ยงเพาะปลูกแม้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

    คาดว่าเกษตรกรจะเริ่มเพาะปลูกได้ในช่วงปลายเดือนก.ค.ถึงต้นส.ค. เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาวะอากาศในช่วงดังกล่าวว่าจะมีฝนตกกระจายเพิ่มขึ้น

    คงต้องติดตามปรากฏการณ์เอลนิญโญ่ที่จะส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของโลกแปรปรวน กรมอุตุฯ จึงไม่สามารถคาดหมายลักษณะอากาศได้อย่างชัดเจน

    เกษตรกรต้องติดตามสถานการณ์น้ำและสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิด

    ฉลองหลินปิงทำนายแม่น สเปนแชมป์ฟุตบอลโลก

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ณ บริเวณส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าของหลินปิง นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าแห่งประเทศไทยและทีมงานได้จัดเอาผลไม้ เช่นแอบเปิ้ล แครอท ลูกแพร์ ไม้ไผ่ ใบไผ่ อาหารโปรดของหลินปิง ใส่กล่องที่มีธงชาติสเปน เป็นสัญญลักษณ์พร้อมก้บนำถ้วยชนะเลิศบอลโลกปี 2010 จำลอง ส่งมอบให้กับหลินปิง ที่นอนอยู่บนโขดหินในส่วนจัดแสดง เพื่อให้หลินปิงได้ร่วมเฉลิมฉลองกับประเทศสเปน ที่ได้แชมป์บอลโลกปี 2010 และตอบแทนที่หลินปิงทำนายแม่นว่าทีมสเปนจะเป็นแชมป์บอลโลกครั้งนี้

    นายประเสริฐศักดิ์ ได้นำถ้วยชนะเลิศมอบให้กับหลินปิงและกล่องผลไม้และไม้ไผ่ใบไผ่ ให้กับหลินปิง หลินปิงมีความสนใจถ้วยบอลโลกเอากอดและจูบ จากนั้นก็คว้าผลไม้มานั่งกินมองดูถ้วยบอลโลก อย่างมีความสุข ครั้งนี้หลินปิงไม่ตื่นตระหนกเหมือนครั้งที่ทำนาย ดูหลินปิงจะมีความสุขในการกินผลไม้และใบไผ่อย่างมาก

    สำหรับน้ำหนักของหลินปิง วันนี้อยู่ที่ 43.5 กิโลกรัม และเพิ่มอย่างต่อเนื่อง สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี รวมไปถึงพัฒนาการต่าง ๆ ทั้งความฉลาด การเรียนรู้ดีขึ้นตามลำดับ

    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>อ่าวอุดมร้องทัพลิงแสมบุกทำลายข้าวของชาวบ้าน

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านอ่าวอุดม หมู่ 1 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า มีลิงแสมบนเขาภูไบ ซึ่งเป็นภูเขาข้างบริษัท ไทยออยล์ จำกัด ได้ออกมาอาละวาดทำลายข้าวของชาวบ้านเป็นประจำ หลังจากที่หาอาหารไม่ได้ เนื่องจากบนภูเขาเริ่มหาอาหารยากมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากใกล้เข้าหน้าแล้ง จึงได้ลงจากภูเขามาหาอาหารของชาวบ้านไปกิน

    นางเสาวภาคย์ เขียวกุล อายุ 45 ปี กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนจากลิงแสมบนภูเขาเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าลิงแสมกลุ่มนี้จะลงมาหาอาหารกินเป็นประจำ และถ้าลงมาไม่เจออาหารก็จะรื้อค้นข้าวของจนกระจุยกระจายเต็มไปหมด ลิงแสมกลุ่มนี้จะลงมาหาอาหารแบบไม่เป็นเวลา จนผลไม้ที่ปลูกไว้เช่น มะม่วง ที่กำลังออกดอกออกผลก็โดนลิงแสมกลุ่มนี้เก็บกิน หรือไม่บางทีก็หักกิ่งไม้จนหักไปหมดเลย และบางทีก็ขึ้นขย่มหลังคาบ้านจนแตกและพังลงมา รวมทั้งไปเปิดตู้เย็นค้นหาสิ่งของซึ่งเป็นพวกนมที่แช่ไว้ไปกินกัน อยากให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนครแหลมฉบัง ช่วยหาทางช่วยเหลือด้วยซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในขณะนี้ฝูงลิงแสมก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นอีกด้วย เป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้านเป็นอย่างมากเนื่องจากเกรงว่าลิงแสมเหล่านี้จะมาทำอันตรายแก่ลูกหลาน



    </TD><TD vAlign=top align=left>




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    นักสืบสายลม "ไลเคน"ตรวจอากาศ

    นิรมล มูนจินดา / เรื่อง โครงการนักสืบสายลม มูลนิธิโลกสีเขียว / ภาพ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>มองคุณภาพอากาศกรุงเทพฯ ผ่านไลเคน 2010" เป็นชื่อของแผนที่ฉบับนี้ ได้มาจากการสำรวจสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ไลเคน" โดยเครือข่ายนักสืบสายลม มูลนิธิโลกสีเขียว

    บนแผนที่มีรูปหน้ายิ้ม หน้าเฉย หน้างอ สีเหลือง เหลืองเขียว น้ำตาล แดง ฯลฯ กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด

    เดาๆ จากชื่อแผนที่ข้างต้นดู ก็พอจะรู้ว่าบรรดาหน้ายิ้มหน้างอ ที่วางทับกระจัดกระจายเต็มแผนที่กรุงเทพมหานครไปหมดนี้ ต้องบอกความหมายถึง "คุณภาพอากาศ" ในเมืองหลวงของบ้านเราแน่ๆ

    ความหมายของหน้ายิ้มหน้างอสีต่างๆ ถูกอธิบายอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมข้างๆ เรียบ ร้อยแล้ว กวาดตาดูก็เข้าใจได้ทันทีว่าอากาศตรงไหนของกรุงเทพฯ มีคุณภาพแบบไหนบ้าง

    หน้ายิ้ม หน้างอ ทั้งหมด 214 หน้านี้ เป็นสัญลักษณ์สามัญที่สุด ที่สื่อสารความหมายธรรมดาที่สุดบนแผนที่คุณภาพอากาศ "ฉบับประชา ชน" ฉบับแรกของกรุง เทพมหานคร ซึ่งโครงการนักสืบสายลม มูลนิธิโลกสีเขียว ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะไปตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

    ไล่ๆ ดูจะเห็นว่าไม่มีพื้นที่ไหนในกรุงเทพฯ มีอากาศดีมาก (หน้ายิ้มปากกว้างสีฟ้า) หรืออากาศดี (หน้ายิ้มสีเขียวล้วน) เลย

    ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ผอ.โครงการนักสืบสายลม บอกว่า พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีคุณภาพอากาศที่ "แย่" ถึง "แย่มาก" มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบทางลบต่อสุขภาพของประชาชน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ใจกลางเมือง ทั้งทางฝั่งพระนคร และธนบุรี หรือบริเวณใกล้ถนนสายหลักที่มีการจราจรคับคั่ง และพื้นที่ชานเมืองที่มีโรงงานจำนวนมาก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นั่นคือเขตบางขุนเทียน กับเขตบางนา ซึ่งตั้งอยู่ติดกับเขตอุตสาห กรรมจังหวัดสมุทรสาคร และสมุทร ปราการ ตามลำดับ

    แต่ความแย่ของอากาศไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในเขตใดเขตหนึ่ง หากกระจัดกระจายไปตามลักษณะ กิจกรรมของพื้นที่ เช่น บริเวณสนามบิน ที่เผาขยะ ที่เผาศพ กระทั่งพื้นที่ติดคลองน้ำเสีย แหล่งปล่อยก๊าซไข่ เน่า หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์

    อย่างไรก็ตาม อากาศของกรุง เทพฯ ยังไม่อเนจอนาถเกิน เรายังมีพื้นที่เกษตรและสวนผลไม้ ชุมชนริมคลองที่ถนนเข้าไม่ถึง หรือถนนที่รถราแล่นน้อย เพราะอย่างนี้ พื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ อย่างเขตคลองสามวา หนองจอก และลาดกระบัง และด้านตะวันตกอย่างตลิ่งชัน ทวีวัฒนา และพื้นที่ติดกับพุทธมณฑล คุณภาพอากาศ "พอใช้" ถึง "ดีพอใช้" จึงมีให้คนเมืองหลวงได้หายใจ

    ไม่ว่าคุณภาพจะ แย่ แย่มาก พอใช้ หรือ ดีพอใช้ อย่างไร อากาศเหล่านั้นก็ย่อมถูกสูดเข้าไปในปอดของคนกรุง ใครอาศัยหรือทำงานที่ใด หรือเดินทางไปไหนก็สูดอากาศตรงนั้น ทุกๆ วินาที ทุกๆ ลมหายใจ

    ถ้าเป็นอย่างนั้น รูป "หน้ายิ้ม- หน้า งอ" บนแผนที่จะถูกแปะลงบนปอดคนกรุง เพื่อบอกถึงอากาศที่ไหลเวียนอยู่ในระบบทางเดินหายใจ และถุงลมของเราด้วยหรือเปล่านะ

    นอกจากนี้ อากาศแย่ ไม่ได้เป็นแค่ควันดำ หรือกลิ่นเหม็นของท่อไอเสีย

    แต่อากาศแย่ คืออากาศที่มีมลพิษอยู่เต็มไปหมด ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ อนุภาคฝุ่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ ตะกั่ว โอโซน สารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ที่ถูกปล่อยจากกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมและยานยนต์ ล้วนส่งผลต่อร่างกายของมนุษย์แน่นอน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ไม่ใช่แค่มนุษย์ สิ่งมีชีวิตกึ่งรากึ่งสาหร่ายอย่าง "ไลเคน" ซึ่งพบตามต้นไม้ ก้อนหิน กำแพง ฯลฯ ก็ไม่ชอบมลพิษพวกนี้ เพราะมันไม่มีสารเคลือบผิวใบ หรือคิวติเคิล (cuticle) ที่ช่วยป้องกันมลพิษอย่างที่ใบของพืชมี มลพิษจึงเข้าไปสะสมอยู่ในไลเคนได้โดยง่าย

    จากฐานความรู้เดิมที่นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญไลเคน อันได้แก่ ดร.กัณฑรีย์ บุญประกอบ และอาจารย์เวชศาสตร์ พลเยี่ยม แห่งหน่วยวิจัยไลเคน มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ ดร.วนารักษ์ ไซพันธ์แก้ว ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้พัฒนาไว้ พร้อมด้วยความช่วยเหลือจาก Patricia Wolseley แห่งสมาคมไลเคนแห่งสหราชอาณาจักร และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งลอนดอน ไลเคนชื่อพิสดาร 18 ชนิด จึงถูกเลือกเพื่อใช้ประเมินคุณภาพอากาศ

    ริ้วแพร, กลุ่มลายเส้น, ร้อยเหรียญ, ธิดามะกอกดำ, หลังตุ๊กแก, กลุ่มโดรายากิ, ไหทองโรยขมิ้น, พริกไทยร้อยเม็ด, กลุ่มลายเส้นผลรวม, สาวน้อยกระโปรงบานบางกอก, และ แป้งมณโฑ เป็นไลเคน 11 ชนิดที่ทนทานมลพิษ

    ไฝพระอินทร์, ร้อยรู, หัตถ์ทศกัณฐ์กุมน้ำแข็ง, และ สิวหัวช้างจิ๋ว ไลเคน 4 ชนิดนี้ ทนทานมลพิษได้มากกว่าพวกแรก

    แต่ ผักกาดหน่อแท่ง, ผักกาดหน่อฟอง, และพาสต้าเส้นแบน ชอบอากาศดี ยังไม่มีให้เห็นในกรุงเทพฯ เลย

    การดูสังคมไลเคน ว่ามีไลเคนชนิดใดปรากฏอยู่บ้าง จึงทำให้เรารู้ถึงคุณภาพอากาศ ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป ต่างใช้ไลเคนควบคู่ไปกับการใช้เครื่องตรวจจับอากาศ ในการประ เมินคุณภาพอากาศอย่างแพร่หลาย

    ตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 ถึงพฤษภาคม 2553 เป็นเวลา 9 เดือน ที่เด็กนักเรียนมัธยม เด็กมหาวิทยา ลัย คุณครู และผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์อาชีพ แต่ผ่านการฝึกอบรมเรียนรู้เรื่องไลเคนเป็นอย่างดี ช่วยกันออกสำรวจพื้นที่ธรรมดาๆ ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ เช่น วัด ริมถนน สวนสาธารณะ ทั้งหมด 214 แห่ง ดูไลเคนบนต้นไม้กว่า 2,000 ต้น

    ด้วย "อาวุธ" เพียงไม่กี่อย่าง นั่นคือ คู่มือสำรวจไลเคน "นักสืบสายลม คู่มือสำรวจไลเคนกรุงเทพฯ ตรวจคุณภาพอากาศเมือง" แว่นขยายส่องพระ สายวัด (สำหรับวัดเส้นรอบวงต้นไม้) สมุดบันทึกและดินสอ กับความร่วมแรงร่วมใจ แผนที่ "มองคุณภาพอากาศกรุงเทพฯ ผ่านไลเคน 2010" จึงปรากฏเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็น

    พูดได้ว่าปฏิบัติการสำรวจไลเคนหนนี้ คือการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศกรุงเทพฯ ด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่ใครๆ ทุกคนทำได้ เป็นครั้งแรก

    ไม่ว่าแผนที่ฉบับนี้จะทำให้คนกรุงเทพฯ ตระ หนักถึงปัญหาคุณภาพอากาศ ไม่ยอมจำนน และหันมาสนใจแก้ปัญหาด้วยกันหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อย เด็กและผู้ใหญ่ชาวกรุงเทพฯ อย่างน้อย 300-400 คน จาก 12 ล้านคน ก็รู้จักไลเคนและ "อ่าน" คุณภาพอากาศออก เหมือนที่อ่านหนังสือได้

    อย่างน้อยเด็กและผู้ใหญ่เหล่านี้ก็รู้แล้วว่า ที่ใดที่สิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ได้ มนุษย์เราก็อยู่ได้

    ข้อมูลเพิ่มเติม : www.greenworld.or.th
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2010
  13. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เกิดฝนตกหนักที่มาบตาพุด จ.ระยอง

    [​IMG]
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ได้แน่นอนครับ อ่านรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ

    สวนดาดฟ้า บทเรียนก่อนการออกสู่เศรษฐกิจพอเพียง ([​IMG] 1 2 3)
    kananun

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2010
  15. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    น้ำท่วม-ดินถล่ม ตาย400 'จีน'วิกฤตหนัก

    น้ำท่วม-ดินถล่ม ตาย400 'จีน'วิกฤตหนัก


    [​IMG]
    เหตุน้ำท่วมและดินถล่มจากฝนตกหนักทางภาคใต้ของจีน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต
    มากกว่า 400 คน คาดยังเกิดฝนตกหนักในอีก 3 วันข้างหน้า สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายยิ่งขึ้น......

    สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า ถนนหนทางอย่างน้อย 221
    สาย ในมณฑลอานฮุย ทางภาคใต้ พังเสียหาย เช่นเดียวกับทางหลวงหลายสิบ
    เส้นทางและสะพานหลายแห่งที่จมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ประชาชนในหลายเมืองต้อง
    ใช้เรือเป็นยานพาหนะ ฝนที่ตกหนักนอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 คน
    และสูญหายอีกหลายสิบคนแล้ว ยังทำให้ชาวบ้านเกือบ 15 ล้านคน ที่อาศัย
    ตามริมฝั่งแม่น้ำแยงซีได้รับความเดือดร้อน

    ขณะที่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของจีน คาดการณ์ว่า จะยังเกิดฝนตกหนักในอีก
    3 วันข้างหน้า ในพื้นที่ทางตะวันตกและตอนกลางของน้ำ ซึ่งจะยิ่งทำให้
    สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายยิ่งขึ้น
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ศรีสะเกษ-พายุฝนพัดถล่มบ้านเรือนชาวบ้าน

    [​IMG]

    พายุฝนพัดถล่มบ้านเรือนชาวบ้านที่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เสียหายกว่า 13 หลังคาเรือน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิยม วรรณา รองนายกเทศบาล ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ได้นำคณะออกตรวจสอบสภาพบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากลมพายุฝนพัดถล่มที่บ้านโพนดวน หมู่ 4 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและได้พัดถล่มบ้านเรือนของชาวบ้านพังเสียหาย เมื่อคืนวันที่ 12 ก.ค. 2553 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จำนวน 13 หลังคาเรือน โดยบ้าน 1 หลัง ได้ถูกพายุฝนพัดถล่มลงมาพังเสียหายทั้งหลัง ซึ่งค่าเสียหายเบื้องต้นอยู่ระหว่างการสำรวจ

    นายนิยม วรรณา รองนายกเทศบาล ต.บุสูง กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางเทศบาล ต.บุสูง จะได้มีการช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายในด้านอุปกรณ์วัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนในเบื้องต้นก่อน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 70,000 บาท ซึ่งนอกจากที่บ้านโพนดวนแล้ว ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านในหมู่บ้านต่าง ๆ ของ ต.บุสูง ได้รับผลกระทบจากพายุฝนพัดถล่มในครั้งนี้อีกด้วย โดยทางเทศบาล ต.บุสูง จะได้ออกตรวจสอบ และให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจประเมินความเสียหายของบ้านเรือนทั้งหมด เพื่อจะได้แจ้งให้ทางอำเภอและจังหวัดทราบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในลำดับต่อไป

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    สตูล-กระแสน้ำเชี่ยวพัดกระชังปลาเสียหายนับล้าน

    [​IMG]

    กระชังปลาถูกน้ำเชี่ยวพัด เสียหายปลากว่า 4 หมื่นตัวหายในพริบตา

    เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังจำนวน 12 รายต่างช่วยกันเก็บอวนและซากกระชังปลากว่า 100 กระชังที่ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำทะเลที่เชี่ยวกราดผิดปกติ จนพัดพากระชังปลาที่เลี้ยงไว้ในคลองละงู ม.2 ต.ปากน้ำอ.ละงู จ.สตูล ทำให้ปลากระพงที่เลี้ยงไว้กว่า 45,000 ตัวหลุดออกจากกระชังปลาและบางตัวก็ตายติดกับกระชังปลาที่เสียหาย โดยปลาส่วนใหญ่ที่ได้รับความเสียหายเป็นปลาขนาด 1ก.ก.เศษตกตัวละ 135 บาท ซึ่งชาวบ้านเตรียมจะเก็บขายในวันที่ 16 ก.ค.นี้แล้ว​

    นายยูดี สะอิด อายุ 38 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวและเป็นผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนสังเกตเห็น น้ำในลำคลองมีมากกว่าทุกวันและไหลเชี่ยวกราก ผิดปกติ โดยตอนแรกได้พัดกระชังปลาที่อยู่ด้านเหนือ 6 กระชังขาดออก จากนั้นกระชังทั้ง 6 กระชัง ได้ไหลไปชนทับกระชังชาวบ้านอื่น ๆ ที่อยู่ด้านใต้ทำให้ได้รับความเสียหายรวมกว่า 100 กระชัง รวมมูลค่าทั้งปลาและกระชังเสียหายนับล้านบาท​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    มหาสารคาม-แล้งยังวิกฤตน้ำในอ่างเหลือร้อยละ 30 เลี่ยงทำนา

    [​IMG]

    ที่จังหวัดมหาสารคาม สถานการณ์ภัยแล้งยังอยู่ในระดับที่รุนแรง วอนผู้กลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำให้ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อเก็บสำรองไว้อุปโภคบริโภคก่อนเป็นลำดับแรก และใช้เพื่อการเกษตรเป็นลำดับสุดท้าย

    นายวรรัตน์ ประวาลปัทมกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่ง โดยรวมเหลือเพียง 30 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือว่ามีปัญหาต่อการใช้น้ำของประชาชน เนื่องจากในช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา มีฝนตกน้อย ในบางพื้นที่ไม่มีฝนตกมานานกว่า 2 เดือน จึงได้มีการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ใช้น้ำทราบสถานการณ์ดังกล่าว​

    อย่างไรก็ตามจากการคำนวณปริมาณน้ำที่เหลือในอ่างเก็บน้ำ ภาพรวมยังคงมีปริมาณเพียงพอที่จะใช้ในการตกกล้า แต่ก็อยากขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดไปก่อนในช่วงนี้ เพื่อเก็บสำรองไว้สำหรับอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรกและใช้เพื่อการเกษตรเป็นลำดับสุดท้าย​

    ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งล่าสุดพบว่ามีปริมาณน้ำเก็บกักเพียง 42.67 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 31.36 ของปริมาณความจุอ่างเก็บน้ำ 81.20 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำที่น่าห่วงและถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ คืออ่างเก็บน้ำ หนองทุ่ม อำเภอเมือง เหลือปริมาณน้ำเพียงร้อยละ 5.39 อ่างเก็บน้ำหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม มีปริมาณน้ำเหลือเพียง 9.89 และอ่างเก็บน้ำเอกสัตย์สุนทร อำเภอบรบือ มีปริมาณน้ำเหลือเพียง ร้อยละ 7.24 ​

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2010
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    Raining Cats and Frogs
    เมื่อกบพยากรณ์น้ำท่วมโลก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เรื่องราวของเรือโนอาห์ มักปรากฏให้เห็นอยู่บนภาพยนตร์อยู่เรื่อยๆ และมีการดัดแปลงให้เหมาะสมตามสถานการณ์และความเหมาะสม ในโลกแห่งภาพยนตร์การ์ตูนก็ไม่แตกต่าง ในเมื่อโลกปัจจุบันสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความแปรปรวนทางธรรมชาติ และมนุษย์ต้องรับผิดชอบกับการเป็นต้นเหตุของธรรมชาติพิโรธเหล่านั้น <?XML:NAMESPACE PREFIX = ST1 /><ST1:pERSONNAME w:st="on" productid="La Proph←tie">La Prophétie</ST1:pERSONNAME> des grenouilles การ์ตูนฝรั่งเศส ที่แปลว่าคำพยากรณ์ของเหล่ากบ และเมื่อไปฉายที่อเมริกาก็มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Raining Cats and Frogs คำเลียนสำนวนในภาษาอังกฤษ ที่หมายถึงเรื่องเล่าเหตุการณ์ฝนตกอย่างหนัก ที่อธิบายสาเหตุไม่ได้ในประเทศอังกฤษยุคศตวรรษที่ 17

    ซึ่งห่าฝนมาพร้อมกับการร่วงหล่นลงมาของสัตว์ที่ตายแล้ว อย่างสุนัขและแมวจนมีคำพูดว่า Raining Cats and Dogs เพื่ออธิบายปรากฏผิดปกติของธรรมชาตินี้ Raining Cats and Frogs เป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่กล่าวถึงคำเตือนของเหล่ากบ ที่มีต่อมนุษย์ว่าฝนจะตกเป็นห่าใหญ่ จนโลกต้องตกอยู่ใต้น้ำและเป็นวาระสุดท้ายของเหล่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนบกทั้งหลาย และเป็นที่มาของเรือลำหนึ่งที่คล้ายตำนานเรื่องเรือของโนอาห์ ที่พามนุษย์และสัตว์ที่รอดชีวิตค้นหาดินแดนเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติอยู่บ้าง และก็ได้รับการกล่าวขานจากการเป็นการ์ตูนที่เรียบง่าย ไม่ใช้เทคนิคอะไรมาก แต่เนื้อเรื่องลุ่มลึกถึงจิตใจของมนุษย์ และการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในวันที่เกิดหายนะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    จาคส์ เรอมี่ เจอร์ราร์ด (Jacques-Rémy Girerd) ผู้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ ต้องใช้เวลาถึง 6 ปีเต็ม เพื่อสร้างงานระดับมาสเตอร์พีซเรื่องนี้ โดยเขียนบทอยู่ 2 ปี งานสร้างอีก 3 ปี และที่เหลือคืองานเก็บรายละเอียดและความพร้อมก่อนฉาย นั่นหมายถึงวันหนึ่งๆ จะสร้างภาพในเรื่องนี้ได้เพียง 8 – 10 วินาทีโดยเฉลี่ย แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากและการใส่ใจของผู้กำกับรายนี้เป็นอย่างมาก และคำชมก็มาจากนักวิจารณ์ที่มองว่าการ์ตูนเรื่องนี้ แตกต่างจากการ์ตูนของฮอลลีวู๊ดเป็นอย่างมาก ความงดงามอยู่ในลายเส้นของการ์ตูนที่เรียบง่ายและรายละเอียดที่น่าทึ่งมาก รวมทั้งเนื้อหาที่สอดรับกับปัญหาที่มนุษย์ชาติเผชิญอยู่ และความดีงามของมนุษย์ที่จะทำให้ฝ่าวิกฤตินั้นไปได้
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    [​IMG]

    ทอม เด็กน้อยที่อาศัยอยู่กับครอบครัวบุญธรรม เฟอรฺดินันด์อดีตกลาสีเรือและจูเลียดภรรยาผิวสีของเขา และเช้าวันหนึ่งพวกเขาต้องไปรับเด็กหญิงที่ชื่อลิลี่ เนื่องจากพ่อแม่ของเธอต้องไปล่าจระเข้เพื่อเอามาไว้ในสวนสัตว์ ขณะเดียวกันที่บึงข้างล่าง เหล่ากบก็กำลังพูดคุยถึงเรื่องสำคัญ และเมื่อเหล่ากบต่างได้ข้อมูลจากกบทุกแหล่ง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า พวกเขาได้พยากรณ์ว่าฝนจะตกอย่างหนักติดต่อกัน 40 วัน 40 คืน ปริมาณน้ำจะสูงขึ้น น้ำจะท่วมโลก และสิ่งมีชีวิตจะพบจุดจบ และกบก็พากันมาเตือนทอมกับลิลี่กับภัยพิบัติที่กำลังมาถึงนั้น

    แต่ช้าไปแล้ว ฝนได้ตกติดต่อกันตามทำนาย น้ำท่วมจนไม่เห็นฝั่ง แต่โชคดีที่ทอม ลิลี่ และครอบครัวบุญธรรมของเขา ต่างพากันหนีขึ้นมาบนโรงเรือที่มีรูปร่างเหมือนโรงนาได้อย่างปลอดภัย แต่เหล่าสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์ต่างก็พากันหนีขึ้นเรือลำเดียวกันได้ทั้งหมด รวมทั้งเรือนี้ยังมีมันฝรั่ง 28 ตันเพื่อรองรับสำหรับอาหารเพื่อประทังความหิว ปัญหาก็คือเหล่าสัตว์ที่อยู่บนเรือมี สัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหารอย่างสิงโตและสุนัขจิ้งจอก นอกจากนั้นยังมีเหล่าฝูงจระเข้ที่กำลังเข้ารุมทำร้าย รวมทั้งมีไส้ศึกเพื่อทำให้เกิดความแตกแยกภายในเรืออีก ทอมและครอบครัวจะสามารถพาเรือโนอาห์ลำเล็ก ให้รอดปลอดภัยถึงฝั่งที่ยังมองไม่เห็นได้หรือเปล่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    <O:p></O:p>
    ภาพยนตร์ที่มีภาพวาดเหมือนิทานประกอบภาพสำหรับเยาวชน นอกจากดูง่ายเหมาะสำหรับเด็กทั่วๆไปแล้ว ยังมีเนื้อหาแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ต้องฉุกคิดกับบทเรียนที่จะได้จากเรื่อง เฟอร์ดินันด์ อดีตกลาสีเรือที่ทำงานหนัก ขยันเป็นเสาหลักของครอบครัว แม้รูปร่างจะใหญ่โตกลับมีจิตใจอารีและสอนบรรดาสัตว์ทั้งหลาย รวมทั้งพวกสัตว์กินเนื้อด้วยว่า แม้ธรรมชาติแต่เดิมจะเป็นมาอย่างไรไม่มีใครปฏิเสธ แต่เมื่อยามวิกฤติเราทุกคนต้องอยู่รอดปลอดภัย

    ดังนั้นสัตว์กินเนื้อก็ต้องกินมันฝรั่งเพื่ออยู่รอดได้โดยไม่มีใครต้องเจ็บตัว นอกจากนี้ยังมีการสอนให้รู้การให้อภัย และวิถีของการอยู่รวมกันของคน สัตว์ เด็ก ผู้ใหญ่ ผิวขาว หรือผิวสี ต่างก็อยู่รวมกันได้แม้แต่ในเรือแคบๆ เป็นโอกาสที่ดีที่เปิดให้เด็กได้ชมและผู้ปกครองก็สอนบทเรียนให้เด็กได้ซึมซับไปด้วย และถ้าในภาพยนตร์เรื่อง 2012 อธิบายเรือยักษ์ที่บรรทุกมนุษย์ที่มีเงินพร้อมจ่ายค่าตั๋ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็กลับวิธีคิดว่า มนุษย์พันธ์ไหนควรจะอยู่รอดเพื่อสร้างโลกใบใหม่แม้แต่ในยามที่ไม่เกิดวิกฤติก็ตาม

    Posted by รักพงษ์ วันพุธ ที่ 13 มกราคม 2553 21:16:30 น.

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/rukpong/2010/01/13/entry-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ac.jpg
      ac.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.8 KB
      เปิดดู:
      1,384
    • raining-frog-fabric.jpg
      raining-frog-fabric.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.1 KB
      เปิดดู:
      1,404
    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.9 KB
      เปิดดู:
      1,457
    • 02.jpg
      02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.6 KB
      เปิดดู:
      1,460
    • 08.jpg
      08.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.2 KB
      เปิดดู:
      76
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.3 KB
      เปิดดู:
      1,697
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.4 KB
      เปิดดู:
      66
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67 KB
      เปิดดู:
      1,367
    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      69
    • ab.jpg
      ab.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.3 KB
      เปิดดู:
      1,398
    • p02.jpg
      p02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.4 KB
      เปิดดู:
      71
    • ad.jpg
      ad.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.4 KB
      เปิดดู:
      1,458
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2010
  18. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    พายุ"โกนเซิน"ถล่มเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์
    14 กค. 2553 08:39 น.



    <DD>พายุไต้ฝุ่น โกนเซิน ได้พัดกระหน่ำเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ สร้างความเสียหายในกรุงมะนิลา และกวาดกระท่อมหลายหลังลงทะเล เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันพลเรือน เปิดเผยว่า ชาวประมง 19 คน จากเกาะคาตันดัวเนส ที่อยู่ทางตะวันออก ไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้ และสูญหายไปในทะเล หลังจากพายุพัดกระหน่ำเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ระบบการคมนาคมสื่อสารได้ล่มไป และเจ้าหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติกำลังพยายามตรวจสอบสภาพความเสียหาย

    <DD>ได้เกิดไฟฟ้าดับตลอดทั่วทั้งเกาะลูซอน รวมทั้งในกรุงมะนิลา ที่ตกอยู่ในสภาพกิ่งไม้และเศษซากอื่น ๆ เกลื่อนถนน ระบบรถไฟที่มีรางแล่นอยู่เหนือถนน ต้องปิดให้บริการ เพราะไฟฟ้าดับ ระดับน้ำที่ท่วมถึงเข่าและต้นไม้ที่หักโค่น ยังคงกีดขวางถนนทั้งในและรอบเมืองหลวง ทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อการจราจรอีกด้วย

    <DD>สิ่งปลูกสร้างง่าย ๆ เพื่อการพักอาศัยของประชาชนที่เข้าไปจับจองพื้นที่บริเวณชายฝั่งใกล้กรุงมะนิลา ได้ถูกพายุพัดพังราบ สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน ที่ต้องตากฝนไปหาเศษไม้มาสร้างที่กำบังตัวชั่วคราว รัฐบาลได้ประกาศให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนทุกระดับชั้นในกรุงมะนิลา

    <DD>ทั้งนี้ เที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกจากกรุงมะนิลา ถูกยกเลิกในช่วงที่พายุโกนเซินพัดผ่าน แต่เจ้าหน้าที่สนามบิน ยืนยันว่า ได้กลับมาให้บริการตามปกติแล้วหลังจากพายุเคลื่อนตัวจากไป ซึ่งพายุโกนเซินนั้น พัดด้วยความแรงลมสูงนุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนที่เข้ากระหน่ำพื้นที่ทางตะวันออกของเกาะลูซอน เมื่อวันอังคาร ก่อนจะพัดออกไปในช่วงรุ่งเช้าของวันนี้ มุ่งหน้าสู่ทะเลจีนใต้ ด้วยความเร็ว 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


    </DD>
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภาพยนต์แห่งจินตนาการ "น้ำท่วมโลก"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ทำไมถึงประทับใจเรื่องนี้?

    ก็คงเพราะจินตนาการอันล้ำลึกของผู้แต่งเรื่องล่ะมั้ง...เพราะนี้เป็นจินตนาการหนึ่งของผู้ที่คิดว่าอนาคตเมื่อ 'น้ำท่วมโลก' แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่แตกต่าง...

    เพราะหนังไม่ได้บอกแค่แผ่นดินนั้นจมลงไปใต้มหาสมุทร เนื้อเรื่องได้กล่าวอ้างถึงความเชื่อของผู้คน วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ยังมีการพัฒนาการ(ของพระเอก) ที่มีเหงือกอยู่ตรงหลังหูทำให้หายใจในน้ำได้

    มีอะไรมากมายที่ยิ่งดูยิ่งประทับใจ อยากให้หลายๆคนได้ดู.. เผื่อจะรักโลกและอนุรักษ์โลกนี้ มากขึ้น

    โพสต์โดยคุณ Fortunatus Era

    ที่มา http://writer.dek-d.com/littlefable/writer/viewlongc.php?id=498777&chapter=18
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6cq2a2c.jpg
      6cq2a2c.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81 KB
      เปิดดู:
      1,316
    • 21.jpg
      21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.2 KB
      เปิดดู:
      72
    • waterworld.jpg
      waterworld.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.7 KB
      เปิดดู:
      1,322
    • waterworld 1.jpg
      waterworld 1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.2 KB
      เปิดดู:
      1,336
    • css4i.jpg
      css4i.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      56
  20. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    ไต้ฝุ่นถล่มฟิลิปปินส์ดับ 3 ชีวิต เมืองหลวงเสียหายหนัก

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr> <td align="right" valign="bottom" width="1" height="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" valign="bottom" height="1">[​IMG]</td> <td align="left" valign="bottom" width="1" height="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> <td> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
    เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ และผู้อยู่ในเหตุการณ์เผยไต้ฝุ่นโกนเซินพัดถล่มทั่วเกาะสำคัญของฟิลิปปินส์ ทิ้งร่องรอยความเสียหายในกรุงมะนิลา และพัดพาเอาเพิงที่พักลงทะเลเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

    จ้าหน้าที่ป้องกันพลเมืองเผยว่า ชาวประมง 19 คนจากเกาะคาตันดัวเนส ทางตะวันออกยังไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้ และอาจกำลังสูญหายอยู่ในทะเล หลังจากพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มพื้นที่ดังกล่าวในคืนวันอังคาร (13) ที่ผ่านมา

    เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน และอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ เมื่อต้นมะม่วงต้นหนึ่งโค่นล้มลงมาทับ ในเมืองเล็กๆ ห่างจากกรุงมะนิลาราว 40 กิโลเมตร

    ด้านสภาความร่วมมือด้านภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอีกรายหลังจากถูกชิ้นส่วนหลังคาบ้านหล่นทับในย่านชานกรุง มะนิลา

    ระบบสื่อสารคมนาคมล้มเหลวท่ามกลางความสับสนวุ่นวุายหลังพายุพัดถล่ม ขณะที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ยังพยายามประเมินความเสียหายในครั้งนี้

    นอกจากนี้ เกาะลูซอนยังประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วทั้งเกาะ รวมถึงกรุงมะนิลา ทำให้ระบบรถไฟในเมืองใช้งานไม่ได้ อีกทั้งยังมีต้นไม้โค่นล้ม น้ำท่วมถึงหัวเข่า และซากปรักหักพังเกลื่อนท้องถนน ปิดเส้นทางการจราจรทำให้การจราจรติดขัด

    สำหรับหลายเมืองที่เป็นเพิงพักที่อยู่อาศัยกระจัดกระจายตามแนวชาย ฝั่งใกล้เมืองหลวงของประเทศก็ถูกลมพายุพัดพาลงทะเลไป ชาวบ้าน ที่ต่างรู้สึกตกใจ ต้องหาไม้มาสร้างที่พักพิงชั่วคราว

    รัฐบาลยังประกาศให้โรงเรียน และสถานศึกษาหลายระดับชั้นในกรุงมะนิลาหยุดการเรียนการสอน เที่ยวบินหลายสายก็ต้องถูกยกเลิกไป โดยเจ้าหน้าที่สนามบินเชื่อว่าจะสามารถให้บริการได้ตามปกติ หลังพายุพัดผ่านไปแล้ว

    ทั้งนี้ พายุโกนเซิน ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดเข้าทางด้านตะวันออกของเกาะลูซอน และถล่มทั่วทั้งเกาะในคืนที่ผ่านมา ก่อนจะพัดผ่านไปรุ่งสางวันนี้ (13) โดยมุ่งหน้าไปทางตะวันตกของทะเลจีนใต้ด้วยความเร็ว 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กรกฎาคม 2553 10:38 น.
     

แชร์หน้านี้

Loading...