ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ชัยธนันท์

    ชัยธนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    859
    ค่าพลัง:
    +1,488
    ทุกอย่างเวลาจะเกิดเหตุการณ์จะมีบางอย่างมาเตือน แต่รอบนี้คงหนักหนาแน่เลยเพราะมาเตือนกันแบบต่อเนื่อง ทางหลุดพ้นคือทุกคนต้องมีศีลธรรม ทำแต่กรรมดีกันให้มากๆครับ
     
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ขอข่าวนอกเรื่องนิดครับ แต่ก็ยังเกี่ยวกับคนดังที่พูดเรื่องโลกร้อน ไม่สมควร ไม่เหมาะสม ลบได้ครับ

    วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 08:35:40 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]"อัล กอร์"ปิดฉากชีวิตรัก40ปีแยกทาง"ภรรยา" เผยเดินสาย"รณรงค์โลกร้อน"เหตุห่าง[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ด้ส่งอี-เมล์ แจ้งให้บรรดาคนใกล้ชิดทราบเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาและนางทิปเปอร์ ภรรยา ได้ประกาสแยกทางในชีวิตคู่สมรสแล้ว หลังแต่งงานกันมาครบ 40 ปี เมื่อ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการแยกทางดังกล่าวเป็นความเห็นพ้องต้องกันและได้คิดอย่างรอบคอบแล้วของ ทั้ง 2 ฝ่าย

    ด้านคาลี่ ไครเดอร์ โฆษกหญิงของกอร์ ยืนยันว่า แถลงการณ์นี้มาจากคู่สามีภรรยากอร์จริง แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติม ขณะที่คนใกล้ชิดบอกว่า ทั้งคู่ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องของบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง แต่อดีตประธานาธิบดีอัล กอร์ ผู้หันมารณรงค์เรื่องโลกร้อน เดินทางบ่อยครั้งและพวกเขาต่างใช้ชีวิตห่างกันมากขึ้นทุกที

    ทั้งนี้ อัล กอร์ เคยเป็นรองประธานาธิบดีของสหรัฐสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน และพ่ายแพ้ในการลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2543 ต่อนายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช หลังจากนั้นเขาได้พลิกบทบาทไปเป็นนักรณรงค์เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปี 2550 กอร์เพิ่งได้รับรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์สารคดีเรื่อง "An Inconvinient Truth" หลังเขาได้เขียนหนังสือชื่อ An Inconvinient Truth และทางสำนักพิมพ์มติชน ได้แปลเป็นภาษาไทยโดย คุณากร วาณิช์วิรุฬห์ และให้ชื่อว่า "โลกร้อน ความจริงที่ไม่มีใครอยากฟัง" นอกจากนี้ เขายัง คว้าโนเบล สาขาสันติภาพ ประจำปี 2550 รับรางวัลร่วมกับไอพีซีซี สหประชาชาติ ในฐานะผู้รณรงค์แก้ไขภาวะโลกร้อน กอร์เผยเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลนี้ ระบุวิกฤตโลกร้อนไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องสำคัญของมนุษยชาติ พร้อมแบ่งรางวัล 52.5 ล้าน จะแบ่งให้กับองค์กรที่ทำงานด้านภูมิอากาศ



    [/FONT]
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi][​IMG]
    [/FONT]​
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ไปพักผ่อนอยู่ระยะหนึ่ง พึ่งกลับมาทำงานเนี่ยะ จิตสงบดี
    ปิดสัญญาณทุกอย่าง อยู่กับธรรมชาติ
    แต่สังเกตเมฆแผ่นดินไหวเยอะมาก ยังบอกกับพ่อเลยว่าเนียะสงสัยต้องมีแผ่นดินไหวแรงๆ ที่ไหนแน่ๆ เลย

    เออมีอีกเรื่องนึง คือ เมื่อสองวันก่อน นอนๆ อยู่ หัวค่ำอากาศค่อนข้างร้อน แต่พอกลางคืน อากาศอยู่ดีๆ หนาวจัดมาก หนาวกว่าฤดูหนาวอีก งงมากเลย ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น :boo:
     
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หลุมขนาดใหญ่เกิด กลางกัวเตมาลา ซิตี้ มาพร้อมกับพายุ อกาธา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>หลุม-หลุมขนาดใหญ่เกิด กลางกัวเตมาลา ซิตี้ มาพร้อมกับพายุ อกาธา


    [​IMG]


    หลุม-หลุมขนาดใหญ่เกิดกลาง กัวเตมาลา ซิตี้ มาพร้อมกับพายุ อกาธา ที่พัดถล่มอย่างหนัก หลุมนี้ได้กลืนตึก 3 ชั้นและได้ฆ่าชีวิตคนไป 3 คน ขณะนี้ยังค้นหาสาเหตุที่แท้จริงอยู่
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    Thank you : Reuters Pictures


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    หลุมแบบนี้ ในประเทศไทย ก็ยังพอมีอยู่บ้างครับ แต่ไม่ลึกและไม่ใหญ่เท่านี้

    แสดงว่าใต้ดิน มันผิดปกติ มาก เลยครับ
     
  6. Ashita-p

    Ashita-p Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +95
    o_O

    เมื่อเย็นประมาณ 6 โมงเย็น ท้องฟ้าเป็นแบบนี้อ่ะค่ะ เป็นสีหลายสีเหลือบอยู่บนก้อนเมฆ มองแบบธรรมชาติก็สวยดี มองอีกทีมันก็เป็นการหักเหของแสงนั่นเอง

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  7. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผมก็เห็นท้องฟ้าแบบนี้เหมือนกันครับ มองแล้วสวยดี
     
  8. ยาล้างตา

    ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    ผมก็เห็นบ่อยครับเมฆแบบนี้สวยดี ส่วนแผ่นดินไหว เดี๋ยวนี้มันก็ไหวเกือบทุกวันเป็นปกติครับแล้วครับ ที่นั่นที ทีนี่หน โลกคงกำลังออกกำลังจัดระเบียบตัวเองใหม่ รักษากายใจไว้ให้ครบพร้อมสติกันนะครับ
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รวมคำทำนายเรื่องภัยพิบัติ ปี 2555-2560
    โดยพระอริยะสงฆ์ของไทย

    [​IMG]

    คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล

    คำถามนี้ถามเนื่องจาก เมื่อวันเสาร์ที่ 21 พ.ย. 2552 เวลาสองทุ่มกว่าๆสามทุ่ม หลวงปู่พูดเปรยๆว่า:

    อีก 3 ปีไทยจะขาดแคลนน้ำ แต่ที่ไหนมีการแก้ไข ก็จะมีน้ำ พออยู่กันได้

    ประมาณนี้.. ซึ่งเราก็เลยสงสัยเล็กน้อย ก็เลยคุยกับเพื่อนๆ คนนู้นคนนี้ เพื่อนคนหนึ่งเลยบอกให้ตั้งคำถามถามหลวงปู่สิ คนที่อยากรู้คงมีเยอะ เราจึงได้ถามคำถามไป 5 ข้อค่ะ และเมื่อวาน วันที่ 28 พ.ย. 2552 เวลาดึกๆหลังสามทุ่ม หลวงปู่ก็ตอบค่ะ:

    1. เฉพาะกับเหตุการณ์ครั้งนี้ มีรายละเอียดเรื่องนี้ในพระไตรปิฎก เล่มไหน หน้าไหน หรือเปล่าคะ (ส่วนเหตุการณ์ภัยพิบัติอื่นๆ หนูได้อ่านพระไตรปิฎกตามหัวข้อที่วัดคัดลอกมาแล้ว)

    หลวงปู่บอกว่า ทำนายฝัน พระเจ้าปเสนทิโกศล .. เหตุภัยพิบัติมันมีมานานแล้ว และมันก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ มา ไป มา ไป เป็นธรรมดาๆของมัน ไม่ถึงขนาดในหนังเรื่อง 2012 ที่มันเว่อร์ๆแบบนั้นหรอก

    2. ขาดแคลนน้ำด้วยสาเหตุอะไรคะ

    หลวงปู่บอกว่า เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม เครื่องกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืดเดี๋ยวนี้ก็มี แต่พอถึงเวลานั้นมันใช้ไม่ได้หรอก

    3. และพระอาจารย์พอจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้หรือไม่คะ ว่าท่านเห็นอะไรและอย่างไรบ้าง

    ผู้ช่วยอ่านคำถามบอกว่า (คนถามคง)เริ่มวิตกแล้วล่ะ และหลวงปู่บอกว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะตายหรอก (คนเรา)ได้ตายแน่ๆแหละ ไม่ต้องหาทางหนี

    4. ที่อื่นๆนอกจากแถวน้ำหนาว พออยู่ได้ไหมคะ เช่น กรุงเทพ, นครปฐม, อเมริกาเหนือ

    หลวงปู่บอกว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งทวีป อยู่ได้หมด ที่ไหนมีการแก้ไขก็อยู่ได้ อุทิศบุญต่างๆนานา เกิดปัญหาอะไรก็ให้ค่อยๆแก้ไขไป

    ผู้ช่วยถามคำถามถามหลวงปู่ว่า มีคนรอดเยอะไหม

    หลวงปู่บอกว่า รอดเยอะมาก และตายเยอะมากเช่นกัน

    5. หนูและครอบครัวถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างเคร่งครัด พอช่วยได้ไหมคะ

    หลวงปู่บอกว่า ตอบไปแล้ว


    ประมาณนี้ค่ะ.. ขอบคุณค่ะ

    ไฟล์เสียง คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

    ที่มา http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2268.0

    *****************************************************************

    คำเตือนจากปู่อินทร์ตาทิพย์เขาตำแยอายุ 109 ปี

    ปู่บอกว่าภัยพิบัติจะเกิดตามหนังสือพุทธทำนายไว้ จะแรงบ้างหรือเบาบ้างขึ้นอยู่กับว่าครูบาอาจารย์ได้ช่วยไว้หรือไม่ แต่ปลายปี 2555 ต่อเนื่องปี 2556 เหตุการณ์จะรุนแรงมาก ด้วยเหตุ 3 อย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ประการแรก บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ หาก..... ละสังขาร ประการสอง พายุจะถล่มเมืองไทย และที่อื่นๆ ประการสามน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในโลก หลายๆประเทศจะต้องเกิดเหมือนกัน จะรุนแรงไปเรื่อยๆ ผู้คนจะตายมากเป็นประวัติการณ์ ผู้คนจะเหลือแค่ 30% ของประชากรที่นั้นๆ

    ปัจจุบันนี้ผู้คนไม่มีศีลธรรม ไม่ละอายแก่บาป เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กรรมของใครๆ แต่นี่คือวัฎรจักรของโลก บ้านเมืองเจริญขึ้น แต่จิตใจมนุษย์เจริญลง ยิ่งการสมสู่มนุษย์ต่อกันเดียวนี้ไม่มีเลือกผัวเลือกเมียหรือลูกหลาน นี่แหละกลียุคตามคำทำนายขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพุทธโคดม เหตุดังกล่าวจะเบาลงและสิ้นสุดปี 2560 ผู้คนที่รอดพ้นจากภัยพิภัยคือผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ในศีลธรรม กตัญญูต่อบิดามารดา ละอายแก่บาป จงเป็นผู้รู้ในกิเลส และผู้ตื่นจากกิเลส สุดท้ายก็ไกลจากกิเลส

    ภัยพิบัติที่จะเกิด เมืองไทยจะมีการเตือนภัยล่วงหน้า จากในหลวงของเรา และท่านสมิทธ ธรรมสโรช (พูดแบบภาษาธรรม พระองค์ท่านในหลวงและคุณสมิทธมีสื่อจากผู้ดูแลมนุษย์ในโลกนี้ จะบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้คนเตรียมตัวหนีจากภัยที่จะเกิด) ส่วนเส้นทางหลบหนีปู่บอกว่าผู้คนจะหนีมุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ และรถจะติดมากผู้คนต่างแย่งกันโกลาหลน่าดู และสุดท้ายหางแถวจะหนีไม่รอดนั้นเอง สระบุรีตั้งที่องค์พระนั่งสูง ตรงนั้นแผ่นดินจะยุบตัวลง เพราะข้างล่างเป็นบ่อน้ำใต้บาดาล ส่วนถนนที่พอจะรอดก็คือ กบินทร์-นครราชสีมา,นครนายก หรือเส้นทางอื่นๆที่ไม่ใช่มิตรภาพ แต่ส่วนมากผู้คนจะเลือกเส้นทางมิตรภาพมากเพราะไปได้ทั้งเหนือและอีสาน ขอเตือนไม่จำเป็นจะต้องไปอีสานอย่างเดียวนะครับ ภาคเหนือก็ไปได้

    (ปู่บอกแล้วเตือนแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่บุญของเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติธรรมส่วนมากจะรอด แม่บอกอย่างนี้) มนุษย์จากตัวใหญ่ลงมาถึงตัวเล็ก และกำลังเปลี่ยนแปลงจากเล็กไปหาใหญ่เรื่อยๆ สังเกตุจากลูกหลานจะเริ่มสูงใหญ่กว่าพ่อแม่แล้ว และค่อยเป็นค่อยเปลี่ยนไปตลอด

    ปล.ลูกเมืองสกลฯ องค์ปู่อินทร์,ปู่ปิยะ และครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ คือพ่อ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มาhttp://palungjit.org

    *****************************************************************

    เมย์พบพระผู้มี "อภิญญา" มีฤทธิ์มาก ท่านฝากเตือนมาว่า เวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว (ก่อน พ.ศ. 2560)

    พระ ผู้มีอภิญญาฤทธิ์ ลูกศิษย์เรียกท่านว่า "หลวงปู่ประเสริฐ" อ่ะค่ะ สำนักสงฆ์ของท่าน อยู่ติดกับ "วัดซับปลากั้ง" ลำพญากลาง ต.ลำสมพุง, อ.มวกเหล็ก, จ.สระบุรี, 18180

    "หลวงปู่ประเสริฐ" ท่านมีอภิญญาสูง มีฤทธิ์มาก เมย์เห็นมากับตาหลายครั้ง และลูกศิษย์ ก็เห็นมาหลายคน ใครเคยประสบด้วยตนเอง ช่วยมาโพสต์ในนี้ให้เพื่อนๆอ่านด้วยค่ะ (แต่วันนี้เมย์จะไม่เล่าเรื่อง อภิญญา ของหลวงปู่ เพราะมันเยอะ พิมพ์ไม่ไหว) แต่เมย์จะเล่าเรื่อง วาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ค่ะ

    เมย์ ไปพบท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง ไปกับกลุ่มของเพื่อนคุณพ่อค่ะ วันนั้นไปกันราว 10 คน พวกเรานั่งรถตู้ของเพื่อนคุณพ่อเมย์ นั่งรถตู้จากกรุงเทพ 8.00 น. กว่าจะถึง สำนักสงฆ์ของท่าน ก็เกือบเที่ยงอ่ะค่ะ เส้นทางวกวน เหมือนเขาวงกต เพราะสำนักสงฆ์อยู่บนเขาสูง (แถวนั้นเรียกว่า "ลำพญากลาง") สูงจากพื้นดินมากค่ะ เพราะทุกคนในรถตู้รู้สึก "หูอื้อ" ทุกคน พอไปถึงก็ยังไม่พบท่านหรอกค่ะ เพราะท่านอยู่ใน กุฏิ ด้านหลัง ซึ่งห้ามไม่ให้ใครเข้า สภาพของสำนักสงฆ์เรียบง่าย มีกุฏิ 2 หลัง, มีวิหารเล็กๆ 1 หลัง, มีโรงครัวเล็กๆ 1 หลัง, มีห้องน้ำราว 10 ห้อง ทั้งหมดมาจากเงินจากผู้บริจาค ของผู้ที่มากราบท่านทั้งสิ้น

    เพราะ หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ. 2502 มาตั้งแต่ที่นี่ยังเป็นป่าอยู่เลย ยังไม่มีอะไรเลย มีแต่ป่าทั้งนั้น พอท่านอยู่ไปก็มี ผู้คนไปกราบไหว้ รวมคนที่ไปกราบท่านจนถึงปัจจุบันก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 100,000 คนค่ะ

    แล้ว หลวงปู่ท่านก็เดินลงมา แล้วตรงมาที่กลุ่มของเมย์ หลวงปู่ท่านอายุน่าจะ 80 ปีได้ค่ะ รูปร่างสูงสง่างาม (น่าจะสูงเกิน 180 ซม.) ดูท่านใจดี ลักษณะการเดินของท่านดูสูงส่งมากค่ะ (เดินสง่างาม น่าเลื่อมใส อธิบายไม่ถูก) น้ำเสียงที่นุ่มนวล ท่านบอกกับทุกคนว่า "เอาล่ะนะ" ถึงเวลาที่ชั้นจะบอกเรื่องสำคัญล่ะนะ ทุกคนตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วไปเตือนผู้คน และคนอื่นๆ

    ท่าน ก็เริ่มเทศนาว่า... แท้จริง ประเทศไทย และ ทุกประเทศทั่วโลก น่าจะพบกับความหายนะครั้งใหญ่ จากภัยธรรมชาติใหญ่ ซึ่งผู้คนต้องตายเกือบหมดโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 แต่ที่มันไม่เกิด ก็เพราะว่า มีพระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หลายท่าน รวมไปถึงเทวดาผู้รักษาโลกมนุษย์ ช่วยกัน อธิษฐานจิต ให้เหตุการผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งในความเป็นจริง มันได้แค่เลื่อนออกไปเท่านั้น ยังไงๆเหตุการณ์ภัยธรรมชาตใหญ่ิ และความหายนะครั้งใหญ่ ต้องเกิดขึ้นแน่นอน

    นับ แต่เวลาี้นี้ พ.ศ. 2552 แรงอธิษฐานมันหมดกำลังลงแล้ว และจะไม่สามารถอธิษฐานเลื่อนได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไป ภัยธรรมชาติ และความหายนะครั้งใหญ่ จะค่อยๆปรากฏตัวเพิ่มมากขึ้นๆมากขึ้นๆ โดยเริ่มทีละน้อยจาก พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป จะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นๆ สารพัดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว, พายุ, ภูเขาไฟระเบิด, น้ำทะเลสูงท่วมแผ่นดิน, หมู่เกาะทั้งหมดจะจมใต้ทะเลทั้งหมด และสารพัดอย่างจะประดังเข้ามา ฯลฯ

    ทุกอย่าง จะจบสิ้นก่อนปี พ.ศ. 2560 มนุษย์ที่ศีลไม่ครบ จะถูกภัยธรรมชาติใหญ่ คร่าชีวิตทั้งหมด และมนุษย์ที่รอดชีวิตนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น และคนที่รอดชีวิตส่วนมาก จะเสียสติไปเลย เพราะตกใจกับเหตุการณ์แบบสุดชีวิต หลวงปู่บอกว่า เอายังงี้ละกันนะ คนจะตายกันเกือบหมดโลกเลย แต่ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุด คือรอดประมาณ 20-30 % ของประชากรไทย ไปคำนวณกันเอาเอง พูดง่ายๆ ตายเกือบหมดประเทศนั่นแหละ จะเหลือแค่คนมีศีลธรรมจริงๆเท่านั้นเอง

    หลัง ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป มนุษย์ชาติจะเข้าสู่ยุคใหม่ เรียกว่ายุคศิวิไลซ์ เนื่องจากคนไทยจะเหลือมากที่สุด (20-30 %) ต่อไปประเทศไทยจะได้เป็น มหาอำนาจ และเป็นศูนย์กลางของโลก เมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ผู้คนยุคนั้นจะเปลี่ยนทัศนะคติ ในการดำเนินชีวิตใหม่ทั้งหมด ในยุคนั้น ผู้คนจะไม่สนใจเงินทองอีกเลย แต่จะมาแข่งขันในเรื่องของการ บำเพ็ญบุญ-กุศล

    ท่าน ว่าเวลาของโลกมนุษย์เหลือน้อยแล้ว เหตุการณ์มันกำลังจะมาถึงแล้วนะ จะทำอะไรก็รีบๆทำ เลิกใช้ชีวิตแบบโง่เขลาเบาปัญญาเสียที สิ่งที่จะติดตัวเราไปมีเพียง บุญ-บาป เท่านั้น จำไปบอกต่อๆกันด้วยนะ ลูกหลาน ขอให้เอาชีวิตรอดให้ได้นะ ชั้นก็มีเรื่องจะบอกเท่านี้แหละนะ เจริญพร.......ทุกคนก็กราบท่าน ด้วยความกลัว ใจหวิวๆ บอกไม่ถูกค่ะ

    ตอน จะกลับ เมย์ว่าจะถ่ายรูปของหลวงปู่ มาให้เพื่อนๆใน "เว็บพลังจิต" ดูซะหน่อย แต่ทางสำนักสงฆ์ ติดป้ายไว้ว่่า "ห้ามถ่ายรูป" อ่ะค่ะ ...เอาไว้เพื่อนๆลองไปกราบหลวงปู่ท่านเองละกันนะคะ เมย์บอกที่อยู่ให้แล้วอ่ะค่ะ

    เมย์ขอปิดท้ายค่ะ ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า พุทธศาสนาจะมีอายุ 5,000 ปี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ ประเด็นอยู่ที่ ในวันภัยพิบัติ คนที่จะรอดชีวิต ต้องมีศีลมีธรรมจริงๆเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนจะรอดค่ะ

    ที่มา http://palungjit.org

    ******************************************************************

    คำทำนายของหลวงปู่สรวง

    ."หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล" กล่าวไว้ว่า พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้

    [อ้างอิง หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...]

    ที่มา http://palungjit.org

    *****************************************************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2010
  10. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 2553-06-02 เวลา 20:53:57
    ที่ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    Lat. 15.020 Long. 98.730
    ขนาด 3.0 ริกเตอร์

    [​IMG]
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อีก 3 ปีไทยจะขาดแคลนน้ำสะอาด เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม

    [​IMG]

    <TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD rowSpan=3></TD><TD width=585 height=10>"สึนามิ"2547 คร่าแหล่งน้ำจืดยับ ทุกข์ซ้ำคนแดนอันดามัน</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=news2006_graylight height=10><SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT><!--START-->วันจันทร์ ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2548 11:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=10 rowSpan=4></TD><TD width=575>ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งถาโถมเข้าทำลายพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันอย่างย่อยยับ เมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ทำความเสียหายครั้งมโหฬารกับชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น

    แต่กลับทิ้งร่องรอยอีกด้านหนึ่งไว้อย่างมิอาจมองข้ามได้ หลังจากแหล่งขุมน้ำจืดในพื้นที่ดังกล่าวคือ ภูเก็ต ระนอง พังงา และกระบี่ ได้ถูกทำลายอย่างย่อยยับ จนทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องระทมทุกข์อีกระลอก เนื่องจากไม่สามารถนำน้ำจากแหล่งสำคัญดังกล่าวมาใช้อุปโภคบริโภคเฉกเช่นในอดีต

    กลายเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ของคนในพื้นที่นี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ !!

    ทีมข่าวภูมิภาค เข้าสำรวจความเสียหายในหลายๆพื้นที่ พบร่องรอยของความพิบัติดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง เริ่มจากเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดแห่งหนึ่ง

    เฉพาะแหล่งน้ำจืดที่เป็นบ่อบาดาลบนเกาะพีพี พบว่า มีอยู่ทั้งสิ้น 126 บ่อ แต่หลังเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ปรากฎว่า ถูกน้ำทะเล ซากสิ่งสกปรกต่างๆ ทั้งขยะ เศษวัสดุก่อสร้าง ซากปรักหักพัง รวมทั้งซากศพลงไปในบ่อเสียหายเกือบทั้งหมด

    ในทางกลับกันสำนักงานชลประทานฯ ก็ได้เร่งมือช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ โดยใช้วิธีลงไปทำความสะอาด และดูดซับเอาน้ำทะเลขึ้นมาจากบ่อจนหมด ล่าสุดมีบ่อน้ำตื้นที่ใช้ได้แล้วเพียง 51 บ่อ พร้อมกับสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เร่งสำรวจบ่อน้ำดังกล่าว และนำน้ำมาตรวจสอบความสะอาด จนนำน้ำมาใช้ได้ในระดับหนึ่ง

    เมื่อตรวจสอบกับน.พ. วีรพล นิธิพงศ์ สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ก็ยืนยันว่า ได้สั่งการไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเขาพนม และอำเภอลำทับ ให้ส่งเจ้าหน้าที่หมุนเวียนลงไปดูแลให้ความช่วยเหลือชาวเกาะพีพีแล้ว โดยเฉพาะน้ำดื่มน้ำใช้ จึงขอให้มั่นใจได้

    ผู้เดือดร้อนอย่าง สมชาย การเรียบ ผู้ประกอบการช่องเขาบังกะโล หมู่ 7 บ้านเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ก็ยอมรับในระนาบเดียวกันว่า ช่วงนี้เดือดร้อนหลายเรื่อง ล่าสุดมาประสบปัญหาน้ำซ้ำเติมจากแหล่งน้ำมีเคยมีกว่า 100 บ่อถูกคลื่นยักษ์ทำลายหมดสิ้น รวมทั้งรถแบ็คโฮที่ส่งลงไปค้นหาศพ ก็ได้ขุดทำลายจนบ่อน้ำพังไปหลายบ่อ

    “ตอนนี้มีบ่อน้ำตื้นที่ใช้ได้เพียง 4-5 บ่อ ก็ได้มีผู้ประกอบการด้านประปาต่อท่อให้ชาวบ้าน พอประทังไปได้บ้าง ด้วยการใช้เป็นน้ำอาบ และใช้ด้านอื่นๆ หากจะนำไปดื่มและล้างจาน ก็คงไม่มีใครกล้าทำ เพราะไม่มีความมั่นใจ "

    จากการพูดคุยกับ กอเหล็ม คงเดิม อายุ 66 ปี เกษตกรหมู่ที่ 2 บ้านหลังดา ตำบลตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ บอกด้วยสีหน้าอมทุกข์ว่า ขณะนี้กำลังประสบปัญหาแห้งแล้งอย่างหนัก เพราะปกติหมู่บ้านนี้แห้งแล้งหนักกว่าหมู่บ้านอื่นมาไม่น้อยกว่า 50ปีแล้ว ทำให้ชาวบ้าน กว่า300 ครัวเรือน ต้องซื้อน้ำจากตำบลใกล้เคียงมาใช้ เพราะในปีนี้แล้งเร้วกว่าปกติ เริ่มตั้งแต่ปลายพฤศจิกายน2547 จนมาถึงปัจจุบัน

    การเผชิญทุกข์อีกรูปแบบดังกล่าว แทบไม่ต่างจากคนในพื้นที่ อ.เขาหลัก จ.พังงา แหล่งที่ถูกคลื่นยักษ์ทำลายเสียหายมากที่สุดในช่วงนั้น แม้ในพื้นที่ดังกล่าวจะแหล่งน้ำจืดไม่มากเช่นพื้นที่อื่นก็ตาม แต่ก็ถือว่าสาหัสเอาการทีเดียว เพราะทำชาวบ้าน ผู้ประกอบการต่างเดือดร้อนกันถ้วนทั่ว

    ทีมข่าวสอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว พบว่า มีหลายจุดหลังจากขุดบ่อน้ำมาประทังชีวิตแล้ว กลับพบว่าน้ำมีสภาพแดงขุ่น จนไม่อาจนำมาทำประโยชน์ใดๆได้เลย ดังนั้น วิถีชีวิตของชาวเขาหลักจึงพลิกผันไปจากกาลก่อนอย่างสิ้นเชิง

    บรรยง ข้อเพ็ชร ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรายใหญ่ใน อ.เขาหลัก ระบุว่า หลังจากเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ก็ต้องมาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอีก เพราะคลื่นยักษ์ทำให้น้ำจืดที่สำรองไว้ใช้ได้รับความเสียหายหมด ขณะนี้ภาคเอกชนในพื้นที่เขาหลักต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยการซื้อน้ำจืดจากจังหวัดภูเก็ตในราคา 600-800 บาท ต่อคันรถ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหน้าแล้งจะอยู่ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ไปสิ้นสุดปลายเดือนพฤษภาคม หากยังไม่มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

    พิษณุ เพ็ชรแก้ว ชาวบ้านบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า เล่าว่า เหตุการณ์คลื่นสึนามิ ทำให้แหล่งน้ำจืดบริเวณชายฝั่งหลายแห่งได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ่อน้ำมีซากสิ่งของที่คลื่นซัด จนตกลงไปแน่นิ่งอยู่ก้นบ่อ บางแห่งมีซากศพสิ่งมีชีวิตตกลงไปอยู่ในสถานที่กักเก็บน้ำ ส่งผลให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวว่าจะมีเชื้อโรค แม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามปรับปรุง ทั้งดูดและล้างสิ่งสกปรกแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความรู้สึกกลัว

    ขณะที่เชาวนิตย์ สร้อยทอง หัวหน้าสำนักชลประทานจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าแหล่งน้ำจืดที่อยู่ใกล้ชายหาดไม่สามารถใช้งานได้เลย โดยแหล่งน้ำจืดที่เหลืออยู่ในขณะนี้คือ แหล่งน้ำชลประทานขนาดกลางนายเตย ท้ายเหมือง ลำปาย โดยเฉพาะที่ ต.บางเนียง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ถือว่าที่ประสบปัญหาวิกฤตมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากน้ำทะเลหนุน รวมถึงซากปรักหักพัก และซากศพผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่จำนวนมาก

    เมื่อโฟกัสไปที่ระนองก็ไม่น้อยหน้าพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะในพื้นที่อ. กะเปอร์และกิ่งอ.สุขสำราญ จากการสำรวจพบว่า แหล่งน้ำดิบขนาดใหญ่ที่ใช้ผลิตเป็นน้ำประปาในพื้นที่ กิ่งอ.สุขสำราญ มีด้วยกัน 2 แหล่งใหญ่คือ คลองนาคา คลองกำพวน ซึ่งมีการกั้นเป็นฝายทั้ง 2 แห่ง แต่อยู่บนที่สูงติดกับเชิงเขาด้านใน จึงไม่ได้รับผลกระทบน้ำเค็มจากสึนามิมากกนัก แต่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่ปริมาณน้ำลดจำนวนลงมากกว่า

    ทว่า ที่หนักกว่าเห็นจะเป็นในพื้นที่ อ.กะเปอร์ โดยพบว่า มีแหล่งน้ำตื้นหรือแหล่งน้ำผิวดินของชาวบ้านได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามึประมาณ 40-50 แห่ง ประชาชนเดือดร้อนกว่า 120 ครัวเรือน โดยเฉพาะที่ ม.2และ ม.4 ต.ม่วงกลวง แหล่งน้ำได้รับผลกระทบ เพราะน้ำจืดแปรเปลี่ยนเป็นเป็นนำเค็มทั้งหมด

    ในเบื้องต้นพบว่า น้ำยังคงมีความเค็ม ไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ ทางออกขณะนี้คือ ต้องรอฝนตกลงมาสัก 2-3 ครั้ง เพื่อชะล้างน้ำเค็มออกไปจากแหล่งน้ำจืดได้บางส่วน แต่ทาง อ.กะเปอร์ได้ แก้ปัญหาด้วยการนำรถน้ำไปแจกเกือบทุกวัน พร้อมกับมีการเตรียมขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม ขณะที่แหล่งน้ำดิบสำหรับใช้ทำน้ำประปา พบว่า ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะอยู่กันคนละด้านกับจุดที่เกิดคลื่นยักษ์

    ควันหลง" สึนามิ" ดังกล่าว จึงกลายเป็นการกระหน่ำซ้ำเติมชาวปักษ์ใต้ฝั่งอันดามันอย่างน่าเป็นห่วงยิ่ง ที่สำคัญทางการไม่ควรดูดายมองข้าม แต่ต้องหาวิธีบริหารจัดการแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะสายเกินแก้ไปกว่านี้


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://news.sanook.com/crime/crime_14206.php
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2010
  12. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    ผวาแมงกะพรุนตาย เตือนสึนามิ (ไทยโพสต์)

    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน ได้เกิดปรากฏการณ์แมงกะพรุนในท้องทะเลตรังถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นชายหาดปากเมง หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.พัทลุง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจำนวนมาก ขณะที่ท้องทะเลมีคลื่นลมแรงสูง 1-2 เมตร ซึ่ง น.ส.สุภาพร อ่อนชุลี อายุ 28 ปี ผู้ประกอบการร้านอาหารชายหาดปากเมง กล่าวว่า แปลกใจอย่างมาก เพราะทุกปีจะมีแมงกะพรุนถูกคลื่นซัดเกยตื้นตายบ้าง แต่ไม่มากเหมือนปีนี้ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในย่านนี้วิตกกังวลว่า น่าจะเป็นสัญญาณบอกว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิซ้ำอีกรอบ หลังจากก่อนหน้านี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ประกาศแจ้งเตือนภัยสึนามิจนหวาดผวา แต่ต่อมาก็ได้ประกาศยกเลิกไปในวันเดียวกัน

    ทั้งนี้ จากความกังวลดังกล่าว ชาวบ้านยิ่งไม่มั่นใจในระบบการเตือนภัย จึงเตรียมอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย เพราะเกรงว่าจะไม่ทันการณ์ และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบการตายของแมงกะพรุนเหล่านี้ด้วย เพราะขณะนี้กระแสข่าวเกี่ยวกับสึนามิมีอย่างต่อเนื่อง

    นายจิโรจน์ พีระเกียรติขจร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า เรื่องนี้มีอยู่ 2-3 สาเหตุด้วยกัน คือ

    1. อุณหภูมิของน้ำทะเลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แมงกะพรุนอ่อนแอ

    2. เรื่องอาหารที่แมงกะพรุนกินเข้าไป

    3. การเกิดมรสุม แต่ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ เรื่องอุณหภูมิน้ำส่งผลต่อการเจริญเติบโตของแพลงก์ตอนที่เรียกกันว่าขี้ปลาวาฬ หากแมงกะพรุนหรือสัตว์ทะเลอื่นกินเข้าไป ก็จะเป็นอันตรายและตายได้ แต่สิ่งที่ชาวบ้านกังวลก็เป็นไปได้ จะต้องตรวจสอบต่อไป


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]


    ที่มา
     
  13. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    นายกฯ เตือน มีน้ำใช้อีกแค่ 2 เดือน ในสองเขื่อนหลัก

    8Share<SCRIPT src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share" type=text/javascript></SCRIPT>
    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย

    วันนี้ (2 มิถุนายน) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า กรณีของสถานการณ์น้ำยังเป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลห่วงใย เพราะว่าเทียบเคียงกับปริมาณน้ำที่ปกติ จะไหลเข้าเขื่อนหลักในแต่ละปี ปีนี้ยังถือว่ามีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าต่ำมาก แม้ว่าปัจจุบันถ้าเทียบกับ 1 - 2 สัปดาห์ก่อนสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น แต่ว่าโดยภาพรวมแล้วในสองเขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล และ เขื่อนสิริกิติ์) น้ำยังไหลออกสุทธิ คือออกมากกว่าเข้า

    "ซึ่งหมายความว่าถ้าไม่มีไหลเข้าอีก ก็จะสามารถใช้จ่ายน้ำได้เพียงประมาณ 2 เดือนโดยประมาณ เพราะฉะนั้นตรงนี้จะมีผลกระทบแน่นอนกับเรื่องของการทำนาปี แล้วก็จะทำให้คาดการได้เลยว่าน้ำ ณ เวลาต้นปีของปีหน้าก็จะอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งจะมีผลกระทบในเรื่องของนาปรังด้วย ผมจึงขอให้ พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอแผนในการรองรับสถานการณ์นี้ต่อครม.ในสัปดาห์หน้า" นายกฯ กล่าว


    ที่มา
     
  14. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ปะการัง'ขาว'ลามถึงสัตหีบ

    <!-- main-content-block --><!-- 3 มิถุนายน 2553 - 00:00 -->
    3 มิถุนายน 2553 - 00:00


    นักวิจัยปะการังเผย ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวลามทั่วย่านสัตหีบ รวมไปถึงหอยมือเสือด้วย การฟอกขาวเกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นจนสาหร่ายสร้างสีให้ปะการังอยู่ไม่ได้ เตือนปิดแหล่งท่องเที่ยวชั่วคราวเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟู
    ผศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิจัยด้านปะการังโครงการ BRT เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่สำรวจแนวปะการังในบริเวณอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า พบปะการังมีการฟอกขาวจำนวนมาก ประมาณ 50-70% ของแนวปะการังทั้งหมด ซึ่งนับเป็นการเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวที่กินพื้นที่มากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในทะเลฝั่งอ่าวไทย
    ทั้งนี้ ทีมวิจัยได้มีการศึกษาและติดตามสถานการณ์ปรากฏการณ์ฟอกขาวของปะการังอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มเกิดปะการังฟอกขาวขึ้นที่แนวปะการังฝั่งอันดามัน และติดตามมาด้วยพื้นที่ในทะเลฝั่งอ่าวไทยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากการเดินทางไปสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พบว่าการฟอกขาวของปะการังในบริเวณอำเภอสัตหีบมีการขยายพื้นที่มากขึ้น และเกิดขึ้นกับแนวปะการังทุกแห่งในบริเวณดังกล่าว จากเดิมที่มักจะมีการฟอกขาวเป็นหย่อมๆ นอกจากนี้ยังเกิดการฟอกขาวขึ้นในหอยมือเสืออีกด้วย
    ผศ.ดร.สุชนากล่าวว่า จากการวิเคราะห์ปัจจัยการเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากอุณหภูมิของน้ำทะเลที่ขึ้นสูงกว่าปกติ จากเดิมที่มีอุณหภูมิ 30-31 องศาเซลเซียส ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 32-33 องศาเซลเซียส โดยอาจจะเป็นผลมาจากอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดในช่วงที่ผ่านมา หรืออาจมีกระแสน้ำอุ่นพัดเข้ามาในอ่าวไทย ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกับการเกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวในทะเลฝั่งอันดามัน
    "อุณหภูมิน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่งผลให้สาหร่ายซูแซนเทลลีที่อาศัยอยู่ในปะการังและทำให้ปะการังมีสีสันหนีออกมาจากปะการัง ทำให้ปะการังกลายเป็นสีขาว เช่นเดียวกับกรณีของหอยมือเสือ ซึ่งเป็นหอยที่มีสาหร่ายซูแซนเทลลีฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อของหอย เมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น สาหร่ายชนิดนี้จะทนอยู่ไม่ได้ และหนีออกมาจากเนื้อเยื่อหอย ทำให้เนื้อเยื่อหอยกลายเป็นสีขาว" ผศ.ดร.สุชนาระบุ
    นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า เมื่อเกิดการฟอกขาวแล้ว ปะการังจะยังไม่ตายทันที แต่จะอ่อนแอและมีชีวิตอยู่ได้อีก 2-3 สัปดาห์ หากอุณหภูมิน้ำทะเลหรือสภาพแวดล้อมกลับคืนสู่สภาพปกติ ปะการังจะสามารถปรับสภาพและฟื้นตัวได้ ดังนั้น หากในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า อากาศมีอุณหภูมิลดลง หรือมีฝนตกลงมาเล็กน้อย จะช่วยให้อุณหภูมิน้ำทะเลลดลง และมีโอกาสที่ปะการังจะกลับมามีชีวิตและสีสันได้อีกครั้ง นอกจากนี้ สำหรับในพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวควรลดหรืองดกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อช่วยลดมลพิษที่จะถูกปล่อยลงสู่ทะเล และให้เวลาปะการังในการฟื้นตัวกลับคืนสู่สภาพเดิม.

    อ้างอิง
    http://www.thaipost.net/x-cite/030610/22933
     
  15. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    แหล่งน้ำเริ่มเน่าเสีย

    ลำปาง"แม่วัง"เน่า-ผักตบและขยะเพียบ!



    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    น้ำเสีย - สภาพแม่น้ำวัง ช่วงไหลผ่านตัวเมืองลำปาง สภาพน้ำมีสีดำเน่าเหม็น เต็มไปด้วยขยะ ผักตบชวา เพราะความแห้งแล้ง ทำให้น้ำจากเขื่อนกิ่วลม ไม่เพียงพอจะปล่อยลงมาไล่น้ำเสีย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ลำปาง - ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในจ.ลำปาง ว่า ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ แม่น้ำวังที่ไหลผ่านเขตเมืองลำปางมีกลิ่นเน่าเหม็น เป็นสีดำ มีผักตบชวา รวมทั้งขยะลอยอยู่จำนวนมาก

    นายคำปัน มีคุณ อายุ 71 ปี กล่าวว่า ตนมีบ้านอาศัยอยู่ริมแม่น้ำมานาน ไม่เคยเห็นแม่น้ำวังเน่าขนาดนี้มาก่อน ทุกวันนี้ต้องทนกับกลิ่นเน่าของน้ำตลอดเวลา ทำให้เสียสุขภาพ

    นายนิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา 3-4 ปี เวลาน้ำเหนือเขื่อนกิ่วลมมีมากพอ ก็จะประสานกับเขื่อนปล่อยน้ำลงและกักน้ำไว้ เมื่อผ่านไป 7-8 วัน น้ำก็จะสกปรกจึงจะระบายน้ำออก แต่ในช่วง 2-3 วันนี้ น้ำเหนือเขื่อนกิ่วลมก็มีน้อย ไม่เพียงพอที่จะระบายลงมา นอกจากนั้นต้องขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยกันรักษาความสะอาดแม่น้ำด้วย

    อ้างอิง
    ˹ѧ
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตือนภัยร้ายจากประเทศเพื่อนบ้าน

    [​IMG]

    [​IMG]

    *** ประเทศบริวารเล็กๆ...แต่ไม่กลัวใคร ****

    หลายประเทศเล็ก...มีอาวุธร้ายนำวิถี....ไม่กลัวใคร...ไม่กลัวตำรวจโลก
    เพราะ...มีพี่ใหญ่หนุนหลัง ......หวังครองโลก
    ก่อนเกิด...สงคราม ทุกฝ่ายอยากได้...ครัวของโลก...ทำอาหารให้กิน​

    *** กลุ่มคนไม่หวังดี...****

    ปัญหาภาคใต้...มีผู้สนับสนุน คือ แพนด้ายักษ์ ที่แอบสนับสนุน บริวารภัยคือ พวกยักษ์หน้าแขก ที่ทำสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ยักษ์กับยักษ์คุยกัน ยักษ์แรกบอก เธอตีด้ามขวาน เธอเอาด้ามขวาน ฉันจะสนับสนุนทุน และคอยช่วยเหลือ ส่วนฉันจะเอาตัวขวานเอง....

    เมื่อสงครามด้ามขวานเกิด ทหารจากสยามจะสูญเสียหนัก เพราะข้าศึกที่รบด้วยมีทุนมหาศาล...สุดท้ายด้ามขวานจะหักตามแผนของเหล่ายักษ์หลายฝ่าย...จากนั้นชนต่างๆ รอบขวานทอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนและอาวุธจากยักษ์เช่นกัน จะรุมกินโต๊ะดินแดนบ้านเรา....ขอม อยากบุกมาปักธงถึงบางประกง....แถวติดอ้ายน้องก็จะบุกเข้ามาอีสาน...ถิ่นชายแดนเหนือชนเขาเก่าแก่ ก็อยากได้...แถบตากตะวันตก ก็มีอีกพวกหนึ่ง...สยามจะมีแต่น้ำตากับคราบน้ำตา....

    - "หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    05-02-2007 เมื่อ 06:03 AM

    "เขมรจะบุกสยามประเทศ ส่งกำลังทหารเข้าโจมตี"

    ปัญหาพม่าและเขมรจะนำความเดือดร้อนอย่างมาก เหตุการณ์น่าเป็นห่วงพอถึงเดือนพฤษภาคม 2553 ด้านชายแดนจะมีการขัดแย้งกับเพื่อนบ้านเขมรและพม่าอย่างรุนแรงอีก"

    เหตุการณ์ต่างๆ อาจถึงจุดแตกหักดังคำทำนายในเดือนสิงหาคมว่า "เขมรจะบุกสยามประเทศ ส่งกำลังทหารเข้าโจมตี ทหารเสียชีวิตจำนวนมาก ถึงคราวแล้วที่ไทยจะเข้าสู่สงครามที่เราไม่เคยมีมาเลยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลาช้านานแล้ว เป็นการรบอย่างแท้จริง อิทธิพลของดวงดาวคือ พระราหูทำมุมเสียกับลัคนาประเทศ ถ้าไทยยังเฉยเมยไม่ตระหนักต่อปัญหาที่รุมเร้าหนักข้อขึ้นทุกที...ดังนั้น ปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมากมาย ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน"

    โสรัจจะ นวลอยู่

    ที่มา http://news.hunsa.com/detail.php?id=19696

    ฮุนเซ็นเผยจีนส่งรถบรรทุกทหารรุ่นใหม่ 257 คัน

    [​IMG]

    ผู้นำกัมพูชาระบุรัฐบาลจีนสัญญาส่งมอบรถบรรทุกทหารรุ่นใหม่ 257 คัน และเครื่องแบบทหาร 5 หมื่นชุด ย้ำถึงกัมพูชา 18 มิ.ย.53

    วันนี้(1 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีฮุนเซ็น แห่งกัมพูชา กล่าวว่าเมื่อวานนี้ ในระหว่างเป็นประธานเปิดสะพานที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากจีน โดยระบุว่า รัฐบาลจีนสัญญาให้รถบรรทุกทหารรุ่นใหม่กว่า 250 คันแก่กัมพูชา นับเป็นการส่งสัญญาณถึงการกระชับความร่วมมือทางทหารระหว่างสองประเทศ

    โดยสมเด็จฮุนเซ็น กล่าวว่า คำมั่นสัญญาบริจาครถบรรทุกทหารจำนวน 257 คัน และเครื่องแบบทหารอีก 50,000 ชุดของจีน มีขึ้นในระหว่างที่เขาพบปะกับประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ในเมืองเซี่ยงไฮ้ของจีน เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งรถบรรทุกทหารเหล่านี้ จะเดินทางมาถึงกัมพูชาในวันที่ 18 มิถุนายน และจากนั้นจะถูกนำแสดงให้ประชาชนได้ชม

    นอกจากนั้น สมเด็จฮุนเซ็น ยังกล่าวยกย่องเหล่าผู้นำจีนที่พูดน้อย แต่ทำอะไรมากมาย เพื่อช่วยเหลือกัมพูชา ซึ่งคำประกาศช่วยเหลือดังกล่าวของกองทัพจีนมีขึ้น ภายหลังรัฐบาลสหรัฐสั่งระงับการจัดส่งรถบรรทุกทหารให้แก่กัมพูชาเมื่อเดือนเมษายน เพื่อเป็นการลงโทษที่กัมพูชาส่งตัวกลุ่มผู้แสวงหาการลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับคืนให้แก่รัฐบาลจีน ซึ่งถือเป็นการท้าทายคำขอร้องของประชาคมโลก

    ทั้งนี้เ มื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว กัมพูชาเนรเทศชาวอุยกูร์ 20 คนกลับจีน แม้พวกเขากำลังแสวงหาสถานะผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ และการตัดสินใจเนรเทศชาวอุยกูร์ดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียว ก่อนที่รองประธานาธิบดีสี จินผิง เดินทางเยือนกัมพูชา

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 1 มิถุนายน 2553

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.JPG
      untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      34.6 KB
      เปิดดู:
      1,140
    • 551000007730701s.jpg
      551000007730701s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.9 KB
      เปิดดู:
      1,165
    • news_img_118685_1.jpg
      news_img_118685_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.9 KB
      เปิดดู:
      66
    • 64113.jpg
      64113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69 KB
      เปิดดู:
      79
    • hoon3005.jpg
      hoon3005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.2 KB
      เปิดดู:
      1,477
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2010
  17. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    "ราชบุรี"เร่งแก้ ผักตบล้นคลอง

    นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปที่ประตูน้ำหน้าวัดบางกระ ต.หนองกลางนา อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อไปตรวจสอบคลองบางกระซึ่งเป็นคลองที่เชื่อมต่อกันถึง 8 ตำบล หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า คลองนี้มีผักตบชวามาขึ้นแออัดที่บริเวณประตูน้ำ ทำให้น้ำในคลองไม่ไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลองและน้ำยังเน่าเสีย ทำให้ชาวบ้านไม่มีน้ำใช้ แม้จะเคยร้องเรียนและมีหน่วยงานมาเก็บผักตบชวาเปิดทางให้น้ำไหล แต่ก็เป็นการชั่วคราว ไม่นานผักตบชวาก็กลับมาแออัดเหมือนเดิม

    นายสุเทพกล่าวว่า ได้ขอให้ทางอบจ.ราช บุรี ได้นำรถแบ๊กโฮมาช่วยขุดลอกนำผักตบชวาขึ้นมา เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลได้สะดวก พร้อมสั่งให้แต่ละท้องที่ช่วยดูแลเก็บผักตบชวาขึ้นจากคลองตั้งแต่ ต.เขาขลุง อ.บ้าน โป่ง เรื่อยมาจนถึงปลายทางที่จะออกแม่น้ำแม่กลอง เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้เกิดน้ำเน่าเสีย และทำให้ประชาชนมีน้ำใช้ได้ตลอดสองฝั่งคลอง



    อ้างอิง
    ˹ѧ
     
  18. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    โห.....ภัย เกิดกันถี่ยิบ ที่เกิดแล้วก็เกิดซ้ำอีก

    เคยฝันเห็น หลวงปู่เกษม พูดออกทีวีเมื่อสองปีก่อนว่า


    “อันดามันอันตรธาน” :(
     
  19. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    ไม่มีสิ่งใดเกินกว่ากำลังของความสามัคคีค่ะ

    ความสามัคคีของไทยจะนำพาให้ชาติพ้นภัย

    เพราะเชื่อมั่นในพลังแห่งความดี ความรัก และความสามัคคี

     
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนเหนือ-อีสาน ระวังฝนตกหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ภาคเหนือ และ อีสาน ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก จากอิทธิพล ของ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย...

    พยากรณ์อากาศประจำวัน

    ประจำวันที่ 3 มิถุนายน 2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 38 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 38 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 39 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 38 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศา สูงสุด 36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...