ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    แฮปปี้ใจดีแปลให้

    อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ ( แอร์ ) ทันทีที่คุณขึ้นรถ !
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจอดรถตากแดดไว้ ให้เปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันที ตามผลการวิจัย แผงหน้าปัทม์ ( คอนโซล ) เบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ จะสร้างสารเบนซีน ที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้น ( อย่างที่คุณได้กลิ่นเหมือนพลาสติคจาง ๆ ในรถ " โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถใหม่ " : ผู้แปล )
    นอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว สารดังกล่าวยังเป็นพิษต่อกระดูก ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมีย และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้
    ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร / ในรถ คือ 50 มิลลิกรัม ต่อ ตารางฟุต แต่ระดับของสารเบนซีนในรถที่จอดอยู่ในร่มมีค่าอยู่ที่ 400 - 800 มิลลิกรัม หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์ ( 15.5 องศาเซลเซียส " ในเมืองไทยจอดในร่มอุณหภูมิก็สูงเกินแล้ว " : ผู้แปล ) ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 -4000 มิลลิกรัม คือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง 40 เท่า คนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษที่สูงเกินมาตรฐานดังกล่าวเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าให้คุณเปิดประตู หน้าต่างรถ ไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะเข้าไปนั่ง สารพิษที่ร่างกายคุณไม่สามารถขับออกได้โดยง่าย ซึ่งส่งผลร้ายต่อ ตับ ไต ไส้ พุง (" สองอันหลังเพิ่มเอง " : ผู้แปล ) จะได้ลดปริมาณลง
    " เมื่อใครบางคนแบ่งปันบางสิ่งที่มีค่ากับคุณ และคุณได้รับประโยชน์จากมัน คุณก็ควรจะแบ่งปันสิ่งนั้นให้กับผู้อื่นด้วย "
     
  2. ไซตอน

    ไซตอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +118
    คุณเกษม เอาแหล่งข่าวที่เป็นกลางๆ เช่น ไทยรัฐ เดลินิวส์ มาเสนอดีกว่า ASTV เขาเป็นเสื้อเหลือง เจ้าของโดนหมายจับข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เขาก็ผสมทัศนส่วนตัว เพิ่มจากข้อเท็จจริง
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ต้องขออภัยด้วยครับ เมื่อเช้านี้ผมเข้าไปดูตามเว็บไซต์อื่นๆ แล้ว ยังไม่มีใครลงข่าวเรื่องตำรวจโดนยิงด้วยระเบิดเอ็ม 79 เลย ผมจึงจำเป็นต้องนำข่าวจากเว็บผู้จัดการออนไลน์มาลงไปก่อน เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่ได้เกิดขึ้น เพราะช่วงตอนสายถึงตอนค่ำผมไม่มีเวลาเข้ามาอัฟเดทข่าวครับ โดยปกติแล้วผมจะพยายามหลีกเลี่ยงนำข่าวการเมืองจากเว็บผู้จัดการออนไลน์อยู่แล้ว แต่จะเน้นที่ข่าวต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ เพราะเว็บผู้จัดการออนไลน์เขาจะมีรายละเอียดของเนื้อหาและภาพข่าว มานำเสนอมากกว่าเว็บไซต์แหล่งข่าวอื่นๆ ครับ
     
  4. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ช่วงนี้ โซนอันดามัน มีแผ่นดินไหวต่อเนื่องครับ แต่ไม่ถึง 5 ริกเตอร์ ต้องดูต่อไปครับ

    วางแผน เตรียมพร้อม กับตัวเองและครอบครัว ตลอดเวลา ครับ

    - Magnitude 4.7 - NICOBAR ISLANDS, INDIA REGION
    Saturday, May 08, 2010 at 12:58:34 AM - Novosibirsk, Bangkok

    - Magnitude 4.6 - ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION
    [SIZE=-1]Friday, May 07, 2010 at 04:23:53 PM - Novosibirsk, Bangkok

    - [/SIZE]Magnitude 4.7 - NICOBAR ISLANDS, INDIA REGION[SIZE=-1]
    [/SIZE][SIZE=-1]Sunday, May 02, 2010 at 08:44:45 AM - Novosibirsk, Bangkok[/SIZE]
    [SIZE=-1]
    [/SIZE]
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อินเดีย-จีน เจอพายุถล่มตายเจ็บเพียบ

    [​IMG]

    บ้านเรือนถูกทำลายหลายร้อยหลัง พื้นที่เพาะปลูกเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ส่วนที่จีน พายุและน้ำท่วมที่มณฑลเสฉวน กุ้ยโจว เจียงสี กวางตุ้ง หูหนาน และเทศบาลนครฉงชิ่งทางภาคใต้ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 65 คน.....

    พายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วมในรัฐอุตตรประเทศและพิหารทางภาคเหนืออินเดียเมื่อ 8 พ.ค. ทำให้บ้านเรือนถูกทำลายหลายร้อยหลัง พื้นที่เพาะปลูกเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เสาไฟฟ้าและต้นไม้หักโค่น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 คน บาดเจ็บกว่า 70 คน ส่วนที่จีน พายุและน้ำท่วมที่มณฑลเสฉวน กุ้ยโจว เจียงสี กวางตุ้ง หูหนาน และเทศบาลนครฉงชิ่งทางภาคใต้ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 65 คน สูญหาย 14 คน บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 9,900 หลัง ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 2.55 ล้านคน วันเดียวกัน เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ จ.นูซา เต็งการาตะวันตกในอินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีรายงานความสูญเสีย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2553

    สื่อนอกชี้รัฐบาลไทยเผชิญอย่างน้อย 2 แนวรบ

    [​IMG]

    สื่อนอก วิเคราะห์ รัฐบาลไทย กำลังเผชิญหน้ากับ 2 แนวรบหลักทางการเมือง ทั้งม็อบราชประสงค์ และ เว็บไซต์...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกาะติดสถานการณ์การเมืองไทย ระบุ รัฐบาลนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ระหว่างเผชิญแนวรบทางการเมืองหลักอย่างน้อย 2 ด้าน ด้านหนึ่งคือความพยายามประท้วงขับไล่โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่ยังปักหลักอยู่กลางย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ

    อีกด้านหนึ่งคือความพยายามต่อสู้สกัดปิดเว็บไซต์ต่อต้านรัฐบาล ด้วยคำขู่ผู้กระทำความผิดจะถูกตัดสินจำคุกยาวนาน ขณะที่แนวร่วมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพยายามใช้เทคนิคหลบเลี่ยงการตรวจจับปิดเว็บไซต์ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐลักษณะเดียวกับที่เกิดขึ้นในสังคมจีนกับอิหร่าน

    ทั้งนี้ ดัชนีด้านสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนในประเทศไทย จัดสำรวจโดยองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน ปรากฏว่า ไทยถูกลดอันดับแย่ลงจาก 65 เมื่อปี 2545 ไปอยู่อันดับ130 เมื่อที่แล้ว

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2553

    เกิดแผ่นดินไหว 6 ริกเตอร์เขย่าอิเหนา ไม่มีคำเตือนสึนามิ

    [​IMG]

    เกิดหตุแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ ที่จังหวัดสุลาเวสีเหนือ อินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหาย หรือประกาศเตือนคลื่นยักษ์สึนามิ...

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยาในอินโดนีเซีย รายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ ที่จังหวัดสุลาเวสีเหนือ แต่ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหาย หรือประกาศเตือนคลื่นยักษ์สึนามิ

    แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นที่ความลึก 65 กิโลเมตร และห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของเขตเมลองกัวนีราว 246 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 14.39 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันในไทย

    ทั้งนี้ อินโดนีเซียตั้งอยู่บนแนววงแหวนไฟของแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลก ทำให้ภูเขาไฟคุกรุ่นและแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง

    ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. chermelot

    chermelot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +464
    จีนเจอทอร์นาโดอีกแล้ว เพิ่งผ่านแผ่นดินไหวมาเอง เฮ้อ
    ขอแผ่อุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนร่วมโลกให้ไปสู่สุคติด้วยเทอญ
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตะลึงนกกระจาบทำรังนับร้อยรัง เล็งพัฒนาเป็นแหล่งความรู้

    [​IMG]

    นกกระจาบอาศัยทำเลเหมาะ มีทั้งแหล่งน้ำ หญ้าคาและนาข้าว ทำรังบนต้นมะขามเทศนับร้อยรัง ชาวบ้านเผยมาอยู่เกือบ 10 ปีแล้ว มีคนจะมารื้อรังไปขายแต่ถูกชาวบ้านไล่ เพื่อเก็บไว้ให้เด็กดูความขยันของนก..

    ที่กลางทุ่งนาบ้านหนองแผ่นดิน ม.ที่ 6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีนกกระจาบไปทำรังบนต้นไม้จำนวนมากนับร้อยรัง จึงรุดไปพิสูจน์ พบว่า ที่กลางทุ่งนาห่างจากถนนสายกำแพงเพชร-ลำมะโกรก ประมาณ 500 เมตร ที่ริมขอบสระน้ำมีต้นมะขามเทศขนาดไม่ใหญ่มาก มีรังนกกระจาบแขวนอยู่จำนวนมากทั่วทั้งต้น นับแล้วประมาณไม่ต่ำกว่า 100 รัง

    จากการสอบถามนายใบ สังเวียน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.ที่ 13 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งกำลังหาปลาอยู่ในสระน้ำ กล่าวว่า ตนมาทำไร่ทำนาใกล้กับบริเวณดังกล่าวนานแล้ว ส่วนนกกระจาบก็มาทำรังได้ประมาณ 7-8 ปีแล้วเช่นกัน ในตอนแรกก็มาทำกันไม่กี่รัง มาตอนหลังฝูงนกกระจาบใหญ่ขึ้น จึงมีรังเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนของนก โดยนกบางรังก็ย้ายไปแต่ก็มีนกตัวอื่นมาอาศัยอยู่ บางรังเปลี่ยนหลายเจ้าของ พอนกตัวใหม่มาอาศัยอยู่ก็สานรังต่อจากรังเก่า จนบางรังมีตั้งหลายชั้นเพราะมีการต่อเติมออกไปเรื่อยๆจากนกตัวใหม่ที่ขี้เกียจสานรังใหม่ แต่มีบางรังที่นกกำลังเริ่มก่อสร้างก็มี

    นายใบ กล่าวอีกว่านกเหล่านี้ไม่กลัวคน ถึงแม้ชาวนาจะมาทำนาใกล้ๆ ก็ไม่หนี เนื่องจากคุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดีผ่านหลายรุ่นแล้ว เพราะทราบดีว่าคนที่นี่จะไม่ไปทำร้ายขับไล่หรือว่าไปรื้อรังของนกกระจาบเหล่านี้

    "ที่ผ่านมาเคยมีคนจากต่างถิ่นจะมารื้อรังนกเหล่านี้เพื่อนำไปขาย แต่ปรากกฏว่าถูกชาวบ้านช่วยกันขับไล่ไม่ยอมให้รื้อ เพราะต้องการปกป้องให้เด็กๆได้ศึกษา ถึงความขยันหมั่นเพียรกานทำรังของนกที่ไม่มีมือ ใช้แค่ปากก็สามารถทำรังได้อย่างสวยงาม"

    นายใบ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเช้าทุกวัน บรรดานกกระจาบจะออกจากรังไปหากินเป็นฝูง ส่วนกลางวันช่วงนี้อากาศร้อนก็จะพากันบินเข้ารังเพื่อหลบอากาศที่ร้อนจัด ภายในรังจะได้ยินเสียงลูกนกร้องอยู่เกือบทุกรัง ส่วนสาเหตุที่นกกระจาบเหล่านี้ไปยอมหนีไปอยู่ที่อื่น ก็เพราะว่าบริเวณดังกล่าวมีหญ้าคาซึ่งสามารถใช้ทำรังโดยไม่ต้องบินไปหาไกลๆ นอกจากนั้นยังอยู่ติดกับแหล่งน้ำ ที่สำคัญทั่วทั้งทุ่งมีข้าวมีแมลงให้กินตลอดทั้งปี เพราะชาวนาที่นี่ไม่เคยหยุดทำนา ดังนั้นบริเวณนี่จึงทั้งปลอดภัยและอุดมไปด้วยแหล่งอาหารที่ไม่ต้องบินไปหากินไกล

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2553

    แมงกะพรุนชุม ชาวประมงแห่จับ รายได้วันละ 2 พัน

    [​IMG]

    ชาวประมง จ.กระบี่ แห่จับแมงกะพรุนจานขาย รายได้เป็นกอบเป็นกำ เฉลี่ยวันละ 1,000-2,000 บาทต่อคน ขณะที่นักล่าแมงกะพรุนเผย ช่วงที่แมงกะพรุนมีราคาถูกตัวละ 10 บาท จะมีรายได้ถึงเดือนละ 2 แสน..

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวประมงในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ส่วนใหญ่ได้หันมาจับแมงกะพรุนที่พบจำนวนมาก บริเวณปากแม่น้ำกระบี่และบริเวณอ่าวปากบารา อ.เมืองกระบี่ และอำเภอหนือคลอง เพื่อนำไปขายให้พ่อค้าที่มารับซื้อก่อนนำไปแปรรูปส่งขายประเทศจีนและญี่ปุ่น โดยแมงกะพรุนที่ชาวประมงตักไปขายนี้เป็นแมงกะพรุนจาน หรือแมงกะพรุนหนัง ซึ่งสามารถรับประทานได้ พบมากในช่วงต้นเดือน พ.ค.-ก.ค.ของทุกปี ในทะเลแถบ จ.กระบี่ โดยชาวประมงแต่ละรายจับได้ประมาณ 300-500 ตัวต่อวัน รายได้ดีเฉลี่ยคนละ 1,000-2,000 บาท

    นายเกษม วงตาวัน อายุ 40 ปี ชาวประมงบ้านปากบารา ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง กล่าวว่า ในช่วงนี้จะมีแมงกะพรุนขึ้นอยู่หนาแน่นบริเวณท้องทะเลกระบี่ ชาวประมงจะออกจับแมงกะพรุนไปขายพ่อค้าที่มารับซื้อ เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ซึ่งถือเป็นรายได้ที่สูงมาก แม้ว่าช่วงนี้ราคาจะตกลงมาอยู่ที่ตัวละ 2.50-3 บาท เพราะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็หาได้เต็มลำเรือแล้วประมาณ 300-500 ตัว ทำให้แต่ละคนจะมีรายได้เฉลี่ย 1,000-2,000 บาทต่อวัน และพบว่าปีนี้มีจำนวนมากกว่าทุกปี เนื่องทรัพยากรอุดมสมบูรณ์

    ขณะที่นายประสิทธิ์ ฤทธิพันธุ์ ชาวประมง จ.ระนอง ซึ่งออกล่าแมงกะพรุนเป็นอาชีพหลัก กล่าวว่า ตนตามจับแมงกะพรุนมานาน โดยเริ่มออกจับในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แมงกะพรุนจะขึ้นมากที่ จ.ระนอง ต่อมาก็จะเป็นที่ จ.พังงา และภูเก็ต ล่าสุดฝูงแมงกะพรุนอพยพมาที่ จ.กระบี่ ซึ่งตนติดตามมาตลอดทุกปี ปีหนึ่งๆ ก็จะหาได้อยู่ประมาณ 6 เดือน ในช่วงที่แมงกะพรุนราคาตัวละ 8-10 บาท ตนมีรายได้สูงสุด เดือนละกว่า 200,000 บาท โดยใช้เพียงเรือหางยาวลำเดียว และคนงานช่วยตักแมงกะพรุนเพียง 1 คนเท่านั้น

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2553

    ล่าโจรกล้วยไม้ อาละวาด ขโมยกว่า 500 ต้น

    [​IMG]

    ผวาโจรกล้วยไม้อาละวาดหนักกลางงานออร์คิดแจ๊สโคราช2010 ขโมยดอกและต้นทั้งสายพันธุ์ไทยแท้และพันธุ์นำเข้ากว่า 500 ต้น เสียหาย 5 แสนบาทเศษ ตำรวจมึน สั่งตามล่า...

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 พ.ค. พ.ต.ท.โดม กิขุนทด สวป.สภ.เมืองนครราชสีมา นำกำลังไปตรวจสอบเหตุคนร้ายขโมยต้นไม้ในงานออร์คิด แจ๊ส โคราช 2010 ที่จัดขึ้นบริเวณสวนอนุสรณ์สถาน ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ใจกลางเมือง สอบถามบรรดาเจ้าของร้านค้าทราบว่าได้มาออกร้านจัดโชว์แสดงกล้วยไม้นานาชนิดทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมทั้งจำหน่ายต้นกล้วยไม้ ดอกกล้วยไม้ กอพันธุ์กล้วยไม้สายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมสูง มีมูลค่าตั้งแต่ต้นละ 100 - 10,000 บาท ส่วนเป็นกอพุ่มใหญ่ๆ มีราคาถึง 30,000 - 50,000 บาท ที่เตรียมเข้าประกวดในงานเดียวกัน

    แต่ปรากฏว่า ต้นกล้วยไม้ถูกขโมยไป 10 ร้าน รวมประมาณ 500 ต้น เช่นร้านวัชรพงษ์ ออร์คิด ของ นายวัชรพงษ์ บุญบางยาว อายุ 30 ปี กล้วยไม้สายพันธุ์ ไอยเรศ หรือ ชาวบ้านเรียกว่า พันธุ์หางกระรอก หายไป 1 กอใหญ่ ขนาด 2 คนโอบ สูงประมาณ 2 เมตร ใช้เวลาบ่มเพาะปลูกนานกว่า 20 ปี และมีดอกออกมากเป็นช่อๆ รวม 45 ช่อ และลำต้นจะออกช่อเป็นระย้าจากปลายต้นจรดลงสู่ด้านล่างยาว 2 เมตร แขวนไว้กลางร้านเพื่อแสดงโชว์และเพื่อนำเข้าประกวดของสมาคมกล้วยไม้นครราชสีมาราคา 30,000บาท โดยเจ้าของกอกล้วยไม้ดังกล่าว คือ นายกรี จุมงคล ผู้อาวุโสของวงการกล้วยไม้ให้ยืมมาเพื่อส่งประกวด

    นอกจากนี้ ยังมีร้าน พี.เอ.ออร์คิด ของ น.ส.สุคนธ์ทิพย์ จุลทอง อายุ 30 ปี ฟาร์มกล้วยไม้ พี.เอ.ออร์คิด มาจาก จ.นครปฐม มีต้นกล้วยไม้สายพันธุ์ไทยแท้แขวนอยู่บนราวหายไปเกลี้ยงกว่า 20 ต้น ต้นละกว่า 1,000 บาท เฉพาะกล้วยไม้สายพันธุ์นอร์ล่าด่างต้นเดียวมีราคาต้นละ 15,000 บาทจะส่งเข้าประกวดและเตรียมส่งปั่นแล็ป หลังจากปั่นแล็ปแล้วจะมีมูลค่านับแสนบาท ยังมีร้านของนางนงนุช ทองหอม อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการกรมที่ดินถูกขโมยกล้วยไม้นำเข้าและพันธุ์ไทยแท้ 40 ต้น ค่าเสียหายประมาณ 50,000 บาท เชื่อว่ามีออร์เดอร์สั่งคนร้ายที่ทำเป็นขบวนการโดยเฉพาะไม้กอใหญ่ที่ต้องใช้เวลาเลี้ยงนานหลายสิบปีคัดเก็บไว้และเลี้ยงเป็นคอลเล็กชั่น หรือเป็นพ่อแม่พันธุ์

    พ.ต.ท.โดม กิขุนทด สวป.สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงได้ข้อมูลพอสมควร ถ้าจะมีเหตุการณ์ขโมยก็น่าจะเป็นกล้วยไม้ที่ประกวดแล้ว แต่คนร้ายกลับขโมยกล้วยไม้ที่รอการคัดเลือกซึ่งเป็นต้นที่สวยที่สุดเตรียมจะส่งประกวด เชื่อว่าเป็นแก๊งมีความรู้เรื่องพันธุ์ไม้กล้วยไม้อย่างดีและมีความเชี่ยวชาญมากเลือกเฉพาะพันธุ์ไม้ที่มีราคาและมีความนิยมของตลาดสูง เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกใน จ.นครราชสีมา

    ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2553
    <FORM id=searchform action=/search method=get>ที่มา http://www.thairath.co.th

    </FORM>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:34:47 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]จส.100เผยไฟดับหลายจุด ทั้งถ.ราชพฤกษ์-จรัญฯ-เพชรเกษม[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> เมื่อเวลา 20.20 น. ทวิตเตอร์ของ จส.100 รายงานว่า "ขณะนี้มีไฟฟ้าดับหลายพื้นที่ เช่น ถ.ราชพฤกษ์ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ถ.เพชรเกษม ถ.บางพลี-ตำรุ" ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากำลังเร่งตรวจสอบและแก้ไขให้เป็นปกติ
    [/FONT]
     
  9. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    เป็นไรมากป่าวเนี้ย ข่าวอ่ะข่าว จริงมากจริงน้อยก็มีปนๆกันไปก็ไปหาเพิ่มสิ คนที่อ่านหลายๆคนเขาก็รู้แหละว่าอะไรควรหาเพิ่มอะไรควรเชื่อไว้แค่ไหน อะไรเนี้ยแสดงออกเลยว่าเสื้อไหน โหยทำปายได้....
     
  10. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    ผมว่ามีคนสงสัยหลายคนน่ะครับ เห็นมีการถามมาแล้ว
    ผมขออนุญาตถามแบบนี้เลยละกันนะึครับ เพราะก็สงสัยเหมือนกัน
    แต่ไม่กล้าถาม

    1. หน่วยเหนือมาในสภาวะไหน มาอย่างไร หรือมาผ่านอะไร
    2. ฐานดอนเมืองหมายถึงที่ไหน เป็นคำเปรียบเทียบ หรือตั้งอยู่ในดอนเมือง

    ด้วยความเคารพครับ
     
  11. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • A1.JPG
      A1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.3 KB
      เปิดดู:
      933
    • A2.JPG
      A2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.9 KB
      เปิดดู:
      925
  12. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    GFZ Potsdam - Earthquake Bulletin

    <table> <tbody><tr><td align="right">Region:</td> <td align="left">Northern Sumatra, Indonesia</td></tr> <tr><td align="right">Time:</td> <td align="left">2010-05-09 05:59:44.5 UTC
    </td></tr> <tr><td align="right">Magnitude:</td> <td align="left">7.2</td></tr> <tr><td align="right">Epicenter:</td> <td align="left">96.10°E 3.67°N</td></tr> <tr><td align="right">Depth:</td> <td align="left">56 km</td></tr> <tr><td align="right">Status:</td> <td align="left">manually revised</td></tr> </tbody></table> [​IMG]


    เที่ยงกว่าเกือบบ่ายโมง นี่เอง ยิ่งอากาศฮ้อนๆๆ

    ตอนนี้ที่ลำพูนฮ้อนขนาด เฝ้าระวังพายุอยู่
    อ้าวโฟสตรงกัน ..หัวข้อเตือนแผ่นดินไหวไม่เจออ่ะ ไปอยู่หน้าไหนแล้ว:boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2010
  13. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909



    อย่าให้มีภัยตอนนี้เลยครับ อากาศยิ่งร้อนๆ อยู่ด้วย


    Magnitude 7.2 - NORTHERN SUMATRA, INDONESIA


    Earthquake Details

    <table id="parameters" summary="Earthquake Details"><tbody><tr><th>Magnitude</th><td>7.2</td></tr> <tr><th>Date-Time</th><td>Sunday, May 09, 2010 at 12:59:42 PM - Novosibirsk, Bangkok</td></tr> <tr><th>Location</th><td> 3.775°N, 96.055°E</td></tr> <tr><th>Depth</th><td>45 km (28.0 miles) set by location program</td></tr> <tr><th>Region</th><td>NORTHERN SUMATRA, INDONESIA</td></tr> <tr><th>Distances</th><td>195 km (120 miles) SW of Lhokseumawe, Sumatra, Indonesia
    215 km (130 miles) SSE of Banda Aceh, Sumatra, Indonesia
    630 km (390 miles) W of KUALA LUMPUR, Malaysia
    1620 km (1010 miles) NW of JAKARTA, Java, Indonesia
    </td></tr> <tr><th>Location Uncertainty</th><td>horizontal +/- 4.4 km (2.7 miles); depth fixed by location program</td></tr> <tr><th>Parameters</th><td>NST=295, Nph=295, Dmin=321.4 km, Rmss=0.94 sec, Gp= 25°,
    M-type=teleseismic moment magnitude (Mw), Version=A</td></tr> <tr><th>Source</th><td>
    • USGS NEIC (WDCS-D)
    </td></tr> <tr><th>Event ID</th><td>us2010wbaq</td></tr></tbody></table>
     
  14. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    [​IMG]
    ขอคลายความร้อน... เพิ่มความเย็นชื่นใจ
     
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันนี้ร้อนมากครับ

    ขนาดผมไปเดินเดอะมอลล์ พนักงาน ยังต้องพัดช่วยเอง เลย แสดงว่า แอร์ก็สู้ไม่ไหวเหมือนกัน
     
  16. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    นายสันต์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" กรณีเกิดแผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ว่า สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นได้แจ้งเตือนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่นในพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วทั้งจังหวัด เพื่อให้เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังเหตุการณ์ พร้อมแจ้งเตือนให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ มั่นใจพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการแจ้งยกเลิกการเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์ ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นยังคงเฝ้าระวังติดตามข่าวสารอยู่

    ด้านนายสมพร อาชีพขับรถรับจ้าง บริเวณชายหาดป่าตอง ได้กล่าวว่า ทราบเรื่องแผ่นดินไหวในครั้งนี้จากเพื่อนที่อยู่ในเมือง ก็ไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด เนื่องจากมั่นใจในเสาสัญญาณเตือนภัย เพราะที่ผ่านมา หากมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ก็จะเป็นเสียงเตือนให้เฝ้าระวัง และให้เตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนย้าย แต่สุดท้ายก็จะเป็นสัญญาณยกเลิก ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ประชาชนที่อยู่ใกล้กับทะเลมีความพร้อมเพิ่ม มากขึ้น

    สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ประชาชนที่อยู่บนตึกสูงใน พื้นที่จังหวัดภูเก็ตรู้สึกได้ถึงแรงสันสะเทือนทำให้นักศึกษามหาวิทยาลัยราช ภัฎภูเก็ตจำนวนหนึ่งซึ่งเรียนอยู่บริเวณชั้น 5 ชั้น 6 ของตึกสูงต่างก็วิ่งออกมาอยู่นอกตึก จนเหตุการณ์กลับเข้าสู้ภาวะปกตินักศึกษาก็กลับเข้าเรียนตามปกติเช่นกัน
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวหาดใหญ่ตื่นหลังมีแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 พฤษภาคม 2553 15:16 น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – บรรดาแขกที่เข้าร่วมงานฉลองพิธีมงคลสมรส ชั้น 8 โรงแรมหาดใหญ่พาราไดซ์ แอนด์ รีสอร์ท กลางเมืองหาดใหญ่ วิ่งแตกตื่น หลังมีแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย แต่ไม่ได้รับรายงานว่ามีความเสียหายกับตัวอาคารสูงในเมืองหาดใหญ่แต่อย่างใด

    วันนี้ (9 พ.ค.) หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจพบแผ่นดินไหวเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันนี้ที่บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ขนาด 7.2 ริกเตอร์ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย

    แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สงขลา ผู้ที่อยู่ในอาคารสูงบริเวณใจกลางเมืองหาดใหญ่สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน

    เช่น ที่โรงแรมหาดใหญ่พาราไดซ์ แอนด์ รีสอร์ท บรรดาแขกที่เข้าร่วมงานพิธีฉลองสมรสบนชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงแรม ต่างแตกตื่น และพากันวิ่งลงมายังชั้นล่าง หลังจากที่เกิดแรงสั่นสะเทือนนานประมาณ 10 วินาที และค่อนข้างรุนแรงทำให้น้ำในแก้วสั่นกระเพื่อม หลายคนตื่นกลัวจนไม่กล้าขึ้นไปอีก

    อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหาย กับตัวอาคารสูงในเมืองหาดใหญ่แต่อย่างใด

    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000063759
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2010
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปลากะพงขาวของเกษตรกรที่ชุมพร ขาดออกซิเจนตายกว่า 80 ตัน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 พฤษภาคม 2553 18:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]
    เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

    ชุมพร- ปลากะพงขาวในกระชัง ของเกษตรกรที่ ตำบลท่ายาง อ.เมืองชุมพร กว่า 300 ราย ลอยหัวตายกว่า 80 ตัน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จากสาเหตุน้ำขาดออกซิเจน

    วันนี้ (9 พ.ค.) น.ส.เอี่ยม มากอำไพ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก นางบุญเตือน บุญยืน ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปลาคลองท่าตะเภา ว่า มีปลากะพงขาวที่กลุ่มเลี้ยงไว้ในกระชังพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่ายาง ลอยหัว และกำลังจะตายเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นกลุ่มผู้เลี้ยงปลากะพงดังกล่าวต้องรีบจับปลาขึ้นมาจากกระชังขายให้กับพ่อค้า ทำให้มีราคาถูกและประสบปัญหาการขาดทุนแทบหมดเนื้อหมดตัว​

    จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานไปยัง นายการันย์ ศุภกิจวิเลขการ และได้สั่งการให้ นายชนการ ทิพย์ประเสริฐสุข ปลัดอาวุโส อ.เมืองชุมพร ไปให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน พบว่า มีกลุ่มผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังพื้นที่ดังกล่าว กำลังเร่งจับปลากะพงขาวที่กำลังจะตาย และบางส่วนตายลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำในกระชัง เพื่อส่งขายให้กับพ่อค้าที่มารอรับซื้อ​

    นายเดชา ก่อนยืนยง ผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่าปลาเริ่มมีอาการลอยหัว และตาย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการเปิดประตูน้ำคลองท่าตะเภา ของสำนักงานชลประทานชุมพร เพื่อไล่น้ำเสียจากเขตเทศบาลเมืองชุมพร ที่ยังไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสียลงมาพื้นที่เลี้ยงปลาในกระชัง เพื่อผ่านออกสู่ทะเล
    เนื่องจากกรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2-3 ครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้งนำในลำคลองท่าตะเภาที่ใช้เลี้ยงปลามีปริมาณน้อย และน้ำทะเลหนุน เมื่อมีน้ำเสียดังกล่าวจากเทศบาลเมืองชุมพรไหลผ่านลงมา ทำให้น้ำขาดออกซิเจนอย่างฉับพลัน จนปลากะพงตายจำนวนมากดังกล่าว​

    “ปลาที่ตายมีขนาดตัวละ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งเป็นปลาขนาดใหญ่ ถ้าจำหน่ายจะมีราคา 130-150 บาทต่อกิโลกรัม โดยต้องใช้เวลาเลี้ยงมาประมาณ 11-12 เดือน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ผู้เลี้ยงหลายคนคงหมดตัว” นายเดชา กล่าว​

    นางบุญเตือน บุญยืน ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังคลองท่าตะเภา กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้เลี้ยงปลาคลองท่านางสังข์ และคลองท่าตะเภา มีประมาณ 200 ราย และประมาณ 100 ราย ได้รับความเดือนร้อนจากปลาตายในครั้งนี้ จากการประเมินขั้นต้นน่าจะไม่น้อยกว่า 80 ตัน หรือมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เพราะปลาที่ตายเป็นปลาขนาดใหญ่ ตัวละ 2 กิโลกรัมขึ้นไป​

    ด้าน นายชนการ ทิพย์ประเสริฐสุข ปลัดอำเภอเมืองชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งว่ามีปลาตายแล้วประมาณ 100 ราย ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงในเขต ต.บางหมาก และ ต.ท่ายาง โดยเฉพาะ ม.4 ต.ท่ายาง เป็นปลาขนาดใหญ่ ได้รับความเสียหายมาก ส่วนการช่วยเหลือ ทางอำเภอได้ประสานงานกับ พ่อค้าแม่ค้า และบริษัทแช่แข็งสัตว์น้ำมารับซื้อในราคาเป็นธรรม​

    เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ส่วนสาเหตุที่กลุ่มผู้เลี้ยงปลาสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากการเปิดประตูน้ำของชลประทานและดันเอาน้ำเสียในเขตเทศบาลเมืองชุมพรลงมาในพื้นที่เลี้ยงปลาในกระชังนั้น ขณะนี้ได้ประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องปิดประตูน้ำแล้ว​

    นายธนดล จันทขวัญ หัวหน้าพัฒนาและส่งเสริมอาชีพประมง สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร กล่าวว่า สาเหตุที่ปลาตายมาจากการขาดออกซิเจนในน้ำที่ผ่านมา สนง.ประมง ได้เตือนผู้เลี้ยงปลากะพงในคลองท่านางสังข์ทราบมาตลอด เนื่องจากมีการเลี้ยงปลาในกระชังที่หนาแน่น ซึ่งตามปกติ การเลี้ยงปลาในกระชังจะต้องมีความหนาแน่นไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่​

    แต่เนื่องจากคลองท่านางสังข์ เป็นคลองที่มีความเหมาะในการเลี้ยงปลา และได้ผลดี ทำให้มีผู้เลี้ยงเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีประมาณกว่า 200 รายหรือ ประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ซึ่งหนาแน่นมาก จึงเสี่ยงที่น้ำจะขาดออกซิเจนและทำให้ปลาตายได้​

    ส่วนปลาที่ตาย สามารถนำไปบริโภคได้ตามปกติ และจะมีรสชาติ ดีเช่นเดียวกับปลาที่จับตามปกติ ส่วนแนวทางแก้ไข ผู้เลี้ยงต้องเพิ่มเครื่องให้ออกซิเจนในน้ำให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการขาดออกซิเจนดังกล่าว​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2010
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วิเคราะห์ดวง พล.อ.ประยุทธ์ กับข่าวปฏิวัติ
    โดย พายัพ พยากรณ์

    [​IMG]

    เดือนนี้รู้สึกว่าจะมีข่าวที่ส่อไปในทางปฏิวัติมากเหลือเกิน ผมต้องรับโทรศัพท์ถามหนาหูจากเพื่อนๆ ที่เล่นหุ้นว่าจะมีการปฏิวัติหรือไม่ ถามว่าข่าวมาจากไหน เพื่อนก็บอกว่าออกจาก เสธ.ทหารผู้หนึ่ง ก็เลยคุยขำๆ (ยังไม่ได้ดูดวง) ว่าดูไม่เป็น ไม่มีแล้วมั้ง... เพื่อนก็บอกว่าคราวที่แล้วทายไว้ว่าอนุพงษ์ (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ไม่มีปฏิวัติในปี 2551 มันก็ไม่ปฏิวัติจริงๆ ผมก็นิ่งเงียบหาเรื่องหนีการตอบคำถามไม่ได้ แต่ยังแอบกลัวๆและคิดในใจว่า เฮ้ย... คงต้องดูหน่อยแล้ว แต่คราวนี้จะดูที่ใครดี

    ผมบอกได้เลยว่า พล.อ.อนุพงษ์ไม่กล้าหรอก เพราะดวงเขาเป็นประเภทไม้นวม ไม่หัก ไม่รุนแรง แต่มาดเชือดนิ่มๆ ไม่เอิกเกริก ถ้าจะมองตามกระแส คนที่น่าดูที่สุดตอนนี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก ที่มีข่าวหนาหูมาก โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวที่บ้านสี่เสาเทเวศร์

    ผมพอเห็นดวงจร พล.อ.ประยุทธ์แล้วก็น่าคิด มันน่าคิดจริงๆว่ามีโอกาสจะเกิด แต่ผมยังหาคำตอบไม่ได้ว่าจะปฏิวัติเพื่ออะไร ไม่ใช่ว่าต้องเกิดนะครับ เพียงแต่ว่าในกองทัพ ดวงผู้ที่จะมีโอกาสทำการปฏิวัติมากที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ คนอื่นๆดวงแค่มีเกณฑ์เท่านั้น

    ส่วนมากดวงที่จะทำการปฏิวัตินั้น มักเป็นดวงที่มีแรงกระชากรุนแรงกับดวงชะตา โดยเฉพาะกับดาวราหู (๘) เพราะดาวดวงนี้สามารถกระทำการใดที่ต้องการแรงผลักดันรุนแรงได้ดี จนโหรโบราณตั้งชื่อว่า “ฤทธิ์เดชไพศาล” หมายถึงทำการใดก็สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน

    จากดวงชะตาของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น มีดาวราหู (๘) เดิมที่อยู่ราศีธนู ธาตุไฟ ซึ่งธาตุไฟจะเป็นแรงผลักดันรุนแรงแฝงอยู่ในชะตา ดาวราหูนี้ถือความคิดของตัวเองมาก เมื่ออยู่ไฟจึงรุนแรง และดาวราหู (๘) เดิมนี้อยู่ในฤกษ์โจโร ซึ่งเป็นฤกษ์ของการใช้โอกาสช่วงชิง จึงเป็นดาวราหู (๘) ที่มีฤทธิ์แรง ซึ่งมีโอกาสกระทำการที่แรงได้ดี แต่เมื่อราหู (๘) อยู่ในเรือนพฤหัสบดี (๕) จึงมีความเข้มแข็งในการตัดสินใจ และไม่กระทำการโดยบุ่มบ่าม

    จึงมองว่า พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสทำการปฏิวัติได้ แต่ต้องรอในสภาวะที่สุกงอมและเหมาะสม จะไม่กระทำการใดๆให้กับผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล ปัจจุบันดาวราหู (๘) จรโคจรเข้าทับราศีธนู เข้าทับราหูเดิม จึงมีกระแสเรื่องนี้ออกมามาก ทำให้เป็นที่จับตามอง พล.อ.ประยุทธ์ แต่ผมยังมองอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องคิดว่าคุ้มหรือไม่ถ้าจะทำ การแลกเปลี่ยน และผลประโยชน์ที่มีคนเสนอ

    ถ้ามีผู้อื่นเป็นหัวหอกและ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมแจมก็ไม่แน่นะครับ แต่ พล.อ.ประยุทธ์เองนั้นไม่ใช่แน่ๆ ยิ่งช่วงนี้สังคมจับตามองทหารเป็นพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์คงไม่เสี่ยง!

    จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ปีที่ 11 ฉบับที่ 2724 ประจำวัน พุธ ที่ 27 มกราคม 2010

    ที่มา http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=33271
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2010
  20. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:16:28 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ผล "เอลนิโญ่" ทำให้เกิด "ปะการังฟอกขาว" กินพื้นที่อันดามัน 80 ตร.กม.-อ่าวไทย 30% ทช.จับตาใกล้ชิด[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ปรากฏ การณ์เอลนิโญ่ทำอุณหภูมิอ่าวไทย-อันดามันสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวอันดามันกินพื้นที่ถึง 80 ตารางกิโลเมตร ฝั่งอ่าวไทยฟอกขาวแล้ว 30% ยังไม่รู้อนาคตว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทช.จับตาใกล้ชิด[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> นายนิพนธ์ พงษ์สุวรรณ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและทะเลชายฝั่งและป่าชายเลน เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมว่า ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครอบคลุมบริเวณทะเลอันดามันเกือบทั้งหมด จากการสำรวจพบว่ามีปะการังฟอกขาวเกิดขึ้นตั้งแต่หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลันและบริเวณตามชายฝั่งของหมู่เกาะตราชัย จ.พังงา และบริเวณเกาะใกล้ชายฝั่ง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีเกาะผ้า แหลมกลางใหญ่ แหลมกลางน้อย และคาดว่าใน จ.ภูเก็ต ก็เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวรอบเกาะเช่นกัน ขณะนี้ กำลังตรวจสอบกับเครือข่ายนักดำน้ำ จ.ตรังและสตูล ว่า เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นหรือไม่ ในทะเลตรังและสตูล เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยอย่างเดียว แต่ยังพบในประเทศในมหาสมุทรอินเดียและหมู่เกาะมาดากัตกาด้วย

    นายนิพนธ์กล่าวว่า สาเหตุการเกิดปะการังฟอกขาว เกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ขณะที่สาหร่ายสังเคราะห์ซึ่งเป็นสาหร่ายที่อาศัยอยู่กับประการัง ที่จะช่วยทำให้สีสันของปะการังงดงาม แต่เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น สาหร่ายชนิดนี้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้และตายไปในที่สุด ทำให้ปะการังมีสีซีดและเกิดการฟอกขาวในที่สุด นอกจากนี้ ปริมาณแสงที่ส่องไปในเนื้อปะการัง จะทำให้เกิดออกซิเจนที่เป็นพิษ ซึ่งจะไปทำลายเนื้อเยื่อปะการัง ทำให้ปะการังตาย สำหรับในบริเวณทะเลอันดามัน จะมีพื้นที่ปะการังประมาณ 80 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่อยู่ในภาวะฟอกขาวเกือบหมด นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยทางทะเลที่ จ.ระยอง ว่าเกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวในอ่าวไทยเช่นกัน

    "ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ปะการังทรุดโทรมมาก เมื่อเทียบกับปี 2535 ที่ถือว่ามีปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ในไทย ที่เกิดขึ้นเวลานี้ความเสียหายใกล้เคียงกันมาก ปะการังตายเยอะมาก สำหรับการฟื้นฟูคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3- 4 ปี โดยเฉพาะปะการังน้ำตื้นไม่เกิน 10 เมตร ใช้เวลา 3-4 ปี แต่ลึก 10-15 เมตร การฟื้นตัวเกิดขึ้นช้ามาก เช่น หมู่เกาะสุรินทร์ที่ความลึก 10-15 เมตร ปัจจุบันยังฟื้นตัวช้ามาก" นายนิพนธ์กล่าว

    ด้านนายสมเกียรติ ขอเกียรติวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสมุทรศาสตร์และสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ตรวจจับอุณหภูมิน้ำทะเลในทะเลอันดามันพบว่าสูง 31 องศาเซลเซียส เป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ เป็นสาเหตุทำให้เกิดปะการังฟอกขาว สาเหตุที่น้ำอุณหภูมิสูงมากจากภาวะเอลนิโญ หรือมวลของน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกิดการไหลเวียนช้าลงผิดปกติ ทำให้อุณหภูมิสูงเวลานาน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในพื้นที่อ่าวไทยด้านตะวันออกคือ บริเวณ ระยอง และ จ.ตราดนั้น ทาง ทช.ได้ลงสำรวจพื้นที่แล้วเช่นเดียวกันพบว่าเริ่มปรากฏการฟอกขาวของปะการัง แล้วประมาณ 20-30% ของพื้นที่ ส่วนบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันตกที่เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวแล้วประมาณ 10% ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ ทช.ได้วัดอุณหภูมิของน้ำทะเลในพื้นที่อ่าวไทยจุดต่างๆ พบว่ามีอุณหภูมิเฉลี่ย 33 องศาเซลเซียส สูงขึ้นมาจากปกติถึง 3 องศาเซลเซียส

    "ค่อนข้างจะหนักใจกับภาพรวมของการเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้ง นี้พอสมควร เพราะมันเกิดในบริเวณกว้าง ทั้งอ่าวไทย และอันดามัน ที่สำคัญคือ ไม่สามารถเข้าไปจัดการแก้ปัญหาอะไรได้เลย นอกจากรอเวลาให้มันฟื้นตัวเอง เวลานี้ยังไม่รู้ว่าที่เกิดนั้นอยู่ในช่วงเวลาไหน ระหว่างช่วงต้น กลาง หรือตอนปลายของสถานการณ์ หากเกิดช่วงต้น แสดงว่าในอนาคตมันอาจจะเกิดรุนแรงมากกว่านี้แน่นอน หากที่เกิดเวลานี้ถึงขั้นพีคสุดแล้วถือว่าดี เพราะเมื่อพีคสุด มันก็จะหยุด และเริ่มฟื้นตัว ซึ่งการฟื้นตัวต้องใช้เวลามากเช่นเดียวกัน สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือ บริเวณไหนที่สำรวจพบว่ามีการฟอกขาวที่รุนแรงมาก ต้องปล่อยเอาไว้นิ่งๆ ที่สุด อย่าไปรบกวนเลย เหมือนผู้ป่วยหนักต้องให้พักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" นักวิชาการด้านทะเลผู้เข้าไปสำรวจปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวของ ทช.กล่าว

    เมื่อถามว่า ปะการังที่เกิดการฟอกขาวทั้งหมดจะสามารถฟื้นกลับคืนมาเหมือนเดิมได้หรือไม่ นักวิชาการ ทช.กล่าวว่า แล้วแต่ความรุนแรงหากบริเวณที่มีการฟอกขาวมากอาจจะทำให้ปะการังบริเวณนั้น ตายไปเลยก็ได้ แต่ในส่วนที่ไม่รุนแรงอาจจะฟื้นตัวขึ้นมาเองได้ แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควร
    [/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...