ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** โลกุตตระธรรม นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์ ****

ขอให้ทุกท่าน...
รักษาสัจจะ ในสิ่งที่ดี สิ่งที่ตนเคยกล่าวเอาไว้
ขอให้ทำได้จริง เป็นประจำ ทุกวัน ตลอดชีวิต
ดินฟ้าอากาศ เป็นสักขีพยานการกระทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓<!-- google_ad_section_end -->
วันมาฆบูชา ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔

 

*** สัจจะธรรม ****

สิ่งที่ท่านทำไปแล้ว มันไม่ตาย เป็นตัวกระทำที่มีผลย้อนกลับมาตอบแทน
ตัวกระทำของท่าน เสมือนเงาตามตัวท่านเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓

 

เหยื่อแผ่นดินไหวชิลีเพิ่มเป็น 300 คน​

​

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีที่ชิลีเมื่อวานนี้ เพิ่มเป็น 300 คน ขณะที่ผู้นำชิลีประกาศภาวะภัยพิบัติในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคกลาง

ประธานาธิบดีมิเชล บัชเลต ของชิลี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เหตุแผ่นดินไหวชิลีเมื่อวานนี้ มีประชาชน 2,000,000 คน ได้รับผลกระทบ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ยืนยันมีอย่างน้อย 300 คน และขณะนี้ได้ประกาศภาวะภัยพิบัติในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคกลางของชิลีแล้ว ประธานาธิบดีบัชเลต ยังบอกด้วยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของชิลีว่า จะสามารถจัดการและรับมือกับภัยธรรมชาติอย่างไร ซึ่งผู้นำชิลีให้คำมั่นว่า จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อเร่งฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคอย่างเร็วที่สุด

สำหรับแผ่นดินไหวที่ชิลี เมื่อวานนี้ เกิดขึ้นนอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค วัดความรุนแรงได้ 8.8 ริคเตอร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองคอนเซบเชี่ยนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของชิลี 115 กิโลเมตร ห่างจากกรุงซานติอาโก้ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 325 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 35 กิโลเมตร นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของชิลี จนถึงขณะนี้มีรายงานการเกิดอาฟเตอร์ช็อคอย่างน้อย 45 ครั้ง รวมทั้งแรงสั่นสะเทือนที่เกิดที่อาร์เจนติน่า วัดความรุนแรงได้ 6.3 ริคเตอร์

แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ไกลถึงนครเซา เปาโล ของบราซิล ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากชิลีไปทางตะวันออก 2,900 กิโลเมตร ทำให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ถนนและสะพานหลายแห่ง รวมทั้งบ้านเรือน 500,000 หลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีรายงานว่า รถยนต์จำนวนหนึ่งห้อยอยู่กลางสะพานที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ขณะที่อีกหลายคันพลิกคว่ำ และตกเกลื่อนกลาดอยู่บนถนน ขณะที่โรงงานเคมีในกรุงซานติอาโก้ ก็เกิดเพลิงไหม้ ไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ถูกตัดขาด ประชาชนหลายล้านคนต้องอยู่อย่างมืดมิดตามท้องถนน มีรายงานด้วยว่า นักโทษ 209 คนหนีออกจากเรือนจำในเมืองชิลแลน ซึ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวหลังจากเกิดเพลิงไหม้เรือนจำ

ส่วนสนามบินกรุงซานติอาโก้ปิดให้บริการเนื่องจากเพดานบางส่วนพังถล่มลงมายังทางเดินบริเวณอาคารผู้โดยสาร คาดว่า ปิดให้บริการอย่างน้อย 72 ชั่วโมง เที่ยวบินต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงที่ประเทศอาร์เจนติน่า แม้กระทั่งรถไฟใต้ดินและการเดินทางระบบสาธารณะอื่นๆก็ให้บริการในวงจำกัด เนื่องจากรถประจำทางหลายร้อยคันต้องจอดทิ้งไว้บนสะพานที่ได้รับความเสียหาย มีรายงานด้วยว่า ท่าเรือสำคัญในเมืองวัลปาไรโซ่ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซานติอาโก้ไป 120 กิโลเมตรก็ถูกปิดด้วย ตอนนี้อยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหาย ส่วนโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งก็ปิดเช่นกัน มีรายงานการปล้นสะดมภ์ในบางพื้นที่แล้ว

แผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้เกิดสึนามิบริเวณชายฝั่งของชิลีบางส่วน โดยที่หมู่เกาะเฟอร์นันเดซ นอกชายฝั่งชิลี มีรายงานว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนสูญหายอีกจำนวนมาก

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯประกาศว่า สหรัฐฯพร้อมให้ความช่วยเหลือรัฐบาลชิลี หากได้รับการร้องขอ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ผู้นำชิลียังไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=16501

 

คางคกเตือนภัยแผ่นดินไหวจีนล่วงหน้าแต่ไม่มีใครเชื่อ
โดยคุณ ThelastKGB​

​

ธรรมชาติได้ส่งสัญญาณเตือนแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในจีนแล้ว แต่ไม่มีใครสังเกตและรับรู้ และประเด็นนี้ได้กลายเป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงกันในห้องสนทนาทางอินเตอร์เน็ตว่า ทำไมสัญญาณเตือนจากธรรมชาติไม่ช่วยทำให้รัฐบาลตระหนักได้ว่าหายนะครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น หรือ หากสำนักแผ่นดินไหววิทยามีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ ก็คงจะทำนายเรื่องการเกิดแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้าถึง 10 วัน

แต่นักแผ่นดินไหววิทยา บอกว่า แม้หลายประเทศอาจพยายามสังเกตการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมสัตว์เหมือนเป็นเครื่องเตือนภัยแผ่นดินไหว แต่ยังไม่มีวิธีการที่เชื่อถือได้ในการใช้สัตว์ทำนายแผ่นดินไหว

ถึงอย่างนั้นบทความในหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลีของทางการจีน ก็ตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหว ทั้งที่สัญญาณเตือนแรกเริ่มขึ้นตั้งแต่เกือบสามสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อน้ำปริมาณหลายพันลูกบาศก์เมตรลดหายไปฮวบฮาบชั่วพริบตาจากบึงในเมืองเอินซี ในมณฑลหูเป่ย ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกือบ 350 กิโลเมตร

และเพียง 3 วันก่อนแผ่นดินไหว คางคกหลายแสนตัวออกมาเพ่นพ่านเต็มท้องถนนในเมืองเหมียนจูห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 60 กิโลเมตรอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และมีคางคกหลายหมื่นตัวบนถนนในเมืองไท่โจว มณฑลเจียงซู และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งรายงานว่า ชาวบ้านกลัวว่าคางคกจะเป็นสัญญาณของภัยธรรมชาติ แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้ท้องถิ่นบอกว่าเป็นเรื่องการอพยพตามปกติ

และในวันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว สัตว์หลายชนิดในสวนสัตว์อู๋ฮั่น ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวกว่า 1,000 กิโลเมตร แสดงพฤติกรรมแปลกๆ เช่น ม้าลายหลายตัวเอาหัวโขกประตูกรง ช้างฟาดงวงอย่างเกรี้ยวกราดจนเกือบโดนเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ สิงโตและเสือราว 20 ตัวซึ่งปกติจะนอนหลับตอนกลางวัน ก็เดินวนไปวนมาภายในกรง ยิ่งกว่านั้นในช่วงเวลาเพียง 5 นาทีก่อนเกิดแผ่นดินไหว นกยูงหลายสิบตัวส่งเสียงกรีดร้อง

เจ้าหน้าที่สวนสัตว์บอกกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า พฤติกรรมของสัตว์เหล่านี้อาจเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่ากำลังจะเกิดแผ่นดินไหว นักแผ่นดินไหววิทยา บอกว่า มีเหตุผลบางอย่างที่พออธิบายได้ว่า การเคลื่อนตัวของชั้นหินใต้ดินก่อนเกิดแผ่นดินไหว ทำให้เกิดคลื่นไฟฟ้าที่ทำให้สัตว์บางชนิดรับรู้ได้ หรืออีกทฤษฎีหนึ่งบอกว่า สัตว์สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นไหวเพียงเบาๆก่อนเกิดแผ่นดินไหวได้ในขณะที่มนุษย์ไม่สามารถรู้สึกได้

ขณะที่นายจาง เสี่ยวตง นักวิจัยที่สำนักแผ่นดินไหววิทยาของจีน บอกว่า หน่วยงานของเขาใช้สัญญาณเตือนจากธรรมชาติทำนายแผ่นดินไหวได้ 20 ครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในจีน

ในฤดูหนาวเมื่อปี 2518 เจ้าหน้าที่จีนได้อพยพประชาชนออกจากเมืองไห่เฉิงในมณฑลเหลียวหนิงเพียงหนึ่งวันก่อนเกิดแผ่นดินไหว 7.3 ริกเตอร์ โดยสังเกตจากพฤติกรรมของสัตว์และระดับน้ำใต้ดิน แต่ก็ยังมีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวกว่า 2,000 คน

ขณะที่อีกหนึ่งปีถัดมา จีนไม่สามารถเตือนภัยแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ในเมืองถังซานได้ และมีผู้เสียชีวิต 240,000 คน ทั้งที่มีรายงานเกี่ยวกับปรากฏการณ์แปลกประหลาดทางธรรมชาติช่วงก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น ระดับน้ำในบึงลดฮวบ ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวถูกส่งไปในพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหว และช่วงที่ทีมผู้เชี่ยวชาญจะเดินทางกลับ ได้แวะพักค้างคืนที่เมืองถังซาน ทำให้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวด้วย

สิ่งเหล่านี้คงพอบอกได้ว่า บางครั้งเราก็ควรฟังเสียงเตือนจากธรรมชาติบ้างเหมือนกัน

โพสต์ข้อความโดย ThelastKGB

ที่มา http://www.oknation.net/blog/inter/2008/05/15/entry-6

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ยืนยัน 2 เขื่อนใหญ่ในกาญจนบุรียังแข็งแรง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กาญจนบุรี 1 มี.ค.-เขื่อนศรีนครินทร์ ยืนยัน 2 เขื่อนใหญ่ใน จ.กาญจนบุรี ยังแข็งแรง ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี เพราะอยู่ไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวมาก

เหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี ขนาด 8.8 ริกเตอร์ จนมีการประกาศเตือนภัยสึนามิ นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์

เปิดเผยว่า เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ได้ตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งไว้ที่ทั้งสองเขื่อนแล้ว พบว่าไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน เนื่องจากอยู่ไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวมาก จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่า ทั้ง 2 เขื่อนใน จ.กาญจนบุรี ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมของเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จนมีความมั่งคงแข็งแรง

พร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ และมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา ตรวจสอบ และประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อนเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ.-สำนักข่าวไทย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ยอดตายดินไหวชิลี พุ่ง 708 ศพ!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 1 มี.ค. บีบีซีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 8.8 ริกเตอร์ ที่ประเทศชิลี

พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว จาก 300 เป็น 708 ราย หลังพบว่ามีศพผู้เคราะห์ร้ายใต้ซากอาคารจำนวนมาก โดยประธานาธิบดีมิเชล บาเชอเล็ต ผู้นำประเทศ กล่าวว่า หายนะครั้งนี้รุนแรงมาก ในแคว้นโมเล มีผู้เสียชีวิตถึง 541 ราย ที่บิโอบิโอ มี 64 ราย และภูมิภาคอื่นๆ รวมแล้ว 103 ราย
ขณะที่ผู้ประสบภัยยังคงต้องนอนค้างคืนตามท้องถนน ในเมืองคอนเซปเซียน พื้นที่ประสบภัยร้ายแรงที่สุด

ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและน้ำฉีดไล่ฝูงชนที่เข้าไปปล้นของกินและสิ่งของต่างๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ต นายกเทศมนตรี ถึงกับกล่าวว่า ภาวะขาดแลนอาหารทำให้ควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทย น.ส.วิมล คิดชอบ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับโทรเลขจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงซานดิเอโก ประเทศชิลี

ติดต่อคนไทยในชิลีได้แล้ว ซึ่งทั้งหมดมีจำนวน 60 คน โดยทุกคนปลอดภัยดี ไม่มีใครมีปัญหาใดหรือได้รับบาดเจ็บ และยังไม่มีการร้องขอความช่วยเหลือใดในรายละเอียด รวมถึงยังไม่มีใครแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศไทยในขณะนี้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คลื่นยักษ์สึนามิถล่มทางใต้ของชิลีหลังแผ่นดินไหว8.8ริคเตอร์ตายกว่า100 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เกิดแผ่นดินไหว 8.8 ริคเตอร์ในประเทศชิลีมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 78 ราย อาคารหลายหลังพังถล่มลงมา เกิดคลื่นยักษ์สินามิพัดถล่มทางตอนใต้ วันเดียวกันบริเวณเกาะโอกินาวาทางตอนใต้ของญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนเบื้องต้นได้ 6.9 ริคเตอร์ เกรงว่าจะเกิดคลื่นสึนามิตามมา

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 8.8 ริคเตอร์

ในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณใกล้ชายฝั่งตอนกลางค่อนไปทางใต้ของประเทศชิลีเมื่อช่วงเช้ามืดตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 78 ราย นอกจากนี้ ยังเกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ของกรุงซานติอาโกของชิลีที่อยู่ห่างออกไป 320 กิโลเมตร อาคารหลายหลังพังถล่มลงมา ระบบโทรศัพท์ถูกตัดขาดเนื่องจากสายได้รับความเสียหาย ผู้คนจำนวนมากต่างวิ่งหนีออกจากอาคารมาอยู่บนท้องถนนด้วยความตกใจทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอน

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.34 น. ตามเวลาท้องถิ่น (13.34 น. ในประเทศไทย)

มีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองกอนเซปซิโอนของชิลีไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 90 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไป 55 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อคขึ้นตามมา 11 ครั้ง โดยมีถึง 5 ครั้งที่วัดความรุนแรงได้ 6 ริคเตอร์หรือมากกว่า

ล่าสุด เอเอฟพีรายงานอ้างศูนย์เตือนภัยสึนามิในภูมิภาคแปซิฟิคของสหรัฐ ระบุว่า เกิดคลื่นสูง 2.34 เมตรซัดถล่มเมืองทัลคาฮัวโน

ซึ่งเป็นหนึ่งใน 11 เมืองชายฝั่งของชิลีที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่ม หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงได้ 3 ชั่วโมง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 122 ราย และทำให้ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของชิลีได้รับความเสียหายอย่างหนัก
[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ด้านสถานีโทรทัศน์และวิทยุชิลี รายงานว่า แผ่นดินไหวทำให้สะพานแห่งหนึ่งถล่มลงมา และมีอาคารหลายหลังพังถล่ม

ตามท้องถนนในกรุงซันติอาโกมีเศษกระจกแตกกระจายเกลื่อน และแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนที่ออกไปอยู่ตามท้องถนน ประธานาธิบดีมิเชล บาเชเล็ตของชิลีได้ประกาศให้พื้นที่ทางตอนกลางของประเทศอยู่ในภาวะหายนภัย และกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 78 ราย แต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงเช่นนี้ต้องยอมรับว่าจำนวนตัวเลขของความสูญเสียที่แท้จริงคงจะมากกว่านี้

ศูนย์เตือนภัยสึนามิภูมิภาคแปซิฟิกของสหรัฐได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิสำหรับชิลีและเปรู และเตือนให้ประเทศในทวีปละตินอเมริกา และอเมริกากลางทั้งหมด เกาะฮาวาย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ รัสเซีย ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และทวีปแอนตาร์กติกาซึ่งอยู่บริเวณขั้วโลกใต้เฝ้าระวังคลื่นสึนามิ โดยระบุว่าแผ่นดินไหวในระดับรุนแรงกว่า 8 ริคเตอร์ขึ้นไป มีความเป็นไปได้ว่าจะก่อให้เกิดคลื่นสึนามิที่มีพลังทำลายล้างสูงซัดเข้าชายฝั่ง ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นออกประกาศเตือนเช่นเดียวกันว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิเป็นบริเวณกว้างในมหาสมุทรแปซิฟิกภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ส่วนสถาบันฟิลิปปินส์เพื่อการศึกษาด้านภูเขาไฟและแผ่นดินไหวได้ออกประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่บริเวณชายฝั่งเตรียมตัวอพยพในกรณีที่เกิดคลื่นสึนามิ

วันเดียวกัน เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนเบื้องต้นได้ 6.9 ริคเตอร์

บริเวณเกาะโอกินาวาทางตอนใต้ของญี่ปุ่นก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดคลื่นสึนามิตามมา ทั้งนี้ ไม่มีรายงานว่าเกิดความเสียหายรุนแรงจากแผ่นดินไหวแต่อย่างใด โดยทางสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งของเกาะโอกินาวา ที่ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 05.31 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยรายงานความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหวมีเพียงแค่ท่อน้ำแตกเพียง 2 จุดเท่านั้นจากการเปิดเผยของ โนริโทมิ คิคุซาโตะ เจ้าหน้าที่ตำรวจโอกินาวา

ในตอนแรกสำนักงานอุตุนิยมวิทยาคาดว่าอาจจะเกิดคลื่นสึนามิสูง 2 เมตร

บริเวณชายฝั่งของเกาะโอกินาวาและได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวออกห่างจากชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาได้ยกเลิกประกาศเตือนดังกล่าวหลังจากที่สังเกตพบว่ามีคลื่นความสูงราว 10 เซนติเมตร หลายลูกเกิดขึ้นตามมาเท่านั้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สึนามิที่ชิลีไม่รุนแรงตามคาด สูงแค่เมตรครึ่ง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ยอดตายจากเหตุแผ่นดินไหวในชิลีเพิ่มขึ้นกว่า 300 คน ขณะที่สึนามิจากเหตุแผ่นดินไหวในชิลีไม่รุนแรงอย่างที่คาด สูงสุดแค่เกือบเมตรครึ่งที่ญี่ปุ่น มีรายงานผู้เสียชีวิตจากสึนามิที่เดียวคือเกาะโรบินสัน ครูโซ ที่อยู่ใกล้ชิลีมากที่สุด ด้านผู้นำชิลียังไม่ขอรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 8.8 ริคเตอร์ในประเทศชิลี

ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักในประเทศชิลีและยังทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขึ้นในหลายประเทศทั่วแปซิฟิก โดยมีรายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ทำให้อาคารผู้โดยสารของสนามบินหลักในกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของชิลี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้ต้องปิดให้บริการชั่วคราว แต่ในส่วนของรันเวย์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์อีกครั้งในวันที่ 2 มีนาคม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยก่อน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวที่ถือว่ารุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของชิลี นับตั้งแต่ปี 2443 ได้ทำให้โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง

และเหมืองแร่หลัก 2 แห่งของชิลีที่ผลิตทองแดงมากที่สุดในโลก ต้องปิดลงชั่วคราว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกทองแดงของชิลีแต่อย่างใด โดยชิลีถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในละตินอเมริกา และเป็นประเทศผู้ส่งออกทองแดงมากที่สุดในโลก

วันเดียวกัน ทางการชิลีแจ้งว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่ถือว่ารุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก ล่าสุด มีมากกว่า 300 คนแล้ว

และมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ถึง 2 ล้านคน หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านจำนวนมากต้องออกมานอนตามท้องถนนเนื่องจากไม่มีที่พักอาศัย และอยู่กันโดยไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากสายไฟฟ้าถูกตัดขาดระหว่างเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยเฉพาะที่เมืองคอนเซปซิโอ ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด และมีประชาชนอาศัยอยู่ถึง 670,000 คน ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้
[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ขณะที่ประธานาธิบดีมิเชล บาเชเล็ต ผู้นำของชิลี ประกาศยังไม่ขอรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ

โดยนายมารีอาโน เฟอร์นันเดซ อามูนาเตกุย รัฐมนตรีต่างประเทศของชิลี ได้ออกมาแสดงความซาบซึ้งต่อความหวังดีของนานาประเทศที่เสนอตัวช่วยเหลือชิลี หากแต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ของชิลีประเมินสถานการณ์ก่อนว่าต้องใช้กำลังมากน้อยเพียงใด และเกรงว่าความช่วยเหลือใดๆ ที่เข้าในชิลีอาจจะทำให้เกิดความสับสนในการบริหารจัดการด้านความช่วยเหลือ
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ได้ออกมาประกาศแล้วว่า สหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ชิลีหากทางการชิลีร้องขอมา

และยังได้เตือนประชาชนทั้งที่เกาะฮาวาย, เกาะกวม, อเมริกัน ซามัว และผู้ที่อยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตก ให้คอยติดตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมอพยพและมาตรการอื่นๆ เพื่อรับมือกับคลื่นยักษ์สึนามิที่อาจเกิดขึ้นทั่วบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากมีการเตือนภัยสึนามิที่อาจเกิดขึ้นหลังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้ เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป อังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส ที่เสนอให้ความช่วยเหลือแก่ชิลีทันทีที่มีการประเมินความเสียหายแล้ว อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศต่างประกาศจะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปในชิลี และคาดว่าความเสียหายน่าจะน้อยกว่าเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวที่เฮติเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ข่าวระบุว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวศูนย์เตือนภัยสึนามิประจำภาคพื้นแปซิฟิก ประกาศเตือนภัยสึนามิที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศที่มีพื้นที่ติดมหาสมุทรแปซิฟิกราว 50 ประเทศและดินแดน

ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่นิวซีแลนด์ไปจนถึงญี่ปุ่น โดยรายงานความเสียหายที่เกิดจากสึนามิที่แรกคือ ที่เกาะโรบินสัน ครูโซ ที่อยู่นอกชายฝั่งของชิลี มีรายงานผู้เสียชีวิต 5 คน แต่สึนามิที่เกิดที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นที่เกาะฮาวาย นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด ศูนย์เตือนภัยสึนามิประจำภาคพื้นแปซิฟิกจึงได้ยกเลิกการเตือนภัยในทุกประเทศในเวลาต่อมา ยกเว้นรัสเซียและญี่ปุ่นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังภัย

โดยมีรายงานที่ญี่ปุ่นได้สั่งอพยพชาวบ้านราว 540,000 คน ที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งตอนเหนือของประเทศ ให้ไปอยู่บนที่สูง

ก่อนที่สึนามิลูกแรกจะถึงชายฝั่งญี่ปุ่นที่เกาะโองาซาวาระเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ แต่คลื่นสูงเพียง 10 เซนติเมตร และอีกลูกหนึ่งพบที่เกาะฮอกไกโด พบคลื่นสูงเพียง 30 เซนติเมตร นอกจากนี้ ยังมีรายงานการเกิดสึนามิสูง 1.45 เมตรที่เมืองออตสึจิเมืองท่าของญี่ปุ่น และไม่มีรายงานความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้ ชิลีเคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดเมื่อปี 2503 โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 9.5 ริคเตอร์ ส่งผลให้ทำให้เกิดสึนามิทั่วบริเวณแปซิฟิก และทำให้มีผู้เสียชีวิตในญี่ปุ่นกว่า 140 ราย

วันเดียวกัน มีรายงานเกิดคลื่นสึนามิสูงราว 80 เซนติเมตรบริเวณชายฝั่งตะวันออกของรัสเซีย ที่คาบสมุทรคัมชัตกา ทางการรัสเซียจึงได้ยกเลิกคำเตือนภัยสึนามิ

และรายงานว่าไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นจากเหตุสึนามิครั้งนี้แต่อย่างใด หลังจากที่ทางการรัสเซียได้สั่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น วันเดียวกัน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งสารแสดงความเสียใจถึงนายมารีอาโน เฟอร์นันเดซ อามูนาเตกุย รัฐมนตรีต่างประเทศของชิลี กรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ชิลี ที่ทำให้มีการสูญเสียชีวิตและเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินจำนวนมาก และหวังว่าทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพปกติในเร็ววัน โดยไทยพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือชิลีเพื่อบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้น

ด้าน น.ส.วิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศชิลีว่า

กระทรวงการต่างประเทศได้รับโทรเลขจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงซานติอาโก ประเทศชิลี รายงานว่า สามารถติดต่อคนไทยในชิลีทั้ง 60 คนได้แล้ว รวมทั้งนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนเอเอฟเอสอีก 15 คน โดยทุกคนปลอดภัยดี ไม่มีใครมีปัญหาหรือได้รับบาดเจ็บ และยังไม่มีการร้องขอความช่วยเหลือใด รวมถึงยังไม่มีใครแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศไทยในขณะนี้ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงซานดิเอโก ได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากเหตุแผ่นดินไหว

<!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>

กลับสู่หน้าแรก ​

-->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผวาดินยุบโร่แจ้งจนท.ธรณีวิทยามึนสาเหตุ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ชาวบ้านที่ตรังผวาแผ่นดินยุบเป็นหลุมยักษ์ กลางที่ดินว่างเปล่าของข้าราชการครู

เกิดขึ้นตอนเช้ามืด-เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตอนแรกแค่หลุมเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายวงขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดปากหลุมกว้างกว่า 3 เมตร ลึกเกือบ 4 เมตร ต้องนำเชือกมากั้นหวั่นเป็นอันตราย พร้อมแจ้งนักธรณีวิทยามาตรวจสอบ เบื้องต้นยังมึนสาเหตุ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ก.พ. ร.ต.ท.ฉลอง ขุนภักดี ร้อยเวร สภ.นาโยง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านหมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง

ว่าเกิดดินยุบตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่บริเวณกลางที่ดินว่างเปล่า บ้านวัดกลาง พื้นที่หมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านเกือบร้อยคนกำลังมุงดูหลุมขนาดใหญ่ ซึ่งขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งมีขนาดความกว้างของปากหลุมกว่า 3 เมตร และลึกประมาณ 3.5 เมตร โดยหลุมดังกล่าวยังมีรอยแตกร้าวเป็นแนวยาว และมีแนวโน้มจะยุบตัวลงมาอีก จึงทำให้ชาวบ้านต้องช่วยกันนำเชือกสีแดงมากั้นไว้เพื่อป้องกันเด็กพลัดตกลงไป โดยที่ดินที่เกิดหลุมยุบนั้นเป็นของข้าราชการครูคนหนึ่งใน อ.เมืองตรัง และไม่ได้มีการใช้ประโยชน์จากที่ดินแต่อย่างใด ปล่อยให้เป็นที่ดินว่างเปล่ามาหลายปี

จากการสอบถามนางวรรณา เยาว์ดำ อายุ 60 ปี อาชีพชาวสวนยางพารา อยู่บ้านเลขที่ 123/1 หมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ

ซึ่งเป็นชาวบ้านคนแรกที่พบหลุมยุบตัว เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ของวันเดียวกันนี้ ในขณะกำลังนอนอยู่ภายในบ้านพัก ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายสิ่งของตกหล่นลงมาจากที่สูง และมีสุนัขเห่าหอนเสียงดัง แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ตนนึกสงสัยว่าเมื่อคืนเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของอะไร จึงได้เดินมาสำรวจก็พบหลุมยุบตัวตั้งแต่ขนาดเล็กจนขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เป็นหลุมขนาดใหญ่

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงในรัศมี 2 กิโล เมตร ก็ไม่พบมีร่องรอยการปลูกสร้างหรือ ใช้เครื่องจักรกลที่อาจทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนแต่อย่างใด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นเชือกพร้อมกับสั่งห้ามชาวบ้านไม่ให้เข้าใกล้บริเวณหลุมยุบตัว เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งทางอำเภอนาโยง และนักธรณีวิทยาจังหวัดตรัง ให้เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของแผ่นดินยุบตัว ซึ่งคาดว่าไม่นานคงจะทราบผล.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ออกภาพสเก็ตคนร้าย ปาบึ้ม ธ.กรุงเทพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรุงเทพฯ 1 มี.ค.-ชุดสืบสวนระบุคนร้ายคนใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ก่อเหตุปาระเบิดธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม

หลักฐานทั้งยี่ห้อและรุ่นของรถจักรยานยนต์ทำให้ชุดสืบสวนมั่นใจว่าชายในภาพสเกตซ์

คือมือปาระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพสาขาสีลม และธนาคารกรุงเทพ สาขาพระประแดง สมุทรปราการ ในที่ประชุมชุดสืบสวนยังนำภาพวงจรปิดที่ได้เพิ่มมาตรวจสอบ และจะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบอีกครั้งในวันอังคารนี้.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โอ๋ น่ากลัวจริง ๆ ครับ ยิ่งคิดยิ่งน่ากลัว

 

มองความจริง การเตรียมแผนเรื่องนี้ เป็นอย่างไร

เมื่อพิจารณาปัจจัยเกี่ยวข้อง เช่น ลักษณะชั้นดิน

ความคงทนของบ้านเรือน กับทั้ง หนทางยวดยานสัญจร ที่ปลูกสร้างกันมา




<TABLE class=ecxcontentpaneopen><TBODY><TR><TD class=ecxcontentheading width="100%">ปัญหาอาคารทรุดในกทม. </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=ecxcontentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>

ปัญหาการทรุดตัวของอาคาร และบ้านพักอาศัยในกรุงเทพฯ เป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เจ้าของอาคาร เนื่องจากต้องลงทุนลงแรงในการก่อสร้างบ้านหรืออาคารขึ้นมา 1 หลัง ในมูลค่าที่สูงอยู่แล้วเมื่อบ้านหรืออาคารเกิดการทรุดตัวขึ้นมาการแก้ไขเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก

และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่เป็นต้นเหตุแห่งการทรุดตัวของอาคารที่ต้องคำนึงถึงและระมัดระวังให้มาก สำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าวิศวกร ผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมา และเจ้าของอาคาร ก็คือปัญหาชั้นดินอ่อนของกรุงเทพฯ
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>



ผลการเจาะดินแสดงสภาพชั้นดินในกรุงเทพฯในเขตบางนา
ชั้นดินอ่อนของกรุงเทพฯ เป็นชั้นดินที่เกิดจากการตกตะกอนทับถม ของดินตะกอนจากแม่น้ำลำคลองในที่ลุ่มภาคกลางของประเทศไทย โดยเฉพาะเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้มีการสำรวจพบว่า มีชั้นดินอ่อนหนาระหว่าง 12-16 เมตร จากชั้นดินชั้นบนสุด ซึ่งค่ากำลังรับแรงเฉือนของดินก่อน (ALLOWABLE BEARING CAPACITY)

ช่วงความลึก 8-10 เมตร จะมีค่าต่ำอยู่ระหว่าง 1.0-2.0 ตัน / ต.ร.ม. ค่าความชื้นเปลี่ยนแปลงระหว่าง 100-70 % ค่าPLASTICITY INDEX (P.I) มีค่าระหว่าง 30-50 % ซึ่งหมายความว่า ชั้นดินอ่อนของกรุงเทพฯ มีอัตราการทรุดตัว (CONSOLIDATION ETTLEMENT) ในอัตราที่สูง

เช่น ในพื้นที่บางกะปิและบางนา-ตราด จากสถิติ พบว่ามีอัตราการทรุดตัวสูงถึงปีละประมาณ 7-12 ซ.ม.

จากสภาพความสามารถในการรับน้ำหนัก (ALLOWABLE BEARING CAPACITY) ของชั้นดินอ่อนในกรุงเทพฯ ที่ต่ำ จึงสามารถรับน้ำหนักอาคารได้ในเกณฑ์ที่จำกัด(อาคารพักอาศัยชั้นเดียว) ฐานรากของอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป

จำเป็นต้องใช้ฐานรากบนเสาเข็มทั้งหมด แต่ทั้งนี้เสาเข็มที่ใช้ต้องเป็นเสาเข็มที่มีความยาวของเสาเข็ม ให้ปลายของเสาเข็มหยั่งลึกถึงชั้นดินแข็ง จึงจะหยุดยั้งการทรุดตัวของอาคารได้ดังนั้นการต่อเติมอาคารทั่วไปที่ใช้เสาเข็มสั้น3-5-เมตร

จึงมักพบการทรุดตัวสูงและมีอัตราเร็วใกล้เคียงกัน การทรุดตัวของชั้นดินอ่อนโดยทั่วไป การออกแบบอาคารโดยใช้เสาเข็มสำหรับชั้นดินในกรุงเทพฯ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงจากผลกระทบของชั้นดินอ่อนประการหนึ่ง คือพฤติกรรมของเสาเข็มในระยะยาว (LONG TERM PERIOD)

สำหรับเสาเข็มที่มีความยาวไม่เกินชั้นดินอ่อน (มีความยาวไม่เกิน 16 เมตร) จะมีค่าของส่วนความปลอดภัย (SAFETY FACTOR) ลดลง เนื่องจากผล ของการเกิดการทรุดตัวของชั้นดินอ่อนที่ทำให้คุณสมบัติในการรับน้ำหนักของเสาเข็มในระยะสั้น (SHORT TERM PERIOD)

และในระยะยาว (LONG TERM PERIOD) มีความแตกต่างกัน โดยในระยะสั้นแรงเสียดทานของดินที่กระทำต่อเสาเข็ม จะมีลักษณะ POSITIVE FRICTION ทำให้เสาเข็มสามารถรับน้ำหนักได้สูงตามที่ออกแบบ

แต่ในระยะยาวเมื่อสภาพ ชั้นดินอ่อนที่การทรุดเกิดเต็มที่แล้ว จะมีผลไปทำให้เสาเข็มต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการทรุดตัวของดินรอบเสาเข็ม แรงเสียดทานจะเปลี่ยนเป็น NEGATIVE FRICTION

ซึ่งมีผลให้ค่าความปลอดภัยตามแบบลดลง เช่น ได้มีการออกแบบให้เสาเข็มค่าความปลอกภัย ( FACTOR OFSAFETY หรือ F.S. ) = 2.5 และเสาเข็มต้นนี้ รับ MAXIMUM TEST LOAD ได้ 50 ตัน

ดังนั้น เสาเข็มต้นนี้จึงสามารถรับน้ำหนักของโครงสร้างอาคารทั้งหมด ที่ถ่ายลงมาสู่เสาเข็มต้นนี้ได้(DESIGN LOAD)/ MAX. LOAD/ F.S. = 50/2.5 = 20 ตัน แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปชั้นดินอ่อนรอบเสาเข็ม มีการทรุดตัวเต็มที่ และเกิด NEGATIVE FRICTION ที่ไปกระทำต่อเสาเข็ม สมมุติว่า10 ตัน

ดังนั้นน้ำหนักที่กระทำต่อเสาเข็ม จึงเท่ากับ (น้ำหนักจากโครงสร้าง+ NEGATIVE FRICTION = 20+10 =30 ตัน FACTOR OF SAFETY จึงจะเหลือเพียง= 50/30 =1.67 เท่า (ค่า F.S. ลดลงจาก 2.5 เท่า เหลือเพียง 1.67 เท่า)

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเสาเข็มที่ตอกผ่านชั้นดินอ่อนดังกล่าว เป็นสาเหตุสำคัญ ของการทรุดตัวของฐาน รากอาคารในหลายๆ แห่ง ที่มักจะใช้ค่าความปลอดภัยต่ำอยู่แล้ว ประมาณ 1.5-2.0 เท่า เมื่อส่วนปลอด ภัยในระยะลดลงเหลือเพียง 1.1-1.4 เท่า

จึงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามการทรุด ตัวของฐานรากอาคารในระยะยาวเช่นนี้ จะแสดงอาการให้ผู้อยู่อาศัยได้เห็นก่อน โดยการเริ่มแตกร้าวของโครงสร้างอาคาร แบบค่อยเป็น(PROGRESSIVE FAILURE) โดยเริ่มจากโครงสร้างที่มีความแข็งแรงน้อยที่สุดก่อน

เช่น ผนัง จะเกิดรอยร้าวเป็นแนวทแยงวิ่งเข้าสู่คาน และเสาต่อไป ดังนั้นเมื่อพบว่าอาคารเกิดการแตกร้าวที่มีสาเหตุจากการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันของฐานรากอาคารที่ใช้เข็มขนาดเดียวกัน และพบการทรุดตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ต้องตระหนักไว้ก่อนว่าอาจเกิดจากผลของ NEGATIVE FRICTION

จึงต้องตรวจสอบค่า FACTOR OF SAFETY ของเสาเข็ม ถ้าอยู่ในเกณฑ์ต่ำระหว่าง 1.0-1.4 เท่า ถือว่าส่วนปลอดภัยมีค่าต่ำเกินไป และอาคารไม่มีความ ปลอดภัย จำเป็นต้องพิจารณาเสริมฐานรากเพื่อเติมส่วนความปลอดภัย ซึ่งเท่ากับเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงให้แก่ฐานรากอาคาร เมื่อเสริมฐานรากอาคารแล้ว

หากโครงสร้างอาคาร เช่น เสา,คาน เสียหายก็จำเป็นต้องเสริมความแข็งแรง ให้กับส่วนของโครงสร้างที่เกิดอาการแตกร้าว ให้กลับสู่สภาพเดิมต่อไปการทรุดตัวของชั้นดินอ่อนในกรุงเทพฯ

นอกจากก่อให้เกิด NEGATIVE FRICTIONที่มีผลทำให้เสาเข็มลดส่วนความปลอดภัยในระยะยาวแล้ว ยังอาจประสบปัญหาอื่นๆ จากการทรุดตัวของชั้นดินอ่อน ตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง จนถึงตลอดอายุการใช้งานของอาคารดังนี้

1. ผลจากการก่อสร้างของอาคารข้างเคียง จากงานตอกเสาเข็ม มีผลทำให้เกิดการทรุดตัวของดิน (EARTH MOVEMENT) ไปทางใดทางหนึ่ง เป็นผลให้เสาเข็มอาคารข้างเคียง หรือเสาเข็มที่ตอกเสริมแล้ว เคลื่อนตัวตาม (PILE DEVIATION)ซึ่งหากผู้ควบคุมการก่อสร้างขาดการควบคุมดูแลอย่างใกล้ อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคารเคียง หรือเสาเข็มที่ตอกเสร็จแล้วของอาคาร ที่กำลังก่อสร้างเกิดการหนีศูนย์

ซึ่งถ้าก่อสร้างฐานรากต่อไป โดยไม่ได้ตรวจสอบ และปรับแก้ฐานรากให้เหมาะสม ย่อมส่งผลให้ฐานรากชุดดังกล่าวรับน้ำหนักได้น้อยลง และมีค่าความปลอดภัยลดลงถ้าค่าความปลอดภัยต่ำมาก อาจส่งผลให้เกิดการทรุดตัวของอาคารในที่สุด

2. การสูบน้ำบาดาล หรือการขุดดิน หรือการถมดินในปริมาณมากๆ ในชั้นดิน อ่อนของกรุงเทพฯ ถ้าดำเนินการโดยขาดความรู้ และความรอบรู้อาจก่อให้เกิดการเคลื่อนตัวของดินได้ง่าย ซึ่งมักปรากฏเป็นข่าวอยู่เสมอที่บ้านพักอาศัยหรือตึกแถวเสียหายทั้งแถวเพราะเกิดการทรุดตัว จากการเคลื่อนตัวของดินใต้อาคาร

ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เสาเข็มหัก และอาคารพังทลายลงมาในทันทีแม้กระทั่งการขุดดินของฐานรากอาคารที่กำลังก่อสร้างในตอม่อที่มีขนาดใหญ่ และลึกมากก็อาจส่งผลให้มีการเคลื่อนตัวของดิน ส่งผลให้เสาเข็มต้นอื่น เกิดการหนีศูนย์ได้ เช่นกัน

3.ปัญหาการทรุดตัวของเสาเข็มอาคาร จากการออกแบบฐานรากอาคาร ไม่ถูกต้องตามพฤติกรรมของดินอ่อน เช่น กำหนดความยาว เสาเข็มไม่เท่ากัน การออกแบบต่อเติมอาคารโดยใช้เสาเข็มความยาวไม่เท่ากับอาคารเดิม เป็นต้น ซึ่งไม่สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพดินอ่อนในกรุงเทพฯ

จึงก่อให้เกิดการทรุดตัวของอาคารจำนวนมากในปัจจุบัน ปัญหาการทรุดตัวของอาคารบ้านเรือนในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องต้องให้ความสนใจและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ถึงพฤติกรรมของชั้นดินอ่อนที่มีผลต่ออาคารและการก่อสร้าง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ต้องอาศัยวิศวกรที่ความรู้ความชำนาญ ในการสำรวจออกแบบและควบคุมดูแลอย่างชิด ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อจะได้ ไม่ก่อผลเสียหายในระยะยาวภายหลังจากอาคารที่สร้างเสร็จแล้ว

ซึ่งจะทำให้สูญเสียทั้งเงินทอง และความทุกข์ใจของเจ้าของผู้อยู่อาศัย ที่ต้องผจญกับอาคารที่มีปัญหา และต้องเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าเกิดปัญหาถึงขั้นอาคารพังทลายอย่างที่เป็นข่าวเป็นคราวอยู่เนื่องๆ ​

http://www.siam-engineer.com/index.php?option=com_content&task=view&id=22&Itemid=34

 

======================================

1 มี.ค. 53

ฐานผาแบ่น

จากการคำนวณคร่าวๆสมาชิกภายนอกและภายใน ขณะนี้คิดเฉพาะพื้นที่ๆจะ
ให้อาศัยจากสามส่วนก็เหลือสองส่วน ช่วงที่ได้ขึ้นไปทำงานผมจะไปวัดพื้นที่ดู
ว่าสามารถจะรับได้อีกมากน้อยเท่าใดแล้วจะเปิดรับและนัดพบหน้าสถานีรถไฟ
ดอนเมืองเช่นเคย




องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไข้เลือดออก เริ่มส่งสัญญาณระบาด ม.ค.-ก.พ. ป่วยเกือบ 4,000 ราย เสียชีวิตแล้ว 3 ราย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 มีนาคม 2553 12:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

สาธารณสุขเตือนประชาชนระวังโรคไข้เลือดออก ปีนี้มีสัญญาณโรคอาจจะระบาด พบผู้ป่วยในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์รวมกว่า 3,700 ราย เสียชีวิต 3 ราย จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาร้อยละ 38 พบผู้ป่วยอายุมากกว่า 14 ปีมากขึ้น ในกทม.พบเกือบร้อยละ 60 เน้นย้ำให้กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุก 7 วัน

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในปีนี้สภาพอากาศร้อนเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา สิ่งที่น่าห่วงคือโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีสาเหตุจากยุงลาย มีข้อมูลการศึกษาทางวิชาการพบว่าขณะนี้ตัวลูกน้ำยุงลาย จะกลายเป็นตัวยุงเร็วกว่าอดีตที่ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ก็เหลือประมาณ 5 วัน จะทำให้ปริมาณยุงตัวโตเต็มวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากการวิเคราะห์สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกในปี 2553 พบว่าโรคมีสัญญาณอาจเกิดการระบาดในปีนี้ได้ โดยในช่วงเดือนมกราคม จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2553 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเข้ารักษาในโรงพยาบาลสะสมรวม 3,757 ราย เฉลี่ยวันละ 85 ราย เสียชีวิต 3 ราย มากที่สุดในภาคกลางมีร้อยละ 55 ของผู้ป่วยทั้งหมด รองลงมาคือที่ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้อยที่สุดคือที่ภาคเหนือ พบทั้งในเมืองและชนบท โดยสถิติผู้ป่วยใน 2 เดือนแรกปีนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันในปี 2552 ถึงร้อยละ 49 ซึ่งมีผู้ป่วยทั้งหมด 2,511 ราย เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกในปีนี้ พบทุกกลุ่มอายุ แต่มีแนวโน้มพบในเด็กอายุมากกว่า 14 ปีขึ้นไปมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กทม.พบมากถึงร้อยละ 60

ในการป้องกันโรคไข้เลือดออก ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่นๆก่อนถึงฤดูกาลระบาดทุกปีคือช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคมเพื่อป้องกันคนไม่ให้ป่วยให้ได้มากที่สุด โดยให้ทุกพื้นที่ช่วยกันลดจำนวนยุงลายให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนทุกหลังคาเรือน ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งที่อยู่ในบ้านเช่นตามแจกันไม้ประดับ น้ำหล่อขาตู้ ต้องเปลี่ยนน้ำทิ้งทุก 7 วัน และแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายรอบๆบ้าน เช่นที่จานรองกระถางไม้ประดับ รวมทั้งทำลายภาชนะที่อาจเป็นแหล่งให้น้ำขังได้เช่น กระป๋อง กล่องโฟม กะลามะพร้าว ยางรถยนต์ นอนในมุ้งหรือในห้องที่มีมุ้งลวด และให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังโรค หากมีรายงานผู้ป่วยไข้เลือดออก ให้ดำเนินการสอบสวนโรคและควบคุมโรคภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้โรคแพร่ระบาด และพ่นสารเคมีรอบบ้านผู้ป่วยรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร กำจัดยุงลายที่มีเชื้อให้หมดโดยเร็วที่สุด เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดโรค นายแพทย์ไพจิตร์กล่าว

ด้าน นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกรักษาให้หายได้ หากมารับการรักษาเร็ว โดยอาการทั่วไปของโรคนี้ที่เกิดในเด็กและผู้ใหญ่จะไม่แตกต่างกัน กล่าวคือ มีไข้สูงมาก กินยาแล้วไข้ไม่ลด อาจมีจุดเลือดออกเล็ก ๆ สีแดงที่ผิวหนังกระจายตามตัว เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน แต่ในผู้ใหญ่มักจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตามาก มักเป็นรุนแรงกว่าเด็ก และจะมาพบแพทย์ช้า เนื่องจากไม่คิดว่าตัวเองป่วยเป็นไข้เลือดออก มักจะไปซื้อยากินเองก่อนเมื่อรู้สึกมีไข้ หรือไม่สบายตัว ทำให้อาการหนัก รวมทั้งมักใช้ยาที่มีฤทธิ์แรงทั้งแก้ปวดและลดไข้ ทำให้ระคายเคืองและมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น แผลในกระเพาะอาหาร โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงหากเป็นไข้เลือดออกก็ยิ่งทำให้อาการหนักมากขึ้น

นายแพทย์มานิตกล่าวต่อว่า ตามปกติทั่วไปหลังจากมีอาการไข้ แล้วไข้เริ่มลดลง แสดงว่าอาการดีขึ้น แต่หากป่วยเป็นไข้เลือดออก ในระยะที่ไข้ลดลง จะเป็นช่วงที่มีอันตรายมาก ขอให้ประชาชนสังเกตว่าหากระยะที่ไข้ลดลง แต่ผู้ป่วยยังมีอาการซึม อ่อนเพลีย มีอาการปวดท้อง แม้จะรู้สึกตัวดี พูดคุยได้ กินอาหารได้ก็ตาม จะต้องรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว เพราะหากไม่ไปพบแพทย์ภายใน 10 – 12 ชั่วโมง อาจเกิดอาการช็อค มีอาการตับวาย ไตวายแทรกซ้อน จนเสียชีวิตได้

ทั้งนี้ เชื้อไวรัสเด็งกี่ที่ทำให้เกิดไข้เลือดออกมี 4 สายพันธุ์ ซึ่งในประเทศไทยถือว่าโรคไข้เลือดออกเป็นโรคประจำถิ่น มีครบทุกสายพันธุ์ หากติดเชื้อสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง จะทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานสำหรับสายพันธุ์นั้นได้ตลอดชีวิต แต่ป้องกันสายพันธุ์อื่นได้ไม่เกิน 1 ปี ดังนั้นคนคนหนึ่ง ยังสามารถติดเชื้อสายพันธุ์ที่เหลือได้ และการติดเชื้อครั้งที่ 2 นี้ มักเกิดอาการที่รุนแรงมากกว่าการติดเชื้อครั้งแรก ดังนั้นแม้ว่าเคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน ก็สามารถเป็นซ้ำได้หากไม่ได้ป้องกันยุงลายกัด หรือไม่ได้กำจัดลูกน้ำ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นภาชนะใส่น้ำ หรือภาชนะที่มีน้ำขังในบ้านและบริเวณรอบบ้าน

ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000028943

 

พายุฤดูหนาวซินเทียพัดกระหน่ำยุโรป


​

พายุฤดูหนาวซินเทีย พัดกระหน่ำหลายประเทศในยุโรป สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างและทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 55 คน

ซินเทีย ซึ่งเป็นพายุฤดูหนาวที่พัดมาจากมหาสมุทแอตแลนติกได้พัดกระหน่ำพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของยุโรปเมื่อวานนี้ ด้วยความเร็วลม 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ากับความเร็วของพายุเฮอริเคน นับเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ฝรั่งเศส ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คน รายงานแจ้งว่าลมพายุที่พัดกระหน่ำทำให้ต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่นับร้อยปีที่พระราชวังแวร์ซายและบริเวณชายฝั่งหักโค่นลงมา ขณะที่มีรายงานคลื่นสูง 8 เมตร ซัดเข้าฝั่งทำให้ประชาชนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ต้องเลื่อนเที่ยวบินที่สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกลด์ นับร้อยเที่ยว

นายกรัฐมนตรีฟรองซัว ฟิลยง ของฝรั่งเศส ระบุว่าถือเป็นภัยพิบัติของชาติ มีประชาชนจมน้ำเสียชีวิตหลายคนเนื่องจากกระแสน้ำขึ้นเร็วมาก และสิ่งที่ต้องดำเนินการก็คือช่วยอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่ประธานาธิบดีนิโกลา ซาร์โกซี่ เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยที่เมืองวองดีและชารองเต้-มารีตีม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกถล่มอย่างหนักจากซินเทีย พร้อมสั่งการให้รัฐบาลใช้มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นอกเหนือจากฝรั่งเศสแล้ว พายุซินเทียยังสร้างความเสียหายให้กับอีกหลายประเทศในยุโรปไม่ว่าจะเป็นสเปน,โปรตุเกส,เยอรมนี และเบลเยี่ยม โดยที่สเปนมีผู้เสียชีวิตไป 3 คน และต้องประกาศเตรียมพร้อมระดับสูงในพื้นที่อย่างน้อย 17 จังหวัด ขณะที่ต้องหยุดให้บริการรถไฟและต้องเลื่อนเที่ยวบิน ส่วนที่เยอรมนีมีผู้เสียชีวิต 4 คน เนื่องจากรถยนต์ถูกต้นไม้ที่หักโค่นเพราะแรงพายุทับ เช่นเดียวกับที่เบลเยี่ยมมีชายถูกต้นไม้ทับตายไป 1 คนพายุยังพัดไปถึงอังกฤษ ซึ่งมีรายงานว่าหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากรถยนต์ถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากจากพายุพัดลงไปในคลอง ก่อนที่ซินเทียจะพัดไปยังประเทศเดนมาร์ก และออ่อนกำลังลง

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=16535

 

แม้ภัยคน ภัยธรรมชาติ จะรุมเร้า

ขอให้ตั้งมั่นไว้ ในคุณงามความดี ตามวิถีศีลธรรม

บารมีบุญจะคุ้มครอง

 

มีข่าวว่า มีผู้ศึกษาไบเบิล และทำนายว่า โลกจะเกิดภัยใหญ่ในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๐๑๑ คือปีหน้า (ไม่ได้ให้เชื่อ แต่บอกให้ทราบว่ามีคนพูดไว้ว่าอย่างนี้เฉยๆ)

ตามไปอ่านข่าวดูได้ตามลิงก์
Biblical scholar's date for rapture: May 21, 2011 - SFGate

 

======================================

มี.ค. 53

ตื่นเถิด

ตื่นเถิดตื่น-----ตื่นขึ้นมา---------หาความจริง
อย่าประวิง-----หลอกตัวเอง-----ไปวันๆ
ว่าไม่เกิด------เพศภัย-----------อันมหันต์
ทุกวานวัน-----มีให้ดู------------ทั่วทุกเมือง

ลุกเถิดลุก-----ลุกขึ้นมา-------ไม่ชักช้า
มารจะมา-----ใกล้ประตู-------ทั่วทุกห้อง
ลุกขึ้นสู้-------ด้วยความดี-----เพื่อพวกพ้อง
ให้น้องๆ------ได้อยู่เย็น-------เว้นอันตราย

ปี10----------ก็ยังเกิด---------มากเท่านี้
แล้วน้องพี่-----จะเป็นสุข-------ได้อย่างไร?
ปี11----------ก็ไม่รู้-----------จะแค่ไหน?
หรือจะให้------แผ่นดินกลบ-----จบตัวเอง


เร่งเถิดเร่ง--------เร่งกันสร้าง-------แต่ความดี
ให้บุญมี----------เป็นเกราะป้อง-----ความเสียหาย
เพื่อพวกพ้อง-----อีกญาติมิตร------ที่ชิดใกล้
จะได้ไม่----------ทุกข์ระทม-------จมพื้นดิน




องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

สองรูปแรก คือภาพที่อ้างอิงตามข้อความของผมที่ได้เล่าเกี่ยวกับท้องฟ้าเหนือกระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี ว่ามีเมฆแผ่นดินไหวเต็มไปหมด ก่อนจะเกิดเหตุที่ชิลี
ส่วนสามรูปถัดมาท้องฟ้าสีส้ม พึ่งถ่ายเมื่อช่วงเย็นนี้เองครับ ในย่านมีนบุรี ก็เหมือนว่าเป็นเมฆแผ่นดินไหวเช่นกัน แต่ความถี่น้อยกว่าสองภาพแรก อย่างไรก็ตาม สามภาพดังกล่าวเกิดทางทิศตะวันตกครับ ก็ขอให้เป็นแค่เพียงความสังเกตของผมเท่านั้น

 

ใต้ผืนโลกเราขณะนี้ ไม่เสถียรเป็นอย่างมากครับ

ขออย่าได้ประมาท ในเรื่องภัยพิบัติกัน

เตรียมตัว เตรียมความรู้ เตรียมด้านกายภาพ เตรียมสุขภาพเอาไว้

เตรียมใจ เตรียมบุญ เตรียมกุศล เตรียมจิต เตรียมสติ ให้พร้อม ไม่หวั่นไหว หวาดกลัว

ข้อมูลเตรียมเอาไว้ให้พร้อมแล้วครับ

ตอนนี้ เข้าสู่ สเตจในการเตรียมงานรองรับภัยพิบัติ ผ่านโครงการบวร และเศรษฐกิจพอเพียง ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรง วางแนวทางเอาไว้ให้

ยิ่งเสียสละเพื่อส่วนรวมกันได้มากเท่าไร โอกาสรอดปลอดภัยยิ่งสูง

 

*** เตือนวันข้างหน้า ****

ใต้พื้นกรุงเทพ...จะไม่ปลอดภัย
สองริมฝั่งเจ้าพระยา....จะไหลลงไปตามลาวา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ฝันสรุปไว้นานแล้ว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ดูจากเหตุการณ์ ทั้งแผ่นดินไหว และพื้นดินทรุดลง สงสัย รอบแยกจะไม่คงที่แล้วละกระมั้ง หลังจากชิลียังไม่รู้จะเกิดแผ่นดินไหวที่ไหนอีกรึเปล่า

เห็นแล้วเหนื่อยใจ