สัญญาญวันสิ้นโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 15 สิงหาคม 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    ดูกรอานนท์ เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลยไปถึงกึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้นจะพบแต่ความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกทำลายแผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ
    คนในสมัยนั้น (คือปัจจุบัน) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรงบ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎแห่งธรรมชาติไม่พ้น
    เริ่มแต่พระพุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปีเป็นต้นไป ไฟจะลุกลามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมณะชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงเผาผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ สงครามจะทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยากผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจจะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับมาเป็นเวลานานจะตื่นขึ้นมาอาละวาด โลกดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้น ศาสนาของตาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมเชื่อคำของคนโกงกล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติปฏิบัติดี กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง
    พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศมีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง ก็ต่อเมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์อยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตาคตให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวรรษา
    ดู่ก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์โลก ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน
    ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีล ๕ ประการ เจริญ

    สัญญาณวันสิ้นโลก
    (สัญญาณวันกิยามะห์)

    ท่านเชคอาลี อาลี มูฮำหมัด ได้กล่าวถึงสัญญาณวันกิยามะห์ไว้ในหนังสือของท่านนบี ที่ชื่อว่า "อัซร็อตอัซซาอะห์" ดังต่อไปนี้
    สัญญาณย่อย ได้แก่
    1. แผ่นดินไหวจะมีมาก
    2. ลมพายุจะรุนแรง
    3. ความตายจะดาษดื่น (จากโรคร้าย)
    4. มนุษย์จะแข่งขันประดับประดามัสยิด
    5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก
    6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจได้กลับถูกบิดพริ้ว
    7. การผิดประเวณี (ซินา) จะดาษดื่น
    8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ
    9. ในมัสยิดมีเสียงอึกทึก
    10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน
    11. ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นทุกหัวระแหง
    12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก
    13. อุตริกรรม (บิดอะห์) จะปรากฎชัด
    14. ความอายจะน้อยลง
    15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือนสตรี
    16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย
    17. ผู้ทุจริตได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง
    18. ผู้คนจะอ่านอัลกุรอานกันเพียงลิ้น (ขาดการกฏิบัติตาม)
    19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก
    20. การสาบานด้วยสิ่งอื่นจากอัลเลาะห์จะมีมาก
    21. การหย่าร้างเกิดขึ้นมาก
    22. ความชั่วช้าเลวทราบจะปรากฎชัด
    23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์กิเลสและตัณหา
    24. บุรุษจะถูกทำลาย เพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ
    25. มนุษย์จะตัดขาดญาติมิตร
    26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป
    27. ประชาชาติจะแตกออกเป็น 70 กว่าจำพวก
    28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งหนึ่งปีเสมือนหนึ่งเดือน และหนึ่งเดือนเสมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน
    29. การแต่งงานเกิดขึ้น เพราะสมบัติเป็นเหตุ
    30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน
    31. การตลาดจะฝืดเคือง
    32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น
    33. ความรับผิดชอบจะหายไป ความวุ่นวายสับสนจะแทนที่
    34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก (ดุนยา)
    35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี
    36. ทานบังคับ (ซะกาต) ถูกนำมาจำหน่ายค่าแรงและถูกมอบให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิรับ
    37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล
    38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม (บนมิมบัร)
    39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก
    40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ
    41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ
    42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก
    43. ความบริสุทธิ์จะหายไปจากการงาน
    44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน
    45. การพนันจะมีมาก
    46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น (ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)
    47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรก และหันเหออกจากการภักดีต่ออัลเลาะห์ตาอาลา
    ส่วนสัญญาณใหญ่ ได้แก่
    1. อิหม่ามมะห์ดีปรากฎตัว
    2. ดัจญ้าลเผยโฉม
    3. ท่านศาสดาอีซาจะถูกส่งลงมาสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง
    4. ยะญูดและมะญูด พังกำแพงทะลุออกมาได้
    5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน
    6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
    7. มีหมอกควันเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน
    8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ ชุมนุมสถาน
    9. อัลกุรอาน และความรู้ถูกเก็บ (โดยการล้มตายของบรรดาผู้รู้)

    บทความศาสนาโดย : สมาคมนักเรียนไทย ณ กรุงไคโร

    ณ พุทธสถานเฉิงเต๋อ ประเทศมาเลเซีย
    วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2548
    ชั้นเรียนส่งเสริมทบทวนพิเศษ 1 วัน

    พระพุทธะจี้กงประทับทิพย์ญาณเมตตาว่า...

    กัลป์สุดท้ายกาลจวนเจียน เจ้ากรรมนายเวรติดตามทวงหนี้ ต่างก็รอบุญกุศลและให้โอกาสแล้วมาร้อยกว่าปี แต่มาบัดนี้ไม่มีใครสร้างบุญกุศลชดใช้ ไม่ตั้งใจปฏิบัติบำเพ็ญ เจ้ากรรมนายเวรได้กราบทูลร้องขอความเป็นธรรมต่อพระแม่องค์ธรรม พระแม่องค์ธรรมได้ตรวจสอบดูก็เป็นเช่นนี้จริง จึงบัญชาอนุญาตให้เจ้ากรรม นายเวรติดตามทวงหนี้ประชิดตัวได้อย่างเต็มที่ได้ทุกเวลาทุกวินาที ไม่ต้องมีการต่อรองเวรกรรมกับพระวิสุทธิอาจารย์เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ใครมีหนี้กับใครก็จัดการทวงหนี้เลยได้ทันที (เก็บคนชั่วไม่บำเพ็ญ) เนื่องจากคนก่อกรรมทำชั่วไว้มากมาย ถึงแม้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระพุทธะ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายต่างก็ลงมาโปรดกล่อมเกลา ส่งเสริม หลายต่อหลายครั้ง แต่เวไนยก็ยังหลงไม่รู้ตื่น สร้างบาปมากมาย อีกทั้งยังไม่สร้างบุญกุศลบรรลุปณิธาน ศิษย์อย่าได้ชะล่าใจจะไม่ทันกาล ตอนนี้ต้องเร่งรับส่งเสริมนำพาเวไนยปฏิบัติงานธรรม เน้นที่สุดส่งเสริมคน ทั้งหลายเร่งปฏิบัติบำเพ็ญจริง ทุก ๆ ขณะเวลาให้เห็นงานอริยะสำคัญกว่างานอื่นใด
    บัดนี้เป็นการร่อนตะแกรงฟ้าครั้งสุดท้าย ภัยพิบัติครั้งนี้มีเพียงแต่ผู้บำเพ็ญมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมจริงจะมีชีวิตรอด (20%) และจะเป็นผู้เก็บศพเวไนย ภัยจะเกิดทุกวัน ให้ระวังทุกขณะ สิ่งใดที่มนุษย์สร้างขึ้นใหม่ก็จะกลับคืนสู่ธรรมชาติ สิ่งใดมาจากทะเลกลับคืนสู่ทะเล อาจจะมีบางประเทศหายไป ภัยรอบตัวหน้าหลังซ้ายขวา
    ศิษย์มั่นคงพร้อมไม่กลัว ต้องสำนึกด้วยใจจริงแม้ และจากนี้ไป การบำเพ็ญธรรมจะยากลำบากขึ้น ของตั้งใจให้ดี ศิษย์เอ๋ยบัดนี้พระอาจารย์ไม่สามารถแบกรับหนี้กรรมให้ลูกศิษย์ได้อีกแล้ว โอกาสสุดท้ายแล้วในครั้งนี้ มุ่งมั่นทำงานธรรม เร่งรีบสร้างบุญกุศลบรรลุปณิธาน มุ่งมั่นทำงานฟ้า ฟ้าไม่ทอดทิ้ง ละทิ้งอัตตากิเลสวาง ส่งเสริมงานธรรม
    *** (ในระหว่างพระอาจารย์ให้โอวาท ก็ร้องไห้ตลอดสงสารเวไนยเป็นห่วงศษย์ทั้งหลายและได้ส่งเสริมนักเรียนในชั้นเป็นคน ๆ ไป ซึ่งนักเรียนในชั้นมีเพียง 10 คน )

    "สึนามิ" จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นในไทย

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มกราคม 2548 12:55 น.



    ในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "เราจะรับมือธรณีพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิได้อย่างไร" ในการประชุมวิชาการนานาชาติ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เหตุการณ์สึนามิส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกว่าที่ทุกคนคาดคิด โดยส่งผลทางธรณีวิทยาหลายด้าน เช่น บริเวณปลายแหลมปะการังถูกคลื่นซัดหายไป ร่องน้ำลึกเข้ามาอีก 10 กิโลเมตร ปลายแหลมบริเวณเกาะคอเขาหายไป ป่าชายเลนหายไป 2,000 ไร่ โคลนถูกพัดขึ้นมา 200,000 คิวบิกเมตร ส่งผลต่อระบบนิเวศ ที่น่าเป็นห่วงคือ จะเกิดแผ่นดินไหวที่มีความถี่และรุนแรงมากขึ้นในประเทศไทย น้ำเค็มพัดเข้ามาในแหล่งน้ำจืดธรรมชาติ ทำให้น้ำใต้ดินลดลง และทำให้เกิดหลุมยุบ รอยแยกในถ้ำต่างๆ
    ล่าสุด กรมทรัพยากรธรณีได้จัดทำแผนที่เสี่ยงภัยขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่มีเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้เพิ่มฝั่งตะวันออก และชายฝั่งภาคใต้เพิ่มขึ้นด้วย โอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขอความร่วมมือนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิในระดับภูมิภาคและนานาชาติ โดยเชื่อมโยงข้อมูลให้รวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น

    โลกของเรา กับ โลกของเรา (ที่นี่)

    โลกเราทุกวันนี้เข้าข่าย วิปริต แปลกประหลาดกลับตาลปัตรมีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นมากมาย จากทุกมุมโลก
    ทะเลอันดามัน ที่เงียบสงบเต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามแต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีทุกอย่างราพณาสูรด้วยน้ำมือของ คลื่นนรก
    ภาพที่เกิดขึ้นช่างโหดร้ายเหลือเกินเพียงวูบเดียวคนตายเป็นแสน มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
    ไม่เพียงแต่เขตพื้นที่ 11 ประเทศรอบคาบสมุทร อันดามัน เท่านั้น เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นให้เห็นรอบโลกในช่วงปีที่ผ่านมา
    ไม่มีหิมะบนเทือกเขาแอลป์ส .... คลองเวนิช แห้งผากเมื่อสัปดาห์นี้เอง
    อากาศอบอุ่นถึงขนาดว่าชนเผ่าเอสกิโมได้เห็น มดตะนอย ครั้งแรกในชีวิต
    หมีที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ไม่ยอมจำศีลรับความอบอุ่น
    ทะเลทราย ซาฮารา มีฝนตกหนักสุดเท่าที่เคยมีมา
    เกิดพายุ เฮอริเคน 8 ลูกบนมหาสมุทร แอตแลนติก เมื่อปี 2004 ซึ่งเป็นสถิติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    มลรัฐ เทกซัส ที่ร้อนอบอ้าว กลับมีหิมะตกหนักหนา 10 นิ้วนับเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีที่เกิดเหตุการณ์ white chrismas
    ที่เปรู เกิดพายุหิมะรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี และเมื่อไม่กี่วันมานี้ที่ ซาอุดิอาระเบีย ก็มีเกิดเหตุการณ์พิลึกพิลั่นมีหิมะตกเช่นกันรวมไปถึงที่ เลบานอน เยรูซาเล็ม เอเธนส์ และตุรกี
    เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมทั่วโลกท่จีน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เคนย่า นามิเบีย เม็กซิโก นิการากัว ไซบีเรีย ฮังการี บอสเนียฯ ปาปัวนิวกีนี ฟิจิ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย
    ในรอบปีที่ผ่านมา เกิดภาวะ ฝนแล้ง อย่างหนักมากที่สุดใน อเมริกา ลามไปถึงทวีป แอฟริกา อัฟกานิสถาน ออสเตรเลีย จีน และอินเดีย
    อุณหภูมิสูงสุดที่อังกฤษวัดได้ที่ 38.5 องศาเซลเซียส ในปี2003 ที่บร๊อกเดล ใกล้กับ ฟาเวอร์แช่ม
    ที่สกอตแลนด์ในปีเดียวกันนั้นสภาพอากาศไม่ผิดกับทะเลทรายซาฮารา วัดความชื้นได้เพียงแค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ปรากฏว่าในเดือน สิงหาคม กลับมีฝนตกหนักที่ บอสคาสเซิล คอร์นวอลล์ วัดได้ถึง 75 มิลลิเมตร
    ทั้งหมดนั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั่วทุกมุมโลก ทั้งที่ก็รู้กันอยู่ว่าบนพื้นที่ต่าง ๆ ที่ว่านั่นมันไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้
    สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสัญญานเตือนภัยที่น่ากลัวเอามาก ๆ บนโลกใบนี้ ผู้เชี่ยวชาญทังหลายแหล่และนักวิทยาศาสตร์เถียงกันหน้าดำหน้าแดงว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น?
    นักวิทยาศาสตร์บางคนลงความเห็นว่าโลกของเรากำลังร้อนขึ้นทุกขณะสืบเนื่องมาจากมลภาวะเป็นพิษ
    ในอนาคตข้างหน้าน้ำแข็งจากขั้วโลกจะถูกหลอมละลายทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมโลกโดยเฉพาะประเทศที่เป็นเกาะหรือติดกับทะเลจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก
    ที่อังกฤษหยิบยกเรื่องธรรมชาติวิปริต ขึ้นมาพูดถึงหนาหูเรื่อย ๆ จนกระทั่งเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ คาร์ไลส์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักส่งผลให้เมืองเล็ก ๆ คุมเบรียน ที่ถูกขนาบด้วยแม่น้ำสองสายกลายเป็นทะเลสาบย่อม ๆ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ทำให้สนามฟุตบอลของทีม คาร์ไลส์ กลายเป็นสระว่ายน้ำขนาดยักษ์คงใช้เวลาอีกนานกว่าจะปรับสภาพกลายเป็นสนามฟุตบอลอีกครั้ง
    มูลค่าความเสียหายทั้งหมดคิดเป็นเงิน 50 ล้านปอนด์ ถือเป็นภาวะ น้ำท่วม ครั้งใหญ่สุดของเมืองนี้ในรอบ 200 ปี

    คัดมาคร่าว ๆ จาก ซอคเกอร์ วันอาทิตย์ที่ 16 มค 48
    ความจริงใกล้ ๆ บ้านก้อมี ...
    ที่สะพานแขวน(พระรามเก้า) เด๋วนี้น้ำขึ้นมาท่วมบ่อยผิดสังเกตุ ไม่แน่ไอ้ตรงสนามบอลตรงนั้นอาจกลายเป็นแม่น้ำแทนก้อได้ ใครนั่ง 89 ผ่านลองสังเกตุดู


    from ThaiDVD.net
    Jango โพสต์เมื่อ: Jan 18 2005, 07:45 PM

    topic: http://www.thaidvd.net/forum/upload/index.php?act=ST&f=1&t=70528&


    2nd เตือนภัยพิบัติของโลกที่จะเกิดขึ้นอีก

    อันนี้ตัดมาจาก เมลล์ครับ
    เฮ้อ....ชีวิต อะไรกันนักกันหนา
    แจ้งให้พี่ๆทราบ เรื่องอากาศและอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ---มันไม่ใช่ฝน!
    แต่เป็นละอองไอน้ำจากน้ำแข็งละลายฮะ ---->>>
    หากพี่ๆที่ประเทศไทย กำลังอ่านต่อไปนี้ ก็อย่าตกใจ
    ลูกหินเพียงแจ้งข่าว เพื่อให้สังเกตุ และป้องการการเป็นไข้หวัดฮะ
    รายงานจากกรมอุตุไทย .:: มวลความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่คลุมลงมา
    บวกกับลมตะวันตก ทำให้ประเทศไทยตอนบนและตอนกลางมีอุณหภูมิลดลง
    และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ภาคใต้มีฝนตก ทะเลมีคลื่น
    ชาวประมงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง จะเป็นอย่างนี้ไปจนกระทั่ง 18/01/48
    จากนั้นอากาศจะเย็นลง 1-2 องศา
    ที่จริง ก็ใช่ ...... แต่ไม่ใช่ฮะ
    เหตุเกิดจาก ที่ขั้วโลกเหนือด้าน ATLANTIC ฮะ
    เรื่องมี่อยู่ว่า เกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 11 หรือวันพุธ 12 เวลาของไทย ที่ Mid Atlandtic
    ทำให้ เกิดการละลายของน้ำแข็งเป็นไอ แบบ เฉียบพลัน กระจายฟุ้งไปทั่วโลกฮะ
    ทำให้เกิดพายุหิมะ ในที่ต่างๆ รวมถึงประเทศไทยจะมีอุณหภูมิต่ำ
    ซึ่งเกิดจากละอองไอน้ำของก้อนน้ำแข็งที่ละลาย
    ข้อสังเกตุ ปรกติ เวลาหน้าหนาว อากาศจะแห้ง แต่ งานนี้อากาศไม่แห้งแต่ชื้นมากแทน
    ดังนั้นผลในประเทศเขตร้อน ให้หลังที่ตามมาจะทำให้คนเหล่านั้นเป็นไข้หวัดใหญ่อย่างรวดเร็วฮะ
    ดังนั้นขอเตือนให้พี่ๆทุกท่านรักษา สุขภาพ อย่าเดินในที่แจ้ง เพราะละอองน้ำดังกล่าวจะทำให้เป็นไข้หวัดได้ฮะ
    อนึ่ง ไข้หวัดดังกล่าว จะเป็นเชื้อตัวใหม่ที่เกิดจากภัยพิบัติต่างๆที่ผ่านมาอีกด้วยฮะ
    ย้ำอีกครั้ง แบบสรุปฮะ ขอให้พี่ๆทุกท่านรักษา สุขภาพ อย่าเดินในที่แจ้ง
    เพราะละอองน้ำดังกล่าว ไม่ใช่ฝน จะทำให้เป็นไข้หวัดแบบเฉียบพลัน ได้ฮะ
    ขณะนี้ US. ก็กำลังมีภัยพิบัติเช่นกันฮะ ทั้งที่ California Nevada Utah....
    แนะนำขอให้ ฝากพี่ติดตาม"ข่าวต่างประเทศ"ก็จะดีกว่าฮะ
    ว่าตอนนี้ทั่วโลกกำลังมี Disaster เช่น พายุหิมะเกิดขึ้น ฝนเย็น เป็นอย่างไรบ้าง?
    ขอแถม มีภาพถ่ายจากดาวเทียมสดๆ (วันนี้ 16)ให้ดูก็แร๊วกันฮะ
    ให้สังเกตุว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นไหมฮะ โลกตอนบนขณะนี้ ถูกปกคลุมด้วยละอองเย็นสีขาวทั่วโลก
    (ที่จริงในวันก่อน วันที่ 14-15 ละอองน้ำ ขาวโพลนมากๆกว่านี้ วันนี้จางลงไป 30% ฮะ)

    มีรูปมาให้ดู



    ก่อนนี้หลายเดือน อนามัยโลกก็เคยเตือนไปยังหลายประเทศ ให้เตรียมป้องกัน ไข้หวัดใหญ่พันธ์ใหม่ร้ายแรงกว่าเดิม และอาจจะเกิดปัญหาขาดแคลนยารักษา ครั้งใหญ่ของโลกด้วย..เค้าเตือนแล้วนะผมจำได้ ไม่รู้ประเทศจะเตรียมกันปล่าว

    from ThaiDVD.net
    DVDBOYS โพสต์เมื่อ: Jan 20 2005, 11:25 AM

    http://www.thaidvd.net/forum/upload/index.php?act=ST&f=1&t=70663&


    and this is website about future map of world


    http://www.matrixinstitute.com/futuremap.html

    จีนหวั่นโลกร้อนเล็งวัดยอดเอเวอร์เรสครั้งใหม่

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2548 15:37 น.



    ยอดเขาเอเวอร์เรส


    เอเอฟพี 25/01/05 จีนเตรียมส่งทีมสำรวจยอดเขาเอเวอร์เรส ระหว่างวันที่ 20 มี.ค.– 20 มิ.ย.นี้ โดยทีมสำรวจดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างบัณฑิตยสถานด้านสังคมศาสตร์ (CASS) และสำนักงานการสำรวจและแผนที่แห่งชาติจีน (SBSM) โดยมุ่งเน้นสำรวจผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่มีต่อบริเวณดังกล่าว รวมถึงบันทึกระดับความสูงล่าสุดของยอดเขาเอเวอร์เรส หลังจากมีการสำรวจครั้งสุดท้ายในปี 1979

    ทั้งนี้ เทือกเขาเอเวอร์เรส ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนประเทศเนปาลและเขตปกครองตนเองทิเบต มีความสูงอย่างเป็นทางการ 29,028 ฟุต (8,848 เมตร) และจากการสำรวจเร็วๆ นี้ พบว่ายอดเขาชื่อดังได้จมลง 4.29 ฟุต (1.3 เมตร) เนื่องจากภาวะโลกร้อนและการละลายตัวของธารน้ำแข็ง

    น้ำตาเลือด"มาดอนนา" ปริศนาที่ไม่มีคำอธิบาย

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 มกราคม 2548 16:48 น.


    ซิดนีย์มอร์นิงเฮอร์รัลด์ - หากใครจำได้ เมื่อสิบปีที่แล้วมีเหตุการณ์ประหลาดขึ้นในอิตาลี ที่จู่ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1995 รูปปั้น "มาดอนนา" มารดาของพระเยซูที่ตั้งอยู่ที่เมืองชีวีตาเวกเกีย ห่างจากกรุงโรมไปทางเหนือราว 65 กิโลเมตร หลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือด และหลังจากนั้นน้ำตาสีเลือดก็ไหลออกจากดวงตาของรูปปั้นนี้อีก 14 ครั้ง สร้างความแตกตื่นและเป็นที่ถกเถียงกันว่าจริงๆ แล้ว เลือดที่ไหลออกมานั้นเกิดจากฝีมือมนุษย์หรือเป็นสิ่งอัศจรรย์กันแน่

    หลังจากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ในครั้งนั้นพบว่าของเหลวที่แสดงที่อยู่บนรูปปั้นนั้นเป็นเลือดจริงๆของมนุษย์ผู้ชาย นอกจากนั้นจากการเอ็กซเรย์และสแกนแบบซีเอทีก็ไม่พบรูหรือท่อที่จะใช้ฉีดของเหลวดังกล่าวออกมาแต่อย่างใด นับแต่นั้น นักแสวงบุญจากทั่วโลกก็หลั่งไหลไปสักการะรูปปั้นสูง 17 นิ้วดังกล่าวซึ่งพวกเขาเรียกว่า "มาดอนน่าแห่งชีวีตาเวกเกีย"

    หลังจากเรื่องเงียบหายไปเป็นสิบปี เมื่อวันอาทิตย์(23) หนังสือพิมพ์กอนเรียเร เดลลา เซรา ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ชั้นนำของอิตาลี ได้เผยผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องลึกลับดังกล่าว โดยระบุว่าได้รับคำสั่งจากทางการของเมืองชีวีตาเวกเกีย ซึ่งเป็นเขตการปกครองทางศาสนาให้ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง จากหลายๆแง่มุม ทั้งในด้านเทววิทยา ประวัติศาสตร์ และทางการแพทย์

    หลังจากการศึกษาอย่างละเอียด หนังสือพิมพ์ กอนเรียเร ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เป็นความลึกลับของเรื่องเหนือธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถอธิบายได้

    บทความในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเขียนโดย วิตโตรีโอ เมซโซรี นักเขียนชั้นนำที่ช่วยเขียนหนังสือขายดีเรื่อง "Crossing the Threshold of Hope" ให้กับพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ในปี 1994 ทั้งนี้ ยังไม่มีความเห็นใดๆกับผลการศึกษาในครั้งนี้จากทั้งเจ้าหน้าที่ของเมือง ชีวีตาเวกเกีย และสำนักวาติกัน

    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความนี้

    ภัยพิบัติ ความตายของมนุษย์ถูกกำหนดไว้แล้ว
    > >
    > > เป็นกรรมของสัตว์โลกน่ะ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าระบบจะเริ่มล้างมนุษย์
    ปลายปี
    > > 47 (ทีแรกคิดว่าไม่มีอะไรเกิดแล้ว จิตเกือบจะเผลอ
    > > ปรามาทครูบาอาจารย์เข้าแล้วเชียว) แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อยๆ
    ด้วยระบบภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาดและ อุบัติภัยสงคราม
    และจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพระจักรพรรดิ์ลงมา ภัยพิบัติจึงจะสงบ
    > >
    > > ต่อไปที่จะวิบัติหนักๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ
    เราเคยถามครูบาอาจารย์ว่าไม่มีใครเปลี่ยนได้เลยหรือ ท่านบอกว่า "ไม่ได้"
    ท่านว่า "ปู่ยี เว้า ก็ปานพระเจ้า เว้า นั่นแหละ
    > > ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้" เพราะกรรมของมนุษย์เป็นแบบนั้น
    > >
    > > สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพฯก็มิใช่ว่าจะปลอดภัย
    เพราะฝ่ายรักษาภายในของ กทม.
    > > เขาเริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว และต่อไปภาคใต้แทบจะไม่เหลือ
    > > จะเป็นเกาะเป็นแก่งทั้งหมด ครูบาอาจารย์ท่านว่า
    ท่านจะเอาแค่เพชรบุรีขึ้นมา
    > > ++การเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ+++
    > > 1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน
    > > โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ
    > > ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย
    > > จะนำไปสู่เป็นคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว) 2.
    เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือน ตุลาคม –
    พฤศจิกายน
    > > 3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้าง) เป็นเวลา 7 วัน
    > >
    > > ** ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลก
    จะรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น
    > > 56
    > > วัน**
    > > ** ใน 3
    วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเซียในประเทศที่เป็นอริต่อกัน
    > > **
    > >
    > > ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    > > 1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
    > > 2. พายุถล่ม
    > > 3. แผ่นดินแยก และแผ่นดินไหว
    > > 4. ภูเขาไฟระเบิด
    > > (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก, ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก,
    อีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี
    > > /
    > > น่าน / แพร่ / อ.ร้องกวาง )
    > > 5. คลื่นยักษ์จากทะเล
    > > 6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ VIRUSTERIA ,
    อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันที ภายใน 6 วัน
    > > 7. คลื่นเสียงที่รุนแรง
    > > ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน
    > > 8. อดอยากขาดแคลนอาหาร
    > >
    > > การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
    > > 1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3 - 6 เดือน
    > > 2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย
    > > ได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ
    > > เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
    > > 3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
    > > 4. ที่อยู่อาศัย
    > > 5. ยารักษาโรค
    > > 6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก)
    > > ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม
    > > เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี
    > > ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา
    แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
    > > 7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
    > > 8. เครื่องช่วยชีวิต
    > > 9. แสงสว่าง เช่นเทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน
    เท่ากับ
    > > 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก) 10.
    เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
    > >
    > > การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ
    > > 1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด
    > > ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
    > > 2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง 3.
    ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้
    > > ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
    > > 4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง
    3 ภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง
    จิตวิญญาณก็จะได้เห็น คนที่มาเยือน อาจเป็นผีเปรต ผีโขมด
    > > ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้
    > > และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด
    > > 5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
    > > 6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
    > > 7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
    > > 8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
    > > 9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้
    > > 10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น
    > > จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง
    > >
    > > การเตรียมทางจิตวิญญาณ
    > > 1. ชำระกรรมให้เบาบาง ทำได้โดย
    > > 1.1 หยุดโลภ โกรธ หลง
    > > 1.2 ทำจิตให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก
    เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
    > > เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก
    > > ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก
    > > 2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
    > > 3. ฝึกการละวาง
    > > 4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
    > > 5. ฝึกการทำโมฆกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด
    > >
    > > การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย
    > > 1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น
    ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้
    > > ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้องเพราะกำลังจะตาย
    > > หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป
    > > ถ้าหากละวางไม่ได้ จะเกิดอาการ “ตายก่อนตาย” (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ๆ
    หรือการตายทั้งเป็น)
    > > 2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
    > > 3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ
    เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวก เกิดความอิ่มเอิบ
    > > 4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น
    > >
    > > ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้
    > > 1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ
    > > 2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
    > > 3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น
    > > แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ
    หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม

    เกาหลีเหนือกร้าวรับวันเกิดผู้นำ ย้ำเดินหน้าผลิตนุก

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2548 12:17 น.


    คิมจองอิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือมีอายุครบ 63 ปีในวันนี้


    เอเอฟพี - เกาหลีเหนือซึ่งประกาศว่าได้แอบสร้างขีปนาวุธนิวเคลียร์ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของคิมจองอิล ผู้นำสูงสุดของประเทศ พร้อมทั้งย้ำเดินหน้าเสริมสร้างอาวุธเพื่อต้านทานสหรัฐฯต่อไป

    สื่อทางการเกาหลีเหนือกล่าวยกย่องนโยบายที่เน้นด้านการทหารของคิมจองอิลซึ่งมีอายุครบ 63 ปีในวันนี้ โดยหนังสือพิมพ์โรดอง ชินมุนซึ่งตีพิมพ์โดยพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือระบุว่า ท่านผู้นำได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการทหารเพื่อต้านทานกับสหรัฐอเมริกา

    "เราจะเดินหน้าในการให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่กองทัพประชาชนเกาหลีต่อไป เพื่อเป็นแกนหลักในการต่อสู้กับลัทธิจักวรรดินิยม" หนังสือพิมพ์ยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างคำกล่าวจากหนังสือพิมพ์โรดอง ชินมุน

    ก่อนหน้าที่จะถึงวันเกิดของคิมจองอิลในวันนี้นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ประเทศเกาหลีเหนือได้สร้างอาวุธนิวเคลียร์เพื่อเป็นมาตรการป้องกันตนเองจากการโจมตีของสหรัฐฯ

    ในแถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุด้วยว่า เกาหลีเหนือได้ถอนตัวออกจากการเจรจาหกฝ่ายที่มีเป้าหมายในการยุติการสร้างและพัฒนานิวเคลียร์ของแดนโสมแดง ทั้งนี้ โชแทบอก เลขาธิการคณะกรรมาธิการกลางของพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ปกครองเกาหลีเหนือกล่าวในที่ประชุที่มีขึ้นก่อนที่จะถึงวันเกิดของท่านผู้นำว่า สหรัฐฯกำลังหาหนทางเพื่อโดดเดี่ยวและบีบคั้นเกาหลีเหนือ

    "ถ้าหากสหรัฐฯเลือกที่จะใช้สงครามรุกรานเกาหลีเหนือทั้งๆที่เกาหลีเหนือเคยเตือนแล้วนั้น กองทัพและประชาชนของเราก็จะใช้พลังที่มีอยู่ทั้งหมดจัดการกับผู้รุกรานอย่างไร้ความปราณี" โชแทบอก กล่าว

    เกาหลีเหนือได้เฉลิมฉลองวันเกิดของท่านผู้นำซึ่งเป็นวันหยุดที่สำคัญที่สุดของประเทศอย่างไม่แยแสต่อแรงกดดันของนานาชาติที่เรียกร้องให้โสมแดงเลิกล้มความพยายามในการพัฒนาและผลิตอาวุธนิวเคลียร์

    อิหร่านผนึกกำลังซีเรียรับมือสหรัฐกดดัน

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2548 08:07 น.



    สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า ท่ามกลางกระแสความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจจะเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์เพื่อทำสงครามกับอิหร่าน ส่งผลให้ล่าสุดอิหร่านประกาศจับมือกับซีเรียในการต่อสู้กับ "ความท้าทายและภัยคุกคาม" ที่ทั้ง 2 ประเทศกำลังเผชิญคล้ายๆ กันจากท่าทีของสหรัฐฯ โดยรองประธานาธิบดีโมฮัมหมัด เรซา อาเรฟ ของอิหร่าน กล่าวภายหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรีนาจี อัล-โอตารี ของซีเรีย ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือและช่วยเหลือซีเรียอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้านเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากสหรัฐฯ

    รายงานแจ้งว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านเริ่มมีมากขึ้น หลังจากสหรัฐฯ กล่าวหารัฐบาลอิหร่านว่าพัฒนาและแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง และล่าสุดสหรัฐฯ ก็เพิ่งจะสั่งถอนทูตออกจากดามัสกัส ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับซีเรียก็มีปัญหามาโดยตลอด ล่าสุดผลจากกรณีที่นายราฟิก ฮารีรี่ อดีตนายกรัฐมนตรีของเลบานอนเสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิด ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก แม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ได้กล่าวหาว่าซีเรียอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับเลบานอน ที่เต็มไปด้วยความเอนเอียง ทำให้ซีเรียประเมินว่าภัยคุกคามของสหรัฐฯ จะเพิ่มมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เพิ่งกล่าวหาว่าซีเรียพยายามจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ด้วยการติดต่อขอซื้อจากรัสเซีย


    รายงานแจ้งด้วยว่า นางสาวคอนโดลีซซ่า ไรซ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เพิ่งชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ วุฒิสภา ว่าการถอนทูตออกจากซีเรียเป็นผลมาจาก "ปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน" ที่มีต่อกัน และเมื่อไม่นานที่ผ่านมาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ รายงานให้ทราบว่า ซีเรียปล่อยให้กองกำลังทหารจำนวนหนึ่งข้ามพรมแดนเข้าไปในอิรัก เพื่อร่วมต่อต้านทหารสหรัฐฯ ดังนั้น จึงต้องถอนทูตออกจากดามัสกัส

    โรคระบาดในคองโก คร่าไปแล้ว 61 ศพ อีกหลายพันหนีตาย

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2548 08:50 น.



    องค์การอนามัยโลก


    องค์การอนามัยโลกประกาศวันนี้(19)ว่า เกิดโรคระบาดขึ้นทางตอนเหนือของสาธารณะรัฐคองโก ซึ่งได้คร่าชีวิตคนงานเหมืองเพชรไปแล้วกว่า 61 คน และยังมีผู้ติดเชื้ออีกกว่าหลายร้อยคน

    องค์การอนามัยโลกได้แถลงว่า ขณะนี้คนงานเหมืองกว่า 7,000 คน ที่ทำงานในเมืองโซเบียได้เร่งอพยพออกมา หลังจากที่ได้เริ่มเกิดโรคระบาดขึ้นเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

    โรคระบาดที่เกิดระหว่างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในครั้งนี้ ได้ระบาดออกไปโดยมีหมัดเป็นพาหะ และเมื่อมนุษย์ถูกหมัดที่เป็นพาหะกัดเข้าจึงทำให้ติดเชื้อไปด้วย โดยจะไปมีผลต่อปอดของผู้ติดเชื้อ และอัตราการเสียชีวิตของคนที่ติดเชื้อนั้นจะอยู่ที่ 50-60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ

    ทั้งนี้ วันนี้(19)ทางองค์การอนามัยโลกได้ส่งทีมฉุกเฉิน พร้อมกับยาปฏิชีวนะเข้าไปเพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรคระบาด และเข้าไปตรวจสอบให้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่อนามัยซึ่งทำงานในจุดที่มีโรคระบาดนั้นไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใดแล้

    เกิดเหตุดินถล่มในอินโดนีเซีย ตายเกือบ 150 ราย

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2548 15:24 น.



    ตำรวจอินโดนีเซียรายงานว่า เกิดเหตุดินถล่มทับบ้านเรือนหลายหลังใกล้เมืองบันดุง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงจาการ์ตาในอินโดนีเซีย อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 150 ราย ในวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิต 9 ราย และสูญหายอีก 139 คน หลังจากที่เกิดฝนตกหนักทำให้ดินถล่ม โทรทัศน์อินโดนีเซียแพร่ภาพกองดินและซากหักพังหนักหลายตันท่วมทับบ้านเรือน ขณะที่หน่วยกู้ภัยและทีมค้นหาจากทหาร ตำรวจ และท้องถิ่น พยายามช่วยชีวิตผู้สูญหายที่คาดว่ายังติดอยู่ใต้กองดิน

    จากที่ผู้น้อยได้ ประกาศบนข้อความข้างบน พวกท่านทั้งหลายคงเห็นแล้วว่า คำพูดของอริยะปราชย์เหล่านั้นที่กล่าวออกมาเตือน ให้พวกเรามิได้จงอย่าประมาท หากในวันนี้การกระทำของพวกเจ้าดีแล้ว คำเตือนเหล่านี้ก็คงไม่มีผลดีผลร้ายอะไรกับเจ้า แต่หากเจ้าพิจารณาดูก่อนเถิดวันนี้เจ้ามีบุญกุศลมากเพียงพอรึยัง ที่จะสามารถหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไปได้ วันนี้เจ้าทั้งหลายได้ทุ่มเทอุทิศตัวให้กับเวไนย์สัตว์เต็มที่มากเพียงใด ดั่งผู้อาวุโสของข้าพเจ้าทั้งหลายแม้ปฏิบัติงานธรรมมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีทุ่มเททั้งกลางวัน กลางคืน ท่านยังกล่าวกับเราว่า ท่านได้ปฏิบัติงานธรรมเพียงน้อยนิด แล้วบุญกุศลจะเพียงพอได้อย่างไร แล้วพวกเจ้าเหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหลาย เจ้าจะละวางใจได้อย่างไรว่า บุญกุศลของเจ้าพร้อมสมบูรณ์พอเพียงมิต้องคิดอะไรไปใย อย่างงั้นหรอกหรือ ?

    พระอาจารย์ตรัสว่า "หากเราพูดว่า จะไปคิดอะไรมากสุดท้ายก็ตายเหมือนกัน แล้วถามว่าเจ้าเอาอะไรตาย เจ้าใข้อะไรตาย พระอาจารย์ขอถามเจ้าว่าเจ้ามีบุญกุศลเพียงพอแล้วหรือ ฉนั้นจะพูดอะไรอย่าสักแต่พูด ฟ้าประทานปากมาให้เจ้าพูดแต่สิ่งที่ดี ดั้งนั้นเจ้าต้องรู้กาลโอกาส"

    หากผู้น้อยกล่าวผิดพลาดประการใด หรือกล่าวเพลี้ยงพล้ำขอเบื้องบนโปรดประทานอภัย ผู้น้อยขอเพียงเวไนย์สัตว์ เหล่าพี่น้องล้วนเข้าใจ รู้ตื่น บำเพ็ญตน รู้กาลเวลาอันไหนควรทำอะไรอย่างไร หากในการกระทำของผู้น้อยในครั้งนี้เกิดบาปกรรม ผู้น้อยขอรับผิดแต่โดยดี หากข้อความของผู้น้อยนั้นผิดพลาดคาดเคลื่อน แต่หากข้อความของผู้น้อยเป็นผลยังเวไนย์สัตว์เหล่าพี่น้องพุทธบุตร ข้าพเจ้าก็ขอให้เวไนย์เร่งรู้ตื่นเร็วไว ปลุกจิตใจที่ลุ่มหลง บำเพ็ญตนจริง มองเห็นพุทธจิตธรรมญาณเดิม รู้จักแยกแยะอันไหนจริงอันไหนเท็จด้วยเทอญ

    ขอบคุณนักธรรมอาวุโสทั้งหลาย ที่ช่วยให้การสนับสนุนชี้แนะช่วยกันออกความคิดเห็น ผิดถูกอย่างไร ข้าน้อยนั้นน้อมรับพิจารณา
    ขอบคุณท่านเจ้าของผู้เพยแพร่ www.mindcyber.com
    ขอให้ท่านอย่าหยุดยั้ง ความตั้งใจเผยแพร่ความรู้ ความดีงามเหล่านี้เบื้องบนล้วนจารึกไว้
    เป็นที่แซ่ซ้อง.....ขอบคุณ จากใจของข้าพเจ้าที่ให้โอกาสแก่การเผยแพร่ธรรมทานทั้งปวง
    ขอบคุณจริง ๆ

    http://blog.mindcyber.com/
     

แชร์หน้านี้

Loading...