ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

คำเตือนจากเว็บพุทธแท้

อย่าได้คิดว่าข้าพเจ้ากล่าวเพราะเข้าข้างใคร แต่ที่กล่าวมาเพราะรู้เหตุปัจจัยจากท่านพระอาจารย์ได้กล่าวให้ฟังในครั้งที่ข้าพเจ้าได้บวช เรื่องของนายกทักษิณนั้นท่านพระอาจารย์ได้กล่าวไว้นานแล้ว กล่าวไว้ก่อนตัวท่านทักษิณจะเป็นนายกเสียอีก ข้าพเจ้ายอมรับว่าหากข้าพเจ้าไม่เคยได้ฟังเรื่องต่างๆ ที่พระอาจารย์ได้กล่าวไว้ ข้าพเจ้าก็คงมีใจเชื่อผู้นำกลุ่มการประท้วงเหมือนกับคนอื่นๆ เพราะเห็นว่ามันเป็นเช่นนี้จึงต้องการให้ผู้ปฎิบัติธรรมเข้าใจเหตุปัจจัยของมัน เพื่อปฏิบัติตนในฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันข้อมูลที่เติมแต่งเพื่อมุ่งหวังทำลายผู้อื่นโดยไม่เคารพกติกาของบ้านเมืองนั้นมีผู้คนจำนวนมากเชื่อ ... นี้ละนะ...เป็นจริงอย่างที่ท่านพระอาจารย์กล่าวไว้ว่า..จะมีอยู่กาลหนึ่งผู้คนจะเห็นดีเป็นผิด จะเห็นผิดเป็นชอบ...วันนั้นจะทำให้เกิดความวุ่นวาย คนไทยจะเป็นคนที่น่าสงสาร..บอกสิ่งดีให้ก็ไม่เห็นดี

สิ่งที่ข้าพเจ้ายังคงห่วงอยู่นั้นก็ยังคงเหมือนเดิม นั้นคือกลัวท่านนายกทักษิณจะถูกลอบสังหาร เพราะผู้แซกแซงคนนี้จะทำทุกวิธีทางเพื่อกำจัดผู้ขวางทางผลประโยชน์ของเขา


++++> โห....นี่นะไม่เข้าข้างใคร ????

1. ให้ลิ่วล้อมาด่าศาล
2. ด่าผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ
3. จะถอดถอนแม้แต่ศาลปกครอง ซึ่งพ่อหลวงให้ 3 ศาลแก้ปัญหาชาติ

หลับหูหลับตาพูด..... น่าอนาจ.....

 

ระวัง !!! กรรมจากการล่วงเกิน " ผู้มีธรรม "

เมื่อเขียนเรื่องการใช้ไหว้วาน "ผู้ทรงธรรม" แล้ว ก็เลยอยากจะเขียนถึงเรื่อง "การล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วย การใช้ไหว้วาน "ผู้ทรงธรรม" นั้น ก็เป็นสิ่งไม่ควรอยู่แล้ว แต่การล่วงเกิน "ผู้ทรงธรรม" หรือ "ผู้มีธรรม" นั้นหนักกว่า บาปมากกว่า เพราะเป็นการล่วงเกิน เป็นการทำร้าย "ผู้ทรงธรรม" ไม่ว่าจะเป็นทั้งกายหรือใจ หรือจะด้วยเจตนาและไม่เจตนาก็ตาม

เพราะ "ผู้มีธรรม" และ "ผู้ทรงธรรม" นั้น คล้ายกันในความหมาย ก็คือเป็นผู้ที่ยึดถือการกระทำความดี เป็นชีวิตจิตใจ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งและเป็น "คนดี" ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

คำว่าเป็นคนดีนั้น หมายความว่า....

1. ทำอะไรก็แล้วแต่.....มีประโยชน์ต่อตนเอง
2. ทำอะไรก็แล้วแต่.....มีประโยชน์ต่อคนอื่น
3. ทำอะไรก็แล้วแต่.....ไม่สร้างเดือดร้อนต่อตนเอง
4. ทำอะไรก็แล้วแต่.....ไม่สร้างเดือดร้อนต่อคนอื่น

ต้องทำให้ได้ครบ 4 ข้อ เราจึงเรียกว่า " ความดี "

"ผู้มีธรรม"....ต้องทำ "ความดี" ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
"ผู้มีธรรม" นั้นมีทั้งภิกษุ สงฆ์ ผู้ทรงศีล นักบวช และฆราวาสที่มี "จิต" ดี
เราไม่มีโอกาสจะทราบได้อย่างแน่ชัด 100 เปอรเซ็นต์เลยว่า...ใครบ้างเป็น "ผู้มีธรรม" นอกจากการสังเกต และการสันนิษฐานของเราเองและผู้อื่น "ผู้มีธรรม" นั้น ตัวท่านเองก็ไม่สามารถจะพูดให้ใครฟังได้ว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะบางทีตัวของ "ผู้มีธรรม" นั้นเอง ก็ยังไม่ทราบตัวท่านเองเลยว่า ท่านเป็นอย่างไร ?

เพราะความเป็น "ธรรม" นั้น มันเป็นเรื่องของ "จิตใจ" ที่เกิดขึ้นมาจากความเป็น "ธรรมชาติ" ไม่สามารถหาซื้อจากที่ใดได้ อาจจะติดมาจากอดีต แล้วมา "ปรุงแต่ง" เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในภาวะปัจจุบัน เพราะฉะนั้น เมื่อเราไม่รู้ว่าใครบ้างเป็น "ผู้มีธรรม" จงอย่าได้มีความประมาท เผลอไผลไปตำหนิติเตียน หรือทำร้ายท่าน ทั้งทางกายและใจ ด้วยใจที่เป็นอกุศล หรือต้องการประชดประชัน ตีวัวกระทบคราด ใช้คำไม่สุภาพ หรือล่วงเกินในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้จริง

ความปลอดภัย เมื่อเราไม่รู้ว่าจะไป "ล่วงเกิน" ใครบ้างที่เป็น "ผู้มีธรรม" ควรทำอย่างนี้ เวลาจะออกความเห็นใด หรือกล่าวถึง ที่เป็นการกล่าวตรงข้ามกับความคิดเห็นหรือการกระทำของผู้อื่น ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือหลับหลังใครก็ตาม ควรกล่าวถึงหรือเขียนด้วยความเป็นสุภาพชน ไม่ใช้ถ้อยคำกระแทกแดกดัน ประชดประชัน กล่าวส่อเสียด ดูหมิ่น เหยียดหยามหรือแสดงในสิ่งที่ไม่สมควรแสดง เพราะ "ผู้มีธรรม" ก็เป็นคนธรรมดา ย่อมมีความผิดพลาดได้เป็นของธรรมดา เมื่อทำผิดพลาด ก็ย่อมได้รับคำติเพื่อก่อ เพื่อสร้างสรรค์ เช่นคนอื่นได้เช่นกัน

เคยหรือไม่ ?
ที่ท่านเองเคยมีคนหมั่นไส้ท่านอย่างไม่รู้สาเหตุ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ?

เคยหรือไม่ ?
ที่ท่านเคยถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจากคนอื่น บางครั้งก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ?

เคยหรือไม่ ?
ที่ท่านมักจะมึนงงกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่รู้ทางแก้ไข บางครั้งก็ไม่ทราบสาเหตุ

เคยหรือไม่ ?
ที่ท่านถูกกล่าวร้ายป้ายสีจากคนอื่น ทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้ทำ บางครั้งก็ไม่ทราบสาเหตุ

เคยหรือไม่ ?
ที่ท่านพูดอะไรไปแล้ว ไม่มีคนเชื่อถือ หรือพูดอะไรไปแล้วคนไม่เชื่อ

เหล่านี้คือ " กรรม " ที่ได้กล่าวล่วงเกิน " ผู้มีธรรม "

ตรงกันข้าม...ถ้าใครให้เกียรติ ให้ความเคารพ แม้ว่าจะติเพื่อก่อ หรือให้เหตุผลที่ตั้งบนความบริสุทธิ์ใจ "กรรม" ที่ได้รับก็คือ........ไปไหน ทำอะไร พูดกับใคร ไหว้วานใคร ร่วมงานบุญกับใคร เจอะเจอใคร ? ก็มีแต่คนรักใคร่ เป็นที่ชื่นชอบ เป็นที่รัก เป็นที่เคารพของหมู่ชนทั่วไป

ลองสังเกตคนใกล้ตัว ไกลตัว หรือคนที่คุณรู้จัก ...ที่เป็นที่รักที่เคารพของคนทั่วไป ที่ไม่ใช่เพื่อยกยอปอปั้น ชื่นชมกันเอง (ประเภทเขียนเอง....ชมเอง หรือไหว้วานให้คนอื่นมาชมแทน) ว่าเป็นเช่นนี้หรือเปล่า ? ถ้าใช่ ก็แสดงว่าคนๆ นั้นให้ความเคารพ "ผู้มีธรรม" อย่างดี

อาจารย์ผมคนหนึ่งชื่อ อาจารย์ วิสุทธิ์ ปัญจะ เวลาท่านจะแสดงความคิดเห็นใด ต่อผู้ที่คิดว่าน่าจะเป็น "ผู้มีธรรม" ท่านมักจะขึ้นต้นว่า " ขออนุญาต ขอสอบถามเพื่อศึกษา เพื่อเรียนรู้ ว่า ...... " นั่นคือผู้ที่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร

แต่พวกเรา..ไม่ต้องขนาดนั้น ไม่ต้องนอบน้อมขนาดนั้นก็ได้ เพียงแต่ว่า พูดคุย แสดงความคิดเห็น หรือแลกเปลี่ยนความรู้ กล่าวถึงกัน ด้วยความสุภาพอ่อนน้อม ให้เกียรติคนอื่น ใช้กริยาวาจา (ข้อเขียน) ด้วยใจที่คิดว่ากำลังคุยกับเพื่อน ไม่ใช่คุยกับคนที่เกลียดขี้หน้ากัน

การใช้วาจาตรงๆ ก็สามารถทำได้ เพราะการใช้วาจาพูดคุยกันตรง ๆ ก็สามารถใช้คำพูดหรือข้อเขียนที่อ่อนน้อม สุภาพได้ คนปากกับใจตรงกัน หรือคนที่พูดตรง ๆ ต่างจาก " คนปากพล่อย " มากมายนัก ในที่นี้ผมเพียงจะพูดถึงเรื่องการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" เพียงการพูด ทั้งการพูดต่อหน้าและลับหลัง การกล่าวถึง การตำหนิติเตียนด้วยความไม่ชอบ ยังไม่ได้พูดถึงการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วยการกระทำ

เพราะแค่ล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วยวาจา ด้วยการกล่าวถึง ยังต้องได้รับ "กรรม" ที่หนักหนาสาหัสแล้ว ถ้าล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วยการกระทำด้วยแล้ว จะยิ่งสาหัสสากรรจ์มาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า

ผมได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้เป็นอย่างนี้ และได้ถูกสอนให้เห็นถึงการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" อย่างชนิดที่ไม่ได้ถูกแค่สอนด้วยวาจา แต่ผมโดนสอนด้วยการถูกลงโทษจริงๆ จึงรู้...จึงเข้าใจว่า...การได้รับ "กรรม" จากการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" นั้น มันเจ็บปวดและทรมาน จึงไม่อยากให้ท่านที่พลั้งเผลอไปกล่าวล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ได้รับกรรมเช่นนั้น เมื่อเราไม่รู้ว่า ใครบ้างที่เป็น "ผู้มีธรรม" ก็จงอ่อนน้อมถ่อมตน ติเตียนด้วยความสุภาพ หรือแสดงความคิดเห็นด้วยใจที่ไม่มีอคติ... ทำอย่างนี้เอาไว้ก่อน...ปลอดภัยกว่ากันเยอะ

ผม (อโณทัย) ไม่ใช่ "ผู้มีธรรม" เพราะยังมีอารมณ์ มีความโกรธ ไม่ได้เป็นคนดีทั้งต่อหน้าและลับหลังตลอด 24 ชั่วโมง หรือตลอดเวลา และไม่ได้ทำความดีครบองค์ประกอบ 4ประการ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ...ก็ตามใจท่าน ผมมีหน้าที่แค่ "บอก"

เพราะ "กรรม" ใดใครทำ คนนั้นก็เป็นคนรับครับ .........

อโณทัย เขตต์บรรพต

อ้างอิงจาก
http://www.thai.to/anothai/old7.html

 

ถึงผู้ที่ล่วงเกินต่อ**ผู้มีธรรม-ผู้มีบารมี**
วันนี้ผมได้ฟัง รายการรู้ทันทักษิน ผมเห็นด้วยกับการที่ผู้ดำเนินรายการ ได้หยิบยก เอาคำว่า**บารมี-อิทธพล**เอามาขยายให้ผู้ฟังได้เข้าใจเป็นอย่างดี
-การที่นายกอ้างถึงผู้มีบารมี ที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญเข้ามาก้าวก่าย หว่านล้อม ขอร้อง ให้องกรณ์ในรัฐธรรมนูญ
**คำว่า บารมี คือผู้ที่กระทำความดีมาตลอด ผมขอสรุปเอาว่าการทำความดี 1 ทางกาย 2ทางวาจา 3 ทางใจ
ในชีวิตของผมที่เกิดมาในประเทศไทย เท่าที่ผมได้เห็น ได้รู้ และได้ประสพกาณร์ เท่าๆกับคนไทยทั่วประเทศ ก็จะเห็นว่า มีพระเจ้าอยู่หัวของเราเท่านั้น ที่ท่านได้ทำความดีมาตลอดเวลา บารมีของพระองค์มีมากมายเหลือที่จะเอามาเล่าให้ฟังหมดได้
บุคลที่ 2 ผมจะกล่าวว่า พณฯท่านเปรม ประทานองคมนตรี ท่านผู้นี้ได้กระทำความดีต่อชาติบ้านเมืองมาตลอด คนไทยทั้งประเทศรู้กันหมด
**ที่สำคัญ ผมอยากจะทราบว่า รักษาการนายกฯ ทำไมต้องออกมาท้าทายผู้มีบารมีอย่างนี้ เพื่อประโยชน์อะไร
**ผู้มีบารมีคือ ผู้ดี ทั้งกายและใจ แล้ว-รักษาการนายกฯทำไมต้องทำตัวเป็นสัตรูกับคนดีครับ
ผมเห็นด้วยกับท่าน**เกษม**ที่บอกว่าผู้ใดที่ล่วงเกินคนดี จะต้องได้รับโทษอย่างหนักทั้งชาตินี้ และในโลกทิพย์*ความดีมีไม่ทำ พอได้รับผลกรรม ทำมาเป็นร้องขอให้ช่วย**

 

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=100 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TD></TR></TBODY></TABLE>ENGLAND - The big mop up began today after freak rainstorms caused chaos across Oldham borough last night (Sunday). The freak downpour caused particular havoc in the villages of Saddleworth, flooding roads, pubs and bringing traffic to a halt. Some premises experienced mini-power cuts at the height of the storm.
Jul 3, 2006, 17:01
<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=97 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TD></TR></TBODY></TABLE>A great deal of recent attention has been placed on the impact of human activities on climate change. However, very little attention has been placed on natural causes of climatic variations. In reality, there are many natural influences on climate change, with most (variations in solar output comes immediately to mind) dwarfing the contribution by humans.
Jul 3, 2006, 12:53

 

**ผู้มีบารมีคือ ผู้ดี ทั้งกายและใจ แล้ว-รักษาการนายกฯทำไมต้องทำตัวเป็นสัตรูกับคนดีครับ
ผมเห็นด้วยกับท่าน**เกษม**ที่บอกว่าผู้ใดที่ล่วงเกินคนดี จะต้องได้รับโทษอย่างหนักทั้งชาตินี้ และในโลกทิพย์*ความดีมีไม่ทำ พอได้รับผลกรรม ทำมาเป็นร้องขอให้ช่วย**

..........................................................................

Yes.......

Wait and see.....

The punishment will be seen soon........!!!!!!!!!!!<!-- / message -->

 

ตายเร็วขึ้นอีกซักวันนึงจะเป็นไรไป ที่สำคัญใจเกาะที่นิพพานไม่ขอลงมาเกิดเป็นพอ จริงมั้ยครับคุณเวปสโนว์

 

The following is a list of nations that have admitted the possession of nuclear weapons, and the approximate number of warheads under their control. This list is informally known in global politics as the "Nuclear Club".

• United States - 10,640
• Russia - 8,600
• People's Republic of China - 400
• France - 350
• United Kingdom - 200
• India - 60-90
• Pakistan - 24-48

From a high of 65,000 weapons in 1985, there were about 40,000 nuclear weapons in the world in 2002-2003.

 

Countries believed to have or sometimes suspected of having at least one unconfirmed nuclear weapon currently, or at some point in history, or research programs with a realistic chance of producing a nuclear weapon in the near future:

• Israel - It is questionable whether Israel should be classed as a "suspected state" at this point. Israel is not a member of the Nuclear Non-Proliferation Treaty and refuses to officially admit or deny having a nuclear arsenal, or to having developed nuclear weapons, or even to having a nuclear weapons program. Although former Prime Minister Israel - It is questionable whether Israel should be classed as a "suspected state" at this point. Israel is not a member of the Nuclear Non-Proliferation TreatyShimon Peres unofficially acknowledged this last fact in the summer of 1998, extensive information about this program in Dimona was disclosed by physician Mordechai Vanunu in 1986, and imagery analysts can identify weapon bunkers, mobile missile launchers, and launch sites in satellite photographs. It is clear though that Israel can deploy or employ nuclear weapons at will, and it is suspected to possess nuclear weapons by the International Atomic Energy Agency. According to the National Resources Defense Council and the Federation of American Scientists, they may possess 100-200 weapons. However until it admits to having an actual stockpile of weapons, it will be retained on the "suspect" list for the present time. (http://www.fas.org/nuke/guide/israel/nuke/index.html)
• Iran - Iran signed the Nuclear Non-Proliferation Treaty and says its interest in nuclear technology, including enrichment, was for civilian purposes only, but the CIA claims this to be a cover for a nuclear weapons program. (http://www.nti.org/e_research/e1_iran_nch.html) (http://www.fas.org/nuke/guide/iran/nuke/index.html) The Iranian Foreign Minister Kamal Kharrazi stated on the intentions of his country's nuclear ambitions: "Iran has a high technical capability and has to be recognized by the international community as a member of the nuclear club. This is an irreversible path." (http://www.foxnews.com/story/0,2933,122526,00.html)
• North Korea - On January 10, 2003 North Korea withdrew from the Nuclear Non-Proliferation Treaty. Allegedly they have since announced their possession of several nuclear weapons to US diplomats.
• Ukraine - signed the Nuclear Non-Proliferation Treaty. Inherited about 5,000 nuclear weapons when it became independent in 1991. It transferred all of these to Russia by 1996. (http://www.fas.org/nuke/guide/ukraine/) However recent news has surfaced that due to a clerical error, Ukraine may still possess several hundred warheads which were not accounted for in the armaments repatriation move 14 years ago. In any case, even if Ukraine does possess these weapons, they are technically missing and not in a deployed state or any part of Ukraine's defense posture. (http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/wales/3568139.stm)
• Australia - From 1950 to the early 1970s Australia first attempted to gain access to British nuclear technology, then investigated a fully indigenous nuclear program on a number of occasions, going so far as to plan and begin clearing a site for a plutonium-producting nuclear reactor at Jarvis Bay in 1969, but abandoned its efforts at that time. Australia has large indigenous supplies of uranium. Currently Australia's uranium exports policy prevents export for military purposes, but there have been allegations about Australian uranium ending up in nuclear weapons. Curiously for an industrialized nation that is also a major uranium supplier, Australia has no nuclear power plants.

 

[SIZE=-1](Damage from Hiroshima and Nagasaki after nuclear devices were used to end WWII - the cities we basically wiped off the map)[/SIZE]

 

War... War......War...

is the final chapter of all.

 

Earth's Temperature To Soar by 2100?
​

There's a nine out of ten chance that global average temperatures will rise 3–9 degrees Fahrenheit over the coming century, with a 4–7° increase most likely, according to a new probability analysis by scientists in the United States and Europe. As early as 2030 the planet is likely to heat up 1–2°, say the scientists. A one-degree temperature rise was observed over the past century. The study appears in the July 20 issue of the journal Science.

​

 

Carol Browner​

`If we fail to take prudent, sensible steps to address the problem [of climate change] now, our children and their children will simply be overwhelmed. Rising seas, rising temperatures, the threat to public and economic health around the world, the prospect is very real. In the end, failure is not an option. The consequences of global warming are that severe.'' -Carol Browner, former administrator, EPA- U.S. Environmental Protection Agency

 

Dr. James Baker​

Ewins and Baker say "Our new data and understanding now point to the critical situation we face: to slow future change we must start taking action soon.

"At the same time, because of our past and ongoing activities we must start to live with the likely consequences - more extreme weather, rising sea levels, changing precipitation patterns, ecological and agricultural dislocations and the spread of human disease."​

"You see a temperature change of about 1 degree Fahrenheit in 100 years. This is not a big change. But over the past 20 years, the change has been four times that."​

 

เอาอย่างนี้ซิครับ ท่านนักวิทยาศาตร์ทางจิต เรื่องของโลกเรานี้ มันจะต้องเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่ง ไม่มีอะไจอยู่อย่างถาวร ตลอดกาล สรุปว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะไม่คงที่ จะแก้ไขอย่างไรก็ไม่ได้ ปล่อยวางเสียนะครับ ไม่ต้องกลัวตาย
*******ท่านนักวิทยาศาสตร์ทางจิตที่เคารพ กรุณาบอกให้คนผู้โง่เขลาอย่างผมว่า ผมจะตายเมื่อใด เวลาใด อายุที่จะตายเท่าใด และจะตายลักษณะใด พอตายแล้ว ผมจะเอาหัวพุ่งลงนรก ขุมใหน ขอขอบพระคุณที่ให้แสงสว่างทางจิตแก่คนผู้ไร้ความสามารถอย่างผม เป็นอย่างสูง******
******ถ้าต้องการอีเมล์เป็นส่วนตัวก็ได้ครับ*****เอาลงให้คนอื่นได้อ่านด้วยว่า ความตายเป็นของจริง และแน่นอน
jinata_4@hotmail.com

 

ระวัง !!! กรรมจากการล่วงเกิน " ผู้มีธรรม "

+++> ทักษิณล่วงเกิน....ผู้มีบารมี.... อย่างนี้มีกรรมอย่างไร ?

+++> เว็บพุทธแท้.... หลอกลวงให้ยอมทักษิณ .... อย่างนี้มีกรรมอย่างไร ?

ปล. ขออภัยที่เอาเรื่องการเมืองมากล่าวถึง.....
เพราะดันมีคนพยายามเอาการเมืองมายุ่งกับศาสนา...
แถมทำเวปเป็นเรื่องเป็นราว....จึงต้องยับยั้งไว้...

 

ชมบุญทรราชย์

วันนี้ขอยกคอลัมน์ให้โหรสักวัน เพราะท่านอุตส่าห์ เขียนส่งมาให้

ไม่ใช่โหรข้างถนนแต่เป็นโหรข้างสนามกอล์ฟ ก็พอเรียกได้ว่าเป็นโหรมีระดับ

แค่ชื่อเรื่องก็ชวนอ่านแล้ว ท่านใช้ชื่อว่า

 

นี่มิต้องนั่งชมบุญกันไปถึงปี 2552 กันเลยเชียวหรือ นานเกินไปหรือเปล่า
.......................

Too Long........

The Tyrant is running out of the power soon and

he will face irreversible calamity....

Not later than next year.......

But, the country is so at risk

ก็ต้องเจอกับยุคชาติวิปโยคไปอีก 10 ปี

Yes.....


...


...

 

ขอบคุณ ที่คุณเกษม เอาเรื่องในอนาคต-ถ้าจะนับตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันนั้น ผมคงจะไม่มีแรงที่นั่งดู นอนดูได้ ช่วยบอกได้ใหมครับว่า** อีกกี่ปี**เรื่องอย่างนี้จึงจะเกิดขึ้น
คุณเป็นคนดี มีความรู้ มีการศึกษาดีกว่าผมหลาวร้อยเท่า อายุก็ยังน้อย โอกาศมีก็มาก **เอาอย่างนี้ดีใหมครับ**ช่วยหาวิธี-หนทาง-วิธีการ-โดยการแนะนำ เอามาให้ผู้คนทั้งหลาย ได้เข้าใจ ได้เห็นโทษของการเกิดมาเป็นคน ว่าความทุกข์ของความเป็นคนนั้นมีอะไรบ้าง การกำจัด (ลดจำนวน)การที่จะกลับมาเกิด ควรทำอย่างไรบ้าง ข้อสุดท้ายเราสมควรจะทำอย่างไร ที่จะทำให้เราเห็นว่าการตายเป็นของธรรมชาติ จนไม่รู้สึกอะไรเลยว่ามันไม่น่ากลัว อย่างคน**ธรรมดา**เขากลัวกัน ครับ ผมเอาใจช่วย นะครับ

 

FARGO, N.D. (AP) - Scientists are piecing together a statistical profile of a devastating tornado that swept through this city nearly a half century ago.
The National Weather Service in Grand Forks is gathering every bit of data it can find on the twister that struck on June 20, 1957, leaving 13 people dead and more than 1,300 homes damaged or destroyed.
"We are recreating some of the meteorological variables in the atmosphere for that day," meteorologist David Kellenbenz said. "We're looking at things like wind-shear, what makes a thunderstorm really grow and get very large.
"This was a tremendously large super cell thunderstorm," he said. "It actually lasted for about six hours, and it was tornadic for four hours."
The tornado was one of five spawned from a thunderstorm that left a trail of damage 70 miles long from Buffalo to Dale, Minn. Debris from the Fargo tornado was found 54 miles away.
University of Chicago researcher T. Theodore Fujita spent more than a year studying the tornado. The work helped him come up with what is known as the Fujita Scale in 1971, which has been used ever since to rate tornado intensity.
The Fargo tornado topped the scale at F5.
The Weather Service is reviewing records and compiling details on what the weather was like that evening as a way to mark next summer's 50th anniversary of the disaster.
"As much as we can, we are recreating the atmosphere from 1957 in hopes of being ready for the potential of another one," Kellenbenz said.
In addition to gathering scientific data, the Weather Service is asking the public for stories and recollections from that night.
Jayne Haugen Hanson was 6 years old when the tornado roared into her neighborhood. She now lives near Walker, Minn., and has told the story to her own children many times.
"I am 54 years old now and summer storms still remind me of that night," she said.
While it is difficult to gauge wind speeds in a tornado, the Fargo twister is believed to have packed 275 mph winds, Kellenbenz said.
F5 tornadoes are relatively rare, he said. The last one recorded in the United States struck Oklahoma City in 1999.
Kellenbenz said he hopes the study he is working on does more than commemorate the anniversary of the Fargo tornado. "We want to get the word out that these large F5s, the most destructive tornadoes, can happen in our back yard," he said

[FONT=Verdana,Sans-serif]Scientists Study 1957 Fargo Tornado[/FONT]

[FONT=Verdana,Sans-serif]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cbcbcd></TD></TR></TBODY></TABLE>

Jul 4, 10:29 PM (ET)

http://apnews.myway.com/article/20060705/D8ILI8KG2.html
[/FONT]

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=629 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>Outcry over N Korea missile test

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=416><!-- S BO --><!-- S IIMA --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=203 align=right border=0><TBODY><TR><TD> The Taepodong-2 may be able to reach Alaska

</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- E IIMA --><!-- S SF -->World powers have condemned North Korea for test-firing a series of missiles, including one thought capable of reaching the US.
The seven missiles included a long-range Taepodong-2, which the US said failed shortly after take-off. The US called the tests "provocative", and urged a resumption of multilateral talks. Japan went on to announce a range of sanctions against Pyongyang.
</TD></TR></TBODY></TABLE>