ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>Earth Changes</B> </TD><TD align=right>Last Updated: Jun 1st, 2006 - 10:33:01</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]DEAR HIREN: My visions for the time frame 2020-2025 have shown me a more rural society in the U.S. Technology still exists but quite different from today’s technology. Chemistry dominates utilities including heat and cooling. Technology as we now have breaks down prior to this time frame with power being a rationed commodity.[/FONT]

    Michael Scallion
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#a77842>
    ดาวสงคราม-ดาวสันติ






    </TD></TR><TR><TD>



    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>พระมาลัยได้กล่าวขี้น ท่ามกลางธรรมสภาว่า บัดนี้ใกล้วาระที่จะถึงกึ่งพุทธกาล ปรากฏว่าดาวเทพเจ้าสงคราม ได้ลงจุติยังโลกมนุษย์แล้ว เพื่อดับดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ทั้งนี้เป็นการดับดาวศาสนา ดาวสงครามจึงครองอำนาจ ก่อเหตุให้เกิดความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ผู้ปกครองแว่นแคว้นทั้งหลายจิตใจมากด้วยอำนาจ โลภะ โทสะ และโมหะ ต้องการชิงความเป็นใหญ่ ต้องการเป็นจ้าวโลก โยนบาปสับเปลี่ยนให้ดาวศาสนาใช้กรรมวิบากของตน คนดีจะถูกเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเป็นซีกโลก ก่อเกิดเป็นสงครามโลกประหัตประหารชีวิตผู้คนด้วยอาวุธร้ายแรง

    สงครามโลกครั้งที่หนึ่งจะเกิดขึ้นในเมืองคนขาวสงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้นเมืองคนขาวลุกลามไปถึงเมืองคนเหลือง และในครั้งที่สามจะเกิดขึ้นในเมืองคนเหลือง


    <CENTER></CENTER>เทพเจ้าดาวสงครามต้องการทำลายความเจริญของแผ่นดินของพระศาสนา ดับดาวศาสนาอย่างสิ้นเชิง แล้ว "พระ" จะปกครองสัตว์โลกได้อย่างไรพระเจ้าข้า.......


    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER>พระเมตไตรยทรงพิจารณาเยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายว่า กาลเวลานี้อายุสัตว์โลกน้อยต่ำกว่า 100 ปี ด้วยเหตุที่อายุสั้นนัก ชาวโลกก็จักมีกิเลสตัณหา ราคะมาก เพราะเกรงว่าจักตายเร็ว จึงแสวงหากามคุณหนุนเนื่องความอยาก รับศีลแต่ปาก แต่ใจรวนเรมากด้วยเล่ห์กล ปากกับใจไม่ตรงกัน แม้เพียงศีล 5 คือ นิจศีลก็พากันรักษาไม่ได้ จึงเป็นเหตุที่ยังไม่สมควรจะจุติเพื่อดับทุกข์เข็ญ (ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง)

    และเมื่อกาลถึงกึ่งพุทธกาล ก็หมดเขตสาวกภูมิของพระศาสดาพุทธโคดม พระสงฆ์ถึงแม้จะเรียนรู้จนจบพระไตรปิฎกสักร้อยครั้งพันครั้งแต่ไม่อาจบรรลุธรรมไปได้ เหล่าพุทธบริษัทที่เหลืออยู่ ก็ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจยักษ์มารที่มาครองรักษา ตามที่ได้ขอไว้กับพระศาสดา เมื่อขอต่อแล้วเอาไปปฏิบัติรักษาไม่ได้ เพราะว่าพวกเหล่านี้บารมีไม่เพียงพอ จึงไม่รู้แจ้งในข้อวัตรปฏิบัติ คุณของพระศาสนาก็เลยถูกปกปิด และเสื่อมไปเหลือเพียงค่า ซึ่งนับว่าเป็นอัครวิบัติของศาสนา ทำให้เกิดภัยพิบัติกวาดล้างผู้คน คนดีจะถูกเข่นฆ่า เหมือนหยกกับหินที่อยู่ปะปนกัน เมื่อภัยพิบัติมาย่อมต้องถูกภัยไปด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ พระพุทธศาสนาก็จะอยู่ไม่ครบพุทธกาล กรรมของพระโคดม กับพระศรีอาริย์ก็จะไม่ขาดจากกัน

    ฉะนั้น พระบรมนิตยโพธิสัตว์ เห็นสมควรที่จะอาราธนาพระอริยะสาวก ที่มีหน้าที่สืบอายุพุทธศาสนาเสมือนหนึ่งพุทธกาล เอาพระศาสนามาคืนเจ้าของเดิม กรรมที่พระโคดมได้เปลี่ยนเอาดอกบัวพระศรีอาริย์ถึงจะขาดจากกัน นี้คือกรรมของพระศาสนา ต่อจากนั้นพระองค์ก็จะได้มาฟื้นฟูให้ใหม่ เปิดนิมิติออก ตัดเวรแก้กรรม แล้วนำสร้างบารมีขึ้นมาใหม่ให้ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว


    </PRE></TD></TR></TBODY></TABLE>คัดลอกมาจาก http://www.navagaprom.com/</P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2006
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#a77842>
    โอม มุนี มุนี มหามุนี สวาหะ




    </TD></TR><TR><TD>


    <CENTER>[​IMG]
    พระอชิตะ พระพุทธโคดม พระมหามุนี </CENTER>ดวงแก้วบรมพุทธจักรดวงที่ 6 ผู้สำเร็จธรรม ในฝ่ายบุญภาคปราบล้วนทั้งลับและเปิดเผย ถอยพืด (แบ่งธาตุธรรม) ลงจุติสมัยศาสนาพระพุทธโคดม เป็นพระมหามุนี พระสหายของพระอชิตะ (องค์พระศรีอาริย์ในอนาคต) ตั้งปรารถนาจิตว่า "ข้าพเจ้าจะเป็นทนายแก้ต่างให้ศาสนาพระโคดม" เมื่อสิ้นภพชาติของพระมหามุนี ไปจุติรอคอยช่วยงานขององค์พระเมตไตรยอยู่ยังดุสิตเทวโลก ชั้น 11 ได้รับโองการลงจุติยังโลกมนุษย์เพื่อดับทุกข์เข็ญในยุคก่อนกึ่งพุทธกาล

    งานที่ได้รับมอบหมายก็คือ

    1. ประกาศวิชชาธรรมกาย ซึ่งเป็นพระสัทธรรม ดั้งเดิมของพระบรมศาสดาทั้งส่วนของพระอริยสาวก และส่วนของพระโพธิสัตว์

    2. แก้ไขภัยพิบัติต่าง ๆ ของโลก และของสัตว์โลก

    3. รักษาสืบทอดอายุพระศาสนา ปลดเปลื้องสัตว์โลก ให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม บ่วงมาร และวัฏสงสาร


    แล้วท่านจะจุติแห่งใดหนอ...ผู้ดับดาวสงคราม มาในสายสงฆ์ (มุนี) ปรมัตถ์นามจากเบื้องบนว่า "พระเทพ" ยุติสงครามในไตรภพด้วยระแบบแสง คือ การนั่งสมาธิภาวนาด้วยวิชชาธรรมกายขั้นสูง วิชชาสะสางธาตุธรรม

    แผ่นดินรัตนโกสินทร์

    เมื่อองค์พระมหามุนีเจ้า รับโองการจุติดับดาวสงคราม ก็เล็งแลดูไปที่มัธยมประเทศ แผ่นดินสุวัณณภูมิ และแผ่นดินจีน ท่านดำริว่า แผ่นดินสุวัณณภูมิมีผังอาณาจักรเป็นรูปดอกบัว เหมาะสมกับการสืบอายุพุทธศาสนา โดยเฉพาะประเทศสยามมีความเป็นไท ไม่มีสิ่งผูกพัน เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง และมีสายธาตุธรรมของท่านที่ลงมาเกิดอยู่แล้ว เป็นบุรพชนต้นตระกูลตามปรมัตถ์นามจากเบื้องบนว่า "เสียมล้อ" เป็นเชื้อสายระหว่างชาติไทยและชาติจีน "เสียม" คือ สยาม "ล้อ" (ลว้า) คือ ชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ในแหลมทองเดิม เป็น บุรพชนแผ่นดินสุวัณณภูมิ คำว่า "ล้อ" หมายถึงผู้คนที่มีคุณธรรม 4 คือ
    1. รักยุติธรรม
    2. รักสัจจะ
    3. มีมรรยาท
    4. ละอายแกรงกลัวต่อบาป
    โดยที่ตำหนิการเกิดของสายเผ่าพันธุ์ คือ ต้องมีปานสีฟ้าแก่ที่ก้น พอโตขึ้นก็หาย พอโตเล็บนิ้วก้อยเท้าขวามีรอยขึ้นตามยาว ปลายเล็บที่เลยเนื้อออกมาแตกปลายจึงเป็นสองเล็บ เมื่อนับรวมเข้าเป็น 6 เล็บ จึงเป็นเมืองคน 6 เล็บ (ลักกักฟี้) ล้วนเป็นคนเก่ง คนกล้า มีคุณธรรม เหมาะกับเป็นผู้ช่วยรักษาศาสนาจวบจนสิ้นพุทธกาล พระมหามุนีเจ้าทราบว่า บัดนี้มารนำผังศาสนาไปเก็บซ่อนไว้ที่สุดละเอียด จนเหลือนิดเดียวในภพ 3 ทำให้คนนับถือศาสนาพุทธหมดไป ยิ่งในพุทธศาสนาแผ่นดินรัตนโกสินทร์ มารตั้งศาสนาพุทธให้เล็กลง แล้วมีเครื่องย่อยแยกให้มีสองนิกาย คือ ธรรมยุต กับมหานิกาย ทำให้ศาสนาพุทธกระเทือน มารยึดการปกครองศาสนจักรไม่ให้ขยาย ซ้ำยังทำให้เรียวลง ๆ จนหมดไปจากแผ่นดิน พระมหามุนีเจ้าจึงจัดกองทัพธรรมลงจุติเพื่อแก้ไขและรักษาอาณาจักร พุทธจักรให้สืบไป โดยแบ่งกองทัพธรรมออกเป็น
    - ฝ่ายปราบ เป็นนักรบมีหน้าที่ทำวิชชารบกับมาร
    - ฝ่ายโปรด มีหน้าที่เผยแผ่สั่งสอนพระธรรมในฝ่าย สัมมาทิฐิ
    - ฝ่ายเสบียง มีหน้าที่ทำนุบำรุงศาสนา มาเกิดเป็น เศรษฐีผู้ใจบุญ



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ณ แผ่นดินทอง เมืองทอง
    พระมงคลเทพมุนี (สด มีแก้วน้อย) หลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) เกิดวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2427 ตรงกับวันศุกร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ณ บ้านสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี วัยเยาว์ วันใดจันทร์เพ็ญ ก็จะร้องเอาพระจันทร์ พี่เลี้ยงชื่อยายบู่ ต้องทำเป็นเอาไม้กระทู้มาพาดที่ชายคาบ้าน แล้วไต่ขึ้นไปทำเป็นว่าจะหยิบพระจันทร์มาให้ จึงจะหยุดร้องไห้
    เมื่ออายุย่างเข้า 22 ปี อุปสมบท เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2449 ณ วัดสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีฉายาว่า "จนฺทสโร" จำพรรษาอยู่วัดสองพี่น้อง 1 พรรษา จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยต่อไป จนกระทั่ง พ.ศ. 2459 จึงมาครองวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ในฐานะผู้รักษาการเจ้าอาวาส


    <CENTER><IMGSRC="IMAGES Books Navagaprom z4.jpg?>เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำไม</CENTER>วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 พรรษาที่ 15 ณ โบสถ์วัดบางคูเวียง พระคุณเจ้าปรารภแก่ตนเองว่า "เราตั้งใจจริงมาบวชจำเดิมแต่อายุ 19 ปี ได้ปฏิญาณตนบวชจนตาย จนบัดนี้ของจริงที่พระพุทธเจ้าท่านรู้ท่านเห็น เรายังไม่ได้บรรลุ ยังไม่รู้ไม่เห็น สมควรแล้วที่จะต้องการกระทำอย่างจริงจัง" เมื่อตกลงใจได้ดังนี้ก็เข้าอุโบสถแต่เวลาเย็น ตั้งสัจจาธิษฐานแน่นอนลงไปว่า "ขอพระพุทธเจ้าทรงพระกรุณาโปรดข้าพระพุทธเจ้า ทรงประทานธรรมที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้อย่างน้อยที่สุดแลง่ายที่สุดที่พระองค์ได้ทรงรู้แล้วแด่ข้าพระพุทธเจ้า ถ้าข้าพระพุทธเจ้า รู้ธรรมของพระองค์แล้ว เป็นโทษแก่ศาสนาของพระองค์แล้ว ขอพระองค์อย่างทรงพระราชทานเลย ถ้าเป็นคุณแก่ศาสนาของพระองค์แล้ว ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานแด่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์รับเป็นทนายศาสนา ในศาสนาของพระองค์จนตลอดชีวิต"

    <TABLE><TBODY><TR><TD>รักษ์ร่างพอสร่างร้าย </TD><TD>รอดตน</TD></TR><TR><TD>ยอดเยี่ยม"ธรรมกาย"ผล </TD><TD>ผ่องแผ้ว</TD></TR><TR><TD>เลอเลิศล่วงกุศล </TD><TD>ใดอื่น</TD></TR><TR><TD>เชิญท่านถือเอาแก้ว </TD><TD>ก่องหล้าเรืองสกล</TD></TR></TBODY></TABLE>
    จากวันนั้นที่พระเดชพระคุณเจ้าได้ดวงปฐมมรรค และตั้งใจฝึกฝนวิชชาธรรมกาย อยู่เป็นเวลา 6 ปี พ.ศ. 2477 พระคุณเจ้าพบว่า ต้นธาตุ (สมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าองค์แรกสุดบนอายตนะนิพพาน) ใช้ให้จุติมาเกิดเพื่อปราบมาร เพราะมารเข้ามาปนเป็นในศาสนาพุทธ ปล่อยสายมาปกครองมนุษย์ ให้มนุษย์มีกิเลส ตัณหา อวิชชา เป็นทาสของโลภะ โทสะ โมหะ พระคุณเจ้าเข้าธรรมกายสุดละเอียดจึงรู้และเห็นหมดว่า...



    สมัยที่พระสมณโคดม สัมมาสัมพุทธเจ้า สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณใหม่ ๆ เสด็จไปประทับ ที่ใต้ควงไม้ อชปาลนิโครธ พญามารนิมนต์จะให้นิพพานเสียทีเดียว แต่พระองค์ว่าจะโปรดสัตว์ให้ครบบริษัท 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา พระแม่ธรณีขึ้นมาบีบมวยผม แสดงพุทธบารมีที่ได้สั่งสมมาแล้วอุทิศกรวดน้ำแด่สรรพสัตว์ น้ำเหล่านั้นออกจากมวยผมไหลท่วมพญามารหนีไป
    <CENTER><IMGSRC="IMAGES Books Navagaprom m1.jpg?>"ศาสนาของเราไม่มีข้อกำหนด มรรคผล ยังมีอยู่ตราบใด ศาสนาก็ตั้งอยู่ตราบนั้น" </CENTER><CENTER></SPAN></B></CENTER>ต้นธาตุจึงตรัสแก่พระคุณเจ้าว่า "บัดนี้มารได้ส่งสายปกครองลงมาเกิด เป็นผู้นำแว่นแคว้นเผ่าพันธุ์ อีกทั้งเทพเจ้าสงครามก็ลงมาจุติแล้ว เห็นทีสงครามแห่งการล้างเผ่าพันธุ์เชื้อชาติต้องเกิดขึ้นแน่ ผู้คนจะล้มหายตายจาก การเข่นฆ่าด้วยอาวุธสงครามที่ร้ายแรง แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ แผ่นดินสุวัณณภูมินี้จะเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า พุทธจักรอาณาจักรจะถูกมารเข้ายึดครองและทำลายจนไม่เหลือเศษ ขอพระคุณเจ้าจงทำวิชชารบกับมารเถิด แยกพระ แยกมาร ให้ออกจากกัน เก็บภัยสงคราม มารเอาบ้านเมืองมาล่อ เอาความเจ็บความตายมาให้ ปราบมารเหล่านี้ลงเสียได้ มนุษย์ถึงจะอยู่สุข การรบกับภาคมารนี้ต้องทำอย่างจริงจัง และต่อเนื่องตลอดเวลา 24 ชั่วโมง อย่างน้อยเป็นเวลา 25 ปี จึงจะชนะหมด ขอท่านจงรับหน้าที่เหล่านี้เถืด เพื่อประโยชน์สุขแห่งประเทศชาติและประโยชน์อย่างยิ่งแก่พระนิพพาน ในการดำรงรักษาและสืบอายุพุทธจักร และสืบอายุพุทธจักร อาณาจักรในฝ่ายสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียวที่ถูกมรรค ถูกผล ถูกนิพพาน โอ้หนอ... ภาระนี้ใหญ่หลวงนัก พระคุณเจ้าเฝ้าตรึกตรองว่าเมื่อรับแล้วจะกระทำได้หรือไม่ ขณะเดียวกันก็เผยแพร่วิชชาธรรมกายไปอย่างกว้างขวาง มีผู้คนเข้ามาปฎิบัติมากขึ้น ๆ สายธาตุธรรมที่มีหน้าที่ก็เริ่มเข้ามาอยู่ในสายการปกครองของพระคุณเจ้า โดยเฉพาะธาตุธรรมที่ต้องมาทำวิชชารบ เพียงฝึกฝนก็ปฏิบัติได้เป็นอัศจรรย์ พระคุณเจ้าคิดว่าเมื่อจะรับงานต้นธาตุ คำว่าถอยหลังไม่เคยใช้ ท่านเฝ้าเคี่ยวกรำหน่วยทำวิชชานี้อย่างเคร่งครัดชนิดไม่ให้ไปไหนหรือปฏิบัติอย่างอื่นอย่างใด นอกจากการปฏิบัติวิชชาธรรมกายขั้นสูงแต่อย่างเดียว ใช้เวลาทั้งหมด 8 ปี เมื่อพร้อมที่จะทำงานพระคุณเจ้าจึงตั้งโรงงานทำวิชชาขึ้นที่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ใช้คำว่าโรงงาน เพราะต้องผลัดกันทำวิชชาเป็นกะ กะละ 3 ชัวโมง ส่งงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีการหยุดพัก ปี พ.ศ. 2485 จึงเริ่มต้นทำวิชชารบกับภาคมาร เก็บดาวสงคราม สร้างดาวสันติ ถ้ามารไม่แพ้ พระคุณเจ้ายอมตายอยู่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ)

    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=370 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=179>หลวงพ่อสดฝึกศิษย์เนื่องติดต่อ</TD><TD width=26></TD><TD width=165>ไม่ย่นย่อฝึกจิตเป็นกิจใหญ่</TD></TR><TR><TD>นั่งภาวนาสมาทานสถานใน</TD><TD></TD><TD>พวกจิตใสที่จัดไว้เงียบเหมาะดี</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>ประจำวันหมั่นทำกรรมฐาน</TD><TD></TD><TD>ประจำกาลค่ำเช้าท่านเข้าที่</TD></TR><TR><TD>เป็นเวลาภาระประเพณี</TD><TD></TD><TD>ทำจนมีมาตรฐานการภาวนา</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>ควบคุมพระระวังนั่งฝึกจิต</TD><TD></TD><TD>ควบคุมศิษย์ฝึกใจให้ก้าวหน้า</TD></TR><TR><TD>ทั้งคืนวันหมั่นทำประจำมา</TD><TD></TD><TD>ทุกเวลาล้วนทำประจำไป</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>ส่วนแม่ชีมีสิทธิ์กิจสอนสั่ง</TD><TD></TD><TD>เจริญนั่งภาวนาอัชฌาสัย</TD></TR><TR><TD>สมาธิแสนสว่างแจ่มแจ้งใจ</TD><TD></TD><TD>ท่านมอบให้ห้องทำประจำวาร</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>แบ่งฝ่ายพระคฤหัสน์เป็นสัดส่วน</TD><TD></TD><TD>ทุกฝ่ายล้วนฝึกทำกรรมฐาน</TD></TR><TR><TD>มีชื่อหนึ่งซึ่งโยงเข้าโครงการ</TD><TD></TD><TD>เรียก"โรงงาน"สมาธิภาวนา</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>โรงงานหนาขานได้ฟังไม่แปลก</TD><TD></TD><TD>สงสัยแทรกสำนึกเมื่อตรึกตริ</TD></TR><TR><TD>"โรงงานทำกรรมฐาน"เรียกขานสิ</TD><TD></TD><TD>ใช่ตำหนิหากมนัสอัศจรรย์</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>"หลวงพ่อ"ชั่งตั้งชื่อถือว่าแปลก</TD><TD></TD><TD>ยินครั้งแรกรู้สึกให้นึกขัน</TD></TR><TR><TD>นึกแหล่งผลิตกิจกรรมทำขายกัน</TD><TD></TD><TD>แต่ทุกวัน "กลับฝึกธรรมกาย"</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>คล้าย "โรงธรรม"คำนี้มีหลักฐาน</TD><TD></TD><TD>ดุจ "โรงงาน"คำนี้มีจุดหมาย</TD></TR><TR><TD>ที่ฝึกธรรมบำเพ็ญเย็นสบาย</TD><TD></TD><TD>ที่สืบสาย "วิชชา"มาเนิ่นนาน</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>ยังคงอยู่คู่สำนัก "วัดปากน้ำ"</TD><TD></TD><TD>ทุกเช้าค่ำคงศิษย์กิจประสาน</TD></TR><TR><TD>เข้าที่นั่งยังวิชชาประเทืองการ</TD><TD></TD><TD>สมาทานสมาธิมิเสื่อมคุณ</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>มีการจัดผลัดเปลี่ยนเวียนกันนั่ง </TD><TD></TD><TD>ตลอดทั้งคืนวันช่วยกันหนุน</TD></TR><TR><TD>คำนวณบุญผังวิชชาเพื่อเชื่อมคุณ</TD><TD></TD><TD>นั่งเวียนหมุนธรรมจักรสืบต่อไป</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>ห้าพันปีที่พุทธศาสน์</TD><TD></TD><TD>จักโอภาสพิสุทธิ์พุทธสมัย</TD></TR><TR><TD>แผ่มิ่งขวัญบันดลมงคลชัย</TD><TD></TD><TD>อดิสัยพร้อมพรั่งทุกสังคม</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>โดย "หลวงพ่อ" หวังปลูกฝังศาสน์ </TD><TD></TD><TD>เป็นขวัญชาติคู่ไทยได้งามสม</TD></TR><TR><TD>ทุกดวงใจบรรลุธรรมเอกอุดม</TD><TD></TD><TD>พึ่งพิงร่มพุทธศาสน์ชาติชื่นเย็น</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>มีคุณธรรมอมตะประดับจิต</TD><TD></TD><TD>มีนิมิตถูกมรรคาสว่างใส</TD></TR><TR><TD>ปฏิบัติขัดเกลาทั้งนอกใน</TD><TD></TD><TD>ทั้งกายใจพบสุขนิจนิรันดร์</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>ปฏิบัติสัมมาหลวงพ่อบอก</TD><TD></TD><TD>การเดินนอก หยุดใน นั้นไร้ผล</TD></TR><TR><TD>ให้เดินใน หยุดนอก ทุกกมล</TD><TD></TD><TD>บันดาลดลเป็นผลดีพ้นเกิด-ตาย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>คัดลอกมาจาก http://www.navagaprom.com/</CENTER>


    </PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2006
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#a77842>
    เหตุการณ์ผันผวนในเมืองไทย หลากปัญหาที่ต้องเผชิญวิกฤตการณ์




    </TD></TR><TR><TD>

    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ)</CENTER><CENTER> </CENTER>
    ในช่วงปลาย พ.ศ. 2481-2488 มีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นทั่วแผ่นดินสุวัณณภูมิ ประเทศทั้ง 6 ต่างประสบกับความยุ่งยากทางการเมืองการปกครอง แม่น้ำสำคัญ 5 สาย ดุจดังนิ้วมือทั้ง 5 ที่เคยอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข บ้านพี่เมืองน้อง ต่างก็เกิดการแตกแยกสามัคคี แย่งชิงอำนาจการปกครองบ้านเมือง ประเทศไทยก็เช่นกันสถานการณ์ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ความไม่ราบรื่นทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งมีปัญหาเรื่อยมา ครั้งเปลี่ยนแปลงการปกครองจากราชาธิปไตยมาเป็นประชาธิปไตย โดยมีกษัตริย์เป็นพระประมุขของชาติ

    พระเดชพระคุณเจ้าฯ พบว่า มารส่งผังเข้ามาให้มนุษยตกทุกข์ยากลำบาก มีจิตใจใคร่ในสงคราม การทำลายเข่นฆ่า อีกทั้งให้รับวิบัติต่าง ๆ มีโรคภัยไข้เจ็บ รบราฆ่าฟัน ข้าวยากหมากแพง ให้วิบัติไปด้วย ดิน น้ำ ไฟ ลม ให้ยากจนข้นแค้น ให้มีความชั่วร้ายต่าง ๆ อีกทั้งให้มีการเปลี่ยนแปลงลัทธิการปกครอง สงครามโลกแผ่ขยายไปทั่ว เมื่อ พ.ศ. 2485 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในแผ่นดิน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ หลังน้ำท่วมไทยต้องเข้าสู่สงครามมหาเอเซียบูรพา พระคุณเจ้าฯ จึงคำนวณวิชชาธรรมกายขั้นสูง เก็บผู้รุกราน รัสเซีย ญี่ปุ่น เยอรมัน เป็นต้นคิด ส่วนอเมริกาเป็นผู้คอยรับช่วยเหลือในสันติภาพ มีกำหนดให้มนุษย์รบกันอีก 3 ปี จึงสิ้นสุด ใน พ.ศ. 2488 พระคุณเจ้าฯ ทำวิชชายกประเทศของเราขึ้นให้พ้นจากความเสียหายทั้งปวง โดยเอากำเนิดจีนซ้อนในกำเนิดของไทยเป็นผลให้

    เมื่อสงครามโลกจบสิ้นลง ไทยประสบกับปัญหาทางการเมืองในฐานะผู้แพ้สงคราม คนไทยกลุ่มหนึ่งทั้งระดับผู้นำทั้งใน และต่างประทศ ร่วมกันจัดตั้งขบวนการ "เสรีไทย" ร่วมกับฝ่ายพันธมิตรต่อต้านญี่ปุ่น ในช่วงสงคราม ทำการช่วยเหลือเชลยศึกฝ่ายพันธมิตรและอเมริกาเป็นอย่างดี ในช่วงที่อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองเกี่ยวกันสนธิสัญญาสมบูรณ์แบบระหว่างไทยกับอังกฤษที่จะเข้ามาปกครองไทย รัฐบาลจีนได้ประกาศให้โลกทราบ ต่อการเห็นว่าไทยเป็นประเทศเอกราช และไม่ให้ตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม และด้วยความเห็นอกเห็นใจของบรรดาชาติมหาอำนาจทั้งหลาย ที่เห็นว่าไทยต้องอยู่ในสภาวะจำยอมเข้าสู่สงคราม จึงยอมรับและลงความเห็นเหมือนกับจีนตามประกาศ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2489 คือ ไทยเป็นประเทศเอกราชไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะของ ผู้แพ้สงคราม

    และเมื่อค้นวิชชาต่อไป พระคุณเจ้าฯก็พบผังการเปลี่ยนลัทธิการปกครองทั่วสุวัณณภูมิ ให้เห็นเหตุและแผนผังที่ฝ่ายมารส่งมาทั่วทั้งสุวัณณภูมิ ให้ทุกประเทศแตกแยก และเปลี่ยนลัทธิการปกครอง เป็นลัทธิแดง(คอมมิวนิสต์) ส่งสงครามให้เกิดในประเทศไทย และจะเป็นเหตุให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ในสมัยกึ่งพุทธกาลล่วงไปแล้วไม่กี่มากน้อย มาตุภูมินี้ต้องเป็นปิ่นของนานาประเทศ พระคุณเจ้าฯ จึงให้รักษาปกปักแผ่นดินมาตุภูมิไว้อย่างเต็มที่ โดยการเก็บผังสงครามโลกครั้งที่3 ผังที่กลับชาวไทย ให้เป็นคอมมิวนิสต์ออก และรักษาผังกษัตริย์ไว้ให้อยู่คู่ไทย แต่ด้วยกรรมของศาสนา ที่จะต้องเป็นไปในวงศ์ของพระพุทธโคดม ในสมัยกึ่งพุทธกาลล่วงไปแล้ว จะมีบังเกิดขึ้น ให้ผู้คนในแผ่นดินต้องด้วย 3 ภัย 8 ทุกข์

    3 ภัย คือ :- ภัยเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ และภัยโรคร้าย (ที่รักษาไม่ได้)

    8 ทุกข์ คือ:- 1. ข้าวยากหมากแพง 2. เงินไร้ค่า 3. ผู้คนยากจนเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว 4. วิบัติด้วยโรคร้าย 5. วิบัติด้วยภัยธรรมชาติทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ 6. บุตรหลานไม่อยู่ในโอวาท 7. วิบัติด้วยยาเสพติด 8. โจรผู้ร้ายชุกชุม

    พระคุณเจ้าฯ จึงทูลต้นธาตุให้ซ่อนประเทศชาติ ศาสนา วิชชาธรรมะ ตลอดทั้งพระมหากษัตริย์ เพื่อให้พ้นภัยสงครามโลก และยกประเทศชาติ ศาสนา ถวายองค์พระศรีฯ ผู้รับช่วงงานสืบต่อศาสนจักร อาณาจักรในยุคกึ่งพุทธกาลหลัง ให้พระองค์ส่งผู้คนชาวศิวิไลซ์มาเกิด เพื่อสืบงานสันติภาพต่อไป หากแม้นกรรมของศาสนาพระพุทธโคดมที่พระคุณเจ้ารับเป็นทนายแก้ต่างให้ ยังไม่หมด พระคุณเจ้าฯ ยินดีเอาตัวท่านและวิชชาธรรมกายรับกรรมแทนแก่เหล่ายักษ์ มารทั้งหลาย และแล้วพระคุณเจ้าฯ ก็มรณภาพเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 ชั่วชีวิตที่เกิดมาเป็นพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ก็เพื่อรักษาศาสนจักร อาณาจักรให้อยู่เสมือนหนึ่งพุทธกาล เป็นการทำประโยชน์อย่างยิ่งแก่พระนิพพานอย่างแท้จริง

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    </PRE></TD></TR></TBODY></TABLE>คัดลอกมาจาก http://www.navagaprom.com/booklist.php?pg=8#</P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2006
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เชื่อหรือไม่ โดยบ้าหอบฟาง

    หลังจากเหตุการณ์สึนามิเกิดขึ้น บังเอิญได้สนทนากับคุณลุงคนหนึ่ง ไม่รู้จักกันมาก่อน ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม อยู่ๆมาคุยกันได้ ลุงแกเปิดหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า +++ น้ำท่วมโลก จากคติคัมภีร์ศาสนา +++ ซึ่งพิมพ์ในปี 2540 เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติโลก มีทั้งเรื่องการทำนายจาก นอสตราดามุส และ ดร.สมิทธ์ รวมถึง นักวิทยาศาสตร์ และ นักศาสนา ทั้งหลาย และหนึ่งในภัยพิบัตินั้น ก็ได้ทำนายเกี่ยวกับเรื่องราว ของคลื่นยักษ์ ซูนามิไว้


    ในหนังสือได้กล่าวว่าคลื่นยักษ์นี้จะทำลาย 6 จังหวัดภาคใต้ โดยระบุชื่อจังหวัดทั้ง 6 โดยไม่มีตกหล่น และกล่าวถึงระดับความสูงว่า จะมีขนาด 6
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วงแหวนแห่งไฟ
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



    <!-- start content -->
    [​IMG]


    แผนที่วงแหวนแห่งไฟ​



    วงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) เป็นบริเวณในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดได้ง่าย มีลักษณะเป็นเส้นเกือกม้า ความยาวรวมประมาณ 4,000 กิโลเมตร และวางตัวตามแนวร่องสมุทรหรือแนวของหมู่เกาะ
    90% ของแผ่นดินไหวและ 81% ของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในโลก อยู่ในบริเวณวงแหวนแห่งไฟนี้ วงแหวนแห่งไฟเกิดจากช่องว่างระหว่างเปลือกโลกแต่ละแผ่น

    <!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:38140-0!1!0!0!!th!2 and timestamp 20060624083628 -->ข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9F".

    เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ ที่ 27 -28 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ที่ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยความรุนแรงถึง 6.3 ริคเตอร์สเกล ทำไห้คนตายถึง 5,000 กว่าคน บาดเจ็บและสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อก่อนหน้านี้ ก็เกิดภูเขาไฟ เมราปี ระเบิด และเมื่อเดือนธันวาคม 2547 ก็เกิดแผ่นดินไหว ด้วยความรุนแรงถึง 9 ริคเตอร์ และมีผลทำให้เกิดคลื่น สุนามิตามมา ผู้คนแถว ๆ อาเจะห์ ตายไปอีกประมาณ 168, 000 คน รวมทั้งประเทศไทยใน 6 จังหวัดก็ได้รับผลกระทบด้วยดังที่เป็นข่าวเมื่อสองปีที่แล้ว ภัยพิบัติหรือความหายนะ จากธรรมชาตินี้ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ห้ามไม่ได้ เพราะเป็นภัยธรรมชาติ หรือแรงจากธรรมชาติ ที่เราเรียกว่า Force of Nature ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด การเกิดพายุเฮอริเคน ทอร์นาโด ฝนตก น้ำท่วม

    เป็นที่น่าสังเกตไหมว่าในแถบย่านเอเชียนี่จะมีแผนดินไหว ภูเขาไฟระเบิดที่ไหนบ้าง วันนี้เราเริ่มที่อินโดนีเซียก่อน ประเทศอื่น ๆ มีบ้างไหมในอดีตและปัจจุบัน มีแน่นอน ก็มีจีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ หมู่เกาะฮาวาย แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก เป็นต้น ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ตั้งอยู่ในโซนที่เราเรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ หรือ Ring of fire ซึ่งจะอยู่แถว ๆ ขอบของมหาสมุทรแปซิฟิกครับ ..ประเทศไทยของเรารอดพ้นครับ ไม่อยู่ในวงแหวนดังกล่าว แต่มีบางจังหวัดในประเทศไทยเรานี้มีซากของหินภูเขาไฟนะครับ เช่นที่ ลำปาง บุรีรัมย์ เป็นต้น แสดงว่าเคยเกิดภูเขาไฟมาแล้วในอดีตไม่รู้กี่ร้อย กี่ล้านปี แต่ปัจจุบันยังไม่มีปรากฏอาการให้เห็นเหมือนประเทศอื่น ๆ แต่ไม่ควรประมาทนะครับ ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ความสูญเสียจะใหญ่หลวงมหาศาลเพียงใด ลองดูภาพจากอินโดนีเซีย ที่เมือง ยอร์กจาร์การตาร์ และ เมืองบันทูล ดูหน่อยเป็นไรครับ จากข่าวของ CNN นะครับ นำมาบันทึกไว้เพื่อเป็นความรู้ครับ...

    ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาของออสเตรเลียกล่าวว่า สาเหตุที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยในอินโดนีเซียใน 2-3 ปีมานี้เนื่องจากว่าแผ่นเปลือกโลกออสเตรเลีย เคลื่อนที่เร็วขึ้นประมาณปีละ 7 เซนติเมตร ทำให้การปะทะกับแผ่นเปลือกโลกเอเซีย ซึ่งมีรอยต่ออยู่บริวณหมู่เกาะอินโดนีเซียพอดี เกิดความรุนแรงมากขึ้น และเตือนว่า อินโดนิเซียจะเผชิญกับแผ่นดินไหวรุนแรง ซึ่งจะทำให้เกิดความสูญเสียมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง

    ที่มา http://gotoknow.org/blog/ymanit/31866
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2006
  7. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    Breaking

    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=100 align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TD></TR></TBODY></TABLE>Bird flu was spread directly between members of an Indonesian family in the first laboratory-confirmed case of human-to-human transmission of the lethal virus, a World Health Organization official said.
    Jun 25, 2006, 07:23




    The threat to mankind........

    This news can shake the world........

    ...............

    ..............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2006
  8. เจ้าโก้

    เจ้าโก้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +939
    เอ้ย จริงดิครับพี่

    เรื่องโรคภัยนี่ผมว่าร้ายแรงอันดับ 1 เลยนะ ภัยธรรมชาติมาอันดับ 2
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภูเขาไฟเมราปิในอินโดนีเซีย ( Mount Merapi )

    [​IMG]

    เมื่อวานฟังข่าวต่างประเทศ บอกว่าทางการอินโดนีเซียเตรียมอพยบชาวบ้านนับพันออกจากบริเวณภูเขาไฟ เมราปี (Merapi) ที่ตั้งอยู่บนเกาะชวา อยู่ห่างไปทางตะวันตกของกรุงจากาตาร์ เป็นระยะทาง 460 กิโลเมตร หลังจากที่ภูเขาไฟลูกดังกล่าวพ่นหมอกควันออกมา ทางการอินโดนีเซียเพิ่มความพร้อมเป็นระดับสีส้ม (Orange Code เป็นระดับเตือนภัยภูเขาไฟขั้นรองจากขั้นสูงสุด เข้าใจว่าขั้นสูงสุดคงเป็นระดับสีแดง)

    ภูเขาไฟลูกนี้เคยประทุครั้งใหญ่มาแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1994 หรือ กว่าสิบสองปีมาแล้ว ครั้งนั้นฆ่าชีวิตผู้คนไป 60 คน ส่วนการระเบิดครั้งที่ร้ายแรงที่สุดที่ได้มีการบันทึกไว้คือในปี ค.ศ. 1994 ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 1,300 คนเลยทีเดียว

    ภูเขาไฟเมราปิเป็นลูกหนึ่งในจำนวนภูเขาไฟ 129 ลูกในอินโดนิเชียที่ยังครุกกรุ่นอยู่ มันมีความสูง 2,968 เมตร หรือ 9,737 ฟุต

    ในภาพข้างบนเป็นพระพุทธรูปที่ Borobodur จะมองเห็นภูเขาไฟ Merapi อยู่ในฉากหลัง (ภาพจาก http://www.travels.edsventures.com )

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>อีกรูปหนึ่งของภูเขาไฟ Merapi แสดงที่ตั้งของมันบนเกาะชวาด้วย
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG][/left]
    ข่าวล่าสุด ... เริ่มมีชาวบ้านอพยบกลับเข้าไปในบริเวณภูเขาไฟมากขึ้นเรื่อยๆแม้ว่าภูเขาไฟเมราปิจะเพิ่มความรุนแรงของการประทุมายิ่งขึ้น ทางอินโดนิเซียเริ่มหวั่นใจว่าลาวาโดมของภูเขาไฟอาจจะถล่มลงมาทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ คาดว่าคงจะมีการอพยบชาวบ้านอีกครั้งถ้ามีการเพิ่มระดับการเตือนภัยเป็นระดับสูงสุด


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG][/left]
    วันทีเสาร์ที่ 13 พ.ค. ภูเขาไฟเมราปิเริ่มมีธารลาวาไหลลงมาตามลาดเขา แม้ว่าลาวาจะยังไหลมาไม่ถึงเขตที่อยู่อาศัย แต่ทางรัฐบาลอินโดนิเซียได้สั่งให้อพยพประชาชนในเขตใกล้เคียงภูเขาไฟ และเพิ่มระดับระวังภัยเป็นขั้นสูงสุด (สีแดง) แล้ว


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]
    Pyroclastic flow ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่าง ก๊าซร้อน ฝุ่นและ หิน กำลังเคลื่อนตัวลงตามแนวเขา ของภูเขาไฟมิราปิ ก๊าซร้อนพวกนี้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูง และเผาผลาญทุกอย่างระหว่างทาง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]
    เถ้าถ่าน ฝุ่นภูเขาไฟ จากภูเขาไฟเมราปิ ปกคลุมและสร้างผลกระทบต่อบริเวณใกล้เคียง แม้ว่าภูเขาไฟจะปะทุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กระนั้นผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าจะภูเขาไฟจะระเบิดเมื่อใด

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คัดลอกมาจาก http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=144&Pid=49849

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2006
  10. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    บุชระบุ! ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาร้ายแรง

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=245 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอเอฟพี – ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐฯกล่าวว่า มันถึงเวลาแล้วที่จะเลิกโต้เถียงกันว่า กิจกรรมของมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นหรือไม่ และควรมาร่วมกันมาพูดคุยเพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้

    บุชกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมได้บอกมาอย่างต่อเนื่องว่า ภาวะโลกร้อนขึ้นนั้นเป็นปัญหาร้ายแรง มีการโต้เถียงกันว่า ภาวะโลกร้อนนี้เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์หรือว่าจากสาเหตุทางธรรมชาติกันแน่”

    “เราควรข้ามเรื่องโต้เถียงดังกล่าวไป และเริ่มใช้เทคโนโลยีที่จำเป็น ในการทำให้เราสามารถบรรลุจุดประสงค์สำคัญ 2-3 อย่างได้ หนึ่งคือ เป็นผู้ดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี สอง พึ่งพิงแหล่งน้ำมันจากต่างชาติให้น้อยลง เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจและเพื่อเหตุผลทางความมั่นคงของชาติ” บุชกล่าว

    อนึ่ง บุชยังได้อ้างถึง เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด อันเป็นความพยายามที่จะพัฒนายานพาหนะที่ใช้พลังจากไอโดรเจนและเอธานอล และความพยายามของเขาที่จะให้สหรัฐอเมริกาพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์สำคัญขึ้นมาใหม่

    “ความจริงก็คือ ถ้าประเทศนี้ต้องการกำจัดก๊าซเรือนกระจกแล้ว เราต้องมีอุตสาหกรรมพลังนิวเคลียร์ที่ตื่นตัวและเติบโต” บุชกล่าว

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000082891
     
  11. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=100 align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TD></TR></TBODY></TABLE>Weather can have many effects, from sinking a city to causing whole hillsides to slip away. Now scientists say changes in the weather cause small wobbles in the entire planet's spin.
    Jun 26, 2006, 16:36
     
  12. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif][​IMG][/FONT]

    Scientist have discovered that the ground in Yellowstone is over 70cm higher than in was in 1923 - indicating a massive swelling underneath the park. The reservoir is filling with magma at a staggering rate. The volcano erupts with a calendar-like cycle of every 600,000-650,000 years. The last eruption was more than 640,000 years ago - we could be running late
     
  13. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    [​IMG]
    Magma would be flung more than 50 kilometres into the atmosphere. Within a thousand kilometres virtually all life would be killed by falling ash, lava flows and the sheer explosive force of the eruption. Volcanic ash would cover places thousands of miles away. One thousand cubic kilometres of lava would pour out of the volcano itself, enough to coat the whole of the USA with a layer a few inches thick. The explosion would have a force 1000-2500 times that of Mount St. Helens. It would be the loudest noise heard by man for more than 75,000 years, the time of the last super volcano eruption. Within minutes of the eruption tens of thousands could be dead.

    The long-term effects would be even more devastating. The thousands of cubic kilometres of ash that would shoot into the atmosphere could block out light from the sun, making global temperatures fall dramatically. This is called a nuclear winter. As during the Sumatra eruption a large percentage of the world's plant life would be killed by the ash and severe drop in temperature. Effects world wide would cause massive food shortages. If the temperatures decline by the 21 degrees they did after the Sumatra eruption the Yellowstone super volcano eruption could truly be an event.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2006
  14. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: justify" width="100%">Study: Earth Feeling The Heat
    [SIZE=-2]Category : Science & Technology | Posted : 23 Jun 2006 03:21 pm[/SIZE]
    </TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: justify" width="100%">The National Academy of Sciences reported that the Earth was at its hottest level for at least the last 400 years and possibly the last several millennia. The panel said "human activities are responsible for much of the recent warming</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    How often is Earth hit by an asteroid?

    More frequently than you may think. An incident like Tunguska occurs approximately once per every hundred years. Smaller ones, but easily big enough to take out a large city, occur at least 3 times per century, for example Brazil in 1930. While most of the recent recorded impacts have happened in places that were barely inhabited, we won't always be that lucky. If the Tunguska event had happened over the city of New York it would have been nearly leveled.


    <TABLE style="WIDTH: 100%; TEXT-ALIGN: left" cellSpacing=2 cellPadding=2 border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: middle">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    What damage would an Asteroid Impact cause?

    A near earth Object (NEO) does not need to be large to devastate. One the size of a small garage would annihilate a large city. One big enough to leave a 10km crater, still nowhere near the size of the biggest (there is a 300km crater on Earth), would have the destructive force of every one of the world's 10,000 nuclear warhead combined.
    [​IMG]

     
  17. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    On the date of June 30th, 1908, at about a quarter after 7:00 a.m., a very mysterious explosion occurred in the skies over Tunguska, Siberia, located in Russia. This explosion happened at anywhere between six-to-eight kilometers from ground zero, and the resultant action in this was to lay waste to a vast region of pine forest of 2,150 square kilometers, felling more than 60 million trees. This was seen as a brilliant burst of light from the inhabitants of the region of 50 kilometers around. Witnesses claim that the explosion was so loud and powerful as to blow-out windows, temporarily blind and knock people to the ground, and sounded like a deafening roar. Had it happened fifty years later, it is surmised by scientists, (placing it within that time-frame of the Cold-War) it would most likely have spurred that nation into a nuclear war.
    <TABLE style="WIDTH: 100%; TEXT-ALIGN: left" cellSpacing=2 cellPadding=2 border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: middle">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    ระวังลูกไฟนะ เพราะเราฝันเห็นแต่ลูกไฟหล่นจากฟ้าแล้วนะช่วงนี้ กับแผ่นดินยุบที่ท้องทะเล

    .................................
    เราไม่คิดว่าฝันของเราเชื่อได้หรือเปล่าๆ
    แต่ว่าก่อนที่ น้ำป่าจะใหลทะลักที่หมู่บ้านลับแล
    เราฝันว่าน้ำป่า น้ำแช่ขัง ต้นไม้ตาย น้ำดินโคลน มาตลอดผู้รอดในฝันคือ คนที่มีแสงพุ่งออกจากหัว มีรัศมี
    เราเคยโพสท์ถามคุณ 3 ตา แล้วแต่ท่านพี่ก็ไม่ว่าอะไรไม่ตอบอีกด้วย
    เราเลยคิดว่าเป้นแค่ฝันหรือเราอาจจะตายเพราะจมน้ำก็ได้เมื่อชาติก่อน
    แต่เมื่อเหตุการเกิดขึ้นเหมือนในฝันเรา ยังไม่คิดมาก

    แต่ระยะหลังๆ นี้ฝันเห็นลูกไฟ และ UFO และแผ่นดินยุบตัว
    ทุกฝันจะต้องมี UFO และลูกไฟตลอด ผู้รอดยังไม่เห็นแน่ชัดว่าต้องเป็นยังไง
    แต่ที่เห็นในฝันส่วนใหญ่เป็นคนที่ญาติ(พ่อแม่ลุงตายายป้าน้าอา)อุทิศตนให้คนที่รักนั้นรอด

    .................
    เนื้อความในฝันเมื่อล้าสุดนี้

    ข้างทางมีคนมาขายน้ำเสบียงเต็มไปหมด เราตะโกนให้เขาปีนขึ้นที่สูงแต่ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้เป็นเวลาทองที่จะค้าขาย ถนนนั้นผุผังเป็นหลุมเป็นบ่อ มองไปอีกฝ้ากเวิ้งน้ำนั้น มีลูกไฟบังตกมาเป็นสาย กลุ่มคนที่รักตัวกลัวตายก็ขึ้นเกวียนขนของบ้าง เดินเท้ามั้ง แต่รถยนต์จอดแช่มันขับไม่ได้
    ได้ยินเสียงว่ารีบเดิน รอบสุดท้ายหมด ตอนเที่ยงคืนนี้ และข่อยก็ตื่นเพราะหมามันหอนดังมาก
    ..........................................
    ส่วนเมื่อคืนนี้

    น้ำเต็มทุ่งนา ฝูงใส้เดือนตัวโตชอนไชดินจนดินยุบลงไป
    ผู้คนตะเกียกตะกายขึ้นจากบ่อโคลนนั้น ส่วนใหญ่จะขึ้นไม่ได้
    ผู้ขึ้นได้จะต้องมีคนที่รักเราจูงขึ้น บางคนก็มีพระจูงขึ้น ของเราเป็นแม่นะ
    เมื่อขึ้น มาเห็น UFO บางลำก็ลอยวนอยู่ใกลลิบ บางลำก็ชนสะพาน บางลำก็อยู่ใกล้กำลังจะลงจอด
    บอกสิ ใครจะทำนายฝันให้ฉัน เสียงนี้ดังขึ้น แล้วเราก็พูดว่าอ้าวนี้ฝันเหรอ เหมือนจริงมาก แล้วแม่ก็บอกว่านี้หละเรื่องจริง
    ..................................................
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตือนคนไทยรับมือภัยพิบัตินับแต่นี้

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    [​IMG]

    รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ศึกษาเรื่องภัยพิบัติ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ศึกษาเป็นการล่วงหน้าในปี 2007 ร่วมกับองค์กรนานา ชาติที่ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก พบ ว่านับตั้งแต่ปีนี้การเกิดภัยพิบัติในไทยและทั่วโลกจะมีมากขึ้นถึง 20% ในทุกๆ ปี โดยเฉพาะประเทศจีนและยุโรปจะรุนแรงมาก

    ทั้งนี้ จากเหตุการณ์น้ำท่วมแผ่นดินถล่มใน จ.อุตรดิตถ์ เป็นปรากฏการณ์เชื่อมโยงกับความปรวนแปรของภูมิอากาศโลก ซึ่งมีสาเหตุจากภาวะ โลกร้อนโดยตรง ขณะนี้กระแสน้ำในทะเลแปรปรวน ปรากฏการณ์ลานีญาจะทำให้ฝนตกมากในไทยและเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ทางตอนใต้ของจีน โดยจะเกิดพร้อมๆ กับแผ่นดินถล่ม ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่นับแต่นี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก


    รศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไปจะทำให้ฤดูร้อนในไทยอาจลาก ยาวจากเดือน มี.ค. เม.ย. ไปถึงเดือน พ.ค. โดย ภาพรวมแล้วไทยจะมีฝนตกมากขึ้นและมีการแปร ปรวน คือฝนตกมากขึ้นในทุกๆ ปีประมาณ 30% ถ้าเทียบกับช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จะทำให้เกิดภัยพิบัติ ก่อให้เกิดแผ่นดินถล่ม น้ำท่วมและภัยแล้ง ในปีเดียวกัน


    "เรื่องภัยพิบัติเราคนไทยจะต้องเจอทุกปีและ จะต้องมีการเตรียมพร้อม เผลอๆ ปีนี้ภาคกลางจะเจอค่อนข้างสูงโดยเฉพาะพายุไต้ฝุ่น หรือ Tropical Storm และพายุโซนร้อนที่มีกำลังแรงมาก ขึ้นและมีจำนวนมากขึ้น 10-20% ส่วนภาคอีสานให้ระวังในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และยังมีแนวโน้มมาทางอ่าวไทยซึ่งมาจากทิศตะวัน ตกมากขึ้น เพราะว่าเมื่อก่อนบ้านเราพายุไต้ฝุ่นเข้า ทางดานัง แหลมญวน หรือทางไต้หวัน จีนใต้ เมื่อมาถึงไทยก็อ่อนกำลังลง"

    ระวัง กทม. ซ้ำรอย "นิวออร์ลีนส์

    รศ.ดร.ธนวัฒน์ ย้ำและเตือนว่าจากพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงอาจมีผลทำให้เกิดน้ำท่วมใน ทุกภาคของไทย ช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. ปีนี้ โดยเฉพาะ กทม.ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสูง มีโอกาสเกิด น้ำท่วมใหญ่ 3 เมตร เหมือนปี 2485 และปี 2496 เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นที่หมุนเข้าอ่าวไทยโดยตรงบริเวณ ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบนซึ่งน่ากลัวมาก ประกอบกับน้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบกรุงเทพฯ จะเหมือนนิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะย่านรามคำแหง ซึ่งเป็นแหล่งกระทะเพราะพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 50 เซนติเมตร


    นอกจากนั้น การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ จะมีผลกระทบต่อพืชพรรณธัญญาหารที่มีผล ผลิตลดลง และยิ่งไปกว่านั้นจะก่อให้เกิดโรคภัย ไข้เจ็บตามมา โดยเฉพาะโรคอุบัติใหม่ เช่น โรคไข้หวัดนกที่อาจกลายเป็นไข้หวัดที่ติดต่อไปยังคน โรคซาร์ส และโรคอุบัติซ้ำ โรคในอดีตจะกลับมาอีก เช่น ฝีดาษ ไข้ทรพิษ

    "ผมไม่กลัวเรื่องภัยพิบัติจากน้ำ เพราะเราสามารถประกาศเตือนได้ในการอพยพคน แต่รัฐบาลต้องเน้นเรื่องการศึกษาวิจัยเรื่องภัยพิบัติให้มาก และสนใจทั้งการเตือนภัย การป้องกันโดยใช้หลักวิชาการ แต่โรคที่จะตามมาผมว่าน่ากลัวมากกว่า คิด ว่าคนจะตายเป็นเบือ หรือโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มาจากค้างคาวแม่ไก่ บริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา ที่มี พาหะนำโรค เมื่อมาติดคนทำให้ตายได้"

    ทั้งนี้เห็นว่า การติดตั้งสัญญาณเตือนภัยพิบัติทางน้ำ โดยใช้งบประมาณไม่มาก ในพื้นที่ 270 กว่าหมู่บ้าน ที่กรมทรัพยากรธรณีทำการสำรวจว่า เสี่ยงต่อแผ่นดินถล่มว่า โดยการตั้งเครื่องเตือนภัยวัดระดับน้ำในหมู่บ้านและเชื่อมระบบกับกรมอุตุนิยมวิทยาจะเป็นการดีกว่าติดตั้งหอเตือนภัยในพื้นที่ที่เกิดสึนามิ

    กรีนเฮาส์เอฟเฟกต์ กระทบทั่วโลก

    ขณะที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้คิดค้นระบบควบคุมการลงจอดบนดาวอังคารของยานอวกาศไวกิ้ง 2 ลำ เมื่อปี ค.ศ.1976 กล่าวว่า การที่เกิดภัยพิบัติขึ้นในประเทศไทยบ่อยๆ นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์เรือนกระจกอย่างแน่นอน เพราะจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ส่งผลกระทบต่อทั้งโลก และในหลายพื้นที่ไม่เฉพาะประเทศไทย อย่างฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ก็มีผลกระทบทั้งสึนามิ แผ่นดินถล่มต่างๆ

    ส่วนเรื่อง "ลานีญา" นั้น สมมติว่าฝั่งแปซิฟิก ฝั่งหนึ่งเกิดความแห้งแล้ง แต่อีกฝั่งที่อยู่ตรงกันข้ามจะมีน้ำมากผิดปกติ โลกเลยดึงเอาความร้อนไปข้าง และความเย็นมาอีกข้างทำให้เกิดความไม่สมดุล ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติเพราะไม่ค่อยเกิดขึ้น ซึ่งปกติทะเลก็ได้เปลี่ยนทิศมาหลายปีแล้ว จากที่เมื่อก่อนไทยเราเคยแห้งแล้งมาก แต่ทางฝั่งอเมริกาใต้จะมีพายุฝนตกหนักตลอด

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เหตุการณ์ "ลานีญา" หมุนมาที่ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางบ้านเราก็จะมีพายุ น้ำหลากกันตลอด ซึ่งตอนนี้เป็นที่น่ากังวลว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีกหรือไม่ เพราะถ้า ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเราก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว และสึนามิอีกครั้ง โดยที่เราไม่สามารถบอกได้เลยว่า "ลานีญา"จะมีการเคลื่อนตัวอย่างไร และอีกนานเท่าไรกว่าจะเคลื่อนตัวออกไป

    ดร.อาจอง ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ขั้วแม่เหล็ก โลกพลิกตัวว่า ไม่ได้เกิดขึ้นมาง่ายๆ และขณะนี้ก็ยังไม่ได้พลิกตัวอะไร จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงมากกว่า แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์น้ำทะเลสูงขึ้นมากๆ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ ซึ่งถ้าขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวจริงจะส่งผลร้ายคือ โลก จะดึงพลังงานจากดวงอาทิตย์สูงเพิ่มขึ้นในบางจุดของโลก และจะส่งผลร้ายต่อสิ่งมีชีวิตในพื้นที่นั้นๆ

    แย้ง "โลก...ไม่แตก"แต่อีก 12 ปีเปลี่ยน

    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นเมื่อปีที่แล้ว ดร. อาจอง เคยกล่าวว่า ในการสำรวจดาวอังคารหรือเตรียมจะอพยพคนออกไปจากโลก ไม่ได้หมาย ความว่าโลกกำลังจะแตกจริงอย่างที่ทำนายกัน เพียงแต่ว่าขณะนี้โลกของเราอาจกำลังจะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผลมาจากมนุษย์ด้วยกัน เพราะว่าเราทำลายป่าไม้ เผาผลาญพลังงานมากเกินไป ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จนเกิดภาวะเรือนกระจก ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น จนน้ำแข็งขั้วโลกเริ่มละลาย รวมทั้งทำให้เกิดพายุไต้ฝุ่น พายุเฮอร์ริเคน ซึ่งเกิดจากการทำลายสิ่งแวดล้อม

    "จากเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้น จากภาวะเรือนกระจก ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น วิกฤติอันนี้เกิดจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของโลก

    ถ้าระดับน้ำทะเลมันสูงขึ้น มันก็จะเกิดน้ำท่วมในหลายๆ จุด แล้วถ้าลองคิดว่า น้ำทะเลมันขึ้นแค่ 2 เมตร กรุงเทพฯของเราก็คงไม่มีแล้ว เพราะกรุงเทพฯเราอยู่เหนือน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร แล้ว ถ้าน้ำมันสูงระดับนั้นจริงๆ มันต้องท่วมเข้ามาในภาคกลางของประเทศไทย และบางประเทศก็อาจ ต้องสูญหายไป อย่างน้อยก็ประมาณเศษหนึ่งส่วน สามของหมู่เกาะแถบอันดามันก็อาจจะหายไปเลย

    ผมคาดว่าอีก 12 ปี โลกของเราจะเปลี่ยน แปลงไป ซึ่งแต่ละศาสนาก็เคยมีการทำนายเอาไว้แล้วว่าโลกของเราจะต้องเกิดวิกฤติ แต่การที่จะ ไปถึงจุดนั้นได้ มนุษย์เราคงต้องโดนกระตุ้นจาก ธรรมชาติเสียก่อน"

    เตือน กทม.รับมือน้ำท่วมใหญ่

    นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการคณะกรรมการภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า การคาดการณ์ของตนที่เชื่อว่าปีนี้กรุงเทพฯ และภาคกลาง อาจประสบปัญหาฝนตกและน้ำท่วมอย่างรุนแรง เนื่องจากภาวะโลกร้อนและสภาวะอากาศแบบลานีญา โดยเฉพาะในเดือน ต.ค. พ.ย. และ ธ.ค.เป็น ช่วงเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลางนั้น เป็นการมองจากข้อมูลและสถิติรวมทั้งประสบการณ์การทำงานของตนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

    โดยเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือนั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับสภาพอากาศเมืองไทย ซึ่งจากการวัดปริมาณน้ำฝน 2 วันนั้น สูงถึง 390 มิลลิเมตร ถือว่าเข้าขั้นภัยพิบัติแล้ว เพราะตามปกติถ้าปริมาณน้ำฝนสูงเกิน150 มิลลิเมตร ก็จะทำให้น้ำป่าไหลหลากแล้ว

    นอกจากนี้ ยังมองว่าในเมืองไทยจะเผชิญกับฝนต่อเนื่องไปอีกถึงปลายปี เนื่องจากได้รับอิทธิพล ของปรากฏการณ์ภาวะโลกร้อนและสภาวะอากาศแบบลานีญา ที่เคยเกิดขึ้นที่สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ทำ ให้เจอกับพายุเฮอร์ริเคนหลายลูกและบางเมืองจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนปีนี้ภาวะโลกร้อนส่งอิทธิพลมาประเทศ แถบเอเชีย เหนือเส้นศูนย์สูตรของประเทศไทยพอดี โดยปรากฏการณ์ลานีญาจะกินเวลาประมาณ 12-18 เดือน ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้จนกระทั่งส่งผลในเดือนนี้และจะมีผลไปถึงปลายปีอย่างแน่นอน


    "สำหรับภาวะอากาศแบบลานีญานั้นสังเกตได้จากน้ำในทะเลจะอุ่นและร้อนขึ้นจนระเหย กลายเป็นไออยู่ในอากาศ ทำให้เกิดการรวมตัวกับก้อนเมฆและทำให้ฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมทั้งเป็นตัวการให้เกิดพายุด้วย ปีนี้นอกจากน้ำท่วมแล้วเมืองไทย อาจจะต้องประสบกับพายุหลายลูกทีเดียว ประมาณช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. ซึ่งมีความเป็น ไปได้ว่า จะเข้าทางฝั่งอ่าวไทยทางประเทศเวียดนาม ลาว และมาถึงไทย อยู่ที่ว่าจะโดนเต็มๆ หรือแค่ห่างๆ เท่านั้น"

    ถอดรหัสคำทำนายไบเบิ้ลโค้ด

    หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัดภาคเหนือมีหลายคนมองว่าสอดคล้องกับคำทำนายของหมอดูและจากการถอดรหัสของ ไบเบิลโค้ดอย่างไม่น่าเชื่อ ช่วงนี้จึงมีการฟอร์เวิร์ดเมลคำทำนายของโหรโสรัจจะหมอดูชื่อดัง ซึ่งระบุว่า จะเกิดภัยพิบัติในเดือนสิงหาคม โดยจะเกิดดีเปรสชั่นผ่านตอนเหนือของประเทศ น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางเหนือและอีสานลงมาทางใต้ ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายยิ่งกว่าครั้งใด กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน

    ปลายเดือนจะมีเรือชนกันเสียหายที่อ่าวไทย เรือบรรทุก น้ำมันเสียหายที่สุด น้ำทะเลจะเต็มไปด้วยคราบ น้ำมัน ปลายเดือนสนามบินแห่งใหม่ซึ่งเป็นคำทำนายที่ปรากฏอยู่ในหนังสือศาสตร์แห่งโหร 2549 ส่วนในไบเบิลโค้ด ที่ถูกถอดรหัสอกมานั้นระบุว่า ประเทศไทยจะถูกทำลายล้างในวันที่ 28 สิงหาคม 2006 เช่นกัน ทำให้คนกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับเมล์มีความตื่นตระหนกกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับเมืองไทย และกรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง เหมือนเมื่อปีที่แล้ว...

    อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ตนเคยทำนายไว้ในตำรา ศาสตร์แห่งโหรเช่นกันว่า ประมาณวันที่ 24 พ.ค. จะเป็นช่วงที่เกิดภัยทางน้ำครั้งใหญ่ โดยเฉพาะ ทางภาคเหนือ เนื่องจากเป็นช่วงที่ดาวอังคารยกเข้ามาราศีกรกฎ ซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ และดาว เสาร์จรเข้าราศีกรกฎเช่นเดียวกัน ในทางโหราถือว่ากรกฎหมายถึงทิศเหนือ ส่วนราหูอยู่ในราศีมีน ก็เป็นราศีธาตุน้ำเช่นกัน เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมในภาคเหนือหลายคนก็โทร.มาบอกว่าไม่ น่าเชื่อ ซึ่งอิทธิพลของดาวบาปเคราะห์ที่มีความ สัมพันธ์กันนั้นอาจจะส่งผลนานกว่าหนึ่งเดือน หลังจากนี้ยังต้องระวังจะเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และอุบัติภัยรุนแรง โดยเฉพะในดือน มิ.ย.นี้ ซึ่ง มีช่วงที่อังคารจะโคจรมาทันดาวเสาร์ในราศีกรกฎ

    หมอดู เตือนเกิด"สึนามิบก"

    ด้าน นายกิจจา ทวีกุลกิจ หรือ "หมอนิด" หมอดูซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายก รัฐมนตรี ดวงตกอย่างหนัก

    "ดวงของผู้นำส่งผลให้เหตุการณ์บ้านเมือง เป็นแบบนี้ น้ำท่วมโดยไม่คาดคิดก็เหมือนกัน ต่อไปเมืองไทยยังต้องเจอเหตุการณ์อีกเป็นระลอก ไม่ใช่เฉพาะแค่เหตุการณ์ภาคใต้เดือด ภาคเหนือน้ำท่วม เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เท่านั้น น้ำท่วมปีนี้ไม่รุนแรง ไม่ยืดเยื้อ แต่ถ้าจะดูน่ากลัวละก็ ผมว่าปีหน้าน่ากลัวมากกว่าอีก ต้อง ระวังทั้งเรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ ทุกอย่างต้องระวัง ธุรกิจก็จะซบเซายิ่งกว่านี้ เรียกว่าเกิดสึนามิบกเลยทีเดียว แล้วคราวนี้ชาวบ้านรับไปเต็มๆ

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะดวงผู้นำไม่ดีจึงทำประเทศชาติมีปัญหา ก็เหมือนกับคนเป็นพ่อบ้าน ถ้าพ่อบ้านมีปัญหาลูกๆ ในบ้านก็เดือดร้อนไปด้วย ลองย้อนกลับดูสิว่าตอนช่วงเทอมแรกที่นายกฯทักษิณ อยู่ในตำแหน่ง ช่วงนั้นดวงดี บ้านเมืองก็สงบเรียบร้อยดี แต่หลังๆ มานี่ดวงเขาไม่ดี บ้านเมืองก็วุ่นวายไปหมด"


    ไขความลับใน "ไบเบิ้ลโค้ด"

    นายไทยรักษ์ ตั้งประกาศิต นักธุรกิจไทยที่ศึกษาเรื่อง "ไบเบิ้ลโค้ด" (Bible Code) เคยระบุ ถึงคำพยากรณ์ที่ซ่อนอยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลว่า คำทำนายที่ปรากฏนั้นสามารถบอกถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของทุกประเทศทั่วโลกที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกับที่พระคัมภีร์บอกไว้หลายเรื่อง อาทิ เรื่อง เจ้าหญิงไดอาน่า มหาตมะ คานธี ประธานาธิบดี ลินคอล์น ฯลฯ

    สำหรับประเทศไทยนั้น นายไทยรักษ์ กล่าวว่า จากที่ได้ศึกษาพบว่าเหตุการณ์สำคัญในเมืองไทยทั้งในอดีตและอนาคตก็ถูกซุกซ่อนอยู่ในไบเบิ้ลโค้ดเช่นกัน อาทิ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ชื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

    ส่วนเรื่องที่มีการทำนายว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ในอนาคตและประเทศไทยจะจมทั้งหมดนั้น นายไทยรักษ์บอกว่า "ผมเปิดรหัสท่วมแน่ 90% ใน ค.ศ.2005 (2548) ท่วมหนักเลย และสาเหตุไม่ใช่มาจากประเทศไทย แต่เป็นผลจากที่อื่นมากระทบเมืองไทย และเพชรบูรณ์จะเป็นเมืองใหม่ของกรุงเทพฯ"

    คำทำนายโลกาพิบัติจากเกจิดัง

    ทางเว็บไซต์พลังจิตดอทคอม มีการโพสต์เรื่องการทำนายเกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นคำบอกเล่าจากพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อปี พ.ศ. 2545 ได้เล่าให้หมู่ผู้ปฏิบัติธรรมฟังว่า ในปีพ.ศ.2548-2550 จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้น ซึ่งจะมีทั้งแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ น้ำท่วมจากคลื่นในทะเลมีการระบาดของโรคร้ายชนิดแปลกๆ มี สงครามที่รุนแรงแต่ไม่ใช่สงครามโลก ปลายปี 2547 อาจจะได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างเป็นการชิมลาง ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลยกับสิ่งที่จะเกิดในปี 2549 และ 2550

    หลังปี 2550 ผู้คนบนโลกจะมีเหลือรอดไม่ถึง 1 ใน 3 แต่คนไทยจะโชคดีหน่อยที่มีชีวิตเหลือรอดมาได้ประมาณครึ่งหนึ่ง โดยที่ภาค ใต้ทั้งภาคจะหายไปจากแผนที่ ส่วนทางภาคกลาง ภาคตะวันออกบางส่วนก็จะจมทะเลอันเนื่องมาจากน้ำแข็งขั้วโลกทั้งสองละลายหมด น้ำทะเลจะ สูงขึ้น 10 เมตร โดยที่ในปี 2550 ระบบเงินตราทั่วโลกพังทลายหมด เงินหนึ่งดอลลาร์มีค่าไม่ถึงบาท การซื้อขายสินค้าก็จะใช้เป็นแบบของ แลกของ หรือใช้ทองคำแทนเงินในการซื้อขาย จากนั้นเหตุการณ์ก็จะค่อยๆ สงบลง แล้วผู้คนที่เหลือรอดก็จะมาเริ่มต้นกันใหม่

    ประมาณปี 2552 เป็นต้นไปจะมีการเรียน การสอนวิชาสามและวิชาหก โดยฆราวาส 4 ท่านที่มีบารมีและพลังจิตสูงมากซึ่งจะมีการเรียน การสอนกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอนการใช้โทรจิตติดต่อกันโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์บ้าน หลังจากนั้นจะมีการปรากฏตัวขององค์พระศรีอาริยเมตไตย การเรียนการสอนวิชาต่างๆ เหล่านี้ จะทำได้ที่เดียวในโลกคือประเทศไทย เพราะเป็นเรื่องฟ้าลิขิต

    สุดท้ายเมืองไทยจะได้รับการแต่งตั้งจากทั่วโลกให้เป็นศูนย์กลางสมาพันธ์โลกและศูนย์กลาง อารยธรรมใหม่ของโลก ภาษาไทยได้กลายเป็นภาษาสากลที่ใช้กันทั่วโลกทั้งหมดที่กล่าวจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2560 นี้

    ที่มา หนังสือพิมพ์BangkokToday
    http://www.dmr.go.th/board/data/1069.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2006
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ประวัติเมืองเพชรบูรณ์ในอดีต (เมืองศรีเทพ)

    ชื่อเมืองศรีเทพปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในเอกสารนิทานโบราณคดีโดยมีข้อมูล ว่าสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจ ราชการมณฑลเพชรบูรณ์เมื่อ พ.ศ.2447 ทรงตั้งพระทัยสืบหาโดยที่เคยพบชื่อเมืองศรีเทพในทำเนียบเก่าบอกรายชื่อหัวเมือง และในสมุดดำเล่ม หนึ่งว่ามีเส้นทางหนึ่งไปยังสระบุรีเมืองชัยบาดาล เมืองศรีเทพ และเมืองเพชรบูรณ์ ทรงตั้งสมมุติฐานว่า เมืองศรีเทพคงอยู่ ในลุ่มแม่น้ำป่าสัก ระหว่าง เมืองชัยบาดาลกับเมืองเพชรบูรณ์และ พบว่าในป่าแดงใกล้เมืองวิเชียรบุรี มีเมืองโบราณ ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งชื่อเมืองี่ อภัยสาลีซึ่งเป็นชื่อที่พระธุดงค์ และชาวบ้านเรียกขานกันตาม ตำนานนิทานพื้นบ้านเมื่อเสด็จมาสำรวจ เมืองอภัยสาลีได้พบโบราณวัตถี่ ุโบราณสถานต่าง ๆ มากมายได้สันนิษฐานว่า เมืองโบราณแห่งนี้คงจะเป็นเมืองเดียวกับ เมืองศรีเทพี่ ที่ปรากฏชื่อ อยู่ในเอกสาร นับได้ว่า สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเรียกชื่อเมืองแห่งนี้ว่า เมืองศรีเทพเป็นพระองค์แรก และมีการเรียกขานชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน เมืองศรีเทพ สร้างขึ้นในสมัยยุคขอมเรืองอำนาจ ซึ่งคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี โดยดูจากหลักฐาน ทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และวัฒนธรรมที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว และมีความเจริญสูงสุดทางด้านสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม ซึ่งสันนิษฐานว่า จะอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 11 ถึง 18 เป็นดินแดนแห่งตำนานที่เคยเป็นมหานคร ที่เจริญรุ่งเรือง มาก่อนเช่นเดียวกับเมืองที่ ดงศรีมหาโพธิ์ ในจังหวัดปราจีนบุรีมีอายุมากกว่า 1,000 ปี มีเนื้อที่ 2,889 ไร่ คาดว่าจะมีคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อาศัยอยู่ก่อนแล้ว มีการพัฒนาต่อเนื่องขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งจะเป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้น และ กลายเป็นเมืองศรีเทพ ที่มีการรับทั้งศาสนาพุทธและฮินดูเข้ามาในช่วงต่างๆ

    [​IMG]

    เมืองส่วนในมีลักษณะเป็นรูปเกือบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออก 8 ช่องทาง พื้นที่ภายใน เป็นที่ราบลอนลูกคลื่น มีสระน้ำและหนองน้ำกระจายอยู่ทั่วไป และมีโบราณสถาน ที่ขุดแต่งแล้ว และยังไม่ได้ขุด แต่งจำนวนมาก เมืองชั้นนอกลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ต่อกับเมืองส่วน ในมีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่า ของเมืองส่วน ในมีช่องทางเข้าออก 7 ช่องทาง มีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไป และยังมีโบราณสถาน กระจัดกระจาย อยู่แบบเดียวกับเมือง ดร.ควอวิทช์-เวลส์ ได้ศึกษาและสรุปว่าเมืองศรีเทพ เป็นเมืองที่ ชาวอินเดีย อยู่ใต้อิทธิพลของอาณาจักรฟูนัน เพราะพบ โบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น เศียรพระนารายณ์สวมหมวก ทรงกระบอกแบบอินเดีย ใต้พระพุทธรูปแบบทวารวดี จารึกคาถา เย ธมมาฯ เป็นภาษาบาลีกำหนดอาย ุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 11 – 12 สันนิษฐานว่า พระเจ้าชัยวรมัน อาจขยายอาณาเขต ของเจนละ มาครอบครองเมืองศรีเทพ เมืองศรีเทพอยู่ภาย ใต้พื้นฐาน ของวัฒนธรรมทวารวดี ควบคู่กับวัฒนธรรมแบบฮินดู จากคาบสมุทรภาคใต้ หลังจากนั้นอารยธรรมเขมร ได้เข้าสู่เมืองศรีเทพ ในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นอย่างช้า ครั้นถึงช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 ก็มีชุมชนแบบอารยธรรมเขมร อย่างหนาแน่น ไม่เฉพาะในเขต รอบเมืองโบราณศรีเทพเท่านั้น แต่มีอาณาเขตกว้างขวาง ไปถึงที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมืองศรีเทพเจริญต่อมาถึงปลาย พุทธศตวรรษ

    เท่าที่ผมทราบเมืองนี้หายสาบสูญไปจากเหตุการณ์เหตุอาเภท แผ่นดินดินถล่มจมหายไปทั้งเมืองต้องขุดลงไปใต้ดินจึงพบซากเมืองเก่า...

    เมืองนี้อาจเป็นเมืองหลวงใหม่ของไทย (ตามข้อมูลที่ระบุใน Bible Code)
    พอดีว่า โครงการใหญ่ที่กำลังจะสร้าง(เมืองพีรามิด) เบี้องบนระบุให้สร้างที่เพชรบูรณ์ด้วยซิครับ (ใกล้ๆศรีเทพ) ถ้าสร้างสำเร็จได้จริงๆ ผมว่าภัยใหญ่มีสิทธิ์เกิดแน่งานนี้..
    .
    ใครมีข้อมูลที่ระบุถึงเพชรบูรณ์อีกไหมครับ..
    เท่าที่รู้ เมื่อถึงเวลานั้นน้ำทะเลจะมาถึงแถบๆนี้ทีเดียวครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2006

แชร์หน้านี้

Loading...