นี่ ๆ เหล่านักปฏิบัติ จ๋าาา ช่วยวิสัชนา ตอบ นู๋บี ทีซิ ว่า ขรัวตาจะตีไหมค้าาาาาาาา ?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย 5th-Lotus, 20 ตุลาคม 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถึงแรงจะน้อย ค่อยๆ กาดึ๊บ กาดึ๊บ ข้อยก็ไปของข้อยได้ ง่ะ...
    บ่อเป็นหยัง เดินไม่หยุด ก็ดีไปอีกแบบ ยิ่งเดิน ยิ่งเบา ยิ่งเกลา ยิ่งบาง
    มีห่วงยางอยู่อันเดว ก็ออกทะเลแล้ว ถอนความกลัวออก สักโก เดินหน้า ปาย...

    จากสมาชิก โคตรดื้อเงียบ...

    เมื่อวันก่อน มีตรวจสุขภาพประจำปี ต้องไปเจาะเลือด ง่ะ แล้วนึกไงไม่รู้ อยากดูตอนเข็ม
    เจาะเนื้อ ปกติจะ หลับตาปี๋ แล้วก็ดูใจไป ดูว่ามันจะหวาดเสียว จะกลัวมั่งไหม มันก็แปลกดี
    ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่ได้เจ็บมากมาย ดูจนจบได้ด้วยนะ ใจไม่เต้นแรง แล้วก็ดูเหมือน
    จะเลิกกลัวเข็มฉีดยา แต่รู้สึกว่าจะเลิกกลัวตอนมีสตินะ ถ้าขาดสตินี่ไม่รู้จะกลัวไหม ต้องดู
    กันต่อไป แต่รู้อย่างหนึ่ง ยังตกใจกลัวกับเรื่องไม่คาดฝันอยู่ เห็นตัวเองยังตกใจอยู่เลย
    ยิ่งตอนตกใจต่อหน้าอาเฮียที่บ้านเนี่ย รู้สึกเสียฟอร์มนักปฏิบัติยังไงไม่รู้ แบบว่าโดน
    ว่า ง่ะ...ว่าเธอช่างไม่ได้เรื่องเรย...เวลามีเรื่องอาเฮียบอกห้ามตกใจ... เราก็คิดในใจ
    มันทำไม่ด้าย...มันเป็นของมันเอง... แปลว่ายังต้องฝึกต่อไป ใจมันอ่อนไหวหน่อมแน้มเกิน
     
  2. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    [​IMG]อดทนต่อคำเจ็บใจ.......หยดติ๋ง ๆ หรือจะกลิ้งต่อไปดีเรา
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เรื่องของใจ มันแปล๊กแปลก ใจหญิง ใจชาย จะเหมือนกันไหมหนอ
    เรางี้ ขี้ตกใจ สะดุ้ง เนืองๆ แต่เราไม่บ้าระห่ำ มีแต่ บ้าเงียบๆ ดื้อตาใส ดื้อเงียบๆ
    เราก็สงสัย ทำไมบางคนใจมันหนักแน่นจัง ไม่มีตกใจ แน่นปึ๊ก ไม่วอกแวก
    แบบว่าคงมีธรรมชาติต่างๆกัน สะสมเป็นนิสัยต่างๆกัน จริตมันก็เลยต่างๆกันไป มั้ง
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าแยกออกมาดูจิตที่มันเจ็บใจได้ มันก็ไม่เจ็บมากมายนะ
    เพราะ เราไม่ได้เจ็บ ง่ะ เราดูคนมันเจ็บ ก็คนมันขาดสติ มันก็เจ็บ
    ถ้าเราเห็นคนที่เจ็บใจได้ เราก็ลืมเจ็บไปได้เหมือนกัน
    เหมือนกันไหม...อ่า นานา ลองเล่าให้ฟังทีดิ เวลาเจ็บใจ หยดติ๋งๆ มันเป็นไง

    แต่เวทนา แยกไม่ออก ยังไงก็เจ็บ เจ๊บ เจ็บ ต้องเปลี่ยนท่า เปลี่ยนที่
    ทนเป็นผู้รู้ไม่ได้เรย
     
  5. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    หยดติ๋ง ๆ คือ โทษะครอบงำ และ ชุ่มไปด้วยไฟร้อน แต่เราจะมีเวทนามาก ๆ ซาดิสดีไหม
    หรือจะกลิ้ง ๆ ไป คือไม่โกธร ไม่อะไีร..คือไม่เอาอะไรเลยค่ะ พี่ขวัญ
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าจะกลิ้งไปด้วย ดูใจที่ชุ่มไปด้วยไฟร้อน จะไหวไหม
    แต่มันก็พูดยากนะ เพราะโทษะของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
    อย่างพี่ขวัญ อาจจะเป็นแค่ไม้ขีดไฟลน แต่ของนานา อาจเทียนไขลน
    ระดับความร้อนและเวทนามันก็เลยไม่เท่ากัน มันก็ทนได้ต่างกัน
    ถ้าไม่ไหว ก็กลิ้งเลยไปก่อน ไม่โกรธ ไม่เอาอะไร แต่ให้รู้ว่ามีโกรธ
    มีโทษะ มีเวทนามันเกิด จากมิจฉาทิฏฐิ จากจิตที่ขาดสติ ก็ยังได้อยู่นะ
    มันคงจะมีพัฒนาการขึ้นบ้าง

    อย่างพี่ขวัญยอมรับ ว่าเรื่องเวทนากาย ที่เจ็บมากๆ พี่ขวัญก็ทนไหวเหมือนกัน
    ดูไม่ไหว มันจะรวมอย่างเดียว แยกไม่ออก แต่เรื่องโทษะ เนี่ยพอไหว เพราะมัน
    ไม่ได้เยอะ เหมือนมันมีกำลังอ่อนก็พอแยกไหว ดูได้ไม่มีเวทนาทางใจมากมาย
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    โทษะ ถ้าเรามีสติเห็นมันได้ทันเนืองๆ มันจะลดระดับลงได้นะ ถ้าจิตมันรู้สึกตัว
    มันปรับของมันเอง เราก็ดูใจเราให้รู้ทันว่าไม่ชอบใจอาการที่เป็น พระท่านว่าพอเรา
    รู้ตัวว่าไม่ชอบใจ มันเข้าทางเป็นกลางได้เอง แบบอัตโนมัติ แล้วใจเป็นกลางวันไหน
    เราจะรู้เอง เมื่อเรารู้ว่าเราเป็นกลาง ไม่มีอาการไม่ชอบใจ เมื่อโทษะมันเกิด เราก็จะเข้าใจเอง
     
  8. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ก็แลกเปลี่ยนเนอะ หายใจเข้าทุกข์ หายใจออกหาย มันก็เป็นแบบนี้เนอะ
    สักพักคงดีขึ้น ไม่ใช่รอเวลาทำอะไรหรอกนะ พี่ขวัญ
    โทษะ เห็นชัดดีนะ แต่โมหะนี้ ดูไม่ค่อยทันไม่เห็นเท่าไร
    สมถะก็ทำนะ แต่ตอนนี้ก็เหนื่อย กับอารมณ์ซาดิสของตัวเอง ชอบพาตัวเอง
    มีเวทนาอยู่เรื่อยเลย ...........หรือจะไม่เอาอะไรเลย ดีล่ะ เซ็งอ่ะ
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชอบพาตัวเอง มีเวทนาอยู่เรื่อยเลย ...........หรือจะไม่เอาอะไรเลย ดีล่ะ เซ็งอ่ะ

    ดูท่าคุณผู้จัดการส่วนตัวจะใจร้อน นะเนี่ย ชอบพาออกสนามเวทนาเก็บเลเวลไง
    เราไม่เอาอะไรเลย ก็น่าจะถูกนะ ดูเขาพาภาวนาดูทุกขเวทนา ถ้าเรามีสติเราก็ไม่เอา
    ทุกข์มาใส่ใจ ถ้าเผลอมันก็ทุกข์ไปกับเขา เราก็ภาวนาสู้ๆเขาไป พอเราออกสนามกับ
    ท่านผู้จัดการส่วนตัวบ่อยๆ เราก็จะเก่งขึ้นเองอัตโนมัติตาม ชม.บิน ง่ะ แต่มันต้อง
    อดทนหน่อยช่วงที่ยังทำใจไม่ได้ใจเรามันฟูมันแฟบมันเหี่ยวมันเซ็ง มันเป็นกลุ่มนิวรณ์
    ที่เราต้องผ่านด่านไป ถ้าใจเราชอบสงบเราก็จะเกิดอาการไม่ชอบใจตัวเอง ว่ามันจะอะไร
    กะเรานักหนา แบบว่าฉันอยากสงบแต่เธออยากเจริญปัญญา มันขัดใจกันอยู่มั้ง

    เดาๆ เอานะ ใกล้เคียงไหม พี่ขวัญก็ฟูๆแฟบๆเหี่ยวๆ จนเฉยๆกับมันแระ เลิกบ้าตาม
    มันได้เป็นพักๆ ก็เริ่มสนุกขึ้นมามั่งนะ เห็นชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “คนดี มีแต่รอวันเสื่อม”

    เพราะมีแต่ดี ไม่มีสติขาดปัญญา ก็รักษาความดีไว้ไม่ได้ มันก็มีแต่จะรอวันเสื่อม
    วันนี้เป็นคนดี ก็มีความสุขมีความสงบมีความสบาย คนมีสติปัญญาก็จะรักษา
    ความดีไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ นั่นคือสาเหตุที่เราควรเจริญปัญญา (ทางธรรม)

    คนมีปัญญา ย่อมเจริญในการรักษาความดีให้ยั่งยืน

    คนมีสติรักษาจิต เป็นเหตุให้ปัญญาเจริญ

    คนดี ที่ไม่มีเสื่อม ก็มี คือคนดีที่มีปัญญาทางธรรม
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จีนทุบสถิติคิวเติมก๊าซฯยาวสุดในโลก กลุ่มมณฑลภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศจีน
    กำลังขาดแคลนก๊าซอย่างหนัก สืบเนื่องจากวิกฤตพายุหิมะที่โหมกระหน่ำภาคเหนือของจีน

    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพคิวรถยนต์ที่รอเติมก๊าซยาวเหยียดในนครฉงชิ่งเมื่อวันที่ 18 พ.ย.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพคิวรถยนต์ที่รอเติมก๊าซยาวเหยียดในนครฉงชิ่งเมื่อวันที่ 18 พ.ย.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รอจนหลับ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>หนาว...ว...ว...</TD></TR></TBODY></TABLE>

    China - Manager Online
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พาพุทธศาสนา-วิทยาศาสตร์ขัดกัน เพราะไม่ได้มุ่งหวังปัญญา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 พฤศจิกายน 2552 13:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ทุกวันนี้ชาวพุทธน้อมนำพระพุทธศาสนามาสร้างปัญญา หรือเพียงยึดถือเป็นเครื่องสักการะเพื่อโชคลาภ?</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เช่นเดียวกันเรามองวิทยาศาสตร์ด้วยปัญญาหรือมองอย่างงมงาย ไม่ว่าวิทยาศาสตร์จะไปทางไหนเราก็ไปตามนั้น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ท่าน ว.วชิรเมธี ตอบปัญญาธรรมแก่ญาติโยม หลังจบการเสวนา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เวทีเสวนาพุทธศาสนา วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งปัญญา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>"พระธรรมโกศาจารย์" ชี้พุทธศาสนา-วิทยาศาสตร์ขัดกันเพราะไม่ได้มุ่งหวังปัญญา พาสู่ความงมงาย ส่วนหนังสือที่พยายามเชื่อมโยงพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ โดยดึงไอนสไตน์มาช่วยทำให้ “ขายดี” ทั้งที่ข้อมูลผิดพลาด "ท่าน ว.วชิรเมธี" ชี้เหตุคนไทยอ่อนทั้งพุทธและวิทย์ ระบุศาสนาและวิทยาศาสตร์มาจากพิมพ์เดียวกัน ต่างต้องช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งปัญญา แก้ปัญหาดับทุกข์

    ประชุมเสวนา “พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแห่งปัญญา” ขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย.52 ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยความร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สวทน.) และหน่วยงานอีก 10 หน่วยงาน ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้เข้าร่วมด้วย

    พระธรรมโกศาจารย์กล่าวว่า ความสนใจในการเชื่อมโยงพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์นั้น เป็นปลายคลื่นที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อกว่า 20 ปี ก่อนที่มีนักควอนตัมได้เข้าไปศึกษาพุทธศาสนาและพบปรากฏการณ์ที่สอดคล้องกับหลักการทางควอนตัม ส่วนเมืองไทยเพิ่งมาพูดกันไม่นานนี้

    ทั้งนี้พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ ต่างก็มุ่งแสวงหาความจริง เสมือนหาตาน้ำซึ่งหากขุดจนพบที่สุดก็จะบรรจบกัน แต่ที่ขัดกันเพราะเราไม่ได้มุ่งหวัง “ปัญญา” ซึ่งเราอาจงมงายในวิทยาศาสตร์ได้ หากเราไม่แสวงหาปัญญา เมื่อวิทยาศาสตร์ว่าอย่างไรก็ว่าตาม

    ด้านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่าวิทยาศาสตร์และพุทธศาสนานั้นแทบจะมีพิมพ์เดียวกัน เริ่มจากเจ้าชายสิทธัตถะได้สังเกตเห็นปรากฏารณ์ธรรมชาติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วเกิดคำถามว่าทำไม เช่นเดียวกับไอแซค นิวตัน เห็นลูกแอปเปิลหล่น (ไม่ต้องสนใจว่าแอปเปิลหล่นใส่หัวจริงหรือไม่) แล้วตั้งคำถามว่าทำไมไม่ลอยสู่ท้องฟ้า แต่หล่นสู่พื้นดินเสมอไป

    “พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ ต่างใช้ท่าทีทางปัญญาเหล่านี้ต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว ทำให้เห็นความจริงของธรรมชาติ พระพุทธเจ้าค้นพบความจริงแล้วนำมาดับทุกข์ ส่วนวิทยาศาสตร์ก็ค้นพบความจริงแล้วมาประยุกต์เป็นเทคโนโลยีเพื่อดับทุกข์ แต่บางกรณีดับหมด บางกรณีทำให้เกิดทุกข์ใหม่” ท่าน ว.วชิรเมธีกล่าว

    ท่าน ว.วชิรเมธีกล่าวว่า ทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ต่างเริ่มต้นด้วยท่าทีของปัญญา ศรัทธาในธรรมชาติและมุ่งมั่นดับทุกข์ แต่ต่างกันที่พุทธศาสนาจะคำนึงถึงคุณค่าทางจริยธรรมเสมอ แล้ววิทยาศาสตร์คำนึงถึงเรื่องนี้หรือไม่ ขณะที่ปัญญาของวิทยาศาสตร์ติดอยู่ที่โลกียะ แต่ปัญญาในทางพุทธศาสนา เลยปัญญาจากห้องปฏิบัติการ และเป็นปัญญาที่ไม่เคยทำร้ายใคร

    อย่างไรก็ดี สำหรับหนังสือที่พยายามอธิบายพระพุทธศาสนาด้วยวิทยาศาสตร์ และเป็นหนังสือขายดี แต่พบว่าเต็มไปด้วยการอ้างอิงที่ผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ ทำไมจึงขายดี นั่นก็แสดงว่าชาวพุทธไทยนั้นอ่อนทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ หรือบางทีอาจไม่มั่นใจในพุทธศาสนาด้วยหรือไม่ จึงต้องนำไอน์สไตน์มาร่วมด้วยเพื่อให้ดูยิ่งใหญ่

    “ถ้าชาวพุทธพูดถึงพุทธศาสนาในท่าทีที่ต่ำต้อย จนต้องหยิบวิทยาศาสตร์มาร่วมด้วย แสดงว่าเราไม่เชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา” ท่าน ว.วชิรเมธีกล่าว แล้วบอกว่า การที่หนังสือดังกล่าวขายดีนั้นจะเป็นการสั่งสมความรู้ที่ผิดๆ ให้สังคมไทย ซึ่งผู้ที่จะอธิบายพุทธศาสนาด้วยวิทยาศาสตร์นั้นต้องเป็น “กูรู” ในทั้งสองด้าน แต่ทางที่ดีต่างฝ่ายควรหันกลับไปศึกษาในศาสตร์ของตนเองให้ลึกซึ้ง

    พร้อมกันนี้ ท่าน ว.วชิรเมธี ได้สรุปว่า ทั้งวิทยาศาสตร์และพุทธศาสนานั้นต้องสร้างวัฒนธรรมแห่งปัญญา 4 อย่าง คือ 1.ปัญญาที่เป็นสากล ปัญญาสำหรับวิทยาศาสตร์มีข้อจำกัดที่ค้นพบความจริงได้เพียงชั่วขณะนั้น ทำอย่างไรจะเข้าถึงปัญญาสุดท้ายร่วมกัน 2.ปัญญาที่เราต้องการคือปัญญาที่ทำให้เราเข้าถึงการเป็นมุษย์ที่เป็นจริงเป็นสากล

    “เวลานี้โลกมีปัญหามาก เพราะมนุษย์ตะวันตกก็เหยียดมนุษย์เอเชีย มนุษย์เอเชียก็เหยียดมนุษย์ในประเทศที่ด้อยกว่า ทำอย่างไรจึงจะสร้างปัญญา ทะลุกรอบคิดทั้งหมดแล้วมองว่าคนทั้งโลกเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเรา ไม่แบ่งมนุษย์ผิวเหลือง ผิวขาว ผิวดำ ก้าวข้ามสมมติไปเป็นเห็นมนุษย์เป็นมนุษย์ทั้งหมด” ท่าน ว.วชิรเมธีกล่าว

    3.ปัญญาที่สร้างความรักสากล ที่เห็นว่ามนุษย์ทั้งหลายอยู่ในกฎธรรมชาติเดียวกัน สถานะเดียวกัน มีเกิด แก่ เจ็บตาย และ 4.พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ต้องช่วยกันทำให้มนุษย์สร้างสรรค์สันติภาพสากล เพราะสันติภาพในทุกวันนี้เป็นเพียงสันติภาพที่มีแค่ชั่วคราว เพื่อรอสงครามที่จะเกิดขึ้นใหม่ หลังสิ้นสุดสุดสงครามโลกก็เกิดสงครามเย็น หลังจบสงครามเย็นก็เกิดสงครามเศรษฐกิจ ดังนั้นทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงสันติภาพสากล

    สำหรับการประชุมเสวนานี้ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธ.ค. 52 โดยอีก 10 หน่วยงานที่ร่วมจัดงานได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สถาบันวิมุตตยาลัย มูลนิธิภูมิพโลภิกขุ กรุงเทพมหานคร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ ชมรมครูฟิสิกส์แห่งประเทศไทย ชมรมคนการเงินรุ่นใหม่แห่งประเทศไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>Science - Manager Online</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ปล.
    ความคิดเห็นที่ 18
    ประเทศไทยมีอยู่ ๓ ศาสนาคือ
    ๑.ศาสนา "พูด"
    ๒.ศาสนา "คิด"
    ๓.ขาดศาสนา "ทำ"
    พุทธ คริสต์ ธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  13. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    [​IMG]
    ไม่รู้เหมือนกันภาพนี้เป็นภาพที่ขัดแย้งที่สวยงามและสงบ แค่มองภาพไม่ต้องบรรยายอะไรนะสิ่งต่าง ๆ มันผลุดให้เราเข้าใจได้ดีพอสมควร ...งานของใจมันเริ่มต้นด้วยความสับสนเสมอ
    จุดจบก็ยังคงไม่รู้ ...หรือว่ารู้ ก็ไม่แน่เหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  14. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    [​IMG]หากเปรียบกี้ตาร์นี้หมายถึงจิตรู้ว่าเป็นเครื่องคนตรี(ประเภทสากลซะด้วย) หากการเล่นเป็นเจตสิก ปรุงแต่งอารมณ์
    หากเราไม่ไปเล่นกีตาร์คงไม่มีเสียงเกิดขึ้น รู้เพียงแต่ว่าเป็นเครื่องคนตรีเท่านั้้น
    เราก็คงไม่ไหล ไม่หลง ไม่เคลิ้ม ละมั้ง
     
  15. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ปัญญา เหมือนกับแสงสว่าง

    ฝุ่นในอากาศเหมือนกิเลส

    ไม่มีฝุ่นในอากาศก็ไม่อาจเห็นแสงได้

    ไม่มีแสงก็ไม่อาจเห็นฝุ่นได้

    ไม่มีกิเลสก็ไม่เกิดปัญญาได้

    ไม่มีปัญญาก็ไม่สามารถเห็นกิเลสได้

    ผู้รู้แล้ว ย่อมรู้อยู่เห็นอยู่ ย่อมรู้ทางที่ควรเจริญ
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>‘บันทึกจากแม่’ แด่ทุกความทรงจำถึงลูกน้อย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤศจิกายน 2552 10:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คาเรนไม่อยากหลงลืมทุกเสี้ยวนาทีในชีวิตของลูกชาย เธอจึงเริ่มจด ‘ไดอารี่จากแม่’ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เดลิเมล์ – คาเรน วิลคินสัน-วิกแฮม สูญเสียความทรงจำระยะสั้น เธอลืมสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากผ่านไปเพียง 2-3 วัน

    ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถจดจำทุกเสี้ยวนาทีอันมีค่าในชีวิตของจอร์จ ลูกชายน้อยๆ ที่เพิ่งลืมตาดูโลก คาเรน จึงเริ่มจดบันทึกประจำวัน

    “ฉันมีความจำสั้นมาก และคงไม่สามารถจดจำช่วงเวลาที่จอร์จเติบโตขึ้นมาได้ ฉันจึงตัดสินใจเขียนไดอารี่

    “ไดอารี่สำคัญกับฉันมาก เพราะเมื่อจอร์จโตขึ้นและถามถึงช่วงวัยเด็กของเขา เขาจะได้รู้ทุกอย่างจากบันทึกที่ฉันเขียนขึ้นสำหรับเขา”

    ปี 2005 อดีตเชฟวัย 37 ปี ถูกตรวจพบว่าเป็นวัณโรคเยื่อหุ้มสมอง

    อาการเริ่มปรากฏในวันคริสต์มาส เมื่อคาเรนรู้สึกไม่สบายและปวดไมเกรนรุนแรง ไม่กี่วันต่อมาเธอมีอาการเข้าขั้นโคมา และนอนไม่ได้สติอยู่ในโรงพยาบาล

    แพทย์บอกกับครอบครัวของคาเรนว่าถึงจะฟื้นแต่เธอจะมีสภาพไม่ต่างอะไรจากผัก

    แต่คาเรนทำให้แพทย์งงไปตามๆ กัน เมื่อฟื้นขึ้นมาโดยมีอาการเพียงแค่สูญเสียความทรงจำระยะสั้นเท่านั้น

    เธอต้องทำกายภาพบำบัดอีกหลายเดือนเพื่อให้สามารถเดินได้ใหม่ เช่นเดียวกับที่ต้องทำความรู้จักและปลูกต้นรักกับไบรอัน ที่หมั้นหมายกันอยู่แล้วก่อนป่วย

    “พวกเราโล่งอกมากเมื่อเธอฟื้นขึ้นมา เธอจำฉันได้ และยังทักทายพ่อ แต่พอไบรอันเข้ามา เธอกลับถามว่า ‘ผู้ชายคนนี้ใครกัน?’

    “แน่นอน ไบรอันเสียใจมาก แต่เราดีใจขึ้นมาหน่อยที่เธอพูดต่อว่า ‘ไม่ว่าจะเป็นใคร แต่ดูท่าทางเขาจะเป็นคนดีนะ’” เมอรีล แม่ของคาเรนที่เรียกบันทึกของลูกสาวว่า ‘ไดอารี่จากแม่’ เล่า

    คาเรนและไบรอันต้องเริ่มต้นดูใจกันใหม่ และทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2006

    “ฉันต้องเรียนรู้ที่จะรักเขาอีกครั้ง” คาเรนจากแลงเคอเชียร์ อังกฤษ บอก

    แม้อาการเกือบเป็นปกติทั้งหมด แต่หมอแจ้งข่าวร้ายว่าคาเรนจะไม่สามารถมีลูกได้

    คาเรนตัดสินใจที่จะผ่าตัดมดลูกและปากมดลูกออก แต่หลังจากสแกน เธอกลับพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้ 20 สัปดาห์

    “หมอส่งเอกสารให้ฉัน สิ่งที่ฉันเห็นคือก้อนอะไรสักอย่าง ทีแรกฉันตกใจมากนึกว่าเป็นมะเร็ง ก็เลยดีใจมากพอกันเมื่อรู้ว่าที่แท้เป็นตัวอ่อน หลังจากนั้นเราออกไปชอปปิ้งซื้อเสื้อผ้าและข้าวของให้จอร์จกันทันที” เมอรีลเล่าต่อ

    แต่แล้วก่อนกำหนดคลอดไม่กี่วัน ผลการสแกนระบุว่าโจชัว ลูกชายในท้องของคาเรน ไม่หายใจแล้ว

    อย่างไรก็ดี อีกไม่นานคาเรนตั้งท้องอีกครั้ง แต่ลูกสาวที่เธอตั้งชื่อให้ว่าจอร์เจีย เสียชีวิตหลังคลอด

    “ฉันจำเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ค่อยได้ แต่รู้สึกไม่ดีนักเพราะความว่างเปล่าและความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกยังคงอยู่”

    ปีที่แล้ว คาเรนตั้งครรภ์อีกหน เธอเริ่มจดบันทึกเมื่อรู้สึกว่าลูกดิ้น และแล้วในที่สุดเธอและไบรอันก็ได้ลูกชายที่ตั้งชื่อตามคุณตา เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยจอร์จคลอดออกมาด้วยน้ำหนัก 3.1 กิโลกรัม

    “หลังจากฝันร้ายมาหลายครั้ง ฉันแทบไม่เชื่อว่าไบรอันกับฉันจะมีลูกชายที่แข็งแรง ไดอารี่จะช่วยให้ฉันจดจำเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของจอร์จได้

    “ฉันศรัทธาในพระเจ้า และมีครอบครัวที่คอยให้กำลังใจ แม่อยู่ข้างๆ คอยช่วยฉันดูแลจอร์จตลอด

    “ฉันเลิกรู้สึกผิดหวังท้อแท้อีกต่อไป แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่และมีลูกที่น่ารักแบบนี้”
    </TD></TR></TBODY></TABLE>Around the World - Manager Online</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]
    ฝนดาวตกลีโอนิดส์ "ไฟร์บอล" เหนือท้องฟ้าเมือง Maghera ทางตอนเหนือของไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลาประมาณ 02.00-06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ภาพโดย Martin McKenna/spaceweather.com)

    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ฝนดาวตกลีโอนิดส์ไฟร์บอล เหนือฟ้า Oak Heights เมืองออนตาริโอ ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 16 พ.ย. เวลาประมาณ 20.58 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ภาพโดย Andreas Gada/spaceweather.com)

    [​IMG]

    หญิงสาวเฝ้ารอชมฝนดาวลีโอนิดส์เมื่อคืนวันที่ 17 พ.ย. 52 ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงโซเฟีย บัลแกเรีย (AP
    [​IMG]

    ฝนดาวตกเหนือฟ้าเมือง Sutherland ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อช่วงเกือบเที่ยงคืนของคืนวันที่ 15 พ.ย. 52 ตามเวลาท้องถิ่น (ภาพโดย Victor van Wulfen/spaceweather.com)

    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ฝนดาวตกลีโอนิดส์เหนือท้องฟ้าบนยอดดอยอินทนนท์ในช่วงค่ำคืนวันที่ 17 ถึงเช้ามืดวันที่ 18 พ.ย. 52 (ภาพโดย นายกรกต ท้าวศรีบุญเรือง/สดร.)

    Science - Manager Online
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ปูติน” เต้นแร็ปโย่ เรียกเรตติ้งจากวัยรุ่นรัสเซีย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤศจิกายน 2552 13:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ใครจะคิดว่าผู้นำผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลกจะสามารถเรียกเรตติ้งจากบรรดาวัยรุ่นได้อย่างง่ายดาย ด้วยอริยาบทโยกตัว ยักไหล่ ไปตามจังหวะเพลงแนวฮิปฮอป แต่ภาพนั้นเกิดขึ้นแล้วในมอสโก
    วลาดิเมียร์ ปูติน เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ภาพเขาเปลือยท่อนบนสุดล่ำกับกิจกรรมวันพักผ่อนเหมือนที่เคยเห็น กลับกันเขามาในชุดเสื้อวอร์มดูสบาย ๆ ออกแนวสปอร์ตนิด ๆ ในงานประกวด Russian Rap Award แต่นั่นแหละแค่ชุดก็คงจะเรียกความสนใจได้ไม่มากเท่ากับการที่ผู้นำหนุ่มใหญ่วัน 57 ปีคนนี้ไปยืนโยกตัวอยู่แถวหน้าของกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังชูมือโยกตัวไปมาตามจังหวะจากแรปเปอร์ผู้ชนะการประกวดรายการดังกล่าว พอถึงช่วงกลางของการแสดงแรปเปอร์บนเวทีได้พูดถึงแขกสุดเอ็กซ์คลูซีพที่เข้ามาร่วมชมในสตูดิโอ พร้อมทั้งเชิญปูตินขึ้นไปบนเวที
    ทันทีที่ปูตินก้าวขึ้นไปบนเวที เหล่าบรรดาวัยรุ่นรัสเซียกว่า 100 ชีวิต ต่างปรบมือตะโกนเชียร์ปูติน
    อย่างกึกก้อง และด้วยภาพที่บรรดาสาวกให้ความนับถือ “Respect” ขนาดนี้ ปูตินก็ไม่ปล่อยให้โอกาสที่จะโกยเรตติ้งจากกลุ่มวัยรุ่นต้องหลุดมือไป


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ถึงแม้เราจะชินกับภาพของสไตล์ฮิปฮอป ว่าค่อนข้างจะมีเนื้อหาที่รุ่นแรงและหยาบคายบ้างในบางครั้ง แต่ปูตินกลับกล่าวว่าในความคิดของเขานั้นเชื่อว่าเพลงฮิปฮอปนี้แหละเหมาะที่จะใช้รณรงค์ให้วัยรุ่นห่างไกลสุราและยาเสพติดมากกว่าเพลงร็อกเสียอีก ปูตินยังกล่าวบนเวทีอีกว่า ฮิปฮอป นั้นมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย นอกจากเพลงแวสนุกสนานแล้วยังมีการเต้น มีศิลปะแนวกราฟิตี้ที่กำลังเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อย ๆ และเนื้อหาในเพลงแร็ปเหล่านั้น ก็เป็นเนื้อหาที่สื่อสารด้วยคำพูดง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน
    ดังนั้นเขาเชื่อว่าด้วยความหลากหลายเหล่านี้เอง ที่ทำให้วัฒนธรรมฮิปฮอปน่าเหมาะที่สุดที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการรณรงค์ให้วัยรุ่นชาวรัสเซียห่างไกลจากสุราและยาเสพติดทั้งหลาย
    หลังจากเสร็จสิ้นการกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีต่อหน้าวัยรุ่นมอสโก นักร้องเพลงแร็ปได้ออกมากล่าวยกย่องปูตินอีกครั้งว่าผู้นำรัสเซียคนนี้คือไอดอลของวัยรุ่นรัสเซีย และขอเสียงให้ปรบมือให้กับ วลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อเป็นการแสดงความนับถือในตัวผู้นำคนนี้ และแน่นอนงานนี้ปูตินก็โกยคะแนนเสียงสนับสนุนจากวัยรุ่นในห้องส่งอย่างเต็มที่ จากนั้นปูตินก็ก้าวลงจากเวทีไปร่วมยืนโยกตัวกับคอนเสิร์ตฮิปฮอปร่วมกับกลุ่มวัยรุ่นต่อไป
    วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถึงการมาปรากฏตัวในกลุ่มวัยรุ่นกับภาพลักษณ์ฮิปฮอปรุ่นใหญ่ว่า “ เราต้องพยายามเข้าถึงในวัฒนธรรมของวัยรุ่นพวกนี้ พวกเขามีวิธีของตัวเองแต่ในขณะเดียวกันเนื้อหาการแสดงออกของพวกเขานำเสนอข้อความอันเป็นประโยชน์ให้กับวัยรุ่นทั่วรัสเซีย ”
    เล่นยอมลงทุนเข้าไปโยกแร็ปโย่ท่ามกลางกลุ่มวัยรุ่นเสียขนาดนี้ สงสัยเตติ้งที่ว่าเริ่มตกของปูตินคงจะดีดกลับมาด้วยกลุ่มวัยรุ่นนี้แหละ และไม่แน่เราออาจะได้ยินเพลงฮิปฮอปที่มีปูตินเข้าไปแจมร่วมแร็ปในท่อนเนื้อร้องเร็ว ๆ นี้ก็ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>Metro Life - Manager Online</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'คิดถูก-ชีวิตสุข' ธรรมะจาก 'พระมิตซูโอะ' ถึงทุกคู่ชีวิต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤศจิกายน 2552 12:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สำหรับชีวิตคู่ คงจะดีไม่ใช่น้อย ถ้าคนสองคน สามารถอ่านใจของกันและกันได้ แต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ เพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น หรือทำให้ชีวิตสะดุดน้อยที่สุด หลายสัปดาห์ก่อน ทีมงาน Life and Family ได้เดินทางไปปลูกกล้วย คืนอาหารให้ช้างป่า ณ วัดสุนันทวนาราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

    ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ทีมงานได้นั่งร่วมฟังสนทนากลุ่ม กับพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม และได้รับหนังสือจากพระอาจารย์หลายเล่ม หนึ่งในนั้น คือ "คิดถูก ดับทุกข์ได้" และเห็นว่า ในเล่ม มีหลักคิดที่จะสามารถนำมาปรุงแต่งชีวิตรักให้กลมกล่อมได้ ทีมงานจึงยกข้อคิดจากหนังสือเล่มนี้ มาให้ท่านผู้อ่านได้นำไปประยุกต์ใช้กันครับ

    *** ชีวิตคู่ คือ อาหาร 2 อย่างที่ต่างกัน

    เป็นไปได้ง่ายว่า เมื่อชีวิตต้องโคจรมาอยู่คู่กัน อารมณ์ ความรู้สึก และทิฐิต่างๆ ย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อรู้ถึงความต่าง จึงต้องระวังความรู้สึก ความคิด และเข้าใจธรรมชาติที่แตกต่างด้วย

    พระอาจารย์มิตซูโอะ เขียนบอกไว้ว่า คนแต่ละคน เหมือนอาหารแต่ละชนิด ที่มีรสชาติ และอุปนิสัยที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ชอบ หรือไม่ชอบ เป็นอารมณ์เฉพาะของตัวเอง ไม่ใช่ตัวเองชอบ ก็ถือว่าสิ่งนั้นดี หรือถ้าไม่ชอบ ก็ถือว่าไม่ดีเสมอไป ดังนั้น อย่าเอาความรู้สึกชอบ หรือไม่ชอบมาตัดสินว่า เขา/เธอ ดีหรือไม่ดี เพราะนั่นอาจกระแทกให้ชีวิตคู่เกิดรอยร้าวขึ้นได้ง่าย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> *** โกรธเขา เขาไม่รับ เราต้องรับเอง

    บางครั้ง ชีวิตคู่ อาจมีเรื่องที่ทำให้ใครคนใดโกรธได้ พระอาจารย์บอกว่า ถ้าเขา หรือเธอทำผิดจริงๆ ซึ่งถ้าคิดเป็น ความโกรธนั้นก็จะหายไป กระนั้น ไม่ว่าคู่ชีวิต จะทำแก้วแตก พูดไม่เพราะ ขี้เกียจ ไม่ช่วยงาน ควรลดความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ เพราะมันเป็นความผิดของเขา อย่าเอามาเป็นความผิดใจ หรือทำลายใจของเรา แต่ขอให้คิดเสียว่า โกรธเมื่อไร ผิดทันที เพราะสมมติว่า เขา หรือเธอทำแก้วแตกโดยความประมาท ถ้ายิ่งโกรธ ใจก็จะเป็นทุกข์ตามไปด้วย

    สำหรับกรณีบางคน ที่เมื่อมีความโกรธ มักจะมีนิสัย ‘ไม่ถูกใจหน่อยก็บ่น บ่นไปเรื่อย’ จนคนรอบข้างเกิดความรำคาญ ซึ่งตรงนี้ อันตรายมาก ทางที่ดี ขอให้ถามตัวเองก่อนว่า ถ้ามีใครบ่นกับเราแบบนั้นบ้าง เราจะชอบหรือไม่ แล้วเมื่อบ่นแล้ว ตัวเราสบายใจ หรือไม่สบายใจ

    ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ควรเข้าใจปัญหา และงดใช้อารมณ์จนเกิดรอยร้าว เพราะบางคน นอกจากจะบ่นอย่างเดียวแล้ว ชอบขุดเรื่องในอดีตมาพูดพร่ำ นิสัยตรงนี้อาจนำมาซึ่งการไม่อยากเข้าหา หรือไม่อยากอยู่ใกล้ด้วยของคู่ชีวิต เนื่องจากสิ่งที่พูด บางครั้งทำร้ายจิตใจไม่ใช่น้อย

    อย่างไรก็ดี พระอาจารย์เขียนแนะว่า ไม่ว่าคู่เรา จะทำให้โกรธ ควรตั้งสติ หยุดคิดก่อน และให้คิดทวนกระแส อย่าคิดตามอารมณ์ เช่น ไม่ควรคิดว่า ทำไมเขาไม่ทำอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างนี้ เพราะถ้ายิ่งคิด ก็จะเกิดการปรุงแต่ง จนเกิดภาพ เกิดชาติ และเกิดอัตตาตัวตนได้

    “เมื่อรู้ว่าความโกรธไม่ดี ใครโกรธเราก็อย่ารับ และอย่าโกรธตัวเองในทุกสถานการณ์ สอดรับกับที่พระพุทธองค์ได้สอนไว้ว่า ความโกรธ เหมือนการทำอาหารให้คนอื่นกิน ถ้าเขาไม่กิน คนทำ (คนโกรธ) ก็ต้องกินเอง”

    คงจะปฏิเสธได้ยากว่า เมื่อคนเราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน การไม่ถูกใจกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดา ถึงแม้ว่ารักกัน หรืออยู่ใกล้ชิดกันมากขนาดไหน ก็ไม่แคล้วที่จะเกิดปัญหาขึ้นได้ ฉะนั้น การแก้ปัญหาในชีวิตคู่ ให้แก้ที่ตัวเองก่อนเสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันก็จะค่อยๆ คลี่คลายตามไปเอง ด้วยการละความชั่วของตัวเอง ทำแต่ความดี ความถูกต้อง แล้วจะเข้าใจคู่ชีวิต ลดรอยร้าวที่จะเกิดการแตกหักตามมาได้มาก
    Life & Family - Manager Online</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ป้าขวัญ ก็ขยันหามาแบ่งให้อ่าน ... ดีจังคับ แต่เราก็อ่าน ไม่กี่ตัว เอิ๊กๆๆ ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...