พลังเอกภพยูเรอัส

วันนี้ เรียน ระดับ 8
เรื่อง แอตแลนติส + ......... หลายเรื่อง

ต้อง ตอบ ว่า คิดไม่ ถึง จริงๆ ว่า มี เรื่อง อย่างนี้ ด้วย .... นั่ง . อึ่ง...... กัน หมด
เริ่ม ตั้งแต่ อาจารย์ เริ่ม ทบทวน วิชาภูมิศาสตร์
ต่างประเทศ
แผนที่ ตั้ง อาณาจักร แอตแลนติส ต้อง ใช้ คำว่า อาณาจักร นะ

เพราะว่า ยิ่ง ใหญ่ ไพศาล มากๆ
มี อารยธรรม ที่ แผ่กว้าง ออกไป รอบ โลก .... รอบโลก จริง ๆ นะ

อาจารย์ หยิบ ยก หลักฐาน ทางประวิติศาสตร์ ที่ ทะยอย ขุดพบ ขึ้นมา ในยุคนี้ ให้ เรา ได้ เรียนรู้

ทั้งภาพถ่าย ที่ อาจารย์ ได้ เข้าไป ในสถาน ที่ จริง ออกมา ให้ เรา ได้ ดู และ ศึกษา กัน

เท่านั้น ยัง ไม่พอ
ก่อน พัก เที่ยง อาจารย์ พา ทัวร์ แอตแลนติส โดย มอง ผ่าน ตา สัญญาลักษณ์ แอตแลนติส ที่ ให้ พวกเรา นำติดตัวไป ด้วย

ยาวๆ ยาว มาก ครับ เล่า ไม่หมด

ตอนเช้า รู้ สึกว่า มี รุ่น น้อง ที่สนใจ มากัน 2 คน
ขอ เข้า ฟัง บรรยาย ด้วย
แต่ อาจารย์ คง ให้ เข้า ร่วม อบรม พร้อม ระดับ 8 ไม่ ได้
เพราะ มี การ สอน วิธี ปฏิบัติ ในแบบ วิชา ของ แอตแลนติส ด้วย
เกรง ว่า เดี๋ยว จะ สติ แตก ไป เสียก่อน......................55

ใจเย็นๆ ไว้ นิด ต่อไป ก็ ต้อง ได้ เรียน แน่ๆ

 

พี่ดาว ศิษย์พี่ทุกท่านขา..
เล่าเรื่องที่ได้รับจากอาจารย์ให้ฟังหน่อยยยยยยย
นะคะ(smile)

 

เห็นด้วยกับคุณจ๋าเอง เหมือนกัลลลลป์ครับ

 

เรื่อง แอตแลนติส มัน ลึกลับ ซับซ้อน มากทีเดียว
ทั้ง หลักฐาน ที่ เป็นชิ้นเป็นอัน ก็ หายาก เพิ่ง จะมี ค้นพบ บ้าง ก็ ในระยะ หลังๆ มานี้เอง

แต่ อาจารย์ ก็ พยายาม ค้นคว้า นำมา ให้ พวกเรา ได้ ศึกษา กัน จน ตะลึง งึง งัน กัน

ทำให้ทุกคน นั่งฟัง กัน ด้วย ใจ จดจ่อ ...
บาง เรื่อง... ก็ นั่ง อึ่ง กันไป คนโบราณ เค้า ทำ ได้ ไง หว่า

พอ เริ่ม เข้าใจ ก็ ลำดับ เหตการ ประติดประต่อ เรื่องราว ได้ว่า
ชาวแอตแลนติส ถึงแม้น เค้า จะ เกิดก่อน เรา หลายหมื่น ปี หรือจะว่า เป็นยุค กัลป ที่แล้ว ก็ ว่าได้

ความเจริญ ถึง ขีดสุด.... จน ถึงวันที่ ต้อง เสื่อมลง
ตอนเสื่อม ก็ เหมือน มีอะไร มา ยุป ให้ สลาย พรึบ ไป หมด คือ น่าจะเป็น อะไร ที่ รุนแรง เอามากๆ
ไว้ เจอกัน ค่อยเล่า ดีกว่า นะ............. ไม่ได้ งก นะ แต่ เรื่องมันยาว...........

 

เรื่อง แอตแลนติส มัน ลึกลับ ซับซ้อน มากทีเดียว
ทั้ง หลักฐาน ที่ เป็นชิ้นเป็นอัน ก็ หายาก เพิ่ง จะมี ค้นพบ บ้าง ก็ ในระยะ หลังๆ มานี้เอง

แต่ อาจารย์ ก็ พยายาม ค้นคว้า นำมา ให้ พวกเรา ได้ ศึกษา กัน จน ตะลึง งึง งัน กัน

ทำให้ทุกคน นั่งฟัง กัน ด้วย ใจ จดจ่อ ...
บาง เรื่อง... ก็ นั่ง อึ่ง กันไป คนโบราณ เค้า ทำ ได้ ไง หว่า

พอ เริ่ม เข้าใจ ก็ ลำดับ เหตการ ประติดประต่อ เรื่องราว ได้ว่า
ชาวแอตแลนติส ถึงแม้น เค้า จะ เกิดก่อน เรา หลายหมื่น ปี หรือจะว่า เป็นยุค กัลป ที่แล้ว ก็ ว่าได้

ความเจริญ ถึง ขีดสุด.... จน ถึงวันที่ ต้อง เสื่อมลง
ตอนเสื่อม ก็ เหมือน มีอะไร มา ยุป ให้ สลาย พรึบ ไป หมด คือ น่าจะเป็น อะไร ที่ รุนแรง เอามากๆ
ไว้ เจอกัน ค่อยเล่า ดีกว่า นะ............. ไม่ได้ งก นะ แต่ เรื่องมันยาว...........

 

คำสอนอาจารย์เลืองมินห์ด๋าง

ช่วงนี้พวกเราอาจได้รับข้อมูลหลากหลายข้อมูล ให้พวกเราฟังสัญชาตญาณของเราให้มาก เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่จิตวิญญาณภายในของเรากำลังบอกอะไรบางอย่างอยู่รึเปล่านะคับพี่น้อง
.................................
หากพวกเราตื่นพร้อมก็จะไม่มีใครมาหลอกใช้เราได้อีก
ผมเชื่อเถื่องเด๋ ( สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ) ที่อยู่ในตน หากเป็นเถื่องเด๋ที่ลงมาประทับที่กายของคนอื่น ผมก็ไม่เชื่อถือ
เราเชื่อถือเถื่องเด๋ที่อยู่ในตัวเราเท่านั้น เถื่องเด๋จะไม่สั่งงานเราผ่านร่างกายคนอื่น
สิ่งนี้พวกคุณต้องจำไว้ พวกคุณอย่าไปนำเถื่องเด๋จากภายนอกมาหลอกใช้ผม
พวกเราทุกคนมีสิทธิเต็มร้อย ไม่มีใครบังคับใคร ไม่มีใครบงการใคร พวกเราทุกคนเหมือนกันหมด
หากพวกเราตื่นพร้อมก็จะไม่มีใครมาหลอกใช้ได้อีก เถื่องเด๋หากจะใช้ใครก็จะสั่งโดยตรงกับคนๆนั้น ไม่มีการสั่งผ่านคนอื่น
Master Luong Minh Dang.
27 กุมภาพันธ์ 2546
:z1:z1:z1

 

รู้เขารู้เราด้วยการร่วมรู้สึก

<TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 4.5pt 4.5pt 4.5pt 4.5pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8 1pt inset; PADDING-RIGHT: 4.5pt; BORDER-TOP: #ece9d8 1pt inset; PADDING-LEFT: 4.5pt; BACKGROUND: #f7f3f7; PADDING-BOTTOM: 4.5pt; BORDER-LEFT: #ece9d8 1pt inset; PADDING-TOP: 4.5pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8 1pt inset; mso-border-alt: inset windowtext .75pt">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณkhajornwan<V</V<O</O
พี่นักเขียนคะการที่เราจะพิจารณาใครสักคนว่าเป็นไปตามที่เค้าแสดงออกมาให้เราเห็นหรือไม่เราจะต้องทำยังไงบ้างคะ อย่างเช่นฉากหน้าแสดงตนว่าเป็นผู้มีความรักความเมตตาแต่ฉากหลังอาจจะไม่ใช่อย่างที่เป็น เอ..อาจจะใช้คำว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่เป็นก็น่าจะได้เพราะบางครั้งเราก็มักจะคิดไม่ถึงและคิดว่าเค้าเป็นคนดีอย่างที่แสดงออกมาให้เห็นจริงๆ อะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ..<O</O

</TD></TR></TBODY></TABLE>
พี่นักเขียนขอตอบคำถามอย่างสั้นที่สุดก่อนค่ะว่าเราสามารถรู้เขาได้ ด้วยการร่วมรู้สึกแต่ความหมายของคำตอบยาวอีกหลายไมล์นะคะ

คำถามของคุณน้องขจรวรรณที่ว่าเราจะรู้หรือเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของผู้อื่นได้อย่างไรนั้นเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบสองส่วนด้วยกันคือ
1. รู้และเข้าใจได้อย่างไร
2. รู้และเข้าใจแล้ว ควรประพฤติปฏิบัติหรือทำความเข้าใจกับความเป็นจริงนั้นๆอย่างไร

เพราะหากเราเพียงแต่รู้หรือเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของผู้อื่นได้เท่านั้นแต่เราไม่สามารถเข้าใจความเป็นจริงที่อยู่เบื้องหลังความคิดและการแสดงออกของเขาและเราไม่สามารถประพฤติปฏิบัติให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้ความรู้นั้นก็เปล่าประโยชน์หรือให้โทษด้วยซ้ำไป ตัวอย่างเช่นเรารู้ว่าผู้อื่นพูดไม่ตรงกับใจ เขาพูดหรือแสดงออกเสมือนเป็นผู้ที่ซื่อตรง ใจกว้างไว้วางใจได้ แต่ใจจริงกลับคดโกง ใจแคบ เอารัดเอาเปรียบหรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน

หากเรารู้ได้เพียงแค่นั้นสิ่งที่ตามมาก็คงไม่พ้นความโกรธ ความเกลียด ความรังเกียจ ความอาฆาตมาดร้ายแต่หากว่าเราสามารถเข้าใจต้นกำเนิดของความเป็นจริงที่อยู่เบื้องหลังความคิดและการแสดงออกของเขา เราจะเข้าใจต่อไปอีกด้วยว่าเราจะประพฤติปฏิบัติในทิศทางใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองต่อผู้อื่นและต่อบุคคลผู้นั้น ความรู้นั้นจึงจะเกิดประโยชน์เพราะมันจะทำให้เราไม่หยุดอยู่เพียงแค่รู้แล้วก็โกรธ เกลียด รังเกียจหรืออาฆาตมาดร้าย แต่ทำให้เรารู้ว่าเราจะพลิกผันประสบการณ์ของเราได้อย่างไร เช่นจะทำให้บุคคลผู้นั้นซื่อตรงกับเรา จริงใจกับเราหรือหากเราเปลี่ยนบุคคลผู้นั้นไม่สำเร็จอย่างน้อยที่สุดเราก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้สำเร็จ คือตระหนักได้ว่าพฤติกรรมของเขามีที่มาจากทัศนคติหรืออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในทางอันใดของเราเช่น ความเชื่อของเราที่ว่าเขาไม่หวังดีต่อเรา เชื่อว่าเราจะพบกับความไม่ซื่อตรงเชื่อว่างานที่เราทำจะต้องเผชิญกับอุปสรรคและอุปสรรคดังกล่าวก็ปรากฎในรูปของผู้ร่วมงานที่ไม่ซื่อ เป็นต้น

บางครั้งเราคิดว่าเราจะทำงานโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตนความคิดดังกล่าวของเราก็ทำให้เราเผชิญกับผู้ที่หวังผลประโยชน์ส่วนตนกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตนหริือคดโกงเราเพราะความคิดทั้งหมดของเราเป็นไปตามกฎแห่งการดึงดูดของจักรวาลเมื่อเราคิดว่าเราจะไม่เอาผลประโยชน์ ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นก็มีที่ไปคือไปเข้ามือผู้ที่หวังผลประโยชน์ส่วนตนเพราะมันเป็นความคิดต่างขั้วที่คล้องจองกันและดึงดูดกันและกันการตามกฎของจักรวาลประสบการณ์ในแง่ลบทั้งหมดไม่ได้มีต้นกำเนิดจากภายนอกแต่ถือกำเนิดมาจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของเราโดยแท้

ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า :
เธอจำเป็นจะต้องเรียนรู้ที่จะตระหนักได้ถึงประสาทสัมผัสภายในเหล่านี้และใช้งานมันการใช้ประสาทสัมผัสภายในเป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะทำให้จิตวิญญาณของเธอขยายตัวได้ด้วยการเรียนรู้ธรรมชาติแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
(ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 4 ประสาทสัมผัสภายใน หน้า 39)

พี่นักเขียนจะคัดลอกข้อความจากหนังสือความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 4 ประสาทสัมผัสภายใน มาให้อ่านกันอีกครั้งเพราะประสาทสัมผัสภายในคือความสามารถอันเป็นแก่นแท้ของจิตวิญญาณเราทั้งหลายคือจิตวิญญาณที่เป็นร่างกายเนื้อหนังความสามารถอันเป็นแก่นแท้ของจิตวิญญาณจึงอยู่กับเราและเป็นของเราและเราสามารถนำมันมาใช้การได้เสมอ

พี่นักเขียนอยากจะขอให้พวกเราศึกษาเกี่ยวกับประสาทสัมผัสภายในอย่างจริงจังเพราะมันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงความเป็นจริงเกี่ยวกับตนเองได้และยังผลให้เราเข้าถึงความเป็นจริงของทุกสิ่งทุกอย่างได้รวมทั้งการเข้าใจผู้อื่นได้อย่างหมดเปลือกท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า:

ประสาทสัมผัสภายในไม่ได้มีความสำคัญเพราะเหตุว่ามันทำให้เธอรู้เห็นอนาคตหรือติดต่อสื่อสารทางจิตได้แต่ประสาทสัมผัสภายในเปิดเผยให้เธอรู้เห็นความเป็นอิสระจากโลกทางกายภาพทำให้เธอตระหนักถึงความเป็นเอกลักษณ์และการเป็นบุคคลตัวตนในโลกหลากมิติหากเธอรู้จักใช้ประสาทสัมผัสภายในอย่างเหมาะสมมันจะแสดงให้เธอรู้เห็นถึงความน่าอัศจรรย์ของการมีชีวิตทางกายภาพและตำแหน่งหน้าที่ของเธอในโลกนี้เธอจะดำเนินชีวิตในทิศทางที่ฉลาด-มีคุณค่า-ก่อเกิดคุณประโยชน์และมีชีวิตที่เป็นสุขเพราะเธอจะเริ่มเข้าใจว่าเธอมาถือกำเนิดเป็นมนุษย์-เป็นบุคคลตัวตนเพื่อวัตถุประสงค์อะไร (หน้า 42)

ประสาทสัมผัสภายในช่วยให้เธอใช้ความสามารถในการติดต่อสื่อสารทางจิตได้แต่มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะสามารถอ่านจิตใจผู้อื่นได้ มันหมายความว่าในครอบครัวในวงการธุรกิจ ในสังคม เธอจะมีสัญชาติญาณที่ทำให้เธอมีสติรู้เห็นได้คมชัดว่าผู้อื่นกำลังพยายามสื่อความหมายอะไรที่แท้จริงกับเธอ

เธอจะตระหนักถึงความเป็นจริงที่อยู่ลึกไปกว่าคำพูดของเขาเธอจะสามารถใช้คำพูดได้ดีขึ้นในการสื่อสารถึงความรู้สึกภายในของเธอกับผู้อื่นเธอจะรู้ความหมายที่แท้จริงของความรู้สึกเหล่านั้นเธอจะปราศจากความรู้สึกกลัวและไม่มีความจำเป็นจะต้องซ่อนเร้นปิดบังความรู้สึกเหล่านั้น
rabbit_scaryrabbit_scaryrabbit_scary<O></O>

 

เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้ครับ "เกาะซานโตรินี่" เป็นเกาะที่สวยงามมาก
ลองเซิร์ทหาข้อมูลเท่าที่เวลาจะอำนวย เอามาฝากเพื่อนๆครับ เป็นเกาะ
ที่สวยงามมากครับ ขนาดเห็นในรูปที่ อาจารย์ให้ดูนี่โอ้โห.... ใครที่ชอบ
ทะเลและแสงแดดนี่คือสวรรค์อีกแห่งหนึ่งครับ นอกจากนี้ยังมีประวัติความ
เป็นมาที่น่าศึกษาด้วยครับ



เกาะซานโตรินี่ กับบ้านสีขาว ( Santorini : Greece )
<!-- Main -->[SIZE=-1]เกาะซานโตรินี่ กับบ้านสีขาว ( Santorini : Greece )

เกาะ ซานโตรินี่ (Santorini) นี้เป็นเกาะที่ดังมากๆ ของประเทศกรีซ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะ Crete ในทะเล Aegean ด้วยความที่มีเอกลักษณ์ ของสถาปัตยกรรม ที่โดดเด่นมาก ถ้าใครเคยเห็นภาพบ้านสีขาวหลังคาโดมสีฟ้าตามโปสการ์ดท่องเที่ยวของกรีซแล้ว นั่นแหละ แทบทั้งหมดจะถ่ายมาจากเกาะนี้










การ มาเที่ยวเกาะนี้ ถ้าใจร้อนก็สามารถขึ้นเครื่องมาได้ แต่ถ้าใจเย็น ก็ต้องนั่งเรือเฟอรี่ ถึงกว่าสามชั่วโมงจึงจะถึงซานโตรินี่ ประวัติของตัวเกาะนี้ แต่ก่อนเป็นภูเขาไฟ และเกิดการระเบิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้ส่วนตรงกลางปล่องภูเขาไฟยุบลง เกิดเป็นหมู่เกาะขนาดย่อมๆขึ้น เรียกว่าหมู่เกาะ Cyclades ทำให้เกาะนี้เกิดลักษณะเฉพาะตัวตามธรรมชาติขึ้น นั่นก็คือ กลายเป็นหมู่เกาะ ที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ รูปคล้ายประจันทร์เสี้ยว เป็นวงด้านนอก ล้อมวงใน ที่เป็นหน้าผา และตรงกลางมีเกาะเล็กๆซึ่งเป็นยอดปล่องภูเขาไฟอยู่ แต่ถ้าอาศัยเพียงธรรมชาติของเกาะเพียงอย่างเดียว ก็คงไม่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวซักเท่าไรนัก











มนุษย์ คนแรก ที่เหยียบย่างขึ้นมาบนเกาะนี้ ก็ราวๆ 3000 ปีก่อนคริสตกาลโน่น และตั้งถิ่นฐานมายาวนานจนเป็นอารยธรรม ของหมู่เกาะนี้ เรียกว่ายุค Minoan จนกระทั่งถูกภูเขาไฟถล่มลงอีกครั้ง ฝังทับเมือง Akrotiri ไว้กว่า 3600 ปีมาแล้ว (เหมือนกับที่ปอมเปอี)








หมู่ บ้านที่เป็นท่าเรือ เรียกว่า Thira หรือ Fira จะเป็นเมืองหลวงของเกาะนี้ Thira เป็นเมืองใหญ่ มีร้านรวงเยอะกว่า Oia แต่วิวที่เห็นปล่องภูเขาไฟก็ต่างกันไปคนละมุม โดยเกาะซานโตรินี่ ที่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว มีหมู่บ้านOia อยู่ตรงปลายด้านบนของวงพระจันทร์ ส่วน Thira จะอยู่ตรงกลาง

ข้าวของใน Thira นั้นรู้สึกจะราคาถูกกว่า Oia นิดหน่อย แต่หมู่บ้านที่จะไปดูบ้านกันนี้ชื่อ ไอเอ (Oia) ซึ่งอยู่ทางเหนือของเกาะ หมู่บ้าน Oia นี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่น่ารักมากๆ เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวอเมริกัน เนื่องจากว่าเกาะนี้เป็นเกาะที่ดังที่สุดในกรีซ และชายหาดที่ซานโตรินี่ก็โด่งดัง เพราะว่าไม่เหมือนใครเช่นกัน คือมีทรายเป็นสีดำ เพราะว่ามันเกิดมาจากลาวาภูเขาไฟ จึงทำให้สวยแบบแปลกไปอีกแบบ











ที่ น่าดู น่าชม จนทำให้หมู่เกาะแห่งนี้โด่งดังที่สุด ในบรรดาเกาะต่างๆของกรีซคือ ส่วนบนของเกาะ ตามขอบหน้าผา จะมีบ้านเรือนสีขาวฟ้าเีรียงรายไปตามลาดเอียงของหน้าผาที่สูงชันกว่า 700 ฟุต แต่ที่ชาวบ้านนิยมขึ้นมาปลูกบ้านกันบนหน้าผาสูงนี้ ด้วยเหตุผล 2 อย่างคือ ด้านความปลอดภัย จากโจรสลัดในสมัยก่อน การอยู่ที่สูงจะทำให้ยากต่อการเข้าถึง และง่ายต่อการป้องกันตัว อีกอย่างหนึ่งคือ บนหน้าผาจะรับลมดีและมีอุณหภูมิเย็นกว่าด้านล่างโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน ชาวบ้านจึงหนีกันขึ้นมาสร้างบ้านกันบนนี้

ชมหมู่บ้าน Oia กันแล้ว
ไปชมบ้านสีขาวของ หมู่บ้าน Oia ต่อกันนะครับ


ปล. ตอนนี้ผมเขียนบล็อกมาได้กว่า 300 เรื่องแล้ว ล้วนเป็นสาระน่ารู้ต่างๆ ท่านที่เข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ดูหัวเรื่องได้ง่ายที่
Blog of All You Needs to Know
ลองเปิดดูก่อนจะออกนะครับ เลือกดูเนื้อเรื่องได้ครบ มีลิงค์ดูเรื่องคลิกง่าย และไม่เสียเวลา


เรียบเรียงจาก
P Pim
GATS | mag: Greece ตอนที่ 4/7 - Santorini
Santorini Volcanos Villas volcano villas oia santorini 28
http://www.villasofgreece.com/vog-cyclades.htm&h=360&w=480&sz=48&hl=th
Tom Dempsey / photoseek.com [/SIZE]
ที่มา Bloggang.com : travelaround -

 

พลังคลื่นเสียงแห่งแอตแลนติส 1

วิชาของชาวแอตแลนติสนั้นนอกจากจะใช้คลื่นแสงและผลึกคริสตัลแล้ว ยังใช้คลื่นเสียงประกอบเหมือน ๆ กับ "มนตรา"ในวิชาละมะของธิเบต
หนึ่งในทั้งหมด 24 คลื่นเสียงที่ชาวแอตแลนติสใช้ในการฝึกพลัง คือคลื่นเสียงในลำดับที่ 15 ความเป็นดังนี้

SO-MAA-AH (โซเมอา)

ถ้าออกเสียงต่อเนื่อง เสียงนี้จะเหมาะเป็น "มนตรา" ที่สุดสำหรับปัจเจกชนที่มุ่งสัมผัสกับ "พระเจ้าภายในตัวเอง"(GOD-SELF)ของคนเรา เพราะเสียงนี้เป็นตัวแทนของความรู้ การรับรู้และการบรรลุ อีกทั้งยังเป็นเสียงแห่งจักรวาลอีกด้วย

อ้างอิง : สุวินัย ภรณ์วลัย สมาธิหมุน กรุงเทพฯ : บริษัทไอโอนิค อินเตอร์เทรดจำกัด, 2540.

 

พลังคลื่นเสียงแห่งแอตแลนติส ๒

วิชาของชาวแอตแลนติสนั้นนอกจากจะใช้คลื่นแสงและผลึกคริสตัลแล้ว ยังใช้คลื่นเสียงประกอบเหมือน ๆ กับ "มนตรา"ในวิชาละมะของธิเบต
หนึ่งในทั้งหมด 24 คลื่นเสียงที่ชาวแอตแลนติสใช้ในการฝึกพลัง คือคลื่นเสียงในลำดับที่ 24 ความเป็นดังนี้


AU-MA-LAA (โอเมลา)


เป็นเสียงที่ทรงพลังอย่างสุดหยั่ังคาด ใช้เพื่อป้องกันตัวเองจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง

อ้างอิง : สุวินัย ภรณ์วลัย สมาธิหมุน กรุงเทพฯ : บริษัทไอโอนิค อินเตอร์เทรดจำกัด, 2540.

 

พลังงานเส้นแสง

บนดาวอังคารจะมีวัตถุรูปทรงสามเหลี่ยมพีระมิดอยู่มากมาย เพื่อใช้ประโยชน์ในการสะเทินพลังงานความร้อนและแสงจากดวงอาทิตย์ และยิ่งไปกว่านั้น พีระมิดยังเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการเดินทางท่องจักรวาล หรือเดินทางไปยังดาวดวงอื่นๆ โดยเฉพาะดาวเคราะห์โลกของเรา

การเดินทางในแต่ละครั้ง สิ่งที่พวกเขาใช้เป็นพาหนะคือสิ่งหรือวัตถุที่พวกเราเคยเห็นและเรียกกันว่า “ยาน” หรือ “จานบิน” อาจจะมีหลายๆรูปแบบ ก่อนการเดินทางพวกเขาต้องตรวจสอบหรือเช็คก่อนว่าจะใช้ “เส้นแสง” เส้นใด เดินทางไปยังจุดหมาย หลังจากนั้นผู้ที่จะเดินทางก็จะเข้าสู่กระบวนการ โดยเริ่มจากการนำยานพร้อมลูกเรือที่จะเดินทางเข้าไปยังพีระมิดใหญ่ เพื่อใช้พลังจิตเปลี่ยนสภาพของยานพาหนะจากวัตถุให้เป็นพลังงานแสงและพุ่งทะลุออกไปทางยอดแหลมของพีระมิด เข้าสู่เส้นทางของ “เส้นแสง” ที่ได้เลือกไว้แล้ว และเมื่อเข้าสู่เขตบรรยากาศของโลกแล้ว ถ้าหากพวกเขาอยากปรากฏตัวต่อสายตาของชาวโลก พวกเขาจะใช้พลังจิตเปลี่ยนสภาพของยานพาหนะจากพลังงานแสงให้เป็นวัตถุ ดังที่พวกเราบางคนเคยมีโอกาสได้พบเห็นมาบ้างแล้วในระยะที่ไกลพอสมควร เนื่องจากถ้ายานหรือจานบินปรากฏให้เห็นในระยะสายตาปกติ อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อนัยน์ตาหรือเซลล์ในร่างกายของมนุษย์โลกได้ เนื่องจากความถี่ของเสียงที่เกิดจาการทำงานของเครื่องยนต์ในยานอยู่ในระดับที่มีความถี่สูงมากเกินกว่าที่ร่างกายของมนุษย์จะรับได้ เราจึงได้เห็นจานบิน หรือฝูงจานบินในระยะที่ไกลๆ เท่านั้น

ชาวดาวอังคารชอบที่จะเดินทางมายังดาวเคราะห์โลกของเราเสมอ ความรู้เกี่ยวกับพลังพีระมิดได้ถ่ายทอดให้กับชาวแอตแลนตีส และในยุคนั้น ชาวแอตแลนตีสได้ใช้คริสตัลซึ่งเป็นแก้วหินใส สร้างเป็นพีระมิดที่มีขนาดใหญ่ไว้ทั่วราชอาณาจักร และแต่ละคนจะมีพีระมิดคริสตัลขนาดเล็กเก็บไว้ใช้ประจำตัว ชาวแอตแลนติสที่มีพลังจิตสูงโดยเฉพาะกลุ่มนักบวช จะเป็นผู้ที่เดินทางไปในสถานที่ต่างๆด้วยพลังจิต ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เข้าไปในพีระมิดคริสตัล และใชัพลังจิตเปลี่ยนสภาพของกายหยาบให้เป็นพลังงานแสง พุ่งออกไปในทางยอดแหลมของพีระมิดคริสตัล เข้าสู่เส้นทางของ “เส้นแสง” ที่ได้เลือกไว้เรียบร้อยแล้ว

ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันที่มนุษย์โลกก้าวไปถึงครั้งล่าสุด คือการสร้าง “ปรมาณู” เป็นอาวุธร้ายแรง และนำมาทำลายล้างมนุษย์ชาติ ดังเช่นการใช้ระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฺฮิโรชิมา และนางาซากิของประเทศญี่ปุ่น เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2541-2542 นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบพลังงานตัวใหม่คือ “เส้นแสง” และเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุดว่า “เส้นแสง” จะได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นอาวุธชนิดใหม่ที่ทรงอานุภาพยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูเสียอีก “อาวุธเส้นแสง” เป็นอาวุธที่ผลิตขึ้นเพื่อทำลายนิวเคลียสและเซลล์ในร่างกาย ซึ่งตรงกันข้ามกับระเบิดปรมาณูซึ่งจะทำลายวัตถุ เช่นอาคารบ้านเรือน อาวุธเส้นแสงชนิดใหม่นี้สามารถปรับความถี่และอำนาจของการกระจายของเส้นแสงได้ตามความต้องการ เหมือนกับการทำงานของเตาไมโครเวฟ
ชาวดาวอังคารมีความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ทางจิตไปจนถึงระดับการใช้พลังจิตเปลี่ยนวัตถุให้เป็นพลังงานแสง และเปลี่ยนจากพลังงานแสงให้กลับเป็นวัตถุอีกครั้ง ซึ่งเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายของพลังงาน ซึ่งสูงกว่าพลังงาน “เส้นแสง” <!-- / message --><!-- sig -->
__________________

 

เกาะซานโตรินี่ สวยมากเลยค่ะ เป็นบล็อคที่มีข้อมูลเยอะมากๆ ขยันจังเลยค่ะคุณkung

พี่ดาวทะเลทราย พิมพ์่ล่ะก็ยาวแน่ๆ แค่เล่า 3ชม.จะจบรึป่าวไม่รู้ แต่ตื่นตาตื่นใจแทน
อาจารย์มีวิธีการสอนที่พวกชั้นต้นอย่างเราตามไม่ทันค่ะ ไม่ใช่อาจารย์รังเกียจอะไรหรอก
ขอบคุณคุณไร้ร่องรอยค่ะ ค่อยๆไล่อ่านเอา การเอาพลังแสงฟาดฟันกัน เลยโดนล้างไปเลย

 

แจ้งข่าว

การสอนพลังเอกภพ เดือนกันยายน
<O
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน (09.00-16.30)<O</O
หินบำบัดขั้นพื้นฐาน(เปิดให้กับผู้สนใจทั่วไป ไม่ต้องผ่านหลักสูตรพลังเอกภพก็สามารถเข้าเรียนได้ทุกคน)<O</O
<O</O
วันอาทิตย์ที่ 20กันยายน (09.00-16.30)<O</O
โยคะแห่งสมาธิและสุขภาพ ได้แก่การปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงความตระหนักรู้ปและการเข้าถึงภูมิธรรมทางจิตผ่านกิริยาโยคะ กับการสอนให้รู้จักผนวกการฝึกร่างกายให้เกิดความยืดหยุ่นและคล่องตัวสำหรับการไหลเวียนของ ”ปราณ”
<O</O
(เปิดให้กับผู้สนใจทั่วไป ไม่ต้องผ่านหลักสูตรพลังเอกภพก็สามารถเข้าเรียนได้ทุกคน)<O</O
1. เป็นวิชาภาคปฏิบัติ ควรนำผ้าหนาๆมาพับรองนั่งหรือจะใช้เบาะรองนั่งก็ได้<O</O
2. เพื่อความสะดวก สุภาพสตรีควรนุ่งกางเกง<O</O
3. กรุณาจองที่นั่งล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ
<O</O
<O</O
-----------------------------------------------------------------------------<O</O
<O</O

วันเสาร์ที่ 26กันยายน (09.00-16.30)<O</O
พลังเอกภพระดับ 4 ครั้งที่ 1 (สำหรับผู้ที่จบพลังเอกภพระดับ 3 ทุกรุ่น)<O</O
<O</O

วันอาทิตย์ที่ 27กันยายน (09.00-16.30)<O</O
พลังเอกภพระดับ 4 ครั้งที่ 2 (ลมหายใจสฟิงคซ์) เป็นภาคปฏิบัติแบบเข้มข้น เน้นการฝึกให้เกิดความสงบอย่างแท้จริง ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะส่งผลต่อจิตใจ และการทำงานในชีวิตประจำวันของผู้นั้น<O</O
(สำหรับผู้ที่จบพลังเอกภพระดับ 3 ทุกรุ่นและสำหรับผู้ที่ผ่านขั้นต่างๆ แต่ยังไม่เคยเรียนวิชานี้ก็สามารถลงทะเบียนเรียนได้)<O</O
1. วิชานี้เป็นภาคปฏิบัติ ควรนำผ้าหนาๆมาพับรองนั่งหรือจะใช้เบาะรองนั่งก็ได้<O</O
2. เพื่อความสะดวก สุภาพสตรีควรนุ่งกางเกง<O</O
<O</O

 

คุณไร้ร่องรอย ชอบหนังสือของ อ.สุวินัย เหมือนกันเหรอคะ ..
จ๋าชอบมากมากเลย ตามอ่านมาแทบทุกเล่ม
แต่ที่ยังหาไม่ได้คือ... มวยจีนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า..
เสียดายจัง
ม่ายงั้น ...ได้ฝึก กะลังภายใน ส่งพลังปราบมาร ท่องยุทธภพ
เรียบร้อยไปแล้ว hahahaha

อ่านเรื่องที่ อ.สุวินัย เขียนแล้วทั้งมนตรา ของพวกเค้า
แต่ ออกเสียง ตามไม่ได้ค่ะ hehehe

 

หนังสือ มวยจีนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ผมไม่มีครับ
ของสำนักพิมพ์เจได

มวยจีนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
ความรักกับจอมยุทธ์
คำนำผู้เขียน
มวยจีนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

คำขึ้นต้น
​

เขียนหนังสือวิชาการได้สิบปี ได้แลเห็นถึงความไม่จีรังยั่งยืนในงานวิชาการของตนเอง จึงเกิดความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นจากภายในอย่างรุนแรง ที่จะเขียนหนังสือขึ้นมาสักเล่มหนึ่งที่ฉีกแนวการเขียนที่ผ่านของตนดูซักครั้งครา หนังสือที่ว่านั้นคือหนังสือเล่มนี้

ในทะเลนั้นมีกระแสน้ำอยู่ 2 ประเภท กระแสหนึ่งนั้นไหลอยู่บนพื้นผิวทะเลเป็นเกลียวคลื่นไหวพริ้วไปตามสายลมและผันแปรอย่างไม่หยุดยั้งตามเจตจำนงค์ของธรรมชาติ ที่มีทั้งรุนแรงและสงบราบเรียบราวกับไม่เคยหลับใหล ดุจการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ แต่ในทะเลก็ยังมีกระแสน้ำอีกประเภทหนึ่ง ที่อยู่ล้ำลึกลงไปใต้ผิวทะเลหนึ่งร้อยเซียะกระแสนน้ำนี้ สงบนิ่ง มั่นคง และไหลลึกเป็นอยู่เช่นนั้นตลอดไป แม้ในอนาคต

ผมหวังว่า หนังสือเล่มนี้ คงเป็นเฉกเช่น "ใจของน้ำ" ที่อยู่ลึกใต้ทะเลหนึ่งร้อยเซียะนั้น

​

 

คัมภีร์วัชรเซน (หนังสือยอดคนวิถีเซน)
เกลือในแก้วน้ำ...
ทำให้น้ำในแก้วเค็ม
จนยากที่จะดื่มกินได้
หากเธออยากจะดื่มน้ำแก้วนั้น...
เธอจะต้องทำอย่างไร?

เธอจะต้องเติมน้ำสะอาด
ใส่แก้วน้ำนั้นไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งความเค็มของน้ำในแก้วนั้น
เจือจางพอที่เธอจะดื่มเข้าไปได้

ฉันใดก็ฉันนั้น
ไม่มีหนทางลัด
ในการปฏิบัติธรรม

เธอจะต้องฝึกฝนตนเอง
ฝึกสมาธิ ฝึกตบะ บำเพ็ญจิตใจ
ของเธอให้แกร่งกล้า
จนกระทั่ง..
เธอมีความก้าวหน้าทางจิต
อย่างไม่หยุดหย่อน...

จาก "วัชรเซน" โดย สุวินัย ภรณวลัย

คัมภีร์วัชรเซน

 

ประสบการณ์เร้นลับ (หนังสือยอดคนวิถีเซน)
เมื่อเรารู้จักจิตใจ
รู้ถึงภาวะที่ความทุกข์เกิด และภาวะที่ความทุกข์ดับ
รู้ "ความคิด" ทุกครั้งที่ "มัน" คิด รู้มันทั้งหมด...
รู้ด้วยการเฝ้าดูปกติธรรมดา โดยไม่จำต้องพยายามหรือฝืน
การรู้เช่นนี้ของเรา จึงเป็นสิ่งเดียวกับปัญญา
เป็นสิ่งเดียวกับสติ และเป็นสิ่งเดียวกับสมาธิ
เมื่อเรามาถึงจุดนี้ได้ ก็เหมือนเราได้พบกับมหาสมบัติ
ที่ถูกซ่อนและเปิดเผยมันออกมา
จาก "ปัญญาอมตะ" โดย สุวินัย ภรณวลัย

 

มนุษยสัมพันธ์ (หนังสือยอดคนวิถีเซน)
ผู้ที่ศึกษาธรรมะ ฝึกฝนสมาธิ-วิปัสสนา
จนเข้าถึงสุญญตาได้แล้ว
เขาจะต้องไม่หยุดอยู่แค่นั้น แต่จะต้องรุดหน้าต่อไป
โดยก้าวเข้าสู่ปฏิบัติการแห่งความรัก(ความเมตตา)
เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ด้วย

จาก "หัวใจมังกร" โดย สุวินัย ภรณวลัย

 

<TABLE class=tborder id=post2427975 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_2427975 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER>แจ้งข่าว<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->การสอนพลังเอกภพ เดือนกันยายน
<O
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน (09.00-16.30)<O</O
หินบำบัดขั้นพื้นฐาน(เปิดให้กับผู้สนใจทั่วไป ไม่ต้องผ่านหลักสูตรพลังเอกภพก็สามารถเข้าเรียนได้ทุกคน)<O</O
<O</O
วันอาทิตย์ที่ 20กันยายน (09.00-16.30)<O</O
โยคะแห่งสมาธิและสุขภาพ ได้แก่การปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงความตระหนักรู้ปและการเข้าถึงภูมิธรรมทางจิตผ่านกิริยาโยคะ กับการสอนให้รู้จักผนวกการฝึกร่างกายให้เกิดความยืดหยุ่นและคล่องตัวสำหรับการไหลเวียนของ ”ปราณ”
<O</O
(เปิดให้กับผู้สนใจทั่วไป ไม่ต้องผ่านหลักสูตรพลังเอกภพก็สามารถเข้าเรียนได้ทุกคน)<O</O
1. เป็นวิชาภาคปฏิบัติ ควรนำผ้าหนาๆมาพับรองนั่งหรือจะใช้เบาะรองนั่งก็ได้<O</O
2. เพื่อความสะดวก สุภาพสตรีควรนุ่งกางเกง<O</O
3. กรุณาจองที่นั่งล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ
<O</O
<O</O
-----------------------------------------------------------------------------<O</O
<O</O

วันเสาร์ที่ 26กันยายน (09.00-16.30)<O</O
พลังเอกภพระดับ 4 ครั้งที่ 1 (สำหรับผู้ที่จบพลังเอกภพระดับ 3 ทุกรุ่น)<O</O
<O</O

วันอาทิตย์ที่ 27กันยายน (09.00-16.30)<O</O
พลังเอกภพระดับ 4 ครั้งที่ 2 (ลมหายใจสฟิงคซ์) เป็นภาคปฏิบัติแบบเข้มข้น เน้นการฝึกให้เกิดความสงบอย่างแท้จริง ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะส่งผลต่อจิตใจ และการทำงานในชีวิตประจำวันของผู้นั้น<O</O
(สำหรับผู้ที่จบพลังเอกภพระดับ 3 ทุกรุ่นและสำหรับผู้ที่ผ่านขั้นต่างๆ แต่ยังไม่เคยเรียนวิชานี้ก็สามารถลงทะเบียนเรียนได้)<O</O
1. วิชานี้เป็นภาคปฏิบัติ ควรนำผ้าหนาๆมาพับรองนั่งหรือจะใช้เบาะรองนั่งก็ได้<O</O
2. เพื่อความสะดวก สุภาพสตรีควรนุ่งกางเกง<O</O
<O</O<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ONLY ONE : เมื่อวานนี้ เมื่อ 10:31 PM
</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2427975")</SCRIPT> </TD></TR></TBODY></TABLE>