ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    “หิมะละลาย-น้ำท่วมยุโรป” นักวิชาการไทยไม่ฟันธงเพราะโลกร้อน

    นักวิชาการไทยแจงกรณีน้ำท่วมยุโรปจากหิมะละลายยังไม่อาจฟันธงเพราะโลกร้อน เพราะมีข้อมูลแค่ครั้งเดียว ต้องเก็บข้อมูล 10 ปีจึงชัด ชี้ไม่กระทบไทยมาก แต่ปัญหาไทยคือปรากฏการณ์ “ลานินญา” ซึ่งฝนจะมีฝนรำคาญต่อเนื่อง 18-24 เดือน พร้อมคาดกรุงเทพฯ ร้อนสุด 23 เม.ย.

    ขณะนี้หลายประเทศในยุโรปกำลังประสบกับภาวะน้ำท่วมจากการเอ่อล้นของแม่น้ำดานูบซึ่งมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 111 ปี โยระดับน้ำเพิ่มมากขึ้นจากปกติกว่า 2 เท่า โดยในเดือนเมษายนของทุกปีจะมีอัตราน้ำไหลประมาณ 7,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแต่ในปีนี้มีอัตราน้ำไหลเกือบถึง 16,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแล้ว ทั้งนี้เป็นผลพวงมาจากการละลายของหิมะ

    ด้านนักวิชาการไทย ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายศึกษาการเปลี่ยนแปลงของโลก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่าจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศหรือไม่นั้นยังฟันธงไม่ได้ว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน เพราะจะต้องดูความถี่จำนวนครั้งที่เกิดและสถิติ 10 ปี จึงจะชัด โดยสถิติที่ศึกษาการเปลี่ยนแปลงจะมีระยะเวลา 10 ปี

    “ในอดีตเคยเกิดเหตุกี่ครั้ง แล้วระยะเวลา 10 ปี ต่อมา เกิดกี่ครั้ง ถ้าในอดีตเกิด 5 ครั้ง แล้วมาเกิด 8-10 ครั้ง ก็มีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เรื่องภูมิอากาศมีวงจรตามธรรมชาติอยู่ แต่ระยะหลังที่มีความกังวลเกิดขึ้นเนื่องจากภาวะโลกร้อน” ดร.อานนท์ ชี้แจง

    นอกจากนี้ ดร.อานนท์ยังได้กล่าวถึงประเทศไทยว่ายังไม่ถึงขั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่รุนแรง แต่ต้องเริ่มพิจารณาการก่อสร้างที่มีผลต่อโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว ทั้งถนน หรือการสร้างอาคารที่มีอายุใช้งาน 30-50 ปี โดยจะต้องคิดว่าหากอากาศร้อนขึ้นจะระบายหรือปรับอากาศอย่างไร หรือแนวโน้มฝนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอาจจะต้องคิดวางแผนด้านการออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพาน แต่ยังไม่ถึงกับต้องเตรียมความพร้อมระดับครัวเรือน

    อย่างไรก็ตาม ดร.อานนท์กล่าวว่าปัญหาของไทยปีนี้คือการเข้าสู่ภาวะลานินญาของทั้งโลก ซึ่งมีแนวโน้มฝนจะมากขึ้นเนื่องยาวนาน 18 -24 เดือนคาบเกี่ยวปีนี้ถึงฤดูฝนปีหน้า ซึ่งโดยเฉลี่ยฝนจะเพิ่มขึ้นทั้งประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าฝนจะตกมากขึ้น เป็นเพียงฝนรำคาญซึ่งจะเกิดบ่อยแต่ไม่มาก ทั้งนี้ไทยไม่มีข้อมูลในอดีตที่จะบอกรายละเอียดถึงปริมาณฝนที่จะเกิดในพื้นที่หรือจังหวัดใด ส่วนปรากฏการณ์หิมะละลายแม้จะเกิดบนพื้นที่ตอนบนของประเทศไทยขึ้นไปและจะมีผลกับระดับน้ำในแม่น้ำโขง แต่เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เนื่องจากน้ำในแม่น้ำโขงมาจากหิมะที่ละลายเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น

    “ลานินญาที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ของโลกจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อปรากฏการณ์ บางแห่งฝนมาก บางแห่งฝนน้อย หรือบางแห่งอุณหภูมิสูงขึ้น หรือบางแห่งลดลง แต่โดยเฉลี่ยของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีฝนมากร้อยละ 10-15 เรายังคาดการณ์ไปถึงระดับความรุนแรงไม่ได้” ดร.อานนท์กล่าวพร้อมคาดการณ์ว่ากรุงเทพฯ จะร้อนที่สุดวันที่ 23 เม.ย. เพราะตำแหน่งของพระอาทิตย์จะอยู่ตรงศีรษะที่สุด แต่หากวันนั้นมีเมฆและฝนตามมาก็อาจจะไม่ร้อนมาก

    สำหรับสถานการณ์ที่ยุโรปจากการรายงานของเอเอฟพีนั้น ที่ประเทศโรมาเนียรัฐบาลได้ประกาศเตือนภัย 12 เมืองชายฝั่งแม่น้ำดานูบ พร้อมทั้งเสริมกำลังตำรวจ 500 นายให้เสริมความแข็งแรงของกำแพงกั้นน้ำ ส่วนผู้มีอำนาจท้องถิ่นก็วางแผนในการอพยพผู้คน และพยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการควบคุมพื้นที่อุทกภัยไม่ให้น้ำไหลไปท่วมไร่นาบ้านเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่ในชุมชนปลายน้ำ

    ส่วนประเทศเซอร์เบียก็ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและอพยพประชากรออกจากพื้นที่ และมีรายงานว่าเกิดความเสียหายกับพื้นที่เพาะปลูก สาธารณูปโภคต่างๆ และประชาชนหลายสิบคนเสียชีวิต โดยน้ำในแม่น้ำดานูป และอีก 4 สาย ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังในเมืองสเมเดเรโว ขณะที่เมืองโกลูบัค ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางภาคตะวันออกของเซอร์เบีย ถูกน้ำท่วมแล้ว ขณะที่บัลแกเรียมีรายงานว่าระดับน้ำในเมืองลอมซึ่งเป็นเมืองท่าใกล้สูงเป็นประวัติการณ์และรัฐบาลเตรียมแผนอพยพประชาชนไว้แล้ว
     
  2. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    เฮอรริเคนลูกใหญ่ขึ้น เพราะน้ำในทะเลร้อนกว่าแต่ก่อน

    เอพี – ดูเหมือนว่า “แคทรินา” จะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการเป็นเฮอร์ริเคนขนาดใหญ่ทำลายล้างลูกล่าสุด แต่นักวิชาการอุตินิยมวิทยาออกมาเตือนว่ายังมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะมีเฮริเคนขนาดไล่เลี่ยกัน เข้าโจมตีนิว ออรีนส์และส่วนอื่นๆ ของอเมริกาตามแนวชายฝั่งยาวกว่า 200 ไมล์ นั่นก็เพราะน้ำในทะเลร้อนขึ้นส่วนเสริมขนาดของพายุให้ใหญ่ขึ้นไปอีก

    ”สถานการณ์แห่งความยากลำบากยังไม่คลี่คลายในตอนนี้” ซูซาน คัดเตอร์ (Susan Cutter) ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิจัยทางด้านภยันตราย (Hazards Research Laboratory) มหาวิทยาลัยแห่งเซาธ์ แคโรลีนา (University of South Carolina) กล่าว พร้อมกับย้ำเตือนว่า ขณะนี้ทางสหรัฐฯ ยังไม่ผ่านเข้าสู่ช่วงฤดูเฮอร์ริเคนชุกเสียด้วยซ้ำ

    ทั้งนี้ นักอุตุนิยมวิทยามหาวิทยาลัยรัฐโคโรลาโด (Colorado State University) ได้ทำนายว่าจะเกิดเฮอร์ริเคนอีกมากกว่า 6 ลูกในช่วงฤดูเฮอร์ริเคนซึ่งจะสิ้นสุดลงปลายเดือนพฤศจิกายน และ 3 ลูกในจำนวนนั้นจะมีความรุนแรงอยู่ในระดับ 3***
    หรือมากกว่า ซึ่งจะกลายเป็นเฮอร์ริเคนที่หลักๆ ที่อาจจะกระหน่ำทวีปอเมริกาอีกรอบเป็นได้

    ”พวกเราคาดว่า เมื่อพ้นฤดูเฮอร์ริเคนของปีนี้ไปแล้ว เราจะได้สัมผัสกับพายุไต้ฝุ่นเขตร้อนในความรุนแรงใกล้เคียงกับกับที่บันทึกไว้” นักอุตุนิยมวิทยา ม.รัฐโคโลราโดเผย ซึ่งปีนี้มีเฮอร์ริเคนมาเยี่ยมเยือนแผ่นดินสหรัฐฯ ไปแล้วถึง 4 ลูก คือ ไอรีน เอมิลี เดนนิส และแคทรินาล่าสุด ซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

    ทางด้าน โยฮานเนส เวสเตอริง (Joannes Westerink) วิศวกรโยธา มหาวิทยาลัยนอเทรอะ ดาม (University of Notre Dame) ได้สร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ดูการซัดของพายุให้แก่ฝ่ายวิศวกรรมของทัพและองค์กรต่างๆ ที่ดูแลเรื่องภยันตรายของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเขาและทีมงานได้ถอดภาพผลกระทบของแคทรินาในนิว ออรีนส์ และพยายามจำลองดูว่า เฮอร์ริเคนลูกถัดไปจะทำอันตรายเมืองนี้อย่างไรและมากน้อยแค่ไหน

    อย่างไรก็ดี ขนาดความรุนแรงของพายุนั้นขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของผิวน้ำของท้องทะเล ซึ่งในปีนี้ผืนน้ำบริเวณแอตแลนติก ทะเลแคริบเบียน และอ่าวเม็กซิโกนั้นสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงทำให้เกิดเฮอร์ริเคนขนาดใหญ่พัดเข้าถล่มพื้นทวีปหลายลูก และลูกล่าสุดคือ แคทรินาที่ยังคงทิ้งร่องรอยแห่งความเสียหายให้แก่สหรัฐฯ ในฐานะหายนะภัยที่เทียบได้กับเหตุการณ์สึนามิเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

    (***เฮอร์ริเคน ระดับ 3 ขึ้นไปมีความเร็วลม 178-209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูงของคลื่น 2.7-3.7 เมตร ความกดอากาศ 945-964 มิลลิบาร์ อานุภาพในการทำลายล้าง ปานกลาง )
     
  3. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    เผยวิกฤติโลกร้อน อุณหภูมิสูงขึ้นไม่ถึง 1 องศา ภัยพิบัติจะรุนแรงขึ้น 4-5 เท่า

    นักวิจัยรามฯ เผยโลกร้อนเป็นสาเหตุของภัยพิบัติทั่วโลก ชี้อุณหภูมิสูงขึ้นไม่ถึง 1 องศา ภัยพิบัติจะรุนแรงขึ้น 4-5 เท่า แจงประเทศไทยได้รับผลมาโดยตลอด แย้มส่งแผนรองรับไปแล้ว ระบุหลายกระทรวงร่วมลงแขกต่อเนื่อง 5 ปี ดึงงบ 3,000 ล้านเข้ารับมือ เฉือนนักการเมืองไม่ให้ความสำคัญ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

    จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ภาวะโลกร้อนอาจเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกรณีการเกิดพายุเฮอริเคนที่พัดถล่มประเทศสหรัฐอเมริกาหลายครั้ง รวมถึงปัญหาน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

    วานนี้ (12 ต.ค.)
    ดร.กัณฑรีย์ บุญประกอบ นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ได้รับทุนจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) หัวหน้าโครงการจัดทำแผนปฏิบัติการวิจัยพัฒนาเพื่อรองรับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าภัยธรรมชาติที่เกี่ยวกับอากาศและเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เช่น พายุพัดถล่มในประเทศสหรัฐอเมริกา น้ำท่วม น้ำแล้ง ที่มีระดับความรุนแรงมากขึ้น เป็นผลกระทบโดยตรงจากภาวะโลกร้อน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าในรอบ 40 ปี อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นเพียง 0.6 หรือ 1 องศาเซลเซียส ได้ส่งผลต่อระดับความรุนแรงของภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้น 4-5 เท่าตัว

    “สำหรับประเทศไทย แม้ขณะนี้จะยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน แต่ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาก็พบว่าปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม หรือแม้แต่ไฟป่า และการลดลงของพื้นที่ป่าก็เป็นผลโดยตรง และมีความสัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้จัดทำแผนปฏิบัติการวิจัยพัฒนาเพื่อรองรับการภาวะโลกร้อนของประเทศไทยแล้วเสร็จ และส่งให้ สผ.ไปตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา” ดร.กัณฑรีย์ กล่าว

    ทั้งนี้ แผนดังกล่าวประกอบด้วย การประเมินผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่จะเกิดขึ้นกับป่าไม้ ระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อม การเกษตร น้ำกินน้ำใช้ สุขภาพอนามัย โดยจะต้องทำแบบจำลองสถานการณ์เพื่อประเมินผลกระทบออกมาให้ชัดเจน รวมทั้งมาตรการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง อาทิ
    กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงมหาดไทยกระทรวงคมนาคมและกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยมี
    ระยะเวลารวม 5 ปี วงเงินทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท

    “เท่าที่ทราบ ขณะนี้ระดับนักการเมืองยังไม่ให้ความสนใจกับปัญหาภาวะโลกร้อน เพราะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว และมองว่าเป็นแค่งานวิจัยเท่านั้น ทั้งที่ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าไม่มีงานวิจัยก็จะไม่มีคำตอบและแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้งที่ปัจจุบันก็มีสัญญาณบ่งบอกถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วโดยเฉพาะเรื่องน้ำแล้ง น้ำท่วม มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะเชื่อมโยงกับปัญหาผลผลิตทางเกษตร สังคม เศรษฐกิจ การบริโภคที่จะเสียหายหากขาดน้ำ ขณะที่ประเทศสหรัฐฯให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนของไทยกลับทุ่มงบจำนวนมหาศาลแก้ภัยแล้ง แก้ปัญหาขาดน้ำ แต่อาจจะยังไม่ตรงจุด” ดร. กัณฑรีย์ กล่าวทิ้งท้าย

    http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=401148


    http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=401150



    http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=401151
     
  4. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    บีบีซีนิวส์ - ผลการวิจัย ชี้ภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์หลายชนิด เนื่องจากแหล่งที่อยู่โดนทำลาย เผยสัตว์หลายชนิดเปลี่ยนเส้นทางอพยพแล้ว
    นักวิจัยอังกฤษเผยสัตว์หลายชนิดอาจสูญพันธุ์จากภาวะโลกร้อน

    แผนกสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท แห่งสหราชอาณาจักร (The UK’sDepartment of Environment Food and Rural Affairs : Defra) ซึ่งนำโดยคณะกรรมการปักษีวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร (British Trust for Ornithology)แถลงผลการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ในการประชุมสุดยอดการอนุรักษ์ธรรมชาติของสหภาพยุโรป (อียู) ณ ประเทศสก็อตแลนด์ว่า การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ทะเลทรายแผ่ขยายตัว และการเปลี่ยนแปลงทางเพศของเต่าทะเลจากภาวะน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น กำลังเป็นภัยคุกคามโลก โดยภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบถึงการเปลี่ยนเส้นทางอพยพของนกและสัตว์หลายชนิด

    “สัตว์บางสายพันธุ์จะมีความเกี่ยวพันกับประเทศทางใต้มาก เช่น นกยางเปีย (little egret) เต่าหัวฆ้อน (loggerhead turtle) และปลาจำพวกปลาดุก ปลาช่อน และปลากระบอก สัตว์เหล่านี้พบเห็นมากขึ้นทั้งในและรอบๆ เกาะอังกฤษ ซึ่งปัจจุบัน นกจำพวกขายาว เช่น นกหัวโตขาเหลือง (Ringed plover) กลับใช้เวลาช่วงฤดูหนาวในด้านตะวันออกของเกาะอังกฤษมากกว่าด้านชายฝั่งทิศตะวันตก และยังคงวนเวียนอยู่ในสหราชอาณาจักรตลอดทั้งปีมากกว่าการอพยพไปทางใต้” รายงานเพื่อหาวิธีอนุรักษ์สัตว์ป่าให้สามารถปรับตัวกับภาวะโลกร้อนระบุ

    จากการศึกษายังพบอีกว่า สัตว์หลายสายพันธุ์ปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แล้ว ด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการกำหนดเส้นทางอพยพให้มุ่งหน้าไปทางขั้วโลกไกลกว่าเดิม แต่จากการศึกษาก็พบด้วยว่า สัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ไม่สามารถปรับตัวได้ อาทิ หมีขั้วโลก และแมวน้ำ ซึ่งถิ่นที่อยู่ของพวกมันกำลังจะหมดไปเนื่องจากอัตราการละลายของน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์คติกที่สูงมาก

    แม้แต่การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของน้ำทะเลเพียงนิดเดียวก็ส่งผลกระทบต่อสัตว์ได้อย่างน่าตกใจแล้ว เนื่องจากมันทำให้แพลงก์ตอนซึ่งเป็นฐานรากของห่วงโซ่อาหารมีปริมาณลดลงอย่างน่ากลัว และอุณหภูมิที่สูงขึ้นนี้ก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณการผสมพันธุ์ของนกทะเลสก็อตติชลดลงอย่างเฉียบพลันรุนแรงด้วย เพราะปลาที่เป็นอาหารของนกเหล่านี้ก็มีปริมาณลดลงเช่นกัน”

    ทั้งนี้ ผลการศึกษายังแจกแจงถึงผลกระทบจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้แก่ 1. ผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผสมพันธุ์ของนกอัลบาทรอส (albatross) ซึ่งสร้างแรงกดดันมหาศาลแล้วจากการเข้ายึดตะขอตกปลาเส้นยาวโดยบังเอิญได้ 2. มีการคาดการณ์ว่า ภายในศตวรรษนี้ ระดับน้ำทะเลจะขึ้นสูงและเข้าทำลายรังของเต่าทะเลหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น เกือบหนึ่งในสามของชายฝั่งทะเลแถบแคริบเบียนที่เต่าทะเลขึ้นมาทำรังจะถูกทำลายลงภายหลังน้ำขึ้น ส่วนแมวน้ำและนกจำพวกขายาวก็จะสูญเสียชายหาดของพวกมัน

    3. จากภาวะที่น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะทำให้เต่าทะเลบางสายพันธุ์เป็นเพศเมียเกือบทั้งหมด เพราะอุณหภูมิของน้ำทะเลจะมีผลโดยตรงต่อการกำหนดเพศของไข่ที่ฟักออกมา 4.ภาวะขาดแคลนน้ำในหลายๆ พื้นที่ จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งบรรดาสัตว์ปีกที่อพยพมาและอาศัยแหล่งน้ำเหล่านั้นยังชีพ และ5.การแผ่ขยายตัวของทะเลทรายซาฮาร่าจะทำให้นักเดินทางต้องเหนื่อยใจ เช่นเดียวกับพวกนกนางแอ่น เพราะพวกเขาจะไม่สามารถหยุดพักเพื่อเติมพลังในพื้นที่อุดมสมบูรณ์บริเวณขอบทะเลทรายได้อีก

    ฮัมเพรย์ คริก (Humprey Crick) จากคณะกรรมการปักษีวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร หนี่งในทีมงานวิจัยกล่าวว่า ภูมิอากาศที่เปลี่ยนไปมีผลกระทบในวงกว้างแล้วต่อสัตว์อพยพหลายชนิด ตั้งแต่นกนางแอ่นที่บินข้ามทะเลทรายซาฮาร่าไปถึงนกอัลบาทรอส (albatross) จากมหาสมุทรทางทิศใต้ ผลการศึกษาครั้งนี้จึงเป็นตัวชี้วัดผลกระทบที่เกิดขึ้นในวงกว้างว่าเป็นอย่างไร

    “และนี่คือตัวอย่างบางส่วนเพื่อช่วยสัตว์หลายสายพันธุ์ให้สามารถรับมือกับอากาศที่เปลี่ยนไป แต่ที่เราต้องการคือการหาคำตอบให้กับสัตว์ที่ต้องว่ายน้ำข้าทะเล บิน หรือเดินนับพันๆ ไมล์ทุกปี”

    รายงานดังกล่าว เผยอีกว่า ธรรมชาติกำลังปรับเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่งในกระบวนการวิวัฒนาการของสัตว์ ซึ่งให้กำเนิดสัตว์นานาพันธุ์ที่มีความเหลื่อมล้ำกันออกมาบนโลก โดยกระบวนการดังกล่าวคือการจำกัดวงให้แคบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ ตัวอย่างเช่น การเกิดภาวะขาดแคลนน้ำในพื้นที่ชุ่มน้ำ ปริมาณป่าไม้ที่ลดลง และการเกิดขึ้นของชายฝั่งทะเล ดังนั้น หากแหล่งที่อยู่ของสัตว์เหล่านี้ถูกทำลายลง พวกมันก็ไม่มีแม้ที่ที่จะไป

    “อย่างไรก็ดี เชื่อว่า รายงานดังกล่าวจะมีความสำคัญอย่างมากสำหรับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ที่มารวมตัวเพื่อการประชุม ณ ประเทศสก็อตแลนด์ครั้งนี้ และจะกระตุ้นให้พวกเขาตื่นตัวในการใช้ประโยชน์จาก “ทางเชื่อมต่อชีวภาพ” (Biological - corridors) เพื่อเข้าถึงหลักเกณฑ์ที่บรรดาสัตว์อพยพและความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศยึดกุมอยู่ ซึ่งวิธีการอนุรักษ์ทั้งหมดอาจต้องเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยวิธีการป้องกันธรรมชาติที่ดีที่สุดอาจมีประโยชน์น้อยนิด ถ้าสัตว์เหล่านั้นต้ออดตายเพราะไม่มีที่ที่จะไปต่อ” คณะวิจัย กล่าวทิ้งท้าย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  5. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    อิหร่านประกาศจะไม่หยุดแปรรูปแร่ยูเรเนียม

    เอเจนซี - อักบัรฺ ฮาชิมี รัฟซันญานี อดีตประธานาธิบดีของอิหร่านที่ยังคงมีอิทธิพลต่ออิหร่านได้กล่าววานนี้ (17) ว่า อิหร่านจะยังคงแปรรูปแร่ยูเรเนียมต่อไป ขณะที่เกิดความวิตกถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะใช้กำลังทางทหารต่อโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลอิหร่าน

    รัฟซันญานี กล่าวกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความสำเร็จของอิหร่านในการแปรรูปแร่ยูเรเนียม ระหว่างที่เดินทางไปเยือนคูเวต ว่า “สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด สาธารณรัฐอิสลามต้องการที่จะดำเนินต่อไปตามหนทางของมัน”

    อนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อิหร่านประกาศว่า อิหร่านได้แปรรูปแร่ยูเรเนียมเพื่อใช้ในสถานีไฟฟ้าของอิหร่านได้แล้ว ซึ่งเป็นการสั่นคลอนบทบาททางการทูตกับชาติตะวันตก ที่กล่าวหาว่าอิหร่านพยายามที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ แม้ว่า อิหร่านจะถูกกล่าวว่า อิหร่านกำลังหาทางใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อผลิตไฟฟ้าก็ตาม

    ทั้งนี้ รัฟซันญานี ยังกล่าวผ่านล่ามด้วยว่า เขาไม่เชื่อว่าสหรัฐฯจะโจมตีอิหร่าน

    อิหร่านเมินแผนโจมตีของมะกัน ชี้แค่สงครามจิตวิทยาไม่เอาจริงหรอก

    เอเจนซี/เอเอฟพี – อิหร่านไม่สนข่าวสหรัฐฯ วางแผนใช้การโจมตีทางอากาศตอบโต้เรื่องโครงการนิวเคลียร์ ชี้เป็นเพียงแค่การสงครามจิตวิทยาขู่เท่านั้น

    ฮามิด เรซา อะชาฟี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กล่าวตอบโต้กระแสข่าวที่ว่าสหรัฐฯ มีแผนจะโจมตีอิหร่านวันนี้ (9) โดยระบุว่า แผนการดังกล่าวเป็นเพียงแค่สงครามจิตวิทยาที่เกิดขึ้นจากความโกรธและความอับจนหนทางของอเมริกันที่กำลังเดือดพลาดเท่านั้น

    นอกจากนี้ เขายังเตือนด้วยว่า อิหร่านจะไม่ยอมสละสิทธิในการผลิตนิวเคลียร์ และว่า “การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับยูเรเนียมก็ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ”

    ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ทำเนียบขาวกำลังศึกษาทางเลือกในการใช้กำลังทางทหารเพื่อจัดการกับอิหร่าน โดยทางเลือกหนึ่งที่ถูกนำมาพิจารณา ก็คือ การใช้อาวุธทางนิวเคลียร์ที่ใช้ทำลายหลุมหลบภัยได้ เช่น บี 61-11 เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการทำลายโรงงานที่เป็นศูนย์กลางของอิหร่านในเมืองนอตันซ์

    “พวกอเมริกันไม่ได้กำลังมองหาวิธีการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่พวกเขากำลังมองหาการสร้างวิกฤตต่างหาก พวกเขาไม่ต้องการให้เราบรรลุข้อตกลงกับทบวงพลังงานปรมาณูสากล (ไอเออีเอ) และสหภาพยุโรป” อชาฟีกล่าว

    “การส่งเรื่องเราไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะไม่ทำให้เรายอมถอย ในอดีตเราตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเป็นเวลา 27 ปี แต่เรากับมีความเจริญก้าวทางด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์มากขึ้น” โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านกล่าว

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เรียกร้องอิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ภายใน 30 วัน โดยหากอิหร่านปฏิเสธจะมีมาตรการตอบโต้
     
  6. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    อิหร่านทดลองยิงจรวดอันตรายจากทางอากาศได้สำเร็จ!!

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์ภาษาอาหรับอัล อลัม รายงานวานนี้ (5) ระบุว่า อิหร่านประสบความสำเร็จในการทดลองยิงจรวดอานุภาพทำลายล้างสูงชนิดใหม่เป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์

    พลเรือตรีโมฮัมหมัด อิบราฮิม ดีห์กานี โฆษกในการซ้อมรบของอิหร่านในครั้งนี้กล่าวด้วยความยินดี ว่า วานนี้ (5) อิหร่านประสบความสำเร็จในการทดลองยิงจรวดชนิดใหม่ ซึ่งสามารถยิงจากบนเครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์ลงสู่ทะเล หรือพื้นดินได้ และยังสามารถหลบหนีจรวดต่อต้านได้ด้วย

    ทั้งนี้ จรวดดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า “นูร์” มีความสามารถในการทำลายล้างสูง โดยเดห์กานี เผยว่า อาวุธชนิดนี้มีลักษณะเหมือนกับจรวดหลายๆ ลูกที่ทางการอิหร่านได้ทดลองเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของคนอิหร่าน

    ขณะที่ พลเรือตรี อาลี ฟาดาวี รองผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัยคณะปฏิวัติ ระบุว่า ในการซ้อมรบก่อนหน้านี้ ทางกองทัพเคยยิงจรวดชนิดนี้จากพื้นดิน และเรือเร็วมาแล้ว

    “หลังจากศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมแล้ว เราสามารถยิงจรวดจากเฮลิคอปเตอร์ได้ในที่สุด ก่อนที่จะถึงวันนี้ เราเคยยิงจรวดชนิดนี้จากเรือเร็วและจากพื้นดินมาแล้ว” ฟาดาวี กล่าว

    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ (2) ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์รัฐบาลอิหร่านก็ได้เผยแพร่ภาพการทดสอบจรวดใต้ผิวน้ำ ซึ่งมีความเร็วสูงที่สุดในโลก และอ้างว่า เป็นจรวดที่สามารถหลบหลีกการตรวจจับของโซนาร์จากเรือรบข้าศึกได้ โดยอ้างว่า อิหร่านเป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศในโลกที่มีจรวดประเภทนี้ประจำการ และหลังจากนั้นอีกวันเดียวอิหร่านก็ได้ทดสอบการยิงจรวดอีกครั้ง

    ทั้งนี้ การทดสอบอาวุธอานุภาพทำลายล้างของอิหร่านมีขึ้น ท่ามกลางการเฝ้าจับตามองของโลกตะวันตก ที่กล่าวหาว่า ทางการอิหร่านมีความพยายามที่จะมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sun

    sun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +155
    แผ่นดินไหว NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TH minmax_bound="true"></TH><TH align=middle minmax_bound="true">MAG </TH><TH align=middle minmax_bound="true">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LAT
    deg
    </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LON
    deg
    </TH><TH align=middle minmax_bound="true">DEPTH
    km
    </TH><TH minmax_bound="true">Region</TH></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/22 02:04:40</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">2.367</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-84.493</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">30.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">OFF THE COAST OF CENTRAL AMERICA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/22 00:45:15</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">66.769</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-158.304</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">15.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NORTHERN ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"> </TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 22:48:16</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">62.150</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-149.679</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">45.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">CENTRAL ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 21:52:40</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">51.168</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-176.288</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">25.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.8 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 21:06:18</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.866</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.000</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 20:50:06</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.060</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">166.783</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">14.1</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.9 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 19:03:03</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-18.383</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-177.932</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">489.7</TD><TD noWrap minmax_bound="true">FIJI REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 17:41:06</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">55.109</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-159.253</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">20.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">ALASKA PENINSULA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.8 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 16:48:18</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.016</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">166.808</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">15.4</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 16:17:18</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.736</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">165.802</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 16:05:58</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.618</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">165.757</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 15:50:24</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-14.805</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-173.882</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">SAMOA ISLANDS REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 14:22:28</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">6.713</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">126.310</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">86.4</TD><TD noWrap minmax_bound="true">MINDANAO, PHILIPPINES</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 13:45:42</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">44.452</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">148.301</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">53.9</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KURIL ISLANDS</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 13:45:20</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">62.450</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-150.000</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">25.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">CENTRAL ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 13:17:10</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">38.812</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-122.809</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">4.2</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NORTHERN CALIFORNIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 12:50:27</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">52.636</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-164.702</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">40.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">SOUTH OF ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 12:18:50</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.763</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.042</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">15.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.9 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 11:37:44</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">53.064</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-164.639</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">UNIMAK ISLAND REGION, ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 11:19:50</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.219</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.802</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.2</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">6.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 11:14:19</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.393</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.530</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">39.5</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.8 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 09:46:15</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">30.366</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">94.973</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">41.3</TD><TD noWrap minmax_bound="true">EASTERN XIZANG</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 09:41:06</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">51.500</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-179.161</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">90.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 08:57:37</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.547</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">165.806</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">32.4</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 07:40:07</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.915</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">166.910</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">25.9</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.7 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 07:32:29</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.690</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.598</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">36.9</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">6.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 04:32:46</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.601</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">165.804</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.4</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.9 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 03:41:52</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.716</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">165.741</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.7 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 03:05:13</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.096</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.209</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 02:43:48</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.943</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">166.711</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 02:33:44</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.909</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.033</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 01:44:12</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.628</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">166.112</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">32.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.9 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 01:30:06</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.836</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">165.869</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">16.3</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 01:12:11</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.407</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">165.746</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">35.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 00:51:13</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.000</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">166.960</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">29.4</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 00:42:01</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.577</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.525</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">49.3</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 00:39:46</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.673</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.359</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 00:32:36</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.960</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">166.365</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">41.3</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/21 00:06:14</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.956</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.326</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">15.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">NEAR THE EAST COAST OF KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"> </TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/20 23:38:50</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.337</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.581</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">26.0</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">7.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/04/20 23:25:05</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.069</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">167.056</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">38.5</TD><TD noWrap minmax_bound="true">KORYAKIA, RUSSIA</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มหิดลเผยผลสำรวจ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หวั่นน้ำท่วมรุนแรง



    มหิดลเผยปัญหาวิกฤติโลกร้อนเริ่มเห็นชัดขึ้น หลังพบก้อนน้ำแข็งขั้วโลกใต้ขนาดมหึมา 2 ก้อนเกิดการแยกตัวเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ด้านนักวิทยาศาสตร์ชี้มีความเป็นไปได้สูงเกิดน้ำท่วมรุนแรง

    <!--lead-->ดร.จิรพล สินธุนาวา อาจารย์คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสาเหตุหลักของปัญหาภาวะโลกร้อน เกิดจากการใช้พลังงาน กิจกรรมทุกอย่างของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น โดยส่งผลให้ในปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงขึ้น 0.7 องศาเซลเซียส

    ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก กำลังวิตกว่าหากอุณหภูมิสูงขึ้น 2-5 องศาเซลเซียสจะส่งผลให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ละลาย ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นจะมีปริมาตรน้ำเพิ่มถึง 3 ล้านล้านลูกบาศก์กิโลเมตร หมายความว่าระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นอีกประมาณ 200 ฟุต ซึ่งผลกระทบที่ไทยจะได้รับเต็มๆ
    คือชายฝั่งทะเลของไทยจะถอยร่นไปอยู่แถวจ.ลำปาง จ.อุดรธานี บุรีรัมย์ ดร.จิรพล กล่าวว่า เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมามีธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ขนาด 3,200 ตารางกิโลเมตรที่มีขนาดใหญ่กว่าเมืองลอนดอน 2 เท่าหลุดออกจากปลายแหลม และยังไม่รู้ว่าจะลอยลงทะเลหรือจะไปปิดบล็อกช่องทางที่มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ทำงานอยู่ นอกจากนี้เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมาก้อนน้ำแข็งขนาด 120 กิโลเมตรที่ชื่อ B15A ก็หลุดแตกออกมาอีก ขณะนี้ดาวเทียมทุกดวงกำลังจับตาก้อนน้ำแข็งมหึมาทั้ง 2 ก้อนนี้อย่างไม่คลาดสายตา

    เพราะสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เคยวิตกกังวลกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า โดยเชื่อว่าอย่างช้าไม่เกิน 3 ปีจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ทั้งมีบางประเทศที่ได้รับผลกระทบแล้ว เช่น แถบยุโรป พบว่าธารน้ำแข็งเริ่มละลายและหดตัว เอเชียใต้มีภาวะน้ำท่วมรุนแรง เป็นต้น
     
  9. xyz

    xyz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2005
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +533
    ^
    ^
    ^
    2548 - -"
     
  10. สหายพัฒน์

    สหายพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +104
    หนีไม่พ้น

    [VDO]d:/โครงงาน/2/a3.adj[/VDO]
     
  11. thunya6651

    thunya6651 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    อีก 30 ปี ธารน้ำแข็งละลายหมด

    <TABLE height=165 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="17%"></TD><TD width="83%">อีก 30 ปี ธารน้ำแข็งละลายหมด
    แดนเนียล ฮิกเกล แห่งมหาวิทยาลัยเมสสาชูเซตต์ กล่าวว่า"การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก
    แม้เพียงเล็กน้อยจะมีผลขยายกว้างเมื่อเกิดขึ้นกับระบบ ชีววิทยาทั้งมวล" ไข่ของปลาน้ำจืด
    จะไวมากต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิของน้ำ หากอุณหภูมิของน้ำ ในลำธารสูงขึ้น 6 องศา
    ฟาเรนไฮต์ ปลาเทร้าในลำธารจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ในช่วงล่างของลำธาร เขตเทือกเขาแอปปาเลเชียน
    แต่ปลาทะเลบางชนิดจะมีพื้นที่หากินมากขึ้นไปในเขตคานาดา อีกราว 300 ไมล์ ซึ่งแต่เดิมขึ้นไป
    ไม่ได้เพราะน้ำเย็นจัด จึงเป็นผลดีต่อชาวประมงในแคนาดา

    </TD></TR></TBODY></TABLE> มีตัวเลขระบุว่าทุกอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้น 1.8 องศาฟาเรนไฮต์ จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำความอบอุ่นในบ้านเรือนชาวอเมริกา
    ลดลงร้อยละ 11 ชาวอเมริกันในเขตเหนือ เช่น รัฐวิสคอนซิล จะลดค่าใช้จ่ายในการขนหิมะทิ้งได้มาก ขณะที่อุทยานธารน้ำแข็ง
    ในรัฐมอนตานาจะสูญเนียรายได้จากการท่องเที่ยวที่เคยได้ปีละ 80 ล้านดอลลาร์ เพราะธารน้ำแข็งจะละลายหมดเมื่อถึงปี 2030

    แม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้หากโลกร้อนขึ้น แต่ที่แน่นอนและเกิดขึ้นแล้ว คือระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นถึง
    10 นิ้ว และ IPCC ได้ทำนายว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 12 นิ้ว ในปี 2050 และเพิ่มเป็น 23 นิ้ว ในปี 2100 สหรัฐจะสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งทะเล
    ไปราว 10,000 ตารางไมล์ และหากน้ำทะเลสูงขึ้น 2 ฟุต เกาะสมิธในอ่าวเซอปีคที่ชาวเกาะยังคงพูดภาษาอังกฤษแบบสมัยควีนอลิซาเบธ
    จะจมหายไปในทะเล ขณะที่ชายหาดที่มอมมัธเคาน์ตี้ ในนิวเจอร์ซี่และชายหาดลองไอแลนด์ในนิวยอร์ค แม้น้ำทะเลขึ้นสูงเพียง 1 ฟุต
    ในปี 2050 หาดจะหดไปราว 100 ฟุต (เสรีภาพ, 2541 : 5-6)

    นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยใช้แบบจำลองภูมิอากาศ โดยอาศัยสมมติฐานที่ว่าถ้าหากปริมาณ
    ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของโลกในปี 2100 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากระดับปัจจุบัน พบว่าอุณหภูมิผิวพื้นโดยเฉลี่ย
    ทั่วโลกสูงขึ้นประมาณ 1 ถึง 3.5 องศาเซลเซียส และระดับน้ำทะเลสูงขึ้นประมาณ 15 ถึง 95 เซนติเมตร ซึ่ง ส่งผลต่อระบบนิเวศน์
    ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานของมนุษย์ โดยประมาณว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียสก็เพียงพอที่จะทำให้เกิด
    ผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการฟื้นฟูสภาพป่า

    โดยคาดว่าหนึ่งในสามของป่าที่มีอยู่ทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางด้านชนิดพันธุ์พืช โดยเฉพาะกับบริเวณละติจูดสูงๆ
    ขณะที่ในบริเวณพื้นที่น้ำแข็งปกคลุมประมาณว่าหนึ่งในสามถึงครึ่งหนึ่งของภูเขาน้ำแข็งในปัจจุบันจะหายไปในอีก 100 ปีข้างหน้า
    สำหรับภัยต่อมนุษย์นั้น จะเห็นผลชัดเจนกับประชากรบริเวณชายฝั่ง โดยประมาณว่าจะมีประชากรประมาณ 46 ล้านคนต่อปี
    ในปัจจุบันที่เสี่ยงภัยต่อน้ำท่วมเนื่องจากคลื่นซัดฝั่ง และหากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 1 เมตร จำนวนผู้เสี่ยงภัยน้ำท่วมจะสูงถึง 118 ล้านคน
    โดยเฉพาะกับประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆ

    จากการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 1 เมตร ซึ่งเป็นค่าสูงสุดตามที่ประมาณการสำหรับ
    ปี 2100 พบว่าเกาะเล็กๆ และพื้นที่บริเวณปากแม่น้ำเป็นบริเวณที่เสี่ยงภัยสูง โดยได้ประเมินการสูญเสียแผ่นดินของประเทศต่างๆ
    กับระบบป้องกันภัยที่มีอยู่ เช่น ปัจจุบันว่าประเทศอุรุกวัย จะสูญเสียร้อยละ 0.05 อียิปต์ ร้อยละ 1 เนเธอร์แลนด์ ร้อยละ 6 บังคลาเทศ
    ร้อยละ 17.5 และร้อยละ 80 สำหรับเกาะปะการังมาจูโรในหมู่เกาะมาร์แชล และประชากรที่ได้รับผลกระทบจะมีมากประมาณ
    70 ล้านคนในจีนและบังคลาเทศ
     
  12. longhorn48

    longhorn48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +874
    ไม่มีความเห็นจ้ะ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ยอดผู้เสียชีวิตไซโคลนมาลาในพม่าเพิ่มเป็น 21 คน
    ข่าวต่างประเทศ[​IMG]

    ย่างกุ้ง 4 พ.ค.
     
  14. ppinter

    ppinter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +289
    ดาวเคราะห์น้อยดวงยักษ์ อาจพุ่งชนโลกเสียหายย่อยยับ
    ชื่อ รหัสว่า 2006 HZ51 เพิ่งคนพบเมื่อ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา อาจจะมาเยือน ภายในเวลาเพียง 2 ปี
    ข้างหน้านี้

    ลอง search มาคุยกันบ้างไหม
    Big new asteroid has slim chance of hitting Earth

    A newly discovered asteroid is now the biggest thing known with a possibility of hitting the Earth in this century – and it is also the one that could hit the soonest.

    But the odds of impact currently stand at just one in six million, reducing the fear factor somewhat, and these odds should further diminish with additional observations. This latest addition to NASA-JPL's list of potentially hazardous asteroids was discovered on 27 April 2006.

    The asteroid, called 2006 HZ51, has an estimated diameter of about 800 metres and is the one of the largest objects ever to make the list. An object of that size would cause widespread devastation if it did strike the Earth.

    HZ51 also has one of the shortest lead-times to a potential impact of any such object yet found, and the shortest of any potential Earth-impactor currently on the list. The earliest of its 165 possible impact dates is just over two years away, on 21 June 2008.


    (Excerpt) Read more at newscientistspace.com ...
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่อง อาวุธชีวภาพเคมี..เพื่อล้างโลก??

    [​IMG]
    อาวุธเคมี VX อาวุธเชื้อโรค Botulism toxin

    เมื่อคราวที่แล้วผมได้กล่าวถึง คำทำนายของโหรบันลือโลกอย่าง"นอสตราดามุส" ที่ได้ทำนายเกี่ยวกับ..วันโลกาวินาศ!!..ซึ่งจะเริ่มที่ย่านตะวันออกกลาง จากกลุ่มบุคคลที่ต่อต้านไครส์หรือต่อต้านพระเยซูคริสต์นั่น(คือกลุ่มผู้ก่อการร้ายนอกศาสนา)อย่างกลุ่มของ โอสุมา บิน ลาเดน ซึ่งอาจจะกลายเป็นสงครามศาสนาหรือสงครามศักดิ์สิทธิ"จีฮัด"หรือ"Holly War" ซึ่งฝ่ายอเมริกาและพันธมิตร พยายามป่าวประกาศและพบกับผู้นำประเทศมุสลิมแล้วบอกว่า นี้คือสงครามปราบรามผู้ก่อการร้าย( War on Terror) ไม่ใช่สงครามต่อต้านศาสนา แต่ผู้นำอัฟกานิสถาน"ทาลิบัน"จะพยายามบอกว่า นี้คือสงคราม"จีฮัด" มาบังหน้า เพื่อที่จะให้ประเทศมุสลิมต่างๆ และชาวมุสลิมมาร่วมทำสงครามศักดิ์สิทธิ์นี้....แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านี้ก็มีนะครับ...นั่นคือ

    สงครามที่ใช้อาวุธเคมีและชีวภาพ(เชื้อโรค) ซึ่งขณะนี้ที่อเมริกาประกาศให้ประชาชนต้องระวัง!! บางแห่งต้องเตรียมหน้ากากป้องกันสารพิษ(Gas Mask) และห้ามเครื่องบินที่ใช้พ่นยาตามฟาร์มต่างๆขึ้นบินแล้ว...เราลองมาทำความรู้จักกับอาวุธเคมีและอาวุธเชื้อโรคกันดีกว่า... อเมริกามีความวิตกกังวลเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ของการโจมตีจากกลุ่มอาหรับหัวรุนแรง... หลังจากที่อเมริกาชนะสงครามอ่าวเปอร์ในปี1991 และให้องค์การสหประชาชาติ เข้าไปตรวจสอบอาวุธในอีรัค เพื่อหักเขี้ยวเล็บของประเทศอีรัค จะให้มีอาวุธเหลือไว้บ้างก็เพื่อป้องกันตนเองจากเพื่อนบ้านอย่างอิหร่านเท่านั้น....ทั้งอาวุธนิวเคลียร์และเคมี..ชีวภาพ(เชื้อโรค) ปรากฏว่าเจอแต่หลักฐานการผลิตทั้งเอกสารและวัตถุดิบ(อาวุธตัวจริงนั้น ซัดดัม สั่งเก็บไว้อย่างดี เพื่อเล่นซ่อนหากับInspecterจากสหประชาชาติ) ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมากถึง 3.9 ตัน (ปริมาณที่แท้จริงนั้นยังไม่มีใครสามารถระบุได้ว่ามีเท่าไร?) ซึ่งสามารถทำลายพลเมืองทั้งโลก 6,000 ล้านคน ได้ถึง 9 ครั้ง เลยทีเดียว แค่ฟังดูก็สุดสยอง ขนลุกขนพองเชียวนะครับ

    อาวุธเคมีตัวนี้เรียกว่าวีเอ๊กซ์(VX) ซึ่งพาหะของมันใช้ได้ทั้งน้ำและอากาศ อนุภาพที่ร้ายแรงของมันคือเพียงนิดหนึ่งไม่ว่าหายใจเข้าไปหรือทางน้ำดื่ม จะทำให้ตายได้ภายใน 24-36 ชั่วโมง นอกจากวีเอ๊กซ์แล้วยังมีก๊าสมัสตาร์ดและก๊าสชารินล้วนแต่ร้ายแรงมากเช่นกัน อาวุธชีวภาพหรืออาวุธเชื้อโรค ได้รับการเปิดเผยจากลูกเขยของ"ซัดดัม ฮุสเซน"ที่หลบหนีออกนอกประเทศในปี 1995 และในที่สุดก็ถูกสมุนของซัดดัมตามล่าและฆ่าจนตายในที่สุด อาวุธชนิดนี้ต้นทุนในการผลิตถูกมากแต่ได้ผลเกินคุ้มอย่างมหาศาล หรือจะเรียกว่าอาวุธคนจน... อะไรประมาณนั้น!!!.. ผู้ชำนาญการยืนยันว่าเชื้อโรคชนิดนี้ผลิตได้จาก..การเพาะจากเชื้อจุลินทรีย์ ...

    มันคือเชื้อไวรัสแอนแทรกซ์หรือเชื้อพิษโบทูลินัม ด้วยปริมาณเพียงหนึ่งในล้านกรัม ก็สามารถคร่าชีวิตคนที่สูดเข้าไปทางระบบหายใจได้(เชื้อไวรัสอีโบล่าหรือเชื้อโรคเอดส์ ที่ว่าแน่ๆนั้นต้องกลายเป็นจิ๊บจ๊อยไปเลย หากเชื้อไวรัสแอนแทรกซ์นี้กระจายไปในอากาศสามารถปลิดชีวิตผู้คนได้ โดยไม่เลือกเชื้อชาติ สัญชาติ หรือศาสนาใด ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู มวลมนุษย์ทั้งโลกก็ตายได้ด้วยน้ำมือของมนุษย์ด้วยกันเองอย่างน่าสลดใจ และนั่นก็คือภาพของ.."วันวิบัติโลก หรือวันโลกาวินาศ" อีกภาพหนึ่งที่มนุษน์ร่วมสมัยน่าจะคำนึงถึงและหาทางแก้ไขวิกฤติที่จะเกิดขึ้นแก่มนุษย์โลกใบนี้...ฤาจะเป็นเช่นคำทำนาย ของพระศาสดาหลายองค์??....เราก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย..สาธุ..สาธุ!!!

    ที่มา http://www.thailanews.com/worldzero.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2006
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำพยากรณ์ของนอสตราดามุส
    [​IMG]


    คำพยากรณ์ที่ 29 : สงครามเชื้อโรคในมหาสมุทรอาร์คติก
    <O:p</O:p
    Si grande famine par onde pestifere,<O:p</O:p
    Par pluie longue le long du pole arctique :<O:p</O:p
    Samarobryn cent lieuew de l’hemisphere,<O:p</O:p
    Vivront sans loi exempt de politique. (VI,5)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คำแปล
    <O:p</O:p
    จะเกิดทุพภิกขภัยอย่างร้ายแรง อันสืบเนื่องมาจากคลื่นที่ทำให้เกิดเชื้อโรค ฝนจะนำเชื้อโรคนี้มาจากขั้วโลกอาร์คติก ในขณะเดียวกัน ดาวที่มีปีกดวงหนึ่ง จะโคจรอยู่ห่างจากพื้นโลก 270 ไมล์ จะไม่มีหลักเกณฑ์ทางการเมืองหรือกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เหลืออยู่อีกเลย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ตีความและวิเคราะห์
    <O:p</O:p
    จากคำพยากรณ์บทนี้แสดงว่า ฝ่ายตะวันออกยังไม่พึงพอใจกับผลของการทำลายล้างมนุษยชาติที่เกิดจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของตน และจะโปรยเชื้อแบคทีเรียชนิดร้ายแรงลงเหนือน่านฟ้าของมหาสมุทรอาร์คติก จากนั้นลมและฝนก็จะเป็นตัวพาหะนำเชื้อโรคนี้กระจายลงใต้ ไปยังประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และยุโรปทางตอนเหนือ จากข้อความในคำพยากรณ์นี้แสดงว่า การโจมตีด้วยอาวุธเชื้อโรคครั้งนี้กระทำจากยานอวกาศที่โคจรเหนือพื้นโลก 270 ไมล์ ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงในอนุสัญญานครเจนีวาทุกประการ ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารจะบาดเจ็บล้มตายเป็นเบือเพราะผลของการใช้อาวุธเชื้อโรคในครั้งนี้
    <O:p</O:p
    สองบรรทัดแรกของคำพยากรณ์ในบทนี้ ดูคล้าย ๆ กับว่าเป็นการจงใจกล่าวย้ำถึงภาพเหตุการณ์ที่กล่าวมาแล้วในคำพยากรณ์หมายเลขที่ 25 คือ ย้ำถึงเรื่องทุพภิกขภัย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่ามีความรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากคลื่นของระเบิดเพาะเชื้อโรค และฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคที่มีความร้ายกาจนี้แพร่ไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก
    <O:p</O:p
    สิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นผลจากความร้ายแรงของเชื้อโรคนี้ ถ้ามองอย่างผิวเผิน จะเข้าใจว่าเป็นผลระยะยาวของการแผ่รังสีจากระเบิดนิวเคลียร์ ดังที่ได้บรรยายไว้ในคำพยากรณ์หมายเลขที่ 25 แต่ความจริงแล้ว เป็นผลของการใช้อาวุธเชื้อโรคที่มีอันตรายร้ายแรงมากกว่าระเบิดนิวเคลียร์หลายเท่าเสียอีก นางจีน ดิกสัน โหรในกรุงวอชิงตัน เคยพยากรณ์ไว้เหมือนกันว่า ประเทศจีนจะใช้อาวุธเชื้อโรคชนิดร้ายแรงในการทำสงครามครั้งต่อไป ถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามแนวที่นอสตราดามุสกล่าวไว้เป็นนัย ๆ ในคำพยากรณ์บทนี้จริง เราก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่า จีนจะเป็นผู้ใช้อาวุธเชื้อโรคแบคทีเรียชนิดนี้ ในแถบขั้วโลกบริเวณมหาสมุทรอาร์คติก และโดยวิธีนี้เองฝ่ายจีนจะสามารถทำให้กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกถึงกับเป็นอัมพาต ไม่สามารถปฏิบัติการทางทหารได้อย่างเต็มที่ อาวุธเชื้อโรคที่นำมาใช้ในแถบนี้จะมีประสิทธิภาพ ในการทำลายล้างสูงมาก เนื่องจากบริเวณมหาสมุทรอาร์คติกเป็นย่านที่มีความกดอากาศสูง ลมที่เกิดจากบริเวณนี้จะพัดเข้าสู่บริเวณทางใต้ และจะพัดพาเชื้อโรคร้ายแรงแพร่ไปซีกโลกเหนือ นับตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรของโลกขึ้นมาเลยทีเดียว เชื้อโรคที่ร้ายกาจนี้จะแพร่กระจายไป พร้อมกับความชื้น ทั้งเมฆฝนและพายุจะช่วยกระจายเชื้อโรคนี้ไปทั่วบริเวณสหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ และทั่วพื้นที่บริเวณยุโรปอื่น ๆ บางส่วน ซึ่งจีนถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจในขณะนั้น ส่วนประเทศจีนเองจะไม่มีโอกาสได้รับผลร้ายแรงของเชื้อโรคที่ตนใช้ในครั้งนี้เลย เพราะภูมิอากาศของจีนได้รับอิทธิพลมาจากลมมรสุมที่พัดผ่านมาจากทางใต้
    <O:p</O:p
    เป็นที่น่าสนใจว่า นักพยากรณ์รุ่นใหม่ 2 ท่าน คือ จีน ดิกสัน และ เอ็ดการ์ เคย์ซี ได้พยากรณ์ไว้เหมือนกันว่า ช่องแคบเดวิสซึ่งอยู่ระหว่างเกาะบัฟฟินและเกาะกรีนแลนด์ จะเป็น “เส้นชีวิต” ของสองชาตินี้ ช่องแคบเดวิสนี้จะมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เพราะสหรัฐอเมริกา แคนาดาและรัสเซียจะใช้เป็นเส้นทางตรง เพื่อติดต่อถึงกันผ่านทางมหาสมุทรอาร์คติก เป็นไปได้ไหมที่จีนใช้อาวุธเชื้อโรคโจมตีในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีทำลายเส้นทางคมนาคมเส้นนี้ ?
    <O:p</O:p
    คำพยากรณ์ของนอสตราดามุส ซึ่งเกี่ยวกับการใช้อาวุธเชื้อโรคโจมตีครั้งนี้ ได้เปิดเผยสิ่งลึกลับที่ไม่มีใครคาดถึง โดยในบรรทัดที่ 3 ของคำพยากรณ์ ได้กล่าวเป็นนัย ๆ ถึงจุดที่จะใช้ปล่อยอาวุธแบคทีเรียเพื่อโจมตีที่ต่าง ๆ เอาไว้ โดยนอสตราดามุสเขียนไว้ว่า อาวุธนี้จะถูกปล่อยจาก “สมาโรบริน “(Samarobryn) ซึ่งอยู่ห่างจากบรรยากาศ (ของโลก) 100 ลีค (Leagues) จากข้อความนี้มีประเด็นที่พึงนำมาวิเคราะห์ดังต่อไปนี้
    <O:p</O:p
    ประการแรก เราควรวิเคราะห์ก่อนว่า คำว่า 100 ลีค ที่ว่านี้น่าจะเป็นระยะทางไกลเท่าใดกันแน่? ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ลีคเป็นมาตราวัดที่ใช้กันในทวีปยุโรป หนึ่งลีคมีระยะทางประมาณ 2.5 - 4.5 ไมล์ การประมาณระยะทางหนึ่งลีคว่ามีระยะเท่าใดนั้น สามารถจะคำนวณได้ตามคำพยากรณ์อื่น ๆ ของนอสตราดามุส เช่น ที่เขียนบรรยายไว้ตอนหนึ่งว่า โบสถ์เซนต์-ปอล-เดอ เมา-โซล ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเกิดของนอสตราดามุส ในภาคใต้ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโรน (Rhone) เป็นระยะทาง 3 ลีค ซึ่งเมื่อเทียบกับมาตราการวัดในสมัยนี้แล้ว ปรากฏว่าโบสถ์แห่งนี้อยู่ห่างจากฝั่งแม่น้ำโรนเป็นระยะทาง 8.1 ไมล์ ดังนั้น 1 ลีค จึงประมาณ 2.7 ไมล์ เมื่อคำนวณโดยวิธีนี้ก็จะสามารถเทียบได้ว่า 100 ลีค เท่ากับระยะทาง 270 ไมล์
    <O:p</O:p
    ประการที่สอง คำว่า “จากบรรยากาศของโลก” ก็เป็นคำที่น่าสนใจ เป็นการใช้คำที่ถูกต้องตรงกับความจริงในปัจจุบัน เพราะวัตถุที่โคจรรอบโลกห่างจากทุก ๆ จุดของบรรยากาศของโลก 270 ไมล์นั้น แสดงว่าจะต้องโคจรในอวกาศ นอสตราดามุสใช้คำว่าบรรยากาศ (Hemisphere) ตรงกับศัพท์ที่ใช้ในวงการอวกาศสมัยใหม่ เพราะไม่ใช้คำว่าห่างจากพื้นโลก เนื่องจากการวัดระยะห่างจากพื้นโลกไปยังแนวโคจรในอวกาศ (Space) นั้น จะมีระยะห่างไม่แน่นอน เมื่อวัดจากจุดต่างของผิวโลก การวัดจากจุด ๆ หนึ่งอาจจะใกล้กว่าวัดจากอีกจุดหนึ่งก็ได้
    <O:p</O:p
    ประการที่สาม คำว่า “สมาโรบริน” (Samarobryn) เป็นคำสนธิสองส่วน คือ สมาระ หมายถึง ปีกเมล็ดพันธุ์พืช กับโอไบร์ (Obire) เป็นภาษาละติน หมายถึง เร่ร่อน ท่องเที่ยว หรือ โคจร และคำว่าโอไบร์นี้เป็นอกรรมกริยา (คำกริยาที่ไม่เรียกหากรรม) จะใช้บรรยายเกี่ยวกับวัตถุบนฟากฟ้า ส่วนคำว่า “สมาระ” น่าจะมีความหมายในเชิงอุปมาอุปไมยมากกว่า คือ น่าจะหมายถึงเมล็ดพืชบางชนิดที่มีลักษณะกลม ๆ มีปีกตรงกลางยื่นออกมา อาจจะปีกเดียวหรือสองปีก
    <O:p</O:p
    เมื่อนำเอาข้อวิเคราะห์เหล่านี้มารวมกัน ก็น่าจะสรุปประเด็นได้ว่านอสตราดามุสกล่าวถึงวัตถุที่มีโครงสร้างกลม ๆ มีปีกยื่นออกมาและโคจร อยู่ในอวกาศ ห่างจากบรรยากาศโลก 270 ไมล์ ซึ่งในสมัยปัจจุบัน สิ่งนี้น่าจะเป็นดาวเทียมหรือยานอวกาศนั่นเอง
    <O:p</O:p
    สิ่งสำคัญที่น่าสนใจก็คือ ปัจจุบัน ประเทศจีนยังไม่ยอมเซ็นสัญญา ในข้อตกลงห้ามใช้อาวุธเชิงรุกจากอวกาศ อาจเป็นไปได้ว่า ในช่วงต่อไปนี้ ประเทศจีนอาจจะมีขีดความสามารถสูงพอในการที่จะส่งยานหรือสถานีอวกาศไปโคจรในอวกาศก็ได้ เป็นที่ยอมรับกันว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถบอกได้ว่าดาวเทียมต่าง ๆ ที่โคจรอยู่นั้น ๆ ติดอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่นี้ยังไม่มีขีดความสามารถพอที่จะบอกได้ว่ายานอวกาศที่โคจรอยู่นั้นติดอาวุธแบคทีเรียหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ประเทศจีนอาจจะฉกฉวยโอกาสที่ตนไม่ได้เซ็นสัญญาไว้ในข้อตกลงห้ามใช้อาวุธเชิงรุกจากอวกาศ รวมทั้งความด้อยของเทคโนโลยี ในการตรวจจับนี้ ปฏิบัติการตรงตามคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสก็ได้

    ที่มา http://www.geocities.com/thongbai_thira/content.html<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2006
  17. เถรี

    เถรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +6,511
    ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็ตาม ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเป็นดีพอ(b-smile)
     
  18. nineex

    nineex Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +54
    ลองดูนะครับ

    เข้ามาดูหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยสมัครเป็นสมาชิก วันนี้สมัครแล้ว
    อยากลองใช้พลังจิตดูสักทีครับ

    2549
    1.มิถุนายนย่างเข้ากรกฎาคมจะมีฝนตกหนัก
    2.ต้นกรกฎาคมจะมีภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่อีกครั้ง
    3.สิงหาคมจะเกิดวาตะภัยครั้งใหญ่ในอเมริกา
    4.หลังตุลาไปแล้วการเมืองไทยจะได้ข้อยุติ
     
  19. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ข่าวดีสำหรับท่านที่ต้องการบูชาเหรียญทำน้ำมนต์ไว้ใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ


    ......มีความเป็นมาในการสร้างดังนี้ครับ....


    เหรียญทำน้ำมนต์


    ....เมื่อปลายปี ๒๕๔๘ ต่อต้นปี ๒๕๔๙ อาตมาป่วยหนัก "พระ" ท่านเสด็จมาบอกว่า "ยิ่งนานไปโรคภัยไข้เจ็บของคนก็จะยิ่งหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแรงกรรมที่กระทำไว้ ทำให้การรักษาโดยหมอแผนปัจจุบันเป็นไปโดยยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถของ "พระ" ไปได้"


    ....ท่านสั่งให้ทำเหรียญสำหรับทำน้ำมนต์รักษาทุกโรค แต่ไม่ให้ทำมากด้วยเหตุผลว่า "กำลังใจของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ผู้ที่กำลังใจต่ำเอาไปใช้แล้วไม่ได้ผล จะมีโทษจากการปรามาสพระรัตนตรัย"


    ....วิธีใช้ เอาน้ำสะอาดใส่ลงในภาชนะ อาราธนาเหรียญลงแช่ในน้ำ กราบขอบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีพระสารีบุตรมหาเถระเจ้าเป็นประธาน
    ขอได้โปรดทำให้น้ำมนต์นี้เป็นยา รักษาสรรพโรคาพาธทั้งในร่างกายของคนและสัตว์ ให้หายโดยฉับพลันด้วยเถิด

    จากนั้นว่า นะโม ๓ จบ

    อิติปิโส (สามห้อง) ๗ จบ

    นะมะพะทะ ๑๕ จบ



    แล้วอาราธนาน้ำมนต์ดื่มหรืออาบตามอัธยาศัย จะทำครั้งเดียวแล้วเติมไปเรื่อยๆ ก็ได้ ถ้าไม่มั่นใจในความสะอาด อนุญาตให้เอาน้ำมนต์ไปต้มได้


    ....ข้อควรระวัง เหรียญชุบทองควรจะเลี่ยมกรอบ เพราะถ้าทองลอกจะหมดอานุภาพทันที

    ...............................พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    .............................วันวิสาขบูชา (๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๙)


    รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=38225

    .
    .
     
  20. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    กระโถนข้างธรรมมาสน์
    สนทนาธรรมหลวงพ่อเล็ก สุธัมมปัญโญ
    วันเสาร์ 30 ธันวาคม พ.ศ.2543


    ถ้าหากว่าเราย่ามใจ เราประมาทอย่างที่อาตมาเตือนไว้แต่แรก...มันจะพลาด ทุ่มเทมากจะลำบาก ต้องรู้จักหลีก รู้จักหลบ รู้จักถอยเมื่อถึงจังหวะเวลา ไม่ใช่สู้ตะบันไป หลวงปู่หล้า วัดภูจ้อก้อ ท่านเมตตาสอนว่า จงหัดเป็นนักหลบ อย่าเป็นนักรบอยู่ร่ำไป สถานการณ์ไหนรู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ถอยถ้าไม่รู้จักถอยน่ะ เขาเรียกว่า " โง่ "


    คราวนี้มาว่ากันต่อสถานการณ์ประเทศชาตินี่มันเหมือนมองใต้น้ำใช่มั้ย มองอย่างไรก็เหมือนไม่ค่อยจะชัดเจน แต่ยังดีว่าเมืองไทยของเราอันดับแรก บารมีขององค์ในหลวงของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระโพธิสัตว์ใหญ่พระองค์นี้บารมีท่านมากล้นเหลือเกิน สามารถประคับประคองแล้วก็พยุงสถานการณ์ของประเทศชาติของเราให้ทรงตัวอยู่ได้


    อันดับที่สอง สมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าของเราทั้งปวงที่เป็นพรหมเป็นเทวดา เป็นพระอยู่ข้างบนท่านมีหน้าที่อีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่า พระสยามเทวาธิราช พระสยามเทวาธิราชไม่ได้จำเพาะเจาะจงใคร บรรดาพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทั้งปวงในอดีตของเรา ย่อมรัก ย่อมห่วงใยในผืนแผ่นดินไทยนี้ เมื่อท่านไปเสวยสุขอยู่ข้างบนแล้วก็ปฏิบัติหน้าที่ของพระสยามเทวาธิราชด้วย ท่านก็จะช่วยประคับประคองสถานการณ์ประเทศชาติของเราอย่างสุดความสามารถ


    อันดับที่สาม หลวงปู่หลวงพ่อที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเมื่อถึงวาระเวลา ถึงเวลาที่ชะตามันคับขันมาก หลายองค์ที่รู้วาระของตนเลือกเวลาทิ้งขันธ์ในตอนนั้นเพื่อขจัดปัดเป่าเหตุการณ์ที่ไม่ดีต่างๆจากร้ายให้กลายเป็นดี จากหนักให้กลายเป็นเบา ดังนั้นพวกเราอย่าได้กังวล ในหลวงท่านแนะอย่างไรให้ทำอย่างนั้น


    ในปัจจุบันนี้อาตมาอยากจะพูดว่า ต่อให้พระปฏิบัติถึงๆ ความคล่องตัวในทิพจักขุญาณยังสู้ในหลวงของเราได้ยาก กินพระราชาองค์นี้ยาก ผู้ที่ได้ทิพจักขุญาณตั้งแต่ 7 ขวบ และใช้มาจตลอดโดยไม่เคยทอดทิ้ง อีตอนนี้ 73 ขึ้น 74 แล้วน่ะ ใช้มา 60 กว่าเกือบ 70 ปี แล้วคล่องตัวขนาดไหน ปฏิบัติตามที่พระองค์ท่านบอกนะ ไม่ใช่หน้าที่ของตนอย่าไปขวางคนอื่นเขา ไปนั่งบนโต๊ะรีดผ้าเขารีดไม่ไเด้เขาจะเอาเตารีดโขกหัวเอา ใช่ไหม? พระปฏิบัติดีอยู่ที่ไหนในหลวงท่านรู้หมด คนทำดีทำชั่วที่ไหนในหลวงท่านรู้หมด แต่ว่า...ท่านรู้แบบพระ ถ้าไม่จำเป็น ไม่ใช่หน้าที่ ท่านไม่พูด จะมีพระราชดำรัสออกมาแต่ละทีถ้าคนมีปัญญาฟังแล้วสะดุ้ง อย่ากัดกันให้มากนัก... กัดกันนี่ยังไม่หยาบนะจ๊ะ ถ้าทะเลาะกันน่ะหยาบกว่า ภาษาไทยแท้กัดกันไม่หยาบ ทำอะไรไปมีใครรอดพระเนตรพระกรรณไปได้บ้างล่ะ? พระดีมีที่ไหนพระองค์ท่านก็ดั้นด้นไปหา หลวงปู่ครับ หลวงพ่อครับ ช่วยสงเคราะห์ต่อประชาชนทั้งหมดด้วยนะครับ กระผมขอฝากเอาไว้ ไอ้วัดไหนที่ดังอย่างเดียวไม่ดีจริงน่ะ ในหลวงไม่เคยเสด็จหรอก สังเกตดูเถอะ วัดดังๆแถวๆ..... ทูลเชิญยังไม่เคยเสด็จเลย ไอ้ที่ไหนที่ไม่ดีจริงท่านไม่ไปหรอก ในขณะเดียวกันหลวงปู่ หลวงพ่อแก่ๆ อยู่กลางป่ากลางเขาในหลวงกราบถึงตักเลย


    อันนี้สถานการณ์ประเทศชาติจบไปนะเอาแค่นั้นพอ อาตมาเองก็ไม่สามารถที่จะฝืนกฎของกรรมบอกอะไรชัดเจนไปมากกว่านี้ได้ ได้แต่บอกโยมว่า ให้ทำตามในหลวงก็แล้วกัน ยึดในหลวงเป็นหลัก ท่านบอกว่าให้ประหยัดนะ ให้รู้จักใช้เศรษฐกิจพอเพียง ซื้อในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ก่อนจะทำอะไรตรึกตรองให้ดี เราทำตามที่พระองค์ท่านตรัสมา พ่อใหญ่ของคนทั้งประเทศ 60 กว่าล้านบอกแล้ว...

    .
    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...