ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ข่าว"ภัยพิบัติ"จาก ชมรมศาสนาและการกุศล โดยคุณมงคล กริชติทายาวุธ

- ในช่วงที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับโทรศัพท์จำนวนมาก โทรมาแจ้งถึงเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะเกิดในปี 2549 โดยกล่าวอ้างว่าอาจารย์ท่านนั้นบ้าง ครูบาองค์นี้บ้าง และโหราจารย์หลายคน ท่านเตือนเรื่องเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่พายุใหญ่ น้ำท่วมใหญ่ ไฟไหม้ใหญ่ ในกรุงเทพฯ และในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย

- ผู้เขียนได้แต่ปลอบไปว่า

 

เรื่องเล่าของนักปฎิบัติธรรมท่านหนึ่ง
( เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาน )

ความจริงไม่ได้เขียนถึงภัยพิบัติ แต่เป็นเรื่องของการยืนยันความเข้าใจ
ที่บอกว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่ว่ากันนั้น หากเกิดขึ้น จะเกิดขึ้นในเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม 49 มีเหตุในภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไป ภาคเหนือแถวเชียงใหม่ เชียงราย ภาคตะวันออกไล่ลงมา ตามกรรมและตามธรรม หมายถึงหากไม่มีผู้ใดแก้กรรมที่มีอยู่ได้ เหตุการณ์ก็ต้องเกิดขึ้นเพราะ
1.โลกมีร่องรอยของการแตกร้าว
2.อุณหภูมิในขั้วโลกร้อนจัด
3.สภาวะเรือนกระจก
4.ถึงกาลที่ต้องรับกรรม

หากมีผู้เข้าไปแก้กรรม ก็ต้องแก้ด้วยบารมี แต่เนื่องจากโลกร้อนขึ้น อากาศเปลี่ยนมากขึ้น ดังนั้น ต่อไปก็ต้องเป็นไปตามหลักวิทยาศาตร์
แผ่นดินเคลื่อนรอบๆโลกแล้ว ก็เช่นเดียวกับแก้วที่ร้าวทั้งใบ โอกาสที่จะแตกก็มีมากขึ้นตามลำดับ เช่นเดียวกับเหตุการณ์สึนามิ มันจะระเบิดมานานแล้วแต่ผู้มีฤทธิ์ไปช่วยกันดันไว้ (คล้ายกับท่อน้ำที่แตก ตอนแรกก็ยังไปอุดรูได้) ต่อมาแรงดันมันมากขึ้น ใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น ไม่สามารถดันต่อไปได้ หากดันต่ออาจทำให้กระทบต่อโลกทั้งโลก เหล่าเทพพรหมจึงจำเป้นต้องวางมือ โดยการออกมาป้องกันตามสถานที่สำคัญๆไว้แทน

โดยดันบุคคลที่ไม่มีส่วนได้เสียออกนอกพื้นที่
ดันบุคคลที่มีกรรมพัวพันมาอยู่ในพื้นที่
และอารักขาคนบางคนที่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
ดังนั้นคนที่เสียชีวิตจะมีสองส่วนคือ

1.ใช้กรรม
2.ไปรับหน้าที่ในโลกวิญญาณ
ซึ่งผลจากเหตุการนั้นทำให้โลกในทางด้านไทยอินเดียที่ ไม่เคยร้าว ร้าวขึ้นมา ก็จะเป็นผลกระทบต่อๆไป จนเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่จะตามมาคือแผ่นดินทรุดตัวในภาคใต้และภาคตะวันออก และแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในภาคเหนือ ตามหลักสัมพันธภาพ จึงไม่ใช่ของแปลก
--------------------------------------------------------------

ส่วนที่โพสต้นเรื่องนี้เพื่อให้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ว่าคนละเรื่องกับเหตุการณ์ที่ว่า เป็นเพียงการบันดาลโทสะของจอมบาดาล ที่โกรธผู้ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา จึงขยับตัวและพ่นน้ำ แต่เหตุการณ์นี้น่าจะผ่านไปได้ เพราะเหล่าเทพเทวาร่วมกันแก้ปัญหา แต่มันก็ยังคงมีผลกระทบต่อเหตุการณ์เดิมที่กล่าวไว้ อาจจะเกิดขึ้นก่อนกำหนดหรือหลังกำหนดก็ได้
--------------------------------------------------------------

แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องนอกเหนือจากที่มนุษย์จะรับรู้
ดังนั้นไม่ควรจะไปจริงจัง หรือเชื่อตามที่กล่าวมา แต่ขอให้ยึดหลักของพระพุทธองค์ที่ประทานว่า

อย่าประมาท ให้เร่งทำความเพียร สร้างความดีเข้าไว้

ไม่มีอะไรน่ากลัว โลกจะอยู่หรือไม่อยู่เราก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า และผู้ที่สร้างบารมีสร้างความดีมาตลอดเวลาตกนรกหรือตกต่ำไม่ได้ ไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด ไม่ว่าโลกจะแตกไปกี่ครั้ง จะเกิดอีกกี่ภพกี่ชาติ สาธุ
--------------------------------------------------------------


<!-- / message --><!-- sig -->ถามว่าจะมีเหตุเกิดในเดือนที่กล่าวไว้หรือไม่และรู้ได้ยังไง

ตอบว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดในเดือนที่เขียนไว้ ส่วนหนึ่งคือการเปิดให้ดูขององค์เทพซึ่งค่อนข้างจะแน่นอนแต่ไม่ต้องกังวล

ส่วนเหตุการณ์ภาคใต้นั้นไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องที่เจ้าจอมบาดาลอาละวาดน้ำเลยท่วมแผ่นดินแยก แต่ไม่ต้องห่วง เพราะในขณะนี้บรรดาเทพพรหมต่างๆท่านไปชุมนุนอยู่ที่ใต้บาดาลเพื่อไปขอร้อง หรือบิณฑบาตรกับท่านจอมบาดาลไม่ให้พิโรธ และน่าจะประสิทธิแล้วกระมัง ไม่แน่ใจ หากไม่สามารถยุติได้ก็คงจะเกิดประมาณเดือนที่ว่ากล่าวมา

เรื่องของเรื่องคือในขณะนี้ท่านจอมบาดาลพิโรธมนุษย์ทางภาคใต้ที่ลบหลู่พระศาสนา ฆ่าพระเป็นต้น ท่านโกรธมาก เลยขยับตัวไปสองสามรอบเลยเกิดแผ่นดินแยก น้ำท่วม ฝนตกหนัก เพราะท่านจอมบาดาลคือพญานาคราชผู้มีฤทธิ์

ความจริงแล้วในโลกของวิญญาณทุกศาสนามีรากฐานมาอย่างเดียวกันและคำสอนต่างๆเป็นไปตามเหตุการณ์ในวันเวลานั้น ภาษาเทพที่ใช้กันส่วนหนึ่งจะคล้ายภาษาอิสลาม แต่ที่น่าแปลกคือพี่น้องมุสลิมไม่ค่อยจะได้ไปสู่ทิพย์วิมาณเมืองฟ้า ต่างจากศาสนาอื่นไม่ว่าจะเป็น พุทธ คริสต์ ฮินดู ทั้งนี้เพราะผู้สอนมักจะบิดเบือนหรือตีความแตกต่างไป จากสัจจะที่เที่ยงแท้ จนกระทั้งกลายเป็นความแตกแยก กระทั่งมีการทำลายพระพุทธรูปที่ตาลีบัน มีการฆ่าที่ภาคใต้ ที่ศรีลังกาก็รบราฆ่าฟันกันจนศาสนาพุทธหายไปจนกระทั่งต้องนิมนต์พระจากสยามประเทศไปสถาปนา เป็นนิกายสยามวงศ์ เพราะอะไร ตรงนี้คือคำตอบ ดังนั้นสรุปว่า เหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้เพราะเจ้าจอมบาดาลโกรธที่มนุษย์ไปลบลู่พระศาสนา ส่วนเหตุการณ์ในอนาคตนั้นยังมีอีก<!-- / message --><!-- sig -->
--------------------------------------------------------------

เจ้าจอมบาดาลที่ว่าน่ะคือผู้ดูแลพระพุทธศาสนา
ดังนั้นผู้ใดบังอาจทำลายพระพุทธศาสนา ผู้นั้นอาจจะโดนธรณีสูบเช่นพระเทวทัต แต่เดิมพระแม่อัคคีท่านจะเป็นผู้สร้างความบริสุทธิ์
แต่พระแม่อัคคีท่านใจอ่อน ยังรอดูท่าทีก่อนเพราะจะไปโดนเอาผู้บริสุทธิ์ด้วย ส่วนเจ้าจอมบาดาลท่านท่านก็ไม่ได้ตั้งใจ
แต่ท่านโกรธมาก ท่านเลยขยับตัวจะเริ่มต้นเท่านั้น
ตอนนี้องค์เทพเลยต้องลงไปเฝ้าเจ้าบาดาลทุกพระองค์
เพื่อป้องกันไม่ให้โลกถล่ม
--------------------------------------------------------------


(ท่านผู้ใดอ่านแล้วไม่ชอบใจ ก็ขอให้ต่อว่าผม(เกษม) แต่เพียงผู้เดียว เพราะผู้ให้ข้อมูลนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้แต่อย่างใด)

<!-- / message --><!-- sig -->

 

ปีจอ..หมาหางกุด โสรัจจะทาย! ทั้งปีแย่

หลายโหรไม่ว่าโหรจีน โหรไทยต่างมีคำทำนาย ไปคนละแบบ แต่คำทำนาย ของโหรชื่อดัง โสรัจจะ นวลอยู่ โหรไทยเจ้าของคำทำนายฮือฮา ก่อนเหตุ 11 กันยา 2544 ดูจะยิ่งแตกต่าง
โหรโสรัจจะไม่เชื่อว่า ปีจอปีนี้ เป็นปีหมาร่าเริง แต่จอปีนี้ จะเป็น หมาหางกุด

ผูกดวงเมืองแล้ว โหรโสรัจจะส่ายหัว ปีนี้เป็นปีที่ยุ่งยากและมีอะไรมาขมวดปมจนยุ่งเหยิงไปหมด ลัคนาประเทศถูกเบียดเบียนจากดาวเคราะห์ เต็มอัตรา และตราบใดที่ดาวพฤหัสบดียังโคจรอยู่ในราศีตุล เกือบหนึ่งปีเต็มๆ จะมีแต่บาปเคราะห์มาช้ำเติม

“ทั้งปี เมืองไทยต้องระมัดระวัง และที่ต้องระวังมากที่สุดคือภัยธรรมชาติ”

เดือนมกราคม จะเกิดภาวะทางการเงินตึงตัว สถาบันการเงินและธนาคารมีปัญหา หุ้นตกอย่างวินาศสันตะโร จะมีเครื่องบินตกภายในประเทศ ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ความแห้งแล้งมาเยือน เกิดไฟป่าไปทั่วทั้งภาคใต้ ตะวันออก

ในกรุงเทพฯ จะมีการก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ การเมืองจะเริ่มปะทุ เกิดความแตกแยกแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยเฉพาะระหว่างคนรวยคนจน

กุมภาพันธ์ ฝ่ายที่ประสงค์ให้เกิดแตกแยกของรัฐบาล จะระดมโหมสรรพกำลังเข้ามายั่วยุ ทดสอบความใจเย็นและความละเอียดรอบคอบของรัฐบาล ช่วงนี้ยังเป็นระยะที่เปราะบางอย่างยิ่ง ผู้มีอำนาจจะตัดสินใจอะไร ขอให้คำนึงถึงอนาคต

กลางเดือนกุมภาฯ เกิดรถไฟฟ้าชนกันตกราง คนตายมากมาย ทางใต้ร้อนเป็นไฟ ถูกก่อวินาศกรรมอย่างรุนแรง จะเกิดอุบัติเหตุใหญ่ๆตลอดทั้งเดือน

ด้านชายแดนไทย จะมีการขัดแย้งรุนแรงกับเพื่อนบ้านเขมรและพม่า เกิดโรคระบาดสัตว์ร้ายแรงในภาคเหนือ วัวควายนับหมื่นล้มป่วยใช้งานไม่ได้ ปลายเดือน เรือโดยสารล่ม ตายหมู่หลายสิบคน
มีนาคม จะมีดารานักแสดงประสบอุบัติเหตุหรืออาจล่วงลับหลายคน, สงฆ์อลัชชีถูกเปิดโปงความชั่ว จะมีเรื่องราวชี้ว่าศีลธรรมเสื่อมหนัก พ่อค้าจะฉวยโอกาสขึ้นราคาอย่างหน้าเลือด

ในกรุงเทพฯ อาจมีการก่อวินาศกรรมอีกครั้ง สถานทูตหลายประเทศจะเป็นป้าหมาย
เมษายน ภาคใต้จะมีการเผาโรงเรียนหลายแห่ง, คนระดับผู้นำ จะถูกลอบทำร้าย, บุคคลสำคัญจักเจ็บไข้ได้ป่วย

รัฐบาลจะประสบภาวะวิกฤติ รัฐมนตรีที่มีอำนาจบางคน ที่ใช้อำนาจย่ำยีกฎหมาย ขัดขวางการทำงานของคนอื่น...จะต้องรับกรรม

ภาคใต้จะเกิดจลาจลใหญ่ องค์กรระหว่างประเทศต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจต้องประกาศสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน ค่าเงินบาทถดถอย ตามความผันผวนของเงินดอลลาร์

หุ้นจะตกอย่างรุนแรง ธนาคารขนาดใหญ่ประสบภาวะเงินฝืดเคือง กำลังซื้อลดลง บรรดาบริษัทห้างร้านหรือโรงงานผลิตสินค้าประสบปัญหาทางการตลาด เกิดปัญหาทางการส่งออก จำเป็นต้องลดจำนวนคนงาน โรงงานทั้งเล็กและใหญ่ปิดตัวลงมากมาย, เรือเดินสมุทรใหญ่ๆอาจอับปางด้วยอุบัติเหตุ

พฤษภาคม เดือนนี้ คนในรัฐบาลจะแตกความสามัคคี มือที่สามจะยุยงให้เกิดการสไตรก์ การหยุดงานเรียกร้องค่าจ้างสร้างความปั่นป่วน ปัญหาชายแดนภาคใต้จะก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งอย่างรุนแรง
ผลของการโคจรของดวงดาว ในภาวะวิสมคติกาลเช่นนี้ บ่งว่าบ้านเมืองของเรายังคงอยู่ในระยะหน้าสิ่วหน้าขวาน คับขัน และมีดวง สูญเสียบุคคลสำคัญ

มิถุนายน รัฐบาลเผชิญหน้ากับปัญหา กับหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจต่างๆที่ก่อหวอดสร้างความวุ่นวายโกลาหล เป็นช่วงเวลาที่ผู้นำต้องเพิ่มความระมัดระวังอันตราย

“บุคคลสำคัญจะเกิดขัดใจกัน จนตกจากตำแหน่ง อาจมีการปรับ ครม. หรือยุบสภา เป็นจังหวะที่ไม่ปกติ ผสานกับเหตุยุ่งๆการก่อวินาศกรรม ความตึงเครียดตามชายแดน”

จะเกิดภัยพิบัติทางทะเลครั้งยิ่งใหญ่ คลื่นยักษ์อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวในหมู่เกาะสุมาตรา พัดเข้าถล่มหมู่เกาะและชายฝั่งด้านอันดามันอีกครั้ง

กรกฎาคม ภาคตะวันออกจะประสบภัยแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำดื่มและ น้ำใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม กรณีพิพาทการแย่งน้ำจะเป็นปัญหาใหญ่

บ้านเมืองจะมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ นักวิชาการจะมีบทบาทเข้ามาบริหารบ้านเมือง ดวงดาวแห่งประเทศไทยคงถอยหลัง จะเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงทางภาคเหนือ จะมีอุบัติภัยทางทะเลและอากาศ

สิงหาคม หุ้นตกอย่างรุนแรง จะเกิดดีเปรสชันผ่านตอนเหนือของประเทศ น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและอีสานลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด

กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน

ปลายเดือน จะมีเรือชนกันเสียหายมากที่อ่าวไทย เรือบรรทุกน้ำมันเสียหายที่สุด น้ำทะเลจะเต็มไปด้วยคราบน้ำมันลอยเป็นแพไปทั่ว

ปลายเดือน สนามบินแห่งใหม่ มีถูกก่อวินาศกรรม

กันยายน จะเกิดอุบัติภัยทางน้ำ ทางอากาศ กับเรื่องแทรกซ้อนต่างๆ ทยอยกันเข้ามาโดยไม่ว่างเว้น เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่ไม่น่าไว้วางใจ และมีโรคระบาด ไข้หวัดนกจะกลับมาอีก หนนี้ติดต่อมาถึงคน จะตายมากกว่าทุกครั้ง จะมีพายุโซนร้อนผ่านภาคกลางและตอนใต้ของไทย สร้างความเสียหายไปทั่ว ถนน สะพาน ทางรถไฟ เขื่อนเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ และสาธารณูปโภคจะถูกทำลาย

ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ คนงานในบริษัทใหญ่ถูกลอยแพ ข้าราชการต้องถูกปลด สร้างความวุ่นวาย เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่จะต้องเผชิญกับภัยทางเศรษฐกิจรุนแรง มาเลเซียอาจต้องเปลี่ยนแปลงผู้นำ

ตุลาคม พายุโซนร้อนยังคงมารุกรานบ้านเราอยู่ เดือนนี้จะพาดผ่านตอนใต้อย่างรุนแรง คนจังหวัดชุมพรโดนวาตภัยร้ายแรง ปลายเดือนเกิดพายุไซโคลนลูกใหญ่ พุ่งเข้าไทย ผ่านมาโหมเข้าภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ

ช่วงนี้อาจมีข่าวอุบัติเหตุใหญ่ๆทางอากาศบ่อยครั้งขึ้น และ จะเกิดโรคระบาดพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดไปทั่วโลก อย่างเช่นไข้หวัดใหญ่ และกาฬโรคสายพันธุ์ใหม่ ที่รุนแรงกว่าเดิม คร่าชีวิตมนุษย์บนโลกเป็นหลายสิบล้านคนรวมทั้งประเทศไทย

พฤศจิกายน เป็นเดือนอันตรายเหมือนเมื่อปี 2548 จะเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่อีก อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เครื่องบิน ภายในประเทศจะตก มีวาตภัยและอุทกภัยอย่างใหญ่หลวง คนมากมายไร้ที่อยู่

ราวกลางเดือน พายุโซนร้อนผ่านตอนใต้อย่างรุนแรง ชาวใต้ต้องอพยพด่วน เกิดความโกลาหล ชายฝั่งทะเลตะวันออกถูกพายุหอบลงทะเลไปหลายร้อยครอบครัว มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครั้งใดๆ ที่ต้องระวังคือ เกิดกาฬโรคใหญ่ ทางภาคอีสาน จะมีคนตายกันมาก

เดือนธันวาคม จะพบแต่ความยากลำบากทุกชาติทุกภาษา ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และสังคม ในราวกลางเดือนนี้ น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็วสุดยับยั้ง เกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ที่ถาวรขึ้นในบริเวณที่ลุ่มต่ำของโลก

ประเทศไทยบางส่วนจะถูกน้ำท่วมใหญ่ ประกอบกับจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เป็นระยะๆ
หันมาดูสังคมไทย วงการสงฆ์ไทยจะต้องปฏิรูปอย่างหนัก

โหรโสรัจจะ ออกตัวว่า การพยากรณ์ดวงเมืองปี 2549 นี้ แม้คำทำนายค่อนข้างจะร้ายแรง แต่ก็อยากจะขอเตือนว่า อย่าหลงเชื่อจนงมงาย วิชาโหราศาสตร์ เป็นเพียงทฤษฎีที่กำหนดใช้เป็นหลักพยากรณ์

การพยากรณ์เป็นเพียงความคาดคะเน ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้

ที่สำคัญกว่าก็คือ สำหรับมนุษย์ต้องยึดถือผลกรรม ยึดมั่นกรรมดีและกรรมชั่ว เมื่อรู้ว่าจะมีทุกข์ ก็ขอให้มุ่งสร้างแต่กรรมดี ละเว้นการกระทำชั่ว

ในทางกลับกัน ถ้าเป็นบุคคลประเภทตั้งหน้าตั้งตาแต่จะกอบ โกยความสุขเกษมเปรมปรีดิ์ให้กับตนเอง ไม่คำนึงถึงผลเสียซึ่งจะเกิดขึ้นต่อผู้อื่น ก็ขอให้พึงสังวรไว้เลย คุณจะต้องประสบกับความหายนะที่ไม่อาจแก้ไขได้เลย.

อ้างอิงจาก http://www.thairath.co.th/thairath1/2549/column/scooper/jan/3_1_49.php

 

โหรคนนี้ปีที่แล้วก็ทำนายไว้น่ากลัวแบบนี้แหละ สรุปว่าถ้าเป็นแบบที่โหรคนนี้ทำนายในปี 2548 ปี2549 คงไม่มีประเทศไทยแล้วล่ะ

 

ปธน.อิหร่านสวนกระแสผู้นำโลกอยากให้ผู้นำยิวไปสู่ที่ชอบ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มกราคม 2549 10:49 น.



เอเอฟพี/เอเจนซี - ผู้นำทั่วโลกส่งความหวังให้นายกฯ ยิวฟื้นจากอาการป่วยในเร็ววัน ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าชะตาชีวิตของเขาจะก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในตะวันออกกลาง ขณะที่ประธานาธิบดีอิหร่านสวนกระแสสนับสนุนให้ชารอนไปสู่ที่ชอบไวๆ พร้อมไล่ส่งแกนนำยิวให้ตามไปด้วย

สำนักข่าวอิสนารายงานวานนี้(6) โดยอ้างคำพูดของ มะมูดห์ อะห์มาดิเนจัด ประธานาธิบดีอิหร่านระบุว่า ผู้นำหัวอนุรักษ์นิยมของอิหร่านเผยว่า เขาต้องการให้เอเรียล ชารอน นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเสียชีวิตไป และยังปรารถนาให้ผู้นำยิวที่ยังเหลืออยู่ตามชารอนไปด้วย

ทั้งนี้ คำพูดของผู้นำอิหร่านมีขึ้นสวนกระแสกับความหวังของผู้นำโลกทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วารดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ตลอดจนผู้นำประเทศทางฝั่งยุโรปทั้งหลาย รวมถึงสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 และ โคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ที่แสดงความหวังว่า ชารอนฟื้นตัวจากอาการป่วยโดยเร็ววัน แม้แต่ มะมูด์ อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ก็ยังแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับอาการป่วยของชารอนเป็นอย่างยิ่ง แม้จะยังคงยืนยันว่า ชะตากรรมของผู้นำยิวจะไม่มีผลต่อการจัดการเลือกตั้งของปาเลสไตน์ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้าอย่างแน่นอน



ด้านนักวิเคราะห์ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงอนาคตทางการเมืองของอิสราเอล โดยเกรงกันว่าอาการป่วยของชารอนจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของอิสราเอลที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคมนี้ และจะทำให้กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางหยุดชะงักลงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ ก่อนหน้าที่ชารอนได้จุดชนวนความหวังให้แก่การสร้างสันติภาพระหว่างชาวยิวและชาวปาเลสไตน์ด้วยการสั่งให้รื้อถอนชุมชนชาวยิวออกจากฉนวนกาซาและบางส่วนของเวสต์แบงก์

สำหรับอาการทั่วไปของผู้นำอิสราเอลนั้น ชโลโม มอร์ โยเซฟ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฮาดาสซาห์ เผยว่าขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาแต่ก็ไม่ได้ทรุดลงจากเดิม ทั้งนี้ คาดว่าคงมีเพียงแต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้ชารอนกลับมาเป็นผู้นำทางการเมืองของอิสราเอลได้ก่อนการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองระบุว่า หากเขาเสียชีวิต หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ดังเดิม การเลือกตั้งซึ่งเขาเป็นตัวเก็งมาโดยตลอดจะกลายเป็นการเลือกตั้งที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยคาดว่า เอฮุด โอลเมิร์ท รองนายกรัฐมนตรี วัย 60 ปี รักษาการนายกรัฐมนตรี อาจทำหน้าที่หัวหน้าพรรคคาดิมาแทนชารอน หากเขาไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ส่วนตัวเลือกอีกคนคือ ซีปี ลิฟนี่ รัฐมนตรียุติธรรม วัย 47 ปี ขณะที่เมียร์ ชีทริต รัฐมนตรีคมนาคมอิสราเอล กล่าวว่า อาการป่วยหนักของชารอนส่งผลกระทบต่อพรรคคาดิมาอย่างยิ่ง และว่าจะมีการประชุมใหญ่พรรคคาดิมา ในอีก 2-3 วันนี้ หากอาการของเขายังไม่ดีขึ้น

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000001549

 

อิรักป่วนรับปีใหม่!วันเดียวโดนโจมตีดับกว่า100ราย เจ็บอีกระนาว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มกราคม 2549 11:41 น.



เอเจนซี/บีบีซีนิวส์/ซีเอ็นเอ็น - อิรักกลับมาปั่นป่วนอีกครั้งหลังเกิดเหตุระเบิดพลีชีพ 2 ระลอกใหญ่ในวันเดียว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 120 คน บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน นับเป็นเหตุรุนแรงครั้งใหญ่ที่สร้างความสูญเสียมากที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือน

สถานการณ์ในอิรักกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งแล้ววานนี้ (6) เมื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุระเบิดพลีชีพหวังสังหารประชาชนใน 2 เมืองใหญ่ของอิรัก โดยเหตุระเบิดพลีชีพครั้งแรกเกิดขึ้นใกล้กับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวชีอะห์ ในเมืองการ์บะรา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิรักในช่วงเช้าวานนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน และได้รับบาดเจ็บนับร้อย

จากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นอีกระลอกหนึ่งบริเวณศูนย์รับสมัครเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองรามาดีทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 60 คน และได้รับบาดเจ็บอีกนับร้อยคน นอกจากนี้ ในวันเดียวกันที่กรุงแบกแดดเมืองหลวงของอิรักยังได้เกิดเหตุคาร์บอมบ์อีกจำนวน 2 ครั้ง ทำให้ทหารสหรัฐฯ

หลังเกิดเหตุ จาลัล ตอลาบานี ประธานาธิบดีอิรักออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุโดยระบุว่า พวกกลุ่มก่อการร้ายที่คิดว่า การโจมตีดังกล่าวจะทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างกลุ่มชาวอิรักที่เคร่งในศาสนา และก่อให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองนั้นคือพวกที่คิดผิดถนัด และว่า "กลุ่มก่อการร้ายในมุมมืดนี้จะไม่มีวันประสบความสำเร็จจากการก่อเหตุด้วยวิธีการแบบคนขี้ขลาด"

ทั้งนี้ เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอิรักครั้งนี้นับเป็นความเหตุนองเลือดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวังนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ ที่ระบุว่าในปี 2006 รัฐบาลชุดใหม่ของอิรักจะนำพาประเทศไปสู่สันติสุขมากกว่าปีที่ผ่านมา


http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000001629

 

ผมขอทราบหน่อยว่า ไม่ทราบว่าคุณทักษิณ ชินวัตร จะมีจุดจบเช่นไร ที่ทำกับประเทศไทยขนาดนี้+++ ใครมีญาณช่วยตอบด้วยครับ

 

มองแต่แง่ดีเถิด​

" เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาส่วนที่ดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width=585 border=0><TBODY><TR><TD width=312>คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย </TD><TD width=269>จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น</TD></TR><TR><TD width=312>ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศพิธราชธรรม์ </TD><TD width=269>จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ</TD></TR><TR><TD width=312>คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพท </TD><TD width=269>อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน</TD></TR><TR><TD width=312>มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล </TD><TD width=269>เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง</TD></TR><TR><TD width=312>พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก </TD><TD width=269>อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง</TD></TR><TR><TD width=312>ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง </TD><TD width=269>ผีเมืองนั้นจะออกไปสู่ไพร</TD></TR><TR><TD width=312>พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี </TD><TD width=269>พระกาลกุลีจะเข้ามาเป็นไส้</TD></TR><TR><TD width=312>พระธรณีจะตีอกไห้ </TD><TD width=269>อกพระกาลจะไหม้อยู่เกรียมกรม</TD></TR><TR><TD width=312>ในลักษณะทำนายไว้บ่ห่อนผิด </TD><TD width=269>เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม</TD></TR><TR><TD width=312>มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม </TD><TD width=269>มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด</TD></TR><TR><TD width=312>มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้น</TD><TD width=269>มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ</TD></TR><TR><TD width=312>ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด </TD><TD width=269>เกิดวิบัตินานาทั่วสากล</TD></TR><TR><TD width=312>เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา </TD><TD width=269>จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล</TD></TR><TR><TD width=312>สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชน </TD><TD width=269>มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก</TD></TR><TR><TD width=312>ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว </TD><TD width=269>คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์</TD></TR><TR><TD width=312>ลูกศิษย์จะสู้ครูนัก </TD><TD width=269>จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย</TD></TR><TR><TD width=312>ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ </TD><TD width=269>นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย</TD></TR><TR><TD width=312>กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย </TD><TD width=269>น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม</TD></TR><TR><TD width=312>ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า </TD><TD width=269>เพราะจันฑาลมันเข้ามาเสพสม</TD></TR><TR><TD width=312>ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ </TD><TD width=269>เพราะสมัครสมาคมซึ่งมารยา</TD></TR><TR><TD width=312>พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท </TD><TD width=269>ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา</TD></TR><TR><TD width=312>อาสัจจะเลื่องลือชา </TD><TD width=269>พระธรรมาจะตกลึกลับ</TD></TR><TR><TD width=312>ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ </TD><TD width=269>จะสาปสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ</TD></TR><TR><TD width=312>ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์ </TD><TD width=269>สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ</TD></TR><TR><TD width=312>ทั้งอายุศม์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปี </TD><TD width=269>ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย</TD></TR><TR><TD width=312>ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป </TD><TD width=269>ผลหมากรากไม้จะถอยรส</TD></TR><TR><TD width=312>ทั้งแพทย์พรรณว่านยาก็อาเพศ </TD><TD width=269>เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด</TD></TR><TR><TD width=312>จวงจันทน์พรรณไม้อันหอมรส </TD><TD width=269>จะถอยถดไปตามประเพณี</TD></TR><TR><TD width=312>ทั้งเข้าก็จะยากหมากจะแพง </TD><TD width=269>สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่</TD></TR><TR><TD width=312>จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี </TD><TD width=269>ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน</TD></TR><TR><TD width=312>กรุงประเทศราชธานี </TD><TD width=269>จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน</TD></TR><TR><TD width=312>จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล </TD><TD width=269>จะสาละวนทั่วโลกหญิงชาย</TD></TR><TR><TD width=312>จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์ </TD><TD width=269>จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย</TD></TR><TR><TD width=312>จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย </TD><TD width=269>ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ</TD></TR><TR><TD width=312>ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก </TD><TD width=269>เวียงวังจะรกเป็นป่าเสือ</TD></TR><TR><TD width=312>แต่สิงห์สาระสัตว์เนื้อเบื้อ </TD><TD width=269>นั้นจะหลงเหลือในแผ่นดิน</TD></TR><TR><TD width=312>ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย </TD><TD width=269>จะสาปสูญล้มตายเสียหมดสิ้น</TD></TR><TR><TD width=312>ด้วยพระกาลจะมาผลาญแผ่นดิน </TD><TD width=269>จะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม</TD></TR><TR><TD width=312>กรุงเทพอโยธยาจะสูญแล้ว </TD><TD width=269>จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม</TD></TR><TR><TD width=312>ไปจนคำรบปีเดือนคืนยาม </TD><TD width=269>จะสิ้นนามศักราชห้าพัน</TD></TR><TR><TD width=312>กรุงเทพอโยธยาเขษมสุข </TD><TD width=269>แสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์</TD></TR><TR><TD width=312>จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์ </TD><TD width=269>นับวันจะเสื่อมสูญ เอยฯ </TD></TR></TBODY></TABLE>
จากเรื่องอาเพศ ๑๖ ประการดังกล่าวข้างต้น เป็นเรื่องของการพิจารณาความเปล<WBR>ี่ยน แปลงของสังคมไทย ที่เปลี<WBR>่ยนแปลงไปในทางที่เลยร้ายที<WBR>่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต หากคนไทยยังทำอะไรขาดสติ ขัดต่อศีลธรรม ขัดต่อจารีตประเพณี ระเบียบวินัยอ่อนแอ การศึกษาน้อย มักง่าย ขี้เกียจ ลุ่มหลงในอบายม<WBR>ุขและการละเล่น ไม่ละอายและเกรงกลัวต่อบาปกรรม ยอมให้กฎหมู่และอิทธิพลเถื่อนอยู่เหน<WBR>ือกฎหมาย คนมั่งมีเอารัดเอาเปรียบคนยากจน คนฉลาดเอารัดเอาเปรียบคนที่โง่กว่า ผู้มีอำนาจเนรคุณต่อแผ่นดินด้วยการโกงกินแบบบูรณาการ โกงกินแบบทั้งโครต ยักย้ายผ่องถ่ายแปรรูปสมบัติของแผ่นดิน โฆษณาชวนเชื่อใน นโยบาย ท<WBR>ุนนิยม ประชานิยม และบริโภคนิยม ทำให้เกิดปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม<WBR>ตามมามากมาย เชื่อว่าในปี ๒๕๕๑ คงจะได้พบเห็นอาเพศ ๑๖ ประการนี้ ถ้ารอดได้ ก็ไม่เกินปี ๒๕๖๐ ได้เผชิญชะตากรรมในอาเพศ ทั้ง ๑๖ ประการแน่

 

ผมคิดว่าเราไม่ควรที่จะไปใส่ใจกับความชั่วความไม่ดีหรือชะตากรรมของคนอื่นเค้า เราควรที่จะกระทำแต่สิ่งที่ดีงามในชีวิตของเราไว้ก่อนจะดีกว่า

 

เราต่างก็มีกรรมของเราไม่ต้องห่วง...เราต้องได้รับผลกรรมที่เราได้กระทำไว้อย่างแน่นอน ทำดี ดี อันนี้จริงแท้แน่นอนที่สุด

ตริตรองลองพินิจพิจารณาด้วยปัญญา แล้วจึงค่อยตัดสินใจเชื่อ
กาลามสูตร
(กาลามสูตร เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือ เกสปุตตสูตร)
สูตรหนึ่งในคัมภีร์ติกนิบาต อังคุตตรนิกาย พระพุทธเจ้าตรัสสอนชนชาวกาลามะ
แห่งเกสปุตตนิคม ในแคว้นโกมล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผล ตามหลัก ๑๐ ข้อ คือ
๑.
มา อนุสสะเวนะ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังบอกตามๆ กันมา
๒.
มา ปรัมปรายะ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมาอย่างปรัมปรา
๓.
มา อิติกิรายะ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
๔.
มา ปิฎกสัมปะทาเนนะ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ คำว่า ปิฎก ในที่นี้ก็คือ สิ่งที่เรา
เรียกว่าตำรา สำหรับพระพุทธศาสนา ก็คือ บันทึกคำสอนที่เขียนไว้ในใบลาน
เอามารวมกันไว้เป็นชุดๆ เรียก ไตรปิฎก
๕.
มา ตักกะเหตุ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยตรรก ด้วยการใคร่ครวญตามวิธีที่เรียกว่า ตรรกะ
เพราะว่าตรรกะก็ยังผิดได้ ในเมื่อเหตุผลหรือวิธีใช้เหตุผลมันผิดอยู่
๖.
มา นะยะเหตุ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอนุมาน ด้วยเหตุผลว่าสมเหตุสมผลทางนัยยะ
๗.
มา อาการะปะริวิตักเกนะ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล ด้วยการตรึกตามอาการ
คือ ตามความคุ้นเคย ด้วกยการคิดตามสบายใจ ที่เรียกกันสมัยนี้
ว่า common sense
๘.
มา ทิฏฐินิชฌานักขันติยา
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีของตน อย่าได้รับเอาเพราะว่าสิ่งนั้น
ทนได้ต่อการเพ่งด้วยทิฏฐิของตน ตัวเองมีทิฏฐิอย่างไร ถ้าเขามาสอนด้วย
คำสอนชนิดที่เข้ากันได้กับทิฏฐิของตัวเอง ก็อย่าเพิ่งถือเอา
เพราะว่าทิฏฐิของตัวเอง ก็ผิดได้
๙.
มา ภัพพะรูปะตายะ
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าเชื่อ เพราะเหตุว่าผู้พูดมีลักษณะ
น่าเชื่อถือ มีคำพูด มีลักษณะท่าทางที่น่าเชื่อ
๑๐.
มา สัมโณ โน คะรูติ
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา
ต่อเมื่อใด พิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล เป็นกุศล
มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
คำสอนทั้ง ๑๐ ข้อนี้ เรียกว่าเป็นเสรีภาพในการรับถือธรรมะ
มาเป็นที่พึ่งของตน
________________________________
ยามเย็นเมฆลอยคล้อยเคลื่อน

ตะวันเดือนเลื่อนลอยคล้อยต่ำ

หลบลับขอบฟ้าเวลาล่วงเลย

เหตุเพราะโลกหมุนไม่หยุดนิ่งเฉย

อันวันเวลาย่อมผ่านพ้นไป

ลอยไปลอยไปไม่กลับย้อนมา

เวลา เวลา ไม่เคยคอยใคร

เวลา เวลา ไม่เคยคอยใคร

หวนคิดสักนิดถึงขีวิตคน

สำรวจตัวตนบนวันเวลา

บกพร่องภาระเวลาล่วงเลย

โธ่เอ๋ย โธ่เอ๋ย อยู่เฉยทำไม

 

ผมคิดว่าคงไม่จำเป็นจะต้องเลยไปถึงปี 2551 หรอกครับ ผมว่าแค่ปัจจุบันนี้โลกเราก็ตกต่ำลงไปมากแล้ว

 

ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิน ชินวัตรไปอีก 16 ปีครับ และจะมีรัฐบาลที่มาจากพรรคไทยรักไทยไปอีก 22 ปี

 

พายุหิมะกระหน่ำซินเจียง เดือดร้อนกว่า 6 แสนคน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 มกราคม 2549 16:14 น.


เอเอฟพี08/01/06 - รัฐบาลจีนเร่งส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง ภายหลังพายุหิมะกระหน่ำติดต่อกันนานถึง 9 วัน คร่าชีวิตสัตว์เลี้ยงไป 9,234 ตัว ปิดกั้นเส้นทางสัญจร และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกว่า 600,000 คน ในจำนวนนี้ล้มป่วยกว่า 6,000 คน พร้อมกันนี้ ทางการยังได้เตือนให้เตรียมรับมือสภาพอากาศที่มีแนวโน้มเลวร้ายลงอีกด้วย

นอกจากนี้ บ้านเรือนของประชาชนกว่าหมื่นหลังถล่มเนื่องจากปริมาณหิมะที่กองทับ ทำให้ทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 92,000 รายออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่ เขตอัลไทในซินเจียง ซึ่งมีหิมะปกคลุมสูงกว่า 1 เมตร บางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด -43 องศาเซลเซียส เฉลี่ยอุณหภูมิต่อวันอยู่ที่ -17 องศาเซลเซียส


อ้างอิงจาก http://manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000002409

 

อินเดียเผชิญน้ำค้างแข็งเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2549 09:35 น.


ประชาชนในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย มีโอกาสได้เห็นน้ำค้างแข็งในฤดูหนาวเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปีเมื่อวานนี้ สภาพอากาศดังกล่าวส่งผลให้ทางการอินเดียต้องสั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่วันนี้เป็นเวลานาน 3 วันและอุณหภูมิในกรุงนิวเดลียังลดต่ำลง 0.2 องศาเซลเซียสเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2478 มีน้ำค้างแข็งเกาะตามรถยนต์ และตามสายไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ และขณะนี้มีการสร้างที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในเมืองหลวง ประมาณ 150,000 คนแล้ว หลังสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าสภาพอากาศที่หนาวจัดจะเกิดขึ้นต่อไปอีกหลายวัน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า คลื่นความเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยได้คร่าชีวิตประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 9 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 146 คน นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เฉพาะที่รัฐอุตตรประเทศมีผู้เสียชีวิต 112 คน โดยเมื่อปีที่แล้วจำนวนผู้เสียชีวิตจากอากาศที่หนาวจัดในรัฐนี้มีประมาณ 420 คน


http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000002596

 

ไต้หวันพัฒนาขีปนาวุธยิ่งไกลถึงแผ่นดินใหญ่

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2549 10:27 น.


เอเอฟพี 09/01/05 – นิตยสารด้านการทหาร ระบุไต้หวันได้ดัดแปลงต้นแบบขีปนาวุธแบบครูสมิสไซล์รุ่นใหม่ขึ้นมา 3 ลำ ซึ่งมีพิสัยการยิงถึงฝั่งตะวันออกของจีนแผ่นดินใหญ่

ทั้งนี้ ครุสมิสไซล์ (Cruise Missile) นำร่องด้วยระบบ GPS แล่นไปตามแผนที่ที่บันทึกไว้ในโปรแกรม สามารถกำหนดให้เลี้ยวเลาะซอกแซกไปตามภูมิประเทศในระดับต่ำและคดเคี้ยวได้ ซึ่งยากที่ระบบตรวจจับทางอากาศจะตรวจพบ

“ขีปนาวุธที่มีชื่อว่า ‘สงเฟิง 2E (Brave Wind)’ จะถูกนำไปติดตั้งบนฐานยิงภาคพื้นดินแบบเคลื่อนที่ และในเบื้องต้นไต้หวันมีแผนจะผลิตขีปนาวุธให้ได้ถึง 50 ลูกก่อนปี 2010 และค่อยเพิ่มเป็น 500 ลูก” เจน’ส ดิเฟนซ์ วีคลีย์ ระบุในบทความที่จะลงตีพิมพ์ในฉบับวันที่ 11 ม.ค.นี้

ด้วยอานุภาพที่ยิงได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร ขีปนาวุธนี้จะสามารถโจมตีไปยังเป้าหมายทางชายฝั่งตะวันออกของแผ่นดินใหญ่ แต่ถ้ายิงจากเกาะเผิงหูทางใต้ของไต้หวัน หรือเกาะถังหยินทางเหนือของไต้หวัน จะสามารถยิ่งได้ไกลถึงฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งไต้หวันยังมีแผนที่จะขยายศักยภาพให้ยิ่งได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรในอนาคต

สถาบันจงซันในไต้หวัน ยังอยู่ระหว่างผลิตขีปนาวุธที่พัฒนาขึ้นจากระบบเครื่องบินรบมิสไซล์ Sky Bow ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย ‘ตื่นตัวทางกำลังทหาร’ ที่จะก้าวไปสู่การจัดตั้งกองทัพไต้หวัน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปักกิ่งเคยขู่ว่าจะโจมตีไต้หวันหากมีพฤติกรรมจะแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันให้ไต้หวันพยายามเสาะหาอาวุธมาป้องกันตัวเองมากขึ้นในทันที ด้านเพนทากอนเคยออกรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วว่า จีนได้พัฒนาขีปนาวุธ 730 ลูกที่มุ่งเป้าไปยังเกาะไต้หวัน.


http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000002501

 

เหมือนสงครามเกมส์คอมพิวเตอร์เลย
จิตใจของพวกที่ทำสงครามกันคงจะเป็นแบบหุ่นยนต์
แข็งกระด้าง
ไม่มีความรัก
เอ่อยังมีอีกนะ
ทำสงครามแบบว่า มีศาสนาเป็นตัวชูโรง

 

5 มหาอำนาจสั่งอิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 มกราคม 2549 10:00 น.


มหาอำนาจนิวเคลียร์ทั้งห้า ได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน ส่งสารขอให้อิหร่านยุติการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ และกลับมาเจรจากับมหาอำนาจยุโรปทั้งสาม เพื่อหาทางแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อกล่าวว่า มหาอำนาจนิวเคลียร์ทั้งห้าต่างส่งสารถึงอิหร่าน หลังจากทางการอิหร่านประกาศเดินหน้าวิจัยเชื้อเพลิงนิวเคลียร์อีกครั้งเมื่อวานนี้
รายงานข่าวเปิดเผยว่า สหรัฐฯ พยายามให้มหาอำนาจนิวเคลียร์ทั้งห้า ออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อกดดันอิหร่าน แต่ถูกจีนขัดขวางและตัดทอนความรุนแรงของเนื้อหา อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า ท่าทีขัดขวางของจีนไม่เป็นผลมากนัก เนื่องจากรัสเซียเห็นด้วยกับท่าทีของสหรัฐฯ และชาติตะวันตก


http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000003146

 

เปลวสีเงิน
ไทย'ในหายนะ'โลกใหม่


10 มกราคม 2549 กองบรรณาธิการ

ชาวบ้านเขาคลางแคลง-ระแวงสงสัยว่า "มันมีอะไรที่ไม่บริสุทธิ์โปร่งใส ซุกซ่อนอยู่ในสัญญา FTA ที่ไทยทำกับสหรัฐหรืออย่างไร นายกฯ ทักษิณจึงไม่ยอมนำเรื่องเข้าพูดจากันในสภาก่อน?"


นั่นคือประเด็น "ระแวงแรก" ที่ประชาชนมีกับรัฐบาลทักษิณในเรื่องการทำ FTA ไทย-สหรัฐ

ประเด็น "ระแวงสอง" ก็ในเมื่อนายกฯ ทักษิณมีกิริยาส่อพิรุธ เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย มีรัฐสภาเป็นที่พูดจาปรึกษาหารืองานของชาติ แต่ทำไม...กลับนิยมใช้แต่ "สภาชิน"

มันก็ส่อชัดซิครับว่า FTA ที่ไทยทำกับสหรัฐครั้งนี้ มันต้องมีผลประโยชน์ "เฉพาะกลุ่ม-เฉพาะตัว" ของใครบางคนแอบแฝงอยู่ด้วย

ค่อนข้างแน่!?

ครับ...นั่นเป็นมุมมองของชาวบ้าน แต่ในมุมมองของผมนั้น เรื่อง FTA ไทย-สหรัฐ ผมมองข้ามช็อต "เลย-ลึก" ไปมากกว่าแค่ผลประโยชน์เฉพาะคน-เฉพาะกลุ่มอย่างที่คิดๆ กัน

เพราะนี่คือปฏิบัติการ 1 ใน 100 ในแผนรวมโลกของสมาคมลับที่ก่อตั้งขึ้นในสหรัฐเมื่อ 150 กว่าปีมาแล้ว ขณะนี้ก็ยังอยู่ และไม่อยู่เปล่า หลังจากที่สร้างสหรัฐ สร้างยุโรป จนครองโลกได้ทุกวันนี้

ณ ขณะนี้ ได้เริ่มรุกตามแผนผ่านองค์กรต่างๆ ของเขา "จะแจ้งขึ้น" ในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้

องค์กรที่ออกหน้า และออกปฏิบัติการชนิด "เปิดเผยตัว" สู่ประชาคมโลกแล้ว แถมเข้มข้น-เป็นจริงมากขึ้นในปัจจุบันนี้ก็คือ องค์กรที่มีชื่อย่อว่า CFR ในสหรัฐนั่นแหละ

ท่านเคยได้ยินว่าคำ New World Order หรือที่ถอดความเป็นภาษาไทยว่า "รัฐบาลโลก" บ้างไหม?

ท่านเคยได้ยินองค์กรหัวกะโหลกกระดูกไขว้บ้างไหม?

และท่านทราบหรือยังว่า UN ก็ดี World Bank ก็ดี IMF ก็ดี Fed ก็ดี ล้วนก่อตั้งขึ้นจากการหนุนหลังของ CFR เพื่อใช้เป็นเครื่องมือดำเนินงานไปสู่เป้าหมาย "จัดระเบียบโลกใหม่" ดังที่เรียกว่า

"รัฐบาลโลก" หรือ New World Order!

และผมคิดว่าหลายท่านก็คงเคยได้ยินแล้วเช่นกันว่า 1 ในสมาชิกผู้มีบทบาทเพื่อองค์กรชัดเจนในอันที่จะเข้ามา "จัดระเบียบโลกใหม่" นั้นก็คือ

อดีตประธานาธิบดีบุช พ่อของประธานาธิบดีบุช "คนปัจจุบัน" นั่นเอง!

แต่พูดกันไปอีกที ในจำนวนประธานาธิบดีสหรัฐที่มีมาทั้งหมด 43 คน มากกว่าครึ่งอยู่ในขบวนการ New World Order ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเดโมแครต หรือรีพับลิก

เรื่องนี้สนุกมาก และเป็นความสนุกที่น่าสะพรึงกลัวในการหวนคืนกลับของการรวมเป็นจักรวรรดิโลก มันเดินตามแผนมาชนิดไม่เคยหยุดนิ่ง โดยสวมหน้ากากนักบุญเงินกู้เดินตามแผนผ่านสถาบันการเงินโลก ผ่านองค์กรทางความช่วยเหลือต่างๆ กระทั่งองค์การสหประชาชาติ

การควบคุมและเข้าครองทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเฉพาะแหล่งพลังงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำ น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซ ป่าไม้ ในประเทศต่างๆ บนโลกใบนี้

โดยเข้าไปหลอกประเทศโง่ๆ ที่คลั่งความเจริญในรูปวัตถุผ่านโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ให้ตกเป็นทาสเงินกู้ ซ้ำต้องสูญเสียสิทธิประโยชน์ และทรัพยากรธรรมชาติในชาติตัวเองให้เขาไปตลอดกาล

องค์กรรัฐบาลโลก โดย CFR ที่บุชผู้พ่อเป็นสมาชิกอยู่ จะใช้เครื่องมือตามเครือข่ายที่เขาสร้างขึ้นเข้าหว่านล้อม แนะนำ ชักจูง บีบบังคับ ข่มขู่ คุกคาม ขย้ำเอา

เรียกว่า "ทำทุกรูปแบบ" เพื่อการเป็นเจ้าเข้าครองเบ็ดเสร็จ ในเชิงเศรษฐกิจ และอำนาจชักใย!

หว่านล้อม ชักจูง หลอกล่อ สนับสนุน ให้ทำโครงการใหญ่ๆ อย่างที่เรียกว่าเมกะโปรเจ็กต์ แล้วก็ให้เงินกู้ แลกกับเงื่อนไขสัญญาสัมปทานที่บริษัทในเครือข่าย CFR เป็นเจ้าของ

สุดท้าย ประเทศเหล่านั้นก็หลงเชื่อ กู้เงินมาทำโครงการ ผลคือ...เป็นหนี้ไปตลอดชาติ อย่างวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 นั่นมิใช่อุบัติเหตุ แต่มันคือความตั้งใจให้เกิด

ก็เห็นไหมล่ะ...เราต้อง "ขายชาติ" ด้วยการแก้กฎหมาย เขียนกฎหมายใหม่ "ตามใจ-ตามสั่ง" ของเขา เพื่อเปิดประตูชาติให้กองทัพทุนสหรัฐในเครือข่าย CFR เข้ามาเป็นเจ้าเข้าครองไทย

มันแทะกินถึงกระดูกไปตลอดชาติ แล้วกอบโกยผลประโยชน์นั้นกลับสหรัฐ โดยขัดขี้ไคลจากตีนให้ "พวกไทยขายชาติ" ที่สมคบ และอำนวยความสะดวกในการเขมือบชาติให้บ้างนิดๆ หน่อยๆ ในรูปของคำว่า

หุ้นส่วนทางธุรกิจ!

ประเทศในละตินอเมริกา ในแอฟริกา ในเอเชีย ในตะวันออกกลาง ตกเป็นทาส CFR ไปแล้วทั้งนั้น ไม่ว่า เอกวาดอร์ กัวเตมาลา เวเนซุเอลา เปรู ปานามา ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน คูเวต อินโดนีเซีย สิงคโปร์

อิรัก อัฟกานิสถาน กำลังคาบลูก-คาบดอก อิหร่าน ก็คงไม่นานหรอก

และไทยก็ "ติดกับดัก" เพราะคลั่งความเจริญด้วยวัตถุ มันเริ่มมาตั้งแต่นำระบบ BIBF เข้ามาใช้ จนพังในปี 40

แล้วมันก็โบยตีทาสเงินกู้ผ่านกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนบ้าง บังคับให้ต้องแก้กฎหมาย-เขียนกฎหมายสนองประโยชน์กลุ่มทุนนอกจนเรียกกันว่า "กฎหมายขายชาติ" บ้าง

นโยบายต่างๆ ของทักษิณที่งมงายชื่นชมกันว่า เป็นนายกฯ หัวก้าวหน้า "คิดใหม่-ทำใหม่" ชนิดที่ไม่เคยมีนายกฯ คนไหนทำได้-คิดได้มาก่อน นั้น

ตุ๋ย..!

ต่อให้เอา "หม่ำ-จ๊กมก" มาเป็นนายกฯ วันนี้ ก็ต้องคิด-ต้องทำอย่างที่ทักษิณคิด-ทักษิณทำเปี๊ยบเลย!

เพราะเจ้า CFR โดยผ่าน IMF และ World Bank มันบังคับให้ต้องทำอย่างนั้นๆ ตามแผนที่เขาต้องการนั่นเอง!

กระทั่งพวกเมกะโปรเจ็กต์ใหม่ๆ นับล้านล้านบาท เบื้องหลังที่ซุกซ่อนอยู่ มันก็คือแผนหลอกให้ไทยเป็นหนี้ต่ออีก โดยแลกกับสิทธิประโยชน์ทางทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตร ป่าไม้ พืชพันธุ์ สมุนไพร ฯลฯ

จุ๊..จุ๊..อย่าเอ็ดไป ไทยเรานั้นซุกซ่อน "น้ำมัน-ก๊าซ" อยู่ใต้ดินมหาศาล

มันเจอแล้ว!!

แต่ระดับชาวบ้านเราๆ ยังไม่รู้!

เหนือสหรัฐมี CFR นโยบายทักษิณคือ Dual Tract ส่วนรัฐบาลโลกใหม่ นามธรรมของเขาคือระบบโลกาภิวัตน์ รูปธรรมมันก็มี 2 ทางเช่นกัน คือ ทำโลกให้เป็นตลาดเสรี และบังคับให้แปลงรัฐวิสาหกิจหลักของประเทศนั้นๆ เป็นของเอกชน...เพื่อมันจะเข้าครอบครอง.


http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=10/Jan/2549&news_id=118426&cat_id=200

 

new world order ถ้าคิดในแง่ที่ว่าโลกรวมกัน ไม่แบ่งชาติพันธ์ ไม่แบ่งศาสนา ทุกคนเป็นเพื่อนกัน พี่น้องกัน รักกัน เป็นแบบที่ว่าสนิทชิดชอบกลมเกลียวกัน ไม่เกลียดกันเหมือนทุกวันนี้ ไม่มีการแบ่งชนชั้นกัน มีฐานะเท่าเทียมกัน เศรษฐกิจเฉลี่ยให้มีต้นทุนลดลงต่ำลง ไม่สูงมากเกินการณ์
ถ้าเป็นแบบนี้ได้ โลกเราคงจะมีความสุขน่าดู