ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ประเทศไทยเจอแต่ภัยเกี่ยวกับน้ำเท่านั้นแหละ

 

มีเกิดมีดับ

ชาตะ มารณะ

ดับแล้วก็เกิดอีก แล้วกับดับอีก

ว่าแล้วก็ประชาสัมพันธ์เว็บซะเลย 555

เว็บเรื่องเล่าลึกลับ มาโพสกันได้นะครับ

http://mysteriousstory.pantown.com/

 

อนุโมทนาสาธุ

อนุโมทนาสาธุ ที่ภัยจะไม่เกิดขึ้นจนเป็นอันตรายร้ายแรงกับประเทศไทย (แต่ประเทศอื่น ไม่ทราบ)

 

ถ้า "กระแสแห่งมนต์และเทวดาในพระพุทธศาสนาคอยปกป้องคุ้มครอง" มีความศักดิ์สิทธิ์จริงแล้ว

1. พุทธศาสนาคงไม่เสื่อมจากอินเดีย แผ่นดินต้นกำเนิด
2. กรุงสุโขทัย คงไม่ตกเป็นเมืองขึ้นแก่ ศรีอยุธยา
3. กรุงศรีฯ คงไม่แตกจนสิ้นแผ่นดิน
4. พม่า คงไม่ตกป็นเมืองขึ้น พวกผมแดง
5. สยามประเทศ คงไม่เสียแผ่นดินไปเกือบครึ่งให้อ้ายพวกผมแดง
6. ไทย คงไม่เป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ของพวกต่างด้าว อย่างปัจจุบัน
7. อื่นๆ อีกมากมาย

ไม่ต้องอ้างนะครับว่า เป็นเพราะประเทศโน้น ประเทศนี้ ก่อกรรมทำเข็ญไว้กับพระพุทธศาสนา ถึงได้วิบัติฉิบหายอย่างนั้น เพราะถ้าหากศักดิ์สิทธิ์จริงคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจนแก้ไขไม่ได้ แล้วตามมาเอาคืนภายหลัง (เหมือนพวกแก้แค้นสิบปี ก็ไม่สาย) เก่งจริง แน่จริง ก็ปกป้องไว้ให้ได้ซิ รักษาเอาไว้ให้ซิ

ตื่นจากฝันซะเถิด ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีที่ควรจะเป็น ตราบใดที่มวลมนุษย์ยังไม่เลิกกระทำชำเราธรรมชาติ ยังไม่ยกระดับจิตวิญญาณแห่งตนให้สูงขึ้น มันก็ต้องเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ย้ำอีกครั้งว่า "ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง" แม้แต่เหล่าเทพก็ไม่เป็นอมตะ แล้วเอาอะไรมาช่วยมนุษย์ ถ้ามวลมนุษย์ไม่ช่วยตนเองซะก่อน

ย้ำ ... เลิกเพ้อเจ้อ ซะ

 

^
^
ใช้ตรรกะแบบเด็กประถมคิดเอาเหรอครับ...จับแพะมาชนแกะให้วุ่นวายไปหมด เขาพูดกันถึงเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ แล้วไอ้เรื่องศาสนาพุทธเสื่อมจากอินเดีย กรุงศรีแตก พม่าตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่ง นี่มันเป็นภัยธรรมชาติตรงไหน? ตลก!!!

 

ใช้ตรรกะแบบเด็กอนุบาลตอบหรือ ครับ ถ้าอ่านภาษาไทยไม่แตก ก็กลับไปศึกษาวิชาภาษาไทย ซะใหม่ แล้วค่อยมาตอบ ไป๊

 

นั่งรอคำตอบอยู่ตั้งนาน เสียเวลาจริงๆ ที่แท้ก็พวกแอบเอาเวลาทำงานมาเล่นเน็ต คุณไม่ต้องตอบแล้วละ เพราะผมจะไม่เข้ามากระทู้นี้อีกแล้ว ไม่อยากตอบพวกอ่านภาษาไทยไม่แตก ยักยอกเวลาทำงานมาเล่นเน็ต แล้วยังมีหน้ามาพูดธรรมะ ศีลข้อเล็กๆ ยังรักษาไม่ได้ ป่วยการที่จะพูดถึงภัยพิบัติอื่นๆ

 

ผมเห็นด้วยกับอ.ไก่นะครับ ยังไงประเทศไทยก็คงต้องอยู่รอดครับ ว่าแต่เว็บนี้มีไว้คุยกันแต่สิ่งดีๆนี่ครับ อย่ามาเถียงกันเลยครับ ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

 

ไปดูภาพถ่ายดาวเทียมกันก่อน ได้ลุ้น

http://www.cnn.com/WEATHER/Asia/sat.html
http://weather.is.kochi-u.ac.jp/QL/00Latest.jpg

 

พอโดนแหย่เข้าหน่อยก็ถึงกับเต้นเป็นกระเทยโรคจิตเชียวนะ 555

การใช้วาจาก้าวร้าวส่อเสียดแบบคุณนี่ก็ผิดศีลไม่ใช่เหรอครับ ตัวคุณเองก็ยังทำไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ กะอีแค่ศีลข้อเล็กๆยังรักษาไม่ได้แล้วจะไปมีปัญญาทำอะไรได้ ทางที่ดีเก็บเอาคำพูดของคุณที่ด่าคนอื่นน่ะไว้ใช้กับตัวเองและครอบครัวดีกว่ามั้ง เพราะขนาดตัวเองยังทำไม่ได้แล้วจะยังจะมีหน้ามาสั่งสอนตักเตือนคนอื่น

ไอ้ที่ว่าคนอื่นอ่านภาษาไทยไม่แตกน่ะ ด่าตัวเองด้วยหรือเปล่า? เขาพูดเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่มีไอ้เสร่อมาจากไหนไม่ทราบ ไปยกเอาเหตุการณ์กรุงศรีแตกมาสับสนุนความคิดตัวเอง แล้วไล่ชาวบ้านเขาว่าเพ้อเจ้อ โคตรจะเรื่องเดียวกันเลย

และก่อนที่จะว่าอะไรใคร หัดมองตัวเองเสียก่อน ไม่งั้นคำด่าทั้งหลายที่สำรอกออกมามันจะเข้าตัว อ้อ...แล้วผมก็ไม่ได้เอาเวลาทำงานมาเล่นเน็ทด้วย ก็เพราะคิดเองเออเองแบบนี้ไงเล่า ถึงมีสติปัญญาแค่หางอึ่ง

อย่ามาบอกว่าจะไม่เข้ากระทู้นี้อีก คุณน่ะเข้ามาอ่านแน่ ไอ้คนประเภทโทสะจริตจิตใจขุ่นมัวไปด้วยความโกรธความเกลียดความเคียดแค้นอย่างคุณเนี่ยผมเจอมาเยอะ รู้ทางเป็นอย่างดี 555

 

แค่ ซึนามิ ก็ทำใหความเศร้าโศรก สอดแทรกแทบทุกหย่อมหญ้า แล้ว ยังไม่พอ ทางเหนือ ยังโดนถล่มด้วย น้ำ แม้แต่ อเมริกา ทวีป ก็ยังหนีไม่พ้น แถม วันที่ผ่านมา ก็เป็นแผ่นดินไหว แถวประเทศแถบอินเดียอีก ผู้คนล้มตายกัมากมาย นี่ยังไม่หมดปีเลย จะปรากฏเหตุการณ์อะไรอีกก็ไม่รู้ สวรรค์โปรดเมตตา อย่าใหเกิดโศกนาฎกรรม เช่นนี้แก่มวลมนุษย์อีกเลย

 

แปลกจริง พอจดหมายลึกลับออกมาว่าจะเกิด ต่างก็มีคนมายืนยันว่าจะเกิดๆๆ พอเวลาใกล้เข้ามาแล้วมันไม่เกิดก็อ้างว่าขึ้นไปกราบทูลถามองค์สมเด็จสมโพธิญาน แล้วท่านก็บอกว่าได้อนุโลมให้ หรือ จะเกิดแต่กับเมืองนอกเท่านั้น มันเอาไงแน่

อย่ามาตั๋วกันตี้หละ เรื่องของสมาธิการเข้าเฟ้าองค์สมโพธิญานนั้นไม่ใช่ของเล่นที่จะเอามาพูดกันเล่นๆนะ เอานามของท่านมาเอ่ยอ้างสนับสนุนจินตนาการตน หรือ ความคาดคะเนของตนนะบาปนะย่ะเธอ

จั่กแต่นั่งสมาธิหน่ะ ได้จริงหรือ จิตรตนลวงกันหละ
ขนาดหลวงพ่อชา ท่านยังเคยบอกไว้เลยว่า ห้ามนำอิทธิฤทธิ์ทางสมาธิมาพูดหรือโม้ในภาษาบ้านเรานี้แหละ มันจะหนักไปเปล่า แล้วยังจะได้ผลค้างเคียงไม่ใช่ค้างเคียงสิ ตรงข้ามเลยแหละกับปัญญา รู้จักไหม เพี้ยนหนะ

 

ข่าวลือว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทยภายในเดือนตุลาคมนี้ จริงหรือเปล่าครับ

ข่าวลือว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทยภายในเดือนตุลาคมนี้ จริงหรือเปล่าครับ
ครูบาอาจารย์พระป่ากรรมฐานท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวลือทำนองนี้ครับ


ผู้ส่ง : โกศล-ตะวัน
[8.10.2548 | 21:24]
อี-เมลล์ :kusul_tawan@yahoo.com หมายเลข IP : 58.8.248.182



1

อย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือจากพวกปล่อยข่าวร้ายว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยนี้เลย

เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีกลุ่มหนึ่งพยายามสร้างสถานการณ์ ด้วยการกุข่าวขึ้นมาว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ และกำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยภายในระยะเวลานั้นเวลานี้ โดยอ้างว่าตนเองเป็นกลุ่มปฏิบัติธรรม ได้นั่งสมาธิวิปัสสนาเพ่งทางในเห็นเหตุการร้ายล่วงหน้า หน่ำซ้ำยังอ้างถึงพระกรรมฐานว่าท่านก็นั่งวิปัสสนาทางในเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าเช่นกัน บ้างก็อ้างถึงหลวงปู่องค์นั้น บ้างก็อ้างถึงหลวงตาองค์นี้ หลวงพ่อองค์โน้น ครูบาอาจารย์องค์นี้ โดยมีผู้นำระดับ ดร., นายแพทย์ สมคบกับกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งร่วมสร้างสถานการณ์กับเขาไปด้วย กลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้ได้ทำการปล่อยข่าวส่งข่าวไปตามจดหมายอิเลคทรอนิกส์ E-mail อีกทั้งยังส่งไปยังสำนักพิมพ์และสื่อวิทยุโทรทัศน์รวมทั้งโพสต์ข้อความไปตามกระดานสนทนาหรือเว็บบอร์ดในเว็บไซต์ต่างๆเกือบทุกเว็บไซต์ ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งตื่นตระหนก หวั่นผวา เสียขวัญ

จากการที่ได้สอบถามไปยังพระกรรมฐานที่กลุ่มสร้างสถานการณ์ดังกล่าวอ้างถึงนี้ ปรากฏชัดแล้วว่าเป็นการกุเรื่องขึ้นทั้งสิ้น เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความสับสนปั่นป่วนในสังคม โดยยกเอาสถานการณ์ปัจจุบันมากะคาดคะเนเอา เดาสุ่มไปต่างๆนาๆ ตามวิชาสถิติ บ้างก็ว่าเหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้นในวันที่นั้นถึงวันที่นี้ เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติบ้าง เป็นภัยสงครามบ้าง เป็นโรคระบาดบ้าง ให้เตรียมสะเบียงอาหารปัจจัยสี่ให้ครบ ส่งบทสวดมนต์แผ่เมตตาให้สวดตามเวลาที่ได้ระบุใว้ อ้างว่าจะแสดงถึงพลังพุทธานุภาพ จิตตานุภาพ และควรจะสวดกี่จบจึงจะปลอดภัย

ขอเรียนว่า เรื่องทั้งหมดนี้เป็นการกระทำจากกลุ่มที่อ้างตนว่าเป็นกลุ่มปฏิบัติธรรมกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ยังได้พยายามนำเอาสถานการณ์เหตุการณ์ในปัจจุบัน มาเป็นจุดนำเสนอขาย คล้ายกับการเสนอขายสินค้าเพื่อเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาได้อย่างน่าเชื่อถือ ซึ่งหากการทายทักเหตุการณ์เป็นไปอย่างถูกต้องหรือใกล้เคียงกับความจริงที่เกิดขึ้น ความเชื่อถือศรัทธาจากมวลชนจะยิ่งสร้างพลังมวลชนได้อย่างมากมายมหาศาล จากนั้นคลื่นศรัทธาจากมวลชนต่างๆที่หลงเชื่อกับเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะแห่พากันไปนับถือกลุ่มบุคคลดังกล่าว

กลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้ มีระดับแกนนำซึ่งเป็น ดร., นายแพทย์ ที่เพี้ยนๆเป็นส่วนใหญ่ กำลังนำเอาสถานการณ์ปัจจุบันมาเป็นเหตุจูงใจให้ประชาชนชาวไทยเกิดความสับสนและคิดเห็นคล้อยตาม ตามสถานการณ์

ท่านใดที่เคยปฏิบัติธรรมภาวนามาบ้าง จะมีสติปัญญาและจะไม่วิตกวิจารณ์ วิตกจริตกับการปล่อยข่าวลือดังกล่าวนี้
ขอท่านได้สอบถามเรื่องดังกล่าวด้วยตนเอง จากครูบาอาจารย์เอาเองนะครับ

ปล. ทราบว่าขณะนี้ การปล่อยข่าวดังกล่าวได้เริ่มกระจายไปสู่วงกว้าง แม้แต่ในวัดป่าและบรรดาศิษย์สายกรรมฐาน อาทิ ข่าวลือภายในวัดใหม่เสนานิคมกรุงเทพฯ ข่าวลือดังกล่าวยังแอบอ้างถึงหลวงตาองค์หนึ่ง โดยระบุว่าท่านก็ทายทักใว้เช่นกัน ขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าวนี้ล้วนเป็นข่าวเท็จทั้งสิ้น ขออย่าได้ไปวิตกวิจารณ์กับกลุ่ม ดร.เพี้ยน พวกนี้เลยครับ...

ท้ายนี้ก็ขอให้ทุกท่านต่างรีบเร่งสร้างสมบุญบารมี ทาน ศีล ภาวนา กันมากๆ ทุกสิ่งมีเกิดมีดับเป็นธรรมดา ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยง เผลอๆบางท่านอาจตายก่อนภัยพิบิตจะเกิดเสียอีก
ฉะนั้น การทำบุญให้ทานก็ควรทำใว้มากๆ ยิ่งทำบุญกับเนื้อนาบุญพระอริยสงฆ์ยิ่งดีใหญ่ ศีล๕ ศีล๘ ก็หัดประคองรักษาศีลนี้ให้ดีที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุด คือการได้ปฏิบัติธรรมภาวนา และยิ่งได้พบกับครูบาอาจารย์พระอริยสงฆ์แท้ด้วยแล้ว ท่านคือแสงธรรมนำทางให้พวกเรา ก็ยิ่งจะมีโอกาสดีเหนือใครๆ ขออย่าได้พากันประมาทนอนใจเลย ถ้าจะหัดเข้าวัดปฏิบัติธรรมภาวนาบ้าง ตอนนี้ก็ยังไม่สาย ครั้งหนึ่งในชีวิตพวกเราก็จะพบแสงธรรมสัจธรรมแห่งชีวิตแล้วครับ



ผู้ตอบ : ศิษย์วัดป่า [9.10.2548 | 20:32]
อีเมลล์ : sit_watpa@hotmail.com

2

ถ้างั้นดร.คนนี้ ช่วยนั่งทางในหน่อยซิครับว่า
น้องแหม่มคัทลียา แมคอินทอช ของผม
แท้จริงเธอท้องกับใคร เหตุเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใด ตอนนี้คลอดหรือยัง
เพราะเรื่องน้องแหม่มก็เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจกันมากไม่แพ้เรื่องภัยพิบัติแน่

ผู้ตอบ : สมาชิก14 [10.10.2548 | 08:15]
อีเมลล์ : watpa14@watpa.com

3

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2548

Newsเดอะเนชั่นกรุงเทพธุรกิจคม-ชัด-ลึกเนชั่นสุดสัปดาห์ทีวี + วิทยุเนชั่นแชนแนลเนชั่นเรดิโอหางานเนชั่นอีจ๊อบส์วัยรุ่นเนชั่นจูเนียร์เนชั่นคอมิกส์ท่องเที่ยวไทยแลนด์ดอทคอมซื้อคอมพิวเตอร์คอมเซฟวิ่งเนชั่นกรุ๊ป

'ดร.กัญจีรา'อ้าง ทำนายพิบัติภัย แค่ไม่ให้ประมาท
ดร.กัญจีรา นักวิทยาศาสตร์ผู้ผันตัวสู่การนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม ย้ำคำทำนายพิบัติภัยประเทศไทย มีโอกาสผิดพลาดแค่ 20% เผยไม่ต้องการให้เกิดความวิตก แค่เตือนให้มีสติ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมโดยไม่ประมาท

จากกรณีการเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คำทำนายของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ นักวิทยาศาสตร์ ที่หันไปปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ และปัจจุบันเป็นประธานชมรมวิถีธรรม-วิถีไท ที่ส่งอีเมลให้บุคคลต่างๆ อย่างกว้างขวางว่าจะเกิดวิกฤติภัยธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วม พายุทอร์นาโด แผ่นดินไหว ระหว่างวันที่ 11-29 ตุลาคม

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 ตุลาคม ดร.กัญจีรา จัดบรรยายเรื่อง "สถานการณ์ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11-29 ตุลาคม 2548" ณ สมาคมสถาปนิกสยาม กทม. โดยมีผู้ร่วมงานประมาณ 100 คน ผู้เข้าร่วมฟังส่วนใหญ่จะใส่ชุดสีขาว นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องบรรยายยังมีการจำหน่ายสีผึ้งสำหรับทาปากเพื่อเสริมสิริมงคล ธูปหอม แผ่นทองแดง และพานทองรับบริจาคเงินทำบุญอีกด้วย พร้อมกับมีการสั่งห้ามบันทึกภาพ

จากนั้น ดร.กัญจีรา ได้เริ่มกล่าวบรรยายว่า จากวิกฤติปัญหาที่มนุษย์แสวงหาประโยชน์จากธรรมชาติ เช่น การขุดเจาะน้ำมันขึ้นมาใช้ประโยชน์ ทำให้ระบบนิเวศเริ่มเปลี่ยนแปลงจนนำไปสู่การเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงที่มนุษย์ยากจะหยุดยั้ง แต่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นนอกจากจะรับรู้ด้วยโสตประสาทและตาที่สามแล้ว ยังมีการศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา และสิ่งที่พูดต้องมีความชัดเจนและตรวจสอบได้ เพราะดิฉันอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลายคน ซึ่งเป็นคนที่มีเครดิตมาก พูดอะไรก็จะมีคนเชื่อ จึงต้องพูดในสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมทั้งมั่นใจก่อนจึงค่อยพูดออกมา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยากให้เกิดความวิตก แต่อยากให้มีสติ และตระหนักรู้ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมโดยไม่ประมาท" ดร.กัญจีรา กล่าว พร้อมทั้งยกตัวอย่างประเทศทิเบต ที่มีการเตรียมพร้อมรับมือกับวิบากกรรมของมวลมนุษยชาติด้วยการสวดมนต์ภาวนาอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงช่วงเวลาที่ ดร.กัญจีรา จะอธิบายถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ร้ายที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11-29 ตุลาคม ดร.กัญจีรา ก็มีอาการเจ็บคอ เสียงแห้ง จนไม่สามารถบรรยายต่อไปได้ แต่ทว่ายังแสดงความมั่นใจในสิ่งที่เคยพูดไว้อย่างหนักแน่นว่ามีโอกาสผิดพลาดเพียง 20% เท่านั้น และอยากให้ทุกคนเตรียมรับมือกับปัญหาอย่างมีสติ โดยร่วมกันสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตาขับไล่คลื่นพลังทำลายล้างของธรรมชาติ และคลื่นความเลวร้ายของจิตใจมนุษย์

จากนั้นผู้จัดงานได้สลับเวทีการบรรยายเป็นการฉายวีดิทัศน์แทน ซึ่งเนื้อหาของวีดิทัศน์เป็นภาพกิจกรรมของ ดร.กัญจีรา กับลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง กำลังปฏิบัติภารกิจสะกดพลังชั่วร้ายที่จะหลุดออกมาสร้างความหายนะแก่ประเทศไทย ด้วยการล้อมวงนั่งสมาธิในโบราณสถานแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร โดยมีการบันทึกเหตุการณ์ด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในช่วงทำพิธีจะมีภาพลำแสงประหลาดออกมาจากเปลวเทียนบ้าง จากผู้กำลังนั่งสมาธิบ้าง และยังมีภาพคล้ายจานบินปรากฏอยู่เบื้องหลังกลุ่มคนที่กำลังนั่งสมาธิ

นอกจากนี้ ภาพของ ดร.กัญจีรา ที่ถูกถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ยังเห็นเป็นเพียงภาพเลือนๆ ไม่ชัดเจน โดยมีคำอธิบายว่า ดร.กัญจีรา ได้เข้าถึงพลังสั่นสะเทือนของตัวเอง และภาพของดวงจันทร์ที่บิดเบี้ยวเพราะถูกกำหนดด้วยพลังสั่นสะเทือนจากพลังของการสวดมนต์ภาวนา หลังจากฉายวีดิทัศน์จบแล้ว ดร.กัญจีรา ก็อธิบายสิ่งที่ปรากฏในวีดิทัศน์เพิ่มเติม พร้อมกับยืนยันอย่างหนักแน่นถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ โดยให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือด้วยการสำรองน้ำดื่ม อาหาร และเงินสด ให้พอใช้ในช่วงสองสัปดาห์นี้ และยังทำนายต่อว่า ในปี 2551 ประเทศไทยจะเป็นประเทศมหาอำนาจอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ร่วมฟังบรรยายท่านหนึ่ง ได้รับการเปิดเผยว่า รู้สึกเชื่อในคำเตือนของ ดร.กัญจีรา หรือ แม่ครูมาก เพราะเคยไปร่วมทำพิธีที่ จ.กำแพงเพชร นอกจากนี้ แม่ครูยังช่วยรักษาสามีให้ทุเลาจากอาการป่วยจากเส้นประสาทกดทับอีกด้วย ยิ่งมีความศรัทธาในตัวแม่ครูยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงที่มาของคำทำนายในช่วงวันที่ 11-29 ตุลาคม ดร.กัญจีรา แสดงสีหน้ายิ้มแย้ม และกล่าวเพียงสั้นว่า "จะถามอะไร ถามหลายๆ ข้อก็ได้" แต่ลูกศิษย์ได้พยายามกั้นตัว ดร.กัญจีรา ออกไปก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกศิษย์คนหนึ่งให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ ดร.กัญจีรา ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ไม่อยากจะโด่งดัง หรือทำตัวให้มีชื่อเสียง เพียงแค่อยากช่วยเหลือมนุษยชาติให้รอดพ้นจากภัยร้ายแรงที่เกิดขึ้น และถ้ามีความพร้อมเมื่อใดจะมีการแถลงข่าวตอบข้อสงสัยทั้งหมดเอง

ทั้งนี้ คำทำนายของ ดร.กัญจีรา ที่เผยแพร่ทางอีเมลในช่วงก่อนหน้านี้ ระบุว่า ขอให้ติดตามดูสถานการณ์ระหว่างวันที่ 11-29 ตุลาคมนี้ ว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม จะมีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ของไทย วันที่ 13-14 ตุลาคม จะเกิดคลื่นสึนามิอีกครั้ง วันที่ 18 ตุลาคม จะมีน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือน และน้ำท่วมขังสองสัปดาห์ วันที่ 21-23 ตุลาคม จะเกิดแผ่นดินไหวใน กทม. จะมีรถติดวินาศสันตะโร โดยเฉพาะย่านหัวลำโพง ปทุมวัน มาบุญครอง ดินแดง และรัชโยธิน และวันที่ 29 ตุลาคม อาจจะมีพายุทอร์นาโดเข้ามาทางอ่าวไทย นอกจากนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน ต้องงดเดินทางไปลอสแองเจลิส และนิวยอร์ก เนื่องจากสหรัฐอเมริกา จะถูกพายุลูกใหญ่สองลูกถล่มเมือง

http://www.komchadluek.net/news/2005/10-10/p1-18828252.html

ผู้ตอบ : โกศล-ตะวัน [10.10.2548 | 09:44]
อีเมลล์ : kusul_tawan@yahoo.com หมายเลข IP : 58.8.255.69

4

ข่าวที่ลือกันนั้น มีข่าวลือจริง แต่ข่าวลือจะเป็นจริงหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา

ผู้ตอบ : เอนก [10.10.2548 | 10:27]
อีเมลล์ : anake@ji-net.com หมายเลข IP : 203.150.30.31

5

จากคำทำนาย ดูก็รู้แล้วครับว่ามั่ว ประเทศไทยมีเฮอริเคนที่ไหน


ผู้ตอบ : นะ [10.10.2548 | 16:52]
อีเมลล์ : 1234@hotmail.com หมายเลข IP : 203.144.187.62

-------------------------------
http://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=751

ปล. ผมเชื่ออ.ไก่นะ

 

คุณ Robert ระวังคำพูดหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะเป็นการปรามาสพระศาสนาไป จะเป็นบาป .ความศักดิ์สิทธิ์.ในพระพุทธศาสนา เทวดาอารักษ์ มีจริงนะครับ

แต่เห็นด้วยกับคำที่ว่า ทุกสิ่งเป็นอนัตตา คือมีเกิดมีดับ เป็นธรรมดา

ถ้าคุณปฏิเสธสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทวดา เท่ากับคุณปฎิเสธตัวคุณเอง
แต่ที่ผมอ่านดูแล้ว คุณมีความปราถนา ไม่ให้ผู้คนงมงายนั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ
หันมา ไม่ประมาทภายใน กันดีกว่าครับ

อนุโมทนา สาธุกับความดีของทุกๆ ท่านครับ

 

คุณ bridge<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_128440", true); </SCRIPT> คนชอบคิด

อย่าเพิ่งไปว่าเขานะครับ เขามีความปราถนาดี จะจริงหรือไม่เป็นเรื่องไม่ประมาท อันที่จริงตลอดชีวิตไม่ควรประมาทเลยแม้แต่วินาทีเดียว

เรื่องสมาธินั้นก็เห็นด้วยนะครับ ว่าควรพูดเฉพาะกลุ่ม แต่ว่าการทำสมาธิถึงระดับถอดจิตได้นั้นมีจริงนะครับ อย่าเพิ่งไปว่าเค้านะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นการปรามาสผู้ทรงญาณ หลายท่านเลยนะครับ

เมื่อคุณ บริดจ์ ไม่เชื่อเค้าคุณต้องพิสูจน์นะครับ อย่าเพิ่งไปว่าเค้านะครับ ปล. ลดความคิดลงหน่อยนะครับ ทำใจสบายๆ นึกถึงภาพพระ ให้แจ่มใส่อยู่ภายในใจ แล้วลองขอให้ท่านพาไปดูสวรรค์ นรก หรือถามปัญหาที่สงสัยได้ครับ ส่วนจะเป็นพระพุทธเจ้าจริง หรือเป็นพระบารมี จะเป็นฉัพพรรณรังสี หรือเป็นจิตพุทธะ อะไรก็ช่างลองดูนะครับ

สาธุ

 

จริงด้วยครับ

คนที่รู้จริงเห็นจริงมีครับ ผมเจอมาหลายคน

 

ผมก็ทำนายได้ ว่า
ชาติที่แล้ว คุณมีพ่อเป็น

บิดา
มีมารดาคือ

แม่

SHORTTTTTTTTTT 55555

 

ผมมาคิดได้อยู่อย่างหนึ่ง เกี่ยวกับประเด็นการออกมาเตือนภัยภิบัติแบบนี้ว่า

1.กรณีแรก : แม้ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้อะไรก็ตามแต่ เราก็ไม่ควรออกมาพูด ออกมาเตือน ใดๆทั้งสิ้น เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ปล่อยให้สิ่งที่จะเกิดมันเกิด ปล่อยให้คนที่ควรจะรอด ได้รอด ปล่อยให้คนที่ยังประมาทและไม่ควรจะรอด ตายไป ให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น เพราะถึงแม้ว่าเราจะพูด จะบอกไป ถ้ามันเป็นไปตามนั้นจริงๆ แล้วเป็นยังไง เราได้อะไร แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นจริงหละ เราจะเป็นยังไง เราจะเสียอะไรบ้าง คำตอบคือ ถ้าเป็นจริง ก็อาจจะมีคนที่เชื่อ หรือมีความคิดกลางๆ รอดตายเพิ่มมากขึ้น เพราะกรรมปัจจุบันที่จะกระทำกันเหนียวเอาไว้ แต่คนที่ไม่เชื่อ ไม่มีไอเดียร์อะไรเกี่ยวกับเรื่องพันธ์นี้เลย ก็จะยังคงไม่เชื่ออยู่ดี และผลเสียก็จะเกิดขึ้นกับคนที่พูดเตือน หรือบอกข่าวนี้อย่างที่เราเห็นกันอยู่ขณะนี้ว่า บางข้อความพูดด้วยซ้ำว่าคนบอกข่าวนี้"เป็นพวกไม่ประสงค์ดีต่อชาติบ้านเมือง" "เป็นคนเพี้ยน" ฯลฯ เห็นไหม ว่า กลับกลายเป็นคนชั่วไปเลย
สรุปในกรณีที่ 1 นี้คือ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง ถึงบอกออกไป เตือนออกไป คนเตือนเอง (ผมไม่ได้หมายถึงเฉพาะ ดร.กัญจีรา เท่านั้นนะครับ ยังหมายถึงท่านอื่นๆด้วย) จะไม่ได้อะไรเลย (ในทางโลก) มีแต่เจ๊า กับ เจ๊ง ให้เลือกเท่านั้น
2. กรณีที่ 2 : อย่างที่ข้อความของอาจารย์คนเมืองบัวโพสไว้ข้างบน ที่คุณเกษมคัดลอกมาให้อ่าน ที่ว่าในยุกต์นี้ มีพระโพธิสัตว์มาเกิดกันมาก ผมก็ค่อนข้างคล้อยตามด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้น วิสัยของพระโพธิสัตว์ ย่อมมีเมตตามากมาย ย่อมมีเจตนาเพื่อจะฉุดช่วยเวนัยสัตว์ทั้งหลาย ดังนั้น ท่านคงคิดกันแล้วว่า ต่อให้การบอกข่าวร้าย หรือการออกมาเตือนภัยต่างๆนี้ ท่านรู้ทั้งรู้ว่าท่านจะมีแต่เจ๊ากับเจ๊ง แต่ท่านก็ยินดีที่จะทำ เพราะตัวท่านเองยอมแลกอยู่แล้วกับแม้เพียงได้ช่วยคนที่เข้าข่ายที่จะรอดได้ เพียงไม่กี่คนก็ตาม หรือแม้เพียงแต่ให้ได้สติ ไม่ประมาทก็ตาม ผมว่าท่านก็คงคาดคิดไว้แล้วหละ แต่ท่านยอมแลกด้วยความเต็มใจมากกว่า จะเป็นไรไปหละ เรื่องสรรเสริญ-นินทา มันก็แค่โลกธรรมแปด ใครหละไม่โดนบ้าง แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ยังไม่ถูกละเว้นเลย
"มารไม่มี บารมีไม่เกิด" คำพูดนี้เป็นคำพูดของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรีครับ
และผมมั่นใจว่า ท่านไม่ได้มีเจตนาร้ายอยู่แล้ว ข่าวสารที่ท่านนำมาพูดนำมาเตือน มันย่อมมีมาจากเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น ท่านก็ไม่ได้ผิดศีล เพราะท่านไม่มีเจตนาแบบนั้น
ถึงแม้ว่าหากมีคนเชื่อข่าวของท่านบ้าง แล้วเกิดความไม่ประมาท พากันรีบทำบุญสร้างกุศลกันใหญ่เลย ก็จะเป็นเหตุให้เรื่องร้ายๆที่คาดว่าจะเกิด มันผ่อนหนักเป็นเบาลง หรือมันเลื่อนระยะเวลาออกไปก็ตาม ซึ่งนั่นหมายความว่า คำทำนายของท่านจะผิดเพี้ยนไป คนที่จ้องจะจับผิด จะไม่เชื่อ และจะเล่นงานท่านอยู่แล้ว ก็จะได้โอกาสยำท่านอย่างเต็มที่ และคนส่วนใหญ่ในสังคม ก็จะคล้อยตามไปด้วย อย่างที่เราเห็นข่าวทำนองนี้ (เรื่องรุมยำ หรือร่วมเห็นดีเห็นงามกับคนที่ยำพระอริยะสงฆ์ในเรื่องปัญหาต่างๆ ที่ผ่านๆมา หรือแม้แต่ในขณะนี้ ในบ้านในเมืองของเรา)
สิ่งที่น่าคิดอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็คือ สมมุติว่าท่านรู้จริง ท่านคือผู้ทรงฌาน และท่านเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง (ย้ำนะครับ ว่าไม่ได้เฉพาะเจาะจงแต่กรณีของ ดร.กัญจีราคนเดียว) ประเทศไทยเรามีคนอยู่ประมาณ 6 พัน 3 ร้อยล้านคน คนที่เชื่อข่าวท่านและคนที่มีความคิดกลางๆ ผมเดาว่าไม่น่าจะเกินครึ่งหนึ่งเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจะแค่ 1 ใน 10 ส่วนเท่านั้นเอง แล้วถ้า 1 ใน 10 นี้เร่งสร้างความดี สร้างบุญ อย่างพร้อมเพรียงกัน ถ้าเป็นเหตุให้เหตุร้าย ผ่อนหนักเป็นเบาได้จริง หรือให้เหตุร้าย เลื่อนเวลาเกิดได้จริง คนที่จ้องเล่นงาน และจับผิดอยู่ก็ได้โอกาสอย่างที่ว่าไปแล้ว และคนส่วนใหญ่ที่เหลืออีก 9 ส่วน ก็จะคล้อยตามไปด้วย บาปก็จะเกิดกับคนทั้ง 9 ส่วนนั้น เพราะเหตุแห่งการปรามาสผู้ทรงฌาน และ/หรือพระโพธิสัตว์ ตรงนี้เอง ผมก็เลยสงสัยว่า มันจะเป็นการคุ้มหรือเปล่า กับการได้สร้างบุญกับคน 1 ส่วน แต่จะเป็นต้นเหตุให้คนอีก 9 ส่วนเกิดบาปกรรมขึ้น
ทั้งหมดนี้ เกิดจากความคิดของปัญญาอันน้อยนิดของผมเองนะครับ หากมีข้อความใด ได้ละเมิดล่วงเกินท่านผู้หนึ่งผู้ใด ก็ขอกราบขอขมาลาโทษ อโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ

เฮ้อ! คิดๆแล้วก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไปดี กรรมของคนเรา มันทำให้เป็นไปได้ถึงเพียงนี้หนอ ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมก็แล้วกัน (อันนี้ถ้าพูดแบบคนที่จะเอาตัวรอดเพียงลำพัง และไม่อยากเข้าไปแปดเปื้อนกับเรื่องคำวิพากย์วิจารณ์ร้ายๆ นะครับ-พระโพธิสัตว์ท่านต้องไม่พูดแบบนี้แน่เลย)

 

ภัยธรรมชาติเนียแปลกนะ เหมือนพวกก่อการร้าย เวลาเราระวังตัวไม่ค่อยมีอะไร แต่ถ้าเผลอเมื่อไร คอยดูเถอะ เจ็บตัวกันไปตามๆกัน แต่มันก็เป็นไปตามธรรมชาตินั้นแหละ

 

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะจะบอกให้