ร่วมทำบุญบูชา ชุดเก่าตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ผนึกน้ำมันใครจองทันโชคดีไปเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นลักษณะเฉพาะอันหาได้ยาก พญากาณะใจดีมากๆ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลกาลผู้ไม่รู้ไม่เห็น(รู้แทนวาสนาบุญหล่นทับบารมีสัมพันธ์ใจ)

    "ผู้ไม่รู้".....แต่พยายามแล้วอย่างดีที่สุด
    พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลที่ไม่รู้เหตุเหมือนตาบอดคลำทางย่อมแสวงหาการแก้ไขไม่เจอต้องทำสักร้อยสักพันเรื่องเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานะติดขัดต่างๆ ซึ่งบางเรื่องชัดเจนก็ดี,บางเรื่องไม่ชัดเจนก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้นี่น่าเห็นใจมากเพราะต้องเสียเวลาแก้ไขเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ องค์ปฐมท่านว่าความไม่รู้นี่น่ากลัวนัก..จึงให้พ่ออาจารย์ท่านทำมงคลกาลผู้ไม่รู้ขึ้นเพื่อแก้ไขในผลที่ไม่ทราบเหตุทั้งหลาย

    1.ไม่รู้เหตุเกิดจากอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าบางเรื่องที่เสียหายนั้นความเป็นไปได้ย่อมมีมากมายแม้สาเหตุเกิดจากอะไรก็ไม่สามารถเข้าใจได้จะกรรมเก่า,โดนกระทำ,มิตรทรยศ,หรือผิดที่ตัวเรา..ต่างๆเหล่านี้เมื่อไม่ทราบสาเหตุก็เหมือนตาบอดคลำทางแก้ไขอย่างไรก็แก้ไม่ถูก

    2.ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์แบบนี้ย่อมเกิดในทามกลางเมื่อเกิดแล้วย่อมมีทั้งต้นทั้งปลาย เมื่อไรู้จะแก้ไขอย่างไรต้นก็เสียหายปลายก็ย่อยยับเป็นสถานการณ์ที่ดำเนินต่อไปไม่ได้เลยเพราะเห็นแต่ผลเสียไม่มีผลดีทั้งนั้น

    3.ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าบางครั้งจุดเล็กในชีวิตมันก็ขยายลุกลามเหมือนฟืนติดไฟกระพือไปแบบที่ตัวเรายังไม่ทราบสาเหตุ เมื่อไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหนจะดับไฟกองเล็กๆนั้นก็ทำไม่ทันเช่นนั้นจึงพาลให้ลุกลามไปอีกหลายๆเรื่อง

    4.ไม่รู้ว่ามันผิดตั้งแต่เมื่อใด พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนบางเรื่องนี่ก็ไม่ได้รู้ตัวว่าผิดแต่ยังทำต่อไปพอมารู้ตัวมันก็สายไปแล้วทั้งหมด นั่นคือไม่รู้ตัวว่าผิดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ทำให้สถานการณ์ของชีวิตยากจะแก้..ท่านว่านี่สำคัญมากนะ เพราะเรื่องที่แก้ไขได้กับเรื่องที่ยากจะแก้ไม่เหมือนกันหากยากจะแก้แล้วปล่อยเลยตามเลยยิ่งทำให้ชีวิตสึกหรอลงไปเรื่อยๆ

    5.ไม่รู้ว่าจะทำหรือดำเนินการต่ออย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจับต้นชนปลายชีวิตไม่ถูกจะต่อทางไหนจะแก้อย่างไรมันก็มืดแปดด้านทั้งหมด พอมาถึงจุดนี้ก็ยอมรับสภาพบ้างลอยตัวเหนือปัญหาบ้าง หรือไปพึ่งอบายมุขที่ผิดบ้างเพื่อให้ลืมแต่ปัญหานั้นไม่ได้ลดลงเลย

    6.ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้มากสักเท่าใด พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกคนย่อมมีขีดจำกัดเมื่อไม่รู้ว่าจะทนต่อได้อีกเท่าใดจะไปได้ไกลแค่ไหนท่านจึงเรียกว่าสถานการณ์ที่ใกล้แตกสลายมากเต็มที เพราะประเมินศักยภาพตัวเองผิดและทำไปด้วยความจำเป็นบวกกับแรงใจมุมานะเท่านั้น

    7.ไม่รู้ว่าดวงจะมาตอนไหน พ่ออาจารยย์ท่านว่าบางคนก็พยุงชีวิตเพื่อรอดวงชะตารอให้ชีวิตตัวถึงขาขึ้นแต่ระหว่างรอนั้นไม่รู้เลยว่าจะต้องทนและต้องเจอกับอะไรบ้าง และดวงที่ว่าจะมาตอนไหนหรือมาสั้นยาวอย่างไรจะมาหรือไม่และท้ายสุดอาจจะไม่มาเลย

    8.ไม่รู้ว่าจะกู้คืนกลับมาได้แค่ไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์เช่นนี้คือความสูญเสียยิ่งเสียเวลาแก้ไขไปกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียเพื่อกอบกู้คืนมาเล็กน้อยแต่ต้องจ่ายมากเช่นนี้จึงเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้ว่าเสียหายมากกว่าแต่ก็ต้องทนทำต่อไป

    ....พ่ออาจารย์ท่านว่า
    มงคลผู้ไม่รู้นี้จริงๆครอบคลุมสาเหตุความฉิบหายทั้งปวง เพื่อแก้ไขอาการที่จะนำไปหาความวิบัตินำไปสู่ความพินาศทั้งเหตุที่แก้ไขไม่หาย..เหตุที่แก้ได้ไม่จบ..เหตุที่ไม่รู้จะแก้ที่ตรงไหน..เหตุที่ไม่รู้ว่าจะยุติลงเมื่อใด..เหตุที่ไม่รู้ขีดจำกัดตนเองต่างๆ

    **** พ่ออาจารย์ท่านมักจะเรียกวิชานี้สั้นๆว่า"ผู้ไม่รู้"..แต่จริงๆแล้วจะเรียกว่าผู้ไม่รู้ไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวงนั่นคือความวิบัติต่างๆไม่สามารถสัมผัสโดนเนื้อตัวได้
    - เป็นวิชาที่ไม่เปิดรับ..คือพาให้ชีวิตเราไม่เปิดรับความทุกข์,ความวิบัติฉิบหายทุกประการ
    - เป็นวิชาที่รู้จบ..คือพาให้ปัญหาทุกอย่างรู้จบได้ แยกออกจากวงจรปัญหาวนเวียนไม่รู้จบ
    - เป็นวิชาที่ไม่นำเรื่อง..คือพาให้ชีวิตไม่เจอไม่ต้องไปรู้เรื่องข้องเกี่ยวกับความตกต่ำทั้งปวง
    - เป็นวิชาของผู้ไม่รู้ตัว..คือพาให้เหตุทั้งหลายที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันคาดไม่ถึงสูญไปตั้งแต่ต้น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่ของสามัญทั้งการผสมว่านยาและลบผงอักขระพระยันต์ทั้งปวงที่องค์ปฐมท่านกำหนดให้ทำจะเรียกว่าเป็นเครื่องมงคลที่ตั้งใจสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ไม่รู้เรื่องทั้งปวงก็ได้


    พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหากใช้สติพิจารณาแล้วยังมองไม่เห็นก็อนุโลมว่าเรื่องทั้งหลายนั้นมีเหตุปัจจัยแทรกซ้อนขึ้นมา
    - ทั้งเวรกรรมบังตา
    - ทั้งเจ้ากรรมนายเวรบังตา
    - ทั้งอบายมุขบังตา
    - ทั้งดวงชะตาพาให้เป็นไป

    ยังไม่รวมการกลั่นแกล้งของสิ่งที่เรียกว่า"คน",การเอาเปรียบของสิ่งที่เรียกว่าชนชั้น,การใช้เราเพื่อหาผลประโยชน์ของบุคคลอื่น,การกระทำด้วยคุณไสย,ภูติผีฝ่ายต่ำทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียกรวมๆไปเลยคือ 108 สาเหตุความตกต่ำทุกประการหากรวมแล้วได้คำว่าผู้ไม่รู้..ย่อมแก้ไขได้

    "มงคลกาลผู้ไม่รู้" พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่ต้องทำผงวิชาลบถมถึง 84,000 รอบขึ้นมาโดยเฉพาะทั้งตะกรุดที่ฝังก็เป็นวิชาเฉพาะต้องใช้คู่กันสถาปนาเป็นมงคลกาลผู้ไม่รู้จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เลยโดยเครื่องมงคลนี้จะสงเคราะห์ให้ผลทั้งต่อตัวเองไปพร้อมกับบริวารญาติมิตรสหายของเรา
    - เพราะความเสียมีทั้งเกิดแก่ตัวเรา
    - เพราะความเสียหายมีทั้งแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
    เช่นนั้นมงคลกาลผู้ไม่รู้จึงต่างจากเครื่องมงคลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่า
    หากจะแก้ไขความตกต่ำได้เด็ดขาดเสร็จสิ้นไม่เหลือเชื้อไฟให้ไหม้ลามต่อ ย่อมต้องจัดการได้ทั้งในระดับเฉพาะจุดและผลที่กระทบเป็นลูกโซ่ขยายความเดือดร้อนออกไปในวงกว้าง เพราะหากส่งผลเฉพาะแก่เราพอครบวงจรปัญหาลูกโซ่มันก็พันมัดเราให้เดือดร้อนอยู่ดี พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลกาลผู้ไม่รู้นี้จึงเน้นสงเคราะห์แบบแก้ทั้งภาพรวมโดยให้ความสำคัญที่ตัวเราเป็นศูนย์กลางทั้งหมด เรียกว่าแม้ในเรื่องที่เราไม่รู้..แม้ในเรื่องที่เราไม่เห็น..แม้ในเรื่องที่เราพึ่งตัวเองไม่ได้จะพาให้เราเอาตัวออกจากปัญหาทั้งปวงได้แบบไร้มลทิน

    ผงบารมีสัมพันธ์ใจ
    คนเรามีใจเป็นใหญ่จะแก้ไขอะไรให้ใช้ใจเป็นสื่อเช่นนี้คาถาใดก็ไม่ต้องอาราธนาให้เสียเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำยากมีความสำคัญมากเพราะมันจะช่วยให้แก้ปัญหาได้ง่าย..ได้ตรง..ได้ถูกปัญหา..ได้ทันเวลา
    - เพราะยามมีสุขมีทุกข์อะไร..
    ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเวลามีเรื่องเดือดร้อนอะไร..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราโดนกระทำอะไรมา..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราคิดเห็นอย่างไร..ใจย่อมแสดงออกชัดเจน
    - เพราะเราต้องการอะไร..ใจเรารู้ดีที่สุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีความสำคัญมากและทำได้ยาก
    เพราะต้องลบถมให้ทะลุกระดานถึง 84,000 รอบเอามาลบทับถมไปมาได้เพียงแค่ถ้วยเล็กๆ ทั้งพระพุทธคุณนั้นจะสงเคราะห์จะเข้าไปอยู่ได้ในทุกกรรมของชีวิต ด้วยป็นผงที่ผูกขึ้นให้ใจเราเป็นใหญ่และแรงเร็วเท่าทันกับใจของเรา แบบที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า..ตามทันใจของเรา

    1.เพื่อให้ผูกพันเข้าไปกับวิถีชีวิตและรูปแบบการดำเนินชีวิตของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับวิถีและรูปแบบการดำเนินชีวิตของแต่ละคน แม้คนทั้งโลกจะโกงเธอแต่ใจเธอจะไม่โกงตัวเอง เช่นนั้นเมื่อผูกพันกับวิถีและรูปแบบแล้วจึงพร้อมสงเคราะห์ได้ทุกสถานการณ์

    2.เพื่อสร้างสายใยความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งปวงทุกกรณี สายใยความเกี่ยวข้องนี้ย่อมสัมพันธ์ใจและพระพุทธคุณพ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีสายใยคือไม่เข้ากับใจเราตัั้งแต่แรกแล้ว ย่อมไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรม่ได้เลยเพราะไม่มีสายใย..ไม่มีกรรมร่วมกัน..จึงไม่มีสิทธิ

    3.เพื่อประสานเราเข้ากับพระพุทธคุณที่สงเคราะห์..ต่อเนื่อง..ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าความต่อเนื่องและต่อไปได้ตลอดเวลานี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะมันส่งตรงและเชื่อมโยงกับใจเธออย่าลืมว่าคนเรานี้ใจไวที่สุด(แบบนี้เรียกว่าต่อเนื่องเท่าทันใจตน)

    4.เพื่อเป็นหนึ่งเดียวไปกับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ารวมกับใจเราไม่แตกแยกเมื่อเป็นหนึ่งเดียวกับเราย่อมเข้าใจเราได้ดีที่สุดอุปมาว่าใครจะเข้าใจตัวเรามากไปกว่าตัวเราเอง ผสานกันรวมกันดุจเป็นพรสวรรค์และการสงเคราะห์จากครูเบื้องบนเฉพาะของตัวเรา

    5.เพื่อเกี่ยวพันกับเราและซ่อมแซมอาการวิบัติวิปริตทั้งปวง เมื่อเกี่ยวกันสัมพันธ์เป็นหนึึ่งเดียวกัันย่อมรู้อาการ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่สัมพันธ์ใจจะไม่รู้อาการหรือสิ่งที่ต้องจัดการเลย พอสัมพันธ์ใจแล้วทีนี้เรานึกคิดอย่างไร..ทนมามากเท่าไร..เจ็บช้ำมาแค่ไหน..ย่อมซอมแซมสงเคราะห์ได้เข้ากับสถานการณ์ทันทีไม่ต้องเสียเวลาจับต้นชนปลายไม่ถูก

    6.เพื่อให้เราเข้ากันได้กับพระพุทธคุณที่คอยซ่อมแซมชีวิตนั้น ไม่มีอาการขัดขืนหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าดื้อยาอุปมาว่าสงเคราะห์อย่างไรก็ไม่ถูกช่องถูกอาการ มีสถานการณ์ของสิ่งที่มองไม่เห็นปิดกั้นแทรกซ้อนการสงเคราะห์นั้นๆเสมอ

    7.เพื่อให้จังหวะชีวิตเราไม่ผิดที่ผิดทางตกต่ำลง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุดเพราะใช้ชีวิตผิดที่อยู่ผิดทางผิดเวลาแม้เพียงนิดย่อมนำมาซึ่งความฉิบหายวุ่นวายไม่รู้จบเช่นนี้จังหวะชีวิตจึงสำคัญมาก หากจะใช้ชีวิตให้ราบรื่นไม่สะดุดไม่สะดุุ้งแล้วจังหวะชีวิตจ้องเป็นจังหวะทิพย์จังหวะสวรรค์ หากไปเจอจังหวะนรกแล้วแม้ไม่รู้ตัวก็ยากแก้ไขเช่นนี้ผงสัมพันธ์ใจจึงแปลงให้เป้นจังหวะทิพย์ไปตลอดกาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้สำคัญมากยิิ่ง
    อะไรที่เราไม่รู้ตัวคือพระพุทธคุณท่านรู้แทนเราและสงเคราะห์นำเราไปแล้วนี่คือผลดีของสัมพันธ์ใจ
    - ไม่ต้องรอจนกว่าเราจะระลึกได้รู้ตัว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมสายไปแล้ว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมยากเกินการแก้ไข

    ด้วยผงนี้แม้เราจะรู้ตัวก็ดี,ไม่รู้ตัวก็ดี,ระลึกได้ก็ดี,ระลึกไม่ได้ก็ดี,อยู่ถูกจังหวะก็ดี,อยู่ผิดจังหวะก็ดี..พระพุทธคุณย่อมจัดการสงเคราะห์แก่เราเสมอ พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดง่ายๆเลยคือไวเท่าทันใจเราแม้ยามใดสติเราตามไม่ทันใจตนเองหลงลืมจุดด้อยข้อพลั้งพลาดเล็กๆน้อยๆนั่นแหละทุกอย่างจะได้ "ไม่มีคำว่าสายเกินไป..สำหรับชีวิตเธอ"

    นอกจากผงที่สำคัญแล้วที่ต้องใช้ควบคู่กันไปเลยแบบขาดกันไม่ได้ก็คือตะกรุดซึ่งตีตารางลงกลซับซ้อนที่พ่ออาจารย์ท่านว่า "ตะกรุดกลไม่รู้" เพราะพุทธคุณสงเคราะห์หลักก็คือแก้กลความไม่รู้ทั้งปวง
    - ทำยังไงก็ไม่รวย
    - ทำยังไงก็หากินไม่ขึ้น
    - มันติดขัดที่ตรงไหน
    - สาเหตุให้ฐานะตกต่ำเกิดจากอะไร
    - ทำไมคบใครก็โดนทิ้ง
    - ทำไมเพื่องถึงโกง
    - ทำไมเจ้านายต้องขัดขา
    - ทำไมพ่อแม่รักเราน้อยกว่าพี่น้องคนอื่น
    - ทำไมเขาทำได้แต่เราทำไม่ได้
    ...พ่ออาจารย์ท่านว่า 108 อาการ(เรียกรวมสำหรับอาการไม่รู้ครอบจักรวาล) ที่ไม่ได้และไม่รู้ในทุกๆเรื่องเพราะตะกรุดกลไม่รู้นี่สำคัญมากเมื่อทำงานกับผงสัมพันธ์ใจ พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอไม่ต้องไปแสวงหาอะไรอีกเลย

    ตะกรุดนี้
    นอกจากแก้กลไม่รู้แล้วยังใช้แก้ได้ในอีกหลายๆเรื่องที่เธอไม่รู้และคาดไม่ถึง
    1. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตไม่มีโชคลาภ
    2. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตขาดโอกาส
    3. ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งทำยิ่งขาดทุน
    4. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตเกิดมาด้อยกว่าคนอื่น
    5. ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตเหนื่อยกว่าคนอื่น
    6. ไม่รู้ว่าตนเองไปซวยไปโดนอะไรมา
    7. ไม่รู้ว่าต้องอดทนอีกนานเท่าใดสิ่งที่ทำจะผลิดอกออกผล
    8. ไม่รู้ว่าใครที่คอยแกล้งรึประสงค์ร้าย
    9. ไม่รู้ว่าชีวิตมันเกิดอาถรรพ์อาเพศอะไรขึ้น
    10. ไม่รู้ว่าที่แก้ๆไปทั้งหมดมันเกิดจากสาเหตุอะไร

    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้ง 108 ความไม่รู้คือควบรวมทั้งหมดเรียกว่าใช้แก้อาการที่ไม่รู้สาเหตุ *** และแก้ไม่ถูกจุดมาทั้งชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะไม่เพียงแก้สิ่งที่ไม่รู้แม้สิ่งที่เราแก้ไขไปแล้วผิดๆถูกๆหรือไม่ถูกเลยทั้งหมดทั้งมวลก็คลี่คลายอาถรรพ์สลายออกไปได้

    ยามอาราธนานี่สติเธอจะแจ่มใสกว่าปกติ สัมปชัญญะจะทำงานสดใสมากคือเธอจะรู้สึกว่าเธอรู้และเข้าใจในทุกเรื่องได้อย่างน่าอัศจรรย์เรียกว่าคิดอะไรก็ไม่ติดขัดนี่คือกฤติยาคมแฝดที่เกิดขึ้นทับซ้อนเข้ามา พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปนี้สบายไม่ต้องทำตัวตาบอดคลำทางเสียเวลาไปครึ่งค่อนชีวิต ทางไหนไปได้เดินได้(ทางชีวิต)เธอจะรู้ได้ด้วยตัวเองแม้ทางที่ไม่ควรเดินไม่ควรไปก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้แก้ได้สารพัดแม้แต่เรื่องที่เธอคิดไม่ถึงเลย
    *** ถูกฝังรูปฝังรอยมา..ยังแก้ได้
    *** ถูกฝังของทำอาถรรพ์มา..ยังแก้ได้
    *** ถูกอาถรรพ์ผีมา..ยังแก้ได้
    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้ได้ 108 ที่ว่าใช้แก้ได้ร้อยแปดประการเป็นคำอุปมาว่าแก้ได้ทั้งหมดที่ตัวเราไม่รู้สาเหตุต่อให้สภาพครึ่งผีครึ่งคนจะเฉียดตายแล้วก็ยังแก้ไขได้(ยกเว้นสภาพใกล้จะตายเกินแก้จริงๆ) คือตัวเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปถูกไปเจออะไรมาแล้วมันซวยมันตกต่ำลงไปเรื่อยๆเคยเป็นหรือไม่..ถ้าเคยก็นี่แหละต้องใช้มงคลกาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรากดพิมพ์พระผงมงคลกาลนี้ให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เราพอทำได้เพื่อให้สะดวกต่อผู้อาราธนา และถือโอกาสทำเป็นพิมพ์ขี่ไก่เป็นอนุสติว่า
    - ให้ขยันทำมาหากินและตื่นก่อนไก่ย่อมได้ดีทุกคน
    - ไก่ของเรานี้เราก็แยกเสกลงวิชาพญาไก่เถื่อนไว้
    - ไก่ของเราหากินเก่งมากจะพาเธอให้หากินคล่องแคล่วไปด้วย
    - ไก่ของเราก้าวหน้าไม่หยุดไม่มีถอยหลัง
    - ไก่ของเราพาคนไปเจริญรุ่งเรืองได้
    -
    ไก่ของเราตีใครไม่แพ้เลย
    ลูกอมสองลูกข้างหลังท่านว่าเป็นวิชาทำผงขององค์ปฐมที่่ออาจารย์ท่านเรียกว่าห่างทุกข์คือลูกหนึ่งว่าชีวิตไม่รู้จักความทุกข์อีกลูกคือไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวง

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ว่าติดตัวไว้ไม่ต้องใช้ต้องท่องอะไร..แม้สลายย่อยเป็นอณูฝุ่นก็ยังใช้ได้

    *** ท่านว่าเราพยายามทำพระพิมพ์ที่เล็กที่สุด..และทำผงก็ทำไปด้วยอุตสาหะที่สุด..แม้ลงตะกรุดก็บีบอักขระมากที่สุด(พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆลงตะกรุดยาวห้านิ้วได้สบาย) เหมาะสมกับคนที่รู้ค่าเพราะของบางอย่างก็ปรากฏมาเฉพาะกาลโอกาสเท่านั้น

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องแจ้งอะไรเลยเพราะทำสำเร็จแล้วทุกอย่าง มีคุณครอบความไม่รูอุปมา 108 ประการทั้งสิ้น

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลกาลผู้ไม่รู้ไม่เห็น(รู้แทนวาสนาบุญหล่นทับบารมีสัมพันธ์ใจ) บูชา 4,000 บาท
    5c28dd4f-efe5-4e22-ad1b-13f6cc4d56ae.jpg
    a783867c-0464-4dea-818e-363b4c7c58b2.jpg
    585ee4ad-4268-40f7-b765-ab087b2dcf53.jpg
    327ab8680f97e9e3b690cdf90368dc3d.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2024
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    1. ดีกว่าเป็นผู้ไม่รู้
    2. ดีกว่าเป็นตาบอดคลำทาง
    เพราะโอกาสและเวลาย่อมไม่ย้อนคืนมาอีก พระชุดนี้ท่านว่า
    เราทำไหวครั้งเดียวเพราะต้องทำแบบบีบอักขระและลบถมผง 84,000 รอบ ตั้งใจทำพระพิมพ์องค์เล็กที่สุดให้ใช้แขวนได้สะดวกไม่หนักคอ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มงคลกาลผู้ไม่รู้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูข้างบนท่านสงเคราะห์มากเพราะวันโกนวันพระจะเกิดมหัศจรรรย์ขึ้นเนืองๆ ถือเป็นเครือมงคลรุ่นเดียวที่พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนอาราธนาครูเสกได้เห็นดวงแก้วบ้างลูกไฟบ้างมีรัศมีขาวนวลบ้าง,เป็นทองอร่ามบ้าง,ทั้งบางมีก็เป็นท่อน้ำท่อไฟลอยสว่างหายเข้าไปในองค์พระทีละองค์ๆ เป็นเช่นนี้จนครบทุกองค์ *** ท่านว่าใครจองทันก็อย่าประมาท สวมแขวนไว้จะเข้าใจได้เอง
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มี INBOX เข้ามาว่าฝันถึงหลวงพ่อปานท่านให้มาตามให้หาพระผงจันทร์ลอยผง 84,000 ของพ่ออาจารย์มาบูชากันไว้ในครอบครัวให้ได้จะเจริญมาก เพราะครูเบื้องบนท่านแยกทำวิชาสงเคราะห์ไว้แล้ว

    ซึ่งหลังจากที่แจ้งมาก็ได้ตรวจสอบซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ได้ทำพระจันทร์ลอยใดๆไว้แต่พอพิจารณาดีๆ "ชุดมงคลกาล" ที่พ่ออาจารย์ท่านกดลองพิมพ์ด้วยผงลบถม 84,000 ไว้นั้นท่านไม่ได้ตัดขอบออกเลยบังเอิญว่ากดไว้เป็นดวงกลมๆทั้งหมด(ปกติท่านจะตัดขอบเรียบร้อยไม่เคยกดเป็นแป้นกลมเช่นนี้)จึงเข้าใจได้ว่าจันทร์ลอย 84,000 ชุดนี้คือสิ่งใดและคงสำคัญมาก...เดี๋ยวจะนำออกมาเอาแค่คนที่ทันนะ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา จันทร์ลอยพระเจ้า 84,000(ลองพิมพ์มงคลกาลบารมีสัมพันธ์ใจ)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลที่ไม่รู้เหตุเหมือนตาบอดคลำทางย่อมแสวงหาการแก้ไขไม่เจอต้องทำสักร้อยสักพันเรื่องเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานะติดขัดต่างๆ ซึ่งบางเรื่องชัดเจนก็ดี,บางเรื่องไม่ชัดเจนก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้นี่น่าเห็นใจมากเพราะต้องเสียเวลาแก้ไขเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ องค์ปฐมท่านว่าความไม่รู้นี่น่ากลัวนัก..จึงให้พ่ออาจารย์ท่านทำมงคลกาลผู้ไม่รู้ขึ้นเพื่อแก้ไขในผลที่ไม่ทราบเหตุทั้งหลาย

    1.ไม่รู้เหตุเกิดจากอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าบางเรื่องที่เสียหายนั้นความเป็นไปได้ย่อมมีมากมายแม้สาเหตุเกิดจากอะไรก็ไม่สามารถเข้าใจได้จะกรรมเก่า,โดนกระทำ,มิตรทรยศ,หรือผิดที่ตัวเรา..ต่างๆเหล่านี้เมื่อไม่ทราบสาเหตุก็เหมือนตาบอดคลำทางแก้ไขอย่างไรก็แก้ไม่ถูก

    2.ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์แบบนี้ย่อมเกิดในทามกลางเมื่อเกิดแล้วย่อมมีทั้งต้นทั้งปลาย เมื่อไรู้จะแก้ไขอย่างไรต้นก็เสียหายปลายก็ย่อยยับเป็นสถานการณ์ที่ดำเนินต่อไปไม่ได้เลยเพราะเห็นแต่ผลเสียไม่มีผลดีทั้งนั้น

    3.ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าบางครั้งจุดเล็กในชีวิตมันก็ขยายลุกลามเหมือนฟืนติดไฟกระพือไปแบบที่ตัวเรายังไม่ทราบสาเหตุ เมื่อไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหนจะดับไฟกองเล็กๆนั้นก็ทำไม่ทันเช่นนั้นจึงพาลให้ลุกลามไปอีกหลายๆเรื่อง

    4.ไม่รู้ว่ามันผิดตั้งแต่เมื่อใด พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนบางเรื่องนี่ก็ไม่ได้รู้ตัวว่าผิดแต่ยังทำต่อไปพอมารู้ตัวมันก็สายไปแล้วทั้งหมด นั่นคือไม่รู้ตัวว่าผิดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ทำให้สถานการณ์ของชีวิตยากจะแก้..ท่านว่านี่สำคัญมากนะ เพราะเรื่องที่แก้ไขได้กับเรื่องที่ยากจะแก้ไม่เหมือนกันหากยากจะแก้แล้วปล่อยเลยตามเลยยิ่งทำให้ชีวิตสึกหรอลงไปเรื่อยๆ

    5.ไม่รู้ว่าจะทำหรือดำเนินการต่ออย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจับต้นชนปลายชีวิตไม่ถูกจะต่อทางไหนจะแก้อย่างไรมันก็มืดแปดด้านทั้งหมด พอมาถึงจุดนี้ก็ยอมรับสภาพบ้างลอยตัวเหนือปัญหาบ้าง หรือไปพึ่งอบายมุขที่ผิดบ้างเพื่อให้ลืมแต่ปัญหานั้นไม่ได้ลดลงเลย

    6.ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้มากสักเท่าใด พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกคนย่อมมีขีดจำกัดเมื่อไม่รู้ว่าจะทนต่อได้อีกเท่าใดจะไปได้ไกลแค่ไหนท่านจึงเรียกว่าสถานการณ์ที่ใกล้แตกสลายมากเต็มที เพราะประเมินศักยภาพตัวเองผิดและทำไปด้วยความจำเป็นบวกกับแรงใจมุมานะเท่านั้น

    7.ไม่รู้ว่าดวงจะมาตอนไหน พ่ออาจารยย์ท่านว่าบางคนก็พยุงชีวิตเพื่อรอดวงชะตารอให้ชีวิตตัวถึงขาขึ้นแต่ระหว่างรอนั้นไม่รู้เลยว่าจะต้องทนและต้องเจอกับอะไรบ้าง และดวงที่ว่าจะมาตอนไหนหรือมาสั้นยาวอย่างไรจะมาหรือไม่และท้ายสุดอาจจะไม่มาเลย

    8.ไม่รู้ว่าจะกู้คืนกลับมาได้แค่ไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานการณ์เช่นนี้คือความสูญเสียยิ่งเสียเวลาแก้ไขไปกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียเพื่อกอบกู้คืนมาเล็กน้อยแต่ต้องจ่ายมากเช่นนี้จึงเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้ว่าเสียหายมากกว่าแต่ก็ต้องทนทำต่อไป

    ....พ่ออาจารย์ท่านว่า
    มงคลผู้ไม่รู้นี้จริงๆครอบคลุมสาเหตุความฉิบหายทั้งปวง เพื่อแก้ไขอาการที่จะนำไปหาความวิบัตินำไปสู่ความพินาศทั้งเหตุที่แก้ไขไม่หาย..เหตุที่แก้ได้ไม่จบ..เหตุที่ไม่รู้จะแก้ที่ตรงไหน..เหตุที่ไม่รู้ว่าจะยุติลงเมื่อใด..เหตุที่ไม่รู้ขีดจำกัดตนเองต่างๆ

    **** พ่ออาจารย์ท่านมักจะเรียกวิชานี้สั้นๆว่า"ผู้ไม่รู้"..แต่จริงๆแล้วจะเรียกว่าผู้ไม่รู้ไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวงนั่นคือความวิบัติต่างๆไม่สามารถสัมผัสโดนเนื้อตัวได้
    - เป็นวิชาที่ไม่เปิดรับ..คือพาให้ชีวิตเราไม่เปิดรับความทุกข์,ความวิบัติฉิบหายทุกประการ
    - เป็นวิชาที่รู้จบ..คือพาให้ปัญหาทุกอย่างรู้จบได้ แยกออกจากวงจรปัญหาวนเวียนไม่รู้จบ
    - เป็นวิชาที่ไม่นำเรื่อง..คือพาให้ชีวิตไม่เจอไม่ต้องไปรู้เรื่องข้องเกี่ยวกับความตกต่ำทั้งปวง
    - เป็นวิชาของผู้ไม่รู้ตัว..คือพาให้เหตุทั้งหลายที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันคาดไม่ถึงสูญไปตั้งแต่ต้น
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่ของสามัญทั้งการผสมว่านยาและลบผงอักขระพระยันต์ทั้งปวงที่องค์ปฐมท่านกำหนดให้ทำจะเรียกว่าเป็นเครื่องมงคลที่ตั้งใจสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ไม่รู้เรื่องทั้งปวงก็ได้


    พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหากใช้สติพิจารณาแล้วยังมองไม่เห็นก็อนุโลมว่าเรื่องทั้งหลายนั้นมีเหตุปัจจัยแทรกซ้อนขึ้นมา
    - ทั้งเวรกรรมบังตา
    - ทั้งเจ้ากรรมนายเวรบังตา
    - ทั้งอบายมุขบังตา
    - ทั้งดวงชะตาพาให้เป็นไป

    ยังไม่รวมการกลั่นแกล้งของสิ่งที่เรียกว่า"คน",การเอาเปรียบของสิ่งที่เรียกว่าชนชั้น,การใช้เราเพื่อหาผลประโยชน์ของบุคคลอื่น,การกระทำด้วยคุณไสย,ภูติผีฝ่ายต่ำทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียกรวมๆไปเลยคือ 108 สาเหตุความตกต่ำทุกประการหากรวมแล้วได้คำว่าผู้ไม่รู้..ย่อมแก้ไขได้

    "มงคลกาลผู้ไม่รู้" พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่ต้องทำผงวิชาลบถมถึง 84,000 รอบขึ้นมาโดยเฉพาะทั้งตะกรุดที่ฝังก็เป็นวิชาเฉพาะต้องใช้คู่กันสถาปนาเป็นมงคลกาลผู้ไม่รู้จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เลยโดยเครื่องมงคลนี้จะสงเคราะห์ให้ผลทั้งต่อตัวเองไปพร้อมกับบริวารญาติมิตรสหายของเรา
    - เพราะความเสียมีทั้งเกิดแก่ตัวเรา
    - เพราะความเสียหายมีทั้งแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
    เช่นนั้นมงคลกาลผู้ไม่รู้จึงต่างจากเครื่องมงคลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่า
    หากจะแก้ไขความตกต่ำได้เด็ดขาดเสร็จสิ้นไม่เหลือเชื้อไฟให้ไหม้ลามต่อ ย่อมต้องจัดการได้ทั้งในระดับเฉพาะจุดและผลที่กระทบเป็นลูกโซ่ขยายความเดือดร้อนออกไปในวงกว้าง เพราะหากส่งผลเฉพาะแก่เราพอครบวงจรปัญหาลูกโซ่มันก็พันมัดเราให้เดือดร้อนอยู่ดี พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลกาลผู้ไม่รู้นี้จึงเน้นสงเคราะห์แบบแก้ทั้งภาพรวมโดยให้ความสำคัญที่ตัวเราเป็นศูนย์กลางทั้งหมด เรียกว่าแม้ในเรื่องที่เราไม่รู้..แม้ในเรื่องที่เราไม่เห็น..แม้ในเรื่องที่เราพึ่งตัวเองไม่ได้จะพาให้เราเอาตัวออกจากปัญหาทั้งปวงได้แบบไร้มลทิน

    ผงบารมีสัมพันธ์ใจ
    คนเรามีใจเป็นใหญ่จะแก้ไขอะไรให้ใช้ใจเป็นสื่อเช่นนี้คาถาใดก็ไม่ต้องอาราธนาให้เสียเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำยากมีความสำคัญมากเพราะมันจะช่วยให้แก้ปัญหาได้ง่าย..ได้ตรง..ได้ถูกปัญหา..ได้ทันเวลา
    - เพราะยามมีสุขมีทุกข์อะไร..
    ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเวลามีเรื่องเดือดร้อนอะไร..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราโดนกระทำอะไรมา..ใจไม่เคยโกหก
    - เพราะเราคิดเห็นอย่างไร..ใจย่อมแสดงออกชัดเจน
    - เพราะเราต้องการอะไร..ใจเรารู้ดีที่สุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีความสำคัญมากและทำได้ยาก
    เพราะต้องลบถมให้ทะลุกระดานถึง 84,000 รอบเอามาลบทับถมไปมาได้เพียงแค่ถ้วยเล็กๆ ทั้งพระพุทธคุณนั้นจะสงเคราะห์จะเข้าไปอยู่ได้ในทุกกรรมของชีวิต ด้วยป็นผงที่ผูกขึ้นให้ใจเราเป็นใหญ่และแรงเร็วเท่าทันกับใจของเรา แบบที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า..ตามทันใจของเรา

    1.เพื่อให้ผูกพันเข้าไปกับวิถีชีวิตและรูปแบบการดำเนินชีวิตของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับวิถีและรูปแบบการดำเนินชีวิตของแต่ละคน แม้คนทั้งโลกจะโกงเธอแต่ใจเธอจะไม่โกงตัวเอง เช่นนั้นเมื่อผูกพันกับวิถีและรูปแบบแล้วจึงพร้อมสงเคราะห์ได้ทุกสถานการณ์

    2.เพื่อสร้างสายใยความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งปวงทุกกรณี สายใยความเกี่ยวข้องนี้ย่อมสัมพันธ์ใจและพระพุทธคุณพ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีสายใยคือไม่เข้ากับใจเราตัั้งแต่แรกแล้ว ย่อมไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรม่ได้เลยเพราะไม่มีสายใย..ไม่มีกรรมร่วมกัน..จึงไม่มีสิทธิ

    3.เพื่อประสานเราเข้ากับพระพุทธคุณที่สงเคราะห์..ต่อเนื่อง..ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าความต่อเนื่องและต่อไปได้ตลอดเวลานี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะมันส่งตรงและเชื่อมโยงกับใจเธออย่าลืมว่าคนเรานี้ใจไวที่สุด(แบบนี้เรียกว่าต่อเนื่องเท่าทันใจตน)

    4.เพื่อเป็นหนึ่งเดียวไปกับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ารวมกับใจเราไม่แตกแยกเมื่อเป็นหนึ่งเดียวกับเราย่อมเข้าใจเราได้ดีที่สุดอุปมาว่าใครจะเข้าใจตัวเรามากไปกว่าตัวเราเอง ผสานกันรวมกันดุจเป็นพรสวรรค์และการสงเคราะห์จากครูเบื้องบนเฉพาะของตัวเรา

    5.เพื่อเกี่ยวพันกับเราและซ่อมแซมอาการวิบัติวิปริตทั้งปวง เมื่อเกี่ยวกันสัมพันธ์เป็นหนึึ่งเดียวกัันย่อมรู้อาการ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่สัมพันธ์ใจจะไม่รู้อาการหรือสิ่งที่ต้องจัดการเลย พอสัมพันธ์ใจแล้วทีนี้เรานึกคิดอย่างไร..ทนมามากเท่าไร..เจ็บช้ำมาแค่ไหน..ย่อมซอมแซมสงเคราะห์ได้เข้ากับสถานการณ์ทันทีไม่ต้องเสียเวลาจับต้นชนปลายไม่ถูก

    6.เพื่อให้เราเข้ากันได้กับพระพุทธคุณที่คอยซ่อมแซมชีวิตนั้น ไม่มีอาการขัดขืนหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าดื้อยาอุปมาว่าสงเคราะห์อย่างไรก็ไม่ถูกช่องถูกอาการ มีสถานการณ์ของสิ่งที่มองไม่เห็นปิดกั้นแทรกซ้อนการสงเคราะห์นั้นๆเสมอ

    7.เพื่อให้จังหวะชีวิตเราไม่ผิดที่ผิดทางตกต่ำลง พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุดเพราะใช้ชีวิตผิดที่อยู่ผิดทางผิดเวลาแม้เพียงนิดย่อมนำมาซึ่งความฉิบหายวุ่นวายไม่รู้จบเช่นนี้จังหวะชีวิตจึงสำคัญมาก หากจะใช้ชีวิตให้ราบรื่นไม่สะดุดไม่สะดุุ้งแล้วจังหวะชีวิตจ้องเป็นจังหวะทิพย์จังหวะสวรรค์ หากไปเจอจังหวะนรกแล้วแม้ไม่รู้ตัวก็ยากแก้ไขเช่นนี้ผงสัมพันธ์ใจจึงแปลงให้เป้นจังหวะทิพย์ไปตลอดกาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้สำคัญมากยิิ่ง
    อะไรที่เราไม่รู้ตัวคือพระพุทธคุณท่านรู้แทนเราและสงเคราะห์นำเราไปแล้วนี่คือผลดีของสัมพันธ์ใจ
    - ไม่ต้องรอจนกว่าเราจะระลึกได้รู้ตัว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมสายไปแล้ว
    - เพราะกว่าเราจะรู้สึกตัวทุกเรื่องย่อมยากเกินการแก้ไข

    ด้วยผงนี้แม้เราจะรู้ตัวก็ดี,ไม่รู้ตัวก็ดี,ระลึกได้ก็ดี,ระลึกไม่ได้ก็ดี,อยู่ถูกจังหวะก็ดี,อยู่ผิดจังหวะก็ดี..พระพุทธคุณย่อมจัดการสงเคราะห์แก่เราเสมอ พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดง่ายๆเลยคือไวเท่าทันใจเราแม้ยามใดสติเราตามไม่ทันใจตนเองหลงลืมจุดด้อยข้อพลั้งพลาดเล็กๆน้อยๆนั่นแหละทุกอย่างจะได้ "ไม่มีคำว่าสายเกินไป..สำหรับชีวิตเธอ"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรากดพิมพ์พระผงมงคลกาลนี้ให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เราพอทำได้เพื่อให้สะดวกต่อผู้อาราธนา และถือโอกาสทำเป็นพิมพ์ขี่ไก่เป็นอนุสติว่า
    - ให้ขยันทำมาหากินและตื่นก่อนไก่ย่อมได้ดีทุกคน
    - ไก่ของเรานี้เราก็แยกเสกลงวิชาพญาไก่เถื่อนไว้
    - ไก่ของเราหากินเก่งมากจะพาเธอให้หากินคล่องแคล่วไปด้วย
    - ไก่ของเราก้าวหน้าไม่หยุดไม่มีถอยหลัง
    - ไก่ของเราพาคนไปเจริญรุ่งเรืองได้
    - ไก่ของเราตีใครไม่แพ้เลย
    ลูกอมสองลูกข้างหลังท่านว่าเป็นวิชาทำผงขององค์ปฐมที่่ออาจารย์ท่านเรียกว่าห่างทุกข์คือลูกหนึ่งว่าชีวิตไม่รู้จักความทุกข์อีกลูกคือไม่เห็นความทุกข์ทั้งปวง

    คาถาบูชา

    พ่ออาจารย์ว่าติดตัวไว้ไม่ต้องใช้ต้องท่องอะไร..แม้สลายย่อยเป็นอณูฝุ่นก็ยังใช้ได้

    *** ท่านว่าเราพยายามทำพระพิมพ์ที่เล็กที่สุด..และทำผงก็ทำไปด้วยอุตสาหะที่สุด เหมาะสมกับคนที่รู้ค่าเพราะของบางอย่างก็ปรากฏมาเฉพาะกาลโอกาสเท่านั้น


    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น


    ร่วมทำบุญบูชา จันทร์ลอยพระเจ้า 84,000(ลองพิมพ์มงคลกาลบารมีสัมพันธ์ใจ) บูชา 900 บาท
    813965df-64bd-4064-a091-3b81629d9183.jpg 813965df-64bd-4064-a091-3b81629d9183.jpg
    327ab8680f97e9e3b690cdf90368dc3d.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ถามพ่ออาจารย์ท่านว่าพิมพ์จันทร์ลอยนี่สำคัญยังไง ท่านว่าเฉพาะผงก็เสมอด้วยเธอคาดตะกรุด 84,000 ดอกพร้อมกัน ที่เหลือครูเบื้องบนท่านลงมาสงเคราะห์ให้ต่างออกไป(ท่านว่าพูดได้เท่านี้)
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พรุ่งนี้จะเปิดจองเครื่องมงคลชุด “คนลืมตัว” ..เป็นชื่อแปลกๆที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกและตั้งไว้เป็นอนุสติว่าเมื่อสำเร็จแล้วในสิ่งใดๆอย่าได้ลืมตัว

    จริงๆชุดนี้ท่านทำเสร็จมาตกกว่า 5 ปีเมื่อได้ให้คนบูชาไปก็เห็นผลที่เกินคาดมากๆถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านว่า
    “จากคนย่อยยับ..ฟื้นมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน” เสียแต่ที่ว่าลืมคำบนที่บอกครูไปทั้งสิ้น เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงมักพูดเสมอว่าขอได้แต่อย่าบน..เวลาบนอะไรอย่าบนเกินตัวจนรู้สึกเสียดายยามต้องแก้บน

    เช่นนี้ท่านจึงตั้งชื่อเครื่องมงคลชุดนี้ว่าชุดคนลืมตัวและเก็บไว้มานานมากกว่า 5 ปี พรุ่งนี้จะเปิดให้จองกันอย่าลืมว่าขอได้..และบนได้ยามเมื่อสำเร็จต้องแก้แต่ถ้าขอก็ไม่ต้องแก้
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลมหาพิฆาตเนรเทศฝากตะวันลาโลก("บรมสุข"อินทร์พรหมยมยักษ์ชุดคนลืมตัว)

    อินทร์พรหมยมยักษ์ = ควบรวมกำลังบรมครูทั้งหมื่นจักรวาลเพื่อใช้ยามปัดออก
    มหาพิฆาต =
    ตัวเราเป็นผู้ทำลายและตัวเราเลือก..สิ่งที่จะทำลาย
    ฝากตะวัน = วิชานี้สามารถปัดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาออกพ้นชีวิตได้ ฝากให้ตก,ลับ,ดับ,หายไม่อาจโผล่กลับมาได้ให้ตกตามไปกับพระอาทิตย์ยามตกดิน..วันละเรื่องๆไม่มีข้อแม้

    เครื่องมงคลชุด “คนลืมตัว” ..เป็นชื่อแปลกๆที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกและตั้งไว้เป็นอนุสติว่าเมื่อสำเร็จแล้วในสิ่งใดๆอย่าได้ลืมตัว จริงๆชุดนี้ท่านทำเสร็จมาตกกว่า 5 ปีเมื่อได้ให้คนบูชาไปก็เห็นผลที่เกินคาดมากๆถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านว่า “จากคนย่อยยับ..ฟื้นมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน” เสียแต่ที่ว่าลืมคำบนที่บอกครูไปทั้งสิ้น เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงมักพูดเสมอว่าขอได้แต่อย่าบน..เวลาบนอะไรอย่าบนเกินตัวจนรู้สึกเสียดายยามต้องแก้บน เช่นนี้ท่านจึงตั้งชื่อเครื่องมงคลชุดนี้ว่าชุดคนลืมตัวและเก็บไว้มานานมากกว่า 5 ปี ท่านว่าอย่าลืมว่าขอได้..และบนได้ยามเมื่อสำเร็จต้องแก้แต่ถ้าเพียงขอก็ไม่ต้องแก้

    มงคลมหาพิฆาต..พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาทำตะกรุดของบรมครูบรมพรหมสฮัมบดีที่ให้คุณแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากที่สุดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บไว้ยาวนานด้วยกลัวคนปรามาสว่าเป็นเพียงตะกรุดธรรมดาไม่รู้คุณค่า ท่านว่าตะกรุดดอกนี้เมื่อได้รับเกินไปมากๆแล้ว(ให้รีบเลี่ยมทองเสีย) เข้าเรื่องมงคลมหาพิฆาตพ่ออาจารย์ท่านว่าชื่อนี้ดูดุเด็ดเพราะเป็นวิชาที่ใช้อำนาจบังคับเด็ดขาดสูงสุด
    1. ตัวเราเป็นผู้ทำลาย แล้วจะทำลายอะไรพ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งที่จะทำลายคือเรื่องที่ชีวิตเราไม่ต้องการ,ไม่ปรารถนาจะให้เกิด,ไม่ปรารถนาจะให้มี,ไม่ปรารถนาจะให้ปรากฏแก่ชีวิตของเรา นั่นคือเรื่องที่เราเป็นผู้ทำลายเพราะเราย่อมรู้ตัวเราดีที่สุดว่าอันไหนสุขอันไหนทุกข์อันไหนคือความอิ่มเอิบ...แล้วสิ่งใดเล่าคือความสูญเสีย

    2. ตัวเราเป็นผู้เลือกสิ่งที่ทำลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งที่ทำลายนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะไม่ใช่ว่าจะทำลายให้สูญหายไปเสียหมด เรื่องไหนควรคงไว้ขยายผลมันต่อไปเรื่อยๆหรือเรื่องไหนควรหาย,หมด,จบ,สิ้นไปจากชีวิตนั่นคือเลือกและจำกัดสิ่งที่ทำลายเพื่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลสูงสุดยามอาราธนา

    3. ตัวเราเป็นผู้ล้างผลาญ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เมื่อเลือกสิ่งที่ทำลายและใช้แล้วสิ่งนั้นย่อมระงับไปเสมอว่าไม่เคยมีมาก่อน ตรงนี้ท่านเรียกว่าโดนล้างผลาญไปทั้งหมด(แต่เป็นล้างผลาญในทางที่ดีกับเราที่สุด) คือที่ไม่ดีที่ไม่เอาก็หมดไปแบบไม่มีเหลือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อันใหญ่ยิ่งไม่ใช่การสึกกร่อนหากแต่เป็นการสูญสิ้นแบบราบคาบ

    4. ตัวเราเป็นผู้กำจัด จากสิ่งที่ไล่ไม่ไปไสส่งอย่างไรก็ไม่พ้นด้วยกำลังของผู้กำจัดนี้สิ่งที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆเราจะมีกำลังบังคับปราบปรามเอามันลง พูดง่ายๆคือตัวเรามีสิทธิและกำลังเหนือกว่ามันและมากพอที่จะเหวี่ยงทิ้งมันออกไปเป็นอาญาสิทธิ์ให้เรื่องที่ไม่พึงประสงค์ในชีวิตหลุดออกไปทั้งยวงไม่เหลือเชื้อไฟคุกคามใดๆอีก

    เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงไม่เคยทำมงคลมหาพิฆาตเลยและตั้งใจทำเพียงหนเดียวเท่านั้น ด้วยครูบรมพรหมสฮัมบดีโองการเป็นปกาศิตฟ้าดินไว้ว่า.. "วิชานี้ใช้ได้สืบไปทั้งอายุขัยผู้อาราธนา" พ่ออาจารย์ท่านว่าคำสั้นๆนั้นแต่ความหมายยิ่งใหญ่มาก
    - เพราะเธอสามารถทำลายกำจัดล้างผลาญสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ให้คงอยู่ในชีวิตเธออีกต่อไป
    ..อธิษฐานสะบัดออกไปจากตัวได้วันละเหตุวันละเรื่อง
    - ตะกรุดนี้ใช้ได้ทุกวันไม่มีข้อห้าม..ไม่มีวันหยุด..ไม่มีข้อยกเว้น หากเพียงแต่มีประสงค์จะใช้ก็ใช้ได้เลย
    - เมื่อสะบัดพ้นตัวไปแล้วท่านว่าเหตุอุบัติอาเพศสิ่งวิกลทั้งเล่ห์กลมารยาใดๆในชีวิตที่เราได้รับผล
    มันจะถอนรากถอนโคนออกไป

    วิธีใช้
    1. ให้เราพิจารณาเหตุแห่งความตกต่ำทั้งสิ้นทุกประการทั้งอาเพศและเรื่องวิบัติในชีวิตรวมไปถึงสิ่งที่เราไม่พึงปรารถนาให้เกิดขึ้นให้คงอยู่ในชีวิตของเรา และจดเรียงลำดับไว้ก่อนหลังตามความสำคัญเร่งด่วนอย่างไร
    2. เมื่อเลือกสิ่งที่จะพิฆาตออกไปแล้ว..เรื่องนึงให้รอเวลายามพระอาทิตย์ตกดิน
    3. เมื่อพระอาทิตย์ตกดินให้ระลึกถึงคุณท้าวสฮัมบดีบรมพรหม นำตะกรุดแตะไว้ที่หน้าผาก
    4. แล้วออกปากพูดเบาๆพอตัวเองได้ยินถึงสิ่งที่เราอยากพิฆาตเนรเทศออกไป
    5. ในระหว่างที่พูดตะกรุดนี้ก็ยังแปะไว้ที่หน้าผากอยู่
    6. เมื่อพูดจบแล้วจึงรูดตะกรุดลงไปในลักษณะสะพานโค้งแล้วตวัดสะบัดออกไป
    7. หลังสะบัดออกไปแล้วให้ออกปากกับพระอาทิตย์ว่า
    เรื่อง...ของเราขอฝากให้ตก,ลับ,ดับ,หายไม่อาจโผล่กลับคืนมาแก่เราได้ ให้ตกตามไปกับดวงตะวัน
    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อพระอาทิตย์ตกก็ใช้ได้เลยและใช้ได้ทุกวัน ด้วยคนเราย่อมมีปัญหาใหม่เก่ารุมเร้าไม่รู้จบ ตะกรุดนี้จึงใช้ได้ทุกวันเดือนปีตามเวลาที่เคลื่อนจรไป ยามพระอาทิตย์ขึ้นมาก็จะรับเรื่องและพาเหตุอาเพศต่างๆของเราคล้อยต่ำตกลับดับหายลงไปด้วยตามโองการท้าวสฮัมบดีบรมพรหม

    ด้วยควบกำลังของบรมครูทั้งหมื่นจักรวาลพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้จึงเป็นสื่อชั้นยอด
    - นั่นคือเวลาเธอพูดอะไรแม้พูดลอยๆ
    ..ครูยังรับรู้
    - นั่นคือยามเธอพูดอะไรแม้พูดเล่นๆ..ก็ยังมักได้
    จุดนี้เองพ่ออาจารย์ท่านว่าจึงใช้อาราธนาขอพรได้ทั้งสิ้นและเห็นผลไม่ช้านานด้วยกำลังครูที่รอช่วยอยู่นั้นมหาศาล องค์ไหนใกล้องค์นั้นช่วยก่อนเรื่องไหนองค์ใดทำได้องค์นั้นแหละมาทำก่อน..เป็นเช่นนี้ *** จึงไม่จำเป็นต้องนำตะกรุดขึ้นมาบนบานศาลกล่าวเลย ไม่ใช่ว่าจะบนบานไม่ได้พ่ออาจารย์ท่านว่าบนได้และยังเห็นผลไวที่สุดด้วยหากแต่อย่าบนแล้วลืมแก้..พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญมากปกติเธอบนใครก็เหมือนพูดกับคนๆนั้นใช่มั๊ย แต่ตะกรุดนี้เหมือนเธอขึ้นไปยืนบนเวทีแล้วมีคนดูอยู่มหาศาล(ระดับหมื่นโลกธาตุ) เพราะฉนั้นยามผิดคำบนมันจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆพ่อาอจารย์ท่านว่าเพียงขอพรและใช้งานตามปกติก็พอ ถ้าจะบนอะไรให้จดไว้ด้วยและเลือกบนเฉพาะในสิ่งที่แก้ได้เท่านั้น

    เนรเทศสิ่งใด..ไปกับตะวัน
    1.ภูติผีปีศาจที่เกาะกินไม่ได้ทำคุณประโยชน์
    2.ภยันตรายเรื่องทุกข์ร้อนที่เกิดไปแล้วหรือมีโอกาสเกิดขึ้น
    3.สิ่งอัปมงคลอันสัมผัสไปทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
    4.ปัญหาร้ายแรงตามกาลต่างๆ
    5.ภัยจากศัตรูทั้งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว
    6.เสนียดจัญไรที่พอกพูนตามกาลโอกาส
    7.เคราะห์เข็ญเวรภัยทั้งหลาย
    8.ดวงชะตาที่ตกต่ำลงแบบไม่รู้สาเหตุ
    9.คุณไสยคุณมนต์ที่เราไปโดนมาจากลมเพลมพัดที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
    10.อาคมอาถรรพ์อาเพศที่เขาใช้มาทำลายชีวิตเรา
    11.โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายที่ย่ำยีเราอยู่

    ...พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้ทั้งหมดอันนี้พูดในภาพรวมหรือในมุมกว้างๆแต่หากใครที่มีเป้าหมายตรงๆแบบชัดเจนไปเลยก็ใช้ได้เช่นกัน...เรื่องจน..เรื่องฐานะไม่ดีดขึ้น..เรื่องคดีความทั้งหลาย..เรื่องไม่ได้รับความรักตอบ..พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ยกตัวอย่างจริงๆเรียกว่าร้อยแปดพันประการ

    เนรเทศไปกับตะวันอุปมาเหมือนหายจ้อยคล้อยตามพระอาทิตย์ที่ลาลับดับไปแม้นรู้ว่ามีอยู่แต่จะหาอย่างไรก็ไม่พบไม่ส่งผลต่อตัวเราอีกต่อไปให้ไฟแห่งสุริยะเทพย่อมเผาทุกข์..เผาโศก..เผาเรื่องที่เราเนรเทศให้มอดไหม้ไปไม่กลับมาอีกเลย..พ่ออาจารย์ท่านว่าเหตุที่เราฝากไปจะทุกข์โศกโรคภัยอาถรรพ์อาเพศความฉิบหายตกต่ำใดๆก็ดีมันจะเคลื่อนตามพระอาทิตย์หายไปทั้งหมดพอขึ้นวันใหม่ก็นับ 1 ใหม่เป็นเรื่องใหม่เวลาใหม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้แม้พกไว้เฉยๆไม่ต้องไปทำอะไรเลย จากคนเคราะห์หนักๆก็ยังบันดาลให้เคราะห์กรรมเบาบางไปได้อย่างน่าอัศจรรย์

    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะใช้ในเวลาตะวันตกดินแล้วตะกรุดนี้พกไว้ในยามปกติทุกๆเวลายังมีคุณช่วยให้เรื่องที่เธอทำสำเร็จได้แบบง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญเพราะคุณแห่งบรมพรหมท่านลงไว้ให้
    - เสริมทั้งหมด
    - เสริมทุกเรื่อง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอะไรเป็นเรื่องมงคลนี่เสริมทั้งหมดเลย
    เริ่มต้นจากตัวจากหน้าเธอเองคือเสริมสง่าราศีไปถึงดวงชะตา..โชคะชะตา..แบบนี้ทำอะไรย่อมสำเร็จง่ายเพราะมันเป็นมงคลแก่เราเสมอเช่นนี้เราจึงรุ่งเรืองขึ้นสถานเดียวเสมอไป

    ในความหมายของมหาพิฆาตนี้แท้จริงคือ "บรมสุข" ..คือพิฆาตสิ่งไม่พึงข้องแวะไม่พึงประสงค์ออกไปจนชีวิตเหลือแค่บรมสุขตามคติของแต่ละตัวตน เช่นนี้จึงเสริมมงคลทั้งหมดพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใช้เฉพาะยามตะวันตกก็จะใช้ได้ตามกฤติยาคมหากแต่จะพกไว้ทั้งวันทั้งคืนด้วยก็จะเกิดวงจรมงคลที่ช่วยเราพิฆาตเรื่องที่ไม่ถูกใจสบายใจไปด้วย

    1.เรื่องใดที่ต้องปรุงแต่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจปฐมแห่งมหาพรหมของตะกรุดนี้คือพื้นฐานวงจรที่จะปรุงแต่งหมื่นปรารถนาขึ้นมา ยามเธออาราธนาแล้วอำนาจของพระผู้สร้างและปกาศิตที่ให้เธอใช้งานนี่แหละจะคอยปรุงแต่งสิ่งที่เหมาะที่ควรให้เกิดขึ้นกับเธอได้เสมอแบบไม่ต้องขอ

    2.เรื่องใดที่ต้องขยับขยาย วงจรนี้สำคัญมากคือหนทางใดที่เธอเดินไปแล้วมันจะเจริญงอกงามได้นั่นคือวงจรที่ต้องขยับขยายออกไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันหนทางใดมันไปแล้วจะพังพินาศชะตาชีวิตก็จะบันดาลให้ตีบตันให้เธอไม่สามารถเดินไปตามหนทางนั้นได้..พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ตะกรุดนี้แล้วอย่าดื้อทางไหนถ้าลองทำแล้วไปไม่ได้ให้หยุดเลยเพราะนั่นไม่ใช่ทางของเรา

    3.เรื่องใดที่ต้องเติมต่อ พ่ออาจารย์ท่านว่าถัดมาจากขยับขยายก็คือวงจรเติมต่อที่จะทำให้เธอโตไปได้เรื่อยๆแบบไม่ปล่อยผ่านไม่ปล่อยทิ้ง คือต่อเติมเสริมสร้างไม่ให้ชีวิตเธอหยุดอยู่กับที่แบบไร้ประโยชน์ไปเปล่าๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่มีวงจรนี้ชีวิตคนมันโตไม่ได้จะเรียกว่าพัฒนาไม่ได้เลยเพราะมันจะหยุดอยู่เท่าเดิม แต่พอมีวงจรนี้ความเจริญมันไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่แต่มันจะเจริญต่อไปเรื่อยๆไม่รู้จบตราบใดที่เรายังมีความมุ่งมั่นก็จะดำเนินไปเรื่อยๆ

    4.เรื่องใดที่ควรหนุนนำ วงจรนี้จะเข้ามาหนุนนำกิจที่ถูกเรื่องเรียกว่าหนุนขึ้นไปให้สูงได้ง่ายๆและขึ้นไปจนถึงจุดที่ไม่ตกลงมาอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญมากเพราะมันเข้ามาหนุนไปทุกอย่างในทางที่จะทำให้เธอเจริญแล้วมันจะสะดวกง่ายดายทั้งหมดเพราะวงจรนี้มันเข้าไปหนุนตลอดทุกเรื่อง..เปลี่ยนเธอจากผู้ตามสรรพชีวิตอื่นๆให้เป็นผู้นำได้

    5.เรื่องใดที่ต้องเพิ่มพูน วงจรเพิ่มพูนนี้จะหนักไปในเรื่องทรัพย์และความมั่นคงของชีวิตเธอไม่ให้สิ่งที่หามาพังทลายลงไป พ่ออาจารย์ท่านว่ามันจะเพิ่มพูนและมีมากขึ้นๆไปเรื่อยๆจะเรียกว่าพอกพูนก็ได้เป็นวงจรอาถรรพ์ที่ทำให้หน้าที่การงานฐานะของเธอมั่นคงแข็งแกร่ง

    คาถาบูชา
    เวลาขับต้องมีคาถากำกับ (มอบให้เฉพาะเจ้าของ)

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น วิชานี้ตีตารางยันต์และลงยากดอกนึงต้องใช้ฤกษ์ถึง 3 ฤกษ์ลงต่อกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดที่ทำยากกว่าจะได้แต่ละดอกจึงเป็นตะกรุดเปลือยๆแบบไม่ฝังไม่อุดอะไรทั้งสิ้นพ่ออาจารย์ท่านว่าครูบรมพรหมท่านโองการไว้ว่าให้ทำแบบนี้เน้นใช้งานจริงไปชั่วกาล คนไม่รู้ค่าจะมองข้ามความเมตตาของฉันไปที่ให้เธอทำวิชานี้ ด้วยวิชาบางอย่างร้อยปีพันปีย่อมไม่ปรากฏขึ้นมาจะปรากฏเพียงยามที่เหมาะแก่คนที่คูควร

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลมหาพิฆาตเนรเทศฝากตะวันลาโลก("บรมสุข"อินทร์พรหมยมยักษ์ชุดคนลืมตัว) บูชา 4,000 บาท
    66098aaa-63bb-42d1-b695-e036f8e18972.jpg
    a9ad8a70-4bf4-46a7-a467-18a55dbfdefd.jpg
    996b91a9ce17a76dd30b3aa0b44086c0.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ครูบรมพรหมท่านโองการไว้ว่าให้ทำแบบนี้เน้นใช้งานจริงไปชั่วกาล คนไม่รู้ค่าจะมองข้ามความเมตตาของฉันไปที่ให้เธอทำวิชานี้ ด้วยวิชาบางอย่างร้อยปีพันปีย่อมไม่ปรากฏขึ้นมาจะปรากฏเพียงยามที่เหมาะแก่คนที่คู่

    ใช้อาราธนาขอพรได้ทั้งสิ้นและเห็นผลไม่ช้านานด้วยกำลังครูที่รอช่วยอยู่นั้นมหาศาล องค์ไหนใกล้องค์นั้นช่วยก่อนเรื่องไหนองค์ใดทำได้องค์นั้นแหละมาทำก่อน..เป็นเช่นนี้ *** จึงไม่จำเป็นต้องนำตะกรุดขึ้นมาบนบานศาลกล่าวเลย ไม่ใช่ว่าจะบนบานไม่ได้พ่ออาจารย์ท่านว่าบนได้และยังเห็นผลไวที่สุดด้วยหากแต่อย่าบนแล้วลืมแก้..พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้สำคัญมากปกติเธอบนใครก็เหมือนพูดกับคนๆนั้นใช่มั๊ย แต่ตะกรุดนี้เหมือนเธอขึ้นไปยืนบนเวทีแล้วมีคนดูอยู่มหาศาล(ระดับหมื่นโลกธาตุ) เพราะฉนั้นยามผิดคำบนมันจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆพ่อาอจารย์ท่านว่าเพียงขอพรและใช้งานตามปกติก็พอ ถ้าจะบนอะไรให้จดไว้ด้วยและเลือกบนเฉพาะในสิ่งที่แก้ได้เท่านั้น
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มงคลมหาพิฆาตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราว่าคาถาเพื่อใช้และสะบัดขับออกไป ### มีเคล็ดนิดนึง หากเป็นเรื่องที่ต้องการเห็นผลฉับพลัน ในดอกตะกรุดให้เอากระดาษเขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดตนเองบรรจุไว้ภายใน …เคล็ดนี้ท่านก็ใช้กับดอกประจำตัวของท่านเองท่านว่าจะให้ผลแบบถาวรและเร็วมาก

    คือบรรจุถาวรไปเลยไม่ต้องเอาออกมาอีก แล้วเวลาใช้จะได้ผลทันใจจะเห็นอะไรดีที่น่าอัศจรรย์แก่ชีวิตมากขึ้นไปเรื่อยๆ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีถามเข้ามาเลยตอบรวมๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าคาถาสั้นๆจำไม่ยาก เวลาทำสำคัญที่สุดคือก่อนทำจิตเราไหว้ตะกรุดนึกถึงคุณบรมพรหมกับอาทิตย์เทพเพียงนิดนึงชั่วครู่กะพริบตาเท่านั้น ..ทุกวันเมื่อจะทำอย่าลืมเรื่องนี้พอทำแล้วจะเห็นผลมากจนอัศจรรย์ใจตน
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    จากที่ให้ PM นำเสนอและปิดการสอบถามไป มีผู้ถามหาเครื่องมงคลท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีหรือท่านอื่นๆเข้ามามากซึ่งหมดไปนานแล้ว กับขอให้ตรวจค้นว่ามีสายวิชามหาเศรษฐีใดๆพอเหลือให้บูชามั๊ยก็ติดตามกันไว้ถ้าลงจะลงให้แบบเวอไพร้เลยเอาแค่คนติดตามกันจริงๆ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา มหาสิทธิปะทะชะตาพลิกสถานการณ์พระปิดตามนุษย์ทองคำ(กลโลกท่านโชติกะ)

    *** เอาไว้เลี้ยงคนทั้งโลก
    *** เมื่อปรารถนาจะให้แล้วสิ่งใดก็เอาไปได้ทั้งสิ้น
    *** หากไม่ปรารถนาจะเสียไปใครก็เอาไปไม่ได้ไม่มีเสีย,ไม่มีลด,ไม่พร่องลง
    *** ทั้งบรรเทาเหล่ามารร้ายสิ่งที่ติดขัดทั้งปวงให้ย่อยยับลงไป
    *** ทั้งผู้จองล้าง..ผู้จองผลาญ เจ้ากรรมนายเวรย่อมพินาศสิ้น


    มหาสิทธิปะทะชะตาเป็นวิชาสร้างเครื่องมงคลที่พระโชติกะ(อดีตมหาเศรษฐีที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในโลก)ได้บอกให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ เป็นเครื่องมงคลที่มีอำนาจปะทะกับชะตาผู้บูชาได้ แม้ทั่วโลกธาตุจะไม่มีสิ่งใดยินดีเข้าปะทะเพื่อตัวเราแต่วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่เพียงปะทะแต่ยังหักเอาได้ทุกเรื่อง
    - กิจใดที่ไม่เป็นไปตามดวงชะตา! ทั้งที่เราอยากให้เป็น
    - โชคใดที่ไม่มีในโชคชะตา! ทั้งที่เราอยากได้รับ
    - การณ์ใดที่คาดหวังไม่ได้ในดวงชะตา! ทั้งที่เราตั้งใจทำแล้ว
    - ฐานะใดที่เกินฐานการเปลี่ยนแปลงในชะตา! ทั้งที่เราพยายามแล้ว
    พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกเรื่องที่เป็นเรื่องโชคชะตาที่ตัวเราต้องฝืนจนเหนื่อยหอบก็ไม่สามารถพ้นอำนาจชะตากรรมได้ วิชาพระปิดตาชุดนี้คือสร้างไว้ปะทะชะตากรรมอันไม่ได้ดั่งใจทุกเรื่องของเราพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปเธอจะได้...ไม่ต้องเหนื่อย..ไม่ต้องเจ็บ..ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ

    กลโลกท่านโชติกะ
    1.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้มีทรัพย์มากอุปมาว่าเลี้ยงคนได้ทั้งโลก
    2.ท่านโชติกะเศรษฐีเป็นดั่งเเสงสว่างแห่งยุคสมัย
    3.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้มีสมบัติจักรพรรดิที่เกิดด้วยบารมีตน
    4.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้มีสมบัติมหาศาลตักไม่พร่อง
    5.ท่านโชติกะเศรษฐีคือผู้ร่ำรวยสูงสุดในพุทธกาล
    6.ท่านโชติกะเศรษฐีคือ
    ผู้อาศัยอยู่ในปราสาทที่พระอินทร์เนรมิตถวาย
    ด้วยบารมีของท่านโชติกะนี้มากถึงขนาดที่ว่าปราสาทที่มนุษย์สร้างไม่อาจรองรับบุญบารมีท่านได้ ต้องเป็นพระอินทร์ลงมาเป็นช่างก่อสร้างเท่านั้นแม้นปราสาทนี้ก็สำเร็จด้วยสัตตะรัตนะทั้ง 7 ประการล้อมให้ทั้งกำแพงแก้วแล้วพระอินทร์จึงนำต้นกัลปพฤกษ์สมบัติคู่ดาวดึงส์สวรรค์(แม้นปรารถนาสิ่งใดต่อกัลปพฤกษ์ก็จะเกิดขึ้นเป็นจริง)มาปลูกไว้ในปราสาท

    ด้วยบารมีของท่านโชติกะนั้นจึงมีมหาขุมทรัพย์ทั้งสี่ขุมเกิดขึ้นที่มุมทั้งสี่ทิศของปราสาทเป็นขุมทรัพย์ที่ย่อมเต็มเสมอไม่มีวันตักพร่องลงได้เลย ทั้งเป็นปราสาทที่ไม่ต้องจุดไฟจุดประทีปใดๆถึงยามกลางคืนหากท่านโชติกะปรารถนาจะให้สว่างในปราสาทนั้นก็ย่อมสว่างดั่งกลางวันด้วยรัศมีแห่งแก้วมณีที่พระอินทร์ใช้สร้างปราสาทนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านโชติกะเศรษฐีนี่เอาดีๆก็คือมหาเทวราชที่ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นเทวราชอยู่ในโลกมนุษย์แม้ยามจะมีคู่ครอง..พระอินทร์ยังต้องไปเชิญนางอตุลกายเทวีซึ่งเป็นนางแก้วจากอุตรกุรุทวีปมาให้ ซึ่งนางได้มาพร้อมกับศิลาทั้ง 3 คือหินโชติปาสาณที่ได้นำมาหุงต้มอาหารใช้ในปราสาทของท่านโชติกะ(ในปราสาทนี้ไม่ต้องก่อไฟให้เกิดควันรำคาญใจเลย)

    ที่เป็นดั่งนี้เพราะสมัยพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านโชติกะนั้น
    - เกิดมาเพื่อเสวยสมบัติที่เกิดจากผลบุญอย่างเดียว จากการที่ได้ถวายมหาทานและไตรจีวรแด่พระวิปัสสีพุทธะพร้อมพระอรหันต์ทั้ง 6 ล้านแปดแสนรูปภายในวิหารที่ท่านสร้างถวายติดต่อกันทั้ง 9 เดือนครบทุกรูป
    - เกิดมาพร้อมสิริมงคลครบถ้วนทุกประการและมหาขุมทรัพย์ ด้วยอานิสงส์โปรยมหาทานสูงถึงหัวเข่าแก่ชนทั้งหลายรอบพระคันธกุฎีวันละ 3 เวลาป่าวประกาศแก่ชนทั้งโลกด้วยความปลื้มปิติว่าใครก็ได้ทุกรูปทุกนามให้มานำทรัพย์นี้ไปตั้งเนื้อตั้งตัว
    - เป็นบุคคลที่โลกนี้ไม่อาจข่มเหงได้ ด้วยได้ขอพระพระวิปัสสีพุทธะไม่ให้มีสิ่งมีชีวิตใดตั้งแต่โจรไปถึงพระราชาตลอดจนคนที่ชื่อว่ามีความสามารถจะข่มเหงท่านได้ ก็ข่มเหงไม่ได้แม้นปรารถนาในทรัพย์ต่อให้เข็มเล่มเดียวก็เอาไปไม่ได้ ทั้งภัยใดอย่าได้บีบคั้นตัดรอนชีวิตและทรัพย์สินของข้าพเจ้า...(พ่ออาจารย์ท่านว่าพรที่ท่านขอพระวิปัสสีนี้สำคัญมาก)
    ท่านโชติกะนี้แม้เกิดมาแล้วก็ยังได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีดุจ "เทพกุมาร" หากปรารถนาสิ่งใดท่านโชติกะ
    ลำบากเพียงอาศัย "มณีรัตนะ" ซึ่งเป็นสมบัติจักรพรรดิทำความปรารถนาของท่านให้สำเร็จได้ทุกประการ เรียกว่าแม้ตัวอยู่บนโลกก็เสวยทิพย์สมบัติดุจดั่งท้าวสักกะเทวราชในแดนดินประดุจอยู่บนสวรรค์บนดิน พระเจ้าพิมพิสารทราบความทั้งหมดจึงส่งฉัตรสถาปนาท่านโชติกะขึ้นเป็นมหาเศรษฐีของกรุงราชคฤห์

    ทั้งทรัพย์ของท่านโชติกะเศรษฐีนั้นหากผู้ใดมีใจคิดปรารถนาคดโกงหรือหวังในสมบัติของท่านต่อให้เป็นพระราชาเจ้าแคว้นกรีฑากองทัพมาล้อมชิง..ถ้าท่านโชติกะไม่ปรารถนาจะให้เพียงเม็ดทรายก็เอาไปไม่ได้(ดั่งที่พระเจ้าอชาติศัตรูเคยจะปล้นชิงก็ไม่ได้รับสิ่งใดกลับไป) พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชากลโลกท่านโชติกะนี้ให้คุณแก่ผู้บูชามาก
    1.ให้คุณแก่ผู้บูชา จะไม่อดอยาก
    ดั่งท่านโชติกะเต็มใจมอบหนทางตั้งตัวให้แก่เธอ
    2.ให้คุณแก่ผู้บูชา ดั่งมีสมบัติจักรพรรดิแห่งท่านโชติกะคอยรองรับชีวิตเธอไว้
    3.ให้คุณแก่ผู้บูชา ในทุกกิจ..ทุกการ..ทุกงาน..ทุกสถานที่ที่เธอไป
    4.ให้คุณแก่ผู้บูชา ให้เธอเจริญด้วยข้าวของเงินทองบริวารพร้อมมูลดั่งท่านเศรษฐี
    5.ให้คุณแก่ผู้บูชา แม้นในทุกหนแห่งที่เธอดำรงค์อยู่
    6.ให้คุณแก่ผู้บูชา ในความสุขปิติใจ(ไม่คอยพะวงรันทด)ของเงินทอง
    7.ให้คุณแก่ผู้บูชา เกิดลาภสักการะเพิ่มพูนได้ดั่งขุมทรัพย์มหาจักรพรรดิทั้ง 4 ของท่านเศรษฐี
    8.ให้คุณแก่ผู้บูชา บันดาลให้สิ่งที่ติดขัดทั้งหมดย่อยยับพังพินาศไป
    9.ให้คุณแก่ผู้บูชา บรรเทาแรงกรรมปิดทางคนปองร้ายแม้มากบารมีดั่งพญามารก็พินาศสิ้น


    ท่านโชติกะนั้นเกิดมาก็มีสมบัติเลื่องลือไปทั่วทั้งทวีปถึงขนาดที่..ชนทั้งโลกต้องแห่มาดูสมบัติและบุญบารมีของท่าน แต่เหนือสิ่งใดคือนิสัยและพรที่ท่านขอพระวิปัสสีนี้เมื่อทำ "พระปิดตากลโลกท่านโชติกะ" จึงส่งผลแก่ผู้อาราธนาโดยเฉพาะว่า
    - ให้ตัวเธอ "รับได้" รับในที่นี้คือรับการช่วยเหลือจากท่านโชติกะได้เพราะบารมีของท่านโชติกะนั้นท่านอธิษฐานไว้ดีแล้วว่าตัวท่าน..คือผู้ช่วยให้ชนทั้งหลายตั้งตัวได้ด้วยวาสนาและทรัพย์สมบัติของท่าน(คือท่านทำเช่นนี้มาทุกภพทุกชาติ) ให้มหาชนถือเอาทรัพย์ตามที่ตัวเองคิดว่าจะมีปัญญานำไปนำกลับไปตั้งเนื้อตั้งตัว ด้วยบารมีของท่านปากขุมทรัพย์นั้นมิได้พร่องลงแม้เพียงองคุลีเดียว
    - ให้ตัวเธอ "เป็นบุุคลที่ไม่มีใครข่มเหงได้" ทั้งที่มีฐานะสูงกว่าเหนือกว่าหรือผู้ขึ้นชื่อว่ามีความสามารถมากพอที่จะกดหัวข่มเหงเธอได้
    - ให้ตัวเธอ "ไม่พบอุปสรรคบีบคั้น" เปลี่ยนจากที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจะก้าวขาต่อไปออกไปทางไหนก็ทำไม่ได้เพราะอุปมาว่าชีวิตโดนบีบคั้นจากทุกสถานการณ์ให้เป็นคนที่เดินไปได้ทุกที่
    - ให้ตัวเธอ "ไม่พบกรรมตัดรอนชีวิต" พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ส่งผลไปถึงผู้จองเวร,ผู้ล้างผลาญ,ผู้จองผลาญ,เจ้ากรรมนายเวร เหล่านี้คือเขามีสิทธิ์เอาคืนทวงคืนกับชีวิตเธอเมื่อไหร่ก็ได้
    - ให้ตัวเธอ "ไม่พบภัยในทรัพย์สินทั้งสิ้น" ตรงนี้สำคัญมากคือทรัพย์ไม่เป้นภัยและทรัพย์ขยับขยายเจริญงอกงามออกไปได้ไม่สิ้นสุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระปิดตากลโลกท่านโชติกะนี้ทำยาก เพราะต้องใช้ "ชุมแสงนิพพาน" ที่เกิดในบ้านตระกูลเศรษฐี 9 ชั่วโคตรไม่ขาดสักรุ่นมาทำ กว่าจะสืบหาและขอเขาพลีตัดมาได้สักนิดหนึ่งนั้นก็ยากมาก พอทำพระปิดตาท่านว่าทำยากเพราะต้องแช่น้ำว่านน้ำยาตามตำรับของท่านโชติกะที่ให้คุณด้านต่างๆควบรวมไว้ครบถ้วน
    - ย่อมถึงฐานะความเป็นมหาเศรษฐี
    - บารมีจะเพิ่มพูนวาสนาจะไหลมาทั้งสิบทิศ
    - จะมีวาสนาชะตาแห่งสมบัติพัสถานรองรับทุกที่(ด้วยบารมีรัตนะแห่งมหาจักรพรรดิโชติกะ)
    - จะเปิดโชคลาภวาสนาให้ถ่ายเทเข้ามาถึงเธอได้โดยสะดวก
    - อำนวยลาภผลโภทรัพย์ได้อย่างมหาศาล

    - ดั่งชีวิตมีมณีรัตนะเป็นแก้วสารพัดนึกอยู่กับตัว
    - ช่วยปิดเคราะห์ปิดอุปสรรคขวางกั้นทั้งปวง
    - จะทำให้ชีวิตเธอร่มเย็นแม้บ้านเรือนก็ร่มเย็น
    - ชีวิตจะห่างไกลอันตราย,ภัย,คนพาลทั้งปวง
    - รอดจากเคราะห์ร้ายทั้งโชคชะตาที่วิบัติ,ชะตาที่แตกหัก
    - พ้นจากการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปสู่ความตกต่ำ
    - ปิดอันตรายจากสิ่งอัปมงคลและสิ่งไม่ดีไม่งามทั้งปวง
    - ไปอยู่ที่ไหน(หากยังอยู่ในโลก)ก็จะเจริญต่อไป

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำสิ่งใดย่อมประสบความสำเร็จได้ง่าย..และคนเอาไปใช้ก็ใช้ได้ง่ายๆหากแต่ยากตอนเสกมากๆ *** เพราะข้อแม้ของท่านโชติกะยามเราทำพระปิดตานี้ คือต้องทำทานตลอดเวลาอันใดสละได้เป็นทานได้ในระหว่างพิธีหากมีคนขอก็ต้องยกให้เขาไปทั้งหมด ระหว่างเวลานี้เรียกว่าเอาถึงที่สุดและให้ถึงที่สุดแม้ขอบ้านขอชีวิตถ้าในเวลานั้นฉันก็ต้องให้ ต้องให้โดยอารมณ์ปิติมีแต่อยากเป็นผู้ให้..ให้โดยไม่รู้สึกเสียดาย(ถ้าติดหวงนี่พังเลย) ยิ่งให้ก็ยิ่งปลื้มปีติถ้าเกิดผิดจากนี้คือเสียเลยใช้ไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพระปิดตาท่านโชติกะนี้นอกจากบารมีของท่านที่อัญเชิญมาฝังโลหิตธาตุท่านโชติกะซึ่งให้คุณเสมอเลือดเนื้อและชีวิตท่านสถิตย์อยู่กับเรานำมาซึ่งวาสนาบารมีของท่านแบบปราณีตที่สุด หากแต่เมื่อเสกยังต้องทำให้ครบคือ
    1.ขอคุณแห่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์.. ผู้เป็นเลิศอันไม่มีผู้อื่นผู้ใดเลิศยิ่งไปกว่า ทั้งเป็นมหาบุรุษที่ถึงพร้อมทุกสิ่งหาผู้เสมอเหมือนมิได้ เพื่อให้ชีวิตเธอบริบูรณ์ถึงพร้อมในทุกด้าน
    2.ขอคุณแห่งพระอัญญาโกณทัญญะ.. ผู้เป็นพระสงฆ์รูปแรก,ผู้ทำให้พระรัตนตรัยครบองค์สาม เป็นเคล็ดว่าทำอะไรเธอก็ได้ก็สำเร็จก่อนใครและชนะก่อนใครทั้งหมด แม้สิ่งที่ขาดก็มีครบ
    3.ขอคุณแห่งพระกัสสปะ.. ผู้เป็นเลิศกว่าผู้อื่นในธุดงควัตร,ผู้มีร่างกายเสมอเหมือนองค์พระภควันต์พุทธะแม้พระพุทธเจ้ายังยอมรับพระราชทานผ้าสังฆาฎิให้แก่กัสสปะ เป็นเคล็ดว่าให้เธอเป็นใหญ่เป็นที่ยอมรับแก่มหาชนทั้งปวง
    4.ขอคุณแห่งพระสารีบุตร.. ผู้เป็นเลิศทางปัญญาแม้นกอบเม็ดทรายขึ้นมาก็สามารถรู้จบได้ ให้เธอเป็นผู้มีปัญญาฉลาดเฉลียวรู้เท่าทันการณ์ทั้งปวงและชนทั้งหลาย
    5.ขอคุณแห่งพระอุบาลี.. ผู้ทรงพระวินัยอยู่ในกฏระเบียบ ให้ชีวิตเธออยู่ในระเบียบวินัยไม่หลงไปกับอบายมุขสิ่งล่อลวงทั้งปวง
    6.ขอคุณแห่งพระอานนท์.. ผู้เป็นพุทธอุปัฏฐาก,ผู้ได้รับฟังธรรมทั้งหมดของพระพุทธเจ้าดูแลทุกอย่างตั้งแต่ตื่นบรรทมจนจำวัด ให้ชีวิตเธอมีสายตากว้างขวางฉลาดรอบรู้มีผู้อุปถัมภ์
    7.ขอคุณแห่งพระสีวลีและพระควัมปติ.. ผู้เป็นเลิศในโชคลาภ ให้เธอได้ในขุมทรัพย์ทั้งหลายทั้งปวงมีอำนาจบารมีคนเกรงอกเกรงใจ
    8.ขอคุณแห่งพระโมคคัลลานะ.. ผู้ยิ่งในอิทธิปาฎิหาริย์ ให้ชีวิตเธอมีปาฎิหาริย์เนืองๆทำสิ่งใดก็เจริญรุ่งเรืองพูดสิ่งใดก็เป็นเงินเป็นทองมีฤทธิ์ทางใจคิดสิ่งใดก็สำเร็จ แม้ทำการงานก็คล่องแคล่วคล่องตัวมีความสุขสบาย
    9.ขอคุณแห่งพระราหุล.. ผู้ใคร่ต่อการศึกษาเรียนรู้ ให้ชีวิตเธอได้เรียนรู้สนุกไปกับชีวิตไม่รู้จบมีสติปัญญาเป็นเลิศสมบูรณ์ด้วยเกียรติยศชื่อเสียง

    นอกจากนั้นท่านยังต้องทำ "ผงยามหาเมตตาใหญ่" อุดไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงยานั้นทำยากกว่าลบผงนักเพราะต้องใช้แร่ธาตุและว่านยาจำนวนมาก(มีอิทธิคุณแรงกล้ากว่าหมื่นเท่า) ผงยามหาเมตตาใหญ่นี้มีพลังงานขับเคลื่อนที่เรียกว่าเดินกำลังอยู่ตลอดเวลามีอานุภาพแผ่อัปมัญญาคือเมตตากรุณามุทิตาอุเปกขาแก่สรรพชีวิตทั้ง 12 จำพวกออกไปทั้งสิบทิศ ไม่ว่าจะเป็นสัตตา,ปาณา,ภูตา,ปุคคะลา,อัตตะภาวะปริยาปันนา,อิตถิโย,ปุริสา,อริยา,อนริยา,เทวา,มนุสสา,วินิปาติกา พ่ออาจารย์ท่านว่าผงยานี้ทำยากต้องนั่งทำทีละทิศเสกทีละจำพวก จะทำแบบควบรวมทีเดียวไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเสกถึง 528 ครั้งจึงครอบคลุมทุกทั่วตัวสัตว์ทั้งหมื่นโลกธาตุผงนี้มีคุณใหญ่ไม่นำพาพลังงานอาฆาตแค้นแม้สักนิดหนึ่งก็ไม่มี เป็นมหาเมตตาที่ก่อตัวและสืบเนื่องไปไม่รู้จบ

    - อำนาจแห่งกุศลกรรมจะแผ่ออกไปกว้างใหญ่ไพศาล แรงอกุศลกรรมใดๆไม่แผ้วพาน
    - จะชนะมารทั้งห้าดั่งพระผู้พิชิตมาร(องค์พุทธะชนะพญามาร)
    - บันดาลให้ความปรารถนาทั้งหลายทั้งปวงสำเร็จได้ ด้วยมหาเมตตาใหญ่
    - แม้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็ไม่เบียดเบียนเรา คงอยู่โดยปราศจากการเบียดเบียน
    - มีอำนาจเมตตาแผ่ไปถึงสัตว์ทั้งหลายที่มีกรรมเป็นของตนเอง ตั้งแต่อยู่สูงขึ้นไปในภวัคคพรหมาน ตลอดจนถึงที่อยู่แดนกลางและแดนล่างไปจนถึงนรกอเวจีในจักรวาลโดยรอบ
    - เมื่อยามท่องเที่ยวไปในแผ่นดิน,ในน้ำ,ในอากาศย่อมคงอยู่โดยปราศจากทุกข์และปราศจากอุปัทวอันตราย


    ### ฝังตะกรุดพลิกสถานการณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาตะกรุดพลิกสถานการณ์ของท่านโชติกะนี้ท่านให้ทำใส่เฉพาะพระปิดตาของท่านห้ามเอาไปกระทำใส่วัตถุมงคลใดๆ โดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วควรจะเรียกว่าพลิกสถานการณ์โลกทั้ง 3 ดีกว่าเพราะตอนเสกนั้นนิมิตพลิกฟ้าพลิกดินได้ทั้งหมดเกินกว่าพลิกสถานการณ์ทั่วไปมากๆ นอกจากนั้นยังใช้ในทางสารพัดชุบด้วยไปพร้อมๆกันคือชุบตัว..ชุบชะตา..ชุบราศี..ชุบดวงเช่นนี้จึงเรียกว่าพลิกชีวิตพลิกสถานการณ์ได้จริงแก้ไขปัจจัยเคราะห์ภัยทั้งหมดให้สูญไป .
    1.หากยังติดเคราะห์อยู่ก็จะพ้นไป
    2.หากทำมาหากินไม่ขึ้นจะได้สิ่งที่หวังสมปรารถนา
    3.หากมีโรคาพาธพยาธิไม่หาย ก็จะกลับดีฟื้นคืนมา
    4.แก้อาถรรพ์ภูติผีปีศาจอันมาราวีเบียดเบียน
    5.แก้อาถรรพ์ไสยศาสตร์และของต่ำการฝังรูปฝังรอย
    6.แก้ธรณีสารและเสนียดจัญไรทั้งสิ้น
    7.แก้อัญหาอันถูกเขารังแกข่มเหง
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    มันพลิกไปทั้งหมดไม่ให้เธอติดขัดอะไรเลย เรียกว่าแม้อาถรรพ์อุบาทว์ในแผ่นดินนี้ที่เกิดจากที่..เกิดจากทาง..เกิดจากคน..เกิดจากสัตว์ในแผ่นดิน..เกิดจากภูติผีปีศาจที่สิงสถิตย์อยู่..เกิดจากเจ้าที่เจ้าทางอันให้โทษแก่คน ทุกอย่างมันพลิกกลับหมดอุบาทว์อะไรเริ่มมาจากตรงไหนก็กลับไปตรงนั้น ทั้งคำสาปแช่งที่ติดตัวมาหรือโดนใครสาปใครปองร้ายก็ย้อนกลับคืนไปแก่อริศัตรู

    คาถาบูชา
    (มอบให้เฉพาะไว้ใช้อาราธนา)


    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้จองให้แจ้งเวรกรรมที่ติดขัดมาด้วยจะอธิษฐานขอบารมีท่านโชติกะเปิดทางให้

    ร่วมทำบุญบูชา มหาสิทธิปะทะชะตาพลิกสถานการณ์พระปิดตามนุษย์ทองคำ(กลโลกท่านโชติกะ) บูชา 4,000 บาท
    62c4f8c1-b207-4f6d-9212-0773028842ad.jpg
    6c8c914f-4cf9-4444-851d-67ef39535f3d.jpg
    Lifeof-Buddha039.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้จองให้แจ้งข้อเวรกรรมต่างๆที่ติดขัดมาด้วย(มีกี่เรื่องก็แจ้งมา)จะอธิษฐานขอบารมีท่านโชติกะเปิดทางให้..อย่าเร่งให้ส่ง ท่านว่าปิดตาชุดนี้ดีมากคนใช้ไม่มีเวรกรรมหนักมากระตุ้นเลยแม้คนที่จะได้ไปก็มีเฉพาะผู้ปูหนทางเดินชีวิตเขามาเช่นนี้

    - อำนาจแห่งกุศลกรรมจะแผ่ออกไปกว้างใหญ่ไพศาล แรงอกุศลกรรมใดๆไม่แผ้วพาน
    - จะชนะมารทั้งห้าดั่งพระผู้พิชิตมาร(องค์พุทธะชนะพญามาร)
    - บันดาลให้ความปรารถนาทั้งหลายทั้งปวงสำเร็จได้ ด้วยมหาเมตตาใหญ่
    - แม้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็ไม่เบียดเบียนเรา คงอยู่โดยปราศจากการเบียดเบียน
    - มีอำนาจเมตตาแผ่ไปถึงสัตว์ทั้งหลายที่มีกรรมเป็นของตนเอง
    ตั้งแต่อยู่สูงขึ้นไปในภวัคคพรหมาน ตลอดจนถึงที่อยู่แดนกลางและแดนล่างไปจนถึงนรกอเวจีในจักรวาลโดยรอบ
    - เมื่อยามท่องเที่ยวไปในแผ่นดิน,ในน้ำ,ในอากาศย่อมคงอยู่โดยปราศจากทุกข์และปราศจากอุปัทวอันตราย
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ท่านที่จองมหาสิทธิอย่าลืมแจ้งรายละเอียดไว้นะเรื่องข้อเวรกรรมต่างๆที่ชีวิตติดขัด มีกี่เรื่องก็แจ้งมาทั้งหมด
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้มาน้อมใจบูชาคุณพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าเนื่องใน..วันอัฏฐมีบูชากันนะครับ

    เมื่อเช้าเปิดอ่านข้อความมีพี่ที่จองมหาสิทธิปะทะชะตามาเล่าให้ฟังว่า
    ...ฝันเห็นพระรูปหนึ่งงามมากๆคืองามมากกว่าคน ท่านถามเป็นภาษาของท่านเราฟังไม่ออกแต่เสียงนั้นกลับดังก้องในใจเราว่า "เธอรู้จักปู่หรือไม่" ผมก็ไม่รู้จักปู่ไหนใครคือปู่ตัวท่านก็ทั้งหนุ่มทั้งงามไม่มีร่องรอยความสูงวัยเลยงามแบบอ่อนเยาว์เนื้อเกลี้ยงๆเหมือนจะมีรัศมีสุกๆอยู่ในเนื้อท่านไม่มีข้อต่อเหี่ยวย่นอะไรเลย ตัวพระรูปนั้นก็พูดมาอีกเป็นภาษาของท่านแต่เรากลับฟังแล้วเข้าใจความว่า "ต่อไปให้เรียกเราว่าปู่หรือหลวงปู่ แต่นี้ไปเธอก็เหมือนญาติของเรา"

    ความทราบถึงพ่ออาจารย์ท่าน ท่านว่าก็นั่นแหละ
    บารมีท่านโชติกะท่านมารับคนของท่านในเส้นทางวาสนาบารมีนับหมื่นสายนี้ เธอจำไว้นะ..ผู้ที่มีวาสนาร่วมกันมาแต่ปางหลังเท่านั้นถึงจะได้สงเคราะห์กันในเบื้องหน้า ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไปและเหตุผลในตัวเองพระปิดตาของเราก็เช่นนี้ไม่ใช่ว่าใครจะมาเอามาเช่าไปก็ได้ท่านดลจิตดลใจทั้งนั้น
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    น่าจะแรงที่สุดในสายเสน่ห์ที่พ่ออาจารย์เคยออกไป ท่านหวงแหนไว้นานมากว่าวิชานี้ติดตัวไปให้เอาไปใช้เป็นเมตตาให้คนรักอย่าไปคิดอะไรมาก..คิดเสียว่าให้ชีวิตมันผ่านไปได้ราบรื่นได้ใช้ชีวิตกันง่ายๆเท่านั้นพอ
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา บัญญัติก่อกำเนิดเขมะกุมารเข้าน้ำมันภูติพระเจ้า(มงคลมหาโลกวิสัย)

    มงคลมหาโลกวิสัยนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างมานานกว่า 8 ปี ซึ่งท่านว่าเป็นเครื่องมงคลชนิดพิเศษที่ครอบคลุมทางโลกวิสัยไว้ทุกเรื่อง(หากมุ่งไปทางใดทางหนึ่งยิ่งให้ผลรุนแรง) โดยพ่ออาจารย์ท่านทำเป็นเนื้อผงผสมน้ำมันภูติพระเจ้าที่ท่านหวงแหนมากที่สุดไว้ สังเกตุได้ว่าท่านนำน้ำมันภูติพระเจ้ามาใช้กับเครื่องมงคลน้อยมากเพราะให้คุณรวดเร็วและรุนแรงจริงๆ ซึ่งหนนี้ท่านไม่ได้ทำพิมพ์พระขุนแผนเพราะท่านตั้งใจจะเชิญดวงจิตทิพย์ของเขมะกุมารผู้มีอาถรรพ์ทางโลกวิสัยยิ่งกว่าขุนแผนนับพันนับหมื่นเท่ามาสร้างตามตำรับ..บัญญัติก่อกำเนิด

    บัญญัติก่อกำเนิดเขมะกุมาร
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    หากจะทำเครื่องมงคลที่เห็นผลไวและให้ได้ผลรุนแรงในทางโลกวิสัยแล้วต้องทำรูปเขมะกุมารจะแรงกว่าทำขุนแผนนับพันนับหมื่นเท่าเพราะเป็นวิชาที่มีอาถรรพ์มาก โดยท่านเรียกวิชาอุบัติเขมะกุมาร..ว่าบัญญัติก่อกำเนิด

    เขมะกุมารนี้สำคัญนักด้วยใน
    สมัยพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า เขมะกุมารได้อุบัติในพุทธุปบาทกาลนี้และได้กระทำพุทธบูชาต่อองค์กัสสปะพุทธะโดยยกธงทองคำสองแผ่นขึ้นไปไว้บนยอดสถูปทองคำของพระพุทธกัสสปะ(เพราะเขมะกุมารแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ยุคนั้น) แล้วท้าวเธอจึงตั้งจิตตั้งความปรารถนาขอพรพระพุทธกัสสปะยามทำพุทธบูชาในวันนั้นว่า "ในโลกทั้งปวงนี้ ..เว้นหญิงที่เป็นญาติร่วมสายโลหิตของเรา หญิงที่เหลือเห็นเราแล้วจงเกิดกำหนัด"

    ก็ด้วยอธิษฐานบารมีที่กระทำพุทธบูชาต่อพระพุทธกัสสปะของเขมะกุมารนี้ ทำให้ยามตัวเขาไปเกิดในภพชาติไหนทุกภพภูมิก็บันดาลให้พรนั้นตามติดตัวเขาไปด้วย *** หญิงใดในโลกไม่มีเว้น(นอกจากญาติร่วมสายโลหิต)ได้เห็นแล้วจะเกิดความหลงใหลในเสน่ห์และเกิดความกำหนัดจนคุมสติไม่อยู่ เรียกว่าเพียงเห็นก็ร้อนรนจนทนอยู่มิได้ ยามไปเกิดในเทวโลกก็บันดาลให้นางฟ้าที่อยู่ในสังกัดของเทพเจ้าทั้งหลายเกิดความกำหนัดพึงใจแต่เขมะกุมารจนลืมเจ้าของวิมาน พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาบัญญัติก่อกำเนิดนี้อาถรรพ์แรงกล้ามากยามบูชาต้องมีคาถากำกับเพราะเขมะกุมารท่านเล่นเอาทั้งภพทุกภูมิไปหมด ด้วยอาราธนาเขมะกุมารนั้นสิ่งใดในโลกวิสัยล้วนเป็นไปได้อย่างง่ายดายทั้งหมด ...เราอย่าไปคิดพุ่งมุ่งเอาแต่เรื่องเดียวมองกลางๆไว้ว่าทำให้ชีวิตตัวเองสะดวกสบายยามคิดอ่านทำสิ่งใดคนทั้งหลายก็เปิดใจเปิดทางก็พอ

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างบัญญัติก่อกำเนิดเขมะกุมารด้วยปรารถนาให้เป็นผู้พิทักษ์ชั้นเอก
    1.คอยช่วยให้เธอใช้ชีวิตได้ง่าย
    2.รักษาไว้ทุกความสัมพันธ์ไม่ให้สั่นคลอน
    3.ไม่ให้แรงรักกลับเป็นแรงแค้นมาทำลายเราภายหลัง
    4.จะได้เรียกสิ่งที่ต้องการสิ่งที่ปรารถนา..เป็นความสุขครบถ้วนบริบูรณ์
    5.ให้ชนะทุกอย่างในโลกวิสัย
    6.จะได้อยู่เหนือกว่าศัตรู
    7.ทั้งจะไม่ต้องเสนียดจัญไรอัปมงคล แลสิ่งอัปรีย์ไม่มีความดีงาม
    8.จะได้แก้ไขผลของการล่วงเกินและสิ่งที่เคยฝ่าฝืนไว้
    9.จะได้เปลี่ยนผลร้ายให้กลับมาเป็นผลดี
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    เราพูดมากไม่ได้แต่ทุกความปรารถนาเธอ(ขอให้อยู่ในขอบเขตโลกวิสัยเถิด..ขอให้ไม่พ้นเรื่องทั้งปวงแห่งโลกเถิด)นั่นแหละเขมะกุมารย่อมช่วยเธอได้..บอกได้แค่นี้ เราต้องใช้รากหิ่งหายผีซึ่งมีอาถรรพ์มากทำการพลีและกู้มาแกะทำวิิชาบัญญัติก่อกำเนิดเขมะกุมารนี้ ยามอาราธนาเมื่อใช้สำเร็จแล้ว..เมื่อทุกสิ่งได้แล้ว..ดีขึ้นแล้ว..เมื่อเรามีความสุขแล้ว ก็อย่าลืมตัวอย่าลืมความทุกข์ยากให้เร่งแสวงหาบุญทานการกุศลอันจะทำให้ตนไปจุติในสุขคติโลกสวรรค์เสียด้วยเครื่องมงคลชุดนี้ท่านอธิษฐานจิตไว้ให้ตกถึงเฉพาะคนที่คู่ควรเท่านั้นคนที่เดินบนสายบารมี..ซึ่งไม่มีใครลืมตัวแน่นอน

    สร้างด้วยผงน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า
    น้ำมันนี้ฟังดูอาจจะแปลกเล็กน้อยแต่กล่าวได้เลยว่าศาสตร์ของการสร้างน้ำมันนี้เป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนเเละลึกซึ้งที่สุด เมื่อผู้ใดได้บูชาน้ำมันที่สร้างมาตามสูตรโบราณกาลอย่างถูกต้องจะเห็นผลได้หลากหลายมากที่สุด ซึ่งศาสตร์น้ำมันนี้ก็มีทั้งทางเสน่ห์,เมตตา,ชาตรี,โชคลาภต่างๆกันไป กล่าวถึงน้ำมันที่พ่ออาจารย์รอคอยการปรากฏขึ้นนี้จะเรียกว่าหายสาปสูญไปจากโลกเเล้วก็เป็นได้ เพราะโดนฝังไว้ฝากไว้กับเเม่พระธรณีเป็นเวลาถึง 3 ชั่วอายุคน น้ำมันดังกล่าวนี้เกิดจากผู้สืบทอดอันได้เก็บไว้พิจารณาดีเเล้วเห็นถึงคุณเเละโทษอย่างชัดเจนจึงนำมามอบให้กับพ่ออาจารย์

    น้ำมันนี้เกิดขึ้นก่อนพ.ศ. 2500 นับถอยหลังไป 3 ชั่วอายุคน จะทราบว่าก่อนยุคกึ่งพุทธกาลนั้นเรื่องอาคมอิทธิฤทธิ์ของพวกนี้เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดเจนมากเพราะยังไม่ถึงเวลาเสื่อมถอยในช่วงเวลานั้นได้เกิดศาสตร์ประเภทน้ำมันนี้ขึ้นซึ่งต้องยอมรับว่าศาสตร์น้ำมันนั้นมีมายาวนานเเล้วพ่ออาจารย์ท่านอนุญาติให้เล่าเเละเปิดเผยได้บางส่วนคร่าวๆเท่านั้น จึงจะสรุปให้ฟังว่าน้ำมันนี้หุงขึ้นโดยครูหมอทั้ง 4 สาย ซึ่งทั้ง 4 ท่านนี้เเต่ละท่านต่างก็ร่ำเรียนพระเวทย์ฝึกหัดวิทยาคมมาจนเชี่ยวชาญ ครูหมอทั้ง 4 ท่านนี้เป็นฆราวาสเหมือนๆกันเเต่ที่เเน่ๆเลยก็คือเก่งชนิดหาตัวจับยากเเละไม่ยุ่งหรือสุงสิงกับโลกภายนอกเสียเท่าไหร่เมื่อถึงเวลาที่สหธรรมิกทั้ง 4 ท่านนี้ได้พบกันเเลกเปลี่ยนความรู้จึงตัดสินใจที่จะหุงน้ำมันมหาเสน่ห์ชนิดหนึ่งขึ้นมา โดยใช้สรรพศาสตร์บ้านเกิดของตนเองตามที่ได้ร่ำเรียนมานำมาผสมรวมกันทั้ง 4 ศาสตร์ ซึ่งเเต่ละศาสตร์เเต่ละสายนั้นจะต้องใช้มวลสารเเละวัตถุอาถรรพ์ที่เเตกต่างกันไปศาสตร์ทั้ง 4 สายของครูหมอทั้ง 4 ท่านนั้น เเบ่งเป็นศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
    1. แขก
    2. อิสลาม
    3. พม่า
    4. มอญ
    ซึ่งหากใครเคยรับรู้เเละเล่นของทางเสน่ห์จะทราบว่าศาสตร์เเห่งมหาเสน่ห์ที่ยอดเเล้วได้เเก่น้ำมันพรายนั้นจะดูเป็นหิ่งห้อยด้อยเเสงไร้คุณค่าไม่มีราคาไปเลยเมื่อมาเทียบอานุภาพกับเสน่ห์สายอิสลามและเสน่ห์สายแขกพราหมณ์ฮินดู ถึงขนาดที่กล่าวได้ว่าหากเจอเสน่ห์ที่ทำขึ้นจากผู้รู้ศาสตร์วิชาและทำได้จริงจากสองชาตินี้เเล้วไม่ต้องไปหาหมอแก้ที่ไหน นอนรอวันตายได้เลยถึงจะหาย

    เมื่อครูหมอทั้ง 4 ท่านได้ประชุมกันหุงน้ำมันจากของอาถรรพ์ทั้งหลายเเละเสกรวมกันเสร็จเเล้ว ก็ได้นำน้ำมันนี้เเจกจ่ายให้กับผู้เคารพนับถือซึ่งเเรกๆผลของมันก็คือเป็นภัยคุกคามกับสตรีเพศอย่างเห็นได้ชัด ศิษย์ที่เป็นปุถุชนคนธรรมดาไม่เคยมีภรรยาก็กลับมีเมียอยู่ร่วมกันภายในบ้านหลายคน ที่หนักหน่อยคือเอาดีทางพระศาสนาเป็นพระสงฆ์องค์เจ้าเมื่อได้นำมันไปกลับมีสีกามาติดให้สึกหาลาเพศ เมื่อท่านทั้ง 4 พิจารณาเห็นถึงคุณเเละโทษของน้ำมันนั้นเเล้วจึงได้ร่วมใจกันฝังน้ำมันนี้ฝากไว้กับพระเเม่ธรณีจวบจนกาลเวลาได้ผ่านไป มาถึงยุคหลานของท่านซึ่งเป็นครูได้นำน้ำมันนี้ขึ้นมาทำให้เป็นที่เเปลกใจแก่ลูกหลานเเละเพื่อนบ้านในระเเวกนั้นว่าทำไมตาแก่ธรรมดาที่ไม่เคยมีอะไรอยู่ดีๆถึงมีสาวอายุ16-17 มาอยู่ด้วยเต็มบ้าน เเละเด็กสาวเหล่านั้นก็หาได้เป็นลูกสาวหลานสาวด้วยเเต่เป็นเมียท่านทั้งหมดตกกว่า 20 คน

    ครูท่านนี้ได้ลองนำน้ำมันนี้ให้ผู้อื่นลองใช้บ้างก็ปรากฏผลเช่นเดียวกับบรมครูทั้ง 4 ในอดีตที่ทดลองกัน ขาเอาไปป้ายไปทาผู้หญิงในสถานที่ท่องเที่ยวพอหมดก็จะมาขอใหม่ เรียกได้ว่าคนหน้าตาอัปลักษณ์ได้เมียระดับนางงามเต็มบ้านใช้จนไม่รู้จักพอครูท่านจึงเลิกให้น้ำมันเเก่บุคคลผู้นี้ปรากฏว่าต่อมาคนผู้นี้ก็มีปัญหาในบ้านอันเนื่องมาจากภรรยาทั้งหลายไม่ลงรอยกันเเละตายเพราะภรรยาในที่สุด ท่านจึงลองนำน้ำมันให้พระภิกษุพกดูโดยการเลี่ยมใส่หลอดปรากฏว่าไม่เป็นอันได้จำวัตรสวดมนต์ยังไม่ครบพรรษาก็มีสาวเล็กสาวใหญ่ตามเข้าออกในกุฏิตลอดเวลาจนได้สึกหาลาเพศในที่สุด น้ำมันนี้ครูท่านนี้ซึ่งเป็นผู้สืบทอดทางสายเลือดของครูหมอทั้ง 4 ในส่วนของครูอิสลามได้พิจารณาคุณเเละโทษเเล้วจึงตัดสินใจมอบให้กับพ่ออาจารย์พร้อมทั้งบอกคาถากำกับการใช้น้ำมันให้อย่างละเอียด

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้รับน้ำมันมาเเล้วท่านพิจารณาเห็นว่าน้ำมันนี้จะเป็นคุณหนักหนาเเก่ผู้มุ่งหวังความเจริญทางโลกียะท่านกล่าวว่าผู้ที่จะบูชาน้ำมันนี้จากท่านไปจะต้อง
    - เป็นคนดี..
    - มีสติ
    - รู้จักพอ..
    - ไม่มักมากทางกามคุณจนเกินงาม
    เอาว่าสำรวจจิตใจตัวเองว่าดีเเล้วก็มาบูชาซึ่งวิชาน้ำมันนี้จะอยู่สูงกว่าเเละเเตกต่างจากน้ำมันพรายอย่างเทียบไม่ติด พ่ออาจารย์ท่านว่าเหนือกว่าน้ำมันพราย..น้ำมันภูติ..น้ำมันมหาภูติมากนัก และเนื่องจากน้ำมันนี้ไม่มีชื่อเรียกมาเเต่ต้น ท่านจึงเรียกน้ำมันตัวนี้ว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้า


    ท่านว่าน้ำมันเสน่หาภูติพระเจ้านี้เป็นน้ำมันที่แปลกคือมีตัวรู้เเละสนองตอบแบบรวดเร็วรุนแรงตามใจผู้ใช้ หากพกไว้กับเนื้อกับตัวจะซึมซาบกลิ่นอายทำให้ผู้ใช้มีสง่าราศีดูหน้าใสขึ้นมีเลือดฝาดมากขึ้น *** ไม่ใช่น้ำมันฝ่ายต่ำเเต่สรรพคุณนั้นกลับรุนเเรงยิ่งกว่าที่สำคัญคือมีครูวิชาทั้ง 4 สายที่เป็นครูเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนเจ้าของน้ำมันทั้ง 4 ท่าน ให้การอุปการะเกื้อกูลเเก่ผู้ถือครองอยู่ ซึ่งทานได้พิจารณาเเล้วเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการนำไปใช้ไปป้ายไปผสมน้ำให้ใครกิน ท่านจึงจะผสมลงไปในเนื้อพระเพื่อสร้างวัตถุมงคลโดยใช้น้ำมันนี้หนักๆเลยเพื่อสงเคราะห์ศิษย์ที่เเสวงหาของเสน่ห์ที่มีผลรุนเเรงเเต่โบราณกาล จะไม่ใส่หลอดให้เอาไปใช้กันเล่นๆเพื่อผลดีเเก่ตัวท่านเองพ่ออาจารย์ท่านจึงต้องงดเว้นมอบน้ำมันนี้ให้คนนำไปบูชาท่านว่าถ้าเอามาผสมในเนื้อพระนี้เห็นจะมีแต่คุณไม่มีโทษอย่างใด ซ้ำอานุภาพก็ยังเสมอกันไม่ได้ลดทอนลงเลยสำหรับน้ำมันภูติพระเจ้านี้ท่านจึงตัดสินใจใช้เฉพาะผสมสร้างพระรุ่นสำคัญเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำทั้งว่านยาหลายตระกูล มาผสมกับผงวิเศษที่ท่านลบไว้
    - ทางเสน่ห์ล้วนๆอย่างหนึ่ง..
    - ทางโชคลาภโภคสมบัติอย่างหนึ่ง..
    - ทางค้ำคูณเกื้อหนุนดวงชะตาอย่างหนึ่ง..
    - ทางคุ้มครองป้องกันอย่างหนึ่ง..
    - ทางมหาสะท้อนย้อนคืนความพยาบาทมุ่งร้ายอย่างหนึ่ง
    และนำมาเจือด้วยผงพรายกุมารหัวเชื้อของหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่และใส่สีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ ตลอดจนสีผึ้งพยองคำในตำนานซึ่งยากจะได้ครอบครองผสมลงไปในเนื้อพระด้วย โดยนำมาเข้ากับ
    ผงไม้อาถรรพ์กามสูตรที่ได้มาจากแดนเขมรโบราณ ท่านว่าไม้นี่สำคัญนักไม่ได้ทะลึ่งแต่อย่างใดโดยท่านเรียกว่าผงไม้กามสูตรเนื่องจากตอนนั้นท่านได้นิมิตจากเทพธิดาที่รักษาเทวรูปนางอัปสร ซึ่งเป็นนางอัปสรที่กำลังทำการบำเรอเทพเจ้าว่าให้เอาท่านไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงทำการพลีและตัดไม้ที่เป็นรูปนางอัปสรนั้นมาเสี้ยวหนึ่งและพอท่านจะกลับไปตัดมาเพิ่มอีกทีก็ปรากฏว่านางอัปสรไม้นั้นได้อันตรธานหายไปแล้ว ดุจว่าไม่เคยมีปรากฏมาก่อน พ่ออาจารย์ว่าอย่างกับผีหลอกตอนกลางวัน เศษไม้นั้นท่านจึงได้นำมาตะไบทำผงเรียกว่าผงไม้อาถรรพ์กามสูตรดีนักทางเสน่ห์เมตตาแม้จะปรารถนาบนบานขอลาภขอสิ่งใดก็ได้เทพธิดาเขาย่อมช่วยเราเต็มที่ พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ประมาทไปเห็นเช่นนี้แรงกว่าผงพรายผงผีเสียอีกเพราะเป็นของลับแลเป็นของพวกบังบด หากไม่มีวาสนาต้องกันจะได้เกื้อหนุนกันหาอย่างใดก็หาไม่เจอและไม่มีวันได้ครอบครอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเครื่องมงคลทางเสน่ห์ก็ต้องทำด้วยวัตถุที่ให้คุณรุนแรง..แต่ปลอดภัยมากที่สุุด ทั้งยังจำกัดให้อยู่ในขอบเขตที่พอดีไม่เกินงามอย่าไปเอาสายต่ำสายดำมาใช้(ท่านว่าจิตคนใช้มุ่งทางไหนก็ได้ดีทางนั้น)ท่านยังได้ฝังอิทธิวัตถุชั้นยอดไว้ในบัญญัติก่อกำเนิดเขมะกุมารด้วยซึ่งแต่ละอย่างล้วนเป็นของที่ทำได้ยากทั้งสิ้น
    1.ตะกรุดปฐมบทสาลิกาป้อนเหยื่อเต็มสูตร เกี่ยวกับตะกรุดสาลิกาป้อนเหยื่อนั้นถ้าจะหาผู้ที่ทำได้จริงและใช้ได้ผลจริงในปัจจุบันนับว่าหาได้ยากด้วยมีวิธีทำที่พิเศษต่างจากการลงตะกรุดปกติ ซึ่งในอดีตนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็มีการแจกออกไปบ้างหลายครั้งแต่ก็เป็นการแจกในปริมาณจำกัดคือน้อยมากๆแล้วก็กล้าพูดได้ว่าท่านก็ลงไม่เต็มสูตรเช่นกัน เพราะสาลิกาป้อนเหยื่อตัวเต็มที่ลงครบสูตรตามสายวชานั้นท่านไม่ได้แจกด้วยว่าสร้างยากและมีค่ามากดุจทองคำ(ชุดตัวเต็มนี้ใครได้ใช้ย่อมหวงแหนมากเป็นพิเศษแม้จะถอดทองมาแลกก็ไม่ยอมเพราะพ่ออาจารย์ท่านไม่ลงตะกรุดแบบนี้อีกแล้ว) แต่ถึงจะเป็นตัวที่ลงไม่เต็มสูตรก็ยังถือว่าเป็นของดีมีประสบการณ์มากและมีคนขอกันมาเนืองๆเป็นเวลาเกือบสองปี พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นสายเมตตามหาเสน่ห์ถ้าของภาคกลางนี่สุดๆเลยก็ต้องสาลิกาป้อนเหยื่อ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ถ้าจะเอาให้เต็มสูตรใช้ได้ผลในระดับร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นแน่นอนเลยว่าต้องมีขั้นตอนและวิธีการทำ ขั้นตอนพิธีกรรมการปลุกเสกที่สลับซับซ้อนตามสายวิชา

    ดังนั้นสาลิกาป้อนเหยื่อนี้จึงถือเป็นวิชาลับและมีพิธีการลับๆที่ครูบาอาจารย์ที่สำเร็จมักหวงแหนไม่ถ่ายทอดกัน ดังนั้นเมื่อคนส่วนใหญ่นำไปทำไปเขียนกันเองถึงทำไปเอาไปใช้ก็ไม่มีผลแต่อย่างใดเรียกว่าเพราะทำไม่สำเร็จด้วยและขาดแรงครูด้วย เพราะว่าเคล็ดลับบางอย่างนั้นถ่ายทอดกันแบบตัวต่อตัวไม่มีบันทึกจารึกไว้และพระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่ควรยุ่งและลงไม่ได้เช่นกัน ด้วยวิชานี้ต้องลงบนน่าอกของสตรีในขณะสังวาสโดยมีพิธีกรรมละเอียดมี่ไม่เปิดเผยอยู่มาก ต้องคาบปากป้อนกันเหมือนลักษณะการที่เรียกว่านกสาลิกาป้อนเหยื่อจริงๆมีรายละเอียดทั้งการลงและการเสกอยู่มากซึ่งท่านจะไม่บอกรายละเอียดทั้งหมด ท่านว่าท่านเคยทำเก็บเอาไว้สมัยเรียนวิชาใหม่ๆไม่ได้มากแล้วก็เลิกทำเลย ตอนหลังมาถือศีลถือธรรมวิชาแบบนี้ทิ้งแล้วทำไม่ได้เลย ด้วยธรรมที่ท่านครองอยู่ทำให้ไม่สามารถทำวิชาแบบเต็มสูตรได้ โดยตะกรุดเต็มสูตรสาลิกาป้อนเหยื่อของแท้ๆเต็มสูตรนั้นท่านว่าโดยมากจะไม่ค่อยให้ใครได้เห็นได้ใช้เพราะแรงครูสูง ใครเรียนสำเร็จก็จะสงวนไว้ทำเพียงใช้เองมากกว่าเพราะขั้นตอนมากทำยากเสกยากนั่นเอง

    กว่าจะได้แต่ละดอกตามโบราณาจารย์ท่านกำหนดนั้นนอกจากทำยากแล้ววิชานี้ยังมีความสำคัญขนาดที่ว่าให้ถือใช้เพียงดอกเดียวติดตัวเพียงหนึ่งคนหนึ่งดอกเท่านี้ย่อมมีอานุภาพใหญ่ครอบคลุมทุกด้านไม่ต้องสรรหาอย่างอื่น ด้วยท่านเกรงว่าวิชาสาลิกาป้อนเหยื่อเต็มสูตรนี้จะหายสาบสูญไปเหลือเพียงชื่อบอกกันกลายเป็นตำนาน ท่านจึงตั้งใจทำตั้งแต่อดีตและเสกเก็บไว้เรื่อย ท่านว่าพิธีกรรมขั้นตอนการทำไม่ต่างกันเลยกว่าจะมีฤกษ์ยามกว่าจะลงได้แต่ละดอก ตรงจุดนั้นท่านว่าไม่อยากจะไปพูดถึงมันอีกเพราะตอนเรียนเสร็จเราก็ลองวิชาทำไว้เพียงเท่านั้น เอาว่าใครศรัทธาอยากได้ของยุคแรกๆที่เสกมาหลายสิบปีก็มาเอาไปอันสาลิกาป้อนเหยื่อนั้นเป็นวิชาที่ให้ผลหลายๆอย่าง เรียกได้ว่าเป็นยอดปรารถนาของผู้เล่นของและต้องการของจริงของแรงที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครทั้งหลายก็ว่าได้ ด้วยว่าเป็นวิชามหาเสน่ห์ขั้นสูงแบบรุนแรงใช้ได้ทุกเพศ
    - ไม่ว่าจะเล่นทางเมตตามหานิยม,มหาเสน่ห์,ราคะตัณหาไล่ไปทุกระดับขั้นได้หมด
    - จะใช้ทางทำมาหากินให้คนมานิยมรุมรักเรา..สนใจเรา..คุยกับเรา..อุดหนุนเรา
    - ใช้ในหน้าที่ธุรกิจการงานก็ได้
    - เจรจาสิ่งใดก็เป็นผลสำเร็จ
    - พูดอะไรไปเค้าก็รักเค้าก็หลง

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามันใช้ได้หลายอย่างเรียกว่าขึ้นอยู่กับอารมณ์มีคุณตรงออกไปตามจริตในแต่ละวันของคนใช้ทีเดียว
    1.แม้ถามหาโชคลาภ
    ..โชคลาภก็มาถึงขั้นมีกินมีใช้ไม่มีวันหมด
    2.ถึงเงินขาดมือไม่มีติดกระเป๋า..ก็จะมีเหตุใช้เงินเข้ามาเนืองๆ
    3.ทั้งยังกันของกันคุณไสยมนต์ดำในตัวด้วย
    หากแต่ตะกรุดชุดนี้ไม่ได้มีดีเพียงเท่านั้น...พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้คนเขาทำมาหากินลำบากถ้าเกิดเขาห้อยตะกรุดเราดอกเดียวแล้วขาดเรื่องอะไรเราก็จะเสียชื่อเอาได้ ท่านจึงจะลงวิชาเอาไว้ให้ครบทุกทาง


    นอกจากปฐมบทสาลิกาป้อนเหยื่อแล้วในบัญญัติก่อกำเนิดนี้ท่านยังฝังของสำคัญยุคแรกของท่านไว้ทั้งสิ้นคือ
    - ตะกรุดนางอกแตกเต็มวิชา พ่ออาจารย์ท่านว่าครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้นท่านมักจะใช้วิชานางอกแตกโดยถือว่าเป็นยอดของเสน่ห์ ซึ่งก็เป็นวิชาที่ก่อให้เกิดประสบการณ์เป็นอย่างมากแก่ผู้นำไปใช้ชนิดหัวกะไดไม่แห้งเป็นหนุ่มทรงเสน่ห์กันทีเดียว แต่จะมีใครรู้บ้างว่าวิชานางอกแตกเหล่านั้นเป็นเพียงวิชาเพียงเศษเสี้ยวหาใช่ตัวเต็มแต่อย่างใด พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละครูบาอาจารย์นั้นท่านก็จะเรียนมาต่างกันไปบางคนก็ได้ยันต์ตัวผู้บางคนก็ได้ยันต์ตัวเมียแล้วก็ใช้กันเฉพาะเท่านั้นแต่เรียกว่าตะกรุดนางอกแตกเสมอกัน ท่านว่ามาครั้งนี้ท่านทำบัญญัติก่อกำเนิดท่านจึงจะลงตะกรุดนางอกแตกเต็มวิชาไว้เสียวาระหนึ่ง ท่านว่าเราลงไปทั้งตัวผู้ตัวเมียทีเดียวเมื่อลงเต็มวิชานั้นอานุภาพย่อมมากกว่าของเก่าที่ลงครึ่งๆกลางๆอย่างประมาณไม่ได้ ทั้งนี้ท่านว่าให้เอาไปใช้เองจะได้รู้ได้เห็นเอง ว่าที่เรียกว่านางอกแตกแหกอกนางคิดถึงเราปานจะขาดใจนั้นเป็นอย่างไร

    - ลูกอมพยนต์รัตนไตรจักร ท่านปั้นขึ้นจากผงเถ้าที่บูชาไฟในพิธีบูชาองค์พระสยมอันถือว่าเป็นผงที่ผ่านการชำระจากไฟพระเวทย์ได้ชื่อว่ามีความบริสุทธิ์ไร้มลทินใดๆผสมด้วยผงเขาสัตว์เจ็ดชนิดเช่นเขากวาง,เขาควาย,เขาวัว,เขาแกะ,เขากระทิง...และผงเขี้ยวสัตว์เก้าอย่างเช่นเขี้ยวเสือ,เขี้ยวหมี,เขี้ยวจระเข้,เขี้ยวหมู,เขี้ยวแรด,งาช้าง...ผสมด้วยผงทองศักดิ์สิทธิ์เพราะธาตุทองเสริมธาตุได้ทุกธาตุแล้วนวดเข้ากับน้ำมันว่านและผงกำเนิดพยนต์,ผงสิบสองนักษัตร(ให้ช่วยเราได้ทุกฤกษ์ทุกปี)นำมาปั้นตากแสงตะวันจันทราในวันพญาวันเพื่อให้เหนือกว่าแรงกว่าวันใดๆ วิชานี้เป็นการผูกพยนต์โดยไม่ต้องขึ้นรูปหุ่นดั่งวิชาเสกพยนต์จากใบไม้หรือก้อนหินและผืนผ้าเช่นนั้น อันพยนต์นี้จะใช้ป้องกันได้ทุกสิ่งเสมือนมีพยนต์คอบอาสาช่วยเราป้องกันคนคิดร้ายหรือศัตรูที่มองไม่เห็น พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นลูกกลมๆเช่นนี้แหละสำคัญนัก หากใครทำอันตรายแก่เราจะถูกมายาสะกดไว้ให้เห็นดั่งเผชิญหน้ากับคนนับร้อยนับพัน..ท่านว่าให้คุณมากนักจะอธิษฐานบอกกล่าวขอความช่วยเหลืออะไรเขาก็ได้ เช่นทำของหายจะตามของ..สุดแล้วแต่จะขอเขา

    - อิ่นคู่พระนาง พ่ออาจารย์ท่านแกะมาจากไม้รักซ้อนตายพรายเสกจนมีจิตวิญญาณเปิดอาการสามสิบสองใส่ลมหายใจให้เขาท่านว่าผูกมาอย่างดีแล้วตามตำรับล้านนาโบราณ มีคุณวิเศษเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้นไม่เป็นรองสิ่งใด ด้วยลักษณะทางเอกลักษณ์ของอิ่นจึงเป็นที่น่าสนใจของคนทั้งหลายนำมาไว้ติดตัว ชาวล้านนาเชื่อว่าการมีอิ่นไว้บูชาจะทำให้มีคนเมตตารักใคร่มีไว้กับบ้านเรือนจะทำให้คนในครอบครัวรักใคร่กัน หากมีไว้บูชากับตัวเราก็จะทำให้ดูดีมีเสน่ห์ดูมีสง่าราศีอุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภข้าวของเงินทองไหลมาเทมา หญิงชายพกติดตัวไปหาใครหรือคนที่รักใคร่ชอบพอก็จะสมหวังทุกประการ เน้นในทางเมตามหาเสน่ห์มหานิยมมหาละลวยลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลงไม่ว่าจะหญิงชายใดที่หมายตาก็มารักใคร่ชอบพอไปไหนมีแต่คนเข้ามาทักทายพูดคุยด้วยความเสน่หา หากบูชาดีจะมีโชคมีลาภไม่ขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าอิ่นนั้นมีจิตวิญญาณเขาจะติดตามไปคอยให้การช่วยเหลือเราเหมือนเรามีตัวช่วยชั้นดีโดยเฉพาะเรื่องความรักให้สะดวกราบรื่นได้เป็นอย่างดี ท่านว่าที่จริงเขาก็ให้การสนับสนุนเราในทุกเรื่องนั่นแหละนี่คือข้อดีของอิ่นที่เสกจนเป็นมหากายสิทธิ์นั่นคือเสกจนมีจิตวิญญาณนั่นเอง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ายังดีทางปรับสมดุลย์ธาตุขันธ์ร่างกายของเราอีกด้วยท่านว่ามันเป็นพลังพิเศษที่ช่วยชะลอและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอไปให้ดีขึ้นและบริบูรณ์ขึ้นนั่นเอง

    - แท่งยาแฝดคลั่งรักสั่งรวย แท่งยาสั่งเสน่ห์ที่พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานถวายเสด็จพระใหญ่และครูสมเด็จให้อธิษฐานจิตต่างกรรมต่างวาระท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านรับยาชุดนี้แล้วเมตตาอธิษฐานจิตให้หลายวาระอยู่เนืองๆ ด้วยท่านมีโองการไว้ว่ายานี้เป็นของโบราณมีฤทธิ์เป็นเลิศทางสะกดสามารถสั่งจิตใจและพฤติกรรมของสรรพชีวิตได้..ท่านว่าหากใช้เป็นก็ดี..หากใช้ไม่เป็นแม้จะสั่งให้ตายก็ยังถึงตาย ดังนั้นพระองค์จึงอธิษฐานจิตให้หลายวาระโดยใช้พลังงานพื้นฐานของยาเป็นสิ่งขับเคลื่อนความปรารถนา,อารมณ์,ความต้องการของมนุษย์ ในชั้นหลังนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกแท่งยาเหล่านี้ว่ายาสั่งรวยหรือแท่งยาทิพย์พระเจ้าสั่งรวย แท่งยาที่เปลี่ยนยาจกยังกลายเป็นเศรษฐีมหาศาลซ้ำยังมีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์สูงสุด พ่ออาจารย์ท่านเมตตาหักแท่งยานี้มาฝังในองค์พระเพื่อตัดปัญหาการนำไปใช้ผิดที่ผิดทางทั้งหลาย

    คาถาบูชา
    (มอบให้เฉพาะผู้อาราธนา)


    *** รายการนี้รับจองทาง PM เท่านั้น เพราะเป็นของเก่าที่ท่านเสกมาถึง 8 ปี (แต่วัตถุอาถรรพ์ทั้งหลายที่นำมาทำบางอย่างท่านทำเสกทิ้งไว้กว่า 20 - 30 ปีและมากกว่านั้น) ท่านว่ารายการนี้บอกได้แค่คร่าวๆเอาว่าเรามุ่งทางใดในโลกวิสัยมันก็จะไปสุดทางนั้น

    ร่วมทำบุญบูชา บัญญัติก่อกำเนิดเขมะกุมารเข้าน้ำมันภูติพระเจ้า(มงคลมหาโลกวิสัย) บูชา 4,000 บาท
    9ab83567-d0d5-4afc-bfb5-556d52853e42.jpg a027fb50-84a0-4de6-8ef1-81e5b63f0392.jpg
    owowx1.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,109
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มงคลมหาโลกวิสัยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า “ยกเสน่ห์เดินนำชัยเป็นทัพหน้า แล้วจริตเธอเป็นคนอย่างไรจะเอาไปใช้ทางไหน ก็แลกน้ำใจไมตรีเขามาได้ทั้งหมด”

    รายการนี้คุ้มมากเพราะทำมานานและของที่นำมาทำก็เสกมานานกว่ามากๆ เพราะเป็นของเก่าที่ท่านเสกมาถึง 8 ปี
    (แต่วัตถุอาถรรพ์ทั้งหลายที่นำมาทำบางอย่างท่านทำเสกทิ้งไว้กว่า 20 - 30 ปีและมากกว่านั้น) ท่านว่ารายการนี้บอกได้แค่คร่าวๆเอาว่าเรามุ่งทางใดในโลกวิสัยมันก็จะไปสุดทางนั้น ของบางอย่างขอบูชามาเดี่ยวๆก็ราคาสูงกว่านี้มากแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...