ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    LIVING: โรงแรมน้ำแข็งในสวีเดน สัมผัสความเย็น 365 วันต่อปี
    .
    สมกับการเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ เพราะตอนนี้เห็นแดดทีไรแทบอยากจะมุดหัวเข้าบ้าน เปิดแอร์ ไม่ก็อยากออกไปไหน ที่เดียวที่อยากไปก็คงจะเป็นที่ที่หนาว ๆ ให้มันได้ชื่นใจ หายปวดหัว
    .
    วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาเจอที่ที่หนาวตลอดทั้งปี ให้ทุกคนได้หนาวกันอย่างเต็มที่กับโรงแรมน้ำแข็ง “Ice Hotel 365” ที่ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน “Jukkasjärvi” หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของสวีเดน
    .
    โรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่ไม่เคยละลายแม้ในวันที่อุณภูมิแตะที่ 20 องศาเซลเซียส มันจะเย็นแบบนี้ตลอด 365 วัน เพราะการออกแบบของวิศวกร ในหน้าร้อน สิ่งที่เปลี่ยนไปจะมีแค่ต้นไม้ในบริเวณที่เขียวมากขึ้น และหญ้าที่ขึ้นตามหลังคาโรงแรมน้ำแข็ง แต่ด้านในโรงแรมจะยังคงความเย็นไว้เหมือนเดิม
    .
    การออกแบบนี้ถือว่าเข้ามาแก้ปัญหาแขกลด เพราะในฤดูใบไม้ผลิ แขกจะไม่มาเที่ยวทันที ช่วง High Season ของโรงแรมน้ำแข็งจะอยู่แค่ 4 เดือนเท่านั้น
    .
    Michael Ooland หัวหน้าวิศวกรเผยว่า เขาทำให้โรงแรมนี้คงความเย็นได้ตลอดทั้งปีด้วยระบบทำความเย็น เขาใช้ระบบ Anti-freezer กับระบบน้ำครึ่งต่อครึ่งเพื่อทำให้อุณภูมิลดไปอยู่ที่ -40 องศาเซลเซียส ระบบนี้จะส่งแผ่กระจายไปตามหลังคา และตามทางเดิน
    .
    และด้วยโครงสร้างที่ทำจากเหล็กและคอนกรีต กับฉนวนกันความร้อนที่หนา 20 เซนติเมตรปกคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ทำหน้าที่กันอุณหภูมิของฤดูร้อนไม่ให้เข้าไปในตึก ตึกนี้จึงเหมือนกับแก้วเยติเก็บความเย็นขนาดยักษ์
    .
    โรงแรมนี้สร้างให้ความเย็นอยู่ได้ 365 วัน ต้องมาคอยดูกันต่อไปว่าหน้าร้อนที่มาเยือนและมีทีท่าจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จะสามารถทำอะไรกับระบบนี้ได้หรือเปล่า
    .
    Source
    1. https://www.bbc.com/reel/video/p098qvv2/the-world-s-first-all-season-365-days-a-year-ice-hotel

    2.

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สวทช. แย้มผลงานวิจัยผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อไก่จากโปรตีนพืช เตรียมจัดงาน NAC2021 เสิร์ฟงานวิจัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ครั้งแรก! บนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบ 25-30 มีนาคมนี้
    .
    สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กำลังจะมีการจัดงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 16 (16th NSTDA Annual Conference: NAC2021) ภายใต้แนวคิด “30 ปี สวทช. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” บนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบผ่านทางเว็บไซต์ www.nstda.or.th/nac ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 2564 เพื่อให้สอดรับกับวิถี New Normal
    .
    โดยจะมีทั้งกิจกรรมสัมมนา นิทรรศการ การจัดกิจกรรมเยี่ยมชม Open House การรับสมัครงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี S&T Job Fair และกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน หลังจากที่ได้มีการผลักดันให้ระบบเศรษฐกิจแบบ BCG (Bio-Circular-Green Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว) เป็นวาระแห่งชาติ
    .
    โดยในงานแถลงข่าว สวทช. ได้นำ 7 ตัวอย่างผลงานวิจัยซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะมีให้ชมในวันจัดงานจริงผ่านระบบออนไลน์มาแสดง
    .
    หนึ่งในตัวอย่างงานผลงานวิจัยที่เราจะพามาดูวันนี้คือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อไก่จากโปรตีนพืช (Plant-based chicken meat) พัฒนาขึ้นโดยอาศัยองค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบโครงสร้างของอาหาร และคุณสมบัติของโปรตีน ประกอบกับการใช้สารที่ทำหน้าที่ยึดเกาะ และเส้นใยอาหารที่เหมาะสมในการสร้างเนื้อสัมผัสให้คล้ายคลึงกับเนื้อไก่
    .
    ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถปั้นขึ้นรูปได้ง่ายภายหลังการปั่นผสม และสามารถนำไปปรุงเป็นเมนูอาหารต่างๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแช่แข็ง เช่น วิธีการทอด ย่าง ผัด หรือ แกง ทำให้ง่ายต่อการผลิตในระดับอุตสาหกรรม และมีต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมากนัก มีเนื้อสัมผัสคล้ายเนื้อไก่
    .
    ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์มีปริมาณโปรตีนประมาณ 10-16% ใยอาหารประมาณ 6-10% และไขมันจากพืชที่ปราศจากไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลประมาณ 6-9% โดยปริมาณสารอาหาร และความนุ่มของผลิตภัณฑ์ฯ ขึ้นอยู่กับปริมาณส่วนผสมที่ใช้ในสูตรที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ
    .
    ผู้สนใจผลงานการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบยั่งยืน สามารถติดตามข้อมูลได้ที่

    https://www.nstda.or.th/nac/2021/

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ที่นอนไซส์มินิ ลากด้วยจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ สำหรับการผจญภัยของคุณ มาพร้อมกับแผงโซลาร์เซลล์ ปลั๊กชาร์จไฟฟ้า
    .
    Mody bicycle caravan คือที่นอนแคมเปอร์สำหรับการค้างคืนระหว่างการท่องเที่ยวพักผ่อนส่วนตัว ที่ผลิตโดย Rösrath บริษัทในเยอรมนี โดยมันถูกดีไซน์ให้สามารถลากได้โดยรถจักรยาน จักรยานไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์
    .
    มันมีน้ำหนักเบา ภายในมีพื้นที่สำหรับผู้ขับในการงีบ พักผ่อน หรือแม้กระทั่งการค้างคืน โดยจะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ
    .
    นอกจากมียังมีตัวเลือกสำหรับการติดตั้งครัวแบบพับได้ โต๊ะพับ เก้าอี้ ตู้เย็น เพื่ออำนวยความสะดวกไปกับการเดินทางของคุณอีกด้วย
    .
    เมื่อคุณหาจุดหมายที่เหมาะสมระหว่างการเดินทางแล้ว เพียงกางขาตั้งออก เจ้าที่นอนแคมเปอร์นี้ก็พร้อมที่จะให้คุณได้มีความสุขในวันพักผ่อนแล้ว
    .
    ที่มา

    https://mody-plast.de/produkte/fahrradwohnwagen/

    https://www.yankodesign.com/2021/03...-trailer-is-made-for-solo-camping-adventures/

    https://www.yankodesign.com/2020/12...nto-a-one-person-overnight-camping-adventure/

    เรียบเรียง ร่มธรรม ขำนุรักษ์

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL: ลิงใหญ่ได้รับวัคซีนโควิด-19 สำหรับสัตว์โดยเฉพาะ หลังเกิดการแพร่ระบาดในสวนสัตว์ซานดิเอโก้
    .
    ลิงใหญ่ (Great apes) 9 ตัวได้รับวัคซีนโควิด-19 ทดลองสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ที่สวนสัตว์ซานดิเอโก หลังเกิดการแพร่ระบาดในกอริลลาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่คาดว่าได้รับโรคนี้จากเจ้าหน้าที่ที่ติดโรคดังกล่าว
    .
    โดยมีชิมแปนซีแคระ หรือ Bonobo 5 ตัว และอุรังอุตัง 4 ตัว ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นครั้งแรกในสวนสัตว์สหรัฐอเมริกา
    .
    วัคซีนนี้ได้ถูกพัฒนาโดยบริษัท Zoetis ที่ผลิตยาเพื่อสัตว์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งวัคซีนนี้คาดว่าจะสามารถใช้กับมิงค์ แมว หรือสุนัข หาดได้รับการอนุญาตทางกฎหมาย
    .
    สัตว์หลากหลายประเภทอย่าง สุนัข แมว และมิงค์สามารถติดเชื้อโควิดได้ อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์นั้นกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสในลิงใหญ่ อย่างกอริลลา ชิมแปนซี และอุรังอุตังเป็นพิเศษ
    .
    Source
    1. https://www.theguardian.com/us-news...m5ghl7RLiHl51Kl2_xTVbIrlsEysBayCP1PWDc2BSCmJk

    2. http://www.zoetis.com/news-and-medi...id-19-solutions-for-great-apes-and-minks.aspx

    เรียบเรียง ร่มธรรม ขำนุรักษ์

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภูเขาไท่ซาน (泰山) ภูเขาที่ได้รับการขนานนามว่า “สวยที่สุด” ในบรรดาห้าขุนเขาอันยิ่งใหญ่ของจีน ตั้งอยู่ที่ เมืองไท่อาน หนึ่งในเมืองท่องเที่ยว แห่ง มณฑลซานตง ยอดบนสุดของ ภูเขาไท่ซาน มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,545 เมตร มีหินผาตั้งเรียงรายจำนวนมาก กวีเอกแห่งจีนหลายท่านเคยจารึกบทกลอนมากมายไว้ที่ ภูเขาไท่ซาน แห่งนี้ จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และศิลปะกลางแจ้ง ที่สะท้อนสัญลักษณ์แห่งอารยธรรมเก่าแก่ของจีน และภายหลัง ยูเนสโกได้ยกย่องให้ ภูเขาไท่ซาน เป็น มรดกโลก ในปีค.ศ. 1987 ภูเขาไท่ซาน ถือเป็น ขุนเขาแห่งแรกของจีน และเป็น 1 ใน 5 ภูเขาที่สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์จีน โดยมียอดสูงสุดคือ ยอดจักรพรรดิหยก มีความสูงประมาณ 1,532.7 เมตร ทั้งยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดพิธีบวงสรวงในรัชสมัยต่าง ๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น เขาศักดิ์สิทธิ์แห่งประเทศจีน
    .
    ภูเขาไท่ซานแห่งนี้ จากหลักฐานทางธรณีวิทยาพบว่า ก่อกำเนิดมาตั้งแต่สมัย 2800 ล้านปีก่อน
    และยังจัดว่าเป็นพื้นที่ ที่ยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เพราะมีพื้นที่ป่าปกคลุมถึง 80% เป็นแหล่งทรัพยากรที่สมบูรณ์ และทรงคุณค่าทางชีววิทยา เนื่องจากอุดมด้วยพันธุ์พืชหายาก และพืชสมุนไพรกว่า 144 ตระกูล และด้วยร่องรอยการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่ปรากฏ รวมถึงซากฟอสซิลที่ขุดพบบนเทือกเขาแห่งนี้ ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ล้านปี จึงเป็นแหล่งศึกษาทางธรณีวิทยาที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
    .
    นอกจากวิวทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงามแล้ว บนเขาแห่งนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมโบราณและเป็นจุดชมวิวที่สุดยอดบนเขาลูกนี้ด้วยนั้นก็คือ
    .
    วัดไท่ (岱庙)
    เป็นสถานที่หรือวัดที่มีการก่อสร้างเลียนแบบพระราชวังโบราณของกษัตริย์เพื่อใช้เป็นที่ในการบวงสรวงหรือทำวิธีวิปัสสนาของกษัตริย์ในยุคต่างๆ, วัดได้ใช้ไท่ซานมาเป็นการเรียกจึงเรียกว่า “วัดไต้(ไท่)” และ ตำหนักหลักเรียกว่า “ตำหนักตงเยว่เซินฟู่(东岳神府)” ซึ่งเป็นสถานที่ฮ่องเต้แต่ละยุคสมัยจะมาทำพิธีบวงสรวงที่นี่
    .
    หนานเทียนเหมิน(ประตูสวรรค์ทางทิศใต้-南天门)
    สร้างขึ้นในสมัยราชวงค์หยวน(มองโกล) คศ.1264 ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1460 เมตร สมัยโบราณถูกเรียกขานว่า “ประตูสวรรค์” ตัวฐานกับผนังทำด้วยหิน และหลังคากระเบื้องเป็นสีเหลือง
    .
    ปี้เสียฉือ (碧霞祠)
    สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง (คศ.1009) ตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นตำหนักของเจ้าแม่ปี้เสียแห่งเขาไท่ซาน และในปีคศ.1770 ก็ได้รับการบูรณะจากฮ่องเต้เฉียนหลง บริเวณหน้าตำแหน่งมีกระถางธูปซึ่งเป็นหนัก 500 กิโลกรัมกระถาง และตึกว้านสุ่ย (หมื่นปี) ของที่นี่ก็มีความคล้ายคลึง กับตำหนักพักผ่อนของฮ่องเต้เฉียนหลงเป็นอย่างมาก
    .
    สือปาผาน (十八盘)
    เป็นจุดเดินขึ้นเขาไท่ซานที่น่าหวาดเสียวที่สุดจุดหนึ่ง เพราะทั้งหมดเป็นบันไดหิน 1600 กว่าขั้น เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเขาไท่ซาน และเมื่อมองมาแต่ไกลจะมองเห็นสถานที่นี้เหมือนเป็นบันไดขึ้นสูงยอดเมฆ
    .
    เถาฮวากู่ (หุบเขาดอกท้อ-桃花谷)
    ตั้งอยู่ที่เขาไท่ซานซีลู่ (泰山西麓) ด้านบนเขาเต็มที่กำเนิดและเพาะปลูกดอกท้อ ด้านล่างเขาเป็นหุบเขาดอกท้อ ในสมัยโบราณเพราะสถานที่นี้มีดอกท้อบานอยู่เต็มไปหมดทำให้ได้ชื่อนี้มา และบริเวณนี้มีต้นไม้เขียวชอุ่มน้ำใสสะอาด เงียบสงบ และในหุบเขามีพืชที่เป็นยาสมุนไพรจำนวนมาก
    .
    ยอดอวี้หวงติ่ง (玉皇顶)
    ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ ปี้เสียฉือ (碧霞祠) เรียกว่ายอดอวี้หวงติ่ง เพราะว่าด้านบนมี “วัดอวี้หวง (玉皇庙)” เป็นบริเวณที่สูงที่สุดบนเขาไท่ซาน ในสมัยก่อนอาจเรียกว่า “ยอดสันติสุข (ยอดไท่ผิง-太平顶)” และ “ยอดเทียนจู้ (天柱峰)” ไม่มีบันทึกเอาไว้ว่าสร้างขึ้นในช่วงไหน แต่มีการบูรณะใหม่ในสมัยราชวงค์หมิง
    .
    วิธีการเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ คือนั่งเครื่องบินมาลงเมืองจี๋หนาน (济南) แล้วต่อรถระหว่างเมืองมายังเมืองไท่อัน (泰安市) และช่วงเดือน 4 ถึง เดือน 11 จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชม “เขาไท้ซาน” แต่จะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นควรจะมาช่วงฤดูใบไม้ร่าง เดือน 9 -11
    #ChinaStory #เขาไท่ซาน #เที่ยวเมืองจีน #มรดกโลก #เล่าเรื่องจีน #เรื่องจีนจีน #สถานที่ท่องเที่ยวในจีน

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้เชี่ยวชาญเตือน อันตรายจากการละลายของธารน้ำแข็งที่ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย
    • นาวิน ซิงห์ คัดกา
    • ผู้สื่อข่าวสิ่งแวดล้อม บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส
    6 มีนาคม 2021
    _117347952_c44ce771-994b-464e-977f-b5dfd72d918d.jpg
    ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

    คำบรรยายภาพ,
    ธารน้ำแข็งที่กำลังหดตัวลง อาจทำให้พื้นดินเบื้องล่างไม่มั่นคง เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม

    นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ธารน้ำแข็งที่ลดน้อยลงของเทือกเขาหิมาลัยไม่เพียงแต่ทำให้ทะเลสาบธารน้ำแข็งมีน้ำมากขึ้นจนเป็นอันตรายเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้เกิดอันตรายอื่น ๆ ที่ยังไม่ถูกจับตามองในขณะนี้

    พวกเขาบอกว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในรัฐอุตตราขัณฑ์ของอินเดีย เป็นตัวอย่างล่าสุดของการขาดความรู้ที่อันตรายอย่างยิ่ง

    เทือกเขาหิมาลัยมีจำนวนธารน้ำแข็งมากที่สุดในโลกนอกเขตขั้วโลก และปัญหาโลกร้อนได้ทำให้ธารน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น ปริมาณน้ำแข็งจึงลดลงแล้วหลายพันล้านตัน

    ศาสตราจารย์เจฟฟรีย์ คาร์เกล นักธรณีวิทยาอาวุโสในสหรัฐฯ ซึ่งได้วิจัยภัยพิบัติแถบเทือกเขาหิมาลัยจำนวนมากและกำลังศึกษาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในรัฐอุตตราขัณฑ์ กล่าวว่า "ไม่มีความเข้าใจอย่างกว้างขวางต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในแง่ของอันตรายต่าง ๆ"

    "เรากำลังเป็นฝ่ายตั้งรับ เมื่อเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในอุตตราขัณฑ์เกิดขึ้นมา เราไม่ได้จับตามองธารน้ำแข็งที่อาจทำให้เกิดอันตรายได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ธารน้ำแข็งส่วนใหญ่"

    อันตรายของธารน้ำแข็งที่หดตัวลง
    ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เมื่อธารน้ำแข็งหดตัวลง หรือบางลง ธารน้ำแข็งบางแห่งอาจจะเป็นอันตรายได้ ยกตัวอย่างในบางกรณีน้ำแข็งที่หลงเหลืออยู่ของธารน้ำแข็งที่หดตัวลง อาจห้อยอยู่บนภูเขาสูงชัน และอาจจะถล่มลงมาเมื่อใดก็ได้

    นอกจากนี้ยังเป็นไปได้เช่นกันว่า ธารน้ำแข็งที่หดตัวหรือบางลงอาจทำให้พื้นดินด้านล่างและโดยรอบธารน้ำแข็งเหล่านั้นไม่มั่นคง ซึ่งธารน้ำแข็งได้ค้ำจุนพื้นที่แถบนั้นอยู่ ดังนั้นบริเวณดังกล่าวอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม หินถล่ม หรือน้ำแข็งถล่มได้ และอาจนำไปสู่การถล่มลงมาของภูเขาทั้งแถบได้เช่นกัน

    จากการค้นพบเบื้องต้น นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้อาจจะขวางกั้นแม่น้ำและลำธารต่าง ๆ เบื้องล่าง จนทำให้น้ำไหลทะลักพัดพาทุกอย่างที่ขวางทางลงมา ซึ่งน่าจะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในรัฐอุตตาขัณฑ์เมื่อไม่นานนี้

    แต่พวกเขาบอกว่า พวกเขาไม่รู้ว่าอันตรายที่เกี่ยวข้องกับธารน้ำแข็งดังกล่าวซ่อนตัวอยู่ที่ใด และชุมชุนหรือโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ปลายน้ำแห่งใดตกอยู่ในความเสี่ยงบ้าง

    _117347954_gettyimages-481587033.jpg
    ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

    คำบรรยายภาพ,
    การศึกษาส่วนใหญ่เกี่ยวกับธารน้ำแข็งหิมาลัย มุ่งเน้นไปที่การหดตัวลงของธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็ง

    พวกเขาบอกว่า ภูมิศาสตร์ที่ซับซ้อนของเทือกเขาหิมาลัย ทำให้การเฝ้าสังเกตมีความท้าทายอย่างยิ่ง

    มูฮัมหมัด ฟารูค อาซัม นักวิทยาธารน้ำแข็ง สถาบันเทคโนโลยีอินเดีย อินดอร์ (Indian Institute of Technology, Indore) กล่าวว่า "มีธารน้ำแข็งมากกว่า 50,000 แห่งในเทือกเขาหิมาลัย และภูมิภาคฮินดูกูช (Hindu Kush) และมีเพียง 30 แห่งเท่านั้นที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีการลงพื้นที่ทำการศึกษา"

    "มีการตีพิมพ์การศึกษาเหล่านั้นออกมาแล้วเพียง 15 แห่ง เราจำเป็นต้องสังเกตการณ์ธารน้ำแข็งของเราอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยหลายอย่างส่งผลกระทบ"

    แผ่นดินไหวและสภาพภูมิอากาศ
    นักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า การเป็นเทือกเขาที่อายุน้อยที่สุดในโลก เทือกเขาหิมาลัยจึงยังคงขยายตัวและแผ่นดินไหวมักจะทำให้พื้นที่ลาดชันต่าง ๆ ไม่มีเสถียรภาพ

    พวกเขากล่าวเพิ่มเติมว่า รูปแบบการตกของหิมะและฝนที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เทือกเขายิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น

    พวกเขาเตือนด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในธารน้ำแข็งทำให้เรื่องต่าง ๆ เลวร้ายลงไปอีก

    ธารน้ำแข็งแห่งหนึ่งในภูเขาอารูของทิเบตจู่ ๆ ก็พังถล่มลงมาในปี 2016 ทำให้เกิดน้ำแข็งถล่มขนาดใหญ่ มีผู้เสียชีวิต 9 คน และปศุสัตว์ล้มตายหลายร้อยตัว

    _117347958_gettyimages-630087018.jpg
    ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

    คำบรรยายภาพ,
    แผ่นดินไหวทำให้ไหล่เขาในเทือกเขาหิมาลัยไม่มีความมั่นคง

    ธารน้ำแข็งแห่งที่สองของภูเขาลูกเดียวกันนี้พังถล่มโดยไม่คาดคิดในอีก 2-3 เดือนต่อมา

    ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การถล่มของน้ำแข็งและหินจากธารน้ำแข็งเซียเชน (Siachen glacier) ในแคชเมียร์ในปี 2012 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 140 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารปากีสถาน

    "ธารน้ำแข็งลดลง ดินถล่มมากขึ้น"
    การศึกษาเมื่อไม่นานนี้ ในเทือกเขาสูงหลายแห่งของเอเชียรวมถึงทางตะวันตกของเทือกเขาหิมาลัย, พื้นที่ทางตะวันออกของพาเมียร์, เทือกเขาคาราโครัม และทางใต้ของเทือกเขาฮินดูกูช พบความเชื่อมโยงระหว่างจำนวนดินถล่มที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและความถี่ของการเกิดดินถล่มระหว่างปี 1999-2018 กับการหดตัวของลงธารน้ำแข็ง

    นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (Chinese Academy of Sciences) ซึ่งทำการศึกษาโดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมมจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (United States Geological Survey) ระบุว่า เกิดดินถล่มในลักษณะนี้ 127 ครั้ง ระหว่างปี 2009-2018

    การศึกษาซึ่งเผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ (Nature) ในเดือน ม.ค. ระบุว่า "ผลการศึกษาของเราแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการกระจายความถี่ที่บ่งชี้ว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดดินถล่มขนาดใหญ่ขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พื้นที่ที่มีธารน้ำแข็งลดลงมีส่วนเกี่ยวกับพื้นที่ที่มีดินถล่มเพิ่มมากขึ้น"

    _117375262_chamolidam.jpg
    ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

    คำบรรยายภาพ,
    เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำกำลังเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นจากน้ำท่วมฉับพลันในภูมิภาคหิมาลัย

    ดาเลีย เคิร์ชบอม ผู้เชี่ยวชาญด้านดินถล่มซึ่งเป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์อุทกวิทยาของนาซา กล่าวว่า อันตรายที่เกี่ยวข้องกับธารน้ำแข็งที่หดตัวลงมีหลักฐานปรากฏชัดขึ้น

    "ยกตัวอย่าง ก่อนหน้านี้ ธารน้ำแข็งยึดหินบนไหล่เขาเหล่านั้นไว้ด้วยกัน แล้วตอนนี้ ถ้าไม่มีธารน้ำแข็งอยู่ หินเหล่านั้นก็ห้อยอยู่ และอาจจะเป็นอันตรายได้"

    รายงานพิเศษว่าด้วยไครโอสเฟียร์ (cryosphere) ของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change--IPCC) ในปี 2018 ระบุว่า "การหดตัวลงของธารน้ำแข็งและการละลายของชั้นดินเยือกแข็ง (permafrost) ทำให้ความมั่นคงของไหล่เขาและโครงสร้างพื้นฐานลดลง"

    ไครโอสเฟียร์เป็นส่วนของผิวโลกที่ประกอบด้วยน้ำในรูปของแข็งอย่างเช่น ธารน้ำแข็งบนภูเขา, ธารน้ำแข็งภาคพื้นทวีป, หิมะและน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นที่ต่าง ๆ และน้ำแข็งในทะเล

    จับตามองทะเลสาบธารน้ำแข็ง
    การศึกษาธารน้ำแข็งเทือกเขาหิมาลัยอย่างจำกัดจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การละลายเร็วขึ้นของธารน้ำแข็ง และมันจะทำให้ทะเลสาบธารน้ำแข็งมีน้ำเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ล้นทะลักออกมาหรือไม่

    การศึกษาบางส่วนยังได้ศึกษาว่า อาจเกิดอะไรขึ้นกับแม่น้ำที่รับน้ำมาจากธารน้ำแข็งในภูมิภาค ถ้าธารน้ำแข็งหดตัวลงเร็วขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น

    แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยบอกว่า ทะเลสาบธารน้ำแข็งได้รับความสนใจจากทุกฝ่ายแล้ว แต่ว่าอันตรายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งยังไม่ได้รับการเหลียวแล

    _117348028_43e5fad7-7267-4161-8b9f-dbfab65428a7.jpg
    ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

    คำบรรยายภาพ,
    การศึกษาหนึ่งได้พบความเชื่อมโยงของดินถล่มที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและถี่ขึ้นในภูเขาสูงหลายแห่งในทวีปเอเชียกับการหดตัวลงของธารน้ำแข็ง

    ซัมเมอร์ รัปเปอร์ ศาสตราจารย์ด้านภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยยูทาห์ (University of Utah) ซึ่งศึกษาการเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็งเทือกเขาหิมาลัย รวมถึงศึกษาการเปลี่ยนแปลงจากภาพถ่ายสอดแนมทางดาวเทียม กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจน้อยลง"

    "มันอาจเป็นเพราะว่าภัยพิบัติต่าง ๆ อย่างหิมะถล่มและน้ำแข็งถล่มไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก และอันตรายที่เกี่ยวข้องกับธารน้ำแข็งก็เกิดขึ้นเป็นพัก ๆ"

    ผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาพื้นที่ภูเขาแบบบูรณาการ (International Centre for Integrated Mountain Development--ICIMOD) ซึ่งทำงานในภูมิภาคหิมาลัยมานานหลายปี กล่าวว่า น้ำท่วมที่เกี่ยวข้องกับทะเลสาบธารน้ำแข็งทำให้เกิดปัญหามากขึ้นในภูมิภาคเป็นประวัติการณ์

    มิเรียม แจ็กสัน ผู้ประสานงานโครงการของโครงการไครโอสเฟียร์ของ ICIMOD กล่าวว่า "การที่น้ำท่วมเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่ห่างไกลจากธารน้ำแข็งโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทำให้มันเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น"

    "การศึกษาเกี่ยวกับธารน้ำแข็งที่ถูกแช่แข็ง"
    หน่วยงานรัฐบาลของอินเดียเองถูกวิจารณ์ว่า ไม่ให้ความสนใจกับภัยคุกคามนี้มากพอ

    ดร.ดีพี โดพาล นักวิทยาธารน้ำแข็งอาวุโส ซึ่งเพิ่งเกษียณจากสถาบันธรณีวิทยาหิมาลัยวาเดีย (Wadia Institute of Himalayan Geology) หน่วยงานอิสระภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า "เราได้ตั้งศูนย์แห่งหนึ่งขึ้นในปี 2009 เพื่อศึกษาธารน้ำแข็งและมันควรจะได้รับการพัฒนากลายเป็นสถาบันธารน้ำแข็งแห่งชาติของอินเดีย"

    "เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้น และส่งผลให้ การศึกษาธารน้ำแข็งได้รับผลกระทบอย่างยิ่ง และทำให้นักวิทยาธารน้ำแข็งราว 12 คนที่เราฝึกอบรมมาต้องตกงาน"

    _117348022_gettyimages-451381710.jpg
    ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

    คำบรรยายภาพ,
    ขณะนี้กำลังมีการศึกษาธารน้ำแข็งเพียงไม่กี่แห่งในเทือกเขาหิมาลัย

    รัฐบาลอินเดียมีภารกิจระดับชาติ 8 ภารกิจ ภายใต้แผนปฏิบัติการแห่งชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและหนึ่งในนั้นคือ "การรักษาระบบนิเวศหิมาลัย"

    เป้าหมายของแผนปฏิบัติการนี้คือ การพิจารณา "การพัฒนาและการนำวิธีการใหม่ ๆ ในการประเมินความสมบูรณ์ของระบบนิเวศหิมาลัยรวมถึง ระบบนิเวศของธารน้ำแข็งและสร้างฐานข้อมูลของระบบนิเวศเหล่านี้ขึ้นมา"

    ผู้เชี่ยวชาญบางส่วน เห็นว่า ความตึงเครียดระหว่างอินเดียและประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและปากีสถานที่มีพรมแดนติดกันในแถบเทือกเขาหิมาลัย กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ

    อันจัล ประกาศ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานพิเศษของ IPCC ว่าด้วยมหาสมุทรและไครโอสเฟียร์ กล่าวว่า "พวกเขาจำเป็นต้องร่วมมือกัน พวกเขาจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับธารน้ำแข็งข้ามพรมแดน"

    "เมื่อนั้น เราจึงจะสามารถจับตามองอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการหดตัวของธารน้ำแข็งได้อย่างครอบคลุม และสามารถเตรียมตัวเองให้รับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ได้"

    https://www.bbc.com/thai/internatio..._custom2=facebook_page&at_custom1=[post+type]
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โป๊ปฟรานซิสเสด็จ “อิรัก” ครั้งประวัติศาสตร์ ประณาม “กลุ่มสุดโต่ง” เข้าโมซุลวันอาทิตย์
    .
    .
    .
    .
    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – โป๊ปฟรานซิสผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกเปิดศักราชหน้าใหม่เสด็จอิรักเมื่อวานนี้(6 มี.ค)พบผู้นำจิตวิญญาณชีอะห์ของอิรัก แกรนด์ อยาตุลเลาะห์ อาลี ซิสตานี วัย 90 ปี พร้อมประณามกลุ่มสุดโต่งในนามแห่งศาสนา วันอาทิตย์(7 มี.ค) เสด็จทางฮ.จากเออร์บิลเข้าโมซุล อดีตฐานที่มั่นก่อการร้าย IS

    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(7 มี.ค)ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกล่าสุดวันอาทิตย์(7)เสด็จมาถึงเมืองโมซุล อดีตฐานที่มั่นกลุ่มก่อการร้าย IS ทางเหนือของอิรักหลังพระองค์เสด็จด้วยเฮลิคอปเตอร์มาจากเมืองเออร์บิลในการเสด็จเยือนอิรักครั้งประวัติศาสตร์ท่ามกลางความวิตกต่อความปลอดภัยและปัญหาโรคระบาดโควิด-19
    .
    ซึ่งการเสด็จเยือนโมซุลเป็นวันที่ 3 ของการเดินทางในอิรัก เมืองโมซุลเวลานี้มีชาวคริสเตียนอาศัยอยู่ไม่กี่สิบครอบครัว โดยพระองค์จะสวดภาวนาให้กับผู้เสียชีวิตและพบปะกับพี่น้องชาวคริสต์ในอิรัก
    .
    ประชาชนเมืองโมซุลต่างต้อนรับพระประมุขแห่งโฮลีซีด้วยเสื้อผ้าชุดพื้นเมืองสีตระการตา บอลลูน และธง ขณะที่ถนนทั้งเข้า Qaraqosh และรอบๆเมืองเต็มไปด้วยด่านตรวจความปลอดภัย
    .
    เกิดขึ้นหลังจากวันเสาร์(6)สมเด็จพระสันตะปาปาวัย 84 พรรษาทรงได้พบกับผู้นำจิตวิญญาณชีอะห์ของอิรัก แกรนด์ อยาตุลเลาะห์ อาลี ซิสตานี (Grand Ayatollah Ali al-Sistani) วัย 90 ปีที่เมืองนาจาฟ(najaf) เป็นครั้งแรกที่โป๊ปฟรานซิสได้มีโอกาสได้พบกับผู้นำระดับสูงของฝ่ายชีอะห์ ...อ่านเพิ่มที่ https://mgronline.com/around/detail/9640000022151

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทะไลลามะ” รับวัคซีนโควิด-19 “แอสตราเซเนกา” พร้อมกระตุ้นให้คนอื่นๆรับตาม
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(6 มี.ค)ผู้นำแห่งจิตวิญญาณทิเบต ทะไลลามะวัย 85 พรรษา ได้รับวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทแอสตราเซเนกาเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลเมืองธรรมศาลา รัฐหิมาจัลประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนอื่นออกมารับวัคซีนเช่นกัน
    .
    อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานเมื่อวานนี้(6 มี.ค)ว่า ทะไลลามะผู้นำแห่งจิตวิญญาณทิเบตแสดงความรู้สึกหลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเมืองธรรมศาลา รัฐหิมาจัลประเทศในวันเสาร์(6)แล้วว่า “ในการที่จะป้องกันปัญหาร้ายแรงบางประการ การฉีดครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ”
    .
    และชี้ต่อว่า “สมควรที่จะต้องมีคนมากขึ้นที่มีความกล้าในการฉีดเช่นนี้”
    .
    ทั้งนี้ จีดี กุปตะ(GD Gupta)จากโรงพยาบาลโซนอล (Zonal) ที่ซึ่งทะไลลามะได้รับวัคซีนโควิด-19เป็นครั้งแรกกล่าวว่า พระองค์ทรงถูกจับตาหลังการฉีดเป็นเวลา 30 นาที และชี้แจงว่า “พระองค์เสด็จมาที่โรงพยาบาลด้วยพระองค์เองเหมือนเช่นคนธรรมดาทั่วไป”
    .
    กุปตากล่าวอีกว่า คนอื่นอีก 10 คนที่อาศัยร่วมอยู่กับทะไลลามะในที่ประทับได้รับการฉีดวัคซีนด้วยเช่นกัน ซึ่งคนทั้งหมด 11 คนรวมองค์ทะไลลามะได้รับวัคซีนโควืด-19ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทแอสตราเวเนกา และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดแต่ถูกผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งชาติอินเดีย ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    .
    สื่อกาตาร์รายงานว่า เมืองธรรมศาลาแห่งนี้ที่กลายเป็นที่ตั้งสำนักในปี 1959 และยังเป็นที่ประทับของพระองค์หลังจากที่ได้หลบหนีออกมาจากทิเบตหลังการลุกขึ้นสู้ต่อปักกิ่งล้มเหลว
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘คนเร่ร่อน’ ปัญหาที่ไร้ทางแก้ หรือแท้จริงแล้วแค่กำลังถูกเมิน??
    .
    ป้ายรถเมย์ ใต้สะพานลอย หรือตึกร้าง แหล่งพักพิงสุดคลาสสิคของคนเร่ร่อนที่มีให้พบเห็นอยู่จนชินตา ไปพร้อมกับเกิดความรู้สึกหวาดระแวงกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ไม่น้อย อาจจะด้วยลักษณะทางกายภาพภายนอกที่ดูมอมแมม ซูบผอม ผมกระเซอะกระเซิง แถมบางคนยังมีสติที่ไม่สมประกอบ และมักเดินพูดคนเดียว หรือคุ้ยหาอาหารตามถังขยะ เพื่อมาประทังชีวิต…
    .
    คนเร่ร่อน หรือผู้ใช้ชีวิตอยู่ในที่สาธารณะ คือบุคคลที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ไม่มีแม้แต่อาชีพที่มั่นคง ทั้งยังเป็นกลุ่มคนที่ถูกดูแคลนจากสังคม ถูกให้ค่าเป็นเพียงบุคคลชั้น 2 และชั้น 3 เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีสิทธิ์อะไร แม้กระทั่งสิทธิขั้นพื้นฐานเมื่อเทียบกับบุคคลทั่วไป โดยคนเร่ร่อนสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
    .
    กลุ่มที่ 1: คนไร้บ้านหรือคนเร่ร่อน
    บุคคลเหล่านี้อดีตเคยมีบ้าน แต่มีปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถอยู่ที่บ้านต่อไปได้ สาเหตุอาจมาการจากมีปัญหากับครอบครัว หรือมีฐานะยากจน จึงจำเป็นต้องออกจากบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตในที่สาธารณะ และส่วนใหญ่มักจะอยู่ลำพังเพียงคนเดียว แต่คนทั่วไปบางคนมักจะเข้าใจผิดว่าคนเร่ร่อนเป็นคนขี้เกียจ ไม่ยอมหางานทำ ทั้งที่อวัยวะทุกส่วนในร่างกายครบถ้วน ซึ่งในความเป็นจริงคนเร่ร่อนบางคนมีงานทำ และมีรายได้ แต่อาจไม่เพียงพอต่อการเช่าที่พัก จึงจำเป็นต้องอาศัยอยู่ตามที่สาธารณะ เพื่อเก็บเงินไว้ซื้ออาหาร หรือสิ่งจำเป็นอื่นๆ
    .
    กลุ่มที่ 2: คนป่วยทางจิตเวช
    บุคคลเหล่านี้มักจะมีความผิดปกติทางสมองที่อาจมีสาเหตุมาจากความเครียด ติดสุรา หรือยาเสพติด จนส่งผลกระทบต่อระบบสมอง ทำให้ออกจากบ้านมาโดยไม่รู้ตัว และกลายเป็นคนเร่ร่อนไปในที่สุด ในที่นี้อาจรวมถึงคนต่างจังหวัดที่เข้ามาหางานทำในเมืองหลวง แต่สุดท้ายกลับไม่มีงานทำ หรือถูกเลิกจ้าง ครั้นจะกลับบ้านก็ไม่มีงานให้ทำ จะหางานใหม่ก็ไม่มีใครรับ จึงเกิดความวิตกกังวล เกิดความเครียดสะสม และกลายเป็นโรคซึมเศร้า กระทั่งมีปัญหาทางจิตตามมา
    .
    กลุ่มที่ 3: อดีตผู้ต้องขัง
    บุคคลเหล่านี้เมื่อพ้นโทษออกมา กลับถูกสังคมตีตราว่าเคยทำผิด เป็นคนขี้คุกขี้ตะราง แถมบางคนยังถูกขับไสไล่ส่งให้ออกจากบ้าน ครั้นพอกลับใจอยากเริ่มต้นใหม่หางานทำก็ไม่มีใครรับ ทำให้สุดท้ายก็ต้องตกอยู่ในสภาวะคนเร่ร่อนไปโดยปริยาย
    .
    กลุ่มคนเหล่านี้แท้จริงแล้วไม่ได้อยากเป็นคนเร่ร่อน หรือถูกเลือกปฏิบัติ แต่อาจเพราะไม่มีทางเลือก ไม่มีโอกาส หรือไม่มีเอกสารทางราชการที่สามารถระบุตัวตนว่าเป็นพลเมืองของประเทศไทย ทำให้การเข้าถึงสวัสดิการและสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ เป็นไปได้ยาก และยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง ซึ่งโดยปกติแล้วปัญหาคนเร่ร่อนในประเทศไทยก็เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก ยิ่งมาเจอทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และพิษเศรษฐกิจกระแทกซ้ำ ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้จำนวนประชากรคนเร่ร่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยข้อมูลจากมูลนิธิอิสรชนระบุว่าจำนวนคนเร่ร่อนประจำปี 2563 มีมากถึง 4,432 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีจำนวน 2,623 คน, ปี 2561 ที่มีจำนวน 1,855 คน และในแต่ละพื้นที่มีอัตราคนเร่ร่อนเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 50 ซึ่งสาเหตุก็มาจากการถูกเลิกจ้าง เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่าคนเร่ร่อนเหล่านี้มีอัตราการกระจายตัวมากขึ้น เนื่องจากถูกผลักไสให้ออกจากพื้นที่ที่เคยอยู่ เพราะต้องการลดความแออัดที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงต้องย้ายไปปักหลักตามพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายรถเมล์ ใต้สะพานลอย หรือแม้แต่ตึกร้าง
    .
    สุดท้ายเราก็ยังหวังที่จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หวังว่าปัญหาคนเร่ร่อนในประเทศไทยจะลดลง หวังว่าพวกเขาจะได้รับโอกาสดีๆ จากสังคม รวมถึงการช่วยเหลือที่ทั่วถึงและเท่าเทียมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พวกเขาสามารถมีที่ยืนและมีอาชีพที่หล่อเลี้ยงชีวิตได้ และหากปัญหานี้ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทีมงาน BTimes ก็เชื่อว่าจะทำให้ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในที่สาธารณะ กลับมาเป็นคนที่มีบ้านที่อบอุ่นได้อีกครั้ง...
    .
    https://misterban.com/hashtag/คนเร่ร่อน-ประเทศไทย
    .
    #คนเร่ร่อน #คนไร้บ้าน #ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในที่สาธารณะ #Homeless #ประเทศไทย #ปัญหา #ตกงาน #เศรษฐกิจ #โรคระบาด #โควิด19 #สิทธิขั้นพื้นฐาน #การช่วยเหลือ #BTimes

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หวังสภาล่างอนุมัติร่างกฎหมายฉบับแก้ไขนี้โดยไว จะได้ลงนามอนุมัติเพื่อเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือชาวอเมริกันรายละ 1,400 ดอลลาร์ (42,700 บาท) ได้ในเดือนมีนาคมนี้
    .
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ตามเวลากรุงวอชิงตัน ภายหลังวุฒิสภาผ่าน ร่างกฎหมายแผนช่วยเหลือคนอเมริกัน โดยกล่าวว่า เขาหวังว่าร่างกฎหมายฉบับแก้ไขนี้จะผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว เพื่อที่เขาจะได้ลงนามและเริ่มการแจกจ่ายเงิน 1,400 ดอลลาร์ให้แก่ชาวอเมริกันโดยตรงได้ภายในเดือนนี้
    .
    พรรครีพับลิกันพยายามเตะถ่วงร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลฉบับนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยการขอให้แก้ไขร่างร่วม 40 ครั้งแต่ล้มเหลว สุดท้ายในการลงมติภายหลังการอภิปรายตลอดทั้งคืน ร่างนี้ผ่านมติด้วยคะแนน 50 ต่อ 49 โดย ส.ว.เดโมแครตเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ครบทุกคน ส่วน ส.ว.รีพับลิกันคัดค้านทุกคนเช่นกัน ถือเป็นชัยชนะด้านนิติบัญญัติครั้งใหญ่ครั้งแรกของไบเดนนับแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม
    .
    ชัยชนะในสภาสูงเกิดขึ้นได้ภายหลังพรรคเดโมแครตชนะที่นั่ง ส.ว. 2 ที่นั่งในการเลือกตั้งพิเศษในรัฐจอร์เจียเมื่อเดือนมกราคม ทำให้กุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา
    .
    ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ (58.3 ล้านล้านบาท) รวมถึงงบ 400,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 12.22 ล้านล้านบาท) ที่จะแจกจ่ายให้แก่ครัวเรือนอเมริกันมากกว่า 85% โดยครอบครัวที่มีบุตร 2 คนและมีรายงานต่อปีไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์ จะได้รับครอบครัวละ 5,600 ดอลลาร์ (ราว 171,000 บาท)
    .
    เงินช่วยเหลือยังรวมถึงประโยชน์ทดแทนการว่างงานที่มอบให้เพิ่มเติมแก่คนอเมริกัน 9.5 ล้านคนที่ตกงานในช่วงวิกฤติโควิดสัปดาห์ละ 300 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงจาก 400 ดอลลาร์ ที่พรรคเดโมแครตยินยอมลดลงเพื่อให้ร่างนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาสูง โดยหวังให้ทันก่อนเงินสวัสดิการว่างงานรอบปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 15 มีนาคม
    .
    ร่างนี้ยังรวมถึงเงินช่วยเหลือประมาณ 350,000 ล้านดอลลาร์ (10.69 ล้านล้านบาท) ที่จะมอบให้รัฐบาลท้องถิ่นและมลรัฐต่างๆ กับเงินอีก 130,000 ล้านดอลลาร์ (3.9 ล้านล้านบาท) ที่มอบให้แก่โรงเรียน.
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/95275
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    7 มี.ค.64 - เมื่อเวลา 13.15 น. กลุ่มพีมูฟ หรือ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และ ภาคีเซฟบางกลอย ได้อ่านแถลงการณ์ เรื่อง กรณีบางกลอย กับความไร้น้ำยาในการแก้ไขปัญหาโดยรัฐบาล โดยแถลงการณ์ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยรัฐ นำโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่กระทำต่อชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังชาวบ้านบางกลอยล่าง 36 ครัวเรือน ประมาณ 70 คน ได้อพยพกลับแผ่นดินเกิด ณ บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นปรากฏภาพการพยายามข่มขู่ คุกคามชาวบ้านอย่างหนัก ทั้งความพยายามที่จะผลักดันชาวบ้านกลับลงมาอีกครั้งผ่านยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร
    .
    และล่าสุดคือการปฏิบัติการอันป่าเถื่อนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่มีการปฏิบัติการสนธิกำลังกันเข้าจับกุมชาวบ้านตามหมายจับ 30 ราย ในข้อหา “บุกรุก ก่นสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครองครอง กระทำการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิมแก่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (1) ซึ่งจับกุมได้ 22 ราย ทั้งหมดถูกฝากขังที่เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง จังหวัดเพชรบุรีทันที นอกจากนั้นยังนำชาวบ้านกลับลงมาจากบางกลอยบน-ใจแผ่นดินทั้งหมด รวม 87 ราย
    .
    การปฏิบัติทั้งหมด เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่มีบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน ลงนามโดยฝ่ายการเมืองและข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผู้แทนจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ภาคี #SAVEบางกลอย และผู้แทนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย รวมทั้งมีการแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย จ.เพชรบุรี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ และการตระบัดสัตย์ของรัฐบาลที่ไม่อาจทำให้ประชาชนสามารถเชื่อมั่นในนโยบายในการแก้ไขปัญหาใดได้อีก
    .
    นอกจากนั้น นับตั้งแต่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) ได้เจรจาแก้ปัญหากับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นเวลากว่า 19 เดือนแห่งความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาภายใต้คณะกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้ง ซึ่งมีถึง 1 คณะกรรมการ 9 อนุกรรมการ 35 คณะทำงาน มีการประชุมทั้งหมดมากกว่า 50 ครั้ง กลับพบว่าสถานการณ์ในหลายพื้นที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นยิ่งกว่ารัฐบาลไหน หลายชุมชนต้องเผชิญกับการถูกคุกคาม จับกุม ดำเนินคดี ไม่ต่ำกว่า 1,000 ครอบครัว นี่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานบ้านเมืองให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในฐานะมนุษย์
    .
    อีกทั้งประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมติดตามความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น พบว่า มีความพยายามจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภาในการคว่ำกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยการโยนให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนนับแสนรายชื่อ ซึ่ง ขปส. เองก็ได้รวบรวมรายชื่อจำนวนมากเพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับถูกตีตกโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล จนถึงวันนี้ หมดเวลาในการประวิงเวลาและหลอกลวงประชาชน พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และภาคี #SAVEบางกลอย ขอประกาศว่า พวกเราจะไม่ทนต่อการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชนอีกต่อไป และจะปักหลักชุมนุม ณ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร จนกว่าจะมีหลักประกันว่าคนจนจะต้องไม่ถูกรังแก รัฐบาลจะแก้ทุกปัญหา ออกจากระบบประชาธิปไตยจอมปลอม
    .
    อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางกลุ่มจะปักหลักชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลนี้ นานประมาณ1สัปดาห์.
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/95277
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สื่อต่างประเทศรายงานในวันนี้ว่า ชาวสวีเดนหลายร้อยคนชุมนุมที่จัตุรัสใกล้ย่านเมืองเก่าในกรุงสตอกโฮล์ม ประท้วงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด
    .
    ซึ่งการชุมนุมจัดโดยกลุ่มที่เรียกว่า เสรีภาพสวีเดน ที่เชื่อว่ามาตรการควบคุมโรคของรัฐจำกัดเสรีภาพของพวกตน
    .
    ตำรวจต้องขัดขวางและสลายการชุมนุมโดยเร็ว เพราะเป็นการชุมนุมประท้วงโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ชุมนุมไม่สวมหน้ากากอนามัย สื่อท้องถิ่นรายงานว่า
    .
    การชุมนุมส่วนใหญ่เป็นไปโดยสงบ แต่มีรายงานตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย แต่ข่าวไม่ระบุรายละเอียดอื่นๆ

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://english.alarabiya.net/coron...OVID-19-in-restrictions-in-Sweden-s-Stockholm

    https://tna.mcot.net/world-650133

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    7 มีนาคม 2564 ขณะนี้ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) กว่า 1 ล้าน 5 หมื่นคนทั่วประเทศ เริ่มลงพื้นที่ทำความเข้าใจเรื่องวัคซีนโควิด-19 กับประชาชนในชุมชนทั่วประเทศแล้ว

    โดยจะให้ความรู้เรื่องวัคซีนโควิด-19 ผ่านสื่อและชุดข้อมูล ทำการสำรวจ คัดกรองกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเชิญชวนประชาชนลงทะเบียน “หมอพร้อม” เพื่อรายงานติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังจากฉีดวัคซีน และแจ้งเตือนนัดหมายรับวัคซีนเข็มที่ 2

    สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะให้ลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์ของลูกหลานในครอบครัว หรือของทีม อสม. เอง และรวบรวมรายงานติดตามอาการไม่พึงประสงค์ส่งต่อไปยัง รพ.สต. และรพ.ชุมชน

    ปัจจุบัน อสม. ได้เคาะประตูบ้านให้ความรู้เรื่องวัคซีนโควิด-19 แล้ว จำนวน 323,384 หลังคาเรือน ส่วนพื้นที่ 13 จังหวัดที่เป็นเป้าหมายของการได้รับวัคซีนล็อตแรกนั้น ได้ให้ความรู้แล้ว 297,672 หลังคาเรือน

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา เพจเฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    7 มีนาคม 2564 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก และอยาตอลลาห์ อาลี อัลซิสตานี ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะห์ในอิรัก พบกันครั้งประวัติศาสตร์ที่เมืองนาจาฟ เมืองศักดิ์สิทธิ์ทางใต้ของอิรัก ในวันที่สองของการเสด็จเยือนอิรักนาน 4 วันของสมเด็จพระสันตะปาปา

    สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสพระชันษา 84 ปี เสด็จไปพบอัลซิสตานี ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะห์ วัย 90 ปีที่บ้านพักในตรอกแคบ ๆ เป็นบ้านที่เขาเช่าอยู่ในเมืองนาจาฟมาหลายสิบปี สถานีโทรทัศน์ทางการอิรักแพร่ภาพขบวนรถของสมเด็จพระสันตะปาปาเดินทางเข้าเมืองนาจาฟ มีเด็ก ๆ ตั้งแถวรอริมทาง โบกธงชาติอิรักและธงสำนักวาติกัน ขณะที่ทางการอิรักถวายมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดที่สุดในบรรดาการเสด็จเยือนต่างประเทศทั้งหมดของพระองค์ คาดว่าทั้งสองพระองค์จะหารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองศาสนา

    สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จถึงอิรักเมื่อวันศุกร์ (5 มี.ค.) เพื่อทรงขอให้ผู้นำและประชาชนชาวอิรักยุติการใช้กำลังและการแบ่งแยกทางศาสนา พระองค์ทรงอยากให้กำลังใจชาวคริสต์ในอิรักที่ลดจำนวนลงจาก 1.5 ล้านคนเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ก่อนการเข้าแทรกแซงของสหรัฐฯ และการเสื่อมถอยอำนาจของซัดดัม ฮุสเซน เหลือเพียง 250,000 คน

    อัลซิสตานีเป็นบุคคลสำคัญของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ทั้งในอิรักและต่างประเทศ เขามีอิทธิพลทางการเมืองอย่างมาก ปกติแล้วเขาไม่พบใคร ไม่ยอมเจรจากับนายกรัฐมนตรีอิรักทั้งในอดีตและปัจจุบัน แหล่งข่าวในทำเนียบประธานาธิบดีอิรักเผยว่าเขายอมพบโป๊ปโดยมีเงื่อนไขว่า ห้ามมีเจ้าหน้าที่อิรักมาด้วย

    พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่เสด็จเยือนอิรักก่อนหน้านี้โป๊ปจอห์น ปอลที่ 2 ที่สิ้นพระชนม์ในปี 2548 ทรงเคยมีกำหนดเสด็จเยือนอิรักในปี 2543 แต่ต้องยกเลิกไป เพราะไม่สามารถตกลงกับรัฐบาลอิรักสมัยซัดดัม ฮุสเซน ได้

    จุดประสงค์หนึ่งของการเสด็จเยือนครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวคริสเตียนในอิรักที่ทุกข์ทรมานมานาน เป็นชุมชนที่ยืนหยัดผ่านสงครามมาหลายปี

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://news.yahoo.com/pope-francis-ahead-iraq-visit-121919237.html
    https://www.naewna.com/inter/557349

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    6 มีนาคม 2564 ทวิตเตอร์ Perseverance Mars Rover ขององค์การนาซา เผยภาพยานหุ่นยนต์สำรวจดาวอังคาร "เพอร์เซเวียแรนส์" ขับเคลื่อนบนพื้นผิวดาวอังคารเป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นรอยเคลื่อนของล้อ

    ทั้งนี้ ยานสำรวจน้ำหนักประมาณ 1 ตัน เคลื่อนตัวพร้อมล้อทั้งหกได้ไกลเป็นระยะทาง 6.5 เมตร ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า 4 เมตร หลังจากนั้นหักเลี้ยว 150 องศาไปทางซ้าย แล้วเคลื่อนถอยหลังอีก 2.5 เมตร การทดสอบดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขณะที่การทดสอบเฉพาะการทำงานของแขนกล มีขึ้นเมื่อวันอังคาร

    ยานเพอร์เซเวียแรนส์ออกเดินทางจากโลก เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ปีที่แล้ว เป็นยานสำรวจดาวอังคารลำที่ 9 ของนาซา ลงจอดบริเวณปล่องจาซีโร ซึ่งทีมงานของนาซาเชื่อว่า เมื่อหลายพันล้านปีมาแล้วเคยเป็นแม่น้ำมาก่อน เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา

    ยานหุ่นยนต์สำรวจเพอร์เซเวียแรนส์มีกำหนดปฏิบัติภารกิจบนพื้นผิวดาวอังคารเป็นเวลา 2 ปี เพื่อเก็บตัวอย่างดินและหิน โดยในระหว่างปี 2569 ถึง 2571 นาซามีแผนส่งยานเก็บตัวอย่างเดินทางไปยังดาวอังคาร เพื่อติดตามยานเพอร์เซเวียแรนส์ เมื่อพบกันจะมีการย้ายบรรจุภัณฑ์เก็บตัวอย่างออกจากยาน แล้วนำส่งขึ้นจรวดเดินทางกลับมายังโลก ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ที่นาซาจะพยายามปล่อยจรวดออกจากดาวเคราะห์ดวงอื่น นอกเหนือจากโลก

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา ทวิตเตอร์ Nasa’s Perseverance Mars Rover
    https://www.dailynews.co.th/foreign/829322

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่จำกัด ทั้ง 2 สาขาประกาศหยุดกิจการชั่วคราวมาตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ผ่านมา เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน มีเอกชนเป็นลูกหนี้ค้างชำระค่าซื้อน้ำมันปาล์มดิบมาอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 390 ล้านบาท

    ตอนนี้ส่งผลให้พนักงานรวม กว่า 300 คนต้องตกงาน จากการตรวจสอบพบว่าตั้งแต่ปี 2562 ได้ขายน้ำมันปาล์มดิบให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งรวม 4 งวดมูลค่า 395 ล้านบาท แต่บริษัทดังกล่าวค้างชำระกรณีที่เกิดขึ้น เกิดจากการบริหารจัดการโดยไม่ได้ยึดตามระเบียบปฏิบัติของสหกรณ์

    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรมควบคุมโรค พยากรณ์โรคฯ ฉบับที่ 10/2564 "เตือนประชาชนช่วงนี้ระวังป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ เนื่องจากอากาศที่ร้อนขึ้น อาจทำให้อาหารบูดหรือเน่าเสียได้ง่าย ขอให้ยึดหลักกิน "สุก ร้อน สะอาด"

    วันที่ 7 มี.ค.2564 กรมควบคุมโรค “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” ฉบับที่ 10/2564 ประจำสัปดาห์ที่ 10 (วันที่ 7 - 13 มี.ค.2564) "เตือนประชาชนช่วงนี้ระวังป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ เนื่องจากอากาศที่ร้อนขึ้น อาจทำให้อาหารบูด หรือเน่าเสียได้ง่าย

    จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรายงานการพบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษแบบกลุ่มก้อน 7 เหตุการณ์ มีผู้ป่วยรวม 347 ราย โดยการระบาดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด อยู่ในจังหวัดปัตตานี จำนวน 175 คน (ร้อยละ 50.4) ไม่มีผู้เสียชีวิต เกิดจากการรับประทานอาหารกลางวันของโรงเรียน อาหารสงสัยที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ แกงส้มปลา ข้าวหมกไก่ ข้าวผัดไก่

    และในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบ ผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษแบบเป็นกลุ่มก้อน 1 เหตุการณ์ ในจังหวัดยโสธร มีผู้ป่วย 44 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่ พบว่า รับประทานอาหารจากงานศพ และงานบุญของหมู่บ้าน อาหารสงสัยที่เป็นสาเหตุ คือ เนื้อหมูดิบ ลาบวัวสุก ต้มจืด และสาคู”

    จากการพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพของสัปดาห์นี้ คาดว่า ในช่วงนี้มีโอกาสพบ ผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น อาจทำให้อาหารบูดหรือเน่าเสียได้ง่าย ประกอบกับพฤติกรรมการทำอาหารที่อาจสุกไม่ทั่วถึง และไม่สะอาดเพียงพอ หรือการรับประทานอาหารที่ทิ้งไว้นอกตู้เย็นเป็นเวลานาน หรือทิ้งค้างไว้หลังปรุงเสร็จเป็นเวลานาน โดยไม่ได้อุ่นร้อนหลังจาก 2 ชั่วโมง

    กรมควบคุมโรค แนะนำให้ประชาชนยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” โดยรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ อาหารที่เก็บไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ต้องนำมาอุ่นก่อนรับประทานทุกครั้ง เลือกบริโภคอาหาร น้ำดื่ม และน้ำแข็งที่สะอาด ไม่รับประทานอาหารที่ปรุงจากสัตว์หรือพืชที่มีพิษ เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาดและมีคุณภาพ ควรใช้ช้อนกลางส่วนตัวเมื่อรับประทานร่วมกัน และก่อนหยิบจับอาหารควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง

    สำหรับ ผู้ประกอบอาหารต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปรุงอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ เช่น ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปาก สวมหมวกคลุมผม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคไปสู่อาหาร โดยอาการของผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ จะคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ ปวดศีรษะ คอแห้งกระหายน้ำ อาจมีไข้ร่วมด้วย ในรายที่มีอาการถ่ายอุจจาระมาก ผู้ป่วยอาจมีภาวะช็อกหมดสติได้ การช่วยเหลือเบื้องต้น ควรให้จิบสารละลายเกลือแร่บ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จังหวัดเชียงใหม่สั่งประกาศงดเผาทุกชนิดเด็ดขาด 7วัน ช่วง15-22มี.ค.64 หากฝ่าฝืนจะลงโทษตามกฎหมายอย่างเข้มงวด หลังค่ามลพิษในจังหวัดขึ้นสูงส่งผลกระทบต่อประชาชน เตือนงดออกกลางแจ้งและเปิดเซฟตี้โซนทุกอำเภอรองรับให้คนได้สูดอากาศบริสุทธิ์

    วันที่ 7 มี.ค.2564 นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับอำเภอที่เกิดจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ทราบผลการดำเนินการเนื่องจากบางอำเภอมีจุดความร้อนที่อยู่นอกเขตพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยในวันนี้ตรวจพบจุดความร้อน ทั้งหมด 104 จุด ในจำนวนนี้มีเพียง 5 จุดที่อยู่ในเขตพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิง และอีก 99 จุด อยู่นอกเหนือจากจุดการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งกระแสลมตะวันตกพัดเข้ามา ประกอบกับมีกระแสลมตะวันออกพัดเข้ามาร่วมด้วย ทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่นละอองที่สูงขึ้นมาก

    รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว ในที่ประชุม 3 เรื่อง โดยเรื่องแรกให้เน้นเรื่องของการออกประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากยังเกิดปัญหาของจุดความร้อนที่อยู่นอกพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิงจำนวนมาก เรื่องที่สอง เป็นเรื่องของการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิด เนื่องจากทุกคนต้องทำตามกติกาที่ได้มีการกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ไม่ให้คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานและส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้หน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุของจุดความร้อนที่เกิดขึ้นและเรียกตัวบุคคลต้องสงสัยมาสอบถาม ซึ่งทุกพื้นที่จะต้องให้คำตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และต้องตามตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้โดยเร็ว ส่วนเรื่องที่สาม เรื่องของการประกาศงดเผาในห้วงระหว่างวันที่ 15 - 22 มี.ค. 2564 เพื่อให้คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น ก็ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

    ดังนั้นในห้วงระยะนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย งดออกกำลังกายกลางแจ้ง สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ ก็สามารถเดินทางไปใช้บริการห้องเซฟตี้โซนที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด 25 อำเภอได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ทุก อปท. ก็จะมีการจัดทำห้องเซฟตี้โซนให้ประชาชนได้เข้าไปใช้บริการด้วย
    ในส่วนเขตพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ก็จะมีการรดน้ำสร้างความชุ่มชื้นในพื้นที่ เพื่อลดค่าฝุ่นละออง และการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองให้ลดลงต่อไป

    สำหรับพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือจากการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์บัญชาการฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่เกษตร และหน่วยงานท้องถิ่น เข้าไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในการลักลอบเผาป่า และเผานอกพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยไม่ได้มีการขออนุญาต เมื่อพบการกระทำผิดจริงก็ให้แจ้งความดำเนินคดี เพื่อลดจุดความร้อนในพื้นที่ให้ลดลง และเป็นการเตือนประชาชนไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีก พร้อมกับการออกรณรงค์ การทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้มากขึ้น

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube ที่ https://bit.ly/2YDfyiK

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรมควบคุมโรค เผยข้อมูลหลังกระจายวัคซีนป้อง COVID-19 ไป 13 จังหวัด รวมฉีดไปแล้วกว่า 25,000 คน พบมีอาการแพ้ 828 คน คิดเป็น 3.2 % ของผู้ฉีดวัคซีนทั้งหมด

    วันที่ 7 มี.ค.2564 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่เริ่มฉีดมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ดำเนินการฉีดไปแล้ว 25,864 คน ในจำนวนนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์มากกว่า 3,000 คน ภาพรวมพบมีอาการแพ้ 828 คน คิดเป็นร้อยละ 3.2 ของผู้รับวัคซีนทั้งหมด

    แม้ขณะนี้มีการกระจายวัคซีนไป 13 จังหวัด ประมาณ 116,000 โดส แต่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า COVID-19 มีอัตราการติดต่อปานกลาง หากจะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ไทยต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 50 ล้านคน ใช้วัคซีนร่วม 100 ล้านโดส หมายความว่าต้องจัดหาเพิ่มอีก

    ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุถึงความคืบหน้าของแผนการจัดหาวัคซีนระยะต่อไปได้จองกับแอสตราเซเนกาแล้ว 26 ล้านโดส และล่าสุด ครม.อนุมัติงบประมาณกว่า 6,300 ล้านบาท เพื่อจัดหาเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส รวมเป็น 61 ล้านโดสให้ครอบคลุมคนไทยครึ่งหนึ่งอย่างน้อยภายในปี 2564

    ส่วนภาคเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีนกระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลไม่ปิดกั้นแต่ต้องขออนุญาตนำเข้าและขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.)

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ที่จังหวัดทวาย ทางภาคใต้ของเมียนมา มีงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งระหว่างที่จัดงาน ตรงหน้าบ้านบริเวณถนนมีการชุมนุมประท้วงการรัฐประหารของประชาชน ลุกลามมายังหน้าบ้าน ท่ามกลางทหารเข้าปราบปรามยิงกระทั้งสุนยาง กระสูนปืนจริง แต่งานแต่งงานก็ยังดำเนินไปท่ามกลางสงครามกลางเมืองย่อยๆ

    โดยทั้งแขกผู้มาร่วมงาน เหล่าบรรดาญาติ พวกพีอาร์เวดดิ้ง ต่างต้องนอนหลบกระสุนปืนเกรงจะโดนลูกหลง กลายเป็นภาพดังกล่าวได้ลงสื่อโซเชียลกลายเป็นเรื่องฮือฮาว่า รัฐประหารไม่สามารถมาปิดกั้นความรักของประชาชนได้ คุณไม่สามารถแย่งความรักจากประชาชนได้

    โดยนางสาว เปียวทานซาร์เมียว Phway Thinzar Maw ผู้จัดงานแจ้งว่า งานวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ 1 ปีแล้ว ไม่ได้จัดเพราะ covid แล้วมีการเลื่อนจนวันนี้ และก็ไม่มีใครคาดคะเนว่าจะเกิดปัญหาทางการเมือง การรัฐประหารขึ้น อยากให้ทุกคนเข้าใจ ซึ่งตัวเองเกรงว่าผู้คนจะไม่เข้าใจว่าแต่งงานโดยไม่สนใจเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ แต่ก็ดันทุรังที่จะแต่ง
    #เมียนมา
    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     

แชร์หน้านี้

Loading...