ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 4 , 2021 ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 54 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 26,162 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย
    .
    ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 54 ราย แบ่งเป็น
    .
    ติดเชื้อในประเทศ 44 ราย
    .
    ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 10 ราย
    .
    โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศรวม 23,353 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,809 ราย รักษาหาย 25,562 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 541 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 85 ราย
    .
    #covid19 #โควิด19 #misterban
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 4, 2021 เสียชีวิต! ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แอสตราเซเนก้า เกิดเสียชีวิต 2 ราย ที่เกาหลีใต้
    .
    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนก้าให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย พบว่ามีเสียชีวิต 2 ราย ประกอบด้วย ผู้ป่วยสูงอายุวัย 63 ปี เพศชาย อยู่ในศูนย์ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งมีโรคหลอดเลือดสมอง เกิดมีอาการไข้สูงมาก หลังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตราเซเนก้าไปเป็นเวลา 4 วัน ผู้ป่วยสูงอายุดังกล่าวถูกนำส่งโรงพยาบาลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พบว่ามีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดอักเสบ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
    .
    ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นผู้ป่วยอายุช่วง 50 ปี มีโรคหัวใจหลอดเลือดผิดปกติ และโรคเบาหวาน เสียชีวิตในวันพุธ หลังจากทนทุกข์ทรมานกับภาวะหัวใจวาย โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตรายนี้ ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
    .
    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC กำลังสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของทั้ง 2 ราย อย่างไรก็ตาม ไม่ยืนยันว่ามีผลเชื่อมโยงกับการรับการฉีดวัคซีนหรือไม่ สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย จะได้รับเงินช่วยเหลือ 430 ล้านวอน หรือ 383,466 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยกว่า 11,887,466 บาท
    .
    นอกเหนือจากการเสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกานั้น ศูนย์ KCDC เปิดเผยต่อไปว่า จำนวนผู้มีอาการข้างเคียงมีทั้งสิ้น 207 ราย ในจำนวนนี้รวมทั้งผู้ที่แสดงอาการแพ้อย่างรุนแรงจำนวน 3 ราย
    .
    เกาหลีใต้เริ่มฉีดวัคซันป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของแอสตราเซเนก้าให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านไปจนถึงวันนี้ 3 มีนาคม มีผู้ได้รับวัคซีนรวม 85,904 ราย และรับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค จำนวน 1,524 ราย
    .
    สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในเกาหลีใต้ พบว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงวันนี้ 3 มีนาคม 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 444 ราย ส่งผลตัวเลขสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 90,816 ราย อยู่อันดับที่ 84 ของโลก ขณะที่ ผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 รายวัน เพิ่มขึ้น 6 ราย ส่งผลจำนวนเสียชีวิตสะสมเป็น 1,612 ราย
    .
    สำหรับประเทศไทยนั้น เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนก้า 117,600 โดส ได้ส่งมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วัคซีนล็อตแรกของแอสตราเซเนกานี้ เป็นส่วนหนึ่งในจำนวน 26 ล้านโดส ที่รัฐบาลไทยสั่งซื้อไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังเป็นวัคซีนที่สามารถฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ขึ้นไปได้ ซึ่งจะช่วยปิดช่องว่างสำหรับกลุ่มที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนของซิโนแวค คือ กลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
    .
    #เกาหลีใต้ #โซล #แอสตราเซเนกา #ไฟเซอร์ #วัคซีน #โควิด19 #covid19 #BTimes
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวสิงคโปร์ที่ออกรถใหม่ใน 4 ปีข้างหน้าจะไม่สามารถซื้อรถดีเซลได้อีกต่อไป หลังจากรัฐบาลมีมาตรการบังคับให้เปลี่ยนไปใช้รุ่นพลังงานสะอาดมากขึ้น

    วันที่ 4 มี.ค. 2021 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า รัฐบาลสิงคโปร์จะไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวและรถแท็กซี่เครื่องยนต์ดีเซลมาจดทะเบียนใหม่นับตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการบังคับใช้มาตรการที่เร็วกว่าการประกาศก่อนหน้านี้ถึง 5 ปี เป็นส่วนหนึ่งของแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

    ปัจจุบันสิงคโปร์มีรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องดีเซลอยู่เพียง 2.9% ของรถยนต์ทั้งหมด แต่สำหรับแท็กซี่นั้นมีสัดส่วนสูงถึง 41.5% อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะยังไม่นำมาใช้กับรถส่งของและรถบัส

    ในด้านการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า สิงคโปร์มีแผนที่จะติดตั้งสถานีชาร์จ EV ให้ได้ 60,000 จุดภายในปี 2030 โดยแบ่งเป็นที่จอดรถในพื้นที่สาธารณะ 40,000 จุด และที่จอดรถส่วนตัว 20,000 จุด โดยจะจัดตั้งหน่วยงานรัฐที่ดำเนินการนโยบายส่วนนี้โดยเฉพาะ และจะหารือถึงการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนภายในเดือนนี้

    กรมการขนส่งทางบกสิงคโปร์เผยว่า มาตรการเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของสิงคโปร์ในการบังคับให้รถยนต์ส่วนบุคคลและรถแท็กซี่ทั้งหมดที่ออกใหม่ในปี 2030 ต้องเป็นรุ่นที่ใช้พลังงานสะอาดขึ้น และภายในปี 2040 ยานพาหนะทุกชนิดจะต้องใช้พลังงานสะอาดทั้งหมด

    ที่มา: https://www.bloomberg.com/.../singapore-won-t-allow-new...

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำกัมพูชาเข้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว โดยเลือกวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า

    วันที่ 4 มี.ค. 2564 เว็บไซต์สเตรตส์ไทมส์ (Straits Times) ของสิงคโปร์รายงานว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ที่ส่งมาจากโรงงานผลิตในอินเดียแล้ว

    เมื่อวานนี้ กัมพูชาได้รับการจัดสรรวัคซีนจำนวน 324,000 โดส ผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก

    ก่อนหน้านี้ ฮุน เซน วัย 68 ปี เคยให้คำมั่นว่าจะเป็นคนแรกที่ฉีดวัคซีนของ ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) แต่ได้เปลี่ยนท่าทีในภายหลังโดยอ้างว่าเขามีอายุมากเกินไปสำหรับวัคซีนจากจีน และมอบหมายให้ พลโทฮุน มาเน็ต บุตรชายของเขา เข้ารับวัคซีนตัวนี้แทน

    อย่างไรก็ตาม ผู้นำกัมพูชายังคงแสดงท่าทีสนับสนุนวัคซีนจากจีน โดยกล่าวหลังได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าว่า มีการส่งวัคซีนจีนไปยังหลายประเทศมากกว่าแอสตร้าเซนเนก้า แม้กระทั่งประเทศที่เป็นพันธมิตรกับชาติตะวันตกก็ยังใช้วัคซีนของจีน

    นอกจากนั้น ฮุน เซน ยังได้ขอให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนของซิโนฟาร์ม และให้ผู้ที่อายุเกินไปฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าแทน

    ที่มา: https://www.straitstimes.com/.../cambodian-pm-hun-sen...

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    3 มีนาคม 2564 กลายเป็นวันที่เศร้าหมองสำหรับผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารในเมียนมา เพราะเป็นวันที่ทางการเมียนมาใช้กำลังอย่างรุนแรงสลายการชุมนุมในหลายพื้นที่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 38 คนในวันเดียว

    ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีอยู่คนหนึ่งเป็นเยาวชนอายุ 19 ปีที่ออกไปร่วมประท้วงต้านรัฐประหาร โดยในโลกออนไลน์ของเมียนมาได้แชร์ภาพขณะที่เธออยู่แนวหน้าต่อสู้กับกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะเสียชีวิต สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเมียนมาทั้งประเทศ

    เรื่องราวของเธอเป็นอย่างไร วันนี้ workpointTODAY จะสรุปมาให้อ่านกัน

    1.) การชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่เมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นการแสดงพลังของชาวเมียนมาที่ไม่ต่างจากวันก่อนๆ นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

    การชุมนุมในครั้งนี้มีชาวเมียนมาเข้าร่วมจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีเยาวชนหญิงอายุ 19 ปีชื่อจอว์ ซิน (Kyal Sin) หรือ 'Angel' ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่ทุกคนเรียกเธอ โดย 'Angel' เลือกที่จะไปอยู่เป็นแนวหน้าบริเวณแนวกั้นของผู้ชุมนุม ซึ่งในเวลาต่อมา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เมียนมาสลายการชุมนุม

    2.) 'Angel' โดดเด่นในการชุมนุมเป็นอย่างมาก เพราะท่าทางของเธอที่ดูจริงจัง โดยในโลกออนไลน์มีภาพขณะที่เธอยืนคุมเชิงประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ด้วยสายตาที่ไม่ยอมจำนน

    ภาพที่แชร์ต่อกันมายังเห็นได้ว่า 'Angel' เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีในการไปร่วมชุมนุม จากการที่เธอเตรียมแว่นสำหรับป้องกันการระคายเคือง หากถูกปืนฉีดน้ำแรงดันสูงหรือแก๊สน้ำตา เช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่เธอเลือกใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ เพื่อความกระฉับกระเฉง

    เสื้อยืดที่ 'Angel' สวมอยู่ มีข้อความ "Everything will be OK," หรือ "ทุกอย่างจะโอเค" เขียนเอาไว้

    3.) เพื่อนของ 'Angel' ที่ไปร่วมชุมนุมด้วยบอกว่า เธอตั้งใจจะไปเป็นการ์ดให้กับผู้ชุมนุมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยก่อนเสียชีวิต 'Angel' ช่วยเตือนเพื่อนผู้ชุมนุมให้ระวังอันตรายจากอาวุธของเจ้าหน้าที่ แถมยังช่วยถีบท่อน้ำให้แตก เพื่อให้ผู้ชุมนุมใช้น้ำล้างหน้า ลดอาการปวดแสบปวดร้อนจากแก๊สน้ำตาด้วย

    4.) สาเหตุที่ 'Angel' ตั้งใจจะไปเป็นด่านหน้าอาจเป็นเพราะเธอคิดว่าตัวเองแข็งแรงกว่าคนอื่น จากการที่เธอเป็นถึงแชมป์เทควันโด มีทักษะเกี่ยวกับศิลปะการป้องกันตัว แถมยังเป็นนักเต้นในคลับเต้นที่เมืองมัณฑะเลย์ด้วย

    5.) แม้จะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีและมีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็ไม่อาจต้านทานกระสุนปืนได้ โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริง 'Angel' ถูกยิงเข้าที่บริเวณด้านข้างของศีรษะ และเสียชีวิตในที่สุด

    6.) การเสียชีวิตของ 'Angel' กลายเป็นที่สนใจของชาวเมียนมาทั้งประเทศ โดยบางส่วนนำเรื่องราวชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนี้มาเผยแพร่ต่อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเธอเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก

    7.) เฟซบุ๊กของ 'Angel' บันทึกเรื่องราวเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมา โดยเธอได้โพสต์ภาพขณะที่ตัวเองจุมพิตกับนิ้วมือที่เปื้อนด้วยน้ำหมึก ซึ่งเป็นการทำสัญลักษณ์หลังเข้าคูหาเลือกตั้ง

    เธอโพสต์ข้อความว่า การเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกในชีวิต และเธอได้ทำหน้าที่นั้นเพื่อประเทศชาติแล้ว ซึ่งการเลือกของเธอก็มาจากสิ่งที่อยู่ในก้นบึ้งของจิตใจ

    เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหาร 'Angel' แสดงจุดยืนบนเฟซบุ๊กชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารด้วยการออกไปร่วมชุมนุม พร้อมโบกธงสัญลักษณ์ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD)

    8.) ดูเหมือน 'Angel' จะรู้ดีว่า เจ้าหน้าที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมมากขึ้น จนอาจมีความเสี่ยงถึงชีวิต ทำให้เธอตัดสินใจโพสต์ข้อมูลสุขภาพของตัวเอง สำหรับเป็นข้อมูลให้แพทย์ในกรณีฉุกเฉิน พร้อมระบุเจตนารมณ์ว่า จะบริจาคร่างกายหากเสียชีวิต

    เพื่อนคนหนึ่งของ 'Angel' เปิดเผยว่า เธอได้ส่งข้อความมาสั่งเสียเป็นการส่วนตัวว่า นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้คุยกัน ก่อนจะบอกรักและขอให้อย่าลืมกัน

    9.) การเสียชีวิตของ 'Angel' กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่เมียนมา โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งนางคริสติน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ (Christine Schraner Burgener) ผู้แทนพิเศษด้านเมียนมาประจำองค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึงอย่างน้อย 38 คน ซึ่งถือว่าเป็นวันที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

    โดยผู้แทนด้านเมียนมาประจำสหประชาชาติเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นต่อกองทัพเมียนมา ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทุกชาติออกมาส่งเสียงประณามการใช้ความรุนแรงของกองทัพเมียนมาต่อประชาชน

    ที่มา https://www.straitstimes.com/.../everything-will-be-ok...
    https://www.myanmar-now.org/.../at-least-18-killed...
    https://www.bbc.com/news/world-asia-56265962

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปลัดสธ.สั่งพักงาน ‘ผอ.รพ.นครพิงค์-สสจ.เชียงใหม่’ ปมฉีด วัคซีนโควิด วีไอพี โดยให้ทั้ง 2 คนไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานเขตสุขภาพเชียงใหม่ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบ จนกว่าจะแล้วเสร็จ

    วันที่ 4 มี.ค.2564 นพ. เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ได้ลงนามหนังสือคำสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ประจำชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. มีผลวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ และ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ยุติการทำหน้าที่ประจำไปก่อน โดยทั้ง 2 ท่านถูกให้ไปปฏิบัติราชการแทนที่สำนักงานเขตสุขภาพที่ 1 เชียงใหม่ จนกว่าคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้น จะทำการสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น หลังมีการรายงานปมฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่ม VIP

    โดยเรื่องนี้มี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการ สธ. เป็นประธานตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบกลับมาแล้ว ขณะนี้เหลือรอเอกสาร รายละเอียดต่างๆ ส่วนการสั่งย้ายนั้น ก็ไม่ใช่ เพราะเป็นเพียงการพักจากหน้าที่ประจำ คือผู้อำนวยการ รพ.นครพิงค์ และนพ.สสจ.เชียงใหม่ โดยให้ทั้ง 2 คนไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานเขตสุขภาพเชียงใหม่แทน เมื่อมีการสอบสวนเรื่องนี้แล้วเสร็จ 1-2 วัน และพบว่าไม่มีมูลใดๆ ก็กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ซึ่งการดำเนินการแบบนี้ เป็นเรื่องปกติของทางราชการที่ต้องปฏิบัติเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ขอให้เข้าใจว่าเรื่องนี้สำคัญ เพราะเมื่อมีกระแสข่าวออกไป ย่อมทำให้คนสงสัย และอาจเข้าใจผิดในเรื่องการจัดสรรกระจายวัคซีนโควิด-19 ซึ่งล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส เป็นล็อตสำคัญต้องให้ได้อย่างถูกต้องตามเกณฑ์

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าฯ กทม.เผยแผน-เป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนกรุงเทพฯ โดยสัปดาห์ที่ 1 กลุ่มเป้าหมายคือ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน แบ่งเป็น โรงพยาบาลเอกชน 13 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 3 แห่ง

    วันที่ 4 มี.ค. 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน กทม. ครั้งที่ 3/2564 โดยมี คณะผู้บริหาร กทม. พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (Teleconference) โดยที่ประชุมสำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 และการเตรียมความพร้อมการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจำนวนผู้ป่วยยืนยันในกรุงเทพฯ ที่ได้รับแจ้งจากการระบาดรอบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 –วันที่ 3 มีนาคม 2564 แยกตามความเสี่ยง พบว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด ได้แก่ ผู้สัมผัสในครอบครัว 196 ราย สถานบันเทิง 171 ราย ไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 165 ราย เชื่อมโยง จ.สมุทรสาคร 149 ราย ผู้สัมผัสในที่ทำงาน 145 ราย

    สำหรับแผนและเป้าหมายในการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของกรุงเทพมหานครนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ระยะแรก เดือนมีนาคม สัปดาห์ที่ 1 กลุ่มเป้าหมายคือ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน แบ่งเป็น โรงพยาบาลเอกชน 13 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 3 แห่ง (รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร อุทิศ รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน และ รพ.ราชพิพัฒน์) และศูนย์บริการสาธารณสุข 7 แห่ง ในพื้นที่ 6 เขตเสี่ยง รวม 3,278 คน สำหรับสถานที่ให้บริการฉีดคือโรงพยาบาลต้นสังกัดของบุคลากรกลุ่มเป้าหมาย

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เช็กอาการหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 อาการแบบไหนบ่งชี้ว่า แพ้วัคซีนรุนแรงต้องแจ้งแทพย์ทันที

    รายละเอียด https://workpointtoday.com/19covid-0403/
    yPYTBnaBoFBst9cvbyCssNTagS_AE0PSC7coNR6xHAs&_nc_ohc=pKLs6T_fSEoAX9GuefI&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์จี้กองทัพเมียนมาหยุดสังหารผู้ประท้วง ชี้การใช้กระสุนจริงปราบปรามผู้ชุมนุมโดยสงบเป็นเรื่องน่ารังเกียจ พร้อมเรียกร้องประชาคมโลกสนับสนุนแนวทางให้กองทัพเมียนมารับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น

    วันที่ 4 มีนาคม 2564 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางมิเชล บาชาเล ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์การชุมนุมต้านรัฐประหารในเมียนมา โดยเรียกร้องให้เมียนมายุติการกระทำที่ชั่วร้ายในการสลายการชุมนุมโดยสงบ พร้อมย้ำไปถึงกองทัพเมียนมาว่าจะต้องยุติการสังหารและจับกุมผู้ประท้วงได้แล้ว

    ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติโจมตีกองทัพเมียนมาผ่านแถลงการณ์อย่างรุนแรงว่า การใช้กระสุนจริงต่อผู้ชุมนุมโดยสงบในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจอย่างถึงที่สุด ขณะเดียวกันยังตกใจที่มีรายงานว่า ทางการเมียนมาโจมตีเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินที่พยายามเข้าไปปฐมพยาบาลผู้ชุมนุมด้วย

    การออกมาแสดงท่าทีของข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่เมียนมาสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงอย่างน้อย 38 คน และทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 54 ศพ และมีผู้บาดเจ็บอีกหลักพันคน เช่นเดียวกับผู้ถูกจับกุมที่น่าจะมากกว่า 1,700 คน

    โดยในแถลงการณ์ล่าสุด ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยังเรียกร้องไปถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ช่วยสนับสนุนกลไกนานาชาติ เพื่อให้ผู้นำกองทัพเมียนมารับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมทั้งยุติอำนาจของกองทัพ เพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยในเมียนมาต่อไป

    ที่มา https://www.channelnewsasia.com/.../un-tells-myanmar...

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อดีต จนท.ยูเอ็นแนะต่างชาติระงับธุรกิจทั้งหมดในพม่า บีบทหารยกเลิกรัฐประหาร
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ - บริษัทต่างชาติควรระงับธุรกิจทั้งหมดในพม่าเพื่อส่งข้อความที่ชัดเจนถึงกองทัพว่าการรัฐประหารจะทำร้ายประชาชนและทำลายเศรษฐกิจของประเทศ อดีตผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพม่าของสหประชาชาติระบุ
    .
    คริส ซิโดติ เป็นหนึ่งในคณะสืบสวนข้อเท็จจริงนำโดยสหประชาชาติ ที่ในปี 2562 ได้เรียกร้องให้บริษัทต่างชาติตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับทหารพม่าเนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน และติดตามการลงทุนของภาคเอกชนที่นั่น
    .
    จุดยืนดังกล่าวแข็งกร้าวขึ้นนับตั้งแต่การรัฐประหารวันที่ 1 ก.พ. และการปราบปรามนองเลือดต่อผู้ชุมนุมประท้วง ซิโดติ กล่าว และเนื่องจากทหารได้เข้ายึดอำนาจควบคุมประเทศที่เคยปกครองมานานเกือบครึ่งศตวรรษอีกครั้ง ทำให้ตอนนี้มีความเสี่ยงต่อการทำธุรกิจใดๆ ในพม่า
    .
    “หากธุรกิจต่างๆ มีความรับผิดชอบ พวกเขาจะระงับทุกอย่างไว้ ณ จุดนี้” ซิโดติ ที่ได้ตั้งกลุ่มที่ปรึกษาอิสระว่าด้วยพม่ากับอดีตผู้ไต่สวนของสหประชาชาติบางคน กล่าว
    .
    “มันจะส่งข้อความที่ชัดเจนอย่างมากต่อทหาร ที่หวังว่าอาจทำให้พวกเขาทบทวนการกระทำของตนเอง ประเทศไม่สามารถกลับสู่การปกครองเผด็จการทหารได้โดยที่ประชาชนไม่ได้รับอันตราย” ซิโดติ กล่าวกับรอยเตอร์
    .
    รัฐบาลทหารระบุว่า พวกเขาเข้าควบคุมประเทศ เพราะการร้องเรียนเกี่ยวกับการโกงการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. ถูกเพิกเฉย และกองทัพได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลา
    .
    นักเคลื่อนไหวเพิ่มแรงกดดันต่อกิจการของต่างชาติที่ทำธุรกิจอยู่ในพม่า ที่พวกเขากล่าวว่าอาจเป็นช่องทางเงินทุนให้แก่ทหาร ที่ประกอบด้วยกิจการด้านพลังงาน ธนาคารระหว่างประเทศ ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรม และแบรนด์ผู้บริโภคต่างๆ
    .
    คิริน ผู้ผลิตเครื่องดื่มสัญชาติญี่ปุ่น กล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า กำลังออกจากการร่วมทุนกับบริษัทที่ทหารเป็นเจ้าของ ขณะที่บริษัทวู้ดไซด์ ปิโตรเลียม ของออสเตรเลีย กล่าวว่า กำลังลดการปรากฏตัวในพม่า ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมประท้วง
    .
    ซิโดติไม่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง โดยระบุว่า จะต้องใช้เวลาทั้งในการกำหนดมาตรการและการยกเลิกมาตรการ
    .
    เมื่อรอยเตอร์ถามถึงผลกระทบจากการระงับธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นต่อการดำรงชีวิตในพม่า ซิโดติ กล่าวว่า “เป็นนายพลและการรัฐประหารที่กำลังบ่อนทำลายความเป็นอยู่ของประชาชนในพม่า ไม่ใช่สิ่งอื่น และสิ่งที่ช่วยและส่งเสริมให้ทหารยังคงมีอำนาจต่อไปได้ ควรหลีกเลี่ยง ณ จุดนี้”.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000021271
    =AT0uri6SxINZqtJOWg4igpEFy2iVSmdMFyS5hCD-BDiA5pSQ9skKHQ35Qsby7C1bZdg3DQwKuWTRdeFJlb29rMzV0dxW50B0BHuaxDcFhE_6SesOReUQR_CL-C9DVrCipGqr3OHjRz30shw30PuR8rEYlkx4ORQC4NjuAqwqymK2zPij52qWCMJ5rLLoMKvo6zaurBzOpD6cOY2zGAL7JoXIaHKbGjoLBcXcxiNY5D9WMXj82RUSJhyk8bPWtiWHEhj0bFAbjxtT2Q'] gVGbpFrbi6n2&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fmpics.mgronline.com%2Fpics%2FImages%2F564000002187901.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮุนเซน’ ควงศรีภริยาฉีดวัคซีน ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ เข็มแรก
    .
    syd47iX0vgMyZh7SCplM8ls10fx_pu-oDHdVd1rEm1_&_nc_ohc=Hp6iHsWRkIgAX-vZI6b&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
    .
    รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก วันนี้ (4) ราว 3 สัปดาห์หลังกัมพูชาเริ่มโครงการฉีดวัคซีนโดยในตอนแรกมีเพียงวัคซีนของจีนเท่านั้น
    .
    ฮุนเซน อายุ 68 ปี ได้ให้คำมั่นว่าจะเป็นคนแรกที่เข้ารับการฉีดวัคซีนของซิโนฟาร์มที่ได้รับบริจาคจากจีน แต่ต่อมาผู้นำเขมรกล่าวว่าเขาแก่เกินไป ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนของซิโนฟาร์มได้ ทำให้บุตรชายของฮุนเซนและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสิ่งแวดล้อมกลายเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม
    .
    จีนเป็นหนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของกัมพูชา และฮุนเซนได้กล่าวถึงวัคซีนซิโนฟาร์มเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนที่ยังลังเลถึงความปลอดภัยของวัคซีนตัวนี้
    .
    “วัคซีนของจีนถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ มากกว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า กระทั่งประเทศที่เป็นพันธมิตรตะวันตกยังใช้วัคซีนของจีน” ฮุนเซน กล่าวแถลงข่าวหลังเข้ารับการฉีดวัคซีน
    .
    ฮุนเซนเรียกร้องให้ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม และผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า
    .
    กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อต่ำที่สุดและไม่มีผู้เสียชีวิต แต่เมื่อเดือนก่อนมีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น ที่ทำให้ยอดรวมของผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมในประเทศอยู่ที่ 909 คน
    .
    กัมพูชาได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในอินเดียล็อตแรกจำนวน 324,000 โดสผ่านโครงการโคแว็กซ์ เมื่อวันอังคาร (2)
    .
    อินเดียและจีนต่างดำเนินการการทูตวัคซีนเพื่อส่งเสริมสถานะของพวกเขาในภูมิภาค ซึ่งทั้งคู่ได้จัดส่งวัคซีนให้แก่ประเทศขนาดเล็กและยากจน และจีนได้ส่งมอบวัคซีนซิโนฟาร์มล็อตแรกจำนวน 600,000 โดส ให้กัมพูชาเมื่อวันที่ 7 ก.พ. และจะส่งมอบอีก 400,000 โดสในเดือน เม.ย.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000021148
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มูลนิธิ เฮอริเทจ ฟาวเดชัน (Heritage Foundation) สถาบันวิจัยฝ่ายอนุรักษนิยมของสหรัฐฯ เผยแพร่ดัชนีวัดเสรีภาพทางเศรษฐกิจ (Economic Freedom Index) ประจำปี 2021 ซึ่งไม่มีรายชื่อ “ฮ่องกง” รวมอยู่ด้วย โดยอ้างว่าสาเหตุที่ไม่นำมาพิจารณาก็เนื่องจากฮ่องกงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ “จีน” ไปแล้ว
    .
    คำประกาศดังกล่าวยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของมหานครการเงินแห่งนี้ย่ำแย่ลงไปอีก ในขณะที่จีนเองก็ยกระดับปราบปรามฝ่ายต่อต้านที่เคยออกมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่ฮ่องกงเมื่อช่วงปี 2019
    .
    ดัชนี Economic Freedom Index มุ่งวัดระดับเสรีภาพทางเศรษฐกิจและปัจจัยเกื้อหนุนการทำธุรกิจในแต่ละประเทศและดินแดนทั่วโลก ซึ่งฮ่องกงรั้งแชมป์เบอร์ 1 เกือบตลอด 26 ปีที่ผ่านมา (พลาดไปเพียงปีเดียว) และถือเป็นข้อมูลที่ฝ่ายบริหารฮ่องกงเองก็ภาคภูมิใจและนำไปอ้างอิงอยู่เสมอ
    .
    อย่างไรก็ตาม ชื่อของฮ่องกงได้ถูกลบหายไปจากดัชนีประจำปี 2021 ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (4 มี.ค.) โดยคณะผู้จัดทำให้เหตุผลว่า ฮ่องกง “ไม่ได้เป็นอิสระจากจีน” มากพอที่จะถูกพิจารณาแยกต่างหากได้
    .
    “การสูญเสียเสรีภาพทางการเมืองและอำนาจปกครองตนเองขั้นสูงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ฮ่องกงแทบจะไม่แตกต่างอะไรเลยกับเมืองศูนย์กลางการค้าอื่นๆ ของจีนอย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง” เอ็ดวิน เจ. เฟิลเนอร์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเฮอริเทจฟาวเดชัน เขียนลงในวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อวันพุธ (3)
    .
    “ความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงกับจีนถูกทำให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ประเพณีการใช้กฎหมายคอมมอนลอว์แบบอังกฤษ, เสรีภาพในการแสดงออก และระบอบประชาธิปไตย กลับอ่อนแอลงไปมาก”
    .
    ตอนที่ฮ่องกงรั้งแชมป์ Economic Freedom Index ครบ 25 ปีซ้อนเมื่อปี 2019 รัฐบาลฮ่องกงระบุว่าความสำเร็จนี้เกิดมาจาก “ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ, กระบวนการยุติธรรมที่มีคุณภาพสูง, การไม่อดทนต่อปัญหาทุจริตคอรัปชัน, ความโปร่งใสของรัฐบาล, กฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพ และความเปิดกว้างของระบบการค้าโลก”
    .
    ฮ่องกงมาเสียแชมป์ครั้งแรกให้กับ “สิงคโปร์” เมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่รัฐบาลจีนเริ่มนำกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่มาบังคับใช้ ทว่าตอนนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของฮ่องกงยังปฏิเสธความกังวล และทำนายว่ามหานครแห่งนี้จะกลับมาทวงบัลลังก์คืนได้ในอีกไม่ช้า
    .
    ตรงกันข้าม... เวลานี้ทั้งฮ่องกงและมาเก๊าได้ถูกนับรวมว่าเป็น “จีน” ซึ่งติดโผลำดับที่ 107 ของโลกจากทั้งหมด 178 ประเทศ ร่วมชั้นกับยูกันดาและอัฟกานิสถาน
    .
    ในดัชนีปีล่าสุด สิงคโปร์ยังคงรั้งแชมป์อันดับ 1 ตามมาด้วยนิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, สวิตเซอร์แลนด์ และไอร์แลนด์ ซึ่ง 5 อันดับแรกนี้จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจ “เสรี” (คะแนนระหว่าง 100-80)
    .
    สำหรับประเทศไทยมีคะแนน 67.9 เทียบเท่าโปแลนด์ และอยู่ในลำดับที่ 42 ของโลก จัดเป็นกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจเสรีปานกลาง (คะแนนระหว่าง 69.9-60)
    .
    ที่มา: เอเอฟพี, The Heritage Foundation
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลลาวห่วงอนาคต "เขต ศก.พิเศษสามเหลี่ยมทองคำ" หลังปีกว่าแล้ววิกฤตโควิด-19 ยังไม่จบ
    .
    .
    MGR Online - รัฐบาลลาวเป็นห่วงเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หลังเผชิญกับพิษโควิด-19 ต้องปิดๆ เปิดๆ พื้นที่ยาวนานกว่า 1 ปี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุขลงพื้นที่ เห็นชอบมาตรการตรวจตราคนเข้า-ออกอย่างเข้มงวด ที่แม้เป็นคนลาวยังต้องขออนุญาต เผยก่อนโควิด-19 ระบาด สามเหลี่ยมทองคำสร้างรายได้ให้ลาวแล้ว 458 ล้านดอลล์
    .
    เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา สมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน สปป.ลาว เดินทางมายังเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว โดยมีเจ้าเหว่ย ประธานคณะกรรมการบริหาร เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ให้การต้อนรับ
    .
    คณะของรองนายกรัฐมนตรีลาว ประกอบด้วย รศ.ดร.บุนกอง สีหาวง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ทองคูน พนทองสี ประธานคณะกรรมการควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ แขวงบ่อแก้ว และเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยวัตถุประสงค์การเดินทางมาที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำของคณะรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงการเงิน และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขลาวครั้งนี้ เพื่อให้คำแนะนำแนวทางรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 แก่ผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ
    .
    นอกจากนี้ คณะของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปชมห้องกักตัวรอดูอาการในเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ รวมถึงดูการทำงานของอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาลในประเทศสิงคโปร์ ที่ถูกนำมาใช้ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ
    .
    คณะของรองนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับมาตรการควบคุมคนเข้า-ออกเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ อย่างเข้มงวด ที่แม้แต่คนลาวยังต้องขออนุญาตก่อนจึงจะเข้าพื้นที่ได้ และสนับสนุนให้ใช้มาตรการนี้ต่อนับแต่โควิด-19 เริ่มระบาดที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปลายปี 2562 เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำต้องได้รับผลกระทบมาตลอด เนื่องจากเป็นพื้นที่ลงทุนขนาดใหญ่ของกลุ่มทุนจีนที่อยู่ในภาคเหนือของลาว มีชาวจีนจำนวนมากเดินทางเข้ามาเที่ยวเสี่ยงโชคที่นี่
    .
    เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงตรงพื้นที่รอยต่อ 3 ประเทศ คืออำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กับจังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐชาน ลงทุนโดยบริษัทดอกงิ้วคำ ในเครือคิงส์ โรมัน กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจกาสิโนที่จดทะเบียนอยู่ในฮ่องกง ซึ่งมีเจ้าเหว่ย เป็นเจ้าของ
    .
    ปี 2550 รัฐบาลลาวได้ให้สัมปทานแก่บริษัทดอกงิ้วคำเช่าที่ดิน 2,173 เฮคเตอร์ (13,581 ไร่) เป็นเวลา 99 ปี เพื่อสร้างเมืองใหม่และศูนย์บันเทิงครบวงจร โดยมีกาสิโนเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ใช้เงินลงทุน 3,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2555
    .
    วันที่ 13 ตุลาคม 2562 จันทะจอน วางฟาเซง กรรมการบริหาร เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสารประเทศลาวว่า ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำรวม 452,571 คน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2562 เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำมีรายรับรวม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าปี 2568 จะเพิ่มเป็น 370 ล้านดอลลาร์หรือเพิ่มขึ้น 150%
    .
    เขาบอกว่านับแต่เริ่มเปิดให้บริการในปี 2555 ถึงกลางปี 2562 เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำได้จ่ายพันธะอากรให้แก่รัฐบาลลาวไปแล้ว 458 ล้านดอลลาร์
    .
    โควิด-19 เริ่มระบาดในจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 แม้ว่าโรคนี้ยังไม่ได้ระบาดลงมาถึงลาว แต่ในวันที่ 26 มกราคม 2563 แแขวงบ่อแก้วก็มีคำสั่งปิดด่านสามเหลี่ยมทองคำและด่านบ้านมอม ห้ามคนสัญชาติจีนและพม่าเดินทางเข้า-ออกด่านทั้ง 2 แห่งชั่วคราวเพื่อป้องกันไว้ก่อน
    .
    จากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำได้ล็อกดาวน์พื้นที่ กิจการที่อยู่ในนี้ต้องถูกปิดลงชั่วคราวไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
    .
    หลังกลับมาเปิดใหม่ได้ไม่นาน ในเดือนพฤศจิกายนได้เกิดโควิด-19 ระบาด ในเมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มีชาวจีน 2 คน ที่ไปเปิดร้านคาราโอเกะที่นั่นลักลอบข้ามแม่น้ำโขง เดินทางผ่านลาวเพื่อกลับไปในจีน และถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 ทำให้ต้องมีการปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำอีกครั้ง จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม
    .
    เมื่อเตรียมกลับมาให้บริการอีกครั้งหลังเพิ่งเปิดพื้นที่ตอนต้นปี 2564 เดือนมกราคมก็พบคนจีนในเมืองต้นผึ้งติดโควิด-19 เพิ่มมาอีก 1 คน ทำให้เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำต้องปิดพื้นที่ต่ออีกรอบ จากนั้นจึงมีการออกมาตรการเข้มงวด จำกัดและตรวจตราผู้ที่จะเดินทางเข้า-ออกพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำอย่างละเอียด
    .
    แม้แต่คนลาว หากไม่ได้ทำงานหรือค้าขายอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หากต้องการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษฯ ต้องมีคนที่อยู่ในนี้ให้การรับรอง และได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำเสียก่อน จึงสามารถเดินทางเข้าไปได้.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000021076
    5ibhoCK5jXTZ&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fmpics.mgronline.com%2Fpics%2FImages%2F564000002169001.jpg
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่าเจ็บ! ‘ไบเดน’ จวกผู้ว่าฯ 2 รัฐคิดแบบ ‘มนุษย์โบราณ’ ถึงได้เลิกบังคับสวมหน้ากาก-เตือนยอดตายโควิดยังพุ่งสูง
    .
    ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ วิจารณ์ผู้ว่าการรัฐเทกซัสและมิสซิสซิปปีว่ามีความคิดด้อยพัฒนาแบบมนุษย์ ‘นีแอนเดอธัล’ หลังจากที่รัฐทั้งสองตัดสินใจยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มสูงขึ้น
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์วานนี้ (3 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ถาม ไบเดน ว่ามีอะไรจะฝากบอกไปถึงเทกซัสและมิสซิสซิปปีหรือไม่ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่า “ผมว่ามันเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวง ผมคิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจกันหมดแล้วว่าหน้ากากพวกนี้ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง”
    .
    แม้การที่เข้าถึงวัคซีนที่เพิ่มขึ้นจะมีส่วนช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ ไบเดน ย้ำว่าการสวมหน้ากาก, ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันไว้ก่อน ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
    .
    “สิ่งที่เราไม่ต้องการจะเห็นก็คือ ความคิดแบบมนุษย์นีแอนเดอธัลในทำนองว่า... ตอนนี้ทุกอย่างโอเคแล้วนะ ถอดหน้ากากได้ ลืมมันไปซะ... มันยังคงจำเป็นอยู่” ไบเดน กล่าว
    .
    เทต รีฟส์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี ให้สัมภาษณ์กับสื่อฟ็อกซ์นิวส์หลังจากนั้นไม่นานว่า “รัฐของผมไม่ได้เผชิญวิกฤตด้านสาธารณสุขอีกแล้ว ผมคิดว่าท่านประธานาธิบดีควรแสดงความเชื่อมั่นในชาวอเมริกัน มากกว่าดูหมิ่นเหยียดหยามชาวอเมริกัน”
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำเตือนว่าอเมริกามีคนตายจากโควิด-19 แล้วกว่า 551,000 คน และยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งกว่าประชากรที่มีคุณสมบัติพร้อมจะได้รับวัคซีนกันครบทุกคน
    .
    ขณะเดียวกัน ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ ก็ยังพุ่งเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 50,000 คน แม้รัฐบาลจะฉีดวัคซีนกว่า 100 ล้านโดสให้แก่ประชากรมากกว่า 50 ล้านคนแล้วก็ตามที
    .
    “มันคือสิ่งจำเป็น จำเป็น และจำเป็นจริงๆ ที่พวกเขาจะต้องเชื่อในวิทยาศาสตร์ จงล้างมือ ดื่มน้ำร้อน ทำมันให้บ่อยๆ สวมหน้ากากและเว้นระยะห่างจากกัน ผมรู้ว่าพวกคุณเองก็รู้ และผมหวังอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาทุกคนจะรู้ด้วย” ไบเดน กล่าว
    .
    เมื่อวันอังคาร (2) เกร็ก แอบบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ได้เซ็นคำสั่งยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และอนุญาตให้ภาคธุรกิจในรัฐทางใต้แห่งนี้กลับมาเปิดอย่างเต็มรูปแบบในสัปดาห์หน้า เช่นเดียวกับ รีฟส์ ที่ได้ยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมในรัฐมิสซิสซิปปีเช่นกัน
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มหกรรมสาวไส้! วังอังกฤษสอบปม ‘เมแกน’ กลั่นแกล้งข้าราชบริพารขณะใช้ชีวิตเจ้า
    .
    สำนักพระราชวังบักกิงแฮมแถลงวานนี้ (3 มี.ค.) ว่ารู้สึก “กังวลอย่างยิ่ง” และจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หลังจากที่สื่ออังกฤษเปิดประเด็นแฉว่า “เมแกน มาร์เคิล” ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ชายาสุดรักของเจ้าชายแฮร์รี มีพฤติกรรมข่มเหงรังแกข้าราชบริพาร ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในพระราชวังเคนซิงตัน
    .
    แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังอังกฤษ ระบุว่า “เรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อข้อครหาต่างๆ ที่อดีตข้าราชบริพารของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ออกมาเปิดเผยผ่านหนังสือพิมพ์เดอะไทม์ส ทีมงานด้านทรัพยากรบุคคลของเราจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้”
    .
    พฤติกรรม ‘บูลลี่’ ของเมแกนนั้น ว่ากันว่าเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ต.ค.ปี 2018 ซึ่งทางพระราชวังบักกิงแฮมระบุว่าจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอดีตข้าราชบริพารที่ลาออกไปแล้ว กลับมาให้ข้อมูล “เพื่อศึกษาบทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้น”
    .
    “สำนักพระราชวังจะไม่อดทนต่อการกดขี่ข่มเหง หรือการข่มขู่ในสถานที่ทำงาน”
    .
    เดอะไทม์สอ้างข้อมูลจากอีเมลของข้าราชบริพารผู้หนึ่งซึ่งระบุว่า เมแกน เคยไล่ผู้ช่วย 2 คนออกจากวัง และยังทำลายความเชื่อมั่นของข้าราชบริพารรายที่สาม
    .
    รายงานชิ้นนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่สื่อสหรัฐฯ จะเผยแพร่บทสัมภาษณ์เปิดใจเจ้าชายแฮร์รีกับ เมแกน ในรายการทอล์กโชว์ของ ‘โอปราห์ วินฟรีย์’ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทั้งคู่ตัดสินใจละทิ้งบทบาทสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงเพื่อมาใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนในอเมริกา
    .
    “ดัชเชสรู้สึกเสียใจต่อความพยายามโจมตีเธอครั้งล่าสุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเธอเองก็ตกเป็นเหยื่อของการบูลลี่เรื่อยมา” โฆษกของเมแกนระบุ
    .
    “เธอมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อส่งเสริมความเห็นอกเห็นใจกันทั่วโลก และจะเป็นแบบอย่างของการทำในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป”
    .
    ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังประณามเดอะไทม์สว่าจงใจ “เล่าความเท็จ” เพื่อทำลายชื่อเสียงของเมแกน ก่อนที่บทสัมภาษณ์ตัวเต็มของพวกเขาจะออนแอร์ทางสถานีโทรทัศน์ CBS ในวันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค. นี้
    .
    รอยร้าวระหว่าง เมแกน กับราชวงศ์อังกฤษถูกโหมกระพือขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่เจ้าชายฟิลิป พระราชสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กำลังประชวรด้วยพระอาการติดเชื้อ และต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมานานหลายสัปดาห์
    .
    ดยุคแห่งเอดินบะระ วัย 99 พรรษา ทรงย้ายไปประทับที่โรงพยาบาลเซนต์บาร์โธโลมิวในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 มี.ค.) เพื่อทรงรับการตรวจเช็คโรคพระหทัยที่ทรงเป็นอยู่ก่อนแล้ว
    .
    คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (3) ว่าเจ้าชายฟิลิป “ทรงมีพระอาการดีขึ้นเล็กน้อย” แต่ยังทรง “เจ็บบ้างเป็นบางครั้ง” จากกระบวนการรักษา
    .
    หลังจากย้ายไปอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน ได้เริ่มทำธุรกิจหลายอย่าง รวมถึงเซ็นสัญญาผลิตรายการร่วมกับแพลตฟอร์มสตรีมมิงชื่อดังอย่าง Netflix และ Spotify
    .
    ทั้งคู่ยังฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อมวลชนหลายเจ้าฐานรุกล้ำความเป็นส่วนตัว หลังจากที่ประณามพฤติกรรมของสื่ออังกฤษว่าทำให้สุดจะทนใช้ชีวิตอยู่ในเมืองผู้ดีได้ต่อไป
    .
    เมื่อเดือน ก.พ. ศาลสูงลอนดอนได้ตัดสินให้ เมแกน เป็นฝ่ายชนะคดีที่ยื่นฟ้องบริษัท Associated Newspaper Limited เจ้าของสื่อ ‘เมล์ ออน ซันเดย์’ ซึ่งนำจดหมายส่วนตัวที่เธอเขียนถึงบิดา ‘โทมัส มาเคิล’ ไปเผยแพร่ และเธอเพิ่งได้รับค่าใช้จ่ายในการทำคดี (legal costs) กลับคืนมา 450,000 ปอนด์เมื่อวันอังคาร (2)
    .
    ที่มา : เอเอฟพี, BBC

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภูเขาไฟ ‘กัวเตมาลา’ ระเบิด เตือนประชาชนระวังเศษหิน-เถ้าถ่านร่วงจากท้องฟ้า
    .
    ภูเขาไฟปากายา (Pacaya) ในกัวเตมาลาเกิดการระเบิดและปลดปล่อยลาวานานหลายชั่วโมงเมื่อวันพุธ (3 มี.ค.) ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองโดยรอบให้ระวังอันตรายจากเถ้าถ่านและหินร้อนที่อาจจะร่วงตกใส่ชุมชน
    .
    เจ้าหน้าที่กัวเตมาลาไม่ได้มีคำสั่งอพยพประชาชน เนื่องจากลักษณะการปะทุแบบ ‘สตรอมโบเลียน’ นี้เป็นการระเบิดที่ไม่รุนแรงนัก แต่อาจจะมีกรวดภูเขาไฟหรือก้อนหินขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า ‘ลาวาบอมบ์’ ถูกปลดปล่อยออกมาได้
    .
    ภูเขาไฟปากายาซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตีไปทางใต้เพียง 28 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังมีพลังมากที่สุดในภูมิภาคอเมริกากลาง และเริ่มส่งสัญญาณเตือนการปะทุมานานกว่า 1 เดือน
    .
    ภูเขาไฟลูกนี้เริ่มปลดปล่อยลาวาตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันพุธ (3) ตามเวลาท้องถิ่น และทำให้เกิดกลุ่มควันหนาทึบปกคลุมท้องฟ้า
    .
    เดวิด เดอ ลีออน โฆษกสำนักงานประสานงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ (Conred) ระบุว่าได้มีการส่งหน่วยป้องกันพลเรือนลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานที่ต่างๆ ที่อาจจะใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวได้ เนื่องจากยังมีลาวาไหลออกจากปากปล่องภูเขาไฟอย่างต่อเนื่องจนถึงค่ำวันพุธ (3)
    .
    ประชาชนราว 3,000 คนที่อาศัยอยู่ใน 5 เมืองรอบๆ ภูเขาไฟได้รับคำเตือนให้ระวังอันตรายจากก้อนหินภูเขาไฟที่ร้อนจัดซึ่งอาจจะร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า
    .
    ที่มา: รอยเตอร์



    8M_6n5all5M7DPL1tuQalDXXEqEQYbVQZVm6Gg5ZPF8&_nc_ohc=W3G__3BzWegAX-KDyrb&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    Jf2Iv-icel0UqSPli6q5b1hqdpENtFEK9-GPMtTUFPi&_nc_ohc=U4HNGqL4RuQAX_1fBcT&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    Around the World
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิดกลายพันธุ์เล่นงานบราซิลสาหัส เสียชีวิตสูงสุด2วันติด
    บราซิลพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่ ทุบสถิติสูงสุุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด 2 วันติดต่อกันในวันพุธ(3มี.ค.) หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1,910 คน ในขณะที่มีคำเตือนว่าระบบสาธารณสุขในหลายรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะล่มสลาย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
    เคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ผลักระบบสาธารณสุขถึงขีดจำกัดในหลายพื้นที่ ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้น ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมของบราซิลเพิ่มเป็น 259,271 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯเท่านั้น
    "เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น เรากำลังเห็นสถานการณ์เสื่อมทรามลงทั่วทั้งประเทศ" สถาบันสาธารณสุขฟิโอครูซ (Fiocruz)กล่าว ก่อนเผยแพร่ตัวเลขล่าสุด "สถานการณ์กำลังน่ากังวล"
    ก่อนหน้านี้ สถิติพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่สูงสุดรอบ 24 ชั่วโมงในบราซิล เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร(2มี.ค.) ด้วยจำนวน 1,641 ราย
    ประเทศที่มีประชากร 212 ล้านคนแห่งนี้ ต้องเผชิญกับสัปดาห์ที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่มากที่สุด เฉลี่ยแล้ว 1,331 คนต่อวัน หลังประสบปัญหาในความพยายามควบคุมการพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มาตั้งแต่ช่วงต้น
    ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ต่อกรณีที่ดูเบาความรุนแรงของโรคระบาดใหญ่มาตลอด เพิกเฉยคำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เสนอให้ควบคุมโควิด-19 ด้วยมาตรการล็อกดาวน์และสวมหน้ากาก นอกจากนี้แล้วรัฐบาลของเขายังถูกตำหนิในวงกว้างเกี่ยวกับการลงมืออย่างล่าช้าในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน
    เวลานี้สถานการณ์ถูกซ้ำเติมจากเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น อันมีบ่อเกิดจากวันหยุดยาวและเทศกาลคาร์นิวัล ซึ่งประชาชนจำนวนมากเพิกเฉยคำสั่งยกเลิกกิจกรรมอย่างเป็นทางการต่างๆ หันมารวมตัวกันเป็นหมู่คณะและจัดปาร์ตีอย่างลับๆ
    พวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการอุบัติของตัวกลายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ P1 ในเมืองมาเนาส์ ก็เป็นอีกหนึ่งต้นตอของจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น โดยเวลาตัวกลายพันธุ์ดังกล่าวพบใน 17 รัฐจากทั้งหมด 27 รัฐของบราซิล และตรวจพบในชาติอื่้นๆอีกหลายสิบประเทศ
    ผลการศึกษาพบว่ามันแพร่กระจายเชื้อง่ายกว่าไวรัสตัวดั้งเดิมหลายเท่า และสามารถทำให้คนที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว กลับมาติดเชื้อได้อีก
    สถาบันฟิโอครูซระบุว่าแผนกไอซียูใน 19 รัฐของบราซิล เวลานี้แบกรับคนไข้เต็มความจุไปแล้วมากกวา 80% นั่นหมายความว่ารัฐต่างๆที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก หากต้องการส่งตัวคนไข้ไปยังรัฐอื่นๆที่อยู่ใกล้กัน
    ขณะเดียวกันโครงการฉีดวัคซีนของประเทศซึ่งเริ่มต้นค่อนข้างช้า ในช่วงกลางเดือนมกราคม ก็กำลังประสบกับปัญหาขาดแคลน
    จนถึงตอนนี้บราซิลใช้วัคซีนโคโรนาแวคที่พัฒนาโดยจีน และวัคซีนของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกับแอสตราเซเนกา ซึ่งทั้งสองต้องใช้ในปริมาณ 2 โดส
    บราซิลฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนไปแล้ว 7.1 ล้านคนและครบ 2 โดส 2.1 ล้านคน แต่ยังคงห่างไกลกับคำสัญญาของ เอดุอาร์โด ปาซูเอลโล รัฐมนตรีสาธารณสุข ซึ่งเคยประกาศว่าจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนภายในสิ้นปี
    "เรายังไม่พร้อม" อิสราเบลลา บัลลาไล จากสมาคมโรคภูมิแพ้และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งบราซิลกล่าว "นี่คือการคาดเดา เรารู้ว่ามีตัวกลายพันธุ์ใหม่และควรต้องล็อกดาวน์" เธอบอกกับเอเอฟพี
    ด้วยที่ไม่มีแนวทางตอบสนองระดับชาติจากรัฐบาลกลาง รัฐและเมืองต่างๆในบราซิลจึงมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่ไม่ประติดประต่อกัน ในนั้นรวมถึงรัฐเซาเปาลู ซึ่งมีประชากรราวๆ 46 ล้านคน
    "เรากำลังเผชิญกับ 2 สัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน" ชูอา โดเรีย ผู้ว่าการรัฐระบุ "เซาเปาลูและบราซิล กำลังอยู่บนขอบเเหวของการพังครืนของระบบสาธารณสุข"
    โดเรีย ซึ่งคาดหมายว่าจะลงท้าชิง โบลโซนารู ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 ยังได้ตำหนิคู่ปรับของเขาอย่างรุนแรง "มันคือความผิดพลาดของคุณ มันเป็นเพราะการปฏิเสธของคุณ" เขาพูดถึงโบลโซนาโรระหว่างแถลงข่าว "มีคนตายมากกว่า 1,000 คนในแต่ละวันในบราซิล มันราวกับเครื่องบิน 5 ลำตกใน 1 วัน ชาวบราซิลจำนวนมากต้องมาตาย เพราะว่าคุณไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ"
    (ที่มา:เอเอฟพี)



    Around the World
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบบนี้ก็ได้!?เผลอนอนหลับระหว่างไลฟ์สด เน็ตไอดอลสาวโกยเงินไม่รู้ตัว
    การนอนหลับเป็นกิจวัตรของทุกคน แต่ใครจะรู้ว่าในยุคปัจจุบันการนอนกลายเป็นเส้นทางอาชีพที่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพได้แล้ว หลังเน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวันคนหนึ่งโกยรายได้ราวๆ 2,000 บาทในคืนเดียว จากการที่เธอเผลองีบหลับระหว่างไลฟ์สด
    ตามรายงานข่าวของเว็บไซต์ไชนาโพสต์ ระบุว่าเน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวันคนหนึ่ง เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากบนสื่อสังคมออไลน์ หลังเธอเผลอหลับในขณะที่กล้องถ่ายทอดสดยังคงทำงานอยู่ และดูเหมือนว่าแค่ในคืนดังกล่าวคืนเดียว เธอสามารถทำเงินถึง 2,000 ดอลลาร์ไต้หวัน(ราว 2,180 บาท)
    รายงานข่าวระบุว่าเน็ตไอดอลสาวคนดังกล่าว Wang Yizhen เป็นอดีตสมาชิกวง AMOi-AMOi เกิร์ลกรุ๊ปในมาเลเซีย ซึ่งเพิ่งผันตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมไลฟ์สตรีมผ่าน Twitch เมื่อไม่นานมานี้
    หลังเข้าผันตัวสู่วงการไลฟ์สตรีมไม่นาน Wang Yizhen สร้างชื่อจากการที่เธอยอมรับว่าผ่านการทำศัลยกรรมตกแต่งมา ยิ่งนานวันเธอยิ่งมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากยกย่องเธอว่าเป็น "คนจริง" พูดตรงไปตรงมา
    อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ Wang Yizhen อึ้งหนักมากก็คือ เธอพบว่ามีผู้คนมากกว่า 11,000 คนที่เฝ้าดูเธอเผลองีบหลับในคืนเดียว มากกว่าการไลฟ์สดของเธอทุกครั้งที่ผ่านมาเสียอีก และมันทำเอาหลายคนพากันอิจฉาที่เธอสามารถทำเงินจากการทำเรื่องง่ายๆ นั่นคือการนอนหลับ
    ชมวิดีโอที่นี่ :

    https://mgronline.com/around/detail/9640000021042

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารข้ามเพศรายแรกของเกาหลีใต้ถูกพบเสียชีวิตปริศนาในบ้านพัก

    ทหารข้ามเพศเกาหลีใต้รายหนึ่ง ซึ่งถูกบีบให้ลาออกจากกองทัพ หลังเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเมื่อปีที่แล้ว ถูกพบเสียชีวิตในบ้านพัก ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮับในวันพุธ(3มี.ค.)

    หน่วยดับเพลิงพบศพของบยอนฮีซู ในบ้านพักขอเธอที่เมืองช็องจู ทางภาคใต้ของกรุงโซล หลังจากที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตรายหนึ่งโทรศัพท์ไปยังหน่วยฉุกเฉิน แจ้งว่าไม่ทราบข่าวคราวของเธอมาตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์

    ยอนฮับรายงานว่าตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนการตายของเธอ

    บยอน อดีตนายสิบในวัย 20 ปีเศษๆ สมัครใจเข้ารับราชการทหารในปี 2017 และเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศที่ประเทศไทยในปี 2019

    อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมพิจารณาว่า การสูญเสียอวัยวะเพศชาย เข้าข่าย 'พิการ' ทางร่างกาย และทางคณะกรรมการทหารชุดหนึ่ง ตัดสินในช่วงต้นปี 2020 ว่ามันทำให้เธอขาดคุณสมบัติในการเป็นทหาร และบังคับปลดประจำการ

    คำสั่งดังกล่าวสร้างความผิดหวังให้แก่บยอน ซึ่งยืนยันว่า เธอเป็นทหารคนหนึ่งของสาธารณรัฐเกาหลี และการเป็นทหารคือหนึ่งในความฝันวัยเด็กของเธอ แต่เธอต้องทรมานจากอาการซึมเศร้าเพราะอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองขัดแย้งกับเพศสภาพ จนนำไปสู่การผ่าตัดแปลงเพศในที่สุด

    "ขอให้มองข้ามอัตลักษณ์ทางเพศของฉันไป ฉันต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าฉันสามารถเป็นทหารที่ดีสุดคนหนึ่งที่จะปกป้องประเทศชาติได้ โปรดให้โอกาสนั้นแก่ฉันด้วย" บยอนฮีซูกล่าวในเวลานั้น พร้อมขอร้องให้กองทัพพิจารณาคุณสมบัติของเธอในฐานะ 'ทหารหญิง' คนหนึ่ง

    เกาหลีใต้ยังคงเป็นประเทศอนุรักษ์นิยมสุดขั้วในประเด็นทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ มีความอดทนกับสิทธิกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ น้อยกว่าชาติอื่นๆบางประเทศในเอเชีย ด้วยเกย์และคนข้ามเพศเกาหลีใต้จำนวนมาก ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การจับตามองเป็นส่วนใหญ่

    ทั้งนี้เกาหลีใต้มีทหารเกณฑ์ไว้เพื่อปกป้องตนเองจากการรุกรานของเกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง โดยชายทุกคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีหน้าที่ต้องรับราชการทหารเกือบๆ 2 ปี แต่ในกรณีของ บยอน ถือเป็นเคสทหารข้ามเพศรายแรกของประเทศ

    กลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางที่เกาหลีใต้ปฏิบัติกับบรรดาทหารเกย์ทั้งหลาย ซึ่งห้ามแสดงพฤติกรรมรักร่วมเพศและอาจติดคุกสูงสุด 2 ปีหากถูกจับได้ แม้ว่าพฤติกรรมต่างๆเหล่านั้นเป็นเรื่องถูกกฎหมายในวิถีชีวิตพลเรือนก็ตาม
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พม่ายักไหล่!UN-US-EUโวยเสียงแหบเสียงแห้ง สลายม็อบตายอีก38ศพ นองเลือดสุดตั้งแต่รัฐประหาร(ชมคลิป)
    ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 38 ราย ในเหตุการณ์ทหารพม่าสลายการชุมนุมในหลายเมืองในวันพุธ(3มี.ค.) ถือเป็นวันนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านรัฐประหารเมื่อเดือนที่แล้วปะทุขึ้น เรียกเสียงประณามอย่างดุเดือดอีกครั้งจากทั้งสหประชาชาติ สหรัฐฯและสหภาพยุโรป
    พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าตำรวจและทหารเปิดฉากสาดกระสุนจริงเข้าใส่ผู้ประท้วง โดยแทบไม่ส่งสัญญาณเตือนใดๆแม้แต่น้อย
    สถานการณ์นองเลือดเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากบรรดาชาติเพื่อบ้านเรียกร้องให้อดทนอดกลั้น หลังกองทัพโค่นอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนางอองซาน ซูจี
    หน่วยงานด้านความช่วยเหลือแห่งหนึ่ง เผยว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีเด็กรวมอยู่ด้วย 4 คน ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าพวกผู้ประท้วงถุกจับกุมไปหลายร้อยคน
    คริสติน ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการพม่าของสหประชาชาติ กล่าวในนิวยอร์กว่า "วันนี้ เป็นวันนองเลือดสุดนับตั้งรัฐประหารเกิดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เรามีวันนี้ วันนี้แค่วันเดียวมีคนตาย 38 ราย เวลานี้เรามีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 50 คน นับตั้งแต่รัฐประหารเริ่มต้นขึ้น และบาดเจ็บจำนวนมาก"
    ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ เผยต่อว่าระหว่างพูดคุยกับ พล.อ.อาวุโส โซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า เธอได้เตือนเขาว่ากองทัพอาจต้องเผชิญกับมาตรการหนักหน่วงจากบางประเทศ และถูกโดดเดี่ยว ในความเคลื่อนไหวตอบโต้การรัฐประหาร
    "แต่คำตอบคือ เราชินกับมาตรการคว่ำบาตรแล้ว และเราอยู่รอด" เธอเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังในนิวยอร์ก "ตอนที่ฉันเตือนว่าพวกเขาอาจถูกโดดเดี่ยวด้วย คำตอบคือ เราจำเป็นต้องเรียนรู้สำหรับการก้าวเดินโดยมีเพื่อนน้อยนิดอยู่เคียงข้าง"
    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำลังเปิดประชุมลับกันในวันศุกร์(5มี.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในพม่า
    โบ คยี เลขาธิการร่วมกลุ่มสิทธิมนุษยชน สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองของพม่า เปิดเผยในเบื้องต้นว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย แต่ตัวเลขเพิ่มเป็น 38 ศพในช่วงท้ายๆของวัน
    ในเมืองย่างกุ้ง พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย ในนั้น 7 คนตายระหว่างที่กองกำลังด้านความมั่นคงเปิดฉากรัวยิงเข้าใส่ย่านที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในบริเวณทางเหนือของเมืองในช่วงเย็น
    เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงกาารต่างประทศสหรัฐฯ กล่าวในวอชิงตัน ว่าสหรัฐฯตกใจกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในพม่า พร้อมบอกว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังประเมินมาตรการต่างๆอย่างเหมาะสมเพื่อตอบโต้ และบอกว่าความเคลื่อนไหวใดๆนั้นจะเล็งเป้าเล่นงานไปที่กองทัพพม่า
    นอกจากนี้แล้วโฆษกรายนี้ยังบอกด้วยว่าสหรัฐฯได้ส่งสารไปถึงจีน บอกกับพวกเขาว่าอเมริกากำลังรอคอยให้ปักกิ่งเข้ามามีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในพม่า
    ด้านสหภาพยุโรประบุว่าการยิงพลเรือนที่ไม่มีอาวุธและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ชัดเจนว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมบอกด้วยว่ากองทัพพม่ากำลังยกระดับปราบปรามสื่อมวลชน โดยพบเห็นผู้สื่อข่าวถูกจับและตั้งข้อหามากขึ้นเรื่อยๆ
    ที่เมืองโมนยวา ทางภาคกลาง มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ส่วนที่เหลือเสียชีวิตในมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของพม่า เมืองผะก่าน ทางภาคเหนือ และเมืองมยินจาน ทางภาคกลางของประเทศ
    องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) ระบุในถ้อยแถลงว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีเด็กรวมอยู่ด้วย 4 ราย ในนั้นรวมถึงเด็กชายวัย 14 ปี ที่ทางวิทยุเอเชียเสรี รายงานว่าถูกทหารนายหนึ่งยิงตาย ระหว่างเดินผ่านขบวนรถบรรทุกทหาร โดยจากนั้นทหารก็นำร่างของหนูน้อยขึ้นรถบรรทุก พาศพออกไปจากที่เกิดเหตุ
    สำนักข่าวเมียนมาร์นาว รายงานว่ากองกำลังด้านความมั่นคงเข้าสลายการชุมนุมในย่างกุ้ง ควบคุมตัวผู้ประท้วงไปราวๆ 300 ราย
    จากคลิปวิดีโอที่มีผู้โพสต์ทางสื่อสังคม แสดงให้เห็นคนหนุ่มๆ เรียงแถวกันโดยมือวางอยู่ที่ศีรษะ ถูกต้อนให้ขึ้นไปยังรถบรรทุกทหารหลายๆ คัน ขณะที่ตำรวจกับทหารยืนเฝ้ารักษาการณ์อยู่ ทั้งนี้รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่าคลิปวิดีโอนี้เป็นของจริงหรือไม่
    ขณะที่ คลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยวิทยุเอเชียเสรี ซึ่งได้ทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ แสดงให้เห็น ตำรวจในย่างกุ้งออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉิน 3 คนออกมาจากรถฉุกเฉินคันหนึ่ง, ยิงกระจกบังหน้าหน้า, แล้วจากนั้นก็เตะและตีเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วยพานท้ายปืนและไม้กระบอง
    เหตุการณ์รุนแรงนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จัดประชุมผ่านวิดีโอคอลล์และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าใช้ความอดกลั้น แต่มีสมาชิกเพียง 4 จาก 10 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ที่เรียกร้องให้ปล่อยตัวซูจีและคนอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวนับจากการรัฐประหาร
    ชมคลิปที่นี่: https://mgronline.com/around/detail/9640000021031

     

แชร์หน้านี้

Loading...