ติดตามสถานะการณ์

Mar 3 , 2021 กทม.ประกาศให้ครู-นักเรียน ในจ.สมุทรสาครมาเรียน-ทำงานได้ตามปกติ หลังโควิดคลี่คลาย แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค
.
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อํานวยการสํานักการศึกษา กทม. เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศ สํานักการศึกษา เรื่อง การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
.
ตามประกาศสํานักการศึกษา ลงวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา เรื่อง เปิดการเรียนการสอน ของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยให้โรงเรียนในสังกัด กทม.เปิดการเรียนการสอนตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.64 สําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครที่พักอาศัย อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ในส่วนของนักเรียน ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครที่ไม่สามารถมาเรียนได้ตามปกติ ให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์หรือรูปแบบที่เหมาะสม จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เข้าสู่ภาวะปกติ หรือจนกว่ามีประกาศเปลี่ยนแปลง นั้น
.
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ผ่อนคลายลงโดยลําดับ ประกอบกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ได้มีมติที่ประชุม ครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และนักเรียนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มาปฏิบัติงานและกลับมาเรียน ณ สถานศึกษาตามปกติ
.
อาศัยอํานาจตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาตรา 66 จึงให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครที่พัก อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครมาปฏิบัติงาน ณ สถานศึกษา และให้นักเรียนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัด สมุทรสาครกลับมาเรียนในชั้นเรียนตามปกติ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
.
ทั้งนี้ นักเรียนและครู โรงเรียนกทม.ที่พักอาศัยในเขตจ.สมุทรสาคร กลับมาเรียนและทำงานได้ตามปกติเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. นี้เป็นต้นไป โดยให้กลุ่มคนเหล่านี้ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด
.
#นักเรียน #ครู #โควิด #กทม #สมุทรสาคร #Misterban

 

Mar 3 , 2021 เล็งยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน !!เลขาฯสมช.คาดอีกประมาณ 2 – 3 เดือน จะกลับไปใช้กฎหมายปกติ เพราะสถานการณ์โควิดน่าจะดีขึ้น
.
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยถึงมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า เรื่องนี้ได้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะมีมาตรการบางอย่างซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่เราก็ต้องเตรียมแผนที่จะลดระดับลง อาจจะภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อที่จะใช้กฎหมายปกติ เพราะบางเรื่องยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอยู่ เพราะจากการสอบถามหลายคนก็บอกว่าแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่
.
เพราะปัจจุบันทางศบค. ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯเพียงเรื่องการป้องกันโรคติดต่อ จึงขอความเห็นใจและความกรุณาจากพี่น้องประชาชนว่า เรามีความจำเป็นและมีความปลอดภัย
.
โดยสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นที่ต้องดูแลอยู่ เช่น การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยทุกประเทศเรายังมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายนี้อยู่ แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วใช้กฎหมายปกติ อาจจะไม่สามารถทำได้อย่างในปัจจุบัน
.
ส่วนกรณีผ่อนปรนมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ตอนนี้รอด้านสาธารณสุขประเมินสถานการณ์ คาดว่ากลางเดือนมี.ค.นี้หากสถานการณ์ชัดเจนขึ้นจะมีการลดระดับลงไปอีก เพื่อเตรียมผ่อนคลายในช่วงสงกรานต์ และได้ประสานกระทรวงสาธารณะสุขเพื่อที่จะผ่อนคลายมาตรการกักตัวสำหรับคนที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย นี่เป็นสองเรื่องใหญ่ๆที่นายกฯสั่งการมายัง ศบค. และทาง ศบค. ชุดเล็กก็ต้องนำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ต้องการให้ผ่อนคลายเพื่อเป็นของขวัญกับคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์
.
หากไม่มีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เราก็จะค่อยค่อยดีขึ้น ตามสถานการณ์ที่กระทรวงสาธารณสุขควบคุมอยู่ใน ปัจจุบันนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดเว้นแต่จะมีสิ่งใดที่ไม่คาดคิด เช่น ในกรณีที่มีการปกปิดข้อมูล ที่ไม่ให้กับเจ้าหน้าที่ แต่ข้อมูลที่เปิดเผยในปัจจุบันนี้คาดว่าดีขึ้นเรื่อยๆ
.
#Covid #โควิด #สมช #พรกฉุกเฉิน #Misterban

 

Mar 3 ,2021 เมียนมาระอุ!! กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารเสียชีวิต10 ราย พร้อมมีนักข่าวถูกยัดข้อหาแพร่ข่าวปลอม
.
เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์มิคสัญญีทางการเมืองในประเทศพม่า หลังประชาชนทั่วประเทศลุกฮือขึ้นต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพ นำไปสู่การปราบปรามด้วยกระสุนจริงมีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 ราย ล่าสุดเพิ่งมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 10 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเสียชีวิต ทั้งที่เมืองสะกาย เมืองมัณฑะเลย์ และอีกหลายเมือง
.
ขณะเดียวกันกองทัพพม่าตั้งข้อหาผู้สื่อข่าว 6 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้สื่อข่าวสังกัดสำนักข่าวเอพี สหรัฐอเมริกา เนื่องจากทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการชุมนุมของชาวพม่า ต่อมาทราบชื่อว่า นายเทียน ซอ อายุ 32 ปี ที่จับกุมที่นครย่างกุ้ง
.
นายทิน ซาร์ โอ ทนายความของนายเทียน ระบุว่า ลูกความของตนและผู้สื่อข่าวท้องถิ่นอีก 5 คน ถูกกองทัพพม่าจับกุมและตั้งข้อหา สร้างความตื่นกลัว เผยแพร่ข่าวปลอม และสร้างความสับสนให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หากพบว่ามีความผิดจริงจะต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 2-3 ปี แต่ทนายความยืนยันว่า นายเทียนเพียงทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวรายงานอย่างตรงไปตรงมาตามเสรีภาพสื่อมวลชน ไม่ได้เข้าร่วมการประท้วง เป็นการทำงานตามปกติ ล่าสุด ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำนครย่างกุ้งพร้อมเพื่อนนักข่าวที่ถูกจับ ส่วนผู้สื่อข่าวอีก 5 คน ที่ถูกจับกุมนั้นสังกัดสื่อท้องถิ่น ได้แก่ เมียนมาร์นาว เมียนมาร์โฟโต้ เอเยนซี่ 7 เดส์นิวส์ ซี และซีเจ็ต ออนไลน์ รวมทั้งนักข่าวฟรีแลนซ์
.
นายเอียน ฟิลิปส์ รองประธานฝ่ายข่าวต่างประเทศของเอพี กล่าวเรียกร้องให้ทางการพม่าปล่อยตัวนายเทียนทันที ว่า ผู้สื่อข่าวต่างชาติจำเป็นต้องทำงานได้อย่างเสรีและปลอดภัยโดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อการถูกลงโทษ และ เอพีขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการควบคุมตัวนายเทียนอย่างไม่ถูกต้อง
.
โดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ระบุว่า มีผู้ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 1,200 คน ในการประท้วงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 ก.พ. แต่ตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านี้ ในจำนวนนี้ มีนักข่าวด้วย 34 คน แต่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 15 คน
.
#เมียนมา #ประท้วง #Misterban #รัฐประหาร #

 

Mar 3 , 2021 สสส.เผยคนไทยอ้วนลงพุงกว่า 20 ล้านคน เสี่ยงป่วยโรค NCDs
.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ เครือข่ายคนไทยไร้พุง จัดเสวนาถอดบทเรียนสถานการณ์โรคอ้วนในประเทศไทย เนื่องใน “วันอ้วนโลก” (World Obesity Day) เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงภัยเงียบที่แฝงมากับพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสมจนน้ำหนักเกินและเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ (NCDs :non-communicable diseases)
.
พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันพบคนอ้วนมากกว่า 800 ล้านคนกระจายอยู่ทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่าเป็นปัญหาทางสุขภาพสำคัญที่มองข้ามไม่ได้และในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยพบเด็กและผู้ใหญ่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานจำนวนมาก จากการบริโภคเกินความจำเป็น ไม่ถูกหลักโภชนาการ โดยตั้งแต่ปี 2557 ได้พบคนไทย 19.3 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.1 มีภาวะอ้วน และมีคนไทยที่รอบเอวเกินอ้วนลงพุง กว่า 20.8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 37.5 ทั้ง 2 กลุ่ม เสี่ยงป่วยเป็นโรค NCDs
.
สหพันธ์โรคอ้วนโลก ได้มีเป้าหมายให้ทุกคนเห็นว่าความอ้วน คือ จุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ไม่ดี ส่งผลต่อสมรรถภาพการทำงาน คุณภาพการนอน การใช้ชีวิตในสังคม ความกังวลในรูปลักษณ์ของตนเอง เกิดปมด้อย อาจมีปัญหาสุขภาพจิต เครียด ซึมเศร้า หากทุกคนรู้วิธีป้องกันและดูแลเรื่องอาหารและมีกิจกรรมทางกาย จะช่วยลดความเสี่ยงได้ อย่างเช่นการใช้ชีวิตประจำวัน จากการกินอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ บริโภคหวาน มัน เค็มมากเกินไป ใช้ชีวิตไม่สมดุล ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ มีส่วนทำให้น้ำหนักตัวเกินและส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น สำหรับโรคอ้วนจากพันธุกรรม ในทางการแพทย์พบว่าอยู่ในกลุ่มคนส่วนน้อย
.
โดยสิ่งที่ดีที่สุด คือ กินผัก-ผลไม้ให้ได้วันละ 400 กรัม มีกิจกรรมทางกาย เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้ร่างกาย เช่นกิจกรรมที่มีการใช้พลังงานในทุกรูปแบบ “ทุกขยับนับหมด” จึงสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องรอเฉพาะเมื่อมีเวลาออกกำลังกาย จึงแนะนำให้คนอ้วนที่เริ่มลดน้ำหนักเริ่มต้นด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น อาจเริ่มเดินให้ครบ 8,000-10,000 ก้าวต่อวัน ปรับวิถีชีวิตให้สามารถมีกิจกรรมทางกายได้จนเป็นนิสัย เพราะความอ้วนเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคปอดเรื้อรัง โรคเบาหวาน และโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น ไตวาย เก๊าท์ ตับแข็ง ฯ หากสังคมสานพลังรักสุขภาพจะช่วยหยุดปัญหาเหล่านี้ได้
.
ทางด้าน รศ.พญ.พิมพ์ใจ อันทานนท์ กรรมการสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่า ผู้ป่วยโรคอ้วนเสี่ยงติดโควิด-19 มากกว่าคนปกติ แต่ผู้ป่วยโรคอ้วนจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ ถ้าติดโควิด-19 อาจจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตง่ายกว่าคนที่สุขภาพแข็งแรง ทำให้จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อรุนแรงกลุ่มแรก ๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรค NCDs
.
#อ้วน #ลงพุง #Misterban

https://www.facebook.com/245810719388335/posts/727038891265513/

 

ผวา! เกาหลีใต้พบผู้สูงอายุ 2 ราย ‘เสียชีวิต’ หลังฉีดวัคซีน ‘แอสตราเซเนกา’
.
ทางการเกาหลีใต้กำลังเร่งสอบสวนข้อเท็จจริง หลังสื่อมวลชนรายงานว่ามีผู้สูงอายุ 2 คนเสียชีวิตหลังจากเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของอ็อกซ์ฟอร์ด/แอสตราเซเนกาได้เพียงไม่กี่วัน
.
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า ผู้สูงอายุวัย 63 ปี ในสถานสงเคราะห์ซึ่งป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง (celebrovascular disease) เริ่มมีอาการป่วยและมีไข้สูง หลังจากที่ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา จนต้องมีการนำส่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่เมื่อวานนี้ (2) แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิตลงด้วยภาวะเลือดเป็นพิษ (blood-poisoning) และปอดบวม
.
ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยอีกรายที่อายุ 50 ปีเศษ และมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจและเบาหวานอยู่ก่อนแล้ว ก็เสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลันในวันนี้ (3) หลังจากที่ฉีดวัคซีนไปได้เพียงวันเดียว
.
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KDCA) ยืนยันกับรอยเตอร์ว่ากำลังมีการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตทั้ง 2 กรณี แต่ขอปฏิเสธที่จะชี้แจงหรือยืนยันรายงานของยอนฮัป
.
ด้านโฆษกหญิงของแอสตราเซเนกาที่กรุงโซลก็ระบุว่า ทางบริษัทยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ
.
รัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจากข้อมูลในช่วงเที่ยงคืนวันอังคาร (2) พบว่ามีพลเมืองโสมขาวฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาโดสแรกไปแล้วทั้งสิ้น 85,904 ราย และอีก 1,524 รายได้รับวัคซีนของไฟเซอร์
.
เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รวมทั้งสิ้น 444 รายเมื่อวานนี้ (2) เพิ่มขึ้นจากสถิติ 344 รายเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเพิ่มมาอยู่ที่ 90,816 ราย เสียชีวิต 1,612 ราย
.
ที่มา: รอยเตอร์

 

มั่นใจเอาอยู่! ‘เทกซัส’ เลิกบังคับสวมหน้ากากอนามัยกันโควิด-19
.
เกร็ก แอบบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเพื่อป้องกันโควิด-19 และอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดเต็มรูปแบบในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางคำเตือนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ห้ามผู้คนการ์ดตกแม้จะเริ่มมีวัคซีนใช้แล้วก็ตาม
.
คำสั่งบริหารของ แอบบ็อตต์ มีขึ้นในขณะที่หลายรัฐและเมืองใหญ่ๆ ทั่วอเมริกามีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่และคนป่วยเข้าโรงพยาบาลลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้หน่วยงานท้องถิ่นเริ่มที่จะผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
.
“ถึงเวลาแล้วที่เทกซัสจะเปิด 100%” แอบบ็อตต์ แถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่าคำสั่งดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 10 มี.ค.
.
ผู้ว่าฯ สายรีพับลิกันรายนี้ยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัย และห้ามหน่วยงานท้องถิ่นลงโทษประชาชนที่ไม่สวมหน้ากาก นอกจากนี้ยังปลดล็อกข้อจำกัดสำหรับภาคธุรกิจในหลายเทศมณฑลที่มีจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลค่อนข้างน้อย
.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงสามารถบังคับใช้ข้อจำกัดต่อภาคธุรกิจในพื้นที่ซึ่งมีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก แต่ห้ามมิให้บังคับดำเนินกิจการต่ำกว่า 50% ของศักยภาพที่ทำได้ในทุกกรณี
.
แอบบ็อตต์ ชี้แจงว่า สาเหตุที่ตัดสินใจยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ก็เนื่องจากเทกซัสซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากร 29 ล้านคน มากเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนให้พลเมืองไปแล้วเกือบ 5.7 ล้านโดส และคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุทุกคนที่ต้องการภายในสิ้นเดือน มี.ค.
.
อย่างไรก็ดี คำสั่งของผู้ว่าฯ เทกซัสดูจะสวนทางกับนโยบายของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสายเดโมแครต ที่ยังคงเรียกร้องให้ชาวอเมริกันปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองจากโควิด-19 ต่อไป จนกว่าโครงการฉีดวัคซีนจะเริ่มเห็นผลในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
.
ระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำเตือนว่า “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะผ่อนปรน” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของผู้ว่าฯ เทกซัส เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อตรงๆ เท่านั้น
.
“ผมได้ขอร้องให้ทุกคนในประเทศนี้สวมหน้ากากอนามัยในช่วง 100 วันแรกที่ผมเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะการ์ดตก เรายังมีชีวิตผู้คนเป็นเดิมพัน” ไบเดน กล่าว
.
แอนดี สลาวิตต์ ที่ปรึกษาด้านโควิด-19 ของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า “ผมหวังว่าท่านผู้ว่าฯ (เทกซัส) จะคิดทบทวนดูใหม่ มันก็แค่ผ้าผืนเล็กๆ เท่านั้นที่จำเป็น ผมไม่คิดว่ามันจะกระทบเศรษฐกิจในรัฐของท่านสักเท่าไหร่หรอก”
.
จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันอังคาร (2) พบว่า 35 รัฐในอเมริกา ตลอดจนวอชิงตัน ดี.ซี. และเครือรัฐเปอร์โตริโก ยังคงมีมาตรการบังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ในขณะที่มิสซิสซิปปีเป็นอีกหนึ่งรัฐที่ได้ยกเลิกคำสั่งนี้แล้ว
.
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีชาวอเมริกันกว่า 51 ล้านคนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดส ซึ่งคิดเป็นเพียง 15% ของประชากรทั้งหมด
.
ที่มา: รอยเตอร์

 

ผู้ชุมนุมพม่าไม่หวั่นลูกกระสุน ลงถนนประท้วงไม่หยุด อดีตปธน.วิน มี้น โดนยัดข้อหาเพิ่มอีก 2
.
.
.
รอยเตอร์ - การชุมนุมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในพม่าไม่มีสัญญาณว่าจะลดน้อยลง ด้วยประชาชนยังคงจัดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศในวันนี้ (3) ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พยายามแสวงหาฉันทามติในความพยายามของพวกเขาที่จะยุติวิกฤตของพม่าที่ยาวนานนับเดือน
.
กองกำลังความมั่นคงของพม่ายิงปืนขึ้นฟ้าเตือนผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันในนครย่างกุ้งในเช้าวันนี้ ตามการรายงานของนักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์
.
ด้านนักเคลื่อนไหวในรัฐชินระบุว่ามีการนัดหยุดงานเกิดขึ้นในเกือบทุกเมืองของรัฐ ส่วนกลุ่มที่ติดตามการจับกุมตัว คาดการณ์ว่าน่าจะมีประชาชนหลายสิบคนถูกควบคุมตัวเมื่อวันอังคาร ซึ่งรวมถึงผู้จัดการชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้ปืนจี้พาตัวขึ้นรถ
.
ประธานาธิบดีวิน มี้น ที่ถูกทหารปลดออกจากตำแหน่ง ถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหา ตามการเปิดเผยของขิ่น หม่อง ซอ ทนายความ ที่รวมถึงข้อหาฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีโทษจำคุกสุงสุด 3 ปี
.
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ไม่สามารถสร้างการพัฒนาใดๆ ในการประชุมทางไกลของรัฐมนตรีต่างประเทศเกี่ยวกับพม่าวานนี้ ซึ่งพวกเขาเรียกร้องการอดกลั้น และมีเพียง 4 ประเทศสมาชิก คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ที่เรียกร้องการปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัว รวมทั้งอองซานซูจี
.
“เราแสดงความพร้อมของอาเซียนที่จะช่วยเหลือพม่าในวิถีทางที่สร้างสรรค์และสันติ” คำแถลงของบรูไนที่เป็นประธานอาเซียน กล่าว
.
สื่อทางการของพม่ารายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศที่ทหารแต่งตั้งขึ้น ได้เข้าร่วมการประชุมอาเซียนที่แลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ แต่ไม่ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเจรจา รายงานยังกล่าวว่า วันนา หม่อง ละวิน ได้แจ้งที่ประชุมเรื่องความผิดปกติของการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.
.
ทหารได้ให้เหตุผลต่อการก่อรัฐประหารว่า ข้อร้องเรียนของพวกเขาเกี่ยวกับการโกงการเลือกตั้งถูกเพิกเฉย ซึ่งพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ได้กล่าวว่าการแทรกแซงดังกล่าวเป็นการปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ และได้ให้คำมั่นที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลา
.
นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน ที่นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ กล่าวว่า เป็นการก้าวถอยที่น่าเศร้าสำหรับพม่า
.
รายงานข่าวค่ำทางสถานีโทรทัศน์ของทางการพม่าวานนี้ระบุว่า ผู้ปลุกปั่นกำลังระดมผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์และตั้งองค์กรผิดกฎหมาย รายงานยังระบุว่ามีการใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสงสลายฝูงชนในย่างกุ้ง โดยมีผู้ก่อความไม่สงบถูกจับกุมตัว 12 คน
.
ในตอนกลางคืน ประชาชนออกมาที่ระเบียงและร้องตะโกนคำต่อต้านทหาร และกล่าวคำว่า “การปฏิวัติต้องประสบความสำเร็จ” ขณะที่คนอื่นๆ ตีหม้อเคาะกะทะส่งเสียงดังที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้าน
.
ซูจี อายุ 75 ปี ถูกควบคุมตัวโดยไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ ได้ปรากฎตัวในการไต่สวนของศาลผ่านทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์สัปดาห์นี้ ตามการเปิดเผยของทนายความ และระบุว่าซูจียังดูแข็งแรงดี
.
ซูจีเป็นหนึ่งในประชาชน 1,300 คนที่ถูกควบคุมตัว ตามการรายงานของนักเคลื่อนไหว และจากจำนวนดังกล่าวเป็นนักข่าวในย่างกุ้งถึง 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นทำงานให้กับสำนักข่าวเอพี
.
ผู้แทนของพม่าประจำสหประชาชาติที่ได้รับการแต่งตั้งจากซูจี ได้ประณามการรัฐประหารเมื่อสัปดาห์ก่อน และหลังจากนั้น รัฐบาลทหารได้ประกาศว่าเขาถูกไล่ออก แต่เขายังคงอ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้แทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย
.
การประชุมอาเซียนเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายในพม่า ด้วยความกังวลว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหาร และไม่ช่วยประเทศ
.
รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเรียกร้องพม่าให้เปิดประตูให้กับความพยายามของอาเซียนที่จะช่วยคลี่คลายความตึงเครียด ขณะที่รัฐมนตรีฟิลิปปินส์เรียกร้องให้พม่ากลับคืนสู่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสะท้อนจุดยืนของประเทศตะวันตกส่วนใหญ่.
.
.
https://mgronline.com/indochina/detail/9640000020729

 

“คนเอเชีย” ตกเป็นเป้าเกลียดชังพุ่ง 150% ตามเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ
.
.
.
.
เอเจนซีส์ – การวิเคราะห์ล่าสุดที่มาจากสถิติของสำนักงานตำรวจสหรัฐฯชี้ คนเอเชียในสหรัฐฯตกเป็นเป้าถูกทำร้ายเพิ่มขึ้นถึง 150% ตามเมืองใหญ่ทั่วอเมริกา แนวโน้มกระแสความรุนแรงจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในปีนี้
.
VOA สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(2 มี.ค)ว่า ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ดูเหมือนคดีความเกลียดชังที่มาจากความแตกต่างทางเชื้อชาติต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2021
.
พบว่า มีทั้งหมด 122 คดีเกี่ยวข้องกับการต่อต้านคนเอเชียใน 16 เมืองใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นประจำปี 2020 เป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 150% จากปีก่อนหน้า อ้างอิงข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยศูนย์การศึกษาความเกลียดชังและความรุนแรงสุดโต่งประจำมหาวิทยาลัยสเตทแคลิฟอร์เนีย (California State University) ซึ่งทางศูนย์ได้แชร์ข้อมูลให้กับ VOA ซึ่งในส่วนของทาง VOA พบว่าได้ทำการวิจัยข้อมูลของตัวเองใน 2 เมืองเช่นกัน
.
ซึ่งตัวแทนความเคลื่อนไหวปกป้องสิทธิคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียออกมาชี้ว่า เหตุของกระแสความเกลียดชังคนเอเชียเพิ่มมากขึ้นเป็นผลมาจากคำยุยงของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ที่กล่าวหาว่า "จีน" เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคโควิด-19 ส่งผลทำให้ชาวเอเชียในสหรัฐฯกลายเป็นแพะบูชายันต์จากความหงุดหงิดของผู้คนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม
.
คริส กวอก (Chris Kwok) สมาชิกบอร์ดสมาพันธ์วิชาชีพทนายความเอเชียนอเมริกันแห่งนิวยอร์ก AABANY (Asian American Bar Association of New York)แสดงความคิดเห็นว่า “ผมคิดว่าผู้นำทางการเมืองภายใต้ทรัมป์นั้นเป็นเหมือนเอาเป้าวางอยู่บนหลังของผู้คนที่ถูกมองว่าเป็นคนจีน”
.
คดีความเกลียดชังต่อคนเอเชียเกิดขึ้นสูงสุดในเมืองนิวยอร์กซึ่งเป็นเมืองที่มีชาวเอเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ตำรวจนิวยอร์กทำการสอบสวน 28 คดีที่มีคนเอเชียตกเป็นเหยื่อ เพิ่มมากกว่า 9 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2019
.
และนอกจากนี้พบว่าในอีก 4 เมืองยังมีรายงานการเพิ่มเป็นตัวเลข 3 หลักของอาชญากรรมต่อต้านคนเอเชียได้แก่ เมืองฟิลาเดลเฟียและเมืองคลิฟแลนด์ต่างมีคดีต่อต้านชาวเอเชีย 6 คดีเท่ากัน เพิ่มขึ้นมาจาก 2 คดีในปี 2019 เมืองซานโฮเซเห็นคดีต่อต้านคนเอเชีย 10 คดีเพิ่มจาก 4 คดี ในขณะที่เมืองลอสแอนเจลีมีคดีความเกลียดชัง 15 คดีเพิ่มขึ้นจาก 7 คดีปีก่อนหน้า
.
ไบรอัน เลวิน (Brian Levin) ผู้อำนวยการบริหารศูนย์วิจัยความเกลียดชังและความรุนแรงสุดโต่งแสดงความเห็นว่า “ขณะที่เมืองส่วนใหญ่ต่างเห็นคดีความเกลียดชังลดลง รวมไปถึงการโจมตีต่อกลุ่มที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เช่นกลุ่มชาวยิว แต่ทว่าการโจมตีต่อคนเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเมืองส่วนใหญ่ และมีการลดลงเพียงแค่เมืองเดียวนั่นคือ "กรุงวอชิงตัน ดีซี”
.
ทั้งนี้กลุ่มเคลื่อนไหวปกป้องชาวเอเชียในสหรัฐฯได้ร่วมกันตั้ง Stop AAPI Hate ซึ่งตรวจจับคดีการทำร้ายที่มีชาวเอเชียตกเป็นเป้า ได้บันทึกคดีไม่ต่ำกว่า 2,800 คดีระหว่างช่วงมีนาคมไปจนถึงธันวาคมปี 2020 ส่วนการแสดงความเกลียดชังทางคำพูดและการแสดงการไม่ยอมรับทางสังคมนั้นเกิดขึ้นสูงถึง 90% ของคดีเหล่านี้ ส่วนการทำร้ายร่างกายคิดเป็นเกือบ 9%
.
และยังพบว่าเหยื่อจำนวนมากไม่ได้เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน “ชาวเอเชียตะวันออกที่ดูเหมือนเป็นชาวจีนต่างเคยประสบต่อสิ่งนี้ และทำให้ย้อนหลังไปถึงประวัติศาสตร์การต่อต้านและกีดกันคนเอเชียในประเทศนี้” กวอกกล่าว
.
รายงานของ Stop AAPI Hate ถูกเผยแพร่ออกมาต่อสาธารณะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ได้ชี้ให้เห็นว่า มีคดีต่อต้านคนเอเชียจำนวน 126 คดีเกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และมีเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งรวมไปถึงคุณวิชา รัตนภักดี คนไทยวัย 84 ปีที่ถูกวัยรุ่นชายผิวสีวิ่งเข้าผลักจนล้มและเสียชีวิต
.
และคดีล่าสุดสะเทือนขวัญไปทั่วนิวยอร์ก ซิตี เมื่อชายชาวบรุคลินวัย 23 ปี ซาลมาน มูฟลีฮี(Salman Muflihi) ถูกจับกุมสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังใช้มีดยาว 8 นิ้วแทงชายชาวเอเชียวัย 36 ปีที่ไชน่าทาวน์ระหว่างที่ชายชาวเอเชียกำลังเดินอยู่บนฟุตบาท เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.20 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 25 ก.พ โดยทางมูฟลีฮีที่ตามรายงานของ NBC News วันที่ 28 ก.พ ไม่ได้ระบุว่าเขามีเชื้อชาติใดยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ใช้มีดทำร้ายเหยื่อเพราะไม่ชอบสายตาที่ชายผู้นี้มองมาที่เขา และกล่าวต่อว่า “ผมแทงชายคนนั้น ถ้าหากเขาตาย เขาก็ตาย ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น”
.
VOA กล่าวว่า มูฟลีฮีถูกตั้งข้อหา 1 กระทงคดีพยายามฆ่านอกเหนือจากข้อหาอื่น แต่เขากลับไม่ถูกตั้งข้อหาคดีอาชญากรรมด้านความเกลียดชัง ซึ่งหากเขาถูกตั้งข้อหาคดีความเกลียดชัง มูฟลีฮีจะต้องอยู่ในเรือนจำนานขึ้น แต่ทางสำนักงานอัยการเขตแมนแฮตตันชี้ว่า อาจมีการตั้งข้อหาแก่มูฟลีฮีเพิ่มเติมในภายหลัง
.
ทั้งนี้โดยภาพรวมแล้วคดีอาชญากรรมด้านความเกลียดชังลดลงโดยเฉลี่ย 7% ใน 15 เมือง ติดตามโดยศูนย์ศึกษาความเกลียดชังและความรุนแรงสุดโต่ง เป็นต้นว่าที่เมืองนิวยอร์ก ตำรวจสอบสวนคดี 285 คดีต่ำจาก 428 คดีของปีก่อนหน้า
.
และจากทั้งหมด 5 เมืองที่มีรายงานการเพิ่มขึ้นของคดีความเกลียดชัง พบว่ามี 2 เมืองอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียรวมไปถึงเมืองซานโฮเซ ที่เห็นการเพิ่มขึ้นถึง 162% เป็นต้น

 

วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าล็อตแรกกว่า 300,000 โดส จาก COVAX ถึงกัมพูชาแล้ว
.
.
.
เอเคพี - เที่ยวบินพิเศษพร้อมวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 324,000 โดส จากสถาบันเซรุ่มอินเดีย เดินทางถึงสนามบินนานาชาติกรุงพนมเปญค่ำวานนี้ (2) โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเป็นตัวแทนของรัฐบาลกัมพูชาเข้ารับมอบวัคซีน พร้อมกับผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และผู้แทนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา (UNICEF)
.
ในพิธีรับมอบที่จัดขึ้นยังสนามบินในกรุงพนมเปญ ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนจากกระทรวงสาธารณสุข WHO UNICEF รวมทั้งเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำกัมพูชา เข้าร่วมในพิธีด้วย
.
นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าเขาจะเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในวันที่ 4 มี.ค. ที่โรงพยาบาล Calmette พร้อมกับจัดการแถลงข่าว
.
ตามการระบุของผู้นำเขมร วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในอินเดีย 324,000 โดสนี้ เป็นวัคซีนล็อตแรกจากทั้งหมด 1,104,000 โดส ที่กัมพูชาต้องได้รับในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ที่เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือเบื้องต้นจากโครงการโคแว็กซ์
.
โคแว็กซ์จะจัดหาวัคซีนให้กัมพูชาครอบคลุมประชากร 20% ของประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน ซึ่งเทียบเท่ากับประชากร 3.2 ล้านคน หรือวัคซีน 6.4 ล้านโดส
.
“นี่เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างประเทศที่กัมพูชาได้ดำเนินการกับหุ้นส่วนพหุภาคีและสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง WHO และ UNICEF กัมพูชาขอขอบคุณทุกประเทศ บริษัทต่างๆ และผู้มีจิตกุศลทั่วโลกที่สนับสนุนเราผ่านโคแว็กซ์” ผู้นำเขมร ระบุ
.
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. กัมพูชาได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มที่ได้รับบริจาคจากจีนจำนวน 600,000 โดส โดยทางการได้จัดสรรวัคซีนให้แก่กระรวงสาธารณสุข 300,000 โดส และที่เหลือได้มอบให้แก่กระทรวงกลาโหม.
.
.
https://mgronline.com/indochina/detail/9640000020769

 

ประชาชนในจ.เชียงใหม่ ต้องได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ หมอกควันจากการเผาป่าปกคลุมหนาทึบไปทั่วทั้งเมือง ทัศนวิสัยการมองเห็นตามท้องถนนลดลง คุณภาพอากาศอยู่ในขั้นวิกฤตหนักสุดในรอบสัปดาห์

โดยในเวลา 12.00 น. ค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 รายชั่วโมง บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ที่ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่เหลืออีก 3 สถานีตรวจวัดในเขตตัวเมือง เกินค่ามาตรฐานทุกจุดเฉลี่ยที่ 80 – 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขณะที่ในเวลาเวปไซต์ AirVisual รายงานคุณภาพอากาศในเวลา 11.00 น. จังหวัดเชียงใหม่มีอากาศย่ำแย่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก

ด้านสถานการณ์ไฟป่า 17 จังหวัดภาคเหนือ เช้าวันนี้พบจุดความร้อนจำนวน 928 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จำนวน 555 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 350 จุด

#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

https://www.facebook.com/188107458258082/posts/1270484456687038/

 

กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ "Patong-Baywatch-พิทักษ์หาดป่าตองหาดป่าตอง" ได้โพสต์ภาพเม่นทะเลสีแดง ถูกคลื่นซัดขึ้นมา เกยชายหาดป่าตอง จำนวนหลายร้อยตัว ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในสื่อสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ผิดธรรมชาติของสัตว์ทะเลชนิดนี้ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปมุงดูจำนวนมาก ด้วยความสงสัยและสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก หลายคนบอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้ และคิดว่าเม่นชนิดนี้น่าจะเป็นอันตราย ถ้าไปถูกหนามของมัน รวมทั้งในน้ำยังคงมีเม่นหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก และจากการสอบถามจากชาวบ้านที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับทะเล ระบุว่าเม่นชนิดนี้เป็นเม่นที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกไม่ค่อยพบเห็นใกล้ชายหาด

ล่าสุด เพจของกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึงสาเหตุที่เม่นทะเลขึ้นมาเกยตื้นว่า “เม่นทะเลนะ ไม่ใช่ใครทำเงาะหล่น พบเกลื่อนหาดป่าตอง” ผลการตรวจสอบพบว่าเป็น เม่นทะเลขนาดลำตัว 8-15 เซนติเมตร ไม่รวมหนาม

จากการประสานผู้เชี่ยวชาญด้านอนุกรมวิธานเม่นทะเล ทราบว่า เม่นดังกล่าว เป็นเม่นทะเลสีแดงจุดฟ้า ที่หากิน เป็นกลุ่มตามพื้นท้องทะเล เป็นเสมือนพนักงานทำความสะอาดในระบบนิเวศ นักวิชาการของศูนย์วิจัยฯ

ส่วนสาเหตุที่พบเม่นทะเลจำนวนมากขึ้นมาเกยตื้นที่หาด ป่าตอง สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากถูกคลื่นซัดเข้ามาใกล้ฝั่ง และมีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลระหว่างช่วงน้ำขึ้นและช่วงน้ำลงมาก เมื่อน้ำลงจึงทำให้เม่นทะเลไม่สามารถ ลงตามน้ำไปได้ทัน จึงพบเกยตื้นบริเวณชายหาดดังกล่าว

#เม่นสีแดง #ภูเก็ต #ป่าตอง
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

พบ “วาฬบรูด้า” แม่ลูกแหวกว่ายหากิน บ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์หมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
.
จากกรณีที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบวาฬบรูด้า จำนวน 2 ตัว ในพื้นที่อุทยานฯ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบกับฐานข้อมูลการจำแนกประชากรวาฬบรูด้าในอ่าวไทย โดยใช้ภาพถ่าย (Photo Identification) ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
.
ล่าสุดวันนี้ (3 มี.ค. 2564) ซึ่งเป็น “วันสัตว์ป่า พืชป่าโลก” ได้รับข่าวดีว่าจากการเปรียบเทียบอัตลักษณ์โดยเฉพาะลักษณะครีบหลัง ปรากฎว่าตรงกับ “แม่วันดี” ซึ่งออกหากินคู่กับลูกน้อยตัวที่ 3 ที่มีชื่อว่า "เจ้าวันหยุด" ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าระบบนิเวศทางทะเลของพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีความสมบูรณ์ เนื่องจากโดยส่วนใหญ่จะพบวาฬบรูด้าออกหากินอยู่บริเวณทะเลอ่าวไทยตอนบนแถบ จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี แต่ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ได้พบวาฬบรูด้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
.
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
#วาฬบรูด้า#วันสัตว์ป่าพืชป่าโลก #อุทยานแห่งชาติ #หมู่เกาะอ่างทอง

https://www.facebook.com/188107458258082/posts/1270504313351719/

 

สายการบินแควนตัส ของออสเตรเลีย ออกแพ็กเกจพาทัวร์ "เที่ยวบินปริศนา" 1 วันเต็ม โดยที่ผู้โดยสารจะไม่รู้เลยว่าสายการบินจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง โดยทริป "เที่ยวบินปริศนา" จะใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 ให้บริการออกบินจาก 3 เมืองคือ บริสเบน , เมลเบิร์น และ ซิดนีย์ นักท่องเที่ยวท่านใดที่จองทริป หากเลือกบินออกจากสนามบินเมืองใด จะต้องลงเครื่องจบทริปที่เมืองนั้น แพ็กเกจเที่ยว 1 วันเต็มแบบปริศนานี้ รวมค่าใช้จ่ายกิจกรรมต่างๆ อาทิ ไปเยือนโรงบ่มไวน์พร้อมรับประทานอาหารกลางวันสุดอร่อย ไปจนถึงได้ดำน้ำบนเกาะด้วย สนนราคาแพ็กเกจเที่ยวบินปริศนา ที่นั่งชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 737 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 17,500 บาท

สายการบินเชื่อว่า แพ็กเกจทัวร์เช่นนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศยุคโควิด เนื่องจากคาดว่า การเดินทางระหว่างประเทศจะไม่กลับสู่ภาวะปกติจนกระทั่งปีหน้า

อย่างไรก็ตาม สายการบินแควนตัสเคยออกแพ็กเกจเที่ยวบินปริศนา 1 วัน เช่นนี้มาแล้วในอดีต ราวปี 2533 และได้รับความนิยมจากผู้โดยสารเป็นอย่างดี

#ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
#การท่องเที่ยว #ออสเตรเลีย #สายการบิน #โควิด #โควิด19 #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ

 

4 แสนน้อยไป ต้อง 4 ล้าน

สิทธิ ‘บัตรทอง-ประกันสังคม’ แพ้วัคซีนโควิดรักษาฟรี เสียชีวิตได้ 4 แสน ด้าน คปภ. แนะซื้อประกันคุ้มครองสูงสุด 1 ล้าน
.
จากการที่วัคซีนป้องกันโควิด19 มาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา และจะมีการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งปรากฏว่าขณะนี้พบผู้มีอาการแพ้วัคซีนทั้งหมด 20 ราย ในจำนวนนี้มีผู้แพ้รุนแรง 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ใน จ.สมุทรสาคร นั้น
.
‘นพ.โสภณ เมฆธน’ ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด19 กล่าวว่า สำหรับการติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิดนั้น เบื้องต้นเมื่อมีอาการจะสามารถเข้าสิทธิการเยียวยาได้จากมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งในการประชุมบอร์ด สปสช. มีการพิจารณาเรื่องนี้ว่า สามารถใช้สิทธิได้ทั้ง 3 กองทุนหรือไม่ เพราะโดยพื้นฐานเมื่อฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนคนไทยทุกคน ก็ต้องได้รับสิทธิหากมีกรณีเกิดขึ้นหลังรับวัคซีน โดยบัตรทองกับสิทธิประกันสังคมมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว แต่ในส่วนของสิทธิข้าราชการกำลังพิจารณาดำเนินการ
.
ด้าน 'นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา' เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สำหรับมาตรา 41 อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฯ โดยหลักการคือให้ทุกสิทธิหากมีผลจากวัคซีน ซึ่งบัตรทองได้อยู่แล้ว ส่วนประกันสังคมก็มีกฎหมายรองรับ แต่สิทธิข้าราชการยังไม่มี ขณะนี้ สปสช. กำลังหารือกับทางกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลัง คาดว่าไม่เกินเดือน มี.ค.นี้จะแล้วเสร็จ ครอบคลุมทั้ง 3 กองทุนทันที โดยการเยียวยาจะยึดตามเดิม กรณีเสียชีวิตจ่ายสูงสุด 4 แสนบาท
.
ด้าน ‘ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ’ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการฉีดวัคซีน คปภ. ส่งเสริมให้มีการนำระบบประกันภัยเข้าไปช่วยบริหารความเสี่ยง โดยได้เห็นชอบ แบบข้อความและอัตราเบี้ยประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัย กรณีได้รับผลกระทบในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทประกันวินาศภัยไปแล้ว 6 บริษัท ด้วยการพิจารณาคำขอแบบฟาสแทร็ก
.
ทั้งนี้ ค่าเบี้ยประกันภัยขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเอาประกันภัย และความคุ้มครองที่เลือกซื้อ โดยมีเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 70 -1,000 บาทต่อปี และหลายบริษัทมีส่วนลดให้ลูกค้าซึ่งได้ทำประกันภัยโควิด19 ไว้แล้ว
.
สำหรับความคุ้มครองผู้ซื้อประกันแพ้วัคซีนโควิด19 นั้น ส่วนใหญ่กำหนดกรณีโคม่าและหรือสมองตาย จะได้รับเงินชดเชยสูงสุด 1,000,000 บาท
.
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
#โควิด19 #วัคซีนโควิด #ประกันแพ้วัคซีนโควิด

 

นายกฯ เผย กำลังพิจารณามาตรการผ่อนคลายช่วงสงกรานต์ แจงขึ้นอยู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชี้ตัดสินใจไม่ง่าย เพราะต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ

วันที่ 3 มี.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการผ่อนปรนมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ขณะนี้ไม่ได้มีการปิดกั้นการเดินทางแล้ว ช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมาก็มีการเดินทางท่องเที่ยวกันจำนวนมาก ประชาชนมีการป้องกันตนเอง ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ทุกคนต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กับโควิดอย่างไรจนกว่าจะผ่านพ้นไป ย้ำว่ามาตรการการผ่อนคลายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หากผ่อนคลายทั้งหมดแล้วเกิดเรื่องขึ้นมาจะทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ปลดล็อคบางอย่างหรือทั้งหมด เพราะหากระบาดขึ้นมาก็จะโทษกลับมายังรัฐบาล ขอให้เข้าใจตรงนี้ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายนัก ต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ยินดีที่มีการฉีดวัคฉีดในจำนวนหนึ่ง และยอมรับว่ามีปัญหาอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรมและทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหน้างานก่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจ ที่ดูแลเรื่องด่านตรวจ อสม. เพราะมีความเสี่ยงสูง เจอคนจำนวนมาก และการจัดหาวัคซีนจะเดินทางเข้ามาเป็นล็อต จะมีการปรับเพิ่มให้ วันนี้กระจายไปยังจังหวัดที่มีการท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่จะมาเอาเป็นเอาตายในล็อตแรก จะมีเข้ามาหลายล็อต และเพิ่มโอกาสให้เอกชนนำเข้าหากผ่านการตรวจสอบของ อย. ย้ำว่าเปิดกว้างทั้งหมด แต่วันนี้วัคซีนถูกใช้ทางการแพทย์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อทุกอย่างควบคุมได้ จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า มีการหารือถึงกรณีที่ผู้ที่ฉีดวัคฉีดแล้วให้ทำพาสปอร์ตวัคซีนเหมือนในต่างประเทศ โดยมอบให้กระทรวงการต่างประเทศหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โลกอยู่ด้วยวัคซีน ที่ผ่านมาตนติดตามผลการฉีดวัคซีนซึ่งยังไม่พบผลค้างเคียงร้ายแรง เป็นเพียงเป็นไข้ ปวดแขน เหมือนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ดี นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรักษาสิทธิของตัวเอง เช่น การรับบัตรสวัสดิการ เบี้ยคนพิการ สำคัญที่สุดคือ เมื่อย้ายที่อยู่ไปแล้วจะต้องมีการแจ้งกับเขตเพื่อปรับ Data ที่มีอยู่ ไม่ใช่ย้ายไปที่ใดก็ไม่มีใครทราบ ซึ่งต้องเป็นการเรียนรู้สิทธิว่าจะรักษาสิทธิอย่างไรในการเข้าถึงมาตรการของรัฐ อย่างไรก็ตาม การทำงานเพื่อคนเป็นล้านคนไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิด เจอปัญหานี้มาโดยตลอด และพยายามปรับ พยายามแก้ พยายามริเริ่มอะไรใหม่ๆ ฝากสื่อมวลชนช่วยกันอธิบายสร้างความรับรู้ วันนี้ตนปรับรูปแบบการทำงานใหม่ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ในสิ่งที่รัฐบาลทำด้วย อย่าให้เขาหาว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะหลายอย่างเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการเริ่มต้นมาก่อน หลายอย่างเป็นโครงการที่ดี ต้องทำต่อเพิ่มให้ นี่คือผลงานของรัฐบาล

#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

 

ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เพื่อหารือสถานการณ์ในเมียนมาเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) ลงเอยด้วยการที่ชาติสมาชิกอาเซียนไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมกันต่อสถานการณ์ในเมียนมา จนบรูไนในฐานะประธานอาเซียนต้องออกแถลงการณ์ในนามประธานอาเซียนแทน ซึ่งสะท้อนถึงความเห็นที่ไม่ตรงกันในหมู่ชาติอาเซียน

อย่างไรก็ตาม มีรัฐมนตรีต่างประเทศจากอย่างน้อย 4 ชาติ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ออกมาแสดงท่าทีชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร พร้อมเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และนักการเมืองที่ถูกจับกุมไว้ทันที และหาทางเจรจาด้วยกระบวนการประชาธิปไตย

⚫️ ฟิลิปปินส์

นายทีโอโดโร ล็อคซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์หลังเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมา โดยเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาคืนอำนาจให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหาร

รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์แนะนำว่า อันดับแรกทางการเมียนมาต้องเริ่มต้นจากการปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี ขณะเดียวกันรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมาจะส่งผลกระทบต่ออาเซียนอย่างแน่นอน เพราะในท้ายที่สุด เมียนมาก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนอยู่ดี

⚫️ สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในชาติอาเซียนที่มีท่าทีชัดเจนที่สุดว่า ต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา โดยเมื่อวานนี้นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เพิ่งให้สัมภาษณ์กับบีบีซี ประณามกองทัพเมียนมาที่ใช้กำลังรุนแรงจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต ในการสลายการชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร เช่นเดียวกับนายวิเวียน บารากิสนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ที่ย้ำว่า กองทัพเมียนมาต้องปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และผู้ถูกจับกุมคนอื่นๆ ซึ่งเป็นหนทางเดียวในการเริ่มต้นเจรจาบนแนวทางประชาธิปไตย

รายงานระบุว่า ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์เรียกร้องให้ทางการเมียนมาเปิดทางให้ผู้แทนพิเศษด้านเมียนมาขององค์การสหประชาชาติ เดินทางเข้าไปสังเกตการณ์ และควรเปิดทางให้ผู้แทนสหประชาชาติพบบุคคลสำคัญ รวมทั้งนางอองซาน ซูจี ที่ตอนนี้กำลังถูกควบคุมตัวด้วย

⚫️ มาเลเซีย

นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนให้เมียนมาปล่อยตัวนางอองซาน ซูจีทันที และพร้อมจะสนับสนุนกระบวนการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุที่จะเป็นอันตรายต่อชาวเมียนมา โดยย้ำว่า เสถียรภาพในเมียนมาจะส่งผลต่อเสถียรภาพของอาเซียนด้วย และชาติสมาชิกควรต้องหาทางหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจจะทำให้ภูมิภาคอาเซียนไร้เสถียรภาพ

รายงานระบุว่า ระหว่างการประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียเสนอให้ทางการเมียนมาพิจารณาอนุญาตให้เลขาธิการอาเซียน และผู้แทนจากบรูไน ในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้เข้าไปเยือนเมียนมา และเปิดทางให้เข้าพบทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

⚫️ อินโดนีเซีย

นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการไปพบกับผู้แทนจากหลายชาติ เพื่อให้อาเซียนมีมาตรการต่อเมียนมา รวมทั้งมีโอกาสได้พบกับนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้นด้วย ได้กล่าวว่า สถานการณ์ในเมียนมากำลังน่าวิตก เพราะมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งมีการจับกุมประชาชนด้วย ซึ่งท่าทีเหล่านี้อาจคุกคามกระบวนการประชาธิปไตย

รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียแสดงความหวังว่า กลไกอาเซียนน่าจะมีส่วนร่วมคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมา ขณะเดียวกันได้เรียกร้องให้เมียนมาเปิดทางให้อาเซียนเข้าไปมีส่วนร่วม

⚫️ อาเซียน

ขณะที่ท่าทีของอาเซียนที่ออกมาจากบรูไน ในฐานะประธานอาเซียนแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมา โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง หาทางแก้ปัญหาโดยสันติ ท่ามกลางการจับตาว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอาจเห็นไม่ตรงกันในการแสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อเมียนมา เห็นได้จากการประชุมลงเอยด้วยแถลงการณ์จากประธานอาเซียน แทนที่จะเป็นแถลงการณ์ร่วม ซึ่งทุกชาติต้องมีฉันทามติเห็นชอบ

⚫️ ไทย

ส่วนท่าทีจากรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยมีการเปิดเผยผ่านข่าวสารนิเทศ ของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและมิตรที่ดีของเมียนมาและส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียน ประเทศไทยได้ติดตามพัฒนาการในเมียนมาด้วยความกังวล โดยหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว และหวังว่าทุกฝ่ายในเมียนมาจะใช้ความอดทนอดกลั้นมากที่สุดและหารือกันเพื่อหาทางออกโดยสันติและสถานการณ์กลับคืนสู่ปกติเพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมา

ที่มา https://www.channelnewsasia.com/new...oup-asean-nations-urge-halt-violence-14316938
https://cnnphilippines.com/news/202...eSbBnaFtoq4sQs_YwQ56_WbPjryrkZbyMnwRTBEEHM2VI
https://english.kyodonews.net/news/...-holds-virtual-meeting-on-myanmar-crisis.html
https://www.freemalaysiatoday.com/c...T6kmpxJSN0547pAvJSDko4OI_3eNowXeSg_s9dO2Uhas0
https://mfa.go.th/th/content/situat...5e39c306002a907&menu=5d5bd3d815e39c306002aac5

#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

 

รมว.วัฒนธรรม เผย สงกรานต์ปีนี้ จัดงานได้ แต่ต้องเว้นระยะห่าง จำกัดคนเข้าพื้นที่ ควบคุมโควิด-19

วันที่ 3 มี.ค.2564 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการจัดงานเทศกาลสงกรานต์และวันขึ้นปีใหม่ของไทย ว่า ในปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม เห็นว่าสามารถจัดกิจกรรมวัฒนธรรมประเพณี ทำบุญ เหมือนอดีตที่เคยจัดก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ แต่ให้เข้มงวดเรื่องมาตรการป้องกันโรค เว้นระยะห่าง และจำกัดจำนวนคนเข้าพื้นที่ โดยถนนสายสำคัญที่เคยมีการจัดกิจกรรม เช่น ถนนข้าวสาร และถนนสายอื่นๆ ให้เจ้าภาพที่จะจัดกิจกรรมเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้ และในปัจจุบันเราเริ่มมีวัคซีนที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้แล้ว

#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

https://www.facebook.com/153951094974177/posts/1548323472203592/

 

ไวรัสจีน ออกไป! อาจารย์มหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตัน ถูกชายสี่คนทำร้ายขณะวิ่งจ็อกกิ้งใกล้บ้าน เหตุเหยียดคนเชื้อชาติเอเชีย

เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงาน (3 มี.ค.) ว่า เผิง หวัง ผู้สอนที่มหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตัน ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ใบหน้าและแขนหลังจากถูกชายสี่คนทำร้ายขณะวิ่งจ็อกกิ้งใกล้บ้าน

รายงานอาชญากรรมทางเชื้อชาติต่อผู้คนที่มีรูปร่างหน้าตาเอเชียตะวันออกในสหราชอาณาจักรเพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจารย์มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรถูกรุมทำร้ายสาหัส ทำให้เกิดความกลัวว่ากระแสต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติชาวเอเชีย จะทวีความรุนแรงในประเทศท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 มี.ค.) เผิง หวัง ผู้สอนสาขาการบริหารการเงินที่มหาวิทยาลัย เซาท์แฮมป์ตัน ถูกชายผิวขาว 4 คนอายุระหว่าง 20 ถึง 25 ปีทำร้ายในขณะวิ่งออกกำลังกาย ไม่ห่างจากบ้านของเขา

“บางคนตะคอกใส่ผมจากรถของพวกเขาอีกฟากหนึ่งของถนน” หวัง วัย 37 ปีกล่าว “พวกเขาพูดว่า ‘ไอ้ไวรัสจีน’ ออกไป [จาก] ประเทศนี้ไอ้พวกมึง”

หวังกล่าวว่า เขาตะโกนโต้ไปที่รถคันนั้น แต่แล้วคนขับก็วนกลับมาและทำร้ายเขา เลือดออกจมูกและมีรอยฟกช้ำที่ใบหน้าและแขน

พลเมืองดีช่วยเรียกรถพยาบาลและติดต่อตำรวจ โดยผู้ต้องสงสัยอายุ 21 ปีถูกจับกุมและได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา ขณะที่การสืบสวนดำเนินต่อไป

เหตุการณ์ดังกล่าวได้ตอกย้ำความกลัวในชุมชนชาวจีนท้องถิ่น ว่าอาชญากรรมจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติที่เกี่ยวข้องกับโควิด -19 ต่อผู้คนที่มีเชื้อสายจีนกำลังเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร

เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ไม่นานหลังจากที่โควิด -19 มาถึงอังกฤษ โจนาธาน ม็อก นักศึกษาชาวสิงคโปร์ ก็ถูกทำร้ายร่างกาย ที่ถนนอ๊อกซ์ฟอร์ด กรุงลอนดอน โดยวัยรุ่นอังกฤษอายุ 16 ปี ถูกตัดสินให้บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ 18 เดือน ในข้อหาทำร้ายร่างกายโดยมีแรงจูงใจทางเชื้อชาติ

รายงานอาชญากรรมทางเชื้อชาติต่อผู้คนที่มีรูปร่างหน้าตาเอเชียตะวันออก ในสหราชอาณาจักรเพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2020 มีรายงานของตำรวจ 457 คดี เกี่ยวกับอาชญากรรมที่มีแรงจูงใจทางเชื้อชาติต่อผู้ที่ระบุว่าตนเองเป็นชาวจีน

...
ข่าว - https://www.scmp.com/news/world/eur...-out-lecturer-china-beaten-britain-amid-spike

 

ทางการเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ เตรียมเปิดทดลองให้บริการ "ท้องฟ้าจำลองเซี่ยงไฮ้" (Shanghai Planetarium) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้ในเดือน มิถุนายนนี้
.
ท้องฟ้าจำลองแห่งนี้ มีพื้นที่ใช้สอยรวมมากกว่า 38,000 ตารางเมตร ทำให้ท้องฟ้าจำลองแห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (วัดจากพื้นที่ใช้สอย) ถูกออกแบบมาให้มีอาคารหลักและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อาทิ ศูนย์สำรวจสำหรับเยาวชน และหอดูดาวสาธารณะ 2 แห่ง รวมถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการต่าง ๆ อีกกว่า 12,500 เมตร
.
นอกจากนี้ ท้องฟ้าจำลองแห่งนี้ ได้รวบรวมชิ้นส่วนอุกกาบาตราว 70 ชิ้น ที่ได้มาจากดวงจันทร์ ดาวอังคาร และดาวเคราะห์น้อยเวสตา ตลอดจนสิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ทางวิทยาศาสตร์อีกมากกว่า 120 ชิ้น รวมถึงผลงานต้นฉบับของไอแซก นิวตัน, กาลิเลโอ, โจฮันเนส เคพเลอร์ และนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังอีกมากมาย
.
ขณะเดียวกัน ยังมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาเตรียมให้บริการผู้เข้าชม ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอแผนภาพข้อมูล การจำลองภาพเสมือนจริง (VR) เทคโนโลยียืนยันตัวบุคคลหรือไบโอเมตริกซ์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อประสบการณ์ใหม่ ๆ ของผู้เข้าชม และเพิ่มความสนใจในการให้ความรู้ทางดาราศาสตร์
#ChinaStory #ดาราศาสตร์ #ท้องฟ้าจำลองจีน #เทคโนโลยีจีน #ข่าวจีน #วิทยาศาสตร์จีน #ข่าวจีน #เล่าเรื่องจีน

 

ไฟเขียว นโยบายและแผนการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ปี 2560 - 2580
.
ยึดหลักการเดิม 4 นโยบาย
1) การจัดการฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่างมั่นคง เพื่อความสมดุล เป็นธรรม และยั่งยืน
2) สร้างการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน
3) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติฯ
4) สร้างความเป็นหุ้นส่วนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติฯ
.
แก้ไขปรับตัวชี้วัดเพิ่ม
-เพิ่มแนวนโยบายการรักษาและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองและชนบท
- เพิ่มประเด็นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เป็นต้น
.
ตัวชี้วัดความสำเร็จของแผนฯ เช่น พื้นที่สีเขียวทุกประเภท ร้อยละ 55 ของพื้นที่ประเทศ , ทุกครัวเรือนมีน้ำดื่มที่ปลอดภัยและราคาหาซื้อได้ , สัดส่วนการใช้พลังงานต่อ GDP ลดลงร้อยละ 30 ภายในปี 2580 , ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5 และ PM 10) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
#NNT
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
#คุณภาพสิ่งแวดล้อม