ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ประมวลข่าว (1 มีนา) เดือนมีนาแล้วค่ะทุกคน

    ⭕️ 6 จังหวัด โอซาก้า เกียวโต เฮียวโกะ ไอจิ กิฟุฟุกุโอกะ ปลดล็อกสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วนะคะ แต่มีกฎอื่นมาแทน เดี๋ยวจะรวบเขียนอีกโพสต์

    ✈️วัคซีนล็อต 3 จำนวน 520,000 โดสมาถึงญี่ปุ่นแล้วค่ะ

    #วัคซีนโควิดเสีย ⚠️
    (1) ตู้แช่วัคซีนไฟเซอร์เสีย ทำให้วัคซีนใช้ไม่ได้ไป 1,032 โดส
    ติดวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มาเจออีกที อุณหภูมิในตู้ไปอยู่ที่ 27 องศา...

    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

    #โควิด
    (2) ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มวันนี้:
    ยอดเพิ่มวันนี้ +698 ราย รวมสะสม 433,417 ราย
    เสียชีวิตเพิ่ม +51 ราย รวมสะสม 7,948 ราย
    คนอาการหนัก 436 ราย (-4)
    หายแล้วสะสม 410,604 ราย

    จังหวัดที่เกินร้อย
    ชิบะ 127 ราย
    โตเกียว 121 ราย

    ✒️วันนี้ชิบะแซงโตเกียวขึ้นแท่นที่ 1 ไป

    โตเกียวติดเพิ่ม 121 ราย (เกิน 65 ปี 23 ราย) อาการหนัก 61 ราย (-6) ยอดตรวจ 1,700 คน

    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

    #ไอที
    (4) เมษาปีหน้า (2022) Line Pay จะควบรวมกับ PayPay หลังการควบรวมกิจการของ Line กับ Yahoo!Japan

    เครดิต:
    NHK https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/data/





    https://www.fukushihoken.metro.tokyo.lg.jp/index.files/030301sokuhou.pdf

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพสะพรึง! ภูเขาไฟ ‘ซินาบุง’ ในอินโดนีเซียระเบิดใหญ่สุดในรอบ 6 เดือน พ่นเถ้าถ่านสูงกว่า 3 กม.
    .
    ภูเขาไฟซินาบุง (Sinabung) บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ปลดปล่อยกลุ่มควันหนาทึบและเถ้าถ่านที่ร้อนจัดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าราว 3 โลเมตรในวันนี้ (2 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 เดือน
    .
    กิจกรรมของภูเขาไฟซินาบุงซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดสุมาตราเหนือเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีที่แล้ว จนทำให้ทางการต้องประกาศเตือนภัยขั้นที่ 2 จากระดับสูงสุด
    .
    หน่วยงานสำรวจภูเขาไฟของอินโดนีเซีย (Volcanological Survey of Indonesia) แถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนอยู่ห่างจากปากปล่องภูเขาไฟซินาบุงอย่างน้อย 3 กิโลเมตร และยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปะทุครั้งล่าสุด
    .
    คลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นว่าคนในพื้นที่เองก็ดูจะไม่ตื่นเต้นตกใจอะไรมากนักกับเถ้าถ่านที่แผ่ปกคลุมท้องฟ้า
    .
    อินโดนีเซียตั้งอยู่บนแนว “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก และมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่เกือบ 130 ลูก มากกว่าประเทศใดๆ ในโลก
    .
    สำหรับภูเขาไฟซินาบุงนั้นเคยอยู่ในสภาพหลับใหลมานานหลายร้อยปี ก่อนที่จะเริ่มกลับมาปะทุอีกครั้งตั้งแต่ปี 2010
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่เลี้ยง! ฟิลิปปินส์ปลด ‘ทูตหญิงประจำบราซิล’ หลังโดนแฉคลิป ‘ทุบตีแม่บ้าน’
    .
    รัฐบาลฟิลิปปินส์มีคำสั่งปลดอดีตเอกอัครราชทูตหญิงประจำบราซิล หลังมีภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่าเธอทุบตีแม่บ้านที่สถานทูตในกรุงบราซิเลียเมื่อหลายเดือนก่อน
    .
    มาริชู เมาโร (Marichu Mauro) ถูกกระทรวงการต่างประเทศเรียกตัวกลับกรุงมะนิลาเมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากสำนักข่าวโกลโบนิวส์ของบราซิลตีแผ่ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่นักการทูตหญิงรายนี้ลงมือทำร้ายร่างกายคนรับใช้ในบ้านซ้ำแล้วซ้ำอีกเมื่อ 8 เดือนก่อนหน้า
    .
    ล่าสุด ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ยืนยันวานนี้ (1 มี.ค.) ว่า เมาโร ได้ถูกปลดออกจากกระทรวงการต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    “เรามีกฎที่ทุกคนต้องทำตาม ถ้าคุณไม่เชื่อฟัง ก็เท่ากับคุณกล้าเสี่ยง ถ้ามีอะไรผิดพลาด คุณก็ต้องโดน” ดูเตอร์เต ระบุ
    .
    ทั้งนี้ การถูกไล่ออกจากราชการส่งผลให้ เมารี หมดสิทธิ์รับบำเหน็จบำนาญ และยังไม่สามารถดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐได้อีก
    .
    โกลโบนิวส์รายงานว่า แม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ที่โดนทำร้ายถูกจ้างให้ไปทำงานที่บ้านพักเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ในกรุงบราซิเลีย และภาพจากกล้อง CCTV ที่บันทึกไว้ระหว่างเดือน มี.ค. ถึง ต.ค. ปี 2020 ถูกใช้เป็นหลักฐานร้องเรียนต่อรัฐบาลฟิลิปปินส์เพื่อดำเนินการลงโทษนักการทูตหญิง
    .
    เมาโร ถูกส่งไปประจำการที่บราซิลเมื่อปี 2018 และนอกจากภารกิจในแดนแซมบ้าแล้ว เธอยังรับหน้าที่ดูแลกิจการทางด้านการทูตระหว่างฟิลิปปินส์กับโคลอมเบีย, กายอานา, ซูรินาม และเวเนซุเอลาด้วย
    .
    ชาวฟิลิปปินส์หลายล้านคนตัดสินใจทิ้งบ้านไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อแสวงหารายได้และโอกาสในการทำงานที่ดีกว่า โดยเงินที่คนเหล่านี้ส่งกลับประเทศในแต่ละปีคิดเป็นรายได้มหาศาลที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจแดนตากาล็อก
    .
    อย่างไรก็ตาม มีแรงงานฟิลิปปินส์จำนวนไม่น้อยที่ต้องทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลำบากหรืออันตราย และบางครั้งก็ถูกล่วงละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้กระทำมักจะเป็นนายจ้างชาวต่างชาติ
    .
    ที่มา: เอเอฟพี

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มรสุมลูกใหม่กลางนิวยอร์ก “แอนดรูว์ โคโม” ถูกเรียกร้องให้ลาออกหลังเหยื่อล่วงละเมิดรายที่ 3 โผล่
    .
    .
    .
    .
    เอพี – เสียงเรียกร้องจากสาธารณะให้ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ โคโม ลาออกจากตำแหน่งดังมากขึ้นในช่วงค่ำวันจันทร์(1 มี.ค)หลังจากเหยื่อเป็นหญิงรายที่ 3 ออกมากล่าวหาว่า โคโมมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขอจุมพิตเธอหลังจากพบกันในงานแต่งงาน
    .
    เอพีรายงานวันนี้(2 มี.ค)ว่า แอนนา รัช (Anna Ruch)ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สค่ำวานนี้(1)ว่า เธอต้องเอามือผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กออกจากบริเวณหลังของเธอ แต่ทว่าเขากล่าวว่า เธอดูเหมือน นำมือของเขาไปที่ใบหน้าของเธอย่างรุนแรงและรวดเร็วพร้อมกับคำพูดของเขาที่ขอจุมพิตเธอ
    .
    ดิฉันรู้สึกทั้งสับสนตกใจและอับอายไปพร้อมกัน” รัช ปัจจุบันวัย 33 ปีปัจจุบันเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์สหรัฐฯ โดยทางนิวยอร์กไทม์สได้ตีพิมพ์ภาพของเธอที่แสดงให้เห็นว่ามือของผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ โคโม อยู่บนใบหน้าของเธอ และเธอกล่าวว่า “ดิฉันหันศรีษะหนีแต่ไม่ตอบอะไรในเวลานั้น”
    .
    เอพีรายงานว่า รัชในเวลานั้นทำงานเป็นช่างภาพให้กับทำเนียบขาวสมัยที่ 2 ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา และทำให้รัชกลายเป็นเหยื่อรายที่ 2 ที่ออกมากล่าวหาโคโมถึงการสัมผัสเธอโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลทำวงกว้างกดดันโคโมลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก รวมไปถึงเสียงที่ดังออกมาบางส่วนจากภายในพรรคเดโมแครตของเขาเอง
    .
    อันโตนิโอ เรย์โนโซ (Antonio Reynoso) สมาชิกสภาเมืองนิวยอร์กกล่าววิจารณ์โคโมอย่างหนักหน่วงว่า “รูปแบบของการล่วงละเมิดทางเพศและพฤติกรรมการล่าเหยื่อที่มาจากผู้ว่าการรัฐ โคโม ถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับได้ และผมเชื่อในกลุ่มผู้หญิงที่ออกมาเรียกร้อง”
    .
    และเขากล่าวอีกว่า “ผู้ว่าการรัฐโคโมต้องลาออก”
    .
    ข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศล่าสุดต่อผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กจากเหยื่อสตรี 2 คนทำงานให้กับรัฐบาลรัฐนิวยอร์กของโคโม นำมาสู่การสอบสวนออิสระโดยอัยการรัฐ
    .
    อัยการนิวยอร์ก เลติเทีย เจมส์( Letitia James) ได้รับจดหมายจากสำนักงานของโคโมในวันจันทร์(1) อนุญาตให้เธอมีอำนาจเต็มในการสอบสวนคดีฉาวของตัวเขาหลังสุดสัปดาห์มีปัญหาโต้เถียงว่าใครสมควรที่เป็นผู้รับผิดชอบ
    .
    ในจดหมายที่นอกจากมอบอำนาจให้เจมส์ ยังรวมไปถึงพรรคเดมแครตในฐานะผู้ช่วยนอกสำนักงานอัยการในการสอบสวนพร้อมอำนาจสามารถเรียกพยานเข้าให้การต่อคณะลูกขุนได้ ผลการสอบสวนจะเปิดเผยในรายงานสาธารณะ
    .
    ที่ผ่านมา แอนดรูว์ โคโม ยังคงยืนกรานว่า เขาไม่เคยสัมผัสใครอย่างไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ชาร์ลอตต์ เบนเนตต์ (Charlotte Bennett) อดีตผู้ช่วยของโคโมได้ปฎิเสธคำกล่าวขออภัยของเขาที่อ้างว่า “เป็นแค่การหยอกล้อ”โดยเธอชี้ในวันจันทร์(1)ว่า ผู้ว่าการรัฐปฎิเสธที่จะรับรู้หรือแสดงความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมการเป็นนักล่าของเขา
    .
    เบนเนตต์วัย 25 ปีเปิดเผยว่า โคโมได้สอบถามเกี่ยวกับชีวิตทางเพศส่วนตัวของเธอที่ว่า เธอมีความเชื่อในเพศสัมพันธ์ผัวเมียเดียว และเธอเคยมีความสัมพันธ์กับชายสูงอายุหรือไม่
    .
    นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก บิล เดอ บลาสซิโอ และเจ้าหน้าที่รัฐที่มาจากการเลือกตั้งคนอื่นๆกล่าวว่า ในขณะที่โคโมอยู่ในระหว่างการสอบสวน เขาควรยกเลิกอำนาจฉุกเฉินที่เขามีซึ่งได้เริ่มต้นใช้มาตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 ซึ่งมาจนถึงเวลานี้สภารัฐนิวยอร์กยังไม่มีมาตรการใดที่จะยกเลิกคำประกาศภาวะฉุกเฉินของโคโมซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย นี้
    .
    นอกจากเบนเนตต์และรัชแล้ว เอพีรายงานว่า ลินด์ซีย์ บอยแลน(Lindsey Boylan) อดีตผู้ช่วยโคโมอีกราย ออกมากล่าวหาว่า เขาแสดงความเห็นอย่างไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการแต่งตัวของเธอ พร้อมกับจุมพิตเธอโดยไม่รับความยินยอมหลังสิ้นสุดการประชุม และรวมไปถึงครั้งหนึ่งโคโมได้เสนอให้เล่นเกมส์โป๊กเกอร์เปลื้องผ้าระหว่างที่คนทั้งคู่อยู่บนเครื่องบินประจำรัฐ
    .
    คูโมวันอาทิตย์(28 ก.พ)ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาของบอยแลน โดยเขายอมรับว่า ส่วนตัวเขามักชอบหยอกล้อผู้คนเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของคนเหล่านั้นในความพยายามที่ต้องการเป็นคนขี้เล่นและสนุกสนาน และกล่าวว่าเขาเป็นเสมือนผู้ที่ให้คำแนะนำแก่เบนเนตต์มากกว่า

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตำรวจพม่าเปิดฉากยิงสลายกลุ่มผู้ชุมนุมต่อเนื่อง ด้าน รมต.อาเซียนเตรียมหารือฝ่ายทหารหาทางออกวิกฤต
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ - ตำรวจพม่าเปิดฉากยิงสลายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต้านรัฐประหารวันนี้ (2) ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศเพื่อนบ้านมีกำหนดที่จะจัดการเจรจาหารือกับฝ่ายทหาร ในความพยายามที่จะระงับเหตุความรุนแรงและหาทางออกจากวิกฤต
    .
    การเจรจาที่จะเกิดขึ้น มีขึ้น 2 วันหลังพม่าเผชิญกับวันที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่ทหารเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจีเมื่อเดือนก่อน ที่ก่อให้เกิดความโกรธแค้นและการชุมนุมประท้วงบนท้องถนนของผู้คนจำนวนมากทั่วประเทศ
    .
    ผู้ชุมนุมที่หลายคนสวมหมวกนิรภัยและถือโล่ป้องกันได้รวมตัวกันหลังสิ่งกีดขวางตามจุดต่างๆ ของย่างกุ้ง ร้องตะโกนคำประท้วงต่อต้านการปกครองของทหาร
    .
    “หากเราถูกกดขี่ เราจะตอบโต้กลับ หากเราถูกโจมตี เราจะโจมตีกลับ” ผู้ชุมนุมร้องตะโกน ก่อนตำรวจเคลื่อนกำลังเข้าสลายพวกเขาด้วยการยิงระเบิดแสงที่ทำให้ฝูงชนต่างวิ่งหนีกระจัดกระจายในพื้นที่อย่างน้อย 4 แห่งในเมือง
    .
    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บในนครย่างกุ้ง แต่มีหลายคนได้รับบาดเจ็บในเมืองกะเล่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อตำรวจยิงกระสุนจริงเข้าสลายฝูงชน ตามการระบุของนักเคลื่อนไหวและนักข่าวในเมือง
    .
    “มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน และมี 2 คนที่อาการอยู่ในขั้นวิกฤต” วา วา ปโยน นักเคลื่อนไหว กล่าว
    .
    ทั้งนี้ รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อโรงพยาบาลและตำรวจในพื้นที่เพื่อขอความเห็นได้ ขณะที่โฆษกทหารก็ไม่ตอบรับการติดต่อเช่นกัน
    .
    มีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 21 คนเสียชีวิตนับตั้งแต่เหตุความวุ่นวายเกิดขึ้น ขณะที่กองทัพกล่าวว่ามีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย
    .
    การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ทำให้การก้าวสู่ประชาธิปไตยของประเทศหยุดชะงัก และได้เรียกเสียงประณามและการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ และยังเพิ่มความวิตกในหมู่ประเทศเพื่อนบ้าน
    .
    วิเวียน บาลากริซนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆ ในอาเซียนจะพูดอย่างตรงไปตรงมาเมื่อพวกเขาพบหารือกันทางวิดีโอคอลในวันนี้ และจะบอกกับผู้แทนของทหารพม่า ว่าพวกเขารู้สึกตกใจกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
    .
    ในการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ค่ำวันจันทร์ บาลากริซนัน กล่าวว่า อาเซียนจะสนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างซูจีและรัฐบาลทหาร
    .
    “พวกเขาจำเป็นต้องพูดคุยกัน และเราจำเป็นต้องช่วยเหลือนำพวกเขามาหารือกัน” บาลากริซนัน กล่าว
    .
    ทหารอ้างความชอบธรรมต่อการก่อรัฐประหารของตนเองว่าเป็นเพราะข้อร้องเรียนของพวกเขาเกี่ยวกับการโกงในการเลือกตั้งเดือน พ.ย. ถูกเพิกเฉย
    .
    ถ้อยแถลง พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ที่ถูกอ่านออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐระบุว่า แกนนำและผู้สั่งการการชุมนุมประท้วงจะถูกลงโทษ และยังขู่ว่าจะดำเนินการกับข้าราชการที่ไม่ยอมกลับไปทำงาน
    .
    มิน อ่อง หล่าย ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่และมอบอำนาจให้แก่ผู้ชนะ แต่ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลา
    .
    ความพยายามของอาเซียนที่จะมีส่วนร่วมกับทหารพม่าถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้สนับสนุนประชาธิปไตย และคณะกรรมาธิการของสมาชิกรัฐสภาที่ถูกขับไล่ประกาศให้รัฐบาลทหารเป็นกลุ่มก่อการร้าย และระบุว่าการมีส่วนร่วมของอาเซียนจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้แก่ทหาร
    .
    ซา ซา ผู้แทนของคณะกรรมการธิการตัวแทนรัฐสภาพม่า (CRPH) ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า อาเซียนไม่ควรเจรจากับ ‘ระบอบการปกครองภายใต้การนำของทหารที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย’
    .
    ขณะเดียวกัน ศิษย์เก่าของโครงการเยาวชนอาเซียนในพม่ากล่าวว่า อาเซียนควรเจรจากับผู้แทนระหว่างประเทศของฝ่ายบริหารของซูจี ไม่ใช่รัฐบาลทหาร
    .
    “อาเซียนต้องเข้าใจว่าการรัฐประหารหรือการเลือกตั้งใหม่ที่รัฐบาลทหารให้คำมั่นนั้น เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างที่สุดสำหรับประชาชนชาวพม่า” ศิษย์เก่าโครงการระบุในจดหมายถึงอาเซียน
    .
    ซูจี วัย 75 ปี ได้ปรากฏตัวในการไต่สวนของศาลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันจันทร์ หนึ่งในทนายความของซูจีกล่าวว่า เธอดูมีสุขภาพดี และศาลได้ฟ้องข้อหาเพิ่มกับซูจีอีก 2 ข้อหา
    .
    เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะมาตั้งแต่รัฐบาลของเธอถูกโค่นล้มและถูกควบคุมตัวพร้อมกับผู้นำพรรคคนอื่นๆ
    .
    นับตั้งแต่ทหารเข้ายึดอำนาจ มีประชาชนหลายร้อยคนถูกจับกุมตัว ตามการระบุของนักเคลื่อนไหว และรายล่าสุดคือนักข่าวของ Democratic Voice of Burma (DVB) ที่ถ่ายทอดสดกองกำลังความมั่นคงนอกอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองมะริดวานนี้ โดยสำนักข่าว DVB ยืนยันการจับกุม
    .
    สหรัฐฯ เตือนทหารพม่าว่าจะดำเนินการมากขึ้นหากกองกำลังความมั่นคงสังหารผู้ที่ไม่มีอาวุธ และโจมตีนักข่าวและนักเคลื่อนไหว ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่าเป็น “ความรุนแรงที่น่ารังเกียจ” ขณะที่เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า คณะบริหารของไบเดนกำลังเตรียมมาตรการลงโทษเพิ่มเติมกับผู้ที่รับผิดชอบการรัฐประหาร.
    ..
    ..
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000020336

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้เชี่ยวชาญ UN ซัดอเมริกา! กล่าวหา ‘มกุฎราชกุมารซาอุฯ’ สั่งฆ่า ‘คาช็อกกี’ แต่ดันไม่มีบทลงโทษ
    .
    ผู้ตรวจสอบพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติออกมาเตือนวานนี้ (1 มี.ค.) ว่าสหรัฐฯ กำลังสร้างแบบอย่างที่ “อันตรายอย่างยิ่ง” ด้วยการออกมาตราหน้ามกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียว่าเป็นผู้อนุมัติปฏิบัติการสังหาร ‘จามาล คาช็อกกี’ นักข่าววอชิงตันโพสต์ แต่กลับปฏิเสธที่จะใช้บทลงโทษใดๆ ต่อพระองค์
    .
    แอกเนส คัลลามาร์ด (Agnes Callamard) ผู้รายงานพิเศษด้านการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้นำการสอบสวนของยูเอ็นต่อคดีฆาตกรรมคาช็อกกีเมื่อปี 2018 เรียกร้องอีกครั้งให้สหรัฐฯ มีบทลงโทษโดยตรงต่อเจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ไม่ว่าจะเป็นการอายัดทรัพย์สิน หรือคว่ำบาตรการมีส่วนร่วมกับนานาชาติของพระองค์ก็ตาม
    .
    หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (26 ก.พ.) ว่า เจ้าชายพระองค์นี้ทรงเป็นผู้ส่งทีมนักฆ่าไปยังสถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูล เพื่อจับกุมตัวหรือสังหารคาช็อกกี คอลัมนิสต์ชาวซาอุฯ ในสหรัฐฯ ที่เขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพระองค์อยู่เสมอ
    .
    สหรัฐฯ ได้มีมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมด แต่กลับละเว้นไม่แตะต้องเจ้าชายโมฮัมเหม็ด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีกับซาอุฯ ไว้
    .
    ระหว่างแถลงข่าวที่นครเจนีวา คัลลามาร์ด ชี้ว่าข้อมูลที่สหรัฐฯ นำออกเผยแพร่นั้น “น้อยนิดและน่าผิดหวัง” โดยเธอคาดว่าวอชิงตันจะเปิดเผยหลักฐานที่หนักแน่นเป็นรูปธรรมกว่านี้ในการเอาผิดเจ้าชาย
    .
    “ในมุมมองของดิฉัน มันเป็นเรื่องที่อันตรายและเป็นปัญหาอย่างมากกับการที่คุณออกมาตราหน้าใครคนหนึ่งว่าเป็นผู้กระทำผิด จากนั้นก็บอกว่าเราจะไม่ทำอะไรเลย โปรดทำเหมือนกับว่าเราไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน” เธอกล่าว “ดิฉันคิดว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวจากฝั่งสหรัฐฯ ที่อันตรายอย่างยิ่ง”
    .
    เจน ซากี โฆษกหญิงของทำเนียบขาว ระบุวานนี้ (1) ว่าสหรัฐอเมริกาขอ “สงวนสิทธิ์” ที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดในอนาคต “หากมีความจำเป็น”
    .
    “แน่นอนว่าเราขอสงวนสิทธิ์ที่จะใช้มาตรการใดๆ ก็ตาม ในเวลาและรูปแบบที่เราเห็นว่าเหมาะสม” ซากี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน “ที่ผ่านๆ มา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งสายเดโมแครตหรือรีพับลิกันก็มักจะไม่ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับผู้นำประเทศที่เรามีความสัมพันธ์ทางการทูตด้วย”
    .
    คำพูดของ ซากี สอดคล้องกับท่าทีของ เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งออกมาแถลงในวันเดียวกันว่า สหรัฐอเมริกาจะโฟกัสไปที่ “พฤติกรรมในอนาคต” ของซาอุฯ และไม่ได้มีความมุ่งหมายที่จะทำลายความสัมพันธ์กับริยาด
    .
    ก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ระบุเมื่อวันเสาร์ (27) ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะมีประกาศเกี่ยวกับซาอุฯ ในวันจันทร์ (1) แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนหนึ่งก็ออกมาเปรยๆ ล่วงหน้าว่าคงจะไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจนอย่างที่หลายคนคาดหวัง
    .
    “มีหลายสิ่งหลายอย่างที่รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถทำได้ แต่อย่างเดียวที่ไม่ควร -- ไม่ควรเลย – ก็คือการนิ่งเฉย และเปิดเผยข้อสรุปออกมาโดยไม่ดำเนินการอะไรเพิ่มเติม”
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โดนด่าเละ!ผู้เชี่ยวชาญจีนเสนอสาวเมือง'ขึ้นคาน'จับคู่แต่งงานหนุ่มโสดชนบท ลดปัญหาไม่สมดุลทางเพศ

    ข้อเสนอจากผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งสำหรับคลี่คลายเค้าลางวิกฤตทางสังคมอันมีต้นตอจากความไม่สมดุลทางเพศ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง หลังเขาเสนอให้สาวเมืองขึ้นคานจับคู่แต่งงานกับคนโสดในชนบท

    อู่ ซิ่วหมิง รองเลขาธิการทั่วไปของสมาคมพัฒนาวิจัยซานซี องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทางภาคกลางของจีน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้านวิจัยพัฒนาสังคม เรียกร้องให้ทางการจัดการอย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับจำนวนประชากรคนโสดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเขาสนับสนุนให้สาวโสดในเมือง โยกย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่แถบชนบท ดินแดนที่มีหนุ่มโสดหลายล้านคนกำลังมองหาคู่ชีวิต

    เขาเรียกร้องคุณผู้หญิงว่าอย่าได้กลัวการออกไปใช้ชีวิตตามหมู่บ้านต่างๆในแถบชนบท

    ด้วยสาวขึ้นคานในจีน ส่วนใหญ่เป็นสตรีที่มีการศึกษาสูงและเป็นผู้หญิงในเมืองอายุ 27 ปีขึ้นไป ข้อเสนอของ อู่ จึงถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงโดยทันที โดยผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์พากันแสดงความคิดเห็นว่าข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญรายนี้หลุดจากความเป็นจริง

    "ต้องมีสมองแบบไหนถึงคิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมาได้? เขาไม่เห็นความแตกต่างมหาศาลระหว่างคน 2 กลุ่มนี้หรือ? พวกเขามีพื้นฐานการใช้ชีวิตใน 2 โลกคู่ขนาน การสื่อสารระหว่างทั้งสองจะเป็นเรื่องยากลำบากอย่างมาก" บุคคลรายหนึ่งเขียนบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ สื่อมวลชนออนไลน์ของจีนคล้ายทวิตเตอร์

    "แม้แต่ผู้หญิงชนบทก็ไม่ต้องการผู้ชายชนบท อย่าไปยุ่งกับสตรีในเมืองเลย คุณคิดว่าผู้หญิงในเมืองจะบ้าบอพอที่จะแต่งงานกับผู้ชายบ้านนอกหรือ" ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอีกคนเขียน "นี่คือความคิดในการผสมพันธุ์แบบสัตว์ ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญรายนี้ เขามองคน 2 กลุ่มเป็นเพียงแค่สัตว์" ผู้ใช้เว่ยป๋อรายที่ 3 เสริม

    ชารอน ชุ้น สาวโสดวัย 38 ปี ทำงานอยู่ในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเชี่ยงไฮ้ บอกว่าเธอไม่คิดมองหนุ่มชนบทในฐานะว่าที่คู่ชีวิตเลยแม้แต่น้อย "มันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะเดทกับหนุ่มบ้านนอก มันจะไม่เกิดขึ้น แม้หากว่าไม่เหลือชายคนอื่นบนโลกใบนี้แล้ว"

    อัตราส่วนเพศเมื่อแรกเกิด (Sex Ratio at Birth) ของจีน ถือว่าเป็นหนึ่งในชาติที่ขาดความสมดุลมากที่สุดในโลด โดยขณะที่มีทารกเพศหญิงลืมตาดูโลก 100 คน จะมีเพศชายถือกำเนิด 114 คน ส่งผลให้จีนมีประชากรเพศชายมากกว่าผู้หญิงราว 30 ล้านคน

    ความไม่สมดุลระหว่างเพศชายและหญิงในจีน เป็นผลจากนโยบายลูกคนเดียว ซึ่งถูกยกเลิกไปไม่นานที่ผ่านมา และค่านิยมของสังคมจีนที่อยากได้ลูกชายมากกว่า ซึ่งความไม่สมดุลทางเพศหนักหน่วงขึ้นไปอีกในแถบชนบท เพราะผู้หญิงจำนวนมากเดินทางออกมาหางานและหาสามีตามตัวเมืองต่างๆ

    ปัญหาความยุ่งยากในการหาคู่สมรสของหนุ่มชนบทยิ่งเลวร้ายลงไปอีก จากความหมายของของฝ่ายหญิง ที่คาดหวังว่าฝ่ายชายจะมอบความมั่นคงทางการเงินให้กับพวกเธอ

    รายงานข่าวหนึ่งจากซินหัว เดลี เทเลกราฟ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าชายในพื้นที่ชนบทในมณฑลซานซี มณฑลเหอหนาน และมณฑลหูหนาน ทางภาคกลางของจีน จำเป็นต้องมีเงินสูงสุดถึง 1 ล้านหยวน(4.6ล้านบาท) ครั้งที่ต้องขอว่าที่เจ้าสาวแต่งงาน โดยเงินเหล่านี้ถูกใช้สำหรับเป็นเงินสดจูงใจเจ้าสาว ใช้ซื้อบ้านและซื้อรถยนต์ให้กับครอบครัวเจ้าสาว ในขณะที่ศึกแย่งชิงว่าที่เจ้าสาวในพื้นที่ชนบทเป็นไปอย่างดุเดือด เนื่องจากมีจำนวนผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชายอย่างมาก

    (ที่มา:เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์)

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพวาดฝีมือ ‘เชอร์ชิลล์’ ที่ดาราสาว ‘แองเจลินา โจลี’ ขายทิ้ง ฟันราคาประมูล 348 ล้านบาท
    .
    ภาพวาดสีน้ำมันฝีมืออดีตนายกรัฐมนตรี วินสตัน เชอร์ชิลล์ แห่งอังกฤษ ที่ถูกมอบเป็นของขวัญแก่อดีตประธานาธิบดี แฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ ของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะกลายมาเป็นสมบัติของดาราสาวชื่อดัง “แองเจลินา โจลี” ทำรายได้จากการประมูลสูงสุดเป็นสถิติใหม่เกือบ 8.3 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 348 ล้านบาท หลังบวกค่าคอมมิชชั่น
    .
    ภาพ “หอคอยแห่งมัสยิดกูตูเบีย (Tower of Koutoubia Mosque)” ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่อยู่ในความครอบครองของครอบครัวโจลี เป็นภาพบรรยากาศยามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดินของมัสยิดในเมืองมาร์ราคิช ประเทศโมร็อกโก
    .
    “เชอร์ชิลล์ ไปเยือนโมร็อกโกครั้งแรกเมื่อปี 1935 และตกหลุมรักกับคุณภาพของแสงในเมืองแห่งนั้น” นิค ออร์ชาร์ด หัวหน้าฝ่ายงานศิลปะอังกฤษสมัยใหม่ของสถาบันคริสตีส์ในกรุงลอนดอนซึ่งเป็นผู้จัดการประมูล ระบุ
    .
    “เขารู้สึกว่าภาพวาดสถานที่ในประเทศแห่งนี้คือหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเขา”
    .
    ภาพนี้ถูกตั้งราคาประเมินเอาไว้ที่ 1.5-2.5 ล้านปอนด์ ก่อนจะมีผู้เสนอราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายมันก็ถูกขายไปด้วยราคาสูงกว่าที่ประเมินเกิน 3 เท่าตัว และยังทำลายสถิติภาพวาดเชอร์ชิลล์ที่เคยทำราคาประมูลสูงสุด 1.7 ล้านปอนด์ในการประมูลของโซธบีส์เมื่อปี 2014
    .
    แหล่งข่าวระบุว่า ภาพวาดเชอร์ชิลล์ภาพนี้เป็นของขวัญที่ โจลี ได้รับมาจากอดีตสามี "แบรด พิตต์" เมื่อปี 2011 โดยทั้งคู่ได้หย่าขาดจากกันในปี 2016 หลังแต่งงานอยู่กินได้เพียง 2 ปี
    .
    ภาพหอคอยแห่งมัสยิดกูตูเบียเป็นผลงานศิลปะเพียงชิ้นเดียวของ เชอร์ชิลล์ ที่ถูกวาดระหว่างเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คือในช่วงปี 1939-1945
    .
    ในเดือน ม.ค. ปี 1943 หลังจากที่เข้าร่วมการประชุมคาซาบลังกาที่โมร็อกโกเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ต่อต้านนาซีเยอรมัน เชอร์ชิลล์ ได้ชวนประธานาธิบดี รูสเวลท์ เดินทางไปที่เมืองมาร์ราคิช และชมพระอาทิตย์ตกเหนือเทือกเขาแอตลาส ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ เชอร์ชิลล์ วาดภาพนี้ขึ้นในวันต่อมาหลังจากที่ รูสเวลท์ เดินทางกลับไปแล้ว
    .
    ภายหลังการประชุมดังกล่าว ผู้นำทั้งสองได้ยื่นข้อเรียกร้องให้เยอรมนี, อิตาลี และญี่ปุ่น “ยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข” ซึ่งเป็นคำแถลงประวัติศาสตร์ที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทิศทางของสงคราม
    .
    ที่มา: CNN

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ฮุนเซน’ ได้ฤกษ์ใหม่เตรียมฉีดวัคซีนโควิดวันที่ 4 มี.ค.นี้
    .
    .
    .
    เอเคพี - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาเผยว่าจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในวันพฤหัสฯ นี้ (4)
    .
    “หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะเข้ารับการฉีดวัคซีนในเวลา 08.30 น. วันที่ 4 มี.ค.2564 ที่โรงพยาบาล Calmette พร้อมกับจัดแถลงข่าว” ผู้นำเขมรโพสต์ลงบนหน้าเพจเฟซบุ๊ก
    .
    กระทรวงสาธารณสุขประกาศว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในอินเดีย จำนวน 324,000 โดส จากทั้งหมด 1,104,000 โดส ที่กัมพูชาต้องได้รับในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ที่เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือเบื้องต้นจากโครงการโคแว็กซ์ (COVAX) จะมาถึงกัมพูชาในวันที่ 2 มี.ค. เวลา 19.50 น. โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นตัวแทนของรัฐบาลกัมพูชาไปรับวัคซีนจากตัวแทนขององค์การอนามัยโลกและองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ
    .
    “นี่เป็นผลของความร่วมมือระหว่างประเทศที่กัมพูชาได้ทำกับหุ้นส่วนพหุภาคีและสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การอนามัยโลกและองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ” ฮุนเซน กล่าว
    .
    นายกฯ ฮุนเซน ระบุว่า โคแว็กซ์จะจัดหาวัคซีนให้แก่กัมพูชาครอบคลุมประชากรราว 20% ของประเทศ ซึ่งเทียบเท่ากับ 3.2 ล้านคน หรือวัคซีน 6.4 ล้านโดส
    .
    “กัมพูชาขอขอบคุณทุกประเทศ บริษัทต่างๆ และผู้มีจิตกุศลทั่วโลกที่ให้การสนับสนุนเราผ่านโครงการโคแว็กซ์” ผู้นำเขมร กล่าว.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000020057

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ไบเดน” เตรียมประกาศใหญ่ตอบโต้ "ซาอุฯ" กรณีลอบสังหารนักข่าววอชิงตันโพสต์ ..
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ – ผู้นำสหรัฐฯวันเสาร์(27 ก.พ)ยืนยัน รัฐบาลสหรัฐฯจะแถลงในวันจันทร์(1 มี.ค)ถึงมาตรการที่มีต่อซาอุดีอาระเบีย หลังรายงานข่าวกรองลับสหรัฐฯชี้ มกุฎราชกุมารซาอุฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงประทานอนุญาตให้สังหารอดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ จามาล คาช็อกจี ขณะที่คู่หมั้นชาวตุรกี ยืนยันต้องลงโทษผู้อยู่เบื้องหลังทันที
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(1 มี.ค)ว่า รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดนเฉพาะจากหน้าบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่ชี้ว่า ไบเดนสมควรใช้มาตรการหนักต่อมกุฎราชกุมารซาอุฯ ที่ในเวลานี้ไม่ถูกสั่งคว่ำบาตรถึงแม้ว่าพระองค์จะมีชื่ออยู่ในรายงานข่าวกรองลับสหรัฐฯว่า พระองค์เป็นผู้สั่งลอบสังหาร จามาล คาช็อกจี
    .
    ไบเดนตอบนักข่าวเกี่ยวกับการลงโทษเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ในเวลานี้เป็นเจ้าผู้ปกครองซาอุดีอาระเบียไปโดยกลายๆว่า “จะมีการประกาศเกิดขึ้นในวันจันทร์ว่าทางเราจะจัดการกับซาอุดีอาระเบียอย่างไร” แต่ทว่าเขาไม่แสดงความเห็นเพิ่มเติมในรายละเอียด
    .
    อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวออกมายืนยันว่า จะยังไม่มีมาตรการสำคัญออกมาให้เห็น
    .
    “รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกมาตรการใหม่เป็นวงกว้างไปแล้วเมื่อวันศุกร์(26 ก.พ) ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯได้อ้างไปถึงข้อมูลในวันจันทร์ และทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯจะแถลงอธิบายลงในรายละเอียดถึงมาตรการเหล่านั้น แต่ไม่ใช่การประกาศมาตรการใหม่” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯแถลง
    .
    ทั้งนี้ในบรรดามาตรการลงโทษที่ออกมาในวันศุกร์(26)ของสหรัฐฯรวมไปถึง การแบนวีซ่าเข้าสหรัฐฯของเจ้าหน้าที่ซาอุฯที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกันการเสียชีวิตของคาช็อกจี อดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ชาวซาอุฯแต่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ เขาเสียชีวิตที่สถานกงสุลซาอุฯเมืองอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ปี 2018 ขณะกำลังเข้าไปติดต่อขอเอกสารยืนยันเพื่อแต่งงานกับคู่หมั้นสาวชาวตุรกี ฮาติซ เซนจิซ ( Hatice Cengiz)
    .
    และมาตรการลงโทษวันศุกร์(26)ยังรวมไปถึงการคว่ำบาตรคนอื่นๆรวมอดีตผู้ช่วยหัวหน้าข่าวกรองซาอุดีอาระเบีย มีการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้ในสหรัฐฯ และห้ามพลเมืองสหรัฐฯเกี่ยวข้องกับบุคคลเหล่านี้
    .
    หนังสือพิมพ์ซาอุดีอาระเบียวันอาทิตย์(28 ก.พ)ออกมาเตือนสหรัฐฯอย่างล้ำเส้น รังแกพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของตัวเอง
    .
    “อเมริกาไม่มีสิทธิ์ที่จะรังแกพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค และไม่อยู่ในผลประโยชน์ของตัวเองในความแตกต่างทางภายในทำร้ายผลประโยชน์ของตัวเองระดับภูมิภาคและของภูมิภาคเหล่านั้น” หนังสือพิมพ์อัล จาซิราฮ์ (Al Jazirah) กล่าวในฉบับวันอาทิตน์(28 ก.พ) เกิดขึ้นเมื่อไบเดนตัดสินใจอนุมัติให้เปิดเผยรายงานการลอบสังหารคาช็อกจีที่ถูกแช่แข็งไว้โดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งใกล้ชิดกับราชวงศ์ซาอุฯ
    .
    ด้านหนังสือพิมพ์ โอคาซ( Okaz) กล่าวว่า “เราต้องการทำให้ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งร่วมกันแข็งแกร่งโดยที่ไม่ต้องการให้เกี่ยวพันไปถึงราชวงศ์ ระบบยุติธรรมและการตัดสินของพวกเราถือเป็นเส้นตาย”
    .
    อย่างไรก็ตามรอยเตอร์กล่าวว่า คู่หมั้นชาวตุรกีของคาช็อกจียืนยันอย่างหนักแน่นผ่านทวิตเตอร์วันจันทร์(1)ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องได้รับการลงโทษในทันที
    .
    โดยเธอกล่าวว่า “มกุฎราชกุมารซาอุฯ...สมควรต้องได้รับการลงโทษโดยไม่สามารถเลื่อนออกไปได้” และเซนจิซกล่าวต่อว่า “ซึ่งหากพระองค์ไม่ถูกลงโทษแล้ว มันจะกลายเป็นสัญญาณอย่างถาวรที่ชี้ว่า คนร้ายที่แท้จริงสามารถลอยนวลจากคดีฆาตรกรรมและสามารถทำอันตรายต่อเราทุกคนและจะยังคงเป็นบาดแผลต่อมนุษยธรรมของพวกเราตลอดไป”
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อดีตผู้นำฝรั่งเศส “ซาร์กอซี” ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกฐานพยายามติดสินบนผู้พิพากษา
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอพี – อดีตผู้นำฝรั่งเศส นีกอลา ซาร์กอซี กลายเป็นผู้นำคนที่ 2 หลัง ฌัก ชีรัก ที่ถูกสั่งตัดสินผิดในคดีคอร์รัปชัน หลังศาลกรุงปารีสออกคำพิพากษาวันจันทร์(1 มี.ค)ให้เขามีความผิดในคดีติดสินบนผู้พิพากษาและพยายามใช้อิทธิพลเข้าข้องเกี่ยวคดีความระหว่างอยู่ในตำแหน่ง ผู้พิพากษาสั่งโทษจำคุก 3 ปีในเรือนจำและงดโทษไว้ 2 ปี
    .
    เอเอฟพีรายงานวันนี้(1 มี.ค)ว่า อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศสผู้อื้อฉาว นีกอลา ซาร์กอซี (Nicolas Sarkozy)ในวันจันทร์(1)ถูกพิพากษาจำคุก 3 ปีในเรือนจำ แต่ 2 ปีถูกเว้นโทษไว้ ซึ่งเป็นที่เชื่อว่าเขาจะต้องขอยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสิน และจะยังคงเป็นอิสระนอกเรือนจำได้ต่อไปโดยที่ไม่มีหมายจับ
    .
    เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้พิพากษาฝรั่งเศสได้ออกคำสั่งให้ซาร์กอซีสวมกำไลอิเล็กทรอนิกและต้องถูกกักแต่อยู่ในที่พัก
    .
    โดยศาลกล่าวว่า เป็นความจริงที่ร้ายแรงว่า อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศสกลับกระทำผิดด้วยการใช้ตำแหน่งของตัวเองช่วยเหลือผู้พิพากษาในการทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของซาร์กอซี และนอกเหนือจากนี้ อดีตทนายความของซาร์กอซียังเคยเปิดเผยว่า เขาได้รับทราบเป็นอย่างดีในการกระทำความผิดนี้
    .
    ซึ่งผู้ต้องหาร่วมคดี 2 คนร่วมกับซาร์กอซีคือ เทียร์รี เฮอซ็อก (Thierry Herzog) วัย 65 ปีทนายความและเพื่อนสนิท และอดีตผู้พิพากษาที่เกษียณอายุ กิลแบร์ อาซิแบร์ (Gilbert Azibert) วัย 74 ปีถูกตัดสินว่ามีความผิด และได้รับโทษเช่นเดียวกับซาร์กอซี ซึ่งคนทั้งคู่ต่างปฎิเสธการกระทำผิดเช่นเดียวกันกับซาร์กอซี
    .
    คำตัดสินที่ออกมาจากคดีคอร์รัปชันล่าสุดนี้เป็นหนึ่งในมรสุมที่โถมเข้าหาซาร์กอซีวัย 66 ปีซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแดนน้ำหอมระหว่างปี 2007 -2012 และยังคงเป็นที่ชื่นชอบต่อคนจำนวนมากของการเมืองปีกขวาฝรั่งเศส
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า คำตัดสินจำคุกดูเหมือนจะบั่นทอนความพยายามของซาร์กอซีในการกลับเข้าสู่แถวหน้าทางการเมืองฝรั่งเศสอีกครั้งซึ่งเป็นสิ่งที่เขาปฎิเสธ
    .
    สำหรับคดีนี้นีกอลา ซาร์กอซีถูกกล่าวหาว่า พยายามยื่นข้อเสนอต่อผู้พิพากษา กิลแบร์ อาซิแบร์ เพื่อให้ได้รับตำแหน่งระดับสูงในโมนาโก เพื่อแลกเปลี่ยนที่จะได้ข้อมูลลับในการไต่สวนคดีของตัวเองที่ซาร์กอซีถูกกล่าวหาว่าแอบรับเงินผิดกฎหมายจากทายาทสาวเจ้าของแบรนด์ L'Oreal ลีลียาน เบต็องกูร์ ( Liliane Bettencourt) สำหรับเงินช่วยหาเสียงประธานาธิบดีฝรั่งเศสปี 2007 ของตัวเอง อ้างอิงจากรอยเตอร์
    .
    และเรื่องเกิดแดงขึ้นเมื่อมีการแอบดักฟังการสนทนาระหว่างซาร์กอซีและทนายความของเขา เกิดขึ้นที่เขาหมดสมัยการดำรงตำแหน่งแล้ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดี เงินรัฐบาลลิเบียช่วยซาร์กอซีหาเสียง
    .
    อย่างไรก็ตามในการขึ้นศาลชั้นไต่สวน ซาร์กอซียืนยันกับศาลว่า ไม่เคยกระทำผิดแม้แต่น้อยเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน ขณะที่ กิลแบร์ อาซิแบร์ ซึ่งในเวลานั้นดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระดับสูงประจำศาลอุทธรณ์ขั้นสูงสุดฝรั่งเศส ไม่เคยได้รับตำแหน่งในโมนาโก

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ซูจี’ถูกนำตัวขึ้นศาลนัดแรก-เจอยัดข้อหาเพิ่ม ขณะคนพม่ายังคงออกมาประท้วงท้าทาย ทางด้านทั่วโลกประณามทหารปราบโหด และอาเซียนนัดประชุมพรุ่งนี้

    อองซานซูจี ถูกนำตัวขึ้นศาลผ่านระบบสื่อสารทางไกลเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (1 มี.ค.) โดยถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 2 กระทง ขณะที่ชาวพม่ายังคงออกไปชุมนุมประท้วงกันต่อ ถึงแม้คณะปกครองทหารได้ยกระดับการปราบปรามโดยใช้กระสุนจริงทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนเมื่อวันอาทิตย์ (28) ท่ามกลางการประณามจากนานาชาตินำโดยยูเอ็นและวอชิงตัน ด้านอาเซียนเตรียมประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันอังคาร (2) เพื่อหาทางคลี่คลายสถานการณ์ในพม่า

    มิน มิน โซ ทนายความของอองซาน ซูจี เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (1) ว่า ซูจีซึ่งดูแข็งแรงดีระหว่างให้การผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้ร้องขอพบทีมกฎหมายอีกครั้ง

    ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ผู้นี้ไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะอีกเลยนับจากถูกกองทัพทำรัฐประหารเข้ายึดอำนาจและควบคุมตัวเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พร้อมกับผู้นำคนอื่นๆ ของพรรค รวมถึงประธานาธิบดีวิน มิ้น

    แรกทีเดียวซูจีถูกฝ่ายทหารตั้งข้อหาลักลอบนำเข้าวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมายจำนวน 6 เครื่อง โดยอ้างว่าค้นเจอในบ้านพักของเธอที่กรุงเนปิดอ ต่อมาเธอถูกเพิ่มข้อหาละเมิดกฎหมายภัยพิบัติแห่งชาติด้วยการตระเวนหาเสียงซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎป้องกันการระบาดของไวรัส

    ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ ซูจีถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหาคือ ละเมิดกฎหมายการสื่อสาร และมีเจตนายุยงให้เกิดความวุ่นวาย โดยที่ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 15 มีนาคม

    ส่วนประธานาธิบดีวิน มิ้น ซึ่งตอนแรกเจอข้อหาละเมิดกฎหมายภัยพิบัติแห่งชาติ คราวนี้ก็ถูกเพิ่มข้อหาเจตนายุยงให้เกิดความวุ่นวายเช่นเดียวกัน

    การไต่สวนซูจีซึ่งกระทำที่กรุงเนปิดอ มีขึ้นขณะที่ตำรวจในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของพม่า ใช้ระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาเข้าสลายผู้ชุมนุมที่ยังคงออกมาประท้วงตามท้องถนน นอกจากนั้นยังมีการชุมนุมเกิดขึ้นในอีกหลายเมืองทั่วพม่า โดยในวันจันทร์ (1) ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    ทว่า เมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ตำรวจพม่าใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน ขณะที่คณะกรรมาธิการที่เป็นตัวแทนของสมาชิกรัฐสภาพม่าที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน

    ด้านสมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่า บอกว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คนนับจากที่กองทัพยึดอำนาจเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์มีผู้ถูกจับกุมอีกอย่างน้อย 270 คน รวมแล้วยอดผู้ถูกจับกุม ตั้งข้อหา หรือลงโทษนับจากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีจำนวน 1,132 คน

    ทั้งกองทัพและโฆษกสำนักงานตำรวจพม่าไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ ทว่า ในโพสต์วันเดียวกันนั้น หนังสือพิมพ์โกลบัล นิว ไลต์ ออฟ เมียนมา ของทางการ ได้เตือนว่า รัฐบาลอาจต้องใช้มาตรการรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อจัดการม็อบที่สร้างความวุ่นวาย ซึ่งกองทัพไม่อาจเพิกเฉยได้แม้ได้พยายามอดกลั้นมาก่อนหน้านี้

    ทางด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวประณาม “การใช้ความรุนแรงอย่างน่าชิงชัง” ของกองกำลังความมั่นคงพม่า ขณะที่ มาร์ก การ์โน รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา วิจารณ์ว่า การกระทำดังกล่าว “น่าตกใจ” โดยทั้งบลิงเคนและการ์โนเรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือกันตอบโต้คณะทหารเมียนมา

    ทอม แอนดรูส์ ผู้จัดทำรายงานพิเศษของยูเอ็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในพม่า กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่า การปราบปรามของกองทัพพม่าจะดำเนินต่อไปและสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลง ดังนั้น เขาจึงเสนอให้ทั่วโลกคว่ำบาตรการส่งอาวุธให้พม่า และเพิ่มมาตรการแซงก์ชันต่อผู้อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร รวมทั้งธุรกิจของกองทัพพม่า และขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นยื่นฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ

    อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาบรรดานายพลพม่ามักไม่ยี่หระการแซงก์ชันแบบจำกัดและการกดดันทางการทูตของชาติตะวันตก เนื่องจากยังคงได้รับการสนับสนุนจากจีนและรัสเซีย

    ขณะเดียวกัน สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่พม่าร่วมเป็นสมาชิก ยังคงพยายามหาทางคลี่คลายสถานการณ์ในพม่า โดยเมื่อวันจันทร์ วิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ แถลงในรัฐสภาว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันอังคาร โดยจะรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนของรัฐบาลพม่าด้วย

    บาลากริชนันยังเรียกร้องให้กองทัพพม่าละเว้นการใช้ความรุนแรง ดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ทันที ป้องกันไม่ให้เกิดการนองเลือด ความรุนแรง และการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น อีกทั้งทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหารือเพื่อหาทางออกทางการเมืองในระยะยาว ซึ่งรวมถึงการกลับสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่จะเริ่มต้นขึ้นได้ด้วยการปล่อยตัวประธานาธิบดีวิน มิน, ซูจี และผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ ทันที

    วันเดียวกันนั้น ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย แถลงว่า อาเซียนต้องมีบทบาทเชิงรุกมากขึ้นเพื่อทำให้พม่ากลับสู่ภาวะปกติ และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น และทิ้งท้ายว่า มาเลเซียสนับสนุนการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของอาเซียน

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มะกันระบุภาพดาวเทียมชี้ จีนซุ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธ เตรียมพร้อมยิงนุกตอบโต้รุนแรงจากใต้ดิน

    ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันระบุจีนดูเหมือนกำลังเคลื่อนย้ายขีปนาวุธนิวเคลียร์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีตอบโต้อย่างรุนแรงจากไซโลใต้ดิน สอดคล้องกับรายงานของเพนตากอนก่อนหน้านี้

    ฮันส์ คริสเตนเซน ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันที่เฝ้าสังเกตการณ์กองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียและจีนมายาวนาน ระบุว่า ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อปลายปีที่แล้วบ่งชี้ว่า จีนเริ่มสร้างไซโลใต้ดิน 11 แห่งในสถานที่ฝึกอบรมด้านนิวเคลียร์ บริเวณตอนกลางของประเทศ เพิ่มเติมจาก 5 แห่งที่เริ่มสร้างก่อนหน้านั้น และเพิ่มจากไซโลที่มีอยู่เดิม 18-20 แห่งที่จัดเก็บขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) แบบ ดีเอฟ-5 ซึ่งเป็นขีปนาวุธรุ่นเก่า

    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่า จีนกำลังพยายามตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากอเมริกา ขณะที่ช่วงไม่กี่ปีมานี้วอชิงตันระบุว่า การพัฒนาศักยภาพนิวเคลียร์ของปักกิ่งเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับอเมริกาในการทุ่มทุนนับแสนล้านดอลลาร์สร้างคลังแสงนิวเคลียร์ใหม่ในช่วง 2 ทศวรรษข้างหน้า

    อย่างไรก็ตาม คริสเตนเซนซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ที่ทำงานกับสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (Federation of American Scientists) สำทับว่า แม้จีนเพิ่มจำนวนไซโลไอซีบีเอ็มอีก 2-3 เท่า แต่ยังถือว่า น้อยมากเมื่อเทียบกับอเมริกาและรัสเซียที่มีไซโล 450 แห่ง และ 130 แห่งตามลำดับ

    ถึงแม้ไม่มีแนวโน้มว่า อเมริกากับจีนจะเปิดสงครามกัน แต่รายงานของคริสเตนเซนออกมาขณะที่สองชาติมีความขัดแย้งรุนแรงขึ้นตั้งแต่ประเด็นการค้าไปจนถึงความมั่นคงของชาติ และการยกระดับกองกำลังนิวเคลียร์ของจีนอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่สหรัฐฯต้องนำมาพิจารณา ในการตอบโต้ทางทหารต่อการดำเนินการก้าวร้าวของจีน เช่น ในไต้หวันหรือทะเลจีนใต้

    ขณะเดียวกัน แม้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของคริสเตนเซน แต่รายงานประจำปีของเพนตากอนที่เผยแพร่ในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้วระบุว่า ปักกิ่งมีเจตนายกระดับความพร้อมของกองกำลังนิวเคลียร์ด้วยการเคลื่อนย้ายหัวรบนิวเคลียร์จำนวนมากลงไปไว้ในไซโลใต้ดิน เพื่อให้รอดพ้นจากการโจมตีระลอกแรกและสามารถตอบโต้อย่างรุนแรงเพื่อให้ศัตรูได้รับความเสียหายในระดับที่ยอมรับไม่ได้

    เพนตากอนยังระบุว่า จีนกำลังปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ให้ทันสมัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่ครอบคลุมมากขึ้นในการสร้างกองทัพให้มีศักยภาพเทียบเท่า หรือเหนือกว่ากองทัพอเมริกาในบางด้าน ภายในกลางศตวรรษนี้

    อเมริกาคาดว่า คลังแสงนิวเคลียร์ของจีนมีหัวรบเพียง 200 ลูก ขณะที่อเมริกาและรัสเซียมีหัวรบเป็นพันลูก และยังมองว่า กองกำลังจรวดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีนจะเพิ่มขนาดคลังแสงนิวเคลียร์เป็นอย่างน้อย 2 เท่าตัวในช่วงกว่า 10 ปี แต่ยังถือว่า น้อยกว่าของอเมริกามากอยู่ดี

    กระนั้น ไซโลแห่งใหม่เกือบทั้งหมดที่คริสเตนเซนตรวจพบดูเหมือนออกแบบมาสำหรับจัดเก็บไอซีบีเอ็มรุ่นใหม่คือ ดีเอฟ-41 ที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งทำให้พร้อมปล่อยขีปนาวุธเร็วขึ้น โดยมีพิสัยไกลถึงรัฐอะแลสกาและพื้นที่กว้างขวางบนแผ่นดินใหญ่อเมริกา นอกจากนั้นจีนยังมีขีปนาวุธดีเอฟ-41 รุ่นที่สามารถยิงจากรางรถไฟและรถบรรทุก

    คริสเตนเซนมองว่า จีนกำลังพยายามเพิ่มความสามารถในการอยู่รอดของกองกำลังนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้ยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ของจีนมีความก้ำกึ่งระหว่างการป้องปรามการเป็นปฏิปักษ์ของอเมริกา และการตอบโต้การโจมตีของอเมริกา

    ทางด้าน แฟรงก์ โรส เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมอาวุธของกระทรวงต่างประเทศในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีแนวโน้มน้อยมากที่จะทำให้จีนเปลี่ยนใจเข้าร่วมการเจรจาระหว่างประเทศเพื่อจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ แต่จีนอาจสนใจเจรจาถ้าอเมริกายินดีพิจารณาข้อกังวลของตนเองเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบป้องกันขีปนาวุธของอเมริกา

    โรสเสริมว่า จุดสนใจหลักของปักกิ่งคือการสร้างกองกำลังขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยปานกลางที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ ซึ่งเมื่อประกอบกับความสามารถในการโจมตีทางไซเบอร์และระบบที่สามารถทำลายหรือสร้างความเสียหายให้ดาวเทียมอเมริกา อาจสามารถผลักดันให้อเมริกาหลุดออกนอกย่านแปซิฟิกตะวันตก และยากที่จะแทรกแซงหากปักกิ่งตัดสินใจใช้กำลังกับไต้หวัน

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวดีมากๆ!ผลใช้งานจริงพบวัคซีนโควิดของไฟเซอร์และแอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพสูงกับคนชรา

    วัคซีนของทั้งไฟเซอร์และอ็อกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา "มีประสิทธิภาพสูง" ในการลดการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และลดอาการป่วยรุนแรงในหมู่คนชราในสหราชอาณาจักร โดยสามารถลดจำนวนคนไข้สูงวัยอาการหนักที่ถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้มากกว่า 80% จากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่ในวันจันทร์(1มี.ค.)

    จากผลการศึกษาในโลกจริงของสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England) ที่รวบรวมข้อมูลมาตั้งแต่เดือนมกราคม พบว่าในบรรดาผู้สูงวัยอายุ 80 ปีขึ้นไป วัคซีน 1 ปริมาณโดสของวัคซีนไฟเซอร์และวัคซีนอ็อกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพมากกว่า 80% ในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ราวๆ 3 สัปดาห์ถึง 4 สัปดาห์ หลังได้รับวัคซีน

    ผลการศึกษาถูกเผยแพร่ออกมาในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนี กำลังพิจารณากลับลำคำสั่งก่อนหน้านี้ที่ปฏิเสธอนุมัติใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาในคนสูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมัน

    แมตต์ แฮนค็อค รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรยกย่องผลการศึกษาใหม่ว่าเป็นข่าวดีมากๆ "ข้อมูลรายละเอียดแสดงให้เห็นว่ามันช่วยป้องกันคุณจากการติดเชื้อโควิด 35 วันหลังได้รับวัคซีนโดสแรก โดยวัคซีนของอ็อกซืฟอร์ดมีประสิทธิภาพเหนือกว่าวัคซีนของไฟเซอร์เล็กน้อย"

    "วัคซีนทั้ง 2 ตัว มีประสิทธิภาพสูงมากในการลดการติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่คนชราอายุ 70 ปีขึ้นไป" ผลการศึกษาระบุ

    ในผลการศึกษาพบว่าวัคซีนของไฟเซอร์มอบการป้องกันการติดเชื้อราวๆ 57% ถึง 61% หลังได้รับโดสแรก ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกา มอบการป้องกันระหว่าง 60% ถึง 73%

    "นี่คือหลักฐานเพิ่มเติมที่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนกำลังทำงานได้ผลในการลดผู้ติดเชื้อและปกป้องชีวิต" มารี แรมซีย์ หัวหน้าฝ่ายภูมิคุ้มกันของสาธารณสุขอังกฤษกล่าว "มันสำคัญยิ่งที่ต้องตระหนักว่าการป้องกันนั้นไม่สมบูรณ์ และเราไม่รู้ว่าวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงที่คุณจะแพร่เชื้อโควิด-19 สู่คนอื่นๆได้มากน้อยแค่ไหน"

    สหราชอาณาจักรทำการฉีดวัคซีนโดสแรกจากปริมาณทั้งหมด 2 โดส แก่ประชาชนแล้วมากกว่า 20 ล้านคน ส่วนหนึ่งในโครงการฉีดวัคซีนหมู่ที่ถูกมองว่ามีความสำคัญมากในความพยายามสยบการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ครั้งเลวร้ายที่สุดหนหนึ่งของโลก ซึ่งจนถึงตอนนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 123,000 คนในสหราชอาณาจักร

    เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเคลือบแคลงในบางประเทศของยุโรปต่อประสิทธิภาพวัคซีนแอสตราเซเนกา ทาง โจนาธาน ฟาน-ทัม รองหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่แพทย์ของอังกฤษ ระบุว่าผลการศึกษาพิสูจน์แล้วถึงแนวทางของสหราชอาณาจักร "ผมคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป ข้อมูลที่ปรากฏออกมาจากโครงการจะพูดแทนตัวมันเอง และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประเทศอื่นๆจะให้ความสนใจมันเป็นอย่างมาก"

    สหราชอาณาจักรแถลงพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 104 รายในวันจันทร์(1มี.ค.) และพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 5,455 คน ลดลงกว่าครึ่งจากวันจันทร์ที่แล้ว(22ก.พ.) ขณะที่แฮนค็อค เสริมว่าจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อายุ 80 ปีขึ้นไป ที่อาการหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ลดลงเหลือตัวเลขหลักเดียว ในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด

    ในสัปดาห์หน้า สหราชอาณาจักรจะเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์รอบ 3 ของพวกเขา และหวังกลับคืนสู่วิถีชีวิตปกติในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน

    (ที่มา:เอเอฟพี)

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดับความหวัง!WHOเตือนทั่วโลกศึกไวรัสโควิด-19ยังไม่จบในปีนี้ อย่าพึ่งพิงแต่วัคซีน

    ไม่เป็นความจริงหากคิดว่าโลกจะจบศึกโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ในช่วงสิ้นปีนี้ จากคำเตือนขององค์การอนามัยโลก(WHO)ในวันจันทร์(1มี.ค.) พร้อมเน้นย้ำจะพลาดมหันต์ถ้าพึ่งพาวัคซีนแต่เพียงอย่างเดียว ระบุมาตรการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานยังคงมีความสำคัญ

    อย่างไรก็ตาม ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัย เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะนำเรื่องเศร้าออกจากวิกฤตไวัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยการลดจำนวนผู้ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และลดจำนวนผู้เสียชีวิต

    ไรอัน ระบุว่าไวรัสยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม แม้พบผู้ติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ลดลงมา 6 สัปดาห์ติดต่อกัน

    "มันจะเร็วเกินไปมาก และผมคิดว่าไม่เป็นจริง หากคิดว่าเรากำลังจบศึกไวรัสนี้ในช่วงสิ้นปี" ไรอันบอกกับพวกผู้สื่อข่าว "แต่ผมคิดว่าหากเราฉลาดพอ เราสามารถจบมัน ด้วยจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้เสียชีวิต และเรื่องเศร้าที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดใหญ่"

    ไรอัน บอกว่าการฉีดวัคซีนแก่บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนวหน้า และกลุ่มคนที่อ่อนแอต่อการติดเชื้ออาการรุนแรง จะช่วยนำเอาความกลัวออกจากโรคระบาดใหญ่ แต่เขาเสริมว่าความคืบหน้าเร็วๆนี้ไม่ใช่ของตาย แม้เวลานี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส ส่วนใหญ่แล้วอยู่ภายใต้การควบคุม

    เทดรอส แอดฮานอม เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่าเคสผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งในยุโรป ทวีปอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแถบตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน "เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง แต่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ"

    "บางส่วนดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการผ่อนปรนมาตรการต่างๆด้านสาธารณสุข ไวรัสตัวกลายพันธุ์ที่ยังคงวนเวียน และประชาชนการ์ดตก วัคซีนจะช่วยปกป้องชีวิต แต่หากประเทศทั้งหลายพึ่งพิงวัคซีนเพียงอย่างเดียว พวกเขาทำกำลังผิดพลาด มาตรการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานยังคงเป็นพื้นฐานของแนวทางตอบสนอง"

    มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคโควิด-19 องค์การอนามัยโลก เสริมว่า "ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบอกอะไรกับเราบ้าง มันบอกว่าไวรัสจะฟื้นคืนหากเราปล่อยมัน เราไม่สามารถปล่อยวางจากมัน"

    ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกต้องการเห็นวัคซีนโควิด-19 มุ่งหน้าสู่ทุกประเทศในช่วง 100 วันแรกของปี 2021 นั่นหมายความว่ามันเหลือเวลาอีกเพียง 40 วัน

    เขาแสดงความยินดีที่วัคซีนชุดแรกภายใต้โครงการโคแว็กซ์ได้มีการส่งมอบและเริ่มฉีดเป็นที่เรียบรร้อยแล้วในกานาและไอวอรีโคสต์ "มันน่ายินดีที่ได้เห็นบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศต่างๆที่มีรายได้ต่ำได้ฉีดวัคซีน แต่มันน่าเสียใจที่มันเกิดขึ้นเกือบ 3 เดือน หลังบรรดาชาติร่ำรวยบางประเทศเริ่มโครงการฉีดวัคซีนของตนเอง"

    "และมันน่าเสียใจยิ่งกว่า ที่เห็นบางประเทศเดินหน้าวางเป้าหมายฉีดวัคซีนแก่คนหนุ่มสาว คนวัยผู้ใหญ่สุขภาพแข็งแกรงที่มีความเสี่ยงระดับต่ำต่อเชื้อไวรัส ในหมู่ประชากรของตนเอง ก่อนหน้าบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคนชราในประเทศอื่นๆจะได้รับวัคซีนด้วยซ้ำ" เขากล่าวโดยไม่ได้พาดพิงชื่อประเทศ

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สยอง!!แรปเปอร์สเปนใช้มีดตัด'เจ้าโลก'เพื่อนร่วมห้อง หวังเพิ่มยอดคนดูบนสื่อออนไลน์

    แรปเปอร์หนุ่มชาวสเปนรายหนึ่ง ถูกกล่าวหาใช้มีดทำครัวความยาว 12 นิ้ว ตัดอวัยวะเพศชายของเพื่อนร่วมห้อง การลงมืออันน่าสยดสยอง ส่วนหนึ่งในความพยายามดึงดูดความสนใจบนสื่อสังคมออนไลน์

    เว็บไซต์ข่าวอินอิเพนเดนท์รายงานว่านายแอรอน เบลทราน ทำข้อตกลงกับนายแอนดรูว์ บรีช ครูชาวอังกฤษจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด สำหรับตัดอวัยวะเพศของเขา โดย เบลทราน ตกลงจะจ่ายเงินแก่ บรีช เป็นงินจำนวนหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าวิดีโอดังกล่าวมีคนแชร์บนยูทูบมากน้อยแค่ไหน

    รายงานข่าวคาดการณ์ว่าค่าจ้างนั้นน่าจะอยู่ระหว่าง 173 ปอนด์(ประมาณ 7,316 บาท) สูงสุด 2,164 ปอนด์(ราว 91,000 บาท)

    เวลานี้ เบลทราน มีสิทธิ์ติดคุก 4 ปีครึ่ง หากถูกพบว่ามีความผิดฐานกระทำการอันน่าสยดสยองในเมืองซาราโกซา ประเทศสเปน เมื่อเดือนมีนาคม 2019 หลังจากเบื้องต้นเคยใช้เวลา 4 เดือนในเรือนจำ ก่อนได้รับการประกันตัว

    "ค่ำวันที่ 8 มีนาคม ราวๆ 19.15 น. ชายทั้งสองคนอยู่ในห้องของเหยื่อ แอนดรูว์ มัดสายชุดนอนบริเวณส่วนล่างของอัณฑะ ป้องกันไม่ให้เลือดไหลไม่หยุด" เอกสารคำฟ้องระบุ "ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าเขา ตัดอัณฑะของเขาด้วยมีดทำครัวยาว 12 นิ้ว แต่มีดเล่มนี้ค้นหาไม่พบ เพราะว่าผู้ถูกกล่าวหากำจัดทิ้งไปแล้ว"

    ตำรวจรายหนึ่งให้การกับศาลว่า เขาพบ บรีช วัย 35 ปี ซึ่งเป็นครูอยู่ที่สถาบันสอนภาษาท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เลือดไหลออกมาไม่หยุด หลังถูกตัดอวัยวะเพศ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกคนเสริมว่า บรีช ต้องการตัดอวัยเพศของตนเองทิ้ง เพราะว่าเขาไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชายเต็มขั้น

    "ตอนที่เราสอบปากคำเหยื่อในโรงพยาบาล เขาบอกกับเราว่าผู้ต้องหาเป็นคนตัดอวัยวะเพศของเขา แอนดรูว์บอกว่าเขาไม่รู้สึกว่าเป็นชาย 100% และต้องการกำจัดอวัยวะเพศของตนเองทิ้ง" ตำรวจให้การกับศาล

    "เขามีข้อตกลงกับผู้ถูกกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาจะจ่ายเงินเขาราวๆ 200 ยูโร ซึ่งอยู่กับว่ามีคนเข้ามาชมวิดีโอการตัดอวัยวะเพศบนยูทูบมากน้อยแค่ไหน มันเป็นข้อตกลงเป็นพื้นฐานความนิยมที่มีต่อวิดีโอ" ตำรวจระบุ

    สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ในตอนที่ทำการตัดอวัยวะเพศนั้น ชายทั้ง 2 คนดื่มไวน์ไป 4 ขวดและใช้ยาแวเลียม เพื่อรวบรวมความกล้า

    อินอิเพนเดนท์รายงานว่าคณะศัลยแพทย์ได้ผ่าตัดต่ออวัยวะเพศกลับเข้าไปตามเดิม และตอนนี้มันสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว

    บรีช ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3 สัปดาห์ และจากนั้นจึงเดินทางกลับสหราชอาณาจักร

    คณะอัยการชี้ว่าแม้การตัดอวัยวะเพศครั้งนี้เป็นไปด้วยความยินยอม และ บรีช มีภาวะไม่พอใจในเพศสภาพของตนเอง(gender dysphoria) แต่ เบลทราน ก็ยังคงต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่เขาก่อขึ้น

    ในส่วนของ บรีช อ้างระหว่างการพิจารณาคดีว่า เขาเป็นคนลงมือตัดอวัยวะเพศของตนเอง สวนทางกับเมื่อตอนปฏิญาณต่อศาล ที่เวลานั้นเขาบอกว่า เบลทราน เป็นคนลงมือ

    "ผมตัดอวัยวะเพศตนเอง ผมไม่ปกติ มันเป็นฝีมือของผมเอง" เขากล่าว พร้อมอ้างว่าในตอนแรกที่กล่าวโทษเพื่อนร่วมห้องนั้น เป็นเพราะถูกตำรวจกดดัน อย่างไรก็ตามทางตำรวจปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเขา

    (ที่มา:นิวยอร์กโพสต์)

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เผยทรัมป์และภรรยาย่องเงียบฉีดวัคซีนโควิด-19ก่อนอำลาตำแหน่ง

    โดนัลด์ ทรัมป์ และเมลาเนีย ภรรยา เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในเดือนมกราคม ก่อนอำลาทำเนียบขาว จากการเปิดเผยของที่ปรึกษารายหนึ่งของอดีตประธานาธิบดีในวันจันทร์(1มี.ค.)

    "ประธานาธิบดีทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลข 1 เข้ารับวัคซีนที่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม" ที่ปรึกษาระบุโดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม

    โจ ไบเดน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม ฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต่อหน้าสาธารณะเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม แต่การฉีดวัคซีนของทรัมป์ไม่เคยถูกเปิดเผยมาเลยก่อนหน้านี้

    ทรัมป์ กล่าวปราศรัยเมื่อวันอาทิตย์(28ก.พ.) ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกจากทำเนียบขาว แนะนำทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตอเมริกันไปแล้วมากกว่า 500,000 ราย

    เสียงเรียกร้องครั้งนี้มีขึ้นเนื่องจากบรรดาผู้สนับสนุนบางส่วนของทรัมป์ เคยแสดงความเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับวัคซีน

    ทั้งนี้ ทรัมป์ เคยติดเชื้อโควิด-19 แล้วในช่วงต้นเดือนตุลาคม และต้องนอนพักรักษาตัวเป็นเวลาหลายวัน ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านชานกรุงวอชิงตัน

    (ที่มา:เอเอฟพี)

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Google จัดทำ Doodle ร่วมเชิดชูครูเพลงลำตัดและศิลปินแห่งชาติ ‘หวังเต๊ะ’ ในโอกาสวันคล้ายวันเกิด วันที่ 2 มีนาคม

    เนื่องจากวันที่ 2 มีนาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดของ นายหวังดี นิมา หรือ ‘หวังเต๊ะ’ ศิลปินครูเพลงพื้นบ้านที่มีความเชี่ยวชาญเพลงลำตัด เจ้าของคณะลำตัด ‘หวังเต๊ะ’ และเป็นศิลปินแห่งชาติ และเพื่อเป็นการร่วมเชิดชูเกียรติ Google จึงได้จัดทำ ‘Doodle หวังเต๊ะ’ ในฐานะศิลปินแห่งชาติที่ได้ทุ่มเทการทำงานมาตลอดชีวิตเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยประเภทการแสดงลำตัด ให้คงอยู่คู่ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

    ‘ลำตัด’ นั้นเป็นการแสดงในลักษณะของเพลงรับฝีปากของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงโดยตรง หวังเต๊ะได้เริ่มแสดงลำตัดเมื่ออายุเพียง 13-14 ปี และรับแสดงลำตัดอย่างต่อเนื่องนานกว่า 40 ปี จนทำให้เป็นท่านที่นิยมและเป็นรู้จักโดยทั่วไป โดยหวังเต๊ะได้กลายเป็นสัญลักษณ์และเป็นตำนานของลำตัด

    เมื่อช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2468 ในขณะที่ท่านอายุได้ 26 ปี ได้ก่อตั้งคณะลำตัดในชื่อ ‘หวังเต๊ะ’ เป็นของตนเอง หวังเต๊ะเป็นผู้แสดงลำตัดที่เชี่ยวชาญในการใช้ถ้อยคำและสำนวนภาษา ฝีปากการตอบโต้ด้วยการด้นสดได้อย่างน่าฟังสนุกสนาน โดยมีการประยุกต์ข้อมูลเหตุการณ์ปัจจุบันใส่ในคำร้องลำตัดได้อย่างน่าสนใจอยู่เสมอ จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนดูทุกรุ่นทุกวัย และมีผู้มาขอลูกศิษย์ ฝึกฝนวิชาลำตัดกับหวังเต๊ะเป็นจำนวนมาก และในปี พ.ศ. 2531 หวังเต๊ะได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน) เพื่อเป็นการให้เกียรติที่หวังเต๊ะได้เผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน

    ก่อนที่ ‘หวังเต๊ะ’ จะถึงแก่กรรมด้วยสิริอายุได้ 87 ปี ท่านได้พร่ำเพียรถ่ายทอดวิชาลำตัดให้กับลูกศิษย์ลูกหาอย่างต่อเนื่อง และได้ชุบชีวิตให้กับลำตัดซึ่งนับเป็นศิลปะการแสดงที่เกือบจะสิ้นสูญไปให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง Google จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในความภาคภูมิใจในศิลปะการแสดงของไทยสาขานี้

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube ที่ https://bit.ly/2YDfyiK

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปทุมธานี ปิดสถานที่เสี่ยง หลังพบติดเชื้อเพิ่ม 32 คน ขณะที่ ศบค.รายงานยอดติดโควิด-19 รายใหม่ทั่วประเทศวันนี้ 42 ราย

    วันที่ 2 มี.ค.2564) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของวันที่ 1 มี.ค.64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 32 คน จากดำเนินงานเชิงรุก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 581 คน รักษาหายแล้ว 352 คน อยู่ระหว่างการรักษา 229 คน มีการค้นหาเชิงรุกสะสม 34,966 คน

    ล่าสุด จ.ปทุมธานี ได้ออกคำสั่ง เรื่อง ปิดสถานที่ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า "ให้ปิด โรงงาน อาคาร สำนักงาน และพื้นที่พักคนงานโดยรอบ สถานที่ประกอบการของบริษัท ปรีชาอินเตอร์ฟู้ด จำกัด และสถานที่พักซากสัตว์ ซอยรังสิต-ปทุมธานี 27 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี เป็นเวลา 14 วัน และให้ศูนย์ปฎิบัติการควบคุมโรคอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และเจ้าของกิจการหรือสถานที่ ดำเนินการทำความสะอาด ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่เสี่ยงดังกล่าว

    ล่าสุดศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 42 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 35 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 4 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 3 ราย

    จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 26,073 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 8,727 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 14,557 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,789 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 25,420 ราย เพิ่มขึ้น 96 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 84 ราย

    สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 92 ปี ภูมิลำเนา จ.ปทุมธานี มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ มีประวัติไปซื้อของกับแม่ค้าผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ที่ตลาดพรพัฒน์ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.64 ต่อมาเริ่มมีอาการไข้ ไอ เหนื่อย จึงไปรับการรักษาที่ รพ.ในจังหวัดปทุมธานี และผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารักษาตัวในรพ. ต่อมาวันที่ 23 ก.พ.64 มีอาการเหนื่อยมากขึ้นจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตในวันที่ 28 ก.พ.64

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ค่ายรถยนต์เวียดนาม 'VinFast' วางแผนเปิดโรงงานในสหรัฐฯ ลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หวังครองส่วนแบ่งรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกพร้อมพัฒนายานพาหนะพลังงานไฟฟ้าให้เข้าถึงทุกกลุ่ม ทั้งในเวียดนามและตลาดต่างประเทศ

    วันที่ 2 มีนาคม 2564 เว็บไซต์ Bloomberg รายงานว่า บริษัท VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม วางแผนเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ หลังเริ่มว่าจ้างพนักงาน 50 คน และตั้งสำนักงานวิจัยในนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐฯ แล้ว

    รายงานระบุว่า 'VinFast' ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งโรงงานในสหรัฐฯ และยังไม่มีกรอบเวลาในการสร้างโรงงานที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยนต์สัญชาติเวียดนามนี้มีแผนส่งรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐฯ แคนาดาและยุโรป ภายในปีหน้า ซึ่งในปีนี้ 'VinFast' ประกาศเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ 35 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อเตรียมพร้อมแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ

    โดยเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 'VinFast' เพิ่งได้สิทธิ์ในการทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติบนท้องถนนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้ค่ายรถยนต์สัญชาติเวียดนามค่ายนี้ถูกจับตามากยิ่งขึ้นว่า อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของรถยนต์ไฟฟ้าในหมู่ผู้บริโภคชาวอเมริกัน

    สำหรับค่ายรถยนต์ 'VinFast' เป็นส่วนหนึ่งของ 'VinGroup' บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่สัญชาติเวียดนาม ก่อตั้งโดยนายฟาม เญิต เวือง (Pham Nhat Vuong) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วสามารถขายรถยนต์ได้ 30,000 คัน ส่วนปีนี้คาดว่า จะขยับยอดขายรถยนต์ VinFast ให้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 45,000 คัน

    บริษัท VinFast มีแผนเดินหน้ารถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังในปีนี้ ด้วยการสร้างโรงงานในประเทศเวียดนาม ผลิตทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงรถเมล์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อครอบคลุมความต้องการทั้งในตลาดต่างประเทศ และตลาดในเวียดนามที่ผู้คนนิยมใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทาง

    ที่มา https://www.bloomberg.com/news/arti...-plans-u-s-factory-2022-rollout?sref=LQZclhPm
    https://www.reuters.com/article/us-vietnam-vinfast-autonomous-idUSKBN2A808F

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     

แชร์หน้านี้

Loading...