ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 1 , 2021 กรมเชื้อเพลิงฯสั่งการ เชฟรอน-ปตท.สผ. เร่งแก้ปัญหาความล่าช้าการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณเพื่อผลิตก๊าซ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริหารพลังงาน - ประชาชน
    .
    นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ได้เร่งประสานให้ บริษัทเชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในฐานะผุู้รับสัมปทานปัจจุบัน กับบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตหรือ PSC ในแปลงG1/61 หรือแหล่งกลุ่มเอราวัณเดิม เจรจาแก้ปัญหาความล่าช้าในการเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมการต่างๆในช่วงเปลี่ยนผ่าน ก่อนที่ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ฯ จะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติให้มีความต่อเนื่อง และรักษาระดับการผลิตก๊าซฯได้ตามเป้าหมายวันละ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ลบ.ฟุต)
    .
    สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าค่าไฟฟ้าอาจจะแพงขึ้นจากกรณีการผลิตก๊าซฯจากแหล่งกลุ่มเอราวัณมีความล่าช้า นั้น เรื่องดังกล่าวมีสาเหตุจากการเจรจาหารือในการเข้าพื้นที่ระหว่าง บริษัท เชฟรอนฯในฐานะผุู้รับสัมปทานเดิม กับบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ฯดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งระบบสัมปทานเดิมจะสิ้นสุดระยะเวลาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 โดยบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ฯ ในฐานะผู้ดำเนินงานรายใหม่จะต้องเริ่มดำเนินการต่อเพื่อให้มีความต่อเนื่อง
    .
    ทางกรมไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว ทั้งเร่งประสานให้ทั้ง 2 ฝ่ายให้มีการเจรจาโดยเร็วที่สุด และขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่าการเข้าพื้นที่ล่าช้าดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่อยู่ในกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ เพราะเรื่องดังกล่าวก็เป็นไปตามกระบวนการทางข้อกฎหมาย ซึ่งอาจมีความเห็นไม่ตรงกันได้และสามารถเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปแล้วแต่กรณี
    .
    แต่การเข้าพื้นที่ของผู้รับสัญญารายใหม่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition period) นั้น เป็นความจำเป็นที่เราต้องได้รับความร่วมมืออย่างเร่งด่วนและจริงใจของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งรายปัจจุบันและรายใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการ เพื่อการบริหารพลังงานของประเทศจะไม่มีการสะดุด และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งกระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะพยายามเร่งให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาหารือโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายต้องยึดประโยชน์ของคนไทยเป็นหลัก
    .
    #ก๊าซ #เอราวัณ #เชฟรอน #Misterban

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 1 , 2021 ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งรายชื่อ 5 ส.ส.ให้กกต.พิจารณา เพื่อส่งต่อไปยังศาล รธน.ชี้ขาดว่าหมดคุณสมบัติความเป็นส.ส.หรือไม่
    .
    นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาเลื่อนลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทน ส.ส.ที่ถูกดำเนินคดีการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเลื่อนลำดับ ส.ส.ได้ เนื่องจากฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะมีหนังสือส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันนี้ เพื่อให้พิจารณาว่าจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นส.ส. ของทั้ง 5 คนว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแล้วหรือไม่
    .
    โดยทั้ง 5 รายชื่อประกอบด้วย
    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
    นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ
    นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา
    นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร
    นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายขื่อ พรรคประชาธิปัตย์
    .
    ส่วนการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวาระที่ 3 ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันในการพิจารณา เนื่องจากต้องเว้นระยะเวลา 15 วัน ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 มี.ค. ดังนั้นหลังวันที่ 12 มี.ค.ไปแล้ว จะขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเมื่อใดก็ได้
    .
    โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานระหว่างเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกับสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลเป็นผู้กำหนดวันที่รัฐบาลพร้อม และยืนยันว่าการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 3 ไม่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกระบวนการทั้งหมดเป็นหน้าที่ของสภาฯ ไม่เกี่ยวกับองค์กรภายนอก เพราะสภาฯ ต้องเดินหน้าทำหน้าที่
    .
    ส่วนเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง เมื่อคืนนี้ซึ่งมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมว่า อยากให้ทุกฝ่ายรักษากฎหมายและคำนึงถึงประโยชน์ของบ้านเมือง เพราะถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และใช้หลักตามรัฐธรรมนูญในการใช้สิทธิชุมนุมโดยสงบ และทุกฝ่ายพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงนอกเหนือกฎหมาย เพราะเวลาข้างหน้าจะมีผลกลับมาขอให้ทุกฝ่ายระวัง ซึ่งในส่วนของรัฐสภา ยังคงเดินหน้าสร้างความปรองดองโดยคณะกรรมการสมานฉันท์ อยู่ระหว่างศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น
    .
    #5สส #กปปส #Misterban

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 1 , 2021 ราคาบ้านออสเตรเลียเดือนก.พ.เพิ่ม 2.1% พุ่งสูงสุดรอบ 17 ปี รับสถานการณ์คลายล็อกดาวน์โควิด
    .
    CoreLogic Inc. ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ของออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ราคาบ้านทั่วประเทศของออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 17 ปี โดยข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์
    .
    โดยราคาบ้านในกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย พุ่งขึ้น 2% นำโดยราคาบ้านในเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์นปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด
    .
    ทิม ลอว์เลส หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoreLogic กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของออสเตรเลียเริ่มฟื้นตัว โดยได้ปัจจัยหนุนจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และการที่รัฐบาลออกมาตรการสร้างแรงจูงใจ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาบ้านยังบ่งชี้ว่า ประชาชนเริ่มคลายกังวลจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศใช้เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
    .
    รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้วเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าและผู้สูงอายุเป็นกลุ่มแรก โดยการฉีดวัคซีนในช่วงสัปดาห์แรก ออสเตรเลียจะใช้วัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ส่วนวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าชุดแรกจะจัดส่งมาถึงออสเตรเลียในไม่ช้านี้
    .
    ทั้งนี้ วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจะนำไปฉีดให้กับประชากรส่วนใหญ่ของออสเตรเลียราว 25 ล้านคน โดยบริษัท CSL ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของออสเตรเลียจะเริ่มผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าได้กลางเดือนมี.ค.นี้ และจะนำไปฉีดให้กับเป้าหมาย 4 ล้านคนในเดือนมี.ค. โดยคาดว่าจะฉีดได้ครบภายในเดือนต.ค.
    .
    #ราคาบ้าน #ออสเตรเลีย #รอบ17ปี #สูงสุด #Misterban

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 1 ,2021 จ.สมุทรสาครรายงานผู้ติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยรายใหม่ 19 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 16,377 ราย หายป่วย/จำหน่ายแล้ว 16,115 ราย และเสียชีวิตสะสม 7 ราย
    .
    #COVID19 #มหาชัย #ไวรัสโคโรน่า2019 #วิธีป้องกันไวรัสโควิด #ไม่ตระหนกและไม่ประมาท #Misterban

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 1 ,2021 จ.ปทุมธานี รายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12 รายแบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2 ราย และผู้ติดเชื้อรายใหม่จากดำเนินงานเชิงรุก 10 ราย รวมยอดสะสม 549 ราย
    .
    อยู่ระหว่างการรักษา 236 รายและรักษาหายแล้ว 313 ราย
    .
    #โควิด #Covid19 #ปทุมธานี #Misterban

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 1 ,2021 แก้หวยเกินราคา!! กองสลากฯ เปิดรับสมัครตัวแทนขายหวย 80 บาท รับโควต้าจำหน่ายเพิ่มเป็น 25 เล่ม เปิดรับสมัครถึง 5 มี.ค.นี้
    .
    รายงานข่าวจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลากประเภทบุคคลทั่วไป เป็น ผู้ค้ารายเดิมที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรี เพื่อเข้าร่วมเป็นเครือข่ายจีแอลโอ ออฟฟิเซียล เซลเลอร์ส จำหน่ายสลากฯใบละ 80 บาทให้แก่ประชาชน เป็นทางเลือกในการขายลอตเตอรี่ตามราคาที่กฎหมายกำหนด
    .
    โดยแนวทางดังกล่าว จะแก้ปัญหาลอตเตอรี่เกินราคาได้ และจะเปิดรับสมัครถึง 5 มี.ค.2564 นี้ พร้อมประกาศผลคัดเลือกตัวแทนภายในเดือน พ.ค.2564
    .
    เบื้องต้นจะนำร่องเปิดรับสมัครในกรุงเทพฯ และนนทบุรีก่อน โดยกรุงเทพฯจะเปิดรับสมัคร 50 จุด เขตละ 1 จุด และนนทบุรี 6 จุด อำเภอละ 1 จุด เมื่อสมัครเข้าร่วมและผ่านการคัดเลือกเป็นเครือข่ายแล้ว จะมีโอกาสได้รับลอตเตอรี่จากสำนักงานสลากฯไปขายเพิ่มจากงวดละ 5 เล่ม เป็น 25 เล่ม แต่ต้องห้ามนำไปขายต่อ หรือขายเกิน 80 บาท พร้อมกับปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยหากดำเนินการและได้ผลดี สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาขยายเครือข่ายลอตเตอรี่ 80 บาทไปยังจังหวัดอื่นต่อไป
    .
    ส่วนคุณสมบัติผู้เข้าร่วมจะต้องเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ประเภทบุคคลทั่วไปที่อยู่ในระบบอยู่แล้ว ต้องมีจุดจำหน่ายที่ตั้งชัดเจน ห้ามเดินเร่ขาย ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน My GLO เพื่อแจ้งข้อมูลจุดจำหน่าย วัน เวลา และข้อมูลการซื้อขาย พร้อมกับต้องนำวิธีการจำหน่ายสลากฯ 80 บาท
    .
    รวมถึงเสนอแนวทางป้องกันไม่ให้มีการซื้อไปขายต่อ หรือขายเหมาออกไป และต้องมีกล้องวงจรปิดบริเวณจุดหน่ายสลาก เพื่อบันทึกการซื้อ-ขายสลากเพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่มีการตรวจสอบ หรือร้องเรียน
    .
    พร้อมยังกำหนดว่าต้องจำหน่ายสลากด้วยวิธีขายปลีกให้กับผู้บริโภคโดยตรงเท่านั้น ห้ามขายส่งให้กับผู้ที่จะนำไปจำหน่ายต่อไปอีกทอดหนึ่ง รวมถึงต้องเป็นคนจำหน่ายเอง แต่ถ้ามีลูกน้องต้องระบุรายชื่อและแจ้งให้สำนักงานสลากฯ รับทราบ
    .
    รวมถึงต้องแต่งกายตามที่กำหนดไว้ รวมถึงจะต้องขายเฉพาะสลากที่สำนักงานสลากฯ จัดสรรให้เท่านั้น ห้ามรับสลากจากที่อื่นมาขายเพิ่มเติม ที่สำคัญจะต้องมีการวางหลักประกัน 10% ของมูลค่าราคาสลากที่ได้รับ หากมีการปฏิบัติผิดสัญญาจะถูกยึดเงินประกัน
    .
    สำหรับวิธีการคัดเลือกเครือข่ายจะนำข้อมูลของตัวแทนมาตรวจสอบว่าตรงกับคุณสมบัติที่กำหนดหรือไม่ โดยหากมีผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติเกินกว่าที่ต้องการ สำนักงานสลากฯ จะใช้วิธีเลือกแบบการจัดเรียงลำดับแบบสุ่ม รวมถึงจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลจุดจำหน่ายจริงของผู้สมัครหากพบให้ข้อมูลเป็นเท็จจะยกเลิกทันที
    .
    โดยหลังจากผ่านตรวจสอบแล้วจะต้องเข้าอบรมการเป็นเครือข่ายด้วย โดยสิ่งที่เครือข่ายจะได้รับ นอกจากได้สลากเพิ่มเป็นงวดละ 25 เล่มไปจำหน่ายแล้ว ยังได้ตราสัญลักษณ์ จีแอลโอ ออฟฟิเซียล เซลเลอร์ส เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์จุดจำหน่ายเครือข่ายด้วย
    .
    #หวย #สลากกินแบ่งรัฐบาล #ขายเกินราคา #Misterban

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น่าชื่นชม! “โมดี” ยื่นแขนรับวัคซีนโควิด-19 อินเดียคิดค้นเองประเดิมเป็นเข็มแรกเพื่อชาติ
    .
    .
    .
    .
    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ล่าสุดวันนี้(1 มี.ค)นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ทำการเปิดตัววัคซีนโควิด-19ที่ทางแดนภารตะคิดค้นชื่อ โคแว็กซิน(COVAXIN) ด้วยการรับวัคซีนตัวนี้เป็นคนแรกของโลก ถึงแม้จะยังไม่เปิดเผยประสิทธิภาพวัคซีนต่อสาธารณะ
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(1 มี.ค)ว่า อินเดียชึ่งเริ่มต้นโครงการแจกวัคซีนโควิด-19 มาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ซึ่งในเวลานี้ประชากรชาวอินเดียอายุ 60 ปีขึ้นไป หรืออายุ 45 ปีที่ประสบปัญหาจากโรคอื่นมีคุณสมบัติสามารถรับวัคซีนได้
    .
    อินเดียเป็นชาติที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองเป็นแค่จากสหรัฐฯ โดยนิวเดลีสามารถแจกวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วจำนวนกว่า 12 ล้านคนของเจ้าหน้าที่การแพทย์ซึ่งเป็นแถวหน้า
    .
    โมดีซึ่งได้รับวัคซีนโควิด-19 ชื่อ โคแว็กซิน(COVAXIN) ในวันจันทร์(1) ซึ่งเป็นวัคซีนที่อินเดียผลิตขึ้นได้เอง
    .
    โมดีแถลงผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ช่างน่าทึ่งที่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ของเราร่วมกันทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อความแข็งแกร่งในการต่อสู้ระดับโลกต่อวิกฤตโควิด-19” พร้อมกับการโพสต์ภาพระหว่างการรับวัคซีนที่โรงพยาบาลรัฐบาลในกรุงนิวเดลี
    .
    “ผมร้องขอทุกคนที่มีคุณสมบัติที่สามารถรับวัคซีนได้ ร่วมกัน ช่วยทำให้อินเดียปลอดจากโควิด-19!” โมดีแถลง
    .
    ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมาทางรัฐบาลนิวเดลีได้ประกาศประชาชนสามารถเลือกศูนย์แจกวัคซีนโควิด-19 เองได้ รวมไปถึงยังสามารถอนุญาตให้ชาวอินเดียเลือกเองได้ว่าจะรับวัคซีนแอสตราเซเนกาหรือ โคแว็กซิน ซึ่งต่างจากอดีต
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า โครงการแจกวัคซีนโควิด-19 ในอินเดียเป็นไปได้ด้วยความล่าช้ากว่าที่คิดเนื่องจากความลังเลของกลุ่มเจ้าหน้าที่การแพทย์อินเดียต่อวัคซีน โคแว็กซิน ที่ถูกอนุมัติให้ใช้ฉุกเฉินในประเทศโดยไม่มีรายงานประสิทธิภาพเฟส 3 ออกมา
    .
    พบว่ามีเพียงแค่ 11% เท่านั้นที่เลือกวัคซีนอินเดียตัวนี้ วัคซีน โคแว็กซิน ผลิตขึ้นจากบริษัทบารัต ไบโอเทค(Bharat Biotech)
    .
    ฮินดูสถาน สื่ออินเดีย รายงานเพิ่มเติมว่า การที่วัคซีนโคแว็กซินได้รับไฟเขียวให้ใช้ได้โดยที่ไม่ผลลัพท์การทดลองเฟส 3 ออกมา สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว ขณะที่รัฐบาลอินเดียออกมาแถลงยืนยันว่า วัคซีนตัวนี้ที่อินเดียผลิตขึ้นมาเองมีความปลอดภัย
    .
    วัคซีนโคแว็กซินถูกผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีการใช้ไวรัสทั้งตัวที่สิ้นฤทธิ์ที่มีไวรัสตายแล้วที่ไม่สามารถทำอันตรายต่ออมุษย์แต่ยังคงมีความสามารถที่จะสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อได้ อ้างอิงจากสื่ออินเดีย
    .
    ด้าน บารัต ไบโอเทค กล่าวแถลงว่า ค่าประสิทธิภาพเฟส 3 ของการทดลองในอาสาสมัครเกือบ 26,000 คนกำลังจะออกมาในไม่ช้า

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ซูจี’ โดนศาลตั้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ด้านผู้ชุมนุมยังเหนียวแน่นรวมตัวลงถนนแม้เพิ่งโดนปราบหนัก
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ - ทนายความของอองซานซูจีเผยว่าศาลได้ตั้งข้อหากับเธอเพิ่มอีก 2 ข้อหาในวันนี้ (1) ขณะที่ผู้ชุมนุมประท้วงเดินขบวนประท้วงรัฐประหาร ท้าทายการปราบปรามของกองกำลังความมั่นคงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนวานนี้
    .
    มิน มิน โซ ทนายความ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ซูจีดูแข็งแรงดีขณะที่เธอเข้าร่วมการพิจารณาคดีของศาลผ่านการประชุมทางไกลในกรุงเนปีดอ และเธอได้ขอพบกับทีมกฎหมายของเธอ
    .
    หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ไม่ปรากฎตัวต่อสาธารณะมาตั้งแต่รัฐบาลของเธอถูกขับออกจากการรัฐประหารของกองทัพเมื่อวันที่ 1 ก.พ. และเธอถูกควบคุมตัวพร้อมกับผู้นำพรรคคนอื่นๆ
    .
    ในตอนแรก ซูจีถูกตั้งข้อนำเข้าวิทยุสื่อสารวอล์กกี้-ทอล์กกี้ 6 เครื่องอย่างผิดกฎหมาย และต่อมาถูกเพิ่มข้อหาละเมิดกฎหมายภัยพิบัติทางธรรมชาติจากการละเมิดมาตรการควบคุมโควิด-19
    .
    ในวันนี้ (1) ข้อหาที่ถูกเพิ่มเข้ามาอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญายุคอาณานิคมที่ห้ามมิให้เผยแพร่ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความกลัวหรือตกใจ หรือขัดขวางความสงบสุขของประชาชน มิน มิน โซ ระบุ ส่วนอีกข้อหาหนึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายโทรคมนาคมที่กำหนดว่าอุปกรณ์ต้องมีใบอนุญาต และการพิจารณาคดีครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 15 มี.ค.
    .
    พม่าตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่ที่กองทัพเข้ายึดอำนาจหลังจากกล่าวหาว่ามีการโกงในการเลือกตั้งเดือนพ.ย. ที่พรรค NLD ของซูจีชนะไปอย่างถล่มทลาย
    .
    ในขณะที่ซูจีปรากฎตัวในการพิจารณาคดีของศาลผ่านการประชุมทางไกล ตำรวจในนครย่างกุ้งใช้ระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาเข้าสลายผู้ชุมนุมประท้วง ตามการระบุของพยาน หนึ่งวันหลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีการรัฐประหาร
    .
    ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด แต่การชุมนุมที่เกิดขึ้นวานนี้ (28) ตำรวจได้เปิดฉากยิงใส่ฝูงชนในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 18 คน ตามการระบุของสำนักงานสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ
    .
    “เป็นเวลา 1 เดือนแล้วนับตั้งแต่รัฐประหาร เมื่อวานพวกเขาปราบปรามพวกเราด้วยการยิง วันนี้เราก็จะออกมากันอีก” อี ตินซา หม่อง แกนนำการชุมนุมประท้วงโพสต์เฟซบุ๊ก
    .
    “เราต้องประท้วงต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ผู้ชุมนุมรายหนึ่งกล่าวทางโทรศัพท์ หลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตาบังคับให้เขาและคนอื่นๆ ต้องทิ้งสิ่งกีดขวางบนถนนในย่างกุ้ง
    .
    ทหารไม่ได้แสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในวันอาทิตย์ และโฆษกของตำรวจและทหารไม่ได้ตอบรับการติดต่อของรอยเตอร์
    .
    ในช่วงเช้า ตำรวจพร้อมรถฉีดน้ำแรงดันสูงและรถทหารถูกระดมไปยังจุดชุมนุมประท้วงในย่างกุ้ง ขณะที่ฝูงชนรวมตัวร้องตะโกนคำประท้วง
    .
    ผู้ชุมนุมยังรวมตัวเดินขบวนในเมืองกะเล่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ชูรูปอองซานซูจี และร้องตะโกนคำต่อต้านรัฐประหาร
    .
    ภาพวิดีโอถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กยังเผยให้เห็นกลุ่มคนสวมหมวกแข็งรวมตัวกันที่ถนนสายหนึ่งในเมืองล่าเสี้ยว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ร้องตะโกนคำประท้วง ขณะที่ตำรวจเดินเข้าหาพวกเขา และที่เมืองพะโค ก็มีการเดินขบวนต่อต้านการรัฐประหารเช่นกัน
    .
    การรัฐประหารที่ทำให้การก้าวสู่ประชาธิปไตยของประเทศต้องหยุดชะงักได้ดึงดูดผู้คนหลายแสนคนลงถนนประท้วง และการประณามจากชาติตะวันตก
    .
    แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามสิ่งที่เขาเรียกว่าความรุนแรงที่น่ารังเกียจโดยกองกำลังความมั่นคงของพม่า ขณะที่ มาร์ค กาโน รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา กล่าวว่าการใช้กำลังที่รุนแรงถึงชีวิตของทหารเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ซึ่งทั้งคู่เรียกร้องการตอบโต้ที่เป็นหนึ่งเดียว
    .
    ทอม แอนดรูว์ ผู้เสนอรายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในพม่า ระบุว่า เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลทหารยังคงดำเนินการโจมตีต่อเนื่อง ดังนั้นประชาคมโลกควรยกระดับการตอบโต้ โดยเขาได้เสนอให้ดำเนินมาตรการห้ามค้าอาวุธ และให้ประเทศต่างๆ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร คว่ำบาตรธุรกิจของทหาร และให้คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติยื่นเรื่องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ
    .
    “การกล่าวประณามเป็นเรื่องที่ดีแต่ยังไม่เพียงพอ เราต้องลงมือดำเนินการ ฝันร้ายในพม่าที่ปรากฎให้เห็นต่อสายตาเราจะเลวร้ายกว่านี้ โลกต้องลงมือดำเนินการ” แอนดรูว์
    .
    คณะกรรมการที่เป็นตัวแทนของสมาชิกรัฐสภาที่ชนะที่นั่งในการเลือกตั้งเดือนพ.ย. กล่าว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน ในเหตุความรุนแรงวันอาทิตย์ ตัวเลขที่รอยเตอร์ยังไม่สามารถตรวจสอบได้
    .
    ในโพสต์ที่ลงวันที่ 28 ก.พ. หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ เตือนว่าจะมีการดำเนินการอย่างรุนแรงกับกลุ่มม็อบอนาธิปไตยที่กองทัพไม่สามารถเพิกเฉยได้ แม้ก่อนหน้านี้จะแสดงความยับยั้งชั่งใจก็ตาม
    .
    สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองกล่าวว่ามีประชาชนอย่างน้อย 270 คน ถูกควบคุมตัวในวันอาทิตย์ จากทั้งหมด 1,132 คน ที่ถูกจับกุม ตั้งข้อหา และลงโทษตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000019922

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลาวสั่งยุบกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี กระจายงานไป 5 กระทรวง
    .
    .
    MGR Online - พรรคประชาชนปฏิวัติลาวปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐก่อนประกาศรายชื่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลชุดใหม่ สั่งยุบกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระจายงาน กำลังคน และงบประมาณให้ไปสังกัด 5 กระทรวง
    .
    กรมการเมืองศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ได้มีมติเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ให้ยุบเลิกกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้กระจายหน่วยงานและบุคลากรไปยังกระทรวงอื่นๆ ดังนี้
    .
    1.สับเปลี่ยนงานด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงรัฐกรและพนักงานด้านนี้ให้ไปสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและกีฬา
    2.สับเปลี่ยนงานด้านเทคโนโลยี รวมถึงรัฐกรและพนักงานด้านนี้ให้ไปสังกัดกระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสาร
    3.สับเปลี่ยนงานด้านมาตรฐาน การตรวจวัด รวมถึงรัฐกรและพนักงานนี้ให้ไปสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า
    4.สับเปลี่ยนให้สถาบันนิเวศวิทยาและเทคโนโลยีชีวภาพ ให้ไปขึ้นกับกระทรวงอุตสาหกรรมและป่าไม้
    5.โอนมอบงานด้านพลังงานทดแทนและวัสดุใหม่ ไปขึ้นกับกระทรวงพลังงานและบ่อแร่
    6.สับเปลี่ยนหน่วยงานสนับสนุน เช่น สำนักงานปลัดกระทรวง กรมจัดตั้งและพนักงาน กรมตรวจตรา กรมแผนงานและความร่วมมือ ให้ไปสังกัดกระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสาร กระทรวงศึกษาธิการและกีฬา และกระทรวงอุตสาหกรรมและป่าไม้
    7.สับเปลี่ยนพนักงานอื่นๆ ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ไปสังกัดกระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสาร กระทรวงศึกษาธิการและกีฬา กระทรวงอุตสาหกรรมและป่าไม้ และกระทรวง องค์กรอื่นๆ หรือส่งลงท้องถิ่น
    .
    สำหรับการสับเปลี่ยนและโอนมอบงานทั้งหมดข้างต้น ให้มอบโอนทั้งงาน กำลังคน งบประมาณ วัสดุ-อุปกรณ์ และทรัพย์สินไปยังหน่วยงานปลายทาง โดยมตินี้ให้มีผลทันทีที่มีการลงนาม ลงชื่อ ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่ พรรคประชาชนปฏิวัติลาว
    .
    ทั้งนี้ ลาวกำลังอยู่ในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังมีการประชุมสมาชิกทั่วประเทศครั้งที่ 11 ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว เมื่อวันที่ 13-15 มกราคม และเพิ่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติชุดที่ 9 ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ โดยที่ประชุมพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ได้เลือกนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรค แทนนายบุนยัง วอละจิต
    .
    อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญต่างๆ ต้องรอให้มีการประกาศผลเลือกตั้งสมาชิกแห่งชาติชุดใหม่อย่างเป็นทางการ และมีนัดประชุมครั้งแรกกันเสียก่อน เนื่องจากตำแหน่งผู้บริหารประเทศ ได้แก่ ประธานประเทศ ประธานสภาแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ประธานศาลประชาชนสูงสุด ต้องได้รับการแต่งตั้งจากสภาแห่งชาติเท่านั้น.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000019979

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จัดหนัก!ฮ่องกงใช้กฎหมายความมั่นคงใหม่ ตั้งข้อหาหนัก47นักเคลื่อนไหวบ่อนทำลายรัฐ

    บรรดานักรณรงค์และนักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกง 47 คน เมื่อวันอาทิตย์(28ก.พ.) ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดก่อการบ่อนทำลายรัฐ ในการปราบปรามฝ่ายต่อต้านครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่กำหนดโดยจีน

    ในบรรดาผู้ถูกตั้งข้อหานั้น รวมไปถึง แซม จาง นักเคลื่อนไหววัย 27 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมศึกเลือกตั้งแบบไพรมารีอย่างไม่เป็นทางการเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ซึ่งถูกตั้งข้อหา หลังจากเดินทางเข้าไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง

    "ชาวฮ่องกงมีช่วงเวลาที่หนักหน่วงมากในวันนี้" เขาบอกกับผู้สื่อข่าวก่อนเข้าไปยังสถานี "ผมหวังว่าทุกคนจะไม่ยอมแพ้และสู้ต่อไป"

    จาง ถูกจับพร้อมกับนักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยคนอื่นๆอีก 54 คน ในช่วงรุ่งสางเมื่อวันที่ 6 มกราคม ในปฏิบัติการด้านความมั่นคงแห่งชาติขนานใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กฎหมายผ่านความเห็นชอบเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน

    พวกเขาถูกกล่าวหาจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว เพื่อเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติส่วนที่มาจากการเลือกตั้ง โดยพวกเขาหวังว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะเสียงข้างมากในสภานี้ได้เป็นครั้งแรก

    แต่เจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงกล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นกันเองครั้งนั้นว่าเป็นความพยายาม "โค่นล้ม" และทำให้รัฐบาลฮ่องกง "เป็นอัมพาต" ฉะนั้นจึงถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ

    ตำรวจฮ่องกงระบุว่าว่าบุคคล 47 ราย ถูกตั้งข้อหาคนละ 1 กระทง ฐาน "สมรู้ร่วมคิดบ่อนทำลายรัฐ" ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดอาญาตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ในฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และทั้งหมดจะต้องขึ้นศาลในวันจันทร์(1มี.ค.)

    การตัดสินใจครั้งข้อหาบรรดานักเคลื่อนไหวจำนวนมากในคราวเดียว อาจบ่อนทำลายความเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านอย่างหนักหน่วง โดยผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นๆนั้นมีทั้งอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ, นักวิชาการ, ทนายความ, นักสังคมสงเคราะห์ ไปจนถึงนักเคลื่อนไหวรุ่นหนุ่มสาว

    สำนักงานสหภาพยุโรปประจำฮ่องกงเรียกร้องปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมในทันที "ลักษณะของการแจ้งข้อหาเหล่านี้ ชัดเจนว่าพหุนิยมทางการเมืองจะไม่เป็นที่อดทนในฮ่องกง"

    พวกที่ถูกจับกุมในเดือนมกราคม มีเพียง 8 คนที่ไม่ถูกตั้งข้อหาในวันอาทิตย์(28ก.พ.) ในนั้นรวมถึง จอห์น คลานซีย์ ทนายความสิทธิมนุษยชนชาวสหรัฐฯ และ เจมส์ โท นักเคลื่อนไหวอาวุโส ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัว

    การยกระดับใช้กฎหมายเล่นงานพวกนักเคลื่อนไหวท้องถิ่นมีขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่จีนเตรียมเปิดตัวกฎหมายปฏิรูปการเลือกตั้ง ซึ่งดูเหมือนจะบั่นทอนบทบาทและอิทธิพลของขุมกำลังฝ่ายค้านเพิ่มเติม

    "นี่คือการส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวอย่างมากจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าเขาต้องการกำจัดฝ่ายประชาธิปไตยในฮ่องกง" ซันนี จาง นักเคลื่อนไหวที่ลี้ภัยในต่างแดน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สทางโทรศัพท์ "หากประชาคมนานาชาติไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆต่อเผด็จการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สีจะชนะ เสรีภาพและประชาธิปไตยจะล่มสลาย"

    ตำรวจฮ่องกงเปิดเผยว่าจนถึงตอนนี้มีบุคคลต่างๆ 99 ราย ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยละเมิดกฎหมายด้านความมั่นคง

    กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่บังคับใช้ในฮ่องกง มีเนื้อหาสำคัญเป็นข้อห้ามสี่ประการเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ได้แก่ การบ่อนทำลายการปกครอง การแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้ายและการคบคิดกับต่างชาติเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคง ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

    จีนอ้างความชอบธรรมของกฎหมายดังกล่าว เพื่อคืนความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตามหลังการประท้วงใหญ่ในปี 2019 ต่อต้านสิ่งที่พวกผู้ชุมนุมมองว่าเป็นความพยายามของจีนที่ต้องการปราบปรามเสรีภาพและอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง ภายใต้สูตร "1 ประเทศ 2 ระบบ" ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 1997 ครั้งที่ปักกิ่งรับมอบเกาะแห่งนี้คืนจากสหราชอาณาจักร

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ความทรงจำแห่งหยาดน้ำตาดั่งสายนที: #1ปีกับ5แสนชีวิตที่ปลิดปลิวในมหาวิปโยคโรคระบาดโควิด19 #USA

    เมื่อวาเลนไทนส์ปีที่แล้ว ผู้คนในสหรัฐอเมริกาไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะต้องเผชิญมหาวิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

    ชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ยังไม่ถึงกับโกลาหล แม้ความกังวลจะทวีตัวมากขึ้นต่อเรื่องของโรคลึกลับในระบบทางเดินหายใจซึ่งถูกขนานนามว่าโควิด-19 มีการแตกตื่นซื้อของใช้ตุนไว้เผื่อฉุกเฉินบ้าง มีความหวาดหวั่นก่อตัวบ้าง กระนั้นก็ตาม คนอเมริกันยังรู้สึกกันว่าโรคโควิด-19 เป็นปัญหาของประเทศอื่น และเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่ได้เริ่มมีการประกาศกรณีเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 รายแรกของประเทศกันแล้วก็ตาม

    หนึ่งปีผ่านไป อเมริกามีผู้เสียชีวิดจากโรคโควิด-19 มากที่สุดของโลก ด้วยหลักไมล์อันน่าสยดสยอง ณ 500,000 ราย

    สหรัฐฯ ซึ่งมั่งคั่งและทรงอำนาจ มาถึงจุดแห่งมหาวิปโยคซึ่งไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนนี้ ได้อย่างไร

    สำนักข่าวเอพีจัดทำบันทึกเรื่องราวและภาพถ่ายที่จารึกถึงความทุกข์ตรม ความเจ็บปวด และความทรหดของผู้คนในประเทศ บันทึกที่จะแสดงให้เห็นว่ากาลเวลาหนึ่งปีได้เปลี่ยนแปลงอเมริกาไปอย่างมหาศาลราวใด

    #ในช่วงแรกวิกฤติโรคระบาดดูเป็นเรื่องไกลตัว

    เดือนกุมภาพันธ์ 2020 คนอเมริกันยังทักทายกันด้วยประเพณีจับมือเช็กแฮนด์ และเดินทางไปทำงานด้วยระบบขนส่งสาธารณะอันแน่นขนัด เด็กๆ ยังศึกษาหาความรู้อยู่ในห้องเรียนปกติ ทอม แฮงก์ส ดาราคนดังแห่งฮอลลีวู้ดยังเดินบนพรมแดงในงานประกวดผลรางวัลออสการ์โดยไม่ทราบชะตากรรมว่าอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เขาและศรีภรรยาจะติดเชื้อโควิด-19 ฝูงชนยังไปร่วมชมกิจกรรมกีฬาอย่างเนืองแน่นโดยไม่สวมหน้ากากอนามัยที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ

    และแล้ว สัญญาณลางร้ายใกล้แผ่นดินอเมริกาปรากฏขึ้น เมื่อ The Grand Princess เรือสำราญไซส์ยักษ์อลังการ ที่สุดแห่งความเลิศหรู ล่องลำออกจากชายฝั่งแคลิฟอร์เนียไปสู่มหาสมุทรโดยมีผู้โดยสาร 3 รายที่ไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ร่วมเดินทางไปด้วย แนวทางการจัดการในช่วงต้นที่กำหนดโดยผู้มีอำนาจระดับรัฐและระดับประเทศเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 บนเรือสำราญนี้ ด้วยการห้าม The Grand Princess กลับเข้าชายฝั่ง ได้กลายเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ความเชื่อผิดๆ ของอเมริกาว่าตนสามารถกางกั้นไม่ให้โรคร้ายนี้เข้าสู่ประเทศ

    ในวันคืนที่เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังคืบคลานเข้าสู่สหรัฐฯ ถ้อยคำสำคัญ อาทิ ปิดเมือง ปิดประเทศ สร้างระยะห่างทางสังคม ยังไม่อยู่ในคลังศัพท์ของผู้คนในอเมริกา นอกจากนั้น ยังแทบจะไม่มีประชาชนที่ยอมสวมหน้ากากอนามัยในที่แออัด เช่น ในขณะเบียดเสียดกันในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อแย่งซื้อกระดาษชำระก่อนที่สินค้าจะเกลี้ยงไปจากหิ้ง หรือขณะต่อคิวยาวเหยียดเพื่อซื้อข้าวของเครื่องใช้ไปตุนไว้เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน

    #ดวงใจสลาย #สภาพจิตใจท้อแท้: #ชะตากรรมนี้มาถึงไวมาก

    สภาพการณ์ดั่งฝันร้ายอันน่าหวาดกลัวซึ่งประชาชนในอเมริกาได้เห็นจากประสบการณ์ตรงของประเทศจีนและประเทศอิตาลีได้มาถึงแผ่นดินสหรัฐฯ รวดเร็วเกินคาด

    บรรดาบ้านพักคนชราใกล้เมืองซีแอตเทิลกลายเป็นแหล่งการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 รุ่นแรกที่ร้ายกาจอย่างที่สุดของสหรัฐฯ ผู้คนในอเมริกาตลอดจนประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้เห็นภาพอันน่าสะเทือนใจที่ผู้ชราและผู้เจ็บป่วยอ่อนแอต้องทนทุกข์ต่อสู้โรคร้ายไปตามลำพัง ดังเช่นที่ได้เห็นในภาพที่ 4 ว่าคุณยายอายุมากกว่า 80 ปี ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ต้องนอนพักรักษาตัวโดยที่ญาติไม่สามารถเข้าไปดูแลโอบกอดให้กำลังใจ ในภาพนี้คุณลูกสาวได้แต่นั่งให้แม่เห็นหน้า จากอีกข้างหนึ่งของกำแพงแก้วด้านนอกอาคาร และสนทนากันผ่านโทรศัพท์มือถือ ตามมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

    ในเดือนมีนาคม 2020 องค์การอนามัยโลกประกาศสถานการณ์วิกฤติโรคระบาดโควิด-19 หลังจากนั้น สถานที่ทุกแห่งนับจากสถานศึกษา ไปจนถึงสำนักงานธุรกิจ กลายเป็นสถานที่ว่างเปล่า ด้านสมาคมกีฬาอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือ เอ็นซีเอเอ ประกาศจัดการแข่งขันบาสเก็ตบอลระหว่างสถานศึกษาแบบถ่ายทอดสด โดยเป็นการเล่นต่อหน้าเก้าอี้ว่างๆ เต็มสนามการแข่งขัน แต่ไม่นานหลังจากนั้น ก็ประกาศยกเลิกการแข่งขัน

    ชื่อของดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าของสหรัฐฯ ในด้านโรคติดเชื้อ กลายเป็นชื่อสามัญประจำบ้านของชาวประชาในอเมริกา เพราะมีการเอ่ยนามคุณหมอเฟาซีทุกวันในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 กระนั้นก็ตาม เมื่อดร.เฟาซีออกมาประกาศเมื่อเดือนมีนาคมเพื่อให้ตัวเลขประมาณการว่าจะมีชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 หรือไม่เกิน 200,000 ราย ต้องเสียชีวิตจากโรคไวรัสวายร้ายนี้ สาธารณชนรู้สึกผวากลัว แต่ส่วนเลือกที่จะไม่เชื่อ

    ด้านประธานาธิบดีโรนัลด์ ทรัมป์ซึ่งดำรงตำแหน่งนี้ในปี 2020 กลับโน้มน้าวประชาชนด้วยการเสนอว่ายา ไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) ซึ่งเป็นยาต้านมาลาเรีย จะเป็น “พลิกเกม” ในการต่อสู้เอาชนะโรคโควิด-19 ทว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์พากันคัดค้าน

    ชีวิตในกระแสความรีบเร่งกระฉับกระเฉงของผู้คนในสหรัฐฯ ต้องมาถึงภาวะนิ่งงัน เมื่อพื้นที่การระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ปรากฏขึ้นคู่ขนานกันมหาศาลในทุกรัฐทั่วประเทศ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมหานครนิวยอร์กอันเกรียงไกร

    ย่านไทม์สแควร์ยังเจิดจรัสด้วยแสงสีสดใสและไฮเทค แต่ฝูงชนและพลังอันคึกคักแห่งเศรษฐกิจและความบันเทิงได้สูญหายไป บรรยากาศสนุกสนานของชีวิตเดือนเมษายนในมหานครนิวยอร์กกลายเป็นความสงัดน่าหดหู่ที่ชวนให้นึกถึงวันสิ้นโลก เพราะถนนที่ปราศจากผู้คน แลดูเป็นหนังผีวิญญาณหลอนด้วยรถพยาบาลแผดเสียงหวอกึกก้องทั้งขาขึ้นและขาล่องแทบจะตลอดเวลา บริเวณด้านนอกของโรงพยาบาลต่างๆ เต็มไปด้วยรถห้องเย็นจอดรอให้บริการเก็บรักษาบรรดาร่างไร้วิญญาณของเหยื่อโควิด-19 ที่ถูกห่อมาในถุงป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย พื้นที่เหล่านี้กลายเป็นห้องเก็บศพชั่วคราว พร้อมกับเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายที่กระแทกขวัญของผู้พบเห็น

    #ชีวิตปลิดปลิวเกลื่อนกล่นดั่งใบไม้ร่วงในห้วงแห่งฤดูใบไม้ผลิ

    เมื่อชีวิตปลิดปลิวเกลื่อนกล่นราวกับใบไม้ร่วงในห้วงแห่งฤดูใบไม้ผลิ เมษายน 2020 อัตราตายด้วยโรคระบาดโควิด-19 ในแต่ละวันพุ่งทะยานสูงลิ่วกระทั่งว่าล้นหลามเกินศักยภาพของโรงพยาบาล สถานจัดพิธีศพ วัด สุสาน ฯลฯ ผู้คนในสหรัฐฯ จึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมละม้ายประเทศแถบอเมริกาใต้อย่างเอกวาดอร์

    จำนวนศพแห่งเหยื่อโควิด-19 ในมหานครนิวยอร์กมีล้นพ้นกระทั่งว่า บางส่วนของศพไม่มีญาติจะถูกบรรจุลงในโลงกระดาษรอส่งเข้าเตาเผา และอีกมากมายมหาศาลถูกนำไปฝังในหลุมรวมหมู่ในสุสาน City Cemetery อันเป็นสุสานของทางการนิวยอร์กซิตี้บนเกาะฮาร์ตไอส์แลนด์ใกล้ชายฝั่งของเขตบรองซ์ ซึ่งมีอยู่ตั้งแต่ปี 1869 เพื่อฝังศพไร้ญาติ

    ภาพถ่ายจากมุมสูงที่เอพีบันทึกไว้ เป็นอีกหนึ่งภาพที่ชาวอเมริกันไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องประสบกับชะตาชีวิตของคนร่วมชาติที่น่าอนาถใจเยี่ยงนี้ เหล่าเจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่ปิดมิดชิดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ค่อยๆ หย่อนโลงศพนับร้อยลงในหลุมศพรวมหมู่ที่ลึกมาก ลักษณะเป็นหลุมขนาดสี่เหลี่ยมแถบยาวเหยียด แต่ละโลงถูกบรรจงหย่อนลงไปตั้งเรียงรายและตั้งซ้อนเทินทับกันขึ้นไปสามชั้น

    ผู้คนในอเมริกาทั้งทึ่งทั้งพิศวงกับความกล้าหาญและทุ่มเทที่บุคลากรด้านสาธารณสุขปฏิบัติอย่างต่อเนื่องไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยเหลือเหยื่อแห่งโควิด-19 ดังนั้น ในอันที่จะแสดงความขอบคุณ ณ เวลาหนึ่งทุ่มของทุกคืน คนนิวยอร์กช่วยกันปรบมือ ส่งเสียงร้องเชียร์ และตีหม้อตีกระทะ เป็นเกียรติแก่แพทย์และพยาบาลทั้งปวง

    เหล่านี้เป็นการระลึกถึงความเจ็บปวดและทรมานไม่รู้จบที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องแบกรับอยู่ในแนวหน้าแห่งสงครามอันโรมรับกับโรคร้ายโควิด-19

    แม้จะมีความกลัวและความอ่อนล้า แต่บุคลากรทางการแพทย์ต่างไม่ย่อท้อกับการต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย พร้อมทั้งตั้งปณิธานที่จะไม่ปล่อยให้เหยื่อของโควิด-19 ต้องจากโลกไปอย่างเดียวดาย ภายในห้องรักษาผู้ป่วยทั้งหลาย ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนนับไม่ถ้วนไม่สามารถมีญาติเข้าไปปลอบโยนให้กำลังใจ ภารกิจแห่งการปลอบประโลมใจตกอยู่ในมือของแพทย์ พยาบาล และอนุศาสนาจารย์ซึ่งล้วนแต่เหนื่อยหนักจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างหักโหมเนิ่นนาน บางท่านต้องกลั้นสะอื้นขณะที่มอบการปลอบประโลมใจและคำภาวนาแก่ผู้ป่วยรายแล้วรายเล่า

    ในท่ามกลางแรงกดดันอันน่าปวดร้าวนี้ อนุศาสนาจารย์ท่านหนึ่งในรัฐจอร์เจียกล่าวว่า “ไม่เคยมีการตายครั้งใดที่มากมายเท่ากับครั้งนี้ มันท่วมทับอยู่บนดวงใจ มันหนักหนาเหลือเกิน”

    #USกับความจริงสุดอัปยศ: #สหรัฐฯกลายเป็นจุดศูนย์กลางแห่งโรคโควิด19 #ที่ระบาดในระดับโลก

    ผลจากนโยบายอันผิดพลาดของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ความเป็นจริงอันเจ็บปวดจึงปรากฏขึ้นมาว่า ในท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19 ในทุกหย่อมหญ้าทั่วโลกซึ่งมีความรุนแรงสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่นั้น สหรัฐฯ ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางแห่งโรคระบาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ชีวิตต้องไปเคลื่อนไหวอยู่ในโลกออนไลน์ ทุกสิ่งทุกอย่างนับจากการทำงาน การศึกษาเล่าเรียน ไปจนถึงการนัดแพทย์ การจัดปาร์ตี้วันเกิด การจัดพิธีแต่งงาน และเหนืออื่นใด การจัดพิธีศพ ล้วนแต่ดำเนินอยู่ในโลกออนไลน์

    ยิ่งกว่านั้น ผู้คนในสหรัฐฯ ตระหนักชัดว่าไม่มีใครเลยที่ปลอดภัย แต่มีบางคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าผู้อื่นอย่างมหาศาล โดยเป็นไปในสภาพการณ์ที่มีความไม่เท่าเทียมในเชิงเชื้อชาติ กล่าวคือตัวเลขสถิติของทางการได้แสดงให้เห็นว่า ในบรรดาผู้ติดเชื้อโควิด-19 สัดส่วนของผู้ป่วยที่เป็นเชื้อชาติแอฟริกันและลาตินนั้นพุ่งสูงเวอร์อย่างยิ่ง และทำนองเดียวกันในบรรดาผู้วายชนม์ด้วยโรคโควิด-19 สัดส่วนของรายที่เป็นเชื้อชาติแอฟริกันและลาตินก็สูงเวอร์อย่างยิ่งเช่นกัน

    การติดโรคโควิด-19 กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่เล่นงานเศรษฐกิจและสังคมของอเมริกา เพราะโรคระบาดรุนแรงนี้เป็นเหตุให้สังคมต้องปิดตัวเอง บังคับให้ธุรกิจต่างๆ ต้องหยุดลง ขณะที่ปัญหาอัตราการว่างงานทะยานสูงเสียดฟ้า รายได้ของผู้คนหลายล้านครัวเรือนต้องลดฮวบบ้าง ถูกตัดหายไปบ้าง ในเวลาเดียวกัน ปัญหาความอดอยากซึ่งรุนแรงอยู่แล้ว ต้องถูกกระหน่ำซ้ำเติมสาหัสยิ่งขึ้นไปทั่วประเทศ ผู้คนมหาศาลพากันเข้าคิวที่ฟู้ดแบงก์ศูนย์การบริจาคอาหาร โดยมีจำนวนมากที่ต้องรับอาหารบริจาคเป็นครั้งแรกในชีวิต

    ยิ่งกว่านั้น อเมริกายังถูกซ้ำเติมจากฝ่ายการเมือง ซึ่งทิ้งขว้างหลักการคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์ของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข อีกทั้งยังนำไปใช้เล่นงานโจมตีฝ่ายตรงข้าม ความแตกแยกภายในชาติที่ได้หยั่งรากลึกเป็นพิษร้ายอยู่ในสังคม จึงยิ่งบาดลึกลงไปอีก พร้อมกับทำให้ความตึงเครียดของประเทศเพิ่มทบทวีจนปรากฏออกมาให้เห็นอยู่ทั่วไป กระนั้นก็ตาม ในเวลาที่การประท้วงต่อต้านความไม่ยุติธรรมทางเชื้อชาติสีผิว กระตุ้นเร้าผู้คนให้ออกมาเข้าร่วมแน่นขนัดตามท้องถนนนั้น มาตรการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิดก็ได้รับการปฏิบัติตามอย่างกว้างขวาง

    ในท่ามกลางชีวิตที่ผิดปกติไปหมดนั้น คนอเมริกันมากมายสามารถสร้างสรรค์ความเป็นปกติเล็กๆ ให้แก่ตนเองได้บ้างเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ ร้านอาหารถูกสั่งให้ขายอาหารเฉพาะแบบห่อกลับไปรับประทานที่บ้าน แต่ลูกค้าบางรายขับรถมาจอดหน้าร้าน นำโต๊ะ เก้าอี้ ผ้าปูโต๊ะ จานชามกระเบื้องงามหรูมาปักหลักเพลิดเพลินกับอาหารอิตาเลียนที่เจ้าของร้านขายแบบห่อใส่กล่อง

    #แสงเลือนรางแห่งความหวังปรากฏกลางธันวาคม

    ภายในแวดล้อมแห่งการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักและญาติพี่น้องกับผองเพื่อน วัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ก้าวเข้าสู่ชีวิตของผู้คนในสหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2020 ตามด้วยการรณรงค์ฉีดวัคซีนครั้งใหญ่โตที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ นับเป็นข่าวดีรายการแรกในปีแห่งหายนะก็ว่าได้ สังคมส่งเสียงเชียร์นโยบายการให้วัคซีนแก่กลุ่มแพทย์และพยาบาลเป็นกลุ่มแรก หลายคนน้ำตาร่วงในความโล่งใจที่ยุคยามแห่งความทุกข์ทรมานและโศกเศร้าอันยาวนานจะล่วงพ้นไปเสียที

    เมื่อปริมาณวัคซีนค่อยๆ ทวีจำนวนขึ้นมา สถานที่แห่งความสุขสันต์หรรษาที่ร้างรานานหลายเดือน อาทิ สวนสนุกและสนามกีฬา ก็ได้กลับมารับใช้ชุมชนอีกคราหนึ่ง ด้วยการเป็นสถานที่เพื่อฉีดวัคซีนแก่ประชาชน

    ในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ซึ่งเป็นวันเวลาแห่งความหวัง บรรยากาศที่แจ่มใสดีขึ้นถูกสลับแทรกด้วยร่องรอยความทุกข์เศร้า เก้าอี้ที่ว่างเปล่าเพราะผู้ที่เคยนั่งตรงนั้น ได้จากโลกไปแล้วด้วยโรคระบาดโควิด-19 กลายเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความจริงอันเจ็บปวด

    กระนั้นก็ตาม หายนะหวนกลับมาอีกคำรบหนึ่ง เพราะคนอเมริกันนับล้านพากันละเลยคำอ้อนวอนของบุคลากรทางการแพทย์ที่ร้องขอให้ช่วยกันงดเว้นการเดินทางตลอดจนการรวมกลุ่มทางสังคม ดังนั้น ประเพณีประจำปีได้กลายเป็นตัวเร่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ซึ่งสาหัสหนักหนา เพราะวิกฤติโรคระบาดที่พุ่งทะยานช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ ได้สมทบทับถมไปบนวิกฤติของช่วงขอบคุณพระเจ้านั่นเอง

    #โบกมือลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่ #แต่ไตรมาสแรกจะสาหัสละม้ายเดิม

    ปัจจัยบวกที่สำคัญประการหนึ่งในการเอาชนะโควิด-19 คือความหักเหทางการเมือง โดยโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่เข้าบริหารประเทศแทนโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากสี่ปีที่อเมริกาตกอยู่ในความโกลาหลและความขัดแย้งอันมหาศาล ประธานาธิบดีไบเดนนำบรรยากาศอันสงบมั่นคงดีขึ้น เข้ามาในการเมืองของชาติ กระนั้นก็ตาม ปัญหาความล่าช้าที่จะได้รับวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ ยังไม่อาจยุติได้ ดังนั้น จึงไม่แน่ชัดว่าอเมริกาได้ชัยชนะในสงครามต่อต้านไวรัสแล้วหรือไม่

    ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 สถิติหลายหมวดดีขึ้น อาทิ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ยต่อวันได้ลดต่ำลงมากมาย หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในเดือนมกราคม นอกจากนั้นอัตราการเสียชีวิตรายวันก็ลดฮวบลงตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระนั้นก็ตามตัวเลขเหล่านั้นไม่สามารถรั้งยอดการเสียชีวิตสะสมให้อยู่ต่ำกว่าเพดาน 500,000 ราย

    และแล้ว ณ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2021 ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ ได้ทะยานขึ้นสูงเกินเพดาน 500,000 ราย หลังจากที่ได้ทำสถิติ 300,000 รายเมื่อเดือนธันวาคม และแตะระดับ 200,000 รายในเดือนกันยายน และ 100,000 รายเมื่อช่วงกลางปี 2020 การที่ผู้คนล้มตายมหาศาลในวิกฤติโควิด-19 นี้ ถูกนำไปเทียบกับยอดการเสียชีวิตในเหตุการณ์ใหญ่โตอื่นๆ ของประเทศ ว่ายอดรวมคนอเมริกันที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2, สงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม ยังต่ำกว่ายอดการเสียชีวิตด้วยโควิด-19

    ยิ่งกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญให้ประมาณการไว้แล้วว่าตัวเลขสถิติจะวิ่งขึ้นไปอีกมาก ด้วยสาเหตุจากไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งมีอันตรายสูงยิ่งเพราะสามารถแพร่ระบาดได้ไวยิ่งขึ้นแต่ป้องกันยากกว่าเดิม ในเวลาเดียวกัน ฝ่ายต่างๆ ล้วนตระหนักว่าชาวอเมริกันยังฉีดวัคซีนไม่มากพอ

    คำถามถึงอนาคตมีอยู่หลายหลาก ซึ่งยากจะให้คำตอบได้ว่าชีวิตวิถีใหม่ นิวนอร์มอล นั้นจะมีลักษณะอย่างไร จะได้เดินเบียดเสียดในฝูงชนที่สวนสนุกหรือโรงหนังอีกไหม จะได้ร่วมอยู่กับฝูงชนอันเนืองแน่นในมหกรรมนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ ณ ไทม์สแควร์กันอีกหรือไม่ ในเมื่อผู้เชี่ยวชาญให้ประมาณมาว่าทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยและร่วมกันเฝ้าระวังไปจนสิ้นศักราช 2021

    ปีแห่งหายนะของอเมริกาได้สอนให้เราต้องไม่ลืมที่จะอดทนรอคอยคำตอบ รอคอยอยู่ในความตั้งมั่นจนกว่าจะถึงเวลาที่ทุกสิ่งจะแสดงตนออกมาให้ได้ทราบพร้อมกัน

    โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

    (ที่มา: เอพี วิกิพีเดีย เอเอฟพี รอยเตอร์)

    #บรรยายภาพที่1
    คณะแพทย์และพยาบาลในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองยองเกอร์ส รัฐนิวยอร์ก ให้การรักษาแก่ผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2020 ผู้ป่วยรายนี้มีบุญไม่ใช่น้อยที่สามารถฟื้นตัวและปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย เพราะอเมริกามีผู้ป่วยมากกว่าห้าแสนรายที่ต้องเสียชีวิตไปในมหาวิปโยคโควิด-19 อันเป็นหายนะที่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ หากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์มีการรับมือกับวิกฤติการณ์นี้ได้อย่างถูกต้อง

    #บรรยายภาพที่2
    เจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่ปิดมิดชิดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ช่วยกันฝังร่างไร้วิญญาณของเหยื่อโควิด-19 ในช่วงการระบาดใหญ่ในเดือนเมษายน 2020 ณ สุสาน City Cemetery อันเป็นสุสานของทางการนิวยอร์กซิตี้ บนเกาะฮาร์ตไอส์แลนด์ ใกล้ชายฝั่งของเขตบรองซ์ สุสานแห่งนี้มีมาตั้งแต่ปี 1869 เพื่อฝังศพไร้ญาติ

    #บรรยายภาพที่3
    อนุศาสนาจารย์คริสติน มิเชลเซน กุมมือของผู้วายชนม์ด้วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาล Providence Holy Cross Medical Center ในลอสแอนเจลิส เมื่อ 9 มกราคม 2021 อนุศาสนาจารย์มิเชลเซนโทรศัพท์ให้กำลังใจแก่ลูกหลานของผู้วายชนม์ว่า ดิฉันกุมมือของบุคคลผู้เป็นที่รักของคุณ และมอบความอบอุ่นใจให้เขาในเวลาสำคัญที่คุณไม่สามารถเข้ามาดูแลส่งเขากลับสู่อ้อมอกพระผู้เป็นเจ้า

    #บรรยายภาพที่4
    (ภาพบน) คนพิการและไร้บ้านถูกทอดทิ้งให้ผจญชะตากรรมตามลำพังบนรถเข็นในท่ามกลางสายฝนและความมืดมน เอพีบันทึกภาพนี้ที่สวนสาธารณะ Echo Park ในลอสแอนเจลิส เมื่อ 6 เมษายน 2020
    (ภาพล่าง) คนไร้บ้านเป็นประชากรกลุ่มหนึ่งซึ่งเปราะบางเป็นพิเศษ มีโอกาสจะติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิด-19 ได้อย่างง่ายดาย ทางการของซานฟรานซิสโกมีการจัดพื้นที่ให้พักอาศัยในรูปแบบที่มีระยะห่างทางสังคมภายในศูนย์ Civic Center โดยขีดเส้นตารางพื้นที่ที่แน่นอนให้คนไร้บ้านได้นำร่มขาดๆ และรถเข็นสมบัติมอมแมมมาปักหลักพักพิงชั่วคราว ภาพนี้บันทึกไว้เมื่อ 21 พฤษภาคม 2020

    #ดูภาพทั้งหมด
    https://mgronline.com/around/detail/9640000019734

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิหร่านปฏิเสธแนวคิดหารือไม่เป็นทางการกับUSและยุโรป รื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์

    อิหร่านเมื่อวันอาทิตย์(28ก.พ.) ปฏิเสธแนวคิดประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับสหรัฐฯและมหาอำนาจยุโรป เพื่อหารือถึงแนวทางต่างๆเพื่อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เตหะรานทำไว้กับเหล่ามหาอำนาจในปี 2015 ยืนกรานวอชิงตันต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวทั้งหมดเสียก่อน

    "เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและถ้อยแถลงเร็วๆนี้ของสหรัฐฯและ 3 ชาติมหาอำนาจของยุโรป อิหร่านพิจารณาว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับประเทศเหล่านี้ ซึ่งเสนอโดยหัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านระบุ

    สหรัฐฯบอกว่ารู้สึกผิดหวัง แต่เน้นย้ำพร้อมสำหรับคืนสู่การเจรจาทางการทูตอย่างมีความหมายในประเด็นดังกล่าว

    ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อิหร่านบอกว่าเตหะรานกำลังศึกษาข้อเสนอจากโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป สำหรับจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับฝ่ายอื่นๆในข้อตกลงนิวเคลียร์และกับสหรัฐฯ ซึ่งรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น ถอนอเมริกาพ้นจากข้อตกลงในปี 2018

    รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าพวกเขาพร้อมเจรจากับอิหร่าน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ทั้งสองประเทศจะหวนคืนสู่ข้อตกลง ในขณะที่ข้อตกลงนี้เป็นการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่กำหนดเล่นงานอิหร่าน แลกกับการที่เตหะรานระงับโครงการนิวเคลียร์ ป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง

    อย่างไรก็ตามทั้สองฝ่ายไม่สามารถเห็นพ้องต้องกันว่าใครควรเป็นคนเริ่มก่อน โดยอิหร่านบอกว่าอเมริกาต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ส่วนวอชิงตันระบุเตหะรานต้องกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ก่อน หลังจากที่ผ่านมา อิหร่านค่อยๆละเมิดข้อตกลงตามลำดับ

    โฆษกทำเนียบขาวระบุว่าวอชิงตันยังคงหวังบรรลุเป้าหมายคืนสู่การปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ร่วมกัน พร้อมบอกว่าสหรัฐฯจะปรึกษากับพันธมิตรผู้ลงนามในข้อตกลง ซึ่งประกอบด้วยจีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักรและเยอรมนี หาหนทางที่ดีที่สุดสำหรับเดินหน้าในเรื่องนี้

    แหล่งข่าวด้านการทูตระดับอาวุโส บอกว่าการปฏิเสธของอิหร่าน เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางการทูต

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘แคเธอรีน ไท่’ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯคนใหม่ของ‘ไบเดน’ เป็นคนที่รู้จัก‘จีน’ทุกซอกทุกมุมจริงๆ
    โดย แฟรงก์ เฉิน

    แคเธอรีน ไท่ จะอาศัยทักษะความชำนาญในการพูดภาษาจีนกลาง และรากเหง้าของครอบครัวที่เป็นผู้อพยพจากแผ่นดินใหญ่ มาเป็นประโยชน์ในการเจรจาทางการค้าที่สหรัฐฯจะทำกับจีนในอนาคต

    แคเธอรีน ไท่ (Katherine Tai) ด้วยรูปร่างลักษณะแบบชาวเอเชียของเธอ รวมทั้งนามสกุลที่เธอใช้ ทำให้ได้รับการจับตาด้วยความสนอกสนใจและความอยากรู้อยากเห็นกันอย่างมากมายเป็นพิเศษในประเทศจีน ภายหลัง โจ ไบเดน เสนอชื่อนักกฎหมายด้านการค้าวัย 47 ปีผู้นี้ให้เข้ารับภารกิจเป็นที่ปรึกษาทางการค้าและผู้เจรจาด้านการค้าตัวหลักในคณะบริหารของเขา

    หากวุฒิสภาอเมริกันมีมติรับรองให้เธอเข้าดำรงตำแหน่ง “ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ” (US Trade Representative) คนใหม่ ไท่ ก็จะเข้ายืนอยู่ตรงแถวหน้าของการบริหารจัดการความสัมพันธ์ทางการค้าที่สหรัฐฯมีอยู่กับจีน รวมทั้งมีศักยภาพที่จะปรับเปลี่ยนกรอบโครงของความสัมพันธ์นี้เสียใหม่ ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ก้าวลงจากอำนาจเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เปิดฉากทำสงครามทางการค้าและทางเทคมุ่งโจมตีเล่นงานปักกิ่ง

    จากรากเหง้าทางครอบครัวที่อยู่ในสภาพสามัญธรรมดาของ ไท่, รวมทั้งการที่เธอถือกำเนิดขณะครอบครัวอพยพไปลงหลักปักฐานใหม่ในสหรัฐฯไม่นานนัก , การที่เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นเลิศของอเมริกา, และการผงาดโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการทำงานในหมู่เจ้าหน้าที่ช่วยงานของพรรคเดโมแครต เหล่านี้คือเรื่องเล่าแบบโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการทำให้ “ความฝันแบบอเมริกัน” (American Dream) กลายเป็นความจริงโดยแท้

    ภายหลังใช้เวลาลับเขี้ยวเล็บของเธอให้แหลมคมยิ่งขึ้นกับสำนักงานกฎหมายหลายแห่งในกรุงวอชิงตัน ไท่ ผู้ซึ่งจบปริญญาตรีวิชาเอกประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยล และต่อด้วยปริญญาด้านกฎหมายจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ก็ได้เข้าทำงานที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯในปี 2007 โดยเวลานั้นเป็นสมัยของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ คือ ซูซาน ชวับ (Susan Schwab)

    ช่วงปีแรกๆ ของคณะบริหารบารัค โอบามา เธอได้รับการโปรโมตให้ขึ้นเป็นรองที่ปรึกษาใหญ่ทางกฎหมายของสำนักงานผู้แทนการค้า (trade office’s deputy general counsel) ที่มีความชำนาญพิเศษด้านการบังคับใช้นโยบายการค้ากับจีน ก่อนได้รับการเสนอชื่อจากไบเดนครั้งนี้ ไท่ เป็นที่ปรึกษาใหญ่ฝ่ายกฎหมายทางด้านการค้าของพรรคเดโมแครต ในการร่างเอกสารของคณะกรรมาธิการจัดหารายได้แห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (House Ways and Means Committee) อันป็นตำแหน่งที่เธอครองมาตั้งแต่ปี 2014

    เมื่อข่าวเรื่องเธอได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนการค้าสหรัฐฯคนใหม่แพร่ออกไป ริชาร์ด นีล (Richard Neal) ประธานของคณะกรรมาธิการจัดหารายได้ ได้กล่าวยกย่องบทบาทของเธอที่ทำให้ ความตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (US-Mexico-Canada Trade Agreement) เสร็จสิ้นลงไปได้ ด้วยการเสนอแง่มุมสำคัญทางกฎหมายซึ่งสามารถเรียกความสนับสนุนจากทั้งฝ่ายพรรคเดโมแครตและฝ่ายพรรครีพับลิกันให้ผ่านร่างความตกลงฉบับนี้

    “ทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับการเลือกตั้งซึ่งมีแนวคิดทางการมืองผิดแผกแตกต่างกัน, พวกผู้นำด้านแรงงาน, และประชาคมธุรกิจ ล้วนแล้วแต่มีความไว้เนื้อเชื่อใจ แคเธอรีน และเชื่อถือด้วยเหตุผลที่ดีงาม สิ่งซึ่งสามารถแข่งขันกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างโดดเด่นเป็นพิเศษของเธอได้ ก็ดูมีแต่ความทรหดที่ซ่อนอยู่เบื้องลึกและบุคลิกลักษณะซึ่งดีเลิศของเธอเท่านั้น” นีล บอก พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า เธอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดจริงๆ สำหรับตำแหน่งที่ทรงความสำคัญยิ่งยวดนี้

    “ขณะที่สหรัฐฯหาทางแก้ไขซ่อมแซมความสัมพันธ์กับพวกหุ้นส่วนต่างๆ ตลอดทั่วโลกของเราซึ่งมีอันต้องแปดเปื้อนด่างพร้อยไป รวมทั้งต้องรับมือกับการท้าทายอย่างเต็มไปด้วยอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ จากประเทศจีน แคเธอรีนจะเป็นผู้แทนที่มีเกียรติและทรงประสิทธิภาพ สำหรับประเทศชาติของเรา สำหรับประชาชนของเรา และสำหรับผลประโยชน์ต่างๆ ของเรา”

    กระนั้น การที่ ไบเดน เลือกชาวอเมริกันเชื้อสายจีนผู้หนึ่งให้มาเป็นประธานดูแลเรื่องนโยบายการค้า ซึ่งเป็นที่มาสำคัญอย่างหนึ่งของความสัมพันธ์อันเผ็ดร้อนและขมขื่นระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งมาเป็นเวลาแรมปี ก็ทำให้ชาวเน็ตจีนบางรายเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ใช่หรือไม่ว่าการแต่งตั้งคราวนี้เป็นการส่งสัญญาณปรองดองจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในจังหวะเวลาที่มีความวาดหวังอย่างสูงเกี่ยวกับการรีเซ็ตความสัมพันธ์ระหว่างกัน

    การถกเถียงกันเกี่ยวกับภูมิหลังครอบครัวของไท่ และภาษาที่เธอพูดได้ กลายเป็นเรื่องฮิตกระหึ่มในประเทศจีน เธอถือกำหนดที่รัฐคอนเนตทิคัต ในครอบครัวผู้อพยพจากไต้หวัน โดยที่ภาษาแม่ของ ไท่ คือภาษาจีนกลางและภาษาจีนเซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ว่ากันว่าพ่อแม่ของเธอได้พำนักอาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ก่อนโยกย้ายไปอยู่ที่ไต้หวันระหว่างเกิดสงครามกลางเมืองในจีน และจากนั้นจึงอพยพต่อมายังสหรัฐฯ

    ระหว่างปี 1996 ถึง 1998 มีรายงานว่า ไท่ ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านในเซี่ยงไฮ้ แล้วจากนั้นก็ใช้เวลา 2 ปีอยู่ที่เมืองกว่างโจว ทำหน้าที่สอนภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยเหลือพวกนักศึกษาปีหนึ่ง และปีสองของมหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น (Yat-sen University) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งแห่งนั้น ในการยกระดับทางด้านภาษา ตามโปรแกรมแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยเยล

    ขณะที่ชาวเน็ตพากันวาดหวังถึงความเป็นมิตรกันมากขึ้น แต่เชื่อกันว่าพวกผู้วางนโยบายระดับท็อปในปักกิ่งกำลังรู้สึกเบิกบานน้อยกว่า เมื่อพิจารณาจากการที่ ไท่ ให้คำมั่นสัญญาที่จะแก้ไขภาวะซึ่งสหรัฐฯขาดดุลการค้าจีนอย่างเลวร้ายลงเรื่อยๆ

    ยอดขาดดุลนี้พุ่งขึ้นไปอยู่ในระดับ 310,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 เมื่อการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรของคณะบริหารทรัมป์ประสบความล้มเหลวไม่อาจต้านทานความต้องการในสินค้าจีนได้ ขณะที่ โควิด-19 ยังคงสร้างความเสียหายให้แก่การผลิตและโลจิสติกส์ในประเทศที่เป็นฐานอุตสาหกรรมการผลิตรายอื่นๆ

    เวลานี้มีการเปรียบเทียบเรียบร้อยแล้วระหว่าง ไท่ กับ แกรี่ ล็อค (Gary Locke) ผู้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำจีนระหว่างปี 2011 ถึง 2014 และยังเคยเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ตลอดจนผู้ว่าการของมลรัฐวอชิงตันอีกด้วย

    ถึงแม้ได้ชื่อว่าเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีนเพียงคนเดียวที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการมลรัฐของสหรัฐฯ รวมทั้งเป็นนักการทูตระดับท็อปของสหรัฐฯประจำจีน แต่การที่ ล็อค เป็นที่นิยมชมชื่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่มวลชนชาวจีนก็ทำให้ปักกิ่งวิตกกังวลอยู่พักหนึ่ง และช่วงการทำงานของเขาในแดนมังกรยังได้เห็นข้อพิพาทสดๆ ใหม่ๆ ว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการถูกเนรเทศออกไปอยู่นอกประเทศของชาวจีนผู้เห็นต่างกับทางการซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางอย่าง เฉิน กวงเฉิง (Chen Guangcheng)

    หนังสือพิมพ์ของทางการอย่างเช่น โกลบอลไทมส์ (Global Times) ออกมาเตือนว่า ไท่ น่าที่จะพยายามอย่างหนักในการกำหนดนโยบายต่อจีนอย่างโหดๆ ด้วยตัวของเธอเอง เมื่อขึ้นเป็นผู้นำในการเจรจาการค้า และในการต่อรองเพื่อทำดีลอะไรใหม่ๆ

    “อย่าโดนหลอกต้มจากชื่อแซ่ที่ดูเป็นจีนและใบหน้าจีนๆ ของพวกเขา และอย่าหลงไหลได้ปลื้มไปกับการโฆษณาชวนเชี่อของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตที่ “สร้างแรงบันดาลใจ” ของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นนักการเมืองชาวอเมริกัน และก็เหมือนๆ กับเพื่อนร่วมงานชาวคอเคเซียนของพวกเขานั่นแหละ พวกเขามองจีนว่าเป็นคู่แข่งรายสำคัญของพวกเขา” โกลบอลไทมส์เตือน

    หลิว เฉินอี๋ว์ (Liu Chenyu) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยธุรกิจระหว่างประเทศและเศรษฐศาสตร์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai University of International Business and Economics) ให้ความเห็นว่า “จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ไท่ ถูกผลักเข้าสู่ตำแหน่งใหม่ของเธอ เพื่อนำการเจรจาที่มีเดิมพันสูงมากยิ่งขึ้นกับจีน ขณะที่ไบเดนชั่งน้ำหนักว่าจะเอายังไงกับมรดกที่ทรัมป์ทิ้งเอาไว้ให้ในรูปของสงครามการค้าและการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าต่างๆ จำนวนมากมาย

    “คณะบริหารใหม่จะต้องเคลื่อนที่ฝ่าข้ามความต้องการต่างๆ ซึ่งดูเหมือนกับขัดแย้งกันอยู่ นั่นคือต้องการทำให้ยอดขาดดุลการค้าลดต่ำลง ทว่าก็ต้องการดูแลให้มีการค้าเพิ่มขึ้นกับจีนเพื่อขับดันเศรษฐกิจของสหรัฐฯ”

    หลิวมองว่า ผู้ที่จะเป็นคนพูดสุดท้ายว่าจะเอายังไงในการตัดสินใจอะไรทั้งหลายนั้นก็ย่อมจะต้องเป็นไบเดน เนื่องจากการค้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายจีนของเขาที่มีขอบเขตกว้างไกลกว่านั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากเซี่ยงไฮ้ผู้นี้บอกว่า มันจะไร้เดียงสาเกินไปหน่อย หากคิดว่าภูมิหลังจากการมีเชื้อจีนของ ไท่ จะทำให้เธอมีความพร้อมมากขึ้นที่จะยอมรับข้อเรียกร้องต่างๆ ของปักกิ่ง

    อันที่จริงแล้ว ไท่ ได้เกี่ยวข้องพัวพันกับการถกเถียงอภิปรายอย่างดุเดือดเข้มข้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าของอเมริกันต่อจีนมาตั้งแต่สมัยการเป็นประธานาธิบดีของโอบามาแล้ว ในตอนนั้น หน้าที่การงานของเธอคือการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตอบโต้ของฝ่ายสหรัฐฯ ต่อคำร้องเรียนด้านการค้าที่จีนยื่นเสนอต่อองค์การการค้าโลก (WTO)

    ครั้งหนึ่งเธอเคยแนะนำคณะกรรมาธิการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯว่า มาตรการจำพวกให้การอุดหนุนมากขึ้นและให้แรงจูงใจทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น สามารถช่วยให้สหรัฐฯลดการพึ่งพาสินค้าจีนลงไปได้

    “เมื่อพวกโรงงานอุตสาหกรรมอเมริกันมองเห็นว่ามีอุปสงค์ความต้องการเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และได้รับหลักประกันให้มั่นใจเพิ่มมากขึ้นจากทางรัฐบาล พวกเขาก็จะโยกย้ายการผลิตกลับมาที่บ้าน” นี่เป็นคำกล่าวของ ไท่ ในระหว่างให้ปากคำว่าด้วยการค้าครั้งหนึ่งแก่ทางสภา เธอบอกว่าสหรัฐฯและพันธมิตรของตนควรต้องสำรวจทางเลือกต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้มีแหล่งที่มาของอุปกรณ์ป้องกันโรคซึ่งใช้ในการต่อสู้กับโคโรนาไวรัส ในหมู่พวกเขากันเอง

    เวลาเดียวกัน จากตำแหน่งใหม่ของ ไท่ ก็กลายเป็นการจุดประกายความหวังในหมู่ผู้สังเกตการณ์บางส่วนในไต้หวันว่า ความผูกพันที่ครอบครัวของเธอมีอยู่กับเกาะแห่งนี้ อาจอำนวยความสะดวกและเร่งรัดให้เกิดการเจรจาหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ

    ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ได้ออกมาแสดงความยินดีกับ ไท่ เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนที่เธอยังได้รับการเสนอชื่อจากไบเดนเท่านั้น พร้อมกับระบุว่าตัวแทนระดับท็อปของไต้หวันในกรุงวอชิงตัน จะหาโอกาสพบหารือกับ ไท่ เพื่อคุยกันถึงหนทางต่างๆ ในการทำให้สายสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันยิ่งมั่นคงแข็งแกร่ง

    (จากเรื่องBiden’s trade rep knows China inside and out By FRANK CHEN ใน เอเชียไทมส์ WWW.asiatimes.com 21/01/2021)

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ดูเตอร์เต’ ย้ำจะฉีกข้อตกลง-ไล่ทหารมะกันออก หากขน‘นิวเคลียร์’เข้าฟิลิปปินส์
    .
    ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ย้ำคำขู่ฉีกสัญญาความร่วมมือด้านกลาโหมกับสหรัฐฯ ทันที หากมีการขน “อาวุธนิวเคลียร์” เข้ามาประจำการในประเทศ
    .
    ระหว่างเป็นประธานรับมอบวัคซีนโควิด-19 จากจีนที่ฐานทัพอากาศในเมืองปาไซซิตี (Pasay City) ดูเตอร์เต ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะนำอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาประจำการในแดนตากาล็อก โดยเขายืนยันว่า “ผมเคยประกาศไปแล้วว่าเราจะใช้นโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ และผมรับรองกับจีนแล้วว่าจะไม่อนุญาตให้อเมริกานำอาวุธนิวเคลียร์มาประจำการที่นี่”
    .
    ผู้นำขาโหดวัย 77 ปี ย้ำว่าที่ทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะกลัวจีนโกรธ หากแต่รัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์นั้นห้ามมิให้มีอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศ
    .
    “เราไม่ต้องการมัน และผมขอเตือนไว้เลยนะว่า ถ้าผมได้รับข้อมูลว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ถูกส่งมาที่นี่โดยพวกคุณ (สหรัฐฯ) ผมจะไล่พวกคุณออกไป และจะยกเลิกข้อตกลง Visiting Forces Agreement (VFA) ทันที”
    .
    ข้อตกลง VFA ซึ่งทำขึ้นเมื่อปี 1999 อนุญาตให้สหรัฐฯ ส่งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาทำการฝึกหรือซ้อมรบร่วมในฟิลิปปินส์ได้ โดยไม่ต้องมีการถือหนังสือเดินทางหรือขอวีซ่า
    .
    ทั้งนี้ ดูเตอร์เต ยังประกาศด้วยว่าอยากจะไปเยือนจีนในช่วงปลายปี เพื่อขอบคุณประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่บริจาควัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ โดยวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำนวน 600,000 โดสแรกได้ถูกส่งมาถึงฟิลิปปินส์แล้วเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.)
    .
    “จีนให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเรา แต่ไม่เคยขออะไรเราเลย” ดูเตอร์เต กล่าว
    .
    ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในฟิลิปปินส์เพิ่มมาอยู่ที่ 576,352 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12,318 ราย ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในช่วงบ่ายวันนี้ (1)
    .
    ที่มา: Anadolu

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ไท่’ซึ่ง‘ไบเดน’เสนอเป็น‘ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ’คนใหม่ หนุนให้ใช้ มาตรการ‘ภาษีศุลกากร’ต่อไป พร้อมเรียกร้อง‘จีน’ทำตามสัญญา

    นโยบายการค้าของสหรัฐฯในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรกันแน่ ดูจะมองเห็นเป็นรูปธรรมเพิ่มมากขึ้น จากการที่ แคเธอรีน ไท่ ผู้ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอชื่อให้เป็น “ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ” คนใหม่ เข้าให้ปากคำเพื่อให้วุฒิสภาอนุมัติรับรองการขึ้นดำรงตำแหน่งของเธอ

    ไท่ ประกาศสนับสนุนการใช้มาตรการขึ้นภาษีศุลกากร โดยบอกว่าเป็น “เครื่องมือที่ถูกต้องชอบธรรม” อย่างหนึ่ง ในการต่อสู้กับโมเดลเศรษฐกิจแบบรัฐเป็นผู้ลงแรงขับเคลื่อนของประเทศจีน พร้อมกับกล่าวด้วยว่าปักกิ่งจะต้องกระทำตามสัญญาต่างๆ ที่ได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ เวลาเดียวกันเธอก็ให้คำมั่นจะนำเอาแบบแผนวิธีการใหม่ซึ่งเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมโหฬาร มาใช้ในเรื่องการค้าของอเมริกา

    ระหว่างไปให้ปากคำ ณ การประชุมของคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาอเมริกันเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.พ.) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญของการพิจารณาลงมติรับรองให้เธอขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับท็อปทางด้านการค้าของสหรัฐฯคนต่อไป ไท่ ยังเรียกร้องให้ยกเครื่องปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่างๆ ของการค้าระดับโลก เพื่อขจัดสิ่งที่เธอเรียกว่าเป็น “พื้นที่สีเทา” ซึ่งถูกจีนฉวยไปหาประโยชน์ รวมทั้งยุติพฤติการณ์ “แข่งขันกันลงไปสู่ระดับต่ำสุด” ที่เธอบอกว่าได้สร้างความลำบากเดือดร้อนให้แก่บรรดาคนงานและแก่สิ่งแวดล้อม

    “เป็นเวลายาวนานมาแล้ว นโยบายต่างๆ ด้านการค้าของเรานั้นอิงอยู่กับสมมุติฐานที่ว่า ยิ่งเราค้าขายกับกันและกันมากขึ้นเท่าใด และยิ่งปล่อยเสรีการค้าของเรามากขึ้นเท่าใด ก็จะยิ่งมีสันติภาพและความเจริญมั่งคั่งมากขึ้นเท่านั้น” ไท่ บอก พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า บ่อยครั้งทีเดียว การเปิดเสรีทางการค้าในอดีตกลับนำไปสู่ความเจริญมั่งคั่งที่ลดน้อยลง และมาตรฐานด้านแรงงานและด้านสิ่งแวดล้อมที่ต่ำลง

    การให้ปากคำของ ไท่ ต่อคณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภาครั้งนี้ เป็นสัญญาณอย่างล่าสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่า แบบแผนวิธีการที่วอชิงตันใช้ในเรื่องการพาณิชย์ต่างประเทศน่าจะถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างถาวรแล้ว หลังจากช่วงเวลาหลายทศวรรษของการเปิดเสรีโดยอิงกับตลาด ที่เรียกกันว่า “การค้าเสรี” ซึ่งถูกวิพากษ์โจมตีว่าสร้างประโยชน์มหาศาลให้แก่พวกบรรษัทนานาชาติ และสิ้นสุดลงไปด้วยนโยบายแบบลัทธิกีดกันการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    ไท่ ไม่ได้ปฏิเสธนโยบายการค้า “อเมริกาต้องมาเป็นอันดับแรก” (America First) ของทรัมป์ แต่กล่าวว่าเธอจะปรับปรุงแก้ไขให้ออกมาเป็นโมเดลทางการค้าแบบ “เน้นให้คนงานเป็นศูนย์กลาง” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะพิทักษ์ปกป้องการอยู่ดีกินดีของชาวอเมริกัน โดยผ่านการลงทุนและการบังคับให้มีการปฏิบัติตามระเบียบข้อตกลงทางการค้า

    ไท่ ซึ่งเป็นบุตรสาวของพ่อแม่ที่เป็นผู้อพยพมาจากไต้หวัน โดยที่ตัวเธอเองสำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาชั้นเยี่ยมของสหรัฐฯอย่างมหาวิทยาลัยเยล และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เรียกจีนว่าเป็น “คู่แข่งขันที่น่าเกรงขามอย่างยิ่ง ซึ่งรัฐสามารถที่จะอำนวยการเศรษฐกิจให้เป็นไปดังประสงค์ แทบจะเหมือนกับที่วาทยกรสามารถกำกับวงออเคสตรา”

    สหรัฐฯจำเป็นที่จะต้องตอบโต้รับมือ ทั้งด้วยการลงทุนในเชิงยุทธศาสตร์เพิ่มมากขึ้น, การปรับปรุงเพิ่มความยืดหยุ่นของสายโซ่อุปทาน (supply chain) ของตน และการบังคับให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ข้อตกลงทางการค้า เพื่อต่อสู้กับยุทธศาสตร์และความทะเยอทะยานของปักกิ่ง เธอ บอก

    ไท่ ยืนยันว่า จีนต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพันธะข้อสัญญาต่างๆ ที่ให้ไว้ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งทำไว้กับสหรัฐฯในตอนต้นปี 2020 แต่เธอแทบไม่ได้ให้รายละเอียดเจาะจงเลยว่าเธอจะทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุสิ่งนี้ นอกเหนือจากการใช้เครื่องมือบังคับซึ่งมีอยู่แล้วในเวลานี้

    นอกจากนั้น เธอไม่ได้ข่มขู่คุกคามที่จะขึ้นภาษีศุลกากรรอบใหม่ใดๆ

    “ยังมีพื้นที่ต่างๆ จำนวนมากซึ่งเป็นพื้นที่สีเทา ที่กฎเกณฑ์ต่างๆไร้ความชัดเจน หรือที่เรายังคงไม่มีระเบียบกฎเกณเกณฑ์” ไท่ บอก พร้อมกล่าวต่อไปว่า สหรัฐฯควรต้องทำงานกับประเทศอื่นๆ ในการสำรวจหาทางเลือกใหม่ๆ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างขึ้นในจีน

    เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับเหล็กกล้าและอลูมิเนียมจากหลายๆ ประเทศ ไท่ ตอบว่าภาษีศุลกากรคือ “เครื่องมือที่ถูกต้องชอบธรรมอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในกล่องเครื่องมือทางการค้า” แต่เธอบอกด้วยว่า จำเป็นที่ต้องใช้ “เครื่องมือทางนโยบายต่างๆ เป็นจำนวนมากมาย” ในการแก้ไขปัญหาแกนกลางของการที่ศักยภาพในการผลิตโลหะต่างๆ เหล่านี้ในระดับโลกมีสูงเกินไป โดยที่ศูนย์กลางสำคัญเลยอยู่ที่ประเทศจีน “แต่มันก็ไม่ใช่แค่เป็นปัญหาจีนเท่านั้น” เธอกล่าวต่อ

    เจมิสัน เกรีย นักกฎหมายด้านการค้าที่เคยทำงานเป็นหัวหน้าคณะทำงานให้แก่ โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้ดำรงตำแหน่ง USTR คนก่อนหน้า ไท่ ให้ความเห็นว่า เขาตีความทัศนะความคิดเห็นของ ไท่ ในเรื่องภาษีศุลกากร ว่าจะดำเนินการตามจุดยืนของคณะบริหารทรัมป์อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

    “จากการให้ปากคำในวันนี้ มันก็เป็นที่ชัดเจนว่าคณะบริหารไบเดนไม่ได้มองภาษีศุลกากรว่าเป็นประเด็นปัญหาเชิงศีลธรรม คุณต้องใช้มันอย่างระมัดระวัง แต่มันก็เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งซึ่งสามารถนำมาใช้ได้” เกรีย กล่าว

    การให้ปากคำของ ไท่ เป็นที่เฝ้ารอคอยอย่างกระวนกระวายมาเป็นแรมเดือนแล้วทั้งโดยผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรม, พวกคู่ค้าของสหรัฐฯตั้งแต่ปักกิ่งไปจนถึงบรัสเซลส์, กลุ่มแรงงานต่างๆ, และเหล่าสมาชิกรัฐสภา ซึ่งต่างกำลังเข้าแถวเตรียมที่จะเข้าล็อบบี้หัวหน้าทางด้านการค้าของประเทศเจ้าของระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกผู้นี้

    ถ้าหากได้รับการรับรองจากวุฒิสภา ซึ่งเป็นที่คาดหมายกันอย่างกว้างขวางว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากเธอได้ความสนับสนุนอย่างหนาแน่นทั้งจากพรรคเดโดแครตและพรรครีพับลิกัน ไท่ ก็จะเผชิญกับรายการข้อพิพาทด้านภาษีศุลกากรอันยาวเหยียด ซึ่งเกิดขึ้นในยุคทรัมป์ ที่เธอจะต้องเข้ารับมือจัดการ รวมทั้งกรณี แอร์บัส-โบอิ้ง , อาหารและไวน์ ที่มีอยู่กับ สหภาพยุโรป ซึ่งยังกำลังคุกคามที่จะจัดเก็บภาษีจากบริการทางดิจิตอลที่บริษัทอเมริกันเป็นเจ้าตลาดอยู่ ขณะที่จีนก็มีเรื่องที่ยังไม่ได้ซื้อสินค้าสหรัฐฯให้ครบถ้วนตามข้อตกลงเฟส 1

    <b>สร้างความแข็งแกร่งให้แก่พวกสายโซ่อุปทานของสหรัฐฯ </b>

    ไท่ บอกกับพวกวุฒิสมาชิกว่า จำเป็นต้องมีพวกเครื่องมือทางกฎหมายที่ดีขึ้นกว่านี้ในการปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอเมริกัน นอกเหนือจากกฎหมายการค้า “มาตรา 301” ซึ่งคณบริหารทรัมป์ใช้อยู่ในการทำสงครามภาษีศุลกากรเพื่อเล่นงานจีน

    สิ่งสำคัญลำดับแรกๆ ประการหนึ่งคือ การประเมินเรื่องที่จีนใช้แรงงานจากการบังคับกะเกณฑ์ในแคว้นซินเจียง ไท่ กล่าว พร้อมบอกต่อไปว่า “การใช้แรงงานที่ถูกบังคับ บางทีอาจจะเป็นตัวอย่างที่หยาบช้าที่สุดของการแข่งขันกันเพื่อมุ่งลงไปให้ต่ำที่สุด” ในการค้าโลก ทั้งนี้ปักกิ่งเองปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้มีการใช้แรงงานจากการบังคับกะเกณฑ์

    การที่จะบรรลุเป้าหมายต่างๆ ในทางการค้าที่ ไบเดน กำหนดเอาไว้นั้น สหรัฐฯยังจำเป็นที่จะต้องมีสายโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและมีความหยุ่นตัวมากขึ้น รวมทั้งต้องมีการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์และในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันของอเมริกัน เธอกล่าว

    ไท่ ยังปฏิเสธไม่เห็นด้วยที่จะหวนกลับเข้าสู่ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกกับอีก 11 ประเทศอย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ ถึงแม้ในตอนทำข้อตกลงนี้ทีแรกนั้นสหรัฐฯได้ตกลงเข้าร่วมด้วย ก่อนที่ทรัมป์จะประกาศถอนตัวออกมาในวันแรกที่เขาขึ้นเป็นประธานาธิบดี ทั้งนี้เธอบอกว่า โลกได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญไปแล้ว นับจากตอนที่คณะบริหารโอบามาเห็นชอบข้อตกลงนี้เมื่อปี 2015

    แต่เธอย้ำว่า สหรัฐฯจะร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียในเรื่องการค้า และในการทำงานเพื่อปรับปรุงยกระดับประสิทธิภาพขององค์การการค้าโลก (WTO)

    ไท่ยังกล่าวด้วยว่า เธอจะให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกแก่การบังคับใช้ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา ซึ่งแก้ไขปรับปรุงมาจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (อาฟตา) โดยที่เธอมีส่วนช่วยเหลือในการเจรจาทำความตกลงกันใหม่เมื่อปี 2019 ขณะที่เธอมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าที่ปรึกษากฎหมายด้านการค้าให้แก่คณะกรรมาธิการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทั้งนี้สิ่งที่เธอผลักดันและได้รับการยอมรับ มีอาทิ การใช้มาตรฐานด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

    เธอกล่าวในการให้ปากคำคราวนี้ว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นหลักหมายแสดงถึง “ขั้นตอนสำคัญในการปฏิรูปแบบแผนวิธีการในด้านการค้าของเรา” และดังนั้นความสำเร็จของการปฏิบัติตามข้อตกลงฉบับนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด

    (ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี)

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    US-UNประณาม'น่ารังเกียจ' พม่ายิงใส่ผู้ชุมนุมตาย18ศพ นองเลือดที่สุดตั้งแต่รัฐประหาร(ชมคลิป)

    สหรัฐฯประณามความรุนแรง "ที่น่ารังเกียจ" จากฝีมือของกองกำลังด้านความมั่นคงพม่า ส่วนยูเอ็นเรียกร้องนานาชาติหนทางสกัดกองทัพ ไม่ให้ปราบปรามผู้ประท้วง หลังเกิดเหตุนองเลือดเมื่อวันอาทิตย์(28ก.พ.) ตำรวจพม่ายิงใส่ผู้ชุมนุมทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย ในสถานการณ์ครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่รัฐประหาร 1 กุมภาพันธ์

    ฝูงชนของผู้ประท้วงตกอยู่ท่ามกลางดงกระสุนปืน ในหลายพื้นที่ของย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังระเบิดแสง แก๊สน้ำตาและการยิงปืนขึ้นฟ้า ไม่อาจทำให้ผู้ชุมนุมยอมสลายตัว

    ระหว่างการชุมนุมทั่วประเทศ พบเห็นผู้ประท้วงหลายคนสวมหมวกกันน็อคพลาสติกและโล่ทำเอง เผชิญหน้ากับตำรวจและทหาร ที่มาในชุดประจัญบาน ในนั้นบางส่วนมาจากหน่วยที่เคยเลื่องชื่อด้านการปราบปรามหนักหน่วงกลุ่มกบฎชาติพันธุ์ทั้งหลาย ในภูมิภาคต่างๆตามแนวชายแดนของพม่า

    โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่า "การดำเนินการอย่างหนักหน่วงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สำหรับจัดการกับพวกผู้ประท้วงก่อจลาจล" พร้อมระบุทหารเคยแสดงออกถึงความอดทนอดกลั้น แต่ก็ไม่อาจเพิกเฉยกับพวก "ม็อบอนาธิปไตย"

    ภาพข่าวสื่อมวลชนพบเห็นบรรดาผู้ประท้วงในย่างกุ้งข่วยกันลากผู้ได้รับบาดเจ็บออกไปจากจุดเกิดเหตุ จนเลือดเปื้อนเป็นทางยาวบนบาทวิถี ขณะที่แพทย์คนหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเล่าว่ามีชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในสภาพที่มีกระสุนฝังอยู่บริเวณหน้าอก

    สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุว่า "กองกำลังตำรวจและทหารเผชิญหน้ากับการชุมนุมอย่างสันติ และใช้กำลังถึงตาย และตามข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่ทางสำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้รับ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนและบาดเจ็บกว่า30คน"

    พม่าตกอยู่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงมาตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจและควบคุมตัว อองซานซูจี ผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและบรรดาแกนนำพรรคของเธอ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยอ้างว่าศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่พรรคของซูจีคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย มีการโกงอย่างกว้างขวาง

    เหตุรัฐประหารส่งผลให้ก้าวย่างต่างๆสำหรับมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตยต้องหยุดชะงัก หลังพม่าตกอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบทหารมานานเกือบ 50 ปี ดึงดูดประชาชนแหลายแสนคนลงสู่ท้องถนนและเรียกเสียงประณามจากบรรดาชาติตะวันตก

    อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้สมาชิกดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ "ท่านเลขาธิการเรียกร้องประชาคมนานาชาติร่วมมือกัน และส่งสารอย่างชัดเจนถึงกองทัพ ว่าพวกเขาต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนชาวพม่าที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง และหยุดปราบปรามผู้ประท้วง" โฆษกระบุ

    ส่วน แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามสิ่งที่เขาเรียกว่าความรุนแรงที่น่ารังเกียจโดยกองกำลังความมั่นคงของพม่า "เรายืนหยัดอย่างหนักแน่นให้กำลังใจประชาชนชาวพม่า และสนับสนุนทุกประเทศให้ส่งเสียงคนละเสียงสนับสนุนเจตนารมณ์ของพวกเขา" บลินเคนเขียนบนทวิตเตอร์ พร้อมระบุว่าอเมริกา "จะเดินหน้าผลักดันกระตุ้นให้นำตัวผู้อยู่เบื้องหลังมารับผิดชอบ"

    ครูรายหนึ่งเสียชีวิต หลังตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มครูด้วยระเบิดแสง ทำฝูงชนหลบหนีกระจัดกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง จากการเปิดเผยของลูกสาว

    บริเวณด้านนอกของโรงเรียนการแพทย์แห่งหนึ่งในย่างกุ้ง คณะแพทย์และนักศึกษาในชุดกาวน์แตกกระเจิง หลังตำรวจขว้างระเบิดแสงเข้าใส่ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรเสื้อกาวน์ขาวเผยว่า มีบุคลากรทางการแพทย์กว่า 50 คนถูกจับกุม

    เว็บไซต์ข่าวอิระวดีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คนในเมืองมัณฑะเลย์จากการปราบปรามของตำรวจ และมูลนิธิแห่งหนึ่งเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คนในเมืองพะโคตอนกลางของประเทศ และ 3 คนในเมืองทวาย ทางภาคใต้ นอกจากนั้นยังมีรายงานการกวาดล้างของตำรวจในเมืองล่าเสี้ยวทางตะวันออกเฉียงเหนือและมะริดทางใต้สุด

    สัปดาห์ที่แล้ว พลเอกมิน อ่อง หลาย ผู้นำรัฐบาลทหาร ประกาศว่า รัฐบาลใช้กำลังน้อยที่สุดในการจัดการการประท้วง กระนั้นก็ตาม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คนในสถานการณ์ความยุ่งเหยิง และกองทัพเผยว่า ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย

    การใช้กำลังปราบปรามครั้งล่าสุดต่อเนื่องสองวันในช่วงสุดสัปดาห์ดูเหมือนเป็นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดของกองทัพเพื่อจัดการการขัดขืนของประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะผู้ชุมนุมบนถนนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้าราชการ หน่วยงานปกครองระดับท้องถิ่น ภาคตุลาการ การศึกษา สาธารณสุข และสื่อมวลชน

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

    ชมคลิปที่นี่ : https://mgronline.com/around/detail/9640000019748

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาวเซ็งสุดขีด!สั่งซื้อ'ไอโฟน'จากเว็บไซต์แอปเปิลสโตร์ กลับได้น้ำผลไม้แอปเปิลแทน

    ผู้หญิงคนหนึ่งในมณฑลอานฮุย ทางภาคตะวันออกของจีน ผิดหวังอย่างที่สุด หลังยอมควักกระเป๋าถึง 10,099 หยวน(ประมาณ 47,000 บาท) ซื้อไอโฟน 12 โปรแม็กซ์ 256GB จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแอปเปิล แต่กลับได้รับกล่องพัสดุบรรจุน้ำผลไม้แอปเปิลอยู่ภายใน อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ความผิดของทางแอปเปิลสโตร์แต่อย่างใด

    โกลบอลไทม์ส สื่อมวลชนแดนมังกร รายงานว่า หญิงรายดังกล่าว แซ่หลิว โพสต์วิดีโอเล่าเรื่องราวแห่งความซวยของเธอบนเว่ยป๋อ สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของจีน มีเนื้อหาระบุว่าพัสดุที่ได้รับนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เธอสั่งซื้อจากแอปเปิลสโตร์

    หลิว สั่งซื้อไอโฟนจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแอปเปิลเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และได้รับพัสดุบรรจุกล่องน้ำผลไม้แอปเปิลในอีก 2 วันต่อมา แต่มันไม่ใช่ความผิดของทางแอปเปิลสโตร์ เนื่องจากมีมือดีแอบเปลี่ยนสินค้าระหว่างการส่งมอบพัสดุ

    ต่อมาเธอเข้าแจ้งความกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่ได้ลงมือสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นตำรวจท้องถิ่นได้เผยแพร่ถ้อยแถลงในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นคดีลักขโมย

    นอกจากตำรวจแล้ว ทางแอปเปิลและเอ็กเพรส เมล เซอร์วิส(อีเอ็มเอส) บริษัทบริการขนส่งพัสดุ ซึ่งเป็นคนส่งมอบพัสดุดังกล่าว ก็เปิดการสืบสวนของตนเองเช่นกัน เพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า หลิว จะได้รับเงินชดเชยหรือได้ไอโฟน 12 โปรแม็กซ์เครื่องใหม่ แทนเครื่องที่ไม่ได้รับการส่งมอบหรือไม่ โดยเวลานี้เธอได้แต่หวังว่าหากเป็นกรณีลักขโมยจริง ตำรวจจะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดและนำตัวมาลงโทษ

    (ที่มา:โกลบอลไทม์ส)

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มุกเก่า? ผู้นำเกาหลีใต้ลุ้น ‘โตเกียวโอลิมปิก’ ช่วยฟื้นสัมพันธ์ ‘มะกัน-โสมแดง’
    .
    ประธานาธิบดี มุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ ระบุวันนี้ (1 มี.ค.) ว่าการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยรื้อฟื้นการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ รวมไปถึงเกาหลีเหนือกับญี่ปุ่น และระหว่าง 2 เกาหลีเอง
    .
    ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวาระครบรอบ 102 ปีขบวนการเรียกร้องเอกราชเกาหลีที่กรุงโซล มุน ยังระบุด้วยว่า เกาหลีใต้พร้อมที่จะทำงานร่วมกับญี่ปุ่นเพื่อให้การแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกประสบความสำเร็จ อันจะมีส่วนช่วยให้ทั้ง 2 ประเทศสามารถฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ได้เร็วขึ้น
    .
    คำพูดของผู้นำเกาหลีใต้มีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นตกต่ำลง เนื่องจากการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ที่ล้มเหลวและหยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2019
    .
    รัฐบาลโซลหวังว่าการแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียวน่าจะเป็นเวทีที่ช่วยฟื้นฟูการเจรจาทางการทูตกับเกาหลีเหนือได้ คล้ายๆ กับที่เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อช่วงกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังไม่แน่นอน อีกทั้งเปียงยางก็ยังคงปิดพรมแดนงดติดต่อกับโลกภายนอกเพื่อสกัดการแพร่ของเชื้อไวรัสก็ตาม
    .
    “กีฬาโอลิมปิกในปีนี้อาจเป็นโอกาสที่เราจะรื้อฟื้นการพูดคุยระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ, เกาหลีเหนือกับญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือกับสหรัฐอเมริกา” มุน กล่าว “ผมหวังว่าทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของเราที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และช่วยกันร่างกฎระเบียบใหม่สำหรับโลกยุคหลังโควิด”
    .
    กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นเคยยึดครองคาบสมุทรเกาหลีเมื่อช่วงปี 1910-1945 ซึ่งปมประวัติศาสตร์นี้ยังคงบั่นทอนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 ชาติเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
    .
    เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ศาลเกาหลีใต้มีคำสั่งให้ญี่ปุ่นต้องจ่ายเงินชดเชยแก่สตรีชาวเกาหลี 12 คนซึ่งถูกบังคับให้ทำงานเป็นโสเภณีบำเรอกามแก่ทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และย้อนไปเมื่อปี 2018 ศาลสูงสุดเกาหลีใต้ก็พิพากษาให้บริษัทญี่ปุ่น 2 แห่งต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับชาวเกาหลีที่ถูกบังคับใช้แรงงานในยุคสงคราม
    .
    คำตัดสินทั้ง 2 ครั้งเรียกเสียงวิจารณ์รุนแรงจากฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งอ้างว่าปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขจนเป็นที่ยุติแล้วภายใต้ข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1965 และทั้ง 2 ชาติยังได้ประกาศยุติข้อพิพาท “อย่างไม่สามารถย้อนกลับได้” อีกครั้งในปี 2015
    .
    ประธานาธิบดี มุน ยืนยันว่า “พร้อมที่จะนั่งลงพูดคุย” กับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า ทั้ง 2 ฝ่าย “ควรหาทางออกที่ชาญฉลาด ซึ่งอิงกับความพึงพอใจของเหยื่อเป็นสำคัญ”
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ดูเตอร์เต’ ปฏิเสธฉีดวัคซีน ‘ซิโนแวค’ อ้างหมอสั่งให้รอยี่ห้ออื่น
    .
    วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจีนล็อตแรกถูกส่งไปถึงฟิลิปปินส์แล้วเมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) ทว่าประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ปฏิเสธที่จะเข้ารับการฉีดเป็นคนแรก โดยอ้างความเห็นของแพทย์ซึ่งขอให้รอวัคซีนตัวอื่น
    .
    ดูเตอร์เต เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีน ‘โคโรนาแวค’ ของบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำนวน 600,000 โดส ซึ่งรัฐบาลจีนบริจาคให้ฟิลิปปินส์ใช้ฟรีๆ และจะทยอยจัดส่งให้อีก 25 ล้านโดสภายในปีนี้
    .
    เครื่องบินทหารของจีนนำวัคซีนมาถึงฐานทัพอากาศวิลลามอร์ในเมืองปาไซ (Pasay) เมื่อเวลา 16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่ง ดูเตอร์เต เน้นย้ำว่าแม้จีนจะบริจาควัคซีนให้แก่ประเทศอื่นๆ มากมาย แต่มีฟิลิปปินส์เพียงชาติเดียวเท่านั้นที่จีนลงทุนจัดส่งมาให้ด้วยตัวเอง
    .
    “จีนได้บริจาควัคซีนให้หลายประเทศ แต่มีเพียงวัคซีนที่ให้กับฟิลิปปินส์เท่านั้นที่ถูกส่งมาด้วยเครื่องบินของรัฐบาลจีน” ผู้นำขาโหดระบุ
    .
    “ผมอยากจะบอกว่า ในช่วงปลายปีนี้ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ผมอยากจะเดินทางไปเยือนจีนเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อจับมือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และขอบคุณเขาด้วยตัวเองที่ได้มอบวัคซีนให้กับเรา”
    .
    อย่างไรก็ดี ผู้นำฟิลิปปินส์วัย 77 ปี ปฏิเสธที่จะเข้ารับวัคซีนเป็นคนแรก โดยให้เหตุผลว่าแพทย์ประจำตัวขอให้รอ “วัคซีนจีนตัวอื่น” เนื่องจากวัคซีนของซิโนแวคนั้นมีคำแนะนำทางคลินิกให้ฉีดเฉพาะในผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี
    .
    เขายอมรับว่าตนเอง “เจาะจง” เลือกที่จะฉีดวัคซีนยี่ห้อหนึ่งเอาไว้แล้ว
    .
    คำแถลงของ ดูเตอร์เต สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นวัคซีนในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ โดยผลสำรวจความคิดเห็นพบว่ามีชาวฟิลิปปินส์ไม่ถึง 1 ใน 3 ที่เต็มใจฉีดวัคซีนในตอนนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดผลข้างเคียง
    .
    รัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนที่จะฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์, ตำรวจ และทหารก่อนเป็นอันดับแรก และได้ทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนกับผู้ผลิตอีกหลายราย โดยตั้งเป้าสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่พลเมือง 70 ล้านคน หรือราว 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด
    .
    ฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนล็อตแรกช้าที่สุดในบรรดาเพื่อนบ้านอาเซียน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ถดถอยเป็นประวัติการณ์จากผลกระทบของโควิด-19 อาจจะล่าช้าตามไปด้วย
    .
    “สิ่งที่พวกคุณเห็นในวันนี้คือวัคซีนที่เราได้รับบริจาคมา และปัญหาก็คือทุกๆ ประเทศต่างพยายามกว้านซื้อวัคซีนกันหมด” ดูเตอร์เต ระบุ
    .
    “จนกว่าจะมีอุปทานส่วนเกิน เราคงต้องรอกันสักพัก”
    .
    ผู้นำฟิลิปปินส์รับปากว่าจะผ่อนคลายข้อจำกัดทางสังคมมากยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องรอจนกว่าจะมีวัคซีนใช้มากกว่านี้
    .
    ที่มา: รอยเตอร์, Inquirer

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯร้องฮ่องกงปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวปชต. หลังเกือบครึ่งร้อยถูกตั้งข้อหาบ่อนทำลายรัฐ

    แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันอาทิตย์(28ก.พ.) เรียกร้องฮ่องกงปล่อยบรรดาผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกงในทันที หลังทั้งหมดถูกตั้งข้อหาและควบคุมตัว ฐานสมคบคิดก่อการบ่อนทำลายรัฐ ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่กำหนดโดยจีน

    บลิตเคน ระบุบนทวิตเตอร์ว่า "เราขอประณามการควบคุมตัวและตั้งข้อหาบรรดาผู้สมัครสายประชาธิปไตยในศึกเลือกตั้งของฮ่องกง และเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเขาในทันที" เขากล่าว "การเข้าร่วมทางการเมืองและเสรีภาพการแสดงออกไม่ควรเป็นอาชญากรรม สหรัฐฯยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวฮ่องกง

    เหล่าผู้เห็นต่างฮ่องกงหลายสิบคนถูกตั้งข้อหาบ่อนทำลายรัฐในวันอาทิตย์(28ก.พ.) ในการปราบปรามฝ่ายต่อต้านครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่กำหนดโดยจีน ในขณะที่เจ้าหน้าที่หาทางกัดเซาะความเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยบนเกาะแห่งนี้

    ในบรรดาผู้ถูกตั้งข้อหานั้น รวมไปถึง แซม จาง นักเคลื่อนไหววัย 27 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมศึกเลือกตั้งแบบไพรมารีอย่างไม่เป็นทางการเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ซึ่งถูกตั้งข้อหา หลังจากเดินทางเข้าไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง

    จาง ถูกจับพร้อมกับนักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยคนอื่นๆอีก 54 คน ในช่วงรุ่งสางเมื่อวันที่ 6 มกราคม ในปฏิบัติการด้านความมั่นคงแห่งชาติขนานใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กฎหมายผ่านความเห็นชอบเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน

    พวกเขาถูกกล่าวหาจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว เพื่อเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติส่วนที่มาจากการเลือกตั้ง โดยพวกเขาหวังว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะเสียงข้างมากในสภานี้ได้เป็นครั้งแรก

    แต่เจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงกล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นกันเองครั้งนั้นว่าเป็นความพยายาม "โค่นล้ม" และทำให้รัฐบาลฮ่องกง "เป็นอัมพาต" ฉะนั้นจึงถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ

    ในวันอาทิตย์(28ก.พ.) ตำรวจฮ่องกงระบุว่าว่าบุคคล 47 ราย ถูกตั้งข้อหาคนละ 1 กระทง ฐาน "สมรู้ร่วมคิดบ่อนทำลายรัฐ" ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดอาญาตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ในฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และทั้งหมดจะต้องขึ้นศาลในวันจันทร์(1มี.ค.)

    พวกที่ถูกจับกุมในเดือนมกราคม มีเพียง 8 คนที่ไม่ถูกตั้งข้อหาในวันอาทิตย์(28ก.พ.) ในนั้นรวมถึง จอห์น คลานซีย์ ทนายความสิทธิมนุษยชนชาวสหรัฐฯ และ เจมส์ โท นักเคลื่อนไหวอาวุโส ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัว

    ตำรวจฮ่องกงเปิดเผยว่าจนถึงตอนนี้มีบุคคลต่างๆ 99 ราย ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยละเมิดกฎหมายด้านความมั่นคง

    กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่บังคับใช้ในฮ่องกง มีเนื้อหาสำคัญเป็นข้อห้ามสี่ประการเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ได้แก่ การบ่อนทำลายการปกครอง การแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้ายและการคบคิดกับต่างชาติเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคง ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

    จีนอ้างความชอบธรรมของกฎหมายดังกล่าว เพื่อคืนความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตามหลังการประท้วงใหญ่ในปี 2019 ต่อต้านสิ่งที่พวกผู้ชุมนุมมองว่าเป็นความพยายามของจีนที่ต้องการปราบปรามเสรีภาพและอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง ภายใต้สูตร "1 ประเทศ 2 ระบบ" ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 1997 ครั้งที่ปักกิ่งรับมอบเกาะแห่งนี้คืนจากสหราชอาณาจักร

    (ที่มา:เอเอฟพี/รอยเตอร์ส)

     

แชร์หน้านี้

Loading...