ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ญี่ปุ่นเริ่มแล้ว!ฉีดวัคซีนโควิด-19 ประเดิมด้วยบุคลากรด้านสาธารณสุข

    ญี่ปุ่นเริ่มโครงการวัคซีนโควิด-19 แล้วในวันพุธ(17ก.พ.) ด้วยฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ แก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลโตเกียว ในขณะที่นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ พยายามพลิกสถานการณ์การแพร่ระบาด ก่อนเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกในฤดูร้อนนี้

    สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นออกอากาศภาพบรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกำลังเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยพวกเขาเป็นหนึ่งในบรรดาบุคลากรด้านการแพทย์ 40,000 คน ที่เป็นเป้าหมายได้รับวัคซีนโควิด-19 เป็นกลุ่มแรกๆ

    การฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชากร 126 ล้านคนของญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุดของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีซูงะ เนื่องจากศึกโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพ จะมีกำหนดเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฏาคม หลังเลื่อนมาจากปีที่แล้ว

    กระนั้นกว่าที่โครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนจะแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์ คาดหมายว่าคงจะใช้เวลานานนับปี โดยในระยะแรกๆนั้นจะเป็นการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ราว 3.7 ล้านคนและคนสูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป 36 ล้านคน

    อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นอาจประสบปัญหาติดขัดบางประการ ด้วยมีความกังวลว่าอาจเสียเปล่าวัคซีนของไฟเซอร์จำนวนหลายล้านโดส เนื่องจากขาดแคลนเข็มฉีดยาที่จำเป็นสำหรับแบ่งวัคซีนบรรจุขวดออกเป็นแต่ละโดส

    เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม มีรายงานว่า ไฟเซอร์ พิจารณาปรับเปลี่ยน ปริมาตรการใช้วัคซีนบรรจุขวด จากเดิมที่ให้ฉีดได้ขวดละ 5 โดส เป็น 6 โดส และจำเป็นต้องเปลี่ยนเข็มฉีดยาใหม่ให้สอดคล้องกันด้วย

    ก่อนหน้านี้วัคซีนที่ไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเท็ค ถูกระบุอย่างเป็นทางการว่า ฉีดได้ 5 โดส/ขวด โดยเมื่อถูกทำให้ละลายแล้ว แต่ละขวดจะถูกเจือจางด้วยน้ำเกลือปริมาตร1.8 มิลลิลิตร ทำให้วัคซีนหลังผสมมีปริมาตร 2.25 มิลลิลิตร และแบ่งฉีดโดส ละ 0.3 มิลลิตร ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วสามารถฉีดได้เกิน 7 โดสด้วยซ้ำ

    แต่ทฤษฏีกับการปฏิบัตินั้นแตกต่างกันเพราะบุคคลากรการแพทย์ไม่สามารถคำนวณปริมาตรยาได้อย่างแม่นยำในการทำให้ครบ 7 โดส เพื่อฉีดให้ครบพอดีคน กระนั้นหากมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม พวกเขาสามารถฉีดได้ใน6 ครั้ง ด้วยปริมาณที่น่าเชื่อถือ

    ญี่ปุ่นลงนามในสัญญาต่างๆสำหรับสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 รวมแล้วกว่า 314 ล้านโดส จากไฟเซอร์, แอสตราเซเนกาและโมเดอร์นา ซึ่งเพียงพอสำหรับประชากร 157 ล้านคน ในขณะที่จนถึงตอนนี้ ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ราวๆ 451,000 คน ในนั้นเสียชีวิต 7,013 ราย

    แม้เคสผู้ติดเชื้อรายวันลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม แต่โตเกียวและจังหวัดอื่นๆ 9 แห่ง ยังคงอยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการปะทุรอบใหม่ของโรคระบาดใหญ่

    (ที่มา:รอยเตอร์/เอเจนซี)
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตร.สเปนสาดกระสุนยางปราบม็อบ ก่อความวุ่นวายร้องปล่อยตัว'แรปเปอร์'ถูกจับข้อหาหมิ่นกษัตริย์
    เกิดเหตุความวุ่นวายจนตำรวจต้องงัดหมายแข็งปราบปราม หลังผู้ประท้วงหลายพันคนรวมตัวบนท้องถนนบางสายของเมืองบาร์เซโลนาเมื่อช่วงเย็นวันอังคาร(16ก.พ.) เรียกร้องปล่อยตัวแรปเปอร์รายหนึ่งที่ถูกตำรวจควบคุมตัว ตามหลังมีคำพิพากษาจำคุกตามข้อกล่าวหาแต่งเพลงยกย่องพวกก่อการร้ายและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกษัตริย์
    ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ตำรวจหลายสิบนายบุกเข้าไปยังมหาวิทยาลัย Lleida ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เพื่อจับกุมแรปเปอร์ ปาโบล ฮาเซล หลังจากเขาหลบอยู่ภายในมหาวิทยาลัย
    ทั้งนี้ ฮาเซล ซึ่งรู้จักกันดีว่ามีมุมมองซ้ายสุดขั้ว ไม่ยอมมอบตัวกับตำรวจตามเส้นตายที่ขีดไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สำหรับเข้ารับโทษจำคุก 8 เดือนตามคำพิพากษาในปี 2018 บทลงโทษที่ก่อควาขุ่นเคืองในสเปน และกระตุ้นให้รัฐบาลต้องแถลงว่าจะผ่อนปรนกฎหมายต่างๆที่จำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงออก
    ฮาเซล ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานแต่งเพลงและทวีตข้อความต่างๆ ในนั้นชื่นชม ETA กลุ่มกองกำลังกึ่งทหารแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาสก์ เปรียบเทียบพวกผู้พิพากษาสเปนกับนาซี และเรียกอดีตกษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส ว่าเป็นบอสมาเฟีย
    รายงานข่าวระบุว่า ฮาเซล เข้าไปหลบในมหาวิทยาลัยพร้อมกับกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่งในวันจันทร์(15ก.พ.) จากนั้นพวกเขาปะทะกับตำรวจในตอนเช้าวันอังคาร(16ก.พ.) ขว้างปาเก้าอี้และอุปกรณ์ดับเพลิงเข้าใส่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่อาวุธครบมือพร้อมอุปกรณ์ป้องกัน เข้าทำการควบคุมตัว ฮาเซล
    ภาพข่าวพบเห็นประชาชนหลายพันคนเดินขบวนไปตามท้องถนนสายหลักบางเส้นทางของบาร์เซโลนา ตะโกนให้ปล่อยตัว ฮาเซล นอกจากนี้แล้วยังพบเห็นการชุมนุมเกิดขึ้นที่เมืองอื่นๆในแคว้นกาตาลุญญาด้วย
    พบเห็นการปะทะกันระหว่างพวกผู้ประท้วงและตำรวจปราบจลาจลในบางพื้นที่ โดยภาพถ่ายที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพถังขยะถูกจุดไฟเผา ปล้นสะดมร้านค้าและข้าวของต่างๆถูกปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่ที่กำลังพยายามเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งบางครั้งใช้ตะบองและกระสุนยาง
    มอสซอส เดอ เอสคูอาดรา ตำรวจแคว้นกาตาลุญญา บอกผ่านทวิตเตอร์ว่าพวกผู้ประท้วงเผารถจักรยานยนต์และถังขยะ จัดตั้งแนวกั้นและปิดกั้นถนนสายต่างๆในบาร์เซโลนา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าสลายและจับกุมผู้ก่อความไม่สงบไป 14 คน
    "ชัยชนะจะเป็นของเรา เราไม่มีวันลืมและไม่มีวันให้อภัย" ฮาเซลตะโกน พร้อมชูกำปั้นขึ้น ระหว่างถูกห้อมล้อมโดยตำรวจ พาตัวเข้าเรือนจำ หลังจากไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เขารีทวีตเพลงที่ทำให้เขาถูกพิพากษาจำคุก "พรุ่งนี้จะเป็นของคุณ" ฮาเซล ส่งสารถึงผู้ติดตาม 125,000 ราย
    ศิลปินมากกว่า 200 คน ในนั้นรวมถึง เปโดร อัลโมโดวาร์ ผู้กำกับภาพยนตร์, นักแสดง ซาเบียร์ บาร์เดม และนักร้อง โยฮัน มานูเอล ซาร์รัต ร่วมลงนามในหนังสืออุทธรณ์คัดค้านบทลงโทษจำคุกของฮาเซลด้วยเช่นกัน
    รัฐบาลฝ่ายซ้ายของสเปน ตอบสนองต่อคดีนี้ ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าจะปฏิรูปกฎหมายลิดรอนเสรีภาพที่บังคับใช้โดยรัฐบาลชุดก่อนในปี 2015 ซึ่งตราขึ้นมาเพื่อป้องกันการเชิดชูกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ในนั้นรวมถึง ETA นอกจากนี้แล้วกฎหมายยังห้ามหมิ่นประมาททางศาสนาและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพสถาบันกษัตริย์ด้วย
    ทั้งนี้รัฐบาลบอกว่าจะปรับแก้กฎหมายให้มีบทลงโทษเบาลง และเล็งเป้าหมายเฉพาะกับพฤติกรรมต่างๆที่เสี่ยงต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และอาจปลุกปั่นความรุนแรง และจะยึดมั่นอดทนยอมรับสิทธิการแสดงออกรูปต่างๆ ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรมและปัญญาประดิษฐ์
    (ที่มา:รอยเตอร์/รัสเซียทูเดย์)

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอาให้หนัก!สมาชิกเดโมแครตยื่นฟ้องแพ่งทรัมป์,ทนายความ ฐานยุยงโจมตีรัฐสภาสหรัฐฯ

    สมาชิกสภาคองเกรสรายหนึ่ง ยื่นฟ้องดำเนินคดีในวันอังคาร(16ก.พ.) กล่าวหาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ รูดี จูเลียนี ทนายความส่วนตัว รวมถึงพวกฝ่ายขวา 2 กลุ่ม โทษฐานสมคบคิดยุยงปลุกปั่นเหตุจลาจลเสียเลือดเนื้อที่อาคารรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว

    คำฟ้องทางแพ่งกล่าวหาพวกเขาละเมิดกฎหมายคูคลักซ์แคลน (Ku Klux Klan) กฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบเมื่อปี 1871 สำหรับปราบปรามองค์กรแนวคิดเชิดชูคนผิวขาว(White Supremacist) ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการทางกฎหมายล่าสุด ในความพยายามลากทรัมป์รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 6 มกราคม อันเกิดขึ้นหลังจาก ทรัมป์ ใช้เวลานานหลายเดือน กล่าวอ้างว่าเขาพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน เพราะมีการโกงอย่างกว้างขวาง

    โดยนอกจาก ทรัมป์และทนายความส่วนตัวแล้ว ในคำฟ้องยังระบุกลุ่ม Proud Boys องค์กรขวาจัด และกลุ่มนักรบต่อต้านรัฐบาล Oath Keepers ในรายนามของจำเลยด้วย

    "เหตุจลาจลเป็นผลจากแผนที่บงการอย่างรอบคอบโดยทรัมป์, จูเลียนีและพวกกลุ่มหัวรุนแรงอย่าง Oath Keepers และ Proud Boys ทั้งหมดมีเป้าหมายร่วมกันคือข่มขู่ รังควานและคุกคาม เพื่อหยุดการรับรองผลลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง" เอกสารคำฟ้องระบุ

    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์(13ก.พ.) ทรัมป์ รอดพ้นจากการถูกถอดถอน หลังวุฒิสภามีมติตัดสินว่าเขาไม่มีความผิด ฐานยุยงปลุกปั่นเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยมีวุฒิสมาชิก 57 คน ในนั้นรวมถึงจากรีพับลิกัน 7 คน ยกมือเห็นชอบว่าเขามีความผิด แต่มีคะแนนสนับสนุนไม่พอ 67 เสียงตามที่ต้องการ

    เบนนี ธอมป์สัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากเดโมแครต ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ มีชื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯในวอชิงตัน

    คำฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเป็นการทดแทนและค่าเสียหายเพื่อการลงโทษ แต่ไม่มีการระบุจำนวนเงิน นอกจากนี้แล้วยังขอให้ศาลกลางออกคำสั่งห้าม ทรัมป์ และจำเลยร่วมของพวกเขาจากการกระทำผิดซ้ำอีกในอนาคต

    ธอมป์สัน บอกว่าเขาได้ยินคำขู่และเสียงปืนระหว่างเหตุโจมตีอาคารรัฐสภา และจำเป็นต้องซ่อนตัวให้พ้นจากฝูงม็อบ

    เจสัน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาของทรัมป์ บอกว่าปัจจุบัน จูเลียนี ไม่ได้เป็นตัวแทนของ ทรัมป์ ในประเด็นทางกฎหมายใดๆ และเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆที่ปรากฏในคำฟ้อง โดยอ้างว่าวุฒิสภาตัดสินให้ ทรัมป์ ไม่มีความผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    เจราร์ด มากลิออคคา ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยอินดีแอนา มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะถูกตีตกพ้นจากการเป็นจำเลยในคดีนี้ เพราะศาลสูงสุดสหรัฐฯเคยมีคำตัดสินหนึ่งในปี 1982 คุ้มกันประธานาธิบดีจากการถูกดำเนินคดีใดๆ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

    "ผมไม่เห็นว่าคำฟ้องที่มีต่อทรัมป์ในครั้งนี้จะเดินหน้าต่อไปได้" มากลิออคคากล่าว พร้อมระบุว่าในมุมมองของเขา คำปราศรัยของทรัมป์ในวันนั้น อยู่ภายในขอบเขคของการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

    พวกวิพากษ์วิจารณ์บอกว่าทรัมป์และจูเลียนี ช่วยยุยงปลุกปลั่นพวกก่อจลาจลระหว่างการชุมนุม "Save America" เมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยทั้งคู่กล่าวอ้างซ้ำๆว่ามีการขโมยผลเลือกตั้ง

    จูเลียนีบอกกับฝูงชนว่า "ผมขอสาปแช่ง หาพวกเขาแย่งผลโหวตที่เสรีและยุติธรรมไปจากเรา" จากนั้นทรัมป์ก็ขึ้นเวที เร่งเร้าฝูงชนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภา จนกระทั่งเกิดเหตุจลาจล โดยจนถึงตอนนี้มีผู้ถูกตั้งข้อหาในเหตุการณ์ความวุ่นวายดังกล่าว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ไปแล้วมากกว่า 200 คน

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    WHO อนุมัติให้ใช้‘วัคซีนแอสตราเซเนกา’ แฉปท.รวยลงชื่อแย่งผ่าน‘โครงการโคแวกซ์’
    องค์การอนามัยโลกอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา/มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เป็นกรณีฉุกเฉิน เเปิดทางจัดส่งวัคซีนโควิดแก่ประเทศยากจนภายใต้โครงการ “โคแวกซ์” อย่างไรก็ดี ขณะนี้เริ่มมีความไม่พอใจที่ประเทศรวยบางรายกว้านซื้อวัคซีนจนเกือบจะเกินพอแล้ว ยังถือสิทธิ์ผู้บริจาคเข้าคิวรอรับวัคซีนแข่งกับประเทศยากจน
    ในคำแถลงเมื่อวันจันทร์ (15 ก.พ.) องค์การอนามัยโลก (WHO) อนุมัติวัคซีนของแอสตราเซเนกา เวอร์ชั่นที่ผลิตโดยสถาบันเซรัมแห่งอินเดีย และโดยแอสตราเซเนกา-เอสเคไบโอในเกาหลีใต้ ถือเป็นวัคซีนตัวที่ 2 ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฉุกเฉินหลังจากจากWHOอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคไปเมื่อเดือนธันวาคม
    ทั้งนี้ WHO ศึกษาและอนุมัติแยกจากกันสำหรับกระบวนการผลิตจากแต่ละสถานที่ ถึงแม้วัคซีนจะเป็นตัวเดียวกัน
    อย่างไรก็ตาม การอนุมัติคราวนี้ยังคงเป็นการเปิดทางให้มีการจัดส่งวัคซีนหลายร้อยล้านโดสแก่ประเทศที่สมัครร่วมโครงการโคแวกซ์ซึ่งสหประชาชาติให้การสนับสนุน และมีเป้าหมายในการจัดหาวัคซีนให้แก่ประชากรที่มีความเสี่ยงที่สุดของโลก
    เนื่องจากวัคซีนแอสตราเซเนกาจากอินเดียและเกาหลีใต้ คือจำนวนแทบทั้งหมดของวัคซีนขั้นต้น 337.2 ล้านโดสซึ่งจะถูกนำมาจัดสรรแจกจ่ายให้แก่ประเทศต่างๆ ในระลอกแรกของโคแวกซ์
    ดร.มาเรียแองเจลา ซีเมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ WHO ฝ่ายการเข้าถึงเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์สุขภาพ กล่าวว่า ในที่สุดประเทศที่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนในขณะนี้จะได้เริ่มฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกลุ่มเสี่ยง
    ขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วกว่า 109 ล้านคน และเสียชีวิตอย่างน้อย 2.4 ล้านคนทั่วโลก
    วัคซีนแอสตราเซเนกาได้รับอนุญาตให้ใช้ในกว่า 50 ประเทศแล้วในขณะนี้ ซึ่งรวมถึงอังกฤษ อินเดีย อาร์เจนตินา เม็กซิโก โดยมีข้อดีที่ราคาถูกกว่าและจัดการง่ายกว่าวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคที่ต้องจัดเก็บในอุณหภูมิเย็นจัด ทั้งนี้ วัคซีนทั้งสองตัวต้องฉีด 2 โดสโดยเว้นระยะห่างกันหลายสัปดาห์
    สัปดาห์ที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญของ WHO แนะนำให้ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกากับคนอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งรวมถึงในประเทศที่พบการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์
    ทว่า ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา กลับประกาศเตือนให้ “ระมัดระวัง” ในการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาและแนะนำให้ใช้วัคซีนตัวอื่นดีกว่า เนื่องจากผลศึกษาเบื้องต้นก่อนหน้านี้พบว่า วัคซีนแอสตราเซเนกาอาจไม่สามารถป้องกันอาการป่วยเล็กน้อยถึงปานกลางที่เกิดจากไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้
    สัปดาห์ที่แล้วแอฟริกาใต้ได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา และเลือกฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันให้บุคลากรทางการแพทย์แทน
    อย่างไรก็ดี ขณะที่ประเทศรวยซึ่งใช้วิธีสั่งซื้อวัคซีนโดยตรงจากพวกผู้ผลิต พากันเริ่มการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว แต่โครงการโคแวกซ์ยังไม่สามารถเริ่มจัดส่งวัคซีนให้ประเทศยากจนได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศกำลังพัฒนามากมายจึงรีบเร่งติดต่อซื้อวัคซีนเอง เพราะรอคอยโคแวกซ์ ไม่ไหว
    WHO และพันธมิตรวัคซีน กาวี (GAVI) ซึ่งต่างเป็นแกนนำสำคัญในโคแวกซ์ ไม่ได้ระบุว่า ประเทศใดจะได้รับวัคซีล็อตแรกๆ จากโคแวกซ์ ทว่า ตามแผนการเบื้องต้นปรากฏชื่อประเทศมั่งคั่งหลายแห่งที่ไปกว้านซื้อวัคซีนจากหลายบริษัทไว้แล้ว เช่น แคนาดา เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ แต่มีคิวได้รับวัคซีนล็อตแรกๆ เหล่านี้
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขบางคนวิจารณ์ว่า กรณีดังกล่าวเป็นปัญหามาก และโทษว่า เกิดจากข้อบกพร่องในการออกแบบโครงการโคแวกซ์ซึ่งอนุญาตให้ประเทศผู้บริจาคสามารถซื้อวัคซีนผ่านโครงการนี้ ขณะเดียวกันก็สามารถทำสัญญาจัดซื้อด้วยตนเอง
    แอนนา มาร์ริออตต์ ผู้นำด้านนโยบายสุขภาพขององค์การการกุศล ออกซ์แฟม อินเตอร์เนชันแนล วิจารณ์ว่า แคนาดามีวัคซีนเพียงพอฉีดประชาชนได้ 5 รอบ แต่ยังรอใช้สิทธิ์ซื้อวัคซีนเพิ่มจากโคแวกซ์ แทนที่จะเปิดโอกาสให้ประเทศยากจนได้เข้าถึงบ้าง
    กระนั้น ดร.โสมญา สวามินาธาน หัวหน้านักวิจัยของWHO กล่าวว่า โคแวกซ์ไม่มีนโยบายปฏิเสธคำร้องของประเทศมั่งคั่งที่ลงชื่อขอรับวัคซีนไว้แล้ว
    ทั้งนี้ในกรณีแคนาดานั้น หลังจากสนับสนุนเงินกว่า 400 ล้านดอลลาร์ให้โคแวกซ์เมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวว่า แคนาดามีความมุ่งมั่นที่จะรับวัคซีนภายใต้การจัดหาของโคแวกซ์
    ด้านมาร์ริออตต์ย้ำว่า ประเทศมั่งคั่งที่มีแผนรับวัคซีนจากโคแวกซ์ควรทบทวนเจตนารมณ์ โดยนึกถึงคำประกาศก่อนหน้านี้ในการสนับสนุนความพยายามเพื่อให้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นชาติรวยหรือจนก็ตาม
    (ที่มา: เอพี, เอเอฟพี, รอยเตอร์)

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดฮือฮา! ผลสำรวจชี้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเลือกเข้าข้าง “สหรัฐฯ” มากกว่า “จีน” หากเกิดสงคราม
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์/mgrออนไลน์ – สถาบันวิจัยสิงคโปร์ ISEAS ยูซอฟ อิสฮะก์ พบ 61.5% ของชาติสมาชิกอาเซียนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลือกข้าง “สหรัฐฯ” มากกว่า “จีน” หากภูมิภาคจำเป็นต้องเลือกหากเกิดความขัดแย้ง
    .
    CNBC สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(16 ก.พ)ว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประชากรอาศัยกว่า 650 ล้านคน และยังเป็นหนึ่งในส่วนของโลกที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงแต่ถูกตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนในหลายปีที่ผ่านมา
    .
    สถาบันวิจัยสิงคโปร์ ISEAS ยูซอฟ อิสฮะก์ (ISEAS Yusof-Ishak Institute) ออกผลการสำรวจประจำปีพบว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สนับสนุนหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นหลังประธานาธิบดี โจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง
    .
    ทางสถาบันวิจัยสิงคโปร์ได้เปิดเผยผลการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า 61.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลือกที่จะอยู่ข้าง "สหรัฐฯ" มากกว่า "จีน" หากว่าภูมิภาคถูกบังคับให้จำเป็นต้องเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    .
    ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเลข 53.6% ของการเลือกสหรัฐฯในผลการสำรวจปีก่อนหน้า CNBC รายงาน
    .
    ทางสถาบันได้รวบรวมการสำรวจระหว่างวันที่ 18 พ.ย ปี 2020 ไปจนถึงวันที่ 10 ม.ค ปี 2021 เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ถูกประกาศว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง แต่เป็นช่วงเวลาก่อนที่เขาจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง
    .
    ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมแบบสอบถามมีจำนวนกว่า 1,000 คน จาก 10 ชาติสมาชิกของอาเซียน ผู้ตอบแบบสอบถามรวมไปถึง เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักธุรกิจ นักวิเคราะห์ประจำสถาบันการศึกษา ธิงแทงก์ และสถาบันวิจัยอื่นๆ
    .
    และเปรียบเทียบกับข้อมูลระดับประเทศ ส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถามจาก 7 ชาติสมาชิกอาเซียนเลือกที่จะอยู่ข้างสหรัฐฯมากกว่าจีนในการสำรวจล่าสุด นี่ถือเป็นการเพิ่มขึ้นจาก 3 ในการสำรวจก่อนหน้า ที่มีกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ได้เปลี่ยนข้างการสนับสนุน
    .
    โดยในส่วนของไทยพบว่า ไทยได้ให้คะแนนถึง 51.1% ต่อคำถามสงครามการค้าจีนสหรัฐฯที่จะออกมา 1 ปีนับจากนีั้ว่า สงครามการค้าจะผ่อนคลายลงแต่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติจะยังคงไม่ราบรื่นต่อไป
    .
    และในการสำรวจเกี่ยวข้องกับการกลับเข้ามาเป็นชาติที่มีอิทธิพลภายในภูมิภาคของจีน ไทยแสดงความเห็นขัดแย้งกับปีที่ผ่านมา โดยผลการสำรวจที่ระบุว่า เชื่อว่า จีนจะเข้ามาเป็นชาติผู้มีอิทธิพลในภูมิภาคแทนที่สหรัฐฯ โดยไทยให้ความเห็นของประจำปี 2021 อยู่ที่ 35.1 % ลดลงจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 45.8% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไทยให้่การสนับสนุนสหรัฐฯมากขึ้นในปีนี่้ ต่างจากปีที่ผ่านมาซึ่งไทยตกอยู่ระหว่างกลางในสงครามการค้าจีนสหรัฐฯ
    .
    นอกจากนี้ยังพบว่า 76.3% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือก จีน ในฐานะชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ส่วนอีก 49.1% เลือก จีนในฐานะชาติมหาอำนาจด้านยุทธศาสตร์และการเมือง
    .
    ในช่วงสมัยรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้สั่งถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงการค้าเสรีรอบแปซิฟิก TPP ซึ่งสำคัญต่อทางภูมิภาค และอีกทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสหรัฐฯยังไม่มาปรากฎตัวในงานซัมมิตประจำภูมิภาคหลายงาน
    .
    ISEAS ยูซอฟ อิสฮะก์ ชี้ว่า แสดงให้เห็นถึงการไร้ความสนใจจากสหรัฐฯต่อภูมิภาคประกอบกับปักกิ่งแสดงความแข็งกร้าวมากขึ้นจากปัญหาทะเลจีนใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และมีการผลักดันอย่างหนักต่อภูมิภาค ที่รวมไปถึงผ่านทางโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (One Belt, One Road)ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง
    .
    นอกจากนี้ ISEAS ยังกล่าวว่า แต่ทว่าในผลการสำรวจที่เพิ่งเปิดเผยแสดงให้เห็นว่าชาติต่างๆในอาเซียนมีความรู้สึกแง่บวกเพิ่มขึ้นต่อสหรัฐฯภายใต้รัฐบาลของไบเดน โดยราว 68.6% เชื่อว่าสหรัฐฯภายใต้รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาเกี่ยวพันกับภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น
    .
    ต่างจากผลการสำรวจครั้งก่อนที่พบว่า 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า สหรัฐฯจะข้องเกี่ยวต่อภูมิภาคลดลง
    .
    ความเชื่อมั่นของภูมิภาคต่อสหรัฐฯยังกระโดดขึ้นจาก 30% ไปที่ 48.3% ในการสำรวจล่าสุด
    .
    รายงานกล่าวว่า “มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะตอบได้ว่าการกลับมามีความเชื่อมั่นต่อสหรัฐฯนั้นเป็นสิ่งผิดพลาดหรือไม่”
    .
    ทั้งนี้มีสัญญาณแรกได้ออกมาว่ารัฐบาลไบเดนจะให้ความสำคัญมากขึ้นต่อภูมิภาคในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ แอนโธนี บลินเคน (Antony Blinken) ที่ได้ให้คำมั่นที่จะอยู่เคียงข้างชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หากมีการเผชิญหน้าต่อแรงกดดันจากจีนในการต่อสายถึงรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์เมื่อไม่นานมานี้
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯก่อนหน้าสมัยทรัมป์อยู่ในลักษณะการแข่งขันและความร่วมมือไปพร้อมกัน แต่ทว่าสหรัฐฯในสมัยทรัมป์ โดยบลินเคนชี้ว่า สหรัฐฯได้ถอยออกจากเวทีโลกและภาระข้อผูกพันต่างๆ อ้างอิงจาก NBC News รายงานเมื่อวันที่ 2 ธ.ค ปีที่ผ่านมา
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อดีตสมาชิกรัฐสภาฮ่องกงฝ่ายเสรี “ยอมรับผิด” คดีรวมตัวผิดกฎหมายปี 2019 หลังต้นเดือน "แครี หล่ำ" สั่งปรับหลักสูตรให้รักปักกิ่งตั้งแต่อนุบาล
    .
    .
    .
    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – อู๋ หนก-หิ่น (Au Nok-hin) และ เหลิ่ง ยิ่ว-ชุง( Leung Yiu-chung) วันอังคาร(16 ก.พ)ยอมรับความผิดข้อหารวมตัวผิดกฎหมายในการชุมนุมเมื่อสิงหาคมปี 2019 แต่นักเคลื่อนไหวคนอื่นอีก 7 คนรวมผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลี จิมมี ไล ไม่ยอมรับผิด เกิดขึ้นหลังรัฐบาลฮ่องกงประกาศยกเครื่องทางการศึกษาปรับหลักสูตรให้มีความรักชาติครอบคลุมทุกวิชา เริ่มตั้งแต่ระดับอนุบาล
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(16 ก.พ)ว่า การประท้วงเมื่อสิงหาคมปี 2019 ที่เชื่อว่ามีผู้เข้าร่วมการประท้วงกว่าล้านคนท่ามกลางฝนตกและมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง
    .
    อดีตสมาชิกสภาฮ่องกงฝ่ายเรียกร้อวประชาธิปไตยและนักเคลื่อนไหว อู๋ หนก-หิ่น (Au Nok-hin) ยอมรับความผิดต่อการจัดการรวมตัว และร่วมชุมนุมผิดกฎหมาย รวมไปถึง เหลิ่ง ยิ่ว-ชุง( Leung Yiu-chung) นักเคลื่อนไหวอีกคนยอมรับความผิดต่อการเข้าร่วมชุมนุมประท้วงผิดกฎหมายเมื่อสิงหาคม ปี 2019 ในการพิจารณาไต่สวนวันอังคาร(16) แต่ทว่านักเคลื่อนไหวอื่นอีก 7 คน ได้แก่ ผู้ก่อนตั้งพรรคเดโมเครติก มาร์ติน ลี (Martin Lee) แกนนำอื่น Lee Cheuk-yan และเหลิ่ง ก็อก-ฮัง( Leung Kwok-hung) ที่รู้จักในนาม "หนุ่มผมยาว" รวมไปถึงเจ้าพ่อสื่อฮ่องกง จิมมี ไล ปฎิเสธไม่รับผิดตามข้อกล่าวหา
    .
    ทั้งอู๋และเหลิ่งมีกำหนดจะฟังคำพิพากษาในวันที่ 22 มี.ค ที่จะถึง รอยเตอร์รายงานว่า ในการพิจารณาคดีอู๋และเหลิ่งภายหลังได้ตะโกนต่อต้านการดำเนินคดีทางการเมืองเมื่อกล่าวยอมรับความผิด
    .
    ปักกิ่งได้จัดการตอบโต้การชุมนุมปี 2019 ด้วยการออกกฎหมายความมั่นคงใหม่ในปีถัดมาและได้มีการกวาดล้างบรรดานักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นต้นว่า โจชัว หว่อง จิมมี ไล ซึ่งไลอยู่ในเรือนจำมาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว และมีกำหนดต้องขึ้นศาลพิจารณาคดีอีกครั้งในวันพฤหัสบดี(18) ในคำร้องอุทธรณ์คำตัดสินก่อนหน้าที่ปฎิเสธการยื่นขอประกันตัว
    .
    ทั้งนี้บลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้าในวันที่ 5 ก.พว่า รัฐบาลฮ่องกงออกคำสั่งให้ทุกโรงเรียนทั่วทั้งเกาะเปลี่ยนหลักสูตรให้มีความรักชาติจีนและสนับสนุนรัฐบาลปักกิ่ง รวมไปถึงได้ออกคำสั่งให้ครูผู้สอนต้องรายงานหากพบการละเมิดกฎหมายความมั่นคงใหม่ ถือเป็นการยกเครื่องทางการศึกษาครั้งสำคัญของฮ่องกงนับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านปักกิ่งเมื่อปี 2019
    .
    การเปลี่ยนหลักสูตรให้มีความรักชาติมากขึ้นเริ่มตั้งแต่ระดับอนุบาลของเด็กอายุราว 3 ปี - 4 ปี ผ่านการเล่านิทานประกอบภาพวาด การเล่นบทบาทสมมุติ การร้องเพลง เต้นรำ และกิจกรรมอื่นๆ
    .
    นอกจากนี่้เด็กนักเรียนที่มีอายุน้อยสุดที่ 6 ปีจะได้รับการสอนให้จดจำไม่ให้ทำผิดกฎหมายความมั่นคงใหม่ที่ปักกิ่งได้บังคับใช้เมื่อมิถุนายน ปี 2019 ความผิดรวมไปถึง การแบ่งแยกดินแดน การก่อการร้าย และการสมคบคิดกับต่า่งชาติ หลักสูตรที่ว่าจะครอบคลุมทุกวิชาตั้งแต่วิชาภูมิศาสตร์ไปจนถึงชีววิทยา
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เยอรมนีทดลองทำที่พักให้คนไร้บ้านไว้หลับนอน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผ.อ การค้าโลกคนใหม่อเมริกันไนจีเรียจี้เลิก “กักตุนวัคซีนโควิด-19” ทำโลกฟื้นตัวจากวิกฤตสะดุด
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ - ผู้อำนวยการองค์การค้าโลก WTO คนใหม่ เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา ซึ่งเป็นหญิงจากทวีปแอฟริกาคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งกล่าวถึง การใช้ความเปนชาตินิยมในการกักตุนวัคซินโควิด-19 ว่าจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(16 ก.พ)ว่า ผู้อำนวยการองค์การค้าโลก WTO คนใหม่ เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา( Ngozi Okonjo-Iweala) ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อวานนี้(15)ว่า องค์การค้าโลกจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามมากขึ้นเพื่อตอบรับปัญหาต่อวิกฤตโรคโควิด-19ที่ยังคงระบาด โดยเธอชี้ว่า ชาติสมาชิกต้องเพิ่มความพยายามโดยเร็วเพื่อหาทางยกเลิกข้อจำกัดการส่งออก ที่ทำให้การค้าขายช้าลงโดยเฉพาะด้านยารักษาโรคและสิ่งของจำเป็นต้องการในเวลานี้
    .
    โอคอนโจ-อิเวียลาที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์อเมริกันเชื้อสายไนจีเรีย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศไนจีเรีย รวมไปถึงยังดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของเวิลด์แบงก์ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการค้าโลกคนใหม่วันจันทร์(15) โดยเธอจะเริ่มต้นการทำงานในวันที่ 1 มี.คนี้กล่าวว่า
    .
    “WTO สามารถสร้างคุณประโยชน์ได้มากในการช่วยหยุดวิกฤตโรคระบาด” ผู้อำนวยการค้าโลกคนใหม่กล่าวที่บ้านพักในย่านชานเมืองของวอชิงตัน
    .
    และเธอเสริมว่า “จะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย นโยบายวัคซีนชาตินิยมที่มีการกีดกันในเวลานี้จะไม่ช่วยอะไรเพราะว่าสายพันธุ์ใหม่กำลังมา ซึ่งหากว่าประเทศอื่นๆไม่ได้รับภูมิคุ้มกันแล้ว มันก็เท่ากับว่าทำให้ความพยายามที่ผ่านมาสูญเปล่า”
    .
    โอคอนโจ-อิเวียลา ชี้ต่อว่า “มันดูไม่มีเหตุผลที่ผู้คนกำลังตายทุกหนทุกแห่ง ยืนรอคิว ขณะที่เรามีเทคโนโลยี”
    .
    เธอกล่าวอีกว่า การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกจะขาดทุน 9 ล้านล้านดอลลาร์ของผลผลิตที่สำคัญหากว่าชาติยากจนไม่สามารถทำให้ประชาชนของตัวเองได้รับการได้วัคซีนโดยเร็ว และครึ่งหนึ่งของผลกระทบจะเกิดต่อประเทศโลกร่ำรวย
    .
    “ทั้งบนพื้นฐานทางสุขภาพมนุษย์และทางเศรษฐกิจ การเป็นชาตินิยมในเวลานี้จะส่งผลร้ายอย่างมากต่อประชาคมโลก” โอคอนโจ-อิเวียลา แถลง
    .
    เธอกล่าวอีกว่า สิ่งเฉพาะหน้าในเวลานี้ต่อเธอในฐานะนายหญิงคนใหม่ขององค์การค้าโลกคือการต้องทำให้มีผลลัพท์ได้มาจากการประชุมระดับรัฐมนตรีที่ว่าทาง WTO จะสามารถทำให้วัคซีน การรักษา และการวินิจฉัยสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมด้วยราคาประหยัดต่อทุกประเทศ โดยเฉพาะชาติยากจน
    .
    นอกจากนี้เธอยังกล่าวว่า หลังจากได้สนทนากับที่ปรึกษาทางการค้าประจำสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการสนทนาที่ โอคอนโจ-อิเวียลา กล่าวว่า “ยอดเยี่ยม” เธอชี้ว่าเธอรู้สึกซาบซึ้งกับความมุ่งมั่นในความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ที่ต้องการให้การแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 กว้างขวางขึ้น
    .
    เธอยังแสดงความเห็นด้วยกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ต้องการให้มีการปฎิรูปองค์การ WTO แต่ชี้ว่ากระบวนการไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยเร็วหรือเป็นสิ่งง่าย
    .
    ผู้อำนวยการค้าโลกคนใหม่ยอมรับถึงการยังคงมีความแตกต่างระหว่างชาติสมาชิก แต่ยังมีความเป็นไปได้ในความคืบหน้า โดยเฉพาะท่าทีที่ออกมาจากรัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาอุฯ กดดัน ‘บ.ต่างชาติ’ ตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศ ไม่งั้นหมดสิทธิ์ร่วมโครงการรัฐ
    .
    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังซาอุดีอาระเบียประกาศวานนี้ (15 ก.พ.) ว่า หลังจากปี 2024 เป็นต้นไป บริษัทข้ามชาติที่ต้องการมีส่วนร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลซาอุฯ จะต้องมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศ ไม่เช่นนั้นจะหมดสิทธิ์เป็นคู่สัญญากับรัฐบาล
    .
    ซาอุดีอาระเบียซึ่งขนาดมีเศรษฐกิจใหญ่โตที่สุดในตะวันออกกลาง และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก มีแผนยกเลิกสัญญากับกับบริษัทหรือองค์กรการค้าต่างๆ ที่ไม่มีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคตั้งอยู่ในราชอาณาจักร ทั้งนี้ก็เพื่อโน้มน้าวให้บริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งฐานธุรกิจอย่างถาวรและกระตุ้นให้เกิดการจ้างบุคลากรท้องถิ่น
    .
    อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างชาติที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน
    .
    “หากบริษัทใดปฏิเสธที่จะย้ายสำนักงานใหญ่มาที่ซาอุดีอาระเบีย ก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขา และพวกเขายังสามารถทำงานร่วมกับภาคเอกชนในซาอุดีอาระเบียได้อย่างเสรี” โมฮัมเหม็ด อัล-ญาดาน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังซาอุฯ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “แต่หากต้องการได้สัมปทานโครงการของรัฐ พวกเขาจะต้องมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่เท่านั้น”
    .
    รัฐบาลซาอุฯ จะแถลงรายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว รวมถึงข้อยกเว้นต่างๆ ให้ทราบก่อนสิ้นปี 2021
    .
    “ซาอุดีอาระเบียเป็นที่หนึ่งทั้งในด้านเศรษฐกิจและจำนวนประชากรของภูมิภาคนี้ ทว่าส่วนแบ่งในการมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศยังถือว่าน้อยมาก ไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ ดังนั้นรัฐบาลจึงกำหนดนโยบายที่มุ่งดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ การถ่ายโอนความรู้ และการจ้างงาน” อัล-ญาดาน อธิบาย
    .
    เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซึ่งเป็นเสมือนผู้ปกครองในทางพฤตินัยของซาอุฯ ทรงให้คำมั่นสัญญาว่าจะสร้างสังคมที่เปิดกว้าง, ปฏิรูปเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมันให้มีความหลากหลาย, ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ตลอดจนสร้างตำแหน่งงานให้แก่พลเมืองหนุ่มสาวซาอุฯ นับล้านๆ คน
    .
    ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่เลือกที่จะเปิดสำนักงานประจำภูมิภาคในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เพื่อต่อยอดธุรกิจไปสู่ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงซาอุดีอาระเบียด้วย
    .
    อัล-ญาดาน ระบุว่า รัฐบาลซาอุฯ เตรียมดำเนินการปฏิรูปทั้งในด้านกฎหมายและระบบยุติธรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนรู้สึกสบายใจที่จะย้ายมาประกอบกิจการในริยาด
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกาหลีใต้จัดซื้อวัคซีนโควิด-19เพิ่ม แต่ปรับลดแผนฉีดประชาชนหลังเจอปัญหาส่งมอบล่าช้า

    เกาหลีใต้เตรียมซื้อวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติม สำหรับประชาชนอีก 23 ล้านคน จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีในวันอังคาร(16ก.ย.) หนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่ตัดสินใจลดระดับแผนฉีดวัคซีนในเบื้องต้น อ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาล่าช้าและประสิทธิภาพของมัน

    ข้อตกลงล่าสุดนี้ประกอบด้วยวัคซีนจากโนวาแว็กซ์ อิงค์ และไฟเซอร์ สำหรับประชาชน 23 ล้านคน ส่งผลให้เวลานี้เกาหลีใต้มีวัคซีนปริมาณที่ครอบคลุมจำนวนประชากร 79 ล้านคน จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีชุง เซ-กยุน

    ชง เซ-กยุน บอกกับที่ประชุมระหว่างหน่วยงานด้านตอบสนองต่อวิกฤตโควิด-19 ว่าประเทศจะได้รับวัคซีนสำหรับประชาชน 20 ล้านคนจาก โนวาแว็กซ์ บริษัทยาสัญชาติสหรัฐฯ และวัคซีนเพิ่มเติมสำหรับประชาชน 3 ล้านคน จาก ไฟเซอร์ ผู้ผลิตยาสัญชาติสหรัฐฯเช่นกัน

    นายกรัฐมนตรีชง เซ-กยุน บอกว่าสัญญาที่ทำกับโนวาแว็กซ์มีความสำคัญมากที่สุด เพราะว่าวัคซีนของบริษัทยาสัญชาติสหรัฐฯแห่งนี้จะผลิตในโรงงานท้องถิ่น ผ่านการถ่ายโอนเทคโนโลยีสู่บริษัทผู้ผลิตยาท้องถิ่นแห่งหนึ่ง

    เขาเน้นว่าข้อตกลงดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการเร่งรัดพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ภายในประเทศ

    วัคซีนโนวาแว็กซ์ จะผลิตในโรงงานผลิตวัคซีนของเอสเค ไบโอไซแอนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทเภสัชกรรมของเอสเค กรุ๊ป กลุ่มบริษัทใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของประเทศ และวัคซีนที่ผลิตนี้จะเป็นอุปทานป้อนภายในประเทศ

    ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้เคยลงนามในข้อตกลงการผลิตแบบฝากขายกับแอสตราเซเนกาเมื่อปีที่แล้ว

    ประธานาธิบดีมูน แจ-อิน ประกาศฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนทุกคนทั่วประเทศ จำนวน 52 ล้านคน แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยมีเป้าหมายก่อภูมิคุ้มกันหมู่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอย่างช้าที่สุดไม่เกินเดือนพฤศจิกายน

    ในจำนวนล่าสุด เกาหลีใต้รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 457 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 84,325 คน เสียชีวิต 1,534 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้่อใหม่แกว่งตัวอยู่ในระดับเหนือ 400 คนเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว

    ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชน 56 ล้านคน ในนั้นรวมถึงสำหรับ 10 ล้านคนจากไฟเซอร์, 10 ล้านคนจากแอสตราเซเนกา, 20 ล้านคนจากโมเดอร์นา, 6 ล้านคนจากจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และสำหรับ 10 ล้านคนผ่านโครงการโคแว็กซ์ที่นำโดยองค์การอนามัยโลก โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคนชรา ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์

    อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เปิดเผยในวันจันทร์(15ก.พ.) ว่าจะไม่ใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาในคนสูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป กลับลำการตัดสินใจก่อนหน้านี้ โดยอ้างว่าข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมันนั้นยังไม่เพียงพอ

    ความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพวัคซีนของแอสตราเซเนกา และปัญหาส่งมอบล่าช้าจากโครงการโคแว็กซ์ ส่งผลให้รัฐบาลปรับลดเป้าหมายการฉีดวัคซีนไตรมาสแรกจาก 1.3 ล้านคน เหลือเพียง 760,000 คน

    (ที่มา:รอยเตอร์ส/ซินหัว)
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คองเกรสเตรียมตั้งคณะกรรมการอิสระสืบสวนข้อเท็จจริงเหตุสาวกทรัมป์จู่โจมรัฐสภา

    แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯเปิดเผยในวันจันทร์(15ก.พ.) ว่าสภาคองเกรสจะจัดตั้งคณะกรรมการที่มาจากบุคคลภายนอกและเป็นอิสระ ตรวจสอบทบทวน "ข้อเท็จจริงและมูลเหตุต่างๆ" ที่สัมพันธ์กับเหตุบรรดาผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น บุกโจมตีสูญเสียเลือดเนื้ออาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม

    เปโลซี เขียนหนังสือถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรว่าคณะกรรมการชุดนี้จะมีต้นแบบคลายคลึงกับคณะกรรมการชุดที่ถูกจัดตั้งขึ้นหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีนิวยอร์กและเพนตากอน 11 กันยายน 2011 พร้อมระบุว่าคณะกรรมการจะตรวจสอบ "ข้อเท็จจริงและมูลเหตุต่างๆ ที่เกี่ยวของกับความพร้อม การตอบสนองของตำรวจรัฐสภา เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายระดับรัฐบาลกลาง ระดับรัฐและระดับท้องถิ่น ด้วยเช่นกัน"

    ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ มอบหมายให้ รัสเซล ออนอเร อดีตพลโทแห่งกองทัพอเมริกาที่เกษียณอายุแล้ว เป็นผู้ประเมินมาตรการความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับอาคารรัฐสภาตามหลัเงหตุโจมตี บนพื้นฐานที่เขาค้นพบชั่วคราว พร้อมบอกว่าสภาคองเกรสต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อมอบความปลอดภัยแก่สมาชิกสภาคองเกรสและดูแลความปลอดภัยแก่อาคารรัฐสภา

    เธอบอกว่า "จากสิ่งที่เขาค้นพบและจากกระบวนการพิจารณาถอนถอน มันชัดเจน เราควรได้รู้ความจริงว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร"

    นานกว่า 1 เดือนแล้ว หลังจากบรรดาผู้สนับสนุนของทรัมป์ บุกโจมตีอาคารรัฐสภา ในความพยายามขัดขวางกระบวนการรับรองชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย อาคารรัฐสภายังคงอยูู่ภายใต้การอารักขาของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมากกว่า 5,000 นาย และถูกล้อมรอบด้วยแนวรั้วสูงกว่า 8 ฟุต ติดลวดหนามไว้ด้านบน ทั้งนี้คาดหมายว่าทหารจะยังคงประจำการอยู่เช่นนี้ต่อไปจนถึงช่วงกลางเดือนมีนาคม

    เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้บัญชาการตำรวจรัฐสภา เรียกร้องสมาชิกสภาคองเกรสต่อเติมแนวรั้วถาวรและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสำรอง โดนเน้นว่าการประเมินด้านความปลอดภัยในปี 2006 ได้มีคำแนะนำให้ติดตั้งแนวรั้วถาวรรอบๆอาคารรัฐสภา

    อย่างไรก็ตามสมาชิกรัฐสภาหลายคนและ มูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีวอชิงตัน ไม่เห็นด้วย โดยเรียกร้องบรรดาผู้นำสภาคองเกรส อย่าเลือกใช้แนวทางติดตั้งแนวรั้วถาวรหรือประจำการทหารรักษาความปลอดภัยอย่างถาวร

    จนถึงตอนนี้มีมากกว่า 200 คนแล้วที่ถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมต่างๆในเหตุโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม อันนำมาซึ่งกระบวนการพิจารณาถอดถอนทรัมป์ ตามข้อกล่าวหายุยงก่อกบฏ อย่างไรก็ตามวุฒิสภาลงมติให้ทรัมป์พ้นจากข้อกล่าวหา ด้วยคะแนน 57-43 เสียงเมื่อวันเสาร์(13ก.พ.)

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนาวแค่ไหนดูเอา!หนุ่มสหรัฐฯแพร่คลิปบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแข็งค้างเส้นตั้งได้(ชมวิดีโอ)

    เด็กหนุ่มชาวสหรัฐฯเผยแพร่วิดีโอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน กลายสภาพเป็นเส้นแข็งค้างตั้งได้ ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวเหน็บในรัฐนอร์ทดาโคตา ภาพสะท้อนถึงผลกระทบของอากาศหนาวเหน็บสุดขั้วที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์

    สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศหนาวเหน็บที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐนอร์ทดาโคตา เมื่อวันเสาร์(13ก.พ.) พร้อมกับคาดหมายว่าอุณหภูมิในบางพื้นที่จะแตะระดับ -50 องศาเซลเซียส

    ไอซิส ซิโอ ซึ่งพักอาศัยอยู่ในเมืองดิคกินสัน ตัดสินใจสาธิตให้เห็นว่าสภาพอากาศที่หนาวเหน็บนั้นสุดขั้วแค่ไหน ด้วยการถือชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาด้านนอก

    ในวิดีโอพบเห็นส้อมลอยอยู่กลางอากาศและเส้นบะหมี่อยู่ในสภาพเยือกแข็ง ไม่นานหลังจากเขาถือมันเดินออกมานอกบ้าน

    เอริน ซิโอ แม่ของไอซิส เล่าว่าสภาพอากาศหนาวเหน็บใช้เวลาราวๆ 20 นาที สำหรับเปลี่ยนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่กำลังเดือดปุดๆ กลายสภาพเป็นบะหมี่เยือกแข็ง

    (ที่มา:นิวยอร์กโพสต์)

    ชมคลิปที่นี่ : https://mgronline.com/around/detail/9640000015259
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวดีมาก!!อิสราเอลพบวัคซีนโควิดได้ผลจริง มีประสิทธิภาพสูงพอๆในห้องทดลอง

    ข้อมูลเพิ่มเติมจากโครงการฉีดวันซีนโควิด-19 ของอิสราเอล พบวัคซีนของไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการถึง 94% บ่งชี้ว่ามันมีประสิทธิภาพสูงในประชากรกลุ่มใหญ่ในโลกจริง พอๆกับในการทดลองทางคลินิก

    นอกจากนี้แล้วศาสตราจารย์ ฮาไก เลวีน แพทย์สาธารณสุขอิสราเอล ยังระบุว่าวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงลิ่วในการป้องกันอาการป่วยต่างๆและการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงทุกเพศทุกวัย "กุญแจสำคัญคือ มันมีประสิทธิภาพสูงครอบคลุมกลุ่มอ่อนแอทั้งหมด"

    Clalit กองทุนสุขภาพใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ทำการประเมินผลประชาชน 600,000 คนที่ได้รับวัคซีนและ 600,000 คนที่ไม่ได้รับวัคซีน เท่าเทียมกันทั้งอายุและสถานะทางสุขภาพ ซึ่งพบว่าในบรรดากลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนนั้น ติดเชื้อน้อยลงถึง 94% และวัคซีนสามารถป้องกันเคสอาการป่วยรุนแรงได้เกือบทั้งหมด

    ผลประสิทธิภาพที่ออกมานั้น เป็นไปในรูปแบบเดียวกันในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ในนั้นรวมถึงกลุ่มคนที่มีอายุเกิน 70 ปี ซึ่งอาจเป็นคนกลุ่มน้อยในการทดลองทางคลินิก

    แม้ข้อมูลนี้ยังไม่เผยแพร่อย่างเป็นทางการ แต่ เลวีน กล่าวว่า "มันส่งสารถึงประเทศอื่นๆ อย่างเช่นสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับประโยชน์ของวัคซีน" และจำเป็นต้องฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มประชากรต่างๆให้มากที่สุด เพื่อก้าวข้ามไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

    เลวีน ไม่ได้ระบุจำนวนสัดส่วนประชากรที่จำเป็นต้องได้รับภูมิคุ้มกัน ก่อนผ่อนคลายข้อกำหนดต่างๆ "เรายังไม่รู้ว่ามันส่งผลกระทบอย่างไรต่อการแพร่เชื้อ" อย่างไรก็ตามเขาบอกว่า "อย่างน้อยๆ เรก็สามารถพูดได้ว่า วัคซีนเป็นประโยชน์สำหรับปกป้องผู้คน"

    ด้านศาสตราจารย์อีราน เซกัล ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลให้กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอล บ่งชี้ว่าอิสราเอลต้องฉีดวัคซีนกลุ่มประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้ได้ในระดับ 80% ก่อน จากนั้นถึงจะทราบเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริงของวัคซีน ในเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มผู้สูงอายุ

    อิสราเอลเป็นประเทศแรกของโลกที่เริ่มเห็นผลจากโครงการฉีดวัคซีน แต่มันจำเป็นต้องรอให้ครอบคลุมสัดส่วนประชากรจำนวนมาก และคงต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะบรรลุหลักชัยดังกล่าว

    อย่างไรก็ตามการพบเห็นการติดเชื้อลดลงอย่างมากในหมู่ประชาชนอายุเกิน 60 ปี ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว และตามเมืองต่างๆที่ฉีดวัคซีนแก่ประชาชนไปแล้วเป็นลำดับแรกๆ เป็นรูปแบบที่ไม่เคยพบเห็นระหว่างการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ ซึ่งมันเป็นหลักฐานหลักแน่นว่าวัคซีนเป็นตัวฉุดให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเช่นกัน ไม่ใช่แค่เพียงมาตรการล็อกดาวน์เท่านั้น

    กระนั้นศาสตราจารย์เลวีน เตือนว่าการลดลงของผู้ติดเชื้อนั้นยังถือว่าช้ากว่าที่คาดหมายไว้ ซึ่งเป็นไปได้อาจเป็นเพราะการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักร ซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอิสราเอลไปแล้วในตอนนี้

    นอกจากนี้ศาสตราจารย์เลวีน ยังเตือนด้วยว่าแม้โครงการฉีดวัคซีนของอิสราเอลดำเนินการในอัตราที่รวดเร็วอย่างมาก แต่ก็ยังมีประชาชนอีกหลายแสนคนที่ยังไม่ได้รับการป้องกันและอาจล้มป่วยรุนแรงหากติดเชื้อ

    อิสราเอลกำลังประสบกับการแพร่ระบาดระลอกรุนแรงและยังคงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดอันเข้มข้นต่างๆนานา แต่ด้วยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปกำลังได้รับวัคซีน พวกเขาจึงหวังว่าอย่างน้อยๆก็จะสามารถกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามสถาบันการศึกษาต่างๆได้เช่นกัน

    (ที่มา:บีบีซี)
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    INNOVATION: ทีมจากศูนย์เทคโนโลยีเยอรมนีคิดดีผุด น้ำยาไฮโดรเจน! กักเก็บพลังงานสูง ใช้กับรถได้ง่าย เพียงใส่ตลับ และเติมน้ำ
    .
    อากาศที่สุดขั้ว ความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติ และระดับความสูงของน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นล้วนเป็นผลวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เป็นภัยคุกคามมนุษย์ แต่ภัยนี้มันก็มาจากกิจกรรมบางอย่างของเราเอง อย่างเช่นการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ไปปกคลุมชั้นบรรยากาศโลก ทำให้อุณภูมิของโลกสูงทำลายสถิติใหม่ในแต่ละปี
    .
    ที่มาของก๊าซเรือนกระจกที่มาจากพฤติกรรมมนุษย์กว่า 30% (ในสหรัฐอเมริกา) นั้นมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากการคมนาคม ผลกระทบของมันเห็นได้ชัดในรูปแบบของมลพิษในอากาศ และมันก็ยิ่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ จนผู้คนเริ่มหาวิธีอื่น ๆ ทดแทนการเผาไหม้แบบเดิม และพึ่งพาพลังงานสะอาด
    .
    หนึ่งในพลังงานสะอาดที่เข้ามาทดแทนเชื้อเพลิงแบบเดิมคือ พลังงานไฮโดรเจน เทคโนโลยีของรถยนต์ไฮโดรเจนกำลังเป็นที่จับตามอง และเป็นคู่แข่งที่สำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ของ Elon Musk เพราะรถยนต์ไฮโดรเจนใช้เวลาเติมให้เต็มถังเพีงแค่ 5 นาที เมื่อเติมเต็มวิ่งเฉลี่ยได้ไกลกว่าประมาณ 500 km/hr ขึ้นไป จะเสียก็ตรงราคา เพราะต้นทุนในการผลิตของไฮโดรเจนแพงอยู่ในระดับนึง
    .
    แต่ล่าสุด ทีมจาก Fraunhofer Institute for Manufacturing Technology and Advanced Materials (IFAM) ในประเทศเยอรมนีได้พัฒนาน้ำยาไฮโดรเจน “POWERPASTE” ที่ทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่และอาจทำให้การใช้พลังงานไฮโดรเจนในรถขนาดเล็กอย่างสกู๊ตเตอร์ และมอเตอร์ไซค์ ถูกลง
    .
    เดิมมอเตอร์ไซค์พลังงานไฮโดรเจนมีราคา 9,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคัน และสถานีชาร์ตก็มีราคาสูงถึง 36,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง POWERPASTE จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพราะน้ำยาของมันทำมาจากแมกนีเซียม และจะถูกเก็บไว้ในรถในรูปแบบของตลับ สิ่งที่ผู้ขับต้องทำเพื่อเติมน้ำยาที่ขับเคลื่อนรถก็จะมีแค่ นำตลับเก่าออก ใส่อันใหม่เข้าไป และเติมน้ำในแทงค์ ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จ และค่าสถานี ค่าแบตที่มีราคาสูงแต่อย่างไร
    .
    น้ำยานี้จะย่อยสลายในอุณหภูมิที่สูงถึง 248 องศาเซลเซียส ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะละลายเมื่อนำรถไปจอดในที่แดดจ้า
    .
    อีกข้อดีของ POWERPASTE คือ ความจุ มันสามารถจุพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ 10 เท่า ส่วนเรื่องระยะทางในการวิ่ง นักวิจัยยังชี้ว่า ระยะทางนั้นเทียบเท่ากับน้ำมันเบนซิน และอาจเกินกว่านั้นด้วยซ้ำ
    .
    ในอนาคต นักวิจัยก็หวังว่าจะพัฒนาน้ำยานี้ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่สำหรับรถยต์ และเครื่องบินได้ แต่ ณ ตอนนี้ พวกเขาก็กำลังวางแผนจะปล่อย Powerpaste ออกมาก่อน 4 ตันต่อปีภายในปีนี้
    .
    วงการพลังงานไฮโดรเจนถือว่ากำลังเติบโตอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา และก็กำลังจะโตขึ้นเรื่อย ๆ Toyota ก็เริ่มผลิตรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่วิ่งได้ถึง 800 Km ด้าน Jess Bezos และ Bill Gates ก็ออกโรงสนับสนุนสตาร์ทอัพ ZeroAvia ที่กำลังพัฒนาเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจน
    .
    ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าก็ยังเป็นอีกหนึ่งพลังงานทางเลือกที่ยังคงน่าสนใจอยู่ไม่น้อย กำลังมีการพัฒนาแบตที่จุมาขึ้น ระยะเวลาในการเติมที่น้อยลง ระยะเวลาในการวิ่งที่ยาวนานขึ้น และราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ฟาก Elon Musk ก็เตรียมผลักดันพลังงานนี้เต็มที่
    .
    ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีของโลกที่เคลื่อนที่ไปอย่างไม่หยุดหย่อน พลังงานใหม่ทั้งสองนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าติดตามมาก และคาดว่าในอนาคตจะมีการพัฒนามาอีกเรื่อย ๆ เพราะตอนนี้รัฐบาลหลายประเทศก็เริ่มแบนการขายรถยนต์ดีเซลและเบนซินมากขึ้นแล้ว เป็นหนึ่งในนโยบายสีเขียวของพวกเขาที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศ
    .
    Source:
    1. https://www.businessinsider.com/car-bike-tesla-amazon...

    2. https://www.fraunhofer.de/.../hydrogen-powered-drives-for...
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    EXTINCTION: การต่อสู้เพื่อปกป้องลิงจมูกเชิดสีทอง
    เสี่ยงขั้นวิกฤตต่อการสูญพันธุ์ในประเทศจีน
    .
    ลิงจมูกเชิดสัตว์หายากในประเทศจีน มีความเสี่ยงขั้นวิกฤตต่อการสูญพันธุ์มากกว่าหมีแพนด้า!
    .
    ลิงจมูกเชิดสีทอง ( Golden snub-nosed monkey) ลักษณะที่เป็นซิกเนอเจอร์คือรูจมูกเชิดเล็ก ๆ ปากอูม ขนฟูฟ่องสีส้มทอง หางฟูยาว อาศัยอยู่บนภูเขาสูงทางตอนเหนือของมณฑลยูนาน ประเทศจีน
    .
    ลักษณะเด่นทั่วไปของลิงจมูกเชิดนั้นคือไม่มีกระดูกดั้งจมูก และรูจมูกเชิดขึ้นด้านบน อันเป็นที่มาของชื่อเรียก ปัจจุบันนี้มีลิงจมูกเชิดอยู่ 5 ชนิด พบได้ในจีน และตอนล่างของจีนติดต่อกับพรมแดน เช่นพม่าและเวียดนาม หลายปีที่ผ่านมาน้องลิงจมูกเชิดทุกชนิดได้ถูกจัดอยู่ในรายชื่อสัตว์ที่มีใกล้สูญพันธุ์ บางสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ โดยองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN)
    .
    และเนื่องจากหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ กระดูกนำมาทำยาจีน สีขนโดดเด่นเหมาะนำมาทำพรมหรือหมอนอิง น้องจึงถูกล่าไม่ต่ำกว่า 100 ตัวต่อปี และคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเติบโตของประชากรมนุษย์ เกษตรกรรม การตัดต้นไม้ ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยของน้องทั้งสิ้น คาดได้ว่าน้องลิงสายพันธ์ุนี้มีแนวโน้มจะสูญพันธ์ในอีก 50 ปี ถ้าหากเราไม่ทำอะไรสักอย่าง…
    .
    Xu hao ผู้ประสานงานพัฒนาชุมชน ของมูลนิธิพัฒนาสิ่งแวดล้อม Green Yunnan ได้กล่าวว่า ในอดีตชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบภูเขาจำเป็นต้องพึ่งพาธรรมชาติในการดำรงชีวิต พวกเขามักทำกิจกรรมต่าง ๆ ในป่าไม่ว่าจะปีนเขาเพื่อล่าสัตว์ ตัดต้นไม้ ทำให้สิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบอย่างมาก และจำนวนน้องลิงก็ลดน้อยลงจนถึงขั้นวิกฤต
    .
    ในปัจจุบัน องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ และรัฐบาลจีนทำงานร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันปกป้องบ้านของน้องลิงเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่
    โดยสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ ในการสร้างวิถีชีวิตทางเลือกเช่นการขายงานฝีมือ และสอนพวกเขาตรวจสอบป่าไม้ ให้ความรู้ชาวบ้านเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้
    .
    Liao haohong รักษาการผู้จัดการอาวุโสองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติยูนาน ได้กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ เริ่มตระหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงความสำคัญของการปกป้องเจ้าลิงยูนาน และชาวบ้านยังคงเข้าร่วมการปกป้องป่าไม้มากขึ้นเรื่อย ๆ
    .
    Li Peng นักอนุรักษ์ได้กล่าวว่า เราต้องพิจารณาการพัฒนาชุมชนไปพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และหวังว่าเราสามารถแน่ใจได้ว่าคนและลิงสามารถพัฒนาและเจริญงอกงามไปในเวลาเดียวกัน
    .
    ในที่สุดจำนวนประชากรของลิงจมูกเชิดสีทองในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้น พบลิงจมูกเชิดสีทอง 300 ตัว และจำนวนรวมของลิง ทั้งยูนานและทิเบต รวมกันประมาณ 3,000 ตัว
    .
    โล่งอกไปที! ในที่สุดน้องลิงจมูกเชิดก็ยังไม่สูญพันธ์ (ปลอดภัยแค่ในเวลานี้) ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมต้องเป็นการร่วมมือกันทั้งประชาชนในพื้นที่เอง มูลนิธิพัฒนาสิ่งแวดล้อมหรือรัฐบาล ไม่ใช่แค่เจ้าลิงจมูกเชิดสีทองสายพันธุ์นี้ แต่เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมทุก ๆ เรื่อง การตระหนักและเข้าใจถึงผลกระทบที่เราทำต่อสิ่งแวดล้อม และเลี่ยงที่จะทำสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ส่วนภาครัฐเองก็ควรให้การสนับสนุน การสร้างมาตรการ ข้อบังคับต่าง ๆ ทำให้ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืนค่ะ
    .
    Source
    1. https://edition.cnn.com/.../cte-yunnan-golden-monkeys-spc...

    2. https://ngthai.com/history/9742/ancient-snub-nosed-monkeys/

    3. https://web.facebook.com/samrujlok/posts/10157317020212226/

    4. https://mgronline.com/indochina/detail/9570000039394

    5. https://www.iucnredlist.org/es/species/19596/17943886
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FOOD: Nestlé เขย่าวางการเอาใจสายวีแกน เปิดตัว KitKat V ที่ใช้นมจากข้าว ทดแทนนมวัว
    .
    ความต้องการในการทานอาหารจากพืชเป็นหลัก (Plant Based food) มีมากขึ้นด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสวัสดิภาพสัตว์ หรือด้านสุขภาพ หลากหลายแบรนด์จึงหันมาทำเมนูทางเลือกที่ทำมาจากพืชมากขึ้น
    .
    ล่าสุดทาง Nestlé ได้เปิดตัว KitKat V ที่จะใช้นมข้าว มาทดแทนนมวัว และใช้โกโก้จากแหล่งยั่งยืน และเผยว่ารสชาติจะยังคงผสมผสานความกรอบ และความนิ่มนวลของช็อกโกแลตเหมือนเดิม
    .
    โดย KitKat V นี้จะวางขายในหลายประเทศทั่วโลกในปีนี้ ทั้งทางออนไลน์ และร้านค้าบางแห่ง
    .
    นอกจากเจ้าคิทแคทวีแก้นนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ทาง Nestlé ก็ได้วางขายผลิตภัณฑ์ทางเลือกจากพืชที่หลากหลายมากขึ้นที่ทดแทนนมวัว ไม่ว่าจะเป็น ขาว โอ๊ต ถั่วเหลือง มะพร้าว ถั่ว หรือแอลมอนด์ ที่ใส่ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนจากพืช ไม่ว่าจะเป็นทูน่าจากพืช เสต็กจากพืช นักเก็ตจากพืช ไส้กรอกจากพืช หมูสามชั้นจากพืช และอีกมากมาย
    .
    ไม่กี่ปีมานี้หลากหลายแบรนด์อาหารได้หันมาสนใจ และผลิตอาหารทดแทนจากพืชมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในการลดการพึ่งพาสัตว์ เพื่อสิ่งแวดล้อม สัตว์ และสุขภาพ
    .
    Source:

    https://www.bloomberg.com/.../vegan-chocolate-race-heats...

    https://edition.cnn.com/.../vegan-kitkat.../index.html

    https://www.nestle.com/.../nestle-first-vegan-kitkat...

    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UNDERWATER: การค้นพบใหม่ วาฬอาจไม่ได้จำเพลงของตัวเองได้
    .
    การร้องเพลงของวาฬนั้นทำขึ้นเพื่อการสื่อสารของพวกมัน เพราะในมหาสมุทรนั้น เสียงเดินทางได้เร็ว และดีกว่าการมองเห็น พวกมันจึงใช้วิธีนี้เพื่อเป็นการติดต่อกับวาฬตัวอื่น
    .
    จากงานวิจัยทำให้รู้ว่าเสียงของวาฬนั้นสามารถไปได้ไกลถึง 900 เมตรเลยทีเดียว
    .
    มีสมมุติฐานที่ว่าพวกวาฬหลังค่อม (Humpback Whale) และวาฬโบวเฮด (Bowhead Whale) เป็นสัตว์
    ที่สามารถจะเปลื่ยนเพลงร้องของพวกมันไปเรื่อย ๆ
    และถ่ายทอดจากตัวอื่นได้เหมือนกับมนุษย์
    .
    แต่จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Buffalo ในสหรัฐอเมริกานั้นขัดแย่งกับสมมุติฐานเดิม เกี่ยวกับการจดจำการร้องเพลงจากวาฬตัวอื่น
    .
    มีการศึกษาที่เผยแพร่ใน Journal of Comparative Psychology ได้วิเคราะห์เพลงจากพวกวาฬหลังค่อมที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่พวกมันก็ยังมีลักษณะของรูปแบบที่คล้ายกันอยู่ดี โดยการจำแนกเสียงนั้นใช้การวัดระดับของเสียง
    ไม่ได้มีการจัดหมวดหมู่ของเสียงแต่อย่างใด
    .
    Eduardo Mercado ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย UB's College of Arts and Sciences ได้กล่าวว่า “ผลลัพธ์เหล่านี้ได้บอกว่าวาฬมีความซับซ้อนในแบบที่นักวิจัยไม่เคยพิจารณามาก่อน และสิ่งที่เราได้ยินคือระดับของความซับซ้อนทางเสียงซึ่งเกินความสามารถของมนุษย์”
    .
    และในขั้นต่อไป Mercado นั้นอยากจะศึกษาว่าทำไมเพลงของเหล่าวาฬนั้นจึงเเปลื่ยนแปลงไป
    .
    Source :
    1. https://www.sciencedaily.com/rel.../2021/02/210212123521.htm

    2. https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/268658

    เรียบเรียง: Pichchakorn
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    INNOVATION: โค้กพัฒนา”ขวดกระดาษ” ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% หวังลดขยะพลาสติกในระยะยาว
    .
    จากที่บริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่อย่างโค้กนั้นเคยตั้งเป้าในการผลิตเครื่องดื่มแบบ zero waste ภายในปี 2030 ล่าสุดโค้กได้ทำการทดลองใช้ขวดกระดาษเพื่อลดขวดพลาสติกในระยะยาว โดยการใช้ขวดที่ผลิตจากเปลือกกระดาษที่มีความแข็งแรงสูง และมีส่วนผสมเล็กน้อยของแผ่นพลาสติกบาง ผลิตโดยบริษัท Paboco ของประเทศ Denmark เป้าหมายของการทดลองครั้งนี้คือ เพื่อสร้างขวดที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ที่ไม่ใช่พลาสติก แต่ยังสามารถกักเก็บแก๊สในน้ำอัดลมได้
    .
    ความท้าทายของการทำขวดกระดาษคือการสร้างโครงสร้างของขวดที่ทนต่อแรงดันจากฟองเครื่องดื่มอัดลม อีกทั้งต้องให้กระดาษสามารถทำเป็นรูปทรงต่าง ๆ สำหรับเครื่องดื่มหลายยี่ห้อที่มีรูปแบบหรือขนาดแตกต่างกัน รวมถึงการใช้กระดาษนั้นควรพึงระวังถึงการที่เส้นใยกระดาษหลุดไปในเครื่องดื่มที่อาจจะทำให้รสชาติของเครื่องดื่มนั้นเปลี่ยนไป และทำให้ไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องดื่มก่อนวางขายด้วย
    .
    หลังจากการพัฒนาขวดกระดาษมาเป็นเวลา 7 ปี บริษัท Paboco จะทำการทดลองบรรจุเครื่องดื่มผลไม้ Adez ของบริษัทโค้กเป็นจำนวน 2,000 ขวด เพื่อจำหน่ายที่ร้านค้าท้องถิ่น ในประเทศ Hungary
    นอกจากนี้ Absolut ผู้ผลิตวอดก้า และ Carlsberg บริษัทเบียร์ ก็กำลังจะทำการทดสอบขวดกระดาษนี้สำหรับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเช่นกัน
    .
    Michael Michelsen ผู้จัดการการค้าของบริษัท Paboco ได้อธิบายว่า ขวดกระดาษเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยกระดาษที่มีเส้นใยเพื่อที่สร้างความทนทาน ด้วยความที่กระดาษไม่สามารถโดนน้ำได้โดยตรง พวกเขาจึงได้ใช้การเคลือบจากวัตถุดิบธรรมชาติ เคลือบด้านในของขวดเพื่อที่จะให้บรรจุภัณฑ์สามารถคงอยู่ได้ดี ไม่ชำรุด และยังไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องดื่ม
    .
    ถึงการทดสอบขวดกระดาษนั้นจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ผลิตภัณฑ์นั้นยังคงเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม (niche product) ขวดกระดาษเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น และแปลกใหม่มากสำหรับคนที่ชอบเรื่องนวัตกรรม
    .
    อย่างไรก็ตาม คอนเซ็ปของการใช้ขวดกระดาษเคยเกิดขึ้นมาเมื่อสองถึงสามปีแล้ว แต่ยังคงไม่มีการสานต่อ เพราะการใช้ขวดพลาสติกเป็นอะไรที่ฝังลึกอยู่ในอุตสหกรรมในหลาย ๆ ประเทศ และยังคงมีการนำมารีไซเคิลเรื่อย ๆ อีกทั้งราคาต้นทุนขวดพลาสติกที่มีราคาต่ำกว่า จึงทำให้การผลิตขวดกระดาษจำนวนมากเพื่อใช้ทดแทนขวดพลาสติกเป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทายมาก กล่าวโดย Fin Slater บรรณาธิการนิตยสาร Packaging Europe
    .
    ถึงแม้ว่าในขณะนี้ทางขวดกระดาษยังมีเกลียว ฝา และ ส่วนผสมของกระดาษส่วนนึงยังคงเป็นพลาสติกอยู่ แต่ทางบริษัทกำลังเร่งพัฒนาเพื่อที่จะให้ขวดน้ำไม่มีส่วนผสมของพลาสติกเลย และยังให้ขวดกระดาษนี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้เหมือนกระดาษอื่น ๆ ถ้าการพัฒนานี้สำเร็จ ถือว่าเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้ขวดกระดาษแบบใหม่ที่ใช้ง่านได้จริงมากขึ้นในอนาคต
    .
    การใช้กระดาษดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับการใช้พลาสติก การใช้กระดาษนั้นก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากเช่นกัน อุตสาหกรรมโรงงานกระดาษเป็นผู้ปล่อยมลพิษทางน้ำ อากาศ และดินที่มากสุดเป็นอันดับ 3 จากอุตสาหกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจากการตัดต้นไม้เพื่อนำมาทำเป็นกระดาษ กาปล่อยสารฟอกขาวที่มีคลอรีนสู่สิ่งแวดล้อมขณะที่มีการผลิต การที่ขยะกระดาษเน่าเปื่อยกลายเป็นก๊าซมีเทนที่อันตรายกว่าคาร์บอนถึง 25 เท่า ล้วนเป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเราทั้งนั้น
    .
    เพื่อที่จะเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเราอาจจะต้องหันมามอง และแก้ปัญหาหลักของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ซึ่งคือปัญหาการใช้แล้วทิ้ง ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขนาดไหน สุดท้ายก็จะกลายเป็นขยะถ้าไม่ได้รับการรีไซเคิล จะมีวิธีไหนมั้ยที่จะสามารถลดปัญหาขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพบ้าง .... การนำขวดไปรีฟิลน้ำ? แต่จะรีฟิลที่ไหน อย่างไรล่ะ? ... หรือจะเป็นการไม่ซื้อเลย? ก็เกรงว่าบริษัทเขาจะล้มละลาย ... หรือนำขวดไปรีไซเคิลทำเป็นขวดอีกรอบ? แต่ประเทศไทยเรายังไม่สามารถใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้หนิ ... หรือนำไปรีไซเคิลเป็นอย่างอื่น? แต่ขยะในบางที่ยังไม่ถูกแยกอย่างถูกต้อง ก็นำมารีไซเคิลไม่ได้แล้ว ...
    .
    แต่ถึงในขณะนี้เรายังหาคำตอบที่ดีที่สุดเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ได้ มันก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่สามารถช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมได้เลยนะ
    .
    Source
    1. https://www.bbc.com/news/technology-56023723

    2. https://interestingengineering.com/coca-cola-puts-its...

    3. https://youtu.be/3xmZQFL-Wmk

    4. https://www.theworldcounts.com/stories/paper-waste-facts

    เรียบเรียง: buras
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    POLLUTION: ลูกเต่าตะนุหลังแบน (Flatback Turtle) หลายตัวป่วยตายเกยตื้นริมชายหาดใน Capricorn Coast ในจำนวนที่ไม่เคยพบมาก่อน โดยเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็กในตัวของมัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก
    .
    Dr. Col Limpus เจ้าหน้าท่ีด้านวิทยาศาสตร์เผยว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยพบมาก่อน สิ่งที่น่ากังวลก็คือลูกเต่าที่เกยตื้นเหล่านี้ ส่วนใหญ่กลืนกลินขยะพลาสติกเข้าไป ปกติแล้วลูกเต่ากินแพลงก์ตอน และแน่นอนว่ามันไม่อาจสามารถแยกได้ระหว่างแพลงก์ตอน หรือขยะพลาสติกที่ลอยอยู่
    .
    "จำนวนรังวางไข่ใน Peak Island ลดลง แต่ก่อนหน้านี้เราไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร และเหตุการณ์ครั้งนี้อาจให้เบาะแสว่าเกิดอะไรขึ้นกับเต่าทะเล" Dr. Limpus กล่าว
    .
    Dr. Limpus ยังเผยเพิ่มเติมว่าปัญหาขยะพลาสติกได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา และกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจรัง
    .
    โดยการตายของเต่าทะเลตัวเล็กนี้จะส่งผลกระทบต่อประชากรของมันในอนาคต
    .
    การแก้ไขปัญหาขยะในทะเล ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริโภค ผู้ผลิต และภาครัฐ ในการลดการสร้างขยะ และเน้นการจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงนวัตกรรมต่างๆที่จะนำขยะพลาสติกที่อยู่ในทะเลมหาศาลออกมาให้ได้
    .
    Source:

    https://www.abc.net.au/.../baby-turtles-washing.../13162720

    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเผยยังไม่เปิดให้บริตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร จนถึงถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นี้
    ขณะที่ตลาดรถไฟสมุทรสาครเปิดขายวันแรก พร้อมคุมเข้มมาตรการโควิด 19 เพิ่มความมั่นใจผู้ซื้อ พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนยังเบาบางไม่หนาแน่น

    วันที่ 18 ก.พ. 2564 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงนามประกาศคำสั่ง ฉบับที่ 46 เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บริเวณตลาดกลางกุ้ง โดยประกาศคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับถึงวันที่ 28 ก.พ.64 และมีสาระสำคัญคือ
    ห้ามเปิดดำเนินกิจการใดๆ โดยให้หยุดการซื้อ การขาย การค้า และการทำการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปกุ้งและสัตว์น้ำประเภทอื่นในพื้นที่ตลาดกลางกุ้ง เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงการสุขาภิบาลให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

    ให้ปรับปรุงอาคารหรืออาคารที่พักอาศัยในตลาดกลางกุ้ง โดยจะต้องทำการตรวจสอบความแข็งแรงของอาคาร อุปกรณ์ส่วนควบ กำหนดจำนวนผู้พักอาศัยให้สอดคล้องกับขนาดพื้นที่

    ทั้งนี้เมื่อดำเนินการแล้ว ให้เสนอแนวทางปรับปรุงตลาด ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครพิจารณา และเมื่อดำเนินการปรับปรุงตามที่เสนอเสร็จ จึงสามารถดำเนินการซื้อขาย คัดแยก แปรรูปกุ้งและสัตว์น้ำประเภทอื่นได้ หรือเปิดดำเนินการในอาคารหรืออาคารที่พักอาศัยได้

    กรณีผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีโทษตามนัยมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    ขณะที่ช่วงเช้าของ ตลาดทางรถไฟ เปิดค้าขายแล้ววันแรกหลังจากที่ปิดทำความสะอาดและปรับปรุง 6 วัน มากกว่าตลาดอื่นในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร 3 วัน ซึ่งวันนี้ก็มีคนเข้ามาซื้อของในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ค้าขายบอกว่าคนซื้อยังไม่มากนัก

    ส่วนมาตรการของตลาด มีตั้งแต่ตรวจวัดอุณหภูมิที่ทางเข้า ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค ตามร้านต่างๆมีการนำฉากใสมากั้นระหว่างร้าน ติดไฟเพิ่มให้ดูสว่างมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าที่มาขายนั้นต้องเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจโควิด-19 แล้วไม่พบเชื้อและมีป้ายติดแสดงให้ผู้ซื้อเห็นเพื่อความมั่นใจ นอกจากนั้น คนที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่จะกลับมาขายได้คือผู้ที่เข้ารับการรักษาดูแลตามมาตรการของสาธารณสุขจนครบตามกำหนดแล้วเท่านั้น วันนี้ร้านจึงเปิดขายไม่ครบ และหลังจากนี้ผู้ค้าบอกว่าจะต้องปรับปรุงกันเพิ่มอีก

    สำหรับตลาดทางรถไฟ เป็นตลาดในเขตเทศบาลสมุทรสาคร ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนหลายคน จึงต้องสร้างมาตรการที่เข้มข้น ซึ่งผู้ค้าขายพร้อมใจกันทำ เพื่ออยากให้ผู้ซื้อมั่นใจกลับมาซื้อของที่ตลาดนี้เหมือนเดิม

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     

แชร์หน้านี้

Loading...