ติดตามสถานะการณ์

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ออกมาแถลงผ่านโทรทัศน์ทางการเมื่อคืนที่ผ่านมา ระบุว่า ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ไม่ใช่ความรู้สึก พร้อมให้คำมั่นว่า รัฐบาลทหารจะให้ความสำคัญกับสันติภาพทั่วประเทศในข้อตกลงหยุดยิง รวมทั้งจะสร้างโอกาสในการทำงาน เปิดโรงงาน และสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น วัด โบราณสถานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการแถลงนี้ เขาไม่ได้กล่าวถึงนางออง ซาน ซูจี เลยแม้แต่น้อย

โดยรัฐบาลทหารชุดนี้แตกต่างจากรัฐบาลทหารก่อนหน้า ทหารจะให้ความเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งย้ำถึงความผิดปกติของการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ที่พรรค NLD ของนางซูจี ชนะอย่างถล่มทลายว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้การระบาดของโควิดเป็นข้ออ้าง ไม่ให้มีการหาเสียงอย่างเป็นธรรม จึงต้องมีการปฏิรูป และยืนยันว่า จะจัดการเลือกตั้ง และมอบอำนาจแก่พรรคการเมืองผู้ชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้ระบุถึงกรอบเวลาที่ชัดเจน

#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
#เมียนมา #รัฐประหารเมียนมา #กฎอัยการศึก

 

หน่วย EOD และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง บริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์ ถนนสาทร โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

หลังกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องต่อต้านรัฐประหารในประเทศเมียนมา ยุติการทำกิจกรรมบริเวณหน้าสถานทูตเมียนมา โดยพบเศษวัสดุคาดเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กคล้ายระเบิดปิงปอง อานุภาพไม่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต เชื่อว่าผู้ไม่หวังดีต้องการสร้างสถานการณ์

#เมียนมา #สถานทูตเมียนมา
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ทางการเมียนมาประกาศใช้กฏอัยการศึก ให้มีผลตั้งแต่คืนที่ผ่านมา ในหลายพื้นที่เมืองใหญ่ รวมถึงนครย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ห้ามไม่ให้ประชาชนออกมาชุมนุมหรือรวมตัวกันเกิน 5 คน พร้อมกำหนดเวลาเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหะสถานเวลา 20.00-04.00 น.

การประกาศกฎอัยการศึก มีขี้นหลังจากชาวเมียนมานับหมื่นคนออกมาประท้วงการทำรัฐประหารต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขณะที่มีรายงานการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมในกรุงเนปิดอว์

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ตำรวจได้ส่งสัญญาณกับผู้ประท้วงในกรุงเนปิดอว์ ว่า อาจมีการใช้กระสุนจริง หากผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามา การกระทำดังกล่าวของตำรวจเกิดขึ้นหลังจาก สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมียนมา เผยแพร่แถลงการณ์ โดยเนื้อหาสำคัญระบุว่า บุคคลใดก็ตามซึ่งกระทำการสร้างความวุ่นวายให้กับความมั่นคงของรัฐ จะต้องพบกับมาตรการและการดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย

#เมียนมา #รัฐประหารเมียนมา #กฎอัยการศึก
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

การวิจัยใหม่ของการเคลื่อนย้ายแผ่นเปลือกโลก ติดตามการเคลื่อนย้ายแผ่นเทคโตนิกนับพันล้านปี

งานวิจัยใหม่แสดงให้เห็นว่าแผ่นเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วงพันล้านปีที่ผ่านมา แผ่นเปลือกโลกเป็นแผ่นหินแข็งที่มีรูปร่างผิดปกติซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไปมากตั้งแต่เส้นผ่านศูนย์กลางไม่กี่ร้อยถึงหลายพันกิโลเมตร

ความร้อนจากกระบวนการกัมมันตภาพรังสีภายในดาวเคราะห์ทำให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ และการเคลื่อนไหวนี้ทำให้เกิดแอ่งที่เติมจนกลายเป็นมหาสมุทร เปลือกโลกมีความสำคัญเนื่องจากเป็นตัวกำหนดองค์ประกอบทางเคมีของพื้นผิวโลกด้วย

Michael Tetley เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย เขากล่าวว่าการสังเกตว่าแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไปมีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจว่าโลกทำงานอย่างไร

“ นี่คือวิธีที่เราเห็นวิวัฒนาการทางชีววิทยาและวิวัฒนาการทางภูมิอากาศด้วย” เขาอธิบาย "ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกดังนั้นการทำความเข้าใจกระบวนการระดับพื้นฐานนี้จึงมีความสำคัญต่อวิทยาศาสตร์มาก" และเขาหลงใหลในการเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงหลายล้านปี

“ โลกมีพลวัตอย่างไม่น่าเชื่อและถึงแม้ว่าในช่วงเวลาของมนุษย์สิ่งต่างๆจะเคลื่อนที่เป็นเซนติเมตรต่อปี ... ทวีปต่างๆก็มีอยู่ตลอดเวลา” เขากล่าว "และสถานที่อย่างแอนตาร์กติกาที่เราเห็นในปัจจุบันว่าหนาวเย็นเป็นน้ำแข็งและไม่เอื้ออำนวยครั้งหนึ่งก็เคยเป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีบนเส้นศูนย์สูตร"

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0012825220305237

 

อินโดนีเซีย : จาการ์ตา และเมืองปริมณฑล กาะชวาน้ำท่วมหนัก จากปริมาณน้ำฝนที่สูง ฝนตกตลอดสัปดาห์ ในเช้าวันนี้ถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมจาการ์ตา น้ำท่วม ดินทรุด หลายจุด

 

กัวเตมาลา : ภูเขาไฟ Pacaya ปะทุอีกครั้งในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การปะทุครั้งนี้รุนแรงมีเถ้าถ่านลอยสูง อยู่ในการเฝ้าระวัง

: Johan Ordoñes / AFP

 

#ประมวลข่าว (8 ก.พ.) โควิดสายกลายพันธุ์อังกฤษพบในเมืองฝั่งคันไซเป็นครั้งแรกที่จ. เฮียวโกะ 5 ราย และเพิ่มอีก 3 รายจาก จ. ไซตามะ

#โควิดสายกลายพันธุ์
(1)พบเพิ่ม 11 ราย
เฮียวโกะ 5 ราย 10s - 80s ชายหญิง
4 รายแรกเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกันทั้ง 4 คน แต่ไม่มีใครเคยมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ
อีก 1 ราย ก็ไม่เคยไปต่างประเทศ แต่เป็นผู้ใกล้ชิดกับคนที่ติดจากต่างแดน (แต่พบตอนที่สนามบิน)
✒️งง รายสุดท้ายนิดนึงค่ะ เจอที่สนามบิน แล้วทำไมเอาไปติดคนที่บ้านได้?? ❓

ไซตามะ 3 ราย
2 รายอายุไม่ถึง 10 ขวบ
1 ในนั้นเด็กหญิงอายุไม่ถึง 10 ขวบ ติดจากคลัสเตอร์ของสถานที่ที่เด็ก ๆ ต้องไป (แอดเดาว่า โรงเรียน)

✈️เจอที่สนามบินอีก 3 ราย

✒️ย้ำ นี่คือเจอเพราะ “สุ่ม” ตรวจนะคะ สายพันธ์ุอังกฤษได้ข่าวว่า “ชอบเด็ก” มากกว่าสายพันธ์ุเดิม ดังนั้นติดค่อนข้างง่าย แต่ยังดีความรุนแรงของเชื้อน่าจะเท่าเดิม ยกเว้นในกลุ่มผู้สูงอายุมีข้อมูลว่า อาจจะแรงขึ้น
✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#สถานการณ์ฉุกเฉิน
(2) วันแรกของการต่อระยะสถานการณ์ฉุกเฉินใน 10 จังหวัด แต่มีจังหวัดนึงได้ปลดล็อคก็คือจังหวัดโทจิกิ เพราะประชาชนให้ความร่วมมือค่อนข้างดีมาก (￣∇￣ﾉﾉ"ﾊﾟﾁﾊﾟﾁﾊﾟﾁ!!

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#วัคซีนโควิด
(3) บ. ขนส่งที่ได้รับเลือกให้ขนวัคซีนในญี่ปุ่น 3 บริษัท ได้แก่ DHL แมวดำ และ SEINO

14 ก.พ. วันวาเลนไทน์นี้วัคซีน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ 10,000 คนแรก จะมาถึงญี่ปุ่นจากเบลเยี่ยมโดยสายการบิน ANA

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#โควิด
(4) ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มวันนี้: วันอาทิตย์/ จันทร์ ปรกติยอดน้อยค่ะ

ในสี่เหลี่ยมสีแดงคือจ. ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

(ยอด update ตอน 22:45 จาก NHK เลขเลยจะสูงกว่าในภาพหน่อยนะคะ)
ยอดเพิ่มวันนี้ +1,217 ราย รวมสะสม 406,776 ราย
เสียชีวิตเพิ่ม +83 ราย รวมสะสม 6,511 ราย
คนอาการหนัก 773 ราย (-22)
หายแล้วสะสม 365,238 ราย (+3,007)

จังหวัดที่เกินร้อย
โตเกียว 276 ราย
ชิบะ 155 ราย
ไซตามะ 121 ราย
คานางาวะ 121 ราย
โอซาก้า 119 ราย

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#ดราม่าโอลิมปิก
(4) อาสาสมัครโอลิมปิกพาราลิมปิกลาออก 390 คนหลังเหตุดราม่าลุงโมริวันก่อน / เลิกวิ่งคบเพลิง 2 คน / โทรมาคอมเพลน 4,550 ราย

ลุงนิไค ให้สัมภาษณ์เรื่องอาสาสมัครโอลิมปิกลาออกว่า “เป็นความคิดชั่วประเดี๋ยวประด๋าว” “เดี๋ยวพอสงบลง คิดได้ก็จะเปลี่ยนความคิดเอง”

✒️ความดราม่าของลุงโมริ ไฟยังคงลุกอย่างต่อเนื่องแม้จะเริ่มเบาลงนิดนึง แต่วันนี้มีลุงนิไคเอาน้ำมันมาราดเพิ่มอีกคน (´Д｀)ﾊｧ…นี่ถ้าลุงอะโซมาอีกคน จะครบทีมมาก

#ต่างประเทศ
(5) มีผู้บาดเจ็บหลายรายหลังมีการฉีดน้ำเข้าสู่ผู้ชุมนุมในเมียนมาร์

#อุบัติเหตุ
(6) เกิดเหตุเรือดำน้ำ โซริว ของนาวีญี่ปุ่นเฉี่ยวกับเรือพานิชย์เอกชน

เรือเอกชนไม่เสียหายและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนาวีบนเรือดำน้ำบาดเล็กน้อย 3 ราย ขณะนี้กำลังสืบหาสาเหตุอยู่

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#ภาพส่งท้าย เกี๊ยวซ่าชื่อดัง ของเมืองอุตสึโนะมิยะ จ. โทจิกิ ที่ได้รับการปลดล็อควันนี้

———
เครดิต:
NHK　https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/data/







TV: J-channel / NHK

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น

 

ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
เปิดให้คนไทยในญี่ปุ่น ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะกลับประเทศไทยในช่วงเดือน มีนาคม 2564

ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตฯ ดังนี้
http://site.thaiembassy.jp/th/news/announcement/9928/

*เตือนภัย*
ตามที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนภัยแล้วก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับกรณีคนไทยโดนหลอกลวงเรื่องการให้บริการลงทะเบียนและการสำรองบัตรโดยสารเครื่องบินกลับประเทศไทย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว จึงขอย้ำเตือนให้โปรดระมัดระวังกรณีหลอกลวงข้างต้น และทำความเข้าใจกระบวนการตามประกาศของสถานเอกอัครราชทูตฯ ให้ถี่ถ้วนก่อนการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน โดยขอให้ซื้อบัตรโดยสารตามช่องทางที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประกาศไว้เท่านั้น

 

#ข่าวด่วน (9 ก.พ.) สธ. ญี่ปุ่นพบไวรัสโควิดสายกลายพันธุ์ที่พบในประเทศอังกฤษ 11 ราย และแอฟริกาใต้ 2 ราย รวม 13 รายใน 9 จังหวัด

9 จังหวัดได้แก่
[สายกลายพันธุ์อังกฤษ ] 11 ราย
จังหวัดละ 1 ราย: ฟุคุชิมะ / นีกาตะ
อิบารากิ / โทจิกิ / กุนมะ ♨️
นางาโนะ ⛰ / ไซตามะ / คานางาวะ
ชิซุโอกะ 3 ราย

[สายกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ] 2 ราย
คานางาวะ 2 ราย

ทุกคนไม่มีประวัติเดินทางไปอังกฤษ หรือ แอฟริกาใต้

กำลังสงสัยว่าน่าจะเกิดการระบาดในประเทศญี่ปุ่นแล้ว

รายละเอียดจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น
https://www.mhlw.go.jp/stf/newpage_16649.html

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #โควิดกลายพันธุ์

ภาพ/ ANN 

 

เวียดนาม : ซาปา ❄️ หิมะตกหนักบนยอดเขา ฟานซีปัน สวยงาม
หิมะหนา 60-70 เซ็นติเมตร อุณหภูมิ -3 องศาบนยอดเขา ในช่วงเช้าวันนี้

ภาพ :NCHMF

 

1 > ชาวอินเดียเรียกแม่น้ำคงคาด้วยความเคารพว่า "มากังกา" แปลว่า แม่คงคาเหมือนกับคนไทยเรียกเทพีแห่งสายน้ำด้วยความเคารพว่าพระแม่คงคา แต่ปัจจุบันแม่คงคาเต็มไปด้วยขยะและสิ่งปฏิกูล ต้นน้ำคงคาก็กำลังถูกเขื่อนขวางกั้นเอาไว้ ท่ามกลางการต่อต้านของกลุ่มคนที่รักและเคารพแม่คงคาที่สุดคือนักบวชชาวฮินดู

2 > ที่ต้นแม่น้ำคงคาที่เกิดจากการรวมตัวกันของธารน้ำหลายสายจากธารน้ำแข็งของเทือกเขาหิมาลัยเป็นที่แสวงบุญของชาวฮินดูที่เคารพในแน้ำคงคาและพระศิวะซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับแม่น้ำคงคาตามตำนานเทพของศาสนาฮินดู ตามริมฝั่งแม่น้ำต้นสายคงคาจึงมีวัดของนักบวชฮินดูหลายแห่ง รวมถึงที่แม่น้ำเธาลิคงคาที่เกิดเหตุธารน้ำแข็งถล่ม

3 > แม่น้ำเธาลิคงคาเป็นสาขาของแม่น้ำอลักนันทาซึ่งเป็นต้นแม่น้ำคงคาฝั่งซ้าย แม่น้ำกลุ่มนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่ตั้งของปัญจะประยาคะ หรือที่บรรจบของธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ 5 สาย ที่แม่น้ำเธาลิคงคาเป็นที่ตั้งของวิษณุประยาคะ เป็นที่ซึ่งฤาษีนารทมุนีบำเพ็ญเพียรแล้วพระวิษณุปรากฏร่างให้เห็น

4 > สำหรับคนไทยที่คุ้นเคยกับรามเกียรติคงจะรู้จักฤๅษีนารทมุนี เพราะเป็นผู้เล่าเรื่องของพระรามให้แก่ฤๅษีวาลมีกิจนเกิดเป็นคัมภีร์รามายณะหรือรามเกียรตินั่นเอง และฤๅษีนารทมุนียังเป็นองค์เดียวกับฤาษีนารอดหรือพ่อแก่ที่เป็นครูของนักนาฏศิลป์ที่จะต้องครอบเศียรของท่านเวลาไหว้ครู

5 > แม่น้ำเธาลิคงคาจึงมีความสำคัญมากด้านจิตวิญญาณของชาวอินเดีย (และรวมถึงคนไทยด้วย) แต่ปรากฎว่ารัฐบาลอินเดียไม่เชื่อเรื่องศักดิสิทธิ์ จึงได้ดำเนินการสร้างเขื่อนพลังไฟฟ้า Vishnuprayag Hydro Electricity Project ใกล้กับศาสนสถานสำคัญกันเลยทีเดียว แต่เขื่อนนี้ไม่ใช่จุดที่เสียหาย แต่เป็นเขื่อน Rishiganga Water Project

6 > แถบนี้เป็นสถานที่แสวงบุญ พวกนักบวชจึงเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านการสร้างเขื่อน สวามี ศิวนันท์ สราวัสตี ผู้ก่อตั้งองค์กรศาสนา Matri Sadan ที่บอกว่าพวกท่านเรียกร้องให้หยุดกิจกรรมการก่อสร้างในเขตที่เกิดโศกนาฏกรรมมาตั้งแต่ปี 2556 แต่รัฐบาลอินเดียไม่สนใจรับฟังข้อกังวลของพวกเขาและดำเนินการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำต่อไป และสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ (ธารน้ำแข็งถล่ม) นี่คือความโกรธเกรี้ยวของธรรมชาติ

7 > ท่านศิวนันท์ สราวัสตี มีฐานะเป็นสวามีหรือนักบวชในศาสนาฮินดูนอกจากจะเคลื่อนไหวต่อต้านเขื่อนมาหลายปีแล้ว ท่านยังอดอาหารประท้วงมาเมือเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังจากรัฐบาลกลับคำพูดเดินหน้าสร้างเขื่อนต่อไป ทั้งๆ ที่รัฐบาลเคยสัญญาว่าจะระงับโครงการสร้างเขื่อนและการขุดทรายไปขาย ท่านบอกว่ารัฐบาลเสียสัจจะที่ให้ไว้กับนักบวชทั้งหลาย

8 > สวามี อาตโมโพธนันท์ นักบวชในศาสนาฮินดูอีกรูปหนึ่งเคยประท้วงอดอาหารป็นเวลา 194 วันในปี 2562 เพราะต้องการให้ทางการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่จะฟื้นฟูการไหลของแม่น้ำคงคาตามปกติ โดยยุติกิจกรรมเชิงพาณิชย์ทั้งหมดที่ต้นน้ำลำธาร รวมถึงการพัฒนาโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ

9 > การอดอาหารประท้วงทำให้เกิดเรื่องเศร้าขึ้นเช่นกัน โดยในปี 2561 ศาสตราจารย์ G.D. Agarwal ซึ่งเป็นวิศวกรด้านสิ่งแวดล้อมที่หันมาบวชเป็นพระในศาสนาฮินดูได้เสียชีวิตลงหลังจากการประท้วงอดอาหาร 111 วัน เพื่อคัดค้านการคุกคามแม่น้ำคงคาด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆ จำนวนมากในรัฐอุตตราขัณฑ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

10 > ในบันทึกที่เขียนไว้ไม่กี่วันก่อนที่ท่านนักบวชอดีตวิศวกรจะเสียชีวิต ท่านได้กล่าวหาว่ารัฐบาลปัจจุบันไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับแม่คงคา แต่เห็นแก่เงินและผลประโยชน์ทางการค้าจากการขายพลังงานไฟฟ้า และท่านไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่าอีก 2 ปีต่อมา สิ่งที่ท่านสละชีวิตเพื่อปกป้องได้แสดงพลังอันน่ากลัวออกมาให้รัฐบาลอินเดียได้เห็นแล้ว

อ้างอิง
Dhairya Maheshwari. (07.02.2021). "'It Was Waiting to Happen': Hindu Monks Blame Dam Construction Activity on Ganges for Flood Tragedy". Sputnik.
ภาพ Vitthal Jondhale - wikipedia

 

LIVING: กรมเจ้าท่าวางเงินกว่า 660 ล้านบาท ทำโครงการขุดลอกอ่าวปัตตานี แต่กลับทำให้อ่าวตื่นเขินมากขึ้น ทำลายนิเวศ กระทบชาวบ้าน
.
การขุดลอกอ่าวปัตตานีเป็นโครงการของกรมเจ้าท่าวงเงินกว่า 660ล้านบาท เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านโดยจะทำให้ชาวบ้านได้หาปลาได้ง่ายขึ้น แต่กลับทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงกว่าเดิม
.
ในตอนแรกกรมเจ้าท่าได้มีการสัญญากับชาวบ้านว่า จะนำทรายที่ขุดไปทิ้งไว้ในบริเวณทะเลอ่าวไทย แต่เนื่องจากผู้ดำเนินโครงการได้ทิ้งตะกอนทราย วัสดุขุดลอกจนทับถมบริเวณที่ทำกินของชาวบ้านในวงกว้าง ไม่ได้นำไปทิ้งในบริเวณอ่าวไทยอย่างที่กล่าว
.
จึงเกิด ผลกระทบของการที่มีสันดอนทรายกลางอ่าวปัตตานี
-ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนไป ทำลายระบบนิเวศ
-ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ
-ขัดขวางการเดินเรือ
.
มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่ต้องการการฟื้นฟูพื้นที่และเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการขุดลอกอ่าวปัตตานี ส.ส.ในพื้นที่จากหลากพรรคการเมืองรับปากว่าจะนำเรื่องไปหารือในสภาเพื่อแก้ปัญหา
.
ล่าสุดนายกฯ อบจ.ปัตตานีบอกบีบีซีไทยว่าคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน กับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงในวันที่ 3 ก.พ. โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการชุดหนึ่งเคยเสนอให้หางบประมาณมาขุดสันดอนทรายดังกล่าวออกไปทิ้งนอกพื้นที่ตามความต้องการของชาวบ้านส่วนใหญ่
.
บีบีซีไทยพยายามติดต่อผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 กรมเจ้าท่า ทางโทรศัพท์ เพื่อขอให้แสดงความคิดเห็น แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
.
Source
https://www.bbc.com/thai/thailand-55904009

 

ENERGY: เดนมาร์กเตรียมสร้างเกาะเทียม เป็นฐานเปลี่ยนลมในทะเล เป็นพลังงานสะอาดให้ 3 ล้านครัวเรือน
.
รัฐบาลเดนมาร์กโชว์วิสัยทัศน์อีกครั้งโดยริเริ่มโครงการสร้าง “เกาะพลังงานเทียม” ถือเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุด นับจากการสร้างฟาร์มกังหันลมในปี 1991
.
เกาะนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรจัตแลนด์นอกชายฝั่ง 50 ไมล์ กลางทะเลเหนือ สามารถเปลี่ยนลมให้กลายเป็นพลังงานสะอาดได้มากถึง 3 ล้านครัวเรือน ด้วยพื้นที่รับแรงลมขนาดเท่าสนามฟุตบอล 18 สนาม ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 25,000 ล้านปอนด์ ซึ่งหากโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้เดนมาร์กมีพลังงานสะอาดใช้มากเกินกว่าความต้องการภายในประเทศ และกลายเป็นศูนย์กลางพลังงานแห่งชายฝั่งทะเลยุโรป
.
เดนมาร์กมีความมุ่งมั่นที่จะลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ถึง 70% ภายในปี 2030 Dan Jorgensen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสภาพอากาศของเดนมาร์ก กล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีอย่างแท้จริงของเดนมาร์กที่จะก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงสีเขียวของโลก” ซึ่งรัฐบาลโซเชียลเดโมแครต เห็นชอบร่วมกันระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายสนับสนุน ให้รัฐบาลถือหุ้น 51% และที่เหลือเป็นของเอกชน
.
มีความคาดการณ์ว่าโครงการจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026 โดยใช้เวลาร่วมกับภาคเอกชน เพื่อสำรวจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล และลงนามข้อตกลงเพื่อเชื่อมต่อ เกาะพลังงานกับเบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์และเยอรมนี

เรียบเรียง : Horloruyorlui

source
1.https://www.theguardian.com/environ...es-deal-on-25bn-artificial-wind-energy-island

 

POLLUTION: มลพิษทางเสียงจากมนุษย์ กำลังคุกคามสัตว์ทั้งบนบกและทะเล เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ทำประชากรน้อยลง
.
บางทีเราได้ยินเพื่อน คนในครอบครัว ร้องเพลง คุยงาน หรือทำอาหาร เรายังจะรู้สึกว่ามันทำให้เราเสียสมาธิไปบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แค่เรา สัตว์ก็เช่นกัน งานวิจัยใหม่เผยว่า เหล่าสัตว์อาจถูกรบกวนจากเสียงที่เรา หรือเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเราส่งเสียงออกมา
.
งานวิจัยเผยว่า มลพิษทางเสียงของเรานั้นรบกวนการได้ยินของสัตว์ และก็ความสามารถในการสื่อสารของพวกมัน เช่นมลพิษทางเสียงที่มาจากการจราจรอาจทำให้พฤติกรรมเช่นการรับรู้ และการผสมพันธุ์ของสัตว์เปลี่ยนไป
.
นักวิจัยจาก Pacific University ยกตัวอย่างของนก Songbird นกพื้นเมืองตัวเล็กของออสเตรเลีย พวกเขานำพวกมันมาในห้องแล็ปที่มีเสียงจำลองของรถที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20-30 เมตร และพบว่าทักษะต่าง ๆ ของมันแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการยั้งคิดไตร่ตรอง (ความสามารถในการยับยั้ง ควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เอาชนะความต้องการของตนเองหรือสิ่งล่อใจ) การทดสอบทักษะการเคลื่อนไหว หรือการหยิบจับของไปวางในตำแหน่งต่าง ๆ (สำคัญต่อการหาอาหารของมัน) ทักษะการสร้างความทรงจำเชิงพื้นที่ (สำคัญต่อการจดจำพื้นที่ของแหล่งอาหาร จดจำขอบเขตที่อยู่ และความสามารถในการสืบพันธุ์) และทักษะในการเรียนรู้จากนกด้วยกันเอง แต่ทักษะในการแยกสีของมันยังเป็นหนึ่งสิ่งที่นักวิจัยทดลอง และพบว่าไม่ได้รับผลกระทบ
.
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Behavioral Ecology ที่เผยว่า จิ้งหรีดทองดำตัวเมียไม่สามารถแยกแยะเสียงร้องของจิ้งหรีดตัวผู้ที่ใช้ปีกเสียดสีกันจนเกิดเสียงเพื่อเรียกให้ตัวเมียมาสืบพันธุ์ได้ชัดเจน มันจะไม่ได้ยินว่าตัวไหนส่งเสียงดัง ตัวไหนส่งเสียงค่อย เพราะเสียงในธรรมชาติของมนุษย์กลบเกือบหมด ทำให้อาจส่งผลต่อการสืบพันธุ์ได้
.
สิ่งนี้จะมีผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับลูกหลานของจิ้งหรีด และตัวจิ้งหรีดตัวเมียเอง เพราะเพลงเกี้ยวพาราสีของผู้ชายนั้นเชื่อมโยงกับภูมิคุ้มกัน ถ้าตัวไหนส่งเสียงดัง ตัวเมียจะรู้ว่าตัวพวกมันจะมีโอกาสรอดจากโรคภัยต่าง ๆ และลูกหลานที่ออกมาจะปลอยภัย ไม่เสี่ยงเป็นโรคไปด้วย
.
แล้วสัตว์น้ำละ ไม่ได้ยินเสียงรถรา จะได้รับผลกระทบอะไรไหม?
.
แน่นอนมันก็ยังได้รับผลกระทบ เพราะสัตว์น้ำส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพในการได้ยินมากกว่าเห็นหรือได้กลิ่น ดังนั้นการส่งเสียงเพื่อให้อีกตัวได้ยินจึงสำคัญมาก
.
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science วิเคราะห์การศึกษาเกี่ยวกับเสียงที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเลกว่า 500 งาน และพบว่า มลพิษทางเสียงในทะเลก็เหมือนหมอกเสียงที่บดบังการสื่อสารระหว่างสัตว์ 90% ของงานวิจัยทั้งหมดว่า วาฬ แมวน้ำ และโลมาจะได้รับผลกระทบ และ 80% ของงานวิจัยเผยว่า ปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจะได้รับผลกระทบเช่นกัน
.
หลักฐานของผลกระทบของเสียงที่ชัดเจนที่สุดคือ ความสัมพันธ์ระหว่างคลื่นโซนาร์ทางการทหารและการสำรวจแรงสั่นสะเทือนโดยบริษัทขุดเจาะน้ำมัน กับอาการหูหนวก และการเกยตื้นหมู่ของสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม เพราะปกติวาฬ โลมา หรือแม้เต่าทะเลจะใช้คลื่นเสียงในการสื่อสาร หาอาหาร และจับคู่ผสมพันธุ์
.
อีกทั้ง เสียงต่าง ๆ ที่เราทำแล้วไปกระทบกับเสียงฮัมของคางคกตัวผู้ที่ใช้เพื่อดึงดูดตัวเมีย และเสียงของปลาคอดที่ใช้สื่อสารกันระหว่างการวางไข่
.
แต่มันก็มีวิธีแก้ปัญหา อย่างเช่นในเรือเดินสินค้า การออกแบบใบพัดใหม่สามารถช่วยลดเสียงรบกวน และยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของเรือได้ เพราะเสียง 15% ที่รบกวนสัตว์ก็มาจากการเดินเรือสินค้าเช่นกัน
.
ส่วนการสำรวจแรงสั่นสะเทือนโดยบริษัทขุดเจาะน้ำมันก็สามารถทำได้ด้วยเครื่องสั่นใต้ทะเล แทนการใช้คลื่นเสียงที่รลกวนสัตว์น้ำ
.
มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องหาสมดุลระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราทำ ให้มันส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของสัตว์น้อยใหญ่กัน เพราะโลกแห่งนี้ก็เป็นบ้านของพวกเขาเหมือนกัน
.
Source:
1. https://www.theguardian.com/science/2021/feb/03/human-noise-affects-animal-behaviour-studies-show

2. https://www.theguardian.com/environ...man-noise-hurting-marine-life-scientists-warn

3. https://www.reuters.com/article/us-...o-be-prioritized-scientists-say-idUSKBN2A42LT

4. https://www.bbc.com/news/science-environment-55939344

 

หุ้น‘ฮุนได-เกีย’รูดกราวหลังปัดข่าวร่วมพัฒนา‘แอปเปิลคาร์’ คาดค่ายรถโสมไม่พอใจได้เป็นแค่ ‘มือปืนรับจ้าง’ ทำให้ดีลล่ม

หุ้นฮุนได-เกีย พากันร่วงกราว หลังแถลงปฏิเสธข่าวร่วมผลิต “แอปเปิล คาร์” ทั้งที่เมื่อเดือนที่แล้ว ฮุนไดเพิ่งยืนยันว่า กำลังหารือขั้นต้นกับแอปเปิล นักวิเคราะห์คาดสาเหตุที่ดีลล่มอาจเป็นเพราะข่าวแผนการร่วมมือรั่วไหลถึงหูสื่อ หรือแอปเปิลยืนกรานให้ฮุนไดมีบทบาทเพียงแค่ผู้ผลิตชิ้นส่วนอีวีให้เท่านั้น ไม่ใช่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

การร่วมมือระหว่างแอปเปิล บิ๊กเทคจากอเมริกา กับฮุนได มอเตอร์ ค่ายรถชั้นนำของเกาหลีใต้ เริ่มเป็นข่าวตั้งแต่ที่สถานีโทรทัศน์โคเรีย อิโคโนมิก ทีวี รายงานเมื่อต้นเดือนมกราคมว่า ผู้ผลิตไอโฟนทาบทามฮุนไดเป็นหุ้นส่วนพัฒนารถไฟฟ้า (อีวี)

ราคาหุ้นของบริษัทรถยนต์แดนกิมจิทั้งสองแห่งพุ่งกระฉูดทันที หลังจากฮุนไดยืนยันว่า กำลังเจรจากับแอปเปิลเรื่องการพัฒนารถไฟฟ้าอัตโนมัติภายในปี 2027 รวมทั้งพัฒนาแบตเตอรี่ในโรงงานในอเมริกา

สัปดาห์ที่ผ่านมายังมีรายงานตามมาว่า ทั้งคู่จะผลิตรถในรัฐจอร์เจียของอเมริกา

%C/p>
ทว่า เมื่อวันจันทร์ (8 ก.พ.) ฮุนไดและเกียออกมาแถลงข่าวตามกฎของตลาดหุ้นที่กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องอัพเดตข้อมูลกับนักลงทุนเกี่ยวกับข่าวลือในตลาด โดยทั้งสองบริษัทเผยว่า ได้รับการเชิญชวนร่วมพัฒนารถไฟฟ้าอัตโนมัติจากหลายบริษัท แต่ยังอยู่ในขั้นต้นและยังไม่ได้ตัดสินใจ ก่อนสำทับว่า ขณะนี้ไม่มีการหารือกับแอปเปิลเรื่องการพัฒนารถอัตโนมัติแต่อย่างใด

ภายหลังการแถลงข่าว ราคาหุ้นฮุนไดดิ่งลงทันที 6.2% ฉุดมูลค่าตลาดหายวับ 3,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ราคาหุ้นเกียร่วงลง 15% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดถึง 5,500 ล้านดอลลาร์

การเปิดเผยนี้ยังปิดฉากความขัดแย้งภายในฮุนได มอเตอร์ โค กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของทั้งฮุนได มอเตอร์ และเกีย มอเตอร์ เกี่ยวกับแนวโน้มการร่วมมือกับแอปเปิล โดยผู้บริหารบางคนกังวลว่า บริษัทอาจกลายเป็นผู้รับจ้างผลิตรถให้แอปเปิลเหมือนกับฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทอิเล็กทรอนิสก์ของไต้หวันที่รับจ้างผลิตอุปกรณ์ให้แอปเปิล เช่น ไอโฟน

ทั้งนี้ เพิ่งจะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่สื่อหลายสำนัก รวมถึงซีเอ็นบีซีรายงานว่า โครงการนี้กำลังจะบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้าย และสื่อเกาหลีใต้แห่งหนึ่งระบุว่า จะมีการเซ็นสัญญากันในวันที่ 17 ที่จะถึง

ฮุนไดนั้นขึ้นชื่อมานานเรื่องการลังเลร่วมงานกับคนนอก และเลือกผลิตเครื่องยนต์ เกียร์ และแม้แต่เหล็กกล้าเอง โดยอาศัยห่วงโซ่อุปทานรวมของกลุ่มกิจการฮุนได ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ

นอกจากนั้นแม้ราคาหุ้นเกียและฮุนไดทะยานขึ้นหลังมีข่าวคุยกับแอปเปิลเมื่อต้นปี แต่แหล่งข่าวเผยว่า ภายในองค์กรกลับเกิดกระแสต่อต้านเพราะไม่ต้องการเป็นแค่ผู้รับจ้างผลิตรถให้แอปเปิล

แหล่งข่าวอีกคนแย้มว่า แอปเปิลกับฮุนไดเริ่มคุยกันครั้งแรกในปี 2018 แต่ไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากค่ายรถเกาหลีใต้ยังสงวนท่าทีในการร่วมงานกับคนนอก

เดือนธันวาคมปีที่แล้ว รอยเตอร์รายงานว่า แอปเปิลเริ่มเดินหน้าโครงการเทคโนโลยีรถอัตโนมัติโดยมีเป้าหมายผลิตรถที่อาจใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ของตัวเองอย่างเร็วที่สุดในปี 2024

แอปเปิลที่มักปกปิดเกี่ยวกับแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองเป็นความลับ ไม่เคยออกมายอมรับว่า คุยกับฮุนไดและยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับข่าวคราวล่าสุด

ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า การเจรจาอาจล่มเนื่องจากข่าวแผนการร่วมมือรั่วไหลถึงหูสื่อ หรือแอปเปิลยืนกรานให้ฮุนไดมีบทบาทเพียงแค่ผู้ผลิตอุปกรณ์ ไม่ใช่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ขณะที่ฮุนไดมีจุดยืนชัดเจนว่า ไม่ต้องการได้รับการปฏิบัติในฐานะซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตรถให้แอปเปิลเท่านั้น

 

สหรัฐฯกังวลพม่าใช้ไม้แข็งสกัดการชุมนุมต้านรัฐประหาร UNเตรียมประชุมฉุกเฉิน

สหรัฐฯแสดงความกังวลเกี่ยวกับคำสั่งของกองทัพพม่าที่จะจำกัดการรวมตัวของประชาชน ตามหลังมีการชุมนุมใหญ่ 3 วันติดต่อต้านการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จากการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาในวันจันทร์(8ก.พ.) ขณะเดียวกับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเตรียมเปิดประชุมฉุกเฉินในช่วงปลายสัปดาห์ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตในประเทศแห่งนี้

เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุในแถลงสรุปว่า "เรายืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวพม่า สนับสนุนสิทธิการชุมนุมอย่างสันติ ในนั้นรวมถึงการประท้วงอย่างสันติสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย"

วิกฤตในพม่า ถือเป็นบททดสอบหลักแรกของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเคยประกาศให้ความสำคัญลำดับต้นๆกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และให้สัญญาจะยกระดับความร่วมมือกับพันธมิตรในประเด็นความท้าทายระหว่างประเทศต่างๆนานา

ไพรซ์ บอกว่าอเมริกาซึ่งกำลังหาทางจำกัดเงินช่วยเหลือบางส่วนที่มอบแด่พม่า กำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วสำหรับกำหนดรูปแบบของการตอบโต้เหตุยึดอำนาจ หลังก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯสรุปแล้วว่าเหตุการณ์ในพม่าคือรัฐประหารและขู่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่

นอกจากนี้แล้วโฆษกรายนี้บอกอีกว่าบรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯสนับสนุนจีน ชาติเพื่อนบ้านของพม่า ทั้งแบบเปิดเผยและอย่างเป็นส่วนตัว ให้เข้าร่วมกับทั่วโลก ออกถ้อยแถลงประณาม "พฤติกรรมต่อต้านประชาธิปไตย" ของกองทัพพม่า

ท่าทีของสหรัฐฯ มีขึ้นในขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติจะเปิดประชุมวาระพิเศษในวันศุกร์(12ก.พ.) เพื่อหารือวิกฤตในพม่า หลังรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ถูกทหารยึดอำนาจ สหประชาชาติเปิดเผยถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันจันทร์(8ก.พ.)

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(8ก.พ.) สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปร้องขอเปิดประชุมฉุกเฉิน และถ้อยแถลงของสหประชาชาติระบุว่าคำร้องดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 19 จากทั้งหมด 47 ชาติ ส่วนใหญ่เป็นเหล่าประเทศตะวันตก และมีญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เข้าร่วมด้วย

สหรัฐฯ ซึ่งประกาศในวันจันทร์(8ก.พ.) ว่ากำลังกลับเข้าร่วมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หลังถอนตัวออกไปในเดือนมิถุนายนปี 2018 เป็นหนึ่งใน 28 รัฐสังเกตการณ์ ที่สนับสนุนความเคลื่อนไหวดังกล่าวเช่นกัน

คณะผู้แทนทูตในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เผยว่าบรรดาผู้สนับสนุนกำลังหารือกันเกี่ยวกับร่างมติหนึ่ง ซึ่งเตรียมนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุม

ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีขึ้นในขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนไหลบ่าสู่ท้องถนนในพม่าเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันจันทร์(8ก.พ.) เพื่อประท้วงต่อต้านรัฐประหารโค่นอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางอองซานซูจี

จูเลี่ยน เบรธเวต ผู้แทนสหราชอาณาจักรประจำสหประชาชาติ บอกกับที่ประชุมเตรียมการสำหรับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่าการคุมตัวบรรดานักการเมืองที่มาจาการเลือกตั้งและพลเรือนโดยกองทัพพม่า ก่อผลกระทบเลวร้ายต่อสิทธิมนุษยชนในประเทศ

เขาเน้นย้ำว่า โธมัส แอนดรูว์ โธมัส แอนดรูว์ ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในพม่า เรียกร้องให้มีการประชุมวาระพิเศษ เพื่อแสดงให้ประชาชนชาวพม่าเห็นว่า "พวกเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพังในชั่วโมงแห่งอันตรายและในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ"

"เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องตอบสนองอย่างเร่งด่วนต่อชะตากรรมของผู้คนในพม่าและสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในพม่าที่กำลังเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว" เบรธเวตกล่าว

ความกังวลมีขึ้นในขณะที่ทางการทหารพม่าประกาศใช้กฎอัยการศึกในหลายส่วนของมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศในวันจันทร์ (8 ก.พ.) ภายหลังผู้คนเรือนแสนออกมาชุมนุมกันทั่วประเทศเพื่อต่อต้านการทำรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพ และสถานีทีวีของรัฐประกาศเตือนอาจต้องใช้มาตรการบางอย่างจัดการกับการประท้วงที่ถือว่าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ตำรวจยังได้ฉีดน้ำสลายผู้ประท้วงในเมืองหลวงเนปิดอ

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย แถลงทางสถานีโทรทัศน์ครั้งแรกนับตั้งแต่ทหารเข้ายึดอำนาจเมื่อสัปดาห์ก่อน ประกาศว่ารัฐบาลทหารของเขาจะจัดการเลือกตั้งใหม่และมอบอำนาจให้กับผู้ชนะ ทั้งนี้เขาไม่ได้กล่าวว่าการเลือกตั้งจะจัดขึ้นเมื่อใด แต่ย้ำข้อกล่าวอ้างที่ว่าการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ที่พรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจีชนะไปนั้น มีการโกงการเลือกตั้ง

(ที่มา:รอยเตอร์ส)

 

เขามาแล้ว!สหรัฐฯจะกลับเข้าร่วมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

สหรัฐฯเปิดเผยในวันจันทร์(8ก.พ.) จะกลับเข้าร่วมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ หลังจากถอนตัวไปก่อนหน้านี้ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งโวยวายองค์กรแห่งนี้ว่ามีความลำเอียงและบกพร่องต่อหน้าที่

รัฐบาลของทรัมป์ถอนสหรัฐฯออกจากสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ 47 ชาติ ในเดือนมิถุนายนปี 2018 โดยกล่าวหาว่าคณะมนตรีฯมีอคติต่ออิสราเอล และควรมีการปฏิรูปในหลายด้าน โดยเฉพาะเมื่อมีสมาชิกบางประเทศเช่น จีน คิวบา และเวเนซุเอลา ต้องเผชิญข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

คำแถลงดังกล่าวดำเนินการโดย มาร์ค คาสซายร์ อุปทูต คณะผู้แทนสหรัฐฯประจำสหประชาชาติในเจนีวา และตามด้วยถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวอชิงตัน โดยแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ

"รัฐบาลของไบเดนนำพาสหรัฐฯกลับสู่นโยบายต่างประเทศหนึ่งๆ ซึ่งมีประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมเป็นแก่นกลาง การใช้แนวทางพหุภาคีอย่างมีประสิทธิภาพ คือองค์ประกอบสำคัญของวิสัยทัศน์ดังกล่าว และในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประะเทศกลับมามีส่วนร่วมกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างแข็งขันและในทันที" บลินเคนกล่าว

คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาในปี 2015 มีวาระถาวรหัวข้อหนึ่ง เกี่ยวกับกรณีต้องสงสัยอิสราเอลละเมิดสิทธิมนุษยชนในดินแดนต่างๆของปาเลสไตน์ที่พวกเขาเข้ายึดครอง

"เราตระหนักว่าคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนคือองค์กรที่บกพร่อง จำเป็นต้องปฏิเสธทั้งด้านวาระต่างๆ ชาติสมาชิกและจุดโฟกัส ในนั้นรวมถึงการโฟกัสแบบไม่สมเหตุสมผลต่ออิสราเอล อย่างไรก็ตามการถอนตัวของเราในเดือนมิถุนายนปี 2018 ไม่ได้ก่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แถมยังก่อภาวะสุญญากาศด้านการเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆที่มีวาระอิงเผด็จการใช้ประโยชน์จากภาวะสุญญากาศดังกล่าว" บลินเคนระบุ

สมาชิกถาวรอื่นๆในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ทั้งสหราชอาณาจักร, จีน, ฝรั่งเศสและรัสเซีย ปัจจุบันก็เป็นหนึ่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเช่นกัน ในขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนนั้นได้รับการเลือกตั้งจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส แสดงความยินดีต่อคำประกาศของสหรัฐฯ พร้อมรอคอยที่จะต้อนรับสหรัฐฯ กลับเข้ามาร่วมงานเร่งด่วนต่างๆ ในเร็วๆ นี้

(ที่มา:รอยเตอร์ส)

 

เพิ่งรายงานสด!หนุ่มนักพยากรณ์อากาศเสี่ยงตายพยายามช่วยชีวิตคนจมน้ำ(ชมคลิป)

หนุ่มนักพยากรณ์อากาศทางสถานีโทรทัศน์ออสเตรเลีย ได้รับการยกย่องในฐานะวีรบุรุษ หลังเขาเปลื้องผ้ากระโจนลงไปในน่านน้ำที่อันตราย บริเวณชายหาดท้องถิ่น พยายามช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังจมน้ำ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่อึดใจหลังเขารายงานสดสภาพอากาศ และกล้องยังคงจับภาพอยู่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลุค แบรดนัม ผู้สื่อข่าวด้านสภาพอากาศของสถานีโทรทัศน์ชาแนล ไนน์ แห่งออสเตรเลีย กำลังอยู่ที่ชายหาดนาร์โรว์เรค ในรัฐควีนสแลนด์ รายงานข่าวเกี่ยวกับคลื่นทะเลเกรี้ยวกราด แต่หลังรายงานเสร็จสิ้นไปไม่กี่นาที เขาสังเกตเห็นชายคนหนึ่งมีท่าทีเหมือนกำลังดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่กลางทะเล และลงมือเข้าช่วยเหลือในทันที

"ไม่นานหลังจากผมเสร็จสิ้นรายงานสดสภาพอากาศแก่ผู้ชมทางบ้าน นักกระดานโต้คลื่นคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ บอกกับผมว่า เขาคิดว่าเขาเห็นบางคนติดอยู่ในคลื่น" แบรดนัมเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว "ผมรีบถอดเสื้อในทันที และรุดลงน้ำไปพร้อมกับพวกนักกระดานโต้คลื่น เพื่อช่วยคนที่เจอปัญหา"

เคราะห์ร้ายชายคนที่ แบรดนัม พยายามเข้าช่วยเหลือขึ้นจากน้ำ ไม่รอดชีวิต "ตอนที่เราเข้าใกล้ มันปรากฏหลักฐานชัดว่าเขากลายเป็นศพลอยอยู่กลางน้ำ และ 2 คนในกลุ่มของเรา ช่วยกันพาศพขึ้นมายังฝั่ง" หนุ่มนักพยากรณ์อากาศหนุ่มบอกกับผู้ชมทางบ้าน

ศพที่แบรดนัมช่วยกู้ขึ้นมานั้น เชื่อว่าเป็นนาย เจค เจค็อบส์ ชาวอังกฤษวัย 32 ปี ที่ย้ายจากสหราชอาณาจักร มาใช้ชีวิตในโกลด์ โคสต์ และมีคนแจ้งหายในวันพฤหัสบดี(4ก.พ.)

หนังสือพิมพ์เดอะมิร์เรอร์ของอังกฤษ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้เริ่มภารกิจค้นหาและช่วยเหลือ หลังจากศพของแฟนสาวของเจค็อบส์ ที่เล่นน้ำด้วยกัน ถูกพบในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(4ก.พ.) และตำรวจเชื่อว่าทั้งคู่ออกไปแก้ผ้าเล่นน้ำในทะเล

หลังภาพปฏฺิบัติการช่วยเหลือถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง บรรดาผู้ชมจำนวนมากไหลบ่าสู่สื่อสังคมออนไลน์ ยกย่องการกระทำของแบรดนัม "ขอบคุณที่คุณยอมเสี่ยงชีวิตในความพยายามช่วยเหลือคนอื่น แม้ผลอาจไม่เป็นไปตามที่คุณหวัง" ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งเขียน

(ที่มา:นิวยอร์กโพสต์)

ชมคลิปที่นี่ : https://mgronline.com/around/detail/9640000012793

 

WHOชี้วัคซีน'แอสตราเซเนกา'ยังสำคัญกับโลก หลังกังวลประสิทธิภาพต้านโควิดกลายพันธุ์

องค์การอนามัยโลก(WHO)ยืนยันในวันจันทร์(8ก.พ.) วัคซีนแอสตราเซเนกา ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญของโลกในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่โควิด-19 แม้แอฟริกาใต้เลื่อนแผนเริ่มโครงการฉีดวัคซีน สืบเนื่องจากความกังวลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนแอสตราเซเนกาในการต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์

"มันเร็วเกินไปที่จะปฏิเสธวัคซีนนี้" คำกล่าวของ ริชาร์ด แฮชเชทท์ กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI)ซึ่งเป็นแกนนำร่วมกับองค์กรกาวี (Gavi) และองค์การอนามัยโลก ในโครงการจัดสรรวัคซีนโคแว็กซ์(COVAX) หลังจากวัคซีนของแอสตราเซเนกาเผชิญปัญหาต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมันสำหรับบุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

"เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆที่เรามี อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" แฮชเชทท์กล่าวระหว่างแถลงสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ขององค์การอนามัยโลก

ปัจจุบันวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นส่วนสำคัญของโครงการโคแว็กซ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาเพื่อจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 และรับประกันการแจกจ่ายอย่างเท่าเทียมทั่้วโลก

วัคซีนของแอสตราเซเนกาคิดเป็นเกือบทั้งหมดของวัคซีน 337.2 ล้านโดสในโครงการโคแว็กซ์ ที่กำลังเตรียมการเริ่มส่งมอบแก่ประเทศต่างๆราว 145 ชาติ ระหว่างครึ่งปีกแรกของปีนี้ ครั้งที่มันได้รับอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตามการทดลองหนึ่ง ณ มหาวิทยาลัยวิตวอเตอร์สแรนด์ในนครโจฮันเนสเบิร์ก พบว่าวัคซีนนี้มีประสิทธิภาพป้องกันแค่"เล็กน้อย" สำหรับอาการป่วยเล็กๆน้อยๆถึงปานกลาง ที่เกิดจากตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแอฟการิกาใต้

ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข่าวร้ายสำหรับประเทศยากจนทั้งหลาย ที่คาดหวังต่อวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งมีความได้เปรียบวัคซีนตัวอื่นๆในแง่ของโลจิสติกส์

แอฟริกาใต้ ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในทวีปแอฟริกา มีกำหนดเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเริ่มจากวัคซีนของแอสตราเซเนกา 1 ล้านโดส อย่างไรก็ตามล่าสุดทางรัฐบาลตัดสินใจระงับเอาไว้ก่อน สืบเนื่องจากผลการทดลอง

"มันเป็นประเด็นชั่วคราวที่เราจำเป็นต้องชะลอวัคซีนแอสตราเซเนกา จนกว่าจะได้คำตอบในประเด็นเหล่านี้" ซเวลิ เอ็มกีเซ รัฐมนตรีสาธารณสุขของแอฟริกาใต้ ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (7 ก.พ.)

แอฟริกาใต้มีวัคซีนแอสตราเซเนกา 1.5 ล้านโดส ซึ่งจะหมดอายุในเดือนเมษายน

แอสตราเซเนกา ซึ่งพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ยืนยันถึงประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ของพวกเขา "เราเชื่อว่าวัคซีนของพวกเราจะยังคงป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง" ทางบริษัทเปิดเผยกับเอเอฟพี ขณะที่ทางโฆษกบอกด้วยว่าเวลานี้คณะนักวิจัยได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงวัคซีนแล้ว เพื่อจัดการกับตัวกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ เวลานี้โรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้วกว่า 2.3 ล้านคน จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 106 ล้านคน

(ที่มา:เอเอฟพี)

 

ธุรกิจใหม่!!หนุ่มญี่ปุ่นผุดไอเดียให้'เช่า'ตัวเอง คนแห่ใช้บริการ

คิดทำเล่นๆแต่กลายเป็นไอเดียสุดเจ๋ง โชจิ โมริโมโตะ หนุ่มวัยกลางคนอายุ 37 ปี เปิดเช่าตัวเองให้กับใครก็ตามที่ต้องการคนอยู่ด้วย เดิมทียอมอยู่เป็นเพื่อนฟรีๆไม่คิดค่าใช้จ่าย จนกระทั่งเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น ขยายเป็นเป็นธุรกิจจริงจัง คิดค่าบริการโกยรายได้อย่างงาม

หนังสือพิมพ์ไมนิชิ ระบุว่า โมริโมโตะ อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว โปรโมทตัวเองลงสื่อสังคมออนไลน์ อาสาทำทุกอย่างที่เป็นงานเบาๆ เป็นเพื่อนกินและเพื่อนเที่ยว ให้ความเห็นง่ายๆ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2018 และจนถึงตอนนี้มีผู้ใช้บริการแล้วมากกว่า 3,000 ครั้ง

เบื้องต้นเขาเริ่มแนวคิด "ปล่อยเช่าตัวเอง"โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทว่านับตั้งแต่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เขาเริ่มคิดค่าบริการ 10,000 เยน ต่อ 1 ครั้ง (ราว 3,000 บาท ) ซึ่งในจำนวนนี้ ยังไม่รวมค่าเดินทาง กิน เที่ยว ที่ลูกค้าจะต้องเป็นคนออก

จริงๆแล้วบริการเพื่อนเช่าในญี่ปุ่นมีมานานแล้วและได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนใหญ่จะคอยให้คำปรึกษา นั่งดื่มเป็นเพื่อน เล่าเรื่องตลกให้ฟัง แต่โชจิทำต่างออกไป เขาแค่นั่งหรือเดินอยู่ด้วย โต้ตอบกับลูกค้าบ้างเป็นบางครั้งบางคราว

ส่วนใหญ่กิจกรรมที่โชจิทำ คือการไปเป็นเพื่อนลูกค้าเวลาที่พวกเขาต้องไปพบกับคนแปลกหน้า นั่งรับฟังเฉยๆเกี่ยวกับปัญหาชีวิต หรือไปนั่งกินข้าวหรือดื่มเป็นเพื่อน โดยคำที่โชจิใช้โต้ตอบกับลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะมีแค่ “โอ้ จริงเหรอครับ?” ซึ่งเป็นคำตอบที่ดูเป็นกลางและไม่ตัดสินหรือชื่นชม

มีลูกค้าคนหนึ่งที่เคยเช่าเขามากกว่า 10 ครั้ง เพื่อให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนเธอตอนที่นัดเจอผู้ชายครั้งแรก และขอให้เขารับฟังเรื่องมุมมองความรักของเธอ และเรื่องที่เธอไม่สามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ จากการที่เขารับฟังโดยที่ไม่ตัดสินอะไร ทำให้เธอไม่รู้สึกอับอายเกี่ยวกับการไปสถานบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่

เดิมที โชจิ เรียนจบระดับปริญญาและได้งานด้านสื่อสารมวลชน แต่เขาลาออกมาหลังพบว่าตนเองไม่เหมาะกับงาน หัวหน้าของเขาถึงขั้นประชดประชันว่า "มันไม่สำคัญกับที่นี่หรือ ไม่ว่าคุณจะอยู่หรือไป"

ต่อมาเขาได้แรงบันดาลใจจากบุคคลรายหนึ่งซึ่งไม่ทำอะไรเลย แต่มีคนอื่นๆคอยเลี้ยงอาหารอยู่ตลอด กระตุ้นให้เขาจัดตั้งบัญชีทวิตเตอร์ เสนอมอบบริการให้เช่าตัวเอง และนับตั้งแต่นั้น บัญชีทวิตเตอร์ของเขาก็เติบโตขึ้น มีผู้ติดตามแล้วมากกว่า 261,300 คน

"ผมไม่ใช่เพื่อนหรือคนรู้จัก ผมจึงปราศจากสิ่งที่น่ารำคาญต่างๆที่มาพร้อมกับความสัมพันธ์ แต่ผมสามารถคลายความเหงาแก่ผู้คน ซึ่งบางทีผมก็อาจเป็นแบบนั้นเช่นกัน" ขากล่าว

(ที่มา:เอเจนซี)