ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    BREAKING: ขยะมนุษย์สุดสลด ชุมพร พบซากเต่าตะนุเกยหาด อายุ 30 ปี หนัก 100 กก. เจอขยะพลาสติกเต็มท้อง! พร้อมขยะเชือกอวน คาดกินตาย
    .
    เมื่อวันที่ 4 ก.พ.64 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดชุมพร (ศรชล.จังหวัดชุมพร) ได้รับรายงานจาก หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลหลังสวน ชุมพร (นปท.หลังสวน ชุมพร) และ ศูนย์ป้องกันและปราบปราม ประมงทะเลชุมพร (ศปท.ชุมพร) ว่าได้รับแจ้งจาก นางนงเยาว์ มาตย์สถิต ชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จว.ชุมพร ว่า พบซากเต่าทะเล ตายเกยหาด บริเวณหาดแหลมริ่ว ม.4

    หลังรับแจ้ง น.อ.กิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร ได้ประสานนายเสฎวุฒิ จันทวี เจ้าพนักงานประมงปฏิบัติงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ นปท.หลังสวน เดินทางถึงที่เกิดเหตุ พบซากเต่าทะเล ชนิดเต่าตนุ เพศเมีย อายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี น้ำหนักมากกว่า 100 กก. สภาพเน่าเสีย วัดความยาวตลอดตัว 135 ซม. ความยาวกระดอง 102 ซม. ความกว้างกระดอง 80 ซม.

    ตรวจสอบเบื้องต้น จากลักษณะภายนอก พบรอยช้ำบวมบริเวณใต้คอ และมีบาดแผลบริเวณขาหลัง จึงได้ประสานไปยัง หน่วยกู้ภัยพุทธประทีปหลังสวน เพื่อช่วยเคลื่อนย้ายซากเต่า และแจ้งเจ้าหน้าที่ พร้อมทีมสัตวแพทย์ จาก ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลอ่าวไทยตอนกลาง ชุมพร ผ่าพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตาย ทราบว่าเกิดจากเต่าได้กินขยะเข้าไปเต็มท้อง จากการตรวจพบ อวัยวะภายในยุ่ยสลายเกือบหมด มีเศษถุงพลาสติก เชือกฟาง เชือกอวนในล่อน และเศษพลาสติกแข็ง ทำให้มีผลต่อระบบร่างกาย จนเป็นสาเหตุของการตายในครั้งนี้

    Source:

    https://siamrath.co.th/n/217632?fbclid=IwAR2Ry9CWq92P5D2B4ZGRTAEA3SAXx3Z6T-4gGij2iHEmZ__obEhaJqrl6tM

    https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5888037




     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ยิ้มกว้างไม่หยุด แม่เต่ามะเฟืองวางไข่เพิ่มทะเลพังงา” เป็นรังที่ 18 ของฤดูกาลนี้!!
    .
    วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 กรม ทช. โดยสำนักงาน ทช.ที่6 (พังงา) รับแจ้งข่าวน่ายินดีจากอุทยานแห่งชาติจเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) พบเต่ามะเฟืองกำลังวางไข่ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลป.3 (ปาง)
    .
    พบว่าจุดที่ขึ้นวางไข่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปทางทิศเหนือประมาณ 8 กม. ที่พิกัด E414155 N940429 (อยู่ห่างจากหลุมเดิมที่ขึ้นมาวางไข่เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 ไปทางทิศเหนือ 1.3 กม.)

    วัดขนาดความยาวของพายหน้าขวาได้ ๗๐ซม. ความยาวพายหน้าซ้าย 90 ซม. ความยาวกระดอง 150 ซม. และความกว้างกระดอง 100 ซม. พิจารณาบริเวณหลุมไข่อยู่เหนือจากแนวน้ำทะเลขึ้นสูงสุด จึงไม่ย้ายรังไข่โดยจะปล่อยให้ไข่ได้ฟักตัวตามธรรมชาติ นับเป็นรังที่ 18 ของฤดูกาลนี้ และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการฟักประมาณ 55-60 วัน ในเบื้องต้นได้ทำคอกไม้ไผ่กั้นบริเวณไว้เรียบร้อยแล้ว
    .
    ที่มา กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    POLICY: จีนเพิ่มกว่า 500 สายพันธุ์ เข้าบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง! มุ่งหยุดการค้าสัตว์-ทำลายป่า ปกป้องเข้มงวดขึ้นหลังเจอโควิด-19
    .
    จีนเพิ่มสัตว์ 517 สายพันธุ์เข้าบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง หนึ่งในแคมเปญหลังจากที่เหตุการณ์โควิด-19 พึ่งจบไปสด ๆ ร้อน ๆ เป็นแคมเปญที่หวังยุติการค้าสัตว์ป่า และทำลายที่อยู่อาศัยสัตว์ป่า
    .
    จากแถลงการณ์ของกระทรวงป่าไม้และการเกษตรเมื่อวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พวกเขาเผยว่าการจัดรายชื่อในบัญชีนั้นกลายเป็นเรื่องที่ “เร่งด่วนอย่างมาก” เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของกับสัตว์ป่าในจีนล่าสุด
    .
    ตอนนี้สัตว์ป่ากว่า 980 ตัว 517 สายพันธุ์ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของรัฐแล้ว
    .
    ทางกระทรวงให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อระบุ และปกป้องที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่ถูกเพิ่มเข้ามาในบัญชี ในนี้จะรวมถึงชะมดแผงสันหางดำที่ใกล้สูญพันธ์ุ และนกกว่าหลายสายพันธุ์ที่จำนวนลดลงในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    .
    ผู้คนที่ล่า และค้าสัตว์คุ้มครองจะต้องถูกปรับ หรือต้องโทษจำคุก ถ้าสัตว์อยู่ในสถานะเลเวล 1 ของสัตว์คุ้มครอง สัตว์เหล่านี้ก็จะเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยื่ง อย่างแพนด้า ตัวนิ่ม และโลมาหัวบาตรหลังเรียบแม่น้ำแยงซี เป็นต้น
    .
    ประเทศจีนเริ่มตามติดการค้าสัตว์ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 หลังจากที่เคสผู้ติดเชื้อโควิดเคสแรกเชื่อมโยงกับตลาดอาหารทะเลกลางเมืองอู่ฮั่น ที่ก็มีชื่อเสียงด้านการค้าสัตว์สายพันธุ์หายาก
    .
    นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าโควิด19 เป็นเชื้อโรคที่ข้ามสายพันธุ์จากค้างคาวสู่มนุษย์ผ่านสายพันธุ์เป็นตัวพาหะนำเชื้อ อย่างตัวนิ่ม ที่เป็นสัตว์ที่ถูกเชื่อมโยงกับโรคนี้บ่อย ๆ
    .
    นอกจากนี้ ที่ผ่านมาประเทศจีนยังสัญญาที่จะเร่งดำเนินงานเพื่อปกป้องป่าและพื้นที่ชุ่มน้ำ และปิดพื้นที่สวงนเพื่อลดการที่มนุษย์จะเข้าไปสัมผัส และได้รับเชื้ออกมา
    .
    ส่วนในเดือนกุมภาพันธุ์ก็ได้ประกาศแผนที่จะแบนการค้าสัตว์ป่าทั่วประเทศอย่างถาวะ ซึ่งมันก็ยังมีช่องว่างให้คนค้าสัตว์เพื่อขน และนำไปทำยาจีนโบราณอยู่ดี
    .
    ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2020 ประเทศจีนก็ได้ดำเนินคดีผู้คนมากกว่า 15,000 คนในคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าด้วย มากกว่าปีก่อนหน้าในเวลาเดียวกัน 66%
    .
    Source
    1. https://www.reuters.com/article/us-...ies-to-wildlife-protection-list-idUSKBN2A604H

    เรียบเรียง:DJ

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    INNOVATION: อิฐจากเห็ดอาจทดแทนซีเมนต์คอนกรีตได้ในอนาคต แข็งแรงทนทาน ซ่อมแซมตัวเองได้ เป็นวัสดุที่ลดการปล่อยคาร์บอนจากอุตสาหกรรมก่อสร้าง ย่อยสลายเมื่อสิ้นสุดการใช้งาน
    .
    Mycelium เชื้อราเห็ดราได้ถูกใช้ในการทำวัสดุต่างๆแล้วอย่างกระเป๋า หรือภาชนะต่างๆ และอีกสิ่งที่น่าตื่นเต้นก็คือการนำมาทำเป็นวัสดุก่อสร้างอย่างอิฐ โดยหวังว่ามันจะเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าในอนาคต
    .
    เกือบ 40% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยมนุษย์นั้นมาจากการก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง จึงมีการพยายามใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และหนึ่งในวัสดุที่หลายคนอาจคาดคิดไม่ถึงก็คือเห็ด ที่ตอนนี้หลายส่วนกำลังทดลองให้เป็นวัสดุทดแทนสิ่งต่างๆแล้ว
    .
    โดยวิศวกรได้ทำการทดสอบการทำอิฐจากเห็ด ที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอุตสาหกรรมก่อสร้างได้ และพวกมันก็ย่อยสลายได้เมื่อถึงเวลาที่ต้องการทำลายอาคาร
    .
    มากไปกว่านั้นขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ได้มีความพยายามสร้างอาคารจากเห็ดที่มีชีวิต และเติบโตตามดีไซน์ที่ต้องการ รวมถึงซ่อมแซมตัวเองเมื่อได้รับความเสียหาย
    .
    Mycelium คือเส้นใยเห็ดราที่มีความเบาและยืดหยุ่นขึ้นรูปได้ และทนไฟ ในการสร้างอิฐเห็ดนั้นต้องผสม Mycelium เข้ากับเศษซากเกษตรกรรมอื่นๆเช่น ฟางข้าว หรือเปลือกข้าวโพด
    .
    หลังจากนั้นมันจะโตโดยใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งพวกมันจะเติบโตจนครอบคลุมวัสดุ และหลังจากนั้นเมื่อเต็มที่ก็จะทำความร้อน หรือใช้ปฏิกิริยาทางเคมีเพื่อฆ่าเชื้อเห็ดรา
    .
    โดยเจ้าอิฐนี้มันเหมือนอิฐทั่วไปอย่างมาก เพียงแต่แค่มันทำจากวัสดุธรรมชาติแทนดิน หรือคอนกรีต
    .
    นอกจากอิฐแล้ว เห็ดราสามารถสร้างให้เติบโตตามรูปบล็อคโครงสร้างของวัสดุได้ และเมื่อสิ้นสุดอายุ หรือจุดจบของอาคารแล้ว วัสดุเหล่านี้ก็จะย่อยสลายกลับคืนไปกับธรรมชาติอีกด้วย
    .
    อย่างไรก็ตามขณะนี้มันกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย และพัฒนาเพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุจากเห็ดนี้จะปลอดภัย และใช้งานได้กับการสร้างอาคารบ้านเรือนจริงๆ

    ดูวิดีโอได้ที่

    .
    Source:

    https://www.fungar.eu

    https://www.dailymail.co.uk/science...USHROOMS-soon-replace-cement-self-repair.html

    https://horizon-magazine.eu/article/why-future-homes-could-be-made-living-fungus.html

    https://www.cbc.ca/radio/spark/why-...ally-sustainable-building-materials-1.5479660

    https://www.theverge.com/22257120/mushroom-bricks-mycelium-sustainable-building-materials







    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL: อินเดียพบตะพาบสีเหลืองทอง สุดแปลกที่มีภาวะเผือก ดูคล้ายกับชีสละลาย กลายเป็นไวรัล
    .
    มองไกล ๆ อย่าเผลอหยิบไปกินหรือเอาใส่ในเบอร์เกอร์ละ เพราะมันไม่ใช่ชีส มันเป็นตะพาบหับอินเดีย!
    .
    ตะพาบหับตัวนี้ถูกพบโดยชาวนาในขณะที่เขากำลังทำงานอยู่ที่ทุ่งนาของเขาในรัฐ Odisha ประเทศอินเดีย ซึ่งหลังจากที่เขาเจอมัน เจอรีบนำมันกลับบ้าน และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทราบทันที
    .
    เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นเขาโพสต์รูปเจ้าตัวน้อยจนมันกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ไปเมื่อปีที่แล้ว จนผู้คนต่างสงสัยว่ามันคือตัวอะไร ตะพาบหรือชีสเชดดาร์กันแน่
    .
    สุดท้าย ทุกคนก็ได้คำตอบ มันคือตะพาบหับที่หาเจอได้ทั่วไปในเอเชียใต้อย่างในประเทศปากีสถาน อินเดีย ศรีลังกา และบังคลาเทศ ปกติตะพาบหับจะมีสีเขียวเข้ม หรือน้ำตาล แต่ที่มันเป็นสีเหลืองแบบนี้เพราะมันมีสภาวะเผือก
    .
    สัตว์สีเผือก หรือ “Albino animals” ก็คือสัตว์ทั่วไป ไม่ได้มีเวทมนตร์วิเศษอะไร แต่ที่มันมักจะมีสีขาวทั้งตัว เพราะว่ามันมีสภาวะเผือก หรือโรคอัลบินิซึม (albinism) เกิดจากยีนด้อยที่มีอยู่ในพันธุกรรม ทำให้ไม่สามารถสร้างเอนไซม์เมลาโนโซท์ ไทโรซิเนส (melamocyte tyrosinase) ที่จะเปลี่ยนไทโรซีน โปรตีนสำคัญไปเป็นเมลานิน (Melanin) หรือเม็ดสีผิวได้
    .
    วิธีสังเกตสัตว์เผือกให้ดูที่ตา ตาของสัตว์ด่างจะเป็นสีดำปกติ ในขณะที่สัตว์เผือกจะมีตาเป็นสีแดงหรือชมพู ซึ่งตาสีนี้สร้างปัญหาในการมองเห็นของสัตว์เผือก มันอาจจะโดนเอาเปรียบได้เมื่อไปหาอาหาร หรือมองเห็นสัตว์ที่จะมาล่ามันลำบาก
    .
    ดังนั้น ถึงเจ้าตัวนี้จะมีสีเหลือง แต่ตาของมันกลับมีสีชมพู ซึ่งก็บ่งบอกได้ว่ามันมีสภาวะเผือกดังกล่าว
    .
    เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ได้เข้ามาตรวจเจ้าตะพาบหับตัวนี้ที่ศูนย์ป่าไม้ และระบุออกมาได้ว่ามันเป็นสภาวะเผือก โดยคาดว่าเจ้าตะพาบหับตัวนี้จะมีอายุประมาณ 1 ปีครึ่ง - 2 ปี
    .
    ตอนนี้พวกเขาได้ปล่อยเจ้าตะพาบน้อยกลับคืนสู่ธรรมชาติแล้ว และหวังว่าจากนี้ไปมันจะมีความสุขในป่าสีเขียวของเมือง Balasore ในรัฐ Odisha
    .
    Source
    1. https://edition.cnn.com/2020/07/21/asia/india-yellow-turtle-found-scli-intl/index.html

    2. https://www.cnet.com/news/rare-yellow-turtle-spotted-for-only-second-time-looks-like-melted-cheese/

    ภาพ Debashish Sharma/Twitter

    เรียบเรียง: DJ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อื้อหือ!! ศาลเยอรมันมีคำสั่งให้ยกเลิกการประกาศ Curfew ที่รัฐ "Baden-Württemberg" โดยคำสั่งดังกล่าวนั้นมีผลให้ตั้งแต่วันพฤหัสนี้เป็นต้นไป
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลการศึกษาชี้วัคซีนแอสตราเซนเนก้า/อ็อกซ์ฟอร์ดต้านโควิด-19 กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด

    วันที่ 8 ก.พ. 2564 หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานผลการวิจัยวิทวอเตอร์แสตนด์ในแอฟริกาใต้ ที่ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการของโรคได้เพียง 10% จากการทดลองกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิด B.1.351 ที่พบในแอฟริกาใต้

    ศาสตราจารย์ ชาบีร์ มาดิห์ ผู้ทำการวิจัยเปิดเผยว่า วัคซีนตัวนี้สามารถป้องกันอาการระดับเบาและปานกลาง ที่เกิดจากเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ได้เพียงเล็กน้อย แต่ในทางทฤษฎีแล้วยังหวังว่าวัคซีนจะช่วยป้องกันการเกิดอาการขั้นรุนแรงได้

    การศึกษาในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพิจารณาว่าวัคซีนสามารถป้องกันโควิด-19 กลายพันธุ์ได้ถึง 60% ตามที่ระบุไว้หรือไม่ แม้จะเป็นเพียงกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก แต่เมื่อดูจากผลที่ออกมาแล้ว คงเป็นเรื่องยากที่วัคซีนจะมีประสิทธิภาพป้องกันการเกิดอาการได้ถึง 40-50% ตามเกณฑ์ที่กำหนด แม้ว่าจะทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่กว่านี้ก็ตาม

    ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซเวลิ มกีเซ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของแอฟริกาใต้ได้ระงับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าให้กับประชาชนแล้ว เพื่อรอผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่าจะสามารถใช้วัคซีนตัวนี้ให้มีประสิทธิสูงสุดอย่างไร

    ขณะเดียวกันได้ระบุว่า แอฟริกาใต้จะยังคงฉีดวัคซีนของ ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต่อไป

    ที่มา: https://www.theguardian.com/world/2...cine-10-effective-south-african-variant-study

    https://edition.cnn.com/2021/02/07/health/south-africa-astrazeneca-vaccine-study/index.html

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยไทม์ไลน์แม้ค้าขายหมูและลูกสะใภ้ หลังพบติดโควิด 19 และเป็นคลัสเตอร์รายใหม่ ทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 87 ราย กระจายใน 5 จังหวัด พร้อมยอมรับเป็นกรณีที่สืบสวนโรคยากเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่คนเข้าไปทำกิจกรรมเยอะ

    วันที่ 8 ก.พ. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผอ.กองควบคุมโรค และภัยสุขภาพ ในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมกล่าวถึงคลัสเตอร์ที่เกี่ยวกับตลาดรถไฟ ว่า การสืบสวนหาความเชื่อมโยงในแต่ละคนค่อนข้างยาก ไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่หลายคนเข้าไปทำกิจกรรม แต่เบื้องต้น พบว่า เริ่มต้นมาจากผู้ป่วย ซึ่งเป็นแม่ค้าขายหมู อายุ 46 ปี ไปกลับบ้านที่อัมพวาทุกวัน โดยที่ให้ประวัติสวมใส่แมสก์เป็นประจำโดยตลอด เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 22 มกราคม 64 จมูกไม่ได้กลิ่น ถ้าดูในภาพรวม บางกรณี และบางกลุ่ม จะเจอเพียง 10% จากนั้นสามีพาไปตรวจ และพบว่าติดเชื้อ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 64

    เคสที่เกี่ยวข้องที่น่าสนใจ คือ ลูกสะใภ้ วัย 26 ปี เริ่มป่วยวันที่ 30 มกราคม 64 ผลตรวจยืนยันติดเชื้อ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 64 จากนั้นมีการค้นหาเชิงรุกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 87 ราย เป็นสัญชาติไทย 33 ราย เมียนมา 52 ราย และลาว 2 ราย

    สำหรับผู้ติดเชื้อสัญชาติไทย กระจายอยู่ใน จ.สมุทรสาคร 22 ราย, เพชรบุรี 5 ราย, กทม. 1 ราย, ราชบุรี 1 ราย, สุพรรณบุรี 1 ราย
    ซึ่งผู้ป่วยใน จ.เพชรบุรี ทั้ง 5 ราย พักอาศัยอยู่ที่ อ.บ้านลาด 3 ราย, ชะอำ 1 ราย และอีกรายที่อยู่ไม่ชัดเจน และผู้ติดเชื้อทั้งหมดไม่มีอาการป่วย โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 8 ราย ผลตรวจครั้งแรกเป็นลบทุกราย ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งมีอาชีพขายผักอยู่ที่ตลาดแม่น้อย จะไปซื้อผักจากตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี

    นพ.เฉวตสรร กล่าเพิ่มเติมว่า กรณีนี้เป็นเหตุที่เกิดมาตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. และจากการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ถึงขณะนี้ไม่พบรายงานผู้ป่วยเพิ่ม จึงคาดหวังว่าคลัสเตอร์น่าจะหยุดไปได้ แต่ยังไม่วางใจ ดังนั้นยังคงมาตาการเฝ้าระวัง ป้องกันต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามย้ำกรณีคลัสเตอร์นี้สามารถคุมได้ ไม่ใช่ระลอกใหญ่โตจนเกินกำลัง

    ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายแรกของคลัสเตอร์นี้ คือ เพศหญิงอายุ 46 ปี อาชีพค้าขายหมู ที่ตลาดรถไฟ ไป-กลับบ้านที่อัมพวาทุกวัน สวมใส่แมสก์ตลอด
    22 ม.ค.64 เริ่มมป่วย
    25 ม.ค.64 ไปขายหมูที่ตลาดรถไฟปกติและบ่ายไปรับหมูที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
    26 ม.ค.64 เริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น
    28 ม.ค.64 สามีขับรถพาไปตรวจหาเชื้อ ผลเป็นบวก ติดเชื้อโควิด-19

    ขณะที่ลูกใภ้ก็ได้รับเชื้อโควิด 19 เช่นกัน
    30 ม.ค.64 ลูกสะใภ้อายุ 26 ปี เริ่มป่วย
    31 ม.ค.64 ลูกสะใภ้ผลตรวจเป็นบวก ติดเชื้อโควิด-19

    ขณะที่ในช่วงเวลา 30 ม.ค.-4 ก.พ.64 เริ่มทำการค้นหาเชิงรุก โดยรถพระราชทานและสปคม. พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 87 ราย เป็นคนไทย 33 ราย เมียนมา 52 ราย ลาว 2 ราย

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #News1feed : ผอ.สำนักอนามัย กรุงเทพฯ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ให้ปากคำกรณีดีเจมะตูมจัดงานเลี้ยงวันเกิดทำโควิดระบาด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9640000012638
    ......................................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    8 ก.พ. 64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ว่า เหตุธารน้ำแข็งหิมาลัยแตกในรัฐอุตตราขัณฑ์ของอินเดียซึ่งทำให้มีมวลน้ำไหลบ่าซัดถล่มเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ 2 แห่งนั้น ณ ขณะนี้พบมีมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 200 คนในวันนี้ (8 ก.พ.)

    โดยคลิปที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้และแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่มีทั้งหินและโคลนไหลผ่านโตรกผาแคบๆ ในเขตชาโมลี (Chamoli) ก่อนจะซัดถล่มเขื่อนแห่งหนึ่งและกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทาง ขณะที่ทางการได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำให้รีบอพยพโดยด่วน

    ตริเวนทรา ราวัต มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (7) ว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นถือเป็น “หายนะครั้งรุนแรง” และคาดว่าจะก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐแห่งนี้

    กองทัพอินเดียและกองกำลังตอบสนองภัยพิบัติแห่งชาติ (NDRF) ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าร่วมในปฏิบัติการกู้ภัย โดยคาดว่าจะมีทีมค้นหาของ NDRF เดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงนิวเดลีไปถึงยังรัฐอุตตราขัณฑ์เพิ่มเติมภายในวันนี้ (8)

    กระแสน้ำจากเทือกเขาสูงยังไหลเข้าท่วมเขื่อนริชิกังกา (Rishiganga) ซึ่งเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กแห่งหนึ่งในเขตชาโมลี โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำอลักนันทา (Alaknanda) ได้รับคำเตือนให้อพยพล่วงหน้าแต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนเกินไป

    CNN อ้างข้อมูลจากมุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ซึ่งระบุว่า เขื่อนริชิกังกามีคนงานอยู่เพียง 35 ราย และมีผู้สูญหายระหว่าง 29-30 คน ทว่ากระแสน้ำได้ไหลลงไปตามแม่น้ำเธาลีกังกาและสร้างความเสียหายต่อเขื่อน ทาโปวัน วิษณุคัต (Tapovan Vishnugad) ของ NTPC ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า โดยที่เขื่อนแห่งนี้มีคนงานอยู่ราวๆ 176 คน และมีอุโมงค์ 2 แห่ง

    รัฐบาลท้องถิ่นรัฐอุตตราขัณฑ์แถลงวันนี้ (8) ว่า เจ้าหน้าที่เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากสถานที่ต่างๆ ได้แล้วอย่างน้อย 18 ศพ แต่ยังคงมีผู้สูญหายอีกไม่ต่ำกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นคนงานจากโรงไฟฟ้า 2 แห่งที่ถูกน้ำซัดพังเสียหาย โดยจุดที่คาดว่าจะมีคนติดอยู่คือภายในอุโมงค์ 2 แห่งที่ถูกดินโคลนไหลลงมาทับ

    ปิยูช เราเทลา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติ บอกกับเอเอฟพีว่า หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในอุโมงค์แห่งหนึ่งออกมาได้ 12 คนเมื่อวานนี้ (7) แต่คาดว่าน่าจะยังมีอีก 25-30 คนที่ติดอยู่ในอุโมงค์แห่งที่ 2 เนื่องจากถนนสายหลักถูกตัดขาด ทีมกู้ภัยจึงต้องใช้วิธีปีนเชือกลงจากเนินเขาเพื่อลงไปถึงทางเข้าอุโมงค์

    หน่วยกู้ภัยหลายร้อยคนเริ่มภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตกันตั้งแต่รุ่งสางวันนี้ (8) โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยตอบสนองภัยพิบัติแห่งชาติ รวมถึงนักประดาน้ำจากกองทัพบกและกองทัพเรืออินเดีย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า เขื่อน 2 แห่งถูกปล่อยน้ำออกจนหมดเพื่อสกัดไม่ให้กระแสน้ำไหลไปถึงเมืองริชิเกช (Rishikesh) และหริทวาร (Haridwar) ซึ่งเป็นสองเมืองศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดู ขณะที่ประชาชนถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้แม่น้ำในช่วงเวลานี้

    นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ตนกำลังเฝ้าติดตามปฏิบัติการกู้ภัยอย่างใกล้ชิด และย้ำว่า “อินเดียยืนหยัดอยู่ข้างรัฐอุตตราขัณฑ์ และประชาชนทั้งประเทศภาวนาให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย”

    จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ธารน้ำแข็ง "นันทาเทวี" แตกในช่วงเวลานี้ของปี ซึ่งอากาศยังคงหนาวเหน็บและไม่มีฝนตก

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2013 รัฐอุตตราขัณฑ์ซึ่งมีพรมแดนติดกับเนปาลและทิเบตเคยเผชิญฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 6,000 คน โดยหายนะครั้งนั้นได้รับสมญานามว่า “สึนามิหิมาลัย” เพราะมันปลดปล่อยกระแสน้ำโคลนที่เชี่ยวกรากจากบนภูเขา และซัดเอาบ้านเรือนและทรัพย์สินต่างๆ ที่อยู่เบื้องล่างพังพินาศยับเยิน

    วิมเลนทู จา ผู้ก่อตั้งกลุ่มเอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อม Swechha ระบุว่า ภัยพิบัติครั้งนี้เป็นสิ่งย้ำเตือนให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงผลกระทบของปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และผลพวงจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน, ทางรถไฟ และโรงไฟฟ้า ในพื้นที่ซึ่งมีความเปราะบางทางระบบนิเวศ

    https://www.nytimes.com/2021/02/07/world/asia/india-glacier-flood-uttarakhand.html

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    8 ก.พ. 64 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า คณะแพทย์ในญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี อาจได้รับผลกระทบทางร่างกายจากการติดเชื้อเป็นเวลานาน แม้จะได้รับการรักษาจนผลตรวจเป็นลบแล้วก็ตาม

    รายงานข่าวระบุว่า ผลที่ตามมาซึ่งพบในผู้เคยติดเชื้อโควิด-19 เช่น อาการไม่สบายและหายใจลำบาก ขณะที่ในรายที่รุนแรง ผู้ป่วยอาจกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงแม้จะได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการของโควิด-19 ที่ไม่รุนแรงก็ตาม ทั้งนี้ ปัจจุบัน ในญี่ปุ่นยังมีสถาบันทางการแพทย์ไม่มากที่รักษาผู้ป่วยจากผลที่ตามมาดังกล่าว

    แพทย์รายหนึ่ง ระบุว่า ผู้มีอาการดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 40 ปีหรือเด็กกว่านั้น และทางรัฐบาลจำเป็นต้องจริงจังกับเรื่องนี้และหามาตรการรับมือ

    เมื่อปีที่แล้ว ศูนย์สุขภาพและการแพทย์ระดับโลกแห่งชาติของญี่ปุ่นได้ทำการสำรวจทางโทรศัพท์สอบถามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาหายและออกจากโรงพยาบาล และมีผู้ตอบการสำรวจ 63 ราย

    ผลสำรวจพบว่าในบางราย ผู้ป่วยยังคงมีอาการหายใจลำบาก ไม่สบาย และการรับกลิ่นบกพร่องเป็นเวลา 4 เดือนนับจากเริ่มมีอาการของโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยที่มีอาการผมร่วงเป็นเวลาหลายเดือนหลังจากโควิด-19 แสดงอาการ
    ฮิราฮิตะ คลินิก ซึ่งทำการตรวจผู้ป่วยประเภทดังกล่าวประมาณ 700 คนทั่วประเทศ ระบุว่า มีผู้ป่วย 95% บอกว่ารู้สึกไม่สบาย ขณะที่ 80% ระบุว่ามีอาการซึมเศร้าและความสามารถด้านการคิดลดลง โดยผู้ป่วยดังกล่าวประมาณ 30% นั้นอยู่ในช่วงอายุประมาณ 40 ปี และเกือบ 50% อยู่ในช่วงอายุประมาณ 30 ปี และมีจำนวนผู้ป่วยที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 1.4 เท่า

    โคอิจิ ฮิราฮิตะ ผู้อำนวยการคลินิกคาดว่า สาเหตุอาจเป็นเพราะอาการภูมิคุ้มกันทำงานบกพร่องและตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยด้วยการโจมตีอวัยวะที่แข็งแรงดี

    เขายังเตือนด้วยว่า ผู้ที่หายจากโควิด-19 ยังควรงดออกกำลังกายไปสักระยะ เนื่องจากแค่ออกไปเดินเล่นก็อาจทำให้อาการแย่ลงแล้ว

    https://www.japantimes.co.jp/news/2021/02/07/national/covid-aftereffects-long-lasting/

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 2/ 2564 ว่า ถึงเรื่องราวที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความล่าช้าการจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิด -19 โดยนายอนุทิน ได้ยืนยันว่า
    .
    ไทยไม่ได้ช้ากว่าประเทศอื่น และไม่ขี่ม้าตัวเดียว ไม่ได้ทำอะไร ที่อยู่นอกกรอบหรือกฎหมาย ทุกอย่างคุณหมอเป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง การตัดสินใจทุกอย่าง รอบคอบ และเหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย
    .
    นายอนุทิน ได้ระบุต่อว่า การพิจารณาเรื่องของวัคซีนทำโดยผู้เชี่ยวชาญนักวิชาการ ไม่มีเรื่องของการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือกดดัน โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อเป็นผู้พิจารณา และให้อิสระอย่างเต็มที่ คนที่มาพิจารณาล้วนเป็นหมอเป็นนักวิชาการ ไม่ใช่เป็นใครก็ได้
    .
    การตัดสินของคณะกรรมการฯ แม้แต่นายกฯ และรองนายกฯ ก็เปลี่ยนการตัดสินไม่ได้ คนที่อ่านจากข่าว และประมวลผลเองก็ขอให้อยู่เฉย ๆ ไม่ใช่หมอ ก็ขอให้สงบปากสงบคำ เพราะยิ่งพูดยิ่งบั่นทอนกำลังใจ และยิ่งแต่จะทำให้ผู้คนสับสนอลหม่าน อย่างไรก็ตามวัคซีนโควิดจะได้รับตามกรอบเดือนก.พ.
    .
    นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การเจรจาสั่งซื้อวัคซีนโควิดที่ผ่านมา ยอมรับว่าเดิมไปขอสั่งซื้อในตอนแรก ที่เริ่มมีสถานการณ์การระบาดก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ผลิต
    .
    แต่เมื่อไทยมีการสั่งซื้อวัคซีนโควิดแอสตราฯแล้ว เริ่มทำให้มีบริษัทผู้ผลิตวัคซีนหลายเจ้า สนใจไทยเข้ามาพูดคุยมากขึ้น ทั้งไฟเซอร์ โมเดิร์นนา และล่าสุดบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
    .
    แต่บางบริษัท ไทยไม่สามารถรับเงื่อนเวลาได้ เนื่องจากกว่าจะได้รับวัคซีน ก็ได้ช่วงไตรมาส 3 เท่ากับรอบการผลิตที่จะได้จากการผลิตของแอสตราเซเนกา ที่ผลิตในไทยอยู่แล้ว ถ้ามีความจำเป็นก็สั่งได้
    .
    แต่การสั่งซื้อก็ต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ผ่านมาไม่เคยปิดกั้นใครหรือภาคเอกชน เปิดโอกาสให้เข้ามาพูดคุยตลอด โดยวันที่ 9 ก.พ. จะมีการหารือ กับทางการรัสเซียด้วย
    .
    ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า วัคซีนแอสตราฯ จำนวน 50,000 โดส เป็นวัคซีนล็อตเสริม แต่ติดปัญหาเรื่องปัจจัยภายนอกจากต่างประเทศ ส่วนกรอบ และแผนการดำเนินการเรื่องวัคซีนที่การผลิตในประเทศ ยังคงเดิมในราวเดือนพ.ค. แต่ต้องขอระยะเวลาการทำงานอีกระยะหนึ่ง โดยคณะทำงานยังไม่ได้หยุดเรื่องของการจัดหาวัคซีน
    .
    แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า เชื่อว่ากำลังการผลิตวัคซีนทั้งโลก ยังไม่เพียงพอ ความต้องการวัคซีนยังคงต้องการต่อเนื่อง เนื่องจากบางประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนแล้วและการผลิตจะเป็นลักษณะค่อยๆ ทยอยต่อเนื่อง แต่ว่าเชื่อว่าประสิทธิภาพของวัคซีนหลังฉีดจะยังไม่เห็นผลทันที แต่จะทำหน้าที่แค่ควบคุมโรคพื้นที่เท่านั้น
    .
    เพราะว่าหาก เราฉีดวัคซีน 1-2 ล้านโดส ฉีดแค่ในพื้นที่มีการระบาดในวงจำกัดก็เห็นผล แต่หากฉีดในพื้นที่ที่มีประชากร 250 ล้านคน หรือ จำนวนมาก ก็อาจไม่เห็นผล ในกรณีการระบาดในวงกว้าง ฉะนั้นบริบทของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ทางคณะกรรมการฯ พยายามหาวัคซีนก็อยู่บนบริบทของประเทศไทย
    .
    นพ.นคร ยังได้กล่าวอีกด้วยว่า อย่าไปกังวลที่ว่าประเทศนั้นประเทศนี้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จะเห็นว่าเป็นได้จำนวนไม่มากนัก ย้ำการพิจารณานำเข้าวัคซีน มีการพิจารณาครอบคลุมถึงเรื่องเทคโนโลยีการผลิตด้วย โดยพบว่าวัคซีนที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีไวรัสเวกเกอร์ มีความเหมาะสม และเข้ากับบริบทของประเทศและมีความปลอดภัยสูง และอย่าไปกังวลว่า วัคซีน 61 ล้านโดสอาจไม่เพียงพอ เพราะต้องดูปัจจัยหลายอย่าง ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะไม่ปกติ และมีความแปรผันเรื่องภาวะการณ์ฉุกเฉิน และทุกอย่างต้องอาศัยเวลา

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://tna.mcot.net/social-632913
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    07.02.21

    โรงเรียนประถมศึกษา และ มัธยมศึกษาตอนต้น Begby skole ในเมือง Fredrikstad ต้องปิดทำการชั่วคราวหลังจากพบผู้ติดเชื้อหลายราย ที่คาดว่าจะเป็น ผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์

    1.Sofie Lund Danielsen หัวหน้าแพทย์ประจำเทศบาลเมือง Fredrikstad กล่าวว่า การระบาดที่โรงเรียน สามารถตรวจสอบย้อนหลังกลับไปได้ถึง ลานเสก็ตน้ำแข็ง เมือง Halden ตอนนี้เมืองฯ มีข้อมูลเส้นทางการติดเชื้อที่ชัดเจนมาก

    2.โรงเรียน ปิดทำการในวันจันทร์เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หลังจากตรวจพบ ผู้ติดเชื้อ 2 ราย ที่โรงเรียน เมื่อวันศุกร์ และ ในช่วงสุดสัปดาห์นีั พนักงานอีก 3 คน รวมถึง เด็กนักเรียนอีก 4 คน มีผลทดสอบในเชิงบวก ส่งผลให้ นักเรียนทั้งหมด 45 คน และ ผู้ใหญ่ อีก 14 คน ถูกกักกัน โดยจะมี พนักงานของโรงเรียนอีก 2-3 คน ที่จะต้องถูกกักกัน หลังจากวันนี้ รวมถึง นักเรียนในชั้นอื่นๆด้วย

    3.หัวหน้าแพทย์ฯ กล่าวว่า ขณะนี้ เทศบาลกำลังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ภาพรวมของเส้นทางการติดเชื้อของทุกคน รวมถึงผู้ที่อยู่ใก้ลชิดให้มากที่สุด หลายชั้นเรียนอาจถูกกักกัน

    4.หลังจากเกิดเห็นการณ์ ลานสเก็ตน้ำแข็ง เมือง Halden จนถึงขณะนี้มีผู้ที่มีผลทดสอบเป็นบวกเพิ่มขึ้นทุกวัน ในทางกลับกัน อัตราการติดเชื้อในประเทศโดยรวมปรับตัวลดลง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผช.ผอ FHI Espen Nakstad กล่าวว่า แม้อัตราผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่เราก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะมีโอกาศที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

    5.ขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานว่า ไวรัสที่กลายพันธุ์ ทำให้เกิดโรคหรือความเจ็บป่วยที่ร้ายแรงกว่าปกติ แต่การแพร่กระจายของไวรัสนั้นสามารถติดต่อได้มากกว่ารุนเก่า ซึ่งยังต้องติดตามอย่างไก้ลชิด ผู้ติดเชื้อทั้งหมด 139 รายใน Halden, Sarpsborg และ Fredrikstad นั้นมีความเชื่อมโยงเดียวกัน คือ ลานสเก็ตน้ำแข็งใน Halden

    อ่านมาตรการเมือง Fredrikstad ได้ที่
    https://www.fredrikstad.kommune.no/aktuelt/mutert-virus/

    ....................................

    อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk

    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
    Ragna Kristine Sandholt : Journalist

    ข่าวต้นฉบับ NRK :
    https://www.nrk.no/osloogviken/stenger-skole-i-fredrikstad_-_-trolig-mutert-virus-1.15363514

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    08.02.21

    วัคซีนของ AstraZeneca ชุดแรก จำนวน 21,600 โดส เดินทางมาถึง นอร์เวย์ แล้ว - FHI ออกคำแนะนำให้ใช้วัคซีน AstraZeneca ให้กับ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอายุต่ำกว่า 65 ปี รวมถึง บุคลากรทางการแพทย์ ที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี ด้วยเช่นกัน

    1.Geir Bukholm ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการติดเชื้อของ FHI กล่าวว่า AstraZeneca เป็น วัคซีนป้องกันโคโรนาตัวที่ 3 ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ใน นอร์เวย์ ขอแนะนำให้ใช้วัคซีน AstraZeneca ให้กับ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอายุต่ำกว่า 65 ปี รวมถึง บุคลากรทางการแพทย์ ที่อายุต่ำกว่า 65 ปี ด้วย เหตุผลคือ ยังมีข้อมูลผลการทดลองทางคลีนิคไม่เพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ขึ้นไป

    2.วัคซีน AstraZeneca มีแผนที่จะแจกจ่ายไปยัง สถานที่ฉีดวัคซีน ของแต่ละ เขตเทศบาล ภายในสัปดาห์ที่ 7 โดย ผู้รับวัคซีน จะได้รับวัคซีน 2 โดส ห่างกัน 9-12 สัปดาห์

    ‍⚕️สมาคมพยาบาลขอให้ FHI ทบทวนเกี่ยวกับ การให้วัคซีนแก่ บุคลากรทางการแพทย์ ที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี ใหม่อีกครั้ง

    3.หลังจากที่มีรายงานว่า วัคซีนของ AstraZeneca อาจมีข้อจำกัด ในการป้องกันการเกิดโรคที่มีอาการไม่รุนแรง อันเป็นผลมาจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากแอฟริกาใต้ เรื่องนี้สร้างความสนใจให้กับ Lill Sverresdatter Larsen ผู้นำสหภาพแรงงาน ของ สมาคมพยาบาลแห่งนอร์เวย์ ***

    **แอด ลองเข้าไปเช็คดูที่เวปไซต์ของ บริษัทผู้ผลิต AstraZeneca ไม่มีข่าวเรื่อง ข้อจำกัดของประสิทธิภาพวัคซีน ลงไว้ค่ะ ข่าวล่าสุดคือ เมื่อวันที่ 03.02.21 อัพเดทเรื่องประสิทธิภาพของการทดลองในเฟส 3 มีเพียงแต่เวปไซต์ Financial Time ที่ลงเรื่องนี้ ซึ่งเป็นรายงานการวิจัยที่ยังไม่ได้รับการ ตรวจสอบโดยกลุ่มนักวิชาการ ต่อมา Vg / NRK นำมาลงข่าวต่ออีกที ค่ะ
    Financial time --> https://www.ft.com/content/e9bbd4fe-e6bf-4383-bfd3-be64140a3f36***

    4.สมาคมพยาบาลฯ ต้องการให้ FHI ประเมินวัคซีน AstraZeneca อย่างละเอียด อีกครั้งก่อนที่จะส่งไปยัง บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรายงานใหม่ที่ระบุว่า วัคซีน ป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรง และ การเสียชีวิตในกรณีที่ติดเชื้อ แต่ไม่ได้ป้องกันความเจ็บป่วยเล็กน้อย - ปานกลาง และ ไม่ได้ป้องกันการติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง

    5.Larsen กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ มักอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อสูงดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ บุคลากรทางการแพทย์ จะได้รับวัคซีนที่ได้ผลดีและเหมาะสม

    6.ทางด้าน Geir Bukholm กล่าวว่า ขณะนี้ FHI ยังไม่เห็นเหตุผลที่ควรจะพิจารณาใหม่ FHI ได้ตรวจสอบประสิทธิภาพของ วัคซีน อย่างต่อเนื่องว่าวัคซีนมีผลต่อไวรัสสายพันธุ์ต่างๆอย่างไรบ้าง และ วัคซีนหลายตัวถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกัน ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ FHI ติดตามเรื่องนี้อย่างใก้ลชิด และ ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า วัคซีนบางชนิด มีความโดดเด่นในทางที่ดีหรือไม่ดี

    7.หลังจากที่ ผลการศึกษาเบื้องต้น เรื่องข้อจำกัดของประสิทธิภาพวัคซีนฯ ได้เผยแพร่ลงใน Financial Times ทำให้ แอฟริกาไต้ ตัดสินใจหยุดใช้วัคซีนของ AstraZeneca ชั่วคราว จนกว่านักวิจัยจะทำการประเมินใหม่

    8.ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนของ AstraZeneca ส่วน ประเทศ เยอรมนี / ออสเตรีย / ฝรั่งเศส / นอร์เวย์ / โปรตุเกส จำกัดอายุของผู้รับวัคซีนไว้ที่ 65 ปี โปแลนด์ จำกัดอยู่ที่ 60 ปี ส่วน สเปน และ อิตาลี จำกัดอายุของผู้รับวัคซีนไว้ที่ 55 ปี

    ...................................

    อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk

    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    ข่าวต้นฉบับ :

    สมาคมพยาบาลขอให้ FHI ทบทวนใหม่ :
    https://www.nrk.no/norge/sykepleierne-ber-fhi-se-pa-astrazeneca-vaksinen-pa-nytt-1.15363480

    ข่าว วัคซีนของ AstraZeneca มาถึงนอร์เวย์ และ FHI ไม่แนะนำให้ใช้ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี :
    https://www.fhi.no/nyheter/2021/status-vaksinasjonsprogrammet
    https://www.fhi.no/nyheter/2021/de-forste-vaksinedosene-fra-astra-zeneca-har-kommet-til-norge

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    07.02.21

    ตัวเลขจาก องค์กรนายจ้างในประเทศนอร์เวย์ (Virke) แสดงให้เห็นว่า พนักงานราว 180,000 คน ที่ทำงานใน อุตสาหกรรมการค้า และ การบริการ ในเขตเทศบาล Bergen และ 12 เทศบาล ที่มี มาตรการควบคุมการติดเชื้อที่เข้มงวด ต่างก็ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

    1.ในจำนวนนี้ พนักงาน 39,000 คน ทำงานใน บริษัท ที่ต้องปิดกิจการชั่วคราวและอีก 15,000 คน ในจำนวนนี้ไม่สามารถทำงานจากสำนักงานที่บ้านได้

    2.Ivar Horneland Kristensen CEO ของ Virke กล่าวว่า เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการเข้มงวดนี้จะเป็นเพียงระยะสั้นๆ และ ธุรกิจต่างๆสามารถกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้งเร็วที่สุด โดยที่ บริษัทและธุรกิจต่างๆทำตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ

    เกี่ยวกับการแพร่ระบาดที่ ไซต์คนงานก่อสร้าง 2 แห่งในเมือง Bergen

    3.ขณะนี้มีการแพร่ระบาดที่ไซต์ก่อสร้างใน Fantoft ซึ่งเป็น หนึ่งในสาเหตุของความกังวลในเมือง Bergen และตามที่ เทศบาล ระบุไว้ว่าอาจมีผู้ติดต่อใกล้ชิด กับ ผู้ติดเชื้อ มากกว่า 100 ราย

    4.ผช.ผอ FHI Espen Nakstad กล่าวว่า การแพร่ระบาดในสถานที่ก่อสร้างแห่ง 2 แห่ง ของเมือง Bergen สถานที่หนึ่งใน 2 แห่งนี้ อยู่ใกล้กับ ใจกลางเมือง และ เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟในเมือง Bergen นอกจากนี้ยังมีร้านค้าหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียงเช่นเดียวกับสถานที่สาธารณะ และ หอพักนักศึกษา

    5.แม้จะมีผู้ติดเชื้ออยู่ใน ไซต์ก่อสร้างแห่งนี้แต่พวกเขายังไปที่ ร้านค้า และออกไปอยู่ในที่ชุมชนท้องถิ่นในช่วงระหว่างสัปดาห์การทำงาน จาเกเหตุกาณ์นี้อาจมี ผู้ติดต่อมากมาย รวมไปถึง การติดเชื้อ อาจแพร่กระจายไปยังสถานที่ต่างๆได้อีก ขณะนี้ เทศบาลเมือง Bergen ยังไม่มีภาพรวมของเส้นทางการติดเชื้อจากกรณีนี้

    ...................................
    อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk

    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    ข่าวต้นฉบับ :
    https://www.dagbladet.no/nyheter/et-veldig-hoyt-antall/73379818
    https://www.tv2.no/nyheter/11942470/

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1 > โปรตุเกสกำลังเดินหน้าโครงการผลิตพลังงานจากคลื่นนอกชายฝั่ง ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เคยมีการทดลองไปครั้งหนึ่งแล้วโดย Pelamis แต่ได้ปิดตัวไป คราวนี้ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปชื่อว่าโครงการ HiWave-5 Project ของบริษัท CorPower ซึ่งจะมีการทดสอบบนบกในสวีเดนในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ก่อนจะทำการติดตั้งในมหาสมุทรที่ชายฝั่งอากวาคาดูราในโปรตุเกสช่วงครึ่งหลังของปี

    2 > Pelamis Wave Energy Converter เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การเคลื่อนที่ของคลื่นผิวน้ำในมหาสมุทรเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า พัฒนาโดยบริษัท Pelamis สก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นเครื่องผลิตคลื่นนอกชายฝั่งเครื่องแรกที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบกริดของสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกในปี 2547 โดยเครื่อง Pelamis จะแปลงพลังงานคลื่นนอกชายฝั่งที่ความลึกของน้ำมากกว่า 50 เมตร เครื่องต้นแบบมีความยาว 120 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5 เมตร

    3 > หลักการทำงานของมันไม่ซับซ้อน โดยคลื่นไม่จำเป็นต้องสูงถึงจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ เวลานั้นฟังแล้วเหมือนโครงการนี้จะเป็นความหวังของโลกแห่งพลังานสะอาด เพราะคลื่นเกิดอยู่แทบจะตลอดเวลาและมีพื้นที่ไม่จำกัดในการสร้างพลังงานจากคลื่น

    4 > ในช่วงแรกๆ โครงการนี้ได้รับความสนใจพอสมควร มีการทดสอบเครื่องต้นแบบเต็มรูปแบบที่ศูนย์พลังงานทะเลแห่งยุโรป (EMEC) ที่หมู่เกาะออร์กนีย์ ประเทศสก็อตแลนด์ ระหว่างปี 2547 ถึง 2550 ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 750 กิโลวัตต์เป็นเครื่องผลิตพลังงานคลื่นนอกชายฝั่งเครื่องแรกของโลกที่ผลิตกระแสไฟฟ้าในระบบกริด

    5 > ถึงแม้ว่าไอเดียจะล้ำแต่บริษัทไปไม่รอดต้องปิดตัวลงในที่สุดในปี 2554 แต่เนื่องจากไอเดียยังใช้ได้ เครื่องไฟฟ้าพลังคลื่นจึงถูกขายต่อให้บริษัท Wave Energy Scotland นำไปใช้งานได้เสร็จสิ้นกว่า 15,000 ชั่วโมงและปลดระวางไปในเดือนเมษายน 2559 จากนั้นขายต่อให้กับสภาท้องถิ่นหมู่เกาะออร์นีย์ในราคาแค่ 1 ปอนด์

    6 > ไม่ใช่แค่ในสก็อตแลนด์ โครงการท้ายๆ ของ Pelamis คือการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังคลื่นที่มีอยู่อย่างมหาศาลนอกชายฝั่งประเทศโปรตุเกส นั่นคือ Agucadoura Wave Farm ของ Pelamis Wave Power ซึ่งป็นโครงการพลังงานคลื่นเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งอากวาคาดูราในโปรตุเกสออกไป 5 กิโลเมตร

    7 > ฟาร์มไฟฟ้าพลังคลื่นแห่งนี้มีกำลังการผลิตติดตั้ง 2.25 เมกะวัตต์และเป็นโครงการพลังงานคลื่นจากเครื่องจักรหลายเครื่องแห่งแรกของโลก ได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัท Enersis ของโปรตุเกสซึ่งในเวลานั้นเป็นการลงทุนของบริษัทระดับโลกจากออสเตรเลีย คือ Babcock & Brown

    8 > แต่ก็เหมือนกับที่สก็อตแลนด์ ฟาร์มแห่งนี้ผลิตกระแสไฟฟ้าครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2551 แต่ไปได้ไม่กี่เดือนก็ถูกยกเลิกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ในเวลาเดียวกันกับที่บริษัทแม่ของผู้ลงทุนคือ Babcock & Brown ประสบปัญหาทางการเงิน

    9 > ในแง่การลงทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจัดเตรียมและติดตั้งฟาร์มคลื่นที่โปรตุกสมีมูลค่ารวมกว่า 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อคำนวณอัตราส่วนต้นทุนต่อผลประโยชน์ฟาร์มคลื่นมีศักยภาพในการจัดหาพลังงานให้กว่า 1,500 ครัวเรือนในพื้นที่ผลิต ซึ่งถือว่าคุ้มและการดำเนินการถือว่าสำเร็จอย่างมาก แต่จนมุมเพราะบริษัทแม่มีปัญหาการเงิน

    10 > เมื่อปี 2562 มีรายงานว่าเจ้าของไอเดียคือ Pelamis ที่ล้มไปกำลังจะคืนชีพอีกครั้ง พวกเขาวิจัยกิจกรรมเพื่อเริ่มต้นฟาร์มคลื่นนอกชายฝั่ง และมีโอกาสที่จะเปิดตัวฟาร์มพลังงานคลื่นอีกครั้งด้วยศักยภาพที่สูงกว่าเดิม แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีความคืบหน้าอีก

    11 > แต่ยังมีความหวังเมื่อมีบริษัทอื่นเดินหน้าใช้พลังงานคลื่นนอกชายฝั่งโปรตุเกสจุดเดียวกับที่เคยมีการทดลองของ Pelamis โดยคราวนี้ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปชื่อโครงการ HiWave-5 Project ของบริษัท CorPower ซึ่งจะมีการทดสอบบนบกในสวีเดนกำหนดในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ก่อนจะทำการติดตั้งในมหาสมุทรที่ชายฝั่งอากวาคาดูราในโปรตุเกสในช่วงครึ่งหลังของปี

    12 > ที่จะลืมไปไม่ได้ เครื่องต้นแบบของ Pelamis ที่ถูกขายต่อไปในราคา 1 ปอนด์ให้กับสภาหมู่เกาะออร์กนีย์มันก็ยังอยู่และถูกขายต่อคืนให้กับศูนย์พลังงานทะเลแห่งยุโรป (EMEC) ซึ่งตั้งอยู่บนหมู่เกาะออร์กนีย์ บางทีในอนาคตพวกเขาอาจต่อยอดมันจนกลายเป็นเครื่องผลิตไฟฟ้าพลังคลื่นที่ใช้ได้จริงๆ จังๆ อีกครั้ง

    13 > นั่นเพราะหมู่เกาะออร์กนีย์มีแหล่งพลังงานลมและพลังงานทางทะเลที่สำคัญ แม้ว่าหมู่เกาะออร์กนีย์จะเชื่อมกระแสไฟฟ้าต่อกับแผ่นดินใหญ่ แต่ก็ผลิตพลังงานหมุนเวียนสุทธิได้เองมากกว่า 100% ส่วนใหญ่มาจากกังหันลมที่ตั้งอยู่ทั่วหมู่เกาะออร์กนีย์ แต่ในอนาคตพลังงานจากคลื่นคงจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันถ้ามันถูกผลักดันจริงๆ จังๆ และมีทุนสนับสนุนมากพอ

    ข้อมูลจาก
    • "Pelamis, World’s First Commercial Wave Energy Project, Agucadoura". (Nov 4, 2017). Power Technology.
    • Wikipedia contributors. "Pelamis Wave Energy Converter." Wikipedia, The Free Encyclopedia. Wikipedia, The Free Encyclopedia, 1 Feb. 2021. Web. 8 Feb. 2021.
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1 > เมื่อ 2 ปีที่แล้วมีคำเตือนจากรายงาน Hindukush Himalaya Assessment โดยองค์กร ICID ในประเทศเนปาลว่า สองในสามของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยซึ่งถือเป็น "ขั้วโลกที่สาม" ของโลกอาจละลายภายในปี 2100 หรืออีก 80 ปี หากการปล่อยมลพิษทั่วโลกไม่ลดลง และยิ่งไม่ลดการปล่อยก๊าซมันจะยิ่งแย่ลงไปอีกอย่างคาดไม่ถึง
    2 > ข่าวร้ายกว่านั้นก็คือแม้ประชาคมโลกจะบรรลุเป้าหมายตามความตกลงปารีส หรือสามารถทำตามเป้าหมายที่ยากที่สุดคือจำกัดอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกิน 1.5 องศาเซลเซียส แต่หนึ่งในสามของธารน้ำแข็งก็จะละลายหมดอยู่ดี เพราะในภูมิภาคเทือกเขาหิมาลัยจะร้อนขึ้น 2.1 องศา ยิ่งหากการปล่อยก๊าซไม่ลดลง มันจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 องศา
    3 > รายงานระบุว่าธารน้ำแข็งในภูมิภาคฮินดูกูช-หิมาลัยเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญสำหรับผู้คนราว 250 ล้านคนในแถบภูเขาและอีก 1,650 ล้านคนในที่ราบลุ่มท้ายน้ำลงมา และธารน้ำแข็งหล่อเลี้ยงระบบแม่น้ำที่สำคัญที่สุดของโลก 10 สาย ได้แก่ คงคา สินธุ แม่น้ำเหลือง แม่น้ำแยงซีเกียง แม่น้ำโขง และอิระวดี เป็นต้น
    4 > ภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยคนยากจนโดยเฉพาะในอินเดียและจีนซึ่งถึงแม้จะจนน้อยกว่า แต่แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นผิดปกติเพราะธารน้ำแข็งละลายหนักจะทำให้พบกับความเสียหายหนักทุกปี รายงานเตือนว่าภูมิภาคนี้จะต้องใช้เงินมากถึง 7,800 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2050 เพื่อเอาตัวรอดจากภาวะโลกร้อน
    5 > รายงานนี้เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และในเวลานี้เดือนกุมภาพันธ์ 2564 คำเตือนก็กลายเป็นจริงเมื่อธารน้ำแข็งเทือกเขาหิมาลัยละลายจนถล่มลงมาก่อให้เกิดคลื่นมวลน้ำไหลทะลักเข้าทำลายเขื่อนที่ต้นสายหนึ่งของแม่น้ำคงคาในรัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดียทำให้อาจมีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลักร้อยคน
    6 > ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน iGreen รายงานว่าธารน้ำแข็งและภูเขาหลายแห่งในเทือกเขาหิมาลัยแถบภูเขาเอเวอเรสต์ในประเทศเนปาลช่วงกลางฤดูหนาวเดือนมกราคม 2564 ไม่มีหิมะใหม่ๆ ปกคลุมธารน้ำแข็งหลายแห่งเปลือยเปล่าแม้แต่ที่ยอดเขา และนักวิจัยชี้ว่าธารน้ำแข็งในแถบนั้นจะละลายได้ตลอดทั้งปีจากที่เคยละลายแค่ 3 - 4 เดือนต่อปี
    7 > ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2563 มีรายงานที่น่าตกใจว่าธารน้ำแข็งรองบุก (Rongbuk) ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยทางตอนใต้ของทิเบตและอยู่ใกล้กับเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ในเขตประเทศจีนกำลังละลายอย่างรวดเร็ว และตั้งแต่ปี 2523 ธารน้ำแข็งรองบุกตอนกลางได้สูญเสียความลึกไปกว่า 90 เมตรและหดตัวไป 2 กิโลเมตรแล้ว
    8 > ธารน้ำแข็งรองบุกเป็นแหล่งน้ำหลักของแม่น้ำสายหลักในเอเชีย เช่น สินธุและแยงซี ดังนั้นการละลายตามฤดูกาลจึงมีความจำเป็นต่อผู้คนนับล้านในอินเดียและจีน แต่ตอนนี้มันไม่ได้ละลายตามฤดูกาลอีกต่อไปแล้ว และมีความกังวลว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ธารน้ำแข็งหิมาลัยจะละลายจนหมดในยุคสมัยของเรา?
    9 > อย่างไรก็ตาม แทนที่อินเดียและจีนจะแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ พวกเขาพยายามสร้างเขื่อนแถบเทือกเขาหิมาลัยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ถึงแม้ว่าในอนาคตจะต้องเกิดวิกฤตการณ์การแย่งชิงน้ำจากหิมาลัยแน่นอน ประเด็นนี้อินเดียกำลังจับตาอยู่เหมือนกัน เพราะในเดือนกันยายน 2563 มีการประเมินว่าประมาณ 75% ของธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยกำลังหดตัวในอัตราที่น่าตกใจ
    10 > สถาบัน ISRO ของอินเดียเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงนี้และเตือนให้รัฐบาลเร่งจัดหาแหล่งน้ำเพราะน้ำในแถบหิมาลัยจะขาดแคลนในอีกไม่กี่ทศวรรษต่อจากนี้ และลงรายละเอียดว่าลุ่มน้ำสินธุตอนบนอาจจะมีสัดส่วนธารน้ำแข็งละลายถึง 41% ของปริมาณการละลายทั้งหมด 13% มาจากคงคาตอนบนและ 16% ในพรหมบุตรตอนบน
    11 > นี่คือผลระยะสิบปีขึ้นไป แต่ผลกระทบระยะสั้นต่อมนุษย์ต้องกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนอีกครั้ง องค์กร India Climate Dialogue เคยเตือนแล้วว่า ภูมิภาคนี้มีศักยภาพที่จะผลิตไฟฟ้าได้ 500 GW และมีการวางแผนโครงการเขื่อนถึง 550 โครงการหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้างในหุบเขาสูงชันในเทือกเขาหิมาลัยในจีน อินเดีย ปากีสถาน และภูฏาน
    12 > แต่พวกเขาเตือนว่าการละลายของหิมะและธารน้ำแข็งในภูมิภาคซึ่งบางส่วนร้อนขึ้นถึงสามเท่าจากค่าเฉลี่ยทั่วโลกจะทำให้การไหลตามฤดูกาลของแม่น้ำสายหลักในเอเชียเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และจะกระทบต่อโครงการสร้างเขื่อนต่างๆ จนอาจนำมาซึ่งหายนะร้ายแรงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
    13 > พวกเขาบอกว่านักสร้างเขื่อนและหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลต่างเพิกเฉยต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเสี่ยงทางธรณีวิทยาอย่างเร่งด่วนเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการสร้างเขื่อน ในบางพื้นที่การสร้างเขื่อนในแถบหิมาลัยไม่มีการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมด้วยซ้ำไป
    14 > จากหายนะที่รัฐอุตตราขัณฑ์จะเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเขื่อน 2 แห่งและอุโมงค์ที่มีคนงานทำงานอยู่ เขื่อนที่สร้างในแถบนี้ต้องมีเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่กว้างขวางซึ่งขนน้ำจากแม่น้ำไปยังโรงไฟฟ้าที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร เพราะพื้นที่เป็นโตรกแคบทำให้กักน้ำได้น้อย แต่การสร้างอุโมงค์พวกนี้ก็ไม่มีการประเมิน EIA เช่นกัน
    15 > เหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าธรรมชาติกำลังถึงขีดสุดและพร้อมที่จะปลดปล่อยพลังที่ถูกกดดันเอาไว้ทำลายล้างทุกสิ่ง เขื่อนที่กั้นแม่น้ำที่มีต้นธารจากธารน้ำแข็งหิมาลัยก็เป็นสิ่งแปลกปลอมที่พร้อมจะถูกทำลายเช่นกัน เพราะพลังของธารน้ำแข็งที่ละลายจากยอดเขาสูงไหลผ่านโตรกผาแคบๆ นั้นรุนแรงมากซึ่งเราได้ประจักษ์จากโศกนาฏกรรมที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
    อ้างอิง
    • "Two-thirds of Himalayan glaciers could melt". (05/02/2019). AFP.
    • "Everest’s Rongbuk Glacier Continues to Shrink". (15/12/2020). Explorersweb
    • "Himalayan hydro developers wilfully ignore climate risks". (15/03/2019). India Climate Dialogue
    ภาพ : Science News

    แบ่งปันจาก IGreen

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 189 ราย โดยติดเชื้อในประเทศ 179 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมตอนนี้มีผู้ป่วยกำลังรักษาตัวอยู่ทั้งหมด 5,301 ราย รักษาหายแล้วทั้งหมด 18,366 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 23,746 ราย โดยไทยอยู่ที่อันดับ 114 ของโลก
    .
    แพทย์อาสาจากหลายจังหวัดเดินทางมาช่วยเสริมทัพ เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร คลัสเตอร์การกระจายเชื้อหลักมาจากตลาดสดเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงมีการจัดปาร์ตี้ ทำให้ต้องค้นหาเชิงรุกมากขึ้น

    #โควิด19 #Covid19 #สถานการณ์โควิด19วันนี้ #ศบค #ยอดติดเชื้อโควิด #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สปป.ลาวได้รับมอบวัคซีนต้านโควิด-19 ที่จีนบริจาคให้อย่างเป็นทางการ โดย รองประธานาธิบดีสปป.ลาว “พันคำ วิพาวัน” ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลจีนและชาวจีนที่ได้สนับสนุนลาวอย่างต่อเนื่อง และการบริจาควัคซีนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยที่จีนมีต่อลาว

    ที่ผ่านมา สปป.ลาวได้ฉีดวัคซีนของจีนให้กับกลุ่มเสี่ยงสูงในประเทศแล้วและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และในระยะต่อไป จะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์, พนักงานศุลกากรต่อไป

    นับถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา สปป.ลาวมีผู้ติดเชื้อโควิดสะสม 45 ราย รักษาตัวหายแล้ว 41 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต

    #สปปลาว #วัคซีนโควิด #โควิด19
    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์โควิด จ.สมุทรสาคร เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 8 ก.พ. 64 ยอดผู้ติดเชื้อ เวลา 24.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่ 159 ราย มาจากมาตรการค้นหาเชิงรุก 50 ราย เป็นคนไทย 24 ราย แรงงานต่างด้าว 26 ราย และ เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล 109 ราย เป็นคนไทย 32 ราย ต่างด้าว 77 ราย ทำให้ถึงขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 15,215 ราย

    #โควิด19 #สมุทรสาคร #โควิดสมุทรสาคร
    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     

แชร์หน้านี้

Loading...