ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กระทรวงคลังเตือน เว็บ-แอปฯ ปลอมระบาด ย้ำของแท้มีแค่ ‘เราชนะและเป๋าตัง’ เท่านั้น

    วันที่ 7 ก.พ. 2564 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการดาวน์โหลด อ่าน ส่ง หรือแชร์ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับโครงการเราชนะอย่างรอบคอบ เพราะปัจจุบันช่องทางที่รัฐบาลได้จัดทำสำหรับโครงการเราชนะ มีเฉพาะเว็บไซต์ “http://www.xn--b3c4a2a6ch6f.com/” และแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น ส่วนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเราชนะของรัฐบาลและกระทรวงการคลังแต่อย่างใด ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและความเข้าใจผิด จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง

    โดยกระทรวงการคลังขอเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมแอบอ้างโดยมีเจตนาหลอกลวงหรือทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เนื่องจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประชาชนในเมียนมายังคงชุมนุมอย่างต่อเนื่อง สื่อท้องถิ่นจับตาอาจมีการปลุกม็อบชนม็อบเป็นข้ออ้างสลายการชุมนุม

    วันที่ 8 ก.พ. 2564 สำนักข่าวเอพี (AP) รายงานการชุมนุมของประชาชนในเมียนมาเพื่อต่อต้านการทำรัฐประหารของกองทัพ ที่เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ขณะที่ฝั่งกองทัพนำรถฉีดน้ำออกมาใช้สลายการชุมนุมเป็นครั้งแรก

    ตำรวจเมียนมาในกรุงเนปิดอว์ตัดสินใจใช้รถฉีดน้ำเพื่อเปิดทางบนถนน ปฏิบัติการสลายการชุมนุมได้หยุดลงหลังจากทางผู้ชุมนุมได้ร้องขอให้หยุดฉีดน้ำ แต่การประท้วงยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้กี่ราย

    ส่วนที่นครย่างกุ้งมีบุคลากรจากหลากหลายวิชาชีพหยุดงานเพื่อมาร่วมประท้วง ทั้งครู แพทย์ พยาบาล นักศึกษา นักดับเพลิง และข้าราชการบางส่วน รวมไปถึงพระสงฆ์ที่ถือธงหลากสีของศาสนาพุทธควบคู่กับธงสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของพรรค NLD ของ อองซาน ซูจี

    แปง ซอ วิน หนึ่งในผู้ชุมนุมบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทุกคนใช้โซเชียลมีเดีย และก็นำสิ่งที่เห็นมาปฏิบัติตาม เช่นการชูสามนิ้ว พร้อมทั้งระบุว่า คนรุ่นใหม่ไม่กลัวการต่อสู้ในครั้งนี้ เนื่องจากได้เห็นการประท้วงในฮ่องกงและไทยมาแล้ว จึงรู้สึกคุ้นเคยและไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด

    หลังจากกองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 165 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง และได้รับการปล่อยตัวออกมาเพียง 13 รายเท่านั้น

    ล่าสุดทวิตเตอร์ของสำนักข่าว Myanmar Now ได้เปิดเผยภาพผู้สนับสนุนกองทัพกว่า 100 คน บนรถของทหารที่ขับไปรอบๆ นครย่างกุ้ง โดยกังวลว่ากองทัพอาจใช้ยุทธวิธีม็อบชนม็อบเพื่อหยุดยั้งการประท้วงครั้งนี้

    ที่มา: https://apnews.com/article/world-ne...ngon-myanmar-fd4252fbd800caa5d457de9dd65293b7

    https://www.reuters.com/article/us-...e-protests-against-myanmar-coup-idUSKBN2A8054



    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงดำเนินการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง กรณีธารน้ำแข็งหิมาลัยแตกที่อินเดีย มีผู้สูญหายอีกไม่ต่ำกว่า 200 คน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิงคโปร์เตรียมใช้แอปจับตานักเรียนทางคอมพิวเตอร์ เรียกเสียงฮือฮาวิตกละเมิดส่วนตัวเด็ก
    .
    .
    ..
    รอยเตอร์ – สิงคโปร์ซึ่งได้ริเริ่มให้เด็กนักเรียนต้องเรียนทางไกลผ่านทางออนไลน์เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19ระบาด แต่ล่าสุดกลับต้องมาปวดหัวอีกครั้งเพราะมีเสียงออกมาแสดงความไม่สบายใจที่ทางรัฐบาลจะจัดให้มีแอปสำหรับตรวจดูพฤติกรรมเด็กบนคอมพิวเตอร์ ที่มีเสียงวิจารณ์ตำหนิว่าอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(8 ก.พ)ว่า มาตรการที่ออกมานี้เพื่อต้องการมั่นใจว่าเด็กนักเรียนสิงคโปร์จะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม โดยการอนุญาตให้มีการเรียนผ่านทางออนไลน์เกิดขึ้นเมื่อตลอดทั้งปี 2020 ทั่วโลกประสบปัญหาโรคโควิด-19 ระบาด
    .
    และทางรัฐบาลได้ออกโครงการให้การสนับสนุนเพื่อทำให้มั่นใจว่านักเรียนมันธยมสิงคโปร์ทุกคนสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ภายในปี 2021
    .
    ทั้งนี้ในเดือนธันวาคมรัฐบาลสิงคโปร์ได้แถลงว่า คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษานั้นนั้นจำเป็นต้องสามารถใช้กับแอปที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งขณะที่เด็กนักเรียนใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองแต่จำเป็นต้องมีการติดตั้งแอปการจัดการเหล่านี้ในเครื่องของตัวเอง
    .
    ซอฟแวร์บริหารจัดการที่ว่านั้นจะทำให้ทางครูผู้สอนสามารถที่จะดูและควบคุมจอมอนิเตอร์ของนักเรียนจากทางไกลได้ อ้างอิงจากบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์กล่าว และทำให้เกิดเสียงประท้วงผ่านหนังสือร้องเรียนทางออนไลน์ทันทีจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กลุ่มฮิวแมนไรท์วอช
    .
    อย่างไรก็ตามกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สิงคโปร์ CNA ในเดือนนี้ว่า ซอฟต์แวร์จะตรวจจับประวัติข้อมูลการเสิร์ชของเด็กเพื่อจำกัดสิ่งไร้สาระออกไป แต่ทว่าจะไม่สืบหาหรือรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ข้อมูลส่วนบุคคล หรือพาสเวิร์ด
    .
    เมื่อวันศุกร์(15)กลุ่มฮิวแมนไรท์วอชกล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า “การขาดคำนิยามตามความหมายของ “สิ่งที่ไร้สาระ” ของสถาบันและการขาดต่อความโปร่งใสต่อการตัดสินใจที่ออกมา นั้นเป็นการบ่อนทำลายต่อความสามารถของเด็กในการแสดงความเห็นอย่างอิสระและการเข้าถึงข้อมูล”
    .
    ซึ่งการออกมาตอบโต้ของสาธารณะถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากในประเทศสิงคโปร์ที่มีความเข้มงวดสูง แต่อย่างไรก็ตามบรรดานักเรียนได้ออกมาเรียกร้องผ่านทางคำร้องออนไลน์ที่มีรายชื่อผู้สนับสนุนไปแล้ว 6,600 รายร้องต่อรัฐบาลสิงคโปร์ยอมอ่อนข้อลงและไม่บังคับขู่เข็นให้นักเรียนต้องทำการติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าว เกิดขึ้นในประเทศที่มีประชากรทั้งหมดราว 5.7 ล้านคน
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เมื่อเดือนมกราคมจากการที่ทางรัฐบาลไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณะว่าข้อมูลรวบรวมเกี่ยวกับการสัมผัสโควิด-19ผ่านทางแอปนั้นตำรวจสามารถเข้าถึงได้ ส่งผลให้รัฐบาลสิงคโปร์ต้องเสนอการแก้ไขกฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลของตำรวจสิงคโปร์
    .
    ทางกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์เคยกล่าวว่ามีแผนที่จะสั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ดโน๊ตบุ๊กจำนวนมากที่มาพร้อมกับซอฟแวร์ตรวจจับโดยจะถูกซื้อโดยนักเรียนสิงคโปร์ที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลสำหรับการจัดซื้อ
    .
    ทั้งนี้ปีที่แล้วโรงเรียนสิงคโปร์เปิดเรียนได้แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเนื่องมาจากการระบาดในประเทศ แต่ทว่าภายในปีนี้รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมที่จะประกาศให้เด็กนักเรียนระดับมะยมต้องมีวันเรียนจากที่บ้านอันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเรียนรู้ดิจิทัล (digital literacy drive)

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตกอกตกใจ! ชาวเน็ตแชร์ภาพน้ำท่วมหมู่บ้านอินโดเป็น ‘สีเลือด’ ที่แท้แค่ ‘สีย้อมผ้า’
    .
    ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอินโดนีเซียที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นสีแดงราวกับเลือดสดๆ ก่อนจะมีผู้รู้มาเฉลยว่า มันเป็นสีย้อมจาก “โรงงานผ้าบาติก” ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนั่นเอง
    .
    น้ำสีแดงสดนี้ได้ไหลเข้าท่วมท้องถนนในหมู่บ้านเจงก็อต (Jenggot) จังหวัดชวากลาง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.พ.) โดยชุมชนในย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องของการทำผ้าบาติก
    .
    ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างพากันแชร์รูปกระแสน้ำท่วมที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มในหมู่บ้านแห่งนี้ จนเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในพื้นที่ต้องออกมายืนยันว่าเป็นภาพจริง
    .
    “น้ำเป็นสีแดง ก็เพราะโดนสีย้อมจากโรงงานผ้าบาติกที่ถูกน้ำท่วม” ดิมาส อาร์กา ยูธา ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ “เดี๋ยวพอฝนตกมันก็เจือจางไปเอง”
    .
    ก่อนหน้านี้ แม่น้ำบางสายในเมืองเปอกาลองงัน (Pekalongan) ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันก็เคยแปรสภาพเป็นสีสันต่างๆ มาแล้วเนื่องจากโดนสีย้อมผ้าบาติก และเมื่อเดือน ม.ค. ก็มีหมู่บ้านอีกแห่งในอินโดนีเซียซึ่งเกิดน้ำท่วมเป็นสีเขียว
    .
    อินโดนีเซียต้องเผชิญเหตุอุทกภัยอยู่เป็นประจำ โดยเมื่อต้นปีนี้ได้เกิดพายุฝนพัดถล่มกรุงจาการ์ตาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 43 คน
    .
    ที่มา: บีบีซี, รอยเตอร์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดตาย ‘ธารน้ำแข็งถล่ม’ ในอินเดียพุ่ง 18 ศพ-กว่า 200 ชีวิตยังสูญหาย
    .
    เหตุธารน้ำแข็งหิมาลัยแตกในรัฐอุตตราขัณฑ์ของอินเดียซึ่งทำให้มีมวลน้ำไหลบ่าซัดถล่มเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ 2 แห่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 200 คนในวันนี้ (8 ก.พ.)
    .
    คลิปที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้และแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่มีทั้งหินและโคลนไหลผ่านโตรกผาแคบๆ ในเขตชาโมลี (Chamoli) ก่อนจะซัดถล่มเขื่อนแห่งหนึ่งและกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทาง ขณะที่ทางการได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำให้รีบอพยพโดยด่วน
    .
    ตริเวนทรา ราวัต มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (7) ว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นถือเป็น “หายนะครั้งรุนแรง” และคาดว่าจะก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐแห่งนี้
    .
    กองทัพอินเดียและกองกำลังตอบสนองภัยพิบัติแห่งชาติ (NDRF) ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าร่วมในปฏิบัติการกู้ภัย โดยคาดว่าจะมีทีมค้นหาของ NDRF เดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงนิวเดลีไปถึงยังรัฐอุตตราขัณฑ์เพิ่มเติมภายในวันนี้ (8)
    .
    กระแสน้ำจากเทือกเขาสูงยังไหลเข้าท่วมเขื่อนริชิกังกา (Rishiganga) ซึ่งเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กแห่งหนึ่งในเขตชาโมลี โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำอลักนันทา (Alaknanda) ได้รับคำเตือนให้อพยพล่วงหน้าแต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนเกินไป
    .
    CNN อ้างข้อมูลจากมุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ซึ่งระบุว่า เขื่อนริชิกังกามีคนงานอยู่เพียง 35 ราย และมีผู้สูญหายระหว่าง 29-30 คน ทว่ากระแสน้ำได้ไหลลงไปตามแม่น้ำเธาลีกังกาและสร้างความเสียหายต่อเขื่อน ทาโปวัน วิษณุคัต (Tapovan Vishnugad) ของ NTPC ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า โดยที่เขื่อนแห่งนี้มีคนงานอยู่ราวๆ 176 คน และมีอุโมงค์ 2 แห่ง
    .
    รัฐบาลท้องถิ่นรัฐอุตตราขัณฑ์แถลงวันนี้ (8) ว่า เจ้าหน้าที่เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากสถานที่ต่างๆ ได้แล้วอย่างน้อย 18 ศพ แต่ยังคงมีผู้สูญหายอีกไม่ต่ำกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นคนงานจากโรงไฟฟ้า 2 แห่งที่ถูกน้ำซัดพังเสียหาย โดยจุดที่คาดว่าจะมีคนติดอยู่คือภายในอุโมงค์ 2 แห่งที่ถูกดินโคลนไหลลงมาทับ
    .
    ปิยูช เราเทลา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติ บอกกับเอเอฟพีว่า หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในอุโมงค์แห่งหนึ่งออกมาได้ 12 คนเมื่อวานนี้ (7) แต่คาดว่าน่าจะยังมีอีก 25-30 คนที่ติดอยู่ในอุโมงค์แห่งที่ 2
    .
    เนื่องจากถนนสายหลักถูกตัดขาด ทีมกู้ภัยจึงต้องใช้วิธีปีนเชือกลงจากเนินเขาเพื่อลงไปถึงทางเข้าอุโมงค์
    .
    หน่วยกู้ภัยหลายร้อยคนเริ่มภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตกันตั้งแต่รุ่งสางวันนี้ (8) โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยตอบสนองภัยพิบัติแห่งชาติ รวมถึงนักประดาน้ำจากกองทัพบกและกองทัพเรืออินเดีย
    .
    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า เขื่อน 2 แห่งถูกปล่อยน้ำออกจนหมดเพื่อสกัดไม่ให้กระแสน้ำไหลไปถึงเมืองริชิเกช (Rishikesh) และหริทวาร (Haridwar) ซึ่งเป็นสองเมืองศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดู ขณะที่ประชาชนถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้แม่น้ำในช่วงเวลานี้
    .
    นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ตนกำลังเฝ้าติดตามปฏิบัติการกู้ภัยอย่างใกล้ชิด และย้ำว่า “อินเดียยืนหยัดอยู่ข้างรัฐอุตตราขัณฑ์ และประชาชนทั้งประเทศภาวนาให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย”
    .
    จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ธารน้ำแข็ง "นันทาเทวี" แตกในช่วงเวลานี้ของปี ซึ่งอากาศยังคงหนาวเหน็บและไม่มีฝนตก
    .
    ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2013 รัฐอุตตราขัณฑ์ซึ่งมีพรมแดนติดกับเนปาลและทิเบตเคยเผชิญฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่คร่าชีวิตประชาชนไปถึง 6,000 คน โดยหายนะครั้งนั้นได้รับสมญานามว่า “สึนามิหิมาลัย” เพราะมันปลดปล่อยกระแสน้ำโคลนที่เชี่ยวกรากจากบนภูเขา และซัดเอาบ้านเรือนและทรัพย์สินต่างๆ ที่อยู่เบื้องล่างพังพินาศยับเยิน
    .
    วิมเลนทู จา ผู้ก่อตั้งกลุ่มเอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อม Swechha ระบุว่า ภัยพิบัติครั้งนี้เป็นสิ่งย้ำเตือนให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงผลกระทบของปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และผลพวงจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน, ทางรถไฟ และโรงไฟฟ้า ในพื้นที่ซึ่งมีความเปราะบางทางระบบนิเวศ
    .
    ที่มา: CNN, เอเอฟพี, รอยเตอร์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พระพม่าวางบาตรร่วมชูธงประท้วงวันที่ 3 ผู้ชุมนุมเรียกร้อง จนท.รัฐหยุดงานทำอารยะขัดขืน
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ - ตำรวจยิงปืนฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมประท้วงในเมืองหลวงของพม่าวันนี้ (8) ในขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนทั่วประเทศเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงเป็นวันที่ 3 เพื่อต่อต้านการถอดถอนนางอองซานซูจี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของกองทัพ เมื่อสัปดาห์ก่อน
    .
    การเรียกร้องให้เข้าร่วมการประท้วงและสนับสนุนการรณรงค์การอารยะขัดขืนได้ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่เรียกเสียงประณามจากนานาชาติอย่างกว้างขวาง
    .
    “พวกเราเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำลังนำการรณรงค์นี้เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนเข้าร่วมขบวนการอารยะขัดขืน เราตั้งเป้าที่จะล้มระบอบทหารนี้ และเราต้องสู้เพื่อโชคชะตาของเรา” เอ มิซาน พยาบาลโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง กล่าวในที่ชุมนุมประท้วงในนครย่างกุ้ง
    .
    การประท้วงที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ “การปฏิวัติผ้าเหลือง” ภายใต้การนำของพระสงฆ์ในปี 2550 ที่ช่วยนำประเทศไปสู่การปฏิรูปประชาธิปไตย
    .
    ตำรวจในกรุงเนปีดอได้ยิงปืนฉีดน้ำเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงหลายพันคนที่รวมตัวกันในวันนี้
    .
    ส่วนในนครย่างกุ้ง กลุ่มพระสงฆ์ร่วมเดินขบวนประท้วงไปพร้อมกับคนงานและนักศึกษา ธงฉัพพรรณรังสี หรือธงศาสนาพุทธโบกสะบัดไปพร้อมกับป้ายสีแดง ที่เป็นสีของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของซูจี ที่ชนะการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. อย่างถล่มทลาย
    .
    ป้ายประท้วงในขบวนชุมนุมมีข้อความเขียนว่า “ปล่อยตัวผู้นำของเรา เคารพคะแนนเสียงของเรา ปฏิเสธรัฐประหาร” “เซฟประชาธิปไตย” และ “ไม่เอาเผด็จการ” เป็นต้น
    .
    ชาวพม่าหลายพันคนเดินขบวนประท้วงในเมืองทวาย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และที่เมืองเอกของรัฐกะฉิ่น ทางตอนเหนือสุดของประเทศ โดยผู้ชุมนุมสวมชุดดำทั้งชุดตั้งแต่ศีรษะจดเท้า
    .
    จนถึงขณะนี้การชุมนุมยังคงดำเนินไปอย่างสงบ ต่างจากการปราบปรามนองเลือดในการประท้วงเมื่อปี 2531 และปี 2550 แต่มีผู้พบเห็นขบวนรถบรรทุกทหารผ่านเข้ามาในย่างกุ้งเมื่อช่วงสายของวันอาทิตย์ ซึ่งเพิ่มความหวาดกลัวว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
    .
    อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อรัฐบาลทหารเพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงได้ และสถานีโทรทัศน์ของรัฐก็ไม่ได้กล่าวถึงพวกเขา
    .
    ทั้งนี้ รัฐบาลได้ยกเลิกการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในช่วงสุดสัปดาห์ ที่กระตุ้นให้ผู้คนไม่พอใจมากขึ้น เนื่องจากหวาดกลัวว่าประเทศจะกลับไปสู่การแยกตัวโดดเดี่ยวอย่างในอดีตอีกครั้ง ก่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยเริ่มขึ้นในปี 2554
    .
    นอกจากการชุมนุมประท้วงบนท้องถนน การรณรงค์การอารยะขัดขืนยังเริ่มต้นขึ้นเช่นกัน โดยเริ่มจากกลุ่มแพทย์ และมีครูอาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้าร่วม และเจ้าหน้าที่รัฐบางคน
    .
    “เราเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงานหยุดงานตั้งแต่วันจันทร์” มิน โก นาย นักเคลื่อนไหว ที่เคยผ่านการชุมนุมประท้วงปี 2531 กล่าว.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000012471

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บุคลากร รพ.ท่าขี้เหล็ก "อารยะขัดขืน" ไล่คนไข้ใหม่ให้ไปรักษาที่ รพ.ทหาร
    .
    .
    MGR Online - รพ.ท่าขี้เหล็กเข้าร่วมมาตรการ "อารยะขัดขืน" ต่อต้านการรัฐประหารด้วยการหยุดรับคนไข้ใหม่ตั้งแต่ 7 ก.พ. คนป่วยใหม่ให้ไปใช้บริการโรงพยาบาลทหารแทน
    .
    เริ่มมีเส้นบางๆ ระหว่างมาตรการ "อารยะขัดขืน" กับหน้าที่รับผิดชอบปรากฏขึ้นบนเส้นทางการต่อต้านรัฐประหารในพม่าแล้ว เมื่อโรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก ติดประกาศหยุดรับคนไข้ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
    .
    ประกาศดังกล่าวถูกเขียนติดไว้ที่หน้าโรงพยาบาล และมีการเผยแพร่เป็นข่าวผ่านสำนักข่าวท่าขี้เหล็ก (Tachileik News Agency) เมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) โดยเนื้อหาในประกาศระบุว่าเพื่อเข้าร่วมกับมาตรการ "อารยะขัดขืน" ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารที่กำลังมีการรณรงค์กันอยู่ทั่วประเทศ
    .
    เจ้าหน้าที่ทุกแผนกของโรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐขนาด 100 เตียง ได้เข้าร่วมความเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย โดยตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป โรงพยาบาลท่าขี้เหล็กจะหยุดรับคนไข้ใหม่ โดยยังคงให้บริการรักษาพยาบาลแก่คนไข้เดิมที่มีชื่ออยู่ในเวชระเบียนแล้วเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยใหม่ที่ต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาล ให้ไปใช้บริการยังโรงพยาบาลทหารแทน
    .
    นับแต่ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย นำกำลังทหารกองทัพพม่า เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรค NLD เมื่อเช้ามืดวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 บุคลากรการแพทย์ในพม่า เป็นกลุ่มวิชาชีพแรกๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำรัฐประหารครั้งนี้อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
    .
    เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศติดริบบิ้นดำ (ต่อมาภายหลังเปลี่ยนเป็นริบบิ้นแดง) แล้วออกมาชุมนุม ถือป้ายคัดค้าน แต่ยังไม่ถึงขั้นหยุดให้บริการ
    .
    เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ SAC (สภาบริหารแห่งรัฐ) ได้ออกประกาศว่า ในสถานการณ์ที่มีการอารยะขัดขืนทั่วประเทศนั้น หากประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลของรัฐ ให้ไปใช้บริการในโรงพยาบาลของทหารแทน
    .
    ทั้งนี้ โรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก ในรัฐชานภาคตะวันออก ที่อยู่ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นโรงพยาบาลแรกที่ได้ตอบสนองต่อประกาศของ SAC ฉบับนี้.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000012462

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผงะ!สิงคโปร์พลาดฉีดวัคซีนโควิดของไฟเซอร์เกินขนาด พอๆกับปริมาณ5โดส

    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของศูนย์จักษุแห่งชาติสิงคโปร์(SNEC) ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค เกินขนาด ในปริมาณเทียบเท่ากับ 5 โดส สืบเนื่องจากความผิดพลาดที่เกิดจากคน อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังสบายดี จากการเปิดเผยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติเมื่อวันเสาร์(6ก.พ.)

    ความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มกราคม ระหว่างที่ศูนย์จักษุแห่งชาติสิงคโปร์ ดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของศูนย์ "ความผิดพลาดถูกพบภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังการฉีดวัคซีน ตอนที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกำลังพักผ่อนอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดหลังการฉีดวัคซีน" SNEC ระบุในถ้อยแถลง "แพทย์ระดับอาวุโสรีบแจ้งเตือนในทันที และทำการประเมินเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และพบว่าเจ้าหน้าที่สบายดี ไม่มีอาการไม่พึงประสงค์หรือผลข้างเคียงใดๆ"

    ส่วนหนึ่งในมาตรการป้องกันไว้ก่อน เจ้าหน้าที่รายที่ถูกฉีดวัคซีนเกินขนาด ต้องเข้าพักในห้องผู่ป่วยของโรงพยาบาลสิงคโปร์ เจเนอรัล เพื่อสังเกตอาการ "อาการของเจ้าหน้าที่ทรงตัวอยู่ตลอด และเจ้าหน้าที่รายนี้ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในอีก 2 วันต่อมา เราคอยติดตามอาการของเจ้าหน้าที่รายนี้อย่างใกล้ชิด และเธอยังคงสบายดี"

    ปฏิบัติการฉีดวัคซีนที่ศูนย์จักษุแห่งชาติหยุดลงในทันที และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่เหลือต้องไปเข้ารับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลสิงคโปร์ เจเนอรัลแทน " SNEC ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มคนอื่นๆของสิงคโปร์"

    จากข้อมูลของ SNEC ผลการสืบสวนพบว่าการผิดพลาดที่เกิดจากคนครั้งนี้ มีต้นตอจากการสื่อสารผิดพลาดในหมู่คณะทำงานด้านฉีดวัคซีนในช่วงเวลาดังกล่าว "เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเจือจางวัคซีน ถูกเรียกไปดูเรื่องอื่นระหว่างเตรียมวัคซีน และเจ้าหน้าที่อีกคนเข้าใจผิดคิดว่าโดสที่ยังไม่เจือจางในขวดแก้ว พร้อมสำหรับฉีดแล้ว"

    ศูนย์จักษุแห่งชาติสิงคโปร์ได้ดำเนินการทบทวนกระบวนการภายในโดยละเอียด และใช้มาตรการต่างๆเพื่อรับประกันว่าความผิดพลาดดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก จากคำยืนยันของศาสตราจารย์ Wong Tien Yin ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ SNEC พร้อมขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ทางกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุข้อมูลการทดลองทางคลินิกจากไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค บ่งชี้ว่าการได้รับวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค มากกว่าคำแนะนำ ไม่น่าจะเป็นอันตรายใดๆ พร้อมระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ SNEC เป็นเหตุการณ์เดียว และไม่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้น ณ จุดฉีดวัคซีนอื่นๆ

    SNEC บอกว่าเจ้าหน้าที่ที่ฉีดวัคซีนเกินขนาดยังคงสบายดีและมีกำหนดเข้ารับวัคซีนโดสที่ 2 แต่ต้องรอผลตรวจภูมิคุ้มกันในเลือดก่อน

    สิงคโปร์เริ่มฉีดวัคซีนแก่บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศชุดแรกๆเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ในการทดลองกลุ่มเล็กๆที่ศูนย์โรคติดเชื้อแห่งชาติ จากนั้นวัคซีนจะถูกแจกจ่ายไปยังสถาบันการแพทย์อื่นๆและบรรดาแรงงานในภาคต่างๆ อาทิการบินและขนส่งทางบก และคาดหมายว่าจะมีความคืบหน้า ฉีดวัคซีนแก่บรรดาผู้สูงอายุทั่วสิงคโปร์ ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป

    (ที่มา:ชาแนลนิวส์เอเชีย)

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอาอยู่!จีนไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ2เดือน

    จีนรายงานไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมนุมเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน จากข้อมูลที่เผยแพร่ในวันจันทร์(8ก.พ.) พร้อมระบุเป็นสัญญาณว่าพวกเขาสามารถสยบการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดของโรคระบาดใหญ่ได้แล้ว

    จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันโดยรวมในวันอาทิตย์(7ก.พ.) อยู่ที่ 14 คน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 12 คนหนึ่งวันก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติระบุในถ้อยแถลง อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นเคสนำเชื้อเข้าจากต่างแดน ในนั้น 7 คนอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ส่วนที่เหลืออยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

    ตัวเลขของวันอาทิตย์(7ก.พ.) ถือเป็นครั้งแรกที่จีนมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนเป็นศูนย์นับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม บ่งชี้ว่ามาตรการเชิงรุกต่างๆนานาของเจ้าหน้าที่ สามารถสกัดการแพร่ระบาดไม่ให้ลุกลามออกไปจากกลุ่มก่อนหลักๆในมณฑลเหอเป่ย รอบนอกกรุงปักกิ่ง รวมถึงมณฑลเฮยหลงเจียงและมณฑลจี๋หลิน

    จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่แบบไม่แสดงอาการ ซึ่งจีนไม่จัดเป็นเคสยืนยัน เพิ่มขึ้นจาก 10 คนหนึ่งวันก่อนหน้านี้ เป็น 16 คน

    ทั้งนี้โดยรวมแล้ว ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของจีนแผ่นดินใหญ่ อยู่ที่ 89,706 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 4,636 คนตามเดิม

    (ที่มา:รอยเตอร์)

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดแสบ! เด็กอินเดีย 11 ขวบปลอมเป็น ‘แฮกเกอร์’ ส่งอีเมลขู่ฆ่าพ่อ-ไถเงิน 41 ล้าน
    .
    ชายชาวอินเดียเข้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกกลุ่มแฮกเกอร์เจาะข้อมูลส่วนตัวและขู่จะเอาชีวิตทั้งครอบครัว แต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อตำรวจไปพบว่าตัวการก็คือ “ลูกชาย” ของเหยื่อที่มีวัยเพียงแค่ 11 ขวบ
    .
    สื่อในอินเดียได้เผยแพร่เรื่องราวของ ราจีฟ กุมาร จากเมืองคอเซียบัด (Ghaziabad) โดยเขาไปแจ้งตำรวจว่าถูกกลุ่มแฮกเกอร์ปริศนาขู่จะทำร้ายครอบครัว
    .
    กุมาร เล่าว่า อีเมลส่วนตัวของเขาถูกแฮกเมื่อวันที่ 1 ม.ค. หลังจากนั้นก็ได้รับข้อความข่มขู่มาโดยตลอด โดยอาชญากรไซเบอร์ขู่ว่าจะปล่อย “ภาพลับ” ของ กุมาร ลงอินเทอร์เน็ต และจะตามสังหารทั้งครอบครัว หากไม่ยอมจ่ายเงิน 100 ล้านรูปี หรือประมาณ 41 ล้านบาท
    .
    ตอนแรกเขาก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ต่อมาแฮกเกอร์ถึงขั้นเข้าไปเปลี่ยนพาสเวิร์ดอีเมลและเบอร์โทรศัพท์มือถือของเขา และคนในครอบครัวก็พลอยถูกคุกคามไปด้วย ซึ่งทำให้ ราจีฟ กุมาร เริ่มจะเชื่อว่าเขากำลังถูกอาชญากรสะกดรอยดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา และด้วยความกลัวเขาจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ
    .
    อย่างไรก็ตาม ตัวตนของแฮกเกอร์จอมโหดรายนี้ถูกเปิดเผย เมื่อตำรวจพบว่าอีเมลคนร้ายถูกส่งมาจาก IP Address เดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ ซึ่งก็หมายความว่าอีเมลเหล่านี้ถูกส่งโดยคนในบ้านของเขาเอง
    .
    ตำรวจได้เรียกบุตรชายวัย 11 ขวบของ กุมาร ไปสอบปากคำ ซึ่งเด็กชายที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 ก็รับสารภาพว่าเป็นคนส่งอีเมลขู่พ่อ โดยเรียนรู้เทคนิคของพวกแฮกเกอร์จากคลิปใน YouTube และคิดว่าตนก็น่าจะทำได้เช่นกัน
    .
    ที่มา: odditycentral, indiatoday

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘พม่า’ เป็นหนี้ ‘จีน’ ลดลง 26% ในยุครัฐบาล ‘อองซานซูจี’
    .
    สายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจพม่า-จีนอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัดภายใต้การบริหารของรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ซึ่งนำโดย อองซานซูจี โดยสัดส่วนหนี้ค้างชำระ (outstanding debt) ที่พม่ามีต่อจีนลดลงถึง 26% สวนทางกับมูลค่าการค้าขายกับโลกตะวันตกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    .
    ภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ความร่วมมือระดับทวิภาคีกับชาติอื่นๆ จะยิ่งเป็นกลไกสำคัญที่รัฐบาลทหารพม่าใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวต่อไปข้างหน้า และหากสหรัฐฯ และยุโรปประกาศแซงก์ชั่น ก็คาดว่าจะทำให้ผู้นำทหารพม่าต้องหันหน้าพึ่งจีนมากยิ่งขึ้นไปอีก
    .
    จีนมองว่ากลุ่มประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ “อาเซียน” นั้นมีความสำคัญต่อโครงการแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative – BRI) ซึ่งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2013 โดยมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ทั้งในเอเชียและยุโรป
    .
    ตามข้อมูลจาก Refinitiv เงินทุนที่เชื่อมโยงกับ BRI ที่จีนมอบให้แก่ 10 ประเทศในอาเซียนตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีมูลค่าสูงถึง 304,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นราวๆ ครึ่งหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายประจำปีของอาเซียน โดย 3 ประเทศที่พึ่งพาจีนมากที่สุดได้แก่ พม่า, ลาว และกัมพูชา
    .
    อิทธิพลทางเศรษฐกิจที่จีนมีต่อพม่านั้นสังเกตเห็นได้ไม่ยาก ตัวอย่างเช่นที่ “นครย่างกุ้ง” ซึ่งมีกฎห้ามใช้รถจักรยานยนต์ ระประจำทางที่ชาวเมืองใช้สัญจรล้วนแต่ “เมด อิน ไชน่า” แทบทั้งสิ้น และแม้ว่าการค้ากับญี่ปุ่น, สหรัฐฯ และยุโรป จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่จีนยังคงเป็นประเทศคู่ค้าที่มีสัดส่วนการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังพม่ามากที่สุดถึงร้อยละ 30
    .
    อย่างไรก็ดี รัฐบาลพม่าทุกยุคทุกสมัยมีนโยบายรักษาระยะห่างกับจีนพอสมควร เพื่อป้องกันไม่ให้มหามิตรเพื่อนบ้านเข้ามาครอบงำเศรษฐกิจมากจนเกินไป
    .
    ข้อมูลจากธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ระบุว่า มูลค่าหนี้ค้างชำระ (outstanding debt) ที่พม่ามีต่อจีนอยู่ที่ราวๆ 3,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 ลดลง 26% จากตัวเลขปี 2015 หรือก่อนที่พรรคเอ็นแอลดีจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ซึ่งตรงกันข้ามกับลาวและกัมพูชาที่มีหนี้ค้างชำระจีนเพิ่มขึ้น 72% และ 34% ตามลำดับในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้จีนยังครองสัดส่วนหนี้ต่างประเทศ (external debt) ในพม่าลดลงจาก 45% ในปี 2015 เหลือเพียง 30% ในปี 2019
    .
    ทั้งนี้ หากมีการผิดนัดชำระหนี้ (default) พม่าก็มีความเสี่ยงที่จะติดกับดักหนี้สิน (debt trap) และอาจถึงขึ้นต้องยอมยกโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ให้กับจีน ซึ่งรัฐบาลพม่าตระหนักในข้อนี้ดี
    .
    ตัวอย่างของการปรับนโยบายเพื่อลดความเสี่ยงก็คือ โครงการท่าเรือน้ำลึกจอก์พยู (Kyauk Pyu) ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของพม่า ซึ่งถูกทบทวนงบประมาณค่าใช้จ่ายลดลงอย่างมาก โดยท่าเรือแห่งนี้จะเชื่อมต่อกับท่อส่งน้ำมันและท่อก๊าซธรรมชาติความยาว 870 กิโลเมตรไปยังมณฑลยูนนานของจีน และจะช่วยให้เรือสินค้าขนาดใหญ่สามารถขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเข้าไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้ โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา
    .
    เดิมทีโครงการนี้ถูกกำหนดงบประมาณเอาไว้ที่ 7,200 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะถูกปรับลดลงมาเหลือเพียง 1,300 ล้านดอลลาร์ในรัฐบาลของซูจี
    .
    อย่างไรก็ดี ความพยายามที่จะลดการพึ่งพาจีนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อพม่าถูกนานาชาติรุมประณามกรณีการกวาดล้างชาวมุสลิมโรฮิงญาเมื่อปี 2017 ซึ่งทำให้บริษัทตะวันตกเริ่มหันมาทบทวนแผนการลงทุน นอกจากนี้หากสหรัฐฯ และยุโรปประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่าเพื่อตอบโต้การรัฐประหาร ก็อาจทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติถึงขั้นหยุดชะงัก
    .
    ในกรณีที่พม่าถูกโดดเดี่ยว ฝ่ายบริหารกรุงเนปิดอว์คงหนีไม่พ้นที่จะต้องหันเข้าหาจีนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมานาน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่แน่ว่าพม่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการหรือไม่
    .
    “การตอบสนองต่อสถานการณ์ในพม่าขึ้นอยู่กับท่าทีของสหรัฐฯ ด้วย” แหล่งข่าวในพรรคคอมมิวนิสต์จีนบอกกับนิกเกอิ
    .
    รัฐบาลจีนกำลังพยายามเปิดเจรจากับประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และเมื่อวันอังคารที่แล้ว (2) หยาง เจียฉือ สมาชิกกรมการเมืองประจำคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และนักการทูตอาวุโส ก็ยอมรับว่า “ทั้งจีนและสหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูความสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์และคาดเดาได้”
    .
    ทั้งนี้ หากปักกิ่งเลือกที่จะตอบสนองการรัฐประหารในพม่าด้วยวิธี “รอดูสถานการณ์” ต่อไปเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าพม่าไม่เพียงเผชิญความเสี่ยงที่จะสูญเสียเม็ดเงินลงทุนจากสหรัฐฯ และยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงจีนด้วย
    .
    ที่มา: นิกเกอิ เอเชีย

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แอฟริกาใต้ระงับฉีดวัคซีน'แอสตราเซเนกา'หลังพบมีประสิทธิภาพด้อยลงกับตัวกลายพันธุ์

    แอฟริกาใต้ระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ในโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน หลังข้อมูลพบว่ามันมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการป่วยเล็กๆน้อยๆจนถึงปานกลาง สำหรับตัวกลายพันธุ์ที่่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศของพวกเขา

    ซเวลิ เอ็มกีเซ รัฐมนตรีสาธารณสุขของแอฟริกาใต้ระบุเมื่อวันอาทิตย์(7ก.พ.) ว่ารัฐบาลจะรอคำแนะนำจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ต่อแนวทางที่ดีที่สุดของการใช้วัคซีน หลังจากผลการทดลองพบว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา ไม่ได้ช่วยลดอย่างมีนัยสำคัญต่อการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ 501Y.V2 แบบมีอาการป่วยเล็กๆน้อยๆหรือปานกลาง ขณะที่ตัวกลายพันธุ์ดังกล่าวก่อการแพร่ระบาดระลอกสองในประเทศแห่งนี้ เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว

    ก่อนหน้าที่ตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า จะแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง วัคซีนมีประสิทธิภาพอยู่ที่ราวๆ 75% จากการเปิดเผยของคณะนักวิจัย

    อย่างไรก็ตามในการวิเคราะห์ในเวลาต่อมา ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของบรรดาผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ พบว่ามีเพียง 22% ที่มีความเสี่ยงระดับต่ำต่อการติดเชื้อโควิด-19 แบบอาการเล็กๆน้อยๆหรือปานกลาง เมื่อเทียบกับกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับยาหลอก

    แม้บรรดานักวิจัยบอกว่าตัวเลขดังกล่าวไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ สืบเนื่องจากการออกแบบการทดลอง แต่มันก็ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอย่างน้อย 50% ที่บรรดาคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบกำหนดไว้สำหรับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่อต้านไวรัส

    ทั้งนี้ผลการทดสอบดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้ถึงประสิทธิภาพที่มีต่อผู้ป่วยอาการหนักหรือผู้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากอาสาสมัครที่เข้ารับการทดสอบ เป็นคนหนุ่มสาวที่สุขภาพแข็งแรง

    ทางแอสตราเซเนกา ยังคงเชื่อมั่นว่าวัคซีนจะป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการรุนแรง เนื่องจากวัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายเทียบเท่ากับวัคซีนตัวอื่น ๆ และเผยว่าพวกเขาได้เริ่มปรับแต่งวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ 501Y.V2 แล้ว และการพัฒนาทางคลินิกก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะพร้อมใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    แอฟริกาใต้หวังฉีดวัคซีนประชาชน 40 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของจำนวนประชากร เพื่อบรรลุเป้าหมายภูมิคุ้มกันหมู่ในบางระดับ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มฉีดแม้แต่โดสเดียว

    เดิมทีพวกเขาหวังว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาแก่บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากในวันจันทร์(8ก.พ.) จะได้รับวัคซีน 1 ล้านโดสที่ผลิตโดยสถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย (SII) แต่ด้วยเหตุนี้ แอฟริกาใต้ จะเลือกฉีดวัคซีนที่พัฒนาโดยจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค แห่บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแทน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    "สิ่งนี้มีความหมายอย่างไรกับโครงการวัคซีนของเรา ที่เราบอกว่าจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์? คำตอบคือมันจะเดินหน้าต่อไป" เอ็มกีเซ กล่าว "ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ถึง 4 สัปดาห์ข้างหน้า เราคาดหมายว่าจะมีวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะมีวัคซีนของไฟเซอร์"

    ศาสตราจารย์ซาลิม อัลดูล คาริม นักระบาดวิทยาซึ่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล บอกว่ามีความจำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่ในการสร้างภูมิคุ้มกัน อันเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในปัจจุบันที่มีต่อตัวกลายพันธุ์ 501Y.V2

    เขาแนะนำว่าวัคซีนโดสแรกควรใช้กับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อประเมินอัตราผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งหากว่ามันพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ก็จะได้มีการฉีดอย่างกว้างขวางต่อไป

    แต่หากว่ามันไม่มีประสิทธิภาพลดผู้ติดเชื้อที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ติดเชื้อนั้นๆควรได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอีกโดส ทั้งวัคซีนกระตุ้นบนพื้นฐานของตัวกลายพันธุ์ หรือไม่ก็เป็นวัคซีนตัวอื่นไปเลย อัลดูล คาริมกล่าว

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอาถึงตาย!พยายามลอบฆ่าประธานาธิบดีเฮติ รัฐประหารยึดอำนาจ แต่ถูกสกัดได้ก่อน

    เจ้าหน้าที่เฮติเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์(7ก.พ.) ว่าพวกเขาสามารถสกัดความพยายามลอบฆาตกรรมประธานาธิบดี'โจเวเนล มอยส์ และโค่นล้มรัฐบาล ท่ามกลางความเดือดดาลในประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของผู้นำรายนี้

    ร็อคเฟลเลอร์ วินเซนต์ รัฐมนตรียุติธรรมระบุว่าแผนการดังกล่าวคือ "ความพยายามรัฐประหาร" และทางเจ้าหน้าที่เผยว่ามีอย่างน้อย 23 คนถูกจับกุม ในนั้นรวมถึงผู้พิพากษาระดับสูงคนหนึ่งและเจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    "ผมขอขอบคุณหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของทำเนียบฯ เป้าหมายของคนเหล่านี้คือพยายามเอาชีวิตผม" มอยส์กล่าว "แผนถูกละทิ้ง" เขากล่าว ให้สมภาษณ์กับผูุ้สื่อข่าวบนลานสนามบินปอร์โตแปรงซ์ เคียงข้างด้วยภรรยา และนายกรัฐมนตรีโจเซฟ จูธ

    จูธ บอกว่าพวกวางแผนได้ติดต่อกับเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งมีแผนจับกุม มอยส์ และจากนั้นก็จะแต่งตั้งประธานาธิบดี "เปลี่ยนผ่าน"

    มอยส์ ปกครองประเทศโดยปราศจากการตรวจสอบอำนาจใดๆในขวบปีที่ผ่านมา และบอกว่าเขาจะยังคงทำหน้าที่ประธานาธิบดีต่อไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2022 การตีความรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย กระตุ้นให้ฝ่ายค้านเป็นแกนนำการชุมนุมที่เชื่อว่าวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีรายนี้สิ้นสุดลงไปแล้วในวันอาทิตย์

    ลีออน ชาร์ลส์ ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจแห่งชาติเฮติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ยึดเอกสาร เงินสดและอาวุธต่างๆได้มากมาย ในนั้นรวมถึงปืนไรเฟิล ปืนกลเบา ปืนสั้นและมีดขนาดใหญ่

    จูธ บอกว่าในบรรดาเอกสารที่ยึดมาได้นั้น มีคำปราศรัยของผู้พิพากษา ผู้ที่มีแผนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำรักษาการในรัฐบาลชุดเปลี่ยนผ่าน

    สหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(5ก.พ.) ยอมรับคำกล่าวอ้างอยู่ในอำนาจของประธานาธิบดี โดย เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศบอกว่าวอชิงตันขอเรียกร้อง "การเลือกตั้งทั่วไปที่อิสระและยุติธรรม เพื่อรัฐสภาจะสามารถกลับมามีบทบาทโดยชอบธรรมอีกครั้ง"

    ข้อถกเถียงเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี มีต้นตอจากศึกเลือกตั้ง 2015 โดยเขาได้รับคะแนนโหวตให้ก้าวเข้าสู่อำนาจในศึกเลือกตั้ง ที่ต่อมาถูกยกเลิกเนื่องจากคำกล่าวหาโกงการเลือกตั้ง แต่จากนั้นในปีถัดมาปี 2016 เขาก็ได้รับเลือกอีกครั้ง

    ตามหลังการเลือกตั้งที่เกิดข้อพิพาทหนหลังสุด การประท้วงเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งทวีความหนักหน่วงขึ้นในช่วงฤดูร้อนปี 2018

    ศึกเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร, วุฒิสภา, นายกเทศมนตรีและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ควรจัดขึ้นในปี 2018 แต่ศึกเลือกตั้งต่างๆเหล่านั้นถูกเลื่อน ก่อให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เอง มอยส์ อ้างว่าเขาควรได้สิทธิ์อยู่ในตำแหน่งต่อไปอีกปี

    (ที่มา:เอเอฟพี)

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพระทึก!ธารน้ำแข็งถล่มชนเขื่อนแตกในอินเดีย ไหลบ่ากวาดทุกอย่างที่ขวางหน้า(ชมคลิป)

    มีประชาชนชาว 125 คนสูญหาย ทางเหนือของอินเดีย หลังธารน้ำแข็งหิมาลัยแตกและซัดถล่มเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กแห่งหนึ่งจนพังเมื่อวันอาทิตย์(7ก.พ.) ก่อกระแสน้ำเชี่ยวกรากขนาดมหึมาไหลตามทางน้ำ ส่งผลให้ประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆที่อยู่ปลายน้ำต้องอพยพหนีตาย

    ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเปิดเผยผว่ากระแสคลื่นน้ำ หินและดิน ไหลบ่าซัดถล่มเชื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ หลังจากธารน้ำแข็งหิมาลัยเกิดแตกออกและไหลทะลักลงไปตามแถบหุบเขาริชิกังกา ในแถบเทือกเขาของรัฐอุตตราขัณฑ์

    "มันมาเร็วมาก ไม่มีเวลาแจ้งเตือนทุกคน" ซันเจย์ ซิงห์ รานา ซึ่งพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไรนี บริเวณต้นแม่น้ำ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สทางโทรศัพท์ "ผมรู้สึกถึงขั้นว่าเราอาจถูกน้ำซัดไปด้วย"

    ตรีเวนดรา ซิงห์ ราวัต มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ เผยว่ามีประชาชน 125 คนสูญหาย แต่จำนวนอาจเพิ่มกว่านี้ และจนถึงตอนนี้เก็บกู้ร่างไร้วิญญาณได้แล้ว 7 ศพ

    ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นห่างจากกรุงนิวเดลี ไปทางเหนือราว 500 กิโลเมตร

    ก่อนหน้านี้ โอม ประกาส เลขานุการมุขมนตรีรัฐ แสดงความกังวลว่าอาจมีชาวบ้านเสียชีวิตราว 100 ถึง 150 คน โดยในบรรดาผู้สูญเสียนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 13.2 MW ริชิกังกา ซึ่งถูกธารน้ำแข็งที่แตกออกมาซัดถล่มจนพัง

    ภาพที่แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์โดยชาวบ้านท้องถิ่น พบเห็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากซัดถล่มเขื่อนริชิกังกาจนแตก และกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทาง และมีแกะอย่างน้อยๆ 180 ตัวถูกซัดหายไปกับกระแสน้ำ

    นอกจากนี้แล้ววิดโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งทางรอยเตอร์สยังไม่ยืนยันว่าเป็นของจริงหรือไม่ พบเห็นกระแสน้ำกำลังถาโถมผ่านที่ตั้งของเขื่อนขนาดเล็ก ซัดอุปกรณ์ก่อสร้างลอยหายไป

    กระทรวงเพื่อมาตุภูมิแห่งรัฐบาลกลางอินเดีย เปิดเผยหลังจากประชุมคณะกรรมการวิกฤตแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยบรรดาเจ้าหน้าที่ระดัยสูง ว่ามีประชาชน 12 คนติดอยู่ในอุโมงค์แห่งหนึ่ง แต่ได้รับความช่วยเหลือออกมาแล้ว และยังคงเดินหน้าพยายามช่วยเหลือคนอื่นๆที่ติดในอุโมงค์อีกแห่ง

    "อินเดียยืนหยัดอยู่ข้างอุตตราขัณฑ์ และประชาชนทั้งประเทศภาวนาให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย" นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เขียนบนทวิตเตอร์

    NTPC รัฐวิสาหกิจสาธารณูปโภค บอกว่าเหตุธารน้ำแข็งถล่มก่อความเสียหายบางส่วนแก่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Tapovan Vishnugad ของพวกเขา ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและด้านล่างของแม่น้ำ ทั้งนี้ NTPC ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ โดยเพียงแต่บอกว่าจะคอยจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

    เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพหลายลำบินวนอยู่เหนือพื้นที่เกิดเหตุ และทหารถูกส่งเข้าประจำการเพื่อช่วยเหลือภารกิจบรรเทาภัยและกู้ภัย ในขณะที่รัฐอุตตรประเทศ ซึ่งอยู่ติดกันและเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของอินเดีย ประกาศเตือนภัยขั้นสูงตามพื้นที่ต่างๆริมแม่น้ำ

    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นตัวจุดชนวนธารน้ำแข็งถล่ม เนื่องจากมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ฤดูอุทกภัย หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน 2013 ฝนตกหนักเป็นสถิติในรัฐอุตตราขัณฑ์ เคยก่ออุทกภัยเลวร้าย คร่าชีวิตชาวบ้านเกือบ 6,000 คน

    หายนะครั้งนั้นได้รับสมญานามว่า "สึนามิหิมาลัย" เพราะว่ามันปลดปล่อยกระแสน้ำเชี่ยวกรากในพื้นที่ภูเขา ซัดพาเอาโคลนและกินบดขยี้สิ่งต่างๆที่อยู่ตามเส้นทางเบื้องล่าง ฝังบ้านเรือนหลายหลังจมอยู่ใต้โคลน ซัดถนนและสะพานขาด อาคารหลายแห่งลอยไปตามกระแสน้ำ

    อุมา ภารตี อดีตรัฐมนตรีทรัพยากรน้ำของอินเดียและแกนนำระดับสูงในพรรคของโมดี วิพากษ์วิจารณ์การก่อสร้างโครงการพลังงานน้ำในพื้นที่ "ตอนที่ฉันเป็นรัฐมนตรี ฉันเคยร้องขอว่าหิมาลัยเป็นพื้นที่อ่อนไหว ดังนั้นโครงการพลังงานต่างๆไม่ควรสร้างบนแม่น้ำคงคมและแม่น้ำสาขาอื่นๆ" เธอเขียนบนทวิตเตอร์

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

    ชมคลิปที่นี่: https://mgronline.com/around/detail/9640000012353

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวพม่าเรือนแสนในหลายเมืองของพม่าชุมนุมต้านประหาร เรียกร้องปล่อย ‘ซูจี’ ต่อเนื่องวันที่ 2 ตกค่ำกระจายตัวนัดรวมกันใหม่พรุ่งนี้

    ประชาชนหลายหมื่นคนในหลายเมืองใหญ่ของพม่าออกไปชุมนุมต่อต้านกองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจทั่วประเทศเป็นวันที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ (7 ก.พ.) พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวอองซานซูจี นับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดหลังจากการประท้วงที่ริเริ่มโดยพระภิกษุเมื่อปี 2007 ขณะที่ผู้แทนพิเศษยูเอ็นจวกเหล่านายพลพม่ากำลังพยายามทำให้การเคลื่อนไหวต่อต้านของพลเมืองเป็นอัมพาต รวมทั้งปิดหูปิดตาโลกภายนอก ด้วยการปิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า บริษัทมือถือบางค่ายเริ่มให้บริการอินเทอร์เน็ตได้แล้วเมื่อบ่ายวันอาทิตย์

    ประชาชนในย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าและเมืองใหญ่สุดของพม่า พากันสวมเสื้อแดง โบกธงแดง และถือลูกโป่งสีแดงซึ่งเป็นสีของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจี ออกมาชุมนุมกันอย่างกว้างขวางในเมืองนี้ติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันอาทิตย์

    ฝูงชนจากทั่วเมืองย่างกุ้ง รวมตัวกันเดินขบวนไปยังมหาเจดีย์ซูเล่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นจุดชุมนุมสำคัญระหว่างการประท้วงที่นำโดยพระสงฆ์ในปี 2007 และการประท้วงอีกหลายครั้งย้อนหลังไปในปี 1988

    ผู้ชุมนุมชูสามนิ้วที่กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ คนขับรถหลายคนบีบแตร และผู้โดยสารชูรูปซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ วัย 75 ปี

    พวกผู้ประท้วงในย่างกุ้งเริ่มแยกย้ายกันกลับเมื่อถึงเวลาค่ำคืน ภายหลังประกาศว่าพวกเขาจะกลับลงสู่ท้องถนนกันใหม่ในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ (8) ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าพวกเขายังจะดำนินการต่อต้านการรัฐประหารของฝ่ายทหารต่อไปไม่เลิกรา

    นอกจากนั้นพวกเขายังเรียกร้องให้ข้าราชการพลเรือนทั้งหลาย ตลอดจนผู้คนที่เป็นลูกจ้างพนักงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้นัดหยุดงานและเข้าร่วมการประท้วง

    ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยบันทึกภายในของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ประเมินว่า ในกรุงเนปิดอก็มีผู้ชุมนุมราว 1,000 คน ส่วนที่ย่างกุ้งมี 60,000 คน อย่างไรก็ดี มีบางคนประเมินจำนวนผู้ประท้วงในย่างกุ้งว่า สูงถึง 100,000 คน

    นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า มีการประท้วงขนาดใหญ่เกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ ในจำนวนนี้รวมถึงมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ซึ่งข่าวระบุว่ามีผู้ออกมารร่วมประท้วงกันหลายหมื่นคน การชุมนุมคราวนี้ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ ต่างจากในปี 1998 และ 2007 ที่รัฐบาลทหารพม่าออกมาปราบปรามและเกิดการนองเลือด

    อย่างไรก็ดี มีเสียงปืนดังขึ้นในเมืองเมียวดี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของพม่า รายงานระบุว่า ตำรวจพร้อมอาวุธปืนเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนซึ่งมีการไลฟ์สดการชุมนุม แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    การชุมนุมประท้วงที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันเสาร์ (6) เกิดขึ้นทั้งที่ประชาชนทั่วพม่ายังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เช่นเดียวกับตอนที่ทหารเข้าจับกุมซูจีและผู้นำพลเรือนคนอื่นๆ เมื่อวันจันทร์ และประกาศรัฐประหารที่ส่งผลให้เส้นทางสู่ประชาธิปไตยของประเทศแห่งนี้หยุดชะงัก และนานาชาติพากันประณามกองทัพพม่า

    ทว่า ต่อมา เน็ตบล็อกส์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามการให้บริการอินเทอร์เน็ต เผยว่า เครือข่ายมือถือบางแห่งกลับมาให้บริการอินเทอร์เน็ตได้แล้วเป็นบางส่วนเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังถูกบล็อกอยู่ และไม่มีความชัดเจนว่า อินเทอร์เน็ตจะใช้ได้นานแค่ไหน

    ขณะเดียวกัน มีวิดีโอไลฟ์สดออกมาเฟซบุ๊ก ถ่ายทอดการชุมนุมเดินขบวนประท้วงจากเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งในพม่า ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในเฉพาะหน้านี้ว่า พวกเขาสามารถเล็ดรอดการบล็อกอินเทอร์เน็ตได้ด้วยวิธีไหน

    อนึ่ง วันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีทั้งอินเทอร์เน็ตและข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับชะตากรรมของซูจีและคณะรัฐมนตรี ได้เกิดกระแสข่าวลือว่า ทหารปล่อยตัวซูจีแล้ว ทำให้ฝูงชนพากันออกไปฉลอง ก่อนที่ทนายความส่วนตัวจะออกมาแถลงว่า ตำรวจจะควบคุมตัวซูจีจนถึงวันที่ 15 เพื่อสอบสวนตามข้อกล่าวหาลักลอบนำเข้าวิทยุสื่อสาร 6 เครื่อง และเสริมว่า แม้แต่ตนเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมซูจี

    ทั้งนี้ มิน อ่อง หลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้นำการรัฐประหารโดยอ้างว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่พรรคของซูจีชนะถล่มทลายนั้นมีการโกงเลือกตั้ง ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

    วันอาทิตย์ โทมัส แอนดรูว์ ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นที่จัดทำรายงานเกี่ยวกับพม่าออกแถลงการณ์ว่า นับจากที่ทหารเข้ายึดอำนาจ มีผู้ถูกจับกุมกว่า 160 คน และขณะนี้บรรดานายทหารใหญ่กำลังพยายามทำให้การเคลื่อนไหวต่อต้านของพลเมืองเป็นอัมพาต รวมทั้งปิดหูปิดตาโลกภายนอก ด้วยการปิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยสิ้นเชิง

    แอนดรูว์ยังเรียกร้องให้นานาชาติยืนหยัดเคียงข้างชาวพม่าในช่วงเวลาอันตรายนี้ ขณะที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นในพม่า เรียกร้องให้กองทัพรับประกันสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบและละเว้นการปราบปรามผู้ประท้วง

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อเมริกา-จีนหารือสำคัญหนแรกในยุคไบเดน วอชิงตันแตะปัญหาคิดต่างทั้งเรื่อง ‘ไต้หวัน-ฮ่องกง-อุยกูร์’ ปักกิ่งโต้เป็นกิจการภายใน-คนนอกอย่ายุ่ง

    นักการทูตระดับท็อปของสหรัฐฯและจีนพูดจาปราศรัยกันเมื่อวันเสาร์ (6 ก.พ.) ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครั้งสำคัญระหว่างกันครั้งแรกของประเทศทั้งสอง นับแต่ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขึ้นครองอำนาจในอเมริกา โดยมีรายงานว่าการหารือได้แตะต้องประเด็นสำคัญยิ่งยวดหลายๆ ประการซึ่งสร้างความตึงเครียดให้แก่สายสัมพันธ์ของทั้งคู่

    รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ของสหรัฐฯ พยายามกดดันปักกิ่งเรื่องการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ในซินเจียง ตลอดจนประเด็นเรื่องทิเบต ฮ่องกง รวมถึงไต้หวัน ขณะที่หยาง เจียฉี ผู้ทรงอำนาจสูงสุดด้านนโยบายการต่างประเทศของจีนในเวลานี้ ตอบโต้ว่า ประเด็นทั้งหมดเหล่านั้นเป็นกิจการภายในที่จีนจะไม่ยอมให้คนนอกแทรกแซง ซ้ำเรียกร้องวอชิงตันแก้ไขข้อผิดพลาดที่ก่อไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเคารพหลักการ “จีนเดียว” ทั้งนี้ปัจจุบัน หยาง เป็นสมาชิกของกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นทั้งมนตรีแห่งรัฐผู้กุมนโยบายการต่างประเทศ และรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน

    บลิงเคน ทวิตว่า ได้กล่าวกับหยาง อย่างตรงไปตรงมาว่า อเมริกาจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ยืนหยัดสนับสนุนค่านิยมด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ซึ่งรวมถึงในซินเจียง ทิเบต และฮ่องกง ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์เมื่อคืนวันศุกร์ (5) ตามเวลาวอชิงตัน หรือเช้าวันเสาร์ตามเวลาปักกิ่ง

    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังกดดันให้จีนร่วมกับนานาชาติประณามการรัฐประหารในพม่า และระบุว่า จะร่วมมือกับชาติพันธมิตรเพื่อให้จีนรับผิดชอบต่อความพยายามคุกคามเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งการบ่อนทำลายระบบระเบียบที่อิงกับกฎระหว่างประเทศ

    ก่อนหน้านี้ ระหว่างการแถลงที่วุฒิสภาซึ่งกำลังพิจารณาให้การรับรองเขาเข้าดำรงตำแหน่ง บลิงเคนได้เคยประกาศว่า จะสานต่อแนวทางแข็งกร้าวต่อจีนของอดีตประธาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    อย่างไรก็ตาม ตัวไบเดนเองกลับยื่นข้อเสนอประนีประนอมระหว่างการแถลงนโยบายการต่างประเทศเมื่อวันพฤหัสฯ (4) โดยกล่าวว่า แม้เผชิญหน้ากับจีน แต่อเมริกาก็พร้อมร่วมมือกับปักกิ่งหากเป็นผลประโยชน์ของชาติ ขณะที่บลิงเคนเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นที่วอชิงตันและปักกิ่งในฐานะสองประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถร่วมมือกันได้

    ทางด้านหยางระบุว่า ความสัมพันธ์จีน-อเมริกามาถึงทางแยกสำคัญ และยืนยันว่า นโยบายของรัฐบาลจีนต่อสหรัฐฯ มุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพและความต่อเนื่องมาโดยตลอด

    อย่างไรก็ดี หยางเตือนว่า ฮ่องกง ซินเจียง และทิเบตเป็นกิจการภายในของจีน และจีนจะไม่ยอมให้ภายนอกเข้ามาก้าวก่ายแทรกแซง พร้อมเรียกร้องให้อเมริกาแก้ไขข้อผิดพลาดที่ก่อขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และร่วมมือกับจีนเพื่อรักษาจิตวิญญาณของการปราศจากความขัดแย้งและการเผชิญหน้า รวมทั้งเคารพกันและกัน และร่วมมือกันในรูปแบบที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ผลประโยชน์ จัดการความคิดเห็นที่แตกต่าง และส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันที่เข้มแข็งและมีเสถียรภาพ

    หยางยังเรียกร้องให้วอชิงตันต้องยึดถือนโยบายจีนเดียว ซึ่งปักกิ่งถือว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่ไม่อาจแยกออกไปได้ของตน และสำทับว่า ไต้หวันเป็นประเด็นสำคัญและอ่อนไหวที่สุดในความสัมพันธ์จีน-อเมริกา

    ในส่วนพม่านั้น หยางย้ำว่า นานาชาติควรสร้างสภาพแวดล้อมภายนอกที่ดีเพื่อให้มีการสะสางปัญหาในประเทศดังกล่าวอย่างเหมาะสม

    จีนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพม่ามายาวนาน และเป็นประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุด ซึ่งเข้าไปลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในด้านทรัพยากรธรรมชาติและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ

    ทั้งนี้ หลังจากกองทัพพม่าเข้าควบคุมตัวอองซานซูจี และผู้นำพลเรือนคนอื่นๆ พร้อมประกาศยึดอำนาจเมื่อวันจันทร์ (1) สื่อของทางการจีนแสดงความเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียง “การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่” เท่านั้น

    จุดยืนของปักกิ่งในเรื่องนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคณะบริหารของไบเดนที่ประณามการรัฐประหารและขู่แซงก์ชันหากกองทัพพม่าไม่คืนอำนาจให้ผู้ชนะการเลือกตั้ง

    อย่างไรก็ตาม ระหว่างกล่าวกับคณะกรรมาธิการแห่งชาติว่าด้วยความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว หยางยอมรับว่า สองชาติมีมุมมองที่แตกต่าง แต่สิ่งสำคัญคือการควบคุมอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งเหล่านั้นแทรกแซงขัดขวางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพหาดูยาก!ไฟไหม้ป่าน้ำแข็งในรัสเซีย ท่ามกลางอุณหภูมิ-50องศาเซลเซียส(ชมคลิป)

    สื่อมวลชนท้องถิ่นเผยแพร่ภาพหาดูยาก ไฟป่ากำลังกระพือใกล้หมู่บ้านซายดี เขตทอมปอนสกี เมืองยาคุตสค์ สาธารณรัฐซาคา (ยาคูเตีย) ประเทศรัสเซีย ท่ามกลางอุณหภูมิเย็นสุดขั้ว

    หนังสือพิมพ์ไซบีเรียไทม์สรายงานว่าเปลวเผชิญยังคงโหมกระพือ แม้มันอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิเย็นสุดขั้วราวๆ -50 องศาเซลเซียส ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนอย่างรวดเร็วของสภาพภูมิอากาศโลก

    "ไฟลุกไหม้ใกล้พื้นที่ที่เกิดไฟป่าเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว" คำกล่าวของนายอีวาน ซาคารอฟ ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้บันทึกภาพ "พื้นที่นี้เคยประสบกับสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งอย่างรุนแรง มันมีความเป็นไปได้ทั้งไฟลุกไหม้ป่าพรุเอง หรือไฟอาจลุกจากถ่านหินใต้พื้นดิน ตามที่พวกนักล่าสัตว์บางส่วนสันนิษฐาน"

    เหตุการณ์หาดูยากนี้เกิดขึ้นท่ามกลางไฟป่ารุนแรงที่เกิดขึ้นหลายจุดทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่ไฟป่าแคลิฟอร์เนียไปจนถึงไฟป่าเยอรมนี ซึ่งถูกโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกเช่นกัน

    ทั้งนี้ทางเหนือของไซบีเรีย ยังคงเกิดไฟป่าลุกไหม้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2020 ขณะที่ฤดูร้อนปีที่แล้ว สาธารณรัฐซาคา ดินแดนที่หนาวและใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ถูกเล่นงานด้วยไฟป่าร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

    การไหม้ในป่าพรุนี้ไม่ธรรมดา ด้วยความที่ผืนดินของไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเป็นน้ำแข็งตลอดกาล หรือมีชั้นดินเยือกแข็งคงตัว(Permafrost) ที่ประกอบไปด้วยชั้นของวัตถุต่าง ๆ อย่างชั้นของวัตถุอินทรีย์เช่น พืช และสัตว์แช่แข็งจากยุคดึกดำบรรพ์อยู่ ชั้นดินพวกนี้จึงเป็นเชื้อเพลิงที่รอการเผาไหม้เป็นอย่างดี

    นอกจากนี้แล้วยังมีคนบันทึกภาพเหตุไฟป่าครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่จากอีกจุดหนึ่งขึ้นไปทางเหนือของหมู่บ้านซานดี ใกล้กับหมู่บ้านอูดาร์นิก ซึ่งเคยเผชิญกับไฟป่าในช่วงฤดูร้อนปี 2020 เช่นกัน

    "ไฟกำลังลุกไหม้ในพื้นที่ใกล้กับหมุ่บ้านอูดาร์นิก ไฟฤดูร้อนยังคงลุกไหม้ไม่หยุด" ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น

    (ที่มา:ไซบีเรียไทม์ส)

    ชมคลิปที่นี่ : https://mgronline.com/around/detail/9640000012408

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    7 ก.พ.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) เป็นแนวคิดที่มาจากพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางเวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ แต่ใช้ในกรณีที่บางประเทศเกิดโรคระบาด ผู้ใดที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วต้องการจะเดินทางไปประเทศอื่น จะต้องมีหนังสือรับรอง
    .
    เหมือนเช่นกรณีของประเทศที่มีไข้เหลืองระบาด ที่จะต้องมี “หนังสือปกเหลือง” เวลาจะเดินทางไปประเทศอื่น ซึ่งโรคไข้เหลืองเป็นโรคชนิดหนึ่งคล้ายกับไข้เลือดออก แต่เกิดจากเชื้อไวรัส พบระบาดในแถบอเมริกาใต้ และแอฟริกาใต้ โดยมียุงลายเป็นพาหะ องค์การอนามัยโลกระบุว่า ถ้าใครที่มาจากประเทศที่มีไข้เหลืองเยอะ ถ้าจะเดินทางไปประเทศอื่นต้องมีหนังสือปกเหลือง ถึงจะเข้าประเทศนั้นได้ เป็นกติกาสากลเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการนำเชื้อไปแพร่ในประเทศอื่น
    .
    เช่นเดียวกับกรณีโควิด-19 ถือเป็นโรคติดต่ออันตราย สามารถติดต่อจากการเดินทางข้ามประเทศได้ เพราะฉะนั้นในขณะนี้สิ่งที่เราใช้ในการป้องกันจากการติดเชื้อจากประเทศต่าง ๆคือใครเดินทางเข้ามาในประเทศจะต้องกักตัว 14 วัน จนพ้นระยะฟักตัวของโรคจึงสามารถเข้าสู่ประเทศได้
    .
    “ดังนั้นจึงมีคำถามว่า ถ้าเราใช้แบบกรณีไข้เหลือง คือผู้ใดฉีดวัคซีนโควิดแล้วเข้าสู่ประเทศไทยได้ไหม ในกรณีนี้จะพิจารณาว่าถ้าฉีดแล้วมั่นใจว่าวัคซีนป้องกันการติดเชื้อได้ 100% ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ปัจจุบันวัคซีนโควิดเป็นวัคซีนที่ยังวิจัยไม่เสร็จ แต่เชื่อว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้พอสมควร หลายประเทศรวมถึงไทยอนุญาตให้ฉีดวัคซีนได้ แต่ถามว่าฉีดแล้วป้องกันได้ 100% ไหมยังไม่ถึงขนาดนั้น ยังไม่มีใครทราบ
    .
    คำถามต่อมาคือ แล้วทั่วโลกจะจัดการกับคนที่ฉีดวัคซีนแล้วคิดว่าปลอดภัยได้อย่างไร หากอยากจะเดินทางข้ามประเทศ ก็ขึ้นอยู่กับกติกาของกฏอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 ขององค์การอนามัยโลก เราก็ได้มีข้อเสนอแนะ หรือซักถามไปที่องค์การอนามัยโลกแล้วว่า ในเรื่องของการใช้ “วัคซีนพาสปอร์ต” ควรจะเอามาตรการฉีดวัคซีนโควิดมาเพื่ออนุญาตให้คนเข้าประเทศได้หรือไม่ องค์การอนามัยโลกก็แนะนำว่ายังไม่ควรกำหนด ควรมีเอกสารรับรองวัคซีนก่อน เนื่องจากขณะนี้ หลักฐานข้อมูลต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอจะมาสรุปได้ว่า คนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะไม่แพร่โรคให้คนอื่น หรือฉีดไปแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน ฉีดไปแล้วต้องฉีดซ้ำอีกกี่เข็ม เป็นต้น”
    .
    นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นในหลักการอนาคตก็เห็นตรงกันว่าถ้าวัคซีนมีประสิทธิภาพดีพอ หรือมีการใช้มากขึ้น การนำวัคซีนพาสปอร์ตมาใช้จึงเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ก็มีแนวโน้มที่ดี เพราะเริ่มมีข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิดออกมาเรื่อย ๆ ว่ามีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ดี ดังนั้นวัคซีนพาสปอร์ตก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ และอาจเป็นไปได้ในอนาคต มาเป็นข้อกำหนดสำหรับเดินทาง
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/92287
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    7 ก.พ. 2564พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่สังคมออนไลน์แชร์ภาพแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยระบุว่า เป็น การขายสลากราคา 80 บาท และ ค่าบริการ 10-20 บาท ว่า กองสลากฯ ถือว่าการขายในลักษณะนี้ ผิดเงื่อนไข ไม่สามารถทำได้ และเป็นการขายเกินราคา ซึ้งต้องถามว่า ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น คือค่าบริการอะไร เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งในการขายเกินราคา แต่เป็นกลอุบายในการขายเท่านั้น
    .
    “มันคือค่าบริการอะไร คนขายตอบได้หรือไม่ การขายสลาก 80 บาท แต่อ้างว่ามีค่าบริการ 10-20 บาท อย่างไรก็ถือว่าขายเกินราคา มีความผิด ผู้ซื้อสามารถไปแจ้งความดำเนินคดีได้ ซึ่งจากการดำเนินคดีกับผู้ขายเกินราคาที่ผ่านมา ศาลเคยมีฎีกาออกมาในกรณีพบผู้ขายสลากที่ราคา 90 บาท โดยอ้างว่าเป็นการผิดสัญญา ขายเกินราคา แม้จะอ้างว่าส่วนที่เกิน 10 บาท นำไปใช้ซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ก็ตาม” พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าว
    .
    พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า สำนักงานได้จัดสรรส่วนแบ่งให้กับผู้ค้าที่ขึ้นทะเบียนและรับสลากไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันได้มีการกำหนดสัดส่วนการจัดสรรเงินส่วนลด ให้ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยให้มีรายได้จากการจำหน่ายสลากมากขึ้น จากเดิมส่วนลด 7% (ฉบับละ 5.60 บาท) เป็น 12% (ฉบับละ 9.60 บาท) เพียงพอต่อการดำรงชีพและเป็นมูลเหตุจูงใจ ให้ร่วมขายสลากในราคา 80 บาท และไม่มีการกำหนดค่าบริการอะไรเพิ่ม
    .
    อย่างไรก็ดี จากกรณีที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นผลมาจาก การแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ที่เปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแส หากพบขายสลากเกินราคา ผู้นำแจ้งจับจะได้รับเงินรางวัลคดีละ 1,000 บาท ทำให้ผู้ค้าต้องออกอุบายในการจำหน่ายสลาก เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย โดยช่วงปี 2563 มีผู้แจ้งเบาะแส และ กองสลากฯ ได้จัดสรรเงินรางวัลนำจับไปแล้ว กว่า 8 ล้านบาท โดยขั้นตอนจ่ายเงินรางวัลนำจับ จะต้อง พบ และมีการแจ้งจับกุม เมื่อจับกุมแล้ว ต้องได้รับการสารภาพ พร้อมเสียเทียบปรับ จึงจะสามารถจ่ายเงินรางวัลแจ้งจับได้
    .
    ขณะเดียวกัน ใน พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 โดยมีการเพิ่มโทษการจำหน่ายสลากเกินราคา จากเดิมปรับไม่เกิน 2,000 บาท เป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยหากพบว่ามีการขายเกินราคา ก็จะถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้ค้า โดยในปี 2563 จับกุมและยกเลิกสัญญา 6,047 ราย
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/92310
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     

แชร์หน้านี้

Loading...