ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    องค์กรพิทักษ์สัตว์ หรือ PETA หลายคนคงรู้จักชื่อนี้กันดี จากกรณีโจมตีไทยในประเด็นใช้ลิงเก็บมะพร้าว จนนำไปสู่การแบนสินค้ากะทิของไทยในบางประเทศ
    .
    ล่าสุด PETA ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง หลังพวกเขาได้ออกมารณรงค์เรียกร้องให้ผู้คนประณามการดูถูกเหยียดหยามสัตว์ชนิดต่างๆผ่านการถูกนำไปเป็นคำด่า เช่น ไก่ หมู หนู หรือ สล็อต เป็นต้น หรือถ้าในไทยก็อาจจะเป็น ควาย เหี้ย แรด นั่นเอง
    .
    โดยพวกเขากล่าวว่า “นี่คือการทารุณกรรมสัตว์” ผู้คนควรปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม และเราเรียกร้องให้ผู้คนเลิกใช้คำที่เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆเป็นคำสบประมาทมนุษย์ด้วยกันเอง
    .
    “การเรียกใครบางคนว่าสัตว์ ถือเป็นการดูถูกและเป็นการตอกย้ำความเชื่อที่ว่ามนุษย์นั้นเหนือกว่าสัตว์อื่นๆ และสร้างความชอบธรรมในการละเมิดพวกมัน” กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิของสัตว์กล่าวในการเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างจริงจัง
    .
    PETA ยังรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับคำศัพท์ "ที่ใช้สัตว์แทนการเหยียด" ของมนุษย์และแนะนำภาษาทางเลือกเช่นการใช้คำว่า "ขี้ขลาด" แทน "ไก่" ,”ขี้ขโมย" แทน “หนู" , "เหวี่ยง" แทน "งู ” , “น่ารังเกียจ” แทน “หมู” และ “ขี้เกียจ” แทน “สล็อต” เป็นต้น
    .
    ซึ่งหลังจากที่ทาง PETA ได้ออกมารณรงค์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก็ได้มีเสียงตอบรับจากผู้คนมากมาย (ส่วนใหญ่ด่า) ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้ทวิตตอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหลังจากที่ทาง PETA ได้ทวิตว่า “นี่เป็นหนึ่งในทวีตที่โง่ที่สุดประจำปี 2021” บางคนถึงขนาดทวิตว่า “ถ้างั้นฉันใช้คำว่า ‘ขยะ’ แทนคำว่า ‘PETA’ ได้ไหม”
    .
    ทางกลุ่ม vegan เองที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์อยู่แล้วก็ทนไม่ได้ ออกมาบอกทาง PETA ว่า “หยุดทำให้พวกเราดูปัญญาอ่อนได้แล้ว” บางคนก็แสดงความคิดเห็นเชิงติดตลกว่า “ถ้าเปลี่ยนจาก ‘ไก่’ เป็น ‘นักเก็ต' เพื่อแทนความขี้ขลาดล่ะ ให้ด่ากันว่า ‘ไอ้นักเก็ตเอ้ยย’ อย่างงี้หรอ มันจะไม่แปลกไปหรอ?”
    .
    แน่นอนว่าเรื่องไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะทาง PETA ได้ออกมาทวีตตอบโต้ หลังถูกชาวโซเชี่ยลล้อเลียนอย่างมากมาย ถึงขนาดนาง Ingrid Newkirk ประธานของ PETA ออกมากล่าวว่า “นี่เป็นภาพสะท้อนของปัญหาการดูถูกสัตว์อย่างแท้จริง เวลาเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการยอมรับและเปลี่ยนแปลงเหมือนที่เราเห็น จริงๆไม่ควรจะต้องมาถกเถียงกันด้วยซ้ำ เรายืนยันว่าคำพูดที่เราใช้มีอำนาจในการขยายการกดขี่ และ PETA ขอให้ทุกคนคิดก่อนที่จะพูดหรือพิมพ์”
    .
    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ PETA ทำให้เกิดกระแสการวิจารณ์อย่างหนักจากสังคม หลังช่วงกลางปีที่ผ่านมา PETA เคยออกมากล่าวว่า Covid-19 จะยิ่งระบาดหากยังบริโภคเนื้อสัตว์
    .
    เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like 1f44d.png เพจและตั้งค่า See First 2b50.png เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
    .
    Source : https://nypost.com/.../peta-trolled-for-denouncing.../
    .
    #ThailandState #ThailandStateUpdate
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อีเกีย (IKEA) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนได้เข้าซื้อพื้นที่ป่าในสหรัฐอเมริกา ขนาด 11,000 เอเคอร์ หรือประมาณ 27,830 ไร่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐจอร์เจีย เพื่อจะอนุรักษ์ผืนป่าแห่งนี้เอาไว้ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของ IKEA ที่มุ่งเป้าลดก๊าซคาร์บอนเป็นกลาง (carbon neutral ) ในปี 2573
    .
    เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา IKEA แถลงวาระด้านป่าไม้สำหรับปี 2573 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมในการใช้ไม้ในรูปแบบที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เนื่องจากแรงกดดันต่อป่าไม้ของโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    .
    ปัจจุบันสินค้าจาก IKEA ผลิตจากไม้ 98% มีฉลากจาก FSC (Forest Stewardship Council องค์กรจัดการด้านป่าไม้โดยไม่แสวงหากำไร) เพื่อรับรองว่า สินค้าผลิตตามเงื่อนไขของ FSC มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมหรือเป็นสินค้าที่มีการรีไซเคิล
    .
    เป้าหมายที่ IKEA วางไว้ในเรื่องรักษ์สิ่งแวดล้อมในปี 2573 มีดังนี้
    - เป็นผู้นำและมีความรับผิดชอบต่อการจัดการป่าไม้ผ่านธุรกิจของ IKEA โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้
    - ปรับปรุงความหลากหลายทางชีวภาพ สนับสนุนสิทธิและความต้องการของผู้คนที่ต้องการพึ่งพาป่าไม้ในห่วงโซ่อุปทานไม้ทั้งหมด รวมถึงปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยด้วย (Carbon Footprint)

    - ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมเพื่อจะใช้ไม้ในวิถีที่ดีขึ้นผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการนำสินค้ากลับมาใช้ใหม่ นำกลัมมาทำให้ใหม่ขึ้น นำกลับมาผลิตใหม่
    - สินค้าของ IKEA อย่างน้อย 1 ใน 3 จะเป็นสินค้าที่มาจากไม้รีไซเคิล
    .
    - สินค้าของ IKEA ต้องไม่ทำลายป่าหรือมีความเสี่ยงที่จะทำลายป่า ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3% ของปริมาณวัตถุดิบของ IKEA นั้นไม่ได้มีส่วนในการตัดไม้ทำลายป่าหรือเปลี่ยนระบบนิเวศตามธรรมชาติ แต่มาจากการจัดการอย่างรับผิดชอบ
    - มีการใช้ไม้จากแหล่งที่สร้างความยั่งยืนได้มากขึ้น
    .
    Jon Abahamsson Ring ซีอีโอ IKEA Group ระบุว่า ปีที่ผ่านมา IKEA Group ได้ลงทุน 200 ล้านยูโรหรือ 7,200 ล้านบาท เพื่อกำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศผ่านการปลูกป่า ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมและแนวทางการจัดการป่าที่ดีขึ้น โดยการเน้นการหมุนเวียนสินค้านำกลับมาใช้ใหม่ นำกลับมาทำใหม่ และไม่ทำลายป่า
    .
    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน IKEA มีพื้นที่กว่า 1.36 แสนเอเคอร์หรือ 3.44 แสนไร่ ใน 5 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ฝั่งยุโรปมีพื้นที่ป่าประมาณ 6.16 แสนเอเคอร์หรือ 1.5 ล้านไร่ IKEA ทำงานร่วมกับ Conservation Fund องค์กรจัดการผืนป่าที่ไม่แสวงผลกำไรเพื่อการอนุรักษ์พื้นที่ป่าต่อไป
    .
    สำหรับประเทศไทย IKEA เข้ามาเปิดสาขา ตั้งแต่ปี 2554 โดยร่วมทุนระหว่างตัวแทน IKEA ประเทศไทย คือ บริษัท อิคาโน่ (ประเทศไทย) จำกัด กับบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมี 2 สาขาใหญ่ คือ สาขาเมกาบางนา ซึ่งเป็นสาขาแรก และสาขา 2 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต

    อ้างอิง:
    https://bit.ly/3jfJOcj
    https://bit.ly/39LepLu
    ภาพ: IKEA
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1 > สำนักข่าว RFA รายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ทอดยาวตามแนวชายแดนของไทยและลาว ตอนนี้อยู่ในระดับต่ำลงมาก เนื่องจากการทดสอบอุปกรณ์ที่ "เขื่อนจิ่งหง" ตอนเหนือของจีนมีปัญหา ทำให้ระดับน้ำไม่สามารถเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จึงเกิดความกังวลในชุมชนที่อาศัยอยู่ท้ายน้ำที่กำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง

    2 > แหล่งข่าวในพื้นที่ กล่าวว่าเมื่อปลายเดือนธันวาคมทางการจีนได้ประกาศว่าการระบายน้ำจากเขื่อนจิ่งหงในมณฑลยูนนานจะลดลงจาก 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา แม้ว่าการทดสอบการระบายน้ำจะสิ้นสุดในวันที่ 24 มกราคม แต่ระดับน้ำในพื้นที่ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมาอีกเลย จนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์นั่นเท่ากับจีนกักน้ำมาหนึ่งเดือนแล้ว

    3 > นักวิเคราะห์กล่าวกับสำนักข่าว VOA ว่าเจ้าหน้าที่ของจีนกำลังผันน้ำจำนวนมากจากเขื่อนตามแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขงตอนบน ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนใต้แม่น้ำโขงจะต้องพบกับความยากลำบากเพราะจะขาดน้ำใช้ช่วงฤดูเกษตรกรรม และความกดดันที่จีนทำต่อประเทศเหล่านี้จะทำให้ต้องหันไปพึ่งมหาอำนาจอื่น

    4 > ตามข้อมูลจากศูนย์ Stimson Center ในวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาความมั่นคงด้านอาหาร-น้ำและพลังงานในแถบแม่น้ำโขง เปิดเผยว่า การกักน้ำของเขื่อนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน 11 แห่ง ส่งผลให้ลุ่มน้ำโขงตอนล่างที่มีประชากรกว่า 60 ล้านคน ต้องพบภับภาวะแห้งแล้งน้ำตั้งแต่ปี 2562 รวมถึงไทย

    5 > นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ประเทศที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ กัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนาม มักจะไม่ตอบโต้ เพราะต่างก็เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กกว่าจีนและเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำประเทศบางคนกับรัฐบาลจีนทำให้พวกเขาเมินเฉยที่จะแก้ไขปัญหานี้

    6 > แต่หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเริ่มเข้ามาตั้งศูนย์จับตาแม่น้ำโขง จีนก็เริ่มแบ่งปันข้อมูลแม่น้ำโขงตอนบนในเดือนพฤศจิกายนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยลาว พม่า ไทย เวียดนาม และกัมพูชา สามารถรับข้อมูลจากสถานีอุทกวิทยาของจีน 2 แห่งในลุ่มน้ำโขงตอนบนได้

    7 > อย่างไรก็ตามการแบ่งปันข้อมูลแม่น้ำโขงของจีนเป็นความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่จีนเป็นต้นเหตุมากกว่า
    โดยผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ Stimson Center ระบุว่า ตอนนี้จีนทำการ "กักขังหน่วงเหนี่ยว" และ "ปักหลักยึด" ต้นน้ำโขงก่อนที่จะปล่อยให้มันไหลผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงสู่ทะเล

    8 > ตามข้อมูลเว็บไซต์ของ Stimson Center ระบุตัวอย่างเช่น ในช่วงภัยแล้งลุ่มน้ำโขงปี 2562 ต้นน้ำโขงในประเทศจีนได้รับปริมาณน้ำฝนมากเป็นประวัติการณ์ แต่เขื่อนกั้นเกือบทั้งหมดไม่ให้ไหลลงสู่ท้ายน้ำ

    9 > สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับไทยและลาวในตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญของ Stimson Center บอกกับ RFA ว่าระดับน้ำคงจะแห้งอีกไม่นานจีนก็อาจจะปล่อยมา เพราะตอนบนของจีนมีฝนมากพอที่จะกักน้ำไว้แล้ว แต่มันก็หมายความว่าชะตากรรมของประเทศท้ายเขื่อนไม่ได้ขึ้นกับดินฟ้าอากาศ แต่ขึ้นกับความเมตตาของจีน

    10 > หนึ่งในเขื่อนแม่น้ำโขงของจีนคือ Nuozhadu นับตั้งแต่การสร้างเขื่อนนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2555 มันกักน้ำไว้มากเท่ากับแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านกระแสน้ำตลอด 20 ปีก่อนหน้านี้ Stimson Center บอกว่าการทำแบบนี้มาอย่างยาวนานมีส่วนผลักดันให้เกิดภัยแล้งมากมายหลายครั้ง และความถี่ของความแห้งแล้งที่เพิ่มขึ้นในลุ่มน้ำตอนล่างมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับวิธีที่จีนจำกัดน้ำต้นน้ำในช่วงฤดูแล้ง

    11 ระดับน้ำของแม่น้ำโขงที่ จ.นครพนม เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2563 อยู่ในระดับต่ำสุดของปีเพียง 1.90 เมตร แต่ตอนนี้ระดับน้ำโขงแถบเชียงแสนและแขวงบ่อแก้วของลาว อยู่ในระดับต่ำแค่ประมาณ 1.90 เมตรเช่นกัน แต่ยังอยู่ในอัตราที่ไล่ๆ กับอัตราเฉลี่ยระหว่างปี 2559 - 2563

    ข้อมูลจาก
    •"China’s Diversion of Upstream Mekong Flows Seen Drying Up Southeast Asia". Ralph Jennings. (2021-01-29). VOA
    • "Water Levels Drop, Fail to Rise Again on Mekong River Along Thai-Lao Border". (2021-02-04) RFA.
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดเหตุไฟป่าโหมกระหน่ำในเมืองเพิร์ธ และภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทำให้บ้านเรือนเสียหาย 80 หลัง และเจ้าหน้าที่ต้องเปิดศูนย์อพยพเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนถึง 3 แห่ง
    .
    เหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงล็อคดาวน์เป็นเวลา 5 วัน หลังจากพบผู้ป่วยโควิด -19 จำนวน 1 ราย โดยไฟป่าได้โหมกระหน่ำขึ้นใกล้เมืองวูโรลูในเขตชานเมืองเพิร์ธ
    ซึ่ง ดาร์เรน ไคลม์ ผู้บัญชาการกรมดับเพลิงและบริการฉุกเฉิน (DFES) ของออสเตรเลียตะวันตก กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า "การอพยพคนออกจากพื้นที่มีความสำคัญเหนือกว่าการกักตัวอยู่กับบ้าน"
    .
    ทั้งนี้ ไฟป่าได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนไปแล้วอย่างน้อย 71 หลังคาเรือน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยเฮลิคอปเตอร์ได้บินปฏิบัติการโปรยสารเคมีเพื่อดับเพลิง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่ง ไคลม์ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงเป็นไฟที่ท้าทายอย่างน้อยใน 3-5 วันข้างหน้า
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เหตุการณ์ไฟป่าได้สร้างความเสียหายแล้วกว่า 8,000 เฮกตาร์ หรือประมาณ 48,000 ไร่ และเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงจำนวน 260 คนที่เข้าปฏบัติหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่ก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์อพยพ 3 แห่งเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า
    .
    มาร์ค แมคโกแวน นายกรัฐมนตรีวอชิงตัน กล่าวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ว่า จำนวนการสูญเสียทรัพย์สินที่เพิ่มเป็น 81 หลังคาเรือน

    อ้างอิง:
    https://cnn.it/3tsqwov
    https://bit.ly/2Lh2Q5k
    ภาพ: https://bit.ly/2Lh2Q5k
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ที่ปล่อยหมา "กัดตัวนิ่ม" ประกอบเพลงผ่าน TikTok กลางสวนยางปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ดำเนินคดีตามตามความผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
    .
    เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ร่วมกับนายบำรุงรัตน์ พลอยดำ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าจับกุมนายศุภชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี
    .
    อาศัยอยู่หมู่ที่ 11 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมสุนัข หลังจากมีการร้องเรียนผ่านทางสื่อออนไลน์ว่า ปล่อยหมากัดตัวนิ่มประกอบเพลง ผ่าน แอแปพลิเคชัน tiktok
    .
    จากการสอบถาม นายศุภชัยยอมรับว่า เป็นผู้โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวจริง โดยได้ตัวนิ่มมาจากสวนยางพาราที่กรีดอยู่และได้นำมาถ่ายคลิปที่บ้าน จำนวน 2 ตัว 2 ครั้ง นิ่มตัวที่ปล่อยเป็นคลิปวิดีโอตอนกลางวันได้มีคนมาติดต่อขอซื้อผ่านเฟซบุ๊กจึงขายไปในราคา 3,000 บาท
    .
    หลังได้รับเงินผู้ซื้อได้ปิดเฟซบุ๊กหายไป ส่วนนิ่มตัวที่ถ่ายคลิปช่วงกลางคืน นายศุภชัยได้นำไปปล่อยในสวนยางพารา
    .
    สัตวแพทย์ ประจำ สบอ.5 (นครศรีธรรมราช) ที่ร่วมคณะได้เก็บตัวอย่างเลือดและน้ำลายสุนัขเพื่อตรวจหาเชื้อโรคติดต่อที่อาจติดมาจากตัวนิ่ม หรือลิ่น หรือ ลิ่นชวา ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 157 ดังนั้นจึงดำเนินคดีนายศุภชัยในความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
    .
    1.ฐาน “ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตฯ” ตาม ม.12 และ ม.89 ว.1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    2.ฐาน “ค้าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาต” ตาม ม. 29 ม. 89 ว.1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    .
    เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    อย่างไรก็ตาม ก่อนการดำเนินการจับกุมมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ได้ประสานตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เข้าตรวจสอบและติดตามจับกุมผู้ต้องหา
    .
    หลังรับทราบจาก "หมอล็อต" นส.พ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เกี่ยวกับโพสต์หมาไล่ล่าตัวนิ่ม ซึ่งมีความกังวลว่า "ตัวนิ่ม" มีรหัสไวรัสตรงกับไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจต บก.ปทส.สงขลา จึงสนธิกำลังทีมพญาเสือกรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าปาดังเบซาร์ เข้าตรวจสอบบ้านพักของผู้ต้องหาที่บ้านบาโรย หมู่ 11 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
    .
    ที่มา : หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ)

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    LIVING: กว่า 100 โรงเรียนทั่วยุโรป ร่วมใจกันวัดคุณภาพอากาศ
    .
    โรงเรียนมากกว่า 100 โรงเรียน จาก 8 ประเทศในยุโรป เข้าร่วมโครงการ CleanAir@School ซึ่งจัดขึ้นเพื่อวัดคุณภาพอากาศรอบๆโรงเรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องมลพิษทางอากาศ และผลกระทบที่ได้รับ แต่เหตุผลหลักคือ เพื่อให้ผู้ปกครองตระหนักถึงมลพิษที่ก่อเกิดจากการขับยานพาหนะมาส่งลูกๆที่โรงเรียน
    .
    โดยวิธีการคือ ให้นักเรียนใช้เครื่องตรวจจับมลพิษทางอากาศที่ชื่อ passive NO2 samplers อันนึงวางไว้ข้างหน้าประตูโรงเรียนที่มีรถ รับ-ส่งจากผู้ปกครอง ส่วนอีกอันนึงวางไว้ในที่ๆบรรยากาศปลอดโปร่งกว่า อย่างเช่น สวนหลังโรงเรียน หลังจากนั้นให้นำทั้งสองอันมาเปรียบเทียบกัน และทำโปสเตอร์ หรือวิดีโอเพื่อรณรงค์การใช้การขนส่งสาธารณะ
    .
    ผลลัพท์ที่ได้ออกมาในปี 2019 อาทิเช่นในประเทศ Scottland ได้โชว์ให้เห็นว่า ในพื้นที่ที่มียานพาหนะพลุกพล่านใกล้โรงเรียน โดยเฉพาะตอนเช้า และตอนเย็น มีมลพิษที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่ออกห่างออกไปประมาณ 100 เมตรเรื่อยๆ พบว่ามลพิษได้ถูกลดลงเช่นกัน นั่นแสดงให้เห็นว่า ยิ่งมีการใช้รถยนต์รับ-ส่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้มลภาวะที่ส่งออกมาถึงโรงเรียนนั้น มากขึ้นเท่านั้น
    .
    อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สำหรับปี 2020 นั้น เนื่องจากสถาณการณ์COVID19 ทำให้นักเรียนไม่สามารถออกจากบ้านเพื่อทำกิจกรรมนี้ได้
    .
    หากใครอยากดูผลลัพธ์ ของแต่ละประเทศ สามารถกดเข้าไปที่ลิ้งค์นี้ได้เลย:
    https://discomap.eea.europa.eu/cleanair/#

    Source
    1.https://www.eea.europa.eu/.../schools-across-europe-share...

    2.https://www.eea.europa.eu/.../urban.../cleanair-at-school

    3.https://www.eea.europa.eu/.../assessing-air-quality...
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL: ลูกอาย-อาย ลีเมอร์ใกล้สูญพันธุ์ โผล่โชว์ตัวครั้งแรกใน Bristol Zoo หน้าตาสุดน่ารัก

    วันที่ 1 กุมภาพันธ์ Bristol Zoo เผยภาพแม่ Aye-Aye พร้อมลูกตัวน้อย โดยทางสวนสัตว์เผยว่าเจ้าลูกน้อยน่าจะเกิดเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่คุณแม่ได้พยายามหลบซ่อนน้องไว้จากสายตาผู้คน
    .
    โดยชี้ว่าการให้กำเนิด Aye-Aye ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเนื่องจากพวกเขากำลังใกล้สูญพันธุ์จากธรรมชาติ และมีประชากรในสถานที่เลี้ยงทั่วโลกเพียง 50 ตัวเท่านั้น
    .
    อาย-อาย (Aye-Aye) เป็นไพรเมต จำพวกลีเมอร์ที่อาศัยในป่าอยู่บนเกาะมาดากัสการ์ เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาน่าสุดเป็นเอกลักษณ์ หากินในเวลากลางคืน
    .
    พวกเขามีใบหูที่กางโตเหมือนค้างคาว มีฟันที่แหลมคม โดยเฉพาะฟันหน้าที่จะไม่หยุดการงอกเหมือนกับสัตว์ฟันแทะ และมีนิ้วตีนที่ลีบเล็กเรียวยาวผอมติดกระดูก ทำหน้าที่เหมือนมือ และมีจุดเด่น คือ นิ้วตรงกลาง 2 นิ้ว คือ นิ้วชี้ และนิ้วกลางจะแหลมยาวออกมาจากนิ้วอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน มีลำตัวขนาดเท่าแมว มีขนตามลำตัวสีดำปลายขนเป็นสีเงินหรือสีเทา มีหางยาวขนฟูเป็นพวงเหมือนกระรอก น้ำหนักตัวประมาณ 15 กิโลกรัม
    .
    ด้วยหน้าตาที่อาจจะดูน่ากลัว ทำให้มันถูกมองว่าเป็นสัตว์อัปมงคล และเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายของชาวมาลากาซี กลุ่มชนในมาดากัสการ์อีกด้วย
    .
    ขณะนี้เจ้าอาย อาย ถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ ภัยคุกคามของพวกเขาคือการที่แหล่งอาศัยถูกทำลาย การถูกล่า และฆ่า การตัดไม้ และภัยพิบัติธรรมชาติอื่นๆ
    .
    ที่มา
    https://bristolzoo.org.uk/latest-zo...hAue-q3wQYZbZhQlFIlALXA9y1tupxlsYMF7LHu_utCOU
    https://www.bbc.com/news/uk-england-bristol-55889361
    https://www.facebook.com/watch/?v=943873076419892
    https://www.iucnredlist.org/species/6302/115560793
    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL : พบสาหร่ายพิษส่งผลให้นากทะเลเป็นโรคหัวใจได้ ยิ่งอุณหภูมิมหาสมุทรสูงขึ้น ยิ่งเสี่ยงหนัก
    .
    มีการตีพิมพ์เผยแพร่วารสาร Harmful Algae ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกรดโดโมอิก (Domoic) ในระยะยาวส่งผลต่อการเป็นโรคหัวใจของตัวนากทะเล
    .
    กรดโดโมอิกเป็นสารพิษต่อระบบประสาท โดยกรดนี้จะมาจากสาหร่ายที่มักจะเกิดขึ้นจากความผิดปกติของน้ำ อย่างเช่น ปรากฎการณ์ “Blob” ปรากฎการณ์นี้คือการมวลน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิสูงผิดปกติจนมันไปรบกวนระบบนิเวศต่างๆให้เปลี่ยนแปลงไป
    .
    หลังจากที่มีสาหร่ายพิษแล้วนั้น ปูและหอยจะบริโภค สาหร่ายพิษนี้เข้าไป ทำให้มันสะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งปูและหอยเหล่านั้นเป็นอาหารหลักของตัวนากทะเล ทำให้สารพิษต่างๆถูกส่งต่อไปสะสมอยู่ในตัวของนากทะเล
    .
    จากการคาดการณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบ่งชี้ว่ากรดโดโมอิกจะยังคงเพิ่มขึ้น เพราะในปี 2020 อุณหภูมิของมหาสมุทรได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับสามจนเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว
    .
    “ตัวนากทะเลเป็นตัวบ่งชี้ของสภาพแวดล้อมชายฝั่งเพราะตัวนากทะเลนั้นเป็นผู้ล่าของระบบนิเวศ ถ้ามีผู้ล่าก็แสดงได้ว่ามีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบริเวศนั้น สาหร่ายพิษไม่ได้ส่งผลกับแค่สัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ แต่ส่งผลถึงเราด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของกรด โดโมอิก” Christine K. Johnson หัวหน้าการศึกษางานวิจัยกล่าว
    .
    “ด้วยอาหารเฉพาะของตัวนากทะเลนั้นมีความเสี่ยงอย่างมาก และสาหร่ายพิษก็มีแนวโน้มมากขึ้นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มากขึ้น การสร้างความเข้าใจกับผลกระทบของกรดโดโมอิก ต่อสุขภาพและการฟื้นตัวของประชากรนากทะเล จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง” Miller ผู้ศึกษากรดโดโมอิกกล่าว
    .
    Source :
    1. https://www.sciencedaily.com/rel.../2021/01/210126171620.htm

    2. https://www.the101.world/the-blob/

    3. https://greenworld.or.th/.../%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81.../
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    HEALTH: ผลวิจัยชี้ การติดเชื้อโควิด-19 อาจลดความสามารถในการสืบพันธุ์ของผู้ชาย
    .
    เป็นที่แน่นอนว่าหลายๆคนคงรู้ว่า โควิด-19 มีผลกระทบต่อคนและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาขยะจากหน้ากาก และอีกมากมาย แต่คุณรู้ไหมว่า โควิด-19 นี้อาจจะทำให้เกิดปัญหาอัตราการเกิดของทารกน้อยลงด้วย
    .
    เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยข้อมูลจากการศึกษาเรื่องระบบกลไกของโควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ ก่อนหน้านี้ได้มีทฤษฎีที่สันนิษฐานว่าอนุภาคของโควิด-19 นั้นสามารถเข้าสู่ระบบการสืบพันธุ์ของเพศชายได้ในลักษณะที่คล้ายกับเชื้อไวรัสของโรคคางทูม โดยไวรัสนั้นจะเข้าไปทำลายอัณฑะภายใน 2-3 วันแรกของการติดเชื้อ เพื่อทำลายเนื้อเยื่อและลดการผลิตอสุจิ
    .
    อย่างไรก็ตามกลไกลของการติดเชื้อโควิด-19 นั้นแตกต่างออกไปจากการติดเชื้อไวรัสคางทูม จากการวิจัยการระบาดของเชื้อไวรัสซาร์ในปี 2003 ได้พบว่าไวรัสนั้นได้มีลักษณกลไกที่คล้ายคลึงกับโควิด19 ที่ไม่ได้เป็นอันพบเจอบ่อยในอัณฑะ ยกเว้นแต่จะเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อหนัก
    .
    แล้วโควิด-19 ทำให้ภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชายตำ่ลงได้อย่างไร?
    .
    ผลวิจัยได้บ่งชี้ว่าการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นสามารถนำไปถึงการอักเสบอย่างรุนแรงของอัณฑะ หรือเรียกว่า orchitis (ออไคติส) ซึ่งไปทำลายระบบเจริญพันธุ์ของผู้ชาย ถึงกระนั้นไม่ใช่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกคนจะได้รับผลกระทบในการเจริญพันธุ์ ส่วนมากจะพบในผู้ป่วยที่ติดไวรัสอย่างเฉียบพลัน
    .
    นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยจากผลชันสูตรศพของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้พบว่า มีจำนวน 50% และ 90% ของผู้ติดเชื้อมีร่องรอยของอาการ orchitis ในขณะที่อีกผลงานวิจัยพบแค่ 20% ของผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นไปได้ว่าน่าจะมีผลปัจจัยอื่นที่ทำให้ภาวะการเจริญพันธุ์ลดลง เช่น การแตกหักของดีเอ็นเออสุจิ หรือการหยุดชะงักการทำงานของสมองที่ใช้ในกานสื่อสารกับอวัยวะสร้างเซลล์สืบพันธุ์ผ่านฮอร์โมนส์ของแต่ละบุคคล
    .
    จากการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของผู้ป่วยที่หายจากโควิด-19 แต่ในตอนนี้เพื่อให้เข้าใจถึงสาเหตุภาวะการเจริญพันธุ์ที่ต่ำลงอย่างถ่องแท้นั้นต้องมีการสำรวจและการวิจัยเพิ่มเติม
    .
    อาจมีความเป็นไปได้ว่าโควิด-19 นั้นจะส่งผลกระทบไม่ใช่แค่ต่อผู้ที่หายจากการติดเชื้อ แต่ยังต่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป ยิ่งเหตุการณ์โควิด-19 นั้นยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานนี้ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า การแพร่ระบาดของโควิดน่าจะยังส่งผลกระทบระยะยาวต่อผู้ที่ติดเชื้อ หรือผู้ที่กำลังจะติดหรือไม่
    .
    Source

    https://www.iflscience.com/.../covid19-infection.../...

    เรียบเรียง: buras
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    DISCOVERY: นักล่าฟอสซิลอังกฤษ พบกระดูกแมมมอธ! บนเกาะ ใกล้ชายหาด คาดอายุนับแสนปี
    .
    สองพี่น้องนักล่าฟอสซิลมือสมัครเล่นได้ค้นพบฟอสซิลกระดูกของสิ่งมีชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นฟอสซิลของสัตว์คล้ายกับช้าง บนเกาะ Isle of Wight ทางตอนใต้ของอังกฤษ
    .
    Luke และ Joe Ferguson พบฟอสซิลยาว 1 เมตรโผล่ออกมาจากหินใกล้กับหาด Brightone Beach หลังจากที่เกิดพายุในบริเวณ
    .
    สองพี่น้องรีบส่งรูปให้กับพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ Isle เพื่อให้พวกเขาช่วยระบุเจ้าของฟอสซิลนี้ โดย Dr Martin Munn ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ามันน่าจะเป็นกระดูกของข้างงาตรง หรือแมมอธ ที่อาจมีอายุราว ๆ 10,000 ถึง 125,000 ปี
    .
    Joe Ferguson หนึ่งในผู้พบเล่าว่า “มันน่าจะยาว 3 ฟุต (เกือบ 1 เมตร) และหนักประมาณ 25-30 กิโลกรัม พวกเราต้องแบกมันขึ้นบ่าเลยทีเดียว”
    .
    ตอนนี้พิพิธภัณฑ์ Isle ซึ่งมีกระดูกและฟันของสิ่งมีชีวิตทั้งสองในคอลเลคชั่นได้ให้คำแนะนำสองพี่น้องเกี่ยวกับวิธีการรักษากระดูกแล้ว อาจต้องรอให้เกิดการคลายล็อกก่อนเพื่อที่จะนำมาตรวจอย่างถี่ถ้วน
    .
    Source
    https://www.bbc.com/news/uk-england-hampshire-55936590

    ภาพ Joe Ferguson

    เรียบเรียง: DJ
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL : ทำไมจระเข้จึงมีการวิวัฒนาการ เพียงเล็กน้อยจากยุคไดโนเสาร์
    .
    การวิจัยของนักวิทยาศาตร์ที่ Bristol University อธิบายถึงรูปแบบของการวิวัฒนาการแบบ “หยุด-เริ่ม” ซึ่งอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
    .
    จระเข้ในปัจจุบันมีลักษณะคล้ายกับจระเข้ในยุคจูราสสิกเมื่อ 200 ล้านปีก่อน และในปัจจุบันมีจระเข้เหลืออยู่แค่ 25 สายพันธุ์ ซึ่งต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น กิ่งก่า นกและอื่นๆ ที่มีอยู่อย่างมากมายกว่าพันสายพันธุ์
    .
    ได้มีงานวิจัยชิ้นใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications Biology โดยที่นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายรูปแบบวิวัฒนาการที่เรียกว่า “สมดุลแบบเว้นวรรค”
    .
    ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าความหลากหลายที่จำกัดของจระเข้แต่ละสายพันธุ์ และเหตุที่มันไม่มีการวิวัฒนาการอย่างชัดเจน อาจจะเป็นเพราะรูปแบบร่างกายที่มีประสิทธิภาพ และหลากหลายพอของมัน ทำให้มันไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่ออยู่รอดมากนัก
    .
    ความสามารถการเอาชีวิตรอดของมันอาจจะเป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่อธิบายว่าทำไมมันถึงอยู่รอดจากดาวตกในช่วงตอนท้ายของยุคครีเทเซียสได้
    .
    ซึ่งทั่วไปแล้วจระเข้จะเจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน ซึ่งในยุคไดโนเสาร์นั้นโลกเรามีอากาศร้อนกว่านี้มาก นั้นอาจจะอธิบายว่าทำไมในปัจจุบันมีจระเข้อยู่ไม่กี่สายพันธุ์ถ้าเทียบกับยุคก่อน
    .
    โดย Dr.Stockdale กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่ได้เห็นความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่างโลกกับสิ่งมีชีวิต ที่มีความหลากหลายเพียงพอจะปรับตัวให้เข้ากับการเปลื่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์”
    .
    ขั้นต่อไปของการศึกษาคือค้นหาสาเหตุที่จระเข้ยุคก่อนได้สูญพันธุ์ แต่บางชนิดกลับเปลื่ยนแปลงวิวัฒนาการ ตัวเองจนอยู่ใยุคปัจจุบันได้

    Source :
    1. https://www.sciencedaily.com/rel.../2021/01/210107083751.htm
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL :ฮิปโปของพาโบล เอสโคบาร์ ตำนานเจ้าพ่อค้ายาแห่งโคลอมเบีย กำลังเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็ว
    .
    ฮิปโป สัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดรองลงมาจากช้าง อาจมีน้ำหนักได้มากถึง 8,000 ปอนด์ มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาเป็นส่วนใหญ่ถูกนำเข้าสู่ประเทศโคลอมเบียอย่างผิดกฎหมายในปี 1980 โดยอดีตเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่อย่าง Pablo Escobar หลังจากที่ในยุครุ่งเรือง เขาได้สร้างสวนสัตว์ที่ชื่อ Hacienda Nápoles ซึ่งปัจจุบันถูกทิ้งร้าง
    .
    ภายหลังการถูกสังหารในปี 1994 สัตว์เกือบทั้งหมดได้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่อื่นๆ เหลือเพียงแต่ฮิปโปที่ยังคงถูกทิ้งไว้ที่นั่น เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่ของมันทำให้เกิดความลำบากในการขนย้าย
    .
    นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยได้เตือนถึงการเพิ่มขึ้นของประชากรฮิปโปว่า อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ท้องถิ่นอย่างมาก อุจจาระของพวกมัน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของไซยาโนแบคทีเรีย หรือที่เรียกว่า สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ซึ่งคุกคามต่อคุณภาพน้ำในพื้นที่อยู่อาศัยโดยตรง
    .
    ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามทำหมันฮิปโป แต่จำนวนของมันยังคงเพิ่มขึ้น นักวิจัยได้ขอให้โคลอมเบีย พิจารณาจุดยืนในการกำจัดฮิปโป ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมประชากร แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าก็ตาม

    Source
    1.https://www.nbcnews.com/.../pablo-escobar-s-hippos-have...

    เรียบเรียง : Horloruyorlui
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UNDERWATER: ดาวทะเลกำลังจะจมน้ำตายเพราะมหาสมุทรที่ร้อนขึ้น
    .
    งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารออนไลน์ Frontiers in Microbiology นักวิทยาศาสตร์ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มอาการประหลาดของดาวทะเล
    เช่น การที่มันเริ่มเปลี่ยนสี บวม บิดผิดรูป หรือแม้กระทั้งล้มตาย ว่าเป็นโรค “Star Washing Disease” โดยโรคนี้จะไปทำให้เนื้อเยื่อแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ และอาจส่งผลให้เกิดการตายเป็นจำนวนมาก และถึงขั้นสูญพันธุ์ได้
    .
    แต่แล้วนักวิทยาศาตร์ก็สามารถหาคำตอบได้ว่าอะไรทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับดาวทะเล ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเมื่อมหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้น แบคทีเรีย Copiotrophs จะเพิ่มมากขึ้น
    .
    เจ้าแบคทีเรียตัวนี้จะอาศัยอยู่บนฟิล์มที่เคลือบอยู่บนตัวของดาวทะเล เมื่อแบคทีเรียตัวนี้กินอินทรียวัตถุมันจะใช้ออกซิเจนเป็นจำนวนมากในการกินอาหาร เมื่อขบวนการนี้เกิดขึ้นจะทำให้ออกซิเจนโดยรอบดาวทะเลนั้นหายไป และท้ายที่สุด ถ้าแบคทีเรียนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ออกซิเจนในน้ำไม่เพียงพอต่อการหายใจของดาวทะเล
    .
    Ian Hewson นักสมุทรศาสตร์ชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล ได้บอกว่า “ดาวทะเลจะกระจายออกซิเจนไปยังพื้นผิวชั้นนอกผ่านโครงสร้างเล็ก ๆ ที่เรียกว่า Papulue หรือเหงือกผิวหนัง ซึ่งถ้ามีออกซิเจนไม่เพียงพอบริเวณรอบ Papulae แล้วนั้นจะทำให้ดาวทะเลไม่สามารถหายใจได้”
    .
    Source :
    1. https://www.nbcnews.com/.../warming-oceans-may-be-choking...

    2. https://www.ceid.uga.edu/.../evidence-that.../

    3. https://www.frontiersin.org/.../fmicb.2020.610009/full งานวิจัย
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แล้งแล้ว..สัตว์ป่าเริ่มขาดน้ำกิน!!! เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน (นครสวรรค์) เติมน้ำลงในแหล่งน้ำขนาดเล็กในป่าธรรมชาติ ให้สัตว์ป่าได้มาดื่มกิน... | พบมีเลียงผา หมีควาย เม่น แมวดาว หมาจิ้งจอก ลิง มาใช้ประโยชน์
    .
    1 ก.พ.64 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยกาาสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เปิดเผยว่า นายจรัส คำแพง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานสถานการณ์เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 13,052 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอหนองฉาง และอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูน สูงชัน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหารของสัตว์ป่าหลายชนิด
    .
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์และคุ้มครองไว้ ที่ขณะนี้มีเลียงผาอาศัยอยู่ในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 30 ตัว
    .
    ขณะนี้พบว่าพื้นที่เริ่มมีความแห้งแล้ง เพราะเข้าสู่ฤดูแล้งเร็วกว่าปกติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน จึงได้จัดสร้างพื้นที่จุดให้น้ำแก่สัตว์ป่า เพื่อให้สัตว์ป่าได้มีน้ำกินประทังชีวิต และช่วยแก้ไขปัญหาไม่ให้สัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์
    .
    โดยได้ดำเนินการเติมน้ำในแหล่งน้ำขนาดเล็กที่มีอยู่เดิม และได้จัดทำแหล่งน้ำขนาดเล็ก ด้วยการใช้วงบ่อซิเมนต์ฝังไว้ให้เสมอผิวดิน และใช้หินในพื้นที่มาวางตกแต่งเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าขนาดเล็กถูกขังอยู่ในวงบ่อ
    .
    โดยวางตกแต่งให้สอดคล้องและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ขณะนี้มีแหล่งน้ำขนาดเล็กที่สร้างเสริมขึ้นนี้ รวมทั้งสิ้นจำนวน 30 จุด แต่ละจุดบรรจุน้ำได้ประมาณ 150 ถึง 200 ลิตร เพื่อให้สัตว์ป่าสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้กำหนดแผนจะนำน้ำไปเติมทุก 7 วัน
    .
    ในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 นี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ เดือนธันวาคม 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
    .
    ผลการดำเนินการ พบว่า มีเลียงผาและสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น หมีควาย เม่น แมวดาว หมาจิ้งจอก ลิง ได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำที่ทำไว้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สังเกตได้จาก การพบร่องรอยเท้าและมูลของสัตว์ป่า และภาพที่จากกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าในพื้นที่
    .
    Source: ประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    SPACE: NASA ประสบความสำเร็จในการทดลองปลูกพืชบนสถานีอวกาศ
    .
    เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา นักบินอวกาศ Kate Rubins ได้ทำการทดลองปลูกพืช Radish (แรดิช) ในการทดลอง “Plant Habitat-02” บนสถานีอวกาศนานาชาติ เหตุที่ใช้พืชชนิดนี้เนื่องจากพวกมันมีอายุในการเก็บเกี่ยวที่สั้น และต้องการแสงตลอดวัน รวมทั้งการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งในการทดสอบเครื่องมือเพาะปลูกว่ามันสามารถควบคุมความละเอียดอ่อนนี้ได้หรือไม่
    .
    เนื่องจากว่าการปลูกพืชบนอวกาศนั้นมีข้อจำกัดที่แตกต่างจากบนพื้นโลกมาก พืชเหล่านี้วิวัฒนาการมาเพื่อเจริญเติบโตบนโลกที่มีแรงโน้มถ่วง นักวิทยาศาสตร์จึงสงสัยว่า หากไม่มีแรงโน้มถ่วงแล้วมันจะส่งผลยังไงกับการเจริญเติบโตของพืช ไม่ว่าจะการหยั่งรากลงพื้นดิน การดูดซึมสารอาหาร หรือการที่พวกมันต้องใช้แสงสังเคราะห์แทนแสงอาทิตย์
    .
    ผลการทดลองออกมาเป็นที่น่าพอใจ Radish สามารถเจริญเติบโตและออกผลได้อย่างปกติทั้ง 20 ผลที่ทำการปลูก พวกมันสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้บนสถานที่ไร้แรงโน้มถ่วงและในเครื่องเพาะปลูกที่สร้างขึ้น เมื่อพวกมันถูกเก็บเกี่ยวแล้วจะถูกส่งกลับมายังโลกเพื่อวิเคราะห์ตัวอย่างนี้ว่าพวกมันมีสารอาหารเช่นเดียวกับบนโลกหรือไม่
    .
    แต่อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้ก็ไม้ได้หมายความว่าการทดลองได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว การปลูกพืชบนพื้นที่ที่ไร้แรงโน้มถ่วงจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะการปลูกพืชที่ประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่ชนิดนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถปลูกพืชอะไรก็ได้ การทดลองยังคงเดินหน้าต่อไป
    .
    ในอนาคตพืชเหล่านี้จะกลายเป็นเสบียง และเป็นแหล่งอาหารในอนานิคมมนุษย์ทั้งนบดวงจันทร์และดาวอังคาร อีกทั้งความรู้จากการทดลองเหล่านี้ยังมีประโยชน์กับการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับพืชต่างๆ ที่กำลังถูกค่อยๆ ลดจำนวนลงจากภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
    .
    Source :
    https://www.nasa.gov/.../astronauts-harvest-radish-crop...
    .
    เรียบเรียง : วิทิต
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FASHION: Prato เมืองแห่งการรีไซเคิลเสื้อผ้าจากแฟชั่นเหลือทิ้ง ด้วยธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    อุตสาหกรรมสิ่งทอในปัจจุบัน เป็นอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจากอุตสาหกรรมน้ำมัน) ด้วยวัฒนธรรม “ใส่แล้วทิ้ง”
    .
    มีเสื้อผ้ามากกว่า 150,000 ล้านชิ้นต่อปี ที่ถูกผลิตมาซึ่งเป็น Fast fashion กระบวนการผลิตปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงประมาณ 1.2 พันล้านตันในทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่า Carbon Footprint ของเที่ยวบินระหว่างประเทศและขนส่งทางทะเลรวมกันเป็นตัวการสร้างน้ำเสียถึง 20 เปอร์เซ็นต์จากอุตสาหกรรมทั้งหมดในโลก
    .
    ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตเสื้อผ้าที่ทำให้เกิดความเสียหาย แต่ การทิ้งเสื้อผ้าสิ่งทอก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งกว่า
    .
    ในกระบวนการทิ้งเสื้อผ้ามหาศาลนี้ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 3.3 พันล้านตันในแต่ละปี เท่ากับ 8 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ขยะแฟชั่นมากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกถูกส่งไป น้อยกว่า 1% จากทั่วโลกที่ถูกนำไปรีไซเคิล
    .
    ในเมือง Proto มีธุรกิจสิ่งทอขนาดเล็ก ประมาณ 7,500 แห่ง โดย 3,500 แห่ง เป็นธุรกิจสิ่งทอเสื้อผ้ารีไซเคิลจากเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งทั่วโลก ซึ่งมีการจ้างคนงาน มากกว่า 40,000 คน สร้างเงินมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 15 เปอร์เซ็นของการรีไซเคิลเสื้อผ้าของโลกหรืแ 143,000 ตันต่อปี (จากการผลิตกว่า 100 ล้านตัน) เกิดขึ้นที่นี่
    .
    โรงงานของ Boer Group ทำการคัดแยกสิ่งทอมากกว่า 460 ตัน เพื่อส่งเสื้อผ้าที่ยังมีคุณภาพดีมากกลับสู่ท้องตลาด (Resell for Reuse) และส่งเสื้อผ้าที่วัสดุยังดีแต่ไม่สามารถขายได้อีก เข้ากระบวนการรีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นสินค้าตัวใหม่
    .
    “สำหรับผม ถ้าเสื้อผ้าที่ถูกทิ้ง ถูกขายกลับสู่มือผู้สวมใส่ได้อีกครั้ง นั่นย่อมดีกว่า เพราะการรีไซเคิลหมายถึงพลังงานและวัสดุที่ต้องเติมเข้าไปในกระบวนการอีก” Boer กล่าว
    .
    กระบวนการผลิต ขั้นตอนแรก คือการคัดแยกเสื้อผ้าออกเป็นหลากหลายโทนสีและประเภทวัสดุอย่างพิถีพิถัน จากนั้นเสื้อผ้าที่คัดแยกแล้ว จะผ่านกระบวนการ Carbonization เพื่อขจัดสิ่งสกปรกจากเซลลูโลส ก่อนจะนำไปซักแห้งด้วยกรดไฮโดรคลอริก
    .
    จากนั้นเสื้อผ้าที่สะอาดจะถูกส่งเข้าเครื่องหั่นแบบเปียกด้วยน้ำที่ใช้หมุนเวียนภายในโรงงานรีไซเคิล ในกระบวนการนี้กรงเล็บเหล็กจะฉีกผ้าออกจนกลายเป็นเส้นใยอีกครั้ง ก่อนจะส่งเส้นใยเหล่านั้นเข้าไปเป่าแห้งด้วยลมร้อน
    .
    เมื่อแห้งสนิท ผลลัพธ์ที่เห็นคือเส้นใยขนสัตว์รีไซเคิลละเอียดสีเดียวกลมกลืนกัน พร้อมนำมาปั่นเป็นเส้นด้าย เพื่อทอเป็นผ้าขนสัตว์เนื้อดีได้อย่างเส้นใยขนสัตว์บริสุทธิ์
    .
    “นี่คือกระบวนการสร้างเสื้อผ้าชิ้นใหม่ ที่ลดทั้งมลพิษและลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้มากกว่าหนึ่งครั้ง โดยการแยกเสื้อผ้าขนสัตว์ออกจากกันตามเฉดสี ทำให้เส้นใยสามารถกลับเข้าสู่วงจรการผลิตได้โดยไม่ต้องย้อมสี ซึ่งเป็นกระบวนการที่สร้างผลกระทบต่อ สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้มากกว่าหนึ่งครั้ง” Matteo Ward ผู้อำนวยการ Fashion Revolution ประเทศอิตาลี องค์กรเพื่อผลักดันความโปร่งใส และยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานแฟชั่น กล่าวชื่นชมกระบวนการรีไซเคิลเสื้อผ้าของเมือง Prato
    Sorce
    1. https://ngthai.com/environment/3315...Je45v1Ak6X7J3P90BdoKD9A48fRNI3VN8B3orSJbpyGNg
    2. https://www.plasticexpert.co.uk/fro...Iu5njwKbBoK3U_QffpK5WroblU8mrT4g3pLyGGlLbpwd8
    3. video: https://www.bbc.com/news/av/world-europe-55267992
    เรียบเรียง: Popjaneg

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    CLIMATE CHANGE: NASA เผยภาพสำรวจปีนี้ หิมาลัยไร้หิมะในฤดูหนาว น้ำแข็งละลายหายฮวบ! อุณหภูมิร้อนสูงขึ้น ละลายมากขึ้น
    .
    ในเดือนมกราคมของทุกปี เทือกเขาหิมาลัยจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่น้ำแข็งที่ละลายในช่วงฤดูหนาวของเดือนที่ผ่านมากลับทำให้บริเวณนั้นไม่ถูกปกคลุมด้วยสีขาวอีกต่อไป
    .
    จากในภาพข่าวที่ถ่ายโดยกล้อง Operational Land Manager บนดาวเทียมสำรวจ Landsat 8 จะเห็นได้ว่าธารน้ำแข็ง Nanpa ทางด้านซ้ายมือ และธารน้ำแข็ง Nup La ทางด้านขวาล่างถูกปกคลุมด้วยหิมะน้อยลง โดยภาพที่นำมาเปรียบเป็นภาพของวันที่ 13 ตุลาคม 2020 กับ 17 มกราคม 2021
    .
    เราจะเห็นว่าสีฟ้าในภาพมีน้อยลง บางส่วนถูกแทนด้วยสีน้ำเงิน หรือไม่ก็กลายเป็นสีน้ำตาลเลย มันเป็นคลื่นอินฟราเรดที่ถูกนำมาใช้ทำให้เราเห็นความแตกต่างของสิ่งต่าง ๆ ในภาพได้ดีขึ้น ดังนั้นบริเวณที่มีหิมะจะเป็นสีฟ้าอ่อน บริเวณที่เป็นน้ำแข็งจะเป็นสีฟ้าเข้ม บริเวณที่เป็นน้ำที่ละลายแล้วจะเป็นน้ำเงิน สีน้ำตาลที่เหลือจะเป็นพื้นที่ของหิน และสีเขียวจะเป็นพืชที่อยู่แถวนั้น ส่วนพื้นที่สีดำคือเงาของวัตถุต่าง ๆ
    .
    นอกจากภาพจากดาวเทียมสำรวจ นักธรรณีวิทยาพบว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 ถึงมกราคม 2021 แนวเส้นหิมะเฉลี่ย ซึ่งเป็นแนวที่พื้นผิวหิมะตกลงมาระดับต่ำที่สุด ถอยร่นมาประมาณ 100 เมตร ชี้ให้เห็นว่าเกิดการการละลายของหิมะอย่างเห็นได้ชัด
    .
    อีกสิ่งที่พบคือ บริเวณส่วนใหญ่ของธารน้ำแข็งในขณะนี้กำลังละลายทั้งปี ต่างจากเดิมที่จะหยุดละลายในฤดูหนาว จนทำให้แนวเส้นหิมะไม่เปลี่ยนระดับเท่าไหร่
    .
    ส่วนในช่วงที่หิมะมักละลายอย่างมากเป็นพิเศษ จากเดิมที่จะเป็นในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน ตอนนี้อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นก็ได้ขยายช่วงเวลาการละลายของน้ำแข็งให้นานขึ้น 4 เดือน Tom Matthews นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศจาก Loughborough University ชี้ว่า “สิ่งที่เราเห็นกันตอนนี้ก็คือสภาพอากาศที่คล้ายกับช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในช่วงเวลาของฤดูหนาวนั่นเอง”
    .
    Matthew และเพื่อนร่วมงานยังสังเกตเห็นอีกว่า ปกติแล้ว เมื่อถึงมรสุมฤดูร้อนหิมะยังสะสมอยู่ในบริเวณแต่ละปีประมาณ 75% แต่ตอนนี้ ในช่วงมรสุมฤดูร้อนในปี 2020 และ 2021 ด้วยการเพิ่มขึ้นของฝนและการละลายต่าง ๆ กลับทำให้ปริมาณหิมะตก และหิมะที่สะสมในระยะยาวบริเวณเอเวอเรสต์ลดน้อยลง
    .
    ซึ่ง Mauri Pelto นักธรณีวิทยาจาก Nicholas College เผยว่า อากาศที่เย็นขึ้น และหิมะที่ตกลงมาใหม่เท่านั้นถึงจะช่วยหยุดการละลายของหิมะได้ชั่วขณะ และอากาศที่แห้งและหนาวขึ้นของวันที่ 23 มกราคม 2021 ก็จะไม่ช่วยอะไร เพราะมันจะกระตุ้นการระเหิดของหิมะที่เป็นของแข็งให้เปลี่ยนไปเป็นก๊าซทันที ลดการปกคลุมของหิมะอย่างชัดเจน
    .
    Source:
    1. https://earthobservatory.nasa.gov/.../snow-free-glaciers...
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    DISCOVERY: ครั้งแรกในโลก นักวิจัยพบปลาไหลไฟฟ้า ร่วมมือกันหาอาหาร
    .
    Electric Eels หรือปลาไหลไฟฟ้าถูกค้นพบว่าร่วมมือกันเป็นกลุ่มเพื่อหาอาหารเป็นครั้งแรก
    .
    ปกติแล้วปลาไหลไฟฟ้านั้นมักจะออกหาอาหารตาม
    ลำพัง แต่การสำรวจล่าสุดพบว่าพวกมันนั้นมีพฤติกรรมการหาอาหารเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยพบมาก่อน
    .
    Dr. David de Santana และคณะวิจัยจากสถาบันพิพิธภันฑ์ธรรมชาติสมิชโซเนียน (Smithsonian’s National Museum) ได้เข้าสำรวจในผืนป่าแอมะซอน และได้พบเข้ากับปลาไหลไฟฟ้ามากกว่า 100 ตัว ซึ่งแต่ละตัวนั้นยาวประมาณ 1.2 เมตร พวกมันร่วมมือกันในการต้อนปลาเล็กๆ ให้รวมกันเป็นกลุ่มและเข้าโจมตี ซึ่งแต่ละตัวนั้นสลับกันทำหน้าที่ในการต้อนและกิน
    .
    “การร่วมมือกันหาอาหารเป็นกลุ่มนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่เป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งสำหรับสิ่งมีชีวิตประเภทปลา ซึ่งมีเพียงปลา 9 สปีชีส์เท่านั้นที่เรารู้จักว่าพวกมันร่วมมือกัน นี่เป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ สำหรับปลาไหลไฟฟ้ากลุ่มนี้” Dr. David กล่าว
    .
    Source :
    1. https://www.iflscience.com/.../electric-eels-found.../

    2. https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1002/ece3.7121

    เรียบเรียง : วิทิต
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    INNOVATION: หญิงชาวเคนยาคิดกรีน รีไซเคิลขยะพลาสติก สร้างอิฐสุดแข็งแรง! ได้รับรางวัล UN ด้านสิ่งแวดล้อม
    .
    จะมีวิธีไหนที่สามารถจำนวนลดขยะพลาสติที่หลุมฝังกลบ เพิ่มมูลค่าให้พลาสติกที่มักไม่ถูกนำไปรีไซเคิล และสร้างรายได้ให้ตนเอง และชุมชนได้ในเวลาเดียวกัน? Nzambi Matee สาวเคนยาวัย 29 ปี เห็นถึงช่องทางนี้จึงก่อตั้งบริษัท Gjenge Maker และผลิตอิฐที่ใช้ปูถนนในโรงเรียนจากพลาสติกที่เธอรับมารีไซเคิล ณ เมือง Nairobi ประเทศเคนยา
    .
    ซึ่งถึงจะทำมาจากพลาสติกมันก็ไม่แตก เธอใช้นวัตกรรมอัดพลาสติกจนสร้างผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรงกว่าอิฐจากคอนกรีต 5-7 เท่า และที่สำคัญคือถูกกว่าเหมาะสำหรับบ้านเรือนและอาคารที่ต้องการประหยัดเงิน
    .
    เธอเล่าว่าเธอรับพลาสติกเหลือใช้จากทางโรงงาน และนำมาผลิตอิฐใหม่ 1,500 ก้อนต่อวัน พลาสติกที่เธอใช้จะเป็นจำพวก HDPE จากขวดน้ำ ขวดแชมพู, LDPE จากถุงห่อซีเรียลและแซนวิส หลอดพลาสติก และ PP ที่ใช้ทำเชือก กระสอบ พื้นพรม รวมถึงถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบแข็ง
    แต่จะไม่รับพลาสติก PET พลาสติกที่พบได้ทั่วไปจากขวดน้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำมันพืช
    .
    ขั้นตอนการผลิตก็คือนำพลาสติกไปทำความสะอาด ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสมกับทราย นำไปอบที่ความร้อน 350 องศาเซลเซียส และอัดเป็นอิฐ ที่สามารถนำไปใส่สีเพิ่มความสวยงามและราคาได้ เพราะแต่ละชิ้นจะมีราคาต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีและความทนทาน อิญธรรมดาสีเทาก็จะมีราคประมาณ 7.70 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 231 บาทต่อตารางเมตร
    .
    จากไอเดียนี้ Matee ได้รับเลือกให้เป็น 1 หนึ่งใน Young Champion of the Earth ประจำปี 2020 ของ UNEP และได้รับทุนและการสนับสนุนในฐานะที่เธอเป็นนักนวัตกรรมรุ่นใหม่ และคิดพัฒนาสิ่งแวดล้อม พร้อมแก้ปัญหาที่โลกำลังเผชิญ
    .
    เธอออกแบบเครื่องสร้างอิฐของเธอเอง หลังจากพบว่าถุงพลาสติกถูกทิ้งเป็นขยะอยู่เกลื่อนตามแนวถนนใน Nairobi เป็นประจำ และเหนื่อยที่จะรอให้รัฐบาลออกมาจัดการและนั่งบ่นอยู่เฉย ๆ แล้ว ตั้งแต่ปี 2017 ที่เธอก่อตั้งบริษัทมา เธอเล่าว่าพวกเขาสามารถรีไซเคิลพลาสติกเหลืองทิ้งได้ไปกว่า 20 ตัน และตั้งใจจะผลักดันให้ถึง 50 ตันภายในสิ้นปีงบประมาณปีหน้า
    .
    ตอนนี้เธอนำอิฐของเธอไปปูตามโรงเรียน โดยหวังว่าสิ่งที่เธอได้ทำจะกระตุ้นให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ได้รับแรงบันดาลใจและออกมาเริ่มแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับชุมชน ในขณะเดียวกันก็สร้างรายได้ให้ตนเองได้ ส่วนในอนาคตเธอตั้งใจที่พัฒนาอิฐนี้ไปใช้ในการสร้างตึกต่อ
    .
    Source
    1. https://www.reuters.com/.../kenyan-recycles-plastic-waste...

    2. https://www.unenvironment.org/.../building-blocks-greener...

    3. https://gjenge.co.ke
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปี 2020 คนกรุงเทพฯ สูดฝุ่นพิษ PM 2.5 เท่ากับการสูบบุหรี่ 1,270.07 มวน | กรุงเทพฯ เมืองแห่งฝุ่นพิษ PM 2.5
    45y8rg14VUEnaNm4nW0Rp1vnHXf3Ihiew_hx_dqhWrv&_nc_ohc=Y4FRKSAiIP4AX-lQekI&_nc_ht=scontent.fbkk13-2.jpg

    ประเด็นปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 แม้จะเป็นชื่อที่เพิ่งได้ยินกันไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แต่จากข้อมูลของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) พบว่าประเทศไทย พบการเปลี่ยนแปลงของฝุ่นจิ๋วที่เพิ่มความเข้มข้นตั้งแต่ปี 2541-2559 โดยเฉพาะใน 5 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ น่าน พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เช่นเดียวกันกับในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่ต้องผจญปัญหาฝุ่นพิษเรื่อยมา ซึ่งในบางวันนั้นระดับฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ สูงจนติดอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว
    .
    จากการทำงานของ Rocket Media Lab ซึ่งทำงานด้านข้อมูลเพื่อการสื่อสารมวลชน โดยอ้างอิงข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์ The World Air Quality Index Project พบว่า ในปีที่ 2020 ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ อยู่ในระดับสีแดง ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มากถึง 14 วัน คิดเป็น 3.86% ระดับสีส้ม อากาศในระดับปานกลางแต่อันตรายต่อกลุ่มเสี่ยง 68 วัน คิดเป็น 18.73% ระดับสีเหลือง อากาศปานกลาง 210 วัน คิดเป็น 57.85% และระดับสีเขียว อากาศดี 71 วัน คิดเป็น 19.56%
    .
    จากข้อมูลยังพบว่า เดือนที่กรุงเทพฯ อากาศเลวร้ายเต็มไปด้วยฝุ่นพิษมากที่สุดในปี 2020 ก็คือเดือนมกราคม โดยวันที่มีค่าฝุ่นเป็นค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงสุดแห่งปี คือวันที่ 11 มกราคม 2020 อยู่ในระดับสีแดง สูงถึง 181 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และตลอดทั้งเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมา ไม่มีวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์สีเขียว ซึ่งหมายถึงอากาศดีเลย ส่วนวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สีเหลือง มีจำนวน 6 วัน วันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์สีส้ม ซึ่งหมายถึงอากาศระดับปานกลางแต่เป็นอันตรายต่อกลุ่มเสี่ยง มีจำนวน 20 วัน และมีวันที่ค่าอากาศแบบมาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงฝุ่น PM 2.5 สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในแถบสีแดง ซึ่งหมายถึงไม่ดีต่อสุขภาพ มีจำนวน 4 วัน (หมายเหตุเดือนมกราคมมีสถิติบันทึกไว้เพียง 30 วัน)

    #3 เดือนที่ค่าฝุ่นเลวร้ายที่สุด

    แต่ถึงอย่างนั้นเดือนมกราคมก็ยังไม่ใช่เดือนที่มีค่าฝุ่นเฉลี่ยสูงสุด เดือนที่มีค่าฝุ่นเฉลี่ยสูงสุดก็คือเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งไม่มีวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์สีเขียว หรืออากาศดีเลย ส่วนวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สีเหลือง มีจำนวน 6 วัน วันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์สีส้ม ซึ่งหมายถึงอากาศระดับปานกลางแต่เป็นอันตรายต่อกลุ่มเสี่ยง มีจำนวน 14 วัน และมีวันที่ค่าอากาศแบบมาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงฝุ่น PM 2.5 สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในแถบสีแดง ซึ่งหมายถึงไม่ดีต่อสุขภาพ มีจำนวน 9 วัน
    .
    สำหรับเดือนธันวาคม 2020 ซึ่งเป็นเดือนที่มีข่าวว่าค่าฝุ่น PM 2.5 ของกรุงเทพฯ สูงติดอันดับท็อปของโลกหลายวัน เดือนธันวาคม มีค่าฝุ่นเป็นมาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงสุดแห่งปีในวันที่ 15 ธันวาคม 2020 อยู่ในระดับสีแดง สูงถึง 161 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และไม่มีวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์สีเขียว ซึ่งหมายถึงอากาศดีเลย ส่วนวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สีเหลือง มีจำนวน 14 วัน วันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์สีส้ม ซึ่งหมายถึงอากาศระดับปานกลางแต่เป็นอันตรายต่อกลุ่มเสี่ยง มีจำนวน 16 วัน และมีวันที่ค่าอากาศแบบมาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงฝุ่น PM 2.5 สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในแถบสีแดง ซึ่งหมายถึงไม่ดีต่อสุขภาพ มีจำนวน 1 วัน
    .
    อย่างไรก็ตามค่าฝุ่นในแต่ละวันตามสถิติจากเว็บไซต์ The World Air Quality Project เป็นค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จึงอาจเป็นไปได้ว่าในวันหนึ่งๆ อาจจะมีบางเขตของกรุงเทพฯ ที่มีค่าฝุ่นสูงกว่าค่าเฉลี่ยและมีบางเขตที่มีค่าฝุ่นต่ำกว่าเฉลี่ย หรือแม้กระทั่งมีค่าฝุ่นอยู่ในปริมาณที่ใกล้เคียงกันในทุกๆ เขต
    .
    สำหรับวันที่ค่าฝุ่นต่ำที่สุดในรอบปี 2020 ในกรุงเทพฯ ก็คือ วันที่ 21 กันยายน ซึ่งมีค่าฝุ่นแบบค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง เพียง 26 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่เดือนกันยายนก็ยังไม่ใช่เดือนที่มีอากาศดีที่สุดของปี 2020 ของกรุงเทพฯ

    #3 เดือนที่มีอากาศ ‘ดี’ ที่สุด

    สำหรับเดือนที่มีอากาศดีที่สุดในปี 2020 ของกรุงเทพฯ ก็คือเดือนมิถุนายน มีค่าฝุ่นแบบค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในแถบสีเขียวอันหมายถึงอากาศดี มากถึง 18 วัน และวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สีเหลือง อีกจำนวน 12 วัน
    .
    รองลงมาคือเดือนกันยายน มีค่าฝุ่นแบบค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในแถบสีเขียว อันหมายถึงอากาศดี จำนวน 17 วัน และวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สีเหลือง อีกจำนวน 13 วัน
    .
    และอันดับสามเดือนกรกฎาคม อยู่ในแถบสีเหลือง-ส้ม ระหว่าง 61-80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อีก 6 วัน มีค่าฝุ่นแบบค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในแถบสีเขียว อันหมายถึงอากาศดี จำนวน 14 วัน และวันที่อากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สีเหลือง อีกจำนวน 17 วัน

    #ถ้าค่าฝุ่น PM 2.5 22 ug/m3 = บุหรี่ 1 มวน ปี 2020 ที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯ สูบบุหรี่ไปกี่มวน

    จากงานของ Dr. Richard A. Muller นักวิจัยชาวอเมริกันจากสถาบันวิจัยสภาพอากาศ Berkeley Earth แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ซึ่งคำนวณเปรียบเทียบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศหรือ PM 2.5 กับปริมาณการสูบบุหรี่ พบว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เทียบได้กับการสูบบุหรี่ 1 มวน ซึ่งหากนำค่าฝุ่นแบบค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงในแต่ละวันของปี 2020 มาคำนวณเปรียบเทียบตามเกณฑ์ของ Dr. Richard Muller จะพบว่า
    .
    เดือนกุมภาพันธ์ 2020 (ซึ่งถือเป็นเดือนที่มีค่าฝุ่นแบบค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงสูงสุด) คนกรุงเทพฯ สูดดมฝุ่นพิษ PM 2.5 เทียบเท่าการสูบบุหรี่จำนวน 166.90 มวน รองลงมาก็คือเดือนมกราคม คนกรุงเทพฯ สูดดมฝุ่นพิษ PM 2.5 เทียบเท่าการสูบบุหรี่จำนวน 164.60 มวน ตามมาด้วยเดือนธันวาคม 146.71 มวน
    .
    แม้แต่ในเดือนที่มีอากาศดีที่สุดแห่งปี 2020 อย่างเดือนมิถุนายน เมื่อคำนวณเปรียบเทียบดูแล้ว คนกรุงเทพฯ สูดดมฝุ่นพิษ PM 2.5 เทียบเท่าการสูบบุหรี่จำนวน 66.70 มวน รองลงมาก็คือเดือนกันยายน 69.80 มวน และเดือนกรกฎาคมจำนวน 73.41 มวน
    .
    โดยรวมแล้วในปี 2020 ที่ผ่านมาคนกรุงเทพฯ สูดดมฝุ่นพิษ PM 2.5 เทียบเท่าการสูบบุหรี่ ทั้งหมดจำนวน 1,270.07 มวน
    .
    อย่างไรก็ตาม มีนักวิชาการชี้ว่าควันพิษจากบุหรี่นั้นมีสารพิษมากกว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก

    #แล้วกรุงเทพมหานครแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 อย่างไร

    แม้จะยังไม่มีนโยบายอย่างชัดเจนว่ากรุงเทพมหานครจะแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ด้วยวิธีใด แต่จากการสืบค้นข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของกรุงเทพมหานคร ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 พบว่า
    .
    มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการให้ความรู้ปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 หลายโครงการ อาทิ โครงการ 63067289066 จ้างเหมาผลิตอินโฟกราฟิกภัยแล้ง, อุทกภัย, ฝุ่น PM 2.5 ตามโครงการบริหารจัดการสำนักข่าวแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2563 งบประมาณ 140,000 บาท
    .
    โครงการ 62027379217 จ้างผลิตวีดิทัศน์ เรื่อง อาชีวะอาสาลดควัน ลดฝุ่น ประดิษฐ์เครื่องพ่นละอองน้ำช่วยบรรเทาอากาศพิษ PM 2.5 ของกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักอำนวยการ งบประมาณ 35,000 บาท
    .
    โครงการ 63027449850 จ้างผลิตโปสเตอร์และแผ่นพับ รณรงค์ปัญหา PM 2.5 งบประมาณ 36,000 บาท โครงการ 62097156993 จ้างเหมาจัดพิมพ์แผ่นพับการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษและแผ่นพับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 งบประมาณ 99,243 บาท
    .
    โครงการ 63027178209 จ้างเหมาจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนและป้องกันตนเองจากอันตรายของฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) จำนวน 6 รายการ งบประมาณ 500,000 บาท
    .
    โครงการ 62117207767 จ้างผลิตบอลลูนนิทรรศการ รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่อง PM 2.5 งบประมาณ 75,000 บาท
    .
    โดยนอกจากโครงการประเภทการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแล้ว ยังพบโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น โครงการ 62087496935 จ้างที่ปรึกษาศึกษาแหล่งกำเนิดฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) และสารมลพิษตั้งต้นของฝุ่นทุติยภูมิ (Secondary PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล งบประมาณ 500,000 บาท
    .
    โครงการ 63027015453 จ้างตรวจวัดและบริการวิเคราะห์ฝุ่น PM 2.5 จำนวน 1 งาน งบประมาณ 344,400 บาท โครงการ 62117384825 จ้างเหมาจัดหาและรวบรวมข้อมูลดาวเทียมที่มีศักยภาพให้ข้อมูล PM 2.5 โดยตรงและดาวเทียมที่ให้ข้อมูลปัจจัยทางกายภาพที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อ PM 2.5 งบประมาณ 250,000 บาท
    .
    โครงการ 62067450151 และ 62067162163 ซื้อเครื่องวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 งบประมาณโครงการละ 10,593 บาท โครงการ 63067010922 ซื้อหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 และ PM10 ประจำปีงบประมาณ 2563 จำนวน 500 ชิ้น งบประมาณ 63,000 บาท โครงการ 63047221860 ซื้อหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 งบประมาณ 15,000 บาท
    .
    โครงการ 62127178708 ประกวดราคาชื้อเครื่องตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) แบบอัตโนมัติสำหรับตรวจวัดภายนอกอาคาร จำนวน 2 ชุด งบประมาณ 2,953,200 บาท โครงการ 63047337278 ประกวดราคาซื้อเครื่องเก็บตัวอย่างฝุ่นในปล่องระบายตามวิธีการมาตรฐาน (PM 2.5/PM 10/TSP) กรอ.พญาไท จำนวน 1 ชุด, กรอ.เชียงใหม่ จำนวน 1 ชุด งบประมาณ 1,876,400 บาท
    .
    ยังปรากฏโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่สอดคล้องกับกิจกรรมการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของทางกรุงเทพมหานครอีกหลายรายการ เช่น กิจกรรม Big Cleaning ปฏิบัติการล้างทำความสะอาดพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 50 เขต ในวันที่ 18 ธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา ก็พบโครงการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์จำพวกเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หัวฉีดน้ำ ฯลฯ อีกมากมาย
    .
    ในขณะที่โครงการที่ปรากฏตามข่าวในปีที่แล้ว เช่น การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศบนหลังคารถเมล์นั้น เป็นงบประมาณจากกระทรวงคมนาคม ส่วนโครงการของกรุงเทพมหานครอื่นๆ ที่มีการพูดถึงในข่าว เช่น หอฟอกอากาศ จำนวน 24 หอ งบประมาณราว 127 ล้านบาท ยังไม่ปรากฏมีการจัดซื้อจัดจ้าง
    .
    Source: Rocket Media Lab

    หมายเหตุ:
    อ้างอิงข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์ The World Air Quality Index Project ซึ่งค่าฝุ่นเป็นค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง

    ค่ามาตรฐานอ้างอิงจาก Air Quality Index Scale and Color Legend
    ข้อมูลที่พบมี 363 วัน ขาดหายไปสองวัน ดังนั้นค่าเปอร์เซ็นต์จึงคิดจากข้อมูลที่มีอยู่

    PM2.5 เทียบกับบุหรี่ คำนวณจาก CMU CCD

    ดูข้อมูลพื้นฐานได้ที่ : https://tinyurl.com/pm25bkk2020
    ติดต่อเพิ่มเติม Rocket Media Lab: contact.rocketmedialab@gmail.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...