ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    INNOVATION: นักวิทย์พัฒนา"ไม้ใสโปร่งแสง" ที่เบา และแข็งแรงกว่าแก้ว หวังทำหน้าต่างเป็นมิตร ประหยัดพลังงาน
    .
    นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาไม้แบบใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนให้มีรูปแบบที่โปร่งแสง เป็นทางเลือกใหม่ใช้กระจกหน้าต่างธรรมดาได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานมากกว่า
    .
    งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances นี้เผยถึงขั้นตอนการทำกระจกว่า มันเริ่มต้นจากใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทาบนไม้ ทิ้งไว้ใต้แสง UV ที่จำลองมาจากแสงไฟธรรมชาติ ก่อนจะนำไปจุ่มในเอทานอล และอุดรูด้วยอีพ็อกซี่ใสอีกที
    .
    ผลที่ได้มาคือ ไม้จะเปลี่ยนหน้าตาเป็นไม้ที่ใส และโปร่งแสงขึ้น เบาขึ้น แต่แข็งแรงขึ้นกว่ากระจกแบบธรรมดา สามารถนำไปทำเป็นกระจกหน้าต่าง หรือหลังคาก็ได้
    .
    ที่สำคัญคือ มันจะเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีกว่า นักวิจัยจาก University of Maryland ผู้นำการวิจัยเผยว่า กระบวนการเปลี่ยนโครงสร้างลิกนิน (lignin) ของไม้จะเป็นการป้องกันไม่ให้แสงผ่านเข้าไปในวัสดุดังกล่าว ดังนั้นกระจกไม้แบบนี้ก็จะประหยัดพลังงานภายในบ้านได้มากกว่า
    .
    ก่อนหน้านี้ เคยมีกระจกไม้โปร่งแสงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นวัสดุที่สามารถปรับปรุงคุณสมบัติการกักเก็บความร้อนของอาคาร ในขณะเดียวกันก็ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และกำจัดได้ง่ายกว่าแก้ว แต่วิธีทำกระจกแบบนั้นต่างจากวิธีการทำไม้โปร่งแสงในครั้งนี้ตรงที่มันจะนำโครงสร้างลิกนินออกจากไม้หมดเลยโดยใช้สารเคมีที่เข้มข้น ส่วนไม้ที่ได้ออกมาก็จะอ่อนแอกว่า ไม่แข็งแรงเท่าวิธีแบบใหม่
    .
    นักวิจัยผู้ผลิตกระจกใสนี้เผยว่า กระจกของเขาใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าแบบเดิม อีกทั้ง
    การผลิตนี้ยังเหมาะสำหรับการผลิตในสเกลที่ใหญ่ขึ้นเพื่อนำกระจกไปใช้ในอาคารที่เน้นการประหยัดพลังงานได้
    .
    ถึงไม้ใสจากงานวิจัยนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายและถูกนำไปใช้ในการผลิตอาคารมานัก ก่อนหน้านี้ก็มีการนำไม้มาดัดแปลง และทดแทนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตราย และย่อยสลายไม่ได้มากขึ้น อย่างเช่น ไม้จากบริษัทที่มีชื่อว่า “Woodoo” เขานำไม้มาใช้สร้างจอแสดงผลที่ไวต่อการสัมผัสในแผงหน้าปัดของรถยนต์ ที่ดูไกล ๆ อาจไม่คิดว่าทำมาจากไม้เลย
    .
    Source
    1.https://www.independent.co.uk/.../energy-saving...

    2. https://advances.sciencemag.org/content/7/5/eabd7342 งานวิจัย

    3. https://www.usda.gov/.../transparent-wood-could-be-window...

    4..https://injectionmouldingworld.com/woodoo-transforms.../

    เรียบเรียง: DJ
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    SPACE: Starship SN9 จรวดต้นแบบของ SpaceX เกิดการระเบิดขณะลงจอด ในการบินทดสอบ เพื่อเตรียมไปดาวอังคาร
    .
    วิทยาศาสตร์ และความก้าวหน้ามักอยู่กับความผิดพลาดอยู่เสมอ พวกมันเป็นครูที่ยิ่งใหญ่ในวงการแห่งความรู้ของมนุษย์ และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งในนับครั้งไม่ถ้วนของวิทยาศาสตร์เมื่อเกิดการระเบิดของจรวด Starship SN9
    .
    จรวด SN9 เป็นจรวดต้นแบบรุ่นล่าสุดของ SpaceX ได้ทำการทดสอบบินเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 (ตามเวลารัฐ Texas, USA) หลังจากการบินขึ้นด้วยเครื่องยนต์ Raptor รุ่นใหม่ตามแผน จรวดได้บินขึ้นถึงความสูงที่ประมาณ 10 กิโลเมตร และขณะที่ทำการลงจอด SN9 นั้นสูญเสียการควบคุมและไม่ได้ชะลอความเร็วลงตามแผน จึงทำให้จรวดนั้นตกสู่พื้นดินเกิดเป็นการระเบิดไฟบนสนามฐานปล่อยจรวด
    .
    Starship นั้นได้รับการออกเเบบเพื่อที่จะเป็นพาหนะขนส่งสิ่งของ และมนุษย์ไปยังดวงจันทร์และดาวอังคารของ SpaceX ซึ่งจะเป็นจรวดที่บินขึ้นลงที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ทำให้ SpaceX สามารถลดต้นทุนในการผลิตจรวดขึ้นสู่อวกาศได้อย่างมหาศาล ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่ง แม้จะสะดุดบ้าง แต่เราจะค่อย ๆ ก้าวได้เก่งขึ้น และมั่นใจขึ้น
    .
    Source:
    1. https://www.space.com/spacex-starship-sn9-test-flight...

    เรียบเรียง :วิทิต
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    CLIMATE CHANGE: "รัฐบาลต้องลงมือทำให้มากกว่าที่พูด" ศาลฝรั่งเศสตัดสินสั่งรัฐบาลฝรั่งเศสต้องมีมาตรการที่จริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศมากกว่านี้ นักเคลื่อนไหวชี้เป็นการตัดสินที่สำคัญ ที่จะนำไปสู่ความกดดันให้ทั่วโลกเร่งแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
    .
    คดีนี้ถูกฟ้องร้องโดยกลุ่มไม่แสวงผลกำไร NGOs ที่ชี้ว่ารัฐบาลไม่ลงมือทำอย่างจริงจังในการสัญญาที่จะลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อบรรลุเป้าหมายความตกลงปารีส
    .
    ในคำตัดสินศาลปกครองของฝรั่งเศสเผยว่ารัฐบาลนั้นยังลงมือทำไม่เพียงพอในการสร้างมาตรการที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกได้
    .
    จากคำตัดสินดังกล่าว โฆษกรัฐบาล Gabriel Attal เผยว่ามันเป็นความจริงที่ในอดีตยังไม่มีแอคชั่นที่มากพอในการแก้ไขปัญหา แต่ปัจจุบันนี้รัฐบาลกำลังเร่งทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
    .
    Cecile Duflot ผู้อำนวยการองค์กร Oxfam France หนึ่งใน NGOs ที่ทำการฟ้องดังกล่าวเผยว่าคำตัดสินนี้เป็นชัยชนะทางประวัติศาสตร์ของความยุติธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
    .
    "นี่เป็นครั้งแรกที่ศาลฝรั่งเศส ได้มีการตัดสินให้รัฐต้องรับผิดชอบต่อคำมั่นสัญญาด้านสภาพภูมิอากาศ คำตัดสินนี้เป็นการย้ำเตือนว่ารัฐบาลทั่วโลกต้องลงมือทำให้มากกว่าที่พูด"
    .
    เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลปกครองของฝรั่งเศสได้ให้เวลารัฐบาล 3 เดือนในการแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีนโยบายแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจน และต้องทำให้แน่ใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังจากที่มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น
    .
    ฝรั่งเศสในฐานะเจ้าภาพของความตกลงปารีสในปี 2015 ให้สัญญาว่าจะลดก๊าซเรือนกระจก 40% จากระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 1990 ให้ได้ภายในปี 2030 แต่ศาลได้เห็นว่าฝรั่งเศสนั้นไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้ และล่าช้าในความพยายามลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมาก
    .
    Source:

    1. https://www.reuters.com/.../french-court-rules-france-not...

    2. https://www.facebook.com/environman.th/posts/3222496227878802/

    3. https://www.reuters.com/.../french-court-gives-macron...

    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ENERGY: Australia เตรียมโกกรีนกว่าเดิม ด้วยพลังงานจากคลื่นทะเล
    .
    เวลาพูดถึงพลังงานสะอาด หลายๆคนจะผุดนึกถึง พลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลล์ พลังงานลมจากกังหัน พลังงานน้ำจากการปล่อยน้ำในเขื่อน หรือพลังงานความร้อนจากใต้พื้นโลก แต่ครั้งนี้ Wave Swell Energy ได้นำเสนอพลังงานใหม่ที่จะเป็นที่น่าจดจำ คือพลังงานจากคลื่นทะเล!
    .
    เทคโนโลยีที่สร้างพลังงานจากการลอกเลียนแบบการทำงานของช่องลมกำลังจะถูกนำมาใช้ใน King Island, Tasmania เกาะทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย
    .
    เครื่องผลิตพลังงานจากคลื่นจะมีลักษณะเหมือนเรือที่มีห้อง และประตูบานกว้างใต้น้ำทะเลสำหรับที่จะปล่อยให้น้ำทะเลไหลเข้าไป ซึ่งการที่น้ำไหลเข้าไปนี้จะเป็นการดันลมในห้องให้หมุนเวียนและเกิดเป็นพลังงาน
    .
    จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเกาะทางตอนใต้ของออสเตรเลียเป็นเกาะที่มีลมแรงทำให้มีการก่อคลื่นค่อนข้างสูงจึงเหมาะกับการใช้พลังงานใหม่นี้เป็นอย่างมาก เพราะการสร้างพลังงานจากคลื่นทะเลนี้สามารถสร้างพลังงานให้ประเทศออสเตรเลียใช้ได้มากถึง 11% ภายในปี 2050! หรือเท่ากับขนาดพลังที่ใช้ทั่วเมือง Melbourne
    .
    เดิม King Island เป็นที่อยู่อาศัยของประชากรจำนวนประมาณ 7,000 คน และใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประมาณ 2 ใน 3 ต่อปี แต่ด้วยเครื่องผลิตพลังงานจากคลื่นนี้ มันจะทำให้คนในเกาะนี้สามารถเปลี่ยนจากการใช้พลังงานหมุนเวียนมาใช้พลังงานสะอาดได้ถึง 100%
    .
    อย่างไรก็ตามทาง Wave Swell ยังคงทดลองเครื่องผลิตพลังงานกับขนาดต่าง ๆ ของคลื่น เพื่อดูว่าขนาดของคลื่นที่แตกต่างกันสามารถผลิตพลังงานได้มากน้อยขนาดไหน
    .
    Source:
    1.https://www.theguardian.com/.../remote-tasmanian-island...

    2. https://thewest.com.au/.../blowhole-energy-to-power...

    Video link
    https://youtu.be/hDfThTDcqbE

    เรียบเรียง:buras
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL: วิดีโอแพนด้ากลิ้ง ลื่น สไลด์บนหิมะอย่างมีความสุขในศูนย์อนุรักษ์ Smithsonian Conservation Biology Institute
    .
    Smithsonian National Zoo and Conservation Biology Institute ใน Washington, D.C. เปยวิดีโอสุดน่ารักของแพนด้า Mei Xiang และ Tian Tian กำลังเอ็นจอยหิมะครั้งแรกของปีอย่างสนุกสนาน
    .
    ขอให้วันนี้เป็นวันที่มีความสุข 1f43c.png
    .
    ที่มา
    https://www.facebook.com/nationalzoo/

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    INNOVATION: นักวิจัยชี้ขยะหน้ากากอนามัยอาจสามารถนำมารีไซเคิลเป็นถนนได้ หวังช่วยลดขยะจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ถูกทิ้งอย่างมหาศาล
    .
    การแพร่ระบาด-19 ทำให้ขยะต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างมากแบบหลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นขยะพลาสติกจากอาหารเดลิเวอรี่ หรือขยะหน้ากากอนามัย ที่กำลังกลายเป็นมลพิษใหม่ของโลก ตกค้างในสิ่งแวดล้อม และเกิดปัญหาในการกำจัด จึงมีความพยายามมากมายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
    .
    ล่าสุดนักวิจัยและวิศวกรจาก RMIT ได้พัฒนาวัสดุปูถนนจากขยะหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียวทิ้ง ผสมกับยางก่อสร้าง เพื่อสร้างถนนที่พวกเขาเผยว่าได้มาตรฐานปลอดภัย และจะช่วยแก้ไขปัญหาขยะมหาศาลที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงการแพร่ระบาดโควด-19
    .
    โดยงานวิจัยนี้ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Journal Science of the Total Environment ชี้ว่าการใช้วัสดุเหล่านี้ในการสร้างถนน 2 เลน 1 กิโลเมตรต้องใช้หน้ากากกว่า 3 ล้านชิ้น และช่วยป้องกันไม่ให้ขยะกว่า 93 ตันต้องไปลงในหลุมฝังกลบ
    .
    ผู้นำงานวิจัย Dr. Mohammad Saberian เผยว่ากลุ่มนักวิจัยพบว่าการหลอมคอนกรีตรีไซเคิล และหน้ากากอนามัยเข้าด้วยกันจะสร้างถนนที่แข็งแรง และมีความยืดหยุ่นมากกว่า
    .
    ซึ่งพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ได้ห็นขยะจากช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เยอะมากที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อม พวกเขาจึงอยากหาวิธีที่จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากร และลดขยะเหล่านี้
    .
    แต่ในอีกมุมหนึ่ง Sami Kara ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอย่างยั่งยืนจาก University of New South Wales เผยความกังวลว่าการนำหน้ากากอนามัยไปทำถนนนั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะอาจเป็นการลดคุณภาพของวัสดุ "Downcycling"
    .
    โดยชี้ว่าการรีไซเคิลหน้ากากอนามัยนั้นควรทำให้มันกลับมาเป็นวัสดุ และสร้างประโยชน์แบบเดิม เนื่องจากตอนนี้มีความต้องการหน้ากากอนามัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และควรที่จะมุ่งแก้ไขปัญหานี้ที่มองถึงระยะยาว
    .
    และเผยว่าส่วนประกอบของหน้ากากอนามัย ที่ทำจากพลาสติกนั้น อาจนำไปสู่ปัญหาสิ่งแวดล้อมเสียเองนั่นก็คือ มลพิษไมโครพลาสติกที่อาจถูกปล่อยมาได้
    .
    อย่างไรก็ตามขณะนี้ปัญหาขยะหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกัน PPE อื่นๆเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยตกค้างในสิ่งแวดล้อมทั้งบนบก และในน้ำซึ่งเป็นอันตราย
    .
    โดยมีการคาดการณ์ว่ามีหน้ากากอนามัยถูกใช้ และทิ้งกว่า 6.8 พันล้านชิ้นต่อวัน การแก้ไขปัญหาขยะหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งเร่งด่วนที่ต้องเราทุกคนต้องช่วยกัน
    .
    เราสามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาขยะหน้ากากอนามัยได้ โดยการลดการใช้แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และใช้แบบที่สามารถใช้ซ้ำได้ รวมถึงแยกขยะหน้ากากอนามัย เพื่อที่จะให้มันได้ไปกำจัดอย่างถูกต้อง และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

    Source:

    1. https://www.theguardian.com/.../australian-researchers...

    2. https://www.sciencedirect.com/.../pii/S0048969721005957...

    3. https://phys.org/.../2021-02-recycling-masks-roads-tackle...

    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL: พบกิ้งก่าคาเมเลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ ในมาดากัสการที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
    .
    กิ้งก่าจิ๋วตัวนี้เป็นกิ้งก่าที่อยู่ในสปีซีส์ของคาเมเลี่ยน โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Brookesia nana หรือเรียกอีกชื่อนึงว่า nano-chameleon
    .
    โดยที่กิ้งก่าสายพันธุ์นี้นั้น มีขนาดเล็กมาก จนสามารถจะอยู่ปลายนิ้วได้เลยทีเดียว
    .
    ซึ่งในครั้งนี้ได้พบเจอเพียงสองตัวเท่านั้น แต่ก็ถือเป็นโชคดี เพราะทั้งสองตัวนั้นต่างเพศกัน ในตัวเมียจะมีความยาวจากหัวถึงหาง 29 มิลลิเมตร ส่วนตัวผู้จะมีความยาวจากหัวถึงหางเพียง 22 มิลลิเมตรเท่านั้น มันจึงเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่เล็กที่สุดในโลก
    .
    เรื่องที่น่าเศร้าคือพื้นที่ที่พวกมันอาศัยอยู่นั้นได้เผชิญปัญหาเช่นเดียวกับป่าไม้อื่น ๆ คือมีความเสี่ยงในการโดนตัดไม้ทำลายป่า ทำลายที่อยู่ต่าง ๆ ของสัตว์ป่า
    แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีกำหนดการมาให้พื้นที่ที่อยู่อาศัยของมันเป็นที่คุ้มครอง ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ พวกนี้อยู่รอดต่อไปในบ้านของมันได้
    .
    Source:
    1. https://www.unilad.co.uk/.../newly-discovered-nano.../...

    2. https://www.nature.com/articles/s41598-020-80955-1
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แม่ตะลึง! ลูกน้อยเดินเข้าป่า กลับบ้านมาพร้อมลูกกวางน้อย ทำเอาแม่แทบเป็นลม
    .
    "Dominic ออกไปนอกบ้าน และนำกวางกลับมาที่บ้าน" คุณแม่ Stephanie Brown จาก Massanutten, Virginia เผยขณะที่เธอต้องตกใจอย่างมาก เมื่อลูกน้อยของเธออายุ 4 ขวบ นำลูกกวางน้อยกลับบ้านมาด้วย
    .
    วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ระหว่างที่ครอบครัวไปเที่ยวช่วงวันหยุด ณ รีสอร์ท Massanutten, Virginia ลูกน้อยของ Stephanie Brown ชื่อว่า Dominic วัยสี่ขวบได้ไปทำความรู้จัก และเล่นกับลูกกวางในป่าที่อยู่ริมรีสอร์ท และกลับมาบนบ้านพร้อมกับเจ้ากวางน้อยตัวนั้น
    .
    โดยหลังเห็นเหตุการณ์นี้คุณแม่ได้รวบรวมสติ และสามารถถ่ายภาพโมเมนต์สุดน่ารักนี้ไว้ได้ โดยทั้งสองดูสนิทสนมกันอย่างกับว่าเป็นเพื่อนกันมานาน และเจ้าลูกกวางก็ไม่ได้มีท่าทีกลัวคุณแม่แต่อย่างใด
    .
    Dominic ได้ตั้งชื่อเจ้ากวางน้อยตามฮีโร่ใน DC Comics ว่าเจ้า "Flash"
    .
    หลังจากนั้น Stephanie ก็ได้บอกให้ Dominic เดินไปส่งเพื่อนของเขากลับไปเข้าป่า เพื่อที่จะกลับไปหาครอบครัวของมัน
    .
    ที่มา

    https://www.facebook.com/100000150875576/posts/4317448498270137/?d=n

    https://www.dailymail.co.uk/.../People-fawn-four-year-old...

    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    CLIMATE CHANGE: ลงเรือลดโลกร้อน หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ปล่อยก๊าซกระจกมหาศาล เข้าร่วมแผนลดก๊าซโลกร้อน มุ่งเป้าคาร์บอนศูนย์ในปี 2050
    .
    กว่า 400 บริษัทที่มีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโลก ตั้งแต่บริษัทชิปปิ้งไปจนถึงบริษัทสร้างเหล็กกล้าได้เปลี่ยนแผนตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนภายในปี 2050 ตามข้อมูลของกลุ่มแนวร่วมของผู้สนับสนุนสภาพภูมิอากาศที่จัดตั้งข้อตกลงนี้
    .
    ข้อตกลงนี้จะประกาศ ณ การประชุมออนไลน์ Davos World Economic Forum ในวันพุธ บริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่อย่าง Arcelor Mittal บริษัทช้ิปปิ้ง Maersk และบริษัทน้ำมัน Shell ก็จะเข้าร่วมด้วย พวกเขามีจุดมุ่งหมายที่จะดำเนินการให้สอดคล้องกับความทะเยอทะยานระดับโลกที่จะลดการปล่อยมลพิษอย่างมากขึ้น ตามที่นักวิทยาศาสตร์เคยชี้ว่าจำเป็น ถ้าอยากจะหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    บริษัทที่จะอยู่ในข้อตกลงนี้มีจาก 7 อุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ทั่วโลกอย่าง อุตสาหกรรมเหล็กกล้า ซีเมนต์ เคมี อะลูมิเนียม ขนส่งชิ้ปปิ้ง การบิน และการบรรทุก ที่เมื่อคิดรวมกัน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทเหล่านี้ที่ผ่านมานับเป็น 1 ส่วน 3 ของก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยไปยังชั้นบรรยากาศเลยก็ว่าได้
    .
    บริษัททั้งหมดในข้อตกลง Mission Possible Partnership (ชื่อที่ยังไม่เป็นทางการนี้) ให้คำมั่นสัญญาว่า บริษัทเหล่านั้นจะทำงานร่วมกับคู่แข่งนักลงทุน ซัพพลายเออร์ และผู้ซื้อเพื่อสร้างข้อตกลง “การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ” ให้เกิดขึ้นภายในปี 2024 เพื่อให้บรรลุการปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ภายในปี 2050
    .
    ข้อตกลงนี้ตั้งเป้าว่าจะเร่งความพยายามในการต่อสู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ข้อตกลงปารีสเคยกำหนดไว้ ซึ่งถ้าจะหวังให้แต่ละประเทศดำเนินการเพื่อหยุดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสนั้นคงไม่เพียงพอ มันจำเป็นที่ต้องมีอุตสาหกรรมหลักเข้ามาร่วมมือในการลดการปล่อยมลพิษ
    .
    ในอุตสาหกรรมการบิน สารการบิน KLM สนามบิน Heathrow และบริษัทน้ำมัน Shell ก็เข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าวเพื่อที่จะวางแผนสู่เป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยมีแผนที่จะเปลี่ยนทั้งอุตสาหกรรมให้หันมาใช้พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพมากขึ้น
    .
    บริษัทผู้ที่เข้าร่วมข้อตกลงนี้หวังว่าสิ่งนี้จะสร้างการเคลื่อนไหวในการประชุมนานาชาติเรื่องสภาพภูมิอากาศในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ Glasgow
    .
    Source
    1. https://www.reuters.com/.../heavy-industry-transport...

    เรียบเรียง: DJ
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    BREAKING: เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลียเคราะห์ซ้ำ เกิดเหตุไฟป่าอ่วมระอุ! วอด 5 หมื่นไร่ บ้าน 70 หลัง สั่งผู้คนอพยพนับพัน ท่ามกลางล็อคดาวน์
    .
    เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลียทรุดหนักเผชิญไฟป่าอ่วม ลมแรงทำลายพื้นที่แล้วกว่า 22,240 เอเคอร์ หรือ 56,267 ไร่ บ้านเรือนเสียหายกว่า 71 หลัง สั่งผู้คนย้ายออกจากพื้นที่ ขณะมีการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19
    .
    วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 รายงานเผยว่าลมที่แรง และอากาศที่ร้อนแห้งแล้งทำให้เกิดไฟป่าระอุในเมือง Perth ตะวันออกของออสเตรเลีย โดยขณะนี้กินพื้นที่แล้วกว่า 22,240 เอเคอร์ และทำลายบ้านกว่า 71 หลัง
    .
    โดยขณะนี้ได้ระดมพนักงานดับเพลิงกว่า 200 ชีวิตเข้าพื้นที่ และได้เตือนให้ผู้คนใน Bullsbrook ที่มีผู้คนกว่า 6,600 คนได้อพยพออกจากบ้าน ท่ามกลางการล็อกดาวน์
    .
    ทั้งนี้พื้นที่เมือง Perth มีการล็อกดาวน์ 5 วันเริ่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากพบการติดเชื้อโควิด-19 หนึ่งราย แต่ภัยคุกคามจากการแพร่ระบาดก็ต้องถูกซ้ำเติมด้วยภัยที่รุนแรงก็คือไฟป่าที่ทำให้ทางการจำเป็นต้องขอให้ผู้คนอพยพหนีจากบ้านของพวกเขา
    .
    ภาพ Evan Collis
    .
    Source
    1. https://www.reuters.com/.../australia-tells-thousands-to...

    2. https://edition.cnn.com/.../perth-evacuation.../index.html

    3. https%3//apnews.com/.../western-australia-wildfires...

    4. https://www.bbc.com/news/world-australia-55897659

    5. https://www.youtube.com/watch?v=0qbf4LKB6r8

    6.
    https://www.facebook.com/dfeswa/


    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    DISCOVERY: พบหลุมศพ 60 หลุม โบราณอายุ 1,500 ปี! ยุค Anglo Saxons พร้อมสิ่งของใต้หอพักนศ.เคมบริดจ์
    .
    มีการขุดพบสุสานจากยุคกลางใต้หอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Cambridge เป็น “หนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีของยุค Anglo-Saxon ที่น่าตื่นเต้นที่สุดตั้งแต่ที่เคยพบมาในศตวรรษที่ 19”
    .
    ทีมจาก King’s College ค้นพบสุสานที่ใหญ่โต และมีหลุมศพมากกว่า 60 หลุมนี้ หลังจากที่ได้รื้อถอนอาคารกลุ่มหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่สร้างมาตั้งแต่ช่วงปี 1930 และเคยเป็นที่พักของของบัณฑิต และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ทางตะวันตกของเมือง เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนเป็นสร้างห้องโถงที่ทันสมัยมากขึ้น
    .
    ซึ่งในหลุมศพนี้ พวกเขายังค้นพบวัสดุกว่า 200 ชิ้น ประกอบไปด้วยเข็มกลัดทองแดง สร้อยลูกปัด ดาบ ใบมีดสั้น เครื่องปั้นดินเผา และขวดแก้ว ทั้งหมดนี้มาจากต้นยุค Anglo-Saxon ประมาณ ค.ศ. 400 - ค.ศ. 650 และก็ยังมีการพบวัสดุที่มีโครงสร้างเหมือนของยุคเหล็ก และวัสดุที่เป็นงานฝีมือของชาวโรมันที่เคยอยู่อาศัยในบริเวณนั้นมาก่อน
    .
    Dr Caroline Goodson ผู้ที่สอนประวัติศาสตร์ยุคกลางอยู่ที่ King’s College เผยว่า “ซากคนที่พบนั้นยังอยู่ในสภาพที่ดีอย่างมาก ดินอัลคาไลน์ที่พบเจอได้ปกติแถวนั้นไม่ทำให้กระดูกย่อยสลายเลย”
    .
    การค้นพบนี้ถือว่าสำคัญ เพราะมันจะทำให้นักโบราณคดีสามารถใช้เทคโนโลยีที่โมเดิร์นของยุคสมัยนี้ชี้ให้เห็นว่าคนในยุคนั้นทานอาหารประเภทไหน และ DNA ของซากศพนั้นเป็นอย่างไร ตลอดจนทำให้สามารถเชื่อมโยงเรื่องการอพยพถิ่นฐานของผู้คน และระบุบรรพบุรุษของบางครอบครัวได้
    .
    แน่นอน ทีมผู้ค้นพบที่ King’s College จ้างมาเผยว่าพวกเขารู้สึกประหลาดใจมากที่ได้เห็นหลุมศพเยอะขนาดนี้ และก็ประหลาดใจที่หลุมศพจากยุคกลางเหล่านั้นที่อยู่ท่ามกลางวัสดุของชาวโรมัน และตั้งใกล้กับซาก Roman Cambridge บริเวณที่ชาวโรมันเคยอยู่อาศัยในอังกฤษมาก่อน
    .
    จากหนังสือ Ecclesiastical History ที่เขียนเมื่อศตวรรษที่ 8 Cambridge เคยถูกทิ้ง เหมือนกับเมืองที่ชาวโรมันเคยมาอยู่อาศัยอื่น ๆ เนื่องจากชาวโรมันได้ถอนกำลังทหารออกจากอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 5
    .
    Goodson เผยว่า “พวกเรารู้อยู่แล้วว่า Cambridge ไม่ได้ถูกทิ้งทั้งหมด แต่การที่เราพบเจอวัสดุเหล่านี้ทำให้เราเห็นภาพที่ใหญ่และชัดกว่าเดิมเกี่ยวกับการเป็นอยู่ของคนหลังยุคการตั้งถิ่นฐานของชาวโรมันได้”
    .
    และยังทำให้เธอได้ตั้งข้อสันนิษฐานอีกว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ใน Cambridgeshire เป็นลูกผสม สืบเชื้อสายมาจากชาวโรมันที่มาตั้งรกรากที่นั้นแต่แรกกับชาวบริทิชที่เพิ่งอพยพเข้าไปจากแผ่นดินใหญ่
    .
    แต่ในขณะเดียวกัน การค้นพบนี้ยังทำให้ผู้คนสงสัยว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ใน Cambridge เวลานั้นอาจเกี่ยวข้องหรือรู้จักวิถีชาวโรมันที่เคยอาศัยอยู่ก่อนหน้าพวกเขาหรือเปล่า อย่างในหลุมหนึ่งก็มีศพที่ถูกฝังไปพร้อมกับเศษขวดไวน์ที่คาดว่าจะเป็นของโรมันอยู่ด้วย
    .
    Goodson เผยว่า “ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนข้าวของของชาวโรมันถูกนำมาใช้อีกรอบในหลุม แม้ในยุคหลังจากที่พวกเขาอพยพไปแล้ว” แต่เรื่องการฝังใกล้กับหลุมศพโรมันเดิมยังเป็นเรื่องที่จนถึงขณะนี้นักโบราณคดียังไม่พบ "หลักฐานที่ชัดเจน" ว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในศตวรรษที่ 6 ยังคงเลือกที่จะฝังศพของพวกเขาใกล้หลุมฝังศพตรงนั้นทำไม และมีสุสานที่ใหญ่ขนาดนี้เพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการขุดพบด้วยวิธีการ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่นเรดิโอคาร์บอนขั้นสูงที่ระบุถึงช่วงเวลาของวัตถุ และการวิเคราะห์ไอโซโทป
    .
    นอกจากนี้ Goodson กล่าวต่อว่า เธอหวังที่จะศึกษาว่าผู้คนที่ตายในหลุมศพดังกล่าว มีใครตายด้วยโรค Justinianic ที่ระบาดทั่วยุโรปในช่วงปี 540 หรือไม่
    .
    Source
    1. https://www.theguardian.com/.../find-of-the-century...

    เรียบเรียง: DJ
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UNDERWATER: มหาสมุทรแอตแลนติกขยายตัวกว้างใหญ่ขึ้น! เหตุแมกมาไหลเวียนในชั้นเนื้อโลก ขยายแผ่นเปลือกโลกเทือกเขากลางทะเล
    .
    เมื่อพูดถึงมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทุกคนคงนึกถึงมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ตอนนี้มหาสมุทรแอตแลนติกก็เริ่มขยายตัว 4 เซนติเมตรในทุก ๆ ปี จนทำให้พื้นที่ของมันใหญ่ขึ้น และทำให้ทวีปทั้งสองฝั่งอย่างอเมริกา และยุโรปกับแอฟริกาแยกออกจากกันมากขึ้นแล้ว
    .
    ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกใต้ผืนน้ำ ซึ่งกลไกลที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้ยังเป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์สงสัยกันอยู่ จนล่าสุดทีมนักวิจัยจาก University of Southampton ได้ค้นพบข้อมูลใหม่ที่อาจอธิบายสิ่งนี้ได้
    .
    จากงานวิจัยใหม่นี้ นักวิทยาศาสตร์เผยว่า สันเขากลางมหาสมุทร (mid-oceanic ridge) หรือ แนวเทือกเขาใต้ทะเลที่เป็นแนวศูนย์กลางของการแยกแผ่ขยายออกมา อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการถ่ายโอนพลังงานระหว่างส่วนบน และส่วนล่างของแมกมาที่ชั้นเนื้อโลก (mantle) ชั้นที่อยู่ใต้เปลือกโลกอีกที
    .
    เมื่อปี 2016 ทีมนักวิจัยนำเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว 39 เครื่องไปตรวจสอบใต้พื้นมหาสมุทรแอตแลนติก 1,000 กิโลเมตร เพื่อวัดระดับการเคลื่อนไหวของแมกมาใต้สันเขากลางมหาสมุทรในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งตรงนี้ที่เป็นตัวแบ่งเขตเปลือกโลกของอเมริกาจากยุโรปและแอฟริกา
    .
    ในช่วงของการวิจัยนี้ พวกเขาได้ตรวจสอบการไหลหรือการถ่ายเทของแมกมาระหว่างส่วนบนและส่วนล่างของชั้นเนื้อโลก และเมื่อใช้เทคโนโลยีเพิ่มเติมในปี 2017 พวกเขาสามารถจำลองภาพการของแมกมาที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 660 กิโลเมตรได้ เป็นภาพที่มีความคมชัดสูงและเป็นสเกลที่ใหญ่ที่สุดของการจำลองแมกมาในชั้นเนื้อโลก
    .
    ซึ่งเมื่อดูจากผลการตรวจวัด ผลปรากฎว่าแมกมาที่ไหลเวียนในชั้นเนื้อโลกและไหลขึ้นบน ลงล่าง ขึ้นบน ลงล่าง สลับกันไปมา มีแรงดันมากพอที่จะทำให้แผ่นเปลือกโลกบริเวณสันเขากลางมหาสมุทรขยายตัว และทำให้มหาสมุทรแอตแลนติกใหญ่ขึ้น ทวีปทั้งสองฟากก็เคลื่อนห่างออกจากกันมากขึ้นด้วย
    .
    ปรากฏการณ์นี้จึงคล้ายกับการเคลื่อนตัวของแมกมาในชั้นเนื้อโลกนี้ที่ทำให้เกิดเกิด เกาะ และภูเขาไฟ แต่แค่ไม่ได้ปะทุออกมาเท่านั้นเอง
    .
    นักวิจัยเผยว่า อาจจะต้องมีงานวิจัยเพิ่มเติมในพื้นที่นี้ และการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสร้างแบบจำลองที่ดีขึ้น สร้างระบบเตือนภัยธรรมชาติ และแบบจำลองที่จะสื่อให้เห็นผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่วัดจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น รวมไปถึงยกระดับนโยบายของแต่ละประเทศที่อยู่ทั้งสองฟากของมหาสมุทรแอตแลนติก
    .
    และจากการวิจัย “มันเผยให้เห็นว่าสันเขากลางมหาสมุทร มีบทบาทสำคัญในการทำให้แผ่นเปลือกโลกเหล่านี้แยกออกจากกัน” ไม่เหมือนการสันนิษฐานครั้งก่อน ๆ ที่ว่ามันมีบทบาทเพียงเล็กน้อย หรือแทบไม่มีเลยในการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก Mike Kendall นักวิจัยอาวุโสจาก University of Oxford กล่าว
    .
    Source
    1. https://www.sciencealert.com/myster...ing-the-atlantic-ocean-grow-bigger-every-year

    2. https://www.rt.com/news/513869-atlantic-expanding-tectonic-plates-research/

    3. https://www.vice.com/en/article/wx8...bigger-and-scientists-now-think-they-know-why

    4. https://www.bbc.com/thai/international-55876489

    เรียบเรียง: DJ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    DISCOVERY: หนูน้อยวัย 4 ขวบพบรอยเท้าไดโนเสาร์ที่มีอายุ 220 ล้านปี

    “Daddy! Look at this!” Lily Wilder หนูน้อยวัย 4 ขวบส่งเสียงเรียกพ่อในขณะที่เดินเล่นอยู่ตามชายหาดของอ่าว Bendricks Bay ในเขต South Wales สหราชอณาจักร

    ลิลลี่ กลายเป็นนักบรรพชีววิทยาอายุน้อยที่สุดที่ค้นพบรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ รอยเท้าที่น้องลิลลี่ค้นพบนั้นสมบูรณ์มาก รอยเท้ามีขนาดความยาว 10 ซม. ซึ่งทำให้นักบรรพชีววิทยานั้นประมาณขนาดตัวของเจ้าของรอยเท้าได้ว่ามีขนาดตัวประมาณ 75 ซม. และสูงประมาณ 2.5 เมตร

    หลังจากนี้หน่วยทรัพยากรธรรมชาติของ Wales จะขออนุญาตเพื่อนำรอยเท้านี้ไปศึกษาต่อและเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติของอังกฤษต่อไป
    .
    Source:
    1. https://www.iflscience.com/plants-a...rved-dinosaur-footprint-found-by-fouryearold/

    2. https://www.cbc.ca/radio/asithappen...ers-dinosaur-footprint-on-the-beach-1.5896347

    เรียบเรียง : วิทิต
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    TRANPORT: ไต้หวันโกกรีนลดฝุ่น PM2.5 เปลี่ยนมอเตอร์ไซค์นับแสน ให้เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า! ตั้งสถานีสลับแบตเตอรี่ได้ทั่วเมือง พุ่งเป้าคาร์บอนศูนย์ในปี 2050
    .
    ไต้หวันมีประชากรเพียง 23 ล้านคน ในขณะที่มีจำนวนสกู๊ตเตอร์ทั่วประเทศอยู่ถึง 14 ล้านคัน สกู๊ตเตอร์คือพาหนะอำนวยความสะดวกในเมืองที่แทบทุกบ้านจำเป็นต้องมี
    .
    มลพิษ PM 2.5 มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ มาจากการใช้จักรยานยนต์ในไต้หวัน ถึงแม้ว่าพวกมันจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่ารถยนต์ และประหยัดน้ำมันมากกว่า แต่ก็ปล่อยไฮโดรคาร์บอนมากกว่าซึ่งจะสร้างหมอกควันไนโตรเจนออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก
    .
    รัฐบาลไต้หวัน มีการผลักดันนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ภายใน ค.ศ. 2050
    .
    รัฐบาลประกาศการสนับสนุนให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เฉพาะจากองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่รัฐบาลพร้อมโอบอุ้มนวัตกรรายย่อย และสตาร์ทอัพรายใหม่ ๆ อย่างเต็มกำลัง
    .
    สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเพราะแบตเตอรี่ในยานยนต์ไฟฟ้าใช้เวลานานกว่าจะชาร์จไฟเต็ม และบรรจุกลับลงไปได้ Gogoro สตาร์ทอัพเล็ก ๆ จึงสร้าง Gogoro GoStation หรือเครือข่ายสถานีสลับแบตเตอรี่ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เมื่อแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง ไม่ต้องรอชาร์จ เพียงเข้ามาสลับเอาแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่ไฟเต็มไปได้เลย
    .
    กองทุนพัฒนาแห่งชาติของรัฐบาลไต้หวัน เล็งเห็นว่าการขับเคลื่อนให้ตลาดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นมีความจำเป็น จึงร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ Gogoro ตั้งแต่ปีแรก ๆ ของการก่อตั้ง ในการสร้างสถานีสลับแบตเตอรี่ รัฐบาลเข้ามารับผิดชอบการจัดหาที่ดิน และค่าใช้จ่าย จนตอนนี้ ในกรุงไทเป และเมืองใหญ่ ๆ มี Gogoro GoStation กว่า 1,820 สถานี ตั้งอยู่ทุก 5 กิโลเมตร
    .
    ไต้หวันยังประกาศว่าภายใน ค.ศ. 2035 พวกเขาจะยุติการซื้อขายจักรยานยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลให้ได้ถาวร นอกจากนี้ การไปรษณีย์ไต้หวันซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ยังดำเนินนโยบายสอดคล้องกับการขับเคลื่อนของภาครัฐ โดยประกาศปลดระวางจักรยานยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลรุ่นเก่า จำนวนกว่า 9,000 คัน เพื่อเปลี่ยนมาใช้จักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ให้ภายใน ค.ศ. 2023
    .
    Source
    1. https://ngthai.com/environment/33056/taiwan-electric-scooters/

    2. https://www.taiwannews.com.tw/en/ne...EeANAVWa0oglfL8Nxmd4a6Dz5q0rqUqPFc6znbCYQ8kGg

    เรียบเรียง: Popjaneg

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    CLIMATE CHANGE: Covid19 ทำให้ธรรมชาติดีขึ้น จริงหรือ?
    .
    “อากาศปลอดโปร่งขึ้น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดน้อยลง” “ธรรมชาติได้มีโอกาสฟื้นฟูอีกครั้ง” เป็นคำที่ในช่วงปีที่ผ่านมา ได้ถูกพูดถึงในช่วงการล็อกดาวน์ในหลายๆประเทศเป็นอย่างมาก
    .
    เมื่อปลายเดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา ทาง WMO หรือ World Meteorological Organisation ได้คาดคะเนว่า ในช่วง ล็อกดาวน์ทั่วโลกที่ผ่านมา สามารถลดก๊าซเรือนกระจกในแต่ละวันได้ประมาณ 17% และในรายปีสามารถที่จะลดได้ถึง 4.2-7.5%.
    .
    แต่อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนชั้นบรรยากาศ ยังคงที่จะทะยานสูงขึ้นไปเรื่อยๆในทุกๆปี สาเหตุเป็นเพราะว่า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถอยู่บนชั้นบรรยากาศได้นาน และความเข้มข้นที่เกิดขึ้นในหลายร้อยปีที่ผ่านมา ไม่สามารถลดลงไปได้ในในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ
    .
    “ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น อยู่บนชั้นบรรยากาศมาหลายทศวรรษ และนานกว่านั้นในมหาสมุทร ครั้งสุดท้ายที่โลกได้มีความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนชั้นบรรยากาศได้มากถึงขนาดนี้ คือเมื่อ 3-5 ล้านปีก่อน ตอนที่อุณภูมิยังอุ่นกว่านี้ 2-3 องศา และ ระดับน้ำทะเลสูงกว่า 10-20 เมตร แต่ในช่วงเวลานั้น ยังไม่มีประชากร 7.7 พันล้านคน” เลขาธิการใหญ่ Professor Petteri Taalas กล่าว
    .
    ถึงเเม้การล็อกดาวน์ จะมีผลต่อการลดการปลดปล่อยของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในหลายๆส่วนได้จริง แต่ถ้ามองในระยะยาว การลดครั้งนี้เป็นเพียงแค่จุดเล็กๆเท่านั้น
    .
    อย่างไรก็ดีทาง Prof. Petteri Taalas ได้มองเห็นถึงโอกาสในการปรับปรุง และชี้แนะว่า ควรที่จะเปลี่ยนการทำงานในด้าน อุสาหกรรม พลังงาน และ การขนส่ง ทั้งหมด เค้าเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตทั่วไป ถ้ามีการช่วยเหลือจากทางภาครัฐทั่วโลก ในการควบคุม เพราะความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีในหลายๆอุตสาหกรรมนั้น ได้พัฒนามาไกลมากแล้ว
    .
    การที่เราจะหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นของอุณภูมิในอีก 10 ปีที่จะสูงขึ้นอีก 1.5 องศาทั่วโลกนั้น เรายังต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งทางด้านเอกชน และ โดยเฉพาะภาครัฐ
    .
    และแน่นอน ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะตามมา ไม่มีวัคซีนไหนที่จะช่วยได้

    Source
    1. https://public.wmo.int/en/media/pre...tinue-record-levels-despite-covid-19-lockdown
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... "อเมริกาหนุนเงินนักต่อต้าน ประท้วงสร้างเขื่อน Myitsone ที่จีนร่วมทุนในพม่า"

    ... อ้างอิงจากข้อมูลรั่วของ WikiLeaks ( เจ้าของเพจที่เปิดโปงหนีตายจากอเมริกา ) "อเมริกา" ให้ทุนแก่ "กลุ่มประชาสังคมบางกลุ่ม" ในพม่าที่ประท้วงต่อต้าน กดดัน บังคับให้รัฐบาลพม่า ระงับการสร้าง "เขื่อน Myitsone" เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดใหญ่อันดับสิบห้าของโลก ที่รัฐบาลพม่าร่วมทุนกับ "จีน" , ที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากมาย ในลุ่มแม่น้ำอิรวดี

    ... เพราะเขื่อนนี้จะส่งไฟฟ้าไปขายจีน แต่บริษัทร่วมทุนเองก็ให้ผลประโยชน์กับฝ่ายจีนมากกว่าพม่า รวมทั้งบางส่วนพื้นที่ชาวบ้าน ชาวคะฉิ่นจะเดือดร้อน นั่นก็เรื่องจริง

    ... ซึ่งก็ได้ผล ในปี 2011 นายพลเตงเส่งและนางอองซานซูจี ระงับโครงการเขื่อนนี้ออกไปไม่มีกำหนด ทั้งๆที่ตามแผนเดิมต้องเปิดใช้ในปี 2017

    *** ... แต่อีกเรื่องจริง คือ "อเมริกาให้เงินกลุ่มนักประท้วงต่อต้านสร้างเขื่อนเหล่านั้น" เพื่อสกัดการเติบโตของจีน เช่นกัน

    .
    ...https://en.m.wikipedia.org/wiki/Myanmar–United_States_relations

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    BREAKING : “ดีเจมะตูม” ออกมาไลฟ์ผ่านไอจีส่วนตัวครั้งแรก หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลครบ 15 วัน อัปเดตความคืบหน้าว่า

    - ตอนนี้ยังพบเชื้อในร่างกาย แต่คาดว่าเป็นเพียงซากเชื้อ

    - ร่างกายแข็งแรง เอ็กเรย์ปอดเป็นปกติ

    และเปิดใจถึง กรณีปาร์ตี้วันเกิดที่ผ่านมาทำให้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกหลายคน โดยยอมรับว่า

    - มีการดื่มแอลกอฮอล์ต่อในห้องที่เปิดไว้จริง มีเพื่อนหิ้วมา และเปิดเหล้าจากมินิบาร์เพิ่ม ส่วนตอนกินข้าว รร. ไม่ได้เสิร์ฟแอลกอฮอล์ มีแต่ม็อกเทล (อนุทิน บอกว่า รร. แจ้งมาว่า เสิร์ฟแต่น้ำผลไม้ ข้อมูลส่วนนี้น่าจะตรงกันกับที่ดีเจมะตูมพูดนะครับ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด)

    - รู้สึกเสียใจ ละอายใจ ขอโทษ และยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    - ส่วนเรื่อง “ข้าวโอ๊ต วง AXIS” ยอมรับว่าไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นดารา เพราะข้าวโอ๊ตเป็นแฟนน้องที่สนิท

    - เพื่อนที่มาร่วมงาน ติดโควิด 8 คน ออกจาก รพ. หมดแล้ว ยืนยันไม่ได้เล่นยา ไม่มีเซ็กซ์หมู่

    - ตอนนี้ได้ให้ข้อมูลทุกอย่างกับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว

    และยอมรับว่าตน...

    “ไร้จิตสำนึกต่อสังคม เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น และพร้อมรับโทษทุกอย่าง”

    - ส่วนเรื่องเรียน ไม่เคยพูดว่าจบจาก ม.ศิลปากร ความจริงคือไปเรียนที่เยอรมัน และไม่ได้จบปริญญาตรี

    - ขอโทษทุกคน เพื่อนในวงการ พนักงานโรงแรม ที่ต้องกักตัวและหยุดงาน ขอโทษทุกคนที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด โคตรอายเลย สมควรได้รับการด่าทอ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 4 , 2021 ศบค.เปิดรายชื่อ 5 เขตในกทม.ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุด พร้อมเผยผลตรวจเชิงรุกในพื้นที่เขตโรงงาน ล่าสุดพบยอดติดเชื้อรวม 46 ราย
    .
    นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.เปิดเผยถึงพื้นที่เขตในกรุงเทพมหานครที่มีอัตราการป่วยโควิดสะสมสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่
    .
    1)เขตบางขุนเทียน 151 ราย
    2)เขตภาษีเจริญ 49 ราย
    3)เขตจอมทอง 33 ราย
    4)เขตบางแค 30 ราย
    5)เขตบางพลัด 27 ราย
    .
    ส่วนเขตที่มีอัตราการป่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก
    1)เขตบางขุนเทียน 81.7 ต่อประชากรแสนคน
    2) เขตภาษีเจริญ 38.9 ต่อประชากรแสนคน
    3)เขตบางพลัด 29.6 ต่อประชากรแสนคน
    4)เขตบางรัก 29.0 ต่อประชากรแสนคน
    5)เขตธนบุรี 24.3 ต่อประชากรแสนคน
    .
    ส่วนการตรวจเชิงรุกพื้นที่โรงงานและชุมชนในพื้นที่กทม.
    .
    1) เขตภาษีเจริญ ตรวจไป 11 โรงงาน มีจำนวนแรงงาน 5,635 ราย และได้สุ่มตรวจตัวอย่าง 1,721 ราย(รวม ACF จากชุมชน 314 ราย) พบผู้ติดเชื้อโควิด 26 ราย
    .
    2)เขตบางบอน ตรวจไป 24 โรงงาน คิดเป็นจำนวนแรงงาน 3,770 ราย ราย และได้สุ่มตรวจตัวอย่าง 4,571 ราย(รวม ACF จากชุมชน 2,914 ราย) พบผู้ติดเชื้อโควิด 8 ราย
    .
    3) เขตบางขุนเทียน ตรวจไป 25 โรงงาน คิดเป็นจำนวนแรงงาน 11,228 ราย และได้สุ่มตรวจตัวอย่าง 6,772 ราย(รวม ACF ชุมชน 3,561 ราย) พบผู้ติดเชื้อโควิด 12 ราย
    .
    4) เขตหนองแขม ตรวจไป 14 โรงงาน คิดเป็นจำนวนแรงงาน 7,788 ราย และได้สุ่มตรวจตัวอย่าง 1,000 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด
    .
    5)เขตบางแค ตรวจไป 7 โรงงาน คิดเป็นจำนวนแรงงาน 3,246 ราย และได้สุ่มตรวจตัวอย่าง 1,104 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด
    .
    6)เขตจอมทอง ตรวจไป 3 โรงงาน คิดเป็นจำนวนแรงงาน 875 ราย และได้สุ่มตรวจตัวอย่าง 90 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด
    .
    รวมทั้งสิ้นตรวจไปแล้ว 84 โรงงาน คิดเป็นจำนวนแรงงาน 32,542 ราย และได้สุ่มตรวจตัวอย่าง 7,485 ราย พบผู้ติดเชื้อ 46 ราย
    .
    #โควิด #กทม #ติดเชื้อ #Covid #Misterban

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 4 , 2021 รมว.แรงงานเคาะแจก 4,000 บาท ผู้ประกันตนมาตรา 33 คาดเสนอ ครม.วันที่ 9 ก.พ.นี้
    .
    นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงโครงการช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 33 ว่า โครงการ “ม.33 เรารักกัน" ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่า จะจ่ายให้ผู้เข้าเงื่อนไขคนละ 4,000 บาท แบ่งจ่ายอาทิตย์ละ 1,000 บาท ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการรายงานให้กระทรวงการคลังรับทราบ และคาดว่าจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 9 ก.พ.2564
    .
    เมื่อ ครม. ให้ความเห็นชอบแล้ว จะมีการกดปุ่มเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ ส่วนคนที่มีแอปฯ เป๋าตังอยู่แล้วก็ต้องลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อยืนยันสิทธิเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้รับสิทธิ์ที่เข้าเงื่อนไขนี้ประมาณ 9 ล้านคน คือผู้ที่อยู่ในระบบประกันตน ม.33 โดยรูปแบบจะเป็นเหมือน "โครงการเราชนะ" นำเงินเข้าแอำพลิเคชันเป๋าตัง จำกัดสิทธิ์ผู้ที่มีเงินฝากในบัญชีคงที่ 5 แสนบาท ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
    .
    นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานเตรียมปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สามารถนำเงินกองทุนชราภาพราว 30% จากที่มีอยู่ 1.8 ล้านล้านบาท ออกมาให้ผู้ประกันตนได้นำไปใช้จ่ายก่อนครบกำหนดเกษียณ โดยกำลังพิจารณารูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินในประเทศ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ผู้ประกันตนกำลังประสบอยู่ หรืออาจนำออกมาปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกันตน
    .
    #ครม #เยียวยา #ผู้ประกันตนมาตรา33 #4000บาท #Covid #โควิด #Misterban

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Feb 4 , 2021 รมว.คลังยันฐานะการเงินไทยยังมั่นคง ไม่ได้ล้มละลายตามกระแสข่าว พร้อมชี้แจงกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ารับมือสถานการณ์โควิด 19 แนะแรงงานต้องออมเงินเพื่อรับมือวิกฤต
    .
    นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "แนวทางพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19" ในงานสัมมนา "พลิกสูตรวัคซีนสู้โควิด พลิกวิกฤติเศรษฐกิจไทย" ว่า สถานะและเงินคงคลังของประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่มั่นคง ดังนั้นข้อมูลที่ปรากฎในสื่อว่าประเทศไทยจะล้มละลายจึงไม่ใช่เรื่องจริง แม้ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลจะมีการออก พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายสำหรับรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากงบประมาณประจำปีทำไม่ได้ เพราะงบประมาณในส่วนดังกล่าวทั้งหมดมีการผูกพันกับหน่วยงานไปหมดแล้ว
    .
    โดยรัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียงพอ ต้องเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักทั้งหมด คนตกงานไม่มีงานทำ และต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย ซึ่งงบประมาณปกติไม่เพียงพอจึงต้องกู้เงินมา 1 ล้านล้านบาท ส่งผลให้หนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับปัจจุบันที่ 50% ของจีดีพี แต่ยังอยู่ภายใต้กรอบความมั่นคงทางการคลัง ที่กำหนดว่าหนี้สาธารณะต้องไม่เกิน 60% ของจีดีพี และเป็นเหมือนกันในหลายประเทศทั่วโลก
    .
    สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ มีความแตกต่างกับการแพร่ระบาดในรอบแรกค่อนข้างมาก เพราะรอบแรกยังมองไม่เห็นเรื่องของวัคซีน ทำให้รัฐบาลต้องยอมสละด้านเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจเดือดร้อนทั้งหมด แต่ในครั้งนี้ รัฐบาลพยายามสร้างความสมดุลระหว่างภาพเศรษฐกิจและภาพของการป้องกันการแพร่ระบาด จึงไม่มีการล็อกดาวน์เพื่อหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด
    .
    แต่ให้หยุดเฉพาะกิจกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงเป็นแหล่งแพร่เชื้อเท่านั้น อาทิ สถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นต้น ขณะที่ภาคธุรกิจอื่น ๆ ยังเดินหน้าได้ปกติ และมีการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา พบว่ายอดการใช้จ่ายยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนกว่าประชาชนยังคงมีการใช้จ่ายอย่างปกติ
    .
    เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องมีวัคซีน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันหลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยภูมิคุ้มกันดังกล่าว เกิดจากการบริหารจัดการความเสี่ยงในหลาย ๆ มิติ ซึ่งภูมิคุ้มกันหรือวัคซีนทางเศรษฐกิจของไทย มี 3 ระดับ คือ
    .
    1. ภูมิคุ้มกันของประเทศ มีตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ การเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่ต้องเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง จะสูงหรือต่ำไม่เป็นไร แต่ต้องต่อเนื่อง, ฐานะการเงินของประเทศ โดยปัจจุบันไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศ อยู่ที่ 2-3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หากนำเงินก้อนนี้มาชำระหนี้ จะชำระหนี้ระยะสั้นได้ 3 เท่า จึงเป็นเครื่องสะท้อนถึงฐานะความมั่นคงของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
    .
    สำหรับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลก เพราะสิ่งที่ตามมาหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ ปัญหาการว่างงาน ปัญหาความยากจน ที่เกิดจากการปิดกิจการ ส่งผลทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้นและรายได้ลด
    .
    2. ภูมิคุ้มกันกลุ่ม คือ ภาคการผลิต ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวของไทยที่เจอปัญหาอย่างมากจากมาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของภาคการผลิตของไทย ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    .
    3. ภูมิคุ้มกันระดับประชาชน และแรงงาน โดยประชาชนต้องรู้จักการออมเพื่ออนาคตของตัวเอง ซึ่งมีหลายวิธี ทั้งการออมภาคบังคับ ผ่านกองทุนบำเหน็จบำนาญช้าราชการ (กบข.) กองทุนประกันสังคม และการออมภาคสมัครใจ ผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) การออมกับประกันชีวิต ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองเมื่อเจอวิกฤติ
    .
    แนวทางในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปนั้น คลังกำลังเดินหน้าเยียวยาควบคู่ไปกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านโครงการ"เราชนะ" ที่จะดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบกว่า 31 ล้านคน ส่วนประชาชนในกลุ่มอื่น ๆ เช่น กลุ่มแรงงาน หรือผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะมีกองทุนประกันสังคม และมีมาตรการออกมาดูแลต่อไป โดยการเยียวยาในครั้งนี้ กระทรวงการคลังพยายามนำดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาใช้ให้มากที่สุด ซึ่งต่อไปจะสามารถนำไปพัฒนาเป็นระบบฐานข้อมูลในการดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึงในอนาคต
    .
    #ฐานะการเงินไทย #คลัง #มั่นคง #ล้มละลาย #Misterban #Covid #โควิด #เศรษฐกิจ

     

แชร์หน้านี้

Loading...