ติดตามสถานะการณ์

ไทยพบผู้ป่วยโควิดใหม่รอบ 24 ชม. 5 ราย สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 2 รายจาก กทม.และนราธิวาส อยู่ในสถานที่กักตัว 3 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมรวม 3,009 ราย กลับบ้านแล้ว 2,794 ราย แจงผลแล็บภูเก็ตเจออีก 4 รายจริงเมื่อเช้า จะเป็นยอดรายงานพรุ่งนี้ ขอคนออกจากภูเก็ต หากมีอาการป่วยเล็กน้อย เข้าได้โควิดให้รีบตรวจทันที

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000048665
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

ที่แท้ “ใครคนหนึ่ง” มีคำสั่งให้ธรรมกายกินเจทั้งวัด พบข้อความทางไลน์แจ้งคำสั่ง พร้อมบอกบุญปัจจัยซื้อเมล็ดพันธุ์และค่าดูแล ลูกศิษย์รู้ดี "ใครคนหนึ่ง" คือพระธัมมชโย เชื่อกินเจพาวัดผ่านวิกฤต แถมลดต้นทุนเลี้ยง 4,200 ชีวิตในวัด สะท้อนปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ต้องเชิญชวนบริจาคเข้ากองทุนบำรุงวัด ขณะที่วัดพระธรรมกายออกข่าวสร้างภาพเปลี่ยนแปลงปลูกดอกไม้มาปลูกผัก “ปลูกเอง ฉันเอง ทานเอง” พึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000048360
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

#UPDATE ยอดผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ในไทย วันที่ 10 พ.ค.2563 (ไม่มีผู้เสียชีวิต)
.
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย
ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,009 ราย
กำลังรักษาอยู่ 159 ราย
รักษาหาย-กลับบ้านแล้วรวม 2,794 ราย (+7)
เสียชีวิตสะสม 56
.
1).ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวัง แบ่งผู้ติดเชื้อเป็น 3 กลุ่ม คือ
.
กลุ่ม 1 มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้
- 2 ราย (นราธิวาส,กรุงเทพฯ)
.
กลุ่ม 2 ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ
- ไม่มี
.
กลุ่ม 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
- ไม่มี
.
2). การค้นหาเชิงรุก (Active case finding) และผู้ติดเชื้อในชุมชน
- ไม่มี
.
3).ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine
- 3 ราย (UAE 1, ปากีสถาน2)
•ศูนย์กักคนเข้า อ.สะเดา จ.สงขลา
- ไม่มี

 

เภสัชกรชาวอินเดียรายหนึ่งเสียชีวิต และหัวหน้าของเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากทั้งคู่ดื่มสูตรยาที่พวกเขาคิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษาเชื้อไวรัสโคโรนา

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000048569
………………………………

หัวหน้าตำรวจท้องถิ่น อาชก กุมาร กล่าวว่า เค ศิวเนสาร วัย 47 ปี เสียชีวิตคาที่ ส่วนหัวหน้าของเขา ราชกุมาร กำลังฟื้นตัวจากภาวะเป็นพิษที่โรงพยาบาล

กุมาร กล่าวว่า ศิวเนสารซื้อสารเคมีจากตลาดท้องถิ่นและพัฒนาสูตรยาดังกล่าว หลังจากลองทำการวิจัยบนอินเทอร์เน็ต

ตอนนี้ยังไม่มียาหรือวัคซีนรักษาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการรับรอง จึงส่งผลให้ทั่วโลกเกิดการแข่งขันคิดค้นยารักษาเชื้อไวรัสนี้ที่คร่าชีวิตคนไปแล้วเกือบ 300,000 คน

 

ประมวลภาพตู้ปันสุขจากทั่วประเทศ หลังประชาชนเห็นดีร่วมโครงการ “Pantry of Sharing” เพื่อช่วยเหลือและแบ่งปันผู้ที่ประสบปัญหาจากโรคระบาดโควิด-19 สะท้อนภาพสังคมว่าคนไทยยังมีน้ำใจต่อกัน

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000048583
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

เปิดแผนกู้ชีพ “การบินไทย” ทุ่มเงินหมื่นล้านลดพนง. 6 พันคน
เดิมพันครั้งสุดท้ายฐานะ “รัฐวิสาหกิจ”

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปฏิบัติการ “กู้ชีพ” บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เริ่มเห็นรูปเห็นร่างกันบ้างแล้ว เมื่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติหลังการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เห็นชอบ “แผน” แก้ไขปัญหาการบินไทยทั้งระยะสั้น และระยะยาว

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/daily/detail/9630000048326

2.ด้านบุคลากร ตามแผนฟื้นฟูจะทบทวนกำลังคนให้สอดคล้องกับการบริหารประสิทธิภาพต้นทุนและกำลังผลิต โดย ณ 29 ก.พ.63 การบินไทยมีบุคลากร 21,332 คน มีวิธีการดังนี้ 1. ลดจำนวนพนักงานด้วยความสมัครใจ 2. ลดจำนวนพนักงานด้วยเกณฑ์ที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงาน 3. วิเคราะห์อัตรากำลังที่เหมาะสม หลังลดฝูงบินและปรับโครงสร้างองค์กร โดยลดพนักงานและรับพนักงานใหม่ทดแทนในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้มีบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 63

ทั้งนี้ การบินไทยต้องใช้งบฯ 8,850 ล้านบาท เพื่อลดพนักงานในประเทศ 5,867 คน ภายใน 3 ปี เป็นค่าใช้จ่ายปี 63 จำนวน 2,549 ล้านบาท โดยลดพนักงานในไทย 1,369 คน และต่างประเทศ 154 คน

#การบินไทย #ฟื้นฟูการบินไทย #แผนฟื้นฟูการบินไทย

 

แบ่งปันจาก MisterBan

May 10 , 2020 การบินไทยขอเลื่อนส่งงบไตรมาส 1 ออกไปเป็นวันที่ 14 ส.ค.63 โดยให้เหตุผลว่าโควิด 19 ทำพิษต้องหยุดบิน – ปิดสถานที่ทำงาน มีผลต่อการรวบรวมข้อมูล เอกสาร หลักฐาน และรายการทางธุรกิจ
.
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทมีความประสงค์จะขอผ่อนผันการจัดทำและการนำส่งงบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ซึ่งทวีความรุนแรงไปทั่วทุกภูมิภาคในโลก ทำให้แต่ละประเทศเพิ่มมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานการบินพลเรือนของประเทศต่าง ๆ ออกมาตรการคัดกรองและห้ามเดินทางเข้า-ออกประเทศอย่างเข้มงวด
.
ดังนั้น บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องหยุดบินและปิดสถานที่ทำงาน ทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 มีผลกระทบต่อการรวบรวมข้อมูล เอกสาร หลักฐาน และรายการทางธุรกิจ ที่ส่งผลต่อข้อมูลทางบัญชีที่สำคัญ และอาจทำให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการสอบทานของผู้สอบบัญชี อีกทั้งรายงานทางการเงินของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ยังได้รับไม่ครบถ้วน ทำให้การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัทฯไม่สมบูรณ์เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ใช้งบการเงินได้
.
จึงเป็นเหตุผลและความจำเป็นในการขอผ่อนผันไปจนถึงไม่เกินกำหนดระยะเวลาจัดส่งงบการเงินงวดถัดไปคือ ภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2563
.
คณะกรรมการตรวจสอบบริษัทในการประชุมครั้งพิเศษที่ 2/2563 วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ได้พิจารณาและให้ความสำคัญในการจัดทำและเปิดเผยรายงานแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่ถูกต้อง และมีความน่าเชื่อถือเพียงพอสำหรับผู้ใช้งบการเงินในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีความไม่แน่นอน จึงมีมติเห็นสมควรให้ขอผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกไป โดยจะนำส่งภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2563 เพื่อให้บริษัทและผู้สอบบัญชีมีระยะเวลามากขึ้นในการรวบรวม จัดทำและตรวจสอบข้อมูลที่จะมีการเปิดเผยให้แก่ผู้ลงทุนได้รับทราบให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน น่าเชื่อถือ
.
ทั้งนี้การขอขยายระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ที่ สจ.31/2563 และในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งพิเศษที่ 9/2563 วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบแล้ว
.
#เงื่อนส่งงบ #ไตรมาส1 #ไวรัสโควิด19 #misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

May 10 , 2020 โฆษกศบค. ยันโรงหนังไม่อยู่ในมาตรการผ่อนปรนเฟส 2 ส่วนการทดลองเปิดห้างต้องให้ศบค.ชุดใหญ่ลงมติ 15 พ.ค.นี้
.
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงถึงความคืบหน้ามาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ซึ่งจะมีการประกาศบังคับใช้วันที่ 17 พ.ค.นี้ว่า โรงภาพยนตร์ หรือ โรงหนัง ยังไม่อยู่ในการเปิดในระยะที่ 2
.
ส่วนการจะพิจารณาทดลองเปิดห้างสรรพสินค้าวันที่ 14-15 พ.ค. นี้นั้น ต้องขออภัยที่สื่อสารไม่ครบถ้วน ซึ่งเป็นเพียงการออกแบบทดลองเท่านั้น และขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องผ่านกระบวนการประชุมและเข้าที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้มีการเสนอเข้ามาคือ การเปิดกรรมในห้างในเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 % เป็น 30 – 50% เพราะขณะนี้ทุกห้างได้เปิดทำการอยู่แล้ว แต่แค่ไม่ครบทุกกิจการเท่านั้น
.
ส่วนคำถามที่สอบถามว่าขณะนี้พื้นที่ใดเป็นจุดเสี่ยงนั้น ทางศบค.ได้เปลี่ยนการตรวจจากพื้นที่เสี่ยงเป็นกลุ่มเสี่ยงแล้วทั้งหมด 6 กลุ่ม โดยต้องมีการตรวจเป็นระยะได้แก่ 1)บุคลากรทางการแพทย์ // 2)ผู้ต้องกัก // 3)กลุ่มคนขับรถสาธารณะ //4)พนักงานไปรษณีย์ หรือพนักงานส่งของ // 5)แรงงานต่างด้าว และ 6)กลุ่มอาชีพเสี่ยงในผับ-บาร์
.
#โรงหนัง #ไวรัสโคสิด19 #Misterban #ไม่อยู่ #เฟส2

 

แบ่งปันจาก MisterBan

May 10 , 2020 นิวนอร์มอล-ถนนคนเดินสุราษฎร์ธานี ให้เปิดขายแค่ 4 ชม. - ต้องออกจากตลาดก่อน 21.00 น. - พ่อค้า-แม่ค้าต้องสวมใส่หน้ากากทุกแผง - ทิ้งระยะห่าง 2 เมตร
.
ตลาดถนนคนเดิน สะพานนริศริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้กลับมาเปิดขายเป็นวันแรกตามมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาลหลังถูกปิดจากสถานการณ์โรคโควิดมากเกือบ 2 เดือน แม้พ่อค้า-แม่ค้ายังวางสินค้าไม่เต็มแผงแต่มีประชาชนทยอยมาเดินตลาดแล้ว
.
โดยตลาดคนเดินได้กำหนดรูปแบบใหม่ให้เปิดขายเวลา 16.00 - 20.00 น.และต้องออกจากตลาดก่อน 21.00 น.พ่อค้าแม่ค้าต้องสวมใส่หน้ากากทุกแผงต้องรักษาความสะอาด ให้ขายได้แผงละ 1 คนมีระยะห่าง 2 เมตร ประชาชนมีทางเข้า-ออกมี 3 ด้านหัวกลางท้ายตลาด และต้องผ่านคัดกรองจากเจ้าหน้าที่เทศกิจวัดอุณภูมิและเจลล้างมือและให้เดินเป็นระบบทางเดียวไม่เดินสวนทาง หากไม่ดำเนินตามข้อปฏิบัติอาจโดนสั่งปิดตลาดได้
.
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ รองนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังรัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนโดยให้เปิดตลาดได้ ทางผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าถนนคนเดินประสงค์อยากให้เปิดตลาดทางเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีจึงต้องกำหนดมาตรการ โดยให้เปิดตลาดเร็วขึ้นและปิดเร็วขึ้นจากเดิม กำหนดเส้นทางเข้าออกชัดเจนทั้งผู้ขายและผู้ซื้อต้องสวมหน้ากากอนามัยกำหนดเว้นระยะห่างแผงขายหนึ่งคนต่อแผงเท่านั้น
.
#นิวนอร์มอล #ถนนคนเดิน #ไวรัสโควิด19 #Misterban

 

แบ่งปันจาก กระแสเอเชียใต้ - South Asian News

อินเดีย-จีน ปะทะตามแนวชายแดนรัฐสิกขิม
.
ข่าวด่วนมาก ๆ วันนี้สำนักข่าวหลายแขนงของอินเดียได้ให้เผยข้อมูลว่าเมื่อวานนี้กองทัพของอินเดียและจีนเกิดการเผชิญหน้ากันที่แนวชายแดนทางตอนเหนือของรัฐสิกขิม
.
บริเวณดังกล่าวคือนากุลา ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างอินเดีย-จีน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 5000 เมตร โดยการผชิญหน้าครั้งนี้ส่งผลให้ทหารทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้แหล่งข่าวของกองทัพอินเดียบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
.
หลังการปะทะกันระยะหนึ่งกองทัพทั้งสองฝ่ายได้เร่งดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจนนำมาสู่การยุติการเผชิญหน้าในวันนี้ ต่างฝ่ายต่างยุติการปะทะกันในบริเวณดังกล่าวและเลือกใช้ช่องทางพูดคุยกันทดแทน
.
ความตึงเครียดรอบนี้ระหว่างอินเดีย-จีน เป็นผลสำคัญมาจากปัญหาพิพาททางด้านพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งยังคงไม่สามารถเจรจาปักปันเขตแดนกันได้
.
การปะทะรอบนี้ถือว่าเป็นการปะทะครั้งใหม่ในรอบหลายปี หลังจากเกิดวิกฤตการเผชิญหน้าระหว่างอินเดีย-จีนไปเมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นวิกฤตครั้งสำคัญระหว่างอินเดีย-จีน เพราะกินเวลาความตึงเครียดถึง 73 วันเต็ม
.
แหล่งข่าวกองทัพกล่าวว่า "หตุการณ์การเผชิญหน้าระหว่างทหารสองฝ่ายเกิดจากพฤติกรรมก้าวร้าว ทำให้เกิดการบาดเจ็บทั้งสองข้าง โดยปัจจุบันได้มีการถอนตัวจากพื้นที่ปะทะหลังจากการเจรจาและการมีปฏิสัมพันธ์ในระดับพื้นที่"
.
ที่มา: เดอะฮินดู/ อินเดียทูเดย์
.
#กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #จีน #ความขัดแย้ง #สงคราม #ทหาร

 

เกาหลีใต้เหนื่อย หนุ่มติดโควิดตระเวนเที่ยวผับย่านดัง พบติดเชื้อ 54 แล้ว
เกาหลีใต้เครียดอีก พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มเป็น 54 แล้วที่เกี่ยวข้องกับหนุ่มติดเชื้อตระเวนเที่ยวผับย่านดัง อิแทวอน 5 แห่ง ช่วงต้นเดือน พ.ค. จนท.เร่งสอบหาคนใกล้ชิดที่ติดต่อกับผู้ติดเชื้อ
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

โควิดพ่นพิษ "เวียดนาม" ส่อโดนตัดงบจัดซีเกมส์ 2021
เวียดนามระส่ำได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่นกัน รัฐบาลสั่งตัดงบประมาณการจัดกีฬาซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ 2021 ลงครึ่งหนึ่ง ประมาณ 1 ล้านล้านดอง หรือ 1,368 ล้านบาทแล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ทรัมป์เจอคดีใหม่อีกแล้ว ! กำลังจะถูกศาลไต่สวนเรื่องไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน

ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาถูกกำหนดให้พิพากษาคดีที่อาจกลายเป็น #คดีใหญ่ที่สุด ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่เคยมีมา และเส้นทางไปสู่การชนะเลือกตั้งในสมัยที่ 2 ของทรัมป์ในปลายปีนี้ดูเหมือนกำลังโดนปัญหาใหม่ๆซัดเข้ามาเรื่อยๆพร้อมๆกัน และหลายๆฝ่ายคาดว่าคดีนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปลสำคัญเลยทีเดียว

ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการขอคืนภาษีของเขามาตลอด แต่ปีนี้ทรัมป์อาจจะไม่ได้รอดตัวไปง่ายๆ เมื่อกำลังโดนฝั่งฝ่ายค้านฟ้องครั้งใหญ่

ทรัมป์พยายามกันไม่ให้พรรคเดโมแครตและอัยการนิวยอร์กเห็นบันทึกข้อมูลทางการเงินหรือการขอคืนภาษีของเขา โดยศาลสูงสุดจะมีการสอบสวนคดีนี้ในวันอังคาร ว่าความพยายามของทรัมป์ในการพยายามกันข้อมูลทางการเงินของเขานั้นผิดกฎไหม โดยทางศาลสามารถตัดสินได้ว่าการคืนภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ควรจะกลายเป็นข้อมูลสาธารณะหรือไม่ ? และทรัมป์จะต้องเจอการสอบสวนทางอาญาหรือไม่ ?

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

#OilTradingKP

 

กองทุน Mutual fund , Index Fund และ ETF แตกต่างกันอย่างไร ?

หลังจากที่ได้เขียนบทความแนะนำแนวทางในการลงทุนหากตลาดไม่เป็น V-Shape และไวรัสโควิดยังต้องอยู่กับเราไปอีกหลายปี และทางเราก็ได้แนะนำกองทุน ETF ที่ลงทุนด้วยกลยุทธ์ Covered Call Strategy หรือการขาย Call Option เข้ามาเพิ่มผลตอบแทนทางการลงทุนหากตลาดจะต้องเป็น Sideway ไปอีกซักพัก (#ลองอ่านบทความนี้ได้จาก Link ใน Comment นะครับ)

ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ Inbox ถามคำถามเรื่องกองทุนต่างๆเข้ามานะครับ ขอบคุณที่ให้ความสนใจแต่ขอโทษที่ทางเราอาจให้รายละเอียดได้ไม่มากเพราะว่าทางเราไม่ได้เป็นผู้แนะนําการลงทุน

แต่วันนี้อยากจะมาอธิบายสั้นๆถึงความแตกต่างกันของกองทุนทั้ง 3 ประเภทข้างต้นนี้ โดยถึงแม้จะมีความคล้ายกันมากจนหลายคนสับสน แต่มันก็มีความแตกต่างที่ชัดเจนในตัวของมัน และทำไมส่วนตัวผมจึงเลือกลงทุนด้วยกองทุน ETFs

จุดประสงค์ของกองทุนมีไว้เพื่ออะไร ?

จุดประสงค์หลักของกองทุนนั้นมีไว้เพื่อไม่ต้องให้นักลงทุนทุกคนใส่ไข่ทุกใบไว้ในตระกร้าเดียวกัน (Don't Put all your eggs in one basket)

ถ้าเรามีความมั่นใจในธุรกิจใดธุรกิจนึง มีเวลาศึกษามันอย่างดี ต้องการจะซื้อหุ้นของบริษัทนั้นอย่างเดียว เราก็คงไม่ต้องพึ่งกองทุน...

แต่ถ้าใครไม่มีเวลามาศึกษาหุ้นรายตัว แต่มองว่ากลุ่มธุรกิจหรือแนวโน้มเศรษฐกิจจะโตโดยรวม การซื้อหุ้นตัวเดียวก็อาจจะเสี่ยงไป เพราะหุ้นที่ขึ้นอาจจะไม่ใช่หุ้นตัวนั้นหรือในทางกลับกันถ้าธุรกิจหุ้นตัวนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่คาด ผลตอบแทนของเราก็อาจจะเสี่ยงติดลบได้ถ้าลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียว

การซื้อหุ้นหลายๆตัว ในกลุ่มธุรกิจเดียวกันหรือจากต่างกลุ่มธุรกิจก็ตามจึงเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน หรือการกระจายไข่ไปใส่ไว้ในตระกร้าหลายๆใบนั้นเอง เมื่อตระกร้าใบไหนตกไป อย่างน้อยไข่เราก็ยังไม่แตกหมดทุกใบ

#แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า... การกระจายซื้อหุ้นหลายๆตัวนั้นต้องใช้เวลานานและมีต้นทุนสูงสำหรับคนๆเดียวจะทำได้...

กองทุนจึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ และสามารถทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลามาก ไม่ต้องมานั่งกดซื้อหุ้นหลายๆตัว (บางกองทุนมีหุ้นเกือบร้อยตัว ถ้าต้องกดซื้อเองคนตายแน่ๆ) คอยติดตามผลตอบแทนของหุ้นแต่ละตัว คอยคำนวนผลตอบแทนรวมต่างๆ โดยคราวนี้สามารถกระจายความเสี่ยงได้โดยซื้อกองทุนเพียงกองเดียวและติดตามผลตอบแทนจากแค่ตัวเลขรวมเลขเดียวครับ

กองทุนในทุกวันนี้นั้น มีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ

1️⃣ Mutual fund หรือกองทุนรวม

ต้องเริ่มที่กองนี้ก่อนเพราะว่าเป็นกองทุนที่มีมาอยู่นานมากที่สุด มีมาเกินกว่า 100 ปีแล้วเริ่มมาตั้งแต่ปี 1800s โดยคำอธิบายสั้นๆของกองทุนรวมในสมัยก่อนคือ การนำเงินจากหลายๆผู้ลงทุนมารวมกันและบริหารจัดการด้วยผู้บริหารคนเดียวหรือกลุ่มเดียว เพราะแน่นอนว่าไม่ใช่นักลงทุนทุกๆคนจะมีความรู้ในตลาดดีเท่าๆกัน เพราะฉะนั้นหากมีการนำเงินมารวมกันก็ควนให้คนที่มีความสามารถที่สุดเป็นผุ้บริหารดีกว่า ทำให้อาชีพ Fund Manager จึงเกิดขึ้นมา และจะเป็นผู้มีอำนาจในการเลือกซื้อขายหุ้นในกองทุแต่เพียงผู้เดียว

✅ ข้อดี - ของกองทุนนี้นั้นแน่นอนว่า ผู้ซื้อสามารถกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งซื้อหุ้นหลายๆตัวหรือทำรายการซับซ้อนเยอะแยะ และมีมืออาชีพคอยดูแลผลตอบแทนให้ตลอดเวลา

❌ ข้อเสีย - แต่ข้อเสียก็ชัดเจนคือ ในเมื่อเราต้องพึ่งมืออาชีพอย่าง Fund Manager มาบริหารให้เรา จึงมีต้นทุนค่าตัวของผู้จัดการกองทุนสูง โดยปกติแล้วกองทุนรวมจะมีธรรมเนียมคิดเป็น 1% หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการลงทุนเลย แต่ส่วนใหญ่เราจะโดนคิดธรรมเนียมทุกๆปีทำให้ระยะยาวนั้นผลตอบแทนอาจหดหายไปเยอะ

การบริหารกองทุนแบบนี้เราเรียกว่า “Active management” คือ บริหารกองทุนแบบเลือกหุ้นที่ดีที่สุดและตั้งเป้าว่าผลตอบแทนรวมจะชนะตลาด

2️⃣ Index fund หรือกองทุนดัชนี

กองทุนดัชนีรวมนั้นโดนจัดตั้งขึ้นมาครั้งแรกโดย Jack Bogle ในปี 1970s เพราะเขาเหนื่อยกับการต้องมานั่งเสียเงินให้กับผู้จัดการกองทุนรวม โดยวิธีการแก้ไขของเขานั้นง่ายๆมาก ทุกๆอย่างนั้นคล้ายกับ Mutual Fund กองทุนนี้ยังมีหุ้นอยู่หลายๆตัวและยังเป็นการกระจายความเสี่ยงอยู่ แต่วิธีการเลือกหุ้นคือซื้อหุ้นทั้งหมดทุกตัวใน Index ที่ต้องการจะล้อผลตอบแทน เช่นดัชนีหุ้นบ้านที่ทุกคนคุ้นก็อาจคือ SET50, SET100 โดยจะซื้อตามสัดส่วนตลาดจริงเป๊ะๆ ไม่มีการคัดเลือกหุ้น ไม่มีการทำ “Active management” ทำให้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินให้กับ Fund Manager การบริหารแบบนี้เราเรียกว่า "Passive Management"

✅ ข้อดี - ทำให้ลดค่าธรรมเนียมไปได้มากๆเลย บางกองทุน Index Fund อาจจะเหลือค่าธรรมเนียมเพียง 0.05% ก็เป็นได้

❌ ข้อเสีย - ผลตอบแทนจะได้เท่ากับเฉลี่ยตลาดจะไม่มีโอกาสได้ดีกว่า (แต่ก็ไม่น้อยกว่า) และอีกข้อเสียนึงที่เหมือน Mutual Fund คือ ทั้ง 2 กองทุนนี้ยังทำการซื้อขายได้เพียงวันละหนึ่งครั้ง เราสามารถซื้อหรือขาย 2 กองทุนนี้ได้ที่แค่ราคาปิดของวันเท่านั้น ทำให้อาจขาดสภาพคล่องในการรับมือกับตลาดในยามที่ผันผวน

3️⃣ ETF กองทุน Exchange Traded Fund

นี่คงเป็นกองทุนที่ผมพูดถึงบนเพจมากที่สุด เพราะว่าเป็นกองทุนที่ใหม่และมีข้อดีมากที่สุดในมุมมองของผม โดยกองทุน ETF นั้นจะคล้ายๆกับกองทุน Index Fund เพียงแต่ เราไม่ต้องมานั่งรอราคาปิดรายวันเพื่อซื้อขาย แต่ ETF นั้นจะมีราคาให้ซื้อขายกันตลอดเวลาที่ตลาดเปิด เราจะเห็นราคามูลค่ารวมของกองทุนวิ่งขึ้นลงตลอดเวลาเหมือนราคาหุ้นเลย

และข้อดีอีกข้อของ ETF ที่เกือบคล้ายกับ Mutual Fund คือ ถึงแม้จะไม่ได้จ้างผู้บริหารกองทุน (Fund Manager) มาบริหารตอลดเวลาและมีธรรมเนียมที่ต่ำ แต่มีหลายๆ ETF ที่พยายามตั้งเป้าให้ผลตอบแทนรวมจะชนะตลาด ก่อนจะซื้อ ETF นั้นเราควรศึกษาให้ดีว่ากองทุนนั้นตั้งกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างไร เพราะรายละเอียดจะแตกต่างกันมากในแต่ละกอง

ETF ส่วนใหญ่นั้นอาจจะซื้อหุ้นล้อตามผลตอบแทนของ Index ดัชต่างๆ แต่ยังมี ETF อีกจำนวนมากที่ผู้บริหารกองทุนคัดสรรหุ้นที่ดีที่สุดแล้วมาประกอบกันเป็นตระกร้าให้เราซื้อ โดยหากเราเชื่อฝีมือการเลือกของหัวหน้ากองทุนเหล่านี้เราก็อาจจะสามารถทำผลตอบแทนชนะตลาดได้โดยไม่เหนื่อยและไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่แพง

✅ #แต่จุดที่ดีไปกว่านั้น คือบางกองทุน ETF อาจนำเครื่องมืออนุพันธ์อื่นๆเข้ามาผสมผสานในกลยุทธ์เพื่อที่จะเร่งผลตอบแทนได้ด้วย !

โดยผู้ซื้อกองทุนไม่จำเป็นต้องมานั่งปวดหัวกับการเทรดรายวันหรือการใช้กลยุทธ์ที่เราไม่คุ้นเคย ยกตัวอย่างเช่น BuyWrite ETFs ที่เราได้แนะนำไปเมื่อวานนี้ ก็โดนจัดทำขึ้นมาให้กับนักลงทุนที่มีมุมมองว่าตลาดจะขึ้นช้าๆแบบมี Limit Upside ไม่ต้องเหนื่อยไปนั่งขาย Call Option เอง หรือยังมีกองทุน ETF อีกจำนวนมากที่นำ Algorithm มาช่วยเทรดเพิ่มผลตอบแทนของกองทุนด้วย

❌ ถ้าเข้าใจกลไกของ ETF เป็นอย่างดีแล้ว ผมแทบจะมองไม่เห็นข้อเสียของกองทุนชนิดนี้เลย นอกเสียจากว่าการที่ราคาวิ่งขึ้นลงตลอดเวลาอาจทำให้ผู้ลงทุนตื่นตระหนกเกิดไป แล้วเกิดความรู้สึกอยากจะเก็งกำไรราคากองทุนมากกว่าการมองเป็นการลงทุนระยะยาว แต่ถ้าเราเข้าใจในจุดนี้ดีแล้ว มันย่อมจะไม่ใช่ข้อเสียซะทีเดียว และต่างชาติก็นิยมกองทุนชนิดนี้เป็นอย่างมากด้วย

และนี่ก็คือบทสรุปในความแตกต่างของ 3 กองทุนหลักๆที่ทุกท่านอาจได้ยินบ่อยๆครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ และถ้าใครอยากให้เขียนเรื่องของการลงทุนมากขึ้นก็ลอง Comment เข้ามาได้เลยครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

#ทรัมพ์คว่ำข้อตกลงหยุดยิงสากลของUN
#องค์การอนามัยโลกห้ามยุ่งกับCovid?

วีรกรรมวงแตกของเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง เล่าได้ยันลูก ยันหลานก็ไม่จบ เมื่อเสี่ยแกสั่งบล็อคโหวต "แผนข้อตกลงหยุดยิงสากล" ของ UN เพียงเพราะอ้างถึงองค์การอนามัยโลกในแผนร่าง เล่นเอาวงแตก ร้อง อิหยังวะ? กันทั้งที่ประชุม UN

ต้นเรื่องนั้น มาจากความปรารถนาดีของ ท่านอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ยื่นข้อเสนอให้มีแผนข้อตกลงหยุดยิงทั่วโลกเพื่อสู้ภัย Covid-19 ในพื้นที่สีแดง ที่มีความไม่สงบ ยังรบพุ่งกันอยู่ ให้วางอาวุธหยุดยิงกันก่อน เปิดทางให้หน่วยงานด้านการแพทย์ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่อาจติดเชื้อ Covid-19

แผนข้อตกลงฟังดูดีมาก แต่การร่างแผนกลับมีแต่เรื่องวุ่นวาย ประชุมกันมานานกว่า 6 สัปดาห์แล้ว ยังหาข้อสรุปไม่ได้

เหตุเกิดจากในแผนข้อตกลงหยุดยิงสากลนี้ จำเป็นต้องมอบหมายองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เข้าไปทำหน้าที่จัดทีมแพทย์ อุปกรณ์และยาเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ WHO อยู่แล้ว

แต่เนื่องจากเสี่ยทรัมพ์ของเรา แกงอนอยู่กับ WHO หาว่าทำงานช้า ไม่ได้เรื่อง และไปเข้าข้างจีน ทำให้โรคระบาดไปทั่วโลก แกเลยตัดงบบริจาคให้ WHO และประกาศว่าจะไม่ขอสังคายนาด้วย

ดังนั้น ถ้า UN จะร่างแผนข้อตกลงหยุดยิง ที่มีการอ้างถึงชื่อของ WHO แม้แต่บรรทัดเดียว สหรัฐก็จะขอใช้อำนาจสิทธิ์หนึ่งในสมาชิกถาวรตีประเด็นให้ตกไป

แต่พี่จีน ที่ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรเหมือนกันก็บอกว่า ก็หน่วยงานที่ดูแลด้านสาธารณสุขในสังกัดของ UN มันก็มีแต่ WHO ไม่ใช่เหรอ แล้วเขาต้องเข้าไปปฏิบัติภารกิจคุมโรคระบาด ถ้าไม่ให้เอ่ยถึง WHO แล้วจะให้เอ่ยถึงใคร?

ดังนั้นจีนจึงยืนกรานว่า ในข้อตกลงของ UN ต้องระบุหน่วยงาน WHO ลงไปให้ชัดเจนด้วย ไม่งั้นจีนก็ไม่ยอม

ความ WHO ยังไม่ทันหาย ความอะไรก็เข้ามาแทรกอีก เมื่อรัสเซีย อีกหนึ่งประเทศสมาชิกถาวรเหมือนกันก็เสนอว่า ไหนๆก็จะหยุดยิงแล้ว น่าจะเพิ่มเงื่อนไขยกเลิกการคว่ำบาตรให้กับประเทศอย่างอิหร่าน หรือ เวเนซุเอล่า ด้วยได้ไหม เพราะประเทศเหล่านี้เขาก็มีปัญหาเรื่อง Covid-19 เหมือนกัน

ก็เลยเป็นเหตุให้แผนข้อตกลงหยุดยิงของ UN ยังไปไม่ถึงไหน ผ่านมาเกือบจะ 2 เดือน จนยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะไปถึง 4 ล้านคนแล้ว จะให้รอถึงเมื่อไหร่!!

ด้วยเหตุนี้ทาง UN ก็เลยเปลี่ยนคำ ไม่อ้างถึง WHO ก็ได้ แต่เลี่ยงใช้คำว่า "Specialized Health Agencies" หรือหน่วยงานพิเศษด้านสาธารณสุขแทน ซึ่งก็เป็นที่รู้กัน เพราะ UN มีหน่วยงานด้านนี้อยู่หน่วยเดียว ก็คือ WHO ไง จะใครหล่ะ

พอร่างเสร็จส่งไปยังสมาชิกแต่ละประเทศ จีนไม่ขัดข้อง รัสเซียไม่ว่าอะไร ประเทศอื่นพร้อมเซ็นนานแล้ว

แต่สหรัฐไม่ยอม!

ด้วยเหตุผลว่า UN จะมาเนียนเปลี่ยนคำอ้างว่าเป็นหน่วยงานพิเศษก็ไม่ได้ เพราะสุดท้ายก็หมายถึง WHO อยู่ดี และสหรัฐยังยืนกรานว่า WHO จะต้องไม่เกี่ยวข้องใดๆกับข้อตกลงของ UN ฉบับนี้ ไม่อย่างนั้น สหรัฐก็จะใช้สิทธิ์บล็อคโหวต

เท่านั้นก็วงแตก ปิดการประชุม เพราะทุกอย่างต้องกลับไปเริ่มต้นคุยใหม่หมด เสียเวลาไปเปล่าๆ ปลี้ๆ เกือบ 2 เดือน

หลายคนก็สงสัยว่า เสี่ยแกจะอะไรกันนักหนากับ WHO จะให้ UN แก้ปัญหาโรคระบาดสากล แต่ไม่ยอมให้ใช้ WHO? ก็ได้หรือ?

หรือว่าสหรัฐจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา จัดส่งทีมแพทย์ เครื่องไม้ เครื่องมือมาช่วยแทน WHO ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเสี่ยอ่างแก No สน No แคร์ กับปัญหาระดับโลกนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงลดภาวะโลกร้อน การลดขีปนาวุธ หรือแม้แต่วิกฤติไวรัสโคโรน่าในต่างประเทศ

ไม่คิดจะช่วย แล้วยังไปตัดขาคนอื่นไม่ให้เข้าไปช่วยอีก ทำไมนิสัยดี๊ดีย์ อย่างนี้หล่ะค้า ไม่กลัวบาป กลัวกรรมบ้างเลยหรือคะเสี่ยขา

แหล่งข้อมูล

https://www.theguardian.com/world/2020/may/08/un-ceasefire-resolution-us-blocks-who

https://edition.cnn.com/2020/05/09/...n-coronavirus-resolution-china-who/index.html

https://www.france24.com/en/2020050...-security-council-global-ceasefire-resolution

https://edition.cnn.com/2020/05/09/politics/us-leadership-coronavirus-intl/index.html

 

#ไวรัสCovidเตรียมรุกฆาตทำเนียบขาว
#หัวหน้าทีมหมอขอเวลานอก

Covid-19 เริ่มกระชับพื้นที่รุกคืบเข้ามาในทำเนียบขาวทีละนิดแล้ว เมื่อมีเจ้าหน้าที่คนในทำเนียบขาวคิดเชื้อ Covid-19 มากขึ้น เป็นเหตุให้คีย์แมนคนสำคัญของทีมสาธารณสุข ถึง 3 คนกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องขอกักตัว 14 วัน

หัวหน้าหน่วยคุณหมอ 3 คนนี้คือ

- ดร. แอนโธนี ฟาวซี หัวหน้าหน่วย Task Force หรือ ศบค. แห่งสหรัฐอเมริกา

- ดร. โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยกองควบคุมโรคระบาด หรือ CDC

- สตีเฟน ฮาห์น อธิบดีกรมการอาหารและยา หรือ FDA

ทั้ง 3 คนจำเป็นต้องกักตัวเพราะได้เคยพบปะ พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวที่มีผลตรวจยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ Covid-19

จุดเชื่อมโยงที่ทำให้หัวหน้าทีมสาธารณสุขทั้ง 3 ท่านจำใจต้องไปกักตัวที่บ้าน คือ เคธี่ มิลเลอร์ โฆษกหญิงประจำตัวของรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวว่า เคธี่ มิลเลอร์ ติดเชื้อ Covid-19!

และก่อนหน้าที่ผลตรวจเชื้อของเธอจะออกมา เธอได้ไปพบสตีเฟน ฮาห์น อธิบดี FDA

แล้วจากนั้นอธิบดี FDA กับ ท่าน ผอ. CDC และ ดร. ฟาวซี ก็มาพบกัน นั่นเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที

ถึงแม้ว่า 3 คีย์แมนนี้ ยังไม่พบว่าติดเชื้อ แต่ก็ต้องเข้าโปรแกรมกักตัวตามระเบียบขั้นตอนเพื่อความปลอดภัย

แต่เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะโฆษกสาว แคธี่ มิลเลอร์ เธอเป็นภรรยาของ นายสตีเฟ่น มิลเลอร์ ที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ของเรา ทำหน้าที่เป็นคนร่าง Speech ให้เสี่ย

แม้จะยังไม่เห็นข่าวว่า นายสตีเฟ่น มิลเลอร์ ติดเชื้อ Covid-19 ตามภรรยาหรือไม่ แต่ก็สร้างความปั่นป่วนให้ทีมทำเนียบขาวพอสมควรทีเดียว

เนื่องจากข่าวการติดเชื้อของ ของเคธี่ มิลเลอร์ ออกมาหลังจากที่พบว่าผู้ช่วยส่วนตัวของทรัมพ์ ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแค่วันเดียว เลยทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างหนักว่า จะมีคนในทำเนียบขาวติดเชื้ออีกหรือไม่

และทำให้ตารางการทำงานของไมค์ เพนซ์ป่วนสุดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเพนซ์ต้องยกเลิกภารกิจที่รัฐไอโอวา แถมต้องกักตัวผู้ช่วยอีก 6 คนที่ทำงานร่วมกับเคธี่ มิลเลอร์

นอกจากเคธี่ มิลเลอร์แล้ว ยังมีข่าวลืออีกว่า ผู้ช่วยส่วนตัวของ อิวานก้า ทรัมพ์ ลูกสาวคนโตของเสี่ยก็ติด Covid-19 เหมือนกัน และต้องถูกกักตัว

เลยดูเหมือนว่า Covid-19 เริ่มรุกคืบทำเนียบขาว เตรียมพร้อมรุกฆาต กินขุนได้ทุกนาที หากเผลอเปิดช่องโหว่นิดเดียว ก็มีสิทธิ์เกมได้ทันทีเลยนะคะ

แหล่งข้อมูล

https://www.reuters.com/article/uk-...xposure-to-person-with-covid-19-idUSKBN22L098

https://www.politico.com/news/2020/05/08/mike-pence-staffer-tests-positive-for-coronavirus-244816

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-52595700

https://www.theguardian.com/world/2...covid-19-taskforce-members-to-self-quarantine

 

กพท.ประกาศ สนามบิน 5 แห่งเปิดได้ 24 ชม.

วันที่ 10 พ.ค.63 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กระทรวงคมนาคม ประชาสัมพันธ์ช่วงเวลาและท่าอากาศยานที่เปิดให้อากาศยานขึ้นลง ดังนี้

ให้บริการระหว่างเวลา 07.00 – 19.00 น. ได้แก่ ท่าอากาศยานน่านนคร พิษณุโลก แพร่ แม่สอด แม่ฮ่องสอน ลำปาง ขอนแก่น นครพนม บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช และระนอง

ให้บริการระหว่างเวลา 05.00 – 24.00 น. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี

ให้บริการระหว่างเวลา 06.00 – 18.00 น. ได้แก่ ท่าอากาศยานหัวหิน

ให้บริการเวลา 06.00 – 22.00 น. ได้แก่ ท่าอากาศยานสมุย

ให้บริการระหว่างเวลา 06.00 – 24.00 น. ได้แก่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และหาดใหญ่

ให้บริการ 24 ชั่วโมง ได้แก่ ท่าอากาศยานกระบี่ อู่ตะเภา เชียงราย ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ

สนามบินและช่วงเวลา ที่เปิดให้อากาศยานขึ้นลงได้

สนามบินและช่วงเวลา ที่เปิดให้อากาศยานขึ้นลงได้

นอกจากนี้ “ผู้โดยสาร” โปรดตรวจสอบมาตรการของแต่ละท่าอากาศยาน และการปฏิบัติตัวในการเดินทางเข้าจังหวัดของแต่ละจังหวัด สำหรับอากาศยานจากภายนอกประเทศ ยังห้ามทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยชั่วคราว จนถึงวันที่ 31 พฤษถาคม2563 เวลา 23.59 น.



ที่มาข่าว : www.bangkokbiznews.com

The post กพท.ประกาศ สนามบิน 5 แห่งเปิดได้ 24 ชม. appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ใครจะไปยอมรับความผิดที่ตัวเองก่อขึ้น

WHOโต้ทันที หน่วยข่าวกรองเยอรมนีอ้างปธน.จีน ขอให้เลื่อนเตือนภัยโควิด
สื่อเยอรมนีอ้างหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ สืบพบ ปธน.สี จิ้นผิงขอร้องต่อผอ.WHO ให้ช่วยเก็บความลับ โควิดสามารถติดต่อจากคนสู่คนและเลื่อนแจ้งเตือนภัยการระบาดใหญ่ทั่วโลก ขณะที่WHOโต้ทันทีไม่จริง
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

แม่ผงะ! พบลูกผูกคอลาโลกในบ้าน คาดซึมเศร้า พิษโควิดทำไร้งาน หมดเงิน
แม่สุดเศร้าพบลูกชายผูกคอดับในห้องครัว พร้อมเขียนจดหมายลาตาย"ผมได้ทุบศาลทิ้งจะขอดูแลทุกคนแทน พระวัดไหนเอาวิญญาณไปไม่ได้" และมีบทสวดภาษาบาลี คาดเกิดจากป่วยซึมเศร้าภรรยาแยกทาง ประกอบกับพิษโควิด
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

“สามัคคีไทย” ชี้ New Normal อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหลังโควิด-19

New Normal วันนี้ (10 พ.ค. 63) – นายอลงกรณ์ สังข์สิงห์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย ได้แสดงความเห็นผ่านเพจพรรคสามัคคีไทยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมจากวิกฤติโควิด-19 เป็นจุดก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวเราต่อสังคม และเศรษฐกิจอนาคตในรูปแบบใหม่ หรือที่เรียกว่า New Normal ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่จะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทิศทางที่ไม่เหมือนเคย เพราะทุกวิกฤติย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ ในบางสิ่งใหม่ที่ดีก็ควรนำมาใช้ ในบางสิ่งเดิมที่ไม่ดีก็ควรนำมาปรับปรุง “New Normal ย่อมไม่สมบูรณ์แบบเสมอไป” ตนจึงอยากแลกเปลี่ยนและชี้ให้เห็นถึง 3 สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งในและหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ตนมักจะเรียกว่า “3 Gig” ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สังคมจะต้องปรับตัว เพื่อเข้าสู่โลกยุคอนาคต ที่ New Normal อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอย่างที่หลายคนคิด

1. Gig lifestyle – การรักษาระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาด “Social Distancing” จะไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไป ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน จากกรณีที่ผู้คนขึ้นรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า BTS ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้คนก็ต่างต้องกลับมาใช้ชีวิตปกติ จึงทำให้คำว่า “เวลาและความเร่งรีบ” เข้ามาทดแทนการเว้นระยะห่าง (Distancing) จนทำให้ความระมัดระวังที่ว่านั้นเจือจางลง หรือเราอาจจะเรียกว่าเป็น “Gig lifestyle” ที่หมายถึงความบกพร่องในการตระหนักถึงการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามเมื่อความคืบหน้าของวัคซีนที่ยังไม่มีความชัดเจน การคุมเข้มมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อให้การเดินทางของผู้คนมีความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐต้องกระทำเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสรอบสองที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น

2. Gig Workers – อัตราการจ้างงานจะลดลงในระยะสั้นเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 โดยบริษัทส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การใช้เทคโนโลยี การบริหารข้ามสายงาน และใช้บุคลากรชำนาญเฉพาะด้าน ให้เข้ามามีบทบาทในการบริหารมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้แรงงานในปัจจุบันที่มีความจำเป็นน้อยลง เราจึงต้องผลักดันให้บุคคลากรที่ตกงานเข้าสู่สองช่วงหลักๆคือ 1. ในระยะสั้นที่เรียกว่า “Gig Workers” ซึ่งเป็นการทำงานในรูปแบบสัญญาจ้างระยะสั้นที่สามารถเลือกปริมาณงานเองได้ ซึ่งจะมีบริษัททำหน้าที่เป็นตลาดเชื่อมต่อระหว่างผู้ทำงานและผู้ใช้บริการโดยตรงและ 2. ในส่วนของระยะยาวเราจำเป็นต้องเข้าสู่ “วิสาหกิจชุมชน” ซึ่งคือการสร้างรายได้จากภายในชุมชนที่มาจากภายในประเทศมากกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแรงที่จะก้าวไปสู่การเติบโตของภูมิปัญญาและองค์ความรู้ที่จะต่อยอดได้ในอนาคต

3. Gig Economy – พฤติกรรมของผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อผู้คนหันมาสั่งอาหารและสินค้าออนไลน์มากขึ้นหลายเท่าตัว และหากสถานการณ์ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ ผู้ประกอบการรายย่อยจำเป็นต้องปรับตัวโดยให้ระบบ Delivery Application เข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามร้านค้าที่เข้าระบบจะถูกหักค่าธรรมเนียมประมาณ 25-30% จากรายได้ ซึ่งไม่เหมาะกับร้านเล็กๆที่มีผลกำไรไม่มากนัก ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวเพื่อเข้าสู่ช่วง “Gig Economy” ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเสรีที่มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจเดิม มาเป็นแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้คนสามารถเข้าไปทำงานในรูปแบบสัญญาระยะสั้นและยังสามารถกำหนดระยะเวลาการทำงานในรูปแบบนี้ได้อีกด้วย

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า การเตรียมตัวรับมือกับความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) เป็นเรื่องที่ทั้งรัฐบาล ผู้ประกอบการ พนักงาน และประชาชนทุกคนต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดไปด้วยกัน และจำต้องเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมของสังคมที่ ณ ตอนนี้ได้เริ่มเข้าสู่ “เศรษฐกิจยุคดิจิทัล” ที่จะกลายเป็น Cashless Society ซึ่งคือการเป็นสังคมไร้เงินสด แต่สิ่งสำคัญจะต้องได้รับการผลักดันจากรัฐบาลและผู้นำประเทศยุคใหม่ ที่มีความคิดหัวก้าวหน้า เข้ามาบริหารจัดการโดยสร้างการเชื่อมโยงระหว่างทุกองค์กร

ภายใต้ระบบบริการสาธารณะ และ รูปแบบการชำระเงินที่สะดวกทันสมัยมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การสร้าง ”บัตรเงินสดสาธารณะ” ในรูปแบบ Contactless ที่เชื่อมโยงสาธารณูปโภคหลายอย่างเข้าด้วยกันเช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า ร้านค้า และบริการต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งในระยะยาวเราจะไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางจากต่างชาติที่ทำให้ประเทศสูญเสียรายได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่ “เศรษฐกิจยุคดิจิทัล” และรองรับการเป็น “Smart City” ของประเทศในอนาคตจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

The post “สามัคคีไทย” ชี้ New Normal อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหลังโควิด-19 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์