ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตำรวจอินเดีย " โชว์ไม้ล็อคไวรัส " เจอใครต้องสงสัยล็อคได้เลย

    # หรือสั่งซื้อมาล๊อคแฟนได้

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คูเวต : แรงงานต่างชาติ จลาจล แย่งอาหารเกิดเหตุแรงงานต่างชาติ จลาจล แย่งอาหาร และรอส่งกลับประเทศจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่คูเวตต้องใช้กำลังสลาย จากสื่ออาหรับ
    - แรงงานให้เหตุผลว่า อาหารแจกไม่ทั่วถึงในช่วงปิดเมืองพวกเขาขาดอาหาร มีการแย่งอาหาร จนเจ้าหน้าที่ใช้กำลัง ระงับเหตุ
    - มีการเหยียดเชื้อชาติ แรงงานส่วนใหญ่แอฟริกัน
    ด้านเจ้าหน้าที่คูเวตแถลง
    - เหตุให้กำลังระงับเหตุเกิดจาก การรวมตัวของแรงงานแอฟริกันที่รอส่งกลับประเทศหลายจุด และเกิดความวุ่นวาย ในรายละเอียดคำแถลงมีไม่มากนัก
    ตามคลิป
    คลิปเพิ่มเติม
    https://m.facebook.com/groups/220900739128637?view=permalink&id=234782731073771

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดนีเซีย : เมืองสุราบายา
    เช้าวันแรกของการปิดเมือง จำกัดรถเข้าผู้เข้าเมืองทุกคนต้องได้รับการวัดไข้ หากอุณหภูมิ 38 องศา ไม่สามารถเข้าเมืองสุราบายาได้ ทำให้รถติดจำนวนมากในเช้านี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้ออินโดนีเซีย 9,096คนเสียชีวิต765คน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อังกฤษ : เบอร์มิงแฮม มัสยิด Jamia Ghamkol Sharif ปิดทำเป็นสถานที่เก็บศพผู้ป่วยโควิด
    ปกติเดือน รอมฎอน ของทุกปีจะเต็มไปด้วยชาวมุสลิมที่มาละหมาดมาเยือนมัสยิดแห่งนี้ แต่ปีนี้เปลี่ยนไปผู้เยือนหลักคือศพ มัสยิด Jamia Ghamkol Sharif ถูกปิด และติดตั้งลานจอดรถให้เป็นที่เก็บศพผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด มีกว่า 150 ศพในขณะนี้
    *ยอดติดเชื้อ 157,149 คน เสียชีวิต 21,092 คน

    Cr : AFP

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กาแฟน้ำมะพร้าวเป็นอะไรที่มีอยู่แล้ว แต่เข้านี้พิเศษและกำลังเป็นที่สนใจจนหลายๆเจ้าเอาด้วยคือการนำมะพร้าวเผาที่ยังร้อนๆ น้ำในลูกมะพร้าวยังเดือดอยู่มาชงกาแฟเลยอย่างในคลิป
    ส่วนตัวแอตยังไม่เคยทานทราบแค่มันหอมกว่าปกติมาก

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วอนช่วย แม่ป่วยหนักที่เกาหลีค่ารักษานับแสนแถมกลับไทยไม่ได้(มีคลิป)

    วันที่ (29 เม.ย.63) น.ส.ชมพูนุช อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากแม่ น.ส.ผุลหทัย อายุ 49 ปี ซึ่งไปทำงานที่ประเทศเกาหลี แบบผิดกฏหมาย ขณะนี้ป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วประมาณ 8 ล้านวอน และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้

    โดยก่อนที่ น.ส.ผุลหทัย จะตัดสินใจ ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ช่วงต้นเดือน มี.ค.62 ที่ผ่านมา ได้ขายบ้านที่จังหวัดลำพูนและนำบ้านที่ลำปางไปจำนองเพื่อใช้หนี้ที่มีอยู่ เพราะครอบครัวมีหนี้สินจำนวนมาก ประกอบกับได้เลิกรากับผู้เป็นพ่อ แม่จึงเป็นเสาหลักเดียวของครอบครัว

    ทั้งนี้ น.ส.ผุลหทัย มีโรคประจำตัวคือ โรคภูมิแพ้ และเมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค.63 ที่ผ่านมาเริ่มมีอาการไอเรื้อรังและต้องการที่จะเดินทางกลับประเทศไทยแต่ไม่สามารถทำได้เพราะสนามบินปิด เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ต่อมาต้นเดือน เม.ย.อาการเริ่มทรุดลง ต้องไปรักษาตัวที่คลีนิคในกรุงโซล ทางครอบครัวที่ที่ประเทศไทยต้องไปกู้เงินกว่าแสนบาทส่งให้รักษาตัว

    น.ส.ชมพูนุช ลูกสาวเล่าอีกว่า ขณะนี้ยอดค่ารักษาพยาบาล อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านวอน ซึ่งหากมีการรักษาต่อค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือแม่และ หากเป็นไปได้ อยากให้แม่กลับมารักษาตัวที่บ้านเพื่อที่จะได้ดูแลแม่ อย่างใกล้ชิด

    The post วอนช่วย แม่ป่วยหนักที่เกาหลีค่ารักษานับแสนแถมกลับไทยไม่ได้(มีคลิป) appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหยื่อโควิด-19 บราซิลทะลุ 5,000 ศพ ปธน.ถามลั่น “จะให้ผมทำยังไง?”
    บราซิลพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากกว่า 5,000 รายแล้ว ขณะที่ประธานาธิบดียังแสดงความไม่สนใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยถามย้อนนักข่าวที่ถามเกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิตว่า “จะให้ผมทำยังไง?”
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช็อก ยอดเหยื่อโควิดอังกฤษพุ่งพรวดทะลุ 26,000 ศพ ขึ้นอันดับ 2 ยุโรป
    จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นจนมากกว่า 26,000 ศพแล้ว หลังรวมจำนวนผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลกับผู้เคราะห์ในสถานที่อื่นๆ ด้วยเป็นครั้งแรก
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บอสเนียไม่รอด ยอดติดโควิด-19 รายวันพุ่ง หลังคลายล็อกดาวน์
    ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันในประเทศบอสเนียเพิ่มสูงขึ้นมาก หลังจากพวกเขาเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมไวรัสมรณะตัวนี้
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

    สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เปิดเผยในวันพุธที่ 29 เม.ย. 2563 ว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึง 93 ราย ทั้งที่ช่วง 2 วันที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อน้อยลงเรื่อย โดยเมื่อวันจันทร์พบ 49 ราย และในวันอังคารพบเพียง 20 ราย

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Breaking News : นายกฯ งัด พรก.ฉุกเฉิน เบรก ‘ผู้ว่าฯ’ ทั่วประเทศ คลายล็อกดาวน์

    วันที่ 29 เม.ย.63 เวลา 22:30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548(ฉบับที่ 4 ) ใจความว่า

    ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 1) ลงวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

    โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 แล้ว นั้น โดยที่รัฐบาลได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาเป็นลําดับอย่างต่อเนื่อง และมอบหมายให้ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคงร่วมกันประเมินสถานการณ์เพื่อพิจารณาผ่อนคลาย หรือเพิ่มความเข้มงวดการบังคับใช้บางมาตรการ โดยมุ่งจะให้การควบคุมและการแก้ไขสถานการณ์ ฉุกเฉินสามารถยุติลงได้โดยเร็วและไม่ย้อนกลับมาอีก

    ขณะเดียวกัน ประชาชนสามารถดํารงชีวิต ได้อย่างปกติสุข ภายใต้มาตรการป้องกันโรคและคําแนะนําของทางราชการ โดยจะพิจารณาผ่อนคลาย เป็นลําดับขั้นตอนตามหลักเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกําหนดและคํานึงถึงประเภทของกิจการ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงน้อย สถานที่ซึ่งสามารถจัดระบบควบคุมดูแลได้ และผู้เกี่ยวข้องซึ่งสามารถ นํามาตรการป้องกันโรคมาบังคับใช้ได้เป็นลําดับแรก โดยใช้ช่วงเวลาระยะแรกนี้เตรียมการเพื่อรองรับ การจัดระบบตามมาตรการและคําแนะนําของทางราชการไปพลางก่อน

    อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกําหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย

    ดังนี้ให้บรรดาประกาศหรือคําสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ผู้มีอํานาจตามกฎหมายว่าด้วย การเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองที่ได้ประกาศ หรือสั่งไว้ก่อนวันที่ข้อกําหนดนี้ใช้บังคับ ไม่ว่าจะเป็นการห้าม การให้กระทําการ หรือการผ่อนคลายใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นประกาศหรือสั่ง ตามข้อกําหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะได้มีข้อกําหนด ประกาศ หรือ คําสั่งเป็นอย่างอื่น

    The post Breaking News : นายกฯ งัด พรก.ฉุกเฉิน เบรก ‘ผู้ว่าฯ’ ทั่วประเทศ คลายล็อกดาวน์ appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    〽️ ก้าวแรกของ Recession อย่างเป็นทางการ ?!?! เศรษฐกิจสหรัฐ หดตัวลงมากกว่าที่คาดในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ จับตาดูการการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในคืนนี้ ซึ่งจะเป็น #ตัวแปรสำคัญ ว่าตลาดหุ้นสหรัฐนั้นจะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องหรืออาจปรับตัวลดลง และผลออกตีหนึ่งบ้านเราคืนนี้

    สหรัฐได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกินที่สำคัญออกมาโดย US GDP หดตัวลงมากกว่าที่คาดใน Q1'20 เมื่อเทียบกับ Q4'19 โดยหดตัวลงถึง -4.8% เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ -4.0%

    แต่ข่าวนี้ไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงแม้แต่น้อย ดัชนี Dow Jones และ S&P Futures ยังคงบวกอย่างต่อเนื่องประมาณ +1% ทั้งคู่ เพราะยังรอข่าวดีจากผลการประชุมของ FED ในคืนนี้

    ตลาดสหรัฐทั้งตลาดจับตามองการประชุม FOMC อย่างใกล้ชิด ถึงแม้ทุกฝ่ายจะเชื่อว่า FED นั้นจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปที่ 0.0%-0.25% แต่ยังมีเรื่องสำคัญอื่นๆให้ติดตามเช่น

    1️⃣ Fed จะมีแผนในการลดดอกเบี้ยเป็นติดลบอย่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอหรือไม่ ?
    2️⃣ Fed เห็นผลของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆใน 1 เดือนกว่าๆที่ผ่านมาอย่างไร ?
    3️⃣ Fed มีมุมมองต่อสถานการณ์และผลกระทบของไวรัส Covid-19 อย่างไรบ้าง ?
    4️⃣ Fed จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับเงินทุนสำรองที่สถาบันการเงินนำมาฝากกับ Fed หรือ Intereest on Excess Reserve (IOER) อย่างไรบ้าง ?
    5️⃣ Fed จะปรับอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรประเภทข้ามคืน (Overnight repo rate) ไหม ?

    นี่ยังเป็นคำถามที่นักลงทุนทั้งตลาดกำลังรอฟังจากทาง Jerome Powell ประธานของธนาคารกลางสหรัฐ

    กำลังจะใกล้เวลาสำคัญที่ตลาดหุ้นสหรัฐจะต้องเลือกทิศทางแล้ว !

    จุดสูงสุดของตลาดหุ้น Dow Jones ก่อนจะโดนเทขายเพราะไวรัสโควิดระบาดนั้นอยู่ที่ 2.9 หมื่นจุด และจุดต่ำสุดของ Dow Jones ในช่วงหลังไวรัสโควิดนี้คือ 1.9 หมื่นจุด ทำให้ระดับราคาดัชนี Dow Jones ที่ไต่ขึ้นมาถึง 2.4 หมื่นจุดตอนนี้นั้นคือ #ระดับครึ่งทางระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดแล้วเป๊ะๆ ถือเป็นสัญญานทางเทคนิคที่สำคัญว่าปัจจัยการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆต่อไปจากนี้จะสำคัญต่อทิศทางตลาดมากๆ

    หาก FED สามารถออกมาให้ข่าวดีมากๆได้ และพลักให้ตลาดขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านตอนนี้ได้ก็อาจทำให้จุดต่ำสุดของตลาดนั้นผ่านไปแล้วจริงๆ แต่ในทางกลับกันหาก FED มาให้สัญญานที่ไม่ดีราคาก็อาจจะติดกับแนวต้านนี้ไปอีกสักพัก

    อัพเดทสำคัญอื่นๆ ที่จับตามอง

    1️⃣ ผลทดสอบล่าสุดจากทางบริษัท Gilead เองมีหลักฐานว่ายา Remdesivir มีประสิทธิภาพจริงและอาจกลายเป็นยารักษาไวรัสโควิดตัวแรกของโลก !
    2️⃣ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสหรัฐดีดทะลุ 1 ล้านรายแล้ว
    3️⃣ รายงานผลประกอบการของบริษัทใหญ่ๆต่างๆอย่าง Google / Boing / Samsung / GE / Spotify
    4️⃣ Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐต่อว่าจีนเรื่องการปิดข้อมูลเรื่องไวรัสโควิดอย่างต่อเนื่อง

    Cr : OilTradingKP

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #TrumpTwitterEffect
    หลังจากที่ตัวเลข #ผู้ติดเชื้อไวรัส ในสหรัฐดีดเกิน 1 ล้านคนเป็นประเทศแรกของโลก ทรัมป์ได้ออกมาทวีตว่า

    “เหตุผลเดียวที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐนั้นดีดสูงกว่า 1 ล้านคนเป็นเพราะระบบการทดสอบของเรานั้นล้ำหน้ากว่าประเทศอื่นๆเยอะ ประเทศอื่นๆตรวจสอบได้ล่าช้าทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังน้อยกว่าสหรัฐอยู่”

    Cr : OilTrading

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลประชุมออกมาแล้ว! Fed ธนาคารกลางสหรัฐ คงดอกเบี้ย 0.00-0.25%

    และจะคงดอกเบี้ยไว้เท่านี้เหมือนเดิมจนกระทั่งอัตราการจ้างงาน จะกลับมาเต็มรูปแบบ และ อัตราเงินเฟ้อจะต้องมากกว่า 2%

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมัน WTI พุ่ง +32% หลังจากวันนี้มีประกาศสต็อคน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับ การคาดการณ์ที่ 10.6 ล้านบาร์เรล

    EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันสิ้นสุด ณ วันที่ 24 เมษายน เพิ่มขึ้นเพียง 9 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่ 10.6 ล้านบาร์เรล โดยปรับลดลงประมาณ 16 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับสต็อคคงเหลือในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สต็อคน้ำมันเบนซินลดลงประมาณ 3.7 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 ล้านบาร์เรล ในขณะที่สต็อคน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.6 ล้านบาร์เรล

    สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที 32% ซึ่งปรับตัวตามข่าวเรื่องความคืบหน้าของการทดลองทางคลินิกสำหรับการรักษาโรค Covid-19 ของ Remdesivir

    และการหยุดการผลิตน้ำมันในบางที่ ทำให้การสต๊อกน้ำมันลดลงมากๆ และเป็นสัญญาณที่ดีอีกแค่ไม่กี่วัน กลุ่ม OPEC+ ก็จะช่วยลดกำลังผลิตเช่นกัน

    https://www.investing.com/news/comm...s-rose-by-9m-barrels-vs-106m-expected-2154838

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แค่เศษหมากฝรั่งที่ติดใต้รองเท้าของจีน
    สื่อจีนซัดกลับออสซี่ ยุนานาชาติสอบต้นตอไวรัสระบาด
    .
    สงครามไวรัสก็ยังไม่ซา แต่สงครามน้ำลายข้ามชาติกำลังระอุ เมื่อออสเตรเลียออกความเห็นว่า นานาชาติควรร่วมกันสืบสวนหาสาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่แท้จริงซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน และร่วมกันเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากจีน ซึ่งหากใครตามเรื่องนี้ไม่ทันจะขอสรุปสั้นๆ 2 ย่อหน้า และมาดูว่าลาดสุดสื่อจีนตอบโต้กลับว่าอย่างไร
    .
    เริ่มต้นที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอัยการรัฐมิสซูรีเปิดวอร์ก่อนที่แรกเลย โดยยื่นฟ้องรัฐบาลปักกิ่งข้อหาโกหกและปล่อยปละละเลยเกี่ยวกับการจัดการโรคระบาด เป็นผลให้ไวรัสแพร่ไปทั่วโลก กระทบทั้งสุขภาพประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจของรัฐและประเทศสหรัฐอเมริกาจนย่อยยับ โดยเรียกค่าเสียหายจากจีนเป็นเงิน 1 หมื่นล้านเหรียญ และเงื่อนไขคือต้องเป็นเงินสดเท่านั้น ตามมาด้วยอังกฤษ ที่ก็กล่าวหาทางการจีนล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อบังคับที่จะต้องรายงานข้อมูลด้านสาธารณสุขที่สำคัญอย่างแม่นยำและละเอียด และการที่จีนไม่รายงานอย่างโปร่งใสตั้งแต่ช่วงแรกของการแพร่ระบาด ทำให้เชื้อไวรัสมันลุกลามไปทั่วโลก และตามมาด้วยออสเตรเลีย ที่ฝ่ายนิติบัญญัติแห่งชาติ ก็จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากจีนเหมือนกัน
    .
    ตัดมาที่ฝั่งของจีนบ้างหลังโดนประชาคมโลกกดดัน สื่อของจีนภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์ ก็ออกมาตอบโต้ทั้งอังกฤษและออสเตรเลีย โดยอังกฤษโดนจีนตอกกลับไปถึงเรื่องในอดีตสมัยยุคล่าอาณานิคมว่า ก่อนที่จะให้รัฐบาลจีนชดใช้ค่าเสียหาย อังกฤษควรพิจารณาว่าตัวเองเป็นหนี้จีนและทั่วโลกเท่าไหร่จากช่วงการล่าอาณานิคม จากนั้นก็สวนกลับไปที่ออสเตรเลียต่อว่า การสืบหาไวรัสของออสเตรเลียนั้น “อันตราย” และออสเตรเลียจะล้มเหลวในการดึงเหล่าบรรดาผู้นำโลกเข้ามาร่วมวงด้วย และหากยังดื้อดึงที่จะทำ จีนก็จะบอยคอตสินค้าออสเตรเลียซะ ทั้งไวน์ ทั้งเนื้อวัว ที่นำเข้าจากออสเตรเลียมหาศาล และไม่เดินทางมาเที่ยวที่ออสเตรเลียอีกด้วย ในขณะที่สื่อออสซี่ก็โต้กลับอย่างไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน หลังทูตจีนประจำออสเตรเลีย “เฉิง จิ้ง เย่” ขู่ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาหากทางการออสซี่สืบสวนหาต้นตอไวรัส โดยซัดกลับไป ทูตคนนี้ได้สวมหน้ากากที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา และตอนนี้หน้ากากได้ถูกกระชากออกมาแล้ว ตลอดเวลาหลายปี รัฐบาลจีนได้ทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อบ่อนทำลายอธิปไตยของออสเตรเลีย เพื่อเข้ามาควบคุมระบบการเมืองการปกครองของออสเตรเลีย ข่มขู่บอยคอตสินค้า ครอบงำทางการเมือง และบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เป็นมิตรทำกัน พร้อมกับบอกว่าการสืบสวนหาไวรัสเป็นสิ่งอันตรายมันช่างน่าขัน ใครกันแน่ที่เป็นตัวละครอันตรายในเรื่องนี้ ใช่ประเทศจีนหรือเปล่า ที่ปล่อยให้ไวรัสระบาดไปทั่วโลกจนมีคนตายกว่า 2 แสนคน
    .

    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ที่ผู้เขียนสรุปมาให้ใน 2 ย่อหน้าข้างบน แต่ใช่ว่ามันจะจบลงง่ายๆ เพราะสื่อจีนเองก็เล่นแรงกลับไปยังออสเตรเลียอีกยก โดยบรรณาธิการสื่อยักษ์ใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน “หู จีซิ่น” จาก Global Times ได้เขียนข้อความลงในเว่ยป๋อโดยใช้คำที่เจ็บแสบว่า
    .
    “ออสเตรเลียเปรียบเหมือนหมากฝรั่งที่ติดใต้รองเจ้าของจีน”
    .
    การวิพากษ์วิจารณ์ออสเตรเลียในการเข้าร่วมกับสหรัฐในการโจมตีจีน นายหูเขียนว่า “หลังจากเกิดโรคระบาดเราต้องตระหนักถึงความเสี่ยงมากขึ้นเมื่อทำธุรกิจกับออสเตรเลียและเมื่อเราส่งลูก ๆ ไปศึกษาที่นั่น”
    .
    “ออสเตรเลียเหมือนกับตัวสร้างปัญหา มันเป็นเหมือนหมากฝรั่งติดอยู่ที่รองเท้าของจีน บางครั้งคุณต้องหาก้อนหินเพื่อเขี่ยมันออก”
    .
    ความคิดเห็นของนายหูสะท้อนให้เห็นว่า เอกอัครราชทูตจีนที่พูดโต้กลับสื่อของออสเตรเลียในช่วงสุดสัปดาห์ว่า การผลักดันการสอบสวนอาจส่งผลให้มีการคว่ำบาตรสินค้าของออสเตรเลีย
    .
    “คนทั่วไปอาจจะพูดว่า ทำไมเราควรดื่มไวน์ออสเตรเลีย? ควรกินเนื้อวัวออสเตรเลียหรือไม่? และเราอาจพิจารณาเกี่ยวกับการช่วยเหลือทางการเงินของออสเตรเลียด้วย”
    .
    สถานทูตจีนในกรุงแคนเบอร์รา ได้ตอบสนองต่อรายงานเกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศและการค้า ถึงการสอบสวนแหล่งที่มาของโควิด - 19 กับเอกอัครราชทูตและออกแถลงการณ์ที่ โดยอ้างว่า DFAT ยอมรับว่าไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบสวนที่เสนอ
    .
    มีข้อแก้ต่างออกมาจากทาง ฟรานเซส อดัมสัน เลขานุการของ DFAT ยืนยันคำแถลงของทูตจีน เฉิง จิงเย ว่าสิ่งที่สื่อออสเตรเลียนำไปตีความนั้นไม่ถูกต้อง
    .
    “เลขานุการอดัมสันพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องข้อเสนอของออสเตรเลียเกี่ยวกับการตรวจสอบอย่างอิสระ โดยกล่าวว่าข้อเสนอนั้นไม่มีแรงจูงใจทางการเมืองและไม่มีเป้าหมายที่ประเทศจีน เธอยอมรับด้วยว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะเริ่มการทบทวนและออสเตรเลียไม่มีรายละเอียดของข้อเสนอ เธอกล่าวเพิ่มเติมว่าออสเตรเลียไม่ต้องการให้เรื่องนี้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและจีน”
    .
    “เอกอัครราชทูตเฉิงชี้แจงอย่างชัดเจนถึงจุดที่เกี่ยวข้องของจีนโดยเน้นว่า ไม่ว่าจะมีข้อแก้ตัวใดๆ ที่ทำให้ฝ่ายออสเตรเลียยอมรับความจริง ก็ไม่สามารถถูกกดดันได้ว่าข้อเสนอนี้เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง”
    .
    “ เฉิงเอกอัครราชทูตปฏิเสธข้อกังวลอย่างเปิดเผยจากฝ่ายออสเตรเลียในการกล่าวคำปราศรัยของเขาในระหว่างการสัมภาษณ์ AFR เมื่อเร็ว ๆ นี้และเรียกร้องให้ออสเตรเลียยกเลิกอคติทางความคิด หยุดโหนการเมืองและทำสิ่งต่างๆ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี”
    .
    นายไซมอน เบอร์มิงแฮม รัฐมนตรีการค้ากล่าวเพิ่มเติมว่า “ออสเตรเลียจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายในประเด็นด้านสาธารณสุขที่สำคัญอีกต่อไป เนื่องจากการบีบบังคับทางเศรษฐกิจหรือการข่มขู่คุกคาม มันไม่สามารถเปลี่ยนนโยบายของเราในเรื่องความมั่นคงแห่งชาติได้”
    .
    อย่างไรก็ตาม นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกขององค์การอนามัยโลกให้การสนับสนุนการไต่สวนที่เป็นอิสระเกี่ยวกับต้นกำเนิดและการแพร่กระจายไวรัส เขากล่าวว่าประเทศของเขาจะผลักดันให้มีการสอบสวนระดับนานาชาติในการประชุม WHO ในวันที่ 17 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
    .
    ที่มา : https://www.theguardian.com/world/2...1Z3EW51xBCQzvytzGsa55LGKBrLYlOwkB1qWtCvGV4BtY
    https://www.cnbc.com/2020/04/24/law...vbmnVpU6hdEuf8AIZqfzbyRrK4Nu-HlyuO1XpkfwpO1Is
    https://www.smh.com.au/national/chi...byv5PvNsRqU96cu4FWSUMv4IGCHAIshzg1ZX-VX9VotOU

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เพียง 3 เดือน โควิด-19 คร่าชีวิตคนอเมริกัน
    สูงกว่าทหารที่ตายในสงครามเวียดนามแล้ว
    .
    อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งทะลุ 1 ล้านคนไปเป็นที่เรียบร้อย ในอัตราเร่งที่ยังคงไม่ได้ลดลง ซึ่งผลของจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ ก็ส่งผลทำให้ยอดผู้เสียชีวิตก็ให้จะแตะ 6 หมื่นรายเช่นกัน
    .
    มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสได้พุ่งแซงจำนวนทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสงคราม เวียดนามเมื่อปี 2498 – 2518 ไปแล้ว โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตปัจจุบันทะลุ 59,000 ราย ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน ส่วนทหารที่ต้องตายในสงครามครั้งนั้นข้อมูลจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาคือ 58,220 คน
    .
    “ เราอยู่ในภาวะสงครามแล้วฉันเรียกมันว่า ศัตรูที่มองไม่เห็น นั่นคือสงครามและเป็นสงครามที่อันตราย"” ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่
    .
    ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อประมาณ 3 ล้านคนและเสียชีวิตมากกว่า 200,000 ราย จากทุกประเทศทั่วโลก โดยมีอัตราการตายใกล้ถึง 7%
    .
    สหรัฐอเมริกาประมาณการว่า ผู้คนหลายล้านคนน่าจะติดไวรัสในสหรัฐอเมริกาและไม่ได้รับการระบุว่ามีอัตราการเสียชีวิตใกล้ถึง 1% ถึงกระนั้นก็ตาม โควิด – 19 นับเป็นการติดเชื้อที่อันตรายมากกว่ากว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งมีอัตราการตายประมาณ 0.1% คราชีวิตผู้คนไป 290,000 ถึง 650,000 คนต่อปีทั่วโลก
    .
    สถาบันเพื่อการวัดประเมินสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยวอร์ชิงตัน ประเมินว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด – 19 ในสหรัฐมากกว่า 67,000 คนภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม
    .
    แต่ในขณะที่ไวรัสยังคงแพร่ระบาดอยู่ บางรัฐก็ทำการปลดล็อกดาวน์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตอนนี้มี 16 รัฐได้ปลดล็อกอย่างเป็นทางการ ทั้งรัฐมิสซูรี่ เพนซิลเวเนีย โอเรกอน และไอดาโฮ
    .
    ในขณะนี้สหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขบางคนได้เตือนถึงการกลับมาระบาดใหญ่รอบที่ 2โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีหน้าซึ่งอาจตรงกับฤดูไข้หวัดใหญ่ตามปกติ
    .
    ที่มา : https://www.cnbc.com/2020/04/28/the...american-casualties-from-the-vietnam-war.html

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิถีชีวิตเปลี่ยน เมื่อถึงวันที่ชาวยุโรปไร้ข้อกังขาต่อการ ‘สวมหน้ากากอนามัย’
    .
    การสวมหน้ากากอนามัยกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่บนท้องถนนในเมืองใหญ่หลายแห่งของยุโรป อาทิ บรัสเซลส์ มิลาน ปราก และปารีส ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชาวยุโรปส่วนใหญ่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน
    .
    รัฐบาลยุโรปปรับเปลี่ยนนโยบายภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ขณะนี้รัฐบาลหลายแห่งจากสาธารณรัฐเช็ก สโลวะเกีย และออสเตรีย ไปจนถึงเยอรมนี เบลเยียม และฝรั่งเศส เรียกร้องหรือแนะนำให้พลเมืองของตนใส่หน้ากากปิดปากและจมูกเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ
    .
    สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไป หลายประเทศในยุโรปกำลังผ่อนคลายข้อจำกัดให้อยู่แต่ในบ้าน หน้ากากอนามัยยิ่งมีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิมในช่วงเวลาหลังการล็อกดาวน์ ในการช่วยลดการส่งต่อเชื้อโรคโควิด-19 จากพาหนะที่ไม่แสดงอาการ
    .
    โรคโควิด-19 ซึ่งทำให้มีผู้ป่วยมากกว่า 1.2 ล้านรายและเสียชีวิตเกือบ 120,000 รายในยุโรป เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) ยังคงอยู่กับมนุษย์ต่อไปอีกเป็นเวลานาน เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนและยารักษาที่มีประสิทธิภาพ
    .
    *จุดเปลี่ยน*
    ในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ ไทย และเวียดนาม การใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง เพื่อช่วยจำกัดการแพร่กระจายของไวรัส
    .
    แต่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป ผู้ที่สวมหน้ากากอนามัยมักถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ ในช่วงแรกที่ไวรัสระบาด บางกรณีในยุโรป เกิดเหตุชาวเอเชียที่สวมหน้ากากอนามัยถูกทำร้ายและเหยียดเชื้อชาติ
    .
    ในเวลานั้น นโยบายของรัฐบาลยุโรปก็ชัดเจนเช่นกัน มีเพียงผู้ติดเชื้อ ผู้ดูแล หรือเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพเท่านั้นที่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่หน้ากากสำหรับประชาชนทั่วไปไม่มีความหมาย
    .
    สถานการณ์ดังกล่าวเปลี่ยนไปแบบปุบปับเมื่อโรคโควิด-19 เกิดการระบาดในยุโรป พร้อมกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก่อตัวเพิ่มขึ้นในภูมิภาค
    สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศแรกในยุโรปที่บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ พร้อมทั้งระบุว่าเป็นมาตรการที่ช่วยลดการติดเชื้อ วันที่ 18 มี.ค. การสวมหน้ากากอนามัยกลายเป็นข้อบังคับในประเทศ และอันแดรย์ บาบิช (Andrej Babis) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก ได้แนะนำวิธีปฏิบัตินี้แก่ผู้นำยุโรปและสหรัฐอเมริกา
    .
    วันที่ 19 มี.ค. บาบิชทวีตข้อความเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสว่า “การสวมหน้ากากผ้าธรรมดาช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสได้ถึงร้อยละ 80! สาธารณรัฐเช็กเห็นเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องให้พลเมืองสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ” นายกรัฐมนตรีเช็กกล่าว
    .
    บาบิสยังบอกด้วยว่าเขาส่งวิดีโอหลายชุดให้แก่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรียุโรปส่วนใหญ่เพื่อกระตุ้นให้ทำเช่นเดียวกัน
    .
    นับจนถึงวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) ประเทศในยุโรปกลางที่มีประชากร 10.6 ล้านคนมีรายงานผู้ติดเชื้อ 7,387 รายและผู้เสียชีวิต 220 ราย โดยที่อิตาลีมีผู้ติดเชื้อ 197,675 รายและผู้เสียชีวิต 26,644 ราย ขณะที่ในสเปนมี 226,629 รายและ 23,190 รายตามลำดับ
    .
    นับจนถึงวันอาทิตย์ เบลเยียมที่มีประชากร 11.5 ล้านคน มีรายงานผู้ติดเชื้อ 46,134 รายและผู้เสียชีวิต 7,094 ราย โดยมีอัตราการเสียชีวิตถึงร้อยละ 15.4 ซึ่งสูงที่สุดในยุโรป
    .
    ก่อนหน้าเบลเยียม วันที่ 22 เม.ย. ประเทศเยอรมนีกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยบนระบบขนส่งสาธารณะ รัฐเบรเมินกลายเป็นรัฐสุดท้ายที่เรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย
    .
    “การกลับสู่ภาวะปกติที่มีความรับผิดชอบยังคงเชื่อมโยงใกล้ชิดกับการปกป้องสุขภาพอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เราจำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่คล้ายคลึงกันมากที่สุดในทุกรัฐของเยอรมนี” อาร์มิน ลาสเช็ท (Armin Laschet) มุขมนตรีแห่งแคว้นนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลีย กล่าว
    .
    ด้านรัฐบาลฝรั่งเศสยังไม่ได้ออกมาตรการบังคับให้สวมหน้ากาก แต่กลุ่มสถาบันที่มีอำนาจต่างๆ เช่น สถาบันการแพทย์แห่งชาติ เสนอแนะให้ประชาชนสวมหน้ากาก
    .

    หลังจากนั้น สาธารณรัฐสโลวักที่อยู่ใกล้เคียงก็มีข้อบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน ในวันที่ 30 มี.ค. ออสเตรียกำหนดให้ผู้ซื้อสวมหน้ากากอนามัยในซูเปอร์มาร์เก็ต และนายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน คูร์ซ กล่าวว่า “ผมรู้ดีว่าหน้ากากอนามัยเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับวัฒนธรรมของเรา… มันจะเป็นช่วงเรียนรู้”
    .
    *การสวมหน้ากากกลายเป็นที่นิยม*
    วันศุกร์ (24 เม.ย.) เบลเยียมเป็นประเทศล่าสุดในยุโรปที่ประกาศข้อบังคับสวมหน้ากาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางออก 3 ระยะ ที่จะปลดการล็อกดาวน์ทั่วประเทศทีละขั้น
    .
    โซฟี วิลเมส (Sophie Wilmes) นายกรัฐมนตรีเบลเยียม กล่าวว่าการยกเลิกข้อจำกัดกักตัวครั้งแรก (ระยะ 1A) จะเริ่มต้นวันที่ 4 พ.ค. และหนึ่งในมาตรการแรกนั้นคือกำหนดให้ชาวเบลเยียมทุกคนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปสวมหน้ากากอนามัยบนระบบขนส่งสาธารณะ
    .
    รัฐบาลเบลเยียมจะแจกหน้ากากอนามัยให้พลเมืองทุกคนอย่างน้อย 1 ชิ้น หน้ากากอนามัยจะกลายเป็นข้อบังคับสำหรับครูและนักเรียนที่อายุ 12 ปีขึ้นไปหลังจากเปิดโรงเรียนในระยะที่ 2 ซึ่งกำหนดเริ่มวันที่ 18 พ.ค.
    .
    “เราขอแนะนำให้สวมหน้ากากป้องกันที่ครอบจมูกและปาก เพื่อจำกัดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อไวรัสโดยตรงจากละอองฝอย” สถาบันการแพทย์แห่งชาติฝรั่งเศสกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 เม.ย.
    .
    ฝรั่งเศสซึ่งรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อยืนยันผล 124,575 รายและผู้เสียชีวิต 22,856 รายเมื่อนับถึงวันอาทิตย์ ตั้งเป้าว่าจะปลดล็อกดาวน์ทั่วประเทศในวันที่ 11 พ.ค. และคาดว่าหน้ากากอนามัยจะมีบทบาทสำคัญในการนี้
    .
    เอดัวร์ ฟีลิป (Edouard Philippe) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวว่า “เป็นไปได้มาก” ที่การสวมหน้ากากอนามัยจะเป็นข้อบังคับในการใช้ขนส่งสาธารณะ เขาจะเปิดเผยแผนการปลดล็อกดาวน์ของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 28 เม.ย.
    .
    สนับสนุนข้อมูลโดย : Xinhua News Agency

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกออนไลน์แชร์สเปรย์พ่นปากฆ่าเชื้อโคโรนา
    ‘เบตาดีน’แจงเริ่มทดสอบกับไวรัสโควิด-19 แต่ยังเป็นเพียงผลในหลอดทดลอง
    .
    จากกรณีที่โลกออนไลน์แชร์ข้อมูลอ้างว่า ผลิตภัณฑ์ “เบตาดีน” ในรูปแบบสเปรย์ฆ่าเชื้อใช้รักษาไวรัสโคโรนาได้ ทาง อย.ชี้แจงข้อมูลว่า เบตาดีน นั้น มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อจุลลินทรีย์ ลดการอักเสบบริเวณช่องปากและลำคอเท่านั้น ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ขณะที่ทางเพจ “Betadine” ก็ออกมาชี้แจงว่าผลิตภัณฑ์ BETADINE THROAT SPRAY และ BETADINE GARGLE มีข้อบ่งใช้เพื่อลดการอักเสบบริเวณช่องปากและลำคอ แม้จะมีการศึกษาในหลอดทดลองที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพในการกำจัดไวรัสกลุ่มโคโรนาที่ก่อโรคเมอร์ส, ซาร์ส และอีโบลาได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันการกำจัดไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคโควิด-19 ได้ ณ เวลานี้
    .
    เพจ “Betadine” โพสต์ข้อความระบุ “บริษัท มุนดิฟาร์มา ได้เริ่มทำการศึกษาประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนต่อไวรัสโคโรนา SARS-COV-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 (COVID-19) ทั้งในหลอดทดลองและทางคลินิก โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา” และระบุด้วยว่าการทดลองดังกล่าวเป็นการทดสอบตัวยา PVP-I หรือ Povidone-Iodine ซึ่งมีในผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนว่าจะสามารถยับยั้งต่อไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโควิด-19 ได้หรือไม่
    .
    ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ระบุว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อบริเวณช่องปากและลำคอ มีการศึกษาที่แสดงว่ามีสาร Antiseptic บางอย่าง เช่น พวก Iodine Compound สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ซึ่งในหลอดทดลองนั้น ก็สามารถฆ่าเชื้อได้ค่อนข้างจะดีและเร็ว ในเวลา 30 วินาทีหรือใน 1 นาที แต่ขณะนี้เราต้องการการศึกษาในทางการระบาดวิทยาหรือในคนไข้จริงๆ ว่าในการพ่น Antiseptic ตลอดเวลา เป็นเวลา 3 ครั้งต่อเนื่องกันนั้น จะสามารถป้องกัน หรือช่วยรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อได้หรือไม่ ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีผลการศึกษาออกมา
    .
    ด้านเภสัชกรหญิงจิตติมา เสมอภาค ผู้อำนวยการหน่วยธุรกิจ บริษัท มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันว่า ขณะนี้ทางบริษัท มุนดิฟาร์มา ได้ร่วมมือกับห้องปฏิบัติการ BLS3 ซึ่งใช้กับการวิจัยและทดลองเกี่ยวกับเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มการศึกษาประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนต่อไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 (COVID-19) ทั้งในระดับหลอดทดลองและทางคลินิคแล้ว โดยคาดว่าจะรู้ผลเร็วๆ นี้
    .
    ทั้งนี้การยืนยันประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนต่อการกำจัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (novel coronavirus) ซึ่งก่อให้เกิดโรคโควิด-19 จะสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อ การศึกษาวิจัยดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น
    .
    ส่วนผลทดสอบในการกำจัดไวรัส MERs และ SARs นั่น ถูกทดสอบกับตัวยาที่มีชื่อว่า PVP-I หรือ Povidone-Iodine ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เบตาดีน เช่น เบตาดีน โทรตสเปรย์ และ เบตาดีน การ์เกิล ทำให้ปัจจุบันความต้องการผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยาฆ่าเชื้อเบตาดีน ที่มีตัวยาโพวิโดนไอโอดีน (PVP-I) เพิ่มขึ้นมากทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการความร่วมมือในการวิจัยนี้ บริษัทมุนดิฟาร์มา จะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนในชัยชนะต่อภาวะวิกฤตสาธารณสุขของไทยและโลกครั้งนี้ไปด้วยกัน

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อไม่ฟังกันก็เลยต้องถมลานสเก็ต
    .
    หลายคนคงทราบเรื่องที่ชาวอเมริกันออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้งริมชายหาดจำนวนมาก แบบไม่สนใจการห้ามของเจ้าหน้าที่หรือทางการ ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นของ LA สั่งให้เจ้าหน้าที่ขนทรายเข้าไปถมในลาน สเก็ตบอร์ดที่ใหญ่ที่สุดใน หาดเวนิสสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ของ LA เพื่อป้องกันให้คนเข้าไปเล่น
    หลายคนอาจสงสัยว่ามีคนประท้วงหรือไม่
    มีครับ ผู้ประท้วงประท้วงโดยรณรงค์ว่าต้องเปิดไฟลานสเก็ตให้ปิดสระและเป็นสิทธิเสรีภาพที่จะมีสุขภาพที่ดีและกิจกรรมกลางแจ้งก็เป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพที่ดี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควบคุมได้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Gill Broussard

    บันทึกการพบเห็นครั้งแรกของ "ดาวเคราะห์เซเรส" พร้อมเส้นทางการโคจรที่บันทึกไว้ ดาวเคราะห์เซเรส ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงต่อหน้าพระธรรมอียิปต์(Exodus of Egypt) ในปี 1518 ก่อนคริสตศักราช และเศษซากของมันถูกเรียกว่าแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี การทำลายเกิดจากการปะทะกันของดาวหาง / ดาวเคราะห์ (Planet-7X)
    FB_IMG_1588207678084.jpg FB_IMG_1588207680714.jpg
    The first recorded sighting of "planet Ceres" with a documented orbital path. The planet Cere was utterly destroyed just before the Exodus of Egypt in 1518 BCE, and its debris is now called the asteroid belt between Mars and Jupiter. Its destruction was caused by a head-on collision with the Comet/Planet, (Planet-7X).

     

แชร์หน้านี้

Loading...