ติดตามสถานะการณ์

คุณอาจจะไม่รู้ว่า บริษัท Berkshire Hathaway ของนักลงทุนชื่อดัง Warren Buffet ตอนนี้มีเงินสดอยู่กว่า 4 ล้านล้านบาทแล้ว!!

ในขณะที่มูลค่าของบริษัท Berkshire Hathaway อยู่ที่ประมาณ 14.5 ล้านล้านบาท

เงินสดที่บริษัทมีอยู่ จึงคิดเป็นมูลค่าเกือบ 30% ของมูลค่ากิจการเลยทีเดียว

จึงเกิดคำถามที่ว่า Warren Buffet เป็นนักลงทุนให้หุ้นไม่ใช่เหรอ!? แล้วทำไมจึงมีเงินสดเยอะมากขนาดนี้!?


Berkshire Hathaway คือบริษัทที่เข้าไปลงทุนถือหุ้นในธุรกิจอื่นๆ มากน้อยแตกต่างกันออกไป

อ้างอิงจากรายงานของปีล่าสุด พบว่าพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาของบริษัท มีมูลค่าสูงกว่า 5.7 ล้านล้านบาท

ยกตัวอย่างธุรกิจที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น จนมีมูลค่าสูงที่สุดในพอร์ต ได้แก่

1. Apple บริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง มูลค่าหุ้น 2 ล้านล้านบาท

2. Bank of America ธนาคารยักษ์ใหญ่ มูลค่าหุ้น 600,000 ล้านบาท

3. Coca-Cola เครื่องดื่มที่รู้จักกันทั่วโลก มูลค่าหุ้น 576,000 ล้านบาท

4. American Express บริษัทบัตรเครดิต มูลค่าหุ้น 380,000 ล้านบาท

5. Wells Fargo สถาบันการเงินอีกแห่ง มูลค่าหุ้น 290,000 ล้านบาท


เมื่อลงทุนแล้วมีกำไรหรือได้เงินปันผลมา Buffet ก็จะนำมาต่อยอด โดยการนำเงินสดนั้นไปลงทุนในหุ้นเพิ่มเติม หรือซื้อกิจการอื่นๆ ที่น่าสนใจต่อไป

แต่... หากยังไม่มีธุรกิจที่น่าสนใจ หรือยังไม่มีหุ้นที่เขาคิดว่าเหมาะสม ก็จะยังคงถือเงินนั้นเอาไว้เพื่อรอจังหวะที่ดีจริงๆ

และเงินเหล่านั้น ก็สะสมทบกันมาจนตอนนี้มีมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านบาทแล้ว


คุณอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าเงินจำนวนนี้มากแค่ไหน..

4 ล้านล้านบาท เท่ากับงบประมาณที่สามารถเอามาบริหารประเทศไทยได้ตลอดทั้งปี 3.3 ล้านล้านบาท (แถมยังมีเหลืออีกด้วย)

4 ล้านล้านบาท มากกว่ากับมูลค่าของบริษัทชื่อดังอย่าง Tesla, Boeing, Paypal, Starbucks หรือ 3M ที่หน้ากากกำลังขายดี

4 ล้านล้านบาท สามารถเอามาซื้อบริษัทท็อปในตลาดหุ้นไทย ได้ทั้ง PTT, AOT, ADVANC, CPALL, GULF, SCB ได้ทั้งหมด

(และยังมีเงินเหลืออีกราว 3 แสนล้าน)


เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นเงินลงทุนมูลค่ามหาศาล ที่ Buffet สามารถเฝ้ารอคอยมองหาโอกาสดีๆ เพื่อทำการลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้

และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักลงทุนแบบเขา ก็คือช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นตกลงมาอย่างหนัก ราคาหุ้นถูก และคนต่างหวาดกลัวมากที่สุดนั่นเอง...


เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลง...

หากเทียบกับช่วงต้นปี ตอนนี้ตลาดหุ้นไทย ตกลงมาแล้วประมาณ 25%

ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ตกลงมาในทิศทางเดียวกันที่ประมาณ 24%


แน่นอนว่าเมื่อตลาดปรับตัวลง คนส่วนใหญ่ก็ย่อมจะขาดทุนและเสียเงินให้กับตลาดหุ้นไปด้วย ในขณะที่คนบางกลุ่มก็สามารถทำกำไรได้จากตลาดขาลง

แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง พวกเขาคือกลุ่มคนที่ยังคงถือหุ้นที่ตัวเองมีไว้ในมือโดยไม่หวั่นต่อการตกลงของตลาด

นอกจากนี้ พวกเขายังมีเงินสดอีกจำนวนมาก ที่สามารถใช้เข้ามาซื้อหุ้นได้ในยามที่ตลาดตกลงไปหนักมากๆ เช่นกัน


"วิกฤติ" ของคนกลุ่มหนึ่ง อาจจะเป็น "โอกาส" ของคนอีกกลุ่มหนึ่ง

การขาดทุนของบางคน อาจจะเป็นกำไรของคนอีกคน

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในโลกของการลงทุน เป็นแบบนี้ตลอดมา และจะดำเนินแบบนี้ต่อไปเช่นกัน


ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ก็นับเป็นอีกวิกฤติหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องแย่ต่อทั้งชีวิตของคนบนโลก และแย่ต่อระบบเศรษฐกิจ

แต่ในตอนนี้เกิดเรื่อง "แย่ๆ" แบบนี้ แล้วหลังจากที่วิกฤตินี้ผ่านพ้นไป ก็ย่อมมีโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกมาก

วันนี้คุณมองเห็นโอกาสอะไรบ้างแล้วหรือยัง!? มองเห็นสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้บ้างรึเปล่า!?

ลองมาเล่าให้ฟังสิครับ ว่าคุณมองเห็นอะไรบ้าง...!?


-----------------------------------------------------


ไม่พลาดทุกสาระน่าสนใจจาก Billion Mindset - แนวคิดพันล้าน

กด Like และตั้งค่าติดดาว See First

เพื่อติดตามเรื่องใหม่ๆ ที่อัปเดตได้ก่อนใครนะครับ


ที่มา:

https://www.barrons.com/articles/be...companies-sitting-on-tons-of-cash-51584352800

https://markets.businessinsider.com...ways-128-billion-cash-pile-2019-11-1028659828

https://www.tradingview.com/markets/stocks-usa/market-movers-large-cap/

https://www.dogsofthedow.com/largest-companies-by-market-cap.htm

https://www.cnbc.com/berkshire-hathaway-portfolio/

https://th.tradingview.com/markets/stocks-thailand/market-movers-large-cap/

https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_assets_owned_by_Berkshire_Hathaway

 

สรุปให้คุณเข้าใจ เงินกองทุนประกันสังคม 2.2 ล้านล้าน เอาไปลงทุนอะไรบ้าง!? // Billion Mindset - แนวคิดพันล้าน


เชื่อว่าทั้งคนทำงาน มนุษย์เงินเดือน และเจ้าของธุรกิจ ก็ย่อมคุ้นเคยกับการหักเงินสมทบกองทุนประกันสังคมกันเป็นอย่างดี

โดยทั่วไปแล้ว เงินเดือนของเราจะถูกหักประมาณ 5% หรือไม่เกิน 750 บาท เพื่อสมทบในทุกๆ เดือน

แต่สงสัยกันไหมว่า "กองทุนประกันสังคม" เมื่อได้เงินจากเราไปแล้ว ตอนนี้มีมูลค่ากองทุนสูงแค่ไหน!? และนำเงินเราไปทำอะไรบ้าง!?

บทความนี้จะช่วยอธิบายให้หลายคนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ...


อ้างอิงจากรายงานตอนสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีเงินในกองทุนประกันสังคม 2,215,673 ล้านบาท เราปัดให้เข้าใจง่ายๆ ว่า 2.2 ล้านล้านบาทนะครับ

แน่นอนว่ากองทุนก็ไม่ได้เอาเงินทั้งหมดไปลงทุนนะ จะเหลือเงินสดเอาไว้ประมาณ 5% แล้วที่เหลืออีกประมาณ 95% เอาไปลงทุนต่อ

เท่ากับว่ากองทุนประกันสังคม เอาเงินไปลงทุนต่อ 2.1 ล้านล้านบาท

แล้วที่เหลือประมาณ 100,000 ล้านบาท เป็นเงินสดที่สำรองเอาไว้


สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมต้องเอาเงินไปลงทุนต่อ แบบนี้มันจะเสี่ยงขาดทุนรึเปล่า!?

นั่นก็เพราะเป็นเรื่องของ "ความจำเป็น" ที่กองทุนจะต้องหารายได้เพิ่มเติม นอกเหนือจากการส่งเงินสมทบ

เพื่อให้มั่นใจว่าในอนาคต กองทุนจะมีเงินพอจ่ายทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย และเงินบำนาญให้แก่คนที่เกษียณไปแล้ว

โดยเฉพาะ "เงินบำนาญ" ที่ตอนนี้ก็ยังพอมีจ่ายอย่างเพียงพอ แต่อนาคตจะเป็นภาระที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล จนอาจจะไม่พอจ่าย หากไม่นำไปลงทุนให้งอกเงยขึ้น


(ในจุดนี้ใครอยากอ่านละเอียดขึ้น ผมมีบทความเก่าที่เขียนไว้เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ลองตามไปอ่านครับ: h(ttps://www.billionmindset.com/how-they-manage-social-security-fund/ )


ทีนี้เรามาแยกในส่วนเงินลงทุน 2.1 ล้านล้านบาท เงินก้อนนี้ก็จะถูกแบ่งออกเป็นสองก้อนหลักๆ

ก้อนแรก ประมาณ 1.69 ล้านล้านบาท

เงินส่วนนี้จะแบ่งลงทุนใน "หลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง" ซึ่งแทบทั้งหมดก็คือในรูปแบบของพันธบัตรรัฐบาล ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท

ที่เหลือก็คือ หุ้นกู้บริษัทเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ ตราสารหนี้ต่างประเทศ และเงินฝาก ลงทุนลดหลั่นกันไป


ก้อนสอง ประมาณ 400,000 ล้านบาท

ก้อนนี้ถูกนำไปลงทุนใน "หลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง" ซึ่งก็ได้แก่ หุ้น กองทุนอสังหาฯ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ หรือตราสารหนี้ที่ความน่าเชื่อถือลดลงมา

ซึ่งเงินลงทุนในหุ้น จะมีมูลค่าประมาณ 230,000 ล้านบาท แต่หลายคนให้ความสนใจ

เพราะอะไร!? เพราะเมื่อไปไล่ดูชื่อบริษัทเอกชนใหญ่ๆ เรามักจะเห็นชื่อของ "สำนักงานประกันสังคม" ติดอันดับเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยเสมอ

เรื่องนั้นเข้าใจถูกต้องแล้วครับ เพราะสำนักงานประกันสังคม จัดเป็นนักลงทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเลยทีเดียว!!

(เป็นรองเพียง กระทรวงการคลัง, ปตท., และ บ.อินทัช โฮลดิ้งส์ เท่านั้น)


ตัวอย่างรายชื่อของบริษัทใหญ่ๆ ที่สำนักงานประกันสังคมเข้าไปถือหุ้นนะครับ ได้แก่...

ADVANC (AIS) จำนวน 55,716,300 หุ้น คิดเป็น 1.87% ของบริษัท

SCC (ปูนซีเมนต์ไทย) จำนวน 41,033,950 หุ้น คิดเป็น 3.42% ของบริษัท

PTT (ปตท.) จำนวน 407,006,800 หุ้น คิดเป็น 1.42% ของบริษัท

BDMS (โรงพยาบาลกรุงเทพ) จำนวน 426,504,600 หุ้น คิดเป็น 2.68% ของบริษัท

AOT (ท่าอากาศยานไทย) จำนวน 164,542,800 หุ้น คิดเป็น 1.15% ของบริษัท


นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ได้ยกมาอย่างละเอียด เช่น ในกลุ่มธนาคารก็มี SCB, KBANK, BBL

รวมทั้งบริษัทใหญ่ที่คนไทยคุ้นชื่อ อย่างเช่น เซ็นทรัล บางจาก โฮมโปร และซีพี ก็ล้วนมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือสำนักงานประกันสังคมด้วยเช่นกัน


ปิดท้ายกันด้วยข้อมูลของผลกำไรที่กองทุนประกันสังคม ทำได้จากการลงทุน

ในปี 2562 พบว่ากองทุนประกันสังคม ทำกำไรจากการลงทุนได้อยู่ที่ 85,633 ล้านบาท

เงินหลักหมื่นล้านอาจจะฟังดูเยอะ แต่เมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่ 2,095,393 ล้านบาท ก็คิดเป็นประมาณ 4.08% เท่านั้น

และหากนับตั้งแต่ปี 2534-2562 ตลอดระยะเวลา 28 ปี กองทุนประกันสังคมทำกำไรจากการลงทุนรวมแล้ว 666,030 ล้านบาทเลยทีเดียว


ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และทำให้เข้าใจสถานะของ "เงินกองทุนประกันสังคม" เงินก้อนใหญ่ที่เราถูกหักไปทุกเดือนมากยิ่งขึ้นนะครับ


-----------------------------------------------------


ไม่พลาดทุกสาระน่าสนใจจาก Billion Mindset - แนวคิดพันล้าน

กด Like และตั้งค่าติดดาว See First

เพื่อติดตามเรื่องใหม่ๆ ที่อัปเดตได้ก่อนใครนะครับ

ที่มา:

https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/856729f35c671999d99db2f799ffa62f.pdf

https://www.sso.go.th/wpr/main/privilege/รายงาน_sub_category_list-label_1_130_754

https://www.set.or.th/set/commonslookup.do?language=th&country=TH&prefix=I

https://www.thansettakij.com/content/413568

 

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม มีหญิงไทยรายหนึ่งเดินทางเข้ามายังไต้หวัน แต่เพราะไม่ยอมกักตัวในที่พัก 14 วัน จึงถูกปรับเป็นเงิน 1,000,000 เหรียญไต้หวัน หญิงไทยคนนี้นอกจากจะไม่ยอมจ่ายเงินแล้ว ยังหายตัวไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงบังคับใช้กฎหมายห้ามหญิงคนดังกล่าวเดินทางออกนอกประเทศ และตามหาเบาะแสของหญิงคนดังกล่าวเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นรายแรกในไต้หวัน

 

รายละเอียดผู้เสียชีวิต(08/04/63) มีดังนี้

รายที่ 28 - ชายชาวรัสเซีย อายุ 48 เดินทางจาก จ.ภูเก็ต กลับพัทยา จ.ชลบุรี เข้าไปตรวจที่ รพ.เอกชน 25 มี.ค. ไม่ได้แอดมิท กลับไปกักตัวที่บ้าน ก่อนเสียชีวิต วันที่ 5 เม.ย.

รายที่ 29 - ชายอินเดีย อายุ 69 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว มีประวัติโรคประจำตัว เบาหวาน โรคหัวใจ เข้าเข้ารักษาที่ รพ.ในกรุงเทพฯ 17 มี.ค. ต่อมาต้องอยู่ในห้องไอซียู และเสียชีวิต 7 เม.ย.

รายที่ 30 - ชายชาวอเมริกัน อายุ 69 ปี มีโรคประจำตัว โรคไตเรื้อรัง ป่วย 9 มี.ค. และเข้ารักษา รพ.ใน จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิต 7 เม.ย.

#Covid19thailandfact

 

ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวันประกาศว่า วันที่ 9 เม.ย.นี้ พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 1 ราย เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย NTNU และเป็นรูมเมทของผู้ป่วยรายที่ 322 ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 380 ราย และมีผู้ที่ครบกำหนดกักตัว 80 คน
ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดไต้หวัน ยังได้สั่งปิดบาร์ ไนท์คลับ ผับ และคารโอเกะทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และควรหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หรือสถานที่ปิดมิดชิดอากาศไม่ถ่ายเทหรือง่ายต่อการแพร่เชื้อ

 

⚠️ ด่วน ⚠️ ตัวเลขคนตกงาน สหรัฐออกมาเพิ่มอีก 6.6 ล้านคนในคืนนี้ (Initial Jobless Claim) แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5 ล้านคน ทำให้ตลาดหุ้น Dow Jones Futures ยังคงติดลบเล็กน้อย

ถึงแม้ตลาดหุ้นจะยังค่อยๆไต่ขึ้นมาเรื่อยๆอาทิตย์นี้แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้ไกลนะครับ เพราะว่าหากรวมแค่ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นก็มีผู้เข้ามาขอ #สวัสดิการว่างงาน (Initial Jobless Claim) รวมกันเกินกว่า 15 ล้านคนแล้ว ! นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่าตัวเลขการว่างงานนั้นอาจจะดีดขึ้นมาได้สูงถึง 15% โดยรวมในสหรัฐจากผลกระทบไวรัสโควิดครั้งนี้และก็อาจจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเศรษฐกิจสหรัฐได้

อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังดูทรงตัวขึ้นเรื่อยๆ และทางสภายังพยายามจะเตรียมอัดฉีดเงินช่วยเหลืออีกรอบที่ 0.5 - 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้แนวโน้มตลาดสหรัฐนั้นอาจจะยังไม่ได้แย่เท่ากับสถานการณ์และตัวเลขที่ออกมาเรื่อยๆในปัจจุบัน

คืนนี้ยังมีเรื่องให้นักลงทุนต้องติดตามสำคัญอีก 3 เรื่องนั้นก็คือ

1️⃣ 3 ทุ่ม เริ่มประชุมกลุ่มโอเปกและพันธมิตรต่างๆ
2️⃣ 3 ทุ่ม เช่นกันประฐาน Fed ออกมาแถลงเรื่องเศรษฐกิจ
และ
3️⃣ 2 ทุ่ม คืนนี้เป็นการ LIVE ครั้งแรกของเพจเรา ! เข้ามาถามและวิเคราะห์เกาะติดกับการประชุมโอเปกคืนนี้ได้เลยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

คืนนี้กลุ่มโอเปก+พันธมิตรทั้งเก่าและใหม่จะมีการประชุมกันเพื่อตัดสินว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่ ? การประชุมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดน้ำมันจะมีผลออกมาอย่างไร ? ราคาน้ำมันจะดีดกลับขึ้นไป ? หรือดิ่งกลับลงมา ?

วันนี้ทางรัสเซียออกมาบอกแล้วว่าพร้อมจะลดกำลังการผลิตที่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ! แต่จะเพียงพอไหม ? ทำไมตลาดหุ้นรัสเซียบวกนำไปแล้วทุกตัววันนี้ ?

ทำไมซาอุถึงเลื่อนการประกาศราคาขายน้ำมันของตัวเองออกไปเป็นวันเสาร์นี้ ? นี่เป็นสัญญานที่ดีหรือไม่ ?

การประชุมรัฐมนตรีพลังงาน G20 ในวันพรุ่งนี้นั้นสำคัญหรือป่าว

และทำไมทางเพจ KP ถึงให้ข้อสรุปดั่งในรูปไว้ 4 ข้อ ?


มาพูดคุยและวิเคราะห์เจาะลึกตลาดไปกับการ LIVE ครั้งแรกของเพจได้เวลา 20.00น. คืนนี้นะครับ ตามคำเรียกร้องของกลุ่ม LINE เรา

#OilTradingKP #Live #OPEC #meeting

 

ประชุมนัดชี้ชะตาตลาดน้ำมันคืนนี้ 3 ทุ่ม ! มีประเด็นอะไรที่เราจะต้อง #จับตามอง บ้าง

ไม่ใช่เพียงตลาดน้ำมันทั่วโลกที่กำลังจดจ้องการประชุมที่รวมผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลก #ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่นักลงทุนทุกๆท่านทั่วโลกก็กำลังจดจ้องผลของการประชุมวันนี้อยู่ เพราะทิศทางของ #ราคาน้ำมันจะโดนกำหนดในคืนนี้ และที่สำคัญคือถ้าคุณไม่ใช่ประธานาธิบดีของรัสเซีย (ปูติน) คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าผลของการประชุมจะออกมาเป็นเช่นไร !

1️⃣ #ข่าวใหญ่ที่สุด เมื่อคืนนี้คือทาง รัสเซียพร้อมที่จะออกมาลดกำลังการผลิตที่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือที่ 15% ของกำลังการผลิตแล้ว !

ทำไมนี่ถึงเป็นข่าวดีมากๆ ? เพราะก่อนหน้านี้รัสเซียพยายามที่จะสื่อว่าอยากลดกำลังการผลิตที่เพียง 10% มาโดยตลอด ซึ่งหากรัสเซียไม่ยอมลดมากกว่านั้นทั้งกลุ่มผู้ผลิตก็จะไม่มีทางลดได้ถึงเป้า 10 ล้านบาร์เรลร่วมกันแน่ๆ พี่ใหญ่อย่างรัสเซียต้องแสดงความเสียสละหน่อยถึงจะดึงทั้งกลุ่มให้มารวมตัวกันได้

2️⃣ ข่าวด้านบนนี้ทำให้ราคาน้ำมันดีดขึ้น 5-6% ในช่วงดึกของเมื่อคืนนี้

ที่ผมบอกว่าทางรัสเซียนั้นจะมีบทบาทที่สำคัญในการประชุมครั้งนี้มากกว่า ซาอุนั้นก็เพราะจุดยืนของซาอุนั้นชัดเจน เขาต้องการลดกำลังการผลิตหากทุกฝ่ายจะพร้อมลดร่วมกัน ไม่เช่นนั้นเขาก็สามารถกลับไปเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเอาตัวรอดคนเดียวใหม่ได้ แต่จุดยืนของทางรัสเซียนั้นไม่เคยแน่นอนเลย ถึงจะอยากให้ลดการผลิตแต่รัสเซียยังไม่เคยอาสาที่จะลดการผลิตมากไปกว่า 5% ของการผลิตทั้งประเทศมาก่อน

ข่าวเมื่อคืนนี้หากเป็นจริงจะแสดงว่าจุดยืนของรัสเซียนั้นเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้น และรวมกำลังผู้ผลิตทั้งหมดที่ 60 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากร่วมกันลดคนละ 15% จริงๆ ก็เป็นไปได้ครับที่จะละได้ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน

3️⃣ การประชุมครั้งนี้ #สำคัญแค่ไหน ?

จะลองอธิบายโดยใช้กราฟละกันนะครับ ถ้าใครเปิดกราฟราคาน้ำมันดิบ Brent ย้อนหลังไป 3-4 วัน นับตั้งแต่เราทราบว่าจะเกิดการประชุมสุดยอดผู้ผลิตนี้ขึ้น ราคาน้ำมันดิบก็ยังไม่เคยหลุดกรอบของการเทรดวันนั้นเลย และกรอบก็กำลังแคบลงมาเรื่อยๆ จนราคาน้ำมันดิบ Brent ติดอยู่ในกรอบ 32-34 เหรียญมา 3 วันแล้ว

นี่แสดงว่าผลการประชุมครั้งนี้นั้นสำคัญมากๆ ทางด้านปัจจัยพื้นฐานเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าสำคัญเพราะไวรัสโคโรนาที่มากัดกินการใช้ทำให้ปริมาณน้ำมันกำลังท่วมโลกอยู่ หากไม่มีการลดการผลิตราคาน้ำมันจะตกวูบแน่ๆ ส่วนทางด้านเทคนิคก็ชี้ชัดว่ากรอบที่แคยลงเรื่อยๆหรือ Technical Wedge นี้ หมายถึงตลาดไม่ได้สนใจข่าวอื่นๆที่เหลือแล้ว ไม่ขยับตัวออกจากกรอบเพราะรอผลการประชุมนี้อย่างเดียว !

4️⃣ ผลการประชุมจะเป็นอย่างไรแล้ว #ราคาจะไปในทางไหน ?

จากที่รวบรวมข้อมูลมานั้นตลาดกำลังรับรู้ Pricing In ในกรอบ 32-34 เหรียญนี้ว่าผู้ผลิตจะลดกำลังการผลิตที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ หมายความว่า

1) ถ้าตลาดกลับตกลงว่าจะลดกันสูงกว่าที่คาด เช่นที่ 15 ล้านบาร์เรลต่อวันนั้น ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งสูงขึ้นแน่ๆ และมีโอกาสทดสอบ 40 เหรียญ

2) ถ้าตลาดตกลงกันตามคาดที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันจริงๆตามคาด อันนี้สุดทัายราคาน่าจะกลับมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 34 เหรียญได้ แต่ในช่วงสั้นอาจจะมีการ Sell on Fact เกิดขึ้น อันนี้คาดเดายากเพราะต่อให้ผมคิดว่าตลาดกำลัง Price in ที่ 10 ล้านแต่เราก็ไม่รู้จริงๆว่าตลาดอาจจะ price in ไปที่แค่ 5 ล้าน ตลาดก็ยังเด้งกลับมาได้

3) ถ้าตลาดตกลงกันน้อยกว่าที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันจริงๆ ราคาต้องร่วงลงมาต่ำกว่า 30 เหรียญแน่ๆครับ

5️⃣ ระยะเวลาในการลดก็สำคัญไม่แพ้ปริมาณการลด !

เมื่อคืนนี้ได้ทำคลิปอธิบายเรื่องนี้ไปอย่างละเอียดแล้วนะครับ ลองดูในเพจได้หรือเดี๋ยวจะลิงค์ให้ในคอมเม้นท์อีกที ด้วยเหตุผลง่ายๆคือถ้าประกาศลด 10 ล้านบาร์เรลต่อวันจริงๆแต่ลดเพียงสามเดือน ตลาดก็อาจจะลงได้เพราะยังปริมาณนี้ไม่ช่วยบรรเทาของที่ล้นตลาดอยู่

กลับกันหากมีการลดที่ 5 ล้านบาร์เรลต่อวันแต่ลดไปถึงสิ้นปี จริงๆแล้วจะยิ่งช่วยตลาดได้ดีกว่าอีก เพราะ 5 x 9 เดือนนั้น มากกว่า 10 x 3 เดือน

6️⃣ มีความเป็นไปได้ว่าถึงแม้คืนนี้ผลจะออกมายังไม่ดีนักแต่ราคายังไม่ลงหนักๆ เพราะพรุ่งนี้เรายังมีประชุมพลังงานกลุ่ม G20 เป็นครั้งแรก !

อย่าลืมนะครับว่าอาทิตย์นี้ยังมีประชุมสำคัญอีกอัน นั้นคือการที่ซาอุเป็นประธานประชุมเรียกรัฐมนตรีพลังงานทุกท่านในกลุ่ม G20 มาประชุมกัน กลุ่ม G20 นี้ประกอบไปด้วยผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกและทางเราได้ยินว่าทางซาอุจะเสนอวิธีในการร่วมกันช่วยให้ราคาน้ำมันนั้นมีเสถียรภาพมากขึ้น !

แนะนำให้ลองอ่านบทความวิเคราะห์ต่างๆในเพจดูนะครับ เพราะบางประเด็นเราอาจจะพูดอย่างสรุปโดยไม่ลงรายละเอียดเพราะได้เขียนไปหลายบทความแล้ว ยังไงจะแนบติดให้ดูในคอมเม้นท์อีกทีนะครับ

⛔️ อย่าลืมนะครับคืนนี้ 3 ทุ่ม ! #ประชุมนัดชี้ชะตาตลาด ขอแนะนำให้ทุกท่านกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่เราจะอัพเดทผลการประชุมนี้แบบทันที ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

รัสเซียทูเดย์ - เจ้าหน้าที่สวีเดนเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็ง ห้องเย็นแช่อาหาร และลานสเก็ตน้ำแข็ง เก็บร่างไร้วิญญาณ หลังยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พิธีฝังศพทั่วประเทศถูกเลื่อนออกไป ส่วนหนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
.
ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสวีเดน เพิ่มเป็น 687 ศพ ในวันพุธ (8 เม.ย.) เมืองต่างๆ ทั่วประเทศกำลังหาทางเพิ่มศักยภาพในการรองรับศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยในโกเตนเบิร์ก และ สตอกโฮล์ม 2 เมืองใหญ่ที่สุดของสวีเดน เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเช่าตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็ง และลานสเก็ตน้ำแข็ง เพื่อรับมือกับภาระเพิ่มขึ้น
.
มาตรการนี้มีออกมาเพื่อบรรเทาปัญหาแบกรับภาระเกินพิกัดตามโรงเก็บศพ และสุสานต่างๆ จนกว่าทางการจะอนุญาตให้ประกอบพิธีศพได้
.
ปกติแล้วในช่วงสัปดาห์วันหยุดยาว อย่างเช่น เทศกาลอีสเตอร์ โรงเก็บศพและสุสานต่างๆ ก็ประสบปัญหาแบกรับภาระในระดับสูงอยู่ก่อนแล้ว แต่ในปีนี้มีแนวโน้มว่าผู้เสียชีวิตจะมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
.
เมืองโกเตนเบิร์กได้เช่าตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็ง 4 ตู้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บศพเพิ่มเติม และทางออกนี้ก็ถูกใช้ที่เมืองสต๊อกโฮล์มและเมืองแยมต์ลันด์เช่นกัน
.
นอกจากนี้แล้ว ยังมีรายงานว่า ในเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ชาติเพื่อนบ้าน ก็มีใช้การตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็งชั่วคราวเป็นที่เก็บศพ แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในฟินแลนด์ยังอยู่ในระดับต่ำก็ตาม
.
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคาโรลินสกา โฮสพิทอล ในเมืองโซลนา ของสวีเดน ต้องดัดแปลงใช้ห้องเย็นแช่อาหาร เป็นสถานที่เก็บศพชั่วคราว เนื่องจากวิกฤตโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้พิธีฝังศพจำนวนมากถูกเลื่อนออกไปทั่วสวีเดน และศพถูกทิ้งไว้ตามโรงพยาบาลต่างๆ มากขึ้น
.
ต่างจากชาติยุโรปส่วนใหญ่ สวีเดนยังไม่ล็อกดาวน์ประเทศโดยสิ้นเชิง และประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติภายใต้ข้อจำกัดเล็กๆ น้อยๆ แม้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดแตะระดับ 8,419 คน และเสียชีวิต 687 ราย
.
นายกรัฐมนตรี สเตฟาน ลอฟเวน เน้นย้ำว่า ในขณะที่เวลานี้มี 3 เทศมณฑลที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ได้แก่ โซเดอร์แมนแลนด์, ออสเตอร์ก็อตแลนด์ และ สตอกโฮล์ม แต่ส่วนอื่นๆ ของประเทศควรเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายลง
—————-
แหล่งข่าว

https://mgronline.com/around/detail/9630000036560

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

[อย่างไรก็ตามเธอมองว่า “แม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผลกระทบจากการระบาดยังคงอยู่” ดังนั้นรัฐบาลจึงมีภาระสำคัญที่จะต้องเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้อย่างจริงจัง]

นักเขียนชาวอู่ฮั่น เผยบรรยากาศเมือง 2 ชั่วโมงแรก หลังรัฐคลายมาตรการล๊อคดาวน์: เมืองอู่ฮั่น และมณฑลหูเป่ย์เคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ที่ถูกควบคุมไว้ได้แล้ว ส่งผลให้สำนักการป้องกันและควบคุมการระบาดของมณฑลหูเป่ย์ออกประกาศ เมื่อ 24 มี.ค. 2020 อนุญาตให้พลเมืองที่ได้รับรหัสสุขภาพสีเขียว (Green Health Code) สามารถเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย์ได้ นับตั้งแต่ 8 เม.ย เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม “เดอะ การ์เดี้ยน” รายงานอ้างอิง “กวอจิ้ง” นักสิทธิมนุษยชนสตรีและชาวเมืองอู่ฮั่น ซึ่งระบุว่า “ทันทีที่ได้รับทราบข่าวนี้ เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย” แม้ว่าเธอจะถูกกักตัวอยู่บ้านเป็นระยะเวลากว่าแรมเดือนก็ตาม โดยเธอได้เขียนอธิบายถึงบรรยากาศของเมืองอู่ฮั่นภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล๊อคดาวน์บางส่วน เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ผ่านหนังสือที่เธอเขียน “Wuhan Lockdown Diary”

ทั้งนี้ “กวอจิ้ง” ตกอยู่ภายใต้มาตรการล๊อคดาวน์อันเข้มงวดของรัฐบาล นับตั้งแต่ 26 ก.พ. อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์การระบาดที่ลดความรุนแรงลงและเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่ ทางการได้ลดหย่อนความเข้มข้นของมาตรการลง โดยอนุญาตให้พลเมืองที่ได้รับรหัสสุขภาพสีเขียวสามารถออกนอกที่พักอาศัยได้ชั่วคราว โดยพื้นที่บริเวณที่เธอพักอาศัยอยู่ทางการอนุญาตให้ 1 ครอบครัว สามารถส่งสมาชิกออกนอกที่พักได้ 1 คน ภายในระเวลาที่จำกัดเพียง 2 ชั่วโมง

ภายหลัง “กวอจิ้ง” รับรู้ข่าวดังกล่าวจากอาสาสมัคร เมื่อวันที่ 30 มี.ค. เธอรีบลงทะเบียนขอรับ “รหัสสุขภาพสีเขียว” ทันทีจาก “อาลีเพย์” ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่เคล้าคลอไปด้วยน้ำตา ประหนึ่งนกที่สัมผัสถึงกลิ่นของอิสรภาพหลังจากถูกกักขังเป็นเวลากว่า 43 วัน

ด้วยความกระหายอยากสัมผัสบรรยากาศของเมืองอู่ฮั่นอีกครั้งหนึ่งด้วยดวงตาของเธอเอง เธอก้าวเท้าออกจากที่พักของเธอเมื่อเวลา 11.35 น. ของวันที่ 31 มี.ค. โดยเป็นทริปการเดินทางระยะเวลาสั้น ๆ ที่ไม่มีการวางแผนการเดินทาง และไม่มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน

โดย เธอพบว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ยังคงปิดตัว ซึ่งส่งผลให้ความว่างเปล่ากินพื้นที่ส่วนใหญ่ของท้องถนน นอกจากนี้ตามบริเวณต่าง ๆ ของเมืองถูกกั้นไว้ด้วยรั้วเพื่อห้ามผู้คนเข้าออก ทั้งร้านค้าที่ตั้งอยู่ตามข้างท้องถนน หรือแม้กระทั่งทางเข้าซอยเล็ก ๆ เธอเดินทางไปด้วยความสับสนเล็กน้อยผ่านร้านขายขนมท้องถิ่นของชาวอู่ฮั่น เธอจึงหยุดเพื่อซื้อลูกชิ้นทอด 10 ลูก ในราคา 21 หยวน

พลันนึกถึงคำถามที่ถูกถามเมื่อหลายวันก่อนขึ้นมา “อะไรคือสิ่งแรกที่คุณจะทำหลังจากการล๊อคดาวน์ถูกยกเลิก”

เธอตอบว่า “เดินไปตามแม่น้ำและตะโกนออกมา”

เธอปั่นจักรยานมุ่งหน้าไปยังประตูทางเข้าสู่ทางเดินเลียบแม่น้ำหลังจากนั้นจึงเดินลัดเลาะตามทางเดินดังกล่าว เธอเริ่มพบเจอผู้คนมากขึ้นทั้งพ่อแม่และลูก ๆ , คู่รัก รวมถึงคนกำลังนั่งตกปลา หลังจากหย่อนเอนกายบนที่นั่งพัก ณ ริมตลิ่ง เธอดึงหน้ากากอนามัยลงแล้วสูดหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ จากนั้นเธอจึงทานลูกชิ้นที่เธอเพิ่งซื้อมา

“ฉ่ำ…แต่ไม่เลี่ยน โดยรวมแล้วรสชาติโอเค” กวอจิ้งคิดในใจ

เมื่อทานลูกชิ้นเสร็จเรียบร้อย เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปตามทางเลียบจากนั้นหันหน้าเข้าหาแม่น้ำพร้อมตะโกนออกมา มีชาวเมืองอีกสองคนทำตามเธอ หนึ่งในนั้นเปล่งเสียงออกมามากกว่า 3 ครั้ง การตะโกนออกมาทำให้เธอรู้สึกมีพลัง “เราเหมือนขาดอากาศหายใจจากการถูกขังไว้นานเกินไป” กวอจิ้งกล่าว

ขณะที่เธอกำลังอยู่ระหว่างทริปเดินทางแสนสั้นนั้น เวลาอันจำกัดก็ได้ล่วงเลยมาจนเกือบครบ 2 ชั่วโมง กวอจิ้งจึงมุ่งหน้าออกจากเส้นทางข้างแม่น้ำและเดินทางกลับบ้านของเธอ

สำหรับกวอจิ้งนั้น การอนุญาตให้พลเมืองสามารถออกจากที่พักอาศัยนับว่าเป็นก้าวแรกของความสำเร็จจากการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด -19 ขณะที่การทำให้เมืองกลับมาชีวิตอีกครั้งเป็นหนึ่งความท้าทายสำคัญที่รออยู่

อย่างไรก็ตามเธอมองว่า “แม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผลกระทบจากการระบาดยังคงอยู่” ดังนั้นรัฐบาลจึงมีภาระสำคัญที่จะต้องเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้อย่างจริงจัง

นอกจากนี้ปัจจุบันยังผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนที่เกือบทั้งหมดมาจากต่างประเทศซึ่งอาจทำให้เกิดการระบาดขึ้นมาอีกครั้งได้ โดยทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อป้องกันการระบาดที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ

“สิ่งที่ฉันต้องการคือการไม่ต้องเห็นการล๊อคดาวน์อีกครั้ง” เธอกล่าวทิ้งท้าย

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/world-news/news-445040

เพิ่มเติม
https://www.bloomberg.com/news/arti...rning-to-life-so-are-its-disputed-wet-markets

 

เกาหลีเหนือ ไม่มีผู้ติดเชื้อ - ดร.เอ็ดวิน ซัลวาดอร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ในเกาหลีเหนือ ให้ข้อมูลกับสถานีโทรทัศน์ CNN ว่า ข้อมูลล่าสุุดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2563 เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบเคสต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 709 ราย เป็นชาวต่างชาติ 11 ราย ชาวเกาหลีเหนือ 698 ราย โดยไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ และเกาหลีเหนือกักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 509 ราย เป็นต่างชาติ 2 ราย และเป็นชาวเกาหลีเหนือ 507 ราย
.
ดร.เอ็ดวิน ระบุด้วยว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีเหนือได้ส่งข้อมูลอัพเดท WHO รายสัปดาห์ และบอกว่าทางการเกาหลีเหนือมีศักยภาพในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพราะได้รับชุดตรวจหาเชื้อจากจีน ช่วงเดือนมกราคม โดยเมื่อ 31 ธันวาคม 2562 เกาหลีเหนือได้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกกักตัวทั้งหมด 24,842 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวมีต่างชาติ 380 ราย

ขณะที่ พลเอก โรเบิร์ต อับบรามส์ ผู้บังคับบัญชากองทัพสหรัฐฯ ในเกาหลี กล่าวเมื่อวันที่ 2 เมษายน ว่า จากข้อมูลหน่วยข่าวกรองของกองทัพ "เป็นไปไม่ได้" ว่าไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเกาหลีเหนือ
.
#เกาหลีเหนือ #COVID19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

แพทย์เผยหน้ากากอนามัยใส่เกิน 2 ชม.ได้ ปลอดภัย
.
นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Jiraruj Praise โดยระบุว่า #หน้ากากอนามัยใส่เกิน 2 ชม.ได้ ปลอดภัย ไม่ต้องถอดพัก ผมได้ทำการทดสอบกับตนเอง ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และปิดด้วยเทปเพื่อป้องกันการเล็ดลอดของละอองฝอย เสมือนเวลาทำงานจริง ตามภาพ 3 ชม.ต่อเนื่อง
.
เริ่มต้นผมได้วัดความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดด้วยเครื่องวัดปลายนิ้ว และ"#เจาะเลือดตนเอง" (capillary blood gas) เพื่อตรวจค่าความเป็นกรดเป็นด่างของเลือด(pH) และระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด(PCO2)ก่อนใส่หน้ากาก เปรียบเทียบ กับหลังใส่หน้ากาก 3 ชั่วโมง
.
ผลที่ออกมาคือ ความเข้มข้นของออกซิเจนจากปลายนิ้ว ไม่เปลี่ยนแปลงคือ 98% ค่าความเป็นกรดด่างของเลือด มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ไม่มีนัยยะสำคัญ ไม่มีภาวะกรดคั่งในเลือด
.
ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด มีค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีนัยยะสำคัญ และไม่เกินกว่าค่าปกติ และไม่มีผลต่อระบบไหลเวียน ไม่มีผลต่อการทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่นปวดศีรษะ
.
หากใส่หน้ากากแบบประชาชนทั่วไป ไม่ได้มีการปิดเทป แบบผมในภาพ ยิ่งไม่ควรมีการคั่งของก๊าซใดๆทั้งนั้น และน่าจะปลอดภัยยิ่งกว่า การใส่แบบผมอีก
.
การถอดหน้ากากเข้าๆออกๆ เพื่อพักหรือเพื่ออะไรก็ตาม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่หน้างาน สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดการปนเปื้อน ของมือที่สัมผัสหน้ากาก และสัมผัสใบหน้า
.
ส่วนหน้ากากชนิด n95 ผมยังไม่ได้ทำการทดลอง แต่โดยทั่วไป เราไม่ได้แนะนำให้ประชาชนทั่วไปใส่อยู่แล้ว คู่มือการใช้งานของหน้ากากก็ไม่แนะนำให้ใส่เป็นเวลานานๆ แพทย์พยาบาลเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลผู้ป่วย หากต้องใส่ n95 นาน เช่นต้องเกินกว่าครึ่งชั่วโมง เราก็จะหลบไปใช้ ชุดป้องกันที่มีอากาศหมุนเวียน หรือมีอากาศป้อนเข้ามาในชุด( PAPR)
.
ดังนั้นหน้ากากอนามัย ใส่ยาวๆได้เลยครับ ปลอดภัย แม้จะใส่แบบในภาพก็ตาม แต่หากเปียกหรือปนเปื้อน ควรเปลี่ยนนะครับ
.
นพ.จิรรุจน์ ระบุด้วยว่า การทดลองนี้ทำในผู้มีสุขภาพปกติ ผู้มีโรคประจำตัว โรคปอดเรื้องรัง โรคหัวใจ เด็กเล็ก ไม่สามารถอ้างอิงได้ และหน้ากากที่ทดลองเป็นหน้ากากอนามัยมาตรฐานที่ใช้ในรพ. ไม่รวมหน้ากากผ้า และชนิดอื่นๆ
.
#ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29 #โควิด19 #หน้ากากอนามัย

 

เช็ครายชื่อ 12 จังหวัด ที่ผู้ว่าฯ สั่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง เพราะต้องการให้ประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
.
#COVID19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

กลุ่มผู้ที่กลับมาจากศาสนกิจในอินโดนีเซีย อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังเข้มงวดจากการพบผู้ติดเชื้อกว่าครึ่งของจำนวนผู้ที่เดินทางกลับมา คนที่เหลือก็ต้องตรวจซ้ำ เพราะถือว่าเสี่ยงสูง คนในพื้นที่ก็กังวลว่าอาจจะมีการแพร่เชื้อเล็ดลอดมาหรือไม่ ติดตามจากรายงาน
.
#TheDay #COVID19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

แจงเคสสาวชัยภูมิป่วยซ้ำ - วันนี้ (9 เม.ย.63) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีหญิงสาวที่จังหวัดชัยภูมิตรวจพบเชื้อโควิด-19 ซ้ำ ว่า ขอย้ำว่าโรคนี้เป็นโรคใหม่เกิด 3-4 เดือน ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วยซ้ำที่จีนกับญี่ปุ่นประเทศละ 1 เคส อย่างที่ญี่ปุ่นชัดเจนป่วยซ้ำหลังออกรพ. ส่วนกรณีผู้ป่วยที่จังหวัดชัยภูมิ เข้ารับการรักษาที่ รพ.หนองบัวแดง นั้น จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ป่วยรายนี้เริ่มป่วย และเข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน แห่งหนึ่งในกทม. พบเชื้อโควิด-19 แต่อาการไม่มาก มีไข้หวัด ทั้งนี้ รักษาในรพ.เอกชน จนครบ 14 วัน นับตั้งแต่วันที่มีอาการ เมื่อดีขึ้นแพทย์ให้กลับบ้าน โดยแนะนำให้ผู้ป่วยกลับไปแยกตัวที่บ้าน ซึ่งผู้ป่วยก็ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำดีมาก
.
เมื่อผู้ป่วยกลับไปจังหวัดชัยภูมิแล้ว ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายนิดหน่อยเมื่อ ประมาณวันที่ 3-4 เม.ย. มีอาการครั่นเนื้อตัว มีน้ำมูกนิดหน่อย จึงไปตรวจซ้ำก็พบเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง แต่ผู้ป่วยไม่มีไข้ เอกซเรย์ปอดปกติ
.
เมื่อถามว่าลักษณะนี้เป็นการติดเชื้อซ้ำหรือไม่ ก็เป็นไปได้ 2 แนวทาง คือแนวทางแรกเป็นการติดเชื้อซ้ำ ส่วนที่บอกว่าไม่หายป่วยเป็นไปได้หรือไม่นั้น หากดูจากการที่ออกจากรพ.ครั้งแรก ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ดูประวัติแล้วน่าจะเป็นข้อ 2 คือคนไข้ไม่ได้ป่วยใหม่ เพราะขอดูประวัติการรักษาคนไข้ อัตราการหายใจแรกรับ 20 ครั้งต่อนาที คือปกติ ไม่มีไข้ ตรวจแล็บทุกอย่างปกติ ยกเว้นเม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้นอาจจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียด้วยซ้ำ
.
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าวที่พบเชื้อโควิด-19 สันนิษฐานว่าเป็นซากไวรัสที่ตรวจเจอ ซึ่งข้อมูลต่างประเทศสามารถตรวจเจอซากเชื้อได้นานถึง 30 วัน โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกาได้ออกแนวทางมาว่าหากคนไข้อาการไม่มาก เมื่อดีขึ้นแล้วให้อยู่รพ. 7 วัน แล้วกลับได้โดยไม่ต้องตรวจซ้ำ ในขณะที่ไทยใช้ 14 วัน พร้อมย้ำว่ากรณีนี้น่าจะไม่ใช่การติดเชื้อครั้งใหม่ สำหรับซากเชื้อก็คือเชื้อที่ไม่มีชีวิต ไม่สามารถแพร่ได้ แต่ยังต้องให้ผู้ป่วยแยกตัว อย่างไรก็ตาม กรมการแพทย์จะลองแยกเชื้อจากคนกลับบ้านแล้วมาทำการศึกษาต่อว่าตัวเชื้อมันจะเพาะเชื้อขึ้นหรือไม่ หากเพาะไม่ขึ้นก็คือตายแล้ว
.
#COVID19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

เตือนสัตว์เลี้ยงอาจเป็นสื่อกลางแพร่โควิด-19 - เว็บไซต์ CNN อ้างถึงสมาคมสัตวแพทย์อังกฤษ ที่แนะนำว่า เจ้าของแมวที่อยู่ระหว่างกักตัวเอง หรือเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ควรเลี้ยงแมวไว้ภายในบ้าน ไม่ปล่อยออกไปข้างนอก เพราะพวกมันอาจเป็นสื่อกลางนำไวรัสไปปนเปื้อนบนสิ่งของ และอาจนำพาเชื้อติดไปบนขน หากเจ้าของที่ติดเชื้อลูบขนพวกมันด้วยความเอ็นดู
.
ในแถลงการณ์ของสมาคมฯ ระบุว่า เชื้อไวรัสอาจติดอยู่บนขนของเหล่าสัตว์เลี้ยง เหมือนกับที่อยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ เช่น โต๊ะ ลูกบิดประตู
.
สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ เจ้าของที่ติดเชื้อโควิด-19 เล่นกับแมวที่ตัวเองเลี้ยง จากนั้นพวกมันก็ออกไปนอกบ้าน และคนแปลกหน้าก็ลูบขนพวกมันเพราะเห็นว่าน่ารัก
.
สมาคมฯ ยังแนะนำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงรักษาสุขอนามัยมือให้สะอาด และไม่ได้หมายความให้แมวทุกตัวอยู่ในบ้าน การกักแมวไว้ในบ้านควรทำกับแมวที่ชอบอยู่แล้ว ไม่ใช่แมวที่มีภาวะเครียดหากไม่ได้ออกข้างนอก
.
ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า เสือโคร่งมลายู เพศเมีย วัย 4 ปี พร้อมเสืออีก 6 ตัว และสิงโต 1 ตัว ที่สวนสัตว์ในนครนิวยอร์ก ได้รับการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด ซึ่งเชื่อว่าเป็นการติดเชื้อในสัตว์ครั้งแรกของสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะติดมาจากเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ดูแลพวกมัน รวมถึงพบการติดเชื้อโควิดในแมวและสุนัข เพียงไม่กี่กรณี
.
แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่า สัตว์สามารถแพร่เชื้อไวรัสสู่มนุษย์ได้ พบเพียงมนุษย์แพร่เชื้อสู่สัตว์เลี้ยง
.
สมาคมฯ เน้นย้ำว่า ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เพราะไม่พบหลักฐานว่าสัตว์สามารถแพร่เชื้อสู่มนุษย์ได้ และมีสัตว์ที่ติดโควิด-19 จำนวนน้อยมาก ซึ่งในสุนัขจะไม่แสดงอาการ แต่แมวแสดงอาการของโรคมากกว่า
.
#COVID19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ข่าวเช้า #GoodMorningThailand #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

คลัง หารือ ธ.ก.ส.พรุ่งนี้ (10 เม.ย.) เคาะแจกเงินเกษตรกร 15,000 บาท
.
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) จะมีการหารือกับผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อหาข้อสรุปมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอีกครั้ง ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการหารือเบื้องต้น ยังมีรายละเอียดต้องกลับไปพิจารณา ยังไม่ได้ข้อสรุป
.
ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า การหารือให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรกับ รมว.คลัง ในวันนี้ ( 9 เม.ย.) ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องไปทำรายละเอียดเพิ่มเติม ในประเด็นที่สำคัญ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1. จะให้ความช่วยเหลือเป็นครัวเรือนและให้จำนวนกี่ครัวเรือน 2. ให้เงินช่วยเหลือจำนวนเงินเท่าใดต่อครัวเรือน 3. วิธีการจ่ายเงินจะจ่ายกี่ครั้ง หรือครั้งเดียว
.
นอกจากนี้ ต้องไปดูเพิ่มเติมว่ากลุ่มเกษตรกรที่ได้ จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับอาชีพอิสระที่ได้รับเงิน 5,000 บาท ผ่านการลงทะเบียนเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน โดยกลุ่มเกษตรกรที่จะรับเงินช่วยเหลือจะครอบคลุมทั้งหมด ทั้งชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ประมง และปศุสัตว์ ที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประมาณ 9 ล้านครัวเรือน โดยไม่จำเป็นต้องมาลงทะเบียนใหม่ เพราะกระทรวงเกษตรมีการขึ้นทะเบียนไว้หมดแล้วกว่า 99% อาจจะมีส่วนเก้บตกบ้างนิดหน่อยเท่านั้น
.
ผู้จัดการธ.ก.ส. วันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) จะสรุปมาตรการได้แน่นอน หากจ่ายครอบครัวละ 15,000 บาทเหมือนอาชีพอิสระ จำนวน 9 ล้านครัวเรือน ก็จะใช้เงินไม่เกิน 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน ไม่ได้ใช้เงินของธนาคาร โดยการจ่ายเงินก็จะจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นลูกค้ามีบัญชีกับธนาคารทั้งหมด เหลือ 4 แสนครัวเรือนที่ไม่มีบัญชี
.
#ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29 #โควิด19

 

เพียงพอได้มาตรฐาน
.
วันนี้ (9 เมษายน 2563) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้มอบให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ดูแลพัฒนาห้องปฏิบัติการให้สามารถตรวจวินิจฉัยโรคอย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ รวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยและการป้องกันควบคุมโรค
.
เนื่องจากห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นห้องปฏิบัติการแห่งชาติด้านสาธารณสุข ซึ่งองค์การอนามัยโลกให้เป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงและให้การรับรองในการตรวจหาเชื้ออุบัติใหม่ต่างๆ สำหรับสถานการณ์การเกิดโรคโควิด-19 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังสามารถถอดรหัสสารพันธุกรรมของเชื้อได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก คู่กับศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ของสภากาชาดไทย พร้อมทั้งได้มีการพัฒนาวิธีการตรวจ Real-Time RT-PCR เป็นวิธีการตรวจที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกให้เป็นวิธีมาตรฐานร่วมกับประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และยุโรป
.
ซึ่งวิธีการตรวจแบบ Real-Time RT-PCR เป็นการตรวจสารพันธุกรรมสามารถตรวจหาเชื้อได้ในระยะแรกของโรค ซึ่งเป็นการเก็บตัวอย่างจากการป้ายเยื่อบุในคอหรือเนื้อเยื่อหลังโพรงจมูกส่งมาตรวจที่ห้องปฏิบัติการ
.
นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการพัฒนาและให้การรับรองห้องปฏิบัติการในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองแล้วกว่า 80 แห่ง ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าหมายจะให้มีห้องปฏิบัติการ 1 แห่ง 1 จังหวัด ซึ่งคาดว่าภายในเดื อนเมษายนนี้จะพัฒนาและให้การรับรองห้องปฏิบัติการอย่างน้อย 110 แห่งทั่วประเทศ และรายงานผลผ่านระบบออนไลน์ให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
.
ซึ่งในกรุงเทพฯ จะสามารถตรวจได้ 10,000 ตัวอย่างต่อวัน และส่วนภูมิภาค 10,000 ตัวอย่างต่อวัน ที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีการตรวจตัวอย่างแล้วกว่า 70,000 ตัวอย่าง โดยพบผู้ติดเชื้อจำนวน 2,423 ราย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงาน
.
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พัฒนาวิธีการตรวจสารพันธุกรรม ของเชื้อโควิด-19 แบบ Real-Time RT-PCR แล้ว ยังได้พัฒนาน้ำยาสำหรับใช้ในการตรวจหาสารพันธุกรรม ซึ่งสามารถผลิตได้เอง ในประเทศไทยไม่ได้สั่งซื้อเป็นชุดสำเร็จจากต่างประเทศ ต่อมา บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตยา ชีววัตถุ ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยและเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถคิดค้นพัฒนาผลิตยาตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยพึ่งวัตถุดิบจากภายนอกน้อยมาก ช่วยลดการนำเข้า ได้เห็นถึงศักยภาพของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
.
จึงได้ร่วมกันนำองค์ความรู้ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มาผลิตเป็นชุดทดสอบ RT-PCR KIT หรือ DMSc-COVID-19 โดยที่บริษัทได้ผลิตให้ในเบื้องต้นและมอบให้นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลจำนวน 2 หมื่นชุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะผลิตให้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าสิ้นเดือนเมษายนนี้สามารถผลิตได้ครบ 1 แสนชุด แต่หากยังมีการระบาดของโรคโควิด-19 อีก บริษัทจะทำการผลิตให้ได้ถึง 1 ล้านชุดภายใน 6 เดือน ซึ่งทำให้เชื่อมั่นได้ว่าประเทศไทยมีน้ำยาในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างเพียงพอ
.
“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยัน ยึดมั่นความเป็นมาตรฐาน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ในการดำเนินงานขององค์กร และเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการปกป้องสังคมไทยจากโรคโควิด-19” นายแพทย์โอภาส กล่าว
.
#COVID19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

ปลอดภัยใช้ได้จริง
.
วันนี้ (9 เมษายน 2563) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์แจ้งข่าว ว่า
.
ข่าวดีจากคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลมาอีกแล้วครับ คราวก่อนตอนเจอกันผมถามว่าเอาหน้ากาก full face ที่ใช้ดำน้ำไปดัดแปลงเป็นหมวกความดันบวก PAPR ได้ไหม ? เขาเพิ่งบอกมาว่าทำได้แล้วครับ ทดลองแล้วใช้ได้ดี ปตท.จึงจะช่วยผลิตอีก 500 ชุด พร้อมส่งเพิ่มในเมษานี้
.
สรุปให้ฟังนิดว่า หมวกอัดอากาศความดันบวก PAPR (Powered Air-Purifying Respirator) ถือเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับสูง คุณหมอใช้สวมตอนใส่ท่อหายใจของคนไข้ติดเชื้อรุนแรงหรือกรณีอื่นๆ
.
เดิมทีเรามีแค่ 40 ชุดทั้งไทย เนื่องจากราคาแพง แต่เมื่อเกิดโควิด เราจะสั่งเพิ่มก็ยากเย็น เพราะทั้งโลกล้วนต้องการ
.
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชและคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล จึงพัฒนา PAPR ขึ้นมา เพื่อใช้ใน รพ.และได้รับการยอมรับจากเครือข่าย รพ.โรงเรียนแพทย์
.
ปตท.และบริษัทในกลุ่มช่วยกันสนับสนุนจนแจกไปได้เกือบ 20 รพ. และจะผลิตเรื่อยๆ ให้ได้ 200 รพ. โดยเน้นต่างจังหวัด (รพ.ละ 2 ชุด รายละเอียดในโพสต์ก่อน)
.
แต่หมวกแบบเดิมใช้เวลาทำอยู่บ้าง ขณะที่สถานการณ์ระบาดก็ไว้ใจไม่ได้ มีของมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งดีต่อคุณหมอคุณพยาบาล
.
ข้อมูลล่าสุดคือบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขติดเชื้อแล้วถึง 80 ราย (ข้อมูลศูนย์โควิด)
.
ผมเห็นข่าวว่าในอิตาลีนำหน้ากากดำน้ำสนอร์เกิ้ลแบบ full face มาดัดแปลงเป็น PAPR เลยบอกพี่เขาว่าน่าลองนะ
.
เขานำไปพัฒนา ปรากฏว่าใช้ได้ครับ แถมปริมาตรในหน้ากากน้อย ทำให้แรงดันลมยิ่งดีใหญ่ ยังใส่กระชับรู้สึกปลอดภัย
.
จึงกลายเป็น PAPR V3 จากวชิรพยาบาล พร้อมเข้าสู่การผลิตจริงจัง เพื่อเอาไว้เสริม V1 และ V2
.
เมื่อประสานกันไปมา ปตท.หาของได้แล้ว จึงสนับสนุน 500 ชุด เริ่มลงมือทำได้เลย และคงสามารถทยอยแจกจ่าย รพ.ทั่วประเทศได้ทั้งในเดือนนี้เดือนหน้า
.
สำหรับใครที่เคยเห็นข่าวว่าเมืองนอกพัฒนาอุปกรณ์แบบนี้มาใช้
.
เมืองไทยก็ทำแล้วครับ และจะทำจริงจังรวดเดียว 500 ชุด
.
หากเราคิดช่วยกัน อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แม้ทะเลกับโควิด
.
หมายเหตุ - รพ.ติดต่อได้โดยตรงที่ www.nmu.ac.th ครับ
.
#โควิด19 #COVID19 #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

ไต้หวันคัดค้านการเหยียดเชื้อชาติทุกรูปแบบ ปธน.ไช่อิงเหวินประท้วงแรง กรณีไต้หวันถูกกล่าวหาปลุกกระแสเหยียดสีผิว
จากกรณีที่นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 63 เรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลก อย่านำประเด็นโรคโควิด-19 มาเล่นการเมือง โดยได้ระบายความรู้สึกของตนเองว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เขาถูกโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เอ่ยถึงว่าไต้หวัน และกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันมีส่วนในวิพากษ์วิจารณ์โจมตีเขาด้วยนั้น ในวันนี้ (9 เมษายน) ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน (蔡英文) ออกมาโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ไต้หวันคัดค้านการเหยียดเชื้อชาติทุกรูปแบบ และขอประท้วงอย่างรุนแรงกับกรณีที่ไต้หวันถูกกล่าวหาปลุกกระแสเหยียดสีผิว ผู้นำไต้หวันกล่าวว่า ไต้หวันถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปมีส่วนร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงรับรู้ได้ดีกว่าทุกคนว่า การถูกเลือกปฏิบัติและถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นอย่างไร?
ปธน.ไช่อิงเหวินกล่าวอีกว่า จะขอถือโอกาสนี้เชิญนายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส เดินทางมาเยือนไต้หวัน เพื่อจะได้เห็นถึงความรู้สึกของประชาชนไต้หวันที่พยายามดิ้นรนไม่ให้ต้องถูกเลือกปฏิบัติและต้องยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ยืนยันกับทุกประเทศทั่วโลกถึงความต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ ทั้งนี้คำว่า TaiwanCanHelp และ Taiwan is helping ไม่เคยมีความแตกต่างอันเนื่องจากประเทศหรือชาติพันธุ์...#RtiFanpage