ติดตามสถานะการณ์

ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มวานนี้ 24 ราย โดยรวมถึงชาวฮ่องกง 5 รายที่เพิ่งกลับมาจากเปรู

เมื่อวานนี้ ฮ่องกงได้ยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 24 ราย โดยมี 6 รายที่มาจากการติดเชื้อในฮ่องกงเอง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับร้านคาราโอเกะย่าน Causeway Bay รวมยอดสะสม 914 ราย

นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้ติดเชื้อชาวฮ่องกงอีก 5 รายที่เพิ่งกลับเข้ามาฮ่องกงด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ จากการช่วยเหลือของรัฐบาลฮ่องกงที่พาชาวฮ่องกงที่ติดค้างที่เปรูทั้งหมด 60 คนกลับเข้ามาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผู้ที่เดินทางกลับมาจากเปรูทั้งหมดได้ถูกส่งตัวไปทดสอบหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่ AsiaWorld-Expo และพบว่า 3 ใน 5 ผู้ติดเชื้อเป็นเกี่ยวเนื่องกับกรุ๊ปทัวร์ของ Morning Star Travel

ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อ ได้ถูกส่งตัวไปกักกันที่ศูนย์กักกันเชื้อ

ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อ 18 รายที่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ ยังรวมถึงอังกฤษ ญี่ปุ่น อาร์เจนติน่า ไนจีเรีย อีกด้วย

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...onavirus-five-hong-kong-residents-flown-back?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

#นายกอังกฤษเข้าICU

หลังจากที่เมื่อวันก่อน เพิ่งอัพเดทอาการของท่านนายกฯหัวทอง บอริส จอห์นสัน กันไปว่าหลังจากแกติด Covid-19 แล้วเป็นอย่างไรบ้าง

ล่าสุด จากที่ส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อเช็คอาการเบื้องต้นไปแล้ว ปรากฏว่า ท่านนายกฯหัวทอง อาการทรุดลงอีก จนถึงกับต้องให้อ็อกซิเจน

ทีมแพทย์จึงลงความเห็นว่า ควรย้ายตัวท่านนายกฯ บอริส จอห์นสัน เข้าไปรักษาตัวใน ICU จะเป็นการดีที่สุด

ทางโฆษกรัฐบาลแจ้งว่า ท่านนายกฯ กำลังใจดีมาก และอาการยังไม่ต้องถึงขนาดใช้เครื่องช่วยหายใจ
แต่ใช้เครื่อง CPAP เพื่อขยายหลอมลม ให้รับอ็อกซิเจนได้มากขึ้น

ส่วนภารกิจเร่งด่วน ขณะที่นายกฯบอริสยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล St Thomas อาจให้รัฐมนตรีต่างประเทศ Dominic Raab ดูแลแทนไปก่อน

แต่ทางรัฐบาลยังยืนยัน ว่านายบอริส จอห์นสัน ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และติดต่อกับคณะรัฐบาล แม้ยังอยู่ในโรงพยาบาล และช่วงค่ำวานนี้ นายบอริส ก็ได้ทวิตข้อความว่าตนยังกำลังใจดี ไม่ต้องเป็นห่วง

ซึ่งตอนนี้ ก็มีผู้นำยุโรปส่งข้อความมาให้กำลังใจ และหวังว่านายกฯอังกฤษจะหายในเร็ววัน

ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าวิตก สำหรับชาวอังกฤษ ที่กำลังเผชิญหน้าในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ แต่ทั้งนี้ก็ยังเชื่อว่า ท่านนายกฯหัวทองต้องกลับมาได้ และหวังว่าท่านจะหายป่วยไวๆนะค้า

แหล่งข้อมูล

https://www.theguardian.com/world/l...mp-america-us-praying-recovery-latest-updates
https://www.independent.co.uk/news/...ensive-care-icu-health-symptoms-a9451226.html

 

โควิด: โสมใต้ผวาอีก ผู้ป่วยหายแล้ว 51 คนหวนพบ “ผลบวก” คาดเชื้อหลบใน
..
..
ดร.พอล ฮันเตอร์ ศาสตราจารย์ด้านโรคระบาดจากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลียในประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์เมล์ออนไลน์ว่า เห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานของเคซีดีซีที่ว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่ได้ติดเชื้อใหม่ แต่ตนก็ไม่คิดว่าไวรัสในร่างกายจะถูกกระตุ้นอีกครั้งเช่นกัน

ส่วนตัวมองว่าคำอธิบายของกรณีดังกล่าวมีความเป็นไปได้สูงว่าการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มีความผิดพลาด จึงให้ผลที่เป็นลบในเบื้องต้น และว่าจากข้อมูลการตรวจสอบพบว่าผลตรวจเชื้อสามารถผิดพลาดได้ถึงร้อยละ 20-30




https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3899772

 

#จำนวนการตรวจ 100 VS จำนวนคนติดเชื้อ 10
ตรวจวันละ 1,500=150
ไทยตรวจแบบเชิงตั้งรับ ตัวเลขสวยดี

 

7 เมษา 63 เช้านี้ภาคเหนือยังคงมีฝุ่นระดับวิกฤตต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน พบเมฆฝนพื้นที่อีสานและชายฝั่งตะวันออก บ่ายๆแอ่งภาคกลางร้อนจัด เย็นๆค่ำๆภาคเหนือ-กลาง-อีสานอาจพบพายุฤดูร้อนบางแห่ง อ่าวไทยตอนบนคลื่นลมค่อนข้างแรงครับ

 

พบฟอสซิลอาหารลิงโลกเก่าในถ้ำที่สเปน
ลิงโลกเก่าชนิดเธโรพิเธคัส (Theropithecus) กระจายตัวจากตะวันออกสู่เหนือและใต้ในทวีปแอฟริกา เชื้อสายวิวัฒนาการของลิงชนิดนี้มีอยู่ในบางพื้นที่ในยุโรปและเอเชีย
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ไม่นานหลังจาก จอร์จ บุช(Gorge Bush) ได้ประกาศว่าเราจะจัดระเบียบโลกใหม่ ในปีค.ศ. 1991 ยุทธศาสตร์ของอเมริกาที่ทยอยออกมา ก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางเดินของอเมริกาชัดเจนขึ้น
ใบประกาศหมายเลข 1 ออกมาเมื่อ ค.ศ.1992 Defense Planning Guidance เกี่ยวกับการวางแผนด้านกองกำลังของอเมริกา เพื่อให้แน่ใจ (กับใครบ้าง?) ว่า จะไม่มีใครกล้าถลามาเป็นคู่แข่งกับอเมริกาในยุโรปตะวันตก เอเซีย หรือบริเวณที่เคยเป็นสหภาพโซเวียดเดิม เอกสารนี้ระบุชัดเจนว่า โลกใบนี้ไม่มีใครจะมามีอำนาจเหนืออเมริกาอีกแล้ว
ผู้ที่เป็นมันสมองในการจัดทำเอกสารนี้คือนายพอล วูฟโฟวิตซ์ (Paul Wolfowitz) ซึ่งขณะนั้นรับตำ แหน่งเลขาธิการด้านความมั่นคงอยู่ที่เพนตากอน (Pentagon) และต่อมาเขาได้เลื่อนเป็นผู้ช่วย รมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาลบุช ตัวพ่อนั่นแหละ หลังจากนั้นก็มารับตำแหน่งประธานธนาคารโลก (World Bank) นายวูฟ (Wolf) นี้เป็นสมาชิกของบิลเดอเบิร์ก กรุ๊ป (Bilderberg Group), Trilateral Commission และ Council on Foreign Relations (ครบชุด 3 สถาบันผู้ทรงอิทธิพล) ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ American Enterprise Institute ซึ่งเป็นถังความคิด (think tank) สำคัญสำหรับผู้ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว
ส่วนสำคัญของเอกสารดังกล่าว เน้นว่าการจัดระเบียบโลกใหม่ ในด้านของกองกำลังของอเมริกาจะต้อง ปฏิบัติการได้ เมื่อจำเป็นโดยไม่ต้องพึ่งพาหรือเล่นเป็นวงกับใคร พูดง่ายๆ เป็นพระเอกแสดงเดี่ยว ก็ต้องเอาโลกนี้อยู่ในมือได้
ในบรรดานักเลงคนละค่าย ที่จะทำให้อเมริกาคันไม้คันมือ นอกเหนือจากอิรักและเกาหลีเหนือเจ้าประจำแล้ว ผู้ที่อเมริกาจะต้องจับตาแบบมองแบบไม่กระพริบ คือ จีนและรัสเซีย
เมื่อบิล คลินตัน (Bill Clinton) เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากบุช (ตัวพ่อ) ในปี ค.ศ.1993 สายเหยี่ยวของอเมริกาไม่ได้หุบปีก แต่กลับสยายมากขึ้นถึงกับคิด Project for New American Century หรือ PNACอันโด่งดัง
ในปี ค.ศ.2000 เขาได้เสนอรายงานชื่อ Rebuilding America’s Defenses : Strategy For Us and Resources for a New Century เป็นการวางแผนสำหรับการขยับขยาย เปลี่ยนรูปแบบของกองกำลัง
ของอเมริกา เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่ทรัพยากร และการสงครามในทุกสมรภูมิ ไม่ว่าใหญ่ระดับโลก หรือเล็กระดับประเทศ
แต่ที่น่าสนใจคือนายซบิกเนียฟเบรซินสกี้ (Zbigniew Brzezinski) (หวังว่าคงจำชื่อนี้กันได้) ผู้ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ Trilateral Commission ให้กับนายโคตรรวย เดวิด ร็อกกี้เฟลเลอร์ (David Rockefeller)
รวมทั้งเป็นสมาชิกบิลเดอเบิร์ก กรุ๊ป (Bilderberg Group) และอยู่ในคณะกรรมการของAmnesty International และ National Endowment for Democracy (ถ้าไม่รู้จักสถาบันหลังนี้ลองไปถามอาจารย์แถวท่าพระจันทร์ดูได้นะครับ) รวมทั้งเป็น trustee และที่ปรึกษาของ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ที่โด่งดังในการเป็นมันสมอง ในการวางนโยบายด้านความมั่นคงระดับสูงให้แก่อเมริกา
นายซบิกเนียฟ เบรซินสกี้ นี้ ถือว่าเป็น 1 ให้ผู้กุมชะตาโลก เพราะเขามีอิทธิพลต่อความคิดของพวกนัก เล่นกล ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยของอเมริกาอย่างยิ่ง ในหนังสือของเขาชื่อ The Grand Chess board ที่ออกมาเมื่อปี ค.ศ.1997 บอกว่า สำหรับอเมริกาในอนาคต จงมองไปที่ยูเรเซีย (Eurasia) สำหรับอีก 50 ปีข้างหน้า ความเป็นไปของโลก มันจะเริ่มหรือเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณยูเรเซียนี้แหละ ใครที่ควบคุมยูเรเซียได้ ก็เหมือนกับจะควบคุมชะตาโลกได้ปริยาย และนับตั้งแต่นั้นมานโยบายของอเมริกาก็ดูเหมือนจะไปในทิศทาง ตามที่เข็มทิศยี่ห้อ นายซบิกเนียฟชี้ทางเอาไว้ทั้งสิ้น เช่นเดียว กันกับคำพูดของนายคิสซิงเจอร์ เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน

 

Richard Whitt

'ซ้ำเติม' เกิดไฟป่าในเขตภัยพิบัติ 'เชอร์โนบิล'

Radiation Spikes as Forest Fire Hits Chernobyl Nuclear Zone

• ระดับกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่ไฟป่าในเขตภัยพิบัตินิวเคลียร์เชอร์โนบิล (The Chernobyl Disaster) เพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า ในขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามควบคุมไฟป่า 2 จุดที่กำลังลุกโชน

• ไฟป่าดังกล่าวเริ่มลุกไหม้เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2020 ตามเวลายูเครน ใกล้กับหมู่บ้าน 'วลาดิมิรอฟกา' (Vladimirovka) ซึ่งกลายเป็นเขตที่อาศัยอยู่ไม่ได้จากการระเบิดของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้า ‘เชอร์โนบิล’ เมื่อ วันเสาร์ที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) โดยไฟป่าลุกลามกินพื้นที่ประมาณ 50 เอเคอร์แล้ว

• เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมไฟป่ามาจนถึงวันจันทร์ที่ 4 เมษายน โดยนักดับเพลิง 124 นาย กับเครื่องบิน An-32P 2 ลำและเอลิคอปเตอร์ Mil Mi-8 พยายามควบคุมไฟป่าจุดที่ใหญ่กว่า ขณะเจ้าหน้าที่ 14 นายพยายามควบคุมไฟป่าจุดที่เล็กกว่า ขนาดประมาณ 12 เอเคอร์

• นาย 'อีกอร์ เฟียร์ซอฟ' (Egor Firsov) หัวหน้าสำนักงานตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของยูเครน กล่าวว่า 'มีข่าวร้าย ในศูนย์กลางของไฟป่า ระดับกัมมันตภาพรังสีเพิ่มสูงเกินระดับปกติ ค่าที่อุปกรณ์วัดได้อยู่ที่ 2.3 จากปกติที่ 0.14 แต่เป็นเฉพาะในพื้นที่ไฟป่าเท่านั้น'

• มาตรวัดของนาย 'อีกอร์ เฟียร์ซอฟ' ใช้หน่วยวัดเป็น ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง (μSv/h) ซึ่งตามปกติไม่ควรสูงกว่า 0.5 μSv/h

• สถานการณ์ล่าสุด...การเพิ่มขึ้นของระดับกัมมันตภาพรังสีไม่ส่งผลไปถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน

• ทั้งนี้เขตภัยพิบัติเชอร์โนบิลมีพื้นที่ 1,000 ตารางไมล์ โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวถูกอพยพออกไปจนหมดหลังเตาปฏิกรณ์ 4 เครื่องของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิด ส่งกัมมันตภาพรังสีกระจายไปทั่วยุโรปทำให้คนนับล้านตกอยู่ในความเสี่ยงจากการได้รับกัมมันตภาพรังสีในระดับอันตราย

• บรรณานุกรม :

Credit : https://www.aljazeera.com/news/2020/04/radiation-spikes-forest-fire-hits-chernobyl-nuclear-zone-200406072613238.html

Credit : https://edition.cnn.com/2020/04/06/europe/chernobyl-fire-radiation-scli-intl-scn/index.html

Credit : https://www.theguardian.com/environment/2020/apr/06/bad-news-radiation-spikes-16-times-above-normal-after-forest-fire-near-chernobyl

Credit : https://www.techtimes.com/articles/248630/20200406/chernobyl-now-has-16-times-more-radiation-level-than-normal-due-to-fire.htm

 

กิ๊ฟจังนั่งเล่า

#สรุป ข่าวสั้น และ ยอดโควิด-19 ในญี่ปุ่นวันที่ 6 เมษา 2020 (00:00~23:59 น.)



——
สรุปข่าว
ผู้ติดเชื้อใหม่รวม 235 ราย (น้อยกว่าเมื่อวาน 125 ราย **เพราะเป็นวันจันทร์ วันอาทิตย์รพ. ส่วนใหญ่ปิดนะคะ ทุกวันจันทร์จะน้อย)

ติดเชื้อในประเทศเกิน 4,000 รายไปแล้ว

นิวไฮ ไม่พบต้นตอ
- โตเกียวติดเชื้อใหม่ 83 ราย แต่หาต้นตอไม่เจอ 73 ราย (ประมาณเกือบ 90%)
- โอซาก้า ติดเชื้อใหม่ 20 ราย แต่หาต้นตอไม่เจอ 16 ราย (ประมาณ 80 %)

เสียชีวิตรวม 108 รายแล้ว (เพิ่ม 4 ราย)

โตเกียวจะเริ่มย้ายคนอาการเบาไปอยู่โรงแรม

วันนี้นายกจะแถลงประกาศภาวะฉุกเฉิน ตามด้วยผู้ว่าแต่ละจังหวัดจะออกมาตรการระดับจังหวัดเพื่อล้อกับนโยบายนายกค่ะ (⚠️! ไม่มี lockdown นะคะ)

———-
สรุปผล
———-
ยอดรวม 4,804 ราย แบ่งเป็น

ในประเทศ+ชาร์เตอร์ 4,092 ราย (+236)
เรือสำราญ 712 ราย

✝เสียชีวิต 108 ราย แบ่งเป็น
—>เรือสำราญ (ลงมารักษาที่รพ.) 11 ราย
—-> ในประเทศ 97 ราย (+4)

☺️หายแล้ว (ออกรพ.) 1,133 ราย (+78)
- ในประเทศ 592 ราย (+78)
- เรือสำราญ 619 ราย

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

ในประเทศแยกตามจังหวัด*
⚠️***เป็นยอดสะสม บางคนออกรพ. ไปแล้ว***
ตรวจเช็ครายละเอียดรายเคส: https://coromap.info/ <ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว สีเขียว = หายแล้ว เช็คจากแผนที่ได้นะคะ >

⚠️(ในวงเล็บคือ เพิ่มจากเมื่อวาน) ☝ เปลี่ยนลำดับขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวาน

▽โตเกียว 1,116 ราย (+83) ✝️เสียชีวิต 30

▽โอซาก้า 428 ราย (+20) ✝️เสียชีวิต 4

▽ชิบะ 278 ราย (+18 ) ✝️เสียชีวิต 1

▽คานางาวะ 271 ราย (+6 )✝️ เสียชีวิต 7

▽ไอจิ 239 ราย (+11) ✝️เสียชีวิต 21 (+1)

▽เฮียวโกะ 209 ราย (+6) ✝️เสียชีวิต 12 (+1)

▽ไซตามะ 199 ราย (+14) ✝️เสียชีวิต 4 (+1)

▽ฮอกไกโด 194 ราย (+0)✝️เสียชีวิต 9 (+1)

▽ฟุกุโอกะ 176 ราย (+14) ✝️เสียชีวิต 1

▽เกียวโต 133 ราย (+8)

▽อิบารากิ 64 ราย ✝️เสียชีวิต 2

▽กิฟุ 59 ราย (+1) ✝️เสียชีวิต 1

▽ฟุคุอิ 59 ราย (+6) ✝️เสียชีวิต 2

▽อิชิคาวะ 45 ราย (+2)

▽โคจิ 36 ราย (+3)

▽นีกาตะ 35 ราย

▽โออิตะ 33 ราย (+1)

▽วาคายามะ 29 ราย (+5) ✝️เสียชีวิต 1

▽กุนมะ 26 ราย ✝️เสียชีวิต 1
▽นาระ 26 ราย (+1)
▽มิยากิ 26 ราย (+3)

▽เอะฮิเมะ 23 ราย (+2) ✝️เสียชีวิต 1

▽โอกินาว่า 22 ราย (+6)

▽คุมาโมโตะ 20 ราย

▽ชิกะ 19 ราย (+1)
▽ชิซุโอกะ 19 ราย (+2)
▽ยามานาชิ 19 ราย (+5)
▽ยามากาตะ 19 ราย (+6)

▽โทจิกิ 17 ราย

▽ฟุคุชิมะ 16 ราย
▽ฮิโรชิม่า 16 ราย (+1)

▽นางาโนะ 14 ราย (+2)

▽มิเอะ 13 ราย
▽ยามากุจิ 13 ราย (+1)

▽นางาซากิ 12 ราย (+1)

▽อาโอโมริ 11 ราย
▽อาคิตะ 11 ราย
▽โอคายามะ 11 ราย
▽โทยามะ 11 ราย (+1)
▽มิยาซากิ 11 ราย (+1)

▽ซากะ 8 ราย

▽โทคุชิมะ 3 ราย
▽คาโกชิมะ 3 ราย

▽คางาวะ 2 ราย

▽เจ้าพนักงานต่าง ๆ บนเรือสำราญ/ เจอที่สนามบิน 84 ราย (ราย) (+4)
———-

เกณฑ์เข้ารับการตรวจโควิด
https://www.facebook.com/106549004058389/posts/195878838458738/?d=n
Process ในการเข้ารับ
https://www.facebook.com/106549004058389/posts/208899980489957/?d=n
ทางรัฐบาลญี่ปุ่นออกมาแนะนำให้ประชาชน ป้องกันจากการติดเชื้อ โดยใช้วิธีเดียวกับการป้องกันไข้หวัดใหญ่นั่นคือ
สวมแมส
ล้างมือบ่อย ๆ อย่างน้อยครั้งละ 20 วินาที
หลีกเลี่ยงการนำมือขยี้ส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ตา จมูก ปาก
└( 'ω')┘ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
กลุ่มเสี่ยง เช่น หญิงมีครรภ์ คนป่วย คนชราควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด อย่างบนรถไฟเป็นต้นค่ะ
✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼
#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19
ภาพ : NHK
Info from: NHK/ NewsDigest

 

เมื่อไวรัสไม่รู้จักมหาอำนาจ! วิถีอเมริกัน "จะรอดไปคนเดียว หรือจะรอดไปด้วยกัน"

"ไปคนเดียว ไปได้เร็ว, ไปด้วยกัน ไปได้ไกล"
ภาษิตแอฟริกันบทนี้ ดูจะเผยธาตุแท้ภาวะผู้นำต่าง ๆ ในยามวิกฤติได้ไม่มากก็น้อย

การทำตัวเหมือน #โจรสลัดยุคใหม่ ขโมยหน้ากากที่ส่งไปให้ชาติต่าง ๆ ในยุโรป และกักตุนยา Hydroxychloroquine (ไฮดรอกซีคลอโรควิน) สื่อหลายชาติ อาทิ อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี รายงานข้อกังวลอย่างยิ่งกับสิ่งที่อเมริกาทำในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้

ภายใต้การนำทัพของโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าละเมิดมนุษยธรรม #ปฏิเสธเวชภัณฑ์ไปยังแคนาดา และ #นำรายการยาผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิต้านทานตนเอง (เอสแอลอี) ออกจากบัญชี ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธการจัดหาเครื่องช่วยหายใจ ส่งไปให้กับชาวนิวยอร์ก จนผู้ว่าการนิวยอร์กต้องขอรับการบริจาคจากประเทศจีนโดยตรง

ล่าสุด (6 เม.ย.) ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯ ได้กักยาไฮดรอกซีคลอโรวิน 29 ล้านเม็ด ทั้งที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ กับการรักษาโรคโควิด-19 ไม่นานหลังจากที่ทรัมป์แถลง ดร. แอนโทนี่ ฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ ถูกกันไม่ให้ตอบคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการใช้ยารายการนี้

เหตุผลที่ผู้อำนวยการสถาบัน ไม่ได้รับอนุญาตให้แถลงฯ นั้น เป็นเพราะยังมีการถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับว่ายาตัวนี้สามารถใช้ในการรักษา Covid-19 ได้หรือไม่ แต่การกักตุนยารายการนี้ จะทำให้ผู้ป่วยกลุ่มโรคเอสแอลอี เหล่านั้นจะไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป

การกลับไปมาแบบนี้ แตกต่างจากที่ทรัมป์เคยอ้างว่า FDA ยังไม่ได้ให้การรับรองไฮดรอกซิลโควีนในฐานะการรักษาโรคโคโรนาไวรัส

ฟาซี ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่เต็มใจที่จะให้คำแนะนำแก่ประธานาธิบดี เนื่องจากมีผู้บริหารที่มีชื่อเสียงหลายคนเคยทำมาแล้ว แต่ทรัมป์เกลียดคนที่คัดค้านเขา ดังนั้นฟาซี จึงถูกบังคับให้หุบปาก

นอกจาก ประเด็นกักตุน Hydroxychloroquine (ไฮดรอกซีคลอโรควิน) ยังมีความจริงที่มืดมนกว่านั้นเกี่ยวกับวิถีอเมริกันในยุคของ Covid-19

ในวันที่ 2 เมษายนมีรายงานว่า“ผู้ซื้อสหรัฐฯ ใช้เงินสดแย่งซื้อ และ #ชิงควบคุมการส่งมอบหน้ากากที่กำลังจะถูกส่งจากจีนไปยังประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในพื้นที่วิกฤติโรคระบาดมากที่สุดในยุโรป”

เมื่อวันที่ 3 เมษายน มีหน้ากาก N95 #ที่ถูกส่งไปยังเยอรมนีจากจีน กลับถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาแทน ระหว่างการถ่ายโอนเครื่องบินในประเทศไทย

หน้ากากเหล่านี้ มีปลายทางให้กองกำลังตำรวจเบอร์ลิน เยอรมนี ประเทศซึ่งมีผู้ติดเชื้อ มากกว่า 100,000 ราย เป็นอันดับที่สี่ของโลก รองจากอิตาลี สเปน และสหรัฐอเมริกา

พฤติกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ซึ่งบ่งบอกถึงความไร้จริยธรรมของผู้นำของประธานาธิบดีทรัมป์ จนดูเหมือนว่าชาวอเมริกันไม่สนใจว่าคนอื่นต้องทนทุกข์ทรมาน ในขณะที่พวกเขามีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิ์ผู้ป่วยโรคอื่นฯ (ตราบใดที่พวกเขาไม่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันตนเอง) และความเสียหายของส่วนที่เหลือของโลก

ทรัมป์ ยังถูกกล่าวหาจากผู้นำมลรัฐฯ ในประเทศตนเอง ด้วยการไม่ยอมสนับสนุนเครื่องช่วยหายใจกับนครนิวยอร์กซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมาก (ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลกลางไม่สามารถรับรองผู้ว่าการรัฐว่า จะสามารถส่งมอบเวชภัณฑ์เพียงพอ) #จนนิวยอร์กต้องขอบริจาคจากจีน ที่ตอบสนองส่งมอบให้ชาวนิวยอร์กแล้ว 1,000 เครื่อง

โคโรนาไวรัส กำลังสอนบทเรียนธรรมชาติด้านมืดของมหาอำนาจ การที่สหรัฐฯ สั่งบริษัทอเมริกันไม่ให้เวชภัณฑ์แก่แคนาดาหรืออเมริกาใต้ จะมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้คนในสหรัฐอเมริกา นั่นคือข้อเท็จจริงที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เคยเข้าใจและมีแนวโน้มที่จะไม่ทำ

การขโมยหน้ากากจากฝรั่งเศสหรือจากเยอรมนี หรือแม้กระทั่งการการขัดขวางอันมิชอบด้วยกฎหมายของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้คิวบาไม่ได้รับเวชภัณฑ์ที่มูลนิธิอาลีบาบาส่งมาช่วยคิวบาต่อสู้กับโรคโควิด-19 จนถูกมิเกล ดิอัซ-กาเนลประธานาธิบดีคิวบาออกมาประณามเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นความไร้สำนึกและความมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งผู้นำโลกพึงมี พึงเป็น

ไวรัสฯ ไม่ได้ตรวจสอบสัญชาติมหาอำนาจก่อนการแพร่ระบาด ผู้นำมหาอำนาจที่ไม่มีวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต จะไม่สามารถเป็นผู้นำมหาอำนาจ ที่โลกจะคาดหวังอะไรได้จริงๆ

#ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ของสหรัฐคือ กลุ่มคนที่ล้อมรอบประธานาธิบดี จะสามารถปลุกเขาให้รู้ตัว และเตือนให้เขารู้ว่า สหรัฐฯ ไม่ได้เป็นแกนโลกที่ทำราวกับว่าสหรัฐฯ ไปคนเดียวแล้วจะรอดได้เพียงลำพัง

ทว่าโลกไม่มีเวลาสำหรับกล่าวโทษกันแล้ว #วิกฤตไวรัสระบาดใหญ่นี้ทุกประเทศเป็นเหมือนฟันเฟืองของกันและกัน เพื่อจะมีชีวิตรอดจากการทำลายล้างแห่งทูตมรณะที่โลกกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะมียามหัศจรรย์หรือไม่ - ความมุ่งหวังที่ผู้นำจำเป็นต้องมี คือ ต้องคิดในระดับเดียวกับไวรัสฯ "#ทุกชาติพันธุ์มนุษย์บนโลกนี้ต่างเสมอภาคกัน"

ข้อมูล -
1. Stealing masks and stockpiling hydroxychloroquine — what America has become during this epidemic is deeply worrying.(www.independent.co.uk)
2. Berlin accuses US of ‘piracy’ over face masks. (www.politico.eu)
3. Cuba: U.S. embargo blocks coronavirus aid shipment from Asia. (www.ctvnews.ca)
4. Face masks from China intended for France 'hijacked' by US at the last minute. (http://www.rfi.fr/)
5. Doug Ford says U.S. blocked delivery of three million face masks to Canada. (nationalpost.com)

 

กปน. ยกเว้นการตัดน้ำ-ถอดมิเตอร์ บรรเทาเดือดร้อน ปชช. จาก โควิด-19

การประปานครหลวง ประกาศ 7-30 เมษา นี้ การประปานครหลวง (กปน.) งดทำธุรกรรมการรับชำระค่าน้ำ และการรับคำร้องต่าง ๆ ที่ต้องชำระเงิน เช่น การขอติดตั้งประปา การยก / ย้ายมาตรวัดน้ำ ณ สำนักงานใหญ่ สำนักงานประปาสาขา กองจัดเก็บพิเศษ และจุดจอดจ่ายจร ทุกสาขา ของ กปน.
รวมทั้งยกเว้นการตัดน้ำ ทั้งชั่วคราวและถาวร งดการผูกลวด และงดการถอดมิเตอร์น้ำ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ตามนโยบายนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จาก COVID-19

โดยลูกค้า กปน. สามารถใช้บริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย เช่น แอปพลิเคชัน MWA onMobile เว็บไซต์ www.mwa.co.th และ eservicesapp.mwa.co.th เพื่อตรวจสอบข้อมูลค่าน้ำ ขอติดตั้งประปา ฯลฯ บริการ e-Bill และ e-Tax Invoice & e-Receipt การชำระค่าน้ำประปาผ่านแอปพลิเคชันธนาคารหรือตัวแทนรับชำระต่าง ๆ ซึ่งระหว่างนี้ กปน. ยกเว้นค่าธรรมเนียมชำระเกินกำหนดที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ MWA call center โทร.1125 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง Line Official Account : @MWAthailand

The post กปน. ยกเว้นการตัดน้ำ-ถอดมิเตอร์ บรรเทาเดือดร้อน ปชช. จาก โควิด-19 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/thailand/644233

 

เตือนนายกฯ ออก พ.ร.ก. 3 ฉบับ หวั่นนักการเมืองรุมทึ้ง-หยุดไวรัสไม่ได้
เตือนนายกฯตู่ คิดให้ดีก่อนตัดสินใจอนุมัติออก พ.ร.ก. 3 ฉบับให้อำนาจคลัง-ธปท.กู้เงินเยียวยาผลกระทบโควิด-19 วงเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

เตือนนายกฯตู่ คิดให้ดีก่อนตัดสินใจอนุมัติออก พ.ร.ก. 3 ฉบับให้อำนาจคลัง-ธปท.กู้เงินเยียวยาผลกระทบโควิด-19 วงเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท หวั่นนักการเมืองรุมทึ้ง หยุดวิกฤติไวรัสไม่ได้ จี้กองทุนหมู่บ้าน-การอุ้มตราสารหนี้เกี่ยวข้องกับผลกระทบด้วยตรงไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 7 เม.ย.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะนำรายละเอียดเรื่องการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับที่จะขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กู้เงินในวงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ตามมาตรการชุดพิเศษเพื่อเยียวยาและดูแลระบบเศรษฐกิจชุดที่ 3 ซึ่ง ครม.นัดพิเศษได้อนุมัติในหลักการไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พ.ร.ก. 3 ฉบับดังกล่าว แยกออกเป็นของ ธปท. 2 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก.ให้อำนาจธปท.ในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) และ พ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.เข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชนที่ครบกำหนดโดยใช้เงินของ ธปท.เอง ส่วน พ.ร.ก.อีกฉบับ เป็นของกระทรวงการคลังที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินได้โดยกำหนดวงเงินไว้ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ให้กระทรวงต่างๆทั้ง 20 กระทรวงไปตัดงบประมาณรายจ่ายของตนที่ได้รับอนุมัติไปในสัดส่วนร้อยละ 10 โดยไม่เกี่ยวกับเงินเดือนและค่าจ้างด้วย

ส่วนอีก 300,000 ล้านบาท อยู่ในส่วนของ ธปท.ที่จะจัดวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ธุรกิจขนาดใหญ่เช่นที่เคยทำมาแล้วในช่วงปี 2554 ซึ่งเป็นปีน้ำท่วมใหญ่ โดยครั้งนั้น จัดวงเงินไว้ให้ 300,000 ล้านบาท แต่ครั้งนี้จะจัดวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำไว้ให้ใหญ่กว่า โดยธนาคารออมสินได้แบ่งเบาภาระการปล่อยวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแล้วที่ 150,000 ล้านบาท ขณะที่ พ.ร.ก.อีกฉบับที่ให้อำนาจ ธปท.เข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชนก็เพื่อป้องกันวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น และช่วยเหลือสถาบันการเงินเป็นหลัก

ขณะเดียวกันจะร่วมกับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการพิจารณาหากลไกดูแลตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีขนาด 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งครอบคลุมเงินออมของประชาชนหลากหลายประเภท ตั้งแต่สหกรณ์ออมทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และธุรกิจจำนวนมากที่กู้ตราสารหนี้มา

กรณีข้างต้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดานายธนาคารทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกูรูเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศ ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้เผชิญปัญหาเศรษฐกิจ หากแต่เป็นปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มาจากต่างประเทศ หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้ ก็ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะเรื่องการให้การสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นแก่บรรดาคณะแพทย์-พยาบาลที่ต้องกลายเป็นหน่วยกล้าตายในสนามรบแนวหน้า

“การขออนุมัติ ครม.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง และ ธปท.ออก พ.ร.ก.กู้เงินรวมๆกันแล้วคิดเป็นวงเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาทนั้น เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาให้ดีว่าจะช่วยเหลือธุรกิจ และคนกลุ่มไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบจริงๆจากการปิดงานเลิกจ้าง จากการทำมาหากินไม่ได้ เพราะถูกคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากโรคระบาด แต่ไม่ใช่ให้แบบกราดไปทั่วอย่างเช่นที่เขียนไว้ใน พ.ร.ก.” กลุ่มนายธนาคารให้ความเห็น

และว่า หลังจากที่นักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลรับทราบเรื่องการจะขออนุมัติ ครม.ออก พ.ร.ก.กู้เงิน ก็มีการเสนอโครงการจะทำเรื่องต่างๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามามากมาย “เท่าที่เห็นจะมีการให้เงิน 300,000 ล้านบาทแก่กองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ ซึ่งไม่เห็นเกี่ยวอะไรหรือได้รับผลกระทบอย่างใดจากไวรัสโควิด-19 หรือจะเอาเงินไปช่วยเกษตรกร ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากไวรัส หากแต่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง กลับไม่มีการเข้าไปแก้ปัญหาให้”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การยอมให้ ธปท.เข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ล้มหรือต้องปิดตัวไปเพราะบริหารจัดการผิดพลาดกันเอง ก็ไม่เกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 “ประเด็นเหล่านี้ นายกฯต้องตัดสินใจให้ดีว่าจะเลี้ยวขวา หรือซ้าย และถ้าเลี้ยวผิด ประเทศไทยเราพังแน่ๆ”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรดาแพทย์-พยาบาลที่อยู่แนวหน้า กำลังจับตาดูการแก้ปัญหาของรัฐบาลว่าไปถูกทางหรือไม่ และเกรงว่าการออก พ.ร.ก.อนุมัติให้กู้เงินครั้งนี้ จะกลายเป็นลาภปากของนักการเมือง ซึ่งบางคนเตรียมจะเสนอสร้างสนามบินในจังหวัดตัวเองโดยอ้างเพื่อสร้างงานแล้ว บ้างจะเอาไปสร้างโรงเรียนซึ่งไม่เกี่ยวกับการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสแต่อย่างใด

ในขณะที่คณบดีคณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแพทย์หลายแห่ง เตรียมสรรพกำลังทั้งหมดที่มีไปสร้างโรงพยาบาลสนาม เช่น ศิริราช จะไปสร้างโรงพยาบาลสนามที่บางกอกน้อย มหาวิทยาลัยมหิดล เตรียมจะทำโรงพยาบาลสนามที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เหมือนกับที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะทำโรงพยาบาลสนามที่รังสิตด้วยเงินบริจาคที่ผู้คนให้ไป เนื่องเพราะไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลได้ หากคนไทยยังมีการติดไวรัสโควิดเพิ่มขึ้นเช่นนี้ โรงพยาบาลที่มีอยู่จะรับมือไม่ได้ “ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละว่า มีหมอออกมาขอบริจาคหน้ากากอนามัยเพราะมีไม่เพียงพอให้แพทย์และพยาบาล เนื่องจากมีคนไปกักตุนกันไว้ จนโรงพยาบาลต่างๆหาซื้อไม่ได้”

มีรายงานด้วยว่า บรรดาเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆซึ่งถูกสั่งไม่ให้ออกจากบ้านนั้น หน่วยราชการในจังหวัดนั้นๆไม่ได้ออกไปดูแลช่วยเหลือ หรือนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้เลย ขณะที่เกษตรกรต้องเผชิญกับภัยแล้งอย่างหนัก 3 วันจึงจะมีน้ำให้ใช้ได้ ก็ยังไม่มีเกษตรจังหวัดใดไปช่วยเหลือดูแล นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกสั่งให้กลับไปกักตัวที่บ้าน ก็กลับให้ไปกักตัวอยู่ในพื้นที่กันดาร ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่มีการจัดหาสถานที่กักตัวที่ดีกว่าหลายเท่าให้ เป็นต้น.

https://www.thairath.co.th/news/bus..._l5LFejAkTqOFvFqf4DEXvbZQVJJ2XRUcu84ztDaLQ4wE

 

ลูกกลับจากเมืองนอก “ไม่กักตัว” แพร่โควิด 19 ใส่แม่จนป่วยหนักเข้าไอซียู

ไม่กักตัว

โควิด 19 เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 63 ผศ.นพ.(พิเศษ)โอภาส พุทธเจริญ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า การส่งผ่านเชื้อแบบไม่ได้ตั้งใจให้คนรอบข้าง การติดต่อของโรคโควิดเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เดิมเคยเชื่อว่าการติดต่อเกิดหลังจากที่คนไข้มีอาการแล้วเหมือนโรค SARS

แต่ข้อมูลในปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้อาจติดต่อผ่านได้จากคนที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือก่อนที่จะมีอาการ (asymptomatic transmission และ presymptomatic transmission)ดังนั้นหากกลับมาจากต่างประเทศแม้ว่าไม่มีความผิดปกติอะไรเลยควรกักตัวอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 14 วัน อย่าเข้าใจว่าไม่มีอาการคือไม่ติดเชื้อ

เคสคุณป้าคนหนึ่งอยู่บ้านสบายดี ติดเชื้อโควิดจากลูกสาวที่เดินทางมาจากต่างประเทศแต่ไม่ระวังเรื่องการกักตัวเพราะคิดว่าตัวเองยังไม่มีอาการไม่น่าป่วย เลยไปอยู่ด้วยกันตามปกติ แต่แยกตัวออกไปหลังจากที่ลูกสาวเริ่มมีอาการเหมือนเป็นหวัด แต่ก็ไม่ทันการ

วันที่มาตรวจคุณป้ามีอาการคล้ายเป็นหวัดมา 6 วัน เอกซเรย์ปอดยังปกติ อีกวันถัดมาอาการปอดอักเสบชัดขึ้น คนไข้หายใจเหนื่อยจนระบบหายใจล้มเหลวอย่างรวดเร็วและใส่ท่อช่วยหายใจ ย้ายเข้าห้องไอซียู คนไข้อาการหนักมาก เข้าใจความรู้สึกของลูกที่รู้ทีหลังว่าแม่ตัวเองต้องมานอนไอซียูเพราะไม่ระวังเรื่องการกักตัว

ต้องรู้นะครับว่าเราอาจจะทำให้คนในครอบครัวที่เรารักป่วยจากความไม่เข้าใจและไม่มีระเบียบวินัย หากกลับมาจากต่างประเทศต้องกักตัวจนครบ 14 วันครับ เพราะหลังจาก 14 วัน แม้ว่าติดเชื้อจะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้น้อย อาจจะทำยากแต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะเคสใหม่ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นเคสที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ

The post ลูกกลับจากเมืองนอก “ไม่กักตัว” แพร่โควิด 19 ใส่แม่จนป่วยหนักเข้าไอซียู appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/social/644246

 

'พัทยา' เข้มตั้งด่านตรวจ จับผู้ฝ่าฝืนไม่กลัวเคอร์ฟิว 14 ราย
เมืองพัทยา-บางละมุง คุมเข้มช่วงประกาศเคอร์ฟิว โดยตำรวจร่วมกับทหารตั้งด่านสกัดผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยห้ามออกจากบ้านช่วง 22.00-04.00 น.แต่ยังมีผู้กระทำผิด จับส่งดำเนินคดี 14 ราย



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/loc...KYha1nCNJRwovsQwCgyF79gYlKMPWfqmgu84fYCiU43d0

 

ยันยังไม่ประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง (คลิป)
ศบค.ยันยังไม่เคอร์ฟิว 24 ชม. ว้ากสื่อบางสำนักอ่านเอกสารไม่ออกแปลสารผิด ด้าน รมช.มหาดไทยระบุให้ผู้ว่าฯทั่วประเทศเตรียมการ 5 เรื่องหากมีการยกระดับ โฆษก ตร.เผยพ้นเคอร์ฟิวมา 3 คืนแล้ว



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/loc...f_docCf394sLCtl4dhnPO55haW5O6opz9UsfzJ34-eG08

 

เหยื่อโควิดสหรัฐฯ ทะลุ 10,000 ศพ นิวยอร์กขึ้นค่าปรับคนไม่เว้นระยะห่าง
สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากกว่า 10,000 ศพแล้ว ขณะที่สถานการณ์ในรัฐนิวยอร์กเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/for...UCjCCmlrVMeh0W0ceRW08u3wUNKf1CzOpi1uaaskF-Y9w

 

ระทึก ไฟป่าในเขตภัยพิบัติ ‘เชอร์โนบิล’ ค่ากัมมันตภาพรังสีพุ่ง 16 เท่า
ระดับกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่ไฟป่าในเขตภัยพิบัตินิวเคลียร์เชอร์โนบิล เพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า ในขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามควบคุมไฟป่า 2 จุดที่กำลังลุกโชน



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/for...77pFDk0UhGLs-NILu1LRfkg-dva4tsmla3A1nXDKqzzww

 

จีนนับหมื่นแห่เที่ยวหลังเลิกล็อกดาวน์โควิด แม้รบ.เตือนการระบาดยังไม่จบ
ชาวจีนจำนวนมากแห่ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในช่วงเทศกาล หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมเชื้อโควิด-19 แม้ทางการจะเตือนให้ประชาชนอย่าชะล่าใจ



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

โควิด 19 ทำพิษ เยอรมนีสั่งขยายล็อกดาวน์ถึง 19 เม.ย.

ล็อกดาวน์เยอรมนี

ล็อกดาวน์เยอรมนี หน่วยควบคุมโรคของเยอรมนี เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้น 3,677 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 100,123 ราย

ด้านนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ออกมาประกาศว่า จะขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ออกไปจนถึงวันที่ 19 เม.ย. พร้อมเน้นว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่รัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ นางแมร์เคิลยังเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรม หรือออกนอกบ้านในช่วงเทศกาลอีสเตอร์

https://www.springnews.co.th/global/644144

 

ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่? ในอนาคต จะมีการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ด้าน รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ ณ วันนี้ ยังคงไม่มี เนื่องจากการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และจะเป็นโมเมนตัมทางการเมือง หากไม่สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดได้ จะมีผลเรื่องความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล

"ต้องรอให้สุกงอมพอสมควร เช่น ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมาตรการกำกับต่างๆ ใช้ไม่ได้ผล หากถึงตอนนั้นจริง อาจมีการขยับเป็นขั้นเป็นตอน อาจขยายเวลาเคอร์ฟิวจาก 6 ชั่วโมง เป็น 10 ชั่วโมง ก่อนไปสู่เคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงที่ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น ต้องรอดูกลางเดือน เม.ย.นี้ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ และวงจรการแพร่ระบาดของโรค ดูว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่"

ส่วนทำไม? หนังสือราชการล่าสุดของกระทรวงมหาดไทย ได้ทำให้คนตื่นตระหนก ทั้งๆ ที่เป็นคำสั่งให้ฝ่ายปกครองเตรียมความพร้อม เหตุผลก็เพราะความไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล และการสื่อสารในภาวะวิกฤติของรัฐบาลไม่ดีพอ ได้แสดงให้เห็นว่าคนตื่นตระหนกทุกครั้งที่มีเอกสารของราชการออกมาทางสื่อโซเชียล และประชาชนเห็นว่าหลายๆ อย่างไม่มีมาตรการรองรับ จนทำให้เกิดการกักตุนสินค้ากันเต็มไปหมด

"คล้ายกับกรณีที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ได้สอดคล้องกับวิถีผู้คน เนื่องจากไม่มีมาตรการรองรับ เมื่อมีข่าวลือออกมาทำให้คนตื่นตระหนก และกลายเป็นว่าภาครัฐเดินตามหลัง และ ศบค.เพิ่งออกมาชี้แจงว่าไม่ใช่เคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง"

ถามว่าศักยภาพพร้อมหรือไม่ หากการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ไม่มีมาตรการรองรับ จะเกิดผลกระทบแน่นอนต่อผู้คนโดยรวมในเรื่องอุปโภคบริโภค นอกจากนี้จะกระทบต่อธุรกิจทั้งหมด กระทบต่อผู้ประกอบการ กระทบพนักงานลูกจ้าง ซึ่งจะถูกเลิกจ้าง ลดเงินเดือน ส่วนหน่วยงานด้านสาธารณูปโภค และความมั่นคง ปิดไม่ได้ ทางรัฐบาลต้องมีแผนพอสมควร และในแง่ประชาชน ต้องเตรียมความพร้อม หากประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง จะต้องซื้อสินค้าตุนเอาไว้ ขณะที่คนอีกกลุ่มอาจเตรียมตัวไม่ทัน และสินค้าอาจไม่เพียงพอ จุดนี้อาจทำให้เกิดความโกลาหลได้

การประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับการบริหารจัดการของรัฐบาล หรือแม้มีเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดอาจไม่ลดลง อย่างเช่น มาเลเซีย ปิดประเทศไปตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ไม่ลดลง เพราะฉะนั้นทุกอย่างเกี่ยวกับความพร้อมของบุคลากรต่างๆ และความพร้อมด้านสาธารณสุข ดังนั้นการประกาศเคอร์ฟิว อาจไม่ใช่การตอบโจทย์ แต่การจัดการที่ดีให้มีประสิทธิภาพในทุกด้านทั้งเรื่องสาธารณสุข เศรษฐกิจ และความมั่นคง มีความสำคัญมากสุด หากทุกอย่างไม่มีประสิทธิภาพ จะกลายเป็นโมเมนตัมไปสู่รัฐบาลในที่สุด.


https://www.thairath.co.th/news/loc...p5pMR9Gh9X1uFpz61EsGpSUgk7PMiZVryn9JkiZMgoce0