ติดตามสถานะการณ์

มวลความร้อนยักษ์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก พรากชีวิตนกนับล้าน
นกทะเลนับล้านตายจากมวลความร้อนยักษ์ในช่วงน้อยกว่า1ปีนี้
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Washington พบว่านกทะเลตายจากการขาดอาหาร ในช่วงฤดูร้อน 2015 ถึงฤดูใบไม้ผลิ 2016 ซึ่งพบซากศพตามแนวชายฝั่ง Alaska, Washington, Oregon และ California ประมาณ 62,000 ตัว แต่ส่วนมากศพของพวกมันไม่ได้ถูกพัดเข้าฝั่ง ประมาณการได้ว่า อาจมีศพถึง 1 ล้านตัว
ในจำนวนนี้ ชายฝั่ง Alaska พบซากนกมากที่สุด ในเมือง Prince William Sound ทางตอนใต้ของ Alaska พบซากนกถึง4,500 ตัวในทุกๆตารางกิโลเมตร
มวลความร้อน เกิดจากคลื่นความร้อนใต้น้ำที่รุนแรงและมีต่อเนื่องเป็นปีๆ เชื่อว่าเกิดจากสภาวะanticyclone ที่พบครั้งแรกปี2013 ซ้ำด้วยปรากฏการณ์เอลนินโย่ในปี 2015-2016 ทำให้อุณหภูมิของน้ำสูงมากกว่าค่าเฉลี่ย 6 องศาเซลเซียส
สภาวะ anticyclone จะเกิดขึ้นเมื่อมวลอากาศเย็นขนาดใหญ่หดและอัดตัว ทำให้ชั้นบรรยากาศและแรงดันผิวอากาศหนักมากขึ้น จากแผนที่ความร้อน จะพบมวลความร้อนยักษ์ แผ่ขยายถึง 380,000 ตารางไมล์เทียบเป็นพื้นที่ขนาด 1.5 เท่าของTexas หรือ 4เท่าของประเทศนิวซีแลนด์
การศึกษาพบว่านกทะเลจำเป็นต้องกินอาหารประมาณครึ่งของน้ำหนักตัว แต่ผลจากการแย่งชิงอาหารกับปลาบางประเภท(Salmon และ halibut)ที่มีเมตาบอลิซึ่มเพิ่มขึ้นจากน้ำทะเลร้อน ทำให้พวกมันมีความต้องการอาหารมากขึ้น เกิดการแย่งชิงปลาเล็กที่เป็นอาหารกับนก แหล่งอาหารจึงลดลง
นอกจากนี้ยังพบการแพร่ขยายของสาหร่ายพิษตามแนวชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ทำให้สัตว์หลายสายพันธุ์ตายลง เช่น สิงโตทะเล นก puffin และวาฬ Baleen รวมถึงรายได้นับล้านดอลล่าร์ของชาวประมงที่สูญไป Julia Parrish ศาสตราจารย์จาก School of Aquatic and Fishery Sciences เปรียบเทียบว่า “เหมือนร้านขายของชำ ที่รถส่งของชอบเบี้ยวไม่มาส่งของ”
นกทะเลได้รับผลกระทบอย่างมาก พบว่าอาหารที่ลดลงส่งผลให้ลดการขยายพันธุ์ ในช่วงผสมพันธุ์ปี 2015-2016 ไม่มีการเกิดลูกนกเลยใน15ฝูงนก “มันเป็นการเตือนเราว่า การที่น้ำทะเลอุ่นขึ้นมีผลต่อระบบนิเวศทางทะเลขนาดไหน” John Pratt หัวหน้าคณะวิจัยกล่าว ซึ่งผู้วิจัย ยังไม่สามรถคาดได้ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าประชากรนกจะฟื้นตัว หรืออาจไม่มีวันนั้นเลย ทั้งหมดนี้เป็นผลที่คาดคะเนและการเตือนถึงสภาวะโลกร้อน
น่าเศร้าคือ ในช่วงเวลานี้ มวลความร้อนยักษ์อีกก้อนก็กำลังก่อตัวนอกฝั่ง Washington ลามไปถึง Alaska และยังก็ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และมีอีกมวลความร้อนเริ่มก่อตัวในมหาสมุทรใกล้กับนิวซีแลนด์ มีขนาดใหญ่ถึง1 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่ารัฐ texas สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ
ปี 2019 ยังเป็นปีที่มหาสมุทรร้อนที่สุดเท่าที่เคยวัดมา ภาวะโลกร้อนกำลังแย่ขึ้นและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์มากขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วยการ ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก ประหยัดพลังงาน. ซึ่งที่มาของพลังงานล้วนมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล อันเป็นแหล่งก๊าซเรือนกระจกมหาศาล ลดการสร้างขยะ ลดการบริโภคที่ฟุ่มเฟือย ขับรถให้น้อยลง และในขณะเดียวกัน ผู้นำประเทศต่างๆ ต้องออกนโยบายเอื้อเฟื้อให้ประชาชนสามารถปรับการใช้ชีวิตที่สนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก และเปลี่ยนมาสนับสนุนพลังงานสะอาดมากกว่านี้
https://www.theguardian.com/environ...ean-seabirds-killed-new-zealand-north-america
https://www.abc.net.au/news/science...e-off-climate-change-marine-heatwave/11867264
https://edition.cnn.com/2020/01/16/world/blob-seabird-study-intl-hnk-scli-scn/index.html

 

เตือนภัยฝุ่น PM2.5 ที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้ง กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศมีค่าเกินมาตรฐาน พบว่าเด็กป่วยเยอะขึ้น ป่วยระบบทางเดินหายใจ อาการแพ้กำเริบ ปากบวม
โพสต์ต้นฉบับ :
#เตือนภัยฝุ่นPM25 #เด็กป่วย #ระบบทางเดินหายใจ #อาการแพ้กำเริบ #ปากบวม #ผลกระทบฝุ่นละอองPM25 #ฝุ่นพิษ #ฝุ่นละออง #PM25 #SocialMedia #Online #HotShare #ไม่ตกขบวน

 

เถ้าถ่านที่ถูกพ่นออกจากภูเขาไฟฟิลิปปินส์ลูกหนึ่งกำลังถูกนำไปผสมกับเศษพลาสติกเพื่อสร้างก้อนอิฐ ในความคิดริเริ่มเพื่อแก้ปัญหามลภาวะเรื้อรังและภัยพิบัติธรรมชาติบ่อยครั้งของประเทศนี้
คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9630000005678
#MGROnline

 

ปลัดอำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี สนธิกำลังร่วมกับหัวหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ รบ.3 (พุยาง) นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ เครือข่ายป่าชุมชน ราษฎรจิตอาสาระดมดับไฟป่าหลายจุด หลังไหม้แล้วกว่า 700 ไร่ พร้อมทำแนวกันไฟป้องกันลุกลาม
คลิก>>https://mgronline.com/local/detail/9630000005650
#MGROnline

 

Setiawan
แผนที่อย่างเป็นทางการ @PhiVolcs_DOST ของรอยแยกรอบ #Taal #ภูเขาไฟ ซึ่งได้รับการยืนยันโดยทีมงานภาคพื้นดิน
ภาพของรอยแยกที่มีหมายเลขรวมอยู่ด้วย

Official @PhiVolcs_DOST map of fissures around #Taal #volcano which have been verified by ground crews.
Images of numbered fissures included.

 

Setiawan

ดูเหมือนเมืองผี
Talisay Batangas ฟิลิปปินส์
Looks like a ghost town.
Talisay Batangas. Philippine

 

เวลาเริ่มนับถอยหลังเเล้ว ตั้งเเต่ก๊าสมิเทน มันรั่วใหลครั้งใหญ่ตั้งเเต่น้ำเเข๊งขั้วโลกละลาย วันนี้ลดจำนวนประชากรมนุษย์เลิกใช้น้ำมัน ถุงผลาสติกก็สายไปเเล้ว

 

Michael DiFato

 

อีกหนึ่งความตกใจระดับโลกในวันนี้
แผ่นดินไหวขนาด 8.1 (ขนาด 6.1 เป็น คำโกหกอย่างเป็นทางการ จะต้อง + 2))
ภูมิภาคใกล้เคียงกับปาปัว อินโดนีเซีย
วันที่ 2020-01-18 เวลา 16: 38: 16.2 UTC
ที่ตั้ง 2.81 S; 139.35 E
ความลึก 60 กม
Another Global shock today
Mag 8.1 ( 6.1 official lie+2) )
Region NEAR N COAST OF PAPUA, INDONESIA
Date time 2020-01-18 16:38:16.2 UTC
Location 2.81 S ; 139.35 E
Depth 60 km

 

The Great Shift

แผ่นดินไหวขนาด 6.0 ปาปัว แผ่นดินไหวครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกลดขนาด มันอยู่ที่ 60 กม. ดังนั้นจึงรู้สึกได้ แต่หวังว่าจะเกิดความเสียหายเล็กน้อย

6.0 Papua. This quake does not appear to be downgraded. It was at 60 km so it was felt, but hopefully little if any damage.

 

The Great Shift

ความวุ่นวายของกระแสเจ็ทกำลังเติบโต ดูพื้นที่การพัฒนาใหม่ของการไหลย้อนกลับ ....

Jet stream chaos is growing. Watching new developing areas of reverse flow ....

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

น้ำท่วมในเมือง Alfredo Chavez , ประเทศบราซิล

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

Brazil, Chaves เป็นเมืองที่มีฝนตกมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีน้ำ 250 มิลลิเมตร เมืองถูกจมอยู่ใต้น้ำมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก ยังไม่สามารถอธิบายความเสียหาย

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

น้ำท่วมใน Iconha, Espirito Santo, ประเทศบราซิล #Otrosvideos

 

‘สหรัฐ’ ระดมทรายกว่า 2 แสนตันถม ‘ชายหาดฟลอริดา’ ทรุดรุนแรง

18 มกราคม 2563

กองทัพสหรัฐ เร่งระดมรถบรรทุกขนทรายกว่า 2 แสนตัน ถมลงบนชายหาดฟลอริดา แก้ปัญหาแผ่นดินทรุดจากน้ำทะเลกัดเซาะรุนแรง ผลพวงจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

มีรายงานว่า กองบัญชาการทหารช่างของกองทัพบกสหรัฐ ได้เริ่มปฎิบัติการนำรถบรรทุกหลายสิบคันลำเลียงทรายจำนวน 233,000 ลูกบาศก์เมตร ที่มีมูลค่า 16 ล้านดอลลาร์ เพื่อดำเนินการถมลงในพื้นที่ชายหาดฟลอริดาที่ถูกกัดเซาะ โดยภาระกิจจะดำเนินไปจนถึงเดือน มิ.ย. 2563

นายสตีเฟน เลเธอร์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านหาดทรายและสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยฟลอริดา เปิดเผยสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ขณะนี้สหรัฐประสบปัญหาแผ่นดินทรุด โดยเฉพาะบริเวณชายหาดฟลอริดาเกิดปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะอย่างรุนแรง ส่งผลให้พื้นที่บริเวณชายหาดคับแคบลงผิดรูปร่างไปจากเดิม

"เหตุการณ์น้ำทะเลกัดเซาะชายหาดอย่างรุนแรง ได้คุกคามชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่และกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะเดิมชายหาดแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน สิ่งสำคัญไปกว่านั้น อาคารต่าง ๆ ที่อยู่ริมหาดสมควรจะได้รับการดูแลและคุ้มครองจากการกัดเซาะของชายหาด" เลเธอร์แมน กล่าวย้ำ




เลเธอร์แมน กล่าวอีกว่า ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหาดถูกกัดเซาะเร็วมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม พายุบริเวณชายหาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพายุเฮอร์ริเคน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการกัดเซาะทำให้ชายหาดได้รับความเสียหาย ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/862604

 

กองทัพตั๊กแตน ถล่มแอฟริกาตะวันออก


หลายประเทศทางภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกา กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากกองทัพตั๊กแตนทะเลทราย สร้างความวิตกเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหาร ในภูมิภาคแห้งแล้งกันดาร และยากจนที่สุดในโลก โดยผุ้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดปกติของสภาพภูมิอากาศ



แถลงการณ์ของสำนักงานการพัฒนาระหว่างรัฐบาล หรือ ไอจีเอดี (the Intergovernmental Authority on Development ) กล่าวว่า ที่เคนยามีรายงานฝูงตั๊กแตนบินว่อนดำมืดบนท้องฟ้า ความยาวราว 60 กิโลเมตร และกว้าง 40 กิโลเมตร ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ตั๊กแตนทะเลทรายสามารถรวมฝูงประมาณ 150 ล้านตัวต่อตารางกิโลเมตร และบินเกาะกลุ่มกันเป็นระยะทางยาวถึง 100 - 150 กิโลเมตร

นอกจากนั้นยังมีรายงานฝูงตั๊กแตนจำนวนมหาศาล ในโซมาเลีย เอธิโอเปีย ซูดาน จิบูตี และเอริเทรีย ไอจีเอดีเตือน ซูดานใต้และยูกันดาจะเป็นเป้าหมายคุกคามต่อไป


ทางด้านองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ การระบาดของฝูงตั๊กแตนทะเลทราย ทำให้สถานการณ์ความมั่นคงด้านอาหารของแอฟริกาตะวันออก ที่แย่อยู่แล้ว ยิ่งแย่ลงไปอีก เนื่องจากฝูงตั๊กแตนจะกัดกิน ทำลายพืชผลการเกษตรที่ขวางหน้าจนราพณาสูร จากเหตุการณ์ระบาดครั้งใหญ่ของฝูงตั๊กแตนระหว่างปี พ.ศ. 2546 - 2548 ทั่วภาคเหนือแอฟริกา ทางการ 20 ประเทศต้องเสียค่าใช้จ่ายในการควบคุมรวมกันมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และความเสียหายต่อพืชผลคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,500 ล้านดอลลาร์.

https://www.newtv.co.th/m/news/?id=47801

 

John Traczyk

1,400 ตารางไมล์ถูกทำลายในราชสถาน, อินเดียในการบุกรุก ตั๊กแตน ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 60 ปี 17 ม.ค. 2020

ตั๊กแตนได้ทำลายพื้นที่ประมาณ 3.6 แสนเฮคเตอร์ (900,000 เอเคอร์) ใน 10 อำเภอในรัฐราชสถานตะวันตก สิ่งนี้ถูกเรียกว่าการบุกรุกของตั๊กแตนที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา

การระบาดตั๊กแตนใน Sriganganagar รุนแรงถึง 75% ของพืชยืนต้นเสียหาย มันได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 11 อำเภอในรัฐราชสถาน

#Locusts #LocustInvasion #Rajasthan

1400 Square Miles Destroyed In Rajasthan, India In Worst Locust Invasion in 60 Years. Jan 17, 2020

Locusts have destroyed area of about 3.6 lakh hectares ( 900,000 acres ) in 10 districts in Western Rajasthan. This is being referred to as the worst locust invasion in the last 60 years.

The locust plague has been severe in Sriganganagar with 75% of standing crops being damaged. It has already affected around 11 districts in Rajasthan

#Locusts #LocustInvasion #Rajasthan

 

John Traczyk

ตั๊กแตนไม่เพียง แต่บุกอินเดีย แต่เคนยาก็เช่นกัน

การระบาดของตั๊กแตนที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปีได้แพร่กระจายไปทั่วแอฟริกาตะวันออกด้วยฝูงตั๊กแตนตัวเดียวที่ครอบคลุมพื้นที่หนึ่งเศษหนึ่งส่วนสอง(1 +1/2) เท่าของมหานครลอนดอน ผู้พิทักษ์รายงานฝูงตั๊กแตนฝูงหนึ่งที่เห็นในเคนยาวัดข้าม 936 ตารางไมล์ เท่ากับ 2,400 ตารางกิโลเมตร

สภาพภูมิอากาศที่ผิดปกติเป็นส่วนหนึ่งที่จะโทษสำหรับการระบาดซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงด้านอาหารในประเทศที่อ่อนแอที่สุดในโลก

Not only are the locusts invading India but Kenya as well.

The most serious outbreak of locusts in 25 years is spreading across East Africa with a single swarm covering an area one-and-a-half times the size of Greater London. The Guardian reports of one locust swarm seen in Kenya measuring 936 SQUARE MILES ACROSS. Equal to 2,400 sq km.

Unusual climate conditions are partially to blame for the plague, which is posing an unprecedented threat to food security in some of the world's most vulnerable countries.

https://news.sky.com/story/east-afr...in-25-years-could-worsen-food-crisis-11910945

 

ภัยพิบัติจาก ตั๊กแตน

ิอพยพ 10:
1 พระเยโฮวาห์จึงตรัสกับโมเสสว่า "จงเข้าไปหาฟาโรห์ เพราะเราได้ทำให้ใจของฟาโรห์ และใจของข้าราชการแข็งกระด้าง เพื่อเราจะได้แสดงหมายสำคัญเหล่านี้ของเราต่อหน้าพวกเขา
2 เพื่อเจ้าจะได้เล่าเหตุการณ์ที่เราได้กระทำแก่ชาวอียิปต์ให้ลูกหลานฟัง รวมทั้งหมายสำคัญซึ่งเราได้กระทำท่ามกลางพวกเขา เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือพระเยโฮวาห์"
3 โมเสสและอาโรนจึงเข้าไปเฝ้าฟาโรห์ทูลฟาโรห์ว่า "พระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนฮีบรูตรัสดังนี้ว่า `เจ้าจะขัดขืนไม่ยอมอ่อนน้อมต่อเรานานสักเท่าใด จงปล่อยพลไพร่ของเราเพื่อเขาจะไปปรนนิบัติเรา
4 มิฉะนั้นถ้าเจ้าไม่ยอมปล่อยพลไพร่ของเราไป ดูเถิด พรุ่งนี้เราจะให้ตั๊กแตนเข้ามาในเขตแดนของเจ้า
5 ฝูงตั๊กแตนนั้นจะปกคลุมพื้นแผ่นดินจนแลไม่เห็นพื้นดิน และสิ่งที่เหลือจากลูกเห็บทำลาย มันจะกิน และต้นไม้ทุกต้นซึ่งงอกขึ้นให้เจ้าในทุ่งนานั้น มันจะกินเสียหมด
6 มันจะเข้าไปในราชสำนัก ในบ้านเรือนของข้าราชการ และในบ้านเรือนของบรรดาชาวอียิปต์จนเต็มหมด อย่างที่บิดาและปู่ทวด ตั้งแต่เกิดมาจนทุกวันนี้ ไม่เคยเห็นเช่นนี้เลย'" แล้วโมเสสก็กลับออกไปจากฟาโรห์
7 บรรดาข้าราชการของฟาโรห์ทูลฟาโรห์ว่า "คนนี้จะเป็นบ่วงแร้วดักเราไปนานสักเท่าใด ขอทรงพระกรุณาปลดปล่อยคนเหล่านั้นให้ไปปรนนิบัติพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาเถิด พระองค์ยังไม่ทรงทราบหรือว่าอียิปต์กำลังพินาศแล้ว"
8 โมเสสและอาโรนถูกนำตัวเข้ามาเฝ้าฟาโรห์อีก พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า "ไปปรนนิบัติพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า แต่ใครจะไปบ้าง"
9 โมเสสทูลว่า "ข้าพระองค์จะต้องพากันไปทั้งคนหนุ่มและคนแก่ บุตรชายและบุตรสาวและฝูงแพะแกะ และฝูงวัว เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายต้องมีเทศกาลเลี้ยงถวายพระเยโฮวาห์"
10 ฟาโรห์ตรัสกับเขาทั้งสองว่า "ถ้าเรายอมให้เจ้าไปกับบุตรด้วย ก็ให้พระเยโฮวาห์ทรงสถิตอยู่กับพวกเจ้าเถิด ระวังตัวให้ดีเถิด เจ้ากำลังมุ่งไปในทางทุจริตเสียแล้ว
11 อนุญาตไม่ได้ จงพาเฉพาะแต่ผู้ชายไปปรนนิบัติพระเยโฮวาห์ เพราะเจ้าปรารถนาเช่นนี้เท่านั้น" แล้วโมเสสกับอาโรนก็ถูกขับไล่ออกไปเสียจากพระพักตร์ของฟาโรห์
12 พระเยโฮวาห์จึงตรัสกับโมเสสว่า "จงเหยียดมือออกเหนือประเทศอียิปต์ให้ฝูงตั๊กแตนมาเหนือแผ่นดินอียิปต์ ให้กินผักทั่วไปของแผ่นดินซึ่งเหลือจากลูกเห็บทำลาย"
13 โมเสสจึงยื่นไม้เท้าออกเหนือแผ่นดินอียิปต์ พระเยโฮวาห์ก็ทรงบันดาลให้ลมตะวันออกพัดมาเหนือพื้นแผ่นดินทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดวันนั้น ครั้นเวลารุ่งเช้า ลมตะวันออกก็พัดหอบฝูงตั๊กแตนมา
14 ฝูงตั๊กแตนลงทั่วแผ่นดินอียิปต์ และจับอยู่ทั่วเขตแดนอียิปต์ทั้งหมด มันรุนแรงมาก แต่ก่อนไม่เคยมีตั๊กแตนอย่างนี้เลย และต่อไปข้างหน้าจะหามีอย่างนั้นอีกไม่
15 เพราะมันปกคลุมพื้นแผ่นดินจนแลมืดไป มันกินผักในแผ่นดินทุกอย่าง และผลไม้ทุกอย่างซึ่งเหลือจากลูกเห็บทำลาย ไม่มีพืชใบเขียวเหลือเลย ไม่ว่าต้นไม้หรือผักในทุ่ง ทั่วแผ่นดินอียิปต์
16 ฟาโรห์จึงรีบให้คนไปตามโมเสสและอาโรนเข้าเฝ้า แล้วฟาโรห์ตรัสว่า "เราได้ทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า และต่อเจ้าทั้งสองด้วย
17 เหตุฉะนั้นบัดนี้ขอเจ้ายกโทษบาปให้เราครั้งนี้สักครั้งเถิด และวิงวอนขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า เพื่อพระองค์จะได้ทรงโปรดให้ความตายนี้พ้นไปจากเรา"
18 โมเสสก็ไปจากฟาโรห์ และทูลวิงวอนพระเยโฮวาห์
19 พระเยโฮวาห์จึงทรงบันดาลให้ลมพายุพัดกลับมาจากทิศตะวันตกหอบฝูงตั๊กแตนไปตกในทะเลแดง จนไม่มีตั๊กแตนเหลือเลยสักตัวเดียวตลอดเขตแดนอียิปต์
20 แต่พระเยโฮวาห์ทรงทำให้พระทัยของฟาโรห์แข็งกระด้างเพื่อพระองค์จะไม่ยอมปล่อยชนชาติอิสราเอลไป
21 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า "จงชูมือของเจ้าขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อจะให้มีความมืดทั่วแผ่นดินอียิปต์ เป็นความมืดจนจับคลำได้"
22 โมเสสจึงชูมือขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วก็เกิดมีความมืดทึบทั่วไปในแผ่นดินอียิปต์ตลอดสามวัน
23 เขามองกันไม่เห็น ไม่มีใครลุกไปจากที่ของเขาสามวัน แต่บรรดาชนชาติอิสราเอลนั้นมีแสงสว่างอยู่ในที่อาศัยของเขา
24 ฟาโรห์จึงให้ตามตัวโมเสสเข้าเฝ้า ตรัสว่า "พวกเจ้าจงไปปรนนิบัติพระเยโฮวาห์เถิด เพียงแต่ให้ฝูงแกะและฝูงวัวอยู่ ส่วนเด็กไปกับเจ้าได้ด้วย"
25 ฝ่ายโมเสสจึงทูลว่า "พระองค์ต้องให้เรามีเครื่องบูชาและเครื่องเผาบูชาไปด้วย เพื่อพวกข้าพระองค์จะได้บูชาต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์
26 ข้าพระองค์ต้องนำฝูงสัตว์ไปด้วย ขาดไม่ได้สักกีบเดียว เพราะว่าจะต้องเอาสัตว์จากฝูงเหล่านั้นไปถวายพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ และข้าพระองค์ยังไม่ทราบว่าจะต้องการสัตว์ตัวใดถวายพระเยโฮวาห์ จนกว่าเราจะถึงที่นั่น"
27 แต่พระเยโฮวาห์ทรงทำให้พระทัยฟาโรห์แข็งกระด้าง พระองค์จึงไม่ยอมปล่อยเขาไป
28 ฟาโรห์รับสั่งแก่โมเสสว่า "ไปให้พ้นจากเรา ระวังตัวให้ดีเถอะ อย่ามาเห็นหน้าเราอีกเลยเพราะถ้าเจ้าเห็นหน้าเราวันใด เจ้าจะต้องตายวันนั้น"
29 โมเสสจึงทูลว่า "พระองค์ตรัสถูกแล้ว ข้าพระองค์จะไม่มาเห็นพระพักตร์ของพระองค์อีกเลย"

https://www.wordproject.org/bibles/ti/02/10.htm

https://www.thairath.co.th/news/society/1028004

 

"มัลดีฟส์" เสี่ยงจมน้ำ พื้นที่ 80% อยู่เหนือระดับน้ำทะเลไม่ถึงเมตร
18 มกราคม 2563 12:37

เกาะมัลดีฟส์ มีความเสี่ยงที่จะจมน้ำทั้งหมด หากไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านงบประมาณ ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
วันนี้ (18 ม.ค.63) นายอับดุลลา ชาอิด รัฐมนตรีต่างประเทศมัลดีฟส์ กล่าวในระหว่างการประชุม Raisina Dialogue ที่กรุงนิวเดลีของอินเดียว่า เกาะมัลดีฟส์ กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะจมน้ำในอนาคตอันใกล้นี้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านงบประมาณในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งนายชาอิดกล่าวว่า การดำเนินการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือใช้เวลานานมาก และกว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือ มัลดีฟส์คงจมน้ำกันพอดี



ที่ผ่านมา มัลดีฟส์ มีปัญหาในการหางบประมาณ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการป้องกันไม่ให้ประเทศจมน้ำ อย่างเช่นกำแพงกันคลื่น ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศมัลดีฟส์กล่าวว่า เกาะหลายแห่งของมัลดีฟส์ถูกจมน้ำไปแล้ว การสร้างกำแพงกันคลื่นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากก็ตาม ซึ่งปัจจุบัน พื้นที่ของมัลดีฟส์มากกว่าร้อยละ 80 อยู่เหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยไม่ถึง 1 เมตรเท่านั้น ทำให้ประชาชนกว่า 530,000 คน ตกอยู่ในความเสี่ยง



ทั้งนี้ ในการประชุมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ที่กรุงมาดริดของสเปนเมื่อปลายปีที่แล้ว มัลดีฟส์และประเทศอื่นๆ ที่เสี่ยงต่อการจมน้ำ ได้เรียกร้องให้นานาชาติเร่งดำเนินการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือ สำหรับการรับมือและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ


https://www.tnnthailand.com/content/26637