"พระเจ้าจักรพรรดิราช"

ในการฝึกวิชชาธรรมกายนี้พึงอย่าให้มีความอยากรู้ความสงสัยใดๆในช่วงเดินจิตเพราะจะทำให้วิญญาญร้ายหรือมารเข้ามาแทรกได้...จะทำให้เดินผิดทางกลายเป็นทรงเจ้าเข้าผีไป...การปฏิบัตินั้นต้องทำใจว่างๆทำเหมือนไม่ทำ...ทำแบบคนไม่รู้ทำแบบคนโง่ๆคนนึงทำสมาธิอะไรแบบนี้...

ก็เตือนๆกันไว้แค่นั้นเองถ้าใครสนใจฝึกวิชชาธรรมกายนี้ก็ให้ระวังกันเอาเอง...ที่บอกที่เตือนนี้ก็เคยผ่านมาแล้วจึงได้มาเตือน

 

อันควมตายนี่แขวนคอทุกบาดหย่าง...

(อันความตายนี้แขวนคอทุกย่างก้าว)

 

" โลกหน่วยนี่มันกะมีแต่เกิดแต่แก่แต่เจ็บแต่ตายฮั่นล่ะมันกะมีแต่ทุกข์ฮั่นล่ะให่พากันเบื่อกันหน่ายลูกหลานเอ๋ย...อย่าสุอยากมาเกิดนำมันอีกให่พากันเร่งรีบปฏิบัติเข่าซูพระนิพพานพุ้น บ่อนมันบ่เกิดบ่แก่บ่เจ็บบ่ตายพุ้น.."

( โลกใบนี้มันก็มีแต่เกิดแต่แก่แต่เจ็บแต่ตายนั้นล่ะมันก็มีแต่ทุกข์เท่านั้นล่ะให้พากันเบื่อกันหน่ายลูกหลานเอ๋ย...อย่าพากันอยากมาเกิดในโลกใบนี้อีกให้พากันเร่งรีบปฏิบัติเข้าสู่พระนิพพานนู่น ที่มันไม่เกิดไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตายนู่น)

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต

 

+++ นี่ก็ "โกหก" สัตว์หิมพาน ก็คือ สัตว์หิมพาน

+++ "โกหก" ทั้งธรรมกลาย ทั้ง อโนดาษ ทั้ง วิดชาเอาธรรมมากลาย

+++ ไอ้นี่ "โกหก" ทุกเม็ด ใครเอาตู้พระไตรปิฏก ยัดใส่ฐานที่ 7 ดูก็ได้ รับรอง "ขี้ไม่ออก" หลายล้านอสงไขย

+++ เช่นเคยตามสันดาน "โกหก" อีก มันมีแต่ "เพ้อเจ้อไรสาระ โกหกไปวัน ๆ ทุก ๆ วัน"
+++ เอ้า "ใครอยากเป็นเปรต" ก็รีบ ๆ อนุโมทนามันเข้า เยอะ ๆ หน่อย จะได้เป็น "เปรต" ตามมันไปนะ
+++ กระทู้ "พระเจ้าจักรพรรดิราช" กลายเป็น "พระเจ้าจกเปรตธิราช" ไปแล้ว
+++ ยังจะมี "พระเจ้าจักรพรรดิราช" มาโมทนากับ "พระเจ้าจกเปรตธิราช" อีกหรือเปล่า หา....

 

ใช้วจีไปในทาง หว่านแหไปแบบนั้นย่อมเกิดโทษมากกว่าคุณ
เว็บนี้เป็นสถานที่ ที่จัดว่าเป็น โคจร

พื้นที่อโคจรจริงๆที่คนไม่ค่อยมีสติ+สัมปชัญญะเท่าไหร่
ไหลไปอยู่รวมกันนั้นจะเป็นไปในทางร้านเหล้าต่างๆต่างหาก

ฉะนั้นการใช้วจีว่าเว็บนี้เป็นศูนย์รวมคนบ้านั้นย่อมเป็นความที่ไม่จริง

การใช้วจีสุจริตยังไม่สามารถใช้ได้ ก็อย่าเพิ่งโม้อะไรๆไปก่อนเลยครับ
ในเรื่อง ศีล 5 นั้นหนะครับ ผู้มีวจีทุจริตอยู่เนืองๆ จะเอาอะไรไปรักษาศีล 5 ได้
เมื่อรักษาก็ยังไม่ได้ เรื่องความเจริญนั้นคงไม่ต้องพูดถึง

กล่าวว่าผู้อื่นท่องจำแบกตำรา แต่การที่ท่านเห็นที่โคจรกลายไปเป็นพื้นที่อโคจรไปได้นี้
มันก็เป็นการแสดงตัวได้ว่าท่านมีลักษณะ เห็นสิ่งที่เป็นคุณกลายเป็นโทษ
เป็นผู้ไม่สามารถรับคุณประโยชน์อะไรๆได้

สิ่งที่ท่านนำคำกล่าวของพระสงฆ์ท่านต่างๆมาลงก็ใช่ว่าท่านจะรับได้
พอผู้อื่นนำมาลงบอกว่าแบกตำรา พอตนเองนั้นนำมาลงนั้นกลับมองว่าดี
เป็นการเข้าข้างตัวเองจริงๆ ในทางที่หลงตัวเอง

ธรรมชาติของผู้มีวจีทุจริตโดยเนืองๆนั้นก็ย่อมพูดเพื่อนำมาเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว
การเข้าข้างตัวเองหรือพยายามหาข้อมูลอะไรๆมาเข้าข้างตัวเอง
นั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ก็เป็นแต่เพียงเรื่องธรรมดาของผู้มีวจีทุจริต

 

เพลงนี้เหมาะกับท่านจริงๆ ท่านสงบ อิอิ

 

คนบ้าสติดี...คุยกับคนทั่วไปไม่ค่อยรู้เรื่อง5555

 

นักปราชญ์ผู้ไปไม่ถึงดวงดาว...ความรู้ทางธรรมก็ธรรมชาติธรรมดา...ถึงได้ตั้งชื่อ..ธรรม-ชาติ..แต่ความลึกซึ้งพิศดารสู้ท่านซาตานไม่ได้...รายนั้นเขาชอบเล่นฤทธิ์เขามีความสามารถและปัญญาดี...

ธรรม-ชาติ จึงยังไม่เป็นธรรมธาตุ555555

 

ไปฝึกฝนเจริญปัญญามากๆจะได้เห็นความลึกซึ้งพิศดารของธรรม...ใช้ตัวสัญญามากๆแล้วแปลงสัญญาให้เป็นปัญญา...จะได้เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ...นี่ชี้ตรงที่สุดแล้ว555555

 

คนบ้า = ขาดสติ จึงรับฟังได้แต่ความเท็จ
เมื่องมงายไปกับความเท็จถึงคราวบอกเล่าต่อผู้อื่น
ก็บอกเล่าได้แต่ความเท็จ

คนสติดี = รู้ตามความเป็นจริง
การเล่าก็เล่าตามความเป็นจริงที่เคยผ่านมาในประสบการณ์

คนบ้าสติดี นี้ไม่มี

 

ยุคนี้ไปคุยเรื่องธรรมะแบบลึกซึ้งกับชาวบ้านทั่วไปเขาก็หาว่าบ้ากันทั้งนั้น5555

 

ไม่ต้องไปอ่านจากตำรามากนักหรอก...การฝึกฝนปัญญานั้นให้พิจารณาจากสิ่งรอบตัวนี้แหละ...เห็นต้นไม้ใบไม้ก็พิจารณาวิปัสนา..เห็นรถหรือล้อรถก็ให้พิจารณาวิปัสนา...ตาเห็นรูปใดๆก็แล้วแต่ก็ยกมาพิจารณาวิปัสนา...นี่แหละการเจริญปัญญา

 

เป็นยังไงนะปัญญาญาณแต่ละขั้น อธิบายลำดับญาณที่ได้ให้ฟังหน่อยซิ อยากอ่านจุงเบย

 

คนหลงสมอง แม้จะเห็นของตื้นก็เข้าใจว่าลึกซึ้งได้
อันนี้ไม่แปลกสำหรับคนหลงไปตามสมอง

ตัวที่ไปสัมผัส รับรู้/ผู้รู้/ผู้ดู/วิญญาณ นั้น
มันยังไม่ใช่ตัวผู้รู้แท้ เป็นแต่เพียงของปลอมแต่เพียงแค่นั้น

​

 

ร่อนตะแกรงแปลงของหยาบให้ละเอียด...พิจารณาวิปัสนาสิ่งรอบข้างรอบตัวทั่วๆไป...รวมลงไว้หีบที่มีชื่อว่าธรรมชาติ((ไตรลักษณะ))...เมื่อหีบแห่งธรรมชาติเต็มมันก็กลายเป็นธรรมธาตุ...เมื่อเห็นธรรมชาติเป็นธรรมธาตุบ่อยๆมันก็กลายเป็นปัญญา...ทั้งปัญญาโลกีย์ทั้งปัญญาโลกุตระนั่นแหละหนา555555

 

แล้วมันเป็นยังไงนะ ลำดับญาณของจริงอ่ะ ..เห็นคุยโม้โอ้อวดทุกวัน

ปากบอกจะมาสอน พอถามมันก้อจะแถไป ให้ไปฝึกเอง เดี๋ยวรู้เอง แปะภาพแปะคลิปให้วุ่นวาย เบี่ยงประเด็นตลอด

ตอนนี้อยากอ่านลำดับญานที่ศาสดาได้ เป็นยังไง

 

ไม่เอาสำนวนปาหี่ไง เอาลำดับญาณศาสดาคนเก่งนี่แหล่ะ

 

+++ user ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ ผู้นี้เป็นบุคคล "โกหก ปั้นน้ำเป็นตัวตลอดเวลา"
+++ แอบอ้างและบิดเบือนคำพูดของ ครูบาอาจารย์ มาตลอด

+++ เวปพลังจิต เป็น "เวปเพื่อพระพุทธศาสนา" จริงหรือเปล่า
+++ ถึงได้ "ปล่อยปละละเลย" จนกลายเป็นแหล่ง "ทำลายศาสนา" ถึงระดับนี้
+++ ไม่ทราบว่าคุณ WebSnow รวมทั้ง mod ต่าง ๆ ในเวปนี้ "ยังยืนยันเจตนา" ว่า เวปพลังจิต เป็น เวปเพื่อพระพุทธศาสนา อยู่หรือเปล่า
+++ หรือต้องการให้เวปนี้ "เป็นที่ระบายของ ผู้ที่มีปัญหาทางจิต" กันแน่

+++ ฝากคุณ WebSnow รวมทั้ง mod ต่าง ๆ ในเวปนี้ให้ช่วย "พิจารณาด่วน" ด้วย
+++ ก่อนที่ เวปนี้ จะมีชื่อไปในทาง "คละคลุ้งเน่าเหม็น" เพราะบุคคล "จิตวิปลาส" นะครับ

 

ขั้นต้นแรกๆ2ปีก่อนเมื่อจิตรวมลงนั้นมันก็คล้ายฝันนิมิตนี้แหละหนา...เรียกตามสมมุติบัญญัติว่า..."อุคคหนิมิต"

ยกมาให้สักเรื่องก็แล้วกันเมื่อสองปีก่อนก็เห็นนิมิตว่าตัวเองขับรถยนต์...แต่มีรถสิบล้อขับอยู่ข้างหน้า...จะแซงเท่าไหร่ก็แซงไม่ได้...พอพิจารณาวิปัสนาก็รู้ว่า..นี่ศีลเราไม่บริสุทธิ์จึงทำให้ไปช้า...ก็ต้องมาชำระศีลให้บริสุทธิ์

ส่วนนิมิตแต่ละนิมิตนั้นเจ้าตัวจะเห็นตามวาสนาและพิจารณาวิปัสนารู้เฉพาะเจ้าตัวนั้นแล

 

เมื่อมีโทสะเกิดขึ้นก็มีการร้องเรียนไปเรื่อย...เมื่อกระแทกกิเลสในใจก็เกิดอาการไม่พอใจ55555

ปล่อยตัวเองให้ไหลไปตามอารมณ์อันชอบใจและไม่ชอบใจ..พอใจไม่พอใจ

ใครพูดถูกใจก็รักก็ดีด้วย...ใครพูดไม่ถูกใจก็เป็นอันธพาลไปหาเรื่องเขา5555

อาจารย์ธรรม-ชาติเอ๋ยท่านยังอ่อนอยู่มาก555555