"พระเจ้าจักรพรรดิราช"

หลอกผู้อื่นในขณะที่รู้ว่ากำลังหลอกอยู่
หลอกผู้อื่นในขณะที่ไม่รู้ว่ากำลังหลอกอยู่



​

 

อริยาบททั้ง4...ยืน เดิน นั่ง นอน...จะทำในท่าไหนก็ให้ภาวนาเร็วๆถี่ๆ..แค่นี้แหละ

 

ในเวปนี้ก็มีคนมีอภิญญาแต่ยังกินเหล้าเมายาอยู่ก็น่าจะมี...เพราะไม่ชำระศีลให้บริสุทธิ์มันก็ไปต่อไม่ได้...เพียงแต่มีอุปนิสัยวาสนาเดิมเป็นทุนเดิมติดมา...

สวัสดี...

 

+++ สาย "พระป่าที่แท้จริง" จะสอนว่า "อย่า นอนหงาย เพราะมันเป็น กิริยาท่าทางของ เปรต"
+++ หากจะนอน "ให้นอนสีหไสยาสน์" "อย่านอนหงาย"

+++ คนที่ "มีแต่ตนอันไม่สงบ" อย่า "โกหก" อะไรให้มัน มากจนเกินไปก็แล้วกัน
+++ บอกตรง ๆ นะว่า "โคตรมั่วฉิบหายเลยว่ะ"

 

แล้วเจอกันเมื่อถึงเวลาถ้าไม่ตายจากกันก่อน...ช่วงนี้ก็เตรียมตัวเตรียมใจหลบภัยอันใกล้จะมาถึง...คืนนี้ฝันดีชาวโลก

 

+++ ไสยหัวไปไกล ๆ เลยว่ะ ไอ้คน "ขี้โกหก"

 

อุปนิสัยวาสนาเดิมของคนเราต่างกัน...ในท่านอนหงายมันก็คือการซ้อมตายก็เท่านั้นเอง

 

+++ อุปนิสัยวาสนาเดิม "ของการเป็นเปรตวิสัย (นอนหงาย)"
+++ อย่างเอ็ง "ไม่ต้องซ้อมก็ได้" งัย ๆ มันก็ นิสัย+วาสนา "เปรต" อยู่แล้ว
+++ อย่ามาสอน "วิชาที่ต้องกลับไปเป็นเปรต" โดยโกหกว่าเป็น "พระป่าสอน"
+++ ตายไปจะลงลึกว่า เปรต ซะอีก ชาติหน้าของเอ็ง คือ "สัตว์กำเนิดในนรก" ชัดเจน แน่นอน

 

สร้างประทีปให้ตนของตนนั้นละ...ตนถึงจะได้มีเครื่องส่องทาง

 

ขัดเกลาจิตใจตนนั้นละตนถึงจะไม่มีทุกข์ใจ...เมื่อขัดเกลาจิตใจตนแล้วนั้นละ...ตนถึงจะไม่เกาะเกี่ยวกับอารมณ์ใด...เรียน..."รู้พอหยุดดี"

รู้พอหยุดดีได้แล้วนั้นละใจตนถึงพอดี...พอแล้วหยุดแล้วนั้นละตนถึงจะพ้นดี...

 

พอไม่รู้จะตอบอะไรก็แก้ปัญหาโดยการ "แปะ" เพื่อเลื่อนเรปออกไปไม่ตอบ หรือ "เปลี่ยนเรื่อง"

ก็ทำได้อยู่แค่นี้แหละ เพราะไม่เคยลุยแบบตรงไปตรงมาถ้าการใช้ชีวิตโดยการแถเพราะอับอายนั้นเข้าใจ

แต่การปฏิบัติธรรมด้วยการ "แถ" นั้นจะพาไป "ตาย" อย่างแน่นอน โชคดีนะลงนรกไปยาวๆเลย ดีใจด้วยกับชาติสุดท้ายที่ได้เป็นมนุษย์นะฮับ

 

ตนเตือนตนนั้นละตนถึงจะฟังตน...ตนสอนตนนั้นละตนถึงจะเข้าใจ...ตนพอตนนั้นละตนถึงพอใจ...พอใจตนนั้นละตนถึงหยุดใจ...

 

เส้นทางพรหมจันทร์นี้ละที่ต้องพาตนเดินไป...เบาบ้างหนักบ้างนั้นละขอเพียงอย่าถอดใจ...เดินทางต่อไปนั้นละจนถึงวันหมดลมหายใจ

 

ตนคิดเอาเอง(เตือนตน) และ ตนก็ฟัง(เชื่อ)ที่คิดเอาเอง และตนสอน(มั่ว)เอาเอง ถึงจะเข้าใจ(เอาเอง) ตนถึงจะพอใจ(จากการคิดเอาเอง) และตนถึงจะพอใจ(จากการเชื่อตนเอง) ตนถึงได้ยัง "บ้าแบบกู่ไม่กลับ" ด้วยตนเอง

 

+++ ก็หลวงปู่สุวัจจ์ สุวโจ ที่เอ็งยกมานี่แหละ ที่บอกข้า เกี่ยวกับเรื่อง "เปรตนอนหงาย"
==========================================
+++ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 416 จะมีท่อนหนึ่ง ที่เกี่ยวกับ "การนอน" คือ

ในคำว่า สีหเสยฺยํ มีเสยยา การนอน ๔ คือ กามโภคิเสยยา16
เปตเสยยา สีหเสยยา ตถาคตเสยยา.17
ในเสยยาทั้ง ๔ นั้น เสยยาที่ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์18
ผู้บริโภคกาม โดยมากนอนตะแคงซ้าย นี้ชื่อว่า กามโภคิเสยยา ด้วยว่าสัตว์19
ผู้บริโภคกาม ชื่อว่านอนตะแคงขวาโดยมากไม่มี.20
เสยฺยา ที่ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โดยมากพวกเปรตนอนหงาย21
นี้ชื่อว่าเปตเสยยา ด้วยว่า เพราะมีเนื้อและเลือดน้อย พวกเปรตถูกร่างกระดูก22
รั้งไว้ ไม่อาจนอนตะแคงข้างเดียวได้ จึงนอนหงายอย่างเดียว.
==========================================
+++ พระไตรปิฎกฉบับประชาชน พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓
+++ เล่มที่ ๒๑ เล่มที่ ๒๑ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต หมวดนอกจาก ๕๐

หมวดนี้ เรียกว่าปัณณาสกสังคหิตวรรค คือวรรคที่ไม่จัดเข้าในหมวด ๕๐ จัด เป็นหมวดพิเศษ แบ่งเป็นหมวดย่อยหรือวรรค ๗ วรรค วรรคละประมาณ ๑๐ สูตรเช่นกัน คือ

๕. ตรัสกะพระอานนท์ว่า

ภิกษุชั่วเห็นประโยชน์ ๔ ประการ จึงพอใจด้วยการทำสงฆ์ให้แตกกัน คือถ้าภิกษุพร้อมเพรียงกันก็จะกำจัด เราผู้ทุศีล, ผู้มีความเห็นผิด, ผู้เลี้ยงชีวิตผิด, ผู้อยากได้ลาภ แต่แตกกันก็จะกำจัดเราไม่ได้.

แล้วทรงแสดงภัยแห่งอาบัติ และอานิสงส์แห่งการศึกษา. ทรงแสดงการนอน ๔ อย่าง คือ

๑. การนอนของเปรต ( นอนหงาย )
๒. การนอนของผู้บริโภคกาม ( ตะแคงซ้าย )
๓. การนอนของ ราชสีห์ ( ตะแคงขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า เอาหางสอดไว้ในระหว่างเท้า )
๔. การนอนของพระตถาคต ( เข้าฌานที่ ๔ )
==========================================
+++ เอ็งจะยก "พระป่า" มาเท่าไรก็ตาม ก็ ไม่สามารถ "โกหกข้า" ได้หรอก
+++ เพราะข้า "เคยอยู่กับ ครูบาอาจารย์สาย พระป่า มาหลายองค์"
+++ แต่เอ็งนั่นแหละ "ไม่เคยเจอหน้า ครูบาอาจารย์สาย พระป่า มาเลย"

 

ทางใครจริตใครทำไปเถิดหนา...แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์อยู่กับตัวแล้วนี่...

 

55555เป็นนักปราชญ์ซะเปล่ายังไม่ฟังคำตถาคตเลย....กาลามสูตร

แล้วที่พระพุทธเจ้าทรงฝันว่า..นอนหัวหนุนเขาหิมาลัยนั้นละพระองค์นอนท่าไหนกัน

 

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย สอนว่าอย่าติดที่ท่าทาง..สะดวกท่าไหนก็ทำจะหัวปักดินขาชี้ฟ้าถ้าทำได้ก็ทำ...สำคัญที่ใจที่จิต

แถมให้อีกหน่อย...ในยูทูปมีรูปหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ถือปากกาชี้ขึ้น...นั้นละเป็นปริศนาธรรม

 

ขอชื่นชมความสามารถและปัญญาของท่านทั้งสอง...นี่คงเป็นแถวหน้าในเวปพลังจิตแล้ว...ขอฝากไว้อีกอย่าง เป็นนักปราชญ์อย่าแบกตำรามากนัก...หยิบเอาธรรมสักสองสามบทแล้วพิจารณาวิปัสนามันก็ครอบจักรวาลครอบโลกธาตุครอบวัฏฏสงสารแล้ว...นี้ละจึงได้ชื่อว่านักปฏิบัติ