เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

ไม่รู้วิชาของคนใกล้ตายมั้ง ท่องพุทโธแผ่วเบาตามลมหายใจปกติแหล่ะจนเผลอหลับ อาศัยหาทางหลับไปวันๆ ให้หายทุกข์ ปวดหัวไปหมด แค่หลับก็หายทุกโรค

 

เห็นแล้วคลุกคลีกับมัน ก็ยังได้ระวังตัวทันบ้าง
แต่ถ้าไม่เห็นแล้วคลุกคลีกับมัน เราว่าท่านคงเก็บเงาดำไว้เป็นส่วนตัวแน่เลย 555

 

มีอยู่ตอนหนึ่ง ตอนเด็ก เราปวดท้องจนเหงื่อแตก แม่ไปตลาดไม่มีใครอยู่ เลยนอนอยู่
ที่พื้นกลางบ้าน มันปวดจนใกล้ตาย คิดว่าต้องตายแน่เลย แล้วหลับไป เหมือนมีลมเย็น ๆ
พัดมา เราตื่นขึ้นมาหายปวดท้องเป็นปลิดทิ้ง พอโตจึงเข้าใจมันหลับในฌาณนั่นเอง

 

เงาดำที่ว่า ส่วนใหญ่จะเป็น ทิฐิ กับโทสะน่ะครับ ส่วนใหญ่จะระวังไม่ทันนะ ยิ่งเจอคู่สนทนาที่ ไม่ถูกกับทิฐิตัวเองนี่ยิ่งจะไม่ทัน ไม่สิ รู้บ้าง แต่ใส่ไม่ยั้งมากกว่าครับ

นาน ๆ เจอที


ชักมาบ่อย


ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยย

 

เราไปกินยาแล้ว ไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร

 

จะว่าไปเหมือนคนพึ่งตื่นมาได้ 15 ปี จากอาการทางสมอง หลังจากได้ยาดีกินเมื่อสิ้นคิด ความจริงผมติดต่อให้พระเจ้าช่วยทุกวันเลยตอนป่วย มารู้ตัวอีกทีมีดงบอระเพ็ดขึ้นแถวหน้าบ้านเยอะแยะเลย เลยเอามาดองแป๊ปซี่กินเลยสูตร ปึ๋งปั๋งเลย โรคทางสมองหายหมด หลังจากนอนโง่มานาน แต่ก็ได้วิชาเทพมากมายตอนใกล้ตายอะ ถือว่าไม่ได้ไม่เสียล่ะกัน

 

ยาไร บอกอาการป่วย ถ้ายาจิตเวชถามผม เกือบหายแล้ว

 

ท่านซา หายเป็นโรคซึมเศร้าหรือยัง โรคนี้ส่วนใหญ่มาจากว่าเหตุใดสำหรับตัวท่านน่ะ โรคซึมเศร้าเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง ต้องกินยารักษาระบบประสาทและสมองด้วยจึงจะหายเคยอ่านเจอ

ธรรมชาติของจิตมนุษย์นั้น ถ้าเรื่องราวใดหรือเหตุการณ์ใดก็ตาม ที่เป็นเงื่อนไขให้มนุษย์นั้นสั่นสะเทือนมีคลื่นอารมณ์รู้สึกค่อนข้างรุนแรงไม่ว่าด้านดีหรือด้านร้ายก็ตาม จิตจะบันทึกข้อมูลที่เป็นสาระไว้ทันที โดยเจ้าตัวไม่ต้องย้ำคิด ย้ำท่อง และย้ำจำเลย แต่ถ้าหากเป็นการบันทึกข้อมูลปกติทั่วไป เรื่องราวธรรมดาในชีวิตประจำวันทั้งหลายมันก็จะค่อยลืมเลือนไปจากความทรงจำ

การจำฝังใจ..... คือ อาการของจิตที่คอยบันทึกประสบการณ์ชีวิตของมนุษย์ ที่มีลักษณะอารมณ์สุดขีด

สำหรับกรณีมนุษย์ที่พยายามจะลืมเรื่องราวร้าย ๆ ใด ๆ ในชีวิตให้ได้ แต่ก็ลืมไม่ได้หรือลืมไม่ลงนั้น เหตุผลที่แท้จริงก็คือ

ธรรมชาติของจิตที่มันมีหน้าที่จดจำเรื่องราวต่าง ๆ จากประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนนั้น มันมีคุณสมบัติพิเศษอยู่ประการหนึ่งคือ

คิดเองไม่เป็น เห็นเองไม่ได้ สงสัยก็ไม่มี

มันรู้อยู่อย่างเดียวว่า ถ้าจิตสำนึกมนุษย์คนใดสั่นสะเทือนอารมณ์รู้สึกรุนแรงต่อสถานการณ์ใด เรื่องใด สิ่งใด มันจะล่วงรู้ด้วยตัวมันเองได้ทันทีว่า เรื่องราวนั้น ๆ ข้อมูลนั้น ๆ คือ ข้อมูลสำคัญมันจะรีบเก็บบันทึกและจดจำทันทีทั้งหมดไว้ให้มั่นคงมิให้บกพร่องตลอดไป โดยจิตส่วนที่บันทึกนี้มันไม่รู้หรอกว่า อะไรควรจำอะไรไม่ควรจำ มันไม่สนใจหรอกว่ามนุษย์อยากจะจดจำประสบการณืเหล่านั้นไว้หรือไม่

ด้วยเหตุนี้เอง ประสบการณ์ร้าย ๆ ที่มนุษย์อยากลืม มักจะลืมกันได้ยากยิ่ง ยิ่งอยากลืมมากเท่าใด กลับยิ่งจะจดจำฝังใจมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

ลองวิเคราะห์ดูนะ เผื่อว่าจะช่วยให้เห็นอะไรบางอย่าง...

ขั้นตอนการผลิตพลังจิตของมนุษย์

เหตุเกิดที่ต่อมไนีล เป็นต่อมไร้ท่อติดอยู่ที่กระโหลกศรีษะมนุษย์ทุกคน ต่อมนี้ ถ้าจิตปัจจุบันรับรู้ว่าตนมีอารมณ์รู้สึกเช่นไร ต่อมนี้จะเกิดการสั่นสะเทือน และยังมีกลไกซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณใต้สมองทั้งสองซีก จนดูแลคล้ายสะพานเชื่อมที่ทำหน้าที่คัดแยกคลื่นพลังงานความถี่ว่า บวก หรือลบ

ถ้าต่อมไพนีลสั่นสะเทือนรับรู้ความเป็นจิตปัจจุบัน ถ้าสั่นสะเทือนทางอาราณ์รู้สึกด้านบวกขึ้นมาเมื่อไหร่ การนึกคิดของจิตปัจจุบันเป็นการนึกคิดด้านบวกตามไปด้วยเสมอ

มนุษย์จะสังเกตุได้ว่า ในชีวิตประจำวันนั้น วันหนึ่ง ๆ อารมณ์รู้สึกของตนเองมักจะเปลี่ยนแปลงแปรปรวนตลอดเวลา เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวเครียด เดี๋ยวหงุดหงิด เดี๋ยวร่างเริงแจ่มใส ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย

ยามใดที่จิตสั่นไหวทางอารมณ์รู้สึกไปในทางต่ำหรือลบ อารมณ์รู้สึกด้านลบมันจะนำตนเองไปสู่การคิดลบทันที

ถ้ายามใดจิตใจสั่นไหวทางอารมณ์รู้สีกในทางสูงหรือด้านบวก อารมณ์รู้สึกจะนำตนเองไปสู่การนึกคิดบวกทุกทีทีไป

การนึกคิดด้วยจิตปัจจุบัน ก็คือ การมองโลกในแง่ดี สามารถสร้างได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีฝึกตนเองให้เป็นคนอารมณ์ดี มีคุณสมบัติ 6 ประการ

- นึกคิดด้านบวกเสมอ
- ไม่มีอคติกับใคร ๆ
- ว่างไปจากกิเลสตัณหา
- ปราถนาความสงบสุข
- สนุกกับชีวิต ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตที่เป็นสุขเท่านั้น
- การไม่คิดแบบจิตมนุษย์ คือว่างไปจากตัวตน หลุดพ้นไปจากกิเลสตัณหา ปรารถนาเป็นผู้ให้เสมอ

จะช่วยสร้างสิ่งดีดีให้กับชีวิตตนเอง หรือใครที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองค่ะ

 

มันมีสูตรคาถาอยู่ครับถ้าคุณท่องพร้อมน้ำลาย ส่วนมากจะเจอกันตอนเพ้อๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่น แบบมะอะอุ อะไรนั่นแหละ เขาแปะ แอบซ่อนตามวัดผมอ่านหมด

 

อย่างน้ำมนต์ยารักษาโรคชั้นดีเลย แต่ยาอะไรก็สู้ยาพลังใจตัวเองไม่ได้หลอก แค่ใจปรารถนามีชีวิตอยู่ก็พอเพียงแล้วที่ร่างกายจะมีชีวิตอยู่

 

วันนี้ผมมารับกะดึกเพื่อส่งทุกคนถึงฝั่งฝันเองครับ
ชีวิตลำเค็ญจำเป็นต้องมีวิชา ดิ้นรนเสาะหาเข้ามาในเมืองกรุง

 

อาการซึมเศร้าของผม.. สะสมมานานหลายปีอยุ่ครับ เพราะเป็นคนฉลาดน้อย

รู้สึกด้อยค่า
รู้สึกไม่เข้าใจเหตุผลที่เราโดนกระทำ กลั่นแกล้ง กล่าวตู่ ให้ร้าย (แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วเพราะรู้มากขึ้น)
รู้สึกไม่อยากโดนหลอก เพราะโง่และโดนหลอกมาตลอด
รู้สึกไม่เป็นที่รัก เมื่อมีคนรักก็ตอบสนองความรู้สึกเขาไม่เป็น
รู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรรับมือกับความรู้สึกต่าง ๆ อย่างไร
รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ผิดตลอด เลยอยากเข้าใจทุกสิ่ง เพื่อที่จะได้ทำสิ่งที่ถูก
รู้สึกเกลียดชังความลวง

มีอันอีื่นอีกหรือเปล่า ไม่รู้ ให้เห็นชัด ๆ ก่อนดีกว่า

ความรู้สึกหลายอย่าง และการกะทำที่ออกมาจากความรู้สึกนั้น หลายครั้งหลายหนมันก็กลับไปตอกย้ำความรู้สึกที่พาให้ซึมเศร้าอื่น ๆ ด้วยครับ เรียกได้ว่า ติดอยู่ในวังวนของสิ่งเหล่านี้ด้วยความไม่รู้ และแทบจะหาทางออกไม่เจอเลยแหละ

 

ท่านเป็นผู้ใดรึ เห็นกดโกรธทุกอันเลย ข้าพเจ้าทำอะไรไม่พอใจรึเปล่า ญาติท่านดาราแฟร์ใชมั้ย เครื่องผมเช็คไม่ได้เลยไม่รู้ว่าเป็นใคร กดแก้ไขข้อความยังไม่ได้เลยเนี่ย

 

อาการซึมเศร้า ลองหมดทุกสูตรยัง คาถาตามวัดต่างๆ สุดท้ายลองดูมีต้นไม้อะไรแปลกๆ ตามบ้านท่าน อ่านคู่มือสมุนไพรดูก่อนนะ หายถ้าท่านอธิฐานทุกวัน หาเรื่องหัวเราะทุกวันด้วย หายชัวร์ ผมลองแล้ว

 

แย่ละ ท่าจะโดนผีโทรศัพท์หลอก โกรธทุกอันเลยตั้งแต่หน้าแรก อย่าทำเป็นพระเทวทัตเลยหน่า ใจเย็นๆ โพสก็ดีกันทุกคนนี่

 

ท่านสลิ่มงง# ค่ะ ท่านกดให้ทุกคนแหล่ะค่ะ สำหรับจิตยิ้มคนเดียวก็ปาไปเกือบ 200 แล้วค่ะ 5555 เมื่อไหร่จะเข้ามาเป็นเพื่อนคุยอย่างปกติกับเขาเสียที รออยู่ ถ้าท่านคุยดีก็น่ารักดี สร้างสีสรร ยกเว้นเรื่องที่ไม่ควรคุยบางเรื่องก็ได้ จะได้เป็นเพื่อนกัน

แล้วกดโกรธนะอ่านบ้างหรือเปล่า เห็นขึ้นมาครั้งเดียวบางที 11 ครั้งในทีเดียวเลย 5555

 

การแก้ที่เหตุ และการทำเหตุให้ดีเป็นการแก้ที่ยั่งยืนที่สุดนะ
เพียงแต่ผมยังหาทางแก้ไม่ได้เท่านั้นเอง

สวดมนต์ แต่ใจยังทนความทุกขจากภาวะซึมเศร้าไม่ได้ ใจมันก็ไปคิดถึงเรื่องที่ทำให้เราทุกข์อีก
กินยา สมองโล่งก็จริง แต่ถ้ายังนึกถึงเรื่องที่ทำให้เราซึมเศร้าอยู่ ก็ทำให้เรากลับมาซึมเศร้าอีก
(แต่ผู้ป่วยที่อาการหนักมาก ๆ ควรกินยาจริง)

อาการที่ผมเป็นคือการปล่อยวางความทุกข์ไม่ได้
ความทุกข์บางอย่าง มันก็ไม่ได้แก้ง่ายเหมือนแบกหินไว้บนบ่า แค่วางก็จบ

ความทุกข์ของบางคนมันก็เหมือนโดนเอาเหล็กแหลมตอกบนฝ่ามือฝ่าเท้า และถูกตรึงไว้บนไม้กางเขน ไม่สามารถสลัดหลุดได้ด้วยลำพังตัวเองน่ะนะครับ แต่ของผมนี่ อาจจะเป็น การขี่มอเตอร์ไซค์แหกโค้งกลางทะเลทรายแล้วตัวกระเด็นลงไปในพุ่มกระบองเพชรมั้งครับ

โดนเสียบเจ็บแปลบปลาบไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าจะหลุดจากตรงนี้ไดได้ยังไง ยิ่งดิ้นยิ่งโดนเสียดแทง ยิ่งตะกายยิ่งไปข้องเกี่ยวกับตะบองเพชรพุ่มอื่น
รู้ว่าหายได้ แต่ทางที่จะหายได้มันช่างไกลเหลือเกิน
คงอีกนานกว่าจะรักษาได้

 

นะมะพะทะ นะมะอะอุ
นโมพุทโธสังขยาใบเตย
ง่วงแล้ว ไม่มีไรผมไปนอนแล้วนะ

 

การนึกคิดด้วยจิตปัจจุบัน ก็คือ การมองโลกในแง่ดี สามารถสร้างได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีฝึกตนเองให้เป็นคนอารมณ์ดี มีคุณสมบัติ 6 ประการ

- นึกคิดด้านบวกเสมอ
- ไม่มีอคติกับใคร ๆ
- ว่างไปจากกิเลสตัณหา
- ปราถนาความสงบสุข
- สนุกกับชีวิต ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตที่เป็นสุขเท่านั้น
- การไม่คิดแบบจิตมนุษย์ คือว่างไปจากตัวตน หลุดพ้นไปจากกิเลสตัณหา ปรารถนาเป็นผู้ให้เสมอ

จะช่วยสร้างสิ่งดีดีให้กับชีวิตตนเอง หรือใครที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมชอบตรงนี้ แต่อยู่ ๆ ให้ทำเลยมันก็ทำไม่ได้น่ะนะครับ ต้องเรียนรู้อีกยาว

 

เข้าโหมดเซียนวางใจเป็นกลางไว้ กายเป็นผู้ตาม
ใจอยู่บน กายอยู่ล่าง