เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Dhamma2, 19 ตุลาคม 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อาจจะเป็นสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังษี ก็ได้นะครับ เพราะอาจารย์ดาราแฟร์ ท่านบอกว่า สมเด็จโต มาเกิดใหม่ที่ประเทศไทยแล้วครับ แต่มาเกิดเป็นใคร อาจารย์ดาราแฟร์ไม่ได้บอกนะครับ
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ก็อยากทำอย่างนั้นเหมือนกันคะ แต่รู้แล้วก็อดไม่ได้เลย รู้ถึงการกวัดแกว่งของโลกแล้ว ต้องเป็นไปตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แจ้งไว้ทุกประการ

    อยากให้ทุกคนรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเองและคนในครอบครัวของตนบ้าง เปลี่ยนจากความวิตกกังวลความหวาดกลัวมาเป็นความรักความห่วงใยต่อโลกและต่อคนอื่นเพื่อช่วยกันยระดับจิตสำนึกของโลกสู่สภาวะสมดุล

    อย่างน้อยหลายคนที่ไม่ค่อยจะเชื่อ จะได้รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกำหนดไว้แล้ว รอแต่ระยะเวลา เงื่อนไขอยู่ที่ทุกคนบนโลกล้วนเป็นเหตุสำคัญในการเปลี่ยนแปลง
     
  3. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    พายุลูกนี้ไม่ธรรมดานะครับ จากหลายๆที่ประเมิน

    จากหลายๆ แบบจำลอง มีลักษณะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

    แทนที่เขาจะเข้ามาและออกไปโดยเร็ว เหมือนกันการยิงลูกฟุตบอลตรงๆ

    แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

    ดูเหมือนกับว่าเขาจะเข้ามาทางภาคใต้ตอนล่าง แล้วค่อยๆไต่ขึ้นไปภาคใต้ตอนบน

    คือจะเป็นการหมุนควงสว่างเล่นในอ่าวไทย โดยไม่รีบออกไปอันดามัน

    เหมือนกับการยิงลูกฟุตบอลไซด์โค้ง


    โดยเฉพาะหางของพายุนั้น ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน คือ ในขณะที่หัวหมุนอยู่ หางก็หมุนตาม และถ้าหางไปตกที่ไหน ก็เป็นเรื่องเหมือนกัน


    ดังนั้น เมื่อเขายังท่องเที่ยวเล่นอยู่ในอ่าวไทย อาจจะมีบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่โดนหางหลายรอบ หรือโดนหางหลายรอบแล้วไม่พอ ยังโดนหัวอีกด้วย


    อาการมันก็ออกมาเหมือนกับ ฝนตก 7 วัน 7 คืน หรือท้องฟ้ามืด 7 วัน 7 คืน


    แต่ที่จะให้ท่วมเท่าตึกสูง 4 – 5 ชั้น นั้นไม่มี หรือที่เป็นแบบพัดกวาดราบเรียบเป็นหน้ากลองนั้นไม่มี คือ อย่างดีก็แค่ประคองตัวเป็นโซนร้อน แต่จะขึ้นเป็นไต้ฝุ่นนั้นยาก เพราะเจอทั้งพลัง และกำลังต้าน
     
  4. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    มันเคยมีญาณของขรัวโต..มาสอนการปฏิบัติธรรมให้กับอุบาสก อุบาสิกา แถวๆลานธรรมจังหวัดขอนแก่นนี้แหละ...เราเคยได้ฟังในยูทูป...ท่านก็เคยกล่าวถึงภัยพิบัติด้วย...อาจารย์ที่รับญาณขรัวโตนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ...อาจารย์แดง....ตอนนั้นท่านขรัวโตได้บอกว่าท่านอยู่ชั้นพรหม...เรื่องนี้ตั้งแต่ปี54แล้วล่ะ
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ช่วงที่ท้องฟ้ามืดมิดใช้เวลา 7 ราตรีนั้น คือ ช่วงเวลาแห่งการชำระโลกครั้งใหญ่ จะเกิดขึ้นจากการกำหนดให้โลกพลิกคว่ำตีลังกาค่ะ
     
  6. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    พายุลูกนี้มาเก็บกวาดขยะสังคมหรือเปล่าท่าน....หมุนเป็นกงจักรเลยนะ...จักรใครหว่า...น่าสงสัย....รอบนี้มันน่าจะแค่เตือน...ต่อไปจะมีอีกเรื่อยๆ....เราคิดว่าอย่างนั้น
     
  7. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ก็ลดการติดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้น้อยลงแล้วกันนะ...ถ้าท่านติดต่อบ่อยเราก็ทำสมาธิไม่ได้เหมือนกัน...ให้จำเป็นจริงจริงก่อน
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผมก็ได้ฟังจากยูทูปนั้น เหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ถูกลบออกไปแล้ว เรื่องพุทธวิสัย เป็นเรื่องอจินไตยครับ ท่านอาจจะแบ่งภาคดวงจิต อวตารลงมาเกิดใหม่ก็ได้ครับ เรื่องการแบ่งภาคดวงจิตนี้ ท่านนิลกาฬ ทราบดีกว่าใครๆ เลยครับ
     
  9. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    สมัยหนึ่งนั้นเคยทำงานอยู่กับผู้รับเหมาทำห้องเย็นอยู่จังหวัดนครปฐม..ได้เดินทางบ่อยมากไปมาแล้วเกือบทั่วประเทศ..ได้เที่ยวเห็นอะไรมากมาย...มาทุกวันนี้อยากเดินทางอีก..แต่อยากไปไหว้พระและเที่ยวชมศูนย์ปฏิบัติธรรม...แต่ความเป็นไปได้นั้นไม่มีเลยเพราะได้สละทรัพย์สินที่ตัวเองมีไปหมดแล้ว..
     
  10. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    สงสัยว่าคงรอให้เราเข้าไปฟังมั้ง...เราก็พึ่งได้ฟังเมื่อกลางปี61นี้เอง
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรียกจักรแก้ว มาใช้งานอีกครั้งซิครับ คราวนี้ไปได้ทั่วจักรวาลเลยครับ
     
  12. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ยังทำอะไรไม่เป็นเท่าไหร่เลยท่านเกษม...ที่เป็นนั้นมันอยู่มิติจิตภายใน...ภายนอกนี้เป็นแต่เดินกับขี่รถนี้แหละ5555
     
  13. phumirat

    phumirat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +20
    พุทธศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำลังจะครบ 5000 ปี ไม่มีใครรู้
    ยุคสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรกำลังจะอุบัติ ไม่มีใครรู้
    เวลาที่ถูกบิดเบือนของพุทธศาสนา ไม่มีใครรู้
    ความเป็นจริงที่สวรรค์เผยแพร่ให้ทุกคนทราบถ้วนหน้า แต่ก็ไม่มีใครรู้
    เพราะอะไร
    เพราะผู้รู้ไม่พูด
    เพราะผู้พูด ไม่รู้
    เป็นผู้รู้ที่ไม่รู้ คือสร้างกรรม
    ความงามย่อมลวงโลก
    ความหอมคือกิเลส
    คำหวานคือยาพิษ
    โลกนี้ ความเท็จมีมากมาย
    แต่ความจริงย่อมมีหนึ่งเดียว
    อริยสัจ มีหนึ่งเดียว
    นิพพานก็ย่อมมีหนึ่งเดียว

    ภัยพิบัติ เมื่อไม่เกิด ย่อมไม่เกิด
    โลกถล่มแผ่นดินทลาย เมื่อไม่เกิด ย่อมไม่เกิด
    ไม่ใช่ด้วยคำทำนาย แต่เพราะมันไม่เกิด
    เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว
    แต่เมื่อใดเราประมาท ผลแห่งความประมาทย่อมเกิด
    มีพุทโธอยู่ในใจ ท่านอยู่ไหนย่อมพบสุขคติ
    พลังงานใหม่แห่งยุคพระศรีอริยเมตไตรอยู่ใกล้ตัวท่านมากแล้ว
    น้อมกายใจรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้จากนี้ไปทุกท่านทุกคนนะครับ
    ด้วยความเคารพ
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นางแก้ว ก็มาแล้ว แต่ท่านสงบ ยังไม่มีจักรแก้วเลย แล้วจะพานางแก้วไปเที่ยวได้ยังไงกันเนี่ย....เฮ้อ
     
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ผู้ที่จะรอดจากภัยพิบัติในครั้งนี้...

    จะต้องเป็นผู้มีกรรมหนักคงเหลืออยู่ไม่เกิน 30 %

    อยากคุยเรื่องนี้น่ะ

    วิธีชดใช้กรรมที่มนุษย์ต้องรู้

    การชดใช้กรรมของมนุษย์ในยุคพลังงานใหม่ พลังงานกรรมกลุ่มใด ๆ ก็ตาม มนุษย์ต้องชดใช้มันสถานเดียว กรรมนั้นจึงสิ้นสุดได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2019
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    พูดไม่เข้าใจเลยค่ะ คลุมเคลือ เกิดหรือไม่เกิด ภัยพิบัติใหญ่ไม่เกิด เพราะพลังงานยุคใหม่มาแล้ว เจาะประเด็นเลยได้ไหมคะ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พุทธทำนายพื้นเมืองเรื่อง พระศรีอาริย์

    ในสมัยหนึ่งพระพุทธโคดมได้เสด็จเลียบมาถึงแม่น้ำสายหนึ่ง ในแคว้นสุวรรณภูมิ ซึ่งไหลผ่านภูเขาตักคีรี พระองค์ลงสรงน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เอาผ้าอาบตากไว้บนฝั่งแม่น้ำ จึงเสด็จขึ้นประทับอยู่บนภูเขาลูกนั้น มีลิงแม่ลูกอ่อนฝูงหนึ่งอุ้มลูกออกจากชายป่า พลันก็ถ่ายอุจจาระของมันลงบนผ้าอาบของพระองค์ ซ้ำเอาหว่านเล่นเสียเลอะเทอะ คงเหลืออยู่ชายเดียว ณ บัดนั้นก็ได้มีนกยางปอน (นกยางขาว) ตัวหนึ่งบินมาจับลงที่ศีรษะของแม่ลิงตัวหนึ่ง แล้วก็เหลียวหน้ามองไปโดยรอบทั่วทุกทิศ ในทันใดรัศมี ซึ่งเป็นสีต่างๆ ได้พุ่งปราดออกจากพระเขี้ยวทั้งสี่ของพระพุทธเจ้า พระอานนท์ผู้อุปัฏฐาก จึงทูลถามเหตุการณ์อันประหลาดนั้น พระองค์ทรงตรัสพยากรณ์ว่า:-

    “ดูก่อนอานนท์ ผ้าอาบของตถาคต ได้แก่ ศาสนาที่ตถาคตวางไว้ ลิงแม่ลูกอ่อนที่มาถ่ายมูลเลอะเทอะหมดถึง 3 ชายนั้น ได้แก่ กองทัพ ซึ่งจะมารบราฆ่าฟันกันตาย เหลือที่จะคณานับ ศาสนาของตถาคตจะเสื่อมทรุดไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงค้างอยู่แต่เพียงส่วนเดียว และนกยางขาวที่บินมาจับหัวแม่ลิงนั้น คือ พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ จะมาปราบอธรรม และช่วยสืบอายุศาสนาของตถาคต
    เริ่มตั้งแต่ 2,500 ปีขึ้นไป จนครบ 5,000 ปี”

    “พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์กับตถาคต ได้สร้างกรรมกันไว้ในอดีตชาติ” พระองค์ทรงบรรยายต่อ “ในชาติอันหนึ่งเราทั้งสองเป็นสหายกัน ได้เอาดอกบัวคนละดอกเข้าไปอธิษฐานกันในวิหาร “ถ้าใครจะได้เป็นพระพุทธเจ้าก่อน ก็ขอให้ดอกบัวของผู้นั้นบานก่อน” ในวันรุ่งขึ้นพระตถาคตได้เข้าไปดูดอกบัวนั้นแต่ยังไม่ทันสว่างแจ้งเห็นดอกบัวพระเมตไตรยบานก่อน ด้วยความที่อยากเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระเมตไตรย จึงลักเปลี่ยนดอกบัวของพระเมตไตรยมาไว้ที่พระตถาคต สับเปลี่ยนกันเสีย เมื่อพระเมตไตรยเข้าไปดูภายหลัง เห็นพระตถาคตลักเปลี่ยนเช่นนั้นจึงทำนายว่า โอ! สหาย ท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนเราจริง แต่ทว่าฝูงมนุษย์ในยุคนั้นจะเป็นคนขี้ลักขี้ขโมยและใช้เงินดำ เงินแดง เงินกระดาษ กันอย่างพร่ำเพรื่อ มนุษย์จะไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน จะทุจริตคิดมิชอบนานาประการ ฯลฯ เพราะกรรมที่ท่านได้สับเปลี่ยนดอกบัวของเราในครั้งนี้

    พุทธทำนายเกี่ยวกับการเสี่ยงดอกบัวนี้ แสดงให้เห็นความจริงประการหนึ่งว่า ผู้คนในสมัยของพระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 คือพระสมณะโคดมนั้น เต็มไปด้วยผู้ร้ายอ้ายขโมย ซึ่งเราก็เห็นความเป็นจริงอยู่ในทุกวันนี้

    ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นเมื่อพระศรีอาริย์มาปรากฏ

    เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเล่าอดีตนิทานจบแล้ว จึงพยากรณ์เหตุการณ์สืบต่อไปอีกว่า “เมื่อพระเมตไตรยโพธิสัตว์จะมายกย่องศาสนาของพระตถาคตนั้น จะมีสรรพวัตถุทั้งหลายบังเกิดขึ้นแก่โลก อย่างแปลกประหลาดเหลือจะคณานับ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์นานาชนิด ก็จะไม่ได้ปั่นและทอด้วยมือเหมือนดังในศาสนาของตถาคต จะมีแต่ผ้าเนื้อบริสุทธิ์ ฝูงมนุษย์เขาจะไม่ติเตียนว่าเป็นขี้หูขี้ตาเขาเท่าจะวัดวา (วัดหลาและเมตร) ก็จะมีในยามนั้น แม่หญิงจะนุ่งซิ่นเสื้อลายเหมือนหนังแย้ จะนุ่งเสื้อผ้าแขนกุดขาก้อม หญิงชายจะนุ่งผ้าเป็นอย่างเดียวกัน จะว่าชายก็บ่จริง จะว่าหญิงก็บ่แม่น แม่หญิงจะหวีผมปกหน้า จะใส่ต่างหูยาวง้ำหน้า พ่อชายจะใส่หมวกหุ้มหน้า (หมวกทำนองคาวบอย) สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็จะได้รู้ สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น พร้อมด้วยบุรพนิมิตอันชั่วร้ายต่างๆ ก็จะบังเกิดแก่โลกมากมายยิ่งนักดังนี้

    (1) ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    (2) โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    (3) อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    (4) อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อยๆ
    (5) เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านไม่ขาดสาย
    (6) วาตภัย จะเกิดลมร้ายพัดบ้านเมืองพินาศ
    (7) อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเมืองและเรือกสวนไร่นา
    (8) ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    (9) พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    (10) สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    ในขั้นสุดท้าย แผ่นดินจะไหวเดือนละหลายครั้ง จะมีสุริยะคราสหรือจันทรคราสบ่อยครั้ง จะเห็นผีพุ่งไต้บ่อยๆ ดาวหางและแสงประหลาดจะบังเกิดให้เห็นไม่ขาดระยะ จะได้ยินเสียงดังในอากาศคล้ายระเบิดและปืนใหญ่ แร้งกาจะลงบินเกาะบ้านเมืองอย่างผิดธรรมดา ฝูงมนุษย์จะเดือดร้อนและขวักไขว่กันไปมา จะบังเกิดสงครามฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วงไปทุกหนทุกแห่ง ครั้นแล้ว จะมีคนหัวขาวหนวดยาว ขี่ม้าขาวเหาะลอยลงมายังท่ามกลางนครเชียงใหม่ นั่นคือองค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์มาปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกแล้ว

    ภัยพิบัติเหล่านี้ สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่กล่าวไว้ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ว่าเมื่อพระเยซูคริสต์เจ้าจะเสด็จกลับมาครั้งที่สอง เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น

    นอกจากที่กล่าวแล้วนั้น ในตำนานยังมีกล่าวถึงพิธีมุรธาภิเษกพระศรีอาริย์ขึ้นเป็นพระราชาของเมืองใหม่ ซึ่งจะจัดกันขึ้นที่จอมดอยฮด (ดอยรดน้ำมุรธาภิเษก) ในเขตเชียงใหม่ ซึ่งหมู่เทวดาเป็นผู้จัดพิธีขึ้น


    ข้อมูลจากกลุ่ม BBB เขียนโดย Banpote Wetchgama

    ที่มา
     
  18. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    " การดำเนินชีวิตที่อยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม อันเป็นวัฏจักรที่พาหมุนเวียนนี้..
    การเดินทางของจิตมันจึงยืดยาวแทบจะหาที่ยุติไม่ได้..
    เพราะกิเลสเป็นเหตุให้สัตว์ทำกรรม ดี ชั่ว ปะปนกันไป..
    แล้วก็พากันเสวยผลแห่งกรรมนั้น โดยไม่มีสิทธิ์พิเศษปฏิเสธการกระทำนั้นๆ ว่าไม่ได้ทำไม่ได้..
    สิ่งใดที่ทำ สิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่ทำ ไม่เป็นอื่น..
    ทำดีที่สุด แม้จะปฏิเสธว่าข้าพเจ้า ไม่ได้ทำดี ความดีนั้นก็ต้องให้ผล แม้แต่บุคคลนั้นจะปฏิเสธ..
    ความชั่วก็เหมือนกัน.."


    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า
     
  19. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    1.ต้องเผชิญและฝ่าฟันมันไป
    2.ต้องทำกรรมนั้นเป็นโมฆะให้จงได้
    3.การร้องขอด้วยเรื่องกรรมต่อจิตจักรวาลด้วยคำพูดและเจตนาจากจิตใจของคนเรา (นัยยะการตั้งสัจจะอธิษฐาน)

    กลุ่มกรรมสถานเบา เกี่ยวข้องกับสายเลือดและสายสัมพันธ์ในฐานะสมาชิก ต่างต้องเผชิญปัญหากับความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อยที่ลงรอยกันไม่ได้ง่าย ๆ มักจะสร้างปัญหาทางอารมณ์แก่กันและกันอยู่เนือง ๆ

    การชดใช้กรรมในกลุ่มนี้มีสถานเดียวคือ ต้องใช้ความอดกลั้นต่อกันไว้
     
  20. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ใครล่ะนางแก้ว...ใช่ป้าอรรยานัฏฐ์หรือเปล่า....ถ้าใช่...จะไปกับเราต้องเดินนะ55555
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...