เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

เราขออนุญาตพักผ่อนก่อนนะ..
...หน้าที่เราเสร็จเรียบร้อยแล้ววันนี้...

 

คนแถวนี้ก็ขยันดึงผมไปฝั่งโลกุตระจัง

 

จิตสงบแค่ไม่เท่าไหร่...ได้คำตอบมากมายผุดขึ้นจากจิต..

 

พออยู่ในบ้านลมสงัดมาก...เดินมานั่งหน้าบ้านไม่ถึง2นาที..ลมไม่รู้มาจากไหน..หูดับตับไหม้เลยทีเดียว...งั้นขอนอนต่อนะ...

 

ผมมีความคิดอยากฆ่าตัวตายอยู่เป็นประจำแหละ
แต่พอถามตัวเองว่า ไหนว่าเอ็งจะเป็นพระพุทธเจ้าเพื่อสอนคนโง่ไง ก็เลยมีกำลังใจขึ้น

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันจะว่าใช้ลูกไม้นี้ได้อีกสักกี่น้ำ

 

ที่ที่ผมจะไปน่ะผมรู้ มีโอกาสจะเป็นอบายภูมิซะมากกว่าที่จะเป็นสุขคติภูมิ
แต่.. แล้วไงล่ะ ทำดีอยู่เนือง ๆ แล้วใจไม่เป็นกุศลมันก็ไม่ได้อะไร ตกนรกแล้วนึกถึงกุศลไม่ออก หรือบุญที่ทำเข้าใจว่าทำถูกแต่ทำผิดมาตลอดก็ไม่ได้ไปสุคตินะ

ก็ต้องพยายามหาทางทำให้กุศลเกิดในใจเอา ไม่ก็ทำดีหนัก ๆ เวลาโดนไต่สวนในนรกจะได้มีอะไรดี ๆ ให้พยายมท่านเห็น

เหตุปัจจัยที่หล่อเลี้ยงผมอยู่ ยังไม่มีอะไรที่สามารถทำให้ใจผมเป็นกุศลได้
ถ้าผมอยากทำใจให้เป็นกุศลได้ ก็คงต้องหาต่อไป และผมก็ยังหาไม่เจอ......

บางคนก็โชคดี หาเจอมาตั้งแต่เด็ก
ส่วนผมน่ะเหรอ ความไม่เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้จิตใจด้านดีของผมค่อย ๆ ถูกย้อมให้เป็นสีดำ

ชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกันหรอกนะ
ทั้ง เรื่องที่เผชิญ ทั้งเรื่องที่ได้เรียนรู้
ทั้งนิสัยใจคอ ทั้งปัญญา ความฉลาดทางอารมณ์ ไหนจะสิ่งแวดล้อมที่โตมาอีก

คนดีคนชั่ว มันมีเหตุผลให้เป็นมา
คนจะดีจะชั่ว ก็มีเหตุผลให้เป็นไป
.....
มามืด ไปมืด
มามืด ไปสว่าง
มาสว่าง ไปมืด
มาสว่าง ไปสว่าง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กุศลมูล ๓กุศลมูล ๓ หมายถึง รากเหง้าหรือต้นตอของความดีทั้งปวง ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ตรงกันข้ามกับ อกุศลมูล มี ๓ ประการดังนี้
๑. อโลภะ ความไม่อยากได้ อโลภะ คือ ความเป็นผู้ไม่มีความทะยานอยาก เป้นผู้ที่มีสติระลึกรู้ตัวอยู่เสมอไม่ว่าจะกระทำสิ่งใดๆ มีแต่ความยินดี
และพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่เท่านั้น การปฏิบัติตนเป็นผู้มีอโลภะนั้น จะต้องปฏิบัติธรรมที่ตรงกันข้ามกับโลภะ เช่น สันโดษ ความพอใจ ทาน การบริจาค จาคะ การเสีย
สละ อนภิชฌา ความไม่โลภไม่อยากได้ของผู้อื่น เป็นต้น
๒. อโทสะ ความไม่คิดประทุษร้าย อโทสะ คือ คสามไม่คิดประทุษร้าย ไม่โกรธ ไม่ผูกพยาบาท จะทำอะไรก็มีสติรู้สึกตัวอยู่เสมอใช้ปัญญาในการ
ประกอบการตัดสินใจต่างๆ การปฏิบัติตนเป็นผู้มีอโทสะนั้น จะต้องปฏิบัติธรรมที่ตรงกันข้ามกับโทสะ เช่น เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข กรุณา ความ
สงสาร อโกธะ ความไม่โกรธ อพยาบาท ความไม่ปองร้ายผู้อื่น อวิหิงสา ความไม่เบียดเบียน ตีติกขาขันติ ความอดทนต่อความเจ็บใจ เป็นต้น
๓. อโมหะ ความไม่หลง อโมหะ คือ ความไม่หลงงมงาย ไม่ประมาทอันเป็นสาเหตุให้เกิดความชั่วทั้งปวง ให้เป็นผู้มีสติปัญญามั่นคงใช้ปัญญา
พิจารณาไตร่ตรองโดยยึดหลักเหตุผล เมื่อมีอโมหะเกิดขึ้นกับตัวแล้ว โลภะ โทสะ และโมหะ ก็มิอาจเกิดขึ้นได้ การปฏิบัติตนเป็นผู้มีอโทสะนั้น จะต้องปฏิบัติ
ธรรมที่ตรงกันข้ามกับโทสะ เช่น พาหุสัจจะ ความเป็นผู้ศึกษารับฟังมาก วิมังสา หมั่นตรึกตรองพิจารณา สัทธา เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ โยนิโสมนสิการ การรู้
จักตรึดตรองให้รู้จักดีชั่ว ปัญญา รอบรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ เป็นต้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://dhammanatural.blogspot.com/2012/11/blog-post_16.html

 

ทำแล้ว ถ้าไม่ผิดศีลห้า ก็ไม่เป็นไรครับ
ถ้าผิดต่อศีลห้า ก็ควรหาอย่างอื่นทำแทน
หลักๆ ให้เน้นรักษาที่ศีลห้าครับ

 

อยู่เพื่อใคร อยู่เพื่อคนอื่น รึ อยู่เพื่อตัวเราเอง เราเลี้ยงดูตัวเราเอง รึ ให้คนรอบข้างเลี้ยงดู คอยให้พวกเขาป้อนอาหารใจให้ในสิ่งที่เราต้องการ และไม่ต้องการ รึเราจะเลือกหาเลี้ยงเพื่อตัวเราเอง ตกลงจะให้เขาควบคุมจิตใจเรา รึ เราเลือกที่จะควบคุมจิตใจของตัวเราเอง

 

ถือศีลห้าเพื่อตัวเราเองอยู่ครับ ท่าน nilakarn

 

เมื่อหลายปีก่อน หลังจาก สึนามิ
ถล่มบ้านเราเป็นต้นมา พวกพระโพธิสัตว์ และ
พระอภิญญา ได้ช่วยกันอธิษฐานจิต
เพื่อรักษาประเทศไทย ไม่ให้โดนถล่มหนัก
คนอาจจะโดนบ้าง แต่เป็นสิ่งของมากกว่า
ที่โดนตอนนั้น เรียกว่า คนตายน้อยมาก
แต่ใครไม่ใช่ ชาวพุทธ ก็ต้องโดนมากหน่อย
เดี๋ยวนี้ พระอภิญญา เหลือน้อยมากๆ
จึงได้มีการคัดสรร พระโพธิสัตว์ และ
ผู้ที่กำลังฝึกเป็นพระโพธิสัตว์ ขึ้นมา
เพื่อเตรียมป้องกัน สึนามิ ที่ใหญ่กว่านี้
รุนแรงกว่านี้

พวกที่ถูกคัดสรร คือพวกที่เกิดมาใน
กึ่งพุทธกาลนี้ คือ หลังจาก พ.ศ.2500 เป็นต้นมา
จะได้ทำงานตามความถนัด
ของตนเอง ไม่มีการหลอกคนอื่นได้ว่า
ใครถนัดอะไร ใครได้อภิญญาอะไร
เพราะอยู่ในสายตา ของ พยายมราช อยู่แล้ว

เราก็เคยเตือนพวกนี้ ไปบ้างแล้ว
แต่ส่วนมาก จะคิดว่า ตลก เสียมากกว่า
มีส่วนน้อยที่เชื่อ นอกจาก ท่านเกษม เท่านั้น

 

ลองไปอ่านที่กระทู้เรา ย้อนหลังดูนะครับ
จะเข้าใจความเป็นมาได้ดีขึ้น
เพราะแม้กระทั่งเดี๋ยวนี้
เราก็ยังถูกทดสอบอยู่ตลอดเวลา
ทุกคนก็อย่าพึ่งคิดว่า
เค้าสอบกันเสร็จแล้ว
ลองแหงนมองฟ้า มองหา แสงธรรม
มองหา แสงทิพย์ ของ พระศรีอาริย์ ดู
อาจจะเป็น ผู้ที่เข้ามาอ่านใหม่ ก็ได้
ที่จะต้องไป เข้าสอบ

 

ท่าน Za ไปสอบด้วยกันมั้ยครับ มาหลังดีกว่าไม่มานะท่าน อิอิ
(แต่ติดอยู่ว่าผมยังดีไม่พอนะ สิ) มาดำ กลับขาว

 

อย่าไปว่า ท่านซา เลยครับท่าน
ของท่านซา เค้าไปแนว พระโพธิสัตว์
ถือหลักเมตตาเพื่อโปรดคนทั้งโลก

แต่ของท่าน เป็น แนวพระสาวก
คงจะเอามาเทียบกันไม่ได้
ของเค้ายังออกไปอีกไกล
ยังต้องไปเที่ยวทะเลอยู่
แต่ของท่านใกล้แล้ว
ก็ให้เร่งรีบทำ ความเพียร
เมื่อท่านปล่อยวางทุกอย่างได้
ท่านก็จะเห็นเองว่า ทุกอย่างไม่มีจริง
ทุกสิ่งคือ เรื่องสมมุติทั้งนั้น

 

ใช่แล้วครับ ปล่อยวางในชีวิตจริง
ย่อมยากกว่า เขียนกระทู้ธรรมะ
ตั้งหลายล้านเท่า

 

ลูกไปขอเค้าเจ้าที่มา เค้าจะดื้อมากๆ ครับ
เพราะเค้ามีจากที่สูง ย่อมเลี้ยงยากเป็นธรรมดา
ของเราก็ไปขอจาก ศาลพระกาฬ มา
ตัวเรายังเหมือนลิงเลย
ใครที่รู้ตัวว่า ถูกขอมาเลี้ยง
ให้ลดทิฏฐิมานะลงบ้าง แล้วจะดีมากๆ

 

กระทู้ธรรมะ หนีได้ หนีง่าย ชีวิตจริง หลายครั้ง คนที่ทำให้เราหาเรื่องต้องปล่อยวางอยู๋เป็นประจำกลับเป็นคนใกล้ตัว

ถ้าผมดีพอจะบวชได้ผมคงบวชไปแล้ว
= =
แต่นี่ยังเลวอยู่ เลวเกินกว่าจะบวช

 

ส่วนมากที่เจอ ไม่ว่ามาร้าย หรือ มาดี สุดท้ายแล้วก็จะเป็นมิตรสหายหมด เป็นคนชอบสร้างมิตร 55

 

ไปทำให้ใครเขาเดือดร้อนครับท่าน Za

 

บททดสอบ ของผม
เวลาได้เงินทอนเกิน จะต้องเอาไปคืนครับ
เพราะกล้วว่า ชาติหน้า จะต้องไปทำงานใช้หนี้เค้า
ส่วนของอะไรที่มันตกอยู่ ส่วนมาก จะไม่เก็บมาครับ
หรืออันไหนถ้าต้องเก็บมา ก็จะเอาไปทำบุญต่อครับ
ถือว่า เป็นการฝึกจิต ไม่ให้ผิดศีลได้เหมือนกัน

 

ตัวเองทำตัวเองนี่แหละครับ

ไม่เคยเข้าใจชริวิตเลย
ชีวิตมีคำถามตลอดตั้งแต่เล็กจนโต

จึงต้องการหาคำตอบให้กับชีวิต
ซึ่งคำตอบที่อยากรู้เป็นคำตอบทางโลกเสียมากกว่า
ไอ้คำตอบที่พาไปพระนิพพานน่ะ ยังผมไม่ต้องการหรอก
ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่ก็จะพยายามเรียนไว้ เรียนอยู่ข้างนอก

และผมรู้ว่าเมื่อตนมีนิสัยอย่างนี้ เลยทำให้รู้ว่าอยู่ในศีลของพระไม่ได้
เพราะ ถ้าอยู๋ในศีลของพระ ผมจะไม่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ผมอยากรู้

ผมจึงพูดว่าตัวเองเลวเกินกว่าจะบวช

แต่ให้ถือศีล 5 ผมสามารถรักษาได้สบาย ถ้าให้รักษาน่ะนะ

ตอนที่ไม่รักษาก็ผิด แค่ ข้อ สองข้อนะ ช่วงนี้ ปาณา กับ มุสา ยังมีด่า ส่อเสียด เพ้อเจ้อบ้าง แต่โกหก ไม่...
(ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้รักษาศีลเท่าไร มดขึ้นบ้านเยอะ)