เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

ส่วนตัวเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ด้วยนิสัยแล้วเป็นคนห้าวๆชอบแซวชอบแกล้งตามประสาคนพูดมากพูดไปเรื่อยแต่ไม่มีอะไร จนเกิดเรื่องเพราะลมปากไม่คิดก่อนพูด ทำให้เกิดเรื่องกับตนเองแต่ก็ได้รู้ว่าตนเองไม่โกรธและเกลียดที่ทำร้ายร่างกายเราเลย แต่เราไม่ตอบโต้น่ะ ยอมรับโทษแต่โดยดี แล้วกลับมองคนที่ทำร้ายเราเป็นคนน่าสงสาร น่าจะถามเหตุผลเราสักนิดก็ไม่มี และเราก็ได้ธรรมจากการโดนทำร้ายในครั้งนี้ ทุกวันนี้คนๆนี้เราสามารถทำให้เขามาเป็นมิตรกับเราได้ข้อดีของการทำอารมณ์ทางใจเรื่องพรหมวิหาร4 และเข้าใจปลาบู่ทองยิ่งขึ้น

 

เมื่อกี้ผู้หญิงยังคุยกันเจี๊ยวจ๊าวอยู่เลย....เผลอแปบเดียว....หายหมดเลย

 

ท่านชีวิน หาคำตอบจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาให้นะคะ

สาเหตุที่โลกหมุนได้เพราะมนุษย์เป็นส่วนสำคัญ

"มนุษย์คือโลก โลกคือมนุษย์"

"โลกหมุนไปเพราะความคิด"

จากคำกล่าวข้างต้นนี้แสดงให้เห็นว่าโลกมมุนไปเพราะมนุษย์ มนุษย์ทำให้โลกหมุน โลกและมนุษย์ต่างกันตรงกายภาพคือรูปธรรมที่เห็นแต่มีตวามเหมือนกันคือ ความเป็นพลังงานธาตุที่เหมือนกัน

โลกหมุนไปด้วยคลื่นความถี่กระแสไฟ้าแม่เหล็กโลกที่เกิดจากใจกลางของแก่นโลก ที่เรียกว่าเตาเผาที่มีอุณหภูมิสูงมากที่ผลิตพลังงานคลื่นความถี่ส่งแผ่กระจายออกมาเป็นสนามแม่เหล็กโลกที่ห่อหุ้มโลกใบนี้ และห่อหุ้มมนุษย์ภายในโลกให้มีชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานทางชีวภาพ และสติปัญญา หรือ การรับพลังงานจักรวาลรหัสพันธุกรรมยีนส์ล้วนแล้วแต่มีพลังงานสนามแม่เหล็กโลกคอยช่วยเหลือค่ะ ถ้าไร้คลื่นความถี่พลังงานสามารถแม่เหล็กโลกแล้ว มนุษย์จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ค่ะ

มนุษย์ก็เป็นพลังงานธาตุระบบชีวภาพในร่างกายที่เป็นเซลล์อวัยวะต่าง ๆ ก็เป็นคลื่นกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดเดียวกันกับโลก เป็นคลื่นความถี่กระแสไฟฟ้าแม่เหล็กชนิดเดียวกัน คลื่นพลังจิตของมนุษย์ที่ผลิตออกมาคือคลื่นด้านบวกสามารถป้อนพลังงานให้แก่โลกได้ คือเมื่อมนุษย์มีคลื่นบวกออกมาจากจิตใจ คลื่นบวกส่วนหนึ่งนั้นจะนำไปมีปฏิกริยากับแก่นใจกลางโลกเพื่อผลิตพลังงานออกมาเป็นคลื่นสนามแม่เหล็กโลกค่ะ

เมื่อมนุษย์สร้างคลื่นบวกมาก ๆ คลื่นนี้จะไปมีปฏิกริยาสัมพันธ์กับแก่นใจกลางโลก ส่งออกมาเป็นคลื่นแม่เหล็กโลกตามที่มนุษย์ได้สร้างกัน หากพลังงานบวกมีมาก สนามแม่เหล็กโลกก็จะสร้างพลังงานได้มาก สนามแม่เหล็กโลกมีความแข็งแกร่งเหมือนรั้วปกป้องผู้มาเยือนจากนอกโลกที่ชนหรือทำลายโลกได้ หากได้ยินคำว่า

"ความสามมัคคี คือ พลัง" ก็ด้วยนัยยะนี้ค่ะ

ดังนั้นที่ท่านกล่าวว่า คลื่นสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ใช่เลยค่ะ เปลี่ยนแปลงเพราะจิตใจมนุษย์ที่มีขึ้นลงตลอดเวลาตามการเปลี่ยนแปลงจิตใจของมนุษย์นั่นเอง

ที่ท่านกล่าวว่า....โลกสามารถป้องกันตัวเองได้ จะมีสิ่งที่หลุดเล็ดลอดเข้ามาบ้าง หรือสิ่งที่ใหญ่เกินกว่าจะรับได้

หากแม้นพลังงานสนามแม่เหล็กโลกไม่อ่อนแอเสียแล้ว ไม่มีสิ่งใดเล็ดลอดเข้ามาทำลายโลกได้เลยค่ะ เพราะกฎเกณฑ์สากลจักรวาล ดาวเคราะห์ทุกดวงจะมีคลื่นกระแสแม่เหล็กที่มีณสมบัติพิเศษเฉพาะดาวเคราะห์ดวงนั้น (เรื่องนี้มนุษย์ต่างดาวจะทราบดีค่ะว่าทำไม มนตดฝ จึงมาอยู่ในโลกเราได้ไม่นาน) และดาวทุกดวงจะมีคุณสมบัติเป็นพลังงานความรักทางด้านบวก เป็นพลังงานที่สมดุลจะไม่มีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน มีแต่คอยช่วยเหลือกูลกัน และหลักเกณฑ์นี้เป็นกฎสากลจักรวาลไม่ยกเว้นแม้แต่สรรพสิ่งใดทั้งสิ้น นอกจากวัตถที่ไร้พลังอำนาจในตนเองขาดความสมดุล เช่นอุกาบาตที่ไร้ทิศทางควบคุมจึงเป็นอันตรายได้ เปรีบดั่งคนที่มีพลังงานลบ ไม่มีพลังอำนาจในตนเองจึงเป็นอุปสรรคต่อผู้อื่นเสมอ เช่นเดียวกันค่ะ

มนุษย์และทุกสรรพสิ่งต่างต้องดำรงอยู่ในกฎเกณฑ์นี้ทั้งสิ้นค่ะ

นี้จิตยิ้มสรุปเท่าที่รู้มา หากเป็นคำกล่าวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วละเอียดและลึกซึ้งมากค่ะ

 

ท่านติดกรรมเก่ามาเยอะอยู่นะ....ดูจากตา...ที่เศร้า....ทนต่อไป...อะไรก็ไม่เท่าขันติ.....นี้แหละสิ่งที่ท่านควรมีให้มากกับการเข้าสังคม..

 

ไม่ต้องกังวลใจค่ะ มิได้มีท่านเพียงคนเดียวมีหลายท่านมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ เพราะคุณของพระรัตนตรัยทำให้เราได้พบแต่สิ่งดีดีค่ะ

 

แม่ชีนี่..เข้าใจยากเนอะ...คุยกับท่านเราจะโมโหทุกทีเลย...

 

ท่านชีวิน...ต่อไปเราว่าท่านน่าจะเปิดยูทูปดูเองนะ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์แม่ชีคงจะไม่ค่อยรู้ภาษาไทย...ย่อเรื่องราวก็ไม่เป็น55555

 

แต่เราไม่ได้มองว่าเป็นกรรมเก่าหรอกนะ เพราะเรากระโดนออกมาจากสังคมนั้นแล้ว แต่เรากระโดนเข้าไปในอีกสังคมหนึ่ง เหตุผลมีสองประการ ประการแรกอยากช่วยเด็กๆแถวชนบท ประการที่สองการปฏิบัติธรรมโดยหลีกหนีหาความสงบ จากปัญญาทางธรรมที่เรามีพอประมาณบอกว่า การปฏิบัติธรรมจากการหาความสงบกับการที่กิเลสไม่แสดงตัวตนออกมาเปรียบเหมือนหญ้าที่ถูกหินทับเอาไว้ เราชอบการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เป็นอยู่ เช่นการโดนนินทาแล้วบังเอิญได้ยินใจเราจะเป็นเช่นไร โกรธหรือเปล่าเกลียดไหมถ้ายังมียังเป็นอยู่กลับไปดูอารมณ์ดูใจใหม่แต่่้ต้้องมีทรงอารณ์พรหมวิหาร 4 ด้วย ฝึกตนเองไปเรื่อยๆ เราชอบแนวทางนี้ ส่วนจะกระโดดออกจากตรงนั้นเมื่อไหร่มันอยู่ที่เราเป็นผู้กำหนดเอง อย่ามองว่าเป็นกรรมเก่าไปเสียทุกอย่างนะท่าน

 

เยี่ยมเลยค่ะ ธรรมะจัดสรรค่ะ

 

งง! แล้วแต่ว่าคนที่ตีไปตามทิฐิของแต่ละท่าน จิตยิ้มอาจหมายความว่า ผู้ให้บททดสอบในเว็บพลังจิตมีมากค่ะ เคยเกริ่นเอาไว้แล้วในกระทู้ "ท่านมาเจอเว็บพลังจิตได้อย่างไร" ที่จิตยิ้มได้ประโยชน์จากการมาเว็บนี้ค่ะ ได้เพื่อนพี่น้องเป็นบททดสอบแก้ไขอารมณ์กรรมของตนเอง

ส่วนคำที่ว่า ท่าน "ไม่ต้องกังวล" เพราะเคยเจอค่ะ คนที่มีแอบชอบใครอยู่กลัวเธอคนนั้นเข้าใจผิด เผอิญความรู้สึกไวไปหน่อย เลยนำทิฐิเดิมมาใช้ค่ะ เห็นไหมคะ ว่าแสดงออกได้โดยง่ายถ้าสั่งสมเอาไว้ แต่พอมาพิจารณาคำของท่านก็เลยเข้าใจในสิ่งที่ท่านพูดค่ะ

 

เส้นทางสู่นิพพานมีตั้งมากมาย ใครชอบและถูกจริตแบบไหนเลือกเอามันก็ถึงเหมือนกันน่ะ เปรียบเหมือนทางจากชนบทไปในเมืองมีเส้นทางมากมาย อ้อมก็มี ทางลัดก็มี ทางอ้อมอาจจะเป็นทางไปบ้านเพื่อนลองแวะสักหน่อยไม่เจอกันนานแล้ว วันนี้อยากไปทางลัดมีธุระรีบไป การที่เราเลือกที่จะสอนเด็กมีความเสี่ยงสร้างกรรมไม่ดีเช่นกัน มันมีผลต่ออนาคตข้างหน้าของเด็กด้วยถ้าเราเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้เขาเห็นและทำตาม มันอาจเป็นตราบาปให้กับเด็กชั่วชีวิตเลยก็ได้

 

ไม้อ่อนยิ่งดัดยากนะบางที...ลดไฟลงก็สู้ไฟ...เร่งไฟขึ้นก็ไหม้....ท่านเปรียบเหมือนไม้อ่อนนี่แหละ...

 

ที่ดูเศร้าเบื่อการแบกสังขารเต็มทน แต่ทุกอย่างจะถึงฝั่งก็ต้องอาศัยความพร้อมและปัจจัยอื่นๆเช่นกัน หวังว่าท่านคงเข้าใจ เพราะดวงชะตาคนเราไม่เหมือนกัน ถ้าเหมือนกันป่านนี้ไปนิพพานกันหมดแล้วจ้า

 

ให้ผู้หญิงคุยกันไปเลย...เราพักผ่อนแล้ว....หน้าที่เราเสร็จเรียบร้อยแล้ววันนี้....ตี3เจอกันใหม่...ใครอยากได้อารมณ์วิปัสนาก็เข้ามาคุยกันได้

 

เป็นการกล่าวธรรมจากการปฏิบัติค่ะ ธรรมะจัดสรรอย่างที่คุณแบมกล่าวไว้ค่ะ

 

ทางไปนิพพานอยู่..ริมฝีปากบนถึงปลายจมูก....ทรงอารมณ์ไว้ตรงนี้...จะเห็นการทำงานของจิตสังขาร....เราช่วยได้เท่านี้.....เรือเราจอดอยู่ตรงนี้...โชคดี

 

เราว่าบางทีท่านเป็นคนเข้าใจอะไรยากเหมือนกันน่ะ ถ้าท่านพร้อมทำไมไม่ไปก่อนเลยล่ะ แค่นี้ก็พอจะรู้แล้ว...

 

มันเป็นการดูจิต...มันต้องทำให้ชำนาญ...ไม่ใช่ว่าทำได้แล้วไปได้เลย...เราแค่แนะนำท่านให้รู้ทาง....ทำดูก่อนสิ...ท่านยังไม่เคยทำแล้วท่านรู้ได้ยังไงว่ามันยากง่ายแค่ไหน..

 

ขอบคุณเรามีครูอยู่แล้ว และถ้าคำว่าดูจิตเราดูอยู่ทุกขณะเมื่ออารมณ์มากระทบและตอนนี้เราก็ฝึกฝนตนเองอยู่ ใครว่าเราไม่ทำปละตอนนี้ที่เราตอบโต้ท่านใจเราก็เฉยนะ ได้้้้้้้้้้เวลาทำวัตรและทำสมาธิให้้้้้้้้้้เกิดกำลังเป็นแรงส่งเสริมปัญญาต่อไป.....จริตคนเราไม่เหมือนกันนะ ราตรีสวัสดิ์

 

ชาติหนึ่งของท่าน ก่อนตายไต่เชือก จนตาย
เพราะจิตใจที่หวาดกลัวมาก
จึงทำให้เกิดเป็น ภาพติดตา
พอเกิดมาชาตินี้ เมื่อใดที่จิตมีสมาธิแบบเด็กๆ
ความกลัวในชาติที่ผ่านมา จึงกลับมาอีก
อโหสิกรรมไปครับ ให้ทุกคนที่ร่วมกรรมกันมา
อย่าได้จองเวรใดๆอีก อโหสิกรรม ดีที่สุด