เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

ถ้าแปลแบบซื่อ ๆ ก็อาจจะหมายถึง เมืองจะร้างคน คนไม่ได้อยู่เมือง เพราะไม่ปลอดภัยหรือหวาดกลัว ต้องไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตน เช่น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานราชการ ป่า ที่ที่ห่างไกลจากเมือง เพื่อหลบภัยจาก อะไรสักอย่าง เช่น อมนุษย์ หรือภัยธรรมชาติในกรณีที่เลวร้ายน้อยหน่อย

ส่วนกรณีที่เลวร้ายมากหน่อยก็น่าจะเป็น โจรที่ออกปล้น การรบราฆ่าฟันของคนในพื้นที่เดียวกันเองเพื่อความอยู่รอด หรือ ทหารฝ่ายต่าง ๆ ในกรณีที่มีสงคราม

 

บุญฤทธิ์...ทุกคนสร้างขึ้นเองได้ทุกวันเวลา...แม้ยามหลับยามนอนก็ทำได้...แต่คนส่วนมากไม่สนใจ

 

สามัญชนคนธรรมดา...มีเพียงบุญฤทธิ์..สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องดูแล...ที่เป็นเช่นท่านว่าก็คงเพราะ..ถ้ามันดูวิเศษเกินไป..คนก็จะปรามาส...ยุคนี้ผู้มีศีลธรรมถูกเพ่งโทษและถูกเบียดเบียนมาก...กลียุค....ที่ได้ติดมามีเพียงปัญญาเป็นเลิศ..เอาชนะสิ่งต่างๆได้ด้วยความจริงใจ...

 

อย่าไปหาคำตอบมากนักนะ...เดี๋ยวจะบ้าซะก่อน...รอดูไปเรื่อยๆ...ถ้าไม่ตายก่อนคงได้เห็นแน่ๆ...

 

เดี๋ยวก่อนเรื่องเกมทำให้ได้ทักษะภาษาอังกฤษใหม่ๆ สำหรับคนเล่นอ่านเนื้อเรื่อง บางเกมอาจจะเวอร์ไปเพราะเติมจินตนาการอันสุดล้ำของผู้สร้าง แต่บางเกมก็มีพื้นฐานมาจากความเป็นจริงนา ทำให้รู้จักเทคโนโลยี ไอเดียใหม่ๆ ผมเล่นแต่เกมภาษานะครับ เกมเดินยิงนี่ผมดูคนอื่นเอาเนื้อเรื่องเอา
เกมภาษาทำให้เราได้รู้จักเพื่อน การเดินทางไปปราบจอมมาร และเรื่องลึกลับของผู้สร้างเกม อาจได้รู้จักพระเจ้า เป็นการต่อสู้ของคนโลกสวย ทำให้เกิดมิตรภาพตราตรึงใจ การรู้จักตัดสินใจ เป็นผู้นำ
สุดท้ายเล่นจนฝันเป็นเกมคล้ายหนังเรื่องเรดดี้เพลเยอร์อันมาแล้ว ได้บรรลุวิชาเซียนเกม ต่อสู้เพื่อกอบกู้โลก แม้โลกจริงจะเห็นเราไม่ได้เรื่องก็เถอะ รึจะพอใจในเรื่องกิน กาม เกียรติอย่างเดียว ไม่คิดทำอะไรแปลกใหม่บ้างเหรอ อาจฟังดูบ้าแต่ก็เป็นทั้งวิชา และอวิชชาในตัวเกมแต่ละเกม ก็อาจเสี่ยงนิดๆ สำหรับคนพื้นฐานวิทย์ไม่ดี แต่ได้เห็น ได้ต่อสู้บนโลกสวยแค่นี้ก็เกินพอแล้ว

 

เรียนรู้กันครับ ก่อนที่จะสายเกินไป

 

เมื่อสามสี่ปีที่แล้วผมได้ยินคำทำนายแล้วเชื่อจัด
สลดหดหู่อยู่เป็นเดือนเลยล่ะครับ

ตอนนี้คำทำนายเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ๆ ๆ ๆ

กลายเป็น ชักจะโมโห..

 

ตอนนี้พวกเราก็กำลังเล่นเกมรึเกมส์อยู่ไม่ใช่หรอครับ เหมือนอยู่ในระบบ คาถาและบทสวดต่างๆก็เปรียบเหมือน โปรแกรมต่างๆ ที่ทำงานแตกต่างกันออกไป

 

ดีนะที่พ่อเป็นคนอีสาน ไม่งั้นผมคงฟังไม่เข้าใจ

 

ถ้ายกเอาทางธรรมมากล่าว...ถนนนี้เป็นถนนแห่งความดี..ถนนแห่งความหลุดพ้น...ปัจจุบันนี้ถนนเริ่มมีคนเดินเพิ่มขึ้น...นั่นหมายถึงคำว่ากลียุคใกล้สิ้นสุดแล้ว...ความโลภในอำนาจ_ความหลงในทรัพย์สินเงินทอง...กำลังแยกคนออกจากกัน...คนกำลังเบื่อความวุ่นวายทางโลก..จึงหันเข้าหาทางธรรม...เมื่อถึงวันนั้นผู้มีบุญหรือพระยาธรรมจะถือกำเนิดขึ้นบนโลก...ปัจจุบันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการคัดแยกคน...อาจมีการสูญเสียไปบ้าง..ทั้งคนดีและคนไม่ดี..เพื่อให้ทุกคนเห็นโทษแห่งความประมาท...แผ่นดินไทยแผ่นดินธรรม..จะเป็นตัวอย่างให้โลกเห็น...ว่าพระพุทธศาสนาทำให้ปลอดภัย...คนมีปัญญาก็หันมาปฏิบัติธรรม...คนขาดปัญญาก็ยืนอยู่บนความประมาทต่อไป...

 

เกมที่ชื่อว่าโลก วังวนแห่งวัฏฏะสงสาน มี 31 ภพภูมิ(เซรฟเวอร์) ทางออกคือนิพพาน

 

ต้องโปรระดับเทพเท่านั้นครับ

 

ถ้าเชื่อพระโคดม

กลียุคยังไม่สุดหรอก
คนยังจะได้ฆ่ากันอีกยาว

 

สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ยังไม่เกิด

 

**ผมขอตัวไปเรียนรู้ระบบต่างๆก่อนครับ แล้วเจอกันครับ**

 

ในวัฏฏะนี้ไม่มีอะไรแน่นอน...มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา...หลวงปู่ดู่ก็ได้กล่าวไว้แล้ว..บางเรื่องมันเกินพระไตรปิฏก...ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้..และไม่เกิดก็ได้..ในครั้งพุทธกาลพระองค์อาจจะแค่เตือนไว้..ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเกิดแน่นอนหรือพระองค์อาจจะบอกวิธีแก้ไว้แล้วด้วย..แต่ส่วนนั้นหายไปจากพระไตรปิฏก...พระองค์ยังบอกอีกว่า...อย่าเชื่อแม้เป็นคำสอนของพระองค์

 

พระพุทธเจ้าท่านให้ศึกษาให้ดี และ ปฏิบัติ เพื่อพิสูจน์ (ประมาณว่าให้รอบคอบ) ท่านจึงบอกว่าอย่าเชื่อแม้คำสอนของพระองค์

ถ้าใจยังไม่พร้อม ไม่รู้ประโยชน์ของสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ก็อยู่ในพระธรรม และพระวินัยไม่ได้ นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า อย่าเชื่อแม้คำสอนของพระองค์ เพราะ รีบเชื่อโดยไม่รู้ แต่ไม่มีความพร้อมที่จะเรียนรู้พระธรรม ก็อยู่ในพระธรรมพระวินัยไม่ได้ อยุ่ไปก็ไม่มีความสุข ความสงบ อึดอัด

บางครั้งก็อาจจะเป็นคำสอนหรือคำทำนายที่ถูกแต่งขึ้นโดยเพียงอ้างชื่อพระองค์ พระองค์จึงบอกไม่ให้เชื่อ อะไรประมาณนั้นก็ได้

มารจำแลงเป็นพระพุทธเจ้าก็มี

มีอีกหลายเหตุผลแหละครับ

เช่นอุบายวิธีในการทำกรรมฐานต่าง ๆ ที่เหมาะกับสาวกแต่ละจริต
บางคนภาวนาได้ บางคนภาวนาไม่ได้
บางคนดูกายได้ บางคนดูกายไม่ได้
บางคนดูเวทนาได้ บางคนดูเวทนาไม่ได้
อะไรประมาณนี้ ถ้าเชื่อและเลือกคำที่พระพุทธเจ้าสอนจากตำรา โดยที่กรรมฐานที่เราเลือกไม่เหมาะกับเรา การปฏิบัติธรรมของเราก็ก้าวหน้าได้ช้า

เยอะแยะยิบย่อยครับ เหตุผลที่ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าไม่ให้เชื่อคำสอนของพระองค์ แล้วแต่ว่าเราจะหาเหตุผลมาสนับสนุนพุทธพจน์นี้ยังไง

สำหรับผมอะไรที่เขาอ้างว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อพิสูจน์ได้แล้วว่ามันไม่จริง อันนั้นก็ปลอมหมด คือมาจากแหล่งไม่จริง อันไหนจริงก็เป็นคำสอนพระพุทธเจ้า ผมทำใจไว้อย่างนี้

 

รู้สึกว่าที่อ่านมา จะมีบอกนะว่าบารมีคือ กำลังใจเต็ม
ในเว็บพลังจิตหรือเว็บอื่นก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าจำขึ้นใจเลย


คัดลอกข้อความบางส่วน มาจากหนังสือบารมี ๑๐ โดยพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่าร่างกายไม่ดีแบบนี้เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา ฉะนั้นจึงได้ไปเสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้ ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากจะรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีของเด่นอะไรนัก การไปได้มาได้ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ยังลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์

นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่าพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบกันได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขาบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน เมื่อพบแล้วก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมาพระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า "สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม ...?"

ก็กราบทูลพระองค์ว่า "ใช่พระพุทธเจ้าข้า" พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า "สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร...?"

ตอนนี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายขอได้โปรดทราบว่า ถ้าอาตมาสอนถูกพระองค์จะไม่ทรงตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี

นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทการสอนนี้ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรมีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้นอาตมาก็ทราบ จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนักพระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่าบารมีแปลว่าเต็ม"

พระองค์จึงทรงตรัสถามว่า "อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่าเธอจะปฏิบัติในทานบารมี ทำยังไงทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่าจะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน ถ้าเราจะไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม...?"

แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่าท่านที่เป็นนักปราชญ์ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ว่าอาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่งหรือไม่แค่หางอึ่งเพราะความโง่มันมาก

เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคทรงตรัสแบบนั้นก็ทูลถามพระองค์ว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า"

พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า "สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในด้านบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้เธอสอนบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า คำว่าบารมีนี้มันแปลว่าเต็ม แต่อะไรมันเต็มตถาคตจะบอกให้ว่า บารมีนี่ควรจะแปลว่ากำลังใจเต็ม "

นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า คำว่าบารมีก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม ตอนนี้ซิชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่าเรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก


น้องคัดมาแค่บางส่วนนะ อยากอ่านต่อ ก็พิมพ์หาเลย บารมีคือกำลังใจเต็ม


เชื่อได้ไหม น้องไม่รู้แล้วนะ !!

 

เกมนี้เล่น ยากมาก ตายมานับไม่ถ้วน - -"

 

บารมีถ้าไม่พกมา ก็เกินไปแล้ว มันถอดหรือถือ ได้ด้วยเหรอ ไม่ใช่ม๊างงงง