เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

งั้นก็ขอเดาบ้าง ปูหมายถึง วิชชา ขา 8 ขา หมายถึง มรรค มีองค์ 8 ประการ

 

ถ้าปฏิบัติสมาธิไปอีก..เราจะรู้ได้เองในระดับหนึ่ง..ว่าสิ่งไหนควรพูด..สิ่งไหนไม่ควรพูด...เราจะเลือกพูดแต่สิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนอื่น...แต่ด้วยมนุษย์ทุกคนนั้นยังมีกิเลสในใจ..อาจจะผิดพลาดบ้างไม่ใช่เรื่องต้องกังวล..หากรู้ตัวว่าผิดก็ขอขมาอโหสิกรรมไป..ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง...เทวดาและพระอริยเจ้าผู้มีธรรม...ล้วนประกอบด้วยเมตตา

 

เมื่อเช้าฝันว่ากลายเป็นทรานฟอร์เมอร์ไปแล้ว อาจเป็นอารยธรรมที่หายสาปสูญไปนานก่อนจะมีศาสนาซะอีก ตำนานชาวสุเมเรียน อาจจะเรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่าพระเจ้ายุคก่อน

 

ไม่รู้ปัดเลื่อนจริงรึเปล่า ถ้าปัดเลื่อนจริงก็แสดงว่าเห็นแก่ตัวเห็นแก่ประเทศตัวเองนะผมว่า ถ้าเป้นเรื่องกรรมอันนี้ก็ตัวใครตัวมันครับ แต่สำหรับผมไม่กลัวครับ ผมอิ่มกับทุกสิ่ง อะไรจะเกิดก็เกิดครับ จะพาผมไปนรก รึ สวรรค์ ก็ไปได้หมดครับ ไหลไปตามน้ำครับ

 

มรรคมันไม่น่าจะลดลงนะท่านแบม...ในยุคต่อไปสิ่งที่น่าจะลดลงก็คงเป็นโลกธรรม8...คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญ...อันนี้น่าจะเดาได้ใกล้สุดมั้ง

 

อย่างท่านอีกนิดเดียว ถ้าเกิดปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง ก็ไม่น่าห่วงนรกแล้วล่ะ

 

มรรคไม่ได้ลดลงหรอกท่าน แต่ผู้คนศึกษาสนใจ มรรค 8 น้อยลง ศึกษา 2 ข้อ สามข้อ บ้าง

 

เราฝึกจิตไปเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ดังนั้นเผ่าพันธุ์ที่จะอยู่รอดต้องแข็งแกร่งจริงๆ ในยุคสงคราม

 

แล้วพวกชาวแอตแลนติสเนี่ย ที่เมืองอยู่ใต้น้ำนี้ ตรงสามเหลี่ยมดูลึกลับนะท่านผมว่า แม่ชีจันทร์ ท่านว่า แถวนั้นมีกองกระดูกสูงเท่าภูเขา มีพวกพลังงานมืดทำงานอยู่แถวนั้น แต่ในทางวิทยาศาสตร์น่าสนใจนะ อาจจะเป็นประตูมิติไปที่ไหนก็ได้เหมือนของโดเรม่อนก็ได้ครับ เห็นว่ามีพวกเอเลี่ยนหน้าคล้ายกบมีความเกี่ยวข้อง เวลาที่นั้นก็ช้าบ้างเร็วบ้าง บางคนก็เห็นเป็นอีกเกาะหนึ่ง ไม่รู้ไปโผล่ที่ไหนกันบ้าง

 

เดี๋ยวโอกาสเหมาะๆจะเอาตำราดูวิบากกรรมที่เคยบอกไว้มาให้...วิชาดูวันเดือนปีเกิด..และเราต้องแก้อะไรก่อน_หลัง...ให้ท่านเข้าสู่ฝั่งโลกุตระได้สักครั้งก่อนถึงจะให้ไป..

 

ถึงรอดภัยพิบัติก็เจอสงครามโลก สงครามเศรษฐกิจต่อ เฮ้อ เราผู้ฝึกจิตก็หากินกับจิตต่อไป

 

เราว่ายุคนั้นก็ไม่ต่างจากยุคนี้เท่าไหร่หรอก...สิ่งที่มองไม่เห็นมาลงโทษคนบาป..สุดท้ายก็เป็นอาหารปลาและสัตว์น้ำต่างๆ...แต่เรื่องทางวิทยาศาสตร์ไม่ต้องถามเรานะ...เราไม่รู้เรื่อง

 

ปล่อยให้ภัยพิบัติกับสงครามมันแข่งกันเอง

 

จิตที่ฝึกดีแล้วจะเหมือนสติ๊กเกอร์อาจหลบอยู่ในมิติที่ 2 คอยหาที่แปะเป็นประตูมิติเชื่อมหลายๆ มิติเข้าด้วยกัน แล้วแต่ความเข้าใจในเรื่องจิตแต่ละคนนะ

 

เออ ขอพูดหน่อยน่ะ ปัญญา มี 2 แบบ คือปัญญา ทางโลก และ ปัญญา ทางธรรม
เดี๋ยวไม่เข้าใจที่เราพูดนึกว่าเราว่า ไม่ได้ว่าน่ะท่านชีวิน

 

พวกเราก็ไม่ต่างจากแก๊งสามช่าเท่าไหร่เนอะ...คุยกัน3-4คน...แต่คนมุงดูตั้งเยอะ...มีบทต่อสู้กันบ้าง...บทเฮฮาบ้าง....แล้วแต่บทบาทของตัวละคร...ส่วนผู้กำกับคงนั่งขำก๊ากอยู่ข้างนอก55555

 

จริงรึครับคุณแบม

 

ปัญญาทางโลกใครจะเรียนก็เรียนไปเทอะครับ เรียนให้ตายยังไงก็ไม่ชนะ สรรพสิ่งมันเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา จะกี่ภพกี่ชาติก็ไม่ชนะมันครับ ของไม่เที่ยง ของกลางคืน 55

 

เราก็อธิบายไม่ถูก...มิติที่3หรือ4นี่ถ้าใจไม่นิ่ง..กลัวตายไม่มีวันเข้าถึงหรอก...มันจะต้องผ่านสภาวะหูดับ...กล้ามเนื้อเกร็ง...หิวข้าวอย่างแรง...รวมๆคือร่างกายต้องผ่านความตายก่อน...แต่มันไม่ตายหรอก...มันติดอยู่ที่คำว่ากลัวนี่แหละ....พอผ่านได้ครั้งแรกครั้งต่อไปก็ไม่ต้องผ่านความตายอีก...มันข้ามไปได้แล้ว....นี้พยายามไปแนววิทยาศาสตร์ที่สุดแล้ว

 

อ้าวก็ท่านบอกว่า กำลังดูกายอยู่ ไม่ใช่เหรอ ก็เวลาคนจะเห็นธรรมะ ก็ต้องศึกษาที่กายตัวเอง
ก่อน แล้วจึงเกิดความรู้เห็นว่ากายนี้เป็นอย่างไร อาจถึงขั้นเบื่อหน่ายสังขารของเรา
กลายเป็นตัวเราไม่ใช่ของเรา ตัดสังโยชน์ 3 ขึ้นไปได้