มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

เช่นกันครัช ราตรีสวัสดิ์ครับท่าน ขอบคุณสำหรับคำตอบ

 

หากเปรียบเทียบอวิชชากับในสภาวะนิพพานแบบวิทยาศาสตร์เบื้องต้น ที่เปรียบเหมือนฝุ่นผงละเอียด หรือเมฆหมอกที่ล่องลอยในจักรวาล อวิชชา มาจาก คลื่นอนัตตา หรือ คลื่นความถี่อิสระ หรือ อณู (ตามหลักวิทยาศาสตร์) ซึ่งก็คือคลื่นอนัตตา ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานแก่นแท้ ที่เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งที่เป็นอัตตา ดังนั้น...จุดเริ่มต้นของอวิชชา ก็คือ คลื่นพลังงานอิสระ(อณู)หรือคลื่นอนัตตา ที่ล่องลอยในจักราลที่เป็นจุดเริ่มต้นของการมีตัวตน (อวิชชา) ค่ะ

การใช้ชีวิตมิใช่ฝุ่นผงที่ล่องลอยไปวันวัน ดังการล่องลอยไปกับกระแสกรรม แต่ต้องหยุดลงที่ปัจจุบันทวนกระแสกรรมหยุดการไหลวน

 

รบกวนถามผู้รู้ครับ ผมเผ่าพันธ์วงค์ นาค หรือ ครุฑ ครับ

 

ผมติดตามมานาน ที่ผ่านมาไม่เคยออกความคิดเห็นมาก่อน อย่างน้อยผมได้ความรู้อีกด้วยครับ แต่ที่แน่ๆหลายพรรคหลายฝ่ายอยู่ ความเห็นต่างกันอยู่ ในที่สุดแล้วนำทางไปสู่พ้นออกจากกองทุกข์เข้าสู่แดนนิพพานด้วยความปรารถนาดีของผู้ออกความคิดเห็นของแต่ละคนน่ะครับ ขอบคุณมากครับ

 

ครับผม..หวังว่าคงได้รับความรู้บ้าง ไม่มากก็น้อย.
มีเพื่อนรักแล้ว ไม่เหงา ไม่โดดเดี่ยวเดียวดายครับผม.

 

ครับท่านครับ ขออภัยนะครับ หากคำตอบไม่โดนใจท่านครับผม.
..ตนเองย่อมรู้ในตนเองครับผม...ท่านเองก็บำเพ็ญและปฎิบัติมานาน มิสามารถอาจเอื้อม ล่วงละเมิดท่านได้ครับผม...
....ขอบคุณมากครับผม..ที่มาแชร์และแบ่งปันครับผม...

 

ครับผม ที่มีความเห็นขัดแย้งกันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาครับผม.ด้วยว่ายังมิได้เข้าใจในฐานหรือต้นกำเนิดที่มาจากฐานหรือต้นกำเนิดเดียวกันครับผม.
แต่ก็มีจุดหมายปลายทางเดียวคือ อยากหลุดพ้นจากวัฎฎสงสาร หลุดพ้นจาก คำว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คือ นิพพาน.
แต่ทางเดินที่เดินกันคนละทาง ย่อมสามารถบรรจบเป็นทางเดินเดียวกันได้ในไม่ช้านี้ครับผม.
กลับ นิพพาน พร้อมกันมั้ยครับ.

 

สิ่งที่จำเป็นในการเข้าถึงสภาวะนิพพาน
มีอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถขาดได้เลย
คือ สัมมาทิฐิครับ หรืออย่างน้อยก็ต้องมีความเห็น ตรงกับที่ศาสนาพุทธสอน

ถ้าไม่มีความเห็นตรงกับศาสนาพุทธ
ก็เป็นไปได้ยากที่ต้นที่งอกไปอีกทางได้ไกลแล้ว จะโค้งปลายมาบรรจบกันกับปลายทางเดียวกับศาสนาพุทธได้

การคิดว่าปลายทางที่ตนเดิน จะนำพาไปสู่ทางนิพพานที่ถูกต้องได้ โดยที่แนวทางไม่ตรงกับศาสนาที่สอนนิพพานมาแต่ต้นเลย อาจจะเป็นการประมาทอย่างยิ่งก็ได้นะครับ

ผมเองก็ยังขาดสัมมาทิฐิอยู่ เพราะยังไม่รู้แจ้งอะไรเลย

 

ครับผม มีความเห็นสอดคล้องต้องตรงกันครับ..
ใน สัมมาทิฐิ - สัมมาสมาธิ - สัมมาปฎิบัติ..เมื่อครบ 3 ประการนี้ ก็สามารถรู้แจ้งแทงตลอดได้เองครับผม.

 

แหม่ตัวก็หนักๆกันทั้งแกงค์ไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวกันแล้ว ลอง"รู้สึกตัว"บ้างนะครับ ไม่ใช่"รู้สึกจิต"อย่างเดียว ระวัง "พลังงานแห่งรัก" จะพาไปนรกได้นะครับ "พระพุทธเจ้าสอนให้ละ"ไม่ได้ให้"รัก"นะครับ สัมมาทิษฐิขาดกันเพียบ สิ่งที่ยังเหลือคือ "เมตตา" ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับ "รัก" เลยนะครับ

 

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังครับท่าน Zalievan ลืมไปเลยครับ

 

ทางโลกกับทางธรรม รู้ตัวเองอยู่เสมอครับว่าเล่นกับอะไร ถึงแม้ว่าจะวิ่งออกเลนบ้างก็ตาม ก็ต้องขอบคุณในความเป็นห่วงของรถที่อยู่ด้านหลัง คอยบีบแตรเตื่อนสติครับ

 

เหมือนการหยุดภาพที่จะกดเล่นต่อไป แล้วทำการกรอภาพกลับจากจุดปัจจุบันไปยังจุดเริ่มต้น หรือ จุดเกิดใช่มั้ยครับ คุณจิตยิ้ม

 

ขอบคุณครับ ผมคงต้องไปปิดบังวันเกิดซะแล้ว

 

อ่อ ลืม ผมเป็นคนบอกวันเกิดทุกคนเองนี่นา 555

 

คืนนี้นอนฟังผู้สละโลกครับ

 

เลาเกิดในสูจิบัตร ของผม
16:50 น
1 5 6
แยกเป็น 1 กับ 5+6=11
111
หาเลข 111 ถ้าจะหานี่มันหาง่ายจัง
ผมว่า

มันน่าจะเหมือนเหตการณ์ มองนาฬิกาแล้วเจอเลขซ้ำ
ถ้าเราไม่คิดมากกับมันมันก็ไม่มีอะไร
แต่ถ้าเราคิดมากเมื่อไร มองไปทางไหนก็เจอมัน

 

มันมีความหมายว่าอะไรครับท่าน Zalievan 111 ?

 

รัก กับเมตตา ต่างกันตรงที่รักมีความผูกพัน แต่เมตตาไม่มีความผูกพัน
รักมีราคะ แต่เมตตาไม่มีราคะ รักมีโลภะ แต่เมตตาไม่มีโลภะ รักมีโมหะแต่เมตตาไม่มีโมหะ

 

ถ้ามันบอกว่าเราเป็นยังไงแล้วเราเป็นอย่างนั้นเราเห็นตามจริง เราก็เป็นอย่างนั้น

ถ้ามันบอกว่าเราจะเป็นยังไง แต่เราไม่รู้ เราก็ไม่รู้

สรุป สิ่งที่บอกเราได้ไม่ใช่ตัวเลขครับ ตัวเราเองนี่แหละ

แต่ทางโหราศาสตร์ เลข 111 มันบอกว่าเราเป็นคนเอาแต่ความเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ครับ
ถ้าเห็นผิด ก็จะแย่ไปเลย ถ้าเห็นถูกก็จะดีไปเลย ถ้าเห็นมั่งไม่เห็นมั่งเห็นผิดมั่งเห็นถูกมั่ง ก็จะเป็นคนสับสนตลอดเวลาเหมือนผมนี่แหละครับ 5555
ซึ่งสำหรับผม มันจริงที่สุด ไม่มีอะไรโต้เถียงความหมายนี้ทั้งสิ้นครับ

เลข 1111 อยู่กับคนที่เห็นถูก ถึงจะดีครับ