เรื่องเด่น " กำลังจักรพรรดิ " ศาสตร์แห่งโพธิญาณ เรียนรู้การเวียนว่ายตายเกิดและจิตวิญญาณ

กำลังจักรพรรดิ
กระทู้นี้ขอนำเสนอคำสอนและแนวทางการปฏิบัติในศาสตร์โพธิญาณตามแนวทางหลวงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร
อยากให้กระทู้นี้เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในศาสตร์ของโพธิญาณครับ

 

ทำไมต้องสวดจักรพรรดิ

ชาวเวปที่มาใหม่อาจจะสงสัยว่าทำไม เราสวดจักรพรรดิบทเดียว เพราะเราต้องการพิสูจน์เรื่องพลังงาน
สมัยก่อนมีจอมขมังเวชที่เขาสวดคาถาอาคม เขาใช้บทสวดมนต์สั้นๆ เป็นหัวใจของบทสวดมนต์ ท่านจะสวดบริกรรม ทีนี้ เวลาสวดไปนาน ๆ จิตกับอาคมเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้ประโยชน์ได้ตามปรกติ ทีนี้เราต้องการให้คนเข้าใจเรื่องทิพยอำนาจของจักรพรรดิ จิตเราถ้าเป็นเนื้อเดียวกับจักรพรรดิ ไม่ต้องพูดถึงเลยเรื่องสรรพคุณ ทุกวันนี้เรามีอยู่หลายกระแสที่เราฝึก 1. กระแสหลวงพ่อดู่ 2. กระแสจักรพรรดิ พลังงานนี้มีประโยชน์มหาศาล เราสามารถจะแผ่ให้โลกวิญญาณได้ไม่มีประมาณ แต่สำหรับคนจะต้องมีความเชื่อ และศรัทธาถึงจะแผ่ได้ ถ้าแผ่ให้โลกวิญญาณ จะได้ทันทีถ้าใครสวดนานๆจะเข้าใจ

จักรพรรดิ ก็คือพุทธะ พระพุทธเจ้า ถ้าไม่บวช ก็คือจักรพรรดิ บทนี้แหละมีทุกอย่างแล้ว สวดแล้วนิ่ง สวดแล้วมีพลังงานหลวงตาถึงสวดบทนี้ไง หรือบางคนแรกๆ ยังไม่สวด ก็ฟังแล้วนั่งสมาธิไปก่อนก็ได้ อย่าไปสนใจว่าเสียงสวดจะช้า จะเร็วจะยืดอย่างไร ให้กำหนดภาพที่หลวงปู่ และฟังสบายๆ สวดสบายๆ

หลวงตาม้า ตอบปัญหาธรรมะ
4 มกราคม 2556 ณ วิหารจักรพรรดิ วัดพุทธพรหมปัญโญ

 

ของมีค่า

" ในโลกนี้มันไม่มีของมีค่าหรือไม่มีค่าหรอก มันอยู่ที่ มนุษย์แต่ละคน ไปติดมันเท่านั้นเอง ลองเอาทองไปให้ฤษีในป่าซิ ไม่เอาหรอก มีประโยชน์อะไรกับเขาล่ะ สู้กล้วยใบเดียวไม่ได้ แต่ถ้าในเมืองมนุษย์ซิ แทบฆ่ากันตาย เหยียบกันตาย เพราะมนุษย์ให้ความสำคัญ ให้มันมีค่า หลวงพ่อท่านว่า ตะกั่ว กับ ทองเนี่ย ความเหนียวเท่าๆ กัน แต่ค่ามันไม่เท่ากัน เพราะมนุษย์เป็นผู้แยกแยะ มนุษย์เป็นคนตั้งค่า จัดการทุกอย่างในหมู่มนุษย์ด้วยกัน "

หลวงตาม้า ตอบปัญหาธรรมะ 9/1/2557

 

พิจารณาธรรม...ตามความเป็นจริง

พิจารณาใคร่ครวญ ไตรตรองจริงๆ ต้องทำทุกวันนะ ก่อนจะนอนพิจารณาว่า แต่เช้า...ว่า เรามีการกระทบรูปรสกลิ่นเสียงใจแต่ละวันว่า เพราะอะไร ทำไมมันอยู่กับเรา ทำไมมันไม่ยอมไปจากเราต้องพิจารณาให้ดี ไม่งั้น จะช้านะ เพราะการกระทบ ทำให้ตัวข้างใน(ใจ)ไม่ได้ ได้แต่การกระทบตัวข้างนอกตัวข้างในและตัวข้างนอกต้องสัมพันธ์กัน

หลวงตาม้า ตอบปัญหาธรรมะ
4 มกราคม 2556 ณ วิหารจักรพรรดิ วัดพุทธพรหมปัญโญ

 

วิธีการลดอารมณ์ฟุ้งซ่านตอนเวลาสวด

จ่ออยู่ในบทสวดฮะ บางคนฟุ้งมากยังไงก็เอาไม่อยู่ ต้องเดินฮะ เดินจงกลม เดินไปสักสองสามชั่วโมงเริ่มเมื่อยเริ่มเจ็ม หรือนอน นอนหลับมันจะปิดฟุ้งซ่านเพราะธาตุมันบีบ ตื่นมาอีกทีเอ้าเช้าแล้ว

หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรมะ 8/1/2557

 

ทุกข์จากความรัก

หลวงตาม้า สอนว่าความทุกข์จากความรักนั้นมันเป็นพลังงาน ที่เสียเวลายาวนาน บางคนยึดมั่นในรัก ติดอยู่ในภพภูมิ เสียเวลายาวนาน กว่าจะได้เจอกัน และมารอกันอีก หากอีกคนแยกไปก็เกิดการฆ่ากันอีก เกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันอีก หรือเรียกว่าทั้งรักทั้งแค้น ผูกกันไปอีก ยาวนาน นี่คือทุกข์ของความรักที่เจือปน ไม่ใช่ความรักที่แท้จริง การอธิษฐานแก้ไขในกรรมประเภทนี้ หลวงตา ให้ใช้ กรรมฐาน การฝึกจิต สมาธิ ฝึกให้ขึ้นพรหม (อันมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) จะแก้ไขในเรื่องทุกข์ของความรักนี้ได้ เพราะว่าพรหมไม่มีเพศ จึงหมดเรื่องพวกนี้โดยปริยาย หลวงตากล่าวเน้นว่า "ความรักคือความปรารถนาดีกับทุกๆคน ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด โดยไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไร นี่แหละความรักที่แท้จริง"

หลวงตาม้า อธิบายว่า เจ้ากรรมนายเวรโดยตรงต่อเราในชาติปัจจุบัน ก็คือ คนที่รักเราหรือคนที่เรารักมากที่สุดนั่นแหละ ที่งี้เราไม่รู้หรอกว่าเจ้ากรรมนายเวรเราอยู่ที่ไหน หากอยู่เทวดาหรือพรหม เขาก็ไม่เอาเรื่องเราหรอก ถ้าติดอยู่ข้างล่างก็เหมือนติดคุก เขาก็เอาเรื่องเราไม่ได้ ดังนั้นเจ้ากรรมนายเวรเราอยู่ที่โลกมนุษย์เรานั้นแหละ หากเราทำกรรมฐานอยู่ แผ่ให้เจ้ากรรมนายเวรเราเสมอ หากเจ้ากรรมนายเวรเราอยู่ในภูมิที่ลำบาก ถามว่าจะทำอันตรายเราใหม หลวงตาตอบว่าไม่ทำหรอก เพราะว่าเราเป็นตัวบุญอย่างดี ดังนั้นเจ้ากรรมนายเวรที่อันตรายที่สุดคืออยู่ในมนุษย์เรานั้นแหละ (ญาติ ลูก เมีย เรา รวมถึงเพื่อนรักเรา พี่น้อง เจ้านาย หรือคนที่เราไม่ชอบ นี่คือ เจ้ากรรมนายเวรเราในโลกมนุษย์ทั้งนั้น)

การเวียนว่ายตายเกิด ในช่วงที่เกิดเป็นมนุษย์ จะมารับเศษกรรมในอดีต และมาทำเพิ่มใหม่ต่อไปทั้งดีและไม่ดี พอตายไปก็จะไปรับกรรมตอนที่ทำอยู่ในมนุษย์ ทั้งดีและไม่ดี แต่ถ้าเราฝึกจิต โดยการทำกรรมฐานไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้แล้วว่าเราจะเกิดหรือไม่เกิด หรือสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี หลวงตาท่านสอนว่า “พวกเราตายแน่ๆ และเกิดแน่ๆ”

จะเดิน.. นั่ง.. กิน.. แม้แต่ตอนนอน ภาวนาไว้ อย่าได้ขาด..
ปฏิบัติ ทุกลมหายใจเข้าออก ทรงอารมณ์ดีดี
อย่าให้กระแสไม่ดี เข้ามากระทบ...

หากเรานึกในสิ่งดีๆ จิตจะเพิ่มแต่ในสิ่งที่ดีๆ
อย่าจุดประกายในสิ่งที่ไม่ดี เพราะจิตจะเพิ่มในสิ่งที่ไม่ดี
อย่ามัวนึกแต่กรรมเก่าในอดีต มันทำให้เราเศร้าหมอง

การคิดถึงในสิ่งที่ไม่ดี นอกจากกรรมจะเข้าเราเร็ว
ตามสิ่งที่เราคิดแล้ว ยังทำให้เราตายผ่อนส่ง
คือตายเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย

ทุกวันนี้เราฝึกไว้เพื่อเตรียมตัวตาย
ถ้าไม่ฝึกไว้ เวลาตาย มันจะเคว้งไม่รู้จะไปไหน
การฝึกสมาธิ ไม่เกี่ยวกับการนั่งนานหรือไม่นาน
แต่เกี่ยวกับว่า ทำแล้วอารมณ์สบายๆใหม

อย่าจมอยู่กับความเศร้าหมอง...
ไม่มีใครไม่มีทุกข์ เกิดมาก็ทุกข์
เพียงแต่ว่าจะทุกข์มากหรือทุกข์น้อย

ผู้ปฎิบัติธรรม ให้ดูที่จิต อารมณ์ดี จิตสบาย
ไปไหนก็มีแต่คนรัก ทำอะไรก็มีแต่คนช่วยเหลือ
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เกินกำลัง

การบันทึกบุญอยู่ที่อารมณ์ หากอารมณ์ดี
ก็จะบันทึกบุญได้ตลอด หากอารมณ์ไม่ดี
จะบันทึกบุญไม่ได้เลย...

อย่าจมอยู่กับความเศร้าหมอง...

ต้องทำตัวเองให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

. . .

เรียบเรียงเนื้อหาจากคติธรรมคำสอนของ
พระอาจารย์ วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)
วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

 

พลังงานหลวงปู่ดู่ ..

หลวงตาจะบอกวิธีลัดๆ ในสูตรหลวงปู่ดู่ให้ฟังว่า อยากรู้เรื่องพลังงานอย่างลัดๆ ต้องทำใจให้สบายๆๆ ทำสมาธิแล้วนึกถึงท่าน เรามองภาพหลวงปู่บ่อยๆ ท่านบอกมองบ่อยๆ มองสบายๆ อย่าไปเพ่ง ถ้าภาพท่านยิ้ม หมายถึงจิตเริ่มที่จะอยู่กับท่าน พวกเอ็งฟังไว้นะ ทีนี้เราอยากจะดูวิญญาณใกล้ๆ ในบ้านเรา หรือไม่ก็ไปที่วัดไหนก็ได้เราอยู่มองภาพท่านบ่อยๆ ในจิตเวลานั่งสมาธิ นึกไม่ออกลืมตามองภาพท่านอีกครั้งทำอย่างนี้ไปพอ เรากำหนดที่ตรงนั้นนะแต่มองภาพหลวงปู่ด้วยไปพร้อมกัน พอกำหนดนึกตรงนั้น ภาพหลวงปู่ก็จะบังเกิด เสร็จแล้วภาพท่านจะหายไป ภาพตรงนั้นก็จะเกิด ตรงที่เราอยู่ก็เกิดสิ่งที่เป็นอดีตแล้วภาพที่เราเห็นที่เกิดนะ อย่าไปเชื่อนะอย่าไปเชื่อว่ามันมีอะไร ถามท่านว่า มีวิญญาณหรือ มีอะไรอยู่ สภาพปัจจุบันเป็นยังไงตรงนั้นมันมีวิญญาณหรือ แล้วก็ไปถามคนแถวนั้น ว่าตรงนี้มีคนตายไหม ลักษณะอย่างนี้ อย่างที่เราเห็นนะ ถ้ามันจริงละก็แสดงว่าจิตของเราปรับหาท่านได้ถ้าย้อนปัจจุบันนะก็ประมาณสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี ภาพมันซ้อนกันอยู่นะไม่ใช่ไปดูภาพรวมนะ ภาพมันจะเบลอ ท่านจะทำให้เบลอ ให้ดูปัจจุบันก่อน และให้ดูเป็นช่วงๆ นี่เห็นไหมท่านจะดูพลังงานโอยอาศัยพระที่เรากำมืออยู่นี้เป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องวิญญาณเรื่องพลังงานมันไม่สูญไปไหนไง ถ้ายังไม่ชัด ให้ดูภาพท่านใหม่ ให้ฝึกใหม่ ให้ดูภาพท่านบ่อย ๆ มองสบาย ๆ แล้วก็สวดไปด้วย มองสบายสวดไป ลืมตาดูภาพละก็หลับตา ภาพหายไปก็ลืมตาใหม่พอท่านยิ้มก็เอาอีก ดูอีก ให้กำหนดไปสถานที่ดู ก่อนอันดับแรกแล้วไปนึกถึงภาพท่าน พอภาพท่านเกิด ภาพท่านก็จะหายไป ภาพที่เราดูก็จะเกิดเป็นต้นทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีวัน ไม่มีเดือนปี ว่าง ๆ ก็ทำ ทำไปเรื่อย ๆ หลวงปู่ท่านมีพลังงานเยอะ แล้วอย่าไปตกใจนะว่าทำแล้วไม่เห็นภาพ ถ้าใครพิสูจน์เรื่องพลังงานพวกนี้ปฏิบัติจริง ๆ นะจะเห็นจริง ๆ

หนังสือ จักรพรรดิฉบับสมบูรณ์

 

สาธุอนุโมทนามิ เจ้าค่ะ

 

สาธุ โมทนาบุญกับธรรมที่นำมาถ่ายทอดครับ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

สาธุคะ

 

สาธุครับ

 

" ไม่ต้องไปไหนหรอกฮะ
ท่านว่า...ฝึกก่อน
ไม่ต้องคิดจะสร้างอะไรด้วย
ไอ้สร้างเนี่ยมันเรื่องเล็ก
ท่านว่าถ้าเอ็งมี(กำลัง)
จะสร้างใหญ่ขนาดไหนก็ได้
สร้างตัวเองก่อน ท่านว่า
สร้างกรรมฐานในตัวเอง
มีกำลัง...ในอนาคตไม่ต้องกลัว
ว่าจะไม่ได้สร้าง
สร้างขนาดไหนก็ได้

**********************************************
เพราะฉะนั้น...สาขาบางสาขา...
อะไรกันนักหนาไม่รู้...
สร้างอะไรกันนักหนา...
ทำอะไรกันนักหนาไม่รู้....
ทำไปทำไม...
คนก็ไม่ใช่มี...
บางที่นะ...
หาคนไปสวดมนต์ซักคนยังไม่มีเลย
เพราะตัวเองไม่สวด แล้วใครจะสวด
หลวงตาแนะนำตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว...
เวลาไปอยู่ "ให้สวดมนต์"
สวดมนต์ เนี่ยแหละ ท่านว่า
ในศาสตร์ของหลวงพ่อ
เวลาสวด มันก็ได้วิญญาณแถวนั้นน่ะ
พอวิญญาณแถวนั้นมาสวดน่ะ
วิญญาณมันไปจากคน ท่านว่า
รู้ ถึงเวลามันก็มากระจุกอยู่ที่
บ้านเราที่สวด
สถานที่เราสวดนั่นหละ
เพราะคลื่นที่มันมาจากจิตเรา
มันคลื่นมาจากโลกเนี่ย...ท่านว่า
กำลังจักรพรรดิ์ มาจากโลก มาที่เรา
มันก็แผ่ออกไปแถวนั้นน่ะ
ยืนเดินนั่งนอน เกิดความเคยชิน
ในอนาคตโอ้ย...คิดอะไรมันก็ได้อย่างนั้น
ไอ้ที่จะสร้างน่ะ สร้างขนาดไหนก็ได้
มีกำลังหรือเปล่า นั่นน่ะ คือกำลัง
"กำลัง" คือ "คิดได้" ก็ต้อง "สร้างได้"
คิดไม่ได้ จะเอาอะไรมาสร้าง
ก็ต้องแจกซองดิ
ก็ต้องเดินทาง...นั่งรถเมล์
ไปโน่นนี่นั่น ไปอ้อนวอนขอร้อง
ช่วยเหลือหน่อย...
หลวงพ่อท่านไม่มีนะ
ถ้ำเมืองนะ ไม่มีนะ บอกก่อน
สาขาไหนที่ไปแจกซอง
หรือทำนี่โน่นนั่น
ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ "พรหมปัญโญ"
ไม่ใช่ลูกท่านแท้ๆนะ
ลูกเทียมๆนะอย่างนั้นนะ

***********************************************

หลายสาขานะ ที่ทำอย่างนั้นนะ
ต้องสร้างตัวเองนะ สร้างตัวเอง
ให้ตัวเองมีกำลัง
หมายถึงจะคิดได้
สร้างอะไรก็ได้
ถ้าคิดไม่ได้ อย่าไปทำอะไร
อย่าลืมว่าแจกซองนะน่ะ
สมัยหลวงตาทำงานน่ะ
เดือนนึงถ้าซองนี่ก็ปวดหัวแล้วหละ
ไม่ทำก็ไม่ได้
บางครั้งพวกซองให้เยอะๆ
เฮ้ยช่วยไปแจกหน่อย
ลำบากแล้ว...
เพราะฉะนั้น ถ้ำเมืองนะ
ไม่เคยแจกซองนะฮะ
ถ้าแจกซอง ไม่ใช่ถ้ำเมืองนะ นะ บอกก่อน
ยกเว้น พวกไปแจกเอง
ไม่ใช่เราจะคิด ไม่
เพราะเราไม่มี เราก็จะไม่สร้าง
เราก็สวดมนต์ดีกว่า
ง่าย ๆ ไม่ยาก
มีฐานเมื่อไหร่ ก็ทำได้เมื่อนั้น "

(หลวงตาม้า ตอบปัญหาธรรมะ
ที ศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติ สถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ (ดู่) ยางงาม จ.เพชรบูรณ์) วันที่ 16 มกราคม 2561

 

การเป็นหนึ่งเดียวกับกรรมฐานที่ทำ
อย่าทำกรรมฐานที่ขัดกัน

ศิษย์ : การเป็นหนึ่งกับกรรมฐานที่ทำ
เนี่ยค่ะ เป็นยังไงคะ

หลวงตา : เราจะเป็นหนึ่งเดียวในกรรมฐานกองไหนล่ะ ปัญหาอยู่ตรงนี้ ถ้าเราเป็นหนึ่งเดียวในพุทโธนะเราก็ไม่เกิด

และ ถ้าเราเป็นหนึ่งเดียวในโพธิสัตว์เนี่ยหรือจักรพรรดิน่ะ เรามีทั้งฤทธิ์ บุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์แหละ (หัวเราะ) ได้ทางโลก

ด้วย ทางธรรมด้วย หลวงพ่อท่านมีอะไร เราก็มีด้วย เพราะจิตเราอยู่กะท่าน

ศิษย์ : หลวงตาคะ แล้วอย่าง การฝึกกรรมฐาน แบบที่เราชอบเนี่ยค่ะ อันนี้มาถูกทางแล้วใช่มั้ยคะ

หลวงตา : ถูกนะฮะทำแล้วสบายทำแล้วเบา นั่นน่ะคือ อย่าเปลี่ยนห้ามเปลี่ยน เค้าบอกตรงนั้นดี ตรงนี้ดี

อย่าไปสนใจ คือเราทำแล้วเราเบา นั่นน่ะดีที่สุดแล้ว ทำแล้วสบาย ทำแล้วเบานั่นน่ะถูกต้องแล้วฮะ ถ้าทำแล้วขัดอย่าไปทำนะฮะ จิตกับธาตุมันจะแตก
ท่านบอก เพราะมันขัดกัน ดิน น้ำ ไฟ ลม เพราะจิตเราควบคุมอยู่ จิตสบายธาตุก็สบาย จิตไม่สบายธาตุก็ไม่สบาย

หลวงตาม้า วิริยธโร : ถามตอบปัญหาธรรม
ถอดคำเทศน์จากยูทูป.

 

การลาพุทธภูมิคืออะไร ใช้กับใคร

ศิษย์ : หลวงตาคะ คำว่า การลาพุทธภูมิ นี้ใช้กับใครอ่ะคะ

หลวงตา : ใช้กับบริษัทที่ที่ไม่อยากสร้าง ไปแล้วอยากลา

ศิษย์ : อย่างสมมุติว่าวันนี้ หนูอธิษฐานสมมุติว่าหนูอธิษฐานเป็นโพธิญาณ อยากเป็นโพธิสัตว์

หลวงตา : เออ อยากเป็นพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งว่างั้นเถ๊อะ สร้างบารมีไปซักพัก ขี้เกียจก็ลา

ศิษย์ : สมมุติว่า ซักพักของหนูคือ วันเดียวพอพรุ่งนี้หนูลาเลยได้มั้ยคะ

หลวงตา : ถ้ามีกำลังก็ได้ นะฮะ ถ้าไม่มีกำลังก็เกิดไปเรื่อยๆก็แล้วกัน

ศิษย์ : แสดงว่า การลาพุทธภูมิคือ การที่จะ
ไม่เกิด

หลวงตา : ใช่ เกิดหรือไม่เกิด มันอยู่ที่กำลัง ท่านบอก กำลังใจนั่นแหละ

ศิษย์ : แล้วสมมุติว่า ถ้าหากลาพุทธภูมิแล้วสามารถกลับไปสายพุทธภูมิอีกได้รึเปล่า
อ่ะคะ

หลวงตา : ไม่เกิดแล้วจะไปเกิดได้ยังไงเล่า

ศิษย์ : หลวงตา แสดงว่า การลาพุทธภูมิเนี่ย
คือ ชาติสุดท้าย

หลวงตา : ใช่ คนที่เค้าลาจริงๆ นะฮะ เค้ารู้นะว่าบารมีมันเยอะแล้ว เช็ครู้ว่าตัวเองเป็นองค์ที่ที่เท่าไหร่นู่นแหละแม่ชีถึงจะลาได้อ่ะ ถึงจะเข้าใจเรื่องการลา

หลวงตาม้า วิริยธโร : ถามตอบปัญหาธรรม
เผยแพร่เมื่อ 18 กันยายน 2015
ถอดคำเทศน์จากยูทูป

 

สิ่งที่คุ้มครองเราจริงๆมีใครบ้าง

ศิษย์ : หลวงตาคะ สิ่งที่คุ้มครองเราจริงๆอ่ะค่ะ มีใครบ้างหรอคะ

หลวงตา : กรรมเราไง กรรมที่เราทำนั่นแหละ กรรมดีน่ะคุ้มครองเรา

ศิษย์ : สิ่งดีๆที่เราทำน่ะหรอคะ

หลวงตา : ใช่สุดยอด รองลงมาก็คือคนเกี่ยวข้องเทพพรหมทั้งหลายมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายอะที่อยู่ใกล้ๆเราอะ เค้าจะดูแลเรา ถ้าเราสวดมนต์น่ะ เราแผ่ทุกครั้งที่สวดน่ะ เค้ามาอยู่กะเราตลอด ถ้าเราอารมณ์ดีตลอด

เค้าก็อยู่กะเราตลอดน่ะ เพราะว่าคลื่นดีไง รับบุญจากอดีตมาปัจจุบัน ปัจจุบันก็สวดอีกด้วย เค้าก็ได้ตลอดเวลา แล้วใคร

ดูเราอ่ะ ก็บุญเราไงบุญที่เราแผ่ไปน่ะ มนุษย์ด้วยกันดูแลได้มั้ย ไม่ได้หรอกเวลามีภัยธรรมชาติ มีอุบัติเหตุอบัติภัย

อะไรพวเนี้ย ไปไหนเนี่ย ต่างคนต่างหนีแล้วหละ เพราะต่างคนก็มีรูปกับนาม มีธาตุด้วยกันใช่มะ เออ แต่วิญญาณเค้า

ไม่ไปนะฮะ เค้าจะดูเราอยู่ นะฮะ เพราะนั้นโบราณเค้าถึง ห้อยพระ ห้อยพระเพราะพระไม่ลืม แต่เราลืมพระ

หลวงตาม้า วิริยธโร : ถามตอบปัญหาธรรม
เผยแพร่เมื่อ 1 กรกฎาคม 2016
ถอดคำเทศน์จากยูทูป.

 

ให้ระวังอารมณ์ ไม่งั้นเสียดายบุญในอดีต

ศิษย์ : การระลึกถึงบุญเนี่ยค่ะหลวงตา เราควรทำยังไงคะ

หลวงตา : อ้าว เรานึกไม่ได้ก็สวดมนต์ ตอนไปอยู่กะท่านบ่อยๆเนี่ยนะท่านบอกระวังเอ็งให้ดีนะ ท่านว่า ข้าเสียดายบุญเอ็ง

ทำมาอดีตตั้งแต่ อดีตนู้นถึงชาติปัจจุบัน บางคนเคยสร้างวัด สร้างโบสถ์ฺ สร้างวิหาร สร้างเจดีย์ซึ่งมันยังอยู่ทุกวันเนี้ย

เป็นร้อยเป็นพันปียังอยู่นะ เอ็งมีส่วนในการสร้างแม้แต่บาทเดียว แม้แต่สิบสตางค์ หรือเผื้องนึงสมัยนั้นนะ ตอนนี้บุญก็เข้าทุกลม

หายใจเข้าออกนะ ท่านว่า เข้านะท่านบอก ถ้าอารมณ์เอ็งดี นะฮะ มีข้อแม้นะ อารมณ์ดี ถ้าอารมณ์ไม่ดีหยุดทันที บันทึกในสิ่งที่

ไม่ดีเข้าไป มันก็เป็นต่อไม่ดีแล้ว ท่านบอกกรรมฐานที่เอ็งทำทุกว้นนี้ มันก็เลยลักปิดลักเปิด เพราะอารมณ์ เพราะอารมณ์

ศิษย์ : อ๋อ ที่สวดมาตั้งนานแล้วไม่ค่อย ก้าวหน้านี้ เพราะ อาจจะโกรธบ่อย

หลวงตา : เพราะอารมณ์ มันมีฝ้าประจำได้ยินเสียงก็หงุดหงิดแล้วบางคน ตัดแล้วนะฮะ ตัดทันที เสียดายมั้ย เสียดายนะ

ศิษย์ : หลวงตาคะ แล้วจะทำยังไงให้หน้าชื่นตาบานทั้งวันเงี้ยคะ

หลวงตา สวดมนต์ ฮะ แม่ชีอธิษฐานถูกแล้วนี่ ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานตอนเช้าจะอารมณ์ดี สวดมนต์ แผ่เมตตาบันทึกบุญทั้งวัน ใช่มะ อธิษฐานทั้งวันทุกวัน เช้าอ่ะก็ถูกแล้วหละ

ศิษย์ : คำอธิษฐานเริดๆแบบเมื่อเกี้ย คือใครที่นี่ก็อธิษฐานได้ทุกวันงี้หรอคะ

หลวงตา : ถูก พออารมณ์ไม่ดี อ้าว ตายแล้ว กูอธิษฐานเมื่อเช้านี้เอง โดนอีกแล้วเนี่ย มันยังรู้ใช่ม่า มันก็เริ่มแก้ไข ไปทีละหน่อย

มันไม่ได้หรอก มันจะค่อยๆไปค่อยๆ มันไม่ได้ทีเดียวหรอก ค่อยๆ มันค่อยๆ

ศิษย์ : การอธิษฐานอะไรซักอย่างเนี่ยค่ะ หลวงตา อย่าง อธิษฐานจะอารมณ์ดีเนี่ยค่ะ ควรจะอธิษฐานช่วงไหน ระหว่างตอนไหนของวันน่ะคะ

หลวงตา : (หัวเราะ) ยี่สิบสี่ชั่วโมง ฮะ

ศิษย์ : หมายถึง ตอนเริ่มอธิษฐานเนี่ยหรอคะ

หลวงตา : อ้าว ก็เริ่มอธิษฐาน ถึงตอนเช้าอธิษฐานใหม่ไง

ศิษย์ : นึกได้ก็อธิษฐานเลย

หลวงตา : ถูก

หลวงตาม้า วิริยธโร : ถามตอบปัญหาธรรม
เผยแพร่เมื่อ 25 กรกฎาคม 2015
ถอดคำเทศน์จากยูทูป.

 

ทำไมคนจึงหันมาสวดจักรพรรดิกันเยอะขึ้น

หลวงตา : การสวดจักรพรรดิก็คือ การบันทึกกำลังจักรพรรดิ ตอนที่สวดเนี่ยเราสามารถจะน้อมกำลังตรงเนี้ยไปแผ่ไปก็ได้ พิจรณาในเรื่องราวในชีวิตเราก็ได้ ทำให้จิตเราสงบก็ได้ มันแล้วแต่เราจะเอา
ไปเป็นประโยชน์อะไร หลวงพ่อท่านบอก ถ้าเอ็งสวดจักรพรรดิเอ็งนึกถึงข้าบ่อยๆ สวดบ่อยๆเนี่ย มันมีทิพยอำนาจ จิตเป็นทิพย์อยู่แล้ว เวลาเรานึกไปไหนเนี่ย เราสวดไปเนี่ย คนเค้าจะเห็นเรานะฮะ ตอนนี้มันมีคนฝึก เพราะว่าเรากระจายบทนี้ไปทั่วโลกนะฮะ ตอนนี้มีคนฝึกในศาสตร์หลวงปู่นี่เยอะนะฮะ โดยที่เราไม่รู้นะฮะเพราะว่าเวลาเค้าฝึกนี่ เค้ารู้ ฮะ อันดับแรกเวลาเค้าสวดเนี่ย เค้าก็สัมผัสในโลกวิญญาณได้นะบางคน เพราะเค้าสวดที่ไหนก็ เค้าจะได้ยินเสียงคนมาสวดกะเราสวดกะเค้าด้วยทุกครั้ง พอความรู้สึกเค้าเห็น เนี่ย จากความรู้สึกเค้าก็จะเห็นภาพไปเรื่อยๆแล้วฮะ ทีนี้เค้าก็จะขยันไปเรื่อยๆเค้าจะสวดไปเรื่อยๆ คนเค้าจะไม่เกี่ยวกะคนเลยฮะ เกี่ยวกะโลกวิญญาณโดยตรง เพราะว่าบทนี้มันๆเป็นการแผ่โดยตรง ฮะแผ่ให้ภพภูมิโดยตรงเลยฮะ เวลาสวดที่ไหนเราจะมีเพื่อนมากที่นั่น เพื่อนที่เป็นผีนะฮะ หลวงตาเคยบอกคนหลายคนนะ เด็กที่มันไปฝึกกะหลวงตา บอกให้มันอย่าไปเรียนเลยโลกอ่ะ เรียนแล้วก็ ยุคปัจจุบันไม่มีประโยชน์อะะไรหรอก เพราะว่าโลกมันกำลังจะเปลี่ยนแปลง ทุนนิยนก็จะหายไป ภัยพิบัติก็จะเกิดโรคระบาด ก็จะเกิดเอ็งฝึกเนี่ยดีที่สุดแล้ว เอ็งฝึกเอ็งใช้เวลาสี่ปี กะเอ็งเรียนปอตรีสี่ปีเนี่ย หลวงตาว่า เอ็งมีประโยชน์มากเลยฮะ เอ็งเป็นหมอดู เอ็งก็รวยได้และ เอ็งไม่ต้องไปทำงานอะไรหรอกท่านบอก ไม่มีใครเชื่อ นะฮะ ทุกวันนี้เริ่มเชื่อแล้วฮะ จบออกมาไม่มีงานทำนะฮะ ต้องมาอยู่วัด จบมาก็อยู่วัด ใช้เงินไปตั้งเป็นหลายล้าน ถ้าสวดมนต์ภาวนา ในศาสตร์หลวงปู่นี่นะฮะ โอ้โหอย่าให้พูดเลย แค่สวดจักรพรรดิเนี่ยทิพยอำนาจก็เกิดแล้ว ถ้าสวดจริงๆนะฮะ ยิ่งเด็กๆเนี่ยทางโลกมันไม่ค่อยจะมีด้วยมันยังไม่ได้บันทึกมาก เพียงแต่เค้าอดทนในการสวดนะฮะ อดทนในการสวด อดทนในการมองภาพ ใช้เวลาไม่กี่ปีเนี่ยสี่ห้าปีนะฮะ หลวงตาว่าทรัพย์ในดิน ในโลกเนี่ย มันรู้หมดนะฮะ มันอยู่ที่ไหนอ่ะ อย่าลืมว่าหลวงพ่อท่านเป็น โพธิสัตว์นะฮะ แต่ไม่มีใครเชื่อนะฮะ ช่วยเหลืออะไรไม่ได้นะฮะ มันไปเรียนโลกแล้ว ทีนี้พออายุมากขึ้น มันเข้าวัดน้อย นะฮะ มันมาก็จริงอ่ะแต่มันมาเป็นพักๆ ถ้ามันสวดตั้งแต่มันอายุที่ยังน้อยนี่นะฮะ มันฝึกตั้งแต่อายุยังน้อยเนี่ยจ้างให้มันออกไป มันก็ไม่ออกนะฮะ ไม่ออกฮะเพราะมันเพลินแล้ว เพราะมันรู้ มันก็จะเรียนศาสตร์ คือมันเรียนไปเรื่อยๆเนี่ย มันก็มีการศึกษาไปเรื่อยๆ มันก็เหมือนเรียนทางโลกเหมือนกัน ถ้าเรียๆหยุดๆเรียนๆหยุดๆมันก็สัมผัสไม่ได้ มันก็เริ่มห่าง เริ่มห่างมันก็ไป ทางโลก พอมันไปทางโลกมันกลับมาวัดเนี่ย มันก็อยู่ไม่นาน มันก็อยู่โลกมันก็ออกไปอีก แต่ถ้ามันอยู่ในวัดอยู่ในความสงบหลายๆปี ซักสามสี่ปีเนี่ย จ้างให้มันออกมันก็ไม่ออกนะฮะ มันจะเรียนต่อไ ปเรื่อยๆไง

หลวงตาม้า วิริยธโร : ถามตอบปัญหาธรรม
เผยแพร่เมื่อ 29 กันยายน 2015
ถอดคำเทศน์จากยูทูป.

 

" ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง จะซัก ผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตให้เข้าที่ ถ้ารอเวลาจะปฏิบัติทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน "

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ