ตั๋วบินฟรี ลงอเวจีมหานรกโลกันต์ ตัวเองก่อเองโทษคนอื่นไม่ได้ ถ้าประเภทมั่วเอาโดย"อัตโนมติ"

ถาม : ถ้าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เรารวมกันทำดี พูดคุยเรื่องคำสอน ธรรมะ การปฏิบัติ นี่คือบุญธรรมทานอย่างหนึ่งใช่ไหมคะ ?

ตอบ : ดูด้วยว่าคุยถูกเรื่องหรือเปล่า ถ้าประเภทมั่วเอาโดย "อัตโนมติ" ไม่ใช่หลักธรรมที่แท้จริง มีสิทธิ์ลงอเวจีมหานรก ดีไม่ดีก็เลยไปถึงโลกันต์เลย ฉะนั้น..ในเรื่องธรรมสากัจฉา ต้องมีคนที่รู้จริงอยู่ด้วย ถึงเวลาถ้าคุยผิดต้องแก้ไขให้ถูกได้


�纵��ҡ��ҹ����º���� ����͹����Ҥ� ���� - ��дҹʹ����Ѵ��Ң�ع

 

ชื่อกระทู้หวือหวาน่าสนใจมาก
แต่คนที่ทำผิดซ้ำซาก เขาคงอยากได้
ตั๋วฟรี หลายๆ ใบเอาไปแจกคนสนิทด้วย

ในห้องนี้คงมีคนได้รับสิทธิ์ตั๋วฟรี ไปหลายคน
อยู่นะฮะ
ประเภทสอนธรรมให้ แก่คนที่ปฏิบัติได้ถูกต้องแล้ว
ไปสอนว่าเขาทำผิด เชื่อผิด ต้องอย่างนั้น อย่างนี้สิ
จึงจะถูก

ต่อมาคือพวกแนะนำให้คนเชื่อว่าสิ่งที่เชื่อและปฏิบัติ
ผิดอยู่ว่าถูกแล้วดีแล้วทำต่อไปเถอะ

ประเภทที่สอนแบบคิดใหม่ทำใหม่หมด ประเภทนี้
คงได้ตั๋วฟรีเป็นเล่มๆนะครับ

 

ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว
การสอนธรรม การเสวนาธรรม
ผ่านทางห้องนี้ เป็นที่สุมเสี่ยงและ
อันตรายอย่างมากครับ

เนื่องจากไม่มีคนคอยท้วงติงหรือแก้จุด
ที่เข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง

ทางที่จะปลอดภัยของคนที่ยังไม่รู้พระธรรม
อย่างทะลุปรุโปร่งก็คือ งดเสวนาเรื่องที่เรา
รู้แต่ยังไม่แจ้ง

คุยแค่ระดับ ทาน ศีล ส่วนเรื่องการภาวนา
ทำได้เป็นมรรคเป็นผลแล้ว
ค่อยมาเข้าวงเสวนา

จะปลอดภัยกว่านะฮะ

 

การเสวนาธรรมนั้น ถ้าเสวนาเท่าที่รู้ และพูดความจริง รับรองปลอดภัยครับ แต่ถ้าพูดในสิ่งที่คิดและมิได้ตรวจสอบว่าตรงธรรมรึไม่ หรือเอามโน เอาฝันบ้าๆบอๆมาคุยเป็นตุเป็นตะ. พวกนี้รับรองได้ตั๋วแถวหน้าแน่ๆ อวดตัวอวดตน เก่งไปหมด(เหลือแต่ไม่เก่ง). นี่ก็ได้ตั๋วฟรีเหมือนกัน อีกพวกสำคัญผิดอันนี้ด้วย จริงๆในนี้มีน้อยมากครับส่วนมากดีๆทั้งนั้น ส่วนคนมีพฤติที่ผมกล่าวเดี่ยวจะแสดงต้วตนออกมาเองครับ หรือไม่ก็อ่านที่โพสๆแล้วใช้ปัญญาพิจารณาดูก็จะรู้ด้วยตนเองครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่5555. สาธุ

 

ต่อให้ เสวนาต่อหน้าพระพักต์ พระพุทธองค์ก็ กำชับเองว่า
ไม่สามารถพาใครไปนิพพานได้ ขันธ์5 การแปลความ ตีความ
การกระทบรู้ ไม่อยู่ในอำนาจของ พระพุทธองค์

ดังนั้น

คนฟังธรรม จะต้องไม่ใช้ หู ตา คอ จมูก ปาก ความคิด
ด้นเด้า เดาเอา

จะต้อง เพียรเพ่ง พินิจพิจารณาให้แยบคายว่า เขาใช้ อะไรฟังธรรม
สดับธรรม

ธรรมะ ของพระพุทธองค์ ทุกวรรค ทุกตอน ทุกพระสูตร เป็น ตำราพิชัยสงคราม

คำว่า ตำราพิชัยสงคราม พระพุทธองค์เป็น ผู้กำหนดขึ้นใช้ เพื่อให้ พุทธบริษัท
รู้หนทางทำสงคราม รบกับ กิเลส ตัณหา เพื่อ สร้าง " พระ (ทหาร) "

ทุกรูป ทุกนาม จึงควรฟังธรรมให้ดีๆ น้อมไปในโลกุตรแต่ส่วนเดียว อย่าไป กร่อน
ธรรมฤทธิ์ของพระพุทธองค์ อย่างคน อ่อนข้อ เอออวยให้กิเลส มันย่ำยีหัวใจ

 

ท่านครับ
ลุงแมวขอร้องท่านอย่างหนึ่งไม่ได้หรือ
หลังจากที่ด่ากันมาจนบาปเท่ากันแล้ว
คนแก่ถูกด่าพ่อล่อแม่นี่ คนด่าก็ลำบาก
นะถ้าไม่ถูกด่าคืน ก็แบกบาปอยู่ข้างเดียว
ตอนนี้ ขอให้ทำบุญให้คนแก่สักเรื่องคือ
เรื่องลายเซ็นแคนั้นแหล่ะ ขอนะครับ

ขอโมทนาล่วงหน้าครับ

 

จริงที่สุด

 

ดูเรื่อง บุญกริยาวัตถุ 10 หัวข้อ ปัตตานุโมทนามัย ด้วยครับ

บุญที่เกิดจากการโมทนาบุญ

ถ้าสิ่งที่เราโมทนาหรือ like เป็นบาป เราก็ได้รับบาปนั้นด้วย ทำอะไรต้องมีสติ

 

จริงครับ. เห็นด้วยครับ ถือว่าสนับสนุนส่งเสริมครับ สาธุ

 

จะนรกหรือสวรรค์ก็ขอให้ดูใจของตนเองว่ามันเป็นขาวหรือดำก็เท่านั้นแหละ ตนรู้ตนเองดีที่สุดเราอาจพูดอะไรก็ได้ เราอาจหลอกคนอื่นได้ แต่เราหลอกตัวเองไม่ได้

ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนโลกหรือเปลี่ยนธรรมชาติไม่ได้ แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าท่านก็ช่วยโลกช่วยมนุษย์ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นเราควรหันมาสนใจตนเองดีกว่าครับแทนที่จะไปมัวสนใจว่าใครจะตกนรกหรือไม่ เสียเวลาเปล่าครับ ดีไม่ดีอาจเป็นตัวเราเองก็ได้ที่จะต้องไปตกนรกด้วยเพราะความเอาแต่ฟุ้งซ่านคิดถึงแต่เรื่องของคนอื่น ซึ่งความฟุ้งซ่านนี่แหละที่จะเป็นชนวนต้นเหตุนำพาใจของเราไปสู่ด้านมืดได้โดยไม่รู้ตัว

 

"ตอบ : ดูด้วยว่าคุยถูกเรื่องหรือเปล่า ถ้าประเภทมั่วเอาโดย "อัตโนมติ" ไม่ใช่หลักธรรมที่แท้จริง มีสิทธิ์ลงอเวจีมหานรก ดีไม่ดีก็เลยไปถึงโลกันต์เลย ฉะนั้น..ในเรื่องธรรมสากัจฉา ต้องมีคนที่รู้จริงอยู่ด้วย ถึงเวลาถ้าคุยผิดต้องแก้ไขให้ถูกได้"


อัตโนมติ คำนี้ผมเดาว่าคือ"สรุปเอาด้วยความคิดเห็นส่านตัว"
ถ้าเช่นนี้ ผู้ที่สอนธรรมด้วยการ"ยกพระสูตร
หรือพระอภิธรรมคัมภีร์" มาประกอบโดยกล่าวนำ
ว่าสูตรนั้นๆ กล่าวถึงข้อธรรมอะไร ตรัสที่ใด วาระใด
โดยไม่ต้องสรุปอะไรปิดท้าย มีโอกาสปลอดจากภัยนี้

แต่หากกล่าาสรุปเป็นตุเป็นตะ คงไม่พ้นอัตโนมติ
และอาจทำให้ผู้กดอนุโมทนาโดนหางเลขไปด้วย

ส่วนผู้อธิบายธรรมโดย ไม่ยกพระสูตรมาอ้าง

โดยใช้การทรงจำจะรอดได้อย่างไรไม่ทราบครับ

 

อยากฟังผู้รู้มากยืนยันหน่อยว่า
จริงไม่จริงอย่างไร??ลุงแมวจะได้
ทำอะไรที่เป็นไปในเชิง
ไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนนะฮะ

อีกอย่าง
อเวจีมหานรกมันเป็นนรกชั้นโหดสุด
ยาวนานทรมานที่สุดแล้วใช่หรือไม่ครับ?!?

 

เอิ่ม หากผมขอเสร่อ เสนอหน้า อธิบาย อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จะโดนด่าว่า " กล่าวในเรื่องโลกุตระ เกินไป " อีกหรือเปล่า

ถึงอย่างไร ก็ต้องอธิบายอยู่ดี เพราะ ธรรมะ นั้น ไม่ใช่เรื่อง สนองโลก

ธรรมะของพระพุทธองค์ ทุกคำ ทุกวาระ จะเป็น สุญญตา และ โลกุตรแต่ส่วนเดียว
พระพุทธองค์ ตรัสฏีกาเอาไว้อย่างนั้น

ทีนี้

มีโศลกธรรมของ หลวงปู่มั่น กล่าวเป็น ภาษาไทย ไม่ต้องแปลไว้ว่า

ธรรมะนั้น ปุถุชนสดับเมื่อไหร่ ธรรมะนั้นเป็น " สัทธรรมปฏิรูปทันที "

ตรงนี้ ก็เป็นอีกข้อหนึ่ง ที่เป็น สัจจ เพียงแต่ ยกกล่าวคนละด้าน ถ้าผลิกไป
บรรยายด้านธรรม ธรรมะของพระพุทธองค์อยู่ฝากสุญญตา และเป็นโลกุตรแต่ส่วนเดียว


ดังนั้น

เวลาฟังธรรม ต้องฟังให้ดีๆ ปัญญาที่เกิดขึ้น ศีลที่เกิดขึ้น สมาธิที่เกิดขึ้น จาคะที่
เกิดขึ้น ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เกิด แล้วก็ดับ ให้กำหนดรู้เข้ามาตรงนี้ซะ

ปัญญาที่ปุถุชนสดับธรรมจาก ใครก็แล้วแต่ แม้แต่ พิจารณาเอาจาก ต้นไม้ใบหญ้า
เช่น พระโสณนะดูนกกระยางกินปลา พระในราวป่าเปลี่ยวได้ยินเสียงอาขยานจาก
หญิงคนใช้ผู้เป็นปุถุชนเต็มขั้น พระ...เถรีท่านหนึ่งดูสายน้ำที่หายไปในผืนทราย

ก็กำหนดเห็น ตัวปัญญาที่ปฏิรูปธรรมมันเกิด แล้วก็ดับ

ศีลเกิด แล้วก็ดับ

สมาธิเกิด แล้วก็ดับ


ตามเห็นความเกิดดับ ของทุก สรรพธรรม เป็นประจำ คือ การฟังธรรมที่อยู่
ฝากสุญญตา และ เป็นโลกุตรแต่ส่วนเดียว ไม่มีบุคคลกำลังแสดง และไม่มีบุคคล
กำลังสดับ เป็นเพียง สิ่งที่แปรปรวนไปตามปัจจัยการ เช่นนั้นเอง

" ถ้ากำหนดรู้ทุกข์ ให้ถูกต้อง "

การที่ไปกังวล เพราะ คนเขาหาว่า เราฟังธรรมเมื่อไหร่ ก็ปฏิรูป ซื้อตั๋วลงนรกอเวจี
เท่านั้น ก็จะทราบทันทีว่า นั่น ไม่ใช่ คำของตถาคต แน่นอน

ซึ่ง เมื่อสอบสวนแล้ว ก็เงียบไว้ ไม่ต้องไปตามด่า ใคร ว่า กล่าวธรรมผิด แต่อย่างใด

หรือก็คือ ".................................." นั่นแหละ ธรรมะ

และจะเห็นอีกว่า พระพุทธองค์ไม่เคยหายไปไหน และเป็นผู้เดียวที่แสดงธรรม อยู่
ตลอดเวลา เป็นผู้เดียวที่หมุนธรรมจักร ต้องอาศัยขันธ์5ปรากฏเป็นนิมิตอย่างผู้ไม่สิ้นกิเลสไหม
ผู้ฟังธรรมเป็น จะทราบเอง

 

ถ้าลุงแมวนำเสนอแนวนี้ คงอดรับตั๋วฟรีไปอเาจีมหานรก

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
๗. อาณิสูตร
[๖๗๒] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพนชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว
เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉันใด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว
อันลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟัง
จักไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษา

แต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตรอันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้
มีอักษรอันวิจิตร มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นของภายนอก
เป็นสาวกภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ
จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ

[๖๗๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก
เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธาน ฉันนั้นเหมือนกัน
เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่
พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้
และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ
จบสูตรที่ ๗

อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ บรรทัดที่ ๗๐๔๖ - ๗๐๖๖. หน้าที่ ๓๐๒.

 

อย่างนี้ ตัวฟรีคนเดียวไม่พอ

ได้ตั๋วบินฟรีเป็นหัวหน้ากรุ๊ป เป็นหมู่ พาคนอื่นตามกันได้ตั๋วบินฟรีลงไปเป็นเพื่อนด้วยกันหรือเนี้ย :boo:


.

 

จากนั้น ท่านผู้อ่านพระสูตรรู้ ดูพระสูตรเป็น
ก็จะมาอธิบายขายความในบางประโยคที่

ผู้สนใจยังไม่อาจจะเข้าใจได้ โดยตนเอง
เพราะเป็นภาษาที่แปลมาจากภาษามคธ
อันเป็นภาษาเดียวที่พระพุทธเจ้าใช้ในการ
พูดกับพระสาวกหรือบริษัททั้งหลายของท่าน

ดังนั้น เมื่อแปลเป็นภาษาไทยโดยผู้มีบาลีเปรียญ
คือเรียนภาษาบาลีจบหลักสูตรมาแล้ว
มาอ่านพระสูตรที่เป็นภาษาไทย ก็จะทราบว่าทันที
ว่าประโยคภาษาไทยนั้นๆ พระพุทธเจ้าทรงกล่าว
เป็นมคธว่าอย่างไร จึงแปลเป็นไทยได้อย่างนี้
และยังแปลกลับเป็นบาลีได้ด้วย

หากมีคำหรือประโยคที่ขัดกันโดยไวยากรณ์
หรือโดยหน้าที่ของคำ
ก็สามารถแก้ได้ตอบได้ว่าที่ถูกต้องจริงเป็นอย่างไร

หากผู้ที่ไม่รู้ภาษาบาลี(มคธ)มาอธิบายขยายความ
พูดไปก็มีโอกาสขัดกับความหมายแท้ได้ง่ายๆ

การอธิบายขยายความโดยผู้ไม่มีบาลีเปรียญ
จึงมีโอกาสพูดผิดจากพระพุทธเจ้าโดยไม่รู้ตัว
เพราะเหตุนี้ครับ
ฉะนั้น อยากรู้พระธรรมอย่างถูกต้อง ไม่เสี่ยงต่อ
รับรู้พระธรรมดัดแปลงต้องเรียนบาลีก่อนนะฮะ

แล้วมาเผยแผ่พระธรรมจะไม่ผิดพลาด ไม่ลงนรกครับ

 

หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธ
ที่ผิดไปจากคำสอนเดิม เพราะคนศึกษา
ได้รับรู้คำสอนที่ดัดแปลงไปแล้ว เมื่อนำ
มาปฏิบัติจึงผิดทาง ไม่เจริญกาย วาจา ใจ
ไม่สำรวมลง
คำสอนที่ถูกแปลงไปเพราะมีผู้สอนทีรู้ภาษา
บาลีน้อยลง น้อยลง
นักสอนพระธรรมดัดแปลงจึงไม่ได้รับการท้วงติง ตรวจสอบ
ให้แก้ไข
สิ่งที่ผิดพลาด

ศาสนาพุทธจึงกำลังถดถอยเป็นไปตามที่
พระองค์ตรัสไว้ครับ

 

มีเหตุและปัจจัยสำคัญยิ่งทึ่ศาสนาจะทดถอยคือ
1สำคัญผิดและเผยแพร่สิ่งผิดพาเอาชาวบ้านหลงทางทันที
2 คิดเอง เข้าใจเองว่าต้องเป็นอย่างที่ตนเข้าใจ โดยไม่สอบเทียบกับพุทธวจนะ พวกนี้จะพายเรือในอ่าง วนอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน
3พวกมโน ยึดมโนนี่ก็ยึดมั่นถือมั่นจนลืมความจริง เพราะสิ่งที่เชื่อว่าตนเห็นนั้นเหนือกว่าคนอื่นๆ เผยแพร่ไปจึงผิดความจริง ผิดพุทธวจนะ
4. หลงตนว่าถึงขั้นนั้นขั้นนี้ นี่ก็คิดเอง เผยแพร่เอง ไม่เทียบพุทธวจนะในพระไตรปิฏกอีกใครเถียงไม่ได้ฉันเก่งฉันแน่
5. มั่วธรรมพวกนี้ไม่เข้าใจธรรมปฏิบัติไม่ได้รึไม่ได้ปฏิบัติจึงเอาพระธรรมมารวมแล้วมั่วเอาตามความต้องการของฉัน ไม่แยกเป็นเรื่องๆ รวมๆกันให้คนฟังงงๆกลายเป็นขัดกันเอง. ไปไม่ถูก
อันนี้แถมให้ครับ จำอวดคือไม่เคยศึกษาและปฏิบัติแต่อาศัยลักจำมาจำผิดๆถูกๆแล้วเอามากล่าว จึงวกวนดูผ่านๆว่าดีแต่หาสาระไม่ได้ไม่มีทั้งน้ำทั้งเนื้อมีแต่ชามเปล่าๆหลอกด่าคนเล่นสนุกสนานไปวันๆเท่านั้นครับ
และสิ่งสำคัญคือกล่าวเกินกว่าที่ตนรู้คือ คิดว่า น่าจะ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าของจริงเป็นยังไง อุปมาอุปมัยคือ คนที่อยู่ก.ท.ม.เดินทางไปเชียงใหม่แต่ไม่เคยไปรึยังไปไม่ถึงกลับบอกว่าเชียงใหม่มีนั้นนี้โน้น ให้คนอื่นเชื่อท้้งๆที่ตนก็ไม่เคยไปแต่กล้บพูดถึงเชียงใหม่ รึบางคนไปแค่นครสวรรค์แล้วสำคัญผิดว่านั้นคือเชียงใหม่ คิดว่าถึงแล้ว ส่วนที่น่ากลัวคือไปแค่อยุธยาแต่บอกว่านี่คือเชียงใหม่เพราะม้นคล้ายๆกันแต่ต่างกันมาก ส่วนประเภทสุดท้ายคืออยู่ก.ท.ม.นี่แหละแต่หลอกชาวบ้านว่าฉันเคยไปเชียงใหม่แล้วมโนว่าเชียงใหม่ต้องมีนั้นนี่โน้นตามตำราเพื่อลาภ ยศ สักการะ นี่แหละสาเหตุหลักๆของความเสื่อม
กล่าวธรรมเท่าที่รู้สามารถสอบเทียบเทียบเคียงพุทธวจนะได้ไม่ขัดและแย้งกับพุทธวจนะถูกต้องและตรงธรรมที่ไม่รู้อย่ากล่าว อย่าคาดคะเน อย่าเดา
จึงไม่ได้ต้๋วฟรีไปทัวร์นรกครับ. สาธุ

 

ท่านใดมีความปราถนาจะศึกษาภาษาของพระพุทธเจ้า
ลุงแมวขอร่วมแจมด้วย
ด้วยจิตศรัทธา สำหรับผู้ที่
ปัญญาดีและความตั้งใจสูงจะเรียนบาลี
จะไปไหวหรือไม่ต้องลองดูครับ
เวลาเรียนอย่างต่อเนื่องก็ไม่น่าเกิน 4 ปีครับ
ลุงแมวไม่พร้อมแล้วตอนนี้อายุมาก
ทุ่มเทไม่ไหวครับ

ลุงแมวขอร่วมทุนโดยบริจาคปัจจัยเป็นค่าตำรา
ที่จำเป็นให้ท่านละ 2 เล่ม ๆละประมาณเท่าไร??
ไม่ทราบแต่ทราบว่าเบื้องต้นมี 2 เล่ม
ท่านใดจ่ายค่าตำรา 2 เล่มแล้วกรุณาแจ้งลุง
แมวด้วยครับ??ทางกระทู้นี้เลยครับ

คิดดูแล้วได้อาจารย์บาลี 1 ท่าน
สามารถสอนพระธรรมคำสั่งสอน
ให้ผู้สนใจศาสนาพุทธได้ความรู้
ที่ถูกต้องอีกจำนวนเท่าไร???....

กุศลผลบุญ เมื่อเทียบกับบวชพระ 1 รูป
อันไหนจะมากกว่ากัน!?!

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยคนครับ ผมแก่แล้วเรียนไม่ไหวแน่ แต่ขอร่วมอนุโมทนากับคุณลุงด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ