ฝึก กรรม-ฐาน ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ธรรม-ชาติ, 16 ตุลาคม 2013.

  1. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    มาแชร์ประสบการณ์เมื่อเช้าถอดจิต เจอผีเด็ก แบบตัวเท่าทารกแต่เดินได้ และหัวโต หน้าตาเละเทะ เหมือนศพ แต่บังเอิญผมต้องเดินผ่านทะลุผ่าไปกลางผีทั้งสามเลย แล้วผีเด็กตัวกลางเดินมาหาผม แต่ผมมีธุระผมก็ส่งกระแสจิตแบบเป็นเมตตาและเป็นมิตร แล้วส่งกระแสจิตว่าให้อยู่เฉยๆ นะ ไม่ต้องตามมา พอผมเดินห่างออกมาเขาเดินมาที่ประตู ผมนึกว่าจะยังเดินตามมา ผมหันไปดู ปรากฎว่าเขายิ้มให้แล้วโบกมือลา เป็นภาพที่ประทับใจอย่างยิ่ง แล้วผมก็ไปฝึกต่อ
     
  2. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ การที่จะให้ "เหลือชาติเดียวเท่านั้น" เป็นความจริงขึ้นมาได้ ก็ต้อง "ดับตัวดู แล้ว อยู่กับรู้" ให้เป็น เท่านั้น
    +++ ขั้นต่ำก็ใหทำ "สุขวิปัสโก" อย่างง่าย ๆ ตามโพสท์ที่ 484 หน้า 25 ให้ได้เสียก่อน (โพสท์เริ่มต้นในพรรษานี้) ไม่ต้องมาก เอาแค่วันละ 4-5 ยก ก็พอ
    +++ จากนั้นก็ทำการบ้าน 7 ข้อนั้นจนกว่าจะ "สิ้นสงสัย" ว่า "จริง-เท็จ" อย่างไร เท่านั้นเอง

    +++ พรรษานี้ ไม่ยุ่งหนอ ไม่วุ่นวายหนอ ทำตามโพสท์ที่ 484 ก็พอ นะครับ
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ การ "ถอดจิตอออกมา แล้วฝึกต่อในขณะยังอยู่ในการถอด" นั้น สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า "ต่อให้ตายไปแล้ว ก็ยังฝึกได้" ตรงนี้แหละเป็นการ "ปิดอบาย" ของพุทธภูมิ และ ต่อให้จิตไปอยู่ในภพไหนภูมิใดก็ตาม "ก็ยังฝึกต่อได้" ตลอดไป ตรงนี้เป็น "อุปกรณ์เดินทาง" ที่สำคัญที่สุดของพุทธภูมิ และเป็น เหตุปัจจัยที่สำคัญมากตัวหนึ่งที่สามารถเข้าใกล้ "พุทธทำนาย" ได้อย่างรวดเร็ว และมีโอกาสสูงมากที่จะได้พบ "พระศรีอาริยะเมตไตร" ตัวจริงได้ไม่ยาก (ทำเหตุให้พร้อม และ เพียงพอต่อการพบ) นะครับ
     
  4. ธรรมอยู่

    ธรรมอยู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +55
    พี่ธรรมชาติฝึกจิตเคลื่อนร่าง นอนกำหนดเอามือไว้เหนือหัวกำหนดข้างขวานานพอดูรู้สึกว่ามือยกขึ้นเองและค้างไว้อย่างนั้นสักหน่อยหันไปดูว่ามันยกขึ้นจริงอันนี้ใช่รึเปล่าคะ เวลากำหนดไปที่มือหรือเท้าเหมือนจะหนักๆอันนี้ใช่หรือไม่ วันนึงเคยกำหนดทั้งตัวในท่านอนรู้สึกว่ามันจะยกทั้งแขนทั้งขาทั้งลำตัวแต่มันไม่ยกก็ค้างไว้อย่างนั้นรุ่งเช้าตื่นมาเจ็บตรงที่กำหนดเหมือนคนไม่ได้เล่นกีฬานานนานแล้วไปเล่นอันนี้นับได้ไหมคะ
     
  5. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ผมว่า...

    คนจำนวนมาก คิดแต่ทำเอาบุญหวังให้ชีวิตอยู่ดีมีความสุข พอทุกข์ก็มานั่งอ่านธรรม ไปเข้าวัดมั่งหวังจะให้ผ่านความทุกข์เป็นช่วงๆ ไป หวังจะให้ชีวิตมีแต่รวย แต่ดี แต่สุข

    กลายเป็นคนที่เอาจริงในการฝึก โดนหาว่าเป็นพวกไม่พอดีไป ทำมากเกินไป จริงจังไป ทำแค่เอาบุญก็พออย่างนั้น 555

    เขาเห็นว่าที่เขาหลงระเริงเสียเวลาไปวันๆ นั้นๆ ดีเป็นเรื่อง "ปรกติ" ทั้งๆ ที่ความตายนั้นรออยู่ตรงหน้า และอาจจะตายได้ทุกเมื่อ

    และยังมีชีวิตหลังความตายที่ยังไม่รู้จะไปไหนแต่ก็ไม่ได้คิดจะเตียมตัวเตรียมใจอย่างจริงจังตอนนี้อาจจะยังไม่รู้สึก แต่อาจหายบ้าหลังความตายแทน พอถึงตอนนั้นจะมาคิดได้ว่าเสียชาติเกิดไปแล้วก็สายไป หาคนที่คิดได้และหันมาเอาจริงยากจริงๆ
     
  6. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    พี่ธรรมชาติฝึกจิตเคลื่อนร่าง นอนกำหนดเอามือไว้เหนือหัวกำหนดข้างขวานานพอดูรู้สึกว่ามือยกขึ้นเองและค้างไว้อย่างนั้นสักหน่อยหันไปดูว่ามันยกขึ้นจริงอันนี้ใช่รึเปล่าคะ

    +++ ใช่ ต่อไปให้ "กำหนดที่แกนของความรู้สึก" และยกที่ "แกน" นั้น แรก ๆ อาาจบังคับให้มันไปทาง ซ้าย-ขวา ก่อนเมื่อชำนาญแล้ว จึงค่อยไป บน-ล่าง ทีละข้าง จากนั้นจึงทำทั้ง 2 ข้าง และค่อย ๆ เพิ่มไปเรื่อย ๆ จนได้ทั้งตัว จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเป็น "นั่งคุกเข่า" แล้วใช้ "จิตเคลื่อนร่าง ทำการ กราบพระ" แล้วจะรู้ได้อย่างชัดเจนว่า "เวลา เทพหรือพรหม กราบพระ" นั้น มีลักษณะอาการ รวมทั้งความสวยงามและสง่างาม อย่างไร

    เวลากำหนดไปที่มือหรือเท้าเหมือนจะหนักๆอันนี้ใช่หรือไม่

    +++ ใช่ ถูกต้องแล้ว และการเคลื่อนที่แท้จริง จะเคลื่อนที่ "กายเวทนา" (เคลื่อนที่ความรู้สึก) นั่นแหละ

    วันนึงเคยกำหนดทั้งตัวในท่านอนรู้สึกว่ามันจะยกทั้งแขนทั้งขาทั้งลำตัวแต่มันไม่ยกก็ค้างไว้อย่างนั้นรุ่งเช้าตื่นมาเจ็บตรงที่กำหนดเหมือนคนไม่ได้เล่นกีฬานานนานแล้วไปเล่นอันนี้นับได้ไหมคะ

    +++ นับได้เลย ถูกต้อง การยกทั้งตัวในท่านอน จะยากกว่า ท่านั่ง และส่วนใหญ่จะได้การ "ถอดกายเวทนา" ออกมาแทน
    +++ อาการที่คล้าย การออกกำลังกายนั้น ตรงนี้แหละที่เรียกว่า "กำลังภายใน" ยามใดที่ ฝึกจิตเคลื่อนร่าง เป็นแล้ว ก็จะรู้ได้เองว่า "แก่นแท้" ของกำลังภายในนั้น คือ อะไร นะครับ
     
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    คนจำนวนมาก คิดแต่ทำเอาบุญหวังให้ชีวิตอยู่ดีมีความสุข พอทุกข์ก็มานั่งอ่านธรรม ไปเข้าวัดมั่งหวังจะให้ผ่านความทุกข์เป็นช่วงๆ ไป หวังจะให้ชีวิตมีแต่รวย แต่ดี แต่สุข

    +++ ตรงนี้เรียกว่า "ทำบุญแบบ เก็งกำไร" จิตใจแบบนั้น มักจะ "ขาดทุนบุญ" มากกว่า

    กลายเป็นคนที่เอาจริงในการฝึก โดนหาว่าเป็นพวกไม่พอดีไป ทำมากเกินไป จริงจังไป ทำแค่เอาบุญก็พออย่างนั้น 555

    +++ เป็นธรรมดาของการ "เดินสวนทาง" กับทางโลก

    เขาเห็นว่าที่เขาหลงระเริงเสียเวลาไปวันๆ นั้นๆ ดีเป็นเรื่อง "ปรกติ" ทั้งๆ ที่ความตายนั้นรออยู่ตรงหน้า และอาจจะตายได้ทุกเมื่อ

    +++ ธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างงั้นแหละ คือขาด "มรณานุสติ"

    และยังมีชีวิตหลังความตายที่ยังไม่รู้จะไปไหนแต่ก็ไม่ได้คิดจะเตียมตัวเตรียมใจอย่างจริงจังตอนนี้อาจจะยังไม่รู้สึก แต่อาจหายบ้าหลังความตายแทน พอถึงตอนนั้นจะมาคิดได้ว่าเสียชาติเกิดไปแล้วก็สายไป หาคนที่คิดได้และหันมาเอาจริงยากจริงๆ

    +++ ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นแหละ "ตายไปก็รู้เอง" เพียงแต่ว่า "ไม่มีร่างเหลือให้ฝึกอีกต่อไป" และที่สำคัญที่สุดคือ "ยังไปไม่ถึงจุดที่ ไม่มีร่างก็ฝึกได้" อันนี้แหละ "น่าอนาถ" อย่างแท้จริง ก็ต้องปล่อยไปตามกระแส "ความละเมอเพ้อพก" (ปรุงแต่งเพ้อเจ้อ) ของใครของมัน เราจะไปทักมากก็ไม่ได้ เพราะ "เขาหวงความเพ้อเจ้อของเขา" และ ทักไปทักมา ก็อาจโดนแขวะหาเรื่องเอาได้ง่าย ๆ เพราะ "ความหวงการเพ้อเจ้อ" (ตัวดูยึดภาพความปรุงแต่ง อย่างเหนียวแน่นจนเป็น "นิสัย") นั่นแหละ ก็ต้องปล่อยและเอาวางไว้ตรงนั้นเอง นะครับ
     
  8. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    เมื่อเช้าพอถอดออกมา ปรกติไม่ค่อยจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้นะ พอลุกออกมา มีหลวงปู่ท่านนึงโทรจิตมาเตือนทันที บอกอย่าไปทำให้ใครเขาเกลียด ท่านอาจจะรู้ว่าเรากำลังจะฝึกอะไร เหมือนท่านจะรู้อนาคต ว่าเดี๋ยวอาจจะมีเรื่อง ผมกลับไม่สนใจ พออกไปฝึก เกิดการผิดพลาด โอ้โห...มันคือบ้านมีดบิน จะกลับร่างก็เสียดาย ทีหลังอยู่ดีๆ พระโทรจิตมา ต้องฟังให้มากเสียแล้ว บางทีท่านรู้อะไรดีๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2014
  9. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    เห้นข่าวเครื่องบินตก ก็จำได้ว่าเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เพิ่งฝันถึงเรื่องเครื่องบินตกไป ในฝันมียักษ์ 2 ตัว นั่งอยู่บนเครื่องบินพยายามทำให้เครื่องบินตก ในฝันยักษ์หันมาแฮ่ใส่เมิล เลยตื่นคะ

    ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรมาก เมิลกำลังอยู่กับการสังเกตเปลวเทียนอยู่คะ
     
  10. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ หากมีการเตือน "หลังจาก ถอดและอยู่ระหว่าง การถอดกาย" ทุกครั้ง "ต้องใส่ใจให้มาก" และ หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในระดับ 20-25 % หรือมิฉะนั้นก็ควร boost กายใดกายหนึ่งไว้ก่อน รวมทั้งการ ทำปัฏฐานอย่างอ่อน ๆ ไว้ด้วย minimum คร่อม 2 ฐานไว้ก่อน คราวหน้าก็ใช้จิตบังคับมีด "บินแข่งกับมันดู" และฝึกใช้ "ตัวดู" ให้เป็นประโยชน์ นะครับ
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ สงสัยตัวนึงชื่อ ยูเครน ส่วนอีกตัวเป็น กองกำลัง อะไรสักอย่าง แล้วก็สายการบินมาเลย์ เจ้าเก่าอีกแหละ ตกได้ตกดีตกมันทั้งปี ต่อไปใครจะกล้าบินสายนี้อีกล่ะ
    +++ ให้สังเกตุให้ดีว่ามันมีอาการ "จะ" อยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ เช่น "จะ" กำหนดจิต แต่ยังไม่ทันกำหนด เปลวเทียนก็เริ่มมีอาการ "สั่นไหว" เสียก่อนแล้ว หากเจอตัว "จะ" ตรงนี้ได้ก็ถือได้ว่า "เริ่มเร็วกว่าจิต" แล้ว นะครับ
     
  12. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    อิๆ คุณธรรมชาติ ยังไม่เข้ามาเลย ช่วงนี้ รออ่านวันละรอบสองรอบครับ
     
  13. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    พี่เขามีงานประจำ เสาร์อาทิตย์ไม่ว่างไปสอนธรรมะ แต่ว่าอยากรู้เหมือนกัน สอนประจำที่ไหนค่ะ
     
  14. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ อิๆ มีธุระตามธรรมชาติ เหมือนคนทั่วไป บางทีก็ไม่ได้เข้ามาครับ
     
  15. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ งานประจำก็ สอน กรรม-ฐาน ในกระทู้นี้เท่านั้น ส่วนการสอนนอกสถานที่ในพรรษานี้ ยังไม่มีรายการอะไร ส่วนธุระนั้นอาจมีได้ในบางสัปดาห์ เท่านั้นเองครับ
     
  16. จิตวิญญาณ

    จิตวิญญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +679
    ตัว "จะ" ตรงนี้ขอยืนยันว่าสุดยอด เป็นอะไรที่ไป เร็วกว่าจิต จริงๆค่ะ


    มีเรื่องเล่าสู่กันฟังค่ะ เมื่อครั้ง ตอนที่อ่านโพสท์ การฝึก "มหาปัฏฐาน" ภาคแห่งการใช้ขันธ์

    +++ จะมีลักษณะข้อแตกต่าง ที่เด่นชัดประการหนึ่งคือ การฝึกมหาสติปัฏฐาน 4 จะเป็น "สภาวะรู้อยู่ข้างนอก โดยมี ขันธ์อยู่ภายใน" แต่การฝึก มหาปัฏฐาน จะเป็น "สภาวะขันธ์อยู่ข้างนอก โดยมี สภาวะรู้ ปักหลักอยู่ข้างใน"

    ทีแรกได้อ่านประโยคนี้ งง เพราะที่ฝึกมา สภาวะรู้ อยู่ข้างนอก แต่ตรงนี้ให้ฝึก สภาวะรู้ อยู่ข้างใน อ่านแล้วพูดกับตัวเอง “ สงสัยจะฝึกไม่เป็น คือสิปึกคัก เป็นตะอายครูบาอาจารย์ นี่ถ้าฝึกไม่ได้คงไม่กล้าโผล่หน้ามาให้ครูบาอาจารย์เห็นแน่ๆ “


    +++ ขณะนี้ สภาวะรู้ จะคล้ายกับเป็น "ใส้เทียน" ตั้งอยู่ในท่ามกลาง (ปัฏฐาน) "เปลวเทียน แห่ง ตน" ความเป็น ตน (เปลวเทียน) ย่อมทำงานสั่นไหวไปตามสิ่งเร้าตามปกติ แต่ ปัฏฐาน แห่งใส้เทียน กลับ "ปักหลัก" อยู่กับที่ และ "ไม่มีสภาวะแห่งความเป็น ตน หลงเหลืออยู่เลย"

    อ่านตรงนี้ยิ่งมึนตึ๊บหนักเข้าไปอีกค่ะ ก็ยังนึกในใจอีกนะว่า เอ ที่ว่าอาการ สภาวะรู้ จะคล้ายกับไส้เทียน ตั้งอยู่ในท่ามกลางเปลวเทียน แห่งตน ความเป็นตนย่อมทำงานสั่นไหวไปตามสิ่งเร้าตามปกติ มันเป็นยังไงหว่า แล้วจะฝึกยังไง หลังจากอ่านแล้ว ก็วางไว้หมดเลย เพราะไม่เข้าใจและคิดว่าตัวเองฝึกไม่เป็น แต่หลังจากที่วางไปแล้ว หลังๆเริ่มสังเกตุเห็น สภาวะรู้ อยู่ข้างใน มันจะเป็นสลับกันระหว่าง ย้ายเข้าไปอยู่กับรู้ และ ย้ายออกมาอยู่กับตน

    ตอนนั้นไม่รู้เพราะไม่แน่ใจว่านี่คือการเดินจิตของ "มหาปัฏฐาน" ภาคแห่งการใช้ขันธ์ จนกระทั่งคุณธรรม-ชาติ มาเฉลยในโพสท์ # 433 เลยถึงบางอ้อ ( ครั้งแรกที่เห็นเราไม่ใช่เรา นี่ก็ไม่ใช่เรา นั่นก็ไม่ใช่เรา แม้แต่เวลาทานข้าว รู้ว่าทานข้าวค่ะ แต่ทีทานอยู่ไม่ใช่เรา เวลาใครพูดคุยด้วย มันพูดไหลเลื่อนไปกับเขาเฉยเลย ไม่มีเบรค แต่ก็ไม่มีความรู้สึกใดๆเกิดขึ้นในใจนะคะ คือพูดไหลเลื่อนไปกับเขาแต่ใจมันว่าง สับสนหนักเลยว่าเกิดอะไรขึ้น มันคิดไปโน้น คิดไปว่ามีวิญญาณอื่นมาสิงแล้วเราเป็นไปทั่ว ) ถ้าเราขยายขึ้น เหมือน ย้ายออกมาอยู่กับตน จะเห็นอารมณ์ แต่เป็นอารมณ์ที่ละเอียดมาก วนในหัวกระโหลก ถ้าเราหดลง หรือ ย้ายเข้า ก็จะอยู่กับ สภาวะรู้ เท่าที่เห็นความแตกต่าง สภาวะรู้อยู่ข้างนอก รู้ความเคลื่อนไหวทุกสรรพสิ่งภายนอก รู้ว่าง ส่วนสภาวะรู้ที่ปักหลักอยู่ข้างใน(ไส้เทียน) เป็นรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างแห่งตนที่ไม่ใช่ตน และมันยังมีอะไรกว้างกว่านี้อีกนะคะ แต่อธิบายไม่ถูก

    มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุยกับน้า สังเกตุเห็นเวลาเราพูด ปากน้าจะขยับเหมือนจะพูดตามเราน่ะค่ะ ทุกครั้งที่คุยกับเราจะเห็นทุกครั้ง จนนำมาคิด แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ตอนที่มีคนยืนพูดคุยกับเรา ปากเราแสดงอาการจะขยับพูดตามเขาเหมือนที่น้าทำเลย ณ ขณะนั้นจำได้ว่าเป็นอาการของน้า และรู้ว่าเป็นอาการเผลอขาดสติ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยเป็นอีก กรณีนี้ทำให้นึกถึงตอนเราคุยกับคนพูดติดอ่าง ถ้าเราฟังเขาพูดนานๆแล้วจิตส่งออกไปที่เขา เราจะเผลอมีอาการพูดติดอ่างไปด้วย

    มีอีกค่ะ คือ อยู่ๆก็มีอาการเหมือนมีอะไรติดที่ขอบลูกตา ขยี้ตาก็ไม่หาย ตรวจดูก็ไม่มีอะไร แต่อาการเหมือนมีอะไรติดตรงขอบลูกตาตลอดเวลา หลังจากนั้น คนที่คุ้นเคยกันน่ะค่ะ อยู่ๆเธอก็เล่าให้ฟังว่า เป็นอะไรไม่รู้ มันมีอาการเหมือนมีอะไรมาติดที่ขอบตา ขยี้ตาก็ไม่หาย ตรวจดูก็ไม่มีอะไร แต่มันเหมือนมีอะไรติดตรงขอบลูกตาตลอดเวลา เป็นมานานหลายเดือนแล้ว ไม่หายสักที เราก็ งง เลยทีนี้ อาการที่เธอเป็นมาเกิดกับเราได้ยังไง

    และเมื่อครั้งที่พี่ชายมาเฝ้าบ้านให้ ตอนที่พี่ชายขับรถที่บ้านครั้งแรก เรารู้สึกแล้วว่ารถคันนี้กับพี่ชาย จะเกิดเรื่องกัน และก็เกิดเรื่องจริงๆ พอเรากลับมาถึงบ้าน แกบ่นให้ฟังว่าเจ็บใจมาก เกิดกระทันหันแบบคาดไม่ถึง ไม่น่าขาดสติอย่างนี้ เราก็บอก ไม่เป็นไรหรอก คนไม่เจ็บก็ดีแล้ว รถมันพังตรงไหนก็ซ่อม มันเป็นวัตถุ มันจอดอยู่โน้น มันพังก็ไม่เห็นมันพูดมันบ่นอะไรเด้หล่ะ อย่าเอาใจไปยึดติดกับมัน ขนาดว่าพี่ชายกลับบ้านต่างจังหวัดหลายวันแล้วนะ ยังได้ยินเสียงตัวพูดมากแกบ่นไม่หยุดเลย


    และก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฝันค่ะ ฝันว่าไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ใกล้ๆสระน้ำที่ขุ่นมาก เธอบอกว่าเธอคิดฟุ้งซ่าน ในฝัน เราสอนเธอฝึก บอกให้เธอนั่งแล้วทำความรู้สึกทั้งตัว ทำเป็นไหม พอหลังจากที่ฝัน 2-3 วัน ออกไปซื้อตั๋ว คนขายเป็นผู้หญิง เธอบ่นให้ฟังว่า คิดเรื่องลูกคนเล็ก นอนไม่ค่อยหลับ คิดฟุ้งซ่าน เราก็บอกเธอว่า ลองวิธีนี้ไหม ให้ทำความรู้สึกทั้งตัว ทำเป็นไหม ถ้าทำได้ ให้ลองสังเกตุ ความคิดฟุ้งซ่านจะหายไป เวลานอนก็ให้แช่อยู่กับความรู้สึกทั้งตัว เธอถามว่าทำแค่นี้หรือ ไม่ให้คิดอะไรเลยใช่ไหม เราก็ อือ อือ ถ้าไม่อยากฟุ้งซ่านก็ให้ฝึกแค่นี้ก่อน คือ บางครั้งเวลาจะแนะนำเอะไร จะกลายเป็นเรื่องยากมาก เพราะต่างศาสนากัน

    และก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง (หลายครั้งแล้วนะเนี่ย อิอิ) อยู่ๆก็นึกในใจ เออ อยากรู้ จิตส่งออกมันจะเป็นยังไงนะ ลืมแล้ว จะได้เอามาเปรียบเทียบกับจิตไม่ส่งออกในตอนนี้ นึกในใจแค่นั้นแหล่ะค่ะ นึกแล้วก็ทิ้ง ได้เรื่องเลย จิตมันส่งออกไม่หยุด คักบ่บาดเนี่ย ยังมีประสบการณ์อีกเยอะที่ไม่ได้นำมาเล่า บางอาการเข้าใจดีแต่หาภาษาจะมาอธิบายไม่เป็น แต่บางอาการ เข้าใจเพราะไล่อ่านโพสท์เก่าๆของคุณธรรม-ชาติ ที่โพสท์ไว้ พอภาษาตรงอาการตัวเองก็ อ้อ อาการนี้ใช่เลย อ้อ อาการนั่นก็ใช่เลย น่ะค่ะ

    ปล. ว่าแต่หลายวันมานี้ คิดถึงครูบาอาจารย์ค่ะ อิอิ นึกถึงบุญคุณที่สอนเรามาแล้วน้ำตาไหล
     
  17. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    เหมือนเรา operate จากความว่างที่เป็นแกนอยู่ตรงกลาง
    ชักจะเหมือนหุ่นยนต์
    "จะ" บางทีก็มีคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  18. ธรรมอยู่

    ธรรมอยู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +55
    แล้วพูดกับตัวเอง “ สงสัยจะฝึกไม่เป็น คือสิปึกคัก เป็นตะอายครูบาอาจารย์ นี่ถ้าฝึกไม่ได้คงไม่กล้าโผล่หน้ามาให้ครูบาอาจารย์เห็นแน่ๆ “ 5555555 ตรงนี้เป็นสภาวะเดียวกันเลยค่ะ บางทีต้องอ่านหลายๆรอบ บางสภาวะเรายังไม่ถึงอันนี้เข้าใจได้ แต่บางอย่างพอมาหัดสังเกตุก็รู้ว่าทำได้นี่นาเป็นอาการอย่างนี้เอง
     
  19. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ "ตัวจะ" เกิดก่อน "ตัวจิต" หากไม่มี "ตัวจะ" "ตัวจิต" จะเกิดไม่ได้เลย

    +++ และเมื่อไม่มี "ตัวจิต" กรรม-ฐาน ทั้งหมดไม่ว่าจะ 40 กอง หรือ 108-1009 กอง ก็จะเกิดไม่ได้ เพราะ "ตัวจิต" คือ "ตัวกรรม" ดังนั้นจึงเหลือแต่ "ฐาน" เฉย ๆ นี่แหละคือ "กรรม-ฐาน"

    +++ "ตัวจะ" ที่เจอนี้ แม้ว่าจะละเอียดอย่างไรก็ตาม แต่พอคุ้นเคยมากเข้า ก็จะรู้ว่า มันยังมี "ตัวจะ" ที่ละเอียดกว่านี้ เรียกได้ว่ามี "หยาบ กลาง ละเอียด" และเมื่อ ละเอียดถึงที่สุดเท่านั้น จึงรู้ได้ว่า มันคือ "อณู" (อนุภาคเคลื่อนที่) ที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวถึง

    +++ เมื่อถึงสภาวะแห่ง "อณู" และไม่มีการ สำรวจต่อติด เมื่อไร ก็จะพบได้ว่ามัน เคลื่อนที่ไปมา ดังนั้นจึงเรียกมันได้ว่า "อนุภาคเคลื่อนที่" นั่นเอง และเมื่อคุ้นเคยมากเข้า จึงรู้ได้ว่า ในขณะที่มันเคลื่อนที่ไปนั้น มันทิ้งร่องรอยของการเคลื่อนที่ไปประดุจ "หัวเรือที่แหวกชำแรกน้ำไป" ดังนั้น ตรงนี้จึงเรียกว่า "สังคตะธรรม" ที่มีอยู่แล้ว มีอยู่จริง เป็นอยู่จริง เป็นมาเอง ตามธรรมชาติของมัน

    +++ ส่วนการขำแรกไปของมันนั้น เป็นการ "ชำแรกไปในสภาวะ ว่างแห่งรู้" ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สภาวะว่างแห่งรู้นี้เป็น "นิพพานธาตุ" เหตุที่เรียกว่าเป็นธาตุเพราะ "นำอาการไปเปรียบเทียบกับ ธาตุน้ำ ที่หัวเรือชำแรกไป" นั่นเอง

    +++ สภาวะแห่ง "ตน" หรือความเป็น ตน นั้นจะนำมาเปรียบเทียบกับสภาวะของ สังขตะ และ อสังคตะ ธรรมใด ๆ ไม่ได้เลย ทั้ง สังขตะ-อสังขตะ นี้มีมาก่อนที่สภาวะแห่ง ตน จะเกิด และ รวมถึง ดับไปแล้ว (พุทธะ) มากมายเป็นอเนกอนันต์ ยิ่งกว่า เมล็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้งหลายรวมกัน ทั้งหมด

    +++ เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว จึงสามารถเข้าใจ ย้อนกลับได้ว่า "เหตุที่การทำกรรมทั้งหลาย ไม่สามารถ โกหกตลบแตลง ได้" เมื่อถึงเวลา พิพากษา หรือ Judgement Day นั้น ก็เพราะ สรรพสิ่งแห่งการกระทำทั้งหลาย ล้วนตกอยู่ในเบ้าหลอมแห่ง "สภาวะรู้" ทั้งสิ้น นั่นเอง

    +++ ตรงนี้ "แม่นแต็..คัก ๆๆๆๆ" ดังนั้นหากใครทำ "อยู่กับรู้ หรือ อยู่กับตน" อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ก็ "ย่อมหมดสิทธิ" ที่จะเข้าถึงตรงนี้ได้ และ ตรงนี้เท่านั้นที่ผม "ขีดเส้น" ระหว่าง "อริยะภูมิ กับ พุทธภูมิ" ตรงนี้เท่านั้นที่เป็น "ขั้วแยก" ของการเดินทางของจิต ดังนั้น "พุทธภูมิจึงใช้ สภาวะแห่ง ตน เป็นใส้เทียน" (สิ้นสุดและไม่สูงกว่านี้อีกแล้ว) ส่วน "อริยะภูมิใช้ สภาวะรู้ เป็นใส้เทียน" จนถึงที่สุดแห่งการ "สิ้นสงสัยในสภาวะธรรมทั้งหมด" และ "หลุดพ้นจาก สังขตะธรรม ทั้งมวล" แล้วกลับคืนสู่ "อสังคตะธรรมดั้งเดิม" โดยไม่หวลกลับมาอีก ยกเว้นแต่จะใช้ "การสร้างขันธ์ จากอนุภาคเคลื่อนที่" เพื่อปฏิบัติภาระกิจบางประการ ชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อเสร็จแล้ว ก็วางมันทิ้งไป สามารถกล่าวได้ว่า "จะหยิบเมื่อไรก็หยิบได้ และ จะวางเมื่อไรก็วางได้" นั่นแล....

    +++ ตรงนี้ "ไม่ได้ขาดสติ" แต่เป็นการ "ไม่เข้าใจ" ถึง ตัวพูดมาก ที่มันกำลัง "ฝึกปฏิสัมภิทาญาณ แบบอัตโนมัติ" ด้วยตัวของมันเอง โดยที่ "เราไม่ต้องฝึกให้มัน" แต่ประการใดทั้งสิ้น

    +++ ตรงนี้เกิดจาก "จิตส่งออก" ของผู้ที่ คันขอบลูกตา แต่เรา "ไปรับจิตเขามา" แล้วไม่ได้ "ตรึงเพื่อรู้ ว่ามาจากใคร" ดังนั้น เราเลย "ขาดทุนไปเต็ม ๆ" นั่นเอง แต่ไม่เป็นไร "ประสพการณ์ตรงนี้ จะเป็นผู้สอนเราเอง" ว่า ต่อไปไม่ว่าอะไรที่ "ผิดปกติ" เกิดขึ้น ให้รีบ "check จิต" ตัวเองก่อน (เจโตปริยะญาณ)

    +++ เรื่องของ "อนาคตังสญาณ" มันก็อย่างนั้นแหละ มันเป็นเรื่องที่ "เราจะต้องไปพบ" หรือไม่ก็ต้องไป "ชดใช้กรรม" หรือเนื่องมาจาก "การอฐิษฐาน ส่งเดช" ในสมัยที่ยังไม่รู้อะไรเลย โดยไม่รู้ตัวเองว่า เรื่องพวกนั้น "มันเป็นกรรม และ มีวิบากตามมา" (ลิขิต) ทั้งสิ้น นี่แหละ "วัฏฏะแห่ง ความปรุงแต่ง" แต่ทั้งหมดก็คือ มันเป็นเรื่องที่ "เราจะต้องไปพบ" นั่นเอง ไม่มีอะไรมาก

    +++ ยามใดที่ฝึกไปจนถึงการ "เห็นอณู" ได้แล้ว ทุกอย่างก็จะไม่มีอะไร ยุ่งยาก อีกเลย เพราะทุกอย่างย่อม "ดับที่เหตุ" คือ "เหตุปัจจโย" นั่นแล.....

    +++ เมื่อนึกถึงตรงนี้ ก็ควรฝึกให้ได้ทั้ง "ขาไป และ ขากลับ" นะครับ
     
  20. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ แรก ๆ ก็คล้าย ๆ อย่างนั้น พอต่อไปเรื่อย ๆ จน "สภาวะรู้" มั่นคงมากยิ่งขึ้น มันก็เหมือนกับมี "น้ำมันหล่อลื่นชั้นดี" จนไม่มีอะไร "ฝืด ๆ เหมือนหุ่นยนต์" นั่นเอง

    +++ ในขณะที่ "ทันตัว จะ" ขณะนั้น "จิตจะเกิดไม่ได้" และในขณะที่ "ตัวจะไม่มี" ในขณะนั้นย่อม "ตกลงสู่ ฌาน" ตัวใดตัวหนึ่ง ลองสังเกตุดูให้ดี นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...