ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

คาดไซโคลนเฮเลนจะขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียพรุ่งนี้​

​

นิวเดลี 21 พ.ย. - เจ้าหน้าที่อินเดียคาดว่า ไซโคลนเฮเลนซึ่งกำลังเคลื่อนตัวอยู่ในอ่าวเบงกอล ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ จะขึ้นฝั่งรัฐอานธรประเทศ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในวันศุกร์นี้ และจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง

กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียประกาศเตือนว่า ไซโคลนเฮเลนจะขึ้นฝั่งพื้นที่ทางใต้ของรัฐอานธรประเทศและพื้นที่ทางเหนือของรัฐทมิฬนาฑู ทางการกำลังอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำไปยังสถานที่ปลอดภัย ขณะนี้ไซโคลนเคลื่อนตัวอยู่ทางตอนกลางค่อนตะวันตกของอ่าวเบงกอล และได้ทวีกำลังแรงขึ้นขณะอยู่ห่างจากเมืองเจนไน เมืองเอกของรัฐทมิฬนาฑูไปทางตะวันออกค่อนตะวันออกเฉียงเหนือ 460 กิโลเมตร

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ไซโคลนเฮเลนจะทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณชายฝั่งรัฐอานธรประเทศตั้งแต่บ่ายวันนี้ บางพื้นที่อาจมีฝนตกมากกว่า 25 เซนติเมตร และจะมีลมแรง 55-75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระแสลมจะแรงขึ้นเป็น 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อไซโคลนขึ้นฝั่ง อาจทำให้หลังคาบ้านและกระท่อมเสียหาย เสาไฟฟ้าและต้นไม้ล้มโค่น นอกจากนี้ยังอาจจะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูง 1-1.5 เมตร ตามพื้นที่ลุ่มต่ำ เรือประมงห้ามออกจากฝั่งเนื่องจากคลื่นลมในทะเลจะรุนแรงถึงรุนแรงมาก.

สำนักข่าวไทย TNA News | 21 พ.ย. 2556 17:37 |

ฟิลิปปินส์จะปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ที่ถูกพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนถล่ม​

​

มะนิลา 21 พ.ย.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ทางการระดับสูงของฟิลิปปินส์ว่า ฟิลิปปินส์มีแผนปลูกป่าชายเลนและป่าชายหาดเป็นระยะทาง 380 กิโลเมตรตามแนวชายฝั่งในพื้นที่ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ซึ่งถูกพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดกระหน่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นายรามอน ปาเจ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของฟิลิปปินส์กล่าวว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนได้ย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมบริเวณชายฝั่ง เพื่อทำให้แนวชายฝั่งเหล่านี้มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติน้อยลง นอกจากนี้ทางกระทรวงกำลังพิจารณาการคืนสภาพแอ่งน้ำที่รัฐบาลให้เช่าซึ่งถูกทิ้งร้างให้เป็นป่าชายเลนเพื่อส่งเสริมการป้องกันตามแนวชายฝั่ง แหล่งทรัพยากรอาหาร และโอกาสในการดำรงชีวิตสำหรับชุมชนตามแนวชายฝั่ง

รายงานระบุว่า อาจมีการปลูกป่าครั้งใหญ่ภายใต้โครงการปลูกป่าแห่งชาติ (เอ็นจีพี) ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ในพื้นที่ชายฝั่งของเมืองและเขตเทศบาลที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนมากที่สุด ซึ่งรวมถึงเมืองทาโคลบาน ดูลัก ในจังหวัดเลย์เต เมืองกีวาน เมืองยอเรนเต และเมืองบาลังกีกาในจังหวัดซามาร์ตะวันออกและพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีพและมีส่วนร่วมในการสร้างกำแพงต้นไม้ป้องกันพายุซัดฝั่ง.

สำนักข่าวไทย TNA News | 21 พ.ย. 2556 10:33 |

ชวนดูดาวหางไอซอน​

​

ก.วิทยาศาสตร์ 21 พ.ย. 56- สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ ชวนคนไทยลุ้นชมดาวหางไอซอน ซึ่งเป็นดาวหางที่สว่างที่สุดในรอบหลายปี ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมนี้

กระทรวงวิทยาศาสตร์และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ แถลงปรากฎการณ์ท้องฟ้าหายาก ที่ผู้คนทั่วโลกรวมทั้งคนไทยจะมีโอกาสได้ชมอีกครั้ง เมื่อดาวหางไอซอน ซึ่งเป็นวัตถุหนึ่งในระบบสุริยะ คือ เป็นก้อนน้ำแข็งสกปรกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 กิโลเมตร จะโคจรพุ่งเฉียดดวงอาทิตย์ใกล้ที่สุดที่ระยะ 1.2 ล้านกิโลเมตรจากผิวดวงอาทิตย์ในวันที่ 28 พฤศจิกายน หรือเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายนตามเวลาประเทศไทย แต่ในช่วงดังกล่าวจะมองไม่เห็นดาวหางเพราะถูกแสงอาทิตย์บดบัง ต้องรอชมในช่วงก่อนเฉียด วันที่ 15-25 พฤศจิกายน และหลังเฉียด วันที่ 3-15 ธันวาคม ในเวลาเช้ามืดก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นประมาณตี 4 ครึ่ง ทางทิศตะวันออก บริเวณกลุ่มดาวหญิงสาว

นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ทั่วประเทศไทย มีโอกาสเห็นได้ด้วยตาเปล่าเป็นริ้วยาวพาดผ่านท้องฟ้า และอาจมองเห็นดาวหางอีก 3 ดวงในเวลาเดียวกันด้วย คือ ดาวหางเลิฟจอย ดาวหางลีเนีย และดาวหางเองเค การมาเยือนของดาวหางไอซอนครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นดาวหางที่สว่างที่สุดในรอบหลายปี และยังเป็นการโคจรเข้ามาในระบบสุริยะเพียงเที่ยวเดียวและจะไม่กลับมาอีก

เป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ที่นักดาราศาสตร์ทั่วโลกเฝ้าจับตามองว่า จะรอดพ้นจากการแตกสลายในช่วงที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดหรือไม่ และจะเป็นโอกาสในการศึกษาด้านดาราศาสตร์ของเยาวชน โดยสามารถเข้าชมและร่วมสังเกตการณ์ปรากฏการณ์นี้ได้ที่หอดูดาวภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ.

สำนักข่าวไทย TNA News | 21 พ.ย. 2556 14:54 |

ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net

 

ดร.อาจอง หวั่นพายุสุริยะรุนแรงปลายปีนี้​

​

ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เผยอาจเกิดพายุสุริยะรุนแรงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า คาดทำให้ระบบสื่อสารขัดข้อง-เกิดไฟดับ

วันนี้ (13 กันยายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ไทย กล่าวถึงแนวโน้มการเกิดปรากฏการณ์พายุสุริยะ ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มอาจเกิดขึ้นในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าและจะทวี ความรุนแรงมากขึ้น โดยพายุสุริยะจะเกิดขึ้นทุก ๆ 11 ปี แต่โอกาสมีทั้งวิ่งพุ่งชนโลกและระเบิดวิ่งผ่านโลกไป ไม่มีใครสามารถทำนายพิกัดและช่วงเวลาการเกิดที่แน่นอนได้

ดร.อาจอง กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลกระทบเมื่อเกิดพายุสุริยะขึ้นจะทำให้ระบบสื่อสารเกิดการขัดข้อง เช่น การควบคุมการบิน ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงไฟฟ้าดับ โดยประเทศไทยถือว่าจะเกิดผลกระทบน้อยกว่าประเทศที่อยู่ทางขั้วโลกเหนือหรือ ใต้ เนื่องจากมีสนามแม่เหล็กที่ช่วยกระจายความรุนแรง แต่หากเกิดรุนแรงมาก เช่น ระดับ 9 ก็เกิดผลกระทบแน่นอน โดยเมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา พายุสุริยะได้ส่งผลให้ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกาเกิดไฟฟ้าดับมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากเกิดปรากฏการณ์พายุสุริยะขึ้นจะรู้ล่วงหน้าไม่เกิน 48 ชั่วโมง ซึ่งอาจต้องมีแผนสำรองในระยะยาวล่วงหน้าอยู่แล้ว เช่น แผงโซลาเซลล์สำรองกระแสไฟฟ้า เป็นต้น

ที่มา www.kapook.com

 

ให้พิจารณาระดับสติปัญญาของเเต่ละคนที่ใช้ในการทำมาหากิน
ไม่เท่ากัน บางคนมองไม่เห็นทางเลือกอื่นจริงๆ ดูคนใกล้ตัวเรา
จะเเปลกใจกับคนบางคนว่าทำไมต้องจับอาชีพเเบบนั้นด้วย

ส่วนเรื่องความรักภักดี คนมีจิตภักดีเป็นคนละส่วนกับการหากิน
ทุกอาชีพมีสิทธิ์รักเเละภักดีต่อใครก็ได้ทีเขาเห็นว่าเป็นผู้ประเสริฐสำ
หรับเขา ณ เวลานั้น

 

​

ผมย้ายมาอยู่ที่เชียงดาว

ขอยืนยันว่าคนไทยใหญ่นับถือองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจริงๆ

ในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ( สงกรานต์ ) ชาวไทยใหญ่จะมาสักการะที่พระสถูปเมืองงาย

 

คนที่ติดคุกในเรือนจำ ถ้าจะชี้ว่าเขาเป็นคนไม่ดี
แต่เห็นเขารักในหลวงกันทั้งนั้น

บางคนทำเลว ทำชั่วก็จริง

แต่ก็ยังรู้ตัวว่า ตนเป็นคนชั่ว คนเลว

และรู้คนดีเขาเป็นกันยังไง

ยังถือว่า มีส่วนดีอยู่บ้าง

มิใช่จะเลวไปเสียทั้งหมด

เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=UaxUS7SnOX8]เสวนาคุรุโหราศาสตร์ เรื่อง "ถอดรหัสดวงเมือง: จากดวงเมืองแตก สู่ดาวหางไอซอน" - YouTube[/ame]

 

ไม่ได้เป็นแต่เพียงแค่เกม แต่มันคือปฏิวัติทางการปกครอง !!!​

​

วันพฤหัสบดีนี้ The Hunger Games ภาคใหม่ ในชื่อ Catching Fire กำลังจะเข้าฉายพอดี ผมเลยถือโอกาสหยิบภาคแรกของหนังเรื่องนี้มาดูเพื่อซึมซับว่า เหตุการณ์ในภาคแรกมีความเป็นมาและเป็นไปอย่างไรบ้าง

ความเป็นจริงสมัยที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ผมเคยอ่าน The Hunger Games ฉบับหนังสือมาบ้าง ถ้าให้ว่ากันตามตรงแล้ว ฉบับนิยายมีความมืดมน ตื่นตาตื่นใจกว่าฉบับภาพยนตร์

แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอะไรมาก เพราะในนิยายมันเป็นโลกในจินตนาการของคนอ่านที่ผ่านการตีความ ตรงนั้นมันเลยเกิดความต่างระหว่างผู้อ่านกับผู้สร้างภาพยนตร์ ที่มีประสบการณ์ในการจินตนาการที่แตกต่างกัน

แต่ผมยอมรับ สิ่งหนึ่งที่ The Hunger Game ฉบับนิยายกับหนังนี้ มีส่วนที่ตรงกันอย่างน่าตกใจ นั่นคือ การแฝงปมทางการเมืองและการปกครองได้อย่างลงตัว ผมแบ่ง The Hunger Game ฉบับหนังโรงไว้เป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกจะเป็นตอนที่เป็นช่วงการปูเรื่องโดยแฝงนัยทางการเมืองไว้ กับส่วนหลังของหนังจะเป็นการแอคชัน บู๊สะบั้นหั่นแหลก

บอกตามตรง ผมว่าช่วงหลังของหนังที่เป็นฉากแอคชัน เป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุดของหนัง ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นไปกับการต่อสู้ที่เดิมพันกันด้วยชีวิตของตัวละครทั้ง 24 ตัวที่อยู่ในหนัง ด้วยความที่การทำฉากต่อสู้ได้ไม่ถึงกึ๋น ประกอบกับคิวบู๊ที่ดูก๊องแก๊ง จนทำให้หนังสนุกแค่ช่วงแรกช่วงเดียวเท่านั้น

ความน่าสนใจในช่วงที่แรกของ The Hunger Games มีความน่าสนใจของหนังอยู่ที่การนำเสนอมุมมองในโลกที่เป็นแบบ Dystopia ได้อย่างถึงกึ๋น ตอนที่ผมนั่งดูฉบับภาพยนตร์อยู่นั้น ความรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังอ่านนิยายอมตะอย่าง 1984 ของ George Orwell ทุกระเบียดนิ้ว

ความรู้สึกที่ว่านั้น เป็นอารมณ์เย็นยะเยือกที่สันหลัง กลัวว่าตัวเรากำลังถูกจับจ้องมองด้วยแววตาของ Big Brother เช่นเดียวกันใน The Hunger Games ก็เหมือนกับว่า ผมกำลังถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพ ถูกมอมเมาให้หลงใหลไปกับการนั่งชมเกมล่าเกมตามความต้องการของผู้นำแห่ง The Capital

เรื่องราวในท้องเรื่อง The Hunger Games มาจากโครงสร้างทางสังคมที่ถูกแบ่งออกเป็น 12 รัฐ ซึ่งทุกรัฐขึ้นตรงกับเมืองหลวง ที่เรียกว่า The Capital ประชนชนของทั้ง 12 รัฐ จะต้องส่งทรัพยากรท้องถิ่นทั้งหมดมายังเมืองหลวง จนคนในพื้นที่ต้องอยู่อย่างแร้นแค้น จนเกิด Gap ระหว่างคนรวย-คนจนอย่างเด่นชัด

สิ่งที่ผมชื่นชนจากการนำเสนอของหนังเรื่องนี้ในพาร์ทแรก อีกประเด็นหนึ่งคือ ตัวละคร extra ที่อยู่ในเมือง The Capital ที่มีการสะท้อนภาพของความฟุ้งเฟ้อ ทั้งในเชิงแฟชัน และชีวิตความเป็นอยู่

ที่สำคัญ The Hunger Games ยังแอบจิกกัดยุคสมัยสังคมในปัจจุบันที่ชื่นชอบการเสพย์ดราม่าผ่านรายการ Reality ที่เป็นที่น่าคลืบคลางแคลงใจว่า มัน ‘Real’ จริงหรือ? เพราะจากในเกมมีความชัดเจนว่า มันมีทั้งการแจกบทบาทให้กับตัวละคร มีการสร้างจุดขายเพื่อให้สปอนเซอร์สนับสนุน (เหมือนกับให้แฟนรายการโหวต sms) การสร้างเรื่องราวความรักแบบรักโปรโมต และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกเหนือจากนี้ The Hunger Games ยังสร้างความมืดหม่นได้ถึงรสถึงชาติด้วยการใช้คำว่า ความหวัง (Hope) เพื่อหลอกใช้คนที่อยู่ใต้อาณัติการปกครอง

อย่างไรก็ตามความสนุกของ The Hunger Games มันอยู่หลังจากนี้ เมื่อทุกอย่างในเรื่องหมุนล้อไปกับการเมืองและการปกครอง หากวันใดวันหนึ่งที่ชนชั้นผู้ถูกปกครองตาสว่าง ไม่อยากอยู่ใต้อำนาจการปกครองของคนเพียงไม่กี่คน วันนั้นจะเกิดการต่อสู้เพื่อหลุดออกจากกับดักทางเสรีภาพ ความรุนแรงจะตามมา

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่าเป็นสิ่งที่ชนชั้นปกครองมองเห็น และรู้ตัวดีว่า มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เกมล่าเกม The Hunger Games จึงเป็นกุศโลบาย เพียงเพื่อชนชั้นผู้ถูกปกครองลืมเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียมจนหมดสิ้น

และฉากสุดท้ายก่อนจบของ The Hunger Games ภาคแรกมันคือการพาตัวเองให้หลุดออกไปจากกรอบของเกม (หรือกรอบของชนชั้นปกครอง; The Capital) หรือถ้าจะเรียกว่า มันเป็นการ “ปฏิวัติ” โดยภาคประชาชนก็ไม่ผิดมากนัก

นี่จึงเป็นสิ่งที่แฝงอยู่ใน The Hunger Games ที่มีนัยทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง

ที่มา [2012] The Hunger Games: ไม่ได้เป็นแต่เพียงแค่เกม แต่มันคือปฏิวัติทางการปกครอง « ภาพ-พา-ยล (Parp-Pa-Yon)

 

มนุษย์ต่างดาวเกี่ยวข้องกับมนุษย์โลกเรามาตั้งนานแล้ว !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=aADC2ZFYhw8&list=PLwm6n0lZk3eOVUBiXemZYhkj7Ut0Btdvy]สารคดี Ancient Aliens - 201 - Mysterious Places (พากย์ไทย) - YouTube[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 24 ก.ย. 2012
สารคดี Ancient Aliens - 201-210 (มี 10 ตอน)
Alien Devastations (พากย์ไทย)​

 

ผมย้ายมาอยู่ที่เชียงดาว

ขอยืนยันว่าคนไทยใหญ่นับถือองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจริงๆ

ในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ( สงกรานต์ ) ชาวไทยใหญ่จะมาสักการะที่พระสถูปเมืองงาย[/QUOTE]

เคยไปไปไชยปราการทางขึ้นไปทางบ้านอรุโณทัย ผ่านวัดอยู่วัดนึงซ้ายมือมีเจดีย์ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้าง ได้คุยกับทางท่านเจ้าอาวาสท่านได้เล่าถึงผู้ปิดทองหลังพระที่ร่วมกู้ชาติกับสมเด็จพระนเรศวร คือบรรดาบรรพบุรุษของพี่น้องชนเผ่าทั้งหลายที่อยู่ตามภูเขาใกล้แนวชายแดนทั้งหลาย ที่ช่วยทั้งนำทาง ซุ่มโจมตี และช่วยในการทำศึกหลายประการ ซึ่งได้พลีชีพไปก็มาก ซึ่งปัจจุบันลูกหลายก็ยังอยู่ในแผ่นดินไทย ในบริเวณภูเขาที่ฝาง เชียงดาว และไชยปราการ และหลายๆ บ้านก็ยังบูชาสมเด็จพระนเรศวรมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

 

น่าสนใจมาก

วงรอบ 18 ปี เคยได้ยินจากท่านภิญโญ
แต่วงรอบ 28 ปี ไม่เคยได้ยิน หรือเคยก็ไม่รู้ ไม่แน่ใจ
ยิ่งวงรอบ 40 ปี ก็ยิ่งไม่เคยได้ยินแน่นอน

 

ชาวบ้านกว่า 4 แสนยังจมน้ำ เวียดรุมสวดเขื่อน 4 แห่งตัวการอุทกภัยครั้งใหญ่​

​

ขณะนี้ที่ไหนๆ ในย่านภาคกลางของประเทศก็ไม่ต่างกันมากนัก ในภาพนี้เป็นอุทกภัยใน จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ซึ่งมีเพียงรถบรรทุกขนาดใหญ่เท่านั้นที่พอจะแล่นบนทางหลวงได้ ในขณะที่ราษฎรใน 2 อำเภอของ จ.กว๋างนาม (Quang Nam) ที่อยู่ถัดลงไปทางใต้กล่าวว่า ทางการปล่อยน้ำจากเขื่อน 4 แห่งในจังหวัดซ้ำเติมสถานการณ์ ทำให้กลายเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา. -- ภาพ: ซเวินเหวียด "ชาวเวียดนาม" ออนไลน์.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ชาวเวียดนามที่ประสบอุทกภัยพากันโกรธเกรี้ยวหน่วยงานของรัฐ ที่ปล่อยน้ำจากเขื่อนหลายแห่งแบบไม่บันยะบันยัง ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในภาคกลางของประเทศ บ้านเรือน ไร่นาของราษฎรจมน้ำมานานข้ามเดือน ถนนหนทางมีน้ำท่วมขัง หลายพื้นที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก สร้างความเสียหายสุดคณานับในขณะนี้

จนถึงวันพุธ 20 พ.ย. ตัวเลขอย่างเป็นทางการจำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเป็น 41 คน กับอีก 5 คนสูญหาย บ้านเรือนกว่า 400,000 ครอบครัว ในหลายจังหวัดยังจมน้ำ หลายท้องถิ่นน้ำยังท่วมสูงถึงหลังคา ซเวินเหวียดออนไลน์ สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยมรายงงาน

สถานการณ์รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นใน จ.กว๋างนาม (Quang Nam) ซึ่งเขื่อนหลายแห่งที่เร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย. ซเวินเหวียด หรือ “ชาวเวียดนาม” กล่าว

“ความเสียหายต่างๆ ทั้งหมดเกิดจากเขื่อนปล่อยน้ำลงมาซ้ำเติม” นายเลจี๊เติบ (Le Tri Tap) อดีตประธานคณะกรรมการปกครอง (ผู้ว่าราชการจังหวัด) จ.กว๋างนาม ซึ่งอยู่ในตำแหน่งในช่วงปีที่มีการก่อสร้างเขื่อน จำนวน 2 แห่ง กล่าวกับซเวินเหวียด

เขื่อนใน จ.กว๋างนาม สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความแห้งแล้งกับป้องกันน้ำท่วม แต่ไม่มีเขื่อนแห่งไหนประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ ปัจจุบัน ต่างมุ่งผลิตไฟฟ้า มุ่งทำเงินเป็นหลักโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ล่างลงไป นายจี๊เติบกล่าว

เจ้าหน้าที่จังหวัดนี้กล่าวว่า ในช่วง 3 วันดังกล่าว เขื่อนดั๊กหมี่โครงการ 4 (Dak Mi 4) และ 4A ในท้องที่ อ.เฟื้อกเซิน (Phuoc Son) เพียงแห่งเดียวปล่อยน้ำออกจากอ่างในอัตรา 2,744 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่กรมวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้ออกมาปฏิเสธ

ในช่วงเดียวกันที่มีฝนตกหนัก เขื่อนซงแจง 2 (Song Tranh 2) กับเขื่อนซงบุง (Song Bung) ได้ปล่อยน้ำลงสมทบทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในท้องที่หลายอำเภอของจังหวัดนี้ ร้อยละ 80 ของประชากรจังหวัดได้รับผลกระทบ ประชาชนกว่า 12,000 คน ต้องอพยพจากพื้นที่ ซเวินเหวียด กล่าว

แต่กรมความปลอดภัยวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมฯ โต้แย้งว่า เขื่อนทั้ง 4 แห่งดังกล่าว ไม่สามารถทำให้เกิดน้ำท่วมสูงขนาดนั้นได้

“นายสี” (Xi) ราษฎรอาวุโสชาว อ.ฝูนีง (Phu Ninh) จ.กว๋างนาม กล่าวว่า เมื่อกว่า 10 ปี หรือ 20 ปีก่อน ที่นั่นเคยมีฝนตกหนักวัดได้กว่า 1,000 มิลลิเมตร แต่ระดับน้ำท่วมสูงจะค่อยๆ ลดลงจนหมดไปภายใน 7-8 ชั่วโมง ประชาชนไม่เคยความเดือดร้อนสาหัสเช่นปัจจุบัน

นายโด๋กวางเซิน (Do Quang Son) อธิบดีกรมความปลอดภัยฯ กล่าวว่า ในฤดูฝนของทุกปีเขื่อนต่างๆ จะทยอยระบายน้ำออกจากอ่างจนแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. เพื่อให้น้ำในอ่างอยู่ในระดับที่ปลอดภัย และยังมีปริมาณมากพอเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า และเพื่อการการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง

จ.กว๋างนาม อยู่ในเขตรอยเลื่อนของเปลือกโลก เขื่อนซงแจง 2 เคยเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากเกิดรอยร้าวหลายแห่งหลังจากเกิดแผ่นดินไหวระดับต่ำ และปานกลางหลายระลอก จนต้องหยุดการปั่นไฟลงชั่วคราว และเร่งระบายน้ำออกเพื่อทำการซ่อมแซม

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ราษฎรหลายพันคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ล่างลงไปหวาดผวาอกสั่นขวัญหาย จำนวนมากต้องอพยพออกจากหมู่บ้าน พาครอบครัวไปอาศัยอยู่ในเมือง หรือไปพึ่งพาญาติๆ ในต่างอำเภอที่ปลอดภัยในกรณีที่เขื่อนพังทลาย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมฯ กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างจากจีนได้ซ่อมแซมเขื่อนแห่งนี้จนหยุดรั่วซึม และเริ่มเก็บสะสมน้ำอีกครั้งหนึ่งในช่วงฤดูฝนปีนี้

ภาคกลางเวียดนามมีเขื่อนใหญ่น้อยกว่าสิบแห่ง สื่อของทางการรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่ารัฐบาลได้สั่งระงับไปราว 300 โครงการหลังการศึกษาพบว่าไม่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม เขื่อนส่วนใหญ่ทำลายผืนป่าต้นน้ำอันอุดมของประเทศ

ตามรายงานของสื่อทางการ หลายจังหวัดในภาคกลางของประเทศ ตั้งแต่เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) ลงไปจนถึง จ.บี่งดีง (Binh Dinh) ประสบอุทกภัยครั้งรุนแรง ทางการกล่าวว่าใน จ.กว๋างนาม เป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางเวียดนามแจ้งเตือนก่อนหน้านี้ว่า ดีเปรสชันซอไรดา (Zoraida) ที่พัดเข้าฝั่งสัปดาห์ต้นเดือนนี้ จะทำให้ฝนตกครอบคลุมตั้งแต่ภาคกลางลงไปจนถึงตอนใต้สุดของประเทศ ทั้งเตือนให้หลายจังหวัดเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

การเปลี่ยนแลงของสภาพภูมิอากาศในช่วงที่ผ่านมาได้ซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก เมื่อมวลอากาศเย็นที่เคลื่อนตัวลงไปจากตอนเหนือได้เคลื่อนลงไปปะทะกับมวลความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องจนถึงขณะนี้.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2556 17:14 น.

ที่มา www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000144938

 

อนิจจา ...
จริงๆแล้วมันไม่ยากอะไร ที่โลกจะสงบสุข ภัยพิบัติจะลดลง และเราๆท่านๆจะอยู่กันอย่างผาสุขกันมากขึ้น
"ก็แค่เอาศีลเอาธรรมมานำชีวิต ยกใจขึ้นให้เหนือน้ำ คือให้ใจอยู่เหนือความโลภ ความโกรธ ความหลง"
รักษาน้ำใจกันเป็นแกนกลาง ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา "ทำกันทันทีทั้งโลก โลกก็สงบกันในทันที"
กลับมาอยู่กับบ้านคือลมหายใจเรา กลับมาอยู่กับสภาพแวดล้อมของการให้ เริ่มจากให้รอยยิ้มที่จริงใจ
และความสามัคคี ที่เป็นไปด้วยความเคารพและอ่อนน้อมต่อกัน กลับมาค้นหาความสุขจากข้างในกันให้มาก
วางเครื่องมือเครื่องไม้ลงกันเสียบ้าง แล้วหันมาเข้าใจตน การหยิบจับเครื่องมือเครื่องไม้ในครั้งต่อๆไปก็จะดีขึ้น
จะรู้ขึ้นว่านี้เครื่องมือนี่วัตถุ ส่วนนี่จิตนี่ใจ ใจนี้ควรเป็นนายของเครื่องมือและวัตถุ ไม่ใช่เครื่องมือและวัตถุจะมาเป็นนายของจิตของใจนะ ...

แต่นี่มันโลก ยากมากจริงๆ เพราะคนไม่เหมือนกันเท่าไรเลย ... และตัวอย่างที่ดีมีไม่มากนัก แต่ก็ยังพอมีให้เห็นกันได้ชัดเจนอยู่
และตัวอย่างที่ดีที่มีไม่มากนักนั้น ก็มีผู้สนใจทำตามน้อยมาก ... จึงว่า อนิจจา ...

โผล่มาในโลกเลือกทำอะไรๆได้ ก็ต้องทำในขณะนี้แหล่ะ ก็จะได้ผลในขณะนี้ ...


ปล. ความเห็นส่วนตัวครับ


... "รักกันใว้มากๆนะครับ เราพี่น้องกัน ร่วมเกิดร่วมตาย อยู่ในสัจจะธรรมเดียวกันทั้งนั้น" ...

... ^^ ...

 

3-4 เดือนหลังจากนี้ บ้านเมืองจะเข้าสู่จุดพลิกผันเปลี่ยนแปลง !!!​

​

ซินแสภาณุวัฒน์ เตือน "ปู" กำลังดวงตก จ่อเข้าเคราะห์หนัก มี.ค. 2557 ส่วน "ทักษิณ" ถ้ายังไม่เลิก จะไม่มีโลกให้อยู่

นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิต แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ดวงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังเข้าสู่ขาลง ซึ่งหากพิจารณาตามหลักโหงวเฮ้งจะเห็นได้ชัดว่าในปี 2556 ดวงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินอยู่ที่แก้ม ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีแก้มที่สวยตามหลัก แต่ในปี 2557 ดวงจะเคลื่อนไปเดินอยู่ที่ปลายจมูก ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีปลายจมูกบานทั้ง 2 ข้าง ตามหลักแล้วนับว่าไม่สวย จะตกต่ำลงเรื่อยๆ

“ดวงคุณยิ่งลักษณ์ มีลักษณะเดียวกับตอนที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี และหากดูตามปีเกิดแล้ว คุณยิ่งลักษณ์เกิดปีมะแม ซึ่งจะเข้าเคราะห์หนักในปี 2557 ช่วงเดือน มี.ค.” ซินแสภาณุวัฒน์กล่าว

สำหรับดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดปีฉลูนั้น ในปี 2556 เป็นปีที่เกื้อหนุนจึงกล้าก่อการต่างๆ แต่ในปี 2557 จะตรงกันข้าม โดยจะเข้าเคราะห์หนักช่วงเดือน เม.ย. และจะหนักที่สุดในปี 2558

“ผมเคยพูดไว้ตั้งแต่ปี 2546 ว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่หยุดจะไม่มีแผ่นดินอยู่ มาถึงตอนนี้แล้วเป็นไง ผมขอบอกไว้ว่าถ้ายังไม่หยุด ต่อไปจะถึงขั้นไม่มีโลกให้อยู่” ซินแสภาณุวัฒน์กล่าว

นายภาณุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ภายใน 3-4 เดือนหลังจากนี้ บ้านเมืองจะเข้าสู่จุดพลิกผันเปลี่ยนแปลง และขอเตือนไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ช่วงนี้ให้อยู่นิ่งๆ เกิดอะไรขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ควรให้คนอื่นดำเนินการแทน ปล่อยให้คนอื่นบริหารประเทศไปก่อน

โพสต์ทูเดย์ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา 15:51 น.

ที่มา ข่าว ข่าววันนี้ ข่าวเด่น ข่าวด่วน ข่าวโพสต์ทูเดย์

 

หลุมยุบ
ที่บอสเนีย สดๆร้อนๆ 17/11/2013

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/mGmH7F9alus" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

กระบี่คลื่นลมแรงซัดเรือพังอื้อ-นักท่องเที่ยวติดเกาะ 19 คน​

​

กระบี่ 23 พ.ย.-ปภ.กระบี่ เผยหย่อมความกดอากาศต่ำได้เคลื่อนลงมาในทะเลอันดามัน ทำให้มีฝนตก ลมแรง และเกิดคลื่นซัดเรือพังจำนวนมาก และมีนักท่องเที่ยวติดเกาะ 19 คน

นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้หย่อมความกดอากาศต่ำได้เคลื่อนลงมาในทะเลอันดามันแล้ว ทำให้ตลอดเเนวชายฝั่งอันดามันมีฝนตกและลมแรงในหลายพื้นที่ และเกิดคลื่นซัดชายฝั่งหลายจุด เบื้องต้นพบว่าที่เกาะพีพีมีเรือถูกคลื่นซัดได้รับเสียหายจำนวน 21 ลำ เป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ 200 ที่นั่ง 1 ลำ เรือหางยาว 15 ลำ เรือสปีดโบท 5 ลำ ส่วนที่อ่าวน้ำเมา เรือหางยาวเสียหาย 13 ลำ และที่หาดคลองม่วง มีเรือจม 1 ลำ และที่อ่าวไร่เล 1 ลำ

นอกจากนี้คลื่นลมแรงยังทำให้เรือโดยสารไม่สามารออกจากฝั่งได้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวติดอยู่ที่เกาะห้องจำนวน 19 คน ลูกเรืออีก 3 คน รวม 22 คน เนื่องจากเรือโดยสารได้รับความเสียหาย ขณะนี้ตำรวจน้ำและศูนย์กู้ภัยเจ้าฟ้าเร่งนำเรือไปรับผู้โดยสารกลับขึ้นฝั่งที่ท่าเรืออ่าวท่าเลนแล้ว.

สำนักข่าวไทย TNA News | 23 พ.ย. 2556 18:29

น้ำป่าหลากเข้าท่วมเขตเทศบาลท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี​

​

สุราษฎร์ธานี 23 พ.ย.-น้ำป่าจากเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ไหลล้นอ่างเก็บน้ำคลองพา เข้าท่วมชุมชนในเขตเทศบาลตำบลท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี แล้ว และมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเย็นวันนี้

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี น้ำป่าจากเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ได้ไหลหลากลงอ่างเก็บน้ำคลองพา ม.5 ต.คลองพา จนเอ่อล้นข้ามสันเขื่อนลงสู่ชุมชนด้านล่าง และเข้าท่วมตลาดท่าชนะตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันนี้ ระดับน้ำสูงประมาณ 60 ซม. และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กระแสน้ำยังไหลเข้าท่วมถนนสายคลองพา-ห้างพิมาน บริเวณ กม.ที่ 9 บ้านกลาง และถนนเชื่อม ต.คลองพา กับ ต.คันธุลี ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้

สำหรับ อ.ท่าชนะ เป็นพื้นที่รับน้ำจากภูเขาฝั่งตะวันตก โดยน้ำจากคลองพา ต.คลองพา คลองหินโฉ ต.ประสงค์ และน้ำจาก อ.ละแม จ.ชุมพร จะไหลมารวมกันที่คลองท่ากระจาย ม.4 ต.คลองพา และไหลผ่านตัวชุมชนเขตเทศบาลตำบลท่าชนะ ก่อนระบายลงสู่ทะเล

ด้านนายชุมพล สุกไส นายอำเภอท่าชนะ กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บน้ำคลองพาจะส่งผลให้ตัว อ.ท่าชนะ และเขตเทศบาลตำบลท่าชนะ ถูกน้ำท่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ประชาชนเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และระมัดระวังเรื่องกระแสไฟฟ้า พร้อมติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเย็นถึงค่ำวันนี้ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาในช่วง 3 วันก่อน มีปริมาณรวมกันมากกว่า 300 มิลลิเมตร

สำนักข่าวไทย TNA News | 23 พ.ย. 2556 15:28 |

เทศบาลนครศรีฯ กันจุดสำคัญเต็มที่ 5 คลองหลัก รับน้ำสมทบ​

​

นครศรีธรรมราช 22 พ.ย.- สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ล่าสุดน้ำป่าได้ไหลทะลักท่วมถนนสายหลัก นครศรีธรรมราช-ร่อนพิบูลย์ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม สูง 40-50 เซนติเมตร การจราจรติดขัดอย่างหนัก

โดยน้ำดังกล่าวจะไหลไปยังพื้นที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชซึ่งขณะนี้มีบางชุมชนน้ำท่วมแล้ว ซึ่ง ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เร่งอำนวยการทำงานเจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณคลองสายหลัก 5 สาย ได้แก่ คลองคูพาย , คลองป่าเหล้า , คลองสวนหลวง , คลองหน้าเมือง และคลองราเมศวร์ เพื่อเตรียมรับมวลน้ำที่จะไหลเข้าจุดสำคัญเขตเทศบาลนครฯ

ด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เตือนประชาชนทั้งจังหวัดเตือนป้องกันน้ำท่วม เพราะคาดว่าน้ำจากเทือกเขาหลวงและคลองท่าดี อ.ลาสกาจะไหลมาสมทบค่ำนี้ อีกทั้งฝนยังตกหนักเกือบทุกพื้นที่.

สำนักข่าวไทย TNA News | 22 พ.ย. 2556 17:52 |

ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net

 

ชุมพรพายุฝนถล่มบ้านพัง 100 หลัง-ต้นยางโค่นกว่าพันไร่​

​

ชุมพร 23 พ.ย.-ชุมพรฝนตกหนัก เกิดพายุหมุนพัดบ้านเรือนพังเสียหายนับร้อยหลัง ต้นยางหักโค่นกว่า 1,000 ไร่ ใน อ.ปะทิว ส่วนที่ อ.ทุ่งตะโก เกิดน้ำป่าหลากท่วมถนนสายเอเชีย 41 ช่องทางขาขึ้นกรุงเทพฯ 2 จุด ด้าน รพ.หลังสวน ถูกน้ำป่าหลากท่วมสูง 50 ซม. แต่ยังเปิดให้การบริการได้ตามปกติ

นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร นายภราดร ศรีชลธาร นายก อบต.ปากคลอง อ.ปะทิว พร้อมเจ้าหน้าที่ ออกตรวจสอบเหตุพายุฝนพัดถล่มที่หมู่บ้านน้ำพุ หมู่ 5 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว มีบ้านเรือนราษฎรพังเสียหาย และต้นยางพาราหักโค่นล้มจำนวนมาก จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเกิดฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนมีรัศมีเป็นวงกว้างประมาณ 1 กม. ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนใน ต.ปากคลอง และ ต.เขาไชยราช เสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน ต้นยางพาราโค่นล้มกว่า 1,000 ไร่ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังออกช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

ส่วนที่หมู่ 4 ต.ช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนสายเอเชีย 41 ในช่องทางขาขึ้น กทม. ระดับน้ำสูง 80 ซม. เป็นระยะทางเกือบ 1 กม. และอีกจุดที่บริเวณหลัก กม. ที่ 53-54 ถนนสายเอเชีย 41 ในช่องทางขาขึ้น กทม. หน้า สภ.ทุ่งตะโก เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรในช่องทางขาขึ้น ให้รถทุกชนิดไปใช้เส้นทางขาล่องใต้ โดยให้รถวิ่งสวนทางกัน

นอกจากนี้ที่ รพ.หลังสวน อ.หลังสวน ริมถนนสายเอเชีย 41 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบริเวณหน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม. ส่งผลให้รถขนาดเล็กไม่สามารถเข้าไปใน รพ.หลังสวนได้ ส่วนบริเวณรอบๆ โรงพยาบาล น้ำท่วมสูงถึงเข่า ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นไปอย่างทุลักทุเล

ด้าน นพ.นฤมิตร เกียรติกำจร ผอ.รพ.หลังสวน ได้ประสานจังหวัดทหารบกชุมพรนำกำลังทหารจำนวน 25 นาย เพื่อเตรียมการอพยพคนไข้ รวมถึงเครื่องมือทางการแพทย์ที่อาจถูกน้ำท่วมไปไว้ในที่ปลอดภัย แต่ทางโรงพยาบาลยังคงเปิดให้บริการตามปกติ.

สำนักข่าวไทย TNA News | 23 พ.ย. 2556 18:42 |

น้ำป่าทะลักเทศบาลเมืองประจวบฯ ท่วมรอบที่ 7​

​

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ย. - น้ำป่าทะลักท่วมหลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 3 เดือน ระดับน้ำสูง 50-70 ซม.

สถานการณ์ฝนตกสะสมมาหลายวันใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย.) น้ำป่าเทือกเขาตะนาวศรีไหลบ่าท่วมบ้านเรือนเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์หลายพื้นที่ โดยเฉพาะชุมชนมะขามไฟลน ถ.เกาะหลัก ถูกน้ำท่วมต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 3 เดือน ขณะที่ ถ.สุขสมบูรณ์ และ ถ.ประจวบศิริ ระดับน้ำสูง 50-70 เซนติเมตร ระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร รวมถึง ถ.หนองขาม ด้านหน้าสถานีวิทยุ อสมท และบ้านพักครูโรงเรียนกิตติคุณ และมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ริมถนนประจวบศิริ ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม. เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ลุ่มต่ำ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นผิวการจราจร และจัดเจ้าหน้าที่ห้ามรถเล็กผ่านเส้นทางดังกล่าว

นายเกรียงไกร ไกรทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะฝนยังตกต่อเนื่อง ประกอบกับปริมาณน้ำมีมาก ทำให้ระบายไม่ทัน นอกจากนี้ น้ำป่ายังไหลเข้าท่วมถนนในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อ่าวน้อย และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย.

สำนักข่าวไทย TNA News | 24 พ.ย. 2556 10:59 |

ประจวบฯ โกลาหลตะปูเรือใบเกลื่อนเพชรเกษม​

​

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ย.- ถนนเพชรเกษม เขตประจวบฯ เปิดสัญจรได้แล้ว หลังเกิดความโกลาหลตะปูเรือใบเกลื่อนเพชรเกษมขาขึ้น กทม.รถยางแตกกว่า 100 คัน รถติดยาวหลายสิบกิโลเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการณ์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (24 พ.ย.) เกิดความวุ่นวายบนถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม.ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีรถยนต์จำนวนมาก ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ และรถยนต์บรรทุก รวมถึงรถบัสโดยสารถูกตะปูเรือใบยางแตกเสียหาย ไม่สามารถเดินทางได้ต้องจอดรถข้างทางเพื่อเปลี่ยนยาง บางคันประสบอุบัติเหตุหลังยางแตก เคราะห์ดีไม่มีผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยในแต่ละอำเภอเร่งตรวจสอบเส้นทาง

ที่ อ.เมือง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประจวบธรรมสถานตรวจสอบบถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ พบรถยนต์ประสบอุบัติเหตุจากยางแตกถูกตะปูเรือใบกว่า 20 คัน ขณะที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธีธรรมสถานสามร้อยยอดพบรถยนต์ถูกตะปูเรือใบกว่า 100 คัน และมีรายงานว่าบางคันกระจกแตกจากลูกเหล็กที่ใช้ยิงจากหนังสติ๊กช่วง อ.ทับสะแก และ อ.สามร้อยยอด ไม่สามารถสัญจรได้ทั้งขาขึ้นและขาล่องนาน 1 ชั่วโมง บริเวณจุดกลับรถด้านหน้ากองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายพระมงกุฎเกล้า (กก.ตชด.ที่ 14) ต.ห้วยทราย อ.เมือง รถติดยาวกว่า 20 กิโลเมตร ท่ามกลางฝนตกหนักตลอดเวลา ขณะที่ร้านปะยางไม่เปิดบริการ และส่วนหนึ่งต้องออกไปบริการตามจุดที่เกิดปัญหา จึงเกิดความล่าช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังเร่งช่วยเหลือเคลียร์เส้นทางและเปิดได้ตามปกติเมื่อเวลา 04.00 น.

นายสุวิวัฒน์ พรหมมา รองหัวหน้าหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน กล่าวว่า จุดที่พบตะปูเรือใบจำนวนมากเป็นถนนสายบายพาสปราณบุรีมุ่งหน้า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุและมีรถประสบเหตุยางแตกกว่า 30 คัน ตั้งแต่ กม.ที่ 46-กม.ที่ 23 ซึ่งรถยนต์ทั้งหมดถูกตะปูเรือใบเป็นเหล็กขนาด 2 หุน ยาวประมาณ 3 นิ้ว เหมือนกันทั้งหมด กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีเพื่อหวังผลทางการเมือง และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ถือเป็นการกระทำที่ขาดความสำนึก เพราะอาจทำให้รถยนต์ประสบอุบัติเหตุรุนแรงได้.

สำนักข่าวไทย TNA News | 24 พ.ย. 2556 11:16 |

ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net

 

แผ่นดินแยก..แตกเป็นสอง..ปกครองยาก !!!​

​

“อภิสิทธิ์” เรียกร้องนายกฯ ทบทวนเพื่อไทยไม่รับอำนาจศาล รธน.

พรรคประชาธิปัตย์ 22 พ.ย.-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.เพื่อไทย ทบทวนท่าทีประกาศไม่รับอำนาจศาล รธน. เตรียมยื่นถอดถอนและดำเนินคดี ส.ส.และ ส.ว.ที่ผลักดันร่างกฎหมายในสัปดาห์หน้า ย้ำการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้อง 3 วัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำ และ ส.ส.พรรค แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรค โดยระบุว่า ขอประณามพรรคเพื่อไทยที่มีทัศนคติไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่คำวินิจฉัยของศาลอ้างหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยทบทวนการทำหน้าที่และแสดงความรับผิดชอบ

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคได้รวบรวมเอกสารและเตรียมยกร่างคำร้องถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่กระทำผิดรัฐธรรมนูญและผิดทางอาญา ทั้งผู้ที่เสนอร่าง ลงมติ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว. และจะยื่นภายในต้นสัปดาห์หน้า

ส่วนกรณีที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เสนอให้หยิบยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 291 มาลงมติในวาระ 3 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ควรนำเรื่องนี้มาเบี่ยงเบนประเด็น เพราะถือเป็นการประกาศที่ท้าทายอำนาจศาล

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขณะนี้พรรคมีความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยได้กำชับให้ ส.ส.ที่มีหน้าที่อภิปรายเตรียมข้อมูลให้พร้อม และย้ำว่าจะต้องใช้เวลา 3 วันในการอภิปราย

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่วิปรัฐบาลกำหนดเวลาให้ 2 วัน เป็นการแสดงให้เห็นว่าพยายามสร้างเงื่อนไขที่ต้องการสกัดญัตติของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังจะให้ส่งเอกสารสำเนาคำร้องถอดถอนภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งมองว่าเป็นเพียงเหตุผลเพื่อต้องการแอบอ้างและซื้อเวลา การที่ประธานสภาฯ บรรจุญัตติเข้าระเบียบวาระ ก็ถือว่าขั้นตอนสมบูรณ์แล้ว รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ

สำนักข่าวไทย TNA News | 22 พ.ย. 2556 19:07 |

ที่มา “อภิสิทธิ์” เรียกร้องนายกฯ ทบทวนเพื่อไทยไม่รับอำนาจศาล รธน. | MCOT.net | MCOT.net

 

เกิดแผ่นดินไหว 6.5 ริกเตอร์ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก​

​

มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ 23 พ.ย.- สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ หรือยูเอสจีเอส เปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.5 ริกเตอร์ในแถบตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกในวันนี้

ศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวแห่งชาติของยูเอสจีเอส ระบุว่าแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.48 น. ตามเวลาในไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองไนอาฟู ของตองกา ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือค่อนไปทางตะวันตก 322 กม. และอยู่ห่างจากเมืองลัมบาซา ของฟิจิ ไปทางตะวันออก 438 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิแถบแปซิฟิกไม่ได้ออกคำเตือนการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ โดยให้เหตุผลว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดินอย่างมาก.

สำนักข่าวไทย TNA News | 23 พ.ย. 2556 16:34 |

เกิดแผ่นดินไหว 5.5 ริกเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเช้านี้​

​

ปักกิ่ง 23 พ.ย.- สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐเปิดผยว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 ริกเตอร์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในเช้าวันนี้ ที่ระดับความลึก 12.5 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นจากเมืองฉางหลิง ในมณฑลจี๋หลิน ออกไปทางเหนือ 34 กิโลเมตร เมื่อเวลา 06.04 น. ตามเวลาท้องถิ่น สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐคาดว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายบ้าง แต่มีโอกาสน้อยที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้.

สำนักข่าวไทย TNA News | 23 พ.ย. 2556 10:05 |

การประชุมสภาพภูมิอากาศยูเอ็นที่โปแลนด์ยังไม่ได้ข้อสรุป​

​

วอร์ซอ 23 พ.ย.-การประชุมการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่กรุงวอร์ซอของโปแลนด์ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แม้ล่วงเลยกำหนดปิดการประชุมในเวลา 17.00 น. วันศุกร์ตามเวลามาตรฐานสากล หรือเที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาในไทย

นายมาร์จิน โคโรเลช รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมโปแลนด์ ในฐานะประธานการประชุมแถลงในวันนี้ว่า จะไม่มีการบังคับฝืนใจผู้ร่วมประชุม และยังเร็วเกินไปที่จะกำหนดเวลาปิดประชุม อย่างไรก็ดี จะมีการหารืออย่างเป็นทางการในเวลา 09.00 น. วันนี้ตามเวลาโปแลนด์ ตรงกับเวลา 15.00 น. วันนี้ตามเวลาในไทย เพื่อหาทางออก

ตัวแทนชาติยากจนและร่ำรวยกว่า 190 ประเทศ ถกเถียงกันมาตั้งแต่การประชุมเริ่มขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายนว่า แต่ละฝ่ายจะต้องร่วมรับผิดชอบอย่างไรต่อเป้าหมายของยูเอ็นในการจำกัดไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส จากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ก่อนหน้านี้ทุกประเทศตกลงแล้วว่าจะลงนามข้อตกลงที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสภายในปี 2558 และมีผลบังคับใช้ในปี 2563 เรื่องกำหนดให้ทุกประเทศต้องจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของยูเอ็น

นอกจากนี้ที่ประชุมยังถกเถียงกันเรื่องเงินช่วยเหลือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศกำลังพัฒนายืนกรานให้ประเทศพัฒนาแล้วทำตามที่รับปากว่าจะเพิ่มเงินช่วยเหลือจากปีละ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 310,000 ล้านบาท) ช่วงปี 2553-2555 เป็น 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.1 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2563 แต่ประเทศพัฒนาแล้วซึ่งเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจยังสงวนท่าทีอยู่.

สำนักข่าวไทย TNA News | 23 พ.ย. 2556 16:38 |

สหรัฐกังวลจีนกำหนดเขตทางอากาศใหม่ พร้อมประกาศปกป้องญี่ปุ่น​

​

เจนีวา 24 พ.ย. - ทางการสหรัฐแถลงว่า สหรัฐกังวลอย่างยิ่งและจะปกป้องญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ ภายหลังจีนประกาศเขตทางอากาศใหม่ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งรวมถึงหมู่เกาะที่อ้างสิทธิทับซ้อนกับญี่ปุ่น

แถลงการณ์ของนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ต่างแสดงความวิตกอย่างยิ่งต่อความเคลื่อนไหวของจีน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องอันตรายมากในการกำหนดเขตทางอากาศใหม่ที่ครอบคลุมถึงหมู่เกาะที่ญี่ปุ่นดูแลอยู่ จึงถือเป็นภัยคุกคามทางอากาศและเป็นการกระทำเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้น ท่าทีที่คุกคามขึ้นจะยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาค และเสี่ยงเกิดเหตุขัดแย้งตามมา สหรัฐจึงขอเรียกร้องให้จีนดำเนินการอย่างระมัดระวัง และไม่ควรใช้เขตทางอากาศใหม่ ซึ่งมีผลให้จีนสามารถลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าในหมู่เกาะที่มีข้อพิพาทกับญี่ปุ่นได้.

สำนักข่าวไทย TNA News | 24 พ.ย. 2556 09:26 |

 

เขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน มหันตภัยใหญ่ของประเทศไทย !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=P4FRO1eYdgQ#t=92]China's Mega Dam 2006 Discovery Channel Documentary - YouTube[/ame]
รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะพัฒนาเขื่อนบนแม่น้ำโขงกว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบันได้สร้างเสร็จและดำเนินการแล้ว 2 แห่งได้แก่เขื่อนม่านวาน สร้างเสร็จในปี 2539 ขนาด 1,550 เมกะวัตต์ และเขื่อนต้าเฉาชาน สร้างเสร็จในปี 2546 ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 เขื่อนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่เขื่อนเสี่ยววาน คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2555 ขนาด 4,200 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2553 ขนาด 1,750 เมกะวัตต์

รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะพัฒนาเขื่อนบนแม่น้ำโขงกว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบันได้สร้างเสร็จและดำเนินการแล้ว 2 แห่งได้แก่เขื่อนม่านวาน สร้างเสร็จในปี 2539 ขนาด 1,550 เมกะวัตต์ และเขื่อนต้าเฉาชาน สร้างเสร็จในปี 2546 ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 เขื่อนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่เขื่อนเสี่ยววาน คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2555 ขนาด 4,200 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2553 ขนาด 1,750 เมกะวัตต์

เขื่อนจิงหงนี้ก็คือเขื่อนที่ตั้งอยู่ที่เมื่องจิงหง หรือเชียงรุ่ง ในแคว้นสิบสองปันนา ซึ่งเดิมรัฐบาลจีนจะสร้างขึ้นเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่ประเทศไทยเพราะมีระยะทางห่างจากชายแดนไทยเพียง 280 กิโลเมตร แต่เนื่องจากนโยบายของไทยขาดความชัดเจน รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจเดินหน้าในการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองในประเทศจีน และหากต่อไปประเทศไทยยังมีความต้องการจะซื้อไฟฟ้าจากจีนจำนวน 3,000 เมกะวัตต์ตามข้อตกลง รัฐบาลจีนก็จะพัฒนาเขื่อนอื่นเพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้ไทยต่อไป

ที่มา เขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน มหันตภัยใหญ่ของประเทศไทย | ลุ่มน้ำภาคเหนือ

หนุมาน ผู้นำสาร สมาชิก

ปริมาณน้ำในโลกมากขึ้น
เกิดปฏิกิริยาใต้โลกมากขึ้น
เปลือกโลกขยับมากขึ้น
แม่น้ำโขงไม่ปลอดภัย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
05-02-2013, 05:16 PM

ที่มา http://palungjit.org/threads/เคยมีใ...ยวกับน้ำท่วมใหญ่ในไทย.310136/page-2?langid=34

 

ก่อนคิดถึงเรื่องน้ำท่วมใหญ่คิดถึงภัยแล้งก่อนเถอะครับ เล่นกันแบบนี้เห็นแก่ตัวชัดๆ หน้าแล้งประเทศท้ายเขื่อนก็แย่กันไปตามๆๆกัน