ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

น้ำท่วมอัฟกานิสถาน-ปากีสถาน ยอดตายพุ่งกว่า 160 ศพ​

​

ยอดผู้เสียชีวิตจาเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในอัฟกานิสถานและปากีสถาน พุ่งเป็นมากกว่า 160 คนแล้ว และบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายร้อยหลัง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ว่า น้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากฝนตกหนักผิดปกติทั่วอัฟกานิสถานและปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 160 คนแล้วในขณะนี้ และยังมีประชาชนอีกจำนวนมากติดอยู่ในหลายพื้นที่ห่างไกลโดยไม่มีที่อยู่อาศัย อาหาร หรือไฟฟ้าในหนึ่งในประเทศที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดของเอเชียใต้ในปีนี้ โดยชาวอัฟกานิสถานที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขาได้รับความเสียหายหนักที่สุด มีผู้เสียชีวิตมากถึง 61 คน และบ้านเรือนที่สร้างด้วยดินเสียหายประมาณ 500 หลัง หลังจากน้ำท่วมหมู่บ้านมากกว่า 10 แห่งในเมืองซาโรบี พื้นที่ชนบทเดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ถึงกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน

ส่วนในจังหวัดนูรีสถาน ทางตะวันออกของประเทศ มีบ้านเรือนอย่างน้อย 60 หลังได้รับความเสียหายใน 3 อำเภอ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ในบางหมู่บ้าน เนื่องจากถนนเข้าสู่หมู่บ้านถูกควบคุมโดยกลุ่มตาลีบัน นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 24 คนใน 2 จังหวัดพรมแดนทางตะวันออกของประเทศ คือจังหวัดโกสต์ และนันการ์ฮาร์

เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2556 เวลา 19:21 น.

จีน-รัสเซีย ห้ามนำเข้านมจากนิวซีแลนด์แล้ว​

​

จีนและรัสเซียห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจากนิวซีแลนด์แล้ว เนื่องจากหวาดกลัวการเกิดโรคโบทูลิซึม หรือโรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งกำลังส่งทบกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการค้าของนิวซีแลนด์

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลนิวซีแลนด์ เปิดเผยวันนี้ว่า ความหวาดกลัวว่าจะเกิดโรคโบทูลิซึม หรือโรคอาหารเป็นพิษ ทำให้จีนและรัสเซีย ยกเลิกการนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจากนิวซีแลนด์แล้ว ซึ่งปัญหาดังกล่าวกำลังกัดกร่อนชื่อเสียงของประเทศ ในฐานะที่เป็นประเทศผู้ผลิตอาหารที่มีความปลอดภัย และคุณภาพสูง

ฟอนเทียรา บริษัทผลิตนมยักษ์ใหญ่ของนิวซีแลนด์ ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า นมผงเลี้ยงเด็กหลายร้อยตัน, เครื่องบำรุงกำลังนักกีฬา และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่วางขายใน 7 ประเทศ อาจปนเปื้อนหลังจากตรวจพบเชื้อแบกทีเรียใน ผลิตภัณฑ์โปรตีนเวย์เข้มข้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคโบทูลิซึม

คำสั่งห้ามนำเข้าในรัสเซียและจีน ได้ขยายออกล่วงเลยไปมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ตกเป็นเป้าหมายในการเรียกคืนในขณะนี้แล้ว

ทั้งนี้ การส่งออกผลิตภัณฑ์และสินค้าเกษตรอื่น ๆ ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ และจีนก็เป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ ถือเป็นภัยคุกคามอย่างรุนแรงต่อการค้าของนิวซีแลนด์ จนรัฐบาลต้องตั้งเจ้าหน้าที่ 60 คนทำงานเพื่อแก้ปัญหาความตื่นกลัวเรื่องโรคโบทูลิซึม

บริษัทฟอนเทียรา เป็นบริษัทผลิตนมใหญ่อันดับ 4 ของโลก มีรายได้ต่อปีประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2556 เวลา 19:00 น.

ซีอีโอ "ฟอนเทียรา" ขอโทษเรื่องวิกฤตนมผงปนเปื้อน​

​

ซีอีโอของบริษัท "ฟอนเทียรา" ยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตภัณฑ์อาหารนมโลกจากนิวซีแลนด์ แถลงขอโทษสาธารณชนกรณีการปนเปื้อนของแบคทีเรียในนมผง ที่อาจทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษร้ายแรงถึงแก่ชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่าบริษัท "ฟอนเทียรา" ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารนมอันดับ 4 ของโลกและอันดับ 1 ของนิวซีแลนด์ออกมาขอโทษประชาชนทั่วโลกเป็นครั้งแรก หลังเกิดกรณีอื้อฉาวพบการปนเปื้อนของแบคทีเรียในนมผงที่อาจทำให้เกิดโรค "โบทูลิซึม" พร้อมกับยืนยันว่า ไม่เคยมีเจตนาปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นายเธโอ สเปียริงส์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของฟอนเทียรา แถลงที่กรุงปักกิ่ง แสดงความเสียใจและขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคน จากเหตุการณ์ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกไปทั่วโลก และจะไม่ขอแก้ตัวใดๆ เนื่องจากบริษัทเข้าใจและตระหนักดีว่า ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป พ่อแม่ทั่วโลกที่มีลูกอยู่ในวัยทารกย่อมต้องเกิดความกังวลและหมดความเชื่อถือในตัวสินค้าของฟอนเทียรา

อย่างไรก็ตาม สเปียริงส์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์ ผู้นำนิวซีแลนด์ ซึ่งกล่าวตำหนิบริษัทอย่างรุนแรง ว่าขาดสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคม เนื่องจากมีรายงานเผยว่า ฟอนเทียราตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เดือนพ.ค. ปีที่แล้ว แต่กลับชะล่าใจไม่แจ้งให้ทางการทราบ และปล่อยให้เหตุการณ์ล่วงเลยจนบานปลายกลายเป็นการเรียกคืนสินค้าครั้งใหญ่ ซึ่งทำลายชื่อเสียงของประเทศอย่างรุนแรง

โดยผู้บริหารสูงสุดของฟอนเทียรายืนยันว่า บริษัทเร่งแจ้งให้ภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องทุกรายทราบทันทีภายใน 24 ชั่วโมง หลังผลการวิเคราะห์เพิ่งออกมาจากห้องทดลองเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ระบุชัดถึงการปนเปื้อนของแบคทีเรียในโปรตีนเวย์เข้มข้น ( ดับเบิลยูพีเอส ) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในนมผงและเครื่องดื่มบำรุงกำลังหลายชนิด ไม่ใช่ตั้งแต่ปีที่แล้วตามที่มีข่าวออกมาแต่อย่างใด

ส่วนมาตรการในระยะเริ่มต้นของบริษัท คือการหยุดจำหน่ายและเรียกเก็บสินค้าต้องสงสัยทั้งหมด และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทางการนิวซีแลนด์ ในการตรวจสอบขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์ของฟอนเทียรา เพื่อค้นหาต้นตอของปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด

เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2556 เวลา 13:42 น

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ตำหนิผู้อื่นทุกวัน...เป็นเหตุให้ตกนรก !!!​

​

ไม่ว่าจะถูกหรือผิด จิตมีปฏิฆะมากย่อมไปอบาย เป็นคำสอนของพระรูปหนึ่ง จากคำบอกเล่าของท่านหนึ่ง เห็นว่าน่าสนใจเลยนำมาฝากไว้ให้ท่านทั้งหลายได้ขบคิดกัน...

"นักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย อย่าได้ประมาทไปทำความชั่วเล็กๆ น้อยๆ โดยไปตำหนิกรรมผู้อื่น ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้

โดยสรุปคือ...ถ้าเราไม่ระวังความคิด ระวังกายกรรม ไปตำหนิกรรมผู้อื่นไปเรื่อยๆ โดยประมาทว่า เราเองก็ทำความดี ทำกรรมฐานประจำอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นไรมั๊ง แต่ถ้าประมาท สร้างกรรมคิดตำหนิ กล่าววาจาตำหนิกรรมผู้อื่น ก็จะเป็นอาจิณกรรม มีอำนาจในจิตมีกำลังแรงกว่ากำลังกรรมฐาน เวลาตายอำนาจอาจิณกรรมด้านชั่วนี้ก็พาจิตตกอเวจีมหานรกได้

ผู้ปฏิบัติธรรมที่ไม่ประมาทตามคำสอนพุทธองค์จึงควร ตั้งใจไว้เสมอทุกวัน ทุกเช้า ว่าเราจะใช้สติระวังความคิดตลอดทั้งวัน ไม่ให้ไปคิดชั่ว พูดชั่ว ตำหนิกรรมผู้อื่น ถ้าเค้าทำไม่ถูก ก็อย่าไปตำหนิด้วยความเกลียดชัง แต่ให้ใช้หลักคิดเมตตาสงสาร ว่าถ้าเค้ายังเป็นแบบนั้นอยู่ ก็น่าสงสารยิ่ง เพราะเป็นการสร้างอกุศลกรรมเป็นอาจิณนำเค้าไปสู่อเวจีมหานรกได้ เราพึงหวังดีว่า วันนึงเค้าคงคิดได้ เค้าจะได้รอดพ้นภัยในวัฏสงสาร ไปสู่พระนิพพานได้ในที่สุด

ถ้าของหยาบแค่นี้ เราทำไม่ได้ การปฏิบัติกรรมฐานก็จะไม่มีผล เพราะอารมณ์ใจเราไม่มีความประณีต ละเอียดพอที่จะเข้าถึงภูมิธรรมสูง ๆ ขึ้นจากการทำสมถะวิปัสสนาได้"

***********************************************

เมื่อได้อ่านแล้วเห็นว่า....ผลแห่งการอนุโมทนาบาป หรือการมีปฏิฆะ ความขัดเคือง ไม่พอใจ อยู่ในกระแสจิตเสมอ ๆ สามารถทำให้ตกนรกได้ ทั้งยังเป็นการผูกเวร จอเวรแก่กันและกันอีก เมื่อยังไม่หมดเชื้อ ยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก หากต้องโคจรมาพบกัน จะทำให้มีแต่ความไม่พอใจ และจองล้างจองผลาญกันไม่จบสิ้น

เมื่อพิจารณาแล้ว ท่านทั้งหลายที่สนใจการเมืองอยู่ในขณะนี้ โปรดอย่าลืมหลักปฏิบัติในการปฏิบัติจิต หลักของพระโยคาวจร ที่ผู้ปรารถนาการพ้นทุกข์ว่าควรรักษาใจอย่างไร หากอยากจะทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน แสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าความร้อนเท่านั้นที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ โปรดระลึกเสมอว่าการแก้ปัญหาด้วยความร้อน ย่อมมีแต่การพินาศย่อยยับ แต่หากแก้ปัญหาด้วยปัญญา ด้วยธรรมนำหน้าอย่างแท้จริง ย่อมได้รับชัยชนะทั้งด้านรูปธรรม และนามธรรม

การแสดงออกทางการเมืองตามหน้าที่ของประชาชนคนไทย เป็นสิทธิที่จะสามารถทำได้ เป็นสิ่งถูกต้อง การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมาก่อนประโยชน์ส่วนตน ก็เป็นแนวทางของพระโพธิสัตว์ ช่วยคนอื่นก่อนช่วยเหลือตนเอง หากจะเดินอยู่ในทางสายนี้ ก็อย่าลืมเดินบนแนวทางแห่งบารมี คือ

1.) ทานะ หรือการเสียสละ
2.) บนพื้นฐานของศีล ไม่สร้างความเดือดร้อนกายใจของใคร
3.) เนกขัมมะ ออกจากเรือนทั้งเรือนครัว เรือนกาย ด้วยสมาธิจิต
4.) ปัญญานำหน้าอารมณ์เสมอ
5.) เพียร พยายาม วิริยะไม่ท้อถอย เลิกลาเสียก่อนสำเร็จ
6.) อดทนรอผลแห่งชัยชนะได้
7.) มีสัจจะในการแก้ปัญหา
8.) อธิษฐาน จิตตั้งมั่น ยกจิตขึ้นเหนือเครื่องฉุดยึดทั้งปวง
9.) บนหลักเมตตา ไม่คิดทำร้าย ทำลายใคร แม้แต่ตนเอง
10.) อุเบกขา วางเฉยได้

จำไว้เสมอว่าอกุศลกรรม 10 กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 นำท่านสู่อบายเสมอ เมื่อสร้างกรรมนี้เป็นอาจิณ จนกำลังมันมากกว่าฝ่ายกุศลกรรม ต้องสำรวจจิตของท่านให้ดีนะครับอย่าให้ชินกับจิตปฏิฆะ จนจิตท่านใกล้เคียงกับเดรัจฉาน อสุรกาย สัตว์นรกเข้าไปทุกที ๆ
_______________________________________________

ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง ๒๐ ชั้นพรหมโลก ๖ ชั้นเทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง ๔ มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ และสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งที่เป็นมิตร และศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ขอให้ทุกรูปทุกนามจงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้มีเวรซึ่งกัน และกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกัน และกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนามจงโมทนาในส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ.กาลบัดนี้ด้วยเทอญ

โดย..Nong_ChiangMai

วันที่ 28/02/2553

ที่มา ตำหนิผู้อื่นทุกวัน...เป็นเหตุให้ตกนรก - มีคำตอบ - กูรู

 

Love and Light !!!​

​

mead สมาชิก

SaLuSa in Love and Light

มีหลายสิ่งที่ถูกเร่งขึ้นในความเป็นจริงของคุณ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หนึ่งของสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของคุณ ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความตระหนักรู้อย่างเต็มรูปแบบกำลังดำเนินไปตามแผน เราอยู่ที่นี่เพื่อเตือนคุณถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และอื่นๆที่เกิดขึ้น จนกว่าคุณจะสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อกับตัวตนที่สูงขึ้นไปของคุณและทั้งหมดที่คุณมี

เราจะช่วยให้คุณจดจำวิธีการใช้งาน และสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งหมด ขณะนี้ข้อมูลความรู้เหล่านี้ได้ไหลผ่านไปยังคุณ เพื่อที่จะพูดถึงกันในส่วนย่อย แต่เมื่อคุณมาถึงระดับที่จำเป็นของความตระหนักรู้ คุณจะต้องเชื่อมต่ออย่างเต็มที่กับแหล่งที่มาของความรู้ทั้งหมดที่มีอยู่ กับความตระหนักรู้อันถาวร

กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ จะดำเนินต่อไปจนกว่าคุณจะกลับคืนสู่ต้นกำเนิด ด้วยการปรับความเร็วเทียบกับการเลื่อนระดับของพระแม่ธรณีกับคุณ ในอาณาจักรที่สูงขึ้นไปนั้น "เวลา"ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญไปกว่าวิธีการหรือหนทางที่คุณจะใช้มัน "บทเรียน" ต่างหากที่มีความสำคัญยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณจะเรียนรู้ จนกว่าคุณจะเข้าใจมัน มิเช่นนั้นแล้วคุณไม่จะไม่สามารถเคลื่อนต่อไปได้

สำหรับบางท่านในวันนี้ อาจจะเกิดความเครียดและไม่สบายกาย เพราะการเพิ่มปริมาณมากขึ้นของแสงสว่างและความรักที่ถูกส่งมาที่โลก แม้แต่ปัญหาในใจเก่าแก่ที่ซ่อนอยู่ในความสนใจของคุณ ดังที่เรากล่าวไว้ก่อนแล้วว่า ให้ดูแลรักษาพวกเขาด้วยความรักและความเห็นอกเห็นใจ เพราะพวกเขายังคงอยู่ และคุณเองก็ได้เลือกที่จะทำความสะอาดพวกเขาในช่วงชีวิตนี้ เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป

ไม่มีอะไรมากไปที่เขาจะยืนอยู่ในกระบวนการของคุณ อย่าลืมรักตัวเองและใช้เวลาตลอดทั้งวันอย่างน้อยก็ช่วงพักสั้นๆ เพื่อเข้าสู่โลกภายในของคุณ ซึ่งเราไม่สามารถเน้นได้มากพอ จนกว่าคุณจะพบด้วยตัวคุณเอง ว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะช่วยคุณได้มากที่สุด ในกระบวนการของการเปลี่ยนแปลง มันมีความสำคัญที่จะอยู่ในสถานะแห่งความสงบของจิตใจ

เพราะคุณสามารถจะได้ยินคำแนะนำอย่างชัดเจนจากตัวของคุณเอง โดยปราศจากการแทรกแซงใดๆ เสียงนั้นจะดังชัดเจนเข้าไปในใจของคุณอย่างปราศจากข้อสงสัย ไม่ว่าคุณจะกระวนกระวายและเหนื่อยเพียงใด เหล่านี้เป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ ที่คุณสามารถชาร์ทพลังงานใหม่ที่สดใสได้ และจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์จากมุมมองของคุณ

พวกเราเห็นแล้วว่า คุณหลายๆคนก็มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ใช้ไปกับช่วงเวลาที่ฝ่านมา พวกคุณถูกปล่อยให้ตกเป็นเชลยของภาพลวงตานี้มายาวนานพอแล้ว เร็วๆนี้ คุณจะรู้สึก และได้มองดูการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ในชีวิต คุณทั้งหมดจะถูกปลดปล่อยออกจากภาพลวงตาในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า และมันจะเกิดขึ้น เมื่อพวกเขาพร้อม ไม่เร็ว-ไม่ช้า

เราจะคอยเตือนคุณถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงของคุณอย่างเป็นอิสระ ดังนั้น คุณแต่ละคนจะเคลื่อนย้ายไปตามทางเลือกของคุณเอง แม่พระธรณีเลือกที่จะ "รอ" สำหรับทุกลูกๆคนของเธอ ที่มีความเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับการดูแล สำหรับผู้ที่มีความสอดคล้องกับการสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น ที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่ดินแดนที่สูงขึ้น และดำเนินการต่อไปสำหรับการเรียนรู้ของพวกเขา กับการตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้า

พวกเขาจะนำดินแดนที่สูงกว่ามาให้คุณได้ใกล้ชิดทั้งหมด ตราบเท่าที่คุณจะสามารถที่จะเชื่อมต่อกับ "ประสบการณ์ใหม่" เหล่านี้ได้ เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงสภาวะของความตระหนักรู้ และตอนนี้หากหลายสิ่งเริ่มต้นที่จะเคลื่อนย้ายได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ เรายังคงมีการปรับเปลี่ยนความเร็วของการทำงานของเรา ที่จะต้องให้สอดคล้องกับความต้องการของการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับการร้องขอเช่นกัน

ผม SaLuSa จากซิริอุส และผมมีความสุขมากที่พวกคุณหลายคนยังได้รับข้อความของเรา เรายินดีที่ได้แบ่งปันความสุขของคุณ เมื่อพบว่าคุณสามารถได้ยินคำแนะนำของคุณเอง ใครก็ตามที่ทำได้ เพราะนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว และในไม่ช้าคุณจะรู้สึกถึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับทั้งหมด และหากคุณไม่ได้รู้สึกถึงมันล่ะก็ ขอจงอยู่ในความสงบ และความรู้สึกรักอันยิ่งใหญ่จะถูกส่งไปถึงยังทุกท่าน

แปลโดย : Mead
ที่มา : http://www.ascensionearth2012.org/20...-madad_30.html

 

6 ส.ค. 56 ตั้งรับ

ศิษย์สายฮ่มภะ มาซื้อของที่ร้านได้สอบถามเรื่องอนาคตและแลกเปลี่ยนสัญญาณ เขาเล่าให้ฟังว่า หมอหลวงเครียดเพราะเจ้านายให้เตรียมเวชภัณฑ์คอยช่วยเหลือคนอยู๋กรุงเทพฯไม่ให้หนีช่วงน้ำมา

เขายังเล่าให้ฟังว่า ได้ฝันเห็นความสูงของน้ำท่วมชั้นล่างทั้งชั้น

ครูบาสายอื่นก็สร้างพระพุทธรูปไปตรึงไว้รอบประเทศ

เคอิสรา

 

6 ส.ค. 56

เที่ยวก่อนเจอหมอหลวงได้ถามทองม้วนขายได้หรือยัง? (ราคาก่อนถามอยู่ที่ประมาณสามหมื่นมิลเลี่ยน ช่วงถามเหลือประมาณหมื่นมิลเลี่ยน)ช่วงถามยังไม่ก้าวหน้า

ช่วงนี้ เจ้านายให้รอช่วยคน ถ้าเจอจะถามว่าต้องการกำลังพลไหม? จะได้แนะนำชมรมแจ้งข่าวดอนเมืองให้เขามีกำลังคนและรถ เรือ จะได้ช่วยกันได้เต็มที่

คู่เขยคนกลางก็เป็นสมาชิกชมรม สมัยที่เป็นลูกน้องเก่าทั้งพี่ทั้งน้องชายปากและใจไม่ค่อยอยู่สุข ก็โดนกันคนละหลายดอกจากสิ่งที่มองไม่เห็น ตอนหลังก็ขยาดไม่กล้ามาช่วยทำงาน

เคอิสรา

 

บทสวด สัจจะกิริยาคาถา พร้อมคำแปล

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี
พุทโธ เม สะระณัง วะรัง, พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยการกล่าวคำจริงนี้
โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา. ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี
ธัมโม เม สะระณัง วะรัง, พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยการกล่าวคำจริงนี้
โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา. ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี
สังโฆ เม สะระณัง วะรัง, พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยการกล่าวคำจริงนี้
โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา. ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

บทนี้สำคัญว่า ที่สวดไปแปลว่าอะไรและเข้าใจไหม

 

แถลงการณ์"ยูเอ็น"คัดค้านนิรโทษกรรมตัวการสั่งฆ่า 90 ศพ​

​

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องรัฐสภาไทยห้ามออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผู้มีอำนาจที่สั่งสลายการชุมนุมปี53 เพราะเป็นผู้ที่ละเมิด สิทธิมนุษชนอย่างร้ายแรง

สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า น.ส.เซซิล พูอิลลี โฆษกหญิงของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แถลงว่า ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งกำลังจะเข้าที่ประชุมสภาในสัปดาห์นี้อาจเป็นการลดโทษให้กับบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่มิชอบในระหว่างการใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2553

โฆษกหญิงของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยควรจะต้องแน่ใจว่า การนิรโทษกรรมใดๆก็ตาม จะต้องไม่รวมไปถึงผู้ที่จะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้มาตรการเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว และรัฐบาลไทยจะสร้างเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญ หากยังปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนของไทยเอง รวมถึงคุมตัวผู้ที่ต้องรับผิดชอบการเสียชีวิตของประชาชน 90 คนและบาดเจ็บอีกนับพันคนในระหว่างชุมนุมประท้วงดังกล่าว

เดลินิวส์ วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2556 เวลา 21:30 น.

สหรัฐสั่งอพยพพลเมืองออกจากเยเมน​

​

รัฐบาลสหรัฐออกคำสั่งด่วนให้เจ้าหน้าที่ทูตระดับล่างและพลเมืองอเมริกันทุกคนเดินทางออกจากเยเมนให้เร็วที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าหวั่นเกรงเกี่ยวกับการเตรียมเปิดฉากโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่าทางการสหรัฐออกคำสั่งด่วนอพยพเจ้าหน้าที่ทูตระดับล่างและชาวอเมริกันออกจากเยเมน "เร็วที่สุด" ท่ามกลางบรรยากาศอันตึงเครียดและน่าหวาดกลัวเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์

ใจความสำคัญในประกาศเตือนภัยก่อการร้ายทั่วโลกฉบับล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุถึงการเร่งอพยพเจ้าหน้าที่ทูตระดับล่างของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงซานา และพลเมืองอเมริกันทุกคนที่อาศัยอยู่ในเยเมน ให้เดินทางออกนอกประเทศทันทีหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับเตือนว่า สถานการณ์ในเยเมนอยู่ในขั้นที่ไม่อาจไว้วางใจได้อีกต่อไป

ประกาศของวอชิงตันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังอากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) ของกองทัพสหรัฐสามารถปลิดชีพผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มอัล-กออิดะห์ 4 คน ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อต้องสงสัยของรัฐบาลเยเมนด้วย ยิ่งสร้างความหวั่นเกรงว่า อาจเป็นการเติมเชื้อไฟให้กลุ่มอัล-กออิดะห์ลงมือเร็วขึ้น

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ "เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส" ฉบับวันจันทร์ ระบุว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐสามารถดักสัญญาณวิทยุ สัญญาณโทรศัพท์ และข้อมูลจากอีเมล ที่เป็นการสื่อสารระหว่างนายไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี หัวหน้ากลุ่มอัล-กออิดะห์ กับนายนาสเซอร์ อัล-วาฮิชี หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายแห่งคาบสมุทรอาระเบีย ( เอคิวเอพี ) ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในเยเมน โดยอัล-ซาวาฮิรีต้องการให้สมาชิกในเยเมนลงมือทำ "บางสิ่ง" ให้เกิดขึ้น "ทันที" ยิ่งเป็นการตอกย้ำและเพิ่มน้ำหนักให้กับกระแสข่าวการเตรียมก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่ของกลุ่มอัล-กออิดะห์

เดลินิวส์ วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2556 เวลา 16:34 น.

อังกฤษเอาบ้างอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากเยเมน​

​

อังกฤษสั่งถอนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากสถานทูตของตนในเยเมนตามสหรัฐแล้ว หลังการเตือนภัยครั้งใหม่ของสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า รัฐบาลอังกฤษ แถลงเมื่อวันอังคารว่า ได้ถอนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากสถานทูตของตนในเยเมนแล้ว หลังจากสหรัฐสั่งอพยพเจ้าหน้าที่และพลเมืองของตน ออกจากประเทศนี้ หลังจากประกาศเตือนภัยก่อการร้ายทั่วโลก โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า เนื่องจากมีความกังวลด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น อังกฤษจึงสั่งถอนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในสถานทูตในเยเมน ออกไปชั่วคราว และสถานทูตจะยังคงปิดจนกว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้

ทั้งนี้ อังกฤษก็เป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกหลายประเทศที่ปิดสถานทูตของตนเมื่อสุดสัปดาห์ หลังจากสหรัฐเตือนการโจมตีจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ อังกฤษจึงประกาศถอนเจ้าหน้าที่บางส่วนด้วย โดยในการเตือนภัยครั้งใหม่ สหรัฐสั่งให้ชาวอเมริกันเดินทางออกจากเยเมนทันที และถอนเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ไม่มีหน้าที่สำคัญทั้งหมดออกไป คำเตือนครั้งนี้ เชื่อมโยงกับการดักจับสัญญาณการสื่อสารกันระหว่างนายไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี ผู้นำอัลกออิดะห์ และนายนาสเซอร์ อัล-วูเฮย์ชี ผู้นำของกลุ่มก่อการร้ายในเยเมน

เดิมที อังกฤษปิดสถานทูตของตนในกรุงซานา เฉพาะวันอาทิตย์และวันจันทร์เท่านั้น แต่แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า จะขยายการปิดไปจนสิ้นสุดเทศกาลอีดิลฟิตรี ในปลายสัปดาห์นี้

เดลินิวส์ วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2556 เวลา 17:32 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

จีนผวาหวัดนกเอช7เอ็น9 แพร่จากคนสู่คนครั้งแรก​

​

จีนหวาดผวาหวัดนกเอช7เอ็น9 แพร่จากคนสู่คนครั้งแรก หลังพบผู้ป่วยเป็นชายชราเสียชีวิต จากนั้นลูกสาวที่ดูแลพ่อมาร่วมสัปดาห์ ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ทั้งที่เธอไม่ได้สัมผัสสัตว์ปีกเลย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ว่า บรรดานักวิทยาศาสตร์จีนรายงานถึงความเป็นไปได้ที่อาจมีผู้ป่วยรายแรก ซึ่งมาจากการแพร่เชื้อของไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช7เอ็น9 จากคนสู่คนโดยตรง หลังจากไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 40 ราย นับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา โดยทีมวิทยาศาสตร์จีนเขียนลงบีเอ็นเจ.ดอท คอม วารสารออนไลน์ของอังกฤษว่า มีการพัฒนาที่น่าวิตกและเรากำลังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า ไวรัสตัวนี้ ยังคงไม่สามารถแพร่เชื้อระหว่างคนด้วยกันในตอนนี้ เพียงแต่แพร่เชื้อจากสัตว์ปีกสู่มนุษย์

นายชาง-จุน เบ๋า นักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งมณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสหวัดนกสายพันธุ์เอช7เอ็น9ในจีน กล่าวว่า ประชาชนอย่าเพิ่งไปแตกตื่น เพราะไวรัสตัวนี้ยังไม่ร้ายแรงถึงขึ้นแพร่ระบาดจากคนสู่คน แต่นักวิทยาศาสตร์หวาดหวั่นมานานว่า ไวรัสเอช7เอ็น9 จะกลายพันธุ์ ทำให้การแพร่ระบาดจากคนสู่คนง่ายขึ้น โดยจากการศึกษารอบใหม่ นายเบ๋าและทีมงานระบุถึงกรณีของชายชราวัย 60 ปี ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังติดเชื้อไวรัสเอช7เอ็น9 และเขายังได้แพร่เชื้อให้แก่ลูกสาว ซึ่งต่อมาลูกสาววัย 32 ปี ที่ดูแลพ่อที่ป่วยมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเช่นกัน และเธอไม่ได้รับเชื้อไวรัสจากสัตว์ปีกโดยตรง ทำให้ทีมวิจัยสรุปว่า คำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือ เธอได้รับเชื้อไวรัสจากพ่อ ซึ่งติดเชื้อมาจากตลาดค้าสัตว์ปีก รายงานระบุต่อไปว่า แม้ปรากฏหลักฐานการแพร่เชื้อโดยตรงระหว่างคนสู่คน แต่การติดต่อของไวรัสเอช7เอ็น9 ยังคงมีข้อจำกัดและไม่ยาวนาน

เดลินิวส์ วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556 เวลา 13:16 น.

แผ่นดินไหว 5.1 ริคเตอร์ เขย่าเม็กซิโก​

​

เกิดแผ่นดินไหว 5.1 ริคเตอร์ ทางใต้ของเม็กซิโก ประชาชนแตกตื่นวิ่งหนีออกจากอาคาร แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า เกิดแผ่นดินไหว 5.1 ริคเตอร์กระหน่ำพื้นที่ทางใต้ของเม็กซิโกเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทำให้อาคารหลายแห่งในเมืองหลวงเม็กซิโกสั่นไหว แม้ห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหวหลายร้อยกิโลเมตรก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ แผ่นดินไหวล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.17 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 03.17 น.ตามเวลาในไทยของวันพุธ ในรัฐเกร์เรโรใกล้เมืองโซชิสลาฮัวก้า ติดชายฝั่งแปซิฟิก

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ไม่ไกลจากพรมแดนที่ติดกับรัฐโอเอซากา และห่างจากกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ราว 300 กิโลเมตร นายมิกูเอล แองเจล แมนเซรา นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโก ซิตี้ บอกว่า เบื้องต้นยังไม่มีความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ แต่ประชาชนในเมืองหลวงตื่นตระหนกวิ่งหนีออกจากอาคารไปรวมกันตามถนนหลายสาย ส่วนในรัฐเกร์เรโรกับรัฐโอเอซากา มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับแผ่นดินไหวผ่านทางสถานีวิทยุและเครื่องขยายเสียง ทำให้มีการอพยพประชาชนออกจากตึกหลายแห่ง แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือเสียชีวิตเช่นกัน

เดลินิวส์ วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556 เวลา 10:01 น.

แผ่นดินไหววานูอาตู 6.0 ริคเตอร์​

​

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.0 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะวานูอาตูในเขตมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ แต่ไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง วัดได้ 6.0 ริคเตอร์ เมื่อเวลา 04.21 น.เช้าวันพุธที่ 7 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 00.21 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 31 กม. ห่างจากกรุงพอร์ตวิลา เมืองหลวงของวานูอาตู 136 กม. และ ห่างลงมาทางทิศใต้ 84 กม.จากเมืองลาคาโตโร ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งชั่วโมง ได้มีแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.9 ริคเตอร์ ห่างออกมา 94 กม.จากเมืองลาคาโตโร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 3 กม.เท่านั้น แต่ไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด

แผ่นดินไหวเกิดขึ้นใกล้กับวานูอาตูนั้นเกิดขึ้นเป็นปกติ แต่ที่รุนแรงวัดได้ 6.8 ริคเตอร์ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โชคดีที่ไม่ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิแต่อย่างใด

วานูอาตูตั้งอยู่ในเขตวงแหวนไฟแห่งแปซิฟิก จุดที่แผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกับ จึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดขึ้นบ่อยครั้ง

เดลินิวส์ วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556 เวลา 03:08 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

8 ส.ค. 56

เมื่อวานได้คุยกับหนึ่งในชมรมแจ้งข่าวดอนเมืองว่า ถ้ามีหมอที่เตรียมเวชภัณฑ์เอาไว้ช่วยเหลือในยามฉุกเฉินและอยากให้ทางชมรมช่วยประสานงานจะได้หรือไม่และติดต่อได้ที่ไหน? เขาบอกยินดีและให้ติดต่อได้ที่ร้านอาหารที่ตัวเองทำอยู่

ต้องรอพบหมอหลวงเพื่อที่จะถามว่าทางหมอมีทีมหรือยัง? จะได้ให้พบกันเพื่อประสานช่วยเหลือคนต่อไป

เคอิสรา

 

ผู้นำสหรัฐชี้อัล-กออิดะห์กำลังจะเป็นฝ่ายแพ้​

​

"โอบามา" มั่นใจกลุ่มก่อการร้าย "อัล-กออิดะห์" จะเป็นฝ่ายปราชัย แต่ยอมรับคำขู่โขมตีครั้งใหม่มีมูลมากพอ จนทำให้ต้องปิดสถานทูตในตะวันออกกลาง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากฐานทัพนาวิกโยธิน "เพนเดิลตัน" รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ เผยว่ากลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์กำลังจะพ่ายแพ้ แต่ยอมรับว่ากระแสข่าวเรื่องการโจมตีครั้งใหม่มีน้ำหนักมากจนทำให้วอชิงตันไม่อาจวางใจได้ จนต้องปิดทำการสถานเอกอัครราชทูตของตัวเองในพื้นที่เสี่ยง

โอบามาขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้านาวิกโยธินราว 3,000นาย ซึ่งประจำการอยู่ภายในฐานทัพเพนเดิลตัน ว่าผู้นำระดับสูงของกลุ่มอัล-กออิดะห์ที่กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในปากีสถานและอัฟกานิสถานกำลังจะพบกับความปราชัยในไม่ช้า ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามและทุ่มเทของนาวิกโยธินทุกนายที่นั่งอยู่ ณ ที่นี่ และที่กำลังประจำการอยู่ในต่างแดน

อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐยอมรับว่ากระแสข่าวเกี่ยวกับ "คำขู่" ของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในระยะนี้นั้น มีน้ำหนักและความน่าเชื่อถืออย่างมาก ทำให้เกิดความเป็นไปได้ว่าจะมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นจริง ซึ่งสหรัฐต้องจับตาและติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพื่อหาทางปกป้องเจ้าหน้าที่และพลเมืองอเมริกันทุกคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ก่อนปิดท้ายว่า สหรัฐจะไม่มีทางเป็นฝ่ายยอมแพ้ในสงครามกับกลุ่มหัวรุนแรง

ท่าทีของโอบามามีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่รัฐบาลเยเมนออกมาเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนการณ์ของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ที่เตรียมการโจมตีท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของบริษัทตะวันตกในเยเมน ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลสหรัฐในเยเมนรวมอยู่ในรายชื่อสำนักงาน 19 แห่งที่วอชิงตันสั่งปิดทำการไปจนถึงวันที่ 10 ส.ค. นี้ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2556 เวลา 10:42 น.

เพราะเหตุใดเครือข่ายอัล-กออิดะห์ในเยเมนจึงน่ากลัว​

​

ทำความรู้จักกับกลุ่มอัล-กออิดะห์ในเยเมน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สหรัฐและอังกฤษสั่งอพยพประชาชนของตนกลับประเทศ ท่ามกลางกระแสข่าวกี่ยวกับการก่อการโจมตีใหญ่ของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดไปทั่วทั้งภูมิภาค

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า ณ เวลานี้หน่วยข่าวกรองของสหรัฐทุกแห่งกำลังวุ่นอยู่กับการตีความข้อมูลที่ได้มาจากการดักสัญญาณสื่อสารภายในระหว่างนายไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ กับเครือข่ายในเยเมน ซึ่งทำให้วอชิงตันตัดสินใจขยายเวลาปิดสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของตัวเองในพื้นที่เสี่ยงจนถึงสุดสัปดาห์นี้ พร้อมกับส่งเครื่องบินทหารมารับเจ้าหน้าที่ทูตระดับล่างและพลเมืองของตนกลับประเทศ ขณะที่อังกฤษอพยพเจ้าหน้าที่ทูตและประชาชนของตนทั้งหมด

แม้เนื้อหาของการสื่อสารจะไม่ระบุถึงสถานที่ในการลงมือ แต่การติดต่อกับสมาชิกในเยเมนบ่อยครั้งจนผิดปกติในระยะหลัง ก่อให้เกิดความหวั่นเกรงว่า เยเมนอาจคือ “เป้าหมาย” ของปฏิบัติการในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายกลุ่มอัล-กออิดะห์ในเยเมนไม่ได้มีความสำคัญในลำดับต้น หากเทียบโครงสร้างในภาพรวมขององค์กรที่นายโอซามา บิน ลาเดนเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น แต่เพราะเหตุใด สหรัฐ อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตร จึงหวาดกลัวกลุ่มอัล-กออิดะห์ในเยเมนนัก

“กลุ่มก่อการร้ายแห่งคาบสมุทรอาระเบีย” ( เอคิวเอพี ) คือชื่อเต็มอย่างเป็นทางการของเครือข่ายกลุ่มอัล-กออิดะห์ในเยเมน มีนายนาสเซอร์ อัล-วาฮิชี เป็นหัวหน้า ซึ่งชายผู้นี้ยังดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้ากลุ่มอัล-กออิดะห์ด้วย มี “ผลงาน” ให้เป็นที่รู้จักในภูมิภาค จากการสร้างความวุ่นวายไล่ตั้งแต่ในซีเรียไปจนถึงอิรัก และการจัดทำสื่อออนไลน์เพื่อปลุกระดมกลุ่มนักรบจีฮัดในตะวันออกกลาง

ทว่าตอนนี้สหรัฐกลับยกให้เอคิวเอพีเป็นเครือข่ายของกลุ่มอัล-กออิดะห์ที่น่ากลัวและอันตรายที่สุด เนื่องจากความสามารถชั้นสูงในการประกอบวัตถุระเบิดที่มีฝีมือชนิดหาตัวจับได้ยาก แม้จะใช้วัสดุธรรมดาก็ตาม นอกจากนี้ เอคิวเอพียังเป็นกลุ่มที่อัล-ซาวาฮิรีค่อนข้างจะให้ความ “เอ็นดู” เป็นพิเศษ และสมาชิกระดับสูงหลายคนก็กระจายตัวไปหลบซ่อนตัวอยู่ในปากีสถาน เพื่อให้ยากแก่การถูกตามล่าตัว

นายอิบราฮิม อัล-อาซิรี ชาวซาอุดิอาระเบีย เป็นมือผลิตระเบิดตัวฉกาจของกลุ่ม สามารถผลิตระเบิดที่สามารถซุกซ่อนเอาไว้ตามขาหนีบหรือแม้แต่ภายในร่างกาย และที่น่ากลัวคือ ระเบิดที่มาจากการคิดค้นของอัล-อาซิรีสามารถผ่านเครื่องตรวจจับตามสนามบินได้

เมื่อเดือนส.ค. 2552 อัล-อาซิรี มอบหมายให้น้องชาย คือนายอับดุลเลาะห์ อัล-อาซิรี รับหน้าที่มือระเบิดพลีชีพ โดยมีเป้าหมายเป็นถึงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ แห่งซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทรงรับผิดชอบหน่วยงานความมั่นคงด้านการต่อต้านการก่อการร้าย

อัล-อาซิรีผู้น้องหลอกล่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยการแสดงตัวว่าเป็นผู้ร้าย แต่ต้องการขอมอบตัวกับเจ้าชายเท่านั้น เจ้าหน้าที่หลงเชื่อและนำตัวอัล-อาซิรีไปเข้าเฝ้าฯเจ้าชาย ซึ่งอัล-อาซิรีจุดชนวนระเบิดทันที ทว่ากลับผิดพลาด แรงระเบิดทำให้ร่างกายของเขาขาดเป็น 2 ท่อน ขณะที่เจ้าชายทรงหลบหนีออกมาได้ทัน และทรงได้รับบาดเจ็บที่พระหัตถ์เล็กน้อยเท่านั้น

หลังเกิดเหตุ เอคิวเอพีประกาศกร้าวจะขอ “ล้างแค้น” และทำเช่นนั้นจริงในอีก 5 เดือนถัดมา คือในเดือนธ.ค. นายโอมาร์ ฟารุค อับดุลมูตัลลับ ชาวไนจีเรีย ซุกซ่อนระเบิดของอัล-อาซิรีไว้ในกางเกงชั้นใน และสามารถโดยสารเครื่องบินจากยุโรป ไปถึงเมืองดีทรอยต์ ในสหรัฐได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม เมื่อเครื่องบินกำลังจะร่อนลงจอดที่สนามบินดีทรอยต์ อับดุลมูตัลลับพยายามจุดชนวนระเบิด แต่ผู้โดยสารบนเครื่องสังเกตเห็น และช่วยกันจับกุมตัวเขาเอาไว้ได้

1 ปีต่อมา เอคิวเอพีทดลองอีกครั้งด้วยการซุกซ่อนระเบิดเอาไว้ในตู้สินค้าบรรจุกล่องหมึกสำหรับเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ เครื่องบินลำที่บรรทุกตู้สินค้าใบนี้มีจุดหมายในสหรัฐ ซึ่งภารกิจครั้งนี้จะสำเร็จ หากเจ้าหน้าที่ของสนามบินในอังกฤษไม่ตรวจเจอในนาทีสุดท้าย ด้วยความช่วยเหลือจากทางการซาอุดิอาระเบีย

นับจากนั้นเป็นต้นมา บรรดาผู้นำระดับสูงของเอคิวเอพีถูกอากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) ของกองทัพสหรัฐโจมตีและปลิดชีพได้สำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนายซาอีด อัล-ชิฮรี รองหัวหน้ากลุ่ม นายอันวาร์ อัล-อาวลากี และนายซาเมียร์ ข่าน นักปลุกระดมประจำกลุ่มที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นเลิศ

อย่างไรก็ตาม มีหลายครั้งเช่นกัน ที่โดรนของสหรัฐพลาดเป้าไปสังหารพลเรือนบริสุทธิ์เสียชีวิตไปแล้วหลายสิบคน สร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลและชาวเยเมนอย่างมาก แต่กระนั้นทั้งทางการสหรัฐและเยเมนยอมรับว่า พื้นที่ห่างไกลเช่นในจังหวัดชาบวา มาริบ และอับยาน อาจมีสมาชิกของเอคิวเอพีกระจายตัวกบดานกันอยู่ บวกกับการที่ทางการซานาทยอยเผยแผนการของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในการก่อวินาศกรรมตามท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ดังนั้น สถานการณ์ในเยเมนจึงต้องเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดทุกฝีก้าว

เดลินิวส์ วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556 เวลา 20:47 น.

สหรัฐส่งโดรนโจมตีอัลกออิดะห์ในเยเมนตาย 7 ศพ​

​

สหรัฐส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน โจมตีกลุ่มอัลกออิดะห์ในเยเมน เสียชีวิต 7 ศพ วันเดียวหลังอพยพเจ้าหน้าที่ทูตออกจากเยเมน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองอาเดน ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ว่า สหรัฐส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน โจมตีครั้งใหม่ต่อกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในเยเมนวันนี้ ทำให้กลุ่มหัวรุนแรงเสียชีวิต 7 ศพ หนึ่งวันหลังจากสหรัฐอพยพเจ้าหน้าที่ทูตออกจากเยเมน เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มก่อการร้ายจะปฏิบัติการโจมตี โดยการโจมตีในเช้าวันนี้ มีขึ้นในจังหวัดชับวา ทางตอนใต้ของเยเมน ทำลายรถยนต์ 2 คัน ส่วนผู้ที่เสียชีวิตล้วนเป็นสมาชิกของอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย หรือเอคิวเอพี

การโจมตีในวันนี้ เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มหัวรุนแรงสมาชิกของอัลกออิดะห์ อย่างน้อย 24 คน ถูกสังหารเสียชีวิต

ทั้งนี้ เมื่อสุดสัปดาห์ สหรัฐสั่งปิดสถานทูตและสถานกงสุล 19 แห่ง ในตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยอ้างว่า ดักจับสัญญาณการสื่อสารระหว่างแกนนำของกลุ่มก่อการร้าย รวมทั้งคำสั่งโจมตีจากนายไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์ด้วย

เดลินิวส์ วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556 เวลา 20:53 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ภาพแอร์บัสเวียดนามตกหลุมอากาศขณะบินเข้าไทย.. ยังไงๆ ก็น่ากลัว


ไม่เจอบ้างให้รู้ไป .. ใครคิดว่านั่งเครื่องบินตอนตกหลุมอากาศจะรู้สึกสบายวูบวาบ สนุกและรู้สึกดีเหมือนกับตอนนั่งบนชิงช้าที่กำลังแกว่งไปมา หรือรู้สึกตื่นเต้นเล็กๆ เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ..เห็นทีจะต้องคิดใหม่ ทั้งสองภาพนี้สะท้อนให้เห็นความโกลาหล ตอนที่แอร์บัส A321 เวียดนามแอร์ไลน์สบินเข้าสู่บริเวณที่เกิดอากาศแปรปรวนกะทันหันในบ่ายวันอังคาร 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะมุ่งหน้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในของไทย สายการบินแห่งชาติเวียดนามบอกกล่าวเหตุการณ์นี้แต่เพียงว่า เครื่องหล่นลงจากเพดานบิน 122 เมตร. -- ภาพ: FaceBook.Com

.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- มีผู้นำภาพเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแอร์บัสของเวียดนามแอร์ไลน์สตกหลุมอากาศเผยแพร่ในประชาคมออนไลน์วันพฤหัสบดี 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ภาพยังถูกนำเผยแพร่กันต่อๆ ไปผ่านเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามหลายแห่งในวันเดียวกัน ซึ่งทำให้ผู้อ่านจำนวนมากช็อกตามไปด้วย

ภาพแสดงให้เห็นอุปกรณ์ครัว ข้าวของต่างๆ หล่นลงเกลื่อนพื้น "ห้องครัว" ซึ่งเป็นโซนทำงานของลูกเรือ บ้างก็หล่นลงตามซอก ค้างอยู่บนชั้นวาง อีกภาพแหนึ่งเป็นเศษอาหาร มี "ลั้นช์บ๊อกซ์" ถาดรอง แก้วน้ำ ช้อน ส้อม เศษกระดาษกับอีกสารพัดสิ่งที่หล่นลงเกลื่อนทางเดินในห้องผู้โดยสาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ในบ่ายวันที่ 6 ส.ค.นั้น เกิดขึ้นในขณะที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารกัน

ในภาพยังเห็นลูกเรือหญิงคนหนึ่งนุ่งผ้ากันเปื้อนทับยูนิฟอร์มของเวียดนามแอร์ไลน์ส นั่งเก็บเศษอาหารกับสิ่งของต่างๆ ที่หล่นลงบนพื้นในห้องผู้โดยสาร ผู้ที่นำภาพโพสต์ในเฟซบุ๊กกล่าวว่าอยู่ในเหตุการณ์ ตกใจกลัวเช่นคนอื่นๆ แต่สักพักตั้งสติได้ ก็คว้าโทรศัพท์มือถือเก็บภาพอย่างลุกลี้ลุกลน ซึ่งทำให้ภาพเกือบทั้งหมดสั่นไหว

สายการบินแห่งชาติเวียดนามเผยแพร่ข่าวสั้นๆ ในวันพุธ 7 ส.ค. เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 1 วันก่อนหน้านั้น ขณะแอร์บัส A321 เที่ยวบิน VN615 บินในระดับ 36,000 ฟุต (10,973 เมตร) และกำลังมุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทยพร้อมผู้โดยสาร 104 คน กับลูกเรืออีก 8

เครื่องบินได้เข้าสู่บริเวณอากาศแปรปรวนอย่างไม่คาดคิดทำให้เครื่องหล่นจากเพดานบินถึง 122 เมตร มีผู้โดยสาร 1 คนได้รับบาดเจ็บที่นิ้วเท้า แต่ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาเป็นพิเศษ เวียดนามแอร์ไลน์สเที่ยวนี้บินขึ้นจากท่าอากาศยานโนยบ่าย กรุงฮานอยเวลา 14.00 น.

"อย่างไรก็ตามเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 15.40 น." สายการบินเวียดนามกล่าว.

 

ฝนตกหนักน้ำท่วมในญี่ปุ่นดับแล้ว 1 ศพ​

​

ฝนตกหนักน้ำท่วมญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน สูญหายอยู่อีก 5 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน เนื่องจากบ้านถูกกระแสน้ำพัด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ว่า เอ็นเอชเค สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของญี่ปุ่น และสำนักข่าวจิจิ เพรส รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน และสูญหาย 5 คน ในวันนี้ เนื่องจากฝนตกหนักน้ำท่วมในภาคเหนือของญี่ปุ่น โดยเจ้าหน้าที่พบผู้หญิงวัย 91 ปี เสียชีวิต หลังจากดินถล่มลงมาฝังร่างของเธอในเมืองฮานามากิ เขตอิวาเตะ รายงานข่าวระบุด้วยว่า ยังมีผู้สูญหายไม่ทราบชะตากรรมอยู่อีก 5 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนในเขตอากิตะ เนื่องจากบ้านเรือนของพวกเขาถูกมวลน้ำมหาศาลพัดไปตามน้ำ

สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนให้อพยพประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เรียกร้องให้พวกเขารีบปฏิบัติตามทันทีเพื่อรักษาชีวิต ส่วนรัฐบาลท้องถิ่นในเขตอิวาเตะ เรียกร้องให้ทหารญี่ปุ่นเข้ามาให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วย

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2556 เวลา 21:16 น.

มะกันอ่วมเจอทั้งไฟป่า-น้ำท่วมหนัก​

​

พื้นที่หลายแห่งในสหรัฐกำลังเผชิญความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ โดยฝั่งตะวันออกของนครลอสแองเจลิส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องสั่งให้ประชาชนอพยพหนีไฟป่า ขณะที่ชาวบ้านในแถบมิดเวสต์ต้องพบกับน้ำท่วมฉับพลัน ที่เกิดจากฝนตกกระหน่ำ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของนครลอสแองเจลิสเกือบ 2,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หลังเกิดไฟป่ารุนแรง ทำให้มีผู้บาดเจ็บแล้ว 5 คน ขณะที่หลายรัฐในแถบมิดเวสต์กำลังเดือดร้อนจากน้ำท่วมหนัก

ไฟป่าปะทุขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี บริเวณเมืองแบนนิง ห่างจากใจกลางนครลอสแองเจลิสไปทางตะวันออกราว 150 กิโลเมตร เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 10,000 เอเคอร์ สร้างความเสียหายให้แก่อาคารพาณิชย์อย่างน้อย 15 แห่ง และทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 นายและประชาชนอีก 4 คน นอกจากนี้ ราษฎรกว่า 1,800 คน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นได้รับคำสั่งให้อพยพออกนอกพื้นที่เป็นการด่วน

ในเวลาไล่เลี่ยกัน มีรายงานว่า พื้นที่แถบมิดเวสต์หรือตะวันตกตอนกลางของสหรัฐ รวมถึงรัฐในฝั่งตะวันออกรวมอย่างน้อย 12 รัฐ กำลังเผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยที่เมืองแนชวิลล์ ในรัฐเทนเนสซี สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 8 นิ้ว ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นพยากรณ์ว่า ฝนจะตกลงมามากกว่านี้อีก

ส่วนที่รัฐจอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา เซาท์แคโรไลนา และมิสซูรี ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนักกันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งที่รัฐมิสซูรีพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ เป็นหญิงอายุราว 60 ปี จมหายไปพร้อมกับรถยนต์ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก

ด้านองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ ( เอ็นโอเอเอ ) ประเมินโอกาสการเกิดพายุเฮอริเคนในระยะนี้เอาไว้ที่ 70%

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2556 เวลา 09:55 น.

น้ำมันดีเซล 5 แสนลิตรรั่วไหลลงอ่าวมะนิลาเปลี่ยนทะเลเป็นสีแดงเข้ม​

​

น้ำมันดีเซล 500,000 ลิตรทะลักลงสู่อ่าวมะนิลา ในฟิลิปปินส์ ทำให้พื้นทะเลกลายเป็นสีแดงเข้ม หวั่นส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ต้องเร่งวางทุ่นเพื่อจำกัดวงน้ำมันไม่ให้กระจาย ขณะนี้ อยู่ห่างจากชายฝั่งกรุงมะนิลา ประมาณ 20 กิโลเมตรเท่านั้น

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เกิดเหตุน้ำมันดีเซลรั่วไหลลงทะเลทำให้ท้องน้ำบริเวณอ่าวมะนิลา กรุงมะนิลา เมืองหลวงฟิลิปปินส์ กลายสภาพเป็นสีแดงเข้มของน้ำมันในวันนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง โดยสงสัยว่าเรือบรรทุกน้ำมันจะเทน้ำมันดีเซลประมาณ 500,000 ลิตร ลงในอ่าวที่แออัดที่สุดของประเทศเมื่อวานนี้ จากการเปิดเผยของโจเอล การ์เซีย หัวหน้าสำนักงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยามฝั่ง

นายการ์เซีย กล่าวว่า เขายังไม่สามารถบอกได้ว่า จะสามารถควบคุมมันได้ เพราะมันส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในวงกว้าง มีรายงานว่า ประชาชนหลายคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจากปัญหาระบบหายใจติดขัด เนื่องจากกลิ่นน้ำมันที่คละคลุ้งขึ้นจากทะเล เจ้าหน้าที่ได้นำทุ่นเพื่อจำกัดวงแพร่กระจายของน้ำมันไว้แล้ว ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลกำลังเร่งตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล

การ์เซีย กล่าวว่า ขณะนี้ น้ำมันกระจายทั่วพื้นผิวทะเลเป็นบริเวณกว้าง 300 ตารางกิโลเมตร ลอยมุ่งหน้าสู่ปากอ่าวในวันนี้ ห่างจากชายฝั่งกรุงมะนิลาประมาณ 20 กิโลเมตร

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2556 เวลา 15:57 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

10 ส.ค. 56 หมอหลวง

ก่อนเที่ยง ได้เห็นหมอหลวงกำลังคอยรถเมล์เล็ก จึงรีบข้ามถนนไปหาท่านและสอบถามถึงเรื่องเจ้านายได้สั่งการอะไรไว้? ท่านบอก เจ้านายให้เตรียมความพร้อมเอาไว้ ตามความเข้าใจผมน่าจะเตรียมรับปัญหาจากคนก่อน

เรื่องน้ำ เมื่อคืนเรียนถามหน่วยเหนือไป ในนิมิตเห็นตัวเองยืนอยู่ ตอนนี้ยังไม่มา ในจิตบอกให้ยืนตามสัญญาณเดิมที่เคยแจ้งเตือนไปแล้วคือปีใหม่ไปแล้ว (สัญญาณนี้ได้แจ้งเตือนไปยังแนวร่วมทุกคนให้รับทราบและผู้ที่สนใจอยากจะรู้ก่อนแล้วเมล์มาถามไปแล้ว)

พอรถเมล์มาผมเลยพูดตัดบท ถ้าคุณหมอต้องการแนวร่วมในพื้นที่ก็ขอให้บอกแล้วค่อยคุยกันวันหลัง

อย่างไรก็ดีเพื่อความไม่ประมาทเพราะช่วงนี้ภาคเหนือเริ่มท่วมแล้ว ขอให้ติดตามข่าวจะดีที่สุด

เคอิสรา

 

10 ส.ค. 56 เครื่องทุ่นแรง

สองสามวันนี้ ได้สร้างตะกร้าติดล้อเหล็กและเชือกสาวพร้อมรางวิ่งไว้ตรงขั้นบันไดขึ้นชั้นสอง เตรียมไว้สำหรับสาวส่งของขึ้นไปเก็บช่วงก่อนน้ำจะมา

ปีที่น้ำมา เล่นเอาเหนื่อยยกของเดินขึ้นชั้นสอง เที่ยวนี้จะค่อยๆทะยอยนำสินค้าขึ้นไปไว้ก่อนล่วงหน้า

เคอิสรา

 

ภูเขาไฟในอินโดนีเซียระเบิด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน​

​

ภูเขาไฟ “เมาท์ โรกาเตนดา” ในอินโดนีเซีย ระเบิดพ่นลาวาออกมา และเขม่าควันพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 2,000 เมตร มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน ประชาชนเกือบ 3,000 คนเร่งอพยพออกจากพื้นที่

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ว่า สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย แถลงว่า ภูเขาไฟ “เมาท์ โรกาเตนดา” ในจังหวัดอีสต์ นูซา เตงการา ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ปะทุรุนแรงเมื่อเช้าวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และพ่นเขม่าควันและเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 2,000 เมตร โดยสำนักงานฯ ยืนยันการปะทุของภูเขาไฟผ่านทางทวิตเตอร์ โดยระบุว่า ภูเขาไฟลูกนี้พ่นลาวาออกมาทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน

ในขณะที่ ประชาชนเกือบ 3,000 คน อพยพออกจากพื้นที่ บนเกาะปาลู โดยภูเขาไฟเมาท์ โรกาเตนดา ส่งเสียงครวญครางมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555

อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะมีประชากรประมาณ 240 ล้านคน มักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดอยู่เป็นประจำ เนื่องจาก เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณลอยเลื่อยของเปลือกโลก หรือที่เรียกกันว่า “ริง ออฟ ไฟ” หรือวงแหวนแห่งไฟ ในมหาสมุทรแปซิฟิก

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 เวลา 18:39 น.

ดินถล่มที่ญี่ปุ่นตายเพิ่มเป็น 6 ศพแล้ว​

​

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบอีก 4 ศพจากเหตุดินถล่มทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตปรับเพิ่มเป็น 6 ศพแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ว่า โฆษกตำรวจจังหวัดอากิตะ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น แถลงว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพผู้เสียชีวิต 3 ศพ เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ประกอบด้วยพ่อวัย 93 ปี แม่วัย 88 ปี และ ลูกชายวัย 61 ปี เสียชีวิตอยู่ใกล้กับบ้านที่อาศัย ในเขตชนบทห่างไกลของเมืองเซนโบกุ จังหวัดอากิตะ ขณะเดียวกัน กำลังตำรวจและทหารเกือบ 300 คน ยังคงค้นหาผู้สูญหายอีก 1 คน เป็นภรรยาของบุตรชาย

บ้านของครอบครัวนี้ เป็นหนึ่งในแปดหลัง ซึ่งถูกดินถล่มลงมาทับ อันเนื่องจากพายุฝนฟ้าคะนอง ทั่วพื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ยังพบศพอีก 1 ศพ เป็นชายวัย 58 ปี จมอยู่ในใต้ซากปรักหักพังหลังดินถล่มในบริเวณเดียวกันนี้

ฝนตกหนักทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีบางพื้นที่ของเขตจังหวัดอากิตะ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 108 มิลลิเมตร ในช่วงระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดดินถล่มและน้ำล้นตลิ่ง ทั้งในจังหวัดอากิตะและจังหวัดอิวาเตะที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ เป็นหญิงวัย 91 ปี กับชายวัย 62 ปี

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 เวลา 21:22 น.

สถานการณ์ไฟป่าแอลเอยังวิกฤต​

​

ไฟป่าทางตะวันออกของนครลอสแองเจลิสยังคงลามหนัก จำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็นอย่างน้อย 6 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ว่าสถานการณ์ไฟป่าทางตะวันออกของนครลอสแองเจลิสยังวิกฤต เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,600 นายระดมกำลังกันทั้งทางบกและทางอากาศ เพื่อควบคุมเปลวเพลิงที่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว และทำให้จำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็นอย่างน้อย 6 คน ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศให้พื้นที่ประสบภัยเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว

รายงานระบุว่า ไฟป่า "ซิลเวอร์ ไวลด์ไฟร์" ซึ่งเกิดขึ้นที่เขตริเวอร์ไซด์ เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 18,000 เอเคอร์เมื่อวันศุกร์ ทางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,600 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถดับไฟไปได้แล้ว 40% เนื่องจากสภาพอากาศที่แล้งและร้อนจัด บวกกับกระแสลมกระโชกแรงถือเป็นปัจจัยหนุนให้เปลวเพลิงขยายวงกว้างได้เป็นอย่างดี

ด้านนายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงนามประกาศให้เขตริเวอร์ไซด์เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว เนื่องจากไฟป่าเผาผลาญบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ไปแล้วอย่างน้อย 26 หลัง รวมถึงยังส่งผลให้ราษฎรในชุมชน 7 แห่ง กว่า 1,500 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และทำให้มีผู้บาดเจ็บแล้ว 6 คน เพิ่มขึ้น 1 คนจากเมื่อวันพฤหัสบดี ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 5 นาย

รัฐแคลิฟอร์เนียเผชิญกับอิทธิพลของไฟป่ารุนแรงครั้งล่าสุดเมื่อเดือนก.ค. ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ไปกว่า 37,000 เอเคอร์ ทางการต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 4,000 คนเพื่อควบคุมสถานการณ์

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 เวลา 12:30 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

โหรชี้เกณฑ์‘ปี 2556’ ‘การเมืองไทย’ ‘ยุบ-ยึด-ไล่’แรง !!!​

​

ไม่ทันจะผ่านพ้นปี 2555 กับเรื่องเกี่ยวกับ ’การเมือง“ ในประเทศไทยก็ส่อแววว่า ’ในปีหน้า 2556 จะร้อนระอุอีก??“ โดยที่ประเด็นการ “แก้รัฐธรรมนูญ” ของฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ดูจะเป็นประเด็นร้อนแรงอันดับต้น ๆ ขณะที่ประเด็นการ “สลายม็อบ” ของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งเป็นแกนนำรัฐบาลชุดที่แล้ว ก็ใช่ว่าไม่น่าจับตา อีกทั้งยังมีประเด็นร้อนอื่น ๆ อีกหลายประเด็น

จากที่เห็น ๆ...การเมืองปีหน้าก็คงไม่ธรรมดา

แล้วกับ “ดวงการเมืองปี 2556” ล่ะ...ยังไง???

ทั้งนี้ กับดวงเมืองประเทศไทยในปี 2556 นั้น จากช่วงนี้ไปก็คงมีหลาย ๆ โหรออกมาชี้ผ่านสื่อต่าง ๆ ไม่น้อยแน่ แต่หากจะโฟกัสเน้น ๆ กันที่ ’ดวงการเมืองปี 2556“ วันนี้ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ก็มีคำพยากรณ์ของ อ.เก่งกาจ จงใจพระ ประธานสถาบันโหราศาสตร์เก่งกาจพยากรณ์ มาสะท้อนให้ลองพิจารณากัน ดังต่อไปนี้...

ตามหลักโหราศาสตร์ไทย ปีหน้า 2556 จะเริ่มเปลี่ยนจากปีมะโรงเป็น “ปีมะเส็ง” ตั้งแต่หลังสงกรานต์ ขณะที่ การเมืองไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงวิกฤติอีกครั้ง ตั้งแต่ 29 พ.ค. 2556 โดยดาวพฤหัสบดีย้ายเข้าราศีเมถุน เป็นประ เสื่อมกำลัง และทำมุมตรีโกณกับดาวเสาร์ ราหูในราศีตุล และเนปจูนในราศีกุมภ์ ทั้ง 3 ราศีอยู่ในกลุ่มธาตุลม โดยมีดาวมฤตยูลอยอยู่กลางฟ้าของราศีเมถุน ผลที่จะเกิดจากอิทธิพลดาวทั้ง 5 ดวงคือ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองจะขยายไปสู่การเปลี่ยนแปลง…

อาจมี...ยุบสภา? หรือ...รัฐประหาร-ปฏิวัติ??

“เพราะดาวพฤหัสบดีเป็นดาวประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนรัฐบาล รัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับสูง ส.ส. ข้าราชการการเมือง นักบวช นักปราชญ์ เมื่อดาวพฤหัสบดีเสื่อม จะทำอะไรก็มักถูกมองเป็นเรื่องร้าย ให้โทษ โดยเฉพาะรัฐบาล” ...ประธานสถาบันโหราศาสตร์เก่งกาจพยากรณ์ ระบุ และยังบอกอีกว่า...

ในยุคอดีต เมื่อรัฐบาลประสบปัญหาแก้ไม่ตกก็จะยุบสภาคืนอำนาจสู่ประชาชน ผลักความวุ่นวายที่พุ่งเป้าเข้าหารัฐบาลกระจายไปสู่สนามเลือกตั้งทั่วประเทศ ลดความกดดันจากภายนอก ฝ่ายตรงข้าม ให้สลายไป

ในยุคอดีต เมื่อดาวพฤหัสบดีเสื่อม แล้วมีทหารทำรัฐประหารยึดอำนาจ ตั้งรัฐบาลใหม่ ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แล้วให้มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ ในช่วงเวลา 1 ปีที่ดาวพฤหัสบดีเสื่อม พอมีเลือกตั้งใหม่ ดาวพฤหัสบดีก็เข้าราศีกรกฎเป็นมหาอุจ ก็ทำให้รัฐบาลมีกำลังบริหารประเทศไปได้อีกยาวหลายปี

’หากไม่มียุบสภาหรือรัฐประหารยึดอำนาจ ก็จะมีการปฏิวัติจากประชาชน ที่รวมตัวกันขับไล่รัฐบาล จากปัญหาพฤติกรรมของรัฐมนตรี ข้าราชการ ที่ไม่ได้รับการแก้ไข และคดีของนักการเมืองจากสิ่งที่ได้สร้างไว้ในอดีต ถูกฟ้องร้องนำขึ้นสู่ศาลยุติธรรม ก็จะถูกตัดสินอย่างเฉียบขาด“...อ.เก่งกาจ ระบุ

อย่างหลังนี่เป็นการพยากรณ์ยุคปัจจุบัน โดย อ.เก่งกาจ ขยายความว่า...เพราะอิทธิพล ดาวราหูตัวแทนศาลอยู่ในราศีตุล มีกำลังเป็นราชาโชค ดาวเสาร์ตัวแทนผู้พิพากษาอยู่ในราศีตุลเป็นมหาอุจ มีกำลังแรง และทำมุมตรีโกณดาวพฤหัสบดีในมุมอับที่ราศีเมถุน นี่จึงเป็นที่มาของคำพยากรณ์ดังที่ว่ามาข้างต้น

และนอกจากที่ว่ามาแล้ว สิ่งที่ก็มีเกณฑ์อาจจะเกิดขึ้นได้คือ รัฐบาลอาจจะถูกฟ้องในข้อหาบริหารผิดพลาดตามกฎหมายใต้รัฐธรรมนูญ มีบุคคลถูกปลดจากตำแหน่ง หรืออาจจะถึงขั้นยุบพรรคได้ ซึ่งเรื่องการยุบพรรคนั้นก็อาจจะมิใช่เพียงพรรคเดียว อาจจะหลายพรรค ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน

นี่คือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2556 จากอิทธิพลดาว จากอิทธิพลดาวมฤตยูที่โคจรอยู่ในราศีมีนในภพที่ 10 ของราศีเมถุน ขณะที่ดาวเนปจูนเจ้าเรือนราศีมีนสถิตอยู่ในราศีกุมภ์ภพศุภะของราศีเมถุนที่ดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ ในมุมนี้ของตำแหน่งดาวในอดีตก็มักจะ สูญเสียผู้นำระดับประเทศ

จุดเปราะทางการเมืองไทย ปี 2556 จะอยู่ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่ดาวอังคารโคจรเข้ามาร่วมกับดาวพฤหัสบดีในราศีเมถุนทำมุมกดดัน ดาวพฤหัสบดีร่วมกับดาวเสาร์ ราหู และเนปจูน ในมุมตรีโกณ ซึ่งดวงผู้นำปัจจุบันลัคนาอยู่ราศีเมถุน ถูกดาวบาปเคราะห์ตรึงถึง 3 จุด ในเดือน ก.ค.-ส.ค. และอายุย่าง 46 พฤหัสบดีเสวย เสาร์แทรก ดวงไม่ดี ผู้ใหญ่ใส่ความ บริวารให้โทษ ญาตินำความเดือดร้อนมาให้ เสียทรัพย์ เจ็บป่วย

“ปี 2556 ใครที่มีคดีอยู่ในศาล ใครทำผิดไว้รอดยาก จะได้รับการตัดสินอย่างเฉียบขาดไม่มีการรอลงอาญา จากอิทธิพลดาวเสาร์ตัวแทนผู้พิพากษาโคจรอยู่ในราศีตุลเครื่องคันชั่งตัวแทนแห่งความยุติธรรม ทุกคดีทางการเมืองที่นำสู่ศาลจะเป็นข่าวใหญ่ตลอดปี 2556” ...อ.เก่งกาจ ระบุย้ำ พร้อมทั้งทิ้งท้ายด้วยว่า...’การเมืองในยุคที่สถานการณ์อ่อนไหว หากทุกฝ่ายยึดศาลไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เอากฎหมายเป็นหลักในการบริหาร ใครผิดว่าไปตามผิด ก็อาจจะผ่านวิกฤติไปได้ การก่อความวุ่นวายจะลดจำนวนลง“

และนี่ก็เป็นการโฟกัส ’ดวงการเมือง...ปี 2556“

ก็เป็นอีกปีที่ ’เกณฑ์ร้อน-แรง...มีเพียบ?!?!?“.

เดลินิวส์ วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2555 เวลา 00:00 น.

ที่มา โหรชี้เกณฑ์‘ปี 2556’ ‘การเมืองไทย’ ‘ยุบ-ยึด-ไล่’แรง??? | เดลินิวส์

 

เหนือไหน น่ะ ^^

 

"ปาหินใส่รถ"โทษถึงประหารชีวิต ผิดไปถึงผู้ปกครองอีกด้วย !!!​

​

“ปาหิน-ยิงหนังสติ๊ก” เข้าใส่รถที่กำลังวิ่งดูเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและจับยาก...แต่ที่ผ่านมาก็จับกุมดำเนินคดีได้แล้วหลายคน และเชื่อว่าจะจับได้เพิ่มอีกเรื่อย ๆ แน่ ผู้ที่ทำไปแล้วหรือที่คิดจะเลียนแบบจงรู้ไว้ว่า “โทษ” ของการก่อคดีในลักษณะนี้ “ไม่ใช่เบา ๆ !!” และคนใกล้ตัวก็จะเดือดร้อนด้วย

ไม่ว่าจะกรณี... ผู้กระทำผิดเป็นผู้ใหญ่ บรรลุนิติภาวะแล้ว ทำไปเพื่อประสงค์ชิงทรัพย์หรือไม่ชิงทรัพย์ก็ตาม และไม่ว่าผู้เสียหายจะบาดเจ็บน้อย บาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต ยังไงก็มีโทษหนักทางอาญา และทางแพ่ง และต่อให้เป็นเด็ก เยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ใช่ว่าจะรอด ซึ่งก็มีโทษทั้งทางอาญา และทางแพ่งเช่นกัน อีกทั้งยังลามไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ก็ต้องมีโทษที่ไม่ดูแลบุตรหลานให้ดี และต้องชดใช้ทางแพ่งแทนลูก

คดีลักษณะนี้ อ.วันชัย สอนศิริ ทนายชื่อดัง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ว่า...บทลงโทษของคดีปาหินหรือใช้หนังสติ๊กยิงลูกหินหรือหัวนอตใส่รถนี้ ตามกฎหมายถือเป็น “เจตนาฆ่า”เพราะการกระทำผิดโดยปาหรือยิงด้วยหนังสติ๊ก ไม่ว่าจะเป็นหินหรือนอตนั้น เป็นการกระทำที่เล็งเห็นได้ว่าสามารถ “ทำให้รถคว่ำ” สามารถ “ทำให้คนขับรถ-คนที่อยู่บนรถ... ตายหรือได้รับบาดเจ็บ"

ภาษากฎหมายเรียกว่า “เจตนาฆ่าคนตาย” มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 เป็นการ “ฆ่าผู้อื่นโดยการไตร่ตรองไว้ก่อน” และบางคดีเป็นการฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดอย่างอื่น เช่น ชิงทรัพย์, ลักทรัพย์ ด้วย ซึ่งจะอย่างไรโทษก็หนักเหมือนกัน

มีความผิดร้ายแรง ต้องระวางโทษถึง “ประหารชีวิต!!”

และแม้ว่าผู้เสียหายจะไม่ตาย อาจจะบาดเจ็บมาก บาดเจ็บน้อย หรือไม่บาดเจ็บเลย ก็ถือว่า “พยายามฆ่า” เพราะการกระทำเป็นเจตนาฆ่า แต่ไม่บรรลุผล ทั้งนี้ หากมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคน ตามกฎหมายก็ต้องโทษ ฐานร่วมกันฆ่าคนตาย หรือร่วมกันพยายามฆ่าคนตาย ซึ่งพยายามฆ่า...โทษก็ลดลงหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เบา ๆ คือต้องรับโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษประหารชีวิต คือมีโทษจำคุก 50 ปี !!

ขณะเดียวกัน คดีลักษณะนี้ฝ่ายผู้ที่เสียหายก็สามารถเรียกร้องทางแพ่งได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล, ค่าซ่อมรถ, ค่าชดเชยทำให้ขาดงาน ทำงานไม่ได้, ค่าชดเชยแก่ญาติกรณีตาย, ค่าขาด ผู้อุปการะ ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้กฎหมายถือเป็นความเสียหายทางแพ่ง ฝ่ายที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายเอง หรือญาติของผู้เสียหายที่เสียชีวิต สามารถฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำผิดได้

ถ้าผู้กระทำผิดบรรลุนิติภาวะแล้วก็ฟ้องเอากับผู้กระทำผิด ซึ่งต่อให้ติดคุกแล้ว ถ้ามีทรัพย์สินใด ๆ เช่น บ้าน ที่ดิน รถ เงินฝาก ฯลฯ ทางคู่สมรส ลูก ก็ไม่ได้ใช้ เพราะผู้เสียหายฟ้องร้องยึดเป็นค่าชดใช้ได้ และในกรณีที่ผู้กระทำผิดยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ฟ้องร้องเรียกค่าชดใช้จากพ่อแม่ผู้ปกครองได้

พูดง่าย ๆ ทำไปแล้ว...ต้องเดือดร้อนกันทั้งบ้าน !!

กรณีที่ผู้กระทำผิดเป็นเยาวชน พ่อแม่ยังต้องมีความผิดในส่วนของพ่อแม่เองด้วยอีกต่างหาก !! ฐานปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเอาใจใส่ลูก ซึ่งจะผิดกฎหมายตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ที่มุ่งไม่ให้เด็กกระทำความผิด ตรงนี้ พ่อแม่จะมีโทษจำคุก 3 เดือน !! เว้นแต่ว่าจะสามารถพิสูจน์ได้จริง ๆ ว่าพ่อแม่ผู้ปกครองกำกับดูแลลูกอย่างดีแล้ว แต่ลูกไม่รักดี ยังไปกระทำผิดอีก

ส่วนตัวเด็กหรือเยาวชนที่กระทำผิด ถ้าอายุไม่เกิน 15 ปี แม้ตามกฎหมายใหม่จะระบุว่าไม่ต้องรับโทษ แต่ก็ให้อำนาจศาลเรียกผู้ปกครอง พ่อแม่ มาตักเตือน หรือทำทัณฑ์บน หรือวางเงื่อนไขต่าง ๆ ไว้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง และกรณีอายุเกิน 15 ปี แต่ต่ำกว่า 18 ปี จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งอาจมีการวางเงื่อนไขทำทัณฑ์บนไว้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่หากพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องลงโทษ ก็จะลดลงให้กึ่งหนึ่ง ซึ่งก็ใช่ว่าไม่หนัก เพราะคดีลักษณะนี้มีโทษรุนแรงมาก ดังที่กล่าวไว้แต่ต้น และยิ่งถ้าผู้กระทำผิดอายุเกิน 18 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ศาลอาจลดโทษกึ่งหนึ่ง หรืออาจลดแค่ 1 ใน 3 ก็ได้ ซึ่งจะแบบไหนก็ติดคุกหัวโตอยู่ดี !!

ที่มา www.oknation.net/blog/mettapc/2009/09/03/entry-1]

 

เทพผู้คุ้มครองและดูแลมนุษย์โลก !!!​

ท้าวมหาราชทั้ง 4 นี้ปกครองตั้งแต่บนสวรรค์ลงไปจนถึงพื้นมนุษย์​

จาตุมหาราช แปลว่า เทวดา 4 องค์ผู้เป็นใหญ่ จาตุมหาราชิกาภูมิ หมายถึง เทวดาทั้งหลาย ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติรับใช้ท้าวมหาราชทั้ง 4 เพราะเหตุว่ามากำเนิดในสถานที่ที่ท้าวมหาราชทั้ง 4 ปกครองอยู่ หรือสถานที่อันเป็นที่อยู่ซึ่งมีท้าวมหาราชทั้ง 4 เป็นผู้ปกครอง

ที่ตั้งและลักษณะของสวรรค์ ชั้นจาตุมหาราชิกา

สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่ที่เขาสิเนรุ อยู่ใกล้โลกมนุษย์มากกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ และเป็นเหมือนเมืองประเทศราช ของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท้าวมหาราช ทั้ง 4 นี้ ปกครองตั้งแต่บนสวรรค์ลงไปจนถึงพื้นมนุษย์ ท้าวมหาราชทั้ง 4 ยังเป็นผู้รักษามนุษย์โลกด้วย ฉะนั้นจึงเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล

สวรรค์ชั้นนี้มีเมืองใหญ่ 4 แห่ง เป็นเทพนครของท้าวมหาราชทั้ง 4 ที่มีความรื่นรมย์มากมาย ทุกแห่งมีกำแพงทองงามอร่าม ประดับด้วยแก้ว 7 ประการ บานประตูกำแพงทำด้วยแก้วมณี มีปราสาทที่รุ่งเรืองสวยงาม อยู่เหนือประตูทุกประตู ภายในเทพนครที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น มีปราสาทแก้วมากมาย ซึ่งเป็นวิมานอันเป็นที่อยู่ของชาวสวรรค์ แผ่นพื้นที่รองรับก็ไม่เหมือนแผ่นดินในเมืองมนุษย์ เป็นพื้นทองก็มี พื้นเงินก็มี ราบเรียบและอ่อนนุ่มยิ่งนัก เมื่อเหล่าเทวดาเหยียบลงไป ก็ไม่ปรากฏรอยเท้า นอกจากนี้ยังมีสระโบกขรณีมีน้ำใสยิ่งกว่าแก้ว เต็มไปด้วยดอกบัวนานาชนิดส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล มีต้นไม้สวรรค์อันวิจิตรตระการตา มีดอกไม้ทิพย์ที่สวยสดงดงามน่าดูน่าชม ที่กล่าวมานี้ เป็นที่อยู่ของเทวดาชั้นสูงผู้มีบุญญาธิการมาก

ที่มา สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

 

อินโดนีเซียหาศพเด็กที่ถูกฝังอยู่ใต้ลาวาหลังภูเขาไฟระเบิด​

​

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองมอเมเร ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังคงทำการค้นหาศพของเด็ก 2 คนในวันนี้

ขณะที่ เสียงระเบิดจากภูเขาไฟ โรคาเตนดา ยังแผดเสียงดังได้ยินเป็นระยะ ๆ หลังจากปะทุเมื่อหนึ่งวันก่อน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ บนเกาะเล็ก ๆ ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ทั้งเขย่าควันและเถ้าถ่าน พุ่งขึ้นสู่อากาศสูงประมาณ 1 ไมล์ หลังจากภูเขาไฟเมาท์ โรคาเตนดา ในจังหวัดอีสต์ นูซา เตงการา ปะทุเมื่อเช้าวานนี้ ประชาชนเกือบ 3,000 คน ถูกอพยพออกจากพื้นที่บนเกาะปาลิว จากการเปิดเผยของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ หรือเอ็นดีเอ็มเอ

ภูเขาไฟโรคาเตนดา ส่งเสียงร้องมาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา สุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกของเอ็นดีเอ็มเอ กล่าวว่า เหยื่อที่เสียชีวิต เป็นผู้ใหญ่ 3 คน และเด็ก 2 คน โดยศพของผู้ใหญ่พบแล้ว แต่ของเด็กยังไม่พบ ขณะที่ตีนี ทาเดอุส หัวหน้าสำนักงานป้องกันภัยพิบัติท้องถิ่น กล่าววันนี้ว่า เขายังมีความหวังว่าจะพบศพของเด็ก ที่ถูกฝังอยู่ใต้เถ้าถ่านและลาวาของภูเขาไฟ

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2556 เวลา 18:52 น.

น้ำท่วมฉับพลันในอัฟกานิสถานสังเวย 22 ศพ​

​

น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ราบของอัฟกานิสถาน หลังฝนตกหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน เป็นเด็กด้วย 6 คน บ้านเรือนหลายสิบหลังจมอยู่ใต้น้ำ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่า เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ราบใกล้กรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน และพื้นที่ด้านการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว อัฟกานิสถาน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้ง มีฝนตกหนักในช่วงฤดูร้อน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 60 คนในช่วงต้นเดือนนี้ จากน้ำท่วมในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงคาบูล ขณะที่ น้ำท่วมล่าสุดนี้เกิดขึ้น ไม่กี่ชั่วโมงหลังฝนตกหนัก และลูกเห็บตกเมื่อวานนี้ โดยพื้นที่ราบโซมาลี ห่างจากกรุงคาบูลไปทางตอนเหนือ ได้รับความเสียหายหนักที่สุด

ซาเยด เอครามุดดิน จาลัล ตำรวจระดับสูงในกรุงคาบูล กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต 6 คนเป็นเด็ก อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไปยังพื้นที่ประสบภัย และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อันตรายแล้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน และบ้านเรือนหลายสิบหลังจมอยู่ใต้บาดาล

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2556 เวลา 15:08 น.

ไต้ฝุ่น “อูตอร์” กำลังแรง จ่อถล่มฟิลิปปินส์พรุ่งนี้​

​

ไต้ฝุ่น “อูตอร์” จ่อพัดถล่มฟิลิปปินส์ และจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในปีนี้ ที่จะพัดเข้าฟิลิปปินส์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ทางการฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมรับมือเต็มที่

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่า ฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมรับมือพายุไต้ฝุ่น “อูตอร์” ที่กำลังจะพัดเข้าถล่มวันนี้ พร้อมเตือนเกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วม ซึ่งคาดว่าจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ โดยอูตอร์ ซึ่งมีความเร็วที่จุดศูนย์กลาง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะคาตันดัวเนส ทางตะวันออกไกลของฟิลิปปินส์ เมื่อเวลา 09.00 น.ของเช้าวันนี้ตามเวลาในไทย

ไต้ฝุ่นลูกนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักในจังหวัดออโรรา ทางตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ ยังจะทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งรวมทั้งในกรุงมะนิลาด้วย

ไต้ฝุ่นอูตอร์ ซึ่งเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือค่อนไปทางตะวันตก ด้วยความเร็วลม 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักถึง 25 มิลิเมตรต่อชั่วโมง ภายในรัศมี 600 กิโลเมตรของไต้ฝุ่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ เตือนชาวประมงห้ามออกจากฝั่ง เนื่องจากคลื่นแรง ขณะที่ ตำรวจ ทหารและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมรับมือเต็มที่

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์จะเผชิญหน้ากับพายุและไต้ฝุ่นประมาณ 20 ลูกในแต่ละปี ซึ่งบางลูกก็สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยเมื่อปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบ 2,000 คน จากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม เมื่อไต้ฝุ่น “โบพา” ถล่มเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศในเดือนธันวาคม

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2556 เวลา 14:44 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์