เหตุการณ์ใน-นอกโลก VS ภัยธรรมชาติ และupdate พายุสุริยะ

The source of the C5.8 flare from earlier this afternoon is technically no longer spotless. Several tiny "pores" are now visible. I will continue to monitor this region for further growth.

ภาพบริเวณที่เกิดมวลสุริยะ C5.8 นั้นเป็นบริเวณที่ไม่มีจุดดับใหญ่เลย เป็นเพียงจุดเล็กๆเท่านั้น



Solar Report for January 18, 2013.
- The Solar Flux for today is 115.



ที่มาจาก https://www.facebook.com/SolarHam

 

19-01-2013

Planetary K-Index.



GOES 3-Day X-Ray Flux



GOES 3-Day Proton Flux



ACE 24 Hour (Estimated) EPAM Protons



GOES Magnetometer



Solar Wind and Bz Components.



ที่มาจาก SOLARHAM.com / Solar Cycle 24 / Spaceweather / Amateur Radio VHF Aurora Website

 

เฮ้อ..ตามดูมาหลายเดือน ดูมาตลอด แต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง พอใครสรุปให้ที..ก็อนุโมทนา ถึงอย่างไร..ก้ออออตามดูต่อ..คอยคนสรุป แล้วต้องขอบคุณทุกท่านทุกคนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันข้อมูลให้ทราบ.

 

จากเฟซ อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 21 มกราคม เวลา 16:39 UT ที่ผ่านมาได้เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์เป็นมุมกว้าง หลายทิศทาง โดยทิศทางหลักไม่ตรงกับโลก และพบปริมาณจุดดับขยายตัวขึ้นในด้านที่โลกมองเห็น ซึ่งพลังงานจะเดินทางมาในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 25 มกราคม เวลา 12 UT +/- 10 ชั่วโมง หลักการเฝ้าสังเกตการณ์ธรรมชาติรอบๆโลกอย่างคร่าวๆ ได้แก่ภายใน 24 ชั่วโมง แรก และช่วงประมาณ 3-5 วันหลังจากเหตุการณ์ ซึ่งข้อมูลของเหตุการณ์ที่ดวงอาทิตย์ครั้งนี้ ได้แก่

- ภายถ่ายวิดิโอมุมกว้างโดยโลกอยู่ทางซ้ายมือของภาพ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/01/21/ahead_20130121_cor2_512.mpg
- ภาพถ่ายวิดิโอมุมกล้าวโดยโลกอยู่ทางขวามือของภาพ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/01/21/behind_20130121_cor2_512.mpg
- โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานรอบๆดวงอาทิตย์ http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=491584925
- วิดิโอการเปลี่ยนแปลงของปริมาณจุดดับเบอร์ 1660 http://sdo.gsfc.nasa.gov/assets/img/dailymov/2013/01/20/20130120_1024_4500.mpg

ในการเฝ้าสังเกตการณ์ หรือบอกข่าวในช่วง 24 ชั่วโมงแรกจะทำได้ยากหน่อยครับเพราะต้องติดตามถ่ายดาวเทียมที่ดวงอาทิตย์ตลอด แต่หลังจากนั้นจะมีเวลาเตรียมสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้นานกว่า ท่านผู้สนใจลองสังเกตธรรมชาติรอบๆโลกจนถึงวันที่ 26 มกราคม ครับ
http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/01/21/ahead_20130121_cor2_512.mpg
stereo.gsfc.nasa.gov

 

Solar Update

Welcome to the start of a new week. Solar activity is at very low levels this morning. Sunspot 1654 is now located on the western limb and out of direct Earth view. Sunspot 1660 continues to show some growth and is now the largest visible Earth facing sunspot. There is currently a chance for C-Class solar flares.

จากภาพล่าง จุดดับ 1654 ได้ลับจากมุมมองเห็นแล้วทางตะวันตก และจุดดับใหม่ 1660 ก็กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาพบนเผยให้เห็น จุดดับสามเหลี่ยมปิรามิด(Coronal Hole) ซึ่งเคยเคยเกิดมา1ครั้งเมื่อปีที่แล้ว

Solar Features (Monday) - SDO



The Visible Solar Disk (Monday) - SDO



ที่มาจาก SOLARHAM.com / Solar Cycle 24 / Spaceweather / Amateur Radio VHF Aurora Website

 

ตอนนี้มีจุดดับใหม่เกิดขึ้นแล้วสองจุดครับ
คือ จุดดับหมายเลข 1661 กับ 1662(วันนี้)
แต่ทว่า ก็ยังคงเป็นห่วงจุดดับหมายเลข1660 อยู่ดีครับ
ซึ่งเท่าที่สังเกตุ ดูเหมือนว่ามันกำลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
และเริ่มมีการแยกตัวออกมาเป็นสองจุดแล้ว...
(เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมายังเห็นเป็นร่องรอยบาง ๆ )
เกรงว่า ถ้าหากเกิดปัจจัยใด ๆ ที่เกื้อหนุนกัน
จนทำให้จุดดับนั้น ๆ ขยายใหญ่ กินวงกว้างมากขึ้น
และเมื่อใดที่มันรวมเข้าหากันจนเป็นจุดใหญ่จุดเดียว... ?
ค่อนข้างน่าเป็นห่วงครับ ก็หวังว่าคงจะไม่เป็นเช่นนั้น

สถานการณ์รอบโลกยังคงปกติดี
สนามแม่เหล็กโลก นิ่ง สงบเงียบมาก(มาหลายวันแล้ว)
ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม รอท่าน Falkman และ ท่านengineer03 ลงให้อีกทีนะครับ

 

Brand new image by STEREO Ahead COR2 showing a Coronal Mass Ejection leaving the Sun this morning. This was the result of a filament eruption in the northeast quadrant. A majority of the plasma cloud looks to be heading to the north, however a very small portion could be Earth directed. More updates to follow.

ภาพจากยาน STEREO Ahead COR2 เมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมามีพลังสุริยะออกจากดวงอาทิตย์หลายด้านแต่ทุกทิศทางไม่ตรงกับโลกของเราครับ




ที่มาจาก https://www.facebook.com/SolarHam

 

เมื่อกี้ดูอยู่ไซด์นึงเห็นมีวัตถุขนาดใหญ่โผล่มาหลังดวงอาทิตย์ปล่อยคลื่นความร้อนออกมา สงสัยจะแวะมาชาร์จแบตเตอรี่(ฮา) ส่วนเมื่อคืนผมเข้าไซด์นอกไม่ได้เลยแต่ไซด์ในประเทศกลับเข้าได้หมดแถมเร็วดีด้วย

 

เน็ตร้องไห้หรือเปล่าครับ ทีโอที ผมก็เป็น...

 

siamblogza: ค้นพบทางโบราณคดีที่น่าทึ่งคือลูกสาวของเผ่าอินคาซึ่งเป็นกว่า 500 ปี

 

“นาซา” เตือน ดวงอาทิตย์ปล่อย “มวลสารโคโรนา” มหาศาล พุ่งใส่โลกใน 3 วัน ชี้ระบบสื่อสาร-ไฟฟ้าอาจมีปัญหา
​

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (24) ว่า เกิดอนุภาคพลังงานสูงจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากโคโรนาของดวงอาทิตย์ เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (23) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีก้อนมวลสารโคโรนา (ซีเอ็มอี ) จำนวนมหาศาลจากดวงอาทิตย์ กำลังมุ่งหน้ามายังโลกของเราด้วยความเร็วสูง และคาดว่าจะถึงชั้นบรรยากาศของโลกภายใน 1 ถึง 3 วันข้างหน้า

ข้อมูลขององค์การนาซาและองค์การอวกาศยุโรป (อีเอสเอ) ระบุตรงกันว่า ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์พ่นมวลโคโรนาที่เกิดขึ้นส่งผลให้มวลสารดังกล่าวพุ่งกระจายออกมาจากดวงอาทิตย์ และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้ามายังโลกของเราด้วยความเร็วประมาณ “375 ไมล์ต่อวินาที” โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงยังชั้นบรรยากาศของโลกของเราภายใน 24-72 ชั่วโมงข้างหน้านี้ พร้อมเตือนประเทศต่างๆ เตรียมหาทางรับมือ

ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงอาทิตย์ของนาซาระบุว่า ซีเอ็มอีซึ่งเกิดจากอนุภาคพลังงานสูงจำนวนมากที่พุ่งออกมาจากโคโรนาของดวงอาทิตย์นั้น สามารถเทียบได้กับระเบิดปรมาณูที่กองทัพสหรัฐฯใช้ทำลายเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นับแสนล้านลูก

ทั้งนี้ เมื่อซีเอ็มอีเคลื่อนตัวพุ่งเข้ามาปะทะกับชั้น “แมกนีโทสเฟียร์” ซึ่งเป็นชั้นสนามแม่เหล็กโลก จะส่งผลให้เส้นแรงแม่เหล็กของโลกเกิดการยุบตัวลง และอาจก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พายุแม่เหล็กโลก” ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ระบบส่งกำลังไฟฟ้าผ่านสายไฟฟ้าบนพื้นโลกอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่หลายส่วนของโลก นอกจากนั้น พลังงานจากซีเอ็มอี ยังสามารถทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนดาวเทียม หรือยานสำรวจอวกาศต่างๆ ได้เช่นเดียวกับระบบนำทาง “จีพีเอส”

C5-WarRoom Falkman

 

“นาซา” เตือน ดวงอาทิตย์ปล่อย “มวลสารโคโรนา” มหาศาล พุ่งใส่โลกใน 3 วัน ชี้ระบบสื่อสาร-ไฟฟ้าอาจมีปัญหา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2556 12:05 น.






เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (24) ว่า เกิดอนุภาคพลังงานสูงจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากโคโรนาของดวงอาทิตย์ เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (23) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีก้อนมวลสารโคโรนา (ซีเอ็มอี ) จำนวนมหาศาลจากดวงอาทิตย์ กำลังมุ่งหน้ามายังโลกของเราด้วยความเร็วสูง และคาดว่าจะถึงชั้นบรรยากาศของโลกภายใน 1 ถึง 3 วันข้างหน้า

ข้อมูลขององค์การนาซาและองค์การอวกาศยุโรป (อีเอสเอ) ระบุตรงกันว่า ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์พ่นมวลโคโรนาที่เกิดขึ้นส่งผลให้มวลสารดังกล่าวพุ่งกระจายออกมาจากดวงอาทิตย์ และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้ามายังโลกของเราด้วยความเร็วประมาณ “375 ไมล์ต่อวินาที” โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงยังชั้นบรรยากาศของโลกของเราภายใน 24-72 ชั่วโมงข้างหน้านี้ พร้อมเตือนประเทศต่างๆ เตรียมหาทางรับมือ

ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงอาทิตย์ของนาซาระบุว่า ซีเอ็มอีซึ่งเกิดจากอนุภาคพลังงานสูงจำนวนมากที่พุ่งออกมาจากโคโรนาของดวงอาทิตย์นั้น สามารถเทียบได้กับระเบิดปรมาณูที่กองทัพสหรัฐฯใช้ทำลายเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นับแสนล้านลูก

ทั้งนี้ เมื่อซีเอ็มอีเคลื่อนตัวพุ่งเข้ามาปะทะกับชั้น “แมกนีโทสเฟียร์” ซึ่งเป็นชั้นสนามแม่เหล็กโลก จะส่งผลให้เส้นแรงแม่เหล็กของโลกเกิดการยุบตัวลง และอาจก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พายุแม่เหล็กโลก” ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ระบบส่งกำลังไฟฟ้าผ่านสายไฟฟ้าบนพื้นโลกอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่หลายส่วนของโลก นอกจากนั้น พลังงานจากซีเอ็มอี ยังสามารถทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนดาวเทียม หรือยานสำรวจอวกาศต่างๆ ได้เช่นเดียวกับระบบนำทาง “จีพีเอส”
Around the World - Manager Online - “นาซา” เตือน ดวงอาทิตย์ปล่อย “มวลสารโคโรนา” มหาศาล พุ่งใส่โลกใน 3 วัน ชี้ระบบสื่อสาร-ไฟฟ้าอาจมีปัญหา

 

Earth-directed CMEs can cause a space weather phenomenon called a geomagnetic storm, which occurs when they connect with the outside of the Earth's magnetic envelope, the magnetosphere, for an extended period of time. In the past, CMEs of this speed have not caused substantial geomagnetic storms. They sometimes cause auroras near the poles but are unlikely to affect electrical systems on Earth or interfere with GPS or satellite-based communications systems.

Ref* nasa.org

 

สรุปว่าcmeความเร็วไม่สูงมากมวลนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าบนโลกหรือทำให้การสื่อสารผ่านดาวเทียมขัดข้องได้แต่จะทำให้เกิดแสงออโรร่าได้ที่บริเวณใกล้ขั้วโลก

 

เวป ผจก แปลมาไม่หมด มั่วนิ่มไปเลย

 

siamblogza: เม็กซิโก:กองทัพยูเอฟโอทั่วเมือง
siamblogza: เม็กซิโก:กองทัพยูเอฟโอทั่วเมือง