ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ฤกษ์...ปฏิวัติซ้อนปฏิวัติ​

หมอนิด​

"ปฏิวัติซ้อนปฏิวัติ" เป็นข่าวลือที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและที่ลือดังทั่วประเทศและมีแววว่าจะเป็นจริง คือหลังจากวันพิพากษายุบพรรคไทยรักไทยและให้ตัดสิทธิทางการเมืองกับผู้บริหารพรรคไทยรักไทย เป็นเวลา ๕ ปี ทำให้กลุ่มสมาชิกพรรคไทยรักไทย และม็อบพีทีวี ไม่พอใจต่อคำตัดสินออกมาเคลื่อนไหวโจมตีคำตัดสิน และวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และ คมช. ที่สำคัญคือมีการปลุกม็อบเพื่อขับไล่ คมช.

ระหว่างนี้ ทั้งทหาร ตำรวจ ออกมาเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับม็อบกลุ่มต่างๆขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่อง "ปฏิวัติซ้อนปฏิวัติ" ก็เริ่มจะหนักขึ้นเช่นเดียวกับการยึดอำนาจของทหารเมื่อ วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙แรกเริ่มก็เป็นข่าวลือก่อน จากนั้นข่าวลือก็เป็นข่าวจริง

อย่างไรก็ตาม หากใครได้อ่านไดอารี่โหรของอาจารย์ทองเจือ อ่างแก้วระบุดวงฤกษ์ของวันอังคารที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ไว้เป็นที่น่าสนใจ คือ"ตั้งแต่เวลา ๑๙.๓๐ น. เป็นราชาแห่งฤกษ์เมื่อทำการใดก็จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันดาวอังคารซึ่งเป็นดาวทหาร ดาวแห่งนักรบอยู่ในราศีเมษมีดาวพฤหัสอยู่ในราศีตุลคุ้มครองดวงเมืองอยู่ อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันโลกาวินาศเมื่อทหารคิดทำการใหญ่ ย่อมประสบความสำเร็จ ๑๐๐%"

เมื่อพิจารณาดวงฤกษ์ ในไดอารี่โหร พ.ศ.๒๕๕๐ ของอาจารย์ทองเจือ ตั้งแต่วันที่ ๑๒มิถุนายน เป็นต้นไป หากพิจารณาในประเด็นเฉพาะฤกษ์ปฏิวัติซ้อนปฏิวัติว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในวันใดมากที่สุดผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ได้ให้ข้อมูลไว้ดังนี้

ศ.เชตตรีฤทธิ์ ปิลไล โหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนบอกว่า ดวงของประเทศไทย ในช่วง ๑๑-๑๕มิถุนายนนี้ รัฐบาลยังได้รับการยอมรับของประชาชนดีอยู่แต่ก็ถูกเลื่อยขาเก้าอี้อยู่ทุกวัน โดยวันที่ ๑๑ ผู้ใหญ่ของประเทศถูกทำให้ตกต่ำมากแต่ก็ยังอยู่ได้ดีด้วยการประนีประนอม รัฐบาลยังเหนียวแน่นสามัคคีกันดีวันนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง วันที่ ๑๒ การกล่าวร้ายต่อผู้ใหญ่ยังดำเนินต่อไปผู้ใหญ่ก็ยังสงบอยู่ แต่ก็ยังผ่านไปด้วยดี วันที่ ๑๓ การกล่าวร้ายยังดำเนินต่อไปความอดทนทางรัฐบาลยังดีอยู่ รัฐบาลเริ่มปรามอีก แต่ก็ยังไม่มีอะไร ส่วนวันที่ ๑๔น่าจะดีกว่าทุกๆ วัน น่าจะมีการประนีประนอมดีมาก ความสามัคคีเริ่มมี

"วันที่น่าวิตก น่าจะอยู่ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ มิถุนายน โดยเฉพาะวันศุกร์ที่ ๑๕มิถุนายน แรงและอันตรายกว่าทุกวัน การเตรียมพร้อมของทหารในวันนี้ จะดูเหมือนว่าเป็นการเตรียมปฏิวัติ แต่ไม่มีอะไรมาก หากพิจารณาตามดวงเมืองแล้ววันนี้ไม่น่าจะมีการปฏิวัติซ้อนปฏิวัติรัฐบาลอย่างที่หลายฝ่ายคิดกัน" ศ.เชตตรีฤทธิ์กล่าว

ในขณะที่ ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ในเดือนมิถุนายนตั้งแต่วันที่ ๑๑ เป็นต้นไปตามเดือนจีนจะเป็นการครอบคลุมระหว่างเดือนมะเส็งธาตุไม้และมะเมียธาตุไฟเมื่อปีกุนธาตุไฟมาเจอมะเมียธาตุไฟ มันเหมือนว่า ไฟกับไฟมาซ้อนกัน แล้ววันจันทร์ที่๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นชวดธาตุไฟ วันอังคารที่ ๑๒ เป็นวันฉลูธาตุไฟทำให้ทั้งปีและวันเป็นไฟทั้งหมด ดังนั้นในวันจันทร์อังคารนี้ ต้องระวังให้มากเพราะว่า วันกับเดือนถูกควบคุมไปด้วยไฟ แล้วจะหนักมากในปลายสัปดาห์นี้

นอกจากนี้แล้ว ยังโยงไปถึงเดือนกรกฎาคม ที่เป็นเดือนมะแมธาตุไฟทำให้สถานการณ์บ้านเมืองจะถูกไฟทั้งสองเดือนสุมเผาไหม้ พอเข้าสู่เดือนสิงหาคมเป็นวอกธาตุดิน คือ ลิงจะดุมาก ช่วงเดือนสิงหาคม ถึงกลางเดือนกันยายน ๒๕๕๐ ให้ระวังจะมีการเสียเลือดเสียเนื้อ สาเหตุมาจากการปะทุของปัญหาต่างๆถ้ารัฐบาลคุมเกมการเมืองไม่ดี มันจะถึงขั้นเสียเลือดเนื้อ

"วันนี้มีการออกมาพูดถึงเรื่องตัวเงินตัวทอง ที่ออกมาเต็มบ้านเต็มเมือง จริงๆมันเป็นการลางบอกเหตุ เพราะทุกๆ ครั้งถ้าบ้านเมืองเราจะมีการเสียเลือดเนื้อก็จะมีพวกตัวเงินตัวทองโผล่ออกมาให้เห็น เป็นช่วงๆ ถ้าธรรมชาติเขามาเตือนเราก็ต้องระวัง และคุมสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้" ซินแสภาณุวัฒน์ กล่าว

ด้าน "หมอนิด" กิจจา ทวีกุลกิจ โหรการเมืองชื่อดังกล่าวในเรื่องเดียวกันว่าในที่สุดวันประวัติศาสตร์แห่งการเมืองไทยที่ทุกคนเฝ้ารอคอย ก็มาถึงเมื่อมีการยุบพรรคไทยรักไทย ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่ได้ทำนายเอาไว้ตั้งแต่ปี๒๕๔๙ เมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ปัญหาบ้านเมืองจะวุ่นวาย อาจเกิดขึ้นเกือบทั่วประเทศเพราะยังมีประชาชนจำนวนมาก ที่ยังจงรักภักดีต่ออดีตนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร) จึงขอเตือนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆที่จะเกิดขึ้นในหลายจังหวัด ทั้งการวางเพลิง หรือการวางระเบิดเหล่านี้อาจจะเป็นเหตุปฏิวัติซ้อนปฏิวัติ

"ดวงของรัฐมนตรีหลายกระทรวง ที่เข้ามารับตำแหน่ง ถึงแม้จะมีฝีมือก็ตามแต่ส่วนใหญ่ดวงไม่ดี หลายกระทรวงสำคัญๆ ความหวังของประชาชนที่จะได้รัฐบาลใหม่ก็สมหวังแล้ว แต่พ่อค้าประชาชนทั่วไป จะสิ้นหวังเพราะรัฐมนตรีหลายกระทรวงไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายอยากจะขอให้ประชาชนที่รักพรรคไทยรักไทย ใช้สติ อย่าใช้อารมณ์ขอให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะคนไทยทุกคน ขอให้ร่วมมือประสานใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" หมอนิด กล่าว

อย่างไรก็ตาม พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ เจ้าคณะตำบลบางม่วง และเจ้าอาวาสวัดสัจจธรรมาราม (วัดไผ่เหลือง) บอกว่าเหตุการณ์ช่อฟ้าวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ต้องอสุนีบาต หรือฟ้าผ่าหักโค่นลงมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ เมษายน ตรงกับ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ เวลาประมาณ๑๘.๐๐ น. ถือว่าเป็นลางร้ายดวงเมืองอย่างหนึ่ง ซึ่งคำทำนายของโหรเริ่มจะเป็นจริงคือจะมีความแตกแยกเกิดขึ้นในหมู่มิตร เพราะชื่อของวัดกัลยาณมิตรเป็นชื่อแห่งความสามัคคีของหมู่มิตร

"ตลอดทั้งเดือนมิถุนายน อาจจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ยังพอที่จะประคองได้แต่ในเดือนกรกฎาคมมีดาวอังคารผ่านโลกความร้อนแรงของเดือนกรกฎาคมในราศีกรกฎจะมีความรุนแรงมาก ถึงกับเลือดตกยางออกจะเกิดเหตุรุนแรงเช่นเดียวกับประวัติศาตร์ ถ้าสามารถผ่านช่วงเวลาดังกล่าวได้เหตุการณ์สงบจริงๆ จะอยู่ในช่วงปลายเดือนตุลาคม คาบเกี่ยวกับต้นเดือนนพฤศจิกายนอาตมาก็ได้เพียงแต่เตือนลูกศิษย์ว่า ให้อยู่ห่างๆ สนามหลวง และจุดที่มีการชุมนุมไว้เป็นดีที่สุด" หลวงพ่อสิงห์ กล่าว

---------/////---------- ​

0 เรื่อง ไตรเทพ สุทธิคุณ 0<O</O

แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 12 มิถุนายน 2550
http://www.mornid.com/popitems.php?id=324

 

พันธะสัญญา 60,000 ปี คืออะไรคะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นายกฯ เตรียมเข้าเฝ้าฯ "ในหลวง" เย็นนี้</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 มิถุนายน 2550 09:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เช้าวันนี้(14 มิ.ย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุม สภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จากนั้น ในเวลา 16.30 น. นายกรัฐมนตรี จะเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลรายงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานกระบี่แก่ร้อยตำรวจตรี ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปี 2548 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต

ท่ามกลางกระแสข่าวปฏิวัติซ้ำ ทำให้มีการจับตามองว่า นายกรัฐมนตรีและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช.) จะร่วมกันชี้แจง เพื่อทำความชัดเจนกับประชาชนหรือไม่ว่าจะไม่มีการปฏิวัติซ้ำ เพื่อสกัดกั้นความเคลื่อนไหวของผู้ที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการประเมินว่า อาจจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000068872
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สัจจะ ...คอยบอก คอยเตือน คอยสอน
โทรทัศน์...วิทยุ....จะตัดบท การประกาศจากทหาร เป้นทางการ

 

คืออาจารย์พูดถึงเรื่องเหตุที่โลกวิกฤตจากภัยธรรมชาติ สาเหตุสำคัญที่สุดก็เพราะมนุษย์ไม่สามารถทำหน้าที่ร่วมกับโลกได้ตามพันธะสัญญา หรือเงื่อนไขภายในระยะเวลา 60,000 ปี (ตอนนี้ล่วงเลยมาแล้วกว่า 800 ปี) โปรแกรมนี้ไม่สามารถยกเลิกได้ ทำได้เพียงให้วิกฤตนั้นทุเลาเบาบางลง วิกฤตโลกที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งกำลังเข้าใกล้จุดวิกฤตเต็มทีแล้ว และจะเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดนับแต่เกิดโลกนี้ขึ้นมา

พันธะสัญญา 6 ประการ (ที่เราอาสามาเกิดเป็นมนุษย์โลก)
1.จะเป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวเคราะห์โลก (คือช่วยสร้างพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกให้โลก ทำให้โลกหมุนรอบตัวเองได้อย่างคงที่และสมดุล)
2.จะไม่เบียดเบียนกันเองและทุกสรรพสิ่ง (ไม่ทำผิด-คิดร้าย)
3 จะยกระดับจิตสำนึก(จิตหยาบ) ให้เป็นหนึ่งเดียวกับแก่นแท้ (จิตวิญญาณ)
4.จะเป็นเงื่อนไขด้านบวกให้กับผู้อื่นเท่านั้น (มีแต่ความรักมอบให้กัน)
5.จะสืบทอดเผ่าพันธุ์มนุษย์โลกไว้ (มีรหัสมาให้ แต่ไม่ควรไปใส่รหัสเพิ่มเติม)
6.จะย้อนคืนกลับสู่แดนสุญญตาที่ตนจากมา (นิพพานให้ได้ ภายในเวลาที่กำหนด 60,000 ปี)

60,000 ปีนั้นมนุษย์กลุ่มอดัมและกลุ่มอีฟจำนวนกว่า 200-300 คนคือชุดแรกที่มาเกิดบนโลกนี้ (ก่อนหน้านั้นเคยมีมนุษย์โบราณ เช่น กลุ่มสตีฟฟาหรือโครมันยอง) รุ่นของเราเป็นรุ่นปัจจุบัน ทยอยมาเกิดกันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา บางคนก็มาใหม่ โดยมาช่วยเตือนสติตามคนที่เกิดแรกๆให้กลับคืนบ้านเกิด... แต่เนี่องจากมนุษย์ถูกปิดมิติเอาไว้ด้วยปัญญาที่มืดบอดมาแล้วหลายภพชาติ เกิดแล้วเกิดอีกวนเวียนอยู่เช่นนี้ จนปัจจุบันนี้บททดสอบต่างๆก็ถูกเปิดเผยเฉลยออกมาจนหมด เพราะถึงเวลาที่ต้องปิดยุคแล้ว ทางคริสต์เรียกกว่าวันพิพากษา (Judment Day) มีมนุษย์รุ่นใหม่ที่พร้อมจะมาทำหน้าที่แทน (upgrade) ตอนนี้ก็เริ่มมาเกิดกันมากขึ้นๆแล้ว

ทางอนุตรธรรมก็บอกเวลาไว้ตรงกัน คือ 60,000 ปีต่อหนึ่งรอบและมีการค้นพบหลักฐานศิลาจารึกโบราณอายุกว่า 800 ปีที่จีน สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่กล่าวเรื่องราวเหล่านี้ไว้ด้วยรวมแล้วก็ 60,800 ปี (มาค้นพบอีกที่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ) บอกไว้ว่า งบหนี้บัญชีหกหมื่นปีจะถูกหักล้างเมื่อถูกค้นพบศิลาจารึกอันนี้ เขียนไว้ในแผ่นศิลาอีก ระบุแม้แต่ชื่อคนที่พบครับ..

 

​

 

ลองเทียบกับข้อมูลจากทางสาย"หลวงพ่อสด"ดูนะครับ (คัดมาบางส่วน)

ในวันที่ 18 พ.ย. นี้ จะปรากฏการณ์ฝนดาวตก
ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดีที่วงศ์สิงห์ของพระศรีอาริยเมตไตรย์
จะนำผู้คนลงจุติรับยุคชาวศิวิไลซ์ กลุ่มที่ 2
กลุ่มแรกคือ ผู้คนเพาะปลูกไถพรวน
กลุ่มที่สองคือ ผู้คนเก็บเกี่ยวต้นดอก-ผลบุญ

กลุ่มดาวสิงห์โตจะลงจุติมากมาย ชาวศิวิไลซ์หน้าตาสวยสะ
กลุ่มนี้จะมารองรับงานยุค 9 ในอนาคตกาลเบื้องหน้า
และเป็นฐานรองรับกำลังกองทัพใหญ่ที่จะจุติตามผังของต้นธาตุแก่ ๆ
และเหล่าธาตุธรรมทั้งหลายทั้งปวงในปี พ.ศ. 2555 ที่จะถึงนี้
การจุติครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายในยุคขาวนี้

จะพบกันใหม่อีกคราเมื่อภพต้องการก็คือ อีก 129,600 ปี
สำหรับเครื่องใหม่ 666 คำนวณงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว
และจะเริ่มเดินเครื่องใหม่พร้อมกันทุกสาย สี วงศ์ องค์
ในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ.2002
ส่วนงานการปรับคลื่นสนามแม่เหล็กโลกก็ทำแล้วเสร็จเช่นกัน
ปรับเอียงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือจากแกนโลก 4 องศา
ฉะนั้นเรื่องมหันตภัยกวาดล้างโลกจนต้องเปลี่ยนแผนที่โลกใหม่สบายใจได้
มีแต่ภัยธรรมชาติใหญ่ ๆ ทำลายสัตว์โลกที่ยังคงเป็น เครื่องเก่า 333
โดยคำนวณอายตนะต่ออายตนะ เหตุต่อเหตุ กรรมต่อกรรม
และสถานที่มารวมจุดรับความวิบัติ ตัดชีวิต
ภายใน 3 ปีแรกที่จะต้องปรับ เครื่องใหม่ 666 ให้เดินเครื่องเต็มพิกัด
คงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งบวกและลบ
ทางบวกเครื่องจะไปตามคุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติให้ถึงที่สุด
แห่งความสมบูรณ์บริบูรณ์ในธาตุในธรรมของยุคขาวด้วย
ระบบ TWIN ACTIONS MULTIPLE ORBIT
มีกำลังของเครื่องเพิ่มจากระบบเก่าถึงเท่าตัว
และเป็นเครื่องรับคลื่นฝ่ายขาวได้ดี เป็นจุดเริ่มต้นของ เบต้า
และจุดดับของ โอเมก้า ทำให้งานฝ่ายขาวสะสางธาตุธรรม
ได้อย่างมีประสิทธภาพที่สุดในยุคโลกใหม่นี้
งานปรับเครื่องใหม่จะต้องเสร็จสมบูรณ์ในค.ศ.2006

------------------------------------------------
ข้อมูลชุดนี้นี่ก็บอกรอบปีเหมือนกันครับ
ตัวเลขมหายุค 129,600 ปี ก็ตรงกับอนุตรธรรม(ตามรูป)
หมายถึง 12 ราศีของจักรวาล ปัจจุบันดำเนินมาถึง 60,800 ปีแล้ว(ครึ่งทาง)
แถมมีรหัส 333 (ยุคพลังงานเก่า) และ 666 (ยุคพลังงานใหม่)
เหมือนกับทาง อ ปริญญา อีกด้วยครับ

 

อ่านแล้ว ก็ยังงง ๆ ๆ ๆ ๆ

 

คัดจากหนังสือ มหันตภัยโลกร้อน GLOBAL WARMING เรื่องจริงที่คุณต้องรู้ โดย สำนักพิมพ์ FREE MIND ว่าด้วยบทวิคเราะห์ของนักวิชาการหลายท่าน อาทิ ดร. อาจอง ชุมสายฯ กล่าวถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน ต่อ กรุงเทพมหานครฯ ดังนี้...


" กรุงเทพฯ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลแค่ 1 เมตร ถ้าระดับน้ำสูงขึ้นอย่างที่ว่ากัน กรุงเทพฯ ก็จะอยู่ไม่ได้ สิ่งต่างๆ ในกรุงเทพฯ จะต้องพังหมด เพราะอย่าลืมว่า เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้น มันก็จะมาในลักษณะของคลื่นที่ซัดเข้ามา มีลมพัด มีพายุเกิดขึ้น ทำให้ทุกอย่างหายไปหมด กลายเป็นทะเล และภาคกลางของประเทศไทยก็จะถูกกวาดไปจนเกือบหมด เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะต้องเริ่มหันมาช่วยเหลือกัน คิดถึงกัน อยู่อย่างเรียบง่าย งดใช้พลังงงานที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก หลายประเทศยังไม่รู้ตัว แต่ถึงตอนนี้ก็ต้องเริ่มคิดกันได้แล้ว แม้มันจะแก้ไขยาก แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำไม่ได้จริงๆ "


ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า...

" อันที่จริง ความเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติย่อมมีอยู่แล้ว และโลกของเราก็มีช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้นเป็นปกติ แต่ตอนนี้อะไรๆ ดูจะผิดเพี้ยนไปหมด จากที่เราเคยมีเวลาปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่น แต่ต่อไปเราจะไม่มีเวลาอย่างนั้น และต้องปรับตัวให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นสำหรับปัญหาโลกร้อนนี้ อย่าไปกลัวเลยว่าคุณจะร้อนตาย แต่จงกลัวสิ่งรอบๆ ตัวคุณเอง เช่น มันจะแห้งแล้งหนักจนต้นไม้ตายหมด หรือจะเกิดน้ำท่วมจนคุณไม่มีอะไรกินหรือไม่ นั่นแหละคือปัญหาที่คุณจะต้องเจอจริงๆ "

" เทียนทะเล...สัญญาณอันตรายจากการหายของแผ่นดิน "

ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี นำมาสู่ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งซึ่งเกิดขึ้นหลายพื้นที่ในประเทศไทย บริเวณเทียนทะเล อำเภอบางขุนเทียน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากปัญหาดังกล่าว

บางขุนเทียนเป็นเขตที่เคยมีปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงเป็นปกติเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน แต่ทุกวันนี้ระดับน้ำมีแต่จะ ขึ้น ไม่ใคร่ยอม ลง เหมือนก่อน ดังนั้นที่นี่จึงเป็นกรณีศึกษาที่นักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและทีมนักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมของไทย ใช้เป็นสถานที่ศึกษาการเปลี่ยนแปลงในเชิงภูมิศาสตร์ด้วยความสนใจ

ทีมงานได้เข้าสำรวจพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว พบหลักฐานชิ้นโบแดง นั่นคือเสาไฟฟ้า 2 - 3 ต้น ที่ลอยอยู่ในน้ำ และเสาหลักเขตประเทศไทย อยู่ห่างออกไปในระยะไกล

จากการสอบถามลุงจิตเจ้าของเรือหางยาว ที่พาพวกเราเข้ามาดูพื้นที่ ได้เล่าถึงพื้นที่ดังกล่าวว่า...

" เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน บริเวณเสาหลักเขตประเทศไทยเป็นพื้นแผ่นดิน มีชาวบ้านสร้างบ้านอาศัยอยู่ รัฐก็สร้างเสาไฟฟ้าไว้ให้ อยู่ๆ ไป น้ำทะเลก็ค่อยๆ หนุนสูงขึ้นๆ จนปัจจุบันก็เป็นผืนน้ำไปทั้งหมดแล้ว "

นอกจากนี้ลุงจิตยังเล่าถึงบ้านของตนเอง ที่อยู่ถัดเข้าไปข้างในอีกว่า...

" บ้านผมเองก็เคยยกพื้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทุกวันนี้ที่บ้านผมเอง น้ำก็ท่วมถึงเอวแล้ว แต่โชคยังดีที่น้ำขึ้นเร็วลงเร็ว ผมกะว่ากสักพักก็คงต้องยกบ้านอีกรอบ "
ทุกวันนี้นอกจากลุงจิตแล้ว ชาวบ้านคนอื่นๆ ที่เคยอยู่ในบริเวณนั้นก็ต้องอพยพย้ายถิ่นออกไป ทั้งๆ ที่ยังถือครองกรรมสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินของตนไว้ ภาวะโลกร้อน ทำให้ผืนดินหนึ่งผืน มีค่าเท่ากับกระดาษหนึ่งแผ่น อย่างไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน

และนี่คือหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการกัดเซาะชายฝั่งอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด จากแพร้านอาหารที่เรายืนอยู่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นดิน ปัจจุบันถูกน้ำกัดเซาะกลายเป็นผืนน้ำจนหมดสิ้น และบริเวณแพร้านอาหารถึงเสาหลักก็เป็นระยะทางกว่าหนึ่งกิโลเมตร

โดยในช่วงเวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมา น้ำได้คืบคลานเข้ากัดเซาะพื้นดินจนหมดสิ้น และน้ำทะเลเหล่านี้ก็ยังกัดเซาะอยู่ทุกวัน หากเรายังไม่ตื่นตัวเรื่องโลกร้อน และหาทางเยียวยารักษาโลกของเราตั้งแต่บัดนี้ คำกล่าวที่ว่า... น้ำท่วมโลก คงไม่ไกลเกินไปนัก

http://palungjitrescuedisaster.com/showthread.php?p=1079#post1079
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ไม่ได้ Post มานาน ขอสักครั้ง

ปลายปีต่อต้นปี 2551 ผู้ปกครองจะเป็นคนเก่าที่แก่กว่าคนหนุ่ม
ความเดือนร้อนเหมือนเดิมนักการเมืองก็เหมือนเดิม ก็เลยมีเหตุอย่างเดิมอีก
คนจัดการไม่ใช่นักการเมืองก็ใช่ย่อยก็พอกันแต่มีกำลังและมีคนตายไม่เหมือนครั้งก่อน
หลังจากนั้นก็เหมือนเดิมนี่แหละที่เบื่อไม่รักประเทศกันจริง ๆ สักกลุ่ม
เหมือนได้สมบัติก็ไม่รักษาต่างก็ผลาญกันทั้งนั้น ไม่คิดว่าเป็นของชาติ ...
จบด้วยพระบารมี แต่ก็ต้องแลกกับ การเปลี่ยน ......

เสร็จแล้วเหนือสุดก็น่าสงสาร ใต้สุดก็น่าสงสาร ก็ต้องรวมใจกันช่วยทั้งชาติ
ก็หวังว่าบทเรียนทั้งหมดนี้จะทำให้คนไทยกลับสู่ความรักกันอีกครั้ง

และที่อยากที่สุดก็ หวังว่า ข้อแรกปลายปีต่อต้นปี 2551 ให้ผิดจากนี้ จะได้ผิดหมดทุกข้อ

และขอโทษที่เขียนให้ตีความแบบนี้ ไม่รู้ว่าการช่วยกันอย่างจริงจังวันนี้จะทำให้สิ่งที่ จะทำให้ผมเสียใจมากที่สุดในชีวิตในประเทศไทยไม่เกิดขึ้นหรือเปล่า ตอนนี้ผมเศร้ามาก ๆๆๆ จริง ๆ ไม่น่ารู้ก่อน ....

 

1ปี เดือน 5 พ.ศ . 2551 รึเปล่าครับ

 

*** ทางแก้หลบเลี่ยงมี ****

อย่า...วิตกโศกเศร้า
<p>ทางแก้...คือ พึ่งโลกุตตระ และ สัจจะธรรม
<p>คือ...การปฏิบัติด้วย "สัจจะ" ให้เป็นประจำ !!!!!!!
<p>
<p>- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

======================

คิดเล่นๆ เดี๋ยวเขาเล่นจริงๆ....เสียว...หลังวาบ

========================

 

​

<TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=585 height=10>สถานการณ์

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>

ว่าด้วยนิมิต ลาง และอาเพศ ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย สิริอัญญา</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 กันยายน 2548 20:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

จากนี้ไปจะได้วิสัชนาในเรื่องอาเพศ ซึ่งเป็นเรื่องของบ้านเมือง ผู้มีอำนาจ และผู้ปกครองโดยตรง​

เหตุดีร้ายในบ้านเมืองหากเป็นเรื่องเล็กๆ ก็จะมีอาเพศเล็กๆ น้อยๆ ที่สังเกตได้ยาก แต่ถ้าหากเป็นเหตุใหญ่ก็จะมีอาเพศใหญ่ เช่นในกรณีที่จะเกิดศึกสงครามถึงขนาดจะเสียบ้านเสียเมือง ในกรณีที่ผู้ปกครองบ้านเมืองไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ธรรม จนราชการบ้านเมืองวิปริตผันแปร อาณาประชาราษฎรตกอยู่ในท่ามกลางทุกข์เข็ญ เช่นนี้ก็มักมีอาเพศใหญ่

ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาเพศมีมาก็เพื่อเป็นทางให้สืบเสาะหาเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศแล้วขจัดเหตุนั้นเสีย อาเพศก็จะระงับสิ้นไป และเหตุร้ายของบ้านเมืองก็จะระงับดับไปด้วย​

ถ้าสังเกตจากนิยายปริศนาธรรมเรื่องไซอิ๋วก็จะพบว่าเมื่อมีอาเพศแล้วเกิดกลียุคทุกข์เข็ญขึ้น พระถังซัมจั๋งก็จะให้เฮ่งเจียไปช่วยเหลือประชาชน ในที่สุดก็จะพบว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศเป็นทุกข์เข็ญกลียุคนั้นก็เพราะมีปีศาจหรือมารเป็นผู้ก่อการอยู่ทั้งสิ้น เมื่อกำจัดมารหรือปีศาจได้แล้วอาเพศเหตุร้ายก็จะหมดไป​

หรือแม้ในนิยายอิงพงศาวดารสมัยราชวงศ์ซ้องเรื่องเปาบุ้นจิ้นก็ปรากฏเช่นเดียวกันว่าเมื่อมีอาเพศเหตุร้ายเป็นทุกข์เข็ญเกิดขึ้นตามเมืองต่างๆ เปาบุ้นจิ้นผู้เป็นขุนนางตงฉินที่ได้รับมอบอาญาสิทธิ์จากฮ่องเต้ก็จะออกไปตรวจราชการดับทุกข์เข็ญให้ราษฎร ในที่สุดก็จะพบว่าต้นเหตุของอาเพศทุกข์เข็ญก็คือผู้ปกครองที่อาสัตย์อธรรม ฉ้อราษฎร์บังหลวง ข่มเหงย่ำยีราษฎรทั้งสิ้น เมื่อเปาบุ้นจิ้นกำจัดต้นเหตุนั้นแล้วบ้านเมืองนั้นก็จะร่มเย็นเป็นสุขสืบไป​

ดังนั้นคนโบราณจึงรักที่จะร่ำเรียนความรู้เกี่ยวกับนิมิต ลาง และอาเพศ ก็เพราะเป็นสิ่งบอกเหตุให้รู้ว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับบ้านเมืองและราษฎร เพื่อจะได้ระงับเหตุคือผู้ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาเพศเหตุร้ายได้ทันท่วงที บ้านเมืองก็จะเจริญรุ่งเรือง อาณาประชาราษฎรก็จะร่มเย็นเป็นสุข​

อาเพศมีสองจำพวก คือ จำพวกหนึ่งมีชื่อว่าอุบาทว์พระอินทร์ อีกจำพวกหนึ่งมีชื่อว่าอุบาทว์พระยม​

อุบาทว์พระอินทร์คือความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นหรือปรากฏให้เห็นในลักษณะกว้างๆ มักเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติพิสดาร มีขอบเขตกว้างขวาง เช่น ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำในแม่น้ำมีสีเลือด กลางคืนบังเกิดแสงสว่างโชติช่วงสีแดงดั่งเลือด กลางวันบังเกิดความมืดเหมือนกับเวลาผีอุ้มลูก ฝูงสัตว์อพยพเข้าเมือง หรือมีกลิ่นสาบคล้ายกลิ่นศพฟุ้งตลบทั้งเมือง แต่ไม่ถึงกับทำให้คนหรือสัตว์ถึงแก่ความตาย รวมทั้งความวิปริตผิดปกติที่ปรากฏขึ้นในลักษณะที่แปลกประหลาด เช่น การปรากฏขึ้นของสิ่งที่วิปริต ดังเช่น หนอนปรากฏในตาคน เป็นต้น​

ส่วนอุบาทว์พระยมคือความวิปริตผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เห็นเป็นลักษณะกว้าง และทำให้คนและสัตว์เสียชีวิต เช่น เกิดแผ่นดินไหว คลื่นใหญ่ในทะเลที่กวาดพัดเอาบ้านเรือน ชีวิตผู้คนล้มหายตายจาก หรือโรคห่ากินเมือง คร่าทั้งชีวิตคนและชีวิตสัตว์ หรือกรณีพระฆ่าอุบาสก อุบาสิกา หรือฆ่าพระด้วยกัน หรืออุบาสก อุบาสิกาฆ่าพระ หรือพ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ เป็นต้น​

ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา บรรดาผู้ปกครองไม่ตั้งอยู่ในสัตย์ในธรรม ไม่เคารพธรรม ไม่ถือธรรมเป็นใหญ่ ไม่ปฏิบัติธรรม เอาแต่เล่นพรรคเล่นพวก ฉ้อราษฎร์บังหลวง ข่มเหงราษฎร บ้านเมืองจึงเกิดทุกข์เข็ญ แผ่นดินแตกความสามัคคี อาณาประชาราษฎร์และสมณะชีพราหมณ์เดือดร้อนวุ่นวาย ในที่สุดก็เสียกรุง​

ในครั้งนั้นปรากฏอาเพศมากมายหลายประการ ซึ่งล้วนเป็นทั้งอุบาทว์พระอินทร์และอุบาทว์พระยมควบคู่กัน ดังปรากฏความในเพลงยาวว่า​

​

 

แกะรอย

 

ลูกศิษย์ท่านโทรมา (พี่แม้ว) เลยถามเรื่องตัวเลขในแผนที่ของหลวงปู่เครา

11/27/48-49-50


พี่แม้วว่าใช่ เป็นรหัสวันเวลา มีรหัส 11 มาเกี่ยวข้องแน่<WBR>นอน
ตรงกัน อย่างที่คิดไว้จริงๆครับ

(111 นี่จำนวนสมาชิคพรรค ทรท..ใช่รึป่าว?)

 

*** มังกรคิดครองโลก ****

มังกร...อยากครองขวาน....ให้อาวุธขอม...สนับสนุนเรื่องแขก ....หักด้ามขวาน
เมื่อ....ขวานด้ามหัก...บอกขอมบุก....อ้างประวัติศาสตร์...หักปลายขวาน
มังกร...ส่งคนคุมหัว....ทุกแขนงทั่วขวาน...ส่งเงินสนับสนุนสำนักข่าวหนึ่ง...เป็นกระบอกเสียง
หวัง...ปลุกปั่นให้สักวัน...คนบนขวาน...ตีกันเอง....ยิงกันเอง...เผากันเอง....บั่นทอนกำลัง
ระวัง....มังกร...ปากดี....ประสงค์ร้ายแฝง...ไม่ชอบระบอบแบบไทย
สุดท้าย...มังกร หวังเปลี่ยนหัวยกแผง...ขวานที่เหลือ
คนบนขวาน...ต้อง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
จึงต้องมี สัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "