ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE class=tborder id=post style="BORDER-RIGHT: rgb(239,239,239) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(239,239,239) 1px solid; WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-LEFT: rgb(239,239,239) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(239,239,239) 1px solid; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px; background-origin: initial; background-clip: initial; border-image: initial" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247); background-origin: initial; background-clip: initial; border-image: initial" width=175>okung3036
</B>สมาชิก



</B>วันที่สมัคร: Oct 2011
ข้อความ: 47
พลังการให้คะแนน: 0






</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); background-origin: initial; background-clip: initial"><CENTER>พี่ช่วยเผยแพร่ทีครับผม</CENTER><HR style="COLOR: rgb(255,255,255); BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>เรื่องนี้ผมไม่ทราบว่าคนส่วนใหญ่จะทราบหรือไม่ ถ้าผมแจ้งซ้ำก็ขออภัยครับ รบกวนพี่ช่วยเรียบเรียงด้วยนะครับ

เป็นเรื่องของการถวายปัจจัยให้พระ เช่น การทำบุญตักบาตร เราไม่ควรถวายปัจจัยลงในบาตรพระนะครับ เพราะการทำแบบนี้จะทำให้พระที่รับบิณฑบาตรนั้นตกนรก เป็นบาปหนัก ถ้าเราจะถวายท่านขณะนั้น เป็นไปได้ให้ถวายใส่ในย่ามของท่านแทนครับ พระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติดีแล้วท่านจะทราบเรื่องนี้ดี ที่แจ้งมานี้เพื่อไม่ให้คนเราไปสร้างบาปกรรมให้พระท่านครับ

หลังการแผ่บุญ ถ้าเราอธิฐานจิตขอสิ่งใด ยกตัวอย่าง การขอให้รวยด้วยการขอโชคลาภจากเทพ เทวดา เวลาเราไปขอหวยท่านไม่ชอบครับ ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง ถ้าเราจะทำบุญเงินที่ได้ควรมาจากการหาเลี้ยงชีพโดยสุจริต

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าด้วยครับ
ขอบคุณครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ใส่ปัจจัยในบาตรได้ไหม ?

</B>lumpoo1962 สมาชิก

เราตักบาตรแล้วแนบซองใส่ปัจจัยในบาตร ได้ไหม ?

22-08-2010, 05:31 AM

greenice สมาชิก

ผมก็ใส่บาตรด้วยอาหารคาวหวาน แล้วก็แนบปัจจัยทุกครั้งด้วยวัตถุประสงให้พระสงฆ์ได้ใช้สอยตามอัธยาศัย โดยส่วนตัวไม่เห็นว่าผิดอย่างไร เพราะปัจจัย(เงิน)นั้นสามารถเปลี่ยนเป็นปัจจัยอื่นๆเช่น ค่ารถ ยารักษาโรค หรือสิงของอื่นที่จำเป็นต่อการครองเพศสมณะ

22-08-2010, 03:24 PM

ฑัฬห์ สมาชิก

เคยฟังครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า บิณฑบาต คือการตกลงไปของก้อนข้าว ไม่ควรใส่ปัจจัยลงในบาตรครับ ถ้าต้องการถวายเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ควรไปถวายที่วัด โดยอาจหย่อนไว้ในตู้ส่วนกลางของวัด เพื่อเป็นสังฆทานโดยรวม จะมีอานิสงค์มาก และโดยพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้แล้วนั้น พระภิกษุและสามเณร ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวหรือรับซึ่งเงินและทองครับ ถ้ารับจะเป็นอาบัติ

ทางที่ดีอาจมอบไว้กับเจ้าหน้าที่ของวัด ที่ปวารณาตัวเพื่อช่วยงานของพระศาสนา ถ้าพระท่านมีเหตุต้องใช้ปัจจัย ก็จะแจ้งต่อเจ้าหน้าที่นั้นครับ ได้มีโอกาสไปทำบุญกับพระป่ากรรมฐาน พบว่าท่านเคร่งครัดในเรื่องเหล่านี้มาก เพราะเงินทองเป็นกิเลสตัวร้ายอย่างยิ่งครับ

23-08-2010, 04:20 AM

ที่มา http://palungjit.org/threads/ใส่ปัจจัยในบาตรไหม.253869/

 

ครั้งก่อนน้ำมันปี 2008 ขึ้นไปถึง 145 +- แล้วลงไปเหลือ 35 เหรียญ

นี่ถือว่านับเป็น เศรษฐกิจพังครืนหรือยังครับ

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กรมอุตุฯ ชี้ปีนี้ฝนเยอะ แนะเร่งหาทางบริหารจัดการน้ำ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ฝนที่ตกในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑลเวลานี้

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานิญาที่เวลานี้วัดค่าได้ประมาณ ลบ 1.1 ถือเป็นค่าปานกลาง ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวจะมีอิทธิพลไปถึงกลางปี นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของความกดอากาศสูงที่แพร่มาจากประเทศจีน มาปะทะกับอากาศอุ่นชื้นจากก้นอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดฝนตกในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคตันออกเฉียงเหนือตอนล่าง รวมทั้งจะมีอากาศเย็นลงในช่วง 1-3 วัน หลังจากนี้ ส่วนภาคใต้จะมีปริมาณฝนค่อนข้างมาก คลื่นในทะเลสูงไม่เกิน 2 เมตรเพราะได้รับอิทธิพลจากทะเลจีนใต้ แต่เท่าที่ตรวจสอบ ปริมาณไม่มากเท่ากับปี 2554
"ถ้าเป็นภาวะปกติ ช่วงหลังจากวันที่ 15 กุมภาพันธ์ไปแล้วประเทศไทยก็จะเข้าสู่ฤดูร้อน แต่นี่ยังมีอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานิญาอยู่จึงทำให้มีฝนตกอยู่ ส่งผลให้ฤดูร้อนปีนี้อาจจะไม่ร้อนมากนัก และอาจจะมีฝนบ้าง ถึงจะมีไม่มาก แต่เรื่องนี้ก็เป็นสัญญาณบอกว่าจะต้องรีบหาทางบริหารจัดการน้ำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการควบคุมน้ำไม่ได้เหมือนปีที่ผ่านมาอีก" นายสมชายกล่าว
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อนบนประเทศอากาศเย็น - ภาคกลาง ตะวันออก ใต้ กทม.มีฝน 20-40%ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็น ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับคลื่นกระแสลมตะวันออกได้เคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้แล้ว ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ2 เมตรในระยะนี้
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า โดยกับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศเย็นทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>“โหรอานนท์”ทักปีนี้น้ำมาเร็ว </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 31 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมคณะทำงานบริหารจัดการน้ำ

เพื่อเตรียมเดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อดูงานและเตรียมมาตรการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ภายหลังการประชุม นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เปิดเผยภายหลังการหารือ ว่า รัฐบาลเน้นหลักการแนวทางการจัดการน้ำ ภาพรวมเพื่อให้ประชาชนเข้าใจอย่างเป็นรูปธรรม และได้มีการเตรียมพื้นที่รับน้ำ หรือหน่วงน้ำให้น้ำนองไว้ 2 ล้านไร่ ตั้งแต่พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ตามแนวแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน จากนั้นลงมาที่พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ อ.บางบาล อ.เสนา อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยแบ่งพื้นที่กันประมาณกลุ่มละ 1 ล้านไร่


"เราตั้งสมมุติฐานไว้ที่ ปริมาณน้ำฝนมากเท่าปีที่แล้ว ทุกอย่างเหมือนปี 2554 ทั้งหมดเราจะสามารถป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโดยรอบกรุงเทพฯและปริมณฑล เพราะในปีนี้เรามีการบริหารจัดการ แต่ทุกอย่างต้องทำได้ตามแผนด้วยจะทำให้เราสามารถลดการท่วมขังลงไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังมีจุดที่กังวล และเป็นอุปสรรคคือเรื่องพื้นที่น้ำนอง เพราะมาตรการในการบริหารจัดการน้ำเพื่อลดการท่วมขังในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจและพื้นที่เมือง อาจจะทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ทุ่งรับน้ำเร็วขึ้น ซึ่งจากปีที่แล้วเริ่มท่วมในเดือน มิ.ย. หรือ ก.ค. แต่ปีนี้อาจจะเร็วขึ้นคือเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.ก็จะมีน้ำท่วมขังแล้ว มันท่วมขังนานก็จริง แต่ไม่ลึก พื้นที่ไม่มาก" นายอานนท์ กล่าว.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ดินไหวเปรู 6.2 ริกเตอร์ บาดเจ็บ 119 คน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ทางการเปรูเปิดเผยว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งภาคใต้ของประเทศ เมื่อวานในเวลา 11 นาทีหลังเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 119 คนแล้ว แต่ไม่มีใครมีอาการสาหัสที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ทะเลราว 40 กม. อยู่ห่างจากเมืองไอคาไปทางตะวันออกเฉียงใต้เกือบ 15 กม.แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ทั้งในกรุงลิม่า เมืองหลวงที่อยู่ห่างจากเมืองไอคา ราว 260 เมตร และอีกหลายเมืองในแถบที่ราบสูงทางภาคใต้และแถบชายฝั่งทางภาคเหนือ

เจ้าหน้าที่ประเมินว่า มีบ้านเรือนพังเสียหาย 16 หลัง และไฟฟ้าดับชั่วคราวในเมืองไอคา ประชาชนอพยพออกมาอยู่ในที่โล่งเพราะยังมีอาฟเตอร์ช็อคตามหลายครั้ง ขณะที่ชาวบ้านในเมืองท่า ปิสโก้ กลัวเกิดสึนามิจึงอพยพขึ้นที่สูง แต่ไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิจากทางการ

เมืองไอคาเคยเกิดแผ่นดินไหว 8 ริกเตอร์เมื่อปี 2550 ซึ่งเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 510 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เวเนซุเอล่าขนทอง15ตันกลับปท. </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> 31 ม.ค. 55 ทองคำเที่ยวสุดท้ายของเวเนซุเอล่า มูลค่า 9 พันล้านดอลล่าร์ หรือราว 270,000 ล้านบาท

ที่ถูกถอนออกจากสถาบันการเงินของต่างประเทศ ถูกนำไปเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของเวเนซุเอล่าแล้วเมื่อวันจันทร์ โดยนายเนลสัน เมอเรนเตส ผู้ว่าการธนาคารกลางของเวเนซุเอล่า เปิดเผยว่า ทองคำจำนวน 15 ตัน เที่ยวสุดท้ายนี้ ทำให้จำนวนทองคำทั้งหมดที่ถูกส่งกลับ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มีจำนวนทั้งสิ้น 176 ตัน <!-- inside news --><!-- Insidenews -->

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ได้ประกาศแผนการถอนทองคำสำรองปะมาณ 233 ตัน

ที่ฝากไว้ที่ธนาคารในสหรัฐและยุโรปตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งนายเมอเรนเตส ไม่ได้อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงจำนวนทองคำที่ถอนออกจากสถาบันการเงินในต่างประเทศ เพียงแต่ระบุว่า ปัจจุบัน 85 เปอร์เซ็นต์ของทองคำสำรองที่เคยฝากไว้ในต่างประเทศ ได้กลับมาอยู่ที่เวเนซุเอล่าแล้ว

สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล ได้เผยแพร่ภาพของขบวนรถหุ้มเกราะภายใต้การคุ้มกันของทหาร ในช่วงที่ทองคำถูกขนย้ายจากสนามบินไปยังธนาคารกลาง

แต่นายเมอเรนเตส ไม่ได้เปิดเผยว่า ทองคำเที่ยวสุดท้ายนี้เดินทางมาจากที่ใด และยังมีสถาบันการเงินในประเทศใดที่มีทองคำสำรองของเวเนซุเอล่าอยู่ และในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์พากันตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้

ประธานาธิบดีชาเวซ ได้กล่าวว่า การเอาทองคำมาเก็บไว้ในเวเนซุเอล่า จะช่วยปกป้องประเทศจากวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเล่นงานสหรัฐและยุโรป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พบวิธีซ่อนตัวของเชื้อเอดส์



เนื้อหา »

บีบีซีนิวส์- หลังจากทำการศึกษาอยู่นาน บัดนี้นักวิทยาศาสตร์พบแล้วว่า เชื่อเอชไอวีหลีกเลี่ยงฤทธิ์ยาเอดส์ตัวใหม่ได้อย่างไร

ถึงแม้ยาต้านโรคเอดส์ส่วนใหญ่จะสามารถขจัดเชื้อเอชไอวีออกไปได้บางส่วน แต่ยาเหล่านี้ไม่สามารถทำลายเชื้อดังกล่าวให้สิ้นซากจากร่างกายของผู้ติดเชื้อได้ และเชื้อจะยังคงซุกซ่อนอยู่ในร่างกาย ดังนั้นหากผู้ที่เชื่อว่าตัวเองหายจากโรคเอดส์แล้วไม่ดูแลสุขภาพให้ดี และไม่รับประทานยาอย่างต่อเนื่องก็มักจะมีโอกาสกลับมาเป็นได้ใหม่

เหตุผลนี้เองที่ทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ต้องรับประทานยาที่มีราคาแพงไปตลอดชีวิต เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีและป้องกันอาการกำเริบ แต่การทำเช่นนี้ก็อาจไม่ได้ผลเสมอไป เพราะยังไม่มีผู้ใดออกมายืนยันได้ว่าเชื้อเอชไอวีจะไม่ดื้อยาและไม่กลับมาแสดงอาการอีกในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ย่อท้อโดยได้พยายามหาวิธีตามล่าและฆ่าเชื้อเอชไอวีที่หลบซ่อนอยู่ตลอดมา และล่าสุด คณะนักวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์แมสซาชูเซตส์ก็ค้นพบวิธีที่เชื้อเอชไอวีหลบซ่อนจากการทำลายของยาเอดส์ตัวใหม่

โดยทั่วไปเชื้อเอชไอวีจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์ที่เรียกกันว่า ที-เซลส์ และเดิมทีนักวิทยาศาสตร์และวงการแพทย์ก็คิดว่าเชื้อร้ายดังกล่าวจะทำลายเฉพาะเซลล์นี้ในขณะที่มันกำลังทำงานเท่านั้น แต่จากการศึกษาวิจัยที่ผ่านๆ มา ชี้ให้เห็นว่าไวรัสดังกล่าวจะทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อให้ที-เซลล์ติดเชื้อแม้ในขณะที่เซลล์ไม่ทำงาน

นอกจากนี้เชื้อเอชไอวียังอาศัยเซลล์ดังกล่าวเป็นที่หลบซ่อน จึงทำให้ยาต้านโรคเอดส์ทำลายเชื้อเอชไอวีได้ไม่ทั่วถึง ยิ่งไปกว่านั้น คณะวิจัยยังพบว่าเชื้อเอชไอวีสามารถทำให้เซลล์ที่แบ่งตัวจากที-เซลล์ติดเชื้อได้อีกด้วย

ฉะนั้นเซลล์ที่สามซึ่งเกิดจากการแบ่งตัวที่เรียกว่าบี-เซลล์จึงติดเชื้อไปด้วย และยังเป็นการเร่งให้เชื้อเอชไอวีแพร่ขยายเร็วขึ้นด้วย เพราะเมื่อบี-เซลล์สัมผัสกับที-เซลล์ในขณะที่มันไม่ทำงาน ก็จะทำให้ที-เซลล์เกิดความอ่อนแอและไม่สามารถต้านทานเชื้อเอชไอวีได้

โรเจอร์ โพเมอร์อานต์ซ นักวิจัยโรคเอดส์จากมหาวิทยาลัยโทมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวว่า การค้นพบความเกี่ยวพันที่ซับซ้อนนี้ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ค้นคว้าหาวิธีกำจัดเชื้อเอชไอวีได้ โดยในทางทฤษฎีนั้นอาจจะเป็นไปได้ที่จะขัดขวางหรือยับยั้งการเกิดกระบวนการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีเข้าไปเกาะที-เซลล์ ในขณะที่มันไม่ทำงาน

 

<TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แม่น้ำคงคาที่อินเดีย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

1 ก.พ. 55 ดงนกขมิ้น

นกขมิ้น เหลืองอ่อน แตกสอง
ดูหมอง หมดสง่า ราศี
แบกปืน เปรอะเปื้อน ราคี
ช่วยที ดำรงค์ คู่ไทย

เอดส์

ตั้งทีม ปกป้อง ผองไทย
อย่าไว้ ใจโรค เชื้อเอดส์
ระบาด ไปทั่ว ประเทศ
สมเพช ผู้ป่วย ทั่วไป

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

^
^
^

อื้อหืมม.. กำลังกินเมี่ยงปลาทู... ยิ่งเห็นภาพยิ่งแซ่บ!! (k)

 

ท่านหมายถึงพระหรือ???????????

 

หวังดีจริงๆจึงขอบ่นว่า

อ่านกันเล่นๆด้านล่าง (เทียบกับภัยธรรมชาติโดยคร่าวๆ)
---------------------------------------------------

ค.ศ.2000 -- ไม่เกิดอะไรเลย -- คนเริ่มไม่เชื่อ
ค.ศ.2001 -- ไม่เกิดอะไรอีก -- คนไม่ค่อยเชื่ออะไรเท่าไหร่แล้ว
~
ค.ศ.2009 -- เกิดบ้างแล้ว -- คนเริ่มตื่นตัว
ค.ศ.2010 -- เกิดบ่อยๆ -- คนตื่นตัว
ค.ศ.2011 (ช่วงกลาง) -- เกิดค่อนข้างมาก -- คนตื่นตัวมาก
ค.ศ.2011 (ช่วงปลาย) -- คำพยากรณ์มามาก -- คนตื่นตัวมากที่สุด
31 ธ.ค. 2554 -- คำพยากรณ์ช่วงที่ 1 -- คนตื่นตัวมากที่สุดสุดสุด(กำลัง3) --
-- แต่ไม่เกิดอะไร -- คนส่วนมากๆเริ่มไม่เชื่อถือ ประมาทขึ้น
13 เม.ย. 2555 --- คำพยากรณ์ช่วงที่ 2 -- คนตื่นตัวมากที่สุดสุด(กำลัง2) --
-- ก็จะไม่เกิดอะไรอีกนั่นล่ะ -- คนไม่ค่อยเชื่อมากขึ้น ประมาท
21~22 ธ.ค. 2555 -- คำพยากรณ์ช่วงที่ 3 -- "ทั่วโลกลุ้นระทึก" น่ากลัวที่สุด
-- เท่าที่เคยพยากรณ์กันมา -- ลุ้นสุดหัวใจ --
-- แต่ก็ไม่เกิดอะไรมากอีกนั่นล่ะ -- ทีนี้คนทั่วๆไปก็พูดกัน
ว่าคำพยากรณ์ไร้สาระ ไม่เห็นมีอะไรเลย อาจจะประมาท
สุดขั้ว เพราะไม่เห็นมีอะไรๆเลยนี่ มีแต่เรื่องเล่าไปเล่ามา
(อย่างมากก็แค่โทรศัพท์ใช้ไม่ใด้บางที่ และบางช่วง)
31 ธ.ค. 2555 ประมาณ 22:00 ถึง 00:00 ปีใหม่แล้ว ไม่มีอะไรหรอก อ้าว
ยกแก้วฉลอง .. แล้ววาระสุดท้าย แห่งการประมาทแบบรวม
กันแล้วเป็นพันล้านคน ก็เกิดขึ้น .. แล้วอะไรๆก็อาจจะโผล่
มาทักทายบ้างช่วงนี้แหล่ะ เหมาะสมดี ก็ไม่แน่นักเนาะ ..

........... จงจำใว้ว่า "ความประมาท เป็นหนทางแห่งความหายนะ" ............

(ก็เขาว่า แสดงความเห็นใด้นี่ครับ อันนี้ก็แค่ความเห็นผมคนเดียว โปรดใช้วิจา
รณ"ญาณ" ที่แจ่มใส เป็นญาณทัศนะครับในการอ่าน .. นิ่งแต่ไม่ทรงเป็นญาณ
ทัศนะ รึขอสายพระเนตรยืนยัน ก็อาจเห็นภาพความคิดตัวเองแค่ในหัวใด้นะ)


ปรารถนาดียิ่ง
Prateep S.

^_^

 

อ่า ทำไมคิดเหมือนกันเลย 90% ^^
แต่เราว่าระหว่างปีอาจมีอะไรซักอย่าง แต่ไม่รุนแรง จะดูเหมือนอุบัติภัยทั่วไป

 

2 ก.พ. 55 รื่นเริงทัศนาจร

โรงเรียน พาเด็ก ทัศนา
ขามา รถตก ข้างคู
อาสา พื้นที่ เข้ากู้
งมดู เด็กที่ หายไป

ภาพน้ำ ยังท่วม เท่าเดิม
ประเมิน การหนี ไม่ได้
บางที อาจจะ ไม่ย้าย
เอาไว้ รุนแรง ค่อยไป

รอดู สัญญาณ ใหม่ๆ
เผื่อไว้ มีการ เปลี่ยนแปลง
หากมี จะรีบ แถลง
แล้วแจ้ง ให้ทราบ ทั่วกัน

ทุกภาพ ที่แจ้ง เข้ามา
อย่าหา ว่าจะ เป็นจริง
รอดู ถ้าเกิด แล้วอิง
เป็นจริง ถึงค่อย พูดคุย

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

2 ก.พ. 55

เรื่องนี้ มีผู้ เคยลง
ขอปลง ไม่ขอ เขียนตาม
อยากรู้ ทุกท่าน ต้องถาม
บทความ จากผู้ ดูแล

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

อ่านแล้วรู้สึกอนิจจัง จริงๆ - คนเราควรอยู่อย่างพอดีและพอเพียง และมีศีลธรรมที่ดีงาม

หัวข้อ - ใครอยากเป็นนักร้อง นักแสดง นางแบบ ควรเลิกคิด


อันนี้เป็นประสบการณ์ของหลวงปู่คำคะนิงมาเล่าต่อเรื่องนรกนางแบบ

หลวงปู่คำคะนิงเดินเที่ยวชมเมืองนรกต่อไป เห็นสถานที่แห่งหนึ่ง สว่างไสวรุ่งเรืองดุจแสงฟ้าแลบอยู่แปลบปลาบ เป็นยกพื้นเวทีกว้างคล้ายสะพานทอดยาวโค้งลงไปในสระน้ำอันกว้างใหญ่ สระน้ำนั้นลุกไหม้เป็นเปลวไฟแดงฉานโชติช่วง น่าสะพรึงกลัว ก็รู้ว่าเป็นขุมนรก

บนสะพานนั้นมีหญิงสาวรูปร่างอรชรสวยงามจำนวนมาก พากันเดินออกจากเวทีมีม่านผืนใหญ่มหึมา หญิงสาวเหล่านั้นแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์สวยงาม เดินนวยนาดลงจากเวที ทอดแขนทอดขามาตามสะพาน
จ่ายมบาลอธิบายว่า มนุษย์ผู้หญิงเหล่านี้เป็นพวกนางงามนางแบบ กำลังเดินโชว์ร่างกายและเสื้อผ้า หลวงปู่คำคะนิงยืนงุนงงประหลาดใจยิ่ง

นางงาม นางแบบ เสื้อผ้าอาภรณ์อันสวยงามฉูดฉาดสะดุดตาเหล่านั้น เดินเรียงรายตามกันออกไปยืนอยู่กลางสะพาน แล้วเยื้องกรายเปลื้องเสื้อผ้าออกก่อน เหลือแต่ร่างเปลือยล่อนจ้อนอุจาดนัยน์ตา แต่ละนางร่างสวยงามด้วยส่วนสัดปานนางฟ้า

จากนั้นก็มีนกอินทรีตัวใหญ่บินมาจากไหนไม่รู้ นัยน์ตานกอินทรีแดงฉานพวยพุ่งออกมาเป็นเปลวไฟ มันบินมาตรงหน้าหญิงสาวแต่ละนางที่ยืนเปลือยกายอยู่
แล้วใช้จะงอยปากอันคมกริบจิกเข้าที่หน้าผากหญิงสาว กระชากทีเดียว หนังศีรษะและเส้นผมก็ลอกออกมาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า กลายเป็นหนังทั้งแผ่น หญิงสาวนางนั้นส่งเสียงหวีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

เมื่อนกอินทรีจิกลอกเอาหนังออกไป ก็เหลือแต่ร่างที่แดงฉานไปด้วยเลือด น่าขยะแขยงชวนขนพองสยองเกล้า จะมองหาความงามเมื่อตะกี้นี้ไม่พบเลย นกอินทรีได้จิกกินนัยน์ตาทั้งสองข้างก่อน แล้วจึงจิกเอาเนื้อแดง ๆ ออกมาเผยให้เห็นอวัยวะภายใน คือ ตับไตไส้พุง น่าขยะแขยง ไม่สวย ไม่งาม

จากนั้นนกอินทรีจิกกินตับไตไส้พุงจนหมดสิ้น เหลือแต่ร่างโครงกระดูกจะหาความสวยงามไม่ได้เลย กลายเป็นร่างโครงกระดูกยืนสั่นสะท้านอยู่
ฝ่ายหญิงสาวคนอื่น ๆ เห็นเช่นนั้น ก็มีความหวาดกลัวอย่างสุดขีด พากันกระโดดหนีลงไปในสระนรกที่เป็นเปลวไฟลุกโชติช่วงแดงฉานนั้น ก็ถูกเปลวไฟนรกลุกเผาไหม้ ส่งเสียงร้องกรีดแหลมระเบ็งเซ็งแซร่ด้วยความเจ็บปวด
แต่แล้วก็มีเหล็กคล้ายหอกเผาไฟแดง ๆ แทงทะลุร่างหญิงสาวเหล่านั้นส่งขึ้นมาจากขุมไฟนรก ร่างที่ไหม้เหลือแต่กระดูกขาวโพลนก็กลับกลายเป็นร่างหญิงสาวสวยงามเหมือนเดิม มีเสื้อผ้าอาภรณ์สวมใส่เหมือนเดิมทุกอย่าง

ต่อจากนั้นก็ถูกนกอินทรีโผบินเข้าจิกกระชากเสึ้อผ้าออกเหลือแต่กายเปลือยล่อนจ้อน แล้วจิกหนังลอกออกทั้งแผ่น จิกกินเนื้อ กินตับไตไส้พงเหมือนที่กระทำกับหญิงสาวคนแรก

ส่วนหญิงสาวคนอื่น ๆ มีความหวาดกลวัส่งเสียงหวีดร้องวุ่นวายระเบ็งเซ็งแซร่นั้นจะวิ่งหนีไปทางไหนก็ไม่ได้ เพราะมีหอกเผาไฟแดง ๆ แทงขึ้นมาจากขุมนรกเพลิง จี้สกัดหน้าหลังไว้รอบข้างไปหมด

หลวงปู่คำคะนิงสลดสังเวชเป็นที่ยิ่ง ไม่ทราบว่าหญิงสาวเหล่านั้นมีความผิดสถานใด ถึงต้องมาถูกกระทำลงโทษอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตถึงปานนี้
จ่ายมบาลล่วงรู้วาระจิตได้ตอบว่า หญิงสาวเหล่านี้สมัยเป็นมนุษย์ชอบประพฤติตนทางอนาจาร คืออวดร่างกายของตน เปลือยร่างต่อสาธารณะ และหลงใหลลุ่มหลงในเสึ้อผ้าอาภรณ์เครื่องตกแต่งประดับกายอย่างไม่ลืมหูลืมตา

สามารถกระทำชั่วได้ในทุกสิ่งเพื่อแสวงหาเงินมาซึ้อเสื้อผ้าอาภรณ์ประดับตัวเองอวดคนอื่น

เป็นผู้หญิงประเภทฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ไม่รู้จักศาสนาคำสั่งสอนของศาสดาองค์ใด ไม่เชื่อในคุณธรรมความดีใด ๆ ไม่ละอายแก่ใจ
เชื่อแต่ว่า เกิดมาชาตินี้ชาติเดียว ต้องแสวงหาความสุขสนุกสถานให้เต็มที่ กิน ถ่าย เสพกามและนอนเท่านั้น อย่างอื่นไม่คิด ชาติหน้าไม่มี บาปบุญไม่มี นรกไม่มี

ดังนั้นเมื่อหญิงสาวเหล่านี้ตายแล้วจึงต้องมาเสวยกรรมอยูในนรกเช่นนี้

ข้อคิดจากประสบการณ์นี้ก็คือไม่ว่าจะทันสมัยแค่ไหนนรกก็ตามทัน




เรื่องที่สองนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเต้นรำ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ตาลปุตตสูตร

ความโดยย่อก็คือมีพ่อบ้านนักเต้นรำนามว่าตาลบุตรเข้าไปถามพระพุทธเจ้าว่านักเต้นรำถ้าตายไปจะไปเป็นสหายของเทวดาผู้ร่าเริง พระพุทธเจ้าก็ทรงห้ามว่าอย่าเลยคามณี แต่ก็ถูกรบเร้าถึงสามครั้งท่านเลยบอกว่าเราห้ามท่านไม่ได้แล้ว เราจะพยากรณ์แก่ท่าน ดูกรนายคามณี เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะอันกิเลสเครื่องผูกคือราคะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโทสะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโทสะผูกไว้ นักเต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโมหะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโมหะผูกไว้ นักเต้นรำย่อมรวบรวมไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น นักเต้นรำนั้น ตนเองก็มัวเมาประมาท ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อแตกกายตายไป ย่อมบังเกิดในนรกชื่อปหาสะ พ่อบ้านถึงกับร้องไห้.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 768&Z=7822


ที่มา ใครอยากเป็นนักร้อง นักแสดง นางแบบ ควรเลิกคิด - คลิปแมส

 

ผมอยากให้คุณ K_97 เปิดกระทู้โดยเฉพาะแบบคุณอริยะบุญหรือคุณฮั๋วโต๋ ไม่ทราบว่าพอเป็นไปได้บ้างหรือเปล่าครับ

 

เห็นด้วยกับคุณ Poon-pan นะค่ะ
เพราะว่าแฟนคลับคุณ K-97 ก็มีเยอะ
ดิฉันคนหนึ่งก็ตามอ่าน ถ้าเป็นกระทู้เฉพาะก็ดีค่ะ
จัดไปเลยค่ะ จะได้เป็นกระทู้เฉพาะส่วน จะกลับไปดูย้อนหลังก็ง่ายด้วยค่ะ

 

สนับสนุนอีกเสียงคะ....ลุง k-97 น่าจะเปิดกระทู้.....ตอนนี้มีคนสนใจ...ข้อความจากลุงเยอะมาก

 

ตามอ่านข้อความคุณลุง K-97 เช่นเดียวกัน...

อนุโมทนาบุญกับคุณลุง และท่านอื่นๆ ที่ได้ปรารถนาดีเข้ามาแจ้งเตือนให้ทราบกัน...สาธุ _/|\_

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> แฟนบอลอียิปต์ตีกันเละดับคาสนาม 73 ศพ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (2 ก.พ.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ว่า กระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์แถลงว่า

มีชาวอียิปต์อย่างน้อย 73 ศพ เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น ระหว่างเกมการแข่งขันฟุตบอลที่เมืองปอร์ต ซาอิด เมืองท่าริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ระหว่างทีมคู่แค้นกัน 2 ทีม นับเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเกมกีฬาอีกรายการหนึ่งในประเทศอียิปต์ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยแพทย์พยาบาล เปิดเผยว่า แฟนบอลของทีมเจ้าบ้าน “อัล-มัสรี” ได้บุกลงไปในสนามระหว่างเกมการแข่งขัน

ซึ่งทีมเจ้าบ้านนำคู่แข่งคือทีม อัล-อาห์ลี ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลชั้นนำของลีกอียิปต์ ด้วยสกอร์ 3-1 ประตู แฟนบอลทีมเจ้าบ้านด้วยความดีใจจึงแห่กันลงไปในสนามจำนวนมาก แล้วถือโอกาสขว้างทั้งก้อนหิน พลุ และขวด เข้าใส่แฟนบอลของทีมคู่แข่ง แล้วยังพลอยมีนักฟุตบอลบางคนถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บไปด้วย

อย่างไรก็ตาม หน่วยแพทย์ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลเมืองปอร์ต ซาอิด เปิดเผยว่า

ศพของผู้เสียชีวิตบางคนที่ถูกนำมาเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่สนาม ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบแน่ชัด ต้องรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ

กระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลที่สนามฟุตบอลเมืองปอร์ต ซาอิดแล้วอย่างน้อย 73 ศพ

ส่วนนักฟุตบอลของทั้งสองทีม ได้วิ่งกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุรุนแรง ขณะเดียวกัน หลังเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นที่สนามฟุตบอลในเมืองปอร์ต ซาอิดแล้ว เกมการแข่งขันฟุตบอลอีกคู่หนึ่ง ที่สนามฟุตบอลในกรุงไคโร ระหว่างทีมอัล-อิสมาอิลยา กับทีมซามาเลค ก็มีต้องยกเลิกไปด้วย เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงดังกล่าว ภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่า บางส่วนของสนามฟุตบอลในกรุงไคโร มีการจุดไฟเผาด้วย คาดว่าเป็นเพราะแฟนบอลบางส่วนไม่พอใจที่การแข่งขันถูกยกเลิกไป

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ยอด"หนาวตาย"ทั่วยุโรปพุ่งแตะหลัก 80 คน คลื่นความเย็นยังแผ่ลามทั่วภูมิภาค </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>หิมะตกหนักก่อให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่วทวีปยุโรป

โดยแผ่ลามไปถึงประเทศอิตาลีและตุรกี ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรวมจากการหนาวตายทั่วยุโรปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วพุ่งทะลุหลัก 80 คนแล้ว ขณะที่ในบางพื้นที่ของโรมาเนียตลอดชายฝั่งที่ติดทะเลดำ กลายสภาพเป็นน้ำแข็งทั้งหมด

ในตอนกลางของอิตาลี สภาพลมแรงและอากาศเย็นเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรตามท้องถนน และยังทำให้การแข่งขันฟุตบอลหลายแมตช์ต้องถูกยกเลิก

กระทรวงฉุกเฉินของยูเครนเปิดเผยวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 13 คน จากสภาพอากาศหนาวจัดในยูเครนในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 43 คน โดยโรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในกรุงเคียฟต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว ซึ่งรวมถึงทางตอนเหนือของประเทศกรีซ ที่อุณหภูมิลดลงแตะระดับ -16 องศาเซลเซียส

ยูเครนกำลังเผชิญฤดูหนาวที่มีสภาพอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบ 6 ปี โดยอุณหภูมิในช่วงเวลากลางคืนลดต่ำลงถึง -33 องศาเซลเซียส

รายงานของกระทรวงฉุกเฉินยูเครนระบุว่า ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวเย็นแล้วถึง 43 คน โดย 28 คนเสียชีวิตบนถนน ขณะที่ 7 คนเสียชีวิตในบ้าน และอีก 8 คนเสียชีวิต ขณะเข้ารับการรักษาพยาบาล ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย รายงานระบุว่า มีประชาชนหลายร้อยคนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากหิมะกัดและอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ อันเนื่องมาจากอากาศหนาวจัด ยูเครนตั้งที่พักชั่วคราวหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ และแจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มให้แก่ผู้ไร้บ้าน


ขณะที่หลายเมืองในบัลเกเรีย สามารถวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ครั้งใหม่ โดยเฉพาะเมืองเนจา

ซึ่งอุณหภูมิลดลงถึง -29 องศาฯ เป็นเวลา 2 วันติดต่อกันแล้ว ขณะที่ทั่วทั้งประเทศยกระดับการเตือนภัยเป็น"สีส้ม" ซึ่งหมายถึงอยู่ในสภาพเลวร้ายที่สุด โดยโรงเรียนกว่า 450 แห่งทั่วประเทศต้องปิดชั่วคราว

ในบอสเนียและเซอร์เบีย ทางการต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อหย่อนสิ่งของยังชีพให้แก่ผุ้ประสบภัยในพื้นที่ห่างไกลที่ถูกตัดขาดจากพายุหิมะ ส่วนในโปแลนด์ พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการหนาวตายเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 รายแล้ว

ด้านสื่อของเยอรมนีรายงานว่า อากาศเย็นถึงขั้นติดลบ ส่งผลให่สตรี 2 รายเสียชีวิตอันเนื่องมาจากตกลงไปในคูน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง ขณะที่อีกรายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เนื่องมาจากรถยนต์เสียการควบคุม

ส่วนในอิตาลี อุณหภูมิลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะตอนใต้สุดของประเทศ รวมถึงเกาะคอร์ซิกากลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ซึ่งหิมะตกหนาถึง 20 ซม. และส่งผลให้การคมนาคมขนส่งตามถนนสายหลักกลายเป็นอัมพาต รวมถึงยังส่งผลให้การแข่งขันฟุตบอลซีรีส์ อา หลายนัดต้องเลื่อนออกไป โดยเฉพาะคู่สำคัญระหว่างทีมอินเตอร์ มิลาน และปาร์เลอโม

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อยากให้คุณ k_97 เปิดกระทู้ของตนเอง

มายกมือเห็นด้วยค่ะ จะตามอ่านเหมือนเดิมค่ะ ^^

 

ตัวเต็งชิงประธานาธิบดีฝรั่งเศส ถูกปาผงแป้งขณะหาเสียง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเพื่อทำการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส ซึ่งผู้สมัครรับการคัดเลือกได้ทำการหาเสียงกันอย่างเข้มข้นนั้น
นายฟรานซัวร์ ฮอลังเดออ (Francois Hollande)วัย 57 ปี ซึ่งเป็นตัวเก็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคสังคมนิยมฝ่ายค้าน ระหว่างที่กล่าวหาเสียงอยู่นั้นก็มีหญิงรายหนึ่งอายุประมาณ 45 ปี ขว้างถุงแป้งเข้าใส่ตัวของนายฟรานซัวร์ ระหว่างหาเสียงบอดี้การ์ดจึงรีบเข้าไปล็อคตัวหญิงคนดังกล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าตามร่างกายและใบหน้า แว่นตา ผม ของนายฟรังซัวร์ เต็มไปด้วยผงแป้งสีขาว แต่ด้วยภาวะผู้นำของเขาสามารถควบคุมสติและอารมณ์ได้ดี จนกลับมากล่าวสุนทรพจน์ได้จนจบ
<IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/QntMLZ_RYi0" frameBorder=0 width=560></IFRAME>
Mthai News



ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
สำนักเอเอฟพีได้รายงานว่า ที่ประเทศอัฟกานิสถานได้เกิดสุดสลดขึ้นอีกครั้ง เมื่อสามีสุดโหดได้ก่อเหตุสังหารฆ่าภรรยาของตนเอง หลังเกิดความแค้นที่ภรรยาของตนเองคลอดแต่ลูกสาวไม่ให้กำเนิดลูกชายอย่างที่เขาต้องการ
โดยรายงานว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29ม.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตคานอาบัด ในจังหวุดคุนดุซ ทางภาคเหนือของประเทศ ทราบชื่อผู้ตายคือนางสโตเรย์ วัย 30 ปี และจากการสอบสวนพ่อของผู้ตายทราบว่า หลังจากที่นางสโตไรได้คลอดลูกสาวซึ่งเป็นคนที่ 3 ของครอบครัวเมื่อ 3เดือนก่อน ก็ทำให้ผู้เป็นสามีและแม่สามีไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาต้องการลูกและหลานที่เป็นผู้ชาย
จึงดุด่าว่าเธอสารพัดก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยมด้วยการใช้เชือกรัดคอและแขวนคอเธอกับหน้าต่างห้องจนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมแม่สามีมาดำเนินทันที ส่วนสามีสุดโหดนั้นหลบหนีไปได้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ระดมกำลังไล่ล่าหาตัวมาดำเนินคดีอยู่
อย่างไรก็ดีหลังข่าวดังกล่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดออกไป ก็ทำให้ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานเกิดความตื่นตัวและตระหนกกับเสรีภาพและความปลอดภัย จึงได้เรียกร้องให้ทางการเข้ามาจัดการกับปัญหาดังกล่าวที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศอยู่ในขณะนี้.