ผลที่คาดไม่ถึงของการทำนายภัยพิบัติ

ก็ถือว่า คุณลีกำลังบำเพ็ญบารมี ท่ามกลางคนคิดต่างเยอะแยะ ทั้งๆ ที่รู้ว่ายาก จะสวนกระแส แต่ก็ยังทำ

ก็ดีแล้ว สังคมโลก ถ้าไม่มีคนอย่างคุณลีเลย ตาชั่งก็ไม่เป็นตาชั่ง มีหวังได้เอียงกะเท่เร่

 

ชอบข้อความนี้
กว่าจะได้มาซึ่งธรรม
ไม่มีใครได้มาง่ายๆ


เพียงแต่ผู้ที่ได้ธรรมมา
จะพูดอวดหรือไม่ว่าตน
ได้เพียรพยายามขนาดไหน
เวลาที่เขาปฏิบัติธรรมยิ่งยวด
ถึงขั้นใกล้ตาย กลับไม่มีใครเห็น
อาจไม่ได้เอามาบอก มาอวดใคร


เลยกลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือก็มีนะคร้าบ ...

 

ตกลงว่าเราเข้ามาอ่านกระทู้เขา เราจะติดในลัทธิของเขาไหมเนี่ยยย ลัทธิป่วนชาวโลก คือหน้าที่ของเรา 5555 :แซวขำๆนะจอมยุทธทั้งหลาย ขออโหสิกรรมด้วย

 

“ความทุกข์แท้ๆ อายุสั้น แต่เรามักต่ออายุให้มัน ด้วยความคิดวนเวียนซ้ำซาก”

ว. วชิรเมธี



ยุคนี้ ภัยพิบัติตามธรรมชาติมันมีเยอะจริง กระจายเกิดกันไปทั่วทุกมุมโลก แต่มันไม่ได้ทำให้ฟ้าถล่ม ดินทลาย ตายกันที่เป็นเบือ ทีละสิบล้านคนทั่วโลกทันที อย่างในหนัง

การเตรียมตัวเตรียมใจ ไม่ประมาทเป็นเรื่องดี แต่ไม่ควรตระหนกจนวิตกจริต จิตตก เพราะชีวิตทุกคนเป็นของไม่เที่ยง โดยเฉพาะเรื่องตาย

หลายคน นั่งอยู่ในบ้านเฉยๆ ไม่ต้องออกไปหาความเสี่ยงนอกบ้าน ก็ยังตายได้ปุบปับ

เพราะงั้น ถ้าหล่อเลี้ยงจิตไว้ด้วยความหวาดวิตกตลอดศก ถึงจะเป็นคนดีมีศีลธรรม แต่ถ้าเกิดมีเหตุปัจจัยอะไร มาทำให้ตายปัจจุบันทันด่วน ก็จะมีอบายภูมิเป็นที่ไปเท่านั้นเอง กว่าจะพ้นอบายภูมิ แล้วไปอยู่สุคติภูมิได้ ก็ไม่ใช่ง่ายๆ

" เตรียมใจยังไง รับภัยพิบัติ "<!-- google_ad_section_end -->




ความแก่ ความเจ็บ ความตาย
เป็นสภาวธรรมที่มีความหมายสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของสังขาร

แต่สำหรับผู้ที่ได้สละกรรมสิทธิ์ในกายและจิตหมดแล้ว
ท่านย่อมมองความเลื่อมสลายของสังขารว่า
เป็นสักแต่ความแปรปรวนของธรรมชาติเท่านั้นเอง
โดยไม่อาจมีสิ่งใดมากระทบกระเทือนใจเลย เป็นผู้ที่พ้นแล้วจากบ่วงของมาร

หลวงพ่อชา แห่งวัดหนองป่าพง ท่านเคยตอบโยมที่ถามถึงอายุของท่านว่า

“ไม่มีอายุ”

และก่อนหลวงพ่อล้มป่วยหนัก ได้ปรารภปลอบใจลูกศิษย์ผู้อยู่ใกล้ชิดว่า

“ผมไม่มีอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่มีอะไร”

ในวาระสุดท้ายของชีวิต ถ้าหลวงพ่อพูดได้
ท่านคงจะเอ่ยอ้างพระสูตรที่ท่านชอบมากที่สุดตอนหนึ่ง

คือ คำตอบของพระยมกะ ตอบคำถามของพระสารีบุตรว่า

“ถ้ามีใครถามท่านว่า พระอรหันต์ตายแล้วไปไหน? ท่านจะตอบเขาว่าอย่างไร?”

พระยมกะ ตอบว่า “ข้าพเจ้าจะตอบว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เกิดขึ้นแล้วดับไป”

ซึ่งในสมัยก่อนเมื่อกล่าวถึงคำนี้ ท่านจะหัวเราะเบา ๆ ด้วยความพอใจทุกครั้ง

ฉะนั้น กองสังขารที่ปรากฏแก่โลกในนามว่า หลวงพ่อชา นั้น
อาจเปรียบเทียบได้กับเรือที่ยังแล่นอยู่ หลังจากดับเครื่องแล้ว
ด้วยอำนาจแรงของเครื่องยังมีอยู่ แต่มันก็ช้าลง ๆ เรื่อย ๆ
และในที่สุดมันก็หยุดนิ่งสงบ

หลวงพ่อชาที่โลกรู้จัก ได้ถึงจุดนิ่งอย่างถูกต้อง ตามหลักตายตัวของธรรมชาติ ในวันครูที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๕ ที่วัดหนองป่าพง

 

ผมไม่ได้บอกว่าคุณลุงทำเหมาะสม
แต่ขอติงการวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงเกินกว่าเหตุ หรือไม่สมเหตุ
ควรจะเผื่อใจไว้ในส่วนที่เราไม่รู้ ไม่เห็น

การเปรียบเทียบของท่านมันไม่สมเหตุ

ถ้าคุณลุงโทรศัพท์ไปหลอกว่ามีการวางมีระเบิดที่เขื่อนนั่นสิจึงจะเป็นตามที่ท่านเปรียบเปรยกับ
การโทรไปหลอกชาวบ้านว่ามีระเบิดวางอยู่ในห้างสรรพสินค้่า

กฏหมายและศาลเขาต้องดูที่เจตนา
ถ้าเจตนาโทรไปหลอกเรื่องวางระเบิดแบบนั้น
ศาลท่านคงไม่เมตตาให้รอลงอาญา

กลับกันถ้าท่านโทรไปเตือนว่า มีคนเขาบอกว่าอาจจะมีระเบิดอยู่ในห้าง
หรือท่านเดินไปพบถุงดำหรือกระเป๋าวางทิ้งไว้ไม่มีเจ้าของ
แล้วสงสัยว่าอาจจะเป็นวัตถุระเบิด แบบนี้ท่านก็ไม่มีความผิด

ตอนนี้เรื่องของคุณลุงอาจเปรียบกับคนที่หวังดีพบวัตถุต้องสงสัย
แต่เผอิญมีคน (สื่อมวลชน) อยากจะสร้างกระแส เลยโวยจนคนตกใจ
สุดท้ายกลายเป็นว่าคนพบวัตถุต้องสงสัยกลายเป็นคนผิด

คุณลุงอาจจะผิดทางโลกตามกฏเกณฑ์ของทางโลก
แต่ทางธรรมนั้น....มีแต่คุณลุงที่รู้

"เจตนาคือกรรม"



อื่น ๆ อีกมากมาย....เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=rGAKzy9SA-A&feature=related"]อื่นๆอีกมากมาย - เฉลียง - YouTube[/ame]

 

คุณ Karan เปรียบเทียบผิดแล้วครับ

หากผมเดินไปเจอถุงดำในห้าง หรือผมได้ยินผู้ร้ายกำลังวางแผนระเบิดห้าง
ผมโทรไปแจ้งทางห้างหรือตำรวจ แล้วปรากฎว่าผมเข้าใจผิด ไม่ใช่ระเบิด
อันนั้นรับรองว่าตำรวจไม่จับผมแน่ๆ

แต่หากผมทำเหมือนลุงทองใบ โดยเดินเข้าไปในห้างแล้วตระโกนว่าผมมีนิมิตว่าในห้างนี้มีระเบิด กำลังจะระเบิดภายใน 10 นาทีนี้ ผู้คนเผ่นหนีกันอุตลุด

รับรองว่าผมเข้าคุกแน่

ในกรณีเขื่อน หากผมเป็นวิศวกรโครงสร้าง ไปตรวจพบรอยแตกที่อาจเป็นอันตรายบนตัวเขื่อน
ผมออกมาโพสลงบนอินเตอร์เน็ตว่าเขื่อนมีโอกาสที่จะพังภายในปีสองปีนี้

อันนี้เรียกว่าการเตือนภัย ถึงเขื่อนจะไม่แตก ผมก็ไม่เข้าคุกแน่

แต่หากผมบอกว่า ผมนิมิตเอาว่าเขื่อนจะแตกในวันสิ้นปี 54 หรือไม่ก็ 55
แล้วไปโพทนาทั้งหมู่บ้านและในที่สุดก็กลายเป็นข่าวเล็ดลอดออกไปทั่วประเทศ
อันนี้คุณ Karan คิดว่ามันเป็นการเตือนภัยหรือ?

คุณ Karan แยกแยะไม่ออกหรือครับ ว่าอะไรเป็นอะไร?

อันนี้แหล่ะครับที่เหล่าผู้นำลัทธิชอบเอาไว้ใช้หลอกชาวบ้านเวลาจวนตัว
คือทำให้ชาวบ้านกลัวอำนาจวิเศษของเขา ไม่กล้าไปแตะต้อง

ลองไปดูกระทู้ของฮั้วโต๋นั่นสิครับ เขามีศักยภาพมากพอสมควรทีเดียว
สาวกหลายคนเชื่อเขาจริงๆ จังๆ และไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยชื่อด้วยความไม่เคารพ

ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่เห็นชัดๆ ว่าเป็นการหาเงินหาทอง

เพื่อนสมาชิกหลายคนในนี้ต่างก็นั่งตาปริบๆ เพราะไม่กล้าไปขวางทางทำมาหากินเขา กลัวโดนรุมยำ

อย่างเช่นการจัดสรรที่ดินสำหรับให้คนที่กลัวภัยธรรมชาติไปอยู่ โดยขายที่ดินที่ตัวเองไม่มีกรรมสิทธิ ภายใต้ชื่อวัด ในราคาที่แพงกว่าราคาตลาด ซึ่งทั้งหมดเริ่มด้วยการสร้างกระแสความกลัวเหมือนกัน แต่อันนี้เห็นช่องทางสร้างความร่ำรวยได้มากกว่า

คุณ Karan ไม่คิดหรือครับว่ามีผู้ที่ไม่บริสุทธิใจแอบเข้ามาหากินกับความกลัวของเพื่อนสมาชิก?

คุณ Karan เคยคิดหรือเปล่าว่าควรมีการจัดระเบียบเว็บบอร์ดนี้ไม่ให้เป็นที่ใช้ทำมาหากินบนความกลัวของเพื่อนสมาชิก?

 

นึกถึงหลอด เจ้าแห่งศาสตร์มืด

 

ใครจะรับผิดชอบ กับเงินมัดจำ5000 บาท ที่แฟนผมเค้าเสียไปครับ
ด้วยเหตุที่ว่านี่แหละครับ

ยังมีอีกหลายคนที่ต้องเสียโอกาสและก็หวั่นวิตก
จนต้องหนีตายไปอยู่ต่างจังหวัดกันก็ไม่น้อย

นี่คือเรื่องจริงที่คิดว่าหลายคน ก็ต้องได้ยินบ้างที่หนีตายไปอยู่ต่างจังหวัดกัน

ถึงเกิดเหตุการณ์จริง นั่นก็คือคุณความดีความชอบที่ลุงได้บอกกัน

แต่เราจะเชื่อได้หรือไม่หละครับ ทุกวันนี้มีพวกสิบแปดมงกุฎ
มักจะคิดหาวิธีการใหม่ๆ หลอกคนที่ขวัญอ่อนและไร้เหตุผล
(ไม่ได้เอาแฟนมาประจารความขวัญอ่อนหรือไร้เหตุผลนะครับ)

มีคนแบบนี้จริงๆ ในสังคมเรา แล้วเค้าเหล่านั้น เราควรบอกว่าเค้าโง่
อยากไปเชื่อเอง เพียงเท่านั้นหรือไงครับ

ส่วนการโบ้ยให้กับนักข่าว อันนี้เป็นความคิดที่ไม่ได้เรื่องเลย
เพราะนักข่าว ย่อมทำข่าว ได้ทุกเรื่อง มันอยู่ที่ว่าเค้าจะเสนอข่าวมุมไหน
หากมีการฟ้องร้องนักข่าว คงจะได้ฟ้องกันทุกวัน ถึงเวลานั้นก็คงจะ
ไม่มีสำนักข่าวไหนจะหาข่าวมาให้เราได้รับทราบกัน

เรื่องเกิดที่ใดก็ควรจะให้ผู้ที่ทำเรื่องเป็นผู้รับผิดชอบ นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
ไม่ใช่จะปัดความรับผิดชอบไปเรื่อยๆ อ้างโน่นนั่นนี่ มันไม่ถูกต้องครับ

หากอนาคต มีใครอยากจะทำนายให้มันดูน่ากลัว ถึงกับต้องหนีตายกันอีก
แล้วใครเล่าจะรับผิดชอบ หรือว่าเราจะใช้คำว่า นั่นเป็นเพียงคำนาย เอาผิดไม่ได้

 

คนรับสาห์น ก็ต้องทั้งกลั่นทั้งกรอง กรองแล้วกรองอีก ว่าแต่ เสียเงินค่ามัดจำอะไรตั้ง 5,000 พอจะบอกเล่าเก้าสิบได้ไหม

 

--------------------------------

มัดจำซื้อบ้านเอาไว้ครับ แถวถนนพระราม2 แบ้งค์ผ่านแล้วด้วยครับ

เรื่องปลาบู่ ถึงผมรู้มาก่อนผมก็ไม่เคยเล่าให้เค้าฟัง
เพราะรู้ว่าเค้าเป็นคนตื่นตระหนกง่าย

แต่เพราะข่าวและรายการต่างๆ นำมานั่นแหละครับ เค้าถึงได้รู้ และตัดสินใจ
ไปเพราะกลัวน้ำท่วมอย่างปีที่ผ่านมา

 

เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ เห็นใจกันทั้งหมด ต่างคนต่างมองคนละมุม ก่อนจะถกกันคงต้องปรับความเข้าใจในหลาย ๆ เรื่องก่อน

ผมอยากให้ผู้ที่เตือนภัยพิบัติสอดแทรกธรรมะในเรื่องของการพิจารณาความตายเข้าไปให้มาก
หลายคนเชื่อง่าย เชื่อง่ายจนบางครั้งหวาดกลัว ฆ่าตัวตายอย่างที่เห็น

ถ้าเตือนเรื่องภัยพิบัติอย่างเดียว อาจจะทำให้เขาตื่นตระหนกตกใจ จะโทษว่าเขาอ่อนแอก็ไม่ถูกเท่าไรนัก ความคิดเช่นนี้ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ

แต่หากสอดแทรกข้อธรรมให้เขาพิจารณาความตายไปด้วย ผลที่ได้น่าจะเป็นคุณใหญ่

เห็นกระทู้เตือนภัยมากเท่าไร คิดถึงความตายมากเท่านั้น

สุดท้าย นึกได้เองว่า ความตายมีอยู่ทุกลมหายใจเข้า-ออก ไม่เกรงภัยพิบัติใหญ่เท่ากับเกรงมรณภัย ณ ขณะนี้.

 

เรื่องตรงไหน ต่อไปน้ำจะท่วมหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ อย่างที่ผ่านมา คนรังสิต คนอยุธยา ล่าสุดคนทางใต้ พูดคล้ายๆ กัน บอก ไม่นึกว่าน้ำจะท่วมบ้าน เพราะอยู่มาตั้งนาน ไม่เห็นเคยท่วม

ส่วนเรื่องเงินทอง ของบาดใจ ลองดูกรณีล่าสุด ขนาดมาแต่เสียงในโทรศัพท์ ยังหลอกให้โอนเงินได้เป็นล้าน ยังกะโดนมนต์สะกด คารมคมหอกไม่ใช่เล่นๆ เป่าหูจนเคลิ้ม

ที่เห็นเป็นข่าวนี่ คงไม่ใช่รายสุดท้าย ไม่รู้สมัยนี้ วิธีหากินแบบพวกแก๊งค์ตกทอง ยังใช้ได้ผลอยู่หรือเปล่า หรือว่ามันเชยตกยุคไปแล้ว

แต่ 2 - 3 ปีมานี่ รู้สึกว่า การหลอกเอาเงินชาวบ้านผ่านทางโทรศัพท์ จะฮิตกันในหมู่ 18 มงกุฏ ไม่รู้ว่ามีคอร์สอบรมให้พูดเก่งยังกะทาสีผึ้งมหาเสน่ห์ อาจารย์คง ร่างทรงเจ้าพ่อดำเกิงเดช หรือยังไง

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width=728 bgColor=#666666 align=center height=90><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็น ปปง.หลอกเหยื่อ โอนเงินกว่า 26 ล้าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>10 มกราคม 2555</TD></TR></TBODY></TABLE>

www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000003705

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ โอด ไม่คิดว่าจะโดน-ชี้ คนร้ายใช้จิตวิทยาสูง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>10 มกราคม 2555 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000003802

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เชื่อผมไหม? ต่อไปต้องเป็นภัยแล้ง พอภัยแล้งจบมันก็มาเป็นน้ำ พอน้ำหมดมันก็อากาศเย็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ไงครับมันหนุนไปเรื่อยเป็นวงกลมผมก็เห็นแบบนี้มาจนแก่ผมหงอกแล้วเนี่ย ทำไมไม่คิดกันล่ะครับอย่างปัจจุบัน อากาศเย็นตามภาคต่าง ๆมันก็เย็นมากเย็นน้อยตามความกดอากาศประเทศไทยเป็นเมืองร้อนพอเย็นมาก ๆ ก็รับไม่ไหวมันเลยเป็นภัยพิบัติหนาว ทีนี้พอแล้งมาซึ่งกำลังเริ่มเป็นบางพิ้นที่พอหนักเข้าก็จะมีหน่วยงานอะไรไม่รู้มาประกาศเป็นภัยแล้งมันก็คือภัยพิบัติ คำนี้แหละครับมันดูน่ากลัวยิ่งใหญ่อลังการคนก็จะแตกตื่นไปเข้าอินเตอร์เน็ต ไปค้นหาใน GOOGLE หาอะไรหรือ หาคำทำนายไงครับของใครเฉียดแบบหายใจรดต้นคอก็เอามาตีความเปิดประเด็น คนที่ทำนายก็ดังไป ถูกต้องไหมครับแล้วอะไรตามมาล่ะ ผลประโยชน์หรือเปล่าที่เป็นเม็ดเงินดูแม่นดูเก่งคนก็แห่กันไปเข้าคิวเสียเงินแลกกับคำพูดที่น่าเชื่อถือ
กรณีในกระทู้ต่าง ๆ ที่ออกมาเตือนนั่นเตือนนี่พวกท่าน ๆ คิดตรงนี้หรือเปล่าผมก็บอกเล่าความคิดผมตรง ๆ ไม่อ้อมแอ้มใด ๆ เพราะบางทีใช้คำสละสลวยคนบางกลุ่มแปลไม่ออก
คนไทยชอบและนิยมลัทธิทรงเจ้าเข้าผีมันจึงเป็นจุดบอดและช่องทางทำเงินให้กับคนกลุ่มนี้
วางมันลงเถอะครับคนที่หลงไหลอยู่ใช้ชีวิตประจำวันให้รอดพ้นภัยต่าง ๆ ในแต่ละวันก่อนดีกว่า ภัยจากอุบัติเหตุ ภัยจากโจร ขโมย ภัยที่ไม่เป็นธรรมจากระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ภัยจากของแพง ตรงนี้แหละต้องพะวงในรายจ่าย ถ้ารายไหนเอาเงินไปช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน,รถ จิปาถะให้กับหมอทำนายต่าง ๆ ผมว่าท่าน ๆ นั่นแหละจะเกิดภัยพิบัติทางครอบครัว
กระทู้นี้ที่ท่านเจ้าของกระทู้เปิดขึ้นมาอย่างน้อยก็ทำให้คนที่หลงไปแล้วสามารถกลับมาคิดได้กลับตัวกลับความคิดเพียงแค่ 1 คนผมถือว่าเจ้าของกระทู้ทำสำเร็จไปส่วนนึงแล้ว ผมเอาใจและความคิดซื่อ ๆ ตรง ๆ คิดอะไรบอกอย่างนั้นช่วยอีกแรงครับผมไม่มีตรรกอะไร ใช้ชีวิตที่ผ่าน ที่เห็น มาบอกมาเล่าและมาตั้งคำถามให้คนที่พลาดหลงหมกมุ่นคำทำนายนั้นหยุดคิดบ้าง ผมทำได้เท่านี้ครับ

 

อันนี้เป็นข่าวความสำเร็จในการหยุดยั้งการฆ่าตัวตายหมู่จากการหวาดกลัวภัยพิบัติล้างโลกในปี 1998 โดยตำรวจสเปน

เจ้าของลัทธิ นาง Heide Fittkau-Garthe เป็นนักจิตวิทยาชาวเยอรมันเจ้าของลัทธิ World Mother ซึ่งคาดว่าแยกออกมาจากลัทธิ Solar Temple

สมาชิก 32 คนกำลังจะถูกพาไปฆ่าตัวตายบนภูเขาไฟ โดยเจ้าลัทธิบอกว่าวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึงในวันที่ 8 มกราคม หากฆ่าตัวตาย จะมียานอวกาศมารับไปยังโลกอื่น

โชคดีที่ตำรวจเข้าไปยังสถานที่จัดกิจกรรมการรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายร่วมกันและจับเจ้าลัทธิได้ทัน พบสารพิษ และจดหมายลาตายจากสมาชิกกลุ่มซึ่งยกย่องเจ้าลัทธิเป็นพระผู้เป็นเจ้าซึ่งจะมาช่วยพวกเขา

--
Spanish police state they prevented mass suicide by Atma (Isis Holistic) Center cult

On Thursday 8 January 1998, the Spanish police in Santa Cruz on the tourist island of Tenerife announced that they had only just prevented a mass suicide planned for that day.

A Berlin psychologist, Ms Heide Fittkau-Garthe, (57 years old, according to CNN TV; 56 according to RTL Television) was the leader, the 'World Mother', of the Atma Center (Isis Holistic Center); the cult involved in this. Supposedly, it arose from a split in the Order of the Solar Temple, notorious from earlier suicides and murders in France, Switzerland, and Canada, and from a recent British TV program, stating that the late Princess Grace of Monaco had been a member. Solar Temple activity in Tenerife began with a visit by leader Luc Jouret in 1984; Ms Fittkau-Garthe has been living in Tenerife for years.

32 cult members, 31 of them German (however, BBC TV mentioned also Britons), one Spanish woman, five of them children, were supposedly on Tenerife, to commit suicide on the volcano Mt. Teide. Their leader told them the end of the world would be on 8 January. The axis of the earth would shift abruptly, causing natural disasters (a theory, similar to the Dutch Spiritualist J. Rulof, and other occultists). If they would commit suicide as she told them, a vehicle from outer space ('not an aircraft, but a space shuttle', according to Fittkau-Garthe) would appear, to save them. It would take people and animals from doomed Planet Earth to 'Planet Aida'.

The police say that they prevented mass death by going into the cult's premises during their 'last supper', and arresting the leader for inciting people to suicide, and to murder of the children. They claim they found a stock of poisonous chemicals at Ms Fittkau-Garthe's house. They seized documents, including suicide notes (Herzenschlüssel; 'keys to the heart' which Fittkau-Garthe's devotees had already written). These described Ms Fittkau-Garthe as divine, and mentioned uniting with her by death.

According to the WAZ of 22 January 1998, on 21 January the police released Ms Fittkau-Garthe on bail. She was not allowed to leave Spain then. In February, she was; but she had to report to the court regularly and be available for further questioning. The inquiry would continue. On 25 January, RTL-Spiegel TV (Germany) broadcast an interview with Fittkau-Garthe, recorded on 21 January. She admitted the papers on suicide were from her home. A devotee then interpreted them as about killing 'the ego', not the body.

ที่มา: Heide Fittkau-Garthe and Isis Holistic (Atma) Center
--

 

หวังว่าสักวัน พวกเราคงจะไม่เหมือนชาวบ้านในนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ สุดท้ายแกะก็โดนหมาป่ากิน...........

 

อยากให้รู้ไว้ด้วยนะครับ...ว่าเรื่องคำทำนายของ ด.ช.ปลาบู่มันคือความจริง และพ่อของเค้าก็คือผู้ที่เสียสละเป็นอย่างมาก.. (เราจะไม่มีวันลืมบุญคุณท่านผู้นี้)

ปล.หากไม่ใช่เพราะเค้า...พวกคุณคงไม่มายืนคุยกันอยู่ตรงนี้หรอกครับ.. คริคริ

 

ผมว่าหนังเรื่องนี้ก็มีผลเหมือนกันนะครับ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=7QyvLzX8bIo]2012 - Requiem for a Dream - Orchestral Version - YouTube[/ame]

 

เป็นชาวพุทธจะต้องเข้าใจธรรมะ เข้าใจความตาย และพร้อมที่จะตายตลอดเวลา

ความตายของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน​

ความตายสำหรับบางคน มันคือความพลัดพราก

ความตายสำหรับบางคน มันคือความสูญเสียทุกๆอย่างที่เคยมี

ความตายสำหรับบางคน มันคือการหลีกหนีปัญหา

ความตายสำหรับบางคน มันคือการเริ่มต้นใหม่

ความตายสำหรับบางคน มันคือความเสียสละ

ความตายสำหรับบางคน มันคือความศรัทธา

ความตายสำหรับบางคน มันก็เหมือนการหลับตาแล้วลืมตาขึ้นมาใหม่

ความตายสำหรับบางคน มันก็แค่ความเปลี่ยนแปลไป ธรรมดา ๆ

ความตายสำหรับพระอรหันต์ คือความหลุดพ้น


ผู้ที่ยังไม่หลุดพ้นตายไปแล้ว ย่อมมีที่เกิด ที่อาศัย ในทันทีทันใด อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

อาจไม่จำเป็นต้องหายใจ อาจไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจน และไม่จำเป็นจะต้องเกิดบนโลกนี้

เพราะฉะนั้น ถึงโลกจะแตก หรือมนุษย์และสรรพสัตว์จะตายจะตายอีกสักกี่ครั้ง ถ้ายังไม่หลุดพ้น

เมื่อตายไปแล้ว ย่อมมีที่เกิด ที่อาศัย ในทันทีทันใด เหมือนแค่เพียงหลับตาแล้วลืมตาขึ้นมาใหม่ นี่คือสัจจธรรม

ผู้เข้าใจสัจจธรรม ย่อมไม่สะดุ้งกลัวกับความตาย เพราะเข้าใจความตาย และพร้อมที่จะ

ตายตลอดเวลา แต่กลับจะสะดุ้งกลัว วัฏภัย คือ ภัยอันเกิดแต่การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร มากกว่า มรณภัย

 

-------------------

ความจริงต้องเกิดเขื่อนแตก น้ำท่วมหนักมีผู้คนล้มตาย

เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว ยังจะบอกว่าเป็นความจริงได้ไงครับ

ทุกวันนี้สังคมวุ่นวายไม่พอหรือไงครับ ถึงต้องหาเรื่อง
มาให้มันวุ่นวายเข้าไปอีก

เราต้องยอมรับกันบ้างสิครับ ว่าสิ่งที่มันเป็นอยู่นี้มันมีผลกระทบอะไรบ้าง
ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องนี้ เกิดขึ้นแล้วก็หายไป แล้วก็เกิดมาใหม่ ในรูปแบบใหม่ๆ
จะต้องให้มันวนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะเอาแบบนั้นหรือไงครับ

 

การทำนายล่วงหน้าในศาสนาพุทธ มีด้วยหรือ ในพระไตรฎิดกมีหน้าใหนบ้างละ
ขอรุ่น พระเจ้าอชาตศัตรูเป็นองค์อุปถัมภ์
เพราะฉันงง ว่าการทำนายล่วงหน้ามันพิสูจย์ไม่ได้ และพระพุทธเจ้าทรงตรัสไม่ให้เราเชื่อ ในหลักกาลามสูตร 10
มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดคาดคะเนอนุมานเอา
ผมก็แค่สงสัย แค่บอกว่าตัวเองเป็นคนศาสนาพุทธ แต่ยังไม่เข้าใจ ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ เห็นแต่ละคนก็ยังไปเชื่อไปเสียตัง หมอดูทายทักก็หลอกเอาหลอกเอา